Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชื่อวิทยาศาสตร์

ชื่อวิทยาศาสตร์

Published by pikul pikul, 2018-08-18 04:41:54

Description: ชื่อวิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Azadirachta excelsa (Jack) Jacobs. ชื่อวงศ์ Miliaceae ชื่อสามญั สะเดาเทยี ม ช่ือทางการคา้ - ชื่อพ้นื เมือง เทยี ม, สะเดาชา้ ง (ตรัง) ลกั ษณะ ไมต้ น้ สงู ๓๐ - ๔ เมตร เปลอื ก เรยี บเมอ่ื อายยุ งั นอ้ ย เมอ่ื มอี ายมุ ากขนึ้ เปลอื กจะแตกลอ่ นเป็ นแผน่ ใบประกอบเป็ นรปู ขนนก กา้ นใบยาว ๒๐ - ๖ เซนตเิ มตร เรยี งสลับกันเป็ น กระจกุ ทป่ี ลายกง่ิ ใบยอ่ ย เยอ้ื งสลบั กันเล็กนอ้ ย จานวน ๗ - ๑ คู่ แผน่ ใบยอ่ ยรปู ไข่ กวา้ ง ๓ - ๔ เซนตเิ มตร ยาว ๕ - ๘ เซนตเิ มตร ปลายแหลมโคนสอบ ใบสเี ขยี วออ่ น ดอกออกรวมเป็ นชอ่ ตามงา่ มใบ สขี าวหรอื สเี ขยี วออ่ น ผลรปู ไข่ เมอ่ื แก่สเี หลอื ง เนอื้ ในเมล็ดมกี ลนิ่ แรงมี เมล็ดเดยี วออกดอกเดอื นมนี าคม ผลแก่ เดอื นพฤษภาคม - มถิ นุ ายน ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด นิเวศวทิ ยา พบขน้ึ ทั่วไปทางภาคใต ้ ตัง้ แตจ่ ังหวดั ชมุ พร ลงไป สว่ นมากพบขน้ึ อยตู่ ามเรอื กสวนไรน่ าประโยชน์ เป็ นไมโ้ ตเร็ว เนอ้ื ไมค้ ณุ ภาพดี ปลวกและมอดไมค่ อ่ ยทาลาย สามารถนามาใชป้ ระโยชนไ์ ด ้เกอื บ ทกุ สว่ นเนอ้ื ไมใ้ ชท้ าเครอื่ งเรอื น เครอ่ื งแกะสลัก ดอกออ่ นใชร้ ับประทานได ้ เมล็ด นามาสกดั สารทายาฆา่ แมลงเปลอื กตม้ ทายาแกบ้ ดิ หรอื ทอ้ งรว่ ง

หลายคนคงทราบแลว้ วา่ ตน้ สะเดาเทียมเป็นตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั แตท่ ราบหรือไมว่ า่ ดอกไมป้ ระจาจงั หวดั สงขลาคือดอกอะไร วนั น้ีหาดใหญ่โฟกสั มีคาตอบอีกแลว้ จา้ ดอกไมป้ ระจาจงั หวดั สงขลาของเรา คือ ดอกเฟื่ องฟ้า ดอกไมท้ ่ีออกดอกชูช่อตามริมถนน ริมคลองท่ีเราเห็นจนชินตานน่ั เองเฟ่ื องฟ้า เป็ นไมย้ นื ตน้ ขนาดกลางประเภทเถาเล้ือย ลาตน้ มีความยาวประมาณ 1 – 10 เมตร มีลาเถาแขง็ แรงเล้ือยไปไดไ้ กล ลาตน้ มีหนามติดอยเู่ ป็ นระยะ ๆ ลกั ษณะทรงพมุ่ ตดั แตง่ ได้ บงั คบั ทิศทางได้ ใบเป็นใบเด่ียวแตกตามเถา รูปไขป่ ลาย ใบแหลม โคนใบมน พ้นื ใบเรียบสีเขียว ออกดอกเป็ นช่อตามส่วนยอด มีกลีบดอกหรือใบประดบั 3 กลีบ ส่วนดอกจะมี ดอกเลก็ สีขาว กลีบดอกจะมีขนาดและสีสนั แตกตา่ งกนั ตามชนิพนั ธุ์ออกดอกตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูแลง้ จะออกดอกดกมาก



เม่ือประมาณปี ค.ศ. 1766 – 1769 ตน้ เฟื่ องฟ้าถูกพบคร้ังแรกในประเทศบราซิลโดยนกั พฤกษศาสตร์ชาวฝร่ังเศส และถูกนาไปปลูกยงัส่วนตา่ ง ๆ ของโลก ส่วนไทยเราน้นั นาตน้ เฟ่ื องฟ้ามาจากประเทศสิงคโปร์เป็ นคร้ังแรก เม่ือประมาณปี พ.ศ.2423 และมีการนาเขา้ มาจากตา่ งประเทศอีกมากมายจนถึงปัจจุบนัหากเดินไปตามริมคลองหรือริมถนนในอาเภอหาดใหญ่ หรือในสงขลาบางอาเภอ เราจะเห็นเฟ่ื องฟ้าหลากหลายสี ท้งั แดง ชมพู เหลือง ขาว และอีกมากมาย จริง ๆ แลว้ เฟื่ องฟ้าไมไ่ ดม้ ีดีแค่สีสวยอยา่ งเดียวนะ ดอกเฟ่ื องฟ้าสามารถนามาประกอบอาหารได้ อีกท้งั ยงั มีสรรพคุณช่วยบารุงหวั ใจ บารุงโลหิต แกป้ ระจาเดือนมาไม่ปกติ ส่วนของรากยงั ใชเ้ ป็นยาแกพ้ ษิ ตา่ ง ๆ ไดอ้ ีกดว้ ย

คนไทยโบราณเชื่อวา่ การปลูกเฟ้ื องฟ้าไวห้ นา้ บา้ น เป็นการช่วยสร้างคุณค่าของชีวติ ใหส้ ูงข้ึน เน่ืองจาก เฟ่ื องฟ้า เป็ น ราชินีแห่งไมป้ ระดบั อีกท้งัยงั เป็ นไมม้ งคลของเทศกาลตรุษจีน เมื่อเฟ่ื องฟ้าบานเป็นการแสดงถึงความเบิกบาน สวา่ งไสว ความรุ่งเรืองกา้ วหนา้ ในชีวิต

นบั วา่ ดอกไมป้ ระจาจงั หวดั มีความสวยงามและมีประโยชนม์ ากมายจริง ๆขอบคุณขอ้ มลู : กรมประชาสมั พนั ธ์ , Medthai


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook