Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้

Published by watcharaphongkiw, 2021-01-31 05:10:45

Description: การใช้ประโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ รายวิชาเพมิ่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 พันธะเคมี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 เร่ือง การใช้ประโยชนข์ องสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง ครูผ้สู อน นายวชั รพงษ์ โสนทอง สอนวันที่ 29 มกราคม 2564 1. สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด สาระที่ 1 เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติ ของสาร แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมทั้งการนำ ความรไู้ ปใชค้ วามรู้ 2. ผลการเรียนรู้ ม. 4/21 เปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ สืบค้น ข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างของการใช้ประโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ ได้อย่าง เหมาะสม 3. สาระการเรยี นร้เู พมิ่ เติม สารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ มีสมบัติเฉพาะตัวบางประการที่แตกต่าง เช่น จุด เดือด จุดหลอมเหลว การละลายน้ำ การนำไฟฟ้า จึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้ตามความ เหมาะสม 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถเปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ ได้อย่างถูกต้อง (K) 2. สามารถสบื คน้ ข้อมลู และนำเสนอตวั อยา่ งการใช้ประโยชนข์ องสารประกอบไอออนกิ สารโคเวเลนต์ และโลหะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม (P) 3. สามารถทำงานไดอ้ ยา่ งเปน็ ระเบยี บ และเกดิ ความแสวงหาความรู้ (A) 5. สาระสำคัญหรือความคดิ รวบยอด พันธะไอออนิกเกิดจากการยึดเหนี่ยวระหว่างประจุไฟฟ้าของไอออนบวกกับไอออนลบ พันธะโคเว เลนต์เกิดจากการยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอม 2 อะตอม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธาตุอโลหะโดยใช้เวเลนต์อิเล็กตรอน

ร่วมกัน พันธะโลหะเกิดจากการยึดเหนี่ยวระหว่างโปรตอนในนิวเคลียสกับเวเลนต์อิเล็กตรอนที่เคล่ือนที่ไปทั่ว ทัง้ ชน้ิ โลหะ 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.ความสามารถในการสอ่ื สาร - เกดิ การแลกเปล่ียนความคดิ กนั ภายในกลุม่ 2.ความสามารถในการคดิ - การสรุปผลและอภิปรายภายในหอ้ ง 3.ความสามารถในการแก้ปญั หา - แก้ไขปญั หาท่ีเกดิ ข้ึนกระทันหันได้ 4.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต - นำความรทู้ ่ไี ดไ้ ปปรับใช้กบั ชวี ติ ประจำวัน 5.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - การใชเ้ ครอ่ื งมืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ในการค้นหาหรือสบื คน้ ข้อมูล 6.ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ - การตั้งสมมติฐาน 7.ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 - การส่ือสารและการรว่ มมอื กนั ภายในกลุ่ม - การรเู้ ก่ยี วกบั สือ่ และเทคโนโลยี - ภาวะการเป็นผู้นำและการรับผิดชอบ 8.จิตวทิ ยาศาสตร์ - เกิดความอยากรอู้ ยากเหน็ - เกดิ ความตง้ั ใจตอ่ การคน้ หาความรู้ - เกิดความละเอยี ดรอบคอบ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้หรอื กิจกรรมการเรียนรู้ (แบบสบื เสาะหาความรู้, 5E) 1. ขัน้ กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 5 นาที - ครูกล่าวทักทายนักเรียน จากนั้นจะเปิด power point ให้นักเรียนดูซึ่งเป็นรูปพันธะทั้ง 3 พันธะ โดยจะแบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเป็น 3 กลมุ่ ตามแต่ละพนั ธะซง่ึ จะได้กล่มุ ละเท่า ๆ กัน - ครูให้เรยี นบอกสมบัติเฉพาะของพนั ธะในกลุ่มของตัวเองมากลมุ่ ละ 1 ข้อ

2. ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploretion) 70 – 80 นาที - เปิดตารางใน power point เพื่อดูสมบัติเฉพาะของพันธะทั้ง 3 พันธะ จากนั้นจะให้ นกั เรยี นทบทวนความรู้เกีย่ วกบั ชนดิ และสมบติ ของสารในแตล่ ะพนั ธะ - ครูจะให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาหน้าช้ันเรียนกลุม่ ละ 2 คน จากนั้นจะให้ช่วยกันเขียน สมบัติของพันธะแต่พันธะที่ไม่ใช่พันธะของกลุ่มตัวเองมาให้มากที่สุด (โดยมีระยะเวลาในการมาเขียนหน้าชั้น เรียนทั้งหมด 5 นาที) ซึ่งกลุ่มที่สามารถบอกสมบัติของพันธะได้มากที่สุด และถูกต้องที่สุด ก็จะได้รับคะแนน สะสมเป็นรูปสารโคเวเลนต์ สารประกอบไอออนิก และโลหะ 1 รูป (ให้นักเรียนในกลุ่มท่ีชนะเลือกรูปใดรูป หนึ่ง คนละ 1 รูป และ 1 รูป จะเท่ากับ 1 คะแนน) ซึ่งคะแนนที่ได้จะนำไปสะสมรวมกับคะแนนในการทำ กิจกรรมในบทเรยี นเร่ืองพันธะเคมี - ครูให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มทำผังมโนทัศน์ โดยขึ้นตัวอย่างมาให้ใน power point พร้อม อธิบาย - ครูต้งั คำถามวา่ จากสมบัตทิ ี่ตา่ งกันของแต่ละพนั ธะส่งผลต่อการนำไปใช้ประโยชนห์ รือไม่ (แนวทางการตอบ : สารแต่ละชนิดมสี มบัติต่างกนั กินสามารถนำไปใช้ประโยชน์ไดต้ ามความ เหมาะสม) - ครูให้นักเรยี นทำกจิ กรรมท่ี 1 การสืบค้นขอ้ มูลเก่ียวกับประโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนซ์ และโลหะ หลังจากนั้นให้นักเรียนนำเสนอข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นข้อมูลออกมาในรูปแบบ ต่างๆ โดยใหแ้ ต่ละกลมุ่ ช่วยกันออกความคิด - แจกแบบฝึกหดั ทา้ ยบทใหน้ ักเรียนแตล่ ะคน เพ่ือทบทวนความรู้ 3.ข้ันอธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explaination) 10 นาที - ครกู ับนักเรียนร่วมกันสรุปและอภปิ รายผังมโนทศั นข์ องแตล่ ะกลุ่ม 4.ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที - ครอู ธิบายเกยี่ วกบั พนั ธะไอออนกิ พนั ธะโคเวเลนซ์ และพนั ธะโลหะ การสรุป : พันธะไอออนิกเกิดจากการยึดเหนี่ยวระหว่างประจุไฟฟ้าของไอออนบวกกับไอออนลบ ซึ่งส่วนใหญ่ ไอออนบวกเกิดจากโลหะเสียอิเล็กตรอน และไอออนลบเกิดจากโลหะรับอีเล็คตรอน เกิดเป็นสารประกอบไอ ออนิกที่ส่วนใหญ่เป็นผลึกของแข็ง เปราะ มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดสูง ละลายน้ำได้ ไม่นำไฟฟ้าเมื่อเป็น ของแข็ง แต่นำไฟฟ้าไดเ้ ม่อื เราเหลวหรือละลายในนำ้ พันธะโคเวเลนต์เกิดจากการยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอมธาตุ 2 อะตอม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธาตุ อโลหะโดยใช้เวเลนต์อิเล็กตรอนร่วมกัน เกิดเป็นสารโคเวเลนต์ที่ส่วนใหญ่มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดต่ำ ไม่ ละลายน้ำและไมน่ ำไฟฟ้า ส่วนสารที่มพี ันธะโคเวเลนซ์ต่อเนื่องกันในสามมิติเป็นสารโคเวเลนต์โครงร่างตาข่าย ที่และจดุ เดอื ดศนู ย์จุดเดือดสูง

พันธะโลหะเกิดจากการยึดเหนี่ยวระหว่างโปรตอนในนิวเคลียสกับ เวเลนต์อีเล็กตรอนท่ี เคลือ่ นที่ไปทัว่ ทั้งชนิ้ โลหะ โดยสว่ นใหญเ่ ป็นของแขง็ มีผวิ มนั วาว ตเี ป็นแผน่ หรอื ดงึ เป็นเสน้ ได้ นำความร้อนและ นำไฟฟ้าไดด้ ี มจี ดุ หลอมเหลวและจดุ เดอื ดสูง 5.ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) - ประเมินจากการร่วมกันคิดภายในกลุ่มขณะทำกิจกรรม “การสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ ประโยชนข์ องสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนซ์ และโลหะ” การมีความรับผิดชอบ การชว่ ยเหลือกันภายใน กลุ่ม - ประเมินเป็นรายบุคคลจากการทำแบบฝึกหัดท้ายการทดลอง และประเมินจากพฤติกรรม ในช้นั เรยี น การตั้งใจเรยี น การพูดคยุ ตอบคำถาม 8. สือ่ วัสดุ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรยี นรู้ แหลง่ การเรยี นรู้ หนงั สือเรยี นรูเ้ คมี ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 สื่อการเรียนรู้ เรอ่ื งพนั ธะเคมี PowerPoint นำเสนอ ผังมโนทัศน์ในอนิ เทอรเ์ นต็ กิจกรรมการเรียนรู้ แบบฝกึ หัดทา้ ยบท 9.การประเมนิ การเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธวี ดั เครือ่ งมือท่ใี ช้วดั เกณฑ์การวดั และ และการประเมนิ ผล และการประเมนิ ผล การประเมินผล ด้านความรู้ (K) - การทำผงั มโนทัศน์ - ผังนโนทศั น์ - ออกทำหน้า - สามารถเปรียบเทียบ - การทำแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหัดทา้ ยบท หอ้ งเรยี นถูกตอ้ ง สมบัติบางประการของ ท้ายบท มากกวา่ 80 สารประกอบไอออนิก สาร เปอรเ์ ซ็น โคเวเลนต์ และโลหะ ได้ - ทำแบบฝกึ หดั อย่างถกู ต้อง (K) ท้ายบทข้ออธบิ าย ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ด้านทักษะ / กระบวนการ (P) -การทำแบบฝกึ หัดทา้ ย -แบบฝกึ หดั ท้ายบท ทำแบบฝึกหดั - สามารถสบื ค้นขอ้ มลู และ บท - กิจกรรมการสืบค้นขอ้ มลู ขอ้ เขียนครบทุก นำเสนอตัวอยา่ งการใช้ - การทำกิจกรรมการ เกี่ยวกับประโยชนข์ อง ข้อและทำถกู ประโยชน์ของสารประกอบไอ สืบค้นขอ้ มลู เก่ียวกบั

ออนกิ สารโคเวเลนต์ และ ประโยชน์ของ สารประกอบไอออนิก สาร มากกวา่ 80 โลหะ ได้อยา่ งเหมาะสม (P) สารประกอบไอออนิก โคเวเลนซ์ และโลหะ เปอรเ์ ซ็นต์ สารโคเวเลนซ์ และ ด้านคุณลกั ษณะอันพึง โลหะ - สามารถนำ ประสงค์ (A) สารประกอบไอออ - สามารถทำงานไดอ้ ยา่ งเปน็ การสงั เกตพฤตกิ รรม นกิ สารโคเวเลนต์ ระเบยี บ และเกิดความ การมีสว่ นรว่ มในการ และโลหะ ได้ แสวงหาความรู้ (A) ทำงานเป็นกลมุ่ อย่างถกู ตอ้ ง การสังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ เป็นรายบุคคล มสี ว่ นร่วมในการทำงาน เปน็ กลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมเป็น รายบุคคล 10.บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 10.1 จำนวนนกั เรยี นทส่ี อน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................... 10.2 ผลทีเ่ กิดข้ึนจากการเรียนรู้ (ความรู้ / ทักษะ / จิตวทิ ยาศาสตร์) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .................................................................................................................. 10.3 บรรยากาศการเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

.............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................... 10.4 การปรบั เปลยี่ นแผนการจดั การเรยี นรู้ (ถา้ มี) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................... 10.5 ปัญหา / วธิ กี ารแกไ้ ข / ผลการแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................................ผ้เู ขียนแผนการจดั การเรียนรู้ (..............................................................) ………………./………………………/……………… ลงชอ่ื ........................................................ผตู้ รวจ (..............................................................) ………………./………………………/……………..

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ กล่มุ ที.่ .........ชั้น............ พฤตกิ รรม ลำดบั ชอื่ -สกลุ มสี ่วนรว่ มในการ การรบั ฟงั ความ การทำงาน มีความ รวม แสดงความคิดเหน็ คดิ เห็น อย่างมรี ะบบ สามคั คี 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 1 2 3 4 5 6 ลงช่ือ....................................................ผู้ประเมิน ................/........................./..............

เกณฑ์การให้คะแนน รายการประเมิน คำอธบายคณุ ภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ ) มีสว่ นร่วมในการแสดง มีการเสนอแนะ แลกเปลี่ยน มีการเสนอแนะ ไมม่ กี ารเสนอแนะ ความคดิ เหน็ ขอ้ คดิ เห็นกบั เพอื่ นรว่ มงาน แลกเปลี่ยนขอ้ คดิ เห็นกบั แลกเปลย่ี น ขอ้ คิดเห็น อยา่ งสม่ำเสมอตลอดการ เพ่ือนร่วมงานบ้างบางครง้ั กับเพ่อื นร่วมงาน ทำงาน การรับฟงั ความคดิ เห็น สมาชกิ ในกลมุ่ มกี ารรับฟงั สมาชิกในกลมุ่ มกี ารรับฟงั สมาชิกในกลุ่มไม่มกี าร ความคดิ เห็นของสมาชกิ ใน ความคดิ เหน็ ของสมาชิก รบั ฟงั ความคิดเหน็ ของ กล่มุ ด้วยกันเป็นอย่างดี ในกลุม่ ด้วยกนั บา้ งบางครัง้ สมาชกิ ในกลุ่มเดยี วกนั การทำงานอยา่ งมีระบบ สามารถทำงานสำเรจ็ ลลุ ว่ งไป มีความผดิ พลาดในการ ทำงานไมต่ รงตามระบบ ไดด้ ว้ ยดี ทำงานเล็กน้อย มีความสามคั คี ชว่ ยเหลือสมาชิกในกลุ่มเป็น ชว่ ยเหลือสมาชกิ ในกล่มุ ไมช่ ่วยเหลือสมาชิกใน อย่างดีตลอดการทำงาน บา้ งบางคร้ัง กลมุ่ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 9 – 12 ดี 5–8 1–4 พอใช้ ปรบั ปรุง

แบบฝึกหดั ทา้ ยบท 1. พจิ ารณาสมบตั ขิ องสาร A B C และ D ตอ่ ไปน้ี สาร จุดเดือด จุดหลอมเหลว การละลายน้ำ การนำไฟฟ้า (oC) (oC) เมือ่ เป็นของแข็ง เม่อื หลอมเหลว A 1330 681 ละลาย ไม่นำ นำ นำ นำ B 2562 1085 ไม่ละลาย ไม่นำ ไม่นำ ไม่นำ ไม่นำ C -100 -127 ไม่ละลาย D 2230 1713 ไม่ละลาย สาร A B C และ D เปน็ สารประเภทใด เพราะเหตุใด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. กำหนดธาตสุ มมติในตารางธาตดุ งั นี้ IA IIA IIIA IVA VA VIA VIIA VIIIA AB CD EF GH ตอบคามต่อไปนี้ 2.1 เขยี นไอออนท่ีเสถยี รของธาตุทงั้ หมด .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

2.2 ธาตไุ นโตรเจนรวมตวั กบั ธาตใุ ดบา้ งเกิดพนั ธะโคเวเลนต์ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.3 ธาตุ A กับ C และธาตุ B กับ D เมอื่ เกิดสารประกอบจะมีสูตรเคมีเป็นอยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.4 X และ Y เกดิ สารประกอบออกไซด์ท่ีมีสูตรเป็น X2O และ Y2O3 ดังน้ัน X และ Y เปน็ ธาตใุ ดได้บา้ งใน ตาราง .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. เปรียบเทยี บสมบตั ขิ องสารประกอบท่ีเกดิ จากธาตหุ มู่ IIA กบั หมู่ VIA และสารประกอบที่เกดิ จากไฮโดรเจน กบั ธาตหุ มู่ VIA ในประเดน็ ต่อไปน้ี 3.1 อัตราสว่ นจำนวนอะตอมของธาตทุ ร่ี วมกันเป็นสารประกอบ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3.2 จุดหลอมเหลวและจดุ เดือด .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3.3 การนำไฟฟา้ ของสารเมอื่ มสี านะเปน็ ของเหลว .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

เฉลยแบบฝึกหดั ท้ายบท 1. พิจารณาสมบตั ขิ องสาร A B C และ D ต่อไปนี้ สาร จดุ เดอื ด จดุ หลอมเหลว การละลายน้ำ การนำไฟฟ้า (oC) (oC) เม่อื เปน็ ของแขง็ เมอื่ หลอมเหลว A 1330 681 ละลาย ไม่นำ นำ นำ นำ B 2562 1085 ไม่ละลาย ไม่นำ ไม่นำ ไม่นำ ไม่นำ C -100 -127 ไม่ละลาย D 2230 1713 ไม่ละลาย สาร A B C และ D เป็นสารประเภทใด เพราะเหตุใด สาร A เปน็ สารประกอบไอออนกิ เนือ่ งจากมีจดุ เดือดและจุดหลอมเหลวสงู ไมน่ ำไฟฟา้ เมอื่ เปน็ ของแขง็ แต่ เมือ่ หลอมเหลวนำไฟฟา้ ได้ สาร B เป็นโลหะ เนอ่ื งจากมีจดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวสงู นำไฟฟา้ ได้ สาร C เปน็ สารโคเวเลนต์ เน่อื งจากมีจดุ เดือดและจุดหลอมเหลวต่ำ ไมน่ ำไฟฟ้า สาร D เปน็ สารโคเวเลนตโ์ ครงร่างตาขา่ ย เนื่องจากมจี ุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูง แตไ่ ม่นำไฟฟา้ 2. กำหนดธาตสุ มมตใิ นตารางธาตดุ ังน้ี IA IIA IIIA IVA VA VIA VIIA VIIIA AB CD EF GH ตอบคามตอ่ ไปนี้ 2.1 เขยี นไอออนท่ีเสถยี รของธาตทุ ง้ั หมด A+ B3+ C2- D E+ F2+ G3- สว่ น H เป็นแก๊สมีสกุลไม่เกดิ เปน็ ไอออน 2.2 ธาตไุ นโตรเจนรวมตวั กับธาตใุ ดบ้างเกดิ พันธะโคเวเลนต์ C D และ G

2.3 ธาตุ A กบั C และธาตุ B กับ D เมื่อเกดิ สารประกอบจะมีสตู รเคมเี ป็นอย่างไร A2C และ BD3 2.4 X และ Y เกดิ สารประกอบออกไซด์ท่มี ีสูตรเปน็ X2O และ Y2O3 ดงั นน้ั X และ Y เป็นธาตใุ ดได้บ้างใน ตาราง ธาตุ X คือ ธาตุ A และ E เกดิ สารประกอบออกไซด์ท่มี ีสตู รเคมเี ปน็ X2O ธาตุ Y คือ ธาตุ B และ C เกิดสารประกอบออกไซดท์ ี่มีสตู รเคมเี ป็น Y2O3 3. เปรยี บเทยี บสมบตั ิของสารประกอบทีเ่ กดิ จากธาตหุ มู่ IIA กบั หมู่ VIA และสารประกอบทเ่ี กดิ จากไฮโดรเจน กบั ธาตุหมู่ VIA ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ 3.1 อัตราสว่ นจำนวนอะตอมของธาตทุ รี่ วมกันเป็นสารประกอบ อตั ราสว่ นจำนวนอะตอมอะตอมของธาตุหมู่ IIA กบั หมู่ VIA เทา่ กับ 1:1 อัตราสว่ นจำนวนอะตอมอะตอมของธาตุหมู่ VIA กบั หมู่ VIA เท่ากับ 1:2 3.2 จดุ หลอมเหลวและจดุ เดือด สารประกอบที่เกดิ จากธาตุหมู่ IIA กบั หมู่ VIA เปน็ สารประกอบไอออนกิ จึงควรมจี ดุ หลอมเหลวและจดุ เดือด สูงกวา่ สารประกอบทีเ่ กดิ จากธาตุหมู่ VIA กับไฮโดรเจน ซึ่งเป็นสารโคเวเลนต์ 3.3 การนำไฟฟ้าของสารเม่ือมีสานะเป็นของเหลว เมือ่ มสี ถานะเป็นของเหลว สารประกอบที่เกดิ จากธาตุหมู่ IIA กบั หมู่ VIA จะนำไฟฟ้าได้ สว่ นสารประกอบท่ี เกดิ จากธาตหุ มู่ VIA กับไฮโดรเจน จะไม่นำไฟฟา้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook