Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เทคโนโลยีสารสนเทศ2

เทคโนโลยีสารสนเทศ2

Published by 1234songyot, 2021-11-25 09:44:18

Description: เทคโนโลยีสารสนเทศ2

Search

Read the Text Version

วชิ าคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศพนื้ ฐาน (Fundamentals of Computer and Information) พน้ื ฐานเก่ียวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ ผู้สอนอาจารย์ดร.สมใจ สืบเสาะ

Digital พืน้ ฐานเกย่ี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศในปัจจุบันมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว เมอ่ื เขา้ สูย่ ุคสังคมดิจติ อล ท่มี ีการติดตอ่ ส่ือสารกนั ด้วยความรวดเร็ว ทาใหเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศไม่ไดเ้ ปน็ เพียงเคร่ืองมอื ที่ใช้สนบั สนนุ ในการดาเนินกิจกรรมต่างๆ ให้สะดวก และรวดเร็วขนึ้ เท่าน้ัน แต่ได้กลายเปน็ ส่วนหน่ึง ในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวันของมนุษย์ด้วย ดงั นน้ั การปรบั ตัวให้ทนั กับความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ และสามารถใชเ้ ป็นเคร่อื งมอื ในการเพิม่ ประสทิ ธภิ าพ ในการดาเนนิ งานจึงเปน็ สงิ่ ทจ่ี าเปน็ อยา่ งมากสาหรบั ทุกคน

Digital พืน้ ฐานเก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 1.ความหมายของเทคโนโลยี เทคโนโลยสี นเทศ (Information Technology : IT) หรือ ไอที มีบทบาทสาคัญอย่างมาก ตอ่ การดาเนนิ ชวี ิตในยุคปัจจุบนั ซง่ึ เปน็ ยคุ ทเี่ ทคโนโลยีทาใหม้ นษุ ยก์ ้าวสู่สงั คมดจิ ติ อลอยา่ งเตม็ รูปแบบ ดว้ ยวิถชี วี ิตทพี่ งึ่ พา อปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ และอปุ กรณ์สือ่ สารเพอ่ื เขา้ ถึงอินเตอรเ์ น็ต การเรียนรูใ้ นปัจจบุ นั ใช้ชอ่ งทางการเรยี นผ่าน ทางออนไลน์มากขึ้น ดังนน้ั จึงจาเป็นอย่างยิง่ ทจี่ ะตอ้ งเรยี นรูพ้ นื้ ฐานเกย่ี วกับเทคโนโลยสี ารสนเทศใหเ้ ขา้ ใจอยา่ ง ถกู ตอ้ ง มผี รู้ หู้ ลายทา่ นใหค้ าจากดั ความของเทคโนโลยีสารสนเทศไว้ดังน้ี โอภาส เอยี่ มสิรวิ งษ์ (2557 : 14) อธิบายว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ คอื เทคโนโลยที ่นี ามาใชเ้ พือ่ การผลติ การจัดการ การจดั เก็บ การสื่อสาร และการเผยแพร่ขอ้ มลู รวมถงึ คอมพวิ เตอร์ทม่ี ีการเชื่อมโยงเข้ากบั ระบบสอื่ สารความเรว็ สงู เพือ่ นาส่งข้อมูล เสียง และวิดโี อ พจนานุกรมคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (2557 : 180) ระบุว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีของการจดั การข้อมลู และประมวลผลข้อมลู

Digital พืน้ ฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 1.ความหมายของเทคโนโลยี สุพรรษา ยวงทอง (2558 : 218) อธิบายว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การประยกุ ตเ์ อาความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์มาจดั การสารสนเทศท่ีต้องการ โดยอาศยั เครื่องมอื ทางเทคโนโลยีใหมๆ่ เช่น เทคโนโลยีด้าน คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีด้านเครือขา่ ยโทรคมนาคมและการสื่อสาร ตลอดจนอาศยั ความรู้ในกระบวนการ ดาเนินงานสารสนเทศในขนั้ ตอนตา่ งๆ ตงั้ แตก่ ารแสวงหา การวิเคราะห์ การจดั เกบ็ รวมถึงการจดั การ เผยแพร่และแลกเปลยี่ นสารสนเทศด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถกู ต้อง แมน่ ยา และความรวดเร็วทนั ตอ่ การนามาใช้ประโยชน์ จากความหมายดงั กล่าวขา้ งต้น สรุปไดว้ ่า เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคมมาจดั การสารสนเทศ ตง้ั แต่การผลติ การจดั เกบ็ การสืบคน้ การจัดการ การส่อื สาร และการเผยแพรข่ อ้ มลู เพ่ือเพ่มิ ประสิทธิภาพ ความถกู ตอ้ ง รวดเรว็ ทันตอ่ การนาไปใช้ประโยชน์

Digital พ้ืนฐานเก่ียวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 2.ความสาคญั ของเทคโนโลยี ในปจั จบุ ันเทคโนโลยสี ารสนเทศมีการเปลย่ี นแปลงอย่างมาก เมื่อเข้าสยู่ ุคสังคมดิจิตอล ท่มี ีการติดตอ่ ส่อื สารกันด้วยความรวดเร็วและซบั ซ้อน ตลอดจนมกี ารแขง่ ขันที่รุนแรง ทาใหเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศไม่ไดเ้ ปน็ เพียงเครื่องมอื สนบั สนุน ในการดาเนนิ กิจกรรมตา่ งๆ ใหส้ ะดวกและรวดเรว็ ขน้ึ เท่านัน้ แต่ไดก้ ลายเป็นส่วนหนึง่ ในชีวติ ประจาวนั ของมนษุ ย์ มีความสาคญั และเก่ยี วข้องกับคน ทุกระดับ ทงั้ ในระดบั ประเทศ ระดับองค์กร หรอื ระดบั บคุ คล ดังนี้

Digital พืน้ ฐานเกี่ยวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 2.ความสาคญั ของเทคโนโลยี ระดับประเทศ ตามนโยบายเศรษฐกิจและสงั คมดจิ ิตอลของรฐั บาล ใหม้ กี ารนาเทคโนโลยีสารสนเทศทท่ี ันสมยั และหลากหลายมาเปลีย่ นแปลงวธิ กี ารการ ดาเนินชีวติ ของประชาชน การดาเนนิ ธุรกจิ การดาเนินงานของภาครัฐ ซ่งึ จะส่งผลใหป้ ระชาชนมีความรอบรู้ สามารถพฒั นา และใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยีสารสนเทศไดอ้ ย่างรเู้ ท่าทนั มโี อกาสในการสรา้ งรายได้ และมคี ณุ ภาพชีวติ ท่ดี ขี ้นึ เกดิ ความมงั่ คงั่ ทางเศรษฐกจิ ท่ี แข่งขนั ได้ในเวทีโลก และความมน่ั คงทางสงั คมของประเทศตอ่ ไป

Digital พื้นฐานเก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 2.ความสาคญั ของเทคโนโลยี ระดับองค์กร ในยคุ ของสงั คมดจิ ติ อลทท่ี าให้สามารถทางานได้ทกุ สถานท่ี และทุกเวลา ตลอด 24 ช่วั โมง ทง้ั องคก์ รภาครัฐ และเอกชนตอ้ งพบกับขอ้ มลู จานวนมหาศาลอยา่ ง หลกี เล่ยี งไม่ได้ ดงั น้นั ความสามารถในการทางานผา่ นเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ความเขา้ ใจเครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ การซอ้ื สินค้าและบรกิ ารทางอนิ เตอร์เนต็ และการวิเคราะหข์ ้อมูลอยา่ งชาญฉลาด จึงเป็นสงิ่ จาเป็นเพ่ือความอยูร่ อดขององค์กร การดาเนินงานในองค์กรจึงต้องมเี ทคโนโลยีสารสนเทศ เพอ่ื เป็นเครื่องมือชว่ ยในการปฏบิ ัตงิ านที่รวดเร็ว ช่วยเพ่ิมผลผลติ ลดตน้ ทุน ใช้เปน็ กลยทุ ธเ์ พอ่ื ความได้เปรยี บในการแขง่ ขัน สรา้ งความพึงพอใจกบั ลูกคา้ หรือกลุ่มเปา้ หมาย และเกิดประสิทธิภาพในการดาเนนิ งาน

Digital 2.ความสาคญั ของเทคโนโลยี ระดับบคุ คล สาหรับคนทวั่ ไปเทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสาร สามารถพฒั นาตนเองให้เปน็ คนท่ีฉลาด รู้เท่าทนั ส่อื เท่าทันโลก และยังเป็นเคร่ืองมอื ในการสร้างศักยภาพของบคุ คล ชว่ ยยกระดบั คนไปสู่สงั คมแหง่ การเรยี นรู้ และสามารถนาไปใช้ในการประกอบอาชพี ไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ภาพ นอกจากน้ีเทคโนโลยสี ารสนเทศยงั เป็นส่วนหน่ึงในดาเนนิ ชวี ติ ประจาวันของคนปจั จุบนั เชน่ ดรู ายการโทรทัศนผ์ า่ นเครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ ซือ้ สนิ คา้ ผา่ นทางอนิ เตอร์เน็ต จองตั๋วเดินทางแบบออนไลน์ การลงทะเบยี นหรอื ดูผลการเรยี นทางเวบ็ ไซต์ เป็นต้น

Digital พน้ื ฐานเกย่ี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 2.ความสาคญั ของเทคโนโลยี เทคโนโลยีสารสนเทศยงั มีความสาคัญและเกย่ี วขอ้ งกบั คนทุกระดับ ไม่ว่าจะเปน็ นักเรยี น นักศึกษา ขา้ ราชการ ผู้ประกอบการ ผูบ้ รหิ าร นักธุรกิจ หรือบุคคลทว่ั ไป ดงั น้ันในฐานะนักเรยี น นักศึกษาจึงจาเป็นต้องมีทักษะในการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชเ้ ปน็ เครือ่ งมอื สาหรับ การแสวงหาความรูอ้ ย่างถกู วธิ ี นามาปรับใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และเกิดประโยชนส์ งู สดุ สามารถนาองค์ความรู้ท่ีมีอย่มู าบรู ณาการเชิงสรา้ งสรรค์ เพ่ือพฒั นานวัตกรรมตา่ งๆ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ละสามารถตอบสนองความต้องการ ของสงั คม และมีทกั ษะในการปฏิสมั พนั ธ์กับคนในสังคมปกติ และในสงั คมออนไลน์ เพื่อทีจ่ ะสามารถ ทางาน หรอื อยรู่ ว่ มกันในสงั คมได้อย่างมีความสุข

Digital พ้ืนฐานเก่ียวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.องค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ เปน็ การนาเอาเทคโนโลยคี อมพวิ เตอรม์ าทางานรว่ มกบั เทคโนโลยี การสอ่ื สาร เพอ่ื ใชใ้ นการจดั การสารสนเทศให้เกดิ ประโยชน์ ในการนาข้อมลู มาประมวลผลและสื่อสารสารสนเทศไปยงั ผ้ทู เ่ี กย่ี วข้องไดอ้ ย่างรวดเร็ว ซึ่งองค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศมี 6 สว่ น ดังน้ี 1) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) 2) ซอฟตแ์ วร์ (Software) 3) บคุ ลากร (People) 4) ขอ้ มลู (Data) 5) กระบวนการทางาน (Procedure) 6) การสอื่ สารขอ้ มลู (Data Communication)

Digital พืน้ ฐานเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ

Digital พื้นฐานเกีย่ วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.1 ฮารด์ แวร์ ฮารด์ แวร์ (Hardware) เป็นอุปกรณ์ที่สามารถจบั ต้องได้ ใช้สาหรับจดั การข้อมลู โดยจะ ทางานประสานกัน ตัง้ แตก่ ารรบั ขอ้ มูล การประมวลผล การแสดงผลลพั ธ์ และการเกบ็ ข้อมูล เพ่ือใหไ้ ด้สารสนเทศตามที่ตอ้ งการ สามารถแบง่ ประเภทของฮารด์ แวร์ตามหนา้ ที่ ได้ 4 ประเภทดังน้ี 3.1.1 อปุ กรณ์รับข้อมลู อุปกรณร์ ับข้อมลู (Input Device) เป็นอปุ กรณ์ท่ที าหน้าท่รี บั ขอ้ มูล ทีอ่ าจอยู่ในรปู แบบตัวอกั ษร ตวั เลข รปู ภาพ เสียง หรอื คาสงั่ ตา่ งๆ จากมนษุ ย์ แลว้ แปลงใหอ้ ยู่ในรปู แบบที่ระบบคอมพวิ เตอรเ์ ข้าใจ เพือ่ ส่งไปประมวลผลตอ่ อุปกรณร์ บั ขอ้ มูลทนี่ ยิ มใชก้ นั อย่างแพร่หลาย เช่น เมาสแ์ ป้นพิมพ์ เครื่องสแกน เคร่ืองอ่านบารโ์ คด้ จอสัมผัส ปากกาป้อนขอ้ มูล กลอ้ งดิจิตอล เว็บแคม จอยสติก๊ และ ไมโครโฟน เป็น ต้น ตวั อย่างของอปุ กรณร์ บั ข้อมูลดังแสดงในภาพที่ 1.2

Digital พืน้ ฐานเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ

Digital พ้ืนฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.1 ฮารด์ แวร์ 3.1.2 อุปกรณป์ ระมวลผลข้อมูล อปุ กรณป์ ระมวลผล (Process Device) เป็นอปุ กรณท์ ่ีทาหน้าทน่ี าขอ้ มูลทไี่ ด้รบั มาจากอปุ กรณ์รับ ข้อมลู มาคานวณ ประมวลผลตามคาสงั่ ที่กาหนดไว้ เพ่อื ส่งใหร้ ะบบตอ่ ไป เชน่ ซีพียู ชปิ เซต แผงวงจรหลัก แรม รอม ตัวอย่างของอปุ กรณ์ประมวลผลดงั แสดงในภาพท่ี 1.3

Digital พนื้ ฐานเกย่ี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.1 ฮาร์ดแวร์ 3.1.3 อปุ กรณแ์ สดงผลลพั ธ์ อปุ กรณแ์ สดงผลลพั ธ์ (Output Device) เปน็ อุปกรณท์ ีท่ าหน้าทแ่ี ปลงขอ้ มูลทผ่ี ่านการประมวลผล มาแสดงใหอ้ ยใู่ นรูปแบบทมี่ นษุ ย์สามารถเขา้ ใจได้ เชน่ จอภาพ เคร่ืองพมิ พ์ เคร่อื งวาด เครือ่ งฉายภาพ ลาโพง เปน็ ตน้ ตัวอย่างของอปุ กรณแ์ สดงผลลัพธ์ดงั แสดงในภาพท่ี 1.4

Digital พื้นฐานเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.1.4 อุปกรณเ์ ก็บข้อมลู อปุ กรณ์เก็บข้อมลู (Storage Device) เปน็ อปุ กรณ์ท่ที าหน้าท่ีจัดเกบ็ บนั ทกึ ข้อมลู สารสนเทศ หรอื คาส่งั ตา่ งๆ เพือ่ นามาใช้ประโยชนใ์ นอนาคต ซง่ึ มีให้เลือกใช้อย่างหลากหลายตามความเหมาะสมในการใชง้ าน เชน่ ฮารด์ ดิสก์ ออปตคิ อลดสิ ก์ แฟลชไดรฟ์ โซลิดสเตดไดรฟ์ การ์ดหน่วยความจา สมาร์ทการ์ด เป็นตน้ ตัวอย่าง ของอุปกรณเ์ กบ็ ขอ้ มูลดงั แสดงในภาพที่ 1.5

Digital พืน้ ฐานเกีย่ วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ สรุปฮารด์ แวร์ คืออุปกรณ์ทีส่ ามารถจบั ตอ้ งได้ แบง่ เป็นฮารด์ แวร์สาหรับการนาเขา้ ขอ้ มลู การประมวลผล การแสดงผล และการจัดเก็บขอ้ มลู ปจั จุบนั ฮารด์ แวร์มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมขี นาดเล็กลงทาใหส้ ะดวกตอ่ การพกพา แตม่ สี มรรถนะสูงขน้ึ ปฏิบตั ิงานได้หลายอย่าง สามารถวเิ คราะห์ขอ้ มูลเชงิ ลึก แจ้งเตือนหรือคาดการณ์เรอ่ื งตา่ งๆ ทีอ่ ยรู่ อบตวั ได้ล่วงหนา้ ทาใหค้ ุณภาพชวี ิตของมนษุ ยด์ ขี ึ้น สามารถตอบสนองความตอ้ งการได้หลากหลายรปู แบบเหมาะกบั การ นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันของมนุษยท์ ีแ่ ตกต่างกัน

Digital พ้ืนฐานเก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.2 ซอฟต์แวร์ ซอฟตแ์ วร์ (Software) หรือ โปรแกรม เปน็ ชุดคาส่งั ทพ่ี ัฒนาข้นึ สาหรับควบคมุ ใหฮ้ ารด์ แวรท์ างานตาม ขัน้ ตอนทก่ี าหนดไว้ เพ่อื ประมวลผลขอ้ มลู ให้เป็นสารสนเทศในรูปแบบที่ตอ้ งการ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ ตา่ งๆ ควรพจิ ารณาถึงสทิ ธใิ นการใชง้ านเนือ่ งจาก ซอฟต์แวร์มที ั้งแบบมีลขิ สทิ ธ์ิ แชรแ์ วร์ ฟรแี วร์ และ ซอฟต์แวรส์ าธารณะ สามารถแบง่ ซอฟตแ์ วร์ตามลักษณะการทางานได้เปน็ 2 ประเภท ดงั นี้ 3.2.1 ซอฟตแ์ วร์ระบบ ซอฟต์แวรร์ ะบบ (System Software) เปน็ ซอฟต์แวร์ท่ีพฒั นาขนึ้ เพ่อื ควบคมุ การทางานของคอมพิวเตอร์ และอุปกรณต์ ่างๆ ให้ทางานอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและสอดคล้องกนั รวมถึงเปน็ ตวั กลางเช่ือมโยงระหวา่ ง ฮาร์ดแวรแ์ ละมนษุ ยใ์ ห้สามารถทางานร่วมกนั ได้ ซอฟตแ์ วรร์ ะบบแบง่ ตามหน้าท่ไี ด้เปน็ 3 ประเภท คอื ระบบปฏิบตั ิการ ตัวแปลภาษา และโปรแกรมอรรถประโยชน์

Digital พืน้ ฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.2.1 ซอฟต์แวรร์ ะบบ 3.2.1.1 ระบบปฏบิ ัตกิ าร (Operating System : OS) หรอื โอเอส เปน็ ซอฟตแ์ วร์ ทีท่ าหนา้ ท่ีควบคุมฮาร์ดแวร์ ใหท้ างานอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ จัดสรรทรัพยากรตา่ งๆ ใหก้ บั ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ตอ์ ย่างเหมาะสม และเปน็ ตัวกลาง ที่ทาให้ผใู้ ชง้ าน และฮาร์ดแวรส์ ามารถทางานรว่ มกันได้ อยา่ งถกู ตอ้ ง ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ ระบบปฏบิ ัตกิ ารมี หลายชนิด ชนิดท่ใี ชง้ านกับเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ วั่ ไป เช่น ระบบปฏบิ ัตกิ ารดอส (DOS), ระบบปฏบิ ตั กิ ารวินโดวส์ (Windows OS) และ ระบบปฏบิ ตั ิการแมค (Mac OS) เป็นต้น ชนดิ ท่ีใชก้ บั ระบบเครอื ขา่ ย เช่น ระบบปฏิบตั กิ าร วินโดวส์เซิรฟ์ เวอร์ (Windows Server), ระบบปฏิบตั กิ ารยูนกิ ซ์ (Unix) และระบบปฏบิ ัติการลนี กุ ซ์ (Linux) เปน็ ต้น และชนดิ ทีใ่ ชก้ ับอุปกรณเ์ คลือ่ นท่ี เชน่ ระบบปฏบิ ตั กิ ารวนิ โดวส์โฟน (Windows Phone)ระบบปฏบิ ัติการไอ โอเอส (iOS) และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เป็นต้น ตวั อย่างระบบปฏบิ ัติการดังแสดงในภาพท่ี 1.6

Digital พื้นฐานเกีย่ วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.2.1 ซอฟตแ์ วร์ระบบ 3.2.1.2 ตวั แปลภาษา (Language Translator) เปน็ ซอฟต์แวร์ท่ีทาหน้าท่ี เป็นตวั กลางในการแปลชุดคาสัง่ ท่ี ผ้เู ขียนโปรแกรมเขียนขึ้นดว้ ยภาษาระดบั สูง ทเ่ี รยี กว่าโปรแกรมตน้ ฉบบั (Source Code) ใหเ้ ป็นภาษาทเ่ี ครือ่ ง คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามคาสงั่ ได้ ท่ีเรยี กวา่ ภาษาเครอื่ ง (Machine Language) ซง่ึ ประกอบดว้ ยรหัสเลขฐานสอง (0 และ 1) เท่านนั้ ตวั แปลภาษาสามารถแบง่ ตามลกั ษณะการทางานไดเ้ ปน็ 3 ประเภท ดังนี้ 1) คอมไพเลอร์ (Complier) เปน็ ตวั แปลภาษาระดับสงู โดยใชห้ ลักการแปลโปรแกรมต้นฉบับทัง้ หมด แลว้ บนั ทึกไว้ในลกั ษณะของแฟม้ ข้อมูล หรือไฟล์ เมอื่ ต้องการเรยี กใช้งานโปรแกรมกส็ ามารถเรยี กจากไฟลท์ ี่เก็บ ไว้ โดยไม่ตอ้ งทาการแปลอีก ทาให้การทางานเปน็ ไปอยา่ งรวดเรว็ ตวั อย่างโปรแกรมภาษาที่ใช้ตัวแปล คอมไพเลอร์ เชน่ ภาษาโคบอล (COBOL), ภาษาซี (C) และภาษาจาวา (JAVA) เป็นต้น 2) อนิ เทอร์พรเี ตอร์ (Interpreter) เป็นตัวแปลภาษาระดบั สูงเช่นเดียวกับคอมไพเลอร์ แต่จะแปลพรอ้ มกบั ทางานตามคาสัง่ ทลี ะคาส่งั ไปจนจบโปรแกรม ทาให้ การแกไ้ ขโปรแกรมกระทาได้ง่าย ตัวอย่างภาษาท่ีใช้ ตัวแปลอินเทอร์พรเี ตอร์ เช่น ภาษาเบสิก (BASIC), ภาษาพเี อชพี (PHP) และภาษาเพิรล์ (Perl) เป็นต้น 3) แอสเซมเบลอ (Assembler) เปน็ ตัวแปลภาษาสัญลักษณ์ หรอื ภาษาแอสเซมบลี (Assembly) ซง่ึ เป็น ภาษาระดบั ตา่ ให้เป็นภาษาเคร่ือง

Digital พื้นฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ

Digital พน้ื ฐานเกยี่ วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.2.1 ซอฟตแ์ วร์ระบบ 3.2.1.3โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program) เป็นซอฟต์แวร์ที่ทาหนา้ ที่บารุงรักษา ช่วยเพ่ิม ประสทิ ธภิ าพในการทางานของคอมพิวเตอร์ ให้สามารถทางานได้งา่ ย สะดวก รวดเรว็ และปลอดภยั ย่งิ ขน้ึ โปรแกรมอรรถประโยชน์มีหลากหลายประเภท ในท่นี ้จี ะกลา่ วถึงบางประเภทท่ีจาเป็นสาหรบั การใชง้ าน (รุ่งรศั มี บุญดาว, 2559 : 79) ดังนี้ 1) โปรแกรมตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด (Diagnostic Program) เป็นซอฟตแ์ วรท์ ี่ใช้ในการตรวจสอบ ข้อผดิ พลาดของฮารด์ แวร์และซอฟตแ์ วร์ เพ่อื ให้สามารถใชง้ านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตวั อย่างโปรแกรม ตรวจสอบข้อผิดพลาด เช่น Sidebar diagnostics, CCleaner และ TuneUp Utilities เปน็ ตน้ 2) โปรแกรมปอ้ งกันไวรัส (Antivirus Program) เป็นซอฟต์แวรท์ ่ีใช้ตรวจสอบ ปอ้ งกนั และกาจดั โปรแกรม ที่จะทาให้ระบบคอมพิวเตอร์เกิดความเสยี หาย มีปญั หาใน การทางาน ได้แก่ ไวรสั เวริ ม์ สปายแวร์ มา้ โทร จนั สเปมเมล์ เป็นต้น ตวั อย่างโปรแกรมป้องกนั ไวรสั ทใี่ ช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น ESET, Nod32, Avira และ Panda เปน็ ต้น

Digital พ้นื ฐานเกย่ี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.2.1 ซอฟตแ์ วร์ระบบ 3) โปรแกรมสารองข้อมูล (Backup Program) เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ใี ชส้ าหรับสาเนาข้อมลู สาคญั เพือ่ ปอ้ งกัน ขอ้ มูลตน้ ฉบบั สูญหาย ตวั อย่างโปรแกรมสารองขอ้ มูล เช่น File History และ Time Machine เปน็ ต้น 4) โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (Compression Program) เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ี ใชส้ าหรบั ลดขนาดของไฟล์ใหเ้ ล็กลง เพ่อื ประหยัดเน้ือทีใ่ นการเกบ็ ขอ้ มูล และเพ่มิ ความเรว็ ในการส่งไฟลข์ ้อมลู ผา่ นอินเตอรเ์ นต็ ตวั อย่างโปรแกรม บีบอดั ไฟล์ เชน่ WinRAR, WinZip และ 7-Zip เปน็ ต้น

Digital พน้ื ฐานเกีย่ วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.2.2 ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ 3.2.2.2 โปรแกรมตารางคานวณ (Spread Sheet) เป็นโปรแกรมทใี่ ช้สาหรบั สร้างตาราง คานวณค่าตวั เลข สรา้ งแผนภูมิ วเิ คราะห์ข้อมูล รายงานทางการเงิน โปรแกรม มลี ักษณะเป็นชอ่ งตาราง ทีเ่ รียกวา่ เซลล์ สามารถ ใช้สูตรคานวณ และฟังก์ช่ันตา่ งๆ ท่ีโปรแกรมมีใหไ้ ด้ตามความเหมาะสมของงาน มีการนาไปใช้งานในหน่วยงาน ตา่ งๆ เชน่ สถานศึกษาใชใ้ นการบนั ทกึ คะแนน คานวณผลการเรยี น หนว่ ยงานราชการใช้ในการคานวณ วเิ คราะห์ งบประมาณการเงนิ องค์กรเอกชนใช้วิเคราะหย์ อดขายสนิ คา้ ตวั อยา่ งโปรแกรมตารางงาน เชน่ Microsoft Excel, OpenOffice Calc และ Google Sheets 3.2.2.3 โปรแกรมนาเสนอ (Presentation) เป็นโปรแกรมทีใ่ ช้สาหรบั ถา่ ยทอดข้อมลู ข่าวสาร ในรปู แบบของ สไลด์ สามารถนาเสนอแนวคดิ เน้อื หา รปู ภาพ เสยี ง วดิ โี อหรือเทคนิคการเคลอื่ นไหว เพื่อดึงดดู ความสนใจ จึง ถกู นามาใช้งานอยา่ งกว้างขวาง เช่น ใช้ในการทาสอื่ ประกอบ การเรยี นการสอน การประชมุ สัมมนา การเสนอ ขายสินค้า ตัวอยา่ งโปรแกรมนาเสนอ เช่น Microsoft PowerPoint, Google Slices

Digital พ้นื ฐานเก่ยี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ 3.2.2.4 โปรแกรมฐานขอ้ มลู (Database) เป็นโปรแกรมท่ีใช้สาหรบั จดั การข้อมลู โดยมีเครื่องมือสาหรบั สรา้ ง แก้ไข บนั ทึก คน้ หา และรายงานข้อมูล ทาให้ผ้ใู ชง้ านสามารถเรยี กใช้ขอ้ มูลไดโ้ ดยสะดวกรวดเร็ว ทุกองค์กรล้วน แลว้ แต่มีความจาเปน็ ในการนาโปรแกรมฐานขอ้ มลู มาบรหิ ารจดั การข้อมลู ของตนเองใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพ ทันต่อ การใช้งาน เช่น สถานศึกษามฐี านข้อมลู ทใ่ี ช้จัดการขอ้ มลู นักศกึ ษา ผลการเรยี น รายวชิ า ครูผสู้ อน โรงพยาบาลมี ฐานขอ้ มูลเพอ่ื ใช้ในการจัดการข้อมูลผปู้ ว่ ย การรกั ษา ยารกั ษาโรค บุคลกรทางการแพทย์ บรษิ ทั มีฐานขอ้ มลู เพือ่ ใช้ในการจัดการขอ้ มลู ลกู คา้ สินคา้ การขาย การแขง่ ขนั ทางการตลาด ตัวอยา่ งโปรแกรมฐานขอ้ มลู เช่น Microsoft Access, Oracle และ Visual FoxPro 3.2.2.5 โปรแกรมสาหรับงานทางด้านกราฟิก และมลั ติมีเดยี (Graphic and Multimedia) ใช้สาหรบั งาน ทางด้านการออกแบบ ตกแตง่ ภาพ วาดรปู ปรับเสียง ตัดต่อคลปิ วีดโิ อภาพเคลอ่ื นไหวรวมถึงการสร้าง และพฒั นา เวบ็ ไซต์ ตวั อยา่ งโปรแกรมประเภทนี้ เช่น Adobe Photoshop, CorelDraw, Camera360, Adobe Premiere และ Apple iMovie

Digital พ้นื ฐานเกี่ยวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.2.2 ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ 3.2.2.6 โปรแกรมสาหรับการติดตอ่ สอื่ สาร (Communication) ใชส้ าหรบั ตดิ ตอ่ สอ่ื สารผา่ นระบบเครอื ขา่ ย หรืออนิ เตอรเ์ นต็ เช่น ใช้จดั การอีเมล์ ใชป้ ระชุมทางไกล ถ่ายโอนไฟล์ขอ้ มูล สนทนาออนไลน์ ตวั อยา่ งโปรแกรม ประเภทน้ี เช่น Google Chrome, Internet Explorer, FTP, Conference Me และ Line 3.2.2.7 โปรแกรมประยกุ ตอ์ ืน่ ๆ เป็นโปรแกรมประยุกตท์ นี่ อกเหนอื จากทก่ี ล่าวมาแลว้ เชน่ โปรแกรมประยุกต์ เฉพาะองคก์ รทพี่ ัฒนาขึ้นเพื่อใชใ้ นองคก์ รของตนเองเทา่ น้นั เช่น โปรแกรมระบบบรหิ ารจดั การอาชีวศึกษา โปรแกรมระบบจดั การคลงั สนิ คา้

Digital พืน้ ฐานเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ซอฟต์แวร์ ในปัจจุบันถูกพฒั นาให้ใชง้ านได้ง่าย เน้นใหม้ ีความเปน็ ธรรมชาติใกล้เคียง กบั การดาเนนิ ชีวิตประจาวันของมนุษยม์ ากยง่ิ ข้นึ เชน่ การใชเ้ สียง การแสดงสหี น้าเพอ่ื สงั่ ให้ฮารด์ แวร์ทางาน นอกจากนีย้ ังมกี ารใหบ้ ริการซอฟแวรผ์ า่ นทางอนิ เตอรเ์ น็ต ผูใ้ ช้สามารถใช้ซอฟต์แวร์ได้ทุกที่ทกุ โอกาส โดยไมต่ อ้ งติดตั้งซอฟตแ์ วร์ เน่อื งจากซอฟตแ์ วรเ์ หลา่ นัน้ จะถูกติดต้งั และทางานบนเครอ่ื งเซริ ฟ์ เวอร์ของผู้ใหบ้ รกิ าร

Digital พน้ื ฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.3 บคุ ลากร (People) บคุ ลากร เป็นบคุ คลที่ปฏบิ ตั ิงานเก่ยี วข้องกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ หรอื ไอที ซ่ึงบุคลากรเปน็ องค์ประกอบสาคญั ทีส่ ุด เพราะถ้าบุคลากรมีความรู้ความสามารถ และทกั ษะในการใช้งานด้านไอทเี ป็นอย่างดี กจ็ ะสามารถนาประโยชน์ของไอทมี าใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนส์ ูงสุด เกดิ ประสทิ ธภิ าพในการปฏิบัตงิ าน และได้ผลลัพธต์ ามเปา้ หมายที่ต้องการ บุคลากรทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั ไอที เชน่ ผู้ใชง้ าน ชา่ งเทคนคิ นักวเิ คราะหร์ ะบบ โปรแกรมเมอร์ มีหนา้ ทีแ่ ละลกั ษณะ การทางานทแ่ี ตกต่างกัน ตัวอย่างอาชพี และลักษณะงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ไอทีดงั แสดงในตารางท่ี 1.1

Digital พ้นื ฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.3 บุคลากร (People)

Digital พืน้ ฐานเก่ยี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.3 บคุ ลากร (People) บุคลากรทม่ี คี วามรู้ ความเชีย่ วชาญดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ จะเปน็ ท่ีตอ้ งการของภาค ธรุ กิจมากข้นึ เนือ่ งจากเทคโนโลยเี ข้ามามีบทบาทในการเปลยี่ นแปลงโลก ทุกสงิ่ อยา่ ง สามารถเชือ่ มต่อผ่านระบบอนิ เตอรเ์ นต็ ประกอบกบั ภาครัฐทีม่ ีนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) ออกมาสนับสนนุ ซง่ึ เป็นการขับเคล่ือนเศรษฐกิจของประเทศโดยการ นาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาใช้เพอื่ เพ่มิ ผลผลติ เพ่ิมผลงาน โดยใชเ้ วลาน้อยลง สร้าง มลู คา่ เพิม่ ให้แกส่ นิ ค้า และบรกิ ารต่างๆ เพือ่ ให้สามารถแข่งขันกบั ต่างชาติได้ อกี หนึ่งปจั จยั สาคัญท่ที าใหอ้ าชพี ดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทยมกี ารตนื่ ตวั มากขึน้ คือการ ก้าวสปู่ ระชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี นน่นั เอง

Digital พ้นื ฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.4 ข้อมูล ขอ้ มูล (Data) เป็นข้อเท็จจรงิ ต่างๆ ท่ีเกยี่ วกับบุคคล สถานท่ี สงิ่ ของ หรือเหตุการณ์ ท่ียงั ไม่ผา่ นการ ประมวลผล ขอ้ มูลเป็นองค์ประกอบท่มี ีความสาคญั เพราะการทางานของเทคโนโลยสี ารสนเทศจะเกย่ี วข้องกบั ขอ้ มูลต้งั แต่การนาเขา้ การประมวลผล เพือ่ ให้ได้ขอ้ มูลที่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ไดท้ เี่ รียกว่า สารสนเทศ (Information) ข้อมลู ทค่ี อมพิวเตอร์สามารถนามาประมวลผลได้ มีหลายรูปแบบ เช่น ตวั เลข ตัวอักษร ภาพน่งิ ภาพเคล่อื นไหว และเสียง ดังนี้ 3.4.1 ตัวเลข ตัวเลข (Numeric) เปน็ ข้อมูลทีเ่ ปน็ จานวน เชงิ ปรมิ าณ สามารถนามาคานวณได้ ซ่ึงอาจเปน็ ตัวเลขจานวนเต็ม หรือตัวเลขทศนยิ ม เชน่ จานวนเงิน จานวนคน อายุ ความสูง น้าหนกั 3.4.2 ตัวอักษร ตวั อกั ษร (Character) เปน็ ข้อมลู ตัวอกั ขระ ตวั เลข และสัญลกั ษณ์พิเศษ โดยข้อมูลท่เี ป็นตัวเลขจะไม่สามารถ นามาคานวณได้ แต่สามารถนามาจดั เรยี งลาดับ หรอื เปรยี บเทยี บได้ เช่น รหัสประจาตัว ชอ่ื นามสกุล ทีอ่ ยู่ รหัสผ่าน

Digital พน้ื ฐานเกยี่ วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.4 ขอ้ มลู 3.4.3 ภาพนง่ิ ภาพนิ่ง (Image) เป็นขอ้ มลู ภาพถ่าย ภาพวาด หรอื ภาพลายเสน้ จะประกอบ ดว้ ยจุดสีเลก็ ๆ ที่เรียกวา่ พิกเซล (Pixel) มารวมกนั ซ่งึ แตล่ ะจดุ เม่ือยู่ในตาแหนง่ ท่ีเหมาะสมจะกลายเปน็ ภาพท่ีมีลกั ษณะและขนาดแตกตา่ งกัน เช่น ภาพถ่ายของบคุ คล ภาพอาคารสถานที่ ภาพวาดการ์ตนู 3.4.4 ภาพเคลื่อนไหว ภาพเคลือ่ นไหว (Animation) เป็นข้อมลู ภาพและเสยี งประกอบกนั ซงึ่ การเคลอ่ื นไหวเกดิ จากการนาภาพน่งิ หลายๆ ภาพแสดงแบบต่อเนอ่ื งในเวลาท่รี วดเร็ว ทาให้เห็นเปน็ ภาพเคลือ่ นไหว เช่น ภาพยนตร์ คลปิ วิดีโอ สารคดี 3.4.5 เสียง เสยี ง (Audio) เป็นข้อมลู ในรปู ลักษณะความดัง และคลน่ื ความถี่ของเสียง เชน่ เสียงพดู เสียงเพลง เสยี ง ธรรมชาติ

Digital พืน้ ฐานเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.4 ขอ้ มลู ขอ้ มูลทุกรปู แบบที่นามาใช้กบั คอมพิวเตอร์นั้น จะถูกแปลงใหอ้ ยูใ่ นรูปแบบท่คี อมพิวเตอร์ สามารถเข้าใจ และนาไปประมวลผลได้ ซึ่งเป็นระบบตัวเลขฐานสองประกอบดว้ ยตัวเลขเพยี ง 2 ตัว คือ 0 และ 1 ท่เี รียกว่า ไบนารดี ิจติ หรือ บติ (Binary Digit : Bit) ในยคุ ของสังคม ดจิ ติ อลที่มีข้อมูลมากมายมหาศาล หลากหลายรปู แบบ องค์กรตา่ งๆ จาเปน็ อยา่ งยงิ่ ที่ต้อง อาศัยเทคโนโลยสี ารสนเทศเป็นเครอื่ งมอื ใชใ้ นการบรหิ ารจดั การขอ้ มูลด้านต่างๆ เพือ่ นามา วิเคราะห์ และประมวลผลให้เกดิ ประโยชนต์ ่อการตดั สินใจของผ้บู รหิ าร และตอ่ การดาเนนิ การ ขององค์กร

Digital พน้ื ฐานเกีย่ วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.5 กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน (Procedure) เป็นข้นั ตอนการทางานท่ีผู้ใช้จะตอ้ งปฏบิ ตั ิตาม เกย่ี วกบั การใช้ฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ หรอื ขอ้ มูล เพอื่ ให้ไดง้ านเฉพาะอย่างจากคอมพวิ เตอรอ์ ยา่ งถกู ต้อง และเกิดประโยชน์สงู สุด โดยทวั่ ไปกระบวนการทางานจะเขียนเป็นคมู่ ือการปฏบิ ัตงิ านทีช่ ัดเจน เชน่ คู่มือสาหรับผ้ใู ช้ คู่มอื การใช้งานโปรแกรม เพ่อื ให้ผใู้ ช้เกดิ ความเขา้ ใจสามารถปฏบิ ตั ิงานได้ถูกต้อง และเปน็ แนวทางเดยี วกนั

Digital พน้ื ฐานเกี่ยวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.6 การสอื่ สารขอ้ มลู การสื่อสารขอ้ มลู (Data Communication) เป็นการเช่ือมตอ่ คอมพิวเตอรห์ รอื อปุ กรณไ์ อทีตา่ งๆ เพ่อื ทาให้ เกิด การแลกเปลย่ี นซอฟต์แวร์ และขอ้ มูลสารสนเทศกนั อยา่ งแพร่หลาย ช่วยขยายขีดความสามารถ และ ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศไปได้มากข้นึ การสือ่ สารขอ้ มูลมที ง้ั แบบทใ่ี ชส้ าย เชน่ สายโทรศัพท์ สาย เคเบิล สายใยแกว้ นาแสง และการสอ่ื สารแบบไร้สายที่นยิ มใชใ้ นปจั จบุ ัน เช่น ระบบ Wi-Fi ระบบ 3G และระบบ 4G เป็นต้น

Digital 4.การประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารในการพฒั นาประเทศ ในยคุ ท่ขี ้อมูลข่าวสารไหลเวียนไปท่ัวโลกอยา่ งไม่มีขดี จากัด เทคโนโลยีสารสนเทศจึงเป็นเครอื่ งมือสาคญั ทที่ าให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงของโลกในหลายๆ ด้าน รวมถงึ ด้านเศรษฐกจิ และสงั คม อนั นาไปสู่การปรบั ตวั เพ่อื ให้เกิดความสามารถในการแขง่ ขันท่ามกลางกระแสโลกาภิวตั น์ ทุกประเทศทั่วโลกกาลังมงุ่ สูก่ ระแสของการเปล่ียนแปลงที่เรียกว่า สงั คมแหง่ ความรู้ (Knowledge Society) ซง่ึ ตอ้ งให้ความสาคญั ตอ่ การใชค้ วามรู้ และนวตั กรรมท่ีเปน็ ปัจจัยของการพฒั นา และการผลิต มากกวา่ การใช้เงินทุน และแรงงาน ความเจริญกา้ วหน้าของเทคโนโลยีสนเทศสามารถนามาประยกุ ตใ์ ช้ และเปน็ เคร่อื งมือท่ีสนบั สนุน การดาเนินการทกุ ด้าน ทุกสาขาทั้งภาครฐั และเอกชน การพัฒนาสังคม และคณุ ภาพชวี ิตของประชาชน โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในดา้ นของ การจดั ใหบ้ รกิ ารสังคมพน้ื ฐาน ได้แก่ ดา้ นการศกึ ษา ด้านอตุ สาหกรรม ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านการแพทย์ และดา้ นสังคมอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

Digital พื้นฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ

Digital 4.1ด้านการศึกษา ด้านการศกึ ษา มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชเ้ ปน็ เครื่องมอื ถา่ ยทอดความรู้ และการ จัดการเรยี นการสอน ผ้เู รยี น สามารถเขา้ ถึงความรูไ้ ดท้ ุกที่ ทุกเวลา เอื้อต่อการเรยี นรู้ทเ่ี ปน็ การ เรยี นรู้ตลอดชีวิต รวมถงึ การเรยี นรูท้ างไกลท่ีไม่จากดั สถานทใ่ี นการเรียนรู้ อาจจะเรียนท่บี า้ น หรอื เรียนในสถานศกึ ษากไ็ ด้ สามารถนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยกุ ต์ดา้ นการศึกษา ดงั นี้ 4.1.1 การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ การเรยี นการสอนแบบออนไลน์ (E-Learning) เปน็ การจดั การเรียนการสอนผ่านเครอื ขา่ ย อินเตอร์เนต็ ท่ผี ูเ้ รยี นสามารถเขา้ ไปศกึ ษาเนอ้ื หาการเรยี น ทาใบงาน ทาแบบฝึกหดั และทา แบบทดสอบ ไดด้ ว้ ยตนเองทกุ ที่ ทกุ เวลา ผู้สอนสามารถประเมินผลการเรยี นและการปฏบิ ัตงิ าน ไดแ้ บบทนั ที เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนแตล่ ะคนทราบจดุ บกพร่องของตน และสามารถนากลบั ไปปรบั ปรงุ พัฒนาได้

Digital 4.1ดา้ นการศึกษา 4.1.2 การเรยี นการสอนผา่ นการประชุมทางไกลดว้ ยวดิ ีทศั น์ การเรยี นการสอนผ่านการประชุมทางไกลด้วยวิดที ศั น์ (Video Teleconference) เป็นการ นาเอาระบบการประชุมด้วยภาพและเสยี งมาถ่ายทอดการสอนครผู สู้ อนไปยังผู้เรยี นทอี่ ยู่ห่าง ไกลกัน ทาใหผ้ เู้ รียนและผู้สอนสามารถตดิ ตอ่ กันไดท้ ันที ผูเ้ รียนสามารถเหน็ การเคล่ือนไหว และ ได้ยนิ เสียงของผู้สอนได้เสมอื นอย่ใู นห้องเรยี นเดียวกัน ลดปัญหาการเหลือ่ มลา้ ทางการศกึ ษาได้ เปน็ อย่างดี 4.1.3 การเรยี นการสอนด้วยเทคโนโลยีไรส้ าย การเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยไี ร้สาย (M-Learning) เปน็ การเรียนการสอนที่นาเสนอเนือ้ หา การเรียน และกิจกรรมการเรยี นการสอนโดยใชโ้ ทรศัพทเ์ คลือ่ นท่ี หรอื คอมพวิ เตอรแ์ บบพกพาท่ี เชื่อมต่อกนั แบบไรส้ าย ช่วยสร้างโอกาสในดา้ นการเรยี นร้ใู หม่ๆ ให้กบั ผู้เรยี น ทาให้ การเรยี นรู้ ไม่ถูกจากัดอย่เู ฉพาะในห้องเรียน สามารถสรา้ งปฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างผเู้ รียนกบั ผสู้ อนหรอื เพื่อน รว่ มช้นั เรียนได้ทันที ผ่านทางการสนทนา การส่งขอ้ ความ การส่งไฟลร์ ปู ภาพ

Digital พื้นฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ

Digital 4.2 ด้านอุตสาหกรรม ด้านอตุ สาหกรรม มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อเพมิ่ ประสิทธภิ าพในการผลิตและการบริหาร จัดการ ส่งผลให้สามารถผลติ ผลิตภัณฑ์ไดร้ วดเร็ว มคี ุณภาพสงู ข้นึ แต่ตน้ ทนุ ตา่ ลง ช่วยเพ่มิ ประสิทธิภาพ การทางานในองค์กรให้ทันกบั ความต้องการของตลาด ตัวอยา่ งการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ ด้านอตุ สาหกรรม มีดงั น้ี 4.2.1 ระบบการวางแผนทรัพยากรขององค์กร ระบบการวางแผนทรัพยากรขององค์กร (Enterprise Resource Planning : ERP) เป็นระบบทน่ี ามาใช้ใน การจดั การ และวางแผนการใช้ทรพั ยากรต่างๆ ของโรงงานอุตสาหกรรม โดยเชอ่ื มโยงข้อมูลของทุกแผนก ไว้ท่ศี นู ย์กลาง เชน่ การจดั ซ้อื การผลติ การเกบ็ รกั ษา การขาย จนถึงการขนส่งสินคา้ ใหล้ กู คา้ สามารถ ตรวจสอบสถานะของขอ้ มูลได้แบบทันที ช่วยให้โรงงานสามารถบริหารทรพั ยากรได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ทง้ั ยงั ชว่ ยลดเวลาและข้ันตอนการทางานได้

Digital 4.2 ด้านอุตสาหกรรม 4.2.2 ระบบคลังสนิ ค้าอตั โนมตั ิ ระบบคลงั สินคา้ อัตโนมัติ (Automatic Storage and Retrieval System : ASRS) เป็น ระบบท่ีนามาใช้ในโรงงานอตุ สาหกรรมในการจดั เกบ็ และเคล่ือนยา้ ยสนิ คา้ ดว้ ยระบบ อัตโนมตั ิ ที่ทาได้อย่างรวดเรว็ และแมน่ ยา และยงั ลดอุบัตเิ หตุท่ีจะเกดิ กบั ผูป้ ฏิบตั ิงาน เชน่ อบุ ตั ิเหตุจากการตกจากที่สงู และอุบตั เิ หตจุ ากการร่วงหลน่ ของสนิ ค้า 4.2.3 หุ่นยนต์อตุ สาหกรรม หุน่ ยนต์อุตสาหกรรม (Industrial Robots) เป็นการนาห่นุ ยนต์มาใช้ในงานท่ีต้องเสยี่ งภยั และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น โรงงานผลติ ยา โรงงานผลติ สารเคมี หรอื ใช้ในการหยบิ จบั ช้นิ งาน การเชื่อมต่อ การยึดจบั ด้วยสกรู และการใชง้ านอน่ื ๆ ท่ีตอ้ งทาดว้ ยความละเอยี ด ถูกตอ้ ง และรวดเรว็ เชน่ โรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานที่ผลิตอุปกรณข์ นาดเลก็ เช่น ไมโครชิป

Digital พื้นฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ

Digital 4.3 ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านเศรษฐกจิ ไดน้ าเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ และเพิ่มขดี สามารถใน การแขง่ ขนั ทัง้ ภาคการผลติ และบริการ ภาคการเงนิ การคลงั ท้งั ภายในประเทศ และเพอ่ื การส่งออก ต่างประเทศ อีกท้ังยังนาไปใช้ในการ พฒั นาเศรษฐกิจชมุ ชนวสิ าหกิจ ดังน้ี 4.3.1 พาณชิ ยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ พาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-Commerce) นามาใช้ในการดาเนนิ ธุรกจิ อยา่ งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ เรียกวา่ เอสเอม็ อี (SMEs) เปน็ การค้าขายผา่ นสอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ทีท่ าให้ผปู้ ระกอบการธรุ กจิ และผบู้ รโิ ภค สามารถโฆษณา นาเสนอ ซอื้ ขาย แลกเปลีย่ น ส่งสนิ คา้ ชาระเงิน และแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ไดส้ ะดวกตลอดเวลา ผ่านระบบอตั โนมตั ิ ทาให้ลดตน้ ทุน ลดเวลา ลดคา่ ใชจ้ ่ายในการเดินทาง เพิ่มชอ่ งทางการตลาด รวมถึงสามารถ เข้าถึงลูกคา้ ได้ท่ัวโลก 4.3.2 ระบบธุรกิจอัจฉริยะ ระบบธุรกิจอจั ฉรยิ ะ (Business Intelligence : BI) นามาใช้เป็นเคร่อื งมอื ใน การจดั ทารายงานเพื่อการ วิเคราะห์ข้อมลู ในรูปแบบตา่ งๆ เพือ่ ชว่ ยในการตัดสนิ ใจ พร้อมแจ้งผลแบบออนไลน์ เพ่อื ประโยชนใ์ นการ วางแผนกลยุทธ์ ตอบปัญหาเชงิ ธรุ กจิ สามารถตอบสนองความตอ้ งการของลกู ค้าใหเ้ กดิ ความพงึ พอใจสงู สดุ

Digital พื้นฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ

Digital 4.4 ดา้ นการแพทย์ ด้านการแพทยม์ ีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาด้านแพทยแ์ ละสาธารณสขุ อยา่ งกวา้ งขวาง เช่น ดา้ นการบรหิ ารจดั การภายในโรงพยาบาล ด้านการรกั ษาพยาบาล การใหค้ าปรกึ ษาทางไกลโดยแพทย์ ผเู้ ชยี่ วชาญ การแลกเปลยี่ นข้อมลู ของผ้ปู ว่ ยทาได้อย่างสะดวกรวดเรว็ ตัวอยา่ งการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมา ประยกุ ตใ์ ชด้ า้ นการแพทย์มีดงั น้ี 4.4.1 ระบบแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เป็นระบบการรกั ษาผ้ปู ว่ ยที่อยู่หา่ งไกล ในถิ่นทุรกนั ดารที่ตอ้ ง ปรึกษาแพทย์ผ้เู ช่ียวชาญเฉพาะโรคที่อยอู่ ีกทห่ี น่งึ ผา่ นระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพอื่ ติดต่อสอื่ สาร และส่งข้อมลู ท่ีจาเป็นในการกั ษา เช่น อาการ การเตน้ ของหวั ใจ ฟิลม์เอ็กซเ์ รย์ ทาให้แพทยส์ ามารถวนิ จิ ฉัยอาการ และให้ คาปรกึ ษาจากทางไกลได้เหมอื นอยทู่ ่เี ดยี วกนั ระบบแพทยท์ างไกลทาใหเ้ กดิ ความเท่าเทียมกันในดา้ นคุณภาพ ชวี ิตของประชาชนมากข้ึน ลดปญั หาขาดแคลนบุคคลกรทางการแพทย์ท่ีเชยี่ วชาญ และลดคา่ ใชจ้ ่ายด้าน สาธารณสุขของรัฐบาล 4.4.2 การผ่าตดั จากระยะไกล (Telerobotic Operation) เป็นการผา่ ตดั ขนาดเล็กโดยใช้หนุ่ ยนต์ ท่ถี ูกควบคมุ การทางานจากคณะศลั ยแพทยท์ ่อี ยหู่ า่ งไกลจากโรงพยาบาลทผี่ ู้ปว่ ยเขา้ รับ การผ่าตดั การผ่าตัดจากระยะไกล โดยหนุ่ ยนตเ์ กดิ ขึน้ ครง้ั แรกในประเทศแคนาดา ซง่ึ ถือว่าเปน็ ความสาเร็จและความกา้ วหนา้ ด้านสาธารณสขุ ท่ีถกู จารึกไวใ้ นประวตั ิศาสตรก์ ารแพทย์ของโลก

Digital พื้นฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ

Digital 4.5 ด้านสังคม ดา้ นสงั คมมีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นการพฒั นาคนในสงั คมใหเ้ กิดการเรยี นรทู้ ่ีสร้างสรรค์ เข้าถึง แหลง่ ความรแู้ ละแหลง่ ขอ้ มลู ได้มากและรวดเรว็ ซ่ึงเปน็ กลไกทสี่ าคัญในการสรา้ งเครือขา่ ยการเรียนรตู้ า่ งๆ ให้ เกดิ ข้ึนในชมุ ชน ในการนาความรู้ตา่ งๆ เหล่านไี้ ปพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ช่วยลดช่องวา่ งระหวา่ งกลุ่มคนในสังคม ตัวอย่างการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกตใ์ ช้ดา้ นสงั คมมีดังน้ี 4.5.1 รัฐบาลอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-Government) เป็นวธิ กี ารบริหารจดั การภาครฐั สมยั ใหม่ เพ่ือเพิม่ ประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลในการบรกิ ารสารสนเทศระหว่างหนว่ ยงานภาครฐั รวมท้ังการใหบ้ รกิ ารแก่ ประชาชน เช่น การชาระภาษี การจดทะเบยี น การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชนแบบออนไลน์ การคน้ หา ข้อมลู ของรฐั ผ่านเวบ็ ไซต์ เพ่ือเปน็ ชอ่ งทางอานวยความสะดวกดา้ นงานบรกิ ารประชาชน ซึ่งจะชว่ ยลดปญั หา ความเหลอ่ื มล้า และสรา้ งโอกาสใหป้ ระชาชนสามารถเข้าถงึ บรกิ ารของภาครัฐได้อย่างท่วั ถึง และเท่าเทยี มกัน 4.5.2 ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ (Geographic Information System : GIS) เป็นระบบที่รวบรวมและประมวลผลข้อมลู ทางภูมิศาสตรด์ ้วยการ ระบุตาแหน่งบนผิวโลกโดยใชอ้ ปุ กรณ์ จีพีเอส (Global Positioning System : GPS) ซ่ึงจะนาไปรวบรวมพร้อม กบั ข้อมลู ด้านตา่ งๆ เช่น แผนท่ี ภาพถา่ ยทางอากาศ ภาพถา่ ยจากดาวเทยี ม หรอื ขอ้ มลู จราจร เพ่อื นามาเป็น ขอ้ มูลพ้นื ฐานในการพฒั นาเชิงพนื้ ท่ี ผังเมือง การพยากรณอ์ ากาศ การเกษตรกรรม

Digital พื้นฐานเก่ยี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ

Digital สรปุ สารระสาคญั เทคโนโลยีสารสนเทศ คอื การประยกุ ตใ์ ชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคมมาจัดการสารสนเทศ ตัง้ แต่การผลติ การจัดเก็บ การสบื คน้ การจัดการ การสอ่ื สาร และการเผยแพร่ขอ้ มลู เพือ่ เพม่ิ ประสทิ ธิภาพ ความถกู ต้อง รวดเรว็ ทันตอ่ การนาไปใช้ประโยชน์ ดงั น้นั เทคโนโลยีสารสนเทศจงึ เปน็ เครอ่ื งมอื สนับสนุนในการ ดาเนินกจิ กรรมตา่ งๆ ในทกุ วงการ และไดก้ ลายเปน็ ส่วนหนึง่ ใน การดาเนินชีวติ ประจาวันของมนุษยด์ ว้ ย เทคโนโลยสี ารสนเทศเปน็ การนาเอาเทคโนโลยีคอมพิวเตอรม์ าทางานรว่ มกับเทคโนโลยีการสอ่ื สาร ประกอบด้วยองค์ประกอบ 6 ส่วน คือฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร ขอ้ มลู กระบวนการทางาน และการสือ่ สาร ข้อมูล ประเทศไทยไดต้ ระหนกั ถงึ ความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศทีส่ ามารถนามาประยุกต์ใช้ และเป็นเครอื่ งมือ ที่สนบั สนนุ การดาเนนิ การทกุ ด้าน ทกุ สาขาทั้งภาครัฐและเอกชน การพฒั นาสังคม และคณุ ภาพชีวิตของ ประชาชน ทิศทางของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตนั้นมีการเปล่ยี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ การปรับตัวใหท้ ันกับ ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศเปน็ สงิ่ จาเป็นอยา่ งมาก ท้ังในระดับบคุ คล องค์กรภาครฐั และ ภาคเอกชน เพอื่ พัฒนาประเทศมุง่ สสู่ งั คมอดุ มปญั ญาหรอื ทเี่ รยี กวา่ สมารท์ ไทยแลนด์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook