เรอื่ ง กฎของนิวตนั ( Newton’s Laws) จดั ทาํ โดยนายสนั กาํ แพงกอรี ม.4/15 เลขท2ี่ 0 ครทู ี่ปรกึ ษา คณุ ครู สรภิ รณ์
กไอแซก นิวตนั ได้ทําการรวบรวมกฎการเคลือ่ นที่ทงั้ สามข้อไว้ในหนงั สอื Philosophiae Naturalis Principia Mathematica(Mathematical Principles of Natural Philosophy) ซง่ึ ตีพมิ พ์ครัง้ แรกในปี ค.ศ. 1687นิวตนั ใช้เพ่ืออธิบายและตรวจสอบการเคลือ่ นที่ของวตั ถแุ ละระบบทางกายภาพ ยกตวั อยา่ งเชน่ ในเลม่ท่ีสามของตํารา นิวตนั แสดงให้เหน็ วา่ กฎการเคลือ่ นท่ีเหลา่ นี ้รวมกบั กฎความโน้มถ่วงสากล และสามารถอธิบายกฎของเคปเลอร์เกี่ยวกบั การเคล่ือนท่ีของดาวเคราะห์ ดงั นนั้ เราจงึ นํามาสรุปทํารายงานเลม่ นีข้ นึ ้ เพื่อความเข้าใจที่งา่ ยขนึ ้ สนั กําแพง กอรี วันที่ 8/4/18
เรือ่ ง กฏของนวิ ตนั ขคาํ นําสารบัญ หนากฏนิวตนั ขอ แรก กกฏนวิ ตันขอ ทีส่ อง ขกฎนวิ ตันขอ ทส่ี าม 1บทสรุปกฏท้งั สามขอ 3บรรณานุกรม 5 7 8
1กฎขอแรกระบุวา ถาแรงลัพธ (ผลรวมของแรงท้งั หมดทีก่ ระทาํ ตอวตั ถุ) เปน ศนู ยแลว ความเรว็ ของวัตถุจะเปนคา คงท่ี ความเรว็ เปนปรมิ าณเวกเตอร ซ่งึ แสดงท้ังความเรว็ ของวตั ถุและทศิ ทางของการเคลือ่ นท่ี ดงั นัน้ ความเร็วของวัตถคุ งท่ีจงึ ตอ งคงทที่ ้ังขนาดและทศิ ทางดวย กฎข้อท่ีหนงึ่ สามารถเขียนเป็นสมการคณิตสาสตร์ ได้ เมื่อมวลเป็นคา่ คงที่ท่ีไมเ่ ป็นศนู ย์ คือ F(totals) = o ดงั นน้ั วตั ถุจะหยุดนิ่ง เวนแตจ ะมแี รงภายนอกมากระทาํ วตั ถทุ กี่ ําลังเคลอ่ื นทจ่ี ะไมเปลยี่ นแปลงความเรว็ เวน แตจะมีแรงภายนอกมากระทาํ เชน กนั
2นวิ ตันวางกฎการเคลื่อนทีข่ อ แรกเพ่ือกําหนดกรอบอางองิ สาํ หรับใหกฎอ่ืน ๆ สามารถใชไ ด กฎของการเคล่อื นที่ขอ แรกตอ งอยบู นเงอื่ นไขของกรอบอา งอิงอยางนอยหนึ่งกรอบท่เี รียกวา นิวโตเนียน หรอื กรอบอางองิเฉอื่ ย ซ่ึงเม่ือเทยี บกับการเคลื่อนที่ของอนุภาคทไ่ี มขน้ึ กับแรงเปนเสน ตรงดว ยความเรว็ คงท่ี กฎการเคล่ือนที่ขอ แรกของนิวตันมักถูกเรียกวา กฎของความเฉอื่ ย ดงั นั้นเงื่อนไขที่จําเปนสาํ หรับการเคลอ่ื นทีส่ ม่ําเสมอของอนุภาคเม่ือเทียบกบั กรอบอา งองิ เชิงเฉอื่ ยคอื แรงสทุ ธริ วมทกี่ ระทาํ เปนศนู ยกฎขอ ทหี่ นึ่งและสองของนิวตนั จะใชไ ดเฉพาะในกรอบอางองิ เฉอ่ื ยเทา นั้น กรอบอางองิ ที่อยูในรปู แบบเดยี วกันกับกรอบเฉอ่ื ย เชน ความเสมอภาคแบบกาลิเลยี น หรือหลักการของสมั พทั ธภาพแบบนวิ โตเนียน
3กฎขอ ทสี่ องระบุวา อตั ราการเปล่ยี นแปลงโมเมนตัมของวัตถเุ ปนสดั สว นโดยตรงกบั แรงกระทาํ และการเปล่ยี นแปลงโมเมนตัมนี้เกิดข้นึ ในทิศทางเดยี วกบั แรงท่ีมากระทําตอ วัตถุน้ัน กฎขอทส่ี องสามารถระบไุ ดในแงข องความเรงของวตั ถุ เนื่องจากกฎขอทสี่ องน้ใี ชไดเฉพาะกบั ระบบท่ีมวลคงทเ่ี ทา น้ัน สามารถนําออกไปนอกตวั ดาํ เนินการอนุพันธไดโดยกฎของคา คงตัวในอนพุ นั ธ ดงั นั้น F=maเม่อื F คอื แรงลัพธท ี่มากระทาํ ตอ วตั ถุ M คือ มวลของวัตถุ และ a คอื ความเรงของวตั ถุ ดังนนั้ แรงลพั ธจึงเปน สัดสว นโดยตรงกบั ความเรงของวตั ถุ
4ดงั นั้น• ถา เราผลักวตั ถใุ หแรงข้ึน ความเรงของวตั ถกุ จ็ ะมากขนึ้ ตามไปดวย• ถา เราออกแรงเทา ๆ กัน ผลักวตั ถุสองชนิดซึง่ มีมวลไมเทากัน วตั ถุ ท่ีมมี วลมากจะเคลอื่ นทด่ี วยความเรง นอ ยกวา วัตถทุ ีม่ ีมวลนอยในเรอ่ื งดาราศาสตร นวิ ตันอธิบายวา ดาวเคราะหและดวงอาทิตยตางโคจรรอบกันและกนั โดยมจี ุดศนู ยก ลางรวม แตเนื่องจากดวงอาทิตยมีมวลมากกวาดาวเคราะหหลายแสนเทา เราจึงมองเห็นวา ดาวเคราะหเคล่อื นที่ไปดว ยความเรงทีม่ ากกวา ดวงอาทิตย และมีจดุ ศูนยกลางรวมอยภู ายในตัวดวงอาทติ ยเอง ดงั เชน การหมุนลกู ตุม ดัมเบลสองขา งทมี่ ีมวลไมเทา กัน
5 นิวตันอธบิ ายวา ขณะทดี่ วง อาทติ ยมแี รงกระทําตอดาว เคราะห ดาวเคราะหก็มีแรง กระทาํ ตอดวงอาทติ ยใ น ปรมิ าณท่ีเทา กนั แตม ี ทิศทางตรงกนั ขา ม และนั่น คอื แรงดึงดูดรว มการคน พบกฎทง้ั สามขอนี้ นาํ ไปสูการคน พบ “กฎความโนมถวงแหงเอกภพ” (The Law of Universal) “วัตถสุ องช้นิ ดงึ ดดู กันดวยแรงซงึ่ แปรผนั ตามมวลของวตั ถุ แตแ ปรผกผันกบั ระยะทางระหวา งวัตถุยกกําลงั สอง” ซึ่งเขียนเปนสตู รไดวา F = G (m1m2/r2)
6จากมมุ มองของกฎขอ ท่สี ามของนวิ ตันจะเหน็ ไดเ มื่อมีคนเดิน: เขาผลกั ดันกบั พน้ื และพน้ื ผลกั ดนั ตอเขา ในทาํ นองเดียวกันยางของรถดนั กับถนนในขณะทถ่ี นนผลกั ดนั กลบั ไปทยี่ าง - ยางและถนนพรอมกันผลกั ดนั ตอกนั ในการวา ยนาํ้ คนจะมปี ฏสิ มั พันธกับนาํ้และผลกั ดันนํ้าใหถ อยหลงั ขณะทนี่ ้ําดนั คนไปขางหนา ทงั้ คนและน้ําโดยดันกันและกนั แรงปฏิกริ ิยาแสดงการเคลอ่ื นทใ่ี นตัวอยา งเหลา นี้ แรงเหลา น้ีขน้ึ อยูกับแรงเสยี ดทาน ตัวอยางเชน คนหรือรถบนนาํ้ แข็งอาจไมส ามารถออกแรงกระทาํ เพือ่ สรา งแรงปฏกิ ริ ิยาได
7กฎขอที่ 1 กฎของความเฉอื่ ย (Inertia)\"วตั ถุทหี่ ยุดน่ิงจะพยายามหยุดนง่ิ อยูกบั ท่ี ตราบท่ีไมมแี รงภายนอกมากระทํา สว นวัตถทุ ี่เคลอ่ื นที่จะเคล่ือนทีเ่ ปนเสน ตรงดวยความเร็วคงท่ี ตราบที่ไมมีแรงภายนอกมากระทําเชนกัน\"กฎขอท่ี 2 กฎของแรง (Force)“ความเรง ของวตั ถจุ ะแปรผันตามแรงทีก่ ระทําตอวตั ถุ แตจ ะแปรผกผนั กบั มวลของวตั ถ”ุกฎขอ ท่ี 3 กฎของแรงปฏกิ ิรยิ า“แรงทีว่ ตั ถุทห่ี น่ึงกระทําตอ วัตถทุ ีส่ อง ยอ มเทากบั แรงที่วตั ถุท่ีสองกระทําตอวตั ถุทีห่ นึ่ง แตท ิศทางตรงขา มกัน”(Action = Reaction)
8http://www.vcharkarn.comhttp://rescom.trf.or.thhttps://krukanokporn.wordpress.comhttp://portal.edu.chula.ac.thhttps://th.wikipedia.org
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: