Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา การจัดท่า และการเคลื่อนย้าย

วิชา การจัดท่า และการเคลื่อนย้าย

Description: วันที่ 13 พฤษภาคม 2565
โดย นางพวงพันธ์ วุฒิยาสกุล

Search

Read the Text Version

• โรคอมั พาตหรอื โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร ? โรคอมั พาตหรือโรคหลอดเลือดสมอง(Stroke) คือ โรคท่ีสมองขาดเลือดหรือมีเลือดมาเล้ียงไมเ่ พยี งพอ ซ่ึงอาจเกิดจากการอุดตนั หรือการฉีกขาดของหลอดเลือดท่ีไปเล้ียงสมอง ทาใหเ้ ซลลแ์ ละเน้ือเยอ่ื สมองถูกทาลาย อยา่ งถาวรเป็นบางส่วนหรือท้งั หมด โดยที่เน้ือสมองซีกขวาจะควบคุมการทางานของร่างกาย แขน-ขาดา้ นซา้ ย และในทางกลบั กนั เน้ือสมองซีกซา้ ยจะควบคุมการทางานของร่างกาย แขน-ขาดา้ นขวา (รูปท่ี 1) ดงั น้นั หากมี ความผดิ ปกติของเน้ือสมองซีกใดซีกหน่ึงจะส่งผลใหเ้ กิดอาการอ่อนแรงของร่างกาย แขน-ขาดา้ นตรงขา้ ม เรียกวา่ อมั พาตคร่ึงซีก(Hemiplegia) ในกรณีที่มีการอ่อนแรงจนไม่สามารถขยบั เขย้อื นร่างกายไดเ้ ลยแบบถาวร เรียกวา่ “อมั พาต” แต่กรณีที่เกิดอาการอ่อนแรงท่ีผปู้ ่ วยพอขยบั ร่างกายไดบ้ า้ งหรืออาการอ่อนแรงเกิดข้ึน เพยี งชวั่ คราวเรียกวา่ “อมั พฤกษ”์ ภาพแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างระดับของไขสันหลงั ทเ่ี กิดพยาธิสภาพและส่วนของร่างกายทอ่ี ่อนแรง • สาเหตขุ องโรคหลอดเลือดสมองคืออะไร ? 1. หลอดเลือดสมองตีบ เกิดจากผนงั หลอดเลือดแดงแขง็ ตวั ตีบตนั (Atherosclerosis) ซ่ึงพบไดใ้ นผสู้ ูงอายุ ซ่ึงเส้นเลือดท่ีตีบตนั น้ีจะเสียความยดื หยนุ่ ไปดว้ ย ร่วมกบั การที่ผนงั หลอดเลือดถูกทาลาย ทาใหเ้ ส้น เลือดเปราะและแตกง่าย 2. หลอดเลือดสมองอุดตนั เกิดจากลิ่มเลือดจากท่ีแห่งหน่ึงลอยไปอุดตนั หลอดเลือดสมองที่ห่างออกไป

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 3. หลอดเลือดสมองแตก เกิดจากหลอดเลือดแดงแขง็ , โรคความดนั โลหิตสูง, หลอดเลือดผิดปกติแต่ กาเนิด, หลอดเลือดสมองโป่ ง 4. การอกั เสบของหลอดเลือด เช่น จากการติดเช้ือวณั โรค, เยอื่ หุม้ สมองอกั เสบ เป็นตน้ 5. การบีบตวั ของหลอดเลือดสมอง 6. ภาวะช็อค หรือความดนั โลหิตต่าจากสาเหตุตา่ ง ๆ เช่น ทอ้ งเสีย, เลือดออกในกระเพาะ, อ่อนเพลีย, อุบตั ิเหตุ หรือการติดเช้ือรุนแรง เป็ นตน้ 7. เหตุอ่ืนๆ เช่นกรณีท่ีพบร่วมกบั โรคทางกายบางชนิด แต่สาเหตุน้ีพบไดน้ อ้ ย เส้นเลอื ดสมองตบี เส้นเลอื ดสองแตก รูปแสดงภาวะเส้นเลือดสมองตบี และเส้นเลือดสมองแตก • ใครเสีย่ งต่อการเกิดโรคอมั พฤกษ์ อมั พาตบา้ ง ? ปัจจัยเส่ียงที่ทาให้เกดิ พยาธิสภาพของหลอดเลือดแดงในสมอง ปัจจัยเส่ียงคือ สภาวะหรือพฤติกรรมท่ีเกิดข้ึนบอ่ ย ทาใหม้ ีแนวโนม้ จะเกิดโรคหรือพยาธิสภาพของ หลอดเลือดแดงในสมอง คนที่มีปัจจยั เส่ียงไม่ไดห้ มายความวา่ คนๆน้นั จะเป็ นอมั พาต แต่หมายความวา่ โอกาสท่ี จะเป็นอมั พาตมีสูงกวา่ คนท่ีไม่ไดม้ ีปัจจยั เสี่ยง คนท่ีมีปัจจยั เส่ียงสูง เช่น คนท่ีมีระดบั ไขมนั ในเลือดสูง หรือคนท่ี มีความดนั โลหิตสูง ก็ทาใหม้ ีโอกาสเป็นอมั พาตไดม้ ากข้ึน ความรุนแรงของโรคกอ็ าจมีมากข้ึน ปัจจัยเสี่ยงทสี่ ามารถรักษาได้ • ความดนั โลหิตสูง (Hypertension) • บุหร่ี 2

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ • โรคหัวใจ • โรคเบาหวาน ปัจจยั เส่ียงเกี่ยวกบั ความดนั โลหิตสูง การสูบบุหร่ี โรคหวั ใจและโรคเบาหวาน เป็นปัจจยั เสี่ยงที่สาคญั ส่วนปัจจยั เสี่ยงรองลงมาไดแ้ ก่ ไขมนั ในเลือดสูง หรือคอลเลสเตอรอล ความอว้ น (Obesity) และการไม่ออก กาลงั กาย (Inactivity) สาหรับปัจจยั อื่นๆที่อาจมีผลตอ่ พยาธิสภาพของหลอดเลือดแดง คือ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การใชย้ า เสพติด หรือการใชย้ าไมถ่ ูกตอ้ ง สิ่งเหล่าน้ียงั ไมม่ ีรายงานท่ีแน่ชดั ภาพแสดงการสะสมของไขมนั ในหลอดเลือด • อาการอย่างไรทีพ่ บในโรคอมั พฤกษ์ อมั พาต ? การขาดเลือดไปเล้ียงสมองอยา่ งเฉียบพลนั มกั มีอาการเตือนล่วงหนา้ ถา้ เราเรียนรู้วา่ อาการเตือนเป็น อยา่ งไร และเรียนรู้ที่จะลดปัจจยั เส่ียงตา่ งๆกส็ ามารถลดอตั ราการเส่ียงและป้องกนั การเกิดอมั พาตได้ อาการเตือนทค่ี วรรู้ อาการเตือนคือสิ่งที่ร่างกายส่งสญั ญาณบอกใหร้ ู้วา่ สมองไดร้ ับออกซิเจนไมเ่ พียงพอ หากมีอาการ ต่อไปน้ีใหพ้ บแพทยโ์ ดยด่วน • มีอาการชา และอ่อนแรงของใบหนา้ หรือแขนขาซีกใดซีกหน่ึง ซ่ึงเกิดข้ึนอยา่ งเฉียบพลนั • มีอาการสบั สน ลิ้นแขง็ พูดไม่ชดั พดู ไม่ออก หรือฟังไม่เขา้ ใจ ซ่ึงอาการเหล่าน้ีเกิดข้ึนอยา่ ง ทนั ทีทนั ใด และหายไปในช่วงเวลาส้นั ๆ • ตาพร่า มองไม่ชดั อาจเป็นตาขา้ งใดขา้ งหน่ึงหรือเป็นท้งั สองขา้ ง • เดินเซ เวยี นศีรษะ รู้สึกวา่ ทรงตวั ไมด่ ี • ปวดศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุ • อาการเตือนอ่ืนๆ ไดแ้ ก่ การเห็นภาพซอ้ น เวยี นศีรษะ คล่ืนไส้และอาเจียน 3

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ อาการเตือนตา่ งๆเหล่าน้ีอาจเกิดข้ึนในช่วงเวลาส้ันๆแลว้ หายไป เราเรียกอาการเหล่าน้ีวา่ “การขาดเลือด ชั่วคราว” (Transient Ischemic Attack : TIA) อาการเหล่าน้ีเป็นการเตือนวา่ มีปัญหาท่ีใหญก่ วา่ ซ่อนอยู่ จึง จาเป็นตอ้ งไดร้ ับการรักษาอยา่ งเร่งด่วน ถา้ ไดร้ ับการรักษาท่ีถูกตอ้ งเหมาะสมก็อาจหลีกเล่ียงการเป็นอมั พาตได้ หากมีอาการเตือนดงั ที่กล่าวไปแลว้ น้ีใหไ้ ปโรงพยาบาลและพบแพทยท์ างระบบประสาทโดยด่วนท่ีสุด • โรคอมั พฤกษ์ อมั พาตมีวิธีการรกั ษาอย่างไร ? การรักษาผู้ป่ วยขณะทอี่ ยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่อยใู่ นโรงพยาบาล แพทยจ์ ะทาการตรวจวนิ ิจฉยั หลาย อยา่ งเพอ่ื หาพยาธิสภาพของหลอดเลือดแดงในสมองวา่ เป็นชนิดใด และเพ่อื หาตาแหน่งของพยาธิสภาพ หาก ผปู้ ่ วยมีโรคท่ีเป็นปัจจยั เสี่ยง เช่น ความดนั โลหิตสูง โรคหวั ใจ หรือเบาหวาน แพทยจ์ ะใหก้ ารรักษาโรคท่ีเป็น ปัจจยั เสี่ยง โดยจะทาการตรวจเบ้ืองตน้ เช่น การสอบถามถึงอาการ วดั ความดนั โลหิต จบั ชีพจร และวดั อุณหภมู ิ กาย ตรวจเลือดและปัสสาวะ เป็นตน้ และการตรวจพเิ ศษที่ผปู้ ่ วยอาจไดร้ ับ เช่น CT Scan คือการใชค้ อมพวิ เตอร์ เพ่ือหาความผดิ ปกติของสมอง หรือ MRI เป็นการถ่ายภาพของสมอง เหล่าน้ีเป็นตน้ การรักษาในโรงพยาบาล การรักษาในโรงพยาบาลข้ึนอยกู่ บั ชนิดและความรุนแรงของพยาธิสภาพของ หลอดเลือดแดงในสมอง และยงั ข้ึนอยกู่ บั ระยะเวลาท่ีผปู้ ่ วยมาถึงโรงพยาบาลดว้ ย การฟ้ื นฟูสภาพของผปู้ ่ วยอมั พาตคร่ึงซีกในโรงพยาบาลตอ้ งอาศยั การทางานร่วมกนั เป็ นทีมจึงจะ ประสบความสาเร็จ ซ่ึงทีมงานในโรงพยาบาลประกอบดว้ ยบุคคลต่อไปน้ี แพทย์ อาจเป็นแพทยท์ างระบบประสาท อายรุ แพทย์ หรือแพทยเ์ วชศาสตร์ฟ้ื นฟู พยาบาล พยาบาลจะช่วยในเร่ืองการใหย้ า การพยาบาล และประสานงานในการส่งต่อผปู้ ่ วยท่ีตอ้ งรักษา ทางดา้ นอ่ืนๆต่อไป 4

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ นักกายภาพบาบัด จะช่วยในการฟ้ื นฟูการเคลื่อนไหว โดยจดั โปรแกรมการฝึกการทางานของกลา้ มเน้ือ การฝึกการทรงตวั และการประสานสัมพนั ธ์ของการทางานของร่างกาย ออกแบบการออกกาลงั กายเพอ่ื เพ่ิม ประสิทธิภาพในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น การเดินรวมถึงการใชอ้ ุปกรณ์เครื่องช่วยท่ีจาเป็น และเหมาะสม เป็นตน้ ช่างกายอุปกรณ์ จะช่วยในเรื่องการจดั หา จดั ทา ปรือปรับแต่งอุปกรณ์ที่จาเป็นสาหรับผปู้ ่ วยแต่ละ ราย นักกจิ กรรมบาบัด จะช่วยให้ผปู้ ่ วยเรียนรู้ถึงการประกอบกิจวตั รประจาวนั เช่น การอาบน้า แต่งตวั และ ป้องกนั ภาวะแทรกซอ้ นของการใชม้ ือ การปรับปรุงท่ีอยอู่ าศยั ใหเ้ หมาะกบั ผปู้ ่ วย เป็นตน้ นักอรรถบาบัดหรือนักฝึ กการพดู จะช่วยในกรณีท่ีผปู้ ่ วยมีปัญหาดา้ นการส่ือภาษา เช่น การพดู การอา่ น เป็ นตน้ นักจิตวทิ ยา จะช่วยในผปู้ ่ วยท่ีมีปัญหาดา้ นอารมณ์หรือผทู้ ี่มีอาการซึมเศร้า นักสังคมสงเคราะห์ จะช่วยผปู้ ่ วยและครอบครัวในการจดั หาความช่วยเหลือ หรือช่วยวางแผนใหผ้ ปู้ ่ วย ออกจากโรงพยาบาลในกรณีที่ญาติและผปู้ ่ วยวติ กกงั วลในการกลบั บา้ น • โรคอมั พฤกษ์ อมั พาตป้องกนั ได้อย่างไร ? การป้องกนั ไม่ให้สมองขาดเลือดอย่างเฉียบพลนั ซ้า ทาไดโ้ ดยการเปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวติ และลดปัจจยั เสี่ยงที่ทาใหเ้ กิดความผดิ ปกติของหลอดเลือด แดงในสมอง ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ีผปู้ ่ วยและญาติควรมีการควบคุมอนั จะทาให้โอกาสท่ีจะเป็นอมั พาตซ้าลดลง 1. รักษาระดบั ความดนั โลหิตใหป้ กติโดยการหมน่ั ตรวจวดั ความดนั โลหิตเป็ นประจาสม่าเสมอ โดยเฉพาะผทู้ ่ีความดนั โลหิต มากกวา่ 140/90 มม.ปรอท จดั วา่ มีความเสี่ยงตอ่ เส้นโลหิตแตก มาก 2. ไมส่ ูบบุหรี่และงดด่ืมแอลกอฮอล์ ซ่ึงท้งั 2 ประการน้ีมีส่วนทาใหเ้ ส้นเลือดมีการอุดตนั ไดง้ ่าย กวา่ คนที่ไมส่ ูบบุหรี่และด่ืมเหลา้ 3. ลดปัจจยั เสี่ยงของโรคหวั ใจ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ความเครียดและการบริโภคอาหารท่ีไม่ถูกตอ้ ง 4. รักษาระดบั น้าตาลในเลือดโดยการตรวจปัสสาวะและตรวจเลือดอยา่ งสม่าเสมอ 5. ออกกาลงั กายอยา่ งสม่าเสมอ เพอ่ื ป้องกนั ไม่ใหห้ ลอดเลือดและการทางานของหวั ใจเสื่อมเร็ว 6. ลดน้าหนกั หรือควบคุมไม่ให้น้าหนกั เกิน โดยการบริโภคอาหารใหถ้ ูกหลกั โภชนาการ เนน้ ผกั และผลไมส้ ดใหม้ ากๆ ลดการกินอาหารท่ีมีไขมนั สูง 7. ผอ่ นคลายความเครียดและพกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ 8. ผสู้ ูงอายคุ วรไดร้ ับการตรวจร่างกายประจาปี อยา่ งสม่าเสมอ 5

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 9. ผทู้ ี่เป็นอมั พาตอยแู่ ลว้ ตอ้ งปฏิบตั ิตามคาสง่ั ของแพทยอ์ ยา่ งเคร่งครัด ควรติดตามการรักษากบั แพทยอ์ ยา่ งตอ่ เนื่องเพอ่ื ป้องกนั โรคแทรกซอ้ น ผปู้ ่ วยที่เป็นอมั พาตจากสมองขาดเลือดอยา่ งเฉียบพลนั น้นั มีโอกาสเป็นซ้าได้ เพราะหลอดเลือดแดงใน สมองเส้นหน่ึงเส้นใดมีโอกาสที่จะตีบ ตนั หรือแตกได้ บางคนเป็นซ้าแลว้ ซ้าอีก และทุกคร้ังอาการจะเป็นมาก กวา่ เดิม การฟ้ื นตวั จะทาไดย้ ากและชา้ ดงั น้นั ญาติและผปู้ ่ วยตอ้ งใหค้ วามสนใจในการป้องกนั น้ี 1. การเคลอื่ นไหวข้อ ประโยชน์ของการช่วยการเคล่ือนไหว 1. ช่วยป้องกนั ขอ้ ติด ทาใหก้ ลา้ มเน้ือและเอน็ คงความยดื หยุน่ ไมห่ ดส้ัน ทาใหแ้ ขนและขาไมผ่ ดิ รูป 2. เพิ่มการไหลเวยี นเลือดของแขนขาขา้ งท่ีอ่อนแรง 3. เพมิ่ การส่งขอ้ มูลไปยงั สมอง ทาใหส้ มองรับรู้ “รูปแบบของการเคล่ือนไหว” ซ่ึงเป็นการกระตุน้ การ ทางานของสมอง หลกั การช่วยการเคลื่อนไหวให้ผู้ป่ วยอมั พาตคร่ึงซีก 1. ตอ้ งช่วยเคลื่อนไหวขอ้ ทุกขอ้ ท่ีเคล่ือนไหวไมไ่ ด้ หรือเคลื่อนไหวไดไ้ มเ่ ตม็ ท่ี 2. การช่วยการเคล่ือนไหวใหท้ าชา้ ๆและนุ่มนวล เพือ่ หลีกเล่ียงอาการเกร็ง 3. ใหช้ ่วยเคลื่อนไหวขอ้ ในทุกทิศทางและเตม็ ช่วงการเคล่ือนไหวในกรณีที่ผปู้ ่ วยไม่สามารถเคลื่อนไหว ขอ้ ดว้ ยตนเองไดห้ รือเคล่ือนไหวไดไ้ ม่เตม็ ช่วง การฝึ กเคลื่อนไหวข้อ : ประกอบดว้ ย 1. การเคล่ือนไหวขอ้ ไหล่ แขน และมือ 2. การเคล่ือนไหวขา 6

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การเคลื่อนไหวข้อไหล่ แขน และมือ ทา่ เริ่มตน้ จดั ทา่ ทางใหผ้ อู้ ยใู่ นท่าท่ีผอ่ นคลาย นอนหงาย เข่าขา้ งท่ีอ่อนแรงงอเล็กนอ้ ยหรือใชห้ มอนรอง ใตเ้ ขา่ 1. ยกแขนข้ึน-ลง วธิ ีการ ยกแขนข้ึนเหนือศีรษะพร้อมกบั หมุนแขนออก ยกแขนไปใหไ้ กลท่ีสุดเท่าที่ผปู้ ่ วยไม่มี อาการเจบ็ ทา 6-10 คร้ัง 2. หุบ-กางแขน วธิ ีการ กางแขนออกไปจากดา้ นขา้ งลาตวั ไปจนชิดใบหู หรือเท่าที่ผปู้ ่ วยไม่มีอาการเจบ็ ทา 6-10 คร้ัง 7

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 3. หมุนขอ้ ไหล่ข้ึน-ลง วธิ ีการ กางแขนออก 90 องศา งอศอก 90 องศา หมุนแขนข้ึน-ลง ทา 6-10 คร้ัง 4. เหยยี ด-งอขอ้ ศอก วธิ ีการ งอและเหยยี ดขอ้ ศอก ทา 6-10 คร้ัง 5. คว่า-หงายขอ้ มือ วธิ ีการ คว่าและหงายมือ ทา 6-10 คร้ัง 8

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 6. กระดกขอ้ มือข้ึน-ลง วธิ ีการ จบั บริเวณฝ่ ามือและขอ้ มือของผปู้ ่ วย กระดกขอ้ มือข้ึน-ลง ทา 6-10 คร้ัง 7. งอ-เหยยี ด นิ้วมือ วธิ ีการ จบั นิ้วมือและฝ่ ามือของผปู้ ่ วย งอและเหยยี ดนิ้วมือท้งั 4 ข้ึน-ลง ทา 6-10 คร้ัง 8. งอ-เหยยี ด นิ้วโป้ง วธิ ีการ จบั นิ้วหวั แม่มือของผปู้ ่ วยออก หมุนนิ้วหวั แมม่ ือของผปู้ ่ วยใหอ้ ยตู่ รงขา้ มกบั นิ้วอ่ืนๆ ทา 10 คร้ัง 9

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 9. ยดื แขน-ขอ้ มือ วธิ ีการ จบั ท่ีนิ้วมือ ช่วยเหยยี ดขอ้ ศอก ขอ้ มือ และนิ้วมือ ยดื คา้ งไว้ 30-45 วนิ าที ทา 3-5 คร้ัง ถา้ เจบ็ ใหล้ ดมุมของขอ้ ไหล่และลาตวั ใหน้ อ้ ยวา่ 90 องศา หากยงั มีอาการเจบ็ ใหป้ รึกษานกั กายภาพบาบดั 10. การช่วยเคล่ือนไหวขอ้ ไหล่ดว้ ยตนเอง วธิ ีการ ประสานมือกนั ยดื แขนตรง ใหข้ อ้ ศอกเหยยี ดตรงตลอดเวลาที่เคลื่อนไหว พยายามยกแขนข้ึน ไปจนสุด (ตน้ แขนวางบนหมอน) ขอ้ ควรระวงั ขอ้ ศอกตอ้ งไมง่ อ ไหล่จะยกข้ึนจากพ้นื ตลอดช่วยการเคล่ือนไหว 11. เคลื่อนไหวขอ้ ไหล่ในท่านง่ั วธิ ีการ การเคลื่อนไหวขอ้ ไหล่ในท่านง่ั กใ็ ชห้ ลกั การเดียวกนั หรือประสาน มือแลว้ เหยยี ดขอ้ ศอกตรง ดึงไหล่มาขา้ งหนา้ แลว้ ยกแขนข้ึน การออกกาลงั ในท่าน้ีผปู้ ่ วยควรทาวนั ละหลายๆคร้ัง ในทา่ นอนหรือท่านงั่ สอนใหผ้ ปู้ ่ วยเอามือประสานกนั นิ้วหวั แมม่ ือขา้ งปกติจะอยใู่ ตน้ ิ้วหวั แมม่ ือขา้ งท่ีอ่อน แรง ฝ่ ามือแนบกนั ไว้ 10

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การเคล่ือนไหวขา ท่าเร่ิมตน้ จดั ท่าทางใหผ้ อู้ ยใู่ นท่าที่ผอ่ นคลาย นอนหงาย เข่าขา้ งท่ีอ่อนแรงงอเลก็ นอ้ ยหรือใชห้ มอนรอง ใตเ้ ข่า 1. งอ-เหยยี ด ขอ้ สะโพกและขอ้ เขา่ วธิ ีการ จบั ท่ีส้นเทา้ และหวั เข่าหรือใตข้ าพบั งอ-เหยยี ดเข่าและสะโพก ทา 6-10 คร้ัง 2. หุบ-กาง ขอ้ สะโพก วธิ ีการ จบั ที่ส้นเทา้ และหวั เข่าหรือใตข้ าพบั หุบ-กางขอ้ สะโพกเขา้ -ออก ทา 6-10 คร้ัง 3. หมุนขอ้ สะโพก เขา้ -ออก วธิ ีการ งอเขา่ และสะโพก 90 องศา จบั บริเวณส้นเทา้ และหวั เข่าหรือใตข้ าพบั หมุนเทา้ เขา้ -ออก ทา 6-10 คร้ัง 11

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 4. กระดกขอ้ เทา้ ข้ึน-ลง วธิ ีการ จบั บริเวณส้นเทา้ กระดกขอ้ เทา้ ข้ึน-ลง ทา 6-10 คร้ัง 5. หมุนขอ้ เทา้ เขา้ -ออก วธิ ีการ จบั บริเวณฝ่ าเทา้ บิดขอ้ เทา้ เขา้ -ออก ทา 6-10 คร้ัง 6. ยดื เอน็ ขอ้ เทา้ วธิ ีการ ใชฝ้ ่ ามือจบั ส้นเทา้ แขนท่อนล่างแนบกบั ฝ่ าเทา้ ของผปู้ ่ วย ออกแรงยดื โดยการโนม้ ตวั ไป ขา้ งหนา้ คา้ งไวป้ ระมาณ 1 นาที โดยท่ีไมค่ วรมีอาการเจบ็ ทาซ้าจนรู้สึกวา่ ความตึงลดลง ดงั รูป 12

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 3. การจดั ท่าทาง วตั ถุประสงค์ของการจัดท่าทาง การจดั ท่านอน ท่านงั่ ใหถ้ ูกตอ้ งเป็นส่ิงสาคญั มาก โดยเฉพาะในผปู้ ่ วยที่เป็นอมั พาตระยะแรก เพราะจะ ช่วยทาให้ 1. ป้องกนั ความผดิ ปกติของกลา้ มเน้ือ เช่น การหดส้ันของกลา้ มเน้ือ ขอ้ ติด อาการเกร็งของกลา้ มเน้ือ 2. ป้องกนั แผลกดทบั 3. ป้องกนั ปัญหาเก่ียวกบั การไหลเวยี นของเลือด และระบบน้าเหลือง เช่น อาการบวมของแขนขาขา้ ง ที่เป็นอมั พาต 4. ช่วยส่งตวั กระตุน้ ท่ีถูกตอ้ งไปยงั สมอง 5. ช่วยส่งเสริมใหผ้ ปู้ ่ วยเรียนรู้ที่จะดูแลร่างกายส่วนท่ีเป็นอมั พาต การนอนอยใู่ นท่าเดิมเป็นเวลาหลายชวั่ โมงไม่เป็นผลดีกบั ผปู้ ่ วยอมั พาต ควรเปล่ียนท่าทุก2-3 ชวั่ โมง จากนอนหงายเป็นนอนตะแคง และควรนอนตะแคงสลบั กนั ท้งั 2 ขา้ ง การจัดท่า : ประกอบดว้ ย 1. การจดั ทา่ นอนหงาย 2. การจดั ท่านอนตะแคง 3. การจดั ทา่ นงั่ บนเตียง 4. การจดั ทา่ นงั่ หอ้ ยขาขา้ งเตียง 5. การจดั ทา่ นง่ั เกา้ อ้ี 6. การจดั ทา่ นงั่ ในรถเข็น 13

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การจดั ท่านอนหงาย 1. หนา้ และศีรษะอยใู่ นทา่ ตรง ระวงั อยา่ ใหห้ มอนสูงเกินไป 2. จบั ที่ขอบสะบกั ของแขนขา้ งที่เป็นอมั พาต และดึงขอบสะบกั ออกมาเพื่อใหผ้ ปู้ ่ วยนอนทบั สะบกั ตาแหน่งสะโพกและไหล่มีความสาคญั มาก ขาจะหมุนเขา้ ดา้ นในเลก็ นอ้ ย แขนหมุนออกดา้ นนอก ฝ่ า มือหงายข้ึน ขอ้ ศอกเหยยี ดตรง 3. สอดหมอนไวใ้ ตห้ วั ไหล่เพอ่ื ใหไ้ หล่ยกมาขา้ งหนา้ เลก็ นอ้ ย 4. แขนวางบนหมอน หงายฝ่ ามือข้ึน ขอ้ ศอกเหยยี ดตรง หากไมส่ ามารถหงายฝ่ ามือได้ ใหต้ ้งั หวั แมม่ ือข้ึน อาจใชถ้ ุงน้าหนกั เบาๆ ทบั ไวถ้ า้ แขนมีอาการเกร็งและไมส่ ามารถจดั ให้อยใู่ นทา่ ตรงได้ 5. ใส่หมอนเล็กๆไวใ้ ตส้ ะโพกและใตเ้ ขา่ เพื่อบงั คบั ใหข้ าอยใู่ นทา่ ตรง 6. หา้ มใชห้ มอนแขง็ หรือใชท้ ี่ดนั ปลายเทา้ เพราะจะกระตุน้ ใหเ้ กิดอาการเกร็งเพมิ่ ข้ึน ในผปู้ ่ วยที่ไม่มีขอ้ ไหล่ติดหรือเจบ็ ให้จดั แขนในท่าหมุนแขนออก สลบั กบั ท่าแขนวางขา้ งตวั ท่าทางที่เหมาะสม ทา่ ทางที่ควรหลีกเลี่ยง ในระยะแรกจะตอ้ งมีคนช่วยจดั ท่านอนใหผ้ ปู้ ่ วย เมื่อผปู้ ่ วยอาการดีข้ึน ตอ้ งสอนใหผ้ ปู้ ่ วยจดั ทา่ ทางตวั เอง ไดโ้ ดยไม่มีคนช่วย พยายามอยา่ ดึงแขนขา้ งที่เป็นอมั พาต เนื่องจากมีการอ่อนแรงของกลา้ มเน้ือทาใหข้ อ้ ต่อ หลวม ไม่มีความมนั่ คง อาจทาใหผ้ ปู้ ่ วยเกิดภาวะขอ้ ไหล่เคลื่อนหรือหลุดได้ 14

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การจัดท่านอนตะแคง ➢ ท่านอนตะแคงทบั ข้างอ่อนแรง 1. ผดู้ ูแลจบั ท่ีขอบสะบกั ของแขนขา้ งท่ีเป็นอมั พาต และดึงขอบสะบกั ออกมาเพอื่ ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนทบั สะบกั 2. ขยบั ใหห้ วั ไหล่ยนื่ ไปขา้ งหนา้ ใหม้ ากท่ีสุด โดยการดึงเบาๆที่ตน้ แขน หา้ มดึงท่ีขอ้ มือ 3. สอดหมอนไวท้ ่ีหลงั ผปู้ ่ วยและใส่หมอนรองรับขาผปู้ ่ วย ➢ ท่านอนตะแคงทบั ข้างปกติ 1. ขยบั ใหห้ วั ไหล่ขา้ งที่อ่อนแรงยน่ื ไปขา้ งหนา้ ใหม้ ากท่ีสุด โดยการดึงเบาๆที่กระดูกสะบกั หา้ มดึงที่ขอ้ มือ 2. สอดหมอนไวท้ ่ีหลงั ผปู้ ่ วย และใส่หมอนรองรับขาและแขนผปู้ ่ วย ดงั รูป 15

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ ท่านั่งบนเตยี ง ในผปู้ ่ วยท่ียงั ไมส่ ามารถนง่ั ตวั ตรงโดยไมม่ ีผชู้ ่วยพยงุ ได้ ควรจดั ใหผ้ ปู้ ่ วยนงั่ บนเตียงเพ่อื ฝึกใหก้ ลา้ มเน้ือ ลาตวั และคอมีความแขง็ แรงมากข้ึน และเพ่อื เป็นการเตรียมความพร้อมในการฝึกนงั่ ห้อยขาขา้ งเตียง 1. จดั ใหผ้ ปู้ ่ วยนง่ั ตวั ตรงโดยใชห้ มอนรองต้งั แต่บริเวณเอวจนถึงไหล่ 2. แขนวางบนโตะ๊ หรือหมอนรองแขน ลงน้าหนกั ใหเ้ ทา่ กนั ท้งั สองขา้ ง ทา่ ทางที่เหมาะสม ท่าทางท่ีควรหลีกเลี่ยง ท่าน่ังห้อยขาข้างเตยี ง 1. ศีรษะต้งั ตรง และลาตวั ต้งั ตรง 2. บา่ ท้งั สองขา้ งอยใู่ นระดบั เดียวกนั 3. มือวางบนโตะ๊ หรือที่รองแขน ลงน้าหนกั ใหเ้ ท่ากนั ท้งั สองขา้ ง 4. เทา้ วางบนพ้นื (มา้ รอง) ทิง้ น้าหนกั เท่ากนั ท้งั สองขา้ ง 16

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ ท่าน่ังเก้าอี้ • จดั ลกั ษณะเดียวกบั ท่านงั่ หอ้ ยขาขา้ งเตียง ท่าน่ังในรถเขน็ 1. ผปู้ ่ วยควรนงั่ ใหส้ ะโพกเขา้ ไปชิดพนกั หลงั มากท่ีสุด และควรพิงพนกั ใหห้ ลงั ตรง 2. ถา้ ตวั เอียงไปดา้ นท่ีอ่อนแรงตอ้ งใชห้ มอนช่วยดนั ใหต้ วั ตรง 3. วางมือขา้ งที่อ่อนแรงไวบ้ นโตะ๊ หรือบนหมอนท่ีวางบนตกั อยา่ ปล่อยใหแ้ ขนขา้ งที่อ่อนแรกตกไปดา้ นขา้ ง ท่าทางท่ีเหมาะสม ทา่ ทางที่ควรหลีกเลี่ยง การจบั ท่ีควรหลีกเลี่ยง 17

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 4. การฝึ กทากจิ กรรมในชีวติ ประจาวนั การฝึกกิจกรรมในชีวติ ประจาวนั : ประกอบดว้ ย 1. การพลิกตะแคงตวั 2. การลุกข้ึนนง่ั จากทา่ นอน 3. การกลบั ไปสู่ท่านอน 4. การลุกข้ึนยนื 5. การลงนง่ั 6. การยนื การพลกิ ตะแคงตัว การหมุนตวั และพลกิ ตะแคงตัว ประกอบดว้ ยการฝึกหมุนไหล่และลาตวั ทอ่ นบนไปสู่ทา่ ตะแคง เป็นส่ิงท่ี สาคญั เพราะทา่ นอนตะแคงจะช่วยลดอาการเกร็งของแขนและขา การฝึกใหท้ าดงั น้ี ในท่านอนหงาย 1. ใหผ้ ปู้ ่ วยประสานนิ้วเขา้ ดว้ ยกนั 2. ยกแขนข้ึนใหข้ อ้ ศอกท้งั สองขา้ งเหยยี ดตรง 3. งอเขา่ ขา้ งท่ีอ่อนแรงข้ึน (ผูด้ ูแลอาจตอ้ งช่วยงอเขา่ ให)้ 4. จากน้นั ใหฝ้ ึกหมุนไหล่และลาตวั ไปทางซา้ ยและขวา 18

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ ➢ การพลกิ ตะแคงตัวไปด้านทอี่ ่อนแรง ก่อนจะพลิกตะแคงตวั ใหผ้ ปู้ ่ วยขยบั ตวั เขา้ ไปดา้ นในเตียงเพอ่ื ใหเ้ หลือพ้นื ท่ีพอที่จะตะแคงตวั โดยไม่ ตอ้ งกลวั ตกเตียง 1. งอเข่าขา้ งท่ีปกติหรืองอท้งั สองขา้ ง (ผดู้ ูแลอาจตอ้ งช่วยงอเข่าขา้ งท่ีอ่อนแรง) 2. ผดู้ ูแลใชม้ ือจบั สะโพกท้งั สองขา้ งของผปู้ ่ วย ใหผ้ ปู้ ่ วยยกสะโพกข้ึนแลว้ ขยบั ตวั เขา้ ดา้ นใน ผดู้ ูแลอาจ ตอ้ งช่วยผปู้ ่ วยขยบั ลาตวั ท่อนบน 3. เม่ือไดพ้ ้นื ที่พอจะตะแคงแลว้ ใหผ้ ปู้ ่ วยหมุนตวั ไปดา้ นท่ีอ่อนแรง ถา้ ผปู้ ่ วยสามารถประสานมือและ เหยยี ดขอ้ ศอกใหต้ รงแลว้ พลิกตะแคง ใหต้ ะแคงมาดา้ นท่ีออ่ นแรง ในการพลิกไปดา้ นที่อ่อนแรงน้ี ผปู้ ่ วยจะตอ้ งไม่นอนทบั ไหล่ขา้ งท่ีอ่อนแรง แต่ตอ้ งนอนทบั สะบกั โดยผดู้ ูแลจะช่วยขยบั สะบกั ขา้ งท่ีออ่ นแรงใหม้ าดา้ นหนา้ ➢ พลกิ ตะแคงตวั ไปข้างปกติ ผทู้ ่ีเป็นอมั พาตคร่ึงซีกจะพบวา่ การพลิกตะแคงไปทางขา้ งปกติทาไดย้ ากกวา่ การพลิกตะแคงไปดา้ นท่ี ออ่ นแรง ผปู้ ่ วยอาจตอ้ งการความช่วยเหลือ 1. ในท่านอนหงายใหป้ ระสานนิ้วเขา้ ดว้ ยกนั 2. ผดู้ ูแลช่วยงอเขา่ ขา้ งท่ีอ่อนแรงข้ึน 3. หมุนไหล่และลาตวั ใหพ้ ลิกตะแคงไปขา้ งปกติ ผดู้ ูแลจบั ที่สะบกั และสะโพกของขา้ งที่ออ่ นแรง เพื่อ ช่วยใหพ้ ลิกตะแคง 4. ถา้ ผปู้ ่ วยหมุนตวั ไดด้ ี ผดู้ ูแลอาจช่วยจบั ที่สะโพกใหต้ ะแคง 19

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การลกุ ขนึ้ นั่งจากท่านอน ➢ การลุกขึน้ นั่งจากด้านทอ่ี ่อนแรง 1. หมุนตวั และพลิกตะแคงตวั ไปดา้ นที่อ่อนแรง 2. ขาท้งั สองขา้ งอยขู่ อบเตียง 3. ยนั ตวั ข้ึนและลงน้าหนกั ที่ขอ้ ศอก 4. ยดื ตวั ข้ึนนง่ั ตวั ตรง 20

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ ➢ลุกขนึ้ นั่งจากด้านทปี่ กติ ถา้ ผปู้ ่ วยยงั ไมส่ ามารถเคล่ือนยา้ ยขาขา้ งท่ีออ่ นแรงได้ ให้ใชเ้ ทา้ ขา้ งปกติสอดใตเ้ ทา้ ขา้ งท่ีออ่ นแรง 1. ใชม้ ือขา้ งปกติช่วยจบั มือขา้ งท่ีออ่ นแรง ใชข้ าขา้ งที่ปกติยกขาขา้ งท่ีอ่อนแรงออกมาใหพ้ น้ เตียง 2. ยกศีรษะและยา้ ยน้าหนกั มาไวท้ ่ีขอ้ ศอกขา้ งปกติ 3. ใชม้ ือและแขนขา้ งดียนั ตวั ข้ึนมานงั่ ดงั รูป การฝึกลงน้าหนกั บนขอ้ ศอกขา้ งที่อ่อนแรงเป็นการออกกาลงั ท่ีควรทาต้งั แต่ตน้ การหมุนตวั ใหย้ า้ ย น้าหนกั ลงบนขา้ งที่อ่อนแรงจะช่วยกระตุน้ ใหเ้ กิดการรับรู้ เช่น การจดั โตะ๊ ขา้ งเตียงไวด้ า้ นท่ีอ่อนแรง และให้ ผปู้ ่ วยใชม้ ือขา้ งปกติเอ้ือมมาจบั สิ่งของท่ีอยบู่ นโตะ๊ ขา้ งเตียงจะเป็นการช่วยกระตุน้ การลงน้าหนกั บนขา้ งท่ี ออ่ นแรง 21

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การกลบั ไปสู่ท่านอน ➢ ลงนอนจากข้างทอี่ ่อนแรง 1. เอียงตวั ลงขา้ งท่ีออ่ นแรงพร้อมกบั ลงน้าหนกั ท่ีขอ้ ศอก 2. ใชแ้ ขนขา้ งปกติช่วยยนั เตียงเพอ่ื รับน้าหนกั ตวั พร้อมกบั ใชข้ าขา้ งท่ีปกติสอดใตข้ าขา้ งที่อ่อนแรง ยกข้ึนมาบนขอบเตียง พร้อมกบั เอนตวั ลงนอนตะแคงแลว้ ค่อยกลบั ไปสู่ท่านอนหงาย ➢ ลงนอนจากข้างทปี่ กติ 1. เอียงตวั ลงขา้ งปกติ ใชม้ ือและแขนขา้ งดียนั รับน้าหนกั ตวั 2. เอนตวั ลงนอน พร้อมกบั ใชข้ าขา้ งที่ปกติสอดใตข้ าขา้ งที่อ่อนแรงยกข้ึนมาบนขอบเตียง 22

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การลกุ ขนึ้ ยืนจากท่านั่ง 1. เล่ือนตวั ไปขา้ งหนา้ ใหต้ น้ ขาอยเู่ ลยขอบเกา้ อ้ีอยา่ งนอ้ ยคร่ึงหน่ึง 2. เลื่อนเทา้ ไปขา้ งหลงั ใหห้ วั เข่าอยเู่ ลยปลายเทา้ 3. โนม้ ตวั ไปขา้ งหนา้ โดยใหห้ ลงั ตรง ยกสะโพกข้ึนจากเกา้ อ้ี ใหเ้ ทา้ ท้งั สองขา้ งรับน้าหนกั 4. เหยยี ดเขา่ ตรง(หา้ มแอ่นเขา่ ไปขา้ งหลงั ) ยดื ตวั ข้ึน การลงน่ังจากท่ายืน 1. โนม้ ตวั ไปขา้ งหนา้ โดยใหห้ ลงั ตรง 2. งอเขา่ และหยอ่ นสะโพกลงจนแตะเกา้ อ้ี ยดื ตวั ข้ึน 23

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การยืน 1. ยนื ตวั ตรง น้าหนกั ตกลงบนขาท้งั สองขา้ งเทา่ ๆกนั 2. แนวศีรษะตรงกบั ไหล่ (แนวของใบหู หวั ไหล่ ขอ้ สะโพก ขอ้ เข่า และขอ้ เทา้ อยใู่ นแนวเดียวกนั ) ตามองตรง 3. ลาตวั ยดื ตรง ระวงั อยา่ ใหต้ วั งอ 4. งอเขา่ เล็กนอ้ ย(หา้ มแอ่นเข่าไปขา้ งหลงั ) 5. ปลายเทา้ แยกออกดา้ นขา้ งเลก็ นอ้ ย 24

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 5. การเคลอื่ นย้าย การเดนิ การขน้ึ -ลงบันได การฝึ กการเคลื่อนย้าย : ประกอบดว้ ย 1. การเคลื่อนยา้ ยจากเตียงไปนง่ั เกา้ อ้ีหรือรถเขน็ 2. การเคลื่อนยา้ ยจากเกา้ อ้ีหรือรถเขน็ กลบั ไปเตียง 3. การเดิน 4. การข้ึน-ลงบนั ได การเคลื่อนย้ายจากเตียงไปน่ังเก้าอหี้ รือรถเขน็ ➢ การเคลื่อนย้ายโดยมีผู้ช่วย 1. ใหผ้ ปู้ ่ วยนงั่ ที่ขอบเตียง โดยใหค้ ร่ึงหน่ึงของตน้ ขาพน้ ขอบเตียง เลื่อนเทา้ ท้งั สองขา้ งเขา้ มาใหเ้ ข่าตรงกบั ปลายเทา้ 2. ใหผ้ ดู้ ูแลยนื ดา้ นหนา้ ผปู้ ่ วย มือท้งั สองจบั ที่สะบกั ของผปู้ ่ วยหรือจบั ท่ีเขม็ ขดั ผปู้ ่ วย มือท้งั สองขา้ งของผปู้ ่ วยอยทู่ ่ีไหล่ของผดู้ ูแล โดยผดู้ ูแลใชแ้ ขนตนเองประคองแขนขา้ งท่ีอ่อนแรงของ ผปู้ ่ วย 25

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ 3. เข่าท้งั สองขา้ งของผดู้ ูแลจะหนีบเข่าขา้ งท่ีอ่อนแรงของผปู้ ่ วยไว้ ผดู้ ูแลจะตอ้ งไม่ดนั เขา่ ของผปู้ ่ วย ทางดา้ นหนา้ เพราะจะทาใหผ้ ปู้ ่ วยยา้ ยน้าหนกั มาท่ีขาไดย้ าก 4. ผดู้ ูแลโนม้ ตวั ผปู้ ่ วยมาดา้ นหนา้ (เขา้ หาตวั ผดู้ ูแล) จนกระทงั่ สะโพกผปู้ ่ วยลอยพน้ เตียง ใหน้ ้าหนกั ตวั ผปู้ ่ วยตกลงบนขาท้งั สองขา้ ง ผดู้ ูแลจึงหมุนตวั ผปู้ ่ วยไปนง่ั เกา้ อ้ี ถา้ ระยะที่ผปู้ ่ วยนงั่ ห่างจากเกา้ อ้ี ใหย้ า้ ยตวั ผปู้ ่ วยมานง่ั ใกลๆ้ เกา้ อ้ีเสียก่อน แลว้ จึงยา้ ยอีกคร้ังหน่ึง จากเตียงมานง่ั เกา้ อ้ี 26

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ ➢ การเคลื่อนย้ายด้วยตวั เอง 1. จดั รถเข็นวางทแยงมุมกบั เตียง หนั หนา้ รถเขน็ เขา้ ชิดทางแขน-ขาขา้ งที่ดี ลอ็ ครถเขน็ ก่อนเคลื่อนยา้ ย 2. โนม้ ตวั มาขา้ งหนา้ ใชม้ ือขา้ งดียนั ขอบเตียง ดนั ตวั ใหล้ ุกข้ึนยนื โดยน้าหนกั ตวั อยบู่ นขาขา้ งที่ดี 3. เอ้ือมแขนขา้ งท่ีดีเอามือจบั พนกั เกา้ อ้ี หรือขอบรถเขน็ ดา้ นนอก 4. ค่อยๆหมุนตวั หนั ดา้ นหลงั ใหเ้ กา้ อ้ี แลว้ ค่อยหยอ่ นตวั ลงนงั่ ในเกา้ อ้ี 27

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การเคล่ือนย้ายจากเก้าอหี้ รือรถเขน็ กลบั ไปเตียง ➢ การเคลื่อนย้ายโดยมผี ้ชู ่วย มีลาดบั ข้นั ตอนเช่นเดียวกบั การเคล่ือนยา้ ยจากเตียงไปเกา้ อ้ีหรือรถเขน็ ➢ การเคล่ือนย้ายด้วยตัวเอง มีลาดบั ข้นั ตอนเช่นเดียวกบั การเคลื่อนยา้ ยจากเตียงไปเกา้ อ้ีหรือรถเขน็ การเดนิ มีลาดบั ดงั น้ี 1. ยนื ตรงน้าหนกั ลงขาท้งั สองขา้ งเท่าๆกนั 2. นาไมเ้ ทา้ วางเฉียงดา้ นหนา้ ขาดีเล็กนอ้ ย 3. กา้ วขาขา้ งที่อ่อนแรงตามมาดา้ นหนา้ 4. กา้ วขาขา้ งที่ดีตามมาล้าหนา้ ขา้ งออ่ นแรงเลก็ นอ้ ย 28

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ การขนึ้ -ลง บนั ได ทา่ เตรียมพร้อม ขา้ งปกติยนื ชิดราวบนั ได หากมีไมเ้ ทา้ ใหค้ ลอ้ งแขนหรือใชม้ ือขา้ งที่มีแรงถือไว้ การข้ึน –กา้ วขาดีข้ึนบนก่อน ตามดว้ ยขาขา้ งที่อ่อนแรงข้ึนมายนื บนข้นั เดียวกนั การลง – กา้ วขา้ งอ่อนแรงลงก่อน ตามดว้ ยขาขา้ งดีลงมายนื บนข้นั เดียวกนั 29

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ ปัญหาอื่นๆในผู้ป่ วยอมั พาตครึ่งซีก ➢ อปุ กรณ์เคร่ืองใช้และการเปล่ียนแปลงบ้านสาหรับผ้ปู ่ วยอัมพาต หลงั การเป็นอมั พาต บางคร้ังการเปล่ียนแปลงบา้ นอาจจาเป็น เพราะทาใหผ้ ปู้ ่ วยทากิจกรรมต่างๆ ดว้ ย ตนเองง่ายข้ึนและปลอดภยั บางคร้ังการเปล่ียนแปลงแคย่ า้ ยเฟอร์นิเจอร์ออกไป หรือปรับปรุงเพียงบางหอ้ งก็ เพียงพอ แตใ่ นบางรายอาจจาเป็นตอ้ งปรับปรุงหลายหอ้ ง ตอ้ งซ้ือของใชบ้ างอยา่ งเพิ่ม นกั กิจกรรมบาบดั และนกั กายภาพบาบดั สามารถใชค้ วามเห็นและขอ้ แนะนาในการตดั สินใจปรับปรุง บา้ น และอาจไมต่ อ้ งใชเ้ งินมาก ข้ึนอยกู่ บั ความตอ้ งการของผปู้ ่ วยและญาติ ข้อแนะนา - การยา้ ยสวติ ซ์หรือปลก๊ั ไฟเพ่ือใหง้ ่ายต่อการใช้ - ยา้ ยเฟอร์นิเจอร์บางตวั ท่ีขวางทางเดิน - ทาใหเ้ บาะที่นง่ั ของเกา้ อ้ีสูงข้ึน เช่น ใชไ้ มก้ ระดาษสอดใตเ้ บาะ หรือใชเ้ บาะ 2 ช้นั เพราะจะทาใหล้ ุกยนื ไดง้ ่าย - ยา้ ยพรมเช็ดเทา้ หรือพรมปูพ้ืนออกเพราะอาจทาใหส้ ะดุดได้ ประตู - ในกรณีที่ตรงประตูเป็นพ้ืนต่างระดบั อาจติดมือจบั ไวท้ ่ีขอบประตูเพือ่ ใหก้ า้ วข้ึน-ลงไดง้ ่าย บางรายอาจ ตอ้ งการทางลาดข้ึน-ลง - บางคร้ังอาจตอ้ งเอาธรณีประตูออกเพ่ือใหก้ า้ วเขา้ -ออกไดง้ ่ายข้ึน บันได - ถา้ ตอ้ งข้ึน-ลงบนั ไดบ่อยๆ อาจตอ้ งมีราวบนั ไดท้งั สองขา้ ง ถา้ บนั ไดกวา้ งพอ และตอ้ งการเกา้ อ้ีเลื่อน ข้ึน-ลงก็สามารถทาได้ - ถา้ มีบนั ไดเขา้ -ออกบา้ นอาจทาทางลาดข้ึน-ลง ห้องนา้ - ติดราวจบั ไวใ้ กลโ้ ถส้วม ถา้ หาราวจบั ไม่ไดห้ รือราคาสูงเกินไป ใหด้ ดั แปลงใชม้ ือจบั ท่ีใชก้ บั ลิ้นชกั หรือ ประตูบา้ นมาดดั แปลงติดกบั ผนงั - ติดเทปกนั ลื่นในหอ้ งน้า 30

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ - ถ้าใช้เกา้ อ้ีนงั่ อาบน้า ให้แน่ใจว่าเกา้ อ้ีน้นั แข็งแรงพอท่ีจะรับน้าหนักผูป้ ่ วยได้ และไม่เลื่อนไปมาใน ขณะที่จะนงั่ หรือยนื - อาจตอ้ งยกโถส้วมใหส้ ูงข้ึน โดยใชเ้ กา้ อ้ีคร่อมโถส้วม ดงั รูป - ใชถ้ ุงมือถูตวั หรือใชไ้ มถ้ ูตวั ท่ีมีดา้ มจบั ห้องนอน - เตียงตอ้ งไม่สูงเกินไป ความสูง(รวมท่ีนอน) ประมาณ 45-50 เซนติเมตร ถา้ เตียงสูงเกินไปจะทาให้ข้ึน เตียงลาบาก แต่ถา้ ต่าเกินไปจะทาให้ลุกข้ึนยืนไดย้ าก ผูป้ ่ วยอมั พาตไม่ควรนอนบนพ้ืนเพราะจะทาให้ ผปู้ ่ วยช่วยตนเองไดย้ าก และผดู้ ูแลจะช่วยเหลือผปู้ ่ วยไดย้ าก ถา้ กลวั วา่ ผปู้ ่ วยจะตกเตียง ควรใชท้ ่ีกนั ตก 31

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ - ถา้ ผปู้ ่ วยยงั เดินไดไ้ มด่ ี ควรใชเ้ กา้ อ้ีนง่ั ถ่าย (Commode) เตรียมไวใ้ หใ้ กลเ้ ตียงนอน - เปิ ดไฟทิ้งไว้ เพ่ือใหม้ ีแสงสวา่ ง ➢ ปัญหาของปากและใบหน้า ผปู้ ่ วยอมั พาตคร่ึงซีกบางคนมีปัญหาการเคล่ือนไหวและการรับความรู้สึกในบริเวณปากและใบหนา้ ไม่ วา่ จะเป็ นมากหรือนอ้ ยมกั ทาให้ผูป้ ่ วยกงั วลและรู้สึกเสียบุคลิกภาพ ใบหนา้ ของคนเราสามารถแสดงความรู้สึก และอารมณ์ไดม้ ากมายหลายอยา่ ง รวมไปถึงการเคล่ือนไหวของศีรษะ การแสดงความรู้สึกผา่ นใบหนา้ คือการ สื่อสารที่คนเราใช้มากที่สุด ผูป้ ่ วยท่ีมีความผิดปกติในการแสดงสีหน้า การพูด น้าเสียงท่ีใช้พูดหรือการ รับประทานอาหาร มกั สังเกตเห็นไดช้ ดั เจน ทาให้ผปู้ ่ วยรู้สึกเสียบุคลิกภาพและเป็ นกงั วล ทาให้มีปัญหาในการ ส่ือสารเม่ือตอ้ งติดต่อสื่อสารกบั คนอื่น ถา้ ปัญหาของใบหน้าและการรับประทานอาหารไม่ไดร้ ับการแกไ้ ข จะมีผลต่อคุณภาพชีวิตของผปู้ ่ วย ทาใหผ้ ปู้ ่ วยเขา้ สังคมไดย้ าก แยกตวั ออกไปจากสังคม ผปู้ ่ วยอาจรู้สึกไม่อยากรับประทานอาหารหรือด่ืมน้า ความผิดปกติของใบหน้าและปากมีระดับที่แตกต่างกนั ออกไป ผูป้ ่ วยบางคนอาจไม่มีความรู้สึกที่ ใบหนา้ บางคนหนา้ เบ้ียวจากการอ่อนแรงของกลา้ มเน้ือที่ใบหนา้ ผปู้ ่ วยท่ีมีปัญหาในการรับประทานอาหาร การ ด่ืมน้า การกลืนอาหาร ใหป้ รึกษานกั อรรถบาบดั การแก้ไขปัญหาของใบหน้า - ออกกาลงั กล้ามเน้ือท่ีอ่อนแรงเพ่ือทาให้การเคล่ือนไหวของคิ้ว ตา จมูก ปาก ลิ้น ริมฝี ปาก และคาง แข็งแรงข้ึน เพื่อช่วยการรับประทานอาหารและดื่มน้า และให้ผปู้ ่ วยสามารถแสดงสีหนา้ ไดต้ ามอารมณ์ และความรู้สึก - ใหผ้ ูด้ ูแลใชน้ ิ้วมือช่วยขยบั ส่วนต่างๆ ของใบหนา้ ผูป้ ่ วย ช่วยกระตุน้ ให้มีการเคล่ือนไหว เพื่อให้ผปู้ ่ วย รู้สึกถึงการเคล่ือนไหว - การฝึกการเคล่ือนไหวของใบหนา้ ควรฝึกต้งั แต่ระยะแรกของการเป็นอมั พาต 32

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ ➢ ปัญหาการพดู (Aphasia) ผูป้ ่ วยท่ีมีความผิดปกติของหลอดเลือดแดงในสมองซีกซา้ ย ทาให้เกิดอมั พาตซีกขวา อาจมีปัญหาการ ส่ือภาษา ซ่ึงแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ 1. ผปู้ ่ วยรู้วา่ ตอ้ งการจะพูดอะไรและผปู้ ่ วยเขา้ ใจส่ิงที่คนอ่ืนพูดออกมา แตไ่ มส่ ามารถพดู ออกมาไดอ้ ยา่ งท่ี ต้งั ใจ 2. ผปู้ ่ วยไมเ่ ขา้ ใจในสิ่งท่ีคนอ่ืนพูด และพูดออกมาไม่เป็นภาษา ผปู้ ่ วยบางรายอาจมีปัญหาอื่นรวมดว้ ย เช่น การอา่ น การเขียน การคานวณ ความผดิ ปกติในการส่ือภาษาทาให้ท้งั ผปู้ ่ วย ญาติ และผูด้ ูแล หงุดหงิดเพราะไม่สามารถเขา้ ใจถึงความ ตอ้ งการของผปู้ ่ วย ปัญหาอื่นที่เกี่ยวขอ้ งกบั การสื่อสารคือ ปัญหาของการควบคุมกลา้ มเน้ือที่ใชใ้ นการพูด ทาให้ พดู ไมช่ ดั เขา้ ใจยาก ซ่ึงอาจทาใหเ้ กิดปัญหาดา้ นจิตใจและอารมณ์ตามมา นอกจากน้ีแลว้ ในบางรายอาจมีปัญหาในการทางานของกลา้ มเน้ือท่ีใช้พูดและออกเสียง ถา้ กลา้ มเน้ือ เหล่าน้ีไม่ทางาน หรือทางานอยา่ งไม่ถูกข้นั ตอน ผูป้ ่ วยอาจไม่มีเสียง หรือเสียงที่ออกมาไม่เป็ นภาษา ในการ ช่วยเหลือผปู้ ่ วยท่ีมีปัญหาดา้ นการสื่อภาษา ควรปรึกษานกั อรรถบาบดั ซ่ึงอาจตอ้ งมีเครื่องมือช่วย เช่น ใชม้ ือใบ้ คา ใชร้ ูปภาพใหผ้ ปู้ ่ วยช้ี ใชก้ ระดานสะกดคา ฯลฯ การท่ีจะส่ือความหมายกบั ผูป้ ่ วยท่ีมีปัญหาด้านการส่ือภาษาน้นั ญาติและผูด้ ูแลควรมีความเขา้ ใจถึง ปัญหาของผปู้ ่ วยและพยายามช่วยกระตุน้ เช่น - อย่าทิ้งให้ผูป้ ่ วยอยู่นอกวงสนทนา เพราะการทิ้งผูป้ ่ วยไวต้ ามลาพงั หรืออยู่นอกวงสนทนา จะทาให้ ผปู้ ่ วยรู้สึกโดดเดี่ยว และในท่ีสุดผปู้ ่ วยจะแยกตวั ออกไป - การต้งั คาถาม ควรเป็ นคาถามท่ีผปู้ ่ วยจะตอบวา่ “ใช่” หรือ “ไม่” “เอา” “ไม่เอา” เป็ นตน้ หรือผปู้ ่ วยอาจ ใชก้ ารพยกั หนา้ หรือส่ายหนา้ อาจใชก้ ระดาษเขียนคาวา่ “ใช่” “ไมใ่ ช่” ใหผ้ ปู้ ่ วยเลือกตอบ - ระดบั เสียงที่ใชก้ บั ผูป้ ่ วยควรใช้เสียงปกติ อย่าตะโกนหรือพูดเร็วเกินไป ควรมีการหยุดพูดเป็ นระยะ เพ่ือใหผ้ ปู้ ่ วยมีเวลาทาความเขา้ ใจกบั ส่ิงที่เราพูด - ใหใ้ ชค้ าส้นั ๆเขา้ ใจง่าย - อยา่ เร่งใหผ้ ปู้ ่ วยตอบ ผปู้ ่ วยตอ้ งมีเวลาในการหาคาพดู ท่ีถูกตอ้ ง สิ่งท่ีสาคญั ญาติและผดู้ ูแลควรเขา้ ใจวา่ ผปู้ ่ วยที่มีปัญหาการส่ือภาษา ไมไ่ ดห้ มายความวา่ ผปู้ ่ วยโง่ หรือไม่เขา้ ใจอะไร เพราะฉะน้นั อยา่ ปฏิบตั ิต่อผปู้ ่ วยโดยคิดวา่ ผปู้ ่ วยไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะจะทาให้เกิดปัญหา ดา้ นจิตใจและอารมณ์ตามมาภายหลงั 33

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ ➢ ปัญหาการขับถ่าย ผปู้ ่ วยอมั พาตอาจมีปัญหาการกล้นั ปัสสาวะ ซ่ึงเป็ นเพียงชวั่ คราวหลงั จากน้นั ผูป้ ่ วยจะสามารถควบคุม การขบั ถ่ายได้ แพทยแ์ ละพยาบาลจะช่วยอธิบายให้เขา้ ใจถึงสาเหตุของปัญหาการกล้นั ปัสสาวะและช่วยผูป้ ่ วยให้ สามารถควบคุมการขบั ถ่ายได้ การปรับปรุงหอ้ งน้าหรือใชอ้ ุปกรณ์ช่วยผปู้ ่ วย ไดแ้ ก่ - ราวจบั ขา้ งโถส้วม - ยกโถส้วมใหส้ ูงข้ึน - ใชส้ ้วมนง่ั ขา้ งเตียง - ใชก้ ระบอกปัสสาวะ ➢ ความเจ็บปวดกบั การเคล่ือนไหว ผปู้ ่ วยอมั พาตท่ีขยบั แขนขาไมไ่ ด้ ทาใหก้ ลา้ มเน้ือและเน้ือเยอ่ื หดส้ัน มีอาการตึงและบางคร้ังทาให้ขอ้ ติด กล้ามเน้ือสูญเสียความยืดหยุ่น และทาให้มีอาการปวด อาการเกร็ง หรือมีอาการเจ็บปวดเมื่อถูกขยบั ซ่ึงเป็ น อุปสรรคต่อการฝึ กฝนทกั ษะการเคล่ือนไหว และทากิจวตั รประจาวนั ไดล้ าบาก (ดูเรื่องการป้องกนั ไหล่เจ็บ) ให้ ปรึกษาแพทยแ์ ละนกั กายภาพบาบดั ควรมีที่รองรับแขนขาท่ีอ่อนแรงในขณะนง่ั (ดูเร่ืองการจดั ทา่ ทาง) และควรไดร้ ับการช่วยการเคลื่อนไหว (ดูเร่ืองการช่วยการเคลื่อนไหว) ในบางรายอาการเจบ็ อาจเกิดจากการมีความผดิ ปกติของสมองเอง ซ่ึงจะทาใหแ้ กไ้ ขไดย้ าก ขอ้ แนะนาเมื่ออาการเจบ็ ปวด - ช่วยผปู้ ่ วยเคลื่อนไหวขอ้ ท่ีผปู้ ่ วยทาเองไม่ได้ และจดั ทา่ ทางผปู้ ่ วยใหถ้ ูกตอ้ ง - ขอ้ ที่ผปู้ ่ วยขยบั ไดใ้ หก้ ระตุน้ ใหม้ ีการเคล่ือนไหว โดยการออกกาลงั ตามที่นกั กายภาพแนะนา - ช่วยยดื กลา้ มเน้ือ (ดูเรื่องการยดื กลา้ มเน้ือ) ถา้ มีอาการเจบ็ ปวดมากข้ึน ใหป้ รึกษานกั กายภาพบาบดั ท่ีมีความชานาญเรื่องผปู้ ่ วยอมั พาตคร่ึงซีก ➢ การดูแลมือเท้าและผวิ หนัง การดูแลมือ ผปู้ ่ วยอมั พาตอาจมีปัญหาเรื่องการรับรู้ หรือการเคล่ือนไหวของมือ เมื่อมือใชก้ ารไมไ่ ดอ้ าจมีอาการบวม กามือไมไ่ ด้ ถา้ ทิง้ ไวอ้ าจทาใหเ้ กิดอาการเจบ็ ปวดได้ และอาจมีปัญหาของผวิ หนงั ติดตามมา ขอ้ แนะนา 34

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ • ควรมีท่ีรองรับแขนและมือ ในขณะท่ีนง่ั อาจใชห้ มอนรองแขน หรือวางไวบ้ นโต๊ะ นิ้วมือควรกางออก ขอ้ มือกระดกข้ึน ไม่ควรวางมือบนตกั • ถา้ มีอาการบวม ใชห้ มอนรองหรือใชห้ มอนสามเหล่ียมรองรับในขณะนงั่ นอน • ใชม้ ือขา้ งปกติประสานมือขา้ งที่อ่อนแรงและช่วยกระดกขอ้ มือข้ึน-ลงเป็ นระยะๆ หรือใชม้ ือขา้ งปกติ ช่วยดดั นิ้วขา้ งที่อ่อนแรง แตไ่ ม่ควรดดั นิ้วมือเม่ือมือหงายวางบนตกั • ถา้ นิ้วมือเกร็งในทา่ กามือ อยา่ พยายามงา้ งออกทนั ที ควรใหผ้ ปู้ ่ วยนึกในใจวา่ คลายนิ้วออก และผดู้ ูแลลูบ เบาๆบนหลงั มือ แลว้ ค่อยๆช่วยจบั ใหน้ ิ้วเหยยี ดออก การงา้ งมือจะยง่ิ ทาใหน้ ิ้วมือเกร็งในทา่ งอมากข้ึน • อยา่ กาลูกบอล หรือเอาผา้ มว้ นใส่ในมือ เพราะจะทาใหม้ ีอาการเกร็งมากข้ึน การดูแลเท้า ขอ้ แนะนาดงั น้ี • ตรวจดูเทา้ ทุกวนั ว่ามีรอยแตก พอง หรือมีการเปลี่ยนแปลงท่ีฝ่ าเทา้ หรือไม่ โดยเฉพาะผูป้ ่ วยที่เป็ น โรคเบาหวาน ผปู้ ่ วยท่ีมีปัญหาการไหลเวียนเลือด หรือผูป้ ่ วยบางคนที่มีการสูญเสียการรับสัมผสั ถา้ นิ้ว ผปู้ ่ วยมีอาการบวม พอง หรือมีน้าเหลืองไหลออกมา ใหป้ รึกษาแพทย์ • ควรสวมรองเทา้ ท่ีพอดีเหมาะสมกบั เทา้ รองเทา้ ที่คบั เกินไปหรือหลวมเกินไป จะทาใหเ้ กิดปัญหาได้ ถา้ จะซ้ือรองเทา้ ใหซ้ ้ือในตอนบา่ ยหรือเยน็ เพราะเป็นช่วงที่เทา้ ของเรามีขนาดใหญส่ ุด • รองเทา้ ของผปู้ ่ วยที่เป็นอมั พาตควรเป็นส้นเต้ีย มีพ้ืนรองเทา้ ที่รองรับแรงกระแทกไดด้ ี • ยดื เอน็ รอยหวายทุกวนั • ขณะท่ีนง่ั ควรวางเทา้ ราบกบั พ้ืน อยา่ วางเทา้ โดยเอาดา้ นขา้ งลงหรือใชเ้ ทา้ ขา้ งปกติสอดไวใ้ ตเ้ ทา้ ขา้ งท่ี ออ่ นแรง เพราะจะทาใหเ้ ทา้ ผดิ รูป 35

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ ➢ ปัญหาเรื่องความจาและการตัดสินใจ ปัญหาท่ีเกิดข้ึน เช่น - ผปู้ ่ วยอาจจาส่ิงท่ีเกิดข้ึนก่อนเป็นอมั พาตได้ แต่จาส่ิงใหม่ๆที่เกิดข้ึนหลงั เป็นอมั พาตไมไ่ ด้ - ผปู้ ่ วยมกั ไมเ่ ร่ิมตน้ ทาอะไรเอง จนกวา่ จะมีคนเตือนหรือบอกใหท้ า - บางคร้ังอาจสับสนในเรื่องของสถานท่ีหรือเวลา เช่น จาวนั ไมไ่ ด้ ควรปรึกษาแพทยเ์ พอื่ ใหท้ ราบสาเหตุของปัญหาความจาวา่ เกิดจากอะไร เพราะอาจเกิดไดจ้ ากหลายสาเหตุ บางสาเหตุรักษาได้ เช่น กินอาหารท่ีไม่มีคุณภาพก็มีผลต่อความจา หรือมีอาการซึมเศร้า ถา้ เปล่ียนอาหาร ลด อาการซึมเศร้า ความจากจ็ ะดีข้ึน เป็นตน้ ขอ้ แนะนาสาหรับผปู้ ่ วยที่มีปัญหาเรื่องความจาและการแกป้ ัญหา - ปรึกษาแพทยห์ รือนกั จิตวทิ ยา เพราะโรคความจาเสื่อมบางชนิดรักษาไดด้ ว้ ยยา - การรับประทานอาหารท่ีมีคุณค่า ดื่มน้าให้มาก และพกั ผอ่ นให้เพียงพอ มีส่วนช่วยเร่ืองความจาและลด อาการสบั สน - จดั ส่ิงของใหเ้ ป็นระเบียบ ใหง้ ่ายต่อการใช้ เช่น เก็บของท่ีใชอ้ ยปู่ ระจาใหอ้ ยใู่ นท่ีที่สามารถหยบิ ไดง้ ่าย - ใชร้ ูปภาพช่วยเตือนความจา เช่น ใชร้ ูปแปรงสีฟันช่วยเตือนวา่ ตอ้ งแปรงฟัน - ควรใหผ้ ปู้ ่ วยอ่านหนงั สือพิมพ์ ดูทีวี เพ่ือใหผ้ ปู้ ่ วยรับรู้สิ่งต่างๆรอบๆตวั จะทาใหผ้ ปู้ ่ วยไดฝ้ ึ กฝนการมี สมาธิและความสนใจ - ผูป้ ่ วยควรฝึ กทุกๆวนั เช่น การฝึ กความจา การจาเบอร์โทรศพั ท์ หรือพยายามนึกโดยใชร้ ูปภาพ เสียง เพ่อื ช่วยเตือนความจา การฝึกฝนเช่นน้ีจะทาใหค้ วามจาดีข้ึน ➢ ปัญหาดา้ นอารมณ์ของผปู้ ่ วยท่ีมีผลกระทบต่อครอบครัว ผปู้ ่ วยอาจมีปัญหาอารมณ์เปล่ียนแปลงง่าย โมโหง่าย หงุดหงิด และปัญหาความจา ทาให้ผูป้ ่ วยสับสน และคิดวา่ ตวั เองเป็ นภาระของครอบครัว ความวติ กกงั วลและความซึมเศร้าทาใหก้ ารฟ้ื นฟูเป็ นไปไดไ้ ม่ดี และจะ ทาใหเ้ กิดปัญหาอ่ืนตามมา ขอ้ แนะนา - ขอคาปรึกษาจากทีมเวชศาสตร์ฟื นฟู ไดแ้ ก่ แพทย์ พยาบาล นกั กายภาพบาบดั นกั กิจกรรมบาบดั จะ สามารถใหค้ าแนะนาญาติและผูป้ ่ วย ให้เขา้ ใจวา่ ควรทาอยา่ งไรจึงจะทาให้เกิดการฟ้ื นตวั ที่ดีที่สุดและ มากท่ีสุด - หาโอกาสพูดคุยกบั คนที่เคยเป็ นอมั พาตมาก่อน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์จะช่วยลดปัญหาดา้ น อารมณ์ และทาใหญ้ าติและผปู้ ่ วยไมร่ ู้สึกโดดเด่ียว และไดเ้ รียนรู้ประสบการณ์จากครอบครัวอื่น - ผูป้ ่ วยและญาติไม่ควรแยกตวั โดดเดี่ยว ควรมีการเขา้ สังคมกบั เพ่ือนและญาติพ่ีนอ้ งคนอื่นๆ เช้ือเชิญคน อื่นมาท่ีบา้ นบา้ ง กจ็ ะเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี 36

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ อาการซึมเศร้า อาการซึมเศร้าเป็ นปฏิกิริยาปกติที่เกิดข้ึนจากการเปลี่ยนแปลงคร้ังใหญ่ในชีวิต อาการซึมเศร้าจะ กลายเป็นปัญหาถา้ ยงั คงมีอยู่ และอาจขดั ขวางการดาเนินชีวติ ตอ่ ไป สัญญาณท่ีบอกวา่ มีอาการซึมเศร้า - รู้สึกเศร้า กงั วล หงุดหงิด ตื่นเตน้ รู้สึกผดิ รู้สึกไม่มีค่า และหมดหวงั - มีการเปลี่ยนแปลงการนอน เช่น นอนไม่หลบั หรือนอนมากกวา่ เดิม - เบ่ืออาหาร น้าหนกั ข้ึนหรือลดโดยไมไ่ ดต้ ้งั ใจ - หมดความสนใจในสิ่งท่ีเคยชอบ - กระสับกระส่าย หงุดหงิด - ปวดศีรษะบอ่ ยๆมีปัญหาในการยอ่ ยอาหาร เช่น ปวดทอ้ ง คล่ืนไส้ ทอ้ งผกู ทอ้ งเสีย - ไมม่ ีสมาธิ หรือหลงลืม จาอะไรไมค่ อ่ ยได้ มีการตดั สินใจท่ีไมด่ ี - เพลีย เหน่ือยง่าย - ลดประสิทธิภาพในการทางาน - คิดอยากฆ่าตวั ตาย หรือคิดอยากตาย หากมีปัญหาควรพบแพทยท์ นั ที ถา้ มีอาการเหล่าน้ีต้งั แต่ 2 ขอ้ ข้ึนไปรีบให้ปรึกษาแพทย์ อาการซึมเศร้าน้ีสามารถรักษาได้ และถา้ รักษา ไดเ้ ร็ว ผลการรักษากจ็ ะดี การรักษาน้นั อาจใชก้ ารรับประทานยา หรือพดู คุยกบั นกั จิตวทิ ยา 37

[เอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร โครงการ รูปแบบระบบบริการการฟ้ื นฟสู มรรถภาพดา้ นการแพทย]์ พุทธพจน.์ .. .... ผใู้ หค้ วามรัก .... ยอ่ มไดร้ ับความรัก ผใู้ หค้ วามเมตตา .... ยอ่ มไดร้ ับความเมตตา ผใู้ หค้ วามสุข ... ยอ่ มไดร้ ับความสุข ผใู้ หค้ วามเป็นเลิศ..... ยอ่ มไดร้ ับความเป็นเลิศ .... 38