Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore The-future-people-tools-happiness-2019-Teacher-Suwanna

The-future-people-tools-happiness-2019-Teacher-Suwanna

Published by 4.0.khonthai, 2020-06-09 05:26:25

Description: The-future-people-tools-happiness-2019-Teacher-Suwanna

Search

Read the Text Version

1 โครงการ: คนไทย 4.0 หัวขอ้ : อนาคต คน เครอื่ งมอื ความสุข ผู้เขยี น: ศ.ดร.สุวรรณา สถาอานันท์ ผู้นาเสนอ: ศ.ดร.ยศ สันตสมบัติ โรงแรมคนั ทารี เชียงใหม่ 21 กนั ยายน 2562 9.00-9.30น. ก่อนอน่ื ตอ้ งขอขอบคณุ ท่านอาจารยย์ ศเป็นอยา่ งสงู ท่กี รุณามาสละเวลามาอา่ นขอ้ พนิ ิจนีแ้ ทนดิฉนั ท่ีเกดิ เหตจุ าเป็น ไมอ่ าจมารว่ มงานดว้ ยตนเองได้ ดิฉนั เช่อื วา่ อาจารยย์ ศจะทาใหเ้ นอื้ ความท่ีอา่ นมีชวี ติ ชวี าจากแงม่ มุ ท่ีนา่ ตืน่ เตน้ ของอาจารยย์ ศ เอง และขอขอบคณุ ทา่ นอาจารยม์ ง่ิ สรรพ์ ท่ชี วนดิฉนั มาบรรยายพเิ ศษหวั ขอ้ อนาคตประเทศไทย คาเชิญของอาจารยม์ ่ิงสรรพม์ ีความหมายมากเป็นพเิ ศษสาหรบั คนอยา่ งดฉิ นั ซง่ึ ใชเ้ วลาสว่ นใหญ่ในชวี ิตทาง วชิ าการพยาพยามทาความเขา้ ใจและสรา้ งบทสนทนากบั นกั คิดยคุ โบราณท่ที างานทางปัญญาและโลดแล่นอยใู่ นโลกนมี้ านาน กวา่ 2000 ปีแลว้ ทงั้ สนิ้ ไมว่ า่ จะเป็นบรมศาสดาอยา่ งพระพทุ ธองค์ ศาสดาพยากรณอ์ ยา่ งพระเยซู หรือครูเอกชนคนแรกใน ประวตั ศิ าสตรจ์ ีนอยา่ งทา่ นขงจ่ือ (ปีท่พี ระพทุ ธองคท์ รงดบั ขนั ธป์ รนิ พิ พานนนั้ ขงจ่ืออายุ 8ปี) ในหม่ทู า่ นทงั้ สามนีค้ นท่อี ายุ นอ้ ยสดุ เกดิ เม่ือ ค.ศ.1 คาถามท่นี า่ ฉงนคอื เพราะเหตใุ ด คาถามในโครงการวจิ ยั เก่ียวอนาคตประเทศไทยในศตวรรษท่ี 21 จงึ เชิญคนศกึ ษา คมั ภรี โ์ บราณในโลกตะวนั ออกอย่างดิฉนั มารว่ มสนทนาดว้ ย? ดิฉนั รูส้ กึ ซาบซงึ้ และเป็นเกียรติอยา่ งยง่ิ ท่ีทา่ นอาจารยม์ ่ิงสรรพส์ นใจท่จี ะมองยอ้ นกลบั ไปนานขนาดนนั้ เพ่อื หาภาษา และวิธีทาความเขา้ ใจสิ่งท่ียงั ไม่เกดิ ขนึ้ ท่เี รียกวา่ อนาคตประเทศไทย ในโครงการท่ชี ่ือวา่ คนไทย4.0 ดฉิ นั ขอตงั้ ขอ้ สงั เกตเบอื้ งตน้ วา่ มวี ิธีพดู ถงึ อนาคตหลายแบบดว้ ยกนั แต่ดิฉนั ขอแจกแจงออกเป็น2แบบใหญ่ 1) แบบวิเคราะหแ์ นวโนม้ ท่ีนา่ จะเกดิ ขึน้ ในอนาคตโดยอาศยั หลกั ฐานจากขอ้ มลู เชงิ ประจกั ษใ์ นสภาพการณป์ ัจจบุ นั (แนว descriptive) จดุ ม่งุ หมายหลกั ของงานลกั ษณะนีไ้ มใ่ ชเ่ พ่อื ชีน้ าในเชงิ คณุ ค่า เชน่ จะไมแ่ สดงความห่วงหา อาลยั วา่ ในอนาคต ศีลธรรมของคนรุน่ ใหม่จะเสอื่ มทรามจนนา่ เป็นหว่ ง เวลาพดู วา่ เสอื่ ม แปลวา่ มบี รรทดั ฐาน บางอยา่ งในใจ และส่ิงท่ีกาลงั เกดิ ขึน้ นนั้ ต่า กว่าบรรทดั ฐานท่ตี งั้ ไว้ งานลกั ษณะนจี้ ะเป็นแนว เมกกะเทรน (Mega-trend) ท่พี ยายามมองแนวโนม้ ระดบั โลก ตอนนเี้ ล่มท่มี ชี อ่ื สียงเล่มหนง่ึ คือการวเิ คราะห์ การขนึ้ เป็น ผนู้ าของจนี ในฐานะมหาอานาจของโลก เช่น หนงั สือ When China Rules the World ของ Martin Jacques งานแบบนชี้ นี้ า ความนา่ จะเป็น (probability)มิใช่ชนี้ าเชงิ บรรทดั ฐานวา่ อะไรถูกผดิ ดชี ว่ั 2) แบบสรา้ งคาอธิบายเกี่ยวกบั ส่งิ ท่จี ะเกดิ ขึน้ ในอนาคตโดย “อา่ น” เหตกุ ารณต์ า่ งๆในปัจจบุ นั ดว้ ยแวน่ ตาหรือ บรรทดั ฐานบางอยา่ ง มีนยั เชงิ ประเมนิ คา่ (normative) เชน่ การท่ขี งจ่ือ อ่านยคุ สมยั ปลายชนุ ชิวว่าเป็นยคุ เสอื่ ม ของวฒั นธรรมการปกครองของราชวงศโ์ จว เชน่ แมใ้ นการแขง่ ขนั ยงิ ธนู ขงจ่ือตงั้ ขอ้ สงั เกตวา่ คนไมเ่ ขา้ ใจว่าท่จี ดั แข่งขนั ยงิ ธนกู เ็ พ่อื สรา้ งความสมั พนั ธท์ ่ดี ี ใหค้ นไดค้ นุ้ เคยกนั แต่คนสมยั ขงจ่ือกลบั ใหค้ วามสาคญั แก่การใชก้ าลงั คือกลบั สนใจว่า ลกู ธนขู องใครทะลเุ ป้าลกึ กวา่ กนั แสดงว่าพวกเขาสนใจเพียงวา่ ใครเป็นผชู้ นะและชนะเพราะมี กาลงั มากกวา่ เป็นการใหค้ ณุ คา่ แก่การใชก้ าลงั มใิ ชค่ วามสมั พนั ธ์ท่ดี ี เวลาเราอา่ นงานทางประวตั ศิ าสตร์ ท่ี

2 แบง่ ยคุ สมยั ตา่ งๆ ดว้ ยวลี ประเภท ยคุ ทอง ยคุ เส่อื ม ยคุ มืด ก็มนี ยั เชิงประเมนิ คา่ หรอื มีบรรทดั ฐานบางอยา่ งอยู่ เชน่ การมีอานาจปกครองครอบงาอาณาบรเิ วณท่กี วา้ งขวางกถ็ ือวา่ เป็นยคุ ทอง เป็นตน้ วนั นจี้ ะพดู ถงึ นยั ต่อ “อนาคตของมนษุ ย”์ ดว้ ย กรอบหรือนิยามความเป็น คนท่ปี รากฎในหลกั คิดสากล 4 แบบหลกั ทงั้ นที้ า่ นอาจารยย์ ศอาจจะเพิ่มประเด็นเก่ียวกบั อนาคตคนไทยใหค้ มชดั ขึน้ ไดอ้ ยา่ งดี หลกั คิดเกี่ยวมนษุ ยท์ งั้ 4 แบบนกี้ าลงั แหวกวา่ ยอยใู่ นมหาสมทุ รแห่งเทคโนโลยี ท่มี ใิ ชเ่ ครอื่ งมือ ในแงเ่ ครื่องใชไ้ ม้ สอยธรรมดาอกี ตอ่ ไป แต่คือสภาพแวดลอ้ มของชวี ิตท่ีมสี ว่ นกาหนดและทา้ ทายความเป็นคนในศตวรรษท่2ี 1นี้ สว่ นต่อไปจะแจกแจงโดยสงั เขปว่าหลกั คดิ เกี่ยวกบั มนษุ ย์ 4 แบบหลกั ท่วี า่ ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง 1) แบบท่พี ฒั นามาจากแนวคิดท่นี บั ถือพระเจา้ องคเ์ ดยี ว มนษุ ยค์ ือ ฉายาของพระเจา้ การคดิ เกี่ยวกบั มนษุ ย์ แบบนเี้ นน้ ความแตกตา่ งระหวา่ งมนษุ ยก์ บั สรรพสตั ว์ มแี ตม่ นษุ ยเ์ ทา่ นนั้ ท่ไี ดร้ บั ลมปราณจากพระเจา้ พระ เจา้ ให้ พรแก่มนษุ ย์ 4 อย่างไดแ้ ก่ ชีวิตในฐานะสงิ่ สรา้ ง ฉายาพระเจา้ สิทธิอานาจเหนอื สรรพสตั ว์ และ เจตจานงคเ์ สรี เร่ืองใหญ่สาหรบั มนษุ ยค์ อื ศกั ดศิ์ รี (human dignity) ท่ตี อ้ งแยกต่างจากสรรพสตั ว์ (ประสบการณน์ าซีฆา่ ลา้ งเผา่ พนั ธชุ์ าวยิวในชว่ งสงครามโลกครงั้ ท2่ี ทาให้ คาถามเก่ียวกบั ศกั ด์ิศรมี นษุ ย์ เป็นสง่ิ ท่ตี อ้ งไม่อาจละเมิดได้ เทคโนโลยชี ีวภาพกาลงั ทาใหเ้ กิดขอ้ กงั วลอยา่ งลกึ ซงึ้ เก่ยี วกบั การปกป้อง ศกั ดศ์ิ รนี ใี้ นปัจจบุ นั และจะรุนแรงมากขึน้ ในอนาคต) 2) แบบท่พี ฒั นามาจากยคุ แสงสวา่ งแหง่ ภมู ปิ ัญญา คอื แบบเอมมานเู อล คา้ นท์ ในวธิ ีคิดนี้ เราเป็นมนษุ ยเ์ ม่ือ เรา มเี หตผุ ล มีเสรภี าพ เลือกได้ และมีความรบั ผิดชอบ น่คี อื ตน้ แบบฐานคดิ เกี่ยวกบั มนษุ ยเ์ วลาเราพดู ถงึ คนในสงั คมสมยั ใหม่ และในสงั คมประชาธิปไตย เวลาหลกั คิดเกยี่ วกบั ประชาธิปไตยพดู ถึงคณุ คา่ หลกั 3 ประการ เสมอภาค เสรภี าพ และภราดรภาพ คนท่ดี ารงและดาเนนิ คณุ คา่ ทง้ั 3หลกั คอื คนแบบท่คี า้ นทค์ ดิ 3) แบบท่มี องวา่ มนษุ ยค์ ือรูปลกั ษณช์ ีวิตท่ยี ืดหย่นุ เลื่อนไหลระหว่างรูปลกั ษณช์ วี ิตอื่นๆอนั หลากหลาย มนษุ ย์ มหี ลายชาติภพ เวยี นวา่ ยตายเกดิ ในวฏั ฏะ ของสรรพส่ิงในจกั รวาล น่คี อื ตน้ แบบมนษุ ยท์ ่พี ฒั นาขนึ้ ในอารย ธรรมชมพทู วีป (แนน่ อน มคี าสอนท่แี ตกตา่ งกนั ระหว่างศาสนาฮนิ ดู และแบบพทุ ธศาสนา ซง่ึ จะยงั ไม่ อธิบายในท่นี )ี้ แนวคดิ หลกั ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั มนษุ ยค์ อื ทกุ ข์ กรรม โมฆษะ(การหลดุ พน้ ) มใิ ช่ การมเี หตผุ ล เสรีภาพ การเลือกและความรบั ผดิ ชอบ ของปัจเจกบคุ คลท่เี นน้ ความแตกตา่ งจากสรรพสตั วอ์ ่นื ถา้ ถือว่า สงั คมไทยมลี กั ษณะเป็นสงั คมพทุ ธ แนวคิดเกี่ยวกบั คนท่พี ฒั นาขนึ้ ในชมพทู วีปแบบนนี้ ่าจะเนน้ การ ชว่ ยเหลือเกือ้ กลู กนั และการมีความเหน็ ใจเมตตาระหว่างมนษุ ยแ์ ละสรรพสตั วม์ ากกวา่ เนน้ การเคารพสิทธิ ของปัจเจกบคุ คลท่ใี ชเ้ หตผุ ลและเท่าเทยี มกนั กลา่ วคอื คนในคตคิ ดิ แบบไทยพทุ ธ มใิ ช่ คน ท่เี นน้ ลกั ษณะ เดียวกบั คนสมยั ใหม่ท่เี ป็นผถู้ ือคบไฟประชาธิปไตย (ทง้ั นี้ มิไดห้ มายความวา่ คนไทยหรือสงั คมไทยจะ สมาทานหรือเลอื กเดนิ ทางประชาธิปไตยไมไ่ ด้ เพยี งแต่บอกวา่ จดุ เนน้ ในแต่ละระบบคดิ เกี่ยวกบั มนษุ ยน์ น้ั แตกตา่ งกนั ) 4) แบบท่นี ยิ ามว่ามนษุ ยค์ ือ ภาวะความสมั พนั ธช์ ดุ ตา่ งๆ มี 5 ชดุ หลกั ไดแ้ ก่ บิดา-บตุ ร สาม-ี ภรรยา พ่-ี นอ้ ง เพ่อื น-เพ่อื น ผปู้ กครอง-ประชาราษฎร์ น่คี อื วธิ ีคดิ แบบขงจ่ือ ท่ไี ม่เนน้ ปัจเจกบคุ คลท่เี ทา่ เทยี มกนั และใช้

3 เหตผุ ลแต่เนน้ ความกลมเกลียวสมดลุ ของความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคนท่ไี มเ่ ทา่ เทยี มกนั อาจจะยกเวน้ กรณี เพ่อื นกบั เพ่อื น วธิ ีคดิ เกี่ยวกบั มนษุ ย์ ทง้ั 4แบบนกี้ าลงั เผชิญหนา้ ต่อกรกบั พลงั ทข่ี บั เคล่ือนทกุ อณขู องชวี ิตใน ปัจจบุ นั ท่ี กาหนดทศิ ทางของสงั คมไทยและสงั คมโลก ไมว่ ่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม ตวั ละครหลกั ท่ที า หนา้ ท่ขี บั เคล่ือนนา่ จะเป็น ทนุ นิยม ท่สี นบั สนนุ ความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที กุ ดา้ น โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ชีวเทคโนโลยี ( Bio-technology) และ เทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information Technology) เพ่อื ความกระชบั ในการพดู ถึงเรื่องทซ่ี บั ซอ้ นกวา้ งขวางมาก และแปรเปลย่ี นอยตู่ ลอดเวลา ดฉิ นั จะอาศยั กรอบอธิบายของ ฟรานซิส ฟคุ ยุ ามะ เกีย่ วกบั เทคโนโลยีสองดา้ นนี้ โดยเฉพาะนยั ท่มี ตี ่อการ คดิ ถงึ ความเป็นมนษุ ยใ์ นอนาคต ในหนงั สือ Our Post Human Future: Consequences of the Biotechnology Revolution 2003 (ดฉิ นั เขา้ ใจดวี า่ ยงั มงี านทใ่ี หม่ลา่ สดุ กวา่ นี้ แตค่ งตอ้ งอาศยั โอกาส ตอ่ ไปในการศกึ ษาใครค่ รวญ) ฟคุ ยุ ามะเสนอวา่ ความเป็นคนของเรากาลงั ถกู ส่นั คลอนอยา่ งหนกั หน่วง จากสมรรถนะทางเทคนคิ ของเราท่จี ะ “สรรคส์ รา้ งมนษุ ยด์ ว้ ยใจปรารถนาของมนษุ ยเ์ อง” ในแง่หนง่ึ มนษุ ย์ กลายเป็นพระเจา้ ดว้ ยอานาจเทคโนโลยี คาวา่ post human คอื มนษุ ยท์ ่ไี ปพน้ จากขอ้ จากดั ตา่ งๆท่ี กาหนดมาจาก พระเจา้ ถา้ เช่ือแบบศาสนา หรือขอ้ จากดั ทางพนั ธุกรรมในกระบวนการววิ ฒั นาการของ ส่ิงมชี วี ติ ถา้ ไมเ่ ช่ือแบบศาสนา เชน่ ยนี สท์ ่เี ลอื กไมไ่ ด้ เป็นขอ้ จากดั สาคญั ของการบง่ ชคี้ วามเป็นมนษุ ย์ การ ตดั แตง่ เลอื กยีนส์ คดั สรรเอาเฉพาะท่ฉี ลาดเฉลยี ว แข็งแรงและงดงาม กาลงั จะสรา้ งมนษุ ยช์ นชน้ั ใหม่ท่สี บื ทอดความไดเ้ ปรียบไม่ใชเ่ พยี งทางเศรษฐกจิ แตเ่ ป็นความไดเ้ ปรียบทางพนั ธุกรรม ซ่งึ อาจทาใหค้ าถามเรอ่ื ง ความเทา่ เทียมทางสงั คมกลายเป็นเรอื่ งลา้ สมยั ในอนาคต น่าสงั เกตวา่ เม่ือมองจากฐานคดิ เกี่ยวมนษุ ยท์ ่ที รงอิทธิพลในโลกตะวนั ตก 2แบบแรก คาถามท่ีนา่ วิตกกงั วลย่ิงจะอย่ทู ่กี ารพยายามลากเสน้ แบง่ สแี ดง (ฟคุ ยุ ามะเรยี ก The red line)ท่หี า้ มกา้ วขา้ มเพราะจะ ทาลายศกั ด์ศิ รีของความเป็นมนษุ ยโ์ ดยสนิ้ เชงิ แต่หากมองจากฐานคดิ เก่ียวกบั มนษุ ยใ์ นกระแสอารยธรรม ตะวนั ออก เช่นในแบบชมพทู วปี และแบบจนี ขอ้ กงั วลเก่ียวกบั มนษุ ยใ์ นอนาตอาจจะอย่ทู ่คี วามออ่ นดอ้ ย ของความรูส้ กึ สมั พนั ธ์ ความเมตตาท่เี หือดแหง้ ความไม่เหน็ ไมย่ ห่ี ระต่อความทกุ ขข์ องผอู้ ่ืนหรือสตั วอ์ ่นื หรือของโลกธรรมชาติ หรอื ความไมใ่ ส่ใจเหน็ คณุ คา่ ของผอู้ น่ื ในการประกอบสรา้ งตวั ตนของเรา ในแงน่ หี้ าก มองจากมมุ ปรชั ญาตะวนั ออก ความล่มสลายของภราดรภาพ ของสมาชิกในสงั คม ความเส่อื มถอยของการ เกาะเกีย่ วทางสงั คม (social cohesion) เป็นพยาธิสภาพ เป็นราคาท่กี ารต่อสเู้ พ่อื ความเสมอภาคยอมจา่ ย ไปโดยไมย่ ่หี ระหรอื ไม่ พยาธิสภาพหรือความป่วยไขน้ สี้ ามารถเยยี วยาไดด้ ว้ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศหรือไม่ หรอื เทคโนโลยีสารสนเทศ ดงั เช่นโทรศพั ธม์ ือถือในองุ้ มือเรานน้ั เอง กาลงั ผลกั ดนั เราใหห้ า่ งเหินหมางเมิน ออกจากมนษุ ยต์ วั เป็นๆมากขนึ้ ในขา่ ว ซีเอนเอน ในอาทติ ยท์ ่ผี ่านมาในรายการของ Christian Amanpour มีการสมั ภาษณ์ อาจารย์ โลร่ี ซานโตส จากภาควชิ าจติ วิทยา มหาวิทยาลยั เยล ไดเ้ ปิดวชิ าทม่ี ีนกั ศกึ ษาลงเรียนมากท่สี ดุ ใน ประวตั ศิ าสตรก์ ว่า 100ปี ของมหาวิทยาลยั ช่ือ The Happiness Lab พบวา่ การใชม้ ือถือ สอื่ โซเชยี ลต่างๆ

4 นาพาชวี ิตนกั ศกึ ษาสู่ ภาวะซมึ เศรา้ เครียด เท่ยี วกบั เพ่อื นๆนอ้ ยลง datesระหวา่ งนกั ศกึ ษานอ้ ยลง ย่งิ เนน้ Me Me Me มากขึน้ กลบั มคี วามสขุ นอ้ ยลง อาจารยซ์ านโตสตงั้ ขอ้ สงั เกตวา่ นวตั กรรมเครือ่ งเอทเี อ็ม ท่ลี ด การเขา้ ควิ ในธนาคาร การขบั จา่ ยซือ้ ของผา่ นเนต็ โดยไม่ตอ้ งไปหา้ งหรอื ไปตลาดสดท่ีไดเ้ จอคนคนุ้ หนา้ ทกั ทายไตถ่ ามสารทกุ ขส์ ขุ ดบิ กนั นน้ั เอง การใชเ้ วลาในสื่อตา่ งๆวนั ละหลายช่วั โมง นาสู่ วิถีชีวติ ท่ีมี ปฏสิ มั พนั ธท์ างสงั คมลดลง ยมิ้ ทกั ทายคนท่ไี มร่ ูจ้ กั ท่ีเจอบนทอ้ งถนนลดลง ทกุ คนตอ้ งการใชเ้ วลานอ้ ยลงใน ทกุ กจิ กรรมในนามของ ประสทิ ธภิ าพ ประมวลไดภ้ าพเป็นชวี ติ ประจาวนั ท่มี ีปฏสิ มั พนั ธท์ างสงั คมนอ้ ยลง รูส้ กึ โดดเดี่ยวเปล่ียวเหงามากขึน้ เวลาเครียดวิตก หามนษุ ยต์ วั เป็นๆมาปรบั ทกุ ขใ์ นความสมั พนั ธใ์ กลช้ ิด สนทิ ซงึ้ ไดน้ อ้ ยลง โดยสรุปคือเกดิ คาถามวา่ เทคโนโลยสี ือ่ สารเป็นเครอ่ื งมือท่ชี ่วยเพม่ิ หรือลดโอกาสและ เง่อื นไขของความสขุ กนั แน่ ไม่ว่าสงั คมไทยจะเลอื กสมาทานแนวคดิ เกี่ยวมนษุ ยแ์ บบไหนท่แี จกแจงเป็นต๊กุ ตาใหเ้ หน็ ครา่ วๆใน ท่นี ี้ ดิฉนั เช่อื วา่ มนษุ ย์ มี ศกั ยภาพสาคญั ไดแ้ ก่ คิดได้ เลือกได้ ปรบั ปรุงตนได้ เรียนรูไ้ ด้ และส่ือสารได้ ศกั ยภาพทงั้ สี่นีไ้ ดส้ รา้ งสรรค์ ศิลปวทิ ยาการ พฒั นาอารยธรรม กอ่ กาเนดิ วิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี ทกุ สิ่งท่ี สรา้ งขนึ้ เหล่านกี้ เ็ น่อื งดว้ ยศกั ยภาพของเรา และตวั มนั เองกเ็ ป็นเง่อื นไขปัจจยั ของปัญหาใหม่ๆ ท่ที า้ ทาย ศกั ยภาพของเราต่อไป ดิฉนั มองยอ้ นอดตี ดว้ ยหวั ใจมงุ่ ส่อู นาคต อนาคตในแง่สภาวการณท์ ่จี ะเกดิ ขึน้ แบบ descriptive กค็ งจะมีแนน่ อน แตอ่ นาคตท่ีเรา อยากจะมที ศิ ทางท่กี าหนดรว่ มกนั คงตอ้ งเรม่ิ จากบรรทดั ฐานเชิงคณุ คา่ บางอย่าง มี normative principle บางประการท่บี ่งบอกความเป็นสงั คมเดียวกนั ท่มี ี เป้าหมายรว่ มกนั น่เี องคือเง่อื นไขท่เี ราจะบอกกบั ตวั เราไดด้ ีขึน้ วา่ เราอยากจะมีอนาคตแบบไหน และ อยากจะมีอนาคตนน้ั ไปเพ่ืออะไรกนั แน่ ความสขุ ความรกั เสรีภาพ ภราดรภาพ เสมอภาค พระผเู้ ป็นเจา้ หรือความหลดุ พน้ ทางจิตวิญญาณ เราจะทงิ้ คาถามเกี่ยวกบั เป้าหมายเหลา่ นไี้ ป เพือ่ สรา้ งอภิมหาอาณาจกั รแห่งเครือ่ งมอื เทา่ นน้ั หรอื ? ตอ้ งขออภยั ท่กี ารบรรยายในเชา้ นยี้ งั มาไมถ่ งึ อนาคตประเทศไทยตามโจทยข์ องอาจารยม์ งิ่ สรรพ์ ไดแ้ ตห่ วงั ว่าทง้ั หมดท่ีพดู มาจะเป็นประเด็นพนื้ ฐานท่มี ีประโยชน์ และหวงั วา่ ท่านอาจารยย์ ศ จะชว่ ยเตมิ สงิ่ ท่ยี งั ขาดดยไู่ ดเ้ ป็นอยา่ งดี ขอบคณุ ค่ะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook