รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยพทุ ธศกั ราช 2550 (เอกสารเพิม่ เติม) อ.ดร.วันเพญ็ แวววรี คุปต์ ตอนท่ี 3 กฎหมายและสทิ ธิประโยชนข์ องผ้สู ูงอายุ 1. รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นกฎหมายสูงสุดท่ีใช้เป็นแนวทางปกครองประเทศ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 มมี าตรการสาคญั ท่ีเกี่ยวข้องและครอบคลุมภารกจิ ทจ่ี ะต้อง ดาเนนิ การพฒั นาผู้สงู อายุ ประกอบดว้ ย - แนวนโยบายพืน้ ฐานของรัฐ ไดร้ ะบใุ ห้รัฐต้องดาเนนิ การตามแนวนโยบายด้านสงั คมและด้าน เศรษฐกิจ 2 มาตรา คือ มาตรา 80(1) รัฐต้องสงเคราะห์และจดั สวัสดิการใหแ้ กผ่ ู้สงู อายุ ให้มคี ณุ ภาพชีวิตท่ีดีข้ึน และพึง่ พาตนเองได้ และมาตรา 84(4) รฐั ต้องจัดให้มีการออมเพ่ือการดารงชีพในยามชราภาพแกป่ ระชาชนและ เจา้ หนา้ ทีข่ องรัฐอย่างทวั่ ถึง - สทิ ธใิ นการได้รับบรกิ ารสาธารณสขุ และสวสั ดิการจากรัฐ ในมาตรา 53 ระบุวา่ บุคคลซึ่งมีอายุ เกินหกสบิ ปบี รบิ ูรณ์ และไม่มีรายได้เพยี งพอแก่การยังชพี มสี ิทธิได้รบั สวสั ดิการ สง่ิ อานวยความสะดวกอันเป็น สาธารณะอย่างสมศักดศ์ิ รี และความชว่ ยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐ - สิทธใิ นกระบวนการยตุ ิธรรม ในมาตรา 40(6) ระบวุ า่ ผู้สูงอายยุ อ่ มมสี ิทธไิ ด้รับความค้มุ ครอง ในการดาเนินกระบวนการพจิ ารณาคดีอย่างเหมาะสม และย่อมมีสทิ ธไิ ดร้ ับการปฏบิ ัตทิ ่ีเหมาะสมในคดีที่เก่ียวกับ ความรุนแรงทางเพศ - บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในการดาเนินการพัฒนาผู้สูงอายุ ในมาตรา 281 ระบุว่า รัฐจะต้องส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เป็นหน่วยงานหลักจัดบริการสาธารณะ และในมาตรา 283 ระบุว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ย่อมมีอานาจหน้าที่โดยท่ัวไปในการดูแลและจัดทาบริการสาธารณะเพื่อ ประโยชน์ของประชาชนในท้องถ่ิน และมีความเป็นอิสระกาหนดนโยบาย การจัดบริการสาธารณะ โดยต้อง คานึงถงึ ความสอดคล้องกบั การพฒั นาของจงั หวัดและประเทศเป็นสว่ นรวมดว้ ย ผสู้ ูงอายกุ ับการทาพินัยกรรม ตามกฎหมาย เม่ือผู้ใดเสียชีวิตลง มรดกของผู้นั้นย่อมจะตกเป็นของทายาท เช่น บิดา มารดา บุตร สามีหรือภรรยา เป็นต้น ตามสัดส่วนท่ีกฎหมายกาหนด แต่หากก่อนที่บุคคลน้ันจะเสียชีวิตเขาอาจทาพินัยกรรม ยกทรพั ยส์ นิ ของตนใหแ้ กผ่ ู้ใดกไ็ ด้ โดยบคุ คลทีถ่ ูกระบใุ ห้เป็นผู้รับมรดกอาจไม่ใชท่ ายาทเสมอไป การทาพินัยกรรม หมายถึง การแสดงความประสงค์ที่จะให้ทรัพย์สินของเราตกเป็นของบุคคลบางคน เมอื่ เราตายไปแล้ว มใิ ชก่ ารยกทรัพย์สินให้แกผ่ ู้อื่นในขณะที่เจ้าของทรัพย์สนิ ยังมีชีวติ อยู่ การทาพนิ ัยกรรมต้องทา ตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารทก่ี ฎหมายกาหนด ผู้ท่ีทาพินัยกรรมได้ต้องมีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ จึงมีสิทธิตามกฏหมายในการทาพินัยกรรม หากอายุ ต่ากว่า 15 ปีทาพินัยกรรม ถือว่า พินัยกรรมน้ันใช้ไม่ได้ (พินัยกรรมนั้นไม่มีผล) หรือ ตามกฎหมายเรียกว่าเป็น โมฆะ นอกจากน้นั บคุ คลใดทศี่ าลได้มีคาสั่งใหเ้ ป็นบุคคลไร้ความสามารถแลว้ กไ็ ม่สามารถทาพนิ ัยกรรมได้เช่นกัน หากฝา่ ฝนื ทาพนิ ัยกรรมขนึ้ มาผลก็คือ พินยั กรรมนนั้ ใช้ไม่ได้หรือตามกฎหมายเรียกวา่ เป็นโมฆะเช่นกัน
ลักษณะของพนิ ยั กรรม พนิ ยั กรรม คอื การแสดงเจตนากาหนดการเผ่ือตายในเร่ืองทรัพยส์ ินของตน หรือในเร่ืองต่าง ๆ ทจ่ี ะ เป็นผลใช้บังคับได้ตามกฎหมายเม่ือตนตาย พนิ ัยกรรมเปน็ การแสดงเจตนาท่ีประสงค์ให้มผี ลเม่ือตนเองตายไปแล้ว ซ่ึงจะยกทรัพย์สินให้แก่ใครก็ได้ หรือให้ผู้ใดเข้ามาจัดการทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดของตนก็ได้ แต่จะทาให้ พนิ ยั กรรมนน้ั มีผลบงั คบั ไปถงึ ทรัพย์สินของผู้อ่นื ที่มิใชข่ องตนนั้นย่อมทาไมไ่ ด้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง พินัยกรรมก็คือ กิจการต่างๆของผู้ทาพินัยกรรม เพ่ือที่จะเกิดผลบังคับตาม กฎหมายในเมื่อผู้ทาพินัยกรรมถึงแก่ความตาย โดยทาแบบใดแบบหนึ่งที่กฎหมายกาหนดไว้ (ประมวลกฎหมาย แพง่ และพาณิชย์ หรือทีเ่ รียกตวั ยอ่ วา่ ป.พ.พ. มาตรา 1646 – 1648) ตัวอย่างเช่น นายแดงทาพินัยกรรมว่า เม่ือตนเองตายจะขอยกท่ีดินของนายขาว ซ่ึงเป็นพี่ชายตน ให้แก่ นางเหลือง ซ่ึงเป็นการยกทรัพย์สินของผู้อ่ืนให้แก่นางเหลือง กรณีเช่นน้ีทาไม่ได้ เพราะไม่ใช่ทรัพย์สินของ ตน เอกสารที่มีข้อความเป็นพินัยกรรมแม้ไม่มีคาว่าเป็นพินัยกรรม ก็ถือว่าเป็นพินัยกรรมมีผลให้ได้ แต่ถ้ามีคาว่า พินัยกรรม แต่ไม่มีข้อความว่าพินัยกรรม ให้มีผลบังคับเมื่อตายไปแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นพินัยกรรม เช่น สมชายเขียน หนงั สอื ไว้ว่า ต้ังแตน่ ้ตี อ่ ไปขอทาพนิ ัยกรรมยกเงนิ สดใหแ้ กน่ ายเจริญ 5,000 บาท ดงั นี้ถอื วา่ ไม่ใช่พนิ ยั กรรม เพราะ ไมป่ ระสงค์จะใหน้ ายเจริญได้รับเงินเม่ือหลงั จากทน่ี ายสมชายตายไปแลว้ ลกั ษณะสาคัญของพนิ ัยกรรมคือ เอกสารนนั้ ตอ้ งมขี อ้ ความกาหนดการเผ่ือตายในเรื่องทรัพย์สินของ ผู้ตายว่าให้ตกเป็นของใคร หรือให้จัดการอย่างไรเมื่อผู้ทาพินัยกรรมตายไปแล้ว หากมีข้อความดังกล่าวก็เป็น พินัยกรรมโดยไม่ต้องมีข้อความระบุว่าเป็นพินัยกรรมแต่อย่างใด การทาพินัยกรรมอาจไม่ใช่เรื่องการยกทรัพย์สิน ให้ผู้ใดก็ได้ แต่อาจเป็นเร่ืองอ่ืนๆ ที่ให้มีผลตามกฎหมายก็ได้ เช่น การทาพินัยกรรมวา่ เมื่อตนเองตายไปแลว้ ขอยก ปอดใหแ้ ก่โรงพยาบาลราชวถิ หี รือ ใหจ้ ดั งานศพของตนโดยการเผาภายใน 3 วนั ดังนีก้ ็เปน็ พินยั กรรมเชน่ กัน รูปแบบการทาพินัยกรรม การทาพนิ ยั กรรมนน้ั ต้องทาตามแบบทก่ี ฎหมายกาหนด มิฉะนนั้ ไม่ถือว่าเปน็ พินยั กรรม พินยั กรรมมอี ยู่ 5 แบบด้วยกนั ได้แก่ 1. พินัยกรรมแบบธรรมดา (ป.พ.พ. มาตรา 1656) 2. พินัยกรรมเขียนเองทงั้ ฉบับ (ป.พ.พ. มาตรา 1657) 3. พนิ ยั กรรมทาเป็นเอกสารฝา่ ยเมือง (ป.พ.พ. มาตรา 1658) 4. พนิ ยั กรรมทาเปน็ เอกสารลับ (ป.พ.พ. มาตรา 1660) 5. พนิ ัยกรรมทาด้วยวาจา (ป.พ.พ. มาตรา 1663) อน่ึง พนิ ยั กรรมทงั้ 5 แบบดงั กล่าว มี 3 แบบ ที่ผ้ทู าจะต้องไปตดิ ต่อกบั ทางอาเภอหรือเขต คอื แบบ ท่ี 3 , 4 และ 5 ส่วนแบบท่ี 1 และแบบที่ 2 ผู้ทาสามารถดาเนนิ การได้เองโดยไม่ต้องติดต่อกับทางอาเภอหรือเขต แต่อย่างใด ซึ่งพินัยกรรมแต่ละแบบมีลักษณะแตกต่างกัน ผู้ทาพินัยกรรมสามารถเลือกทาแบบใดก็ได้ ท่ีสาคัญคือ ข้อความในพินัยกรรมตอ้ งมสี าระเป็นเร่ืองกาหนดการเผือ่ ตายเอาไว้ การทาพินัยกรรม ผู้สูงอายุท่ีประสงค์จะทาพินัยกรรมสามารถเลือกทาพินัยกรรมแบบใดแบบหน่ึงในจานวนท้ังหมด 5 แบบ หลักเกณฑ์การทาพนิ ยั กรรมในแต่ละแบบมีรายละเอยี ดดังน้ี 1. พินยั กรรมแบบธรรมดา การทาพินัยกรรมแบบธรรมดาถือว่าเป็นพินัยกรรมแบบที่นิยมใช้กันมากท่ีสุด บางรายจะ วา่ จา้ งทนายความเป็นผ้จู ัดทาหรือร่างข้อความในพนิ ยั กรรมใหต้ ามความประสงคข์ องผทู้ า
หลักเกณฑ์การทาพนิ ัยกรรมแบบธรรมดา 1. ต้องทาเป็นหนังสือ โดยจะเขียนหรือพิมพ์ก็ได้ (จะเขียนหรือพิมพ์เป็นภาษาไทยหรือ ภาษาตา่ งประเทศกไ็ ด)้ 2. ต้องลงวนั เดือน ปี ในขณะที่ทา เพ่ือพสิ จู น์ความสามารถของผ้ทู า 3. ผู้ทาพนิ ัยกรรมต้องลงลายมือชื่อไวต้ อ่ หน้าพยานอย่างนอ้ ยสองคนพรอ้ มกัน จะลงลายมือ ช่อื หรือพิมพ์นวิ้ มือก็ได้ แต่จะใชต้ ราประทับแทนการลงช่ือหรอื เครอ่ื งหมายแกงไดไม่ได้ และพยานทจ่ี ะลง ลายมือชอื่ ในพนิ ยั กรรมจะพมิ พ์ลายนิว้ มอื หรือใช้ตราประทับ หรอื ลงแกงได หรอื ลงเครอ่ื งหมายอยา่ งอ่ืนแทน การลงช่อื ไมไ่ ด้ จะตอ้ งลงลายมือชอื่ อย่างเดยี ว 4. การขดู ลบ ตกเติม หรือการแก้ไขเปลีย่ นแปลงอยา่ งอืน่ ซ่ึงพินยั กรรมนนั้ ย่อมไม่สมบรู ณ์ เว้นแต่ในขณะท่ีขูด ลบ ตกเติม หรอื แก้ไขเปล่ยี นแปลงนนั้ ได้ลงวัน เดอื น ปี และผ้ทู าพนิ ัยกรรมต้องลง ลายมอื ช่ือ หรือพมิ พน์ ้วิ มือต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนพรอ้ มกนั และพยานอยา่ งนอ้ ยสองคนน้นั ต้องลง ลายมือชื่อรบั รองลายมือชือ่ ของผทู้ าพินัยกรรมในขณะน้นั (ตอ้ งเป็นพินยั กรรมแล้ว) 2. พนิ ัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ หลักเกณฑก์ ารทาพนิ ัยกรรมแบบเขียนเองท้ังฉบับ 1. ตอ้ งทาเป็นเอกสารที่เปน็ หนังสือ โดยจะใช้ภาษาไทยหรือภาษาต่างประเทศก็ได้ 2. ผ้ทู าพินยั กรรมต้องเขียนดว้ ยลายมอื ของตนเองทง้ั ฉบับ จะพมิ พ์ไมไ่ ด้ เพราะฉะน้ันผูท้ ่ี เขียนหนงั สอื ไม่ได้ยอ่ มไมส่ ามารถจะทาพนิ ยั กรรมแบบนี้ได้ พินยั กรรมแบบนจ้ี ะมพี ยานหรอื ไม่มีก็ได้ เพราะ กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ พินยั กรรมแบบนจ้ี งึ มีความสะดวกตรงทไ่ี มจ่ าเป็นต้องมีพยานรูเ้ หน็ ในการทาพินยั กรรม 3. ตอ้ งลงวนั เดอื น ปี ในขณะท่ที า 4. ต้องลงลายมือชื่อผทู้ าพนิ ัยกรรม จะใช้ลายพิมพ์น้ิวมือหรอื เคร่ืองหมายอ่นื ไม่ได้ 5. หากมีการแกไ้ ข ขดู ลบ ตก เติมพนิ ัยกรรมผู้ทาพินัยกรรมจะต้องทาด้วยมือของตนเองจะ ให้ผูอ้ ื่นทาไมไ่ ด้ และจะต้องลงลายมือชอื่ กากับไว้ ณ จุดทีแ่ กไ้ ข ขดู ลบ ตก เติมด้วย หากมกี ารแกไ้ ข ขูด ลบ ตก เตมิ พินยั กรรม แต่ไมม่ ีการลงลายมอื ชอื่ กากับถือว่าไม่ได้มกี ารแกไ้ ข ขดู ลบ ตกเตมิ ในจุดนั้นๆ อนึง่ พนิ ัยกรรมแบบธรรมดากบั พนิ ยั กรรมแบบเขยี นเองท้ังฉบับมสี ว่ นคล้ายกันมาก มีขอ้ แตกตา่ งบางประการ คือ พินัยกรรมแบบธรรมดาผู้ทาพินัยกรรมไม่จาเปน็ ต้องเขียนเอง หรอื พมิ พเ์ อง และจะเขียน หรอื พมิ พ์ก็ได้ ท่สี าคัญพนิ ัยกรรมแบบธรรมดาต้องมีพยานอยา่ งนอ้ ยสองคนดว้ ย และหากบุคคลอ่ืนเปน็ ผู้เขียนหรอื พิมพค์ วรลงลายมือช่ือผูเ้ ขยี น และพยานด้วย โดยระบุช่อื ผู้เขยี น ผ้พู ิมพ์และพยาน ข้อแตกต่างอกี ประการหนงึ่ คอื พินัยกรรมแบบธรรมดาผู้ทาพินยั กรรมสามารถพมิ พ์ลายน้ิวมอื แทนการลงลายมือช่อื ไดแ้ ต่ตอ้ งมีพยานลงลายมือ ชอ่ื รบั รองลายพมิ พน์ วิ้ มอื ไว้สองคน 3. พนิ ยั กรรมทาเป็นเอกสารฝา่ ยเมอื ง การขอทาพนิ ัยกรรมเปน็ เอกสารฝา่ ยเมือง ผรู้ อ้ งสามารถยื่นคาร้องขอใหน้ ายอาเภอ/ ผู้อานวยการเขต ณ อาเภอหรือเขตใดก็ได้ ดาเนนิ การให้ตามความประสงค์ ขัน้ ตอนการทาพนิ ัยกรรมทาเปน็ เอกสารฝา่ ยเมือง ดงั น้ี 1. ผูท้ าพินยั กรรม แจง้ ข้อความท่ีตนประสงค์จะให้ใส่ไว้ในพนิ ยั กรรมของตนแก่นายอาเภอ/ ผ้อู านวยการเขตต่อหนา้ พยานอีกอย่างน้อยสองคนพร้อมกัน 2. นายอาเภอ/ผู้อานวยการเขตจะจดข้อความทผ่ี ้ทู าพนิ ยั กรรมแจ้งใหท้ ราบแล้วนน้ั ลงไว้ และอ่านขอ้ ความนั้น ใหผ้ ้ทู าพินยั กรรมและพยานฟัง
3. เม่อื ผูท้ าพนิ ัยกรรมและพยานรบั ทราบชดั เจนว่า ขอ้ ความท่นี ายอาเภอ/ผู้อานวยการเขต จดนัน้ ถูกต้องตรงกันกับทผ่ี ูท้ าพินยั กรรมแจง้ ไวแ้ ลว้ ให้ผู้ทาพนิ ัยกรรมและพยานลงลายมือช่อื ไวเ้ ป็นหลักฐาน 4. ขอ้ ความทน่ี ายอาเภอ/ผ้อู านวยการเขตจดไวน้ น้ั ให้นายอาเภอ/ผู้อานวยการเขตลง ลายมอื ชื่อ และลงวัน เดือน ปี จดลงไว้ดว้ ยตนเองเปน็ สาคัญวา่ พนิ ัยกรรมนน้ั ไดท้ าถกู ต้องตามหลักเกณฑท์ ี่ระบุไว้ ขา้ งตน้ แล้วประทบั ตราตาแหน่งไวเ้ ปน็ หลักฐาน การทาพนิ ัยกรรมแบบเอกสารฝา่ ยเมือง ไม่จาเป็นต้องทาในท่วี า่ การอาเภอหรือกง่ิ อาเภอ/ ท่ี ทาการเขตเสมอไป ถา้ ผู้ทาร้องขอจะทานอกทที่ าการดังกล่าวก็ได้ 4. พนิ ยั กรรมทาแบบเอกสารลับ ขน้ั ตอนการทาพินัยกรรมแบบเอกสารลบั ดังน้ี ผู้ท่ีประสงค์จะทาพินัยกรรมเป็นเอกสารลับ ให้ผู้น้ันแสดงความจานงตามแบบของเจ้า พนกั งานย่นื ต่อกรมการอาเภอ (นายอาเภอ) ณ ท่ีวา่ การอาเภอ หรือก่ิงอาเภอแลว้ ปฏิบตั ติ ามหลกั เกณฑ์ตอ่ ไปนี้ 1. ต้องมขี อ้ ความเป็นพนิ ัยกรรมและลงลายมือชือ่ ผู้ทาพนิ ยั กรรม 2. ผ้ทู าพินยั กรรมตอ้ งผนึกพนิ ยั กรรม แล้วลงลายมอื ช่อื คาบรอยผนกึ 3. ผู้ทาพินัยกรรมตอ้ งนาพนิ ยั กรรมทผี่ นกึ น้นั ไปแสดงตอ่ นายอาเภอและพยานอยา่ งน้อย 2 คน และให้ถ้อยคาตอ่ บุคคลทั้งหมดน้ันว่าเป็นพนิ ยั กรรมของตน ถ้าพินัยกรรมนนั้ ผ้ทู าพินยั กรรมเขียนเองโดย ตลอด ผทู้ าพนิ ัยกรรมจะต้องแจง้ นามและภูมิลาเนาของผู้เขยี นให้ทราบดว้ ย 4. เมอื่ นายอาเภอ/ผู้อานวยการเขตจดถ้อยคาของผู้ทาพนิ ัยกรรม และวัน เดือน ปี ทีท่ า พนิ ัยกรรมมาแสดงไว้ในซองพับและประทบั ตราประจาตาแหนง่ แล้วนายอาเภอ/ผอู้ านวยการเขตผทู้ าพนิ ยั กรรม และพยานลงลายมือชื่อบนซองน้ัน อน่ึง หากบุคคลผู้เป็นทั้งใบ้ และหูหนวก หรือผู้ที่พูดไม่ได้ มีความประสงค์จะทาพินัยกรรม เปน็ เอกสารลับก็สามารถทาได้ โดยใหผ้ นู้ ัน้ เขียนดว้ ยตนเองบนซองพินยั กรรมต่อหน้านายอาเภอ/ผู้อานวยการเขต และพยานอยา่ งนอ้ ย 2 คน ว่าพนิ ยั กรรมทผ่ี นกึ น้นั เป็นของตน แทนการใหถ้ อ้ ยคา ถ้าผู้ทาพินัยกรรมแบบเอกสารลับประสงค์ขอรับไปทันที ก็ให้นายอาเภอมอบให้ไปได้ โดย ให้ผทู้ าพินยั กรรมลงลายมอื ชือ่ รับในสมดุ ทะเบียน 5. พินัยกรรมทาด้วยวาจา การทาพินัยกรรมด้วยวาจาเปน็ กรณีเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ ซ่งึ บุคคลใดไมส่ ามารถจะทา พนิ ยั กรรมตามแบบอ่นื ท่ีกฎหมายกาหนดไว้ได้ เชน่ ตกอยใู่ นอันตรายใกล้ความตาย หรือเวลามีโรคระบาด หรือ สงคราม ซ่งึ ในพฤติการณ์เช่นน้ี ผทู้ าพินัยกรรมไม่อาจหาเครื่องมือเครื่องเขียนไดท้ ันทว่ งที หรือกว่าจะหาได้กถ็ งึ ตายเสียก่อน ผทู้ าพินยั กรรมสามารถทาพินยั กรรมดว้ ยวาจาได้ ดังน้ี 1. ผ้ทู าพนิ ยั กรรมแสดงเจตนากาหนดข้อพินยั กรรมต่อหนา้ พยานอย่างน้อย 2 คน ซึ่งอยู่ พร้อมกัน ณ ทีน่ นั้ 2. พยานท้ังหมดต้องไปแสดงตนตอ่ นายอาเภอโดยมิชักช้า และแจง้ ให้นายอาเภอทราบถงึ ข้อความเหล่านี้ - ขอ้ ความทผ่ี ู้ทาพนิ ยั กรรมได้สัง่ ไวด้ ว้ ยวาจา - วนั เดอื น ปี สถานทท่ี ีท่ าพนิ ัยกรรม - พฤตกิ ารณพ์ ิเศษที่ขดั ขวางมิให้สามารถทาพินัยกรรมตามแบบอน่ื ท่ีกฎหมาย กาหนดไว้นัน้ ด้วย
3. ใหน้ ายอาเภอ/ผ้อู านวยการเขตจดขอ้ ความท่ีพยานแจง้ ไว้ และพยานทงั้ หมดน้ันต้องลง ลายมอื ชอื่ ถ้าลงลายมือช่ือไม่ไดจ้ ะลงลายพิมพน์ ว้ิ มือ โดยมีพยานลงลายมือชอื่ รับรอง 2 คนกไ็ ด้ อนงึ่ ความสมบรู ณแ์ ห่งพินยั กรรมน้ีย่อมส้ินไป เม่ือพ้นกาหนดหนง่ึ เดือนนบั แตเ่ วลาผทู้ า พินยั กรรมกลบั มาส่ฐู านะทจี่ ะทาพนิ ัยกรรมตามแบบอ่ืนทก่ี ฎหมายกาหนดไว้ ขอ้ พงึ ระวัง พินัยกรรมเป็นเอกสารที่มีความสาคัญ ดังนั้น ก่อนท่ีจะทาพินัยกรรมผู้ทาต้องพิจารณาไตร่ตรองให้ รอบคอบเสียก่อนว่าเจตนาจะยกทรัพย์สินให้ใคร เพราะการทาพินัยกรรมเป็นการกาหนดการยกทรัพย์สินหรือ ความประสงคท์ ีจ่ ะจดั การเรอ่ื งบางเร่ืองไวล้ ่วงหนา้ สาหรับการตายในอนาคตท่ีจะเกดิ ขน้ึ ไม่จาเป็นต้องยกทรัพย์สิน ให้ทายาทตามกฎหมายของเราเท่าน้ัน หากพินัยกรรมได้ทาไปแล้วและถูกต้องก็ต้องบังคับตามพินัยกรรม ทายาท อ่ืนจะมาอ้างขอแบ่งทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมท่ีทายกให้ผู้อ่ืนไปแล้วมิได้ เพราะพินัยกรรมคือการแสดงเจตนาที่ สาคัญของเจา้ มรดกทก่ี ฎหมายยอมรบั และบงั คับให้ ตัวอย่าง พนิ ัยกรรมแบบธรรมดา พินยั กรรม ทาท่บี า้ นเลขที่…… หมู่ …….. ต…….. อ……. จ……… วนั ท่ี …… เดอื นใ....... พศ.......... ขา้ พเจ้า นาง ก นามสกุล ทาดี อายุ 73 ปี อยู่ทาที่บ้านเลขท่ี…… หมู่ …….. ต…….. อ……. จ……… ขอทาพินยั กรรมไวว้ า่ เมื่อขา้ พเจา้ ถึงแก่กรรมไปแล้ว ทรพั ยส์ นิ ของข้าพเจา้ ให้ตกเป็นกรรมสิทธ์ิ ของบุคคล ดังต่อไปนี้ ข้อที่ 1 ทีด่ นิ โฉนดเลขที่ 567 เลขทด่ี ิน 890 ต.......... อ.......... จ................. เน้อื ท่ี 10 ไร่พร้อมบา้ นบน ที่ดินใหต้ กเปน็ ของนาย/นาง/นางสาว/.......................................................... ขอ้ ที่ 2 ใหเ้ งินสดในบญั ชีทธ่ี นาคารกรงุ เทพ จากัด (ชื่อธนาคี) สาขา........... ท้ังหมดให้ตกเปน็ ของ ของนาย/นาง/นางสาว/.......................................................... ข้อท่ี 3 ใหท้ รัพยส์ ินอืน่ ๆ นอกจากน้ี ใหต้ กเป็นของ นาย/นาง/นางสาว/........................................... แตเ่ พียงผู้เดยี ว พนิ ยั กรรมฉบับนี้ขา้ พเจา้ และพยานได้อยู่พร้อมกนั ข้าพเจ้าไดล้ งลายมือช่อื ต่อหนา้ พยานสองคนพรอ้ ม กันและพยานทัง้ สองคนได้ลงลายมือชอื่ ต่อหนา้ ข้าพเจ้าโดยพรอ้ มเพรียงกัน ขณะทาพินัยกรรมนีข้ ้าพเจ้ามี สตสิ มั ปชัญญะบรบิ ูรณด์ ี เพือ่ เป็นหลกั ฐานจึงลงลายมอื ช่อื ไว้ ลงช่อื ……………………………. ผู้ทาพนิ ยั กรรม (ช่ือ สกุล) ลงช่ือ……..….……..…………… พมิ พห์ รอื เขยี น,พยาน (ช่อื สกุล) ลงช่ือ………………..…………… พยาน (ชอ่ื สกลุ )
วิธีเขียนพินยั กรรม 1. ให้เรมิ่ เขียนกลางหน้ากระดาษว่า พนิ ยั กรรม 2. บรรทัดถดั ลงมาใหร้ ะบุสถานทีท่ ีท่ าพนิ ยั กรรม คือ เขยี นข้อความวา่ พินัยกรรมนี้ไดท้ าขึ้นท่ไี หน 3. บรรทัดถดั ลงไปใหร้ ะบวุ า่ ทาเมือ่ วนั ท่ี / เดอื น / ปีอะไร ต่อจากนัน้ ยอ่ หน้าถัดไปต้องระบุ รายละเอยี ดเกย่ี วกบั ผู้ทาพนิ ัยกรรมประกอบดว้ ย ช่อื นามสกุล อายุ อยู่บ้านเลขที่ ถนน หมู่ ตาบล อาเภอ จงั หวัด การระบุรายละเอียดดงั กลา่ วเพื่อใหร้ ู้วา่ ใครเป็นผู้ทาพนิ ัยกรรม และผู้ทาพนิ ัยกรรมมีอายเุ กนิ กว่า 15 ปี ขณะทท่ี า พนิ ัยกรรมตามที่กฎหมายหรอื ไม่ 4. ขอ้ ความต่อไปให้ระบวุ า่ จะใหท้ รพั ย์สินของเราตกทอดแก่บุคคลใดเมื่อเราเสยี ชีวติ ไปแลว้ ตัวอย่าง เช่น \"ข้าพเจ้าขอทาพนิ ัยกรรมว่าเม่ือข้าพเจา้ ถึงแก่ความตายแลว้ ใหท้ รัพยส์ ินของขา้ พเจา้ ตก เป็นของบุคคลดงั ต่อไปน้ี\" จากน้นั ให้ระบุรายการทรัพย์สนิ ทงั้ หลายทต่ี ั้งใจจะยกให้ โดยอาจระบุเปน็ ขอ้ ๆ เช่น ขอ้ 1 ให้เงนิ ข้าพเจ้าจานวน 8,000,000 บาท ท่ฝี ากไว้กบั ธนาคารกรุงไทย สาขา สุพรรณบุรี ใหต้ กเปน็ ของนางวนั เพญ็ แวววรี คปุ ต์ ขอ้ 2 ใหท้ ่ดี นิ โฉนดเลขที่ 1234 ตาบลนครปฐม อาเภอเมอื ง จงั หวัดนครปฐม รวมสง่ิ ปลูก สรา้ งบนทีด่ นิ ดังกลา่ ว ให้ตกเป็นของนางวันเพญ็ แวววรี คุปต์ ขอ้ 3 ให้รถยนต์ย่ีห้อฮอนด้า 1 คัน หมายเลขทะเบยี น กต 5588 นครปฐม ให้ตกเป็นของนางวนั เพญ็ แวววีรคุปต์ อน่งึ หากผ้ทู าพินัยกรรมประสงคจ์ ะยกทรัพย์สินท้ังหมดให้แกใ่ ครคนใดคนหนึ่งก็อาจเขียนว่า “เม่อื ข้าพเจ้าถึงแก่กรรมไปแลว้ ให้ทรพั ยส์ นิ ทง้ั หมดของข้าพเจ้าตกได้แก่ นางวันเพ็ญ แวววีรคุปต์ แต่เพยี งผู้เดียว” 5. ยอ่ หนา้ ต่อไปควรระบวุ ่า ขณะทาพนิ ยั กรรมฉบบั นี้ ขา้ พเจ้ามีสติสมั ปชัญญะปกติบริบรู ณด์ ี ตอนท้าย ของพนิ ยั กรรมตอ้ งลงลายมือชอ่ื หรือลายเซ็นของผ้ทู าพนิ ัยกรรม และควรวงเล็บชื่อและนามสกลุ ด้วยตัวบรรจงไว้ ดว้ ย แตจ่ ะพมิ พล์ ายมือแทนการลงลายมอื ช่ือไม่ได้ 6. เม่ือเขยี นพินัยกรรมเสร็จแล้ว ก็เปน็ อันว่าหนังสอื ฉบับนีเ้ ปน็ พนิ ยั กรรมไปแล้ว แต่หากผู้ทา พนิ ยั กรรมต้องการเปล่ยี นแปลงแกไ้ ขพินยั กรรมที่ทาไวแ้ ล้วนนั้ กส็ ามารถทาได้แต่จะต้องลงลายมือชื่อของตน ตรงทไี่ ดแ้ ก้ไข ขดู ลบ ตก เติมนนั้ ไว้ดว้ ย เมื่อได้ทาขึน้ แล้วนัน้ ผู้ทาพินัยกรรมมสี ิทธจิ ะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ สามารถยกเลิกไดโ้ ดยแก้ไขฉีกทาลาย พนิ ัยกรรมเสยี ก็ได้ หรือทาพินัยกรรมฉบับใหม่ซ่ึงหากมกี ารทาใหมใ่ ห้ถอื ว่าพินัยกรรมฉบับเกา่ ถูกเพิกถอนไปแล้ว
ข้อมูลแหล่งให้บรกิ ารสิทธิประโยชน์สาหรับหรับผ้สู ูงอายุ 1. ศูนย์พัฒนาการจดั สวสั ดิการสังคมผู้สูงอายุ บรกิ ารให้คาแนะนาปรกึ ษาและจัดกิจกรรมเพื่อสร้าง ความสมั พันธท์ ี่ดีและลดชอ่ งว่างระหว่างวยั ของผู้สูงอายุและสมาชกิ ครอบครัว ทาใหผ้ สู้ งู อายอุ ยรู่ ่วมกับครอบครัว อย่างอบอุ่นและมีความสขุ นอกจากนยี้ งั ให้ความช่วยเหลอื แก่ผสู้ ูงอายุทไี่ ด้รับความเดือดร้อน เปน็ เงิน แหละ/หรือ สิ่งของ ตามระเบยี บกรมพัฒนาสงั คมและสวัสดิการวา่ ด้วยการสงเคราะห์ครอบครวั ผูม้ ีรายได้นอ้ ยและผูไ้ ร้ทพ่ี ึ่ง พ.ศ. 2552 2. ศนู ยพ์ ฒั นาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) จัดต้งั ขึ้นจากการสนบั สนุนของสานักงานกิจการสตรีและ สถานบันครอบครวั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์ โดยเป็นการรวมกลุ่มตวั แทนคนในชุมชน หรอื องคก์ รในชมุ ชน ที่อาสาช่วยดแู ล ปอ้ งกัน และแก้ไขปัญหาครอบครวั มบี ริการใหค้ าแนะนาปรกึ ษาหรอื จัด กจิ กรรมท่ชี ่วยเสรมิ สรา้ งความสมั พันธข์ องสมาชกิ ในครอบครัว ศพค. ต้งั อยู่ในตาบลหรอื เทศบาลในพ้นื ทีต่ า่ งๆ ท่วั ประเทศ อยใู่ นความดูแลและสนบั สนนุ ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น 3. สายดว่ นกรมสุขภาพจิต (ฮอทไลนค์ ลายเครียด) ใหบ้ รกิ ารปรกึ ษาปญั หาสขุ ภาพจติ รับฟังปัญหา ทท่ี าใหเ้ กดิ ความคบั ข้องใจ และให้คาแนะนาในการแกไ้ ขปัญหาแกป่ ระชาชนทุกเพศ ทุกวัย ตลอด 24 ชวั่ โมง โทรศพั ทส์ ายด่วน 1667 4. ศูนยพ์ ง่ึ ได้ (ศูนยบ์ ริการชว่ ยเหลอื เด็กและสตรใี นภาวะวิกฤตจากความรนุ แรง) รับเรือ่ งรอ้ งทกุ ข์ และใหค้ วามชว่ ยเหลือแก่ประชาชนทีไ่ ดร้ ับความเดือดร้อน และถูกกระทารุนแรงในครอบครัว ทางโทรศพั ท์ ตลอด 24 ชัว่ โมง โดยมีศนู ย์รบั แจ้งปัญหาและให้การชว่ ยเหลอื ผทู้ ่ีไดร้ ับความเดือดร้อนอยู่ท่โี รงพยาบาลประจาจงั หวดั ทุกแหง่ ท่ัวประเทศ โทรศัพท์สายดว่ น 1169 5. คลนิ ิกช่วยเหลือความรุนแรงในครอบครัว (ศนู ยน์ ารรี ักษโ์ รงพยาบาลรามาธิบดี) หมายเลข โทรศัพท์ 02-201-1222 6. มลู นธิ ศิ ูนยฮ์ อตไลน์ รบั ปรึกษาและใหค้ าแนะนาเกีย่ วกับปัญหาครอบครัว ปัญหาชีวติ หมายเลข โทรศพั ท์ 02-276-2950 และ 02-277-8811 7. ศูนย์ปรกึ ษาปัญหาชวี ติ (สมาคมสะมาริตนั ส์แหง่ ประเทศไทย) ให้คาแนะนาปรึกษาเพื่อคลาย ทุกข์ แก้ปญั หา และหาทางออกให้กับชวี ิต หมายเลขโทรศัพท์ 02-713-6793 8. เสถียรธรรมสถาน ใหค้ าแนะนาเร่ืองคลายทุกข์ ให้คาปรึกษาธรรมะ มายเลขโทรศัพท์ 02-509- 0085, 02-509-2237 และ 02-510-6697 9. ศูนย์ประชาบดี ประสานหน่วยงานต่างๆ ในการช่วยเหลือผูท้ ีไ่ ดร้ บั ความเดือดรอ้ น รวมถงึ ผสู้ ูงอายุ ท่ีถกู กระทารุนแรง ถูกทอดทิง้ โทรศพั ทส์ ายดว่ น 1330
10. ศูนย์พฒั นาการจัดสวัสดกิ ารสังคมผู้สูงอายุ สังกัดกรมพฒั นาสังคมและสวสั ดกิ าร มีหน่วยงานทัว่ ประเทศ 12 แห่ง ให้บรกิ ารในลักษณะของสถานสงเคราะห์สาหรบั ผสู้ ูงอายุขาดที่พ่งึ ถูกทอดทิ้ง ไม่มผี ดู้ ูแล หรอื ไม่ สามารถใชช้ วี ิตอยรู่ ่วมกับครอบครัว ผสู้ งู อายทุ ี่มคี วามประสงค์เข้ารบั บริการในศูนย์พัฒนาการจัดสวสั ดิการสังคม ผสู้ งู อายุ ตอ้ งมคี ณุ สมบตั ิดังน้ี - มีสญั ชาติไทย อายตุ ้ังแต่ 60 ปีขึน้ ไป - ไม่เป็นผ้ตู อ้ งหาว่ากระทาผิดอาญา และอยู่ระหวา่ งการสอบสอนของพนักงานสอบสวน หรอื อยู่ ระหว่างการพิจารณาคดขี องศาล - ไมเ่ ปน็ โรคเรอ้ื รัง หรือโรคตดิ ตอ่ รา้ ยแรง - ไม่พกิ ารทพุ พลภาพ หรือจติ ฟ่นั เฟือนไมส่ มประกอบ - สามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้ในกิจวัตรประจาวัน ผู้สูงอายุท่ีอยู่ในกรุงเทพมหานคร ย่ืนใบสมัครได้ท่ีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ หรือ สานกั งานพัฒนาสังคมและสวสั ดกิ ารกรงุ เทพมหานคร ตา่ งจังหวัด ยื่นใบสมคั รไดท้ ี่สานักงานพฒั นาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) หรือศูนย์พัฒนาสังคมจังหวัด ในจังหวัดท่ีตนมีภูมิลาเนา หรือศูนย์ พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุแต่ละแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ท่ี ศูนย์ประชาบดี โทรศัพท์สายด่วน 1330 เอกสารอ้างอิง 1. “พระราชบัญญัตผิ ู้สงู อายุ พ.ศ. 2546” (31 ธันวาคม 2546). ราชกิจจานเุ บกษา, เลม่ 120 ตอนที่ 130 ก, น. 5-6. 2. “พระราชบัญญตั ิผสู้ งู อายุ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2553” (15 กนั ยายน 2553). ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 127 ตอนที่ 56. 3. สานักสง่ เสรมิ และพิทักษผ์ ้สู งู อาย.ุ (ม.ป.ป.). ค่มู อื สิทธผิ สู้ ูงอายตุ ามพระราชบัญญตั ผิ สู้ งู อายพุ .ศ. 2546. (พมิ พ์ครง้ั ที่ 13). กรุงเทพฯ: สานกั สง่ เสรมิ และพทิ กั ษผ์ ู้สงู อายุ. 4. สานักส่งเสรมิ และพทิ กั ษ์ผสู้ ูงอาย.ุ (2556). ชุดความรกู้ ารดูแลตนเองและพฒั นาศักยภาพผู้สูงอายดุ า้ นความ มั่นคงในชีวติ . กรงุ เทพฯ: ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: