สอ่ื การเรยี นการสอน รายวชิ า วทิ ยาการคานวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 2 หน่วยท่ี 4 เทคโนโลยีการส่ือสาร โดย... นางจารุวรรณ ลันไธสง โรงเรียนเมืองพัทยา 3 ( วดั สว่างฟา้ พฤฒาราม) สานักการศึกษาเมอื งพัทยา
เร่ือง 1. การส่ือสารข้อมูลและอปุ กรณก์ ารส่ือสารขอ้ มลู 2. เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์และประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 3. กระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศและหลักการแกป้ ญั หา 4. อินเตอรเ์ น็ตและการใช้อินเตอรเ์ น็ต 5. ซอฟต์แวร์ระบบและซอฟต์แวร์ประยุกต์
การส่ือสารข้อมูล การส่ือสารขอ้ มลู (Data Communications) หมายถงึ กระบวนการถ่ายโอนหรอื แลกเปล่ียนข้อมลู กนั ระหวา่ งผสู้ ่งและ ผรู้ บั โดยผา่ นช่องทางส่ือสาร เช่น อปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ หรอื คอมพิวเตอร์ เป็นตวั กลางในการส่งข้อมลู เพอ่ื ให้ผ้สู ่งและผรู้ บั เกิดความเข้าใจซ่ึงกนั และกนั
องค์ประกอบของการส่ือสารข้อมูล องคป์ ระกอบพนื้ ฐานของระบบสื่อสารข้อมลู มอี งคป์ ระกอบต่างๆ ดงั ต่อไปนี้ 1. ผสู้ ่งหรอื อปุ กรณ์ส่งขอ้ มลู (Sender) ข้อมลู ต่างๆ ที่อยตู่ ้นทางจะต้องจดั เตรียมนาเข้าส่อู ปุ กรณ์สาหรบั ส่งขอ้ มลู ซ่ึงได้แก่เครอื่ งพิมพ์ หรอื อปุ กรณ์ควบคมุ ต่าง ๆ จาน ไมโครเวฟ จานดาวเทียม ซึ่งขอ้ มลู เหล่านัน้ ถกู เปล่ียนให้อย่ใู น รปู แบบท่ีสามารถส่งข้อมลู นัน้ ได้ก่อน
องค์ประกอบของการส่ือสารข้อมูล 2. ผรู้ บั หรอื อปุ กรณ์รบั ข้อมลู (Receiver) ข้อมลู ท่ีถกู ส่งจากอปุ กรณ์ส่งขอ้ มลู ต้นทาง เมอื่ ไปถึงปลายทาง กจ็ ะมีอปุ กรณ์สาหรบั รบั ขอ้ มลู เหลา่ นัน้ เพือ่ นาไปใช้ประโยชน์ ต่อไป อปุ กรณ์เหล่านี้ได้แก่ เครอื่ งพิมพ์ คอมพิวเตอร์ จานไมโครเวฟ จานดาวเทียม ฯลฯ
องค์ประกอบของการส่ือสารข้อมูล 3. โปรโตคอล (Protocal) โปรโตคอล คือ กฏระเบยี บ หรอื วิธีการใช้เป็นข้อกาหนดสาหรบั การส่ือสาร เพ่อื ให้ผรู้ บั และผสู้ ่งเขา้ ใจกนั ได้ ซ่ึงมีหลายชนิดให้ เลือกใช้ เช่น TCP/IP, X.25, SDLC เป็ นต้น 4. ซอฟตแ์ วร์ (Software) การส่งข้อมลู ผา่ นคอมพิวเตอรจ์ าเป็นต้องมีโปรแกรมสาหรบั ดาเนินการ และควบคมุ การส่งข้อมลู เพอ่ื ให้ได้ขอ้ มลู ตามที่ กาหนด
องค์ประกอบของการส่ือสารข้อมูล 5. ขา่ วสาร (Message) เป็นรายละเอียดซ่ึงอยใู่ นรปู แบบต่าง ๆ ที่จะส่งผา่ นระบบการ สื่อสาร ซึ่งมีหลายรปู แบบดงั นี้ ข้อมลู (Data) ข้อความ (Text) รปู ภาพ (Image) เสียง (Voice)
องค์ประกอบของการส่ือสารข้อมูล 6. ตวั กลาง (Medium) เป็นตวั กลางหรอื ส่ือกลางท่ีทาหน้าที่นาข่าวสารในรปู แบบต่าง ๆ จากผสู้ ่งหรอื อปุ กรณ์ส่งต้นทางไปยงั ผรู้ บั หรอื อปุ กรณ์รบั ปลายทาง ซึ่งมหี ลายรปู แบบได้แก่ สายไป ขดลวด สายเคเบิล สายไฟเบอรอ์ อฟติก ตวั กลางอาจจะอยใู่ นรปู ของคลืน่ ที่ส่งผา่ น ทางอากาศ เช่น คลน่ื ไมโครเวฟ คลื่นดาวเทียม หรอื คล่นื วิทยุ เป็ นต้น
ฮบั หรือ รีพีทเตอร์ (Hub, Repeater) เป็นอปุ กรณ์ที่ทวน และขยายสญั ญาณ เพื่อส่งต่อไปยงั อปุ กรณ์อ่ืน ให้ได้ระยะทางที่ยาวไกลขนึ้ ไมม่ ีการเปล่ียนแปลง ขอ้ มลู ก่อนและหลงั การรบั -ส่ง และไมม่ ีการใช้ซอฟทแ์ วรใ์ ดๆ มาเกี่ยวข้อง กบั อปุ กรณ์ชนิดนี้ การติดตงั้ จึงทาได้งา่ ย ขอ้ เสียคือ ความเรว็ ในการส่งขอ้ มลู จะเฉล่ียลดเท่ากนั ทกุ เคร่อื ง เมอื่ มีคอมพิวเตอรม์ าเชื่อมต่อมากขนึ้
สวิทช์ หรอื บริดจ์ (Switch, Bridge) เป็นอปุ กรณ์สาหรบั เชื่อมต่อ เครอื ข่ายท้องถิ่น หรอื แลน (LAN) ประเภทเดียวกนั ใช้โปรโตคอลเดียวกนั สองวงเขา้ ด้วยกนั เช่น ใช้เชื่อมต่อ อีเธอรเ์ น็ตแลน (Ethernet LAN) หรือ โทเคนริงกแ์ ลน (Token Ring LAN) ทงั้ นี้ สวิทช์ หรอื บริดจ์ จะมีความสามารถในการเช่ือมต่อ ฮารด์ แวร์ และตรวจสอบข้อผิดพลาด ของการส่งข้อมลู ได้ด้วย ความเรว็ ในการส่ง ขอ้ มลู กม็ ิได้ลดลง และติดตงั้ ง่าย
เร้าเตอร์ (Router) เป็นอปุ กรณ์ที่ทางานคล้าย สวิทช์ แต่จะสามารถเช่ือมต่อ ระบบที่ใช้ส่ือ หรอื สายสญั ญาณต่างชนิดกนั ได้ เช่น เช่ือมต่อ อีเธอรเ์ น็ตแลน (Ethernet LAN) ที่ส่งข้อมลู แบบ ยทู ีพี (UTP: Unshield Twisted Pair) เข้ากบั อีเธอรเ์ น็ตอีก เครือข่าย แต่ใช้สายแบบโคแอก็ เชียล (Coaxial cable) ได้ นอกจากนี้ยงั ช่วยเลือก หรือกาหนดเส้นทางท่ีจะส่งข้อมลู ผ่าน และแปลงข้อมลู ให้เหมาะสมกบั การนาส่ง แน่นอนว่าการติดตงั้ ยอ่ มย่งุ ยากมากขึน้
โมเดม็ (MODEM) ทาหน้าที่แปลงสญั ญาณข้อมลู ดิจิตอล ท่ีได้รบั จากเครอ่ื งส่งหรอื คอมพิวเตอร์ เป็นสญั ญาณแบบอนาลอกก่อนทาการส่งไปยงั ปลายทางต่อไป โดยผา่ น เครอื ข่ายโทรศพั ท์ และเม่ือส่งถึงปลายทางกจ็ ะมีโมเดม็ ทาหน้าท่ีแปลง สญั ญาณจากอนาลอกให้เป็นดิจิตอล เพอื่ ใช้กบั คอมพิวเตอรป์ ลายทาง
ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) หมายถงึ การนาเครื่องคอมพิวเตอร์ มาเช่ือมต่อเข้าด้วยกนั โดยอาศยั ช่องทางการสื่อสารข้อมลู เพอื่ แลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร ระหว่างเครือ่ งคอมพิวเตอร์ และการใช้ทรพั ยากรของระบบรว่ มกนั (Shared Resource) ในเครอื ขา่ ยนัน้ ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ มีองคป์ ระกอบท่ีสาคญั เพ่อื การเชื่อมต่อเป็นเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ ได้แก่ คอมพิวเตอรแ์ ม่ข่าย (File Server) ช่องทางการสื่อสาร (Communication Chanel) สถานีงาน (Workstation or Terminal) และ อปุ กรณ์ในเครอื ขา่ ย (Network Operation System)
เครอื ขา่ ยเฉพาะที่ (Local Area Network : LAN) เป็นเครอื ขา่ ยระยะใกล้ ท่ีใช้กนั อย่ใู นบริเวณไม่กว้างนัก มกั พบเหน็ กนั ในองคก์ รเดียวกนั โดยส่วนใหญ่ ลกั ษณะของการเชื่อมต่อคอมพิวเตอรเ์ ป็นวง LAN จะอย่ใู นพนื้ ที่ใกล้ ๆ กนั เช่น อยภู่ าย อาคารเดียวกนั ภายในตึกเดียวกนั เป็นต้น
(Metropolitan Area Network : MAN) เครือขา่ ยเมือง (Metropolitan Area Network : MAN) เป็นเครือขา่ ยขนาดกลาง กลมุ่ ของเครอื ขา่ ย LAN ท่ีนามาเชื่อมต่อกนั เป็นวงท่ีใหญ่ขนึ้ ภายในบริเวณพนื้ ที่ใกลเ้ คียง เช่น ในเมอื งเดียวกนั หรอื จงั หวดั ใกลเ้ คียงกนั เป็นต้น
( Wide Area Network : WAN) เครอื ข่ายบริเวณกว้าง ( Wide Area Network : WAN) เป็นเครอื ขา่ ยขนาดใหญ่โดยเป็นการรวมเครอื ข่ายทงั้ LAN และ MAN มาเชื่อมต่อกนั เป็นเครือข่ายเดียว ดงั นัน้ เครือขา่ ยนี้จงึ ครอบคลมุ พนื้ ท่ีกวา้ ง บางครงั้ ครอบคลมุ ไปทวั่ ประเทศ หรอื ทวั่ โลก อย่างเช่น อินเตอรเ์ น็ตกจ็ ดั ว่าเป็นเครอื ขา่ ย WAN ประเภทหนึ่ง แต่เป็นเครอื ขา่ ยสาธารณะที่ไมม่ ีใครเป็นเจา้ ของ
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 1. เครือข่ายแบบบัส (bus topology) 2. โครงสรา้ งเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์แบบวงแหวน (ring topology) 3. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอรแ์ บบดาว(Star Network)
โครงสร้างเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ 1. เครือข่ายแบบบัส (bus topology) เปน็ เครือขา่ ยที่เชื่อมต่อคอมพวิ เตอร์และอุปกรณต์ ่าง ๆ ดว้ ยสายเคเบล้ิ ยาว ตอ่ เนอ่ื งไปเรอื่ ย ๆ โดยจะมีคอนเนก็ เตอร์เป็นตัวเชอื่ มตอ่ คอมพิวเตอร์ และอปุ กรณ์เข้ากบั สายเคเบ้ิล ในการส่งข้อมลู จะมคี อมพวิ เตอรเ์ พยี งตวั เดยี วเทา่ นนั้ ทีส่ ามารถส่งขอ้ มูลไดใ้ นชว่ งเวลาหนึ่งๆ การจัดส่งข้อมลู วธิ นี ีจ้ ะต้องกาหนดวธิ ีการ ทีจ่ ะไม่ให้ทกุ สถานสี ่งข้อมลู พรอ้ มกนั เพราะจะทาใหข้ ้อมูลชนกัน วธิ กี ารทีใ่ ช้ อาจแบง่ เวลาหรอื ใหแ้ ตล่ ะสถานีใช้ความถี่ สญั ญาณท่ีแตกต่างกนั การเซตอัปเครอื่ งเครือขา่ ยแบบบัสน้ีทาได้ไมย่ ากเพราะคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์ แต่ละชนิด ถูกเช่อื มตอ่ ดว้ ยสายเคเบิ้ลเพียงเสน้ เดียวโดยสว่ นใหญ่เครือขา่ ยแบบบัส มักจะใช้ในเครือข่ายขนาดเลก็ ซึ่งอยูใ่ นองค์กรท่มี คี อมพวิ เตอรใ์ ชไ้ มม่ ากนัก
โครงสร้างเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ ข้อดขี องการเชื่อมต่อแบบบสั คือ ใชส้ ื่อนาขอ้ มลู นอ้ ย ชว่ ยให้ประหยดั ค่าใชจ้ ่าย และถา้ เคร่ืองคอมพิวเตอร์เคร่อื งใดเคร่ืองหน่งึ เสียกจ็ ะไมส่ ง่ ผลต่อการทางานของระบบโดยรวม ขอ้ เสียคือ การตรวจจดุ ท่มี ปี ัญหา กระทาได้คอ่ นข้างยาก และถ้ามจี านวน เครอื่ งคอมพวิ เตอรใ์ นเครือขา่ ยมากเกินไป จะมีการส่งขอ้ มูลชนกัน มากจนเป็นปญั หา ข้อจากัด คอื จาเปน็ ต้องใชว้ งจรสอื่ สารและซอฟต์แวร์เข้ามาชว่ ยเพ่ือ หลีกเลี่ยงการชนกันของสัญญาณขอ้ มูล และถา้ มอี ุปกรณ์ตัวใดตัวหนง่ึ เสยี หาย อาจส่งผลใหท้ ้งั ระบบหยุดทางานได้
1. เครือขา่ ยแบบบสั (bus topology)
โครงสรา้ งเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 2. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (ring topology) เป็นเครอื ข่ายท่ีเชื่อมตอ่ คอมพวิ เตอรด์ ้วยสายเคเบิลยาวเสน้ เดียว ในลักษณะวงแหวน การรับส่งขอ้ มูลในเครอื ข่ายวงแหวน จะใช้ทศิ ทางเดยี ว เทา่ น้นั เมอ่ื คอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งหน่ึงส่งขอ้ มลู มนั ก็จะส่งไปยงั คอมพิวเตอร์ เคร่ืองถัดไป ถ้าขอ้ มลู ท่ีรบั มาไม่ตรงตามทคี่ อมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งตน้ ทางระบุ มนั ก็จะส่งผา่ นไปยังคอมพิวเตอรเ์ ครือ่ งถดั ไปซ่ึงจะเปน็ ขน้ั ตอนอย่างน้ี ไปเร่อื ย ๆ จนกว่าจะถงึ คอมพิวเตอรป์ ลายทางท่ีถกู ระบุตามทอ่ี ยู่
โครงสรา้ งเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ ขอ้ ดขี องโครงสร้าง เครอื ขา่ ยแบบวงแหวนคือ ใชส้ ายเคเบิ้ลนอ้ ย และถา้ ตัดเครื่องคอมพิวเตอรท์ ่เี สียออกจากระบบ ก็จะไม่ส่งผลตอ่ การทางาน ของระบบเครือขา่ ยนี้ และจะไมม่ ีการชนกันของข้อมลู ท่ีแต่ละเครื่องสง่ ข้อจากัด ถา้ เครอื่ งใดเคร่อื งหนง่ึ ในเครือขา่ ยเสยี หาย อาจทาใหท้ ง้ั ระบบ หยุดทางานได้
2. โครงสร้างเครือขา่ ยแบบวงแหวน
โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ 3. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว(Star Network) เป็นเครอื ข่ายท่ีเชื่อมตอ่ คอมพิวเตอร์ เข้ากบั อปุ กรณ์ที่เปน็ จุดศนู ยก์ ลาง ของเครอื ข่าย โดยการนาสถานีตา่ ง ๆ มาตอ่ ร่วมกนั กับหนว่ ยสลับสายกลางการติดตอ่ สื่อสารระหวา่ งสถานจี ะกระทาได้ ด้วยการ ติดต่อผ่านทางวงจรของหน่วนสลบั สายกลางการทางานของหนว่ ยสลบั สายกลางจึงเป็นศนู ยก์ ลางของการตดิ ต่อ วงจรเชื่อมโยงระหวา่ งสถานตี ่าง ๆ ทต่ี ้องการตดิ ตอ่ กัน
โครงสร้างเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ โครงสรา้ งเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอรแ์ บบดาว(Star Network) ขอ้ ดี คอื ถ้าตอ้ งการเชอ่ื มต่อคอมพิวเตอร์เครอ่ื งใหมก่ ส็ ามารถทาได้งา่ ยและไม่กระทบ ต่อเคร่อื งคอมพิวเตอรอ์ ่ืนๆ ในระบบ สว่ นขอ้ เสีย คอื ค่าใชจ้ า่ ยในการใช้สายเคเบลิ้ จะคอ่ นขา้ งสงู และเมือ่ ฮบั ไมท่ างาน การสอื่ สารของคอมพวิ เตอร์ทง้ั ระบบก็จะหยุดตามไปดว้ ย ข้อจากดั ถา้ ฮบั เสียหายจะทาให้ทง้ั ระบบต้องหยดุ ซะงัก และมีความสนิ้ เปลือง สายสัญญาณมากกว่าแบบอ่ืนๆ
โครงสร้างเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์แบบดาว(Star Network)
กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process) กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process) คือ ขนั้ ตอนการแก้ปัญหาหรอื ตอบสนองต่อความต้องการ ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงจากทรพั ยากรให้เป็นผลผลิต หรอื ผลลพั ธ์ ระบบเทคโนโลยีประกอบด้วยกระบวนทางเทคโนโลยี ทงั้ หมด 7 ขนั้ ตอน
อินเทอรเ์ น็ต (องั กฤษ: Internet) หมายถงึ เครือข่ายคอมพิวเตอรข์ นาดใหญ่ ที่มีการเช่ือมต่อระหว่างเครอื ขา่ ย หลายๆ เครือขา่ ยทวั ่ โลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกนั ระหวา่ งคอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่า โพรโทคอล (Protocol) ผใู้ ช้เครอื ข่ายนี้สามารถสื่อสารถงึ กนั ได้ในหลายๆ ทาง อาทิเช่น อีเมล เวบ็ บอรด์ และสามารถสืบค้นข้อมลู และ ขา่ วสารต่างๆ รวมทงั้ คดั ลอกแฟ้มขอ้ มลู และโปรแกรมมาใช้ได้
ท่ีมาของอินเตอรเ์ น็ต อินเทอรเ์ น็ตเกิดขนึ้ ในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) จากการเกิดเครอื ขา่ ย ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซ่ึงเป็นเครือขา่ ยสานักงานโครงการวิจยั ชนั้ สงู ของ กระทรวงกลาโหม ประเทศสหรฐั อเมริกา โดยมีวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของการ สร้างเครอื ขา่ ยคือ เพือ่ ให้คอมพิวเตอรส์ ามารถเชื่อมต่อ และมีปฏิสมั พนั ธก์ นั ได้ เครือขา่ ย ARPANET ถอื เป็นเครอื ข่ายเริ่มแรก ซึ่งต่อมาได้ถกู พฒั นา ให้เป็นเครือข่าย อินเทอรเ์ น็ตในปัจจบุ นั
ประโยชน์ของอนิ เทอร์เน็ต ๑. ด้านการศึกษา ๒. ด้านธรุ กิจและการพาณิชย์ ๓. ด้านการบนั เทิง - ไปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (Electronic mail=E-mail) - เทลเน็ต (Telnet) - การโอนถ่ายข้อมลู (File Transfer Protocol ) - การสืบค้นข้อมลู (Gopher,Archie,World wide Web) - การแลกเปล่ียนข่าวสารและความคิดเหน็ (Usenet) - การส่ือสารด้วยข้อความ (Chat,IRC-Internet Relay chat) - การซื้อขายสินค้าและบริการ (E-Commerce = Electronic Commerce) - การให้ความบนั เทิง (Entertain)
กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process) ซอฟตแ์ วร์ (software) หมายถงึ ชดุ คาสงั่ หรือโปรแกรมท่ีใช้สงั่ งานให้คอมพิวเตอรท์ างาน ซอฟตแ์ วรจ์ งึ หมายถึงลาดบั ขนั้ ตอนการทางานที่เขียนขึน้ ด้วยคาสงั่ ของ คอมพิวเตอร์ คาสงั่ เหล่านี้เรียงกนั เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากที่ทราบมาแล้วว่าคอมพิวเตอรท์ างานตามคาสงั ่ การทางานพืน้ ฐานเป็น เพียงการกระทากบั ข้อมลู ท่ีเป็นตวั เลขฐานสอง ซึ่งใช้แทนขอ้ มลู ที่เป็นตวั เลข ตวั อกั ษร รปู ภาพ หรอื แมแ้ ต่เป็นเสียงพดู กไ็ ด้
ประเภทของ Software ๒. ซอฟตแ์ วรร์ ะบบคืออะไร ซอฟตแ์ วรท์ ่ีบริษทั ผผู้ ลิตสรา้ งขึน้ มาเพื่อใช้จดั การกบั ระบบ หน้าที่การ ทางานของซอฟตแ์ วรร์ ะบบคือดาเนินงานพืน้ ฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ ๓..ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตค์ ืออะไร เป็นซอฟตแ์ วรท์ ่ีใช้กบั งานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผ้ใู ช้ ท่ี สามารถนามาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจบุ นั มีผ้พู ฒั นาซอฟตแ์ วรใ์ ช้งาน ทางด้านต่าง ๆ ออกจาหน่ายมาก การประยกุ ตง์ านคอมพิวเตอรจ์ งึ กว้างขวางและแพร่หลาย เราอาจแบง่ ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตอ์ อกเป็นสอง กลมุ่ คือ ซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ และซอฟตแ์ วรท์ ่ีพฒั นาขึน้ ใช้งานเฉพาะ ซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ ในปัจจบุ นั มีมากมาย
ซอฟต์ แวร์ ระบบกับซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ แตกต่ างกันอย่ างไร คือซอฟตแ์ วรท์ ่ีบริษทั ผ้ผู ลิตสรา้ งขนึ้ มาเพือ่ ใช้จดั การกบั ระบบ หน้าท่ีการทางานของซอฟตแ์ วรร์ ะบบคือดาเนินงานพืน้ ฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตเ์ ป็นซอฟตแ์ วรท์ ่ีใช้กบั งานด้านต่าง ๆ ตามความ ต้องการของผ้ใู ช้ ท่ีสามารถนามาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจบุ นั มี ผพู้ ฒั นาซอฟตแ์ วรใ์ ช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจาหน่ายมาก การประยกุ ต์ งานคอมพิวเตอรจ์ งึ กวา้ งขวางและแพร่หลาย เราอาจแบง่ ซอฟตแ์ วร์ ประยกุ ตอ์ อกเป็นสองกล่มุ คือ ซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ และซอฟตแ์ วรท์ ่ีพฒั นาขนึ้ ใช้งานเฉพาะ ซอฟตแ์ วรส์ าเรจ็ ในปัจจบุ นั มีมากมาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: