วิจัยในช้นั เรียน เรื่อง การพฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นในรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ โดยใช้วธิ กี ารสอนแบบสตอร่ไี ลน์ เรอื่ ง สถานการณ์โลกปจั จบุ ันในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 21 ของนกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/2 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อำเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ ปกี ารศกึ ษา 2563 โดย นางสาวศิรมิ า เมฆปจั ฉาพชิ ติ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแมแ่ จ่ม จังหวดั เชียงใหม่ สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 6 สงั กัดสำนักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ กระทรวงศึกษาธิการ
2 วจิ ัยในชน้ั เรียน เร่อื ง การพัฒนาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นในรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ โดยใชว้ ธิ ีการสอนแบบสตอรี่ไลน์ เรื่อง สถานการณโ์ ลกปจั จบุ นั ในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 21 ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4/2 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชยี งใหม่ ปกี ารศกึ ษา 2563 โดย นางสาวศิรมิ า เมฆปจั ฉาพิชติ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จงั หวัดเชียงใหม่ สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษา เชยี งใหม่ เขต 6 สงั กัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กระทรวงศึกษาธกิ าร
ค3 บทคดั ยอ่ ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ โดยใช้วิธีการสอนแบบสตอรี่ไลน์ เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแมแ่ จม่ จังหวดั เชียงใหม่ ปีการศึกษา 2563 ผูว้ จิ ยั นางสาวศริ มิ า เมฆปัจฉาพชิ ิต ปกี ารศึกษา 2563 ********************************************************** การศกึ ษาครั้งน้ีเป็นแบบ……..
สารบัญ 4ง บทคดั ย่อ หน้า สารบญั ค บทที่ 1 บทนำ ง ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 1 วัตถปุ ระสงค์การวิจยั 1 สมมตฐิ านการวิจยั 2 ขอบเขตการวจิ ัย 2 กรอบแนวคิดในการวิจยั 2 นิยามศัพทเ์ ฉพาะ 2 บทที่ 2 เอกสารที่เกีย่ วข้อง หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 3 สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 4 การเรยี นการสอนด้วยวิธีการสอนแบบสตอร่ีไลน์ 9 งานวจิ ัยที่เกย่ี วข้อง บทที่ 3 วิธกี ารดำเนนิ งานวิจัย 11 เครอื่ งมอื ท่ีใชใ้ นการวิจัย 12 การสร้างและหาคณุ ภาพของเคร่อื งมือท่ีใช้ในการวจิ ยั 14 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 15 บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู 17 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 19 บรรณานุกรมอา้ งอิง
1 บทที่ 1 บทนำ ความเปน็ มาและความสำคัญของปัญหา คำวา่ เหตกุ ารณ์ หมายถึง เร่ืองราวที่เกิดขึ้น ซง่ึ อาจเกดิ ขนึ้ แล้วในอดตี หรือกำลังเกิดขึ้น ในปจั จบุ ัน เร่ืองที่ เกิดขึ้นน้นั ไม่ว่าเรอื่ งเล็กหรือเร่ืองใหญ่ ก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์ และเหตุการณน์ น้ั ต้องอยู่บนสภาวะแห่งความเป็นจริง ต่างแต่ว่าเกิดขึ้น ในเวลาใด หากเกิดในปัจจุบัน ก็ถือว่า เป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน สังคมแต่ละสังคมย่อมมีการ เปลี่ยนแปลงจะเห็นได้จากสังคมไทยในอดีต เป็นสังคมสัมพันธ์ ไม่ว่าสังคมนั้นจะเป็นสังคมชนบท หรือสังคมเมือง ต่างก็มีการติดต่อกันอย่างใกล้ชิดในหมู่เดียวกันและในปัจจุบัน สังคมชนบทซึ่งเป็นสังคมเล็ก ๆ ยังคงมีการติดต่อ เสริมสร้างสัมพันธภาพต่อกันและกันเหมือนเดิม แต่ต่างจากสังคมเมืองที่เป็นสังคมหนาแน่น มีอาชีพธุรกิจการ ค้าขายหรือธุรกิจ การติดต่อสัมพันธภาพจึงเป็นลักษณะเพื่อการดำรงชีพของตนในรูปแบบธุรกิจ ลักษณะต่างคน ต่างอยู่ ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งก่อให้เกิดปัญหา เช่น การพัฒนาจากสังคมเก่าแก่มาเป็น สังคมสมัยใหม่ตามความเจริญของสังคมและเทคโนโลยีนั้น ๆ ปัจจัยที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ก็มีมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะเป็นเหตุการณ์ท่ีไม่ต้องการใหเ้ กิดข้ึน ซง่ึ มีพ้ืนฐานมาจาก ความขดั แย้ง ซงึ่ ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยใน ชีวติ และทรัพย์สินท้ังของตนและส่วนรวม การแก้ปญั หาความขัดแย้งขน้ึ อยู่กบั ความสามารถทจี่ ะนำทรัพยากรทาง ธรรมชาติมาใช้เป็นเครื่อง อุปโภคและบริโภค และอาศัยคุณธรรม จริยธรรมที่งอกงามควบคู่กับความเจริญเติบโต ของสังคม มนุษย์ที่อย่รู ่วมกนั ย่อมจะตอ้ งทำประโยชน์แก่ชมุ ชนของตน การให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เรื่องเหตุการณ์โลกปัจจุบันนั้นมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เมื่อโลกเข้าสู่ยุค เทคโนโลยีอย่าง ณ ปัจจุบันนี้ ที่สื่อและข่าวสารเข้าถึงตัวบุคคลและผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การพัฒนาการ เรียนร้ใู นเร่อื งนขี้ องนักเรียนจงึ มคี วามสำคญั อยา่ งยง่ิ ซึ่งการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่เป็นเหตุการณ์โลกปัจจุบันนั้น ค่อนข้างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และไม่เป็น ระเบียบแบบแผน ดังเช่นการเรียนจากตำรา นักเรียนส่วนใหญ่จึงมีความสับสนจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจะเกิด ความจำทขี่ ัดแยง้ กับลำดับความเปน็ จริงได้ การสอนแบบสตอรี่ไลน์ เปน็ การสอนแบบเรยี บเรยี งเร่อื งราวและกระตุ้นดว้ ยชดุ คำถาม ไดร้ บั ความนิยมใน หลากหลายประเทศ โดยมีการนำวธิ ีการเรียนรู้หลากหลายแบบมารวมกัน เริ่มจากสิ่งใกลต้ ัวเพื่อเช่ือมโยงออกไปสู่ วถิ ชี ีวติ จรงิ การคน้ ควา้ หาความรู้และสรา้ งองค์ความรดู้ ้วยตนเอง เมื่อนำการสอนแบบสตอรี่ไลน์มาประยุกต์ใช้ในการสอนเหตุการณ์โลกปัจจุบันก็จะทำให้นักเรียนได้เร่ิม ติดตามข่าวสารจากภายนอก โดยเริ่มจากข่าวสารที่ตนเองสนใจ และขยายไปสู่ข่าวสารรอบโลก เพื่อฝึกการคิด วิเคราะห์ วิจารณ์ สิ่งที่ได้รับรู้และหาวิธีการแก้ไขในฐานะตา่ ง ๆ เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรยี น ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4/2 ให้มากข้นึ วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เหตุการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้น มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/2
2 สมมตฐิ านของการวิจยั นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 20 คน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นจากภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2562 ร้อยละ 30 ขอบเขตของการวจิ ยั 1. เน้ือหาที่ใชใ้ นการวจิ ัย ขอบเขตด้านเนื้อหา ทำการวิจัยในเนื้อหา เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 วิชา ประวตั ิศาสตร์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2560 2. ประชากร ประชากรของการวจิ ัยครั้งนี้ คือ นกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 141 คน โรงเรียนราชประชานุ เคราะห์ 31 ปีการศึกษา 2563 3. กลมุ่ ตวั อยา่ งในการวิจยั นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 20 คน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 4. ระยะเวลาทใี่ ช้ในการวิจัย 1 กรกฎาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564 กรอบแนวคดิ จากการวางแผนการสอนดว้ ยวิธสี ตอรีไ่ ลนข์ องอุมาพร ป่นิ เนตร (2555 : 8 – 9) ซง่ึ สรุปไว้ดงั นี้ 1. การเตรยี มหวั ขอ้ หรือแนวคิดสำคญั 2. การกำหนดเสน้ ทางเดินเร่ือง 3. การต้งั คำถามหลกั / คำถามสำคญั 4. การจดั กิจกรรมย่อยท่หี ลากหลายให้ผู้เรียน 5. การจัดเตรียมสื่อการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับกิจกรรมและลักษณะของการจัดการชั้น เรยี น 6. การประเมนิ ผลจากคำถามหลกั และกจิ กรรม ตวั แปรตน้ : วธิ ีการสอนแบบ ตัวแปรตาม : ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น สตอร่ีไลน์ เรอ่ื ง สถานการณโ์ ลกปัจจุบนั ใน คริสต์ศตวรรษท่ี 21 นิยามศัพท์เฉพาะ สตอรี่ไลน์ คือ การเรียนโดยผูกเรื่องให้ต่อเน่ือง โดยเร่ิมจากคำถาม กิจกรรมท่ีหลากหลายเพื่อ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการเรียนรู้ตามสภาพจริงจากสิ่งใกล้ตวั หรือสิ่งที่ควรรู้เพือ่ เชื่อมโยง ไปสชู่ ีวติ จรงิ ของนกั เรยี น โดยใช้ข่าวและเหตกุ ารณส์ ำคญั ในขณะท่สี อนนน้ั ๆ
3 บทที่ 2 เอกสารทเี่ ก่ียวข้อง การวิจัย เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ โดยใช้วิธีการสอนแบบสตอรี่ ไลน์ เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบนั ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4/2 โรงเรียนราชประชา นุเคราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2563 ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ต่าง ๆ เพือ่ เป็นแนวทางในการวจิ ยั ดังนี้ 1. หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 2. การเรียนการสอนดว้ ยวธิ ีการสอนแบบสตอร่ีไลน์ 3. งานวิจัยท่เี กย่ี วข้อง 1. หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ วฒั นธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้จัดทำหลักสูตรทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ในที่นี้ขอกล่าวถึงเฉพาะ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ดงั นี้ สาระการเรยี นรูข้ องกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ประกอบดว้ ย สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม สาระที่ 2 หน้าที่พลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชีวิตในสังคม สาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ สาระที่ 4 ประวตั ศิ าสตร์ สาระที่ 5 ภมู ิศาสตร์ ผู้วิจัยของนำเสนอสาระการเรียนรู้ของกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เฉพาะสาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 ดังน้ี มาตรฐานที่ 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และ การเปล่ยี นแปลงของเหตุการณ์ ตวั ชว้ี ดั ท่ี ส 4.2 ม.4-6/4 วเิ คราะห์สถานการณข์ องโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 21
4 ตารางที่ 1 ตารางโครงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์สากล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลา 20 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การ กระบวนการจัดการ ทักษะท่ีได้รับ เวลา เรียนรู้ เรียนรู้ (ช่ัวโมง) หน่วยการเรยี นรู้ 1. เหตกุ ารณ์สำคัญ - วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวน 1.ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 3 ที่ 4 ในสมัยกลาง การกลุ่ม 2. ทักษะการคิดอย่างมี เหตุการณ์สำคัญ วิจารณญาณ ทางระวัติศาสตร์ 2. เหตุการณ์สำคัญ 1. วธิ สี อนแบบบรรยาย 1.ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ 3 ที่มีผลต่อโ ลก ในสมยั ใหม่ - ปัจจุบัน 2 . ว ิ ธ ี ส อ น โ ด ย เ น้ น 2. ทกั ษะการคิดอยา่ งมี ปัจจุบัน กระบวน การกลุม่ วิจารณญาณ 3. ความร่วมมือและ - วิธีสอนโดยเนน้ กระบวน 1.ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 4 คว ามขัดแ ย้ ง ข อ ง การกลุ่ม, กระบวนการคิด 2. ทกั ษะการคดิ อยา่ งมี ม น ุ ษ ย ช า ต ิ ใ น วเิ คราะห์ วิจารณญาณ คริสต์ศตวรรษที่ 20 - ปัจจบุ ัน หนว่ ยการเรยี นรู้ 1. เหตุการณ์ 911 - วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวน 1.ทักษะการคิดสร้าง 5 ท่ี 5 และความขดั แย้งทาง การสรา้ งความคดิ รวบยอด สรรค์ ส ถ า น ก า ร ณ์ ศาสนาและเช้อื ชาติ - วิธสี อนแบบสตอรี่ไลน์ 2.ทักษะการคิดวเิ คราะห์ สำคัญของโลกใน 2. ภ าว ะโ ลกร้อน - วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวน 1.ทักษะการคิดสร้าง 5 ครสิ ต์ศตวรรษ วกิ ฤติ การณ์ พลงั งาน การกลุ่ม สรรค์ ที่ 21 และส่ิงแวดลอ้ ม - วธิ ีสอนแบบสตอรีไ่ ลน์ 2.ทักษะการคดิ วิเคราะห์ สำหรับการวจิ ัยในครัง้ นี้ ผ้วู ิจัยนำวิชา ส 31104 ประวัติศาสตร์ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 สถานการณส์ ำคัญ ของโลกในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 21 มาสอนในภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 จำนวน 10 คาบเรยี น ดังตารางท่ี 1 2. การจดั การเรียนการสอนดว้ ยวิธสี อนแบบสตอรี่ไลน์ การศกึ ษาวรรณกรรมทเ่ี กย่ี วข้องของวิธกี ารสอนแบบสตอรี่ไลน์ มีนักวิชาการไดใ้ ช้คำวา่ “สตอร่ีไลน”์ และ “สทอร่ีไลน”์ ท้งั น้ี ในงานวจิ ัยฉบบั นี้ ผู้วจิ ัยกำหนดใหค้ ำดงั กลา่ ว คือ “สตอร่ไี ลน”์ 2.1 ความหมายของการสอนแบบสตอรี่ไลน์ อรทัย มูลคำ และคณะ (2542 : 34-35 ; อ้างถึงใน อุมาพร ปิ่นเนตร, 2555 : 20-21) ได้ให้ความหมาย ของการเรียนโดยวิธีสตอรี่ไลน์ไว้ว่า การเรียนโดยวิธีสตอรี่ไลน์หมายถึงการผูกเรื่องแต่ละตอนให้เกิดขึ้นอย่าง
5 ตอ่ เน่ืองและเรียงลำดบั เหตุการณ์หรือกำหนดเส้นทางเดนิ เร่ือง เร่มิ จากการใช้คำถามหลกั เป็นจุดเริ่มต้นให้นักเรียน ได้ทำกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เป็นการเรียนรู้ตามสภาพจริงจากสิ่งใกล้ตัวเพื่อ เชื่อมโยงออกไปสู่วิถีชีวิตจริง การค้นคว้าหาความรู้ และการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เพื่อประโยชน์ในการ เรียนรรู้ ะหว่างผเู้ รียนและผ้สู อนท่สี ามารถยืดหยนุ่ เวลาและจดั การเรยี นการสอนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ วลัย พานิช (2543,18-41) กล่าวว่า วธิ สี ตอรไี่ ลน์ มาจากคำวา่ Story และ Line ซง่ึ หมายถึง เสน้ ทางของ เร่อื งหรอื แนวของเร่ือง เปน็ การดำเนนิ เร่ืองที่เนยี งติดต่อเป็นลำดบั ดุจเสน้ เชือก อรรถพล อนันตวรสกุล (2545,153-167) ให้คำนิยามว่า วิธีสตอรี่ไลน์เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ใช้การผกู เรอ่ื งเพ่อื นำไปสแู่ นวคดิ สำคัญ โดยมีการลำดบั ขั้นตอนและเร่ืองราวอยา่ งต่อเนือ่ ง และมีคำถามหลักเปน็ ตวั เช่ือมโยง เรอ่ื งราวแตล่ ะส่วนเข้าด้วยกนั จากการเรียนการสอนด้วยวิธีสตอรี่ไลน์ที่นักวิชาการให้ไว้ ผู้วิจัยสามารถสรุปได้ว่า การจัดการเรียนการ สอนด้วยวธิ ีสตอร่ไี ลน์ หมายถึง การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนทีเ่ น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ โดยประกอบด้วย 1. การตั้งคำถามสำคัญ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจและอยากค้นหาคำตอบของ เรือ่ งราว 2. นำประวัติศาสตร์ หรือหัวข้อข่าวสถานการณ์โลกที่น่าสนใจมาเป็นเรื่องราวเพื่อการเรียนรู้ โดยให้ข้อมูลข่าวแก่นักเรียนบางส่วน และให้ค้นหาส่วนที่เหลือเพื่อสร้างเป็นการแสดง บทบาทสมมติท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั ข่าวน้นั ๆ 3. เม่ือผู้เรียนแสดงบทบาทสมมติที่ตีความมาจากเหตุการณ์หรือหัวข้อข่าวที่ได้รับ ผู้สอนจะ กระตุ้นให้เกิดความคุ้นเคยกับบทบาทนั้น โดยการยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัวเข้ามาอธิบาย ประกอบ 4. ผู้สอนตั้งคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือปัญหาที่ควรแก้ไขจากสถานการณ์บทบาท สมมตินนั้ ๆ 2.2 องค์ประกอบสำคญั ของการเรียนการสอนด้วยวธิ ีสอนแบบสตอร่ีไลน์ ชนาธิป พรกลุ (2543 : 160 อา้ งถงึ ใน อมุ าพร ป่ินเนตร, 2555 : 24) ไดก้ ลา่ วถึงองค์ประกอบสำคัญของ วิธีการสอนแบบสตอรี่ไลน์มี 6 องค์ประกอบ ดงั นี้ 1. การจัดฉาก (Setting the scene) โดยระบุเวลาและสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ที่ชัดเจน ผเู้ รียนจะสรา้ งฉากไวใ้ นหอ้ งเรยี นหรือสถานทใี่ ดทีห่ น่ึง 2. ตัวละคร (Characters) อาจเป็นคนหรือสัตว์ก็ได้ และให้ผู้เรียนสร้างบทบาทตัวละครให้มี อายุ เชื้อชาติ บุคลกิ ตา่ ง ๆ กนั โดยผู้เรียนสวมบทบาทนัน้ ตลอดเรื่อง 3. การดำเนนิ ชีวติ ประจำวนั ของตัวละคร (A Way of Life)
6 4. มีปัญหาหรือเหตุการณ์ (Real problems or Incidents) ต้องการแก้ไข โดยผู้สอนและ ผู้เรียนสร้างเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์นั้น ผู้เรียนที่สวมบทบาทต่าง ๆ ต้อง ชว่ ยกันแก้ไขปัญหานัน้ 5. กิจกรรมสรปุ (Culminating activity) ในตอนจบของเรื่อง ผู้เรียนจะแบ่งปันประสบการณ์ ให้ผู้อน่ื โดยการแสดงหรือออกไปยังสถานท่จี ริงเพ่ือใหม้ ีโอกาสเปรยี บเทยี บส่ิงท่ีเขาคิดสร้าง ขนึ้ กบั สภาพจริง 6. การแสดงออกและประเมิน (Reflection and Assessment) ผู้เรียนมีโอกาสสำรวจการ เรียนรู้ของตนเองและประเมนิ การเรยี นรู้ดว้ ยวิธกี ารต่าง ๆ เชน่ รวบรวมสงิ่ ท่ีเรยี นรู้หรอื งาน ตา่ ง ๆ ลงในแฟ้มงานของตน วลัย พานิช (2547 : 35 อ้างถึงใน อุมาพร ปิ่นเนตร, 2555 : 25) ได้เขียนแผนผังที่แสดงองค์ประกอบท้ัง 4 องคป์ ระกอบทส่ี ำคัญของสตอรไ่ี ลน์ดงั แผนภูมินี้ แผนภาพแสดงองค์ประกอบท่ีสำคญั ของ Storyline 1. ฉาก ท่ไี หน 2. ตัวละคร ใคร 3. การดำเนินชวี ติ ทำอะไร 4. มเี หตกุ ารณ์หรอื ปัญหาท่คี วรแห้ไข เกดิ อะไรข้นึ ทตี่ อ้ งแกไ้ ข จากการศึกษาองคป์ ระกอบที่สำคญั ของการจัดการเรียนการสอนดว้ ยวิธสี อนแบบสตอรีไ่ ลน์ ผู้วจิ ัยสามารถ กล่าวโดยสรุปไดว้ ่า องคป์ ระกอบทสี่ ำคัญมี 4 องคป์ ระกอบด้วย หากนำมาปรบั ใช้ให้เขา้ กับการศึกษาประวัติศาสตร์ จะสามารถกล่าวได้ว่า องค์ประกอบแต่ละองค์ประกอบจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และคำอธิบายประกอบด้วย คือ องค์ประกอบทุกอย่างจะมีมาให้แล้วจากหัวข้อคำถามหรือปัญหานั้น ๆ ที่ผู้เรียนได้เรียนเรื่องราวเหนุการณ์ สำคัญในคริสต์ศตวรรษที่ 21 และจะได้สามารถรู้สึกได้ถึงแต่ละตัวบุคคลในเหตุการณ์เพิ่มเติมเข้ามาจากการสอน ดว้ ยวิธีสตอรไี่ ลน์ เพอ่ื เป็นการดึงเข้าสู่ส่งิ รอบตัวอีกขน้ั 2.3 หลักการของการจดั การเรยี นการสอนดว้ ยวธิ ีสอนแบบสตอร่ีไลน์ พิมพ์พันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข (2542. อ้างถึงใน อุมาพร ปิ่นเนตร, 2555 : 26-27) ได้เสนอ หลกั การทจี่ ะเป็นพื้นฐานนำไปสู่การจัดการเรยี นรู้แบบสตอร่ไี ลน์ ดังน้ี 1. เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ผู้เรียนจะต้องเป็นผู้ที่มาส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการ เรียนรขู้ องตนเอง 2. สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ ผู้เรียนจะมีสว่ นร่วมหรือเป็นเจ้าของในการสร้างเรือ่ งราวนั้น ทั้ง เรือ่ งของสถานท่ี ผ้คู นทอี่ ยู่อาศัย การดำเนินชีวิต ตลอดจนเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ล้วน
7 เป็นเรื่องราวที่ผู้เรียนร่วมกันคิด และสร้างขึ้นมาจากการศึกษาค้นคว้า รวมทั้งจินตนาการ ทง้ั ส้ิน 3. เป็นการสอนเรื่องราวสิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุด เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้แบบองค์รวมและ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวันได้ ผู้เรยี นจงึ ไดเ้ รียนรู้ถึงส่ิงทีเ่ ป็นวิถีชีวิตจริงสง่ ผล ให้ผเู้ รยี นได้เหน็ ประโยชนข์ องการเรียนหรือทักษะน้นั ๆ ที่เกย่ี วข้องกบั ชวี ติ จรงิ 4. ช่วยให้ผู้สอนสามารถจัดประสบการณ์การเรียนรูใ้ ห้กับผู้เรยี นได้สอดคล้องกับความสามารถ ของผู้เรยี น 5. เน้นการเรยี นรู้รว่ มกัน การสอนแบบสตอร่ีไลน์ เปิดโอกาสให้ผเู้ รียนร่วมกันทำกิจกรรมหลาย รูปแบบ ซงึ่ คณะทำงานแบง่ กลุ่มเป็นงานเด่ยี ว จับคู่ กลุ่มย่อย หรือเรียนรว่ มกนั 6. เน้นให้ความสำคัญของการกระตุ้นให้ผู้เรียนพัฒนารูปแบบความคิดรวบยอดด้วยตนเอง เนื่องจากการสอนด้วยวิธีสอนแบบสตอรี่ไลน์ จะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนพัฒนาสติปัญญาและ จนิ ตนาการของผเู้ รยี น 7. เน้นการเรียนร้แู บบบูรณาการวิธีการสอนแบบสตอร่ีไลน์ เป็นวธิ ีการเรยี นรู้แบบบูรณาการทั้ง เนื้อหา หลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอน ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตประจำวันที่จะต้อง ใช้กระบวนการคิด ทักษะต่าง ๆ ที่หลากหลายมาช่วยในการแก้ปัญหา จึงเป็นหารฝึกทักษะ การแก้ไขปญั หาของผู้เรียนไดเ้ ป็นอย่างดี 8. เน้นการตั้งคำถามหลักของผู้สอน การตั้งคำถามของผู้สอนเป็นหัวใจสำคัญของการเรยี นการ สอนแบบสตอรี่ไลน์ เพราะคำถามหลักจะเป็นสื่อนำไปสู่การปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียนอย่าง หลากหลาย และจะเป็นตัวเชื่อมโยงการดำเนินเรื่องให้ต่อเนื่องเป็นลำดับภายใต้หัวข้อเรื่อง เดยี วกัน 9. ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อยา่ งมีความหมาย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจำได้อย่างถาวร ซึ่งการเรียน แบบนี้ต้องเริ่มต้นด้วยการทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียน ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งของการเรียน ตามแนวการสร้างองค์ความรูด้ ว้ ยตนเอง 10. ทำให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการเรียนทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม เป็นการพัฒนา ทง้ั ตัวผูเ้ รยี น 11. ทำให้ผู้เรียนได้สร้างจินตนาการตามเรื่องที่กำหนด เป็นการเรียนรู้ด้านธรรมชาติ เศรษฐกิจ วฒั นธรรม การเมอื ง วถิ ีชวี ติ ผสมผสานกันไป อันเป็นสภาพที่แทจ้ รงิ ของชีวิต 12. ทำให้ผู้เรียนได้พัฒนาความคิดระดับสูง เช่น คิดวิเคราะห์ คิดไตร่ตรอง คิดอย่างมี วจิ ารณญาณ คดิ แก้ปญั หา คิดรเิ ริม่ คิดสรา้ งสรรค์ คดิ สรา้ งสิง่ ใหม่ 13. ทำให้ผู้เรยี นได้เรียนรู้อยา่ งเป็นสุข สนุกสนาน เห็นคุณค่าของงานท่ีทำ และงานที่นำไปเสนอ ต่อเพอ่ื ต่อชุมชน ทำใหเ้ กดิ ความตระหนักของเรอ่ื งราวทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั การสอน
8 จากการศึกษาหลักการของการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีสอนแบบสตอรี่ไลน์ สรุปได้ว่า การสอนแบบ สตอรี่ไลน์นั้นเป็นการสอนที่เน้นการบูรณาการจากคำถามสำคัญเข้าสู่สิ่งรอบตัวผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจและ เริ่มต้ังคำถาม ผา่ นการคดิ วเิ คราะห์ ไตร่ตรอง แก้ไขปญั หาอยา่ งมวี ิจารณญาณ 2.4 ประโยชน์ของการเรยี นการสอนด้วยวธิ ีสอนแบบสตอร่ีไลน์ การเรยี นการสอนดว้ ยวิธีสอนแบบสตอรไี่ ลน์เปน็ การสอนที่เกิดประโยชน์ดังน้ี ((เบลล์ และไฟฟลิ ด์ (1996 : 16), วลยั พานชิ (2542 : 53), อรทยั มูลคำและคณะ (2544 : 36-38), สาโรช โศภีรกั ษ์ (2546 : 81), ฆนัท ธาตุ ทอง (2550 : 189) อา้ งถงึ ใน อมุ าพร ปิ่นเนตร, 2555 40-42) 2.4.1 ตอบสนองความต้องการ 4 ประการของผู้เรยี น ท่เี รียกวา่ “The Four Universal of Children” ได้กลา่ วถึงความต้องการของผู้เรียนไวด้ งั น้ี 1. การสื่อสาร (Communication) ผู้เรียนต้องการการพูดคุยและการรับฟัง วิธีการสอนแบบ สตอร่ีไลนเ์ น้นการปรึกษาหารือ พูดคยุ รว่ มวางแผน ผู้เรียนต่างต้องรับฟังกันและกัน รวมท้ังเสนอ ความคิดเห็นด้วย 2. การสร้างหรือลงมือทำด้วยตนเอง (Building / Construction) โดยธรรมชาติผู้เรียนทุกคน ตอ้ งการสรา้ งสิ่งตา่ ง ๆ ดว้ ยการใช้มอื ของตนเองหรือสร้างดว้ ยสตปิ ัญญาของเขา 3. การคิดและลงมือปฏิบัติ (Thought and Action) โดยธรรมชาติผู้เรียนทุกคนรู้จักการถาม คำถามและต้องการรับฟังคำตอบในสิ่งที่ตนอยากทราบ ในวิธีการสอนแบบสตอรี่ไลน์เปิดโอกาส ให้ผ้เู รียนได้ทำ ไดค้ ดิ อยา่ งอสิ ระในทกุ ขนั้ ตอน เป็นการเปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียนแตล่ ะคนได้พบ สืบค้น สรา้ งการท้าทายใหค้ ิดสำรวจและสร้างจนิ ตนาการ 4. ความต้องการที่ยอมรับว่าตนเองมีค่า สามารถแสดงความรู้สึกได้ (Self-Expression) โดย ธรรมชาติของผู้เรียนทุกคนต้องการความรู้สึกว่าตนเองมีค่า ได้รับการยกย่องเกี่ยวกับงานหรือ ความคดิ เห็นของตนในเรื่องตา่ ง ๆ กจิ กรรมทุกอย่างแสดงให้เหน็ คณุ ค่าของผู้เรยี น ผูเ้ รยี นได้สร้าง งานและผู้สอนยอมรับในคุณคา่ ของงานน้นั 2.4.2 ประโยชนท์ ่เี กิดแก่ผู้สอน 1. เปล่ียนทัศนคตขิ องผู้สอนหลายคนทีเ่ หน็ ว่าเทคโนโลยีเป็นเรือ่ งที่ไม่จำเปน็ และเปล่าประโยชน์ สำหรับการจัดการเรียนการสอน เพราะแท้ที่จริงแล้ว เทคโนโลยีเปรียบเสมือนขุมทรัพย์สำคัญที่ จะช่วยให้ผู้เรียนและผู้สอนได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสร้างเรื่องราวและการจัดการกับ ปัญหาต่าง ๆ ได้ ผู้สอนจะเกิดความประทับใจในความสามารถของการเรียนรู้และการเลียนแบบ เร่ืองราวของผ้เู รยี นท่ีมตี ่อเทคโนโลยตี ่าง ๆ อีกด้วย 2. สร้างแรงจูงใจในระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ ผู้เรียนจะรู้สึกมั่นใจและมีเสรีภาพในการเรียนรู้ผ่าน โครงเรื่องที่เขามีส่วนร่วมในการสร้างข้ึน ผู้สอนจะสนุกสนานไปกับการเรียนรู้ของผู้เรียนใน บรรยากาศที่เป็นมิตรและอบอุ่นด้วยเวลาท่ีผ่านไปโดยไมร่ ตู้ วั
9 3. ผู้สอนไม่เหนื่อยเหมือนกับการสอนปกติที่จะต้องบรรยายทั้งวันเพียงแค่ผู้สอนจะต้อง เตรียมการสอนเพิ่มมากขึ้น ด้วยการใช้ความคิดในการออกแบบกิจกรรม จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ สำหรับให้ผู้เรียนได้จัดทำสื่อเพื่อใช้เป็นเครื่องมือนำไปสู่การเรียนรู้ส่ิงใหม่ และให้ความเอาใจใส่ ผู้เรียนรายบุคคลมากขน้ึ 2.4.3 ประโยชนท์ ่ีเกดิ ข้นึ รว่ มกันทัง้ แก่ผูเ้ รยี นและผู้สอน 1. เป็นวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือกันระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน ซึ่งการที่จะทำให้ได้ประโยชน์สูงสุด นั้น ผู้สอนจะต้องคำนงึ ถึงจำนวนผเู้ รียนกับงานในแตล่ ะชิ้นเสมอ 2. เป็นวิธีการที่ส่งผลต่อการเรยี นรู้ในชว่ งท้ายสุดได้ดีระหว่างผู้เรียนกบั ผู้สอน เป็นการเสรมิ สร้าง ความมั่นใจให้เพิ่มขึ้นทั้งสองฝ่าย จากประสบการณ์ทำงานผู้เรียนจะเกิดการยอมรับ ส่วนผู้สอน สามารถจดั กิจกรรมในโครงเรอ่ื งโดยอาศัยพนื้ ฐานจากเรื่องที่ผ้เู รยี นคิดขนึ้ มา 3. เป็นวิธีการที่ส่งเสริมการให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนในฐานะ เพือ่ นรว่ มงานมใิ ชเ่ จ้านายกับลูกน้อง หนา้ ทีข่ องผสู้ อนคือผ้แู นะนำวางแผนกวา้ ง ๆ ให้ผ้เู รียนนำไป พัฒนาต่อเอง บรรยากาศแห่งความเป็นกันเองจะทำให้ผู้เรียนกล้าแสดงออกในทางสร้างสรรค์ ผเู้ รียนท่ขี ้อี ายเกบ็ ตวั จะสามารถแสดงออกไดด้ ีจนเพื่อนประหลาดใจ โรงเรียนจะกลายเปน็ สถานท่ี ท่ีทุกคนเฝา้ รอคอยท่ีจะมาพบปะกันเพ่อื ชว่ ยกนั สรา้ งผลงานซ่ึงกันและกนั จากประโยชน์ของการสอนด้วยวิธีสอนแบบสตอรี่ไลน์ ผู้วิจัยสามารถสรุปได้ว่า ประโยชน์ที่เกิดการจาก สอนแบบสตอรี่ไลน์นั้นเกิดแก่ทั้งผู้เรียนและผู้สอน ด้วยผู้เรียนที่สามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่าง สม่ำเสมอและพฒั นาพร้อมกนั ทั้งกลุ่มได้ ส่วนของผ้สู อนมกี ารปรับเปลี่ยนทางทัศนคติทดี่ ีต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ ในการจัดกิจกรรม รวมถึงการออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ร่วมกันจัดและดำเนินไปพร้อม ๆ กันได้เป็น อย่างดี 3. งานวิจยั ท่เี กย่ี วขอ้ ง วัลยา ดวงใจ (2554 : 72) ทำการศึกษาเรื่องการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ พระพทุ ธศาสนา กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 โดยใช้ การจัดการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัยส่วนหนึ่ง เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ โดยนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยน้อยกว่าร้อยละ 75 และมีจำนวน นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 ขึ้นไป ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่เรียนรู้โดยรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสตอรี่ไลน์มีคะแนนผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนเฉล่ียเทา่ กับ 26.00 คิดเป็นร้อยละ 86.66 โดยมีจำนวนนกั เรยี นท่ี ผ่านเกณฑ์ 51 คน คิดเป็นร้อยละ 87.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เพราะการทำกิจกรรมที่บูรณาการผูกเป็น เรอ่ื งราวเดียวกนั โดยสอดคล้องกับการดำเนินชวี ิตประจำวันของนักเรยี น ทำใหน้ ักเรียนได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย
10 ได้คิด ได้ลงมือปฏิบัติ และแห้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเอง ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็น และ ความร้กู ับเพอ่ื นในกลมุ่ ทำให้เกิดองคค์ วามรู้ท่คี งทน สามารถพัฒนาและเกิดเป็นการเรียนรู้ตลอดชวี ิต อุมาพร ปิ่นเนตร (2555 : 99-109) ทำการศึกษาเรื่องการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ ความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง หลักธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนาด้วยวิธีการสอนแบบสตอรี่ไลน์ สำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัยส่วนหนึ่ง เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อน เรียนและหลังเรียน เรื่อง หลักธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนาด้วยวิธีการสอนแบบสตอรี่ไลน์ สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ผลการวิจยั พบวา่ ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน เรื่อง หลักธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนาด้วยวิธีการ สอนแบบสตอรี่ไลน์ หลังเรียน ( X̅ = 20.55, S.D. = 2.98) สูงกว่าก่อนเรียน ( X̅ = 9.58, S.D. = 3.03) อย่างมี นัยสำคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ผูว้ จิ ยั ไดศ้ กึ ษางานวิจยั เก่ยี วกับการจดั การเรียนร้ดู ้วยวิธสี อนแบบสตอร่ีไลน์พบวา่ การจัดการเรยี นรูด้ ้วยวิธี สอนแบบสตอรี่ไลน์ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้คิด ค้นคว้า แสดงออก อยา่ งอสิ ระ สง่ ผลใหผ้ เู้ รยี นมคี วามมน่ั ใจและแสดงออกมากย่งิ ขึ้น
11 บทท่ี 3 วิธีดำเนนิ การวจิ ัย การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ โดยใช้วิธีการสอนแบบสตอรี่ ไลน์ เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียน ราชประชานเุ คราะห์ 31 อำเภอแมแ่ จ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ปีการศกึ ษา 2563 มีวิธกี ารดำเนินการวจิ ัยดังรายละเอียด ตอ่ ไปนี้ 1. ประชากรและกลุม่ ตัวอยา่ ง 1.1 ประชากร ประชากรของการวจิ ัยคร้ังน้ี คอื นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 จำนวน 141 คน โรงเรียนราชประชานุ เคราะห์ 31 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 1.2 กลมุ่ ตวั อยา่ งในการวิจยั นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวน 20 คน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563 โดยการเลอื กแบบเจาะจง 2. ตัวแปรท่จี ะศึกษา 2.1 ตัวแปรตน้ : วธิ กี ารสอนแบบสตอร่ไี ลน์ 2.2 ตวั แปรตาม : ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น เร่อื ง สถานการณ์โลกปัจจบุ ันในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 21 3. ระยะเวลาในการวิจยั ระยะเวลาท่ีใช้ในการวจิ ัย ใช้เวลาสอนทั้งหมด 10 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 คาบเรียน คาบเรียนละ 50 นาที รวมเวลา 10 คาบ 4. เนือ้ หาท่ีใชใ้ นการวิจัย ขอบเขตด้านเนื้อหา ทำการวิจัยในเนื้อหา เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 วิชา ประวตั ิศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2560 แบบแผนการวิจัย ในการวิจัยคร้ังน้ีเป็นการวิจัยเชงิ ปฏิบัติการ ซ่ึงผวู้ จิ ยั ไดด้ ำเนินการตามแบบแผนการวิจยั เชิงปฏบิ ตั กิ ารตาม แนวคิดของ Kemmis and Mc Taggart (Kemmis and Mc Taggart, 1982 อ้างถึงใน วัลยา ดวงใจ,2554 : 96) เป็นแนวทางในการดำเนินการวิจัยในแตล่ ะวงจร มขี ั้นตอนการปฏิบตั ิ ดงั นี้ 1. ขั้นวางแผน 2. ขนั้ ปฏิบตั กิ าร 3. ขนั้ สงั เกตการณ์ 4. ขน้ั สะทอ้ นผลการปฏิบตั ิ
12 เคร่ืองมอื ท่ีใช้ในการวิจยั การวิจยั ครัง้ นผี้ ูว้ ิจัยไดก้ ำหนดเคร่อื งมอื ท่ใี ช้ในการวจิ ยั ดงั น้ี 1. แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันใน ครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 21 ด้วยวธิ กี ารสอนแบบสตอรไี่ ลน์ จำนวน 2 แผน ดงั นี้ 1.1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง เหตุการณ์ 911 และความขัดแย้งทางศาสนาและเชอ้ื ชาติ 1.2 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11 เร่อื ง ภาวะโลกร้อย วิกฤตการณพ์ ลังงานและสง่ิ แวดล้อม 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 เป็น ข้อสอบปรนยั ชนดิ 5 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ กำหนดคา่ ให้ขอ้ สอบปรนัย ข้อละ 1 คะแนน การสร้างและหาคณุ ภาพของเครื่องมอื ท่ใี ชใ้ นการวจิ ยั 1. การสรา้ งแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เร่ือง สถานการณ์โลกปัจจุบันใน คริสตศ์ ตวรรษที่ 21 ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ด้วยวิธกี ารสอนแบบสตอร่ีไลน์ จำนวน 2 แผน ดังน้ี 1.1 ศึกษารายละเอียดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรงุ 2560 ดังตารางวิเคราะหม์ าตรฐานและตวั ชี้วัดช้ันปี ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชี้วัดชั้นปี สาระการเรียนรู้ สาระท่ี 4 ประวัตศิ าสตร์ 4. วิเคราะห์สถานการณ์ของโลกใน สถานการณ์สำคัญของโลกใน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการ ข อง ครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 21 คริสต์ศตวรรษท่ี 21 เชน่ มนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน - เหตุการณ์การระเบิดตึกเวิลด์ ใ น ด ้ า น ค ว า ม ส ั ม พ ั น ธ์ แ ล ะ ก า ร เทรด เซ็นเตอร์ 11 ก.ย. 2544 เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่าง - การขาดแคลนทรัพยากร ต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญ ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบท่ี - การก่อการร้ายและการต่อต้าน เกดิ ข้นึ การกอ่ การรา้ ย - ความขัดแยง้ ทางศาสนา 1.2 สร้างแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบสตอรี่ไลน์ โดยผู้วิจัยนำผลจากการศึกษา องค์ประกอบในแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรบั ปรุง 2560 ดงั น้ี 1.2.1 สาระท่ี 4 ประวัติศาสตร์ 1.2.2 มาตรฐานท่ี ส 4.2 1.2.3 ตัวชวี้ ัดที่ 4 1.2.4 สาระสำคัญ 1.2.5 สาระการเรียนรู้ 1.2.6 สมรรถนะสำคัญของนักเรยี น
13 1.2.7 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องรายวิชา 1.2.8 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.2.9 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1.2.10 เครื่องมอื วดั และประเมินผล 1.2.11 บนั ทึกหลงั สอน 1.2.12 ข้อเสนอแนะ 1.3 เขยี นแผนการจดั การเรียนรดู้ ว้ ยวิธีการสอนแบบสตอรไี่ ลน์ ดงั นี้ 1.3.1 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรือ่ ง ปัญหาของโลกในครสิ ต์ศตวรรษที่ 21 จำนวน 4 คาบ เรยี น 1.3.2 แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เหตุการณ์สำคัญของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 จำนวน 6 คาบเรียน 1.4 เสนอแผนการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา ด้าน การวัดและประเมินผล และด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยวิเคราะห์ค่าดัชนีความ สอดคล้องของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กับจดุ ประสงค์ โดยค่า IOC ที่มีค่าตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป ถือว่ามคี วามสอดคล้องกันในเกณฑ์ทยี่ อมรับได้ 1.5 นำแผนที่ปรับปรุงแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญแล้วไปหาค่าประสิทธิภาพกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ซ่งึ ไมใ่ ช่กลุ่มตวั อย่างในการวจิ ัย 1.6 นำแผนการจัดการเรียนรดู้ ว้ ยวิธสี ตอรีไ่ ลน์ไปใช้กับกลุม่ ตวั อยา่ งในการวจิ ัย 2. การสร้างแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน 2.1 ศึกษาหลกั สูตร ดงั เช่นข้อ 1.1 ของการสรา้ งแผนการจดั การเรียนรู้ 2.2 ศึกษาแนวคดิ ทฤษฎี และวิธีการสรา้ งแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น 2.3 สรา้ งแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนในรปู แบบขอ้ สอบปรนัย 5 ตัวเลอื ก จำนวน 20 ขอ้ 2.4 เสนอแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้แก่ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ตามข้อ 1.4 ของ การสร้างแผนการจดั การเรียนรู้ 2.5 นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ปรับปรุงแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญแล้วไปหาค่า ประสิทธิภาพกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ซึ่งไม่ใช่ กล่มุ เปา้ หมาย 2.6 นำแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนไปใช้กับกลมุ่ ตัวอยา่ งในการวจิ ัย ข้นั ตอนการดำเนนิ การวจิ ัย 1. ผู้วจิ ัยกำหนดหัวข้อท่ีจะศึกษา ได้แก่ เหตุการณ์ 11 กันยายน 2544 ปัญหาการกอ่ การรา้ ย และความ ขัดแย้งทางศาสนา โดยให้นักเรียนทั้งห้อง จำนวน 20 คน ลองเขียนเรียงลำดับเหตุการณ์ จากน้ัน ร่วมกันแสดงบทบาทสมมติเป็นผู้อยใู่ นเหตุการณ์ นักข่าว เพื่อใหน้ ักเรียนได้ลองทำความเข้าใจกับการ ดำเนินเร่ือง และสร้างรายละเอียดปลีกย่อยจากการศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเองผ่านอนิ เทอร์เน็ต จากน้ัน
14 จงึ กลับมาตอบคำถามหลักทีผ่ ้วู จิ ยั กำหนดไว้ใหข้ องแต่ละเร่ือง เพอ่ื ประเมินความพร้อมก่อนเข้าสู่เร่ือง ที่ 2 2. ผวู้ ิจัยแบ่งกลุ่มให้แกน่ ักเรยี น โดยแบง่ ออกเปน็ กล่มุ ละ 7 คน 2 กล่มุ กลุ่มละ 6 คน 1 กลุ่ม แบง่ หวั ข้อ ให้นักเรียนได้ศึกษาปัญหาของโลกในคริสต์ศตวรรษที่ 21 โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ด้าน การเมือง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม โดยให้นักเรียนได้ลองค้นคว้าปัญหาสำคัญของแต่ละด้านมา นำเสนอให้กับกลุ่มอื่น ๆ ได้รับชม เพื่อพัฒนาการด้านการแสดงออก และการวิเคราะห์ปัญหาพร้อม หาวิธีการแก้ไข โดยมีผู้วิจัยเข้าประกบทีละกลุ่มเพื่อกระตุ้นด้วยคำถามสำคัญหากนักเรียนมองข้าม บางปญั หา หรอื ช่วยเสรมิ วิธกี ารคน้ คว้าการแกไ้ ขปญั หาใหแ้ ก่บางกล่มุ ไปค้นคว้าเพ่ิมเติม 3. ผู้วิจัยกำหนดคำถามหลักทำหน้าที่เชื่อมโยงปัญหาทั้ง 3 ด้านเข้าด้วยกัน ให้นักเรียนได้ด้วยกันตอบ คำถาม พัฒนาการเป็นลำดับ โดยเน้นให้นักเรียนได้ลงมือคิดและปฏิบัติเอง การประเมินผลจากการ ทำแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น ขอ้ สอบปรนยั 5 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ การวิเคราะหข์ อ้ มูล ผ้วู ิจยั วิเคราะห์ข้อมลู โดยใชส้ ถิตใิ นการวิเคราะหข์ อ้ มลู ครัง้ นี้ ประกอบด้วย 1. การตรวจสอบคณุ ภาพของเคร่ืองมือสำหรับการวจิ ยั ในครงั้ นี้ มีรายละเอยี ดดงั ต่อไปนี้ 1.1 การตรวจสอบคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบสตอรี่ไลน์ โดยการหาค่า ดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับจุดประสงค์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) 1.2 การตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกับจุดประสงค์การเรียนรู้ โดย การหาค่าความเทีย่ งตรง 2. การวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป โดย วเิ คราะห์ค่าสถิติ ดังนี้ 2.1 ค่าเฉลีย่ ( X̅ ) 2.2 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D) 2.3 คา่ ร้อยละ (%)
15 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ โดยใช้วิธีการสอนแบบสตอร่ี ไลน์ เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียน ราชประชานเุ คราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2563 โดยผู้วิจัยเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากกลมุ่ ตัวอยา่ งจำนวน 20 คน ผ้วู จิ ยั ของนำเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ดงั ตอ่ ไปน้ี นกั เรียน ตอบได้ (ข้อ) ข้อ (เต็ม) คนท่ี 1 16 20 คนท่ี 2 18 20 คนท่ี 3 19 20 คนที่ 4 15 20 คนที่ 5 16 20 คนที่ 6 10 20 คนที่ 7 18 20 คนที่ 8 16 20 คนท่ี 9 12 20 คนที่ 10 14 20 คนที่ 11 16 20 คนที่ 12 15 20 คนที่ 13 11 20 คนที่ 14 13 20 คนที่ 15 15 20 คนที่ 16 16 20 คนที่ 17 17 20 คนท่ี 18 16 20 คนท่ี 19 15 20 คนที่ 20 14 20 ค่าเฉลยี่ 15.10 ส่วนเบ่ียงเบน 2.23
16 จากตาราง พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาประวตั ิศาสตร์ โดยใช้วิธีการสอนแบบสตอร่ี ไลน์ เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2563 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 15.10 ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากบั 2.23 เท่ากับวา่ นกั เรยี นมผี ลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนสงู กว่าร้อยละ 75
17 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ โดยใช้วิธีการสอนแบบสตอรี่ ไลน์ เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียน ราชประชานเุ คราะห์ 31 อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2563 โดยผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุม่ ตัวอย่างจำนวน 20 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เหตุการณ์โลกปัจจุบันใน คริสตศ์ ตวรรษที่ 21 ของนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4/2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 20 คน โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 เครื่องมือที่ใชใ้ นการวิจัย 1. แผนการจัดการเรียนรู้เพิ่มพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันใน คริสต์ศตวรรษท่ี 21 ของนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/2 ด้วยวธิ กี ารสอนแบบสตอร่ีไลน์ 2. แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สถานการณ์โลกปัจจุบันในคริสต์ศตวรรษที่ 21 จำนวน 20 ข้อ เปน็ ขอ้ สอบปรนัย 5 ตัวเลอื ก การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ใช้คา่ สถติ ิ ดังนี้ 1. คา่ เฉลยี่ คา่ เฉลยี่ ( X̅ ) 2. สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D) 3. ค่ารอ้ ยละ (%) สรุปผลการวิจัย การวิจยั เรือ่ งการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น เรือ่ ง สถานการณโ์ ลกปจั จุบันในคริสต์ศตวรรษท่ี 21 ด้วย วิธีการสอนแบบสตอร่ีไลน์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 15.10 สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานเทา่ กบั 2.23 เท่ากับวา่ นักเรยี นมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นสูงกว่าร้อยละ 75 อภปิ รายผลการวิจัย นักเรียนท่ีใชว้ ิธกี ารเรยี นรู้แบบสตอรี่ไลน์มีคะแนนผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 15 คิดเป็นรอ้ ยละ 75 โดยมีนกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑจ์ ำนวน 14 คน คดิ เป็นร้อยละ 70 สามารถอภปิ รายได้วา่ การจัดการเรยี นรู้แบบเน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ ทำให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองหลังเรียนด้วยวิธีสอนแบบ สตอร่ไี ลน์
18 ขอ้ เสนอแนะ 1. ขอ้ เสนอแนะในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยวิธีสอนแบบสตอร่ี ไลน์ต้องจัดสรรเวลาให้แก่นักเรียน อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักเรียนได้มีเวลาเชื่อมโยงเรื่องราวเข้าด้วยกัน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ ปัญหา โดยมีครูผู้สอนเข้ามาให้คำแนะนำเป็นระยะ เพ่ือกระตุ้นด้วยคำถามสำคัญและคำถามเสริมท่ี นกั เรยี นบางกลมุ่ ตอ้ งการ 2. ขอ้ เสนอแนะสำหรบั การทำวิจยั ครั้งตอ่ ไป การสอนด้วยวิธีการสอนแบบสตอรี่ไลน์สามารถนำไปพัฒนาการสอนในสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ของกลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมได้ รวมถงึ วชิ าอ่ืน ๆ ด้วย โดยใชไ้ ดท้ ้งั เด็ก ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ซึ่งความหนักเบาจะแตกต่างกันไปตามวัยของผู้เรียนและ เนื้อหาทน่ี ำมาสอน
19 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ, (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรุง 2560. สืบค้นจากเว็บออนไลน์ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร (http://academic.obec.go.th) วัลยา ดวงใจ, (2554). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้พระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบสตอรี่ไลน์. หน้า 93-99, กรุงเทพฯ : วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแกน่ . วลัย พานิช, (2543). การสอนด้วยวิธี Storyline. ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยวิธี Storyline, หน้า 18-41, กรงุ เทพฯ : ศูนย์ตำราและเอกสารทางวชิ าการ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. อรรถพล อนันตวรสกุล, บรรณาธิการ, (2545). การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยวิธี Storyline, หน้าที่ 153-167, กรุงเทพฯ : ศนู ย์ตำราและเอกสารทางวิชาการ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. อุมาพร ปิ่นเนตร, (2555). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการแก้ปัญหา เรื่อง หลกั ธรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนา ด้วยวธิ สี อนแบบสตอร่ีไลน์ สำหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษา ปที ี่ 3. กรุงเทพฯ : บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร.
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: