พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานกระบ่ีและปรญิ ญาบัตรแกว่ า่ ท่รี ้อยตำรวจตรที ่สี ำเร็จการศึกษาช้นั สูงสดุ ณ กองบังคบั การโรงเรยี นนายร้อยตำรวจ วันพฤหสั บดี ท่ี ๒๒ มนี าคม ๒๕๒๒ ขา้ พเจา้ มคี วามยนิ ดที ไี่ ดม้ ามอบกระบแี่ ละปรญิ ญาบตั รแกว่ า่ ทร่ี อ้ ยตำรวจตรีบรรดาทไ่ี ดส้ ำเรจ็ การศกึ ษา ชนั้ สงู สดุ จากโรงเรยี นนายรอ้ ยตำรวจ ณ โอกาสนี้ ขอแสดงความชนื่ ชมดว้ ย ทไ่ี ดร้ บั ความสำเรจ็ ในการศกึ ษา และ ไดร้ ับเกยี รตเิ ปน็ นายตำรวจชน้ั สัญญาบัตร นับแต่น้ีไป ท่านท้ังหลายจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึง่ นอกจากจะหมายถงึ การคอยสอดส่องดแู ลความทกุ ขส์ ขุ และเกอ้ื กูลประชาชนอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังหมายถึง การรักษาความถูกต้องศักด์ิสิทธิ์ของกฎหมาย การจับกุมปราบปรามอาชญากรรมและผู้กระทำผิด ตลอดจน ศตั รขู องชาตอิ กี ดว้ ยนบั เปน็ ภาระอนั หนกั ทตี่ อ้ งทนลำบากตรากตรำทง้ั ตอ้ งเผชญิ กบั ปญั หายงุ่ ยากและภยนั ตราย อยู่ตลอดเวลา ทางราชการบ้านเมืองจึงได้มอบหมายสิทธิและอำนาจทางกฎหมายให้ เพื่อเป็นเครื่องมือ ปฏิบัติงานและป้องกันรักษาชีวิต ตำรวจท่ีแท้ควรจะต้องทราบตระหนักถึงความรับผิดชอบในหน้าท่ีและ ในสิทธิพิเศษของตนดังกล่าว และต้องมีวินัยเคร่งครัด มีความขยันพากเพียร มีความกล้าหาญอดทน และมีสติยั้งคิดอย่างสูง พร้อมทั้งต้องมีและต้องรักษาความสุจริตไว้ให้ม่ันคงทุกเมื่อ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะ และสถานะใด ย่ิงเป็นนายตำรวจผู้มีวิชาความสามารถท่ีฝึกฝนอบรมมาเป็นอย่างดีด้วยแล้ว ยังจะต้องมี ภารกิจเพิ่มขึ้นอีกส่วนหน่ึงเป็นพิเศษ ที่จะต้องพยายามขวนขวายใช้ความรู้ที่ได้เล่าเรียนมา ให้เกิดประโยชน์ แก่การปฏิบัติงานให้เต็มท่ี ด้วยความมั่นใจและรวดเร็วฉับไว เม่ือมีปัญหาหรืออุปสรรคอันใดเกิดข้ึน ในการปฏบิ ตั หิ น้าท่จี ะต้องไมต่ ื่นตระหนก หากแต่ต้องคุมสตใิ หม้ ัน่ คง แล้วใช้ความคิดพิจารณาไตรต่ รองหาทาง แก้ไขด้วยปัญญาความรู้ความฉลาด และด้วยความรอบคอบสุขุม ให้เห็นปัญหาและอุปสรรคชัดแจ้ง ก่อนทุกครั้ง งานทุกอย่างจึงจะไม่ติดขัดยุ่งเหยิงและจะบรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้บังเกิด ผลดที ัง้ แกส่ ่วนรวมทงั้ แกต่ นเองไดต้ ามทปี่ รารภปรารถนา ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จและความเจริญในชีวิต มีความสุข ความสวัสดี พร้อมท้ัง ความก้าวหน้ารุ่งเรืองในหน้าทร่ี าชการตลอดกาลทุกเมื่อ. ๙๙
พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานประกาศนยี บัตร แก่ผสู้ อบไล่ได้ตามหลักสูตรของสำนักอบรมศึกษากฎหมายแหง่ เนติบัณฑติ ยสภา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันจนั ทร์ ท่ี ๒๙ ตุลาคม ๒๕๒๒ ข้าพเจา้ มีความยินดีทีไ่ ดม้ ามอบประกาศนียบตั รแก่เนตบิ ณั ฑติ รุน่ ที่ ๓๑ ณ โอกาสนี้ และมคี วามพอใจที่ นายกเนตบิ ัณฑติ ยสภาได้กล่าวยืนยันต่อทปี่ ระชุมน้ีวา่ เนตบิ ณั ฑติ ผผู้ า่ นการศึกษาอบรมจากสำนกั อบรมศกึ ษา กฎหมายแหง่ เนตบิ ณั ฑติ ยสภาแหง่ นแี้ ลว้ ตา่ งมคี วามสำนกึ ตระหนกั วา่ จะตอ้ งใชก้ ฎหมายใหไ้ ดต้ รงกบั วตั ถปุ ระสงค์ โดยปราศจากอคติดว้ ยความสขุ มุ รอบคอบกอรป์ ดว้ ยมโนธรรมเพอื่ รกั ษาความยตุ ธิ รรมเทยี่ งตรงไวใ้ หด้ ำรงมนั่ คง อยู่ในแผน่ ดิน ขอแสดงความชนื่ ชมกบั เนตบิ ณั ฑติ ใหมเ่ ปน็ อยา่ งมาก ทไี่ ดร้ บั เกยี รติ ความสำเรจ็ รวมทง้ั โอกาสอนั งดงาม ที่จะไดป้ ระกอบการงานดา้ นกฎหมาย ซงึ่ เปน็ งานท่ีสำคัญทส่ี ดุ อยา่ งหน่ึงใหแ้ ก่บ้านเมอื งตอ่ ไป ผทู้ ไี่ ด้ผ่านสำนกั อบรมศกึ ษากฎหมายทกุ คน ควรจะได้รบั การชีแ้ จงเน้นหนกั ใหท้ ราบชดั ว่า กฎหมายมิใช่ ตัวความยุติธรรม หากเป็นแต่เพียงบทบัญญัติหรือปัจจัย ที่ตราไว้เพ่ือรักษาความยุติธรรม ผู้ใดก็ตาม แม้ไม่รู้ กฎหมาย แตถ่ า้ ประพฤติปฏบิ ตั ดิ ว้ ยความสจุ รติ แลว้ ควรจะไดร้ บั ความคุม้ ครองจากกฎหมายเต็มท่ี ตรงกนั ข้าม คนท่ีรู้กฎหมาย แต่ใช้กฎหมายไปในทางทุจรติ ควรตอ้ งถอื วา่ ทุจรติ และกฎหมายไม่ควรค้มุ ครองจนเกินเลยไป เพราะฉะนนั้ จงึ ไมส่ มควรจะถอื วา่ การรกั ษาความยตุ ธิ รรมในแผน่ ดนิ มวี งกวา้ งอยเู่ พยี งแคข่ อบเขตของกฎหมาย จำเปน็ ตอ้ งขยายออกไปใหถ้ งึ ศลี ธรรมจรรยาตลอดจนเหตแุ ละผลตามเปน็ จรงิ ดว้ ยขา้ พเจา้ ปรารถนาเปน็ อยา่ งยงิ่ ที่จะเห็นท่านท้ังหลายฝึกหัดตนให้เป็นคนกล้า คือกล้าท่ีจะปฏิบัติหน้าท่ีให้เป็นไปตามความถูกต้อง เท่ียงตรง ทง้ั ตามกฎหมายและศลี ธรรม โดยไมห่ วนั่ ไหวตอ่ อทิ ธพิ ลหรอื อคตใิ ดๆทงั้ หมดใหเ้ ปน็ คนทม่ี นั่ คงในสตั ยส์ จุ รติ และ ความถกู ตอ้ งตามทำนองคลองธรรม ไม่ปล่อยให้ความสุจรติ ยตุ ธิ รรมถูกขม่ ยใี ห้มัวหมองได้ ทง้ั นเ้ี พ่อื ท่านจกั ได้ สามารถกำจดั สง่ิ ทเี่ รยี กวา่ ชอ่ งโหวใ่ นกฎหมาย ใหบ้ รรเทาเบาบางและหมดสนิ้ ไป และทำใหก้ ารใชก้ ฎหมายเปน็ ไป ตามวตั ถปุ ระสงคอ์ ันสูงส่งตามท่มี งุ่ หมายไว้ ขออวยพรใหท้ กุ คนประสบความสขุ ความสำเรจ็ ในชวี ติ มคี วามเจรญิ ร่งุ เรอื งในหน้าทก่ี ารงานจงทุกเม่อื ตลอดไป.
พระบรมราโชวาท(๑) พระราชทานแก่คณะผ้พู ิพากษาประจำกระทรวงในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏญิ าณ กอ่ นเขา้ รบั หน้าท(่ี ๒) ณ พระตำหนักจติ รลดารโหฐาน วันองั คาร ท่ี ๓๐ ตุลาคม ๒๕๒๒ การที่ท่านทั้งหลายได้เปล่งคำปฏิญาณน้ี นับว่ามีความสำคัญ โดยเฉพาะเป็นการตั้งจิตม่ันเพื่อที่จะ ปฏิบัติหนา้ ทส่ี ำคญั ตอ่ ผู้กระทำความผดิ การทจ่ี ะเปน็ ผพู้ พิ ากษานนั้ ไมใ่ ชอ่ าชพี โดยทว่ั ๆ ไป เพราะวา่ เกยี่ วขอ้ งกบั ความยตุ ธิ รรมและความยตุ ธิ รรมน้ี กย็ อ่ มจะทำใหป้ ระเทศชาตมิ ขี อื่ มแี ปมคี วามเรยี บรอ้ ยซง่ึ จะนำไปสคู่ วามเจรญิ อนั เปน็ ความปรารถนาของสว่ นรวม ทกุ คนทจ่ี ะปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื ใหม้ คี วามเจรญิ รงุ่ เรอื ง สว่ นมากเมอ่ื จะทำงานใด ๆกต็ อ้ งทำงานเพอื่ เปน็ การทำมาหากนิ แต่คนก็ต้องการอำนาจ และความเจริญ ถ้าส่วนรวมไม่มีความเรียบร้อย ไม่มีความยุติธรรมแล้ว แต่ละคนก็ไม่ สามารถท่ีจะปฏิบัติงานเพ่ือความเจริญในหน้าที่ของตนได้ ฉะน้ันก็ต้องมีผู้ท่ีช่วยกันรักษาความยุติธรรม และ ความเรยี บรอ้ ยในบา้ นเมือง หน้าทนี่ ีก้ ไ็ ด้แก่ผูพ้ พิ ากษา หนา้ ท่ีน้จี งึ เปน็ หนา้ ทพี่ ิเศษ ท่านทั้งหลายได้ทำการศึกษามามีความรู้ดีแล้ว หน้าท่ีก็เข้าใจว่าเข้าใจดีในหน้าท่ีของตน คือการเป็น ผพู้ พิ ากษา จะตอ้ งเปน็ ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การตดั สนิ อรรถคดีเพอ่ื ใหก้ ารกระทบกระทง่ั ระหวา่ งฝา่ ยตา่ ง ๆ ราบรนื่ ไป ความเป็นอยู่ของคนท่ีอยู่ในหมู่มาก ย่อมจะต้องมีการกระทบกระทั่ง จึงต้องมีกฎหมายเพ่ือท่ีจะให้ได้รับ ความยุติธรรมทุกฝ่าย หน้าท่ีของผู้พิพากษาก็คือดูว่าฝ่ายไหนควรจะได้รับความยุติธรรมอย่างไร อันน้ีเป็น หน้าที่โดยตรง โดยมากก็จะต้องปฏิบัติในโรงศาล ก็จะต้องใช้ความรู้ในทางกฎหมายมาพิจารณาดูว่า วิธกี ารดังนี้ ๆ ถูกตอ้ งหรือไม่ถกู ตอ้ ง คนไหนเปน็ ฝา่ ยถกู คนไหนเป็นฝ่ายผิด คนไหนปฏิบตั ติ นเปน็ คนดหี รอื ไม่ อนั นเี้ ป็นหลกั ของอาชพี การงานของท่าน และเพือ่ ให้บรรลผุ ลในอาชีพของทา่ น จึงตอ้ งมีความรู้ (๑) เรียบเรียงขึน้ ตามทไ่ี ดบ้ นั ทึกพระสรุ เสยี งเอาไว้ (๒) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายประพจน์ ถิระวัฒน์ ประธานศาลฎีกา นำผพู้ ิพากษาประจำกระทรวงเฝ้า ฯ ถวายสัตยป์ ฏิญาณก่อนเขา้ รบั หนา้ ที่ ๒
นอกจากความรู้เกี่ยวข้องกับตำรา บทบัญญัติและกฎหมาย จะต้องมีความรู้เกี่ยวข้องกับชีวิตทั่ว ๆ ไป อนั นเ้ี ปน็ สง่ิ ทสี่ ำคญั ความจรงิ คนแตล่ ะคนกเ็ ชอื่ ไดว้ า่ ไมป่ รารถนาทจี่ ะหาความทกุ ข์ แตบ่ างทเี พราะเหตวุ า่ ตอ้ งการ ท่ีจะหาความสุขน่ันเอง จึงหาทางท่ีอาจจะผิดไม่ถูกต้องตามเรื่องของศีลธรรม หรืออาจจะเป็นการเบียดเบียน ผอู้ นื่ ได้แตท่ เ่ี ขาปฏบิ ตั นิ นั้ เขานกึ วา่ เขาทำหาความสขุ แทจ้ รงิ หาความทกุ ขใ์ สต่ วั แตก่ ารปฏบิ ตั เิ ชน่ นน้ั ตอ้ งมเี หตผุ ล คอื เหตผุ ลในใจของเขา จงึ ไดก้ ระทำออกมาเชน่ นน้ั ฉะนน้ั ผพู้ พิ ากษาจงึ ตอ้ งรจู้ กั ชวี ติ และเหตผุ ล ทำไมผทู้ ปี่ ฏบิ ตั ิ ทดี่ วู า่ ผดิ นนั้ เขาจงึ ตอ้ งทำความผดิ ดว้ ยเหตผุ ลใดจงึ จะเขา้ ใจวา่ ควรทจี่ ะตดั สนิ อยา่ งไรถา้ เปน็ คดรี ะหวา่ งสองพวก เปน็ เอกชนทงั้ สองพวก ทเ่ี รยี กวา่ เปน็ คดแี พง่ กด็ ไู ดว้ า่ คนนม้ี ผี ลประโยชนอ์ ะไร คนนน้ั มผี ลประโยชนอ์ ะไร ถา้ เปน็ คดอี าญากจ็ ะดวู า่ การกอ่ การนน้ั จะทำใหค้ วามผาสกุ ของสว่ นรวมเสยี หายไปเพราะวา่ ทำสงิ่ ทผี่ ดิ ศลี ธรรมโดยตรง เราก็จะต้องดูว่าทำไมเขาจึงต้องทำอย่างนั้น เพ่ือที่จะเข้าใจเต็มที่ในการท่ีได้กระทำผิด หรือสามารถท่ีจะปฏิบัติ การงานของผู้พิพากษาในการตัดสินความผิดหนักเบาแค่ไหน ฉะนั้นการที่จะต้องรู้ใจของผู้ท่ีจะเป็น อาจเรียก ไดว้ า่ เปน็ วตั ถขุ องการงาน เราตอ้ งรใู้ จเขา เมอ่ื รใู้ จกต็ อ้ งรเู้ กย่ี วขอ้ งกบั ชวี ติ ขอ้ นท้ี เ่ี ปน็ เรอ่ื งยากสำหรบั ผทู้ มี่ หี นา้ ท่ี เปน็ ผูพ้ ิพากษา เพราะวา่ จะต้องรู้จักจิตใจของบคุ คลในทางท่ีเป็นจริง เปน็ ชวี ิต และมาดวู ่าเข้ากับเร่ืองบทบญั ญตั ิ ที่มีอยู่ในกฎหมายหรือไม่ และก็ตัดสิน ฉะนั้นในกฎหมายจึงมีบทบัญญัติเก่ียวข้องกับดุลยพินิจของผู้พิพากษา กวา้ งขวางพอใช้ เพราะวา่ แล้วแตค่ ดีจะไปในรปู ใด กรณใี ด กอ็ าจจะตดั สินได้โดยใช้ดลุ ยพนิ จิ นี้ ฉะน้ันกเ็ ป็นส่งิ ท่ี สำคญั ท่จี ะรจู้ กั ความเป็นอยู่ อันนเ้ี ปน็ ข้อหน่งึ ในการปฏบิ ัติงานโดยตรงในโรงศาล งานอกี อยา่ งทไี่ มไ่ ดเ้ ปน็ การปฏบิ ตั โิ ดยตรงแท้ แตเ่ ปน็ หนา้ ทเ่ี หมอื นกนั ของคนทเ่ี ปน็ ผพู้ พิ ากษา ในฐานะที่ เป็นคนที่มีความรู้สูง และมีหน้าท่ีสูง เป็นคนท่ีนับว่าควรจะเป็นที่ยกย่องนับถือของประชาชนท่ัวไป คือเป็นงาน ที่นอกเหนือจากงานของผู้พิพากษา แต่มีผลดีสำหรับประเทศชาติ และอยู่ในขอบข่ายท่ีจะปฏิบัติได้ คือจะต้อง เอาใจใส่นอกโรงศาล หมายความว่าควรจะศึกษาดูว่าสภาพความเปน็ อยู่ในทอ้ งท่นี นั้ ๆ เป็นอย่างไร และอาจจะ หาทางแก้ไขได้ แนะนำได้ งานน้ีก็เท่ากับเป็นงานป้องกันอาชญากรรม หรือป้องกันคดี ท่านจึงมีงานสองอย่าง งานที่จะตัดสินในโรงศาล งานผู้พิพากษาแท้ ๆ ถ้ามีคดีมากก็อาจจะมีงานมาก ถ้ามีคดีน้อยก็อาจจะมีงานน้อย งานอีกด้านหนึ่งก็คืองานการป้องกันอาชญากรรมหรือป้องกันความขัดแย้ง ป้องกันความเข้าใจผิด เพื่อป้องกัน มิให้มีคดีมาก เท่ากับเป็นการป้องกันไม่ให้ต้องทำงานในโรงศาลมากเกินไปนัก ซ่ึงดูเหมือนว่าเป็นการตัดอาชีพ แต่มิใช่อย่างน้ัน เพราะว่าผู้พิพากษาหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปราบปราม การท่ีจะต้องพิจารณาคดีไม่ใช่ จำนวนคดีมากจะมีความพอใจ ถ้ามีคดีน้อยหมายความว่าคนเบียดเบียนกันน้อย ก็ดีใจ งานในด้านป้องกัน จึงเป็นงานทส่ี ำคัญมาก และทา่ นก็ทำได้ เพราะวา่ มคี วามรูพ้ อ มีความรู้มากในดา้ นกฎหมาย และควรจะมีความรู้
พอในทางชวี ติ ทว่ั ๆ ไป ฉะนน้ั ก็ขอฝากใหช้ ว่ ยกันปฏบิ ตั ิงานทัง้ สองดา้ นอย่างเขม้ แข็งจะเปน็ ประโยชน์เตม็ เป่ยี ม ตามทไ่ี ดเ้ ปลง่ คำปฏญิ าณ คำปฏญิ าณนนั้ กม็ ขี อ้ สำคญั ทคี่ วามมงุ่ มน่ั ทจ่ี ะทำงานเพอื่ ความยตุ ธิ รรม กข็ อใหร้ กั ษาไว้ ท้งั ในการทำงานโดยตรงคอื ในโรงศาล ทงั้ ในงานปอ้ งกนั ฉะน้ัน การปฏิญาณนั้นก็คงจะมีประโยชน์ ที่ได้กล่าวดังน้ี ก็เพราะได้ทราบว่าผู้พิพากษาท้ังหลาย ย่อมจะต้องไปทำหน้าท่ีในท่ีต่าง ๆ กัน ในภาคต่าง ๆ ในจังหวัดต่าง ๆ กัน ชีวิตความเป็นอยู่ของท้องท่ีอาจจะ แตกต่างกัน ฉะนั้นการเรียนรู้ในชีวิตของคน จึงไม่ได้จบอยู่ที่การศึกษาท่ีสำเร็จมาแล้ว ยิ่งมีชีวิตการทำงาน นานไปเท่าไร ก็ย่ิงมีความรู้เพิ่มพูนขึ้น ฉะน้ันก็ขอให้ท่านทั้งหลายได้ไปปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง ดังท่ีได้เปล่งวาจาเม่ือตะกี้ และตั้งใจท่ีจะเสริมสร้างความรู้ของตนให้แน่นแฟ้นย่ิงขึ้น เพ่ือท่ีจะให้คำปฏิญาณน้ี ไม่เสื่อมโทรมไป ถ้าคำปฏิญาณไม่เส่ือมโทรมไป ก็เช่ือได้ว่าท่านจะสำเร็จประโยชน์ในชีวิตของท่านจริง ต่อไป กเ็ ปน็ ผทู้ น่ี บั ถอื ตวั เองได้ ทง้ั ในความรหู้ ลกั วชิ า ทงั้ ในดา้ นปฏบิ ตั งิ าน และจะเปน็ บคุ คลทเ่ี ปน็ ทนี่ บั ถอื ของสว่ นรวม ได้อยา่ งแท้จริง ขอให้ได้รบั ผลดีต้ังแต่ต้น และผลดนี ้ใี ห้เสริมสรา้ งตลอดไป ยิ่งทำงานนานก็จะยง่ิ มคี วามเข้มแข็ง มคี วามซอื่ สตั ย์สุจรติ มีความแน่วแน่ จนกระทัง่ เปน็ ทน่ี ับถือของประชาชนทั่วไป ก็ขอให้ท่านทั้งหลายมีกำลังกาย กำลังใจท่ีเข้มแข็ง ที่จะปฏิบัติเพื่อบรรลุผลดังกล่าว ขอให้จงประสบ ผลสำเรจ็ สง่ิ ใดท่ชี อบธรรม ให้มคี วามสำเร็จทุกประการ. ๔
พระบรมราโชวาท ในพิธพี ระราชทานประกาศนยี บตั ร แกผ่ ู้สอบไล่ไดต้ ามหลกั สูตรของสำนกั อบรมศกึ ษากฎหมายแห่งเนตบิ ณั ฑิตยสภา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันจันทร์ ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๒๓ ข้าพเจ้ามีความยินดี ท่ีได้มาทำพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สอบไล่ได้ตามหลักสูตรของสำนักอบรม ศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาอีกวาระหนึ่ง และขอแสดงความช่ืนชมกับเนติบัณฑิตใหม่ทุกคน ทไี่ ดร้ บั เกยี รตแิ ละความสำเรจ็ รวมทงั้ โอกาสอนั งดงามทจ่ี ะไดป้ ระกอบการงานดา้ นกฎหมายซง่ึ เปน็ งานสำคญั ทส่ี ดุ ดา้ นหนง่ึ ของบ้านเมอื ง คนที่อยู่รวมกันเป็นหมู่มาก แม้ได้ชื่อว่าเป็นอิสรชน ก็ใช้อิสรภาพ คือความเป็นใหญ่ของตนเต็มท่ีไม่ได้ หากจำเป็นต้องจำกัดไว้ด้วยกฎข้อบังคับและวินัยอันเหมาะสม เพ่อื ให้แต่ละคนมีอิสรภาพสม่ำเสมอกัน ท้งั มิให้ ล่วงละเมิดกันและกัน กฎทบ่ี ังคับใชแ้ กท่ ุกคนได้ ก็มอี ยู่อยา่ งเดยี ว คอื กฎหมายซ่งึ ท่านทง้ั หลายไดศ้ ึกษามาแลว้ โดยตรงพร้อมเสร็จ ท้ังตัวบทและวิธีใช้ และกฎหมายน้ัน โดยหลักการจะต้องบัญญัติขึ้นใช้เป็นอย่างเดียวกัน และเสมอกันหมดสำหรับคนท้ังประเทศ จึงเป็นธรรมดาท่ีจะบังคับใช้ให้ได้ผลบริบูรณ์ครบถ้วนทุกกรณีไม่ได้ คงต้องมีส่วนบกพร่องเกิดขึ้นมากบ้างน้อยบ้าง ตามเหตุการณ์และตัวบุคคลผู้นำกฎหมายมาใช้ จำเป็นอย่างย่ิง ท่ีผู้ใช้กฎหมายจะต้องสำนึกตระหนักในความรับผิดชอบของตนเองอยู่ตลอดเวลา ในอันท่ีจะใช้กฎหมายเพ่ือ ธำรงรักษาและผดุงความยุติธรรมถูกต้องเพียงอย่างเดียว มิใช่เพื่อผลประโยชน์อย่างอ่ืน ๆ ในขณะนี้ ทุกคน ต้องทำใจให้หนักแน่นเที่ยงตรงปราศจากอคติ ให้กล้าแข็ง ท่ีจะทำในสิ่งท่ีถูกต้องเป็นธรรม ให้สุขุมรอบคอบ ประกอบด้วยสติและปัญญา ท่ีจะตรวจตราและพินิจพิจารณาหาทางท่ีจะใช้ตัวบทกฎหมายให้ได้ผลตรงตาม จุดประสงค์ คือให้เกิดความถูกต้องเที่ยงตรงโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ยอมปล่อยให้มีผู้อาศัยข้อบกพร่อง ทางกฎหมาย เอารัดเอาเปรียบผู้อ่ืนในทางไม่เป็นธรรมได้ ทั้งต้องดำรงตนให้เป็นที่พ่ึงของสุจริตชน ดว้ ยเสมอ นักกฎหมายจึงจะสามารถรกั ษาความศกั ดิ์สทิ ธิ์ของกฎหมายและความผาสุกสงบของบา้ นเมอื งไว้ได้ ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสุข ความสำเร็จในชีวิต และมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จงทกุ ประการ. ๖
พระราชดำรัส(๑) ในโอกาสทปี่ ระธานศาลฎีกา(๒) นำคณะผพู้ ิพากษา เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏญิ าณกอ่ นเข้ารับตำแหนง่ หนา้ ที่ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วนั จนั ทร์ ท่ี ๑๓ เมษายน ๒๕๒๔ ตามทไี่ ดม้ รี ะเบยี บใหผ้ พู้ พิ ากษากลา่ วคำปฏญิ าณกอ่ นทจ่ี ะเขา้ รบั หนา้ ทตี่ ามแบบนน้ั นบั วา่ มคี วามหมายไมน่ อ้ ย เพราะว่าทกุ คนจะเป็นขา้ ราชการ จะเป็นประชาชนพลเมอื งทัว่ ไปของประเทศไทย ย่อมจะตอ้ งตง้ั ใจที่จะปฏบิ ัตงิ านการ ของตนด้วยความซอื่ สัตยส์ จุ ริตเพ่อื ใหช้ าติบา้ นเมืองม่นั คงอย่ไู ด้ โดยเฉพาะสำหรับขา้ ราชการก็มีหนา้ ทีท่ จี่ ะทำงานของ ตนทไ่ี ดร้ บั มอบหมายคอื งานทจ่ี ะทำสำหรบั ประโยชนส์ ขุ ของประชาชนเพอื่ ความมน่ั คงของประเทศชาติยง่ิ เปน็ ผพู้ พิ ากษา มีหน้าที่เพ่ือความสงบเรียบร้อย และยุติธรรมของชาติบ้านเมือง ก็ย่ิงมีความสำคัญ ท่ีจะต้ังจิตใจให้มั่นในงานการของ ตัวเอง เพราะว่างานนี้มีความสำคัญย่ิงกว่างานอื่น เพราะว่าผู้พิพากษาน้ันจะต้องพิจารณาความยุติธรรมให้เกิดขึ้นใน ชาติบ้านเมือง ฉะน้ัน การที่ให้เตือนสติตัวเองและประกาศให้ทราบว่า ต้ังใจท่ีจะปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ปราศจากอคตทิ ัง้ มวลนั้น จึงเปน็ ส่งิ ทส่ี ำคญั การปฏิบัติหน้าท่ีของผู้พิพากษานั้นมีหลายอย่าง นอกจากในหน้าท่ีผู้พิพากษาโดยตรง ก็จะต้องปฏิบัติตนใน ฐานะที่เป็นผู้ที่มีความรู้สูง รอบรู้ในหลักวิชา อันน้ีก็นับว่าทำให้เกิดหน้าที่อยู่แล้ว เพราะว่าผู้ท่ีมีความรู้ในทางวิชาการ ย่อมเป็นท่ีนับถือของประชาชนท่ัวไปก็จะต้องเป็นที่พ่ึงของทุกคน ให้เขาเห็นว่าผู้ที่เป็นผู้พิพากษานั้นพึ่งได้ ไว้ใจได้ ปรึกษาหารือกันในฐานะที่เป็นพลเมืองไทย คือ ตัวเองเป็นคนไทยก็มีหน้าท่ีที่จะรักษามรดกที่ได้ตกทอดมาแต่โบราณ เพอ่ื ทจ่ี ะใหช้ าติบา้ นเมืองอยู่เยน็ เป็นสขุ การทท่ี า่ นไดป้ ระกาศออกมานับวา่ มีความหมาย เพราะว่าคตินน้ั กม็ าจากสิง่ ท่ี ทำใหเ้ ราไดร้ วู้ า่ อะไรดี อะไรชว่ั อคตกิ ลบั ความหมายแปลวา่ ไปในทางทไี่ มถ่ กู คอื ไปในทางทเ่ี สอ่ื มอคตนิ นั้ เปน็ สงิ่ ทรี่ า้ ยแรง มาก ก็ต้องพิจารณาว่าคำว่าอคติน้ันเป็นอย่างไร ทุกคนย่อมมีทาง แต่ถ้าทางของตัวน้ันไปในทางท่ีไม่ถูก ก็จะทำให้ ทางตวั เองเป็นทางท่เี ส่ือมทราม และถา้ มหี น้าทสี่ ูงเปน็ ที่ไว้วางใจของผอู้ ่นื ก็จะนำผู้อ่นื ไปในทางท่ีเส่ือมทรามได้ ฉะนั้น การทท่ี า่ นทงั้ หลายไดก้ ลา่ วคำปฏญิ าณและประกาศออกมาเปน็ การเตอื นสตทิ ดี่ ีสำหรบั การทจ่ี ะประสบความเจรญิ รงุ่ เรอื ง ในหนา้ ท่ีการงาน ทง้ั มคี วามสำเร็จในความตัง้ ใจทจี่ ะทำงานดว้ ยความสำนกึ ท้ังในด้านงานการของตนและประเทศชาติ ในฐานะเปน็ คนไทย ทงั้ ในดา้ นส่วนรวม ทัง้ ในดา้ นสว่ นตัว กข็ อใหท้ า่ นทงั้ หลายมคี วามสามารถทจี่ ะใชว้ ชิ าการใหก้ า้ วหนา้ ดว้ ยความสจุ รติ มคี วามสำเรจ็ ในงานการทกุ อยา่ ง ขอใหท้ า่ นทงั้ หลายมกี ำลงั จติ ใจเขม้ แขง็ รา่ งกายแขง็ แรง เพอ่ื ใหป้ ระสบความสำเรจ็ ความเจรญิ ในการทเี่ ปน็ ความกา้ วหนา้ ความมนั่ คงของสว่ นรวมและตนเอง ขอใหป้ ระสบความสำเรจ็ และความเจรญิ ทวั่ ทกุ คน. (๑) เรียบเรยี งตามท่ไี ดบ้ นั ทึกพระสุรเสียงไว้ (๒) นายบญั ญัติ สุชีวะ
พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานกระบแ่ี ละปรญิ ญาบตั รแกว่ ่าทรี่ อ้ ยตำรวจตรีท่สี ำเรจ็ การศึกษาชั้นสูงสุด จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปีการศึกษา ๒๕๒๓ และพระราชทานประกาศนยี บตั รและเขม็ พิทกั ษาธิปัตย์แก่นายตำรวจทส่ี ำเรจ็ การศกึ ษา หลกั สูตรฝา่ ยอำนวยการตำรวจ รุ่นที่ ๒ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันพฤหัสบดี ท่ี ๖ สงิ หาคม ๒๕๒๔ ขา้ พเจา้ มคี วามยนิ ดีทไ่ี ดม้ าทำพธิ มี อบกระบแ่ี ละปรญิ ญาบตั รแกว่ า่ ทรี่ อ้ ยตำรวจตรผี สู้ ำเรจ็ การศกึ ษาจากโรงเรยี น นายร้อยตำรวจ พร้อมกับมอบประกาศนียบัตรและเข็มพิทักษาธิปัตย์ แก่นายตำรวจผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร ฝ่ายอำนวยการตำรวจ ขอแสดงความชื่นชมกับทกุ ๆ คนอยา่ งมาก ที่ไดร้ บั เกียรติและความสำเร็จในคร้งั น้ี ปจั จุบนั นี้ มีเหตหุ ลายอยา่ งกอ่ ให้เกิดปัญหาและความย่งุ ยากต่าง ๆ ขึ้นมากมาย ทำใหต้ ำรวจตอ้ งรบั ภาระหนกั ย่ิงขนึ้ ในการรกั ษาความสงบเรยี บร้อยของบ้านเมอื ง โดยเฉพาะในการป้องกนั ปราบปรามอาชญากรรมและการตอ่ ตา้ น การก่อการร้าย ซ่ึงคอยบ่อนทำลายความม่ันคงของประเทศชาติอยู่ทุกขณะ ดังนั้น เจ้าหน้าท่ีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่ละคนจึงต้องมีความรู้ความสามารถอย่างสูง ทั้งต้องรู้จักใช้ความรู้ความสามารถน้ันโดยถูกต้องสอดคล้องกับ สถานการณ์ด้วย และนอกจากด้านความรู้ความสามารถแล้ว ทางด้านจิตใจตำรวจ ก็จำเป็นจะต้องฝึกหัดอบรมเป็น พิเศษ ให้ม่ันคงและแข็งแกร่งถึงขนาด เพ่ือจะได้สามารถอดทนและอดกลั้นต่อความยากลำบากทุกอย่าง รวมทั้ง อามิสเคร่ืองเย้ายวนล่อใจสารพัด มิฉะนั้นจะไม่อาจรักษาความสุจริตยุติธรรมและวินัยอันดีงามซึ่งเป็นคุณสมบัติหรือ ความดขี องตำรวจไว้ ใหเ้ หนยี วแน่นตลอดไปได้ การทำดีนนั้ ทำยาก และเห็นผลช้า แตก่ จ็ ำเปน็ ต้องทำ เพราะหาไม่ ความชัว่ ซง่ึ ทำได้งา่ ย จะเข้ามาแทนท่ี แล้วจะ พอกพนู ขึน้ อย่างรวดเร็วโดยไม่ทนั รสู้ ึกตัว ตำรวจแต่ละคนจงึ ต้องตั้งใจและเพยี รพยายามใหส้ ุดกำลงั ในการสร้างเสรมิ และสะสมความดีอยู่ทุกเมื่อ ทั้งต้องหม่ันสำรวจตรวจสอบความดีของตัวอยู่เสมอ ๆ ด้วยว่า ยังมีบริบูรณ์ดีอยู่หรือ บกพร่องวิปริตในส่วนใดข้อใดไป จักได้รีบปฏิบัติปรับปรุงแก้ไขให้ทันการ และการสร้างความดีนี้ สำคัญท่ีสุด จะต้อง กระทำให้พร้อมกันท่ัวทุกคน ผลการปฏิบัติจึงจะมีประสิทธิภาพเต็มที่ และช่วยให้บ้านเมืองมีความปรกติเรียบร้อยได้ ถ้าปฏิบัติไม่พร้อมเพรียงกัน หรือพากันละเลย ไม่รักษาความดีแล้ว ความป่ันป่วนระส่ำระสายก็จะเกิดตามมา จึงใคร่ ขอให้นายตำรวจทุกคนคิดพิจารณาให้เห็นถ่องแท้ เพ่ือจะได้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีมุ่งท่ีจะสร้างสรรค์แต่ส่ิงที่ เป็นคณุ เป็นประโยชนแ์ กต่ นแก่สว่ นรวมตลอดไป ขออวยพรใหท้ กุ คนประสบความสขุ ความสำเรจ็ ในชวี ติ มคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งในหนา้ ทร่ี าชการและขอใหท้ กุ ๆทา่ น ท่มี าประชมุ พรอ้ มกนั ในพิธีนี้ มคี วามสวสั ดจี งทั่วกัน.
พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานประกาศนยี บัตรแกผ่ สู้ อบไลไ่ ด้วชิ าความรู้ชั้นเนติบัณฑิต สมยั ท่ี ๓๓ ปีการศกึ ษา ๒๕๒๓ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วนั พฤหสั บดี ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๒๔ ข้าพเจ้ามีความยินดี ท่ีได้มาทำพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สอบไล่ได้ตามหลักสูตรของสำนักอบรม ศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา รุ่นที่ ๓๓ และขอแสดงความชื่นชมกับเนติบัณฑิตใหม่ทุกคน ท่ีได้รับ เกียรติและความสำเร็จ พร้อมท้ังโอกาสอันงดงามท่ีจะได้ประกอบการงานทางด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นงานสำคัญ ที่สุดส่วนหน่ึงของบา้ นเมอื ง มีคำพูดที่พูดถึงนักกฎหมายอยู่อย่างหน่ึงว่า “คนท่ีทำงานกับกฎหมายมาก ๆ มักจะติดอยู่กับตัวบท กฎหมาย” คำพูดอย่างนี้ดูจะไม่ใช่คำชม หากเป็นคำติติงนักกฎหมายบางคน ท่ีถือแต่ตัวกฎหมายเป็นหลักการ ในการธำรงรักษาความยุติธรรม ซ่ึงดูจะเป็นการคับแคบเกินไป และอาจทำให้รักษาความยุติธรรมไว้ได้ไม่เต็มที่ ผทู้ ำหนา้ ทพี่ ทิ กั ษค์ วามยตุ ธิ รรมหรอื ความเปน็ ธรรมจงึ ควรระมดั ระวงั ใหม้ าก คอื ควรจะไดท้ ำความเขา้ ใจใหแ้ นช่ ดั ว่ากฎหมายนั้นไม่ใช่ตัวความยุติธรรม เป็นแต่เพียงเคร่ืองมืออย่างหน่ึงสำหรับใช้ในการรักษาและอำนวย ความยุติธรรมเท่านั้น การใช้กฎหมายจึงต้องมุ่งหมายใช้เพ่ือรักษาความยุติธรรม ไม่ใช่เพ่ือรักษาตัวบทของ กฎหมายเอง และการรักษาความยุติธรรมในแผน่ ดินกม็ ิไดม้ วี งแคบอยเู่ พียงแคข่ อบเขตของกฎหมาย หากต้อง ขยายออกไปให้ถึงศีลธรรมจรรยาตลอดจนเหตุและผลตามเป็นจริงด้วย ท่านท้ังหลายชอบที่จะต้ังความคิด จติ ใจไวใ้ หถ้ กู ตอ้ งเปน็ อสิ ระทงั้ เพยี รพยายามทจี่ ะฝกึ หดั ตนใหเ้ ปน็ คนกลา้ หมายถงึ กลา้ ทจี่ ะทำตามความถกู ตอ้ ง เป็นธรรม ไม่ยอมตัวให้ติดอยู่กับความคิดและแบบวิธีอันคับแคบ เพื่อช่วยกันต่อสู้ป้องกันมิให้ความสุจริต ยุติธรรมต้องถูกข่มยีให้เศร้าหมอง และกำจัดส่ิงท่ีเรียกว่าช่องโหว่ในกฎหมาย ให้ลดน้อยหมดส้ินไป การใช้กฎหมายของเราก็จะบรรลถุ ึงจุดหมายอนั สงู ส่งทมี่ งุ่ ประสงคไ์ ด้ในท่ีสุด ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสขุ ความเจริญ ความสำเรจ็ ในชวี ติ และการงานพร้อมถว้ นทกุ ประการ.
พระราชดำรสั (๑) ในโอกาสที่ผู้พิพากษาประจำกระทรวง เฝา้ ฯ ถวายสัตย์ปฏญิ าณกอ่ นเข้ารับหน้าที่ ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน วันพฤหสั บดี ท่ี ๑๘ มนี าคม ๒๕๒๕ การท่ีผู้พิพากษาได้กล่าวคำปฏิญาณก่อนที่จะเข้ารับหน้าท่ีคร้ังแรกนั้น มีความสำคัญอย่างย่ิงสำหรับ ผู้พิพากษาทุกคน แม้จะไม่เป็นผู้พิพากษา คำปฏิญาณใด ๆ ก็มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการกล่าวสัจวาจา ซ่ึงสัจวาจานั้นเป็นแกนหรือเป็นรากฐานของการทำงาน หรือการดำรงชีวิตที่ดีท่ีงาม ที่มีความก้าวหน้า มคี วามสำเรจ็ สจั วาจานน้ั จะตอ้ งตงั้ ตง้ั แตเ่ ดก็ ตลอดมา สจั วาจาคอื เปน็ การตง้ั ใจ ตงั้ จติ ตงั้ ใจวาจานนั้ กเ็ ปน็ คำพดู ออกมา แสดงถึงคำพูดน้ันก็ต้องออกมาจากใจ คือเป็นการตั้งใจที่จะทำอะไรเพ่ือความสำเร็จในงานน้ัน อย่างเม่ือเป็น นักเรียนในโรงเรียน อยากที่จะผ่านพ้นการศึกษานั้นไปได้ให้เป็นประโยชน์ ก็จะต้องตั้งใจท่ีจะเรียนท่ีจะรู้ จะทำอะไรตอ้ งตงั้ ใจ การตงั้ ใจนนั้ มสี ง่ิ ทสี่ ำคญั ทจี่ ะตอ้ งมาประกอบ คอื ความตง้ั ใจในทางทจี่ ะใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั หรือตามธรรม โดยมากเวลาบอกว่าให้อยู่ในศีลในธรรมหรือให้เป็นคนดีน้ัน ฟังดูแล้วออกจะรำคาญ เพราะว่า คนเราก็อยากได้ความสำเร็จ แต่เวลาถูกเตือนว่าให้ทำดีให้อยู่ในศีลในธรรม ออกจะรำคาญ แต่แท้จริงตาม ธรรมชาติหรือตามความเป็นจริง ถ้าตั้งใจให้อยู่ในระเบียบหรือในหลักย่อมมีความสำเร็จทุกอย่าง มิใช่เฉพาะ สำหรบั งานความยตุ ธิ รรมอยา่ งทที่ า่ นทง้ั หลายจะตอ้ งรบั แตท่ กุ ดา้ นถา้ มคี วามตง้ั ใจทำงานหรอื ทำการใดใหถ้ กู ตอ้ ง ตามหลกั วชิ าทถี่ กู ตอ้ งตามคลองธรรม กจ็ ะทำใหส้ ง่ิ นน้ั สำเรจ็ ความสำเรจ็ คอื อะไร มใิ ชส่ ำเรจ็ เพอื่ แสดงวา่ เปน็ คน มศี ลี มธี รรมเทา่ นน้ั สำเรจ็ เพอื่ ความสำเรจ็ ของตวั เองเพอื่ จะทำใหม้ คี วามสขุ ใจมคี วามพอใจฉะนนั้ ตลอดมาจนถงึ บดั นที้ กุ คนกค็ งตอ้ งไดต้ ง้ั สจั วาจาหรอื ตงั้ ใจมามากหลายแลว้ ถงึ ไดม้ คี วามสำเรจ็ มาถงึ วนั นี้มาถงึ ขน้ั ทเ่ี ปน็ ผพู้ พิ ากษา ก็ได้รับแต่งต้ังให้เป็นผู้พิพากษาประจำกระทรวง และต่อไปก็คงได้ไปทำหน้าท่ีต่าง ๆ งานต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับ การรกั ษาความยตุ ธิ รรม กจ็ ะตอ้ งตงั้ ใจตามทไ่ี ดฝ้ กึ ไดก้ ลา่ วคำปฏญิ าณวา่ จะซอื่ สตั ยส์ จุ รติ จะไมค่ ลอ้ ยตามอคติ จะตง้ั ใจเพอ่ื ความยตุ ธิ รรมและความมน่ั คงของประชาชน สง่ิ เหลา่ นก้ี ค็ งเขา้ ใจดแี ลว้ แตว่ า่ ถา้ ใหก้ ลา่ วคำปฏญิ าณ ก็ย่ิงหนักแน่นข้ึน ต่อไปเม่ือได้กล่าวคำปฏิญาณและระเบียบท่านไม่ได้บอกให้กล่าวคำปฏิญาณต่อไปอีกทุกวัน หรือเป็นระยะ ๆ แต่ความจริงก็จะต้องกล่าวคำปฏิญาณอย่างนี้ในใจตลอดเวลา จึงจะมีความสำเร็จตามหน้าท่ี (๑) เรยี บเรยี งข้นึ ตามท่ไี ดบ้ นั ทึกพระสุรเสยี งไว้
ทไี่ ดต้ ง้ั ไวแ้ กต่ วั ฉะนน้ั การทก่ี ลา่ วคำปฏญิ าณนเี้ ปน็ วธิ กี าร ขอใหท้ บทวนคำปฏญิ าณนตี้ ลอด เพราะวา่ สำคญั มาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ท่ีทำหน้าที่ผู้พิพากษา ถ้าผู้พิพากษาขาดความยุติธรรมคือความเป็นกลาง กลไกต่าง ๆ ของ ประเทศชาติกค็ งจะตอ้ งเส่อื มโทรมลงไปไม่นอ้ ย และคนกจ็ ะไม่มีที่พ่งึ เม่ือเปน็ เชน่ นั้นสงั คมกจ็ ะอลเวง พวกเรา ทุกคนจะเปน็ ผูท้ ีม่ หี น้าที่ใดก็ตาม จะเดอื ดรอ้ นกนั ท้ังนั้น ฉะนั้น ท่านท้ังหลายมีโอกาสท่ีจะทำหน้าที่อย่างนี้ก็ควรท่ีจะทำอย่างเต็มท่ี นอกจากหน้าท่ีโดยตรงของ ผพู้ พิ ากษากม็ หี นา้ ทข่ี องพลเมอื งดผี มู้ คี วามรสู้ งู และมฐี านะเปน็ ทนี่ บั ถอื ของประชาชนจงึ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ นปฏบิ ตั งิ าน ใหเ้ ปน็ ทน่ี บั ถอื โดยแทข้ องทกุ คนทงั้ ประชาชนทวั่ ไปทง้ั เพอ่ื นขา้ ราชการโดยเฉพาะขา้ ราชการในกระทรวงยตุ ธิ รรม กต็ อ้ งใหเ้ ปน็ ทพ่ี งึ่ ของทกุ คนทวั่ ทกุ ชน้ั ทกุ วยั ทกุ เพศถา้ ทำเชน่ นนั้ ทา่ นทง้ั หลายเองกจ็ ะรสู้ กึ วา่ ทำสมเกยี รตขิ องตวั มศี กั ดศิ์ รี มปี ระโยชน์ งานทที่ ำในโรงศาลกท็ ำใหต้ รงทกุ อยา่ ง ในการดำรงชวี ติ กท็ ำใหต้ รงเปน็ ตวั อยา่ ง ในทสี่ ดุ ถา้ ไปเปน็ ผพู้ พิ ากษาทใ่ี ดกต็ าม เมอ่ื เขา้ โรงศาลกจ็ ะตอ้ งพยายามทจี่ ะทำตามกฎเกณฑ์ คอื รบั ฟงั ดว้ ยความเปน็ กลาง และตดั สนิ ดว้ ยความเปน็ กลางตามบทกฎหมาย นอกโรงศาลกเ็ ปน็ ตวั อยา่ งทดี่ ขี องคนทส่ี ะอาดบรสิ ทุ ธิ์ ของคนที่ มชี วี ติ ทซี่ อ่ื ตรง และเปน็ ทพี่ ง่ึ คอื ถา้ ไปดคู วามเปน็ อยขู่ องประชาชนทใี่ ดทเี่ ดอื ดรอ้ นกน็ ำมาคดิ เพอ่ื ดวู า่ จะทำอยา่ งไร สำหรับให้ชีวิตของประชาชนท่ีมีจำนวนมากท่ีแร้นแค้น ให้มีความเป็นอยู่สบายข้ึน ถ้าประชาชนมีความเป็นอยู่ สบายขึ้นสามารถท่ีจะดำรงชีวิตอยู่ได้นั้น จะเป็นส่ิงหนึ่งท่ีจะป้องกันสิ่งที่เข้ามาในโรงศาลคือคดีต่าง ๆ ซ่ึงต้องนับว่าคดีท่ีเกิดข้ึนและเข้ามาตัดสินในโรงศาลส่วนมากก็เป็นเร่ืองของอัปมงคล เราก็ป้องกันอัปมงคล ด้วยการไปศึกษาและเขา้ ไปพยายามชว่ ยเหลอื สงั คมในภายนอกโรงศาล การท่ีจะเอาใจใสส่ ังคมนอกโรงศาลนม้ี ี ๒ ทาง ทางตรงก็มกี ารใหค้ ำแนะนำในเร่อื งกฎหมายแก่ประชาชน ซงึ่ โดยมากเวลาขอรอ้ งใหผ้ พู้ พิ ากษาหรอื ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กฎหมายมาชว่ ยประชาชน ชว่ ยสงั คม กก็ ลา่ ววา่ ไปชว่ ยให้ คำแนะนำแก่ประชาชนในด้านกฎหมายนั่นทางหนึ่ง อีกทางหน่ึงก็คือพยายามไปช่วยในชีวิตประจำวันของ ประชาชน เอาใจใสส่ นใจทง้ั ในใจและการกระทำ ดงั นีก้ ็จะได้กระทำหนา้ ทคี่ รบถว้ น ทั้งในฐานะผู้พพิ ากษา ทัง้ ใน ฐานะผ้ทู ม่ี ีความรู้ ผ้ทู ีม่ ีคุณธรรม ฉะนัน้ การท่ีไดก้ ลา่ วปฏญิ าณจึงขอใหท้ บทวนอกี คร้ังหน่ึง ระลกึ ถงึ ทุกขณะกด็ ี ทำทุกวันก็ดี ว่าได้กล่าวคำปฏิญาณเช่นนี้แล้ว และก็ทำตามคำปฏิญาณท่ีตั้งใจท่ีจะทำงานให้ซื่อสัตย์สุจริต เท่ียงตรงน้ัน จนกระทั่งทำให้เรามีความสุขได้คือมีความพอใจว่างานหรือการกระทำอย่างดี มีความสำเร็จ ต่อไปกจ็ ะได้มคี วามนับถือตวั เองไดอ้ ย่างเตม็ ท่ี ฉะน้ัน ก็ขอให้ท่านทั้งหลายไดร้ ักษาคำปฏญิ าณนี้ และระลกึ ถงึ อย่เู สมอ อาจจะไมร่ ะลึกถงึ ถ้อยคำ แตร่ ะลกึ ถงึ เจตนา คือระลึกถงึ ความหมาย จะไดค้ วามเจริญทุกอยา่ ง ก็ขอให้ท่านทั้งหลายมีกำลังกายและโดยเฉพาะกำลังจิตใจ ท่ีจะปฏิบัติหน้าท่ีผู้พิพากษาน้ีให้ดีที่สุด ขอใหไ้ ด้ประสบแต่ความเจริญความสำเรจ็ ทุกคน. ๒
พระราชดำรัส(๑) ในโอกาสทผ่ี ูพ้ ิพากษาประจำกระทรวงเฝ้าฯ ถวายสตั ยป์ ฏญิ าณก่อนเขา้ รับหน้าที่ ณ พระตำหนักจติ รลดารโหฐาน วันพฤหสั บดี ท่ี ๑๖ ธนั วาคม ๒๕๒๕ การท่ีท่านทง้ั หลายได้มาเปลง่ คำสัตย์ปฏญิ าณน้ี กเ็ ปน็ สงิ่ ที่สำคัญ และท่านก็ทราบดวี า่ เป็นสิง่ ทถี่ กู ต้อง ท่านท้ังหลายได้ผ่านการศึกษาทุกข้ันตอนมาหลายอย่าง นับว่ามีความรู้ในวิชาการมากหลาย และ สามารถท่ีจะปฏิบัติงานการในอาชีพที่สำคัญ แต่จะต้องพิจารณาว่างานทุกอย่าง ความรู้ในวิชาการน้ันเป็น ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ยังมีอีกสิ่งหน่ึงที่สำคัญก็คือจิตใจ จิตใจแต่ละคนที่มีอยู่จะต้องใช้ในทางท่ีถูก และ การทไ่ี ดเ้ ปลง่ คำสตั ยป์ ฏญิ าณนกี้ เ็ ปน็ การยนื ยนั อกี ครงั้ หนง่ึ วา่ จะตง้ั ใจปฏบิ ตั งิ านใหด้ ีทำไมจะตอ้ งปฏบิ ตั งิ านใหด้ ี ให้สมกับคำสัตย์ปฏิญาณน้ี ก็เพราะว่าหน้าท่ีของผู้พิพากษาน้ีเป็นหน้าที่ท่ีสำคัญสำหรับประเทศชาติ ถ้าหากว่า ขาดความยตุ ธิ รรมประเทศกจ็ ะอยยู่ ากมเี หมอื นกนั ทเ่ี ขามกี ารปกครองอยา่ งไมม่ คี วามยตุ ธิ รรมแตว่ า่ ประเทศไทย ก็คงต้องมีความยุติธรรมมาตลอด ถึงมีความเจริญได้ มีความมั่นคงได้อย่างมหัศจรรย์ ฉะน้ัน ท่านก็จะได้ ปฏิบัติงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของการรักษาความมั่นคงของประเทศชาติในด้านความยุติธรรม ซึ่งเป็นส่วนที่มี ความสำคัญย่ิงสำหรับความเป็นอยู่ของประเทศ ถ้าท่านถือว่าคำปฏิญาณน้ีเป็นเพียงคำพูดส้ัน ๆ ก็อาจจะ ได้เหมือนกัน แต่ถ้าดูว่าการเปล่งคำปฏิญาณนี้มีความสำคัญอย่างมากที่สุด โดยท่ีหน้าท่ีของท่านที่จะทำต่อไป จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบอย่างสูง และหน้าท่ีน้ีไม่ใช่ว่ามีใครมาบังคับให้ทำ แต่ละท่านก็ได้เลือกงานการน้ี เมื่อได้เลือกแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด คำสัตย์ปฏิญาณนี้มีความสำคัญอยู่ว่าจะต้องทำเพ่ืออุ้มชูสถาบันต่าง ๆ และจะทำได้ก็ต่อเม่ือปราศจากอคติดังที่ได้กล่าว อคตินั้นแปลว่าทำอะไรท่ีไปในทางที่ไม่ควรจะไป ถ้าปราศจากอคติก็หมายความว่าไปในทางที่ควรจะไป ทางท่ีควรจะไปนั้นคืออะไร ก็คือความซ่ือสัตย์สุจริต ความเสียสละ ความตั้งใจแน่วแน่ ความต้ังใจที่จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม การทำประโยชน์แก่ส่วนรวมนี้ ย่อมทำให้เกิดเป็นประโยชน์ต่อตัวเองด้วย ทำให้มีความเจริญรุ่งเรือง ทำให้มีความพอใจมีความสุขใจ ทุกอย่าง ฉะน้ัน คำว่าจะปฏิบัติงานทุกอย่างโดยปราศจากอคตินั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญท่ีสุด โดยเฉพาะ ในงานของผู้พพิ ากษานี้ ซ่ึงตอ่ ไปน้ที า่ นกเ็ ป็นผพู้ พิ ากษาท่ีจะได้รับตำแหน่งตอ่ ไป (๑) เรียบเรยี งขึ้นตามทีไ่ ด้บันทึกพระสุรเสียงไว้ ๔
การพพิ ากษานจ้ี ะตอ้ งปราศจากอคตทิ กุ อยา่ ง เพราะวา่ สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ และจะตอ้ งมาอยตู่ อ่ หนา้ ทา่ นทง้ั หลาย ในฐานะผู้พิพากษานั้น เป็นเรื่องของผลประโยชน์ เป็นเร่ืองของจิตใจท่ีฟุ้งซ่าน เป็นเรื่องของส่ิงที่ไม่ดีที่เกิดขึ้น และท่านเปน็ ผู้ตัดสินวา่ ความดอี ยู่ที่ไหน ความไม่ดีอยู่ทไ่ี หน อนั นี้ถา้ พูดงา่ ย ๆ กด็ งู ่ายดี เพราะว่าสิ่งท่ดี กี ย็ อ่ มดี ส่ิงทเี่ ลวกย็ ่อมเลว สงิ่ ท่ถี ูกกถ็ กู ส่ิงท่ีผดิ ก็ผดิ แตโ่ ดยทจ่ี ติ ใจมนษุ ย์นซี้ ับซอ้ นมาก จึงมสี ิ่งท่ีปกบังอยู่เสมอ ทกุ สงิ่ ทุกอย่างก็ต้องพยายามท่ีจะดู ท่ีจะพิจารณาอย่างรอบคอบและอย่างถูกหลักของวิชาการ ทั้งถูกหลักของ ความยุติธรรม ถ้าหากว่าแต่ละท่านมีวิชาการแล้ว และมีจิตใจที่แน่วแน่ย่อมทำได้ไม่ยากนัก แต่ท่ีจะยาก บางที เรากล็ ืมทางวชิ าการและอาจจะลืมทางจิตใจด้วยซำ้ ถา้ พดู อย่างนอ้ี าจจะทำให้นกึ วา่ นี่ดูถูกกนั แลว้ แตค่ วามจริง คนเราทุกคนต้องต่อสู้กับความไม่ดีท้ังในโลกทั้งในตัวเอง ฉะน้ัน การท่ีได้เปล่งคำปฏิญาณน้ีก็จะเป็นคำเตือน เป็นส่ิงท่ีให้กำลังใจและเตือนใจว่าต้องทำส่ิงท่ียาก แต่ก็จะสามารถฟันฝ่าได้ถ้าต้ังจิตตั้งใจให้มั่นคงต้ังแต่ต้น ฉะน้ัน การที่ได้เปล่งวาจาเป็นคำสัตย์ปฏิญาณน้ีจึงมีความสำคัญอย่างมาก ก็ขอให้ท่านทั้งหลายได้สามารถ รักษาความสัตย์นี้ จะทำให้งานทุกอย่างท้ังในหน้าท่ีท้ังในด้านส่วนรวมมีความสำเร็จ ประสบความเจริญรุ่งเรือง ประสบความดคี วามงาม ทำใหเ้ ปน็ ทย่ี กยอ่ งของประชาชนทง้ั หลายเมอ่ื ไดค้ วามยกยอ่ งไดค้ วามสำเรจ็ ในงานการ ก็ยอ่ มมคี วามสขุ ใจอย่างย่ิง ก็เช่ือว่าความสำเร็จน้ีเป็นสิ่งที่ท่านท้งั หลายทุกคนมีความปรารถนา ฉะน้ัน กข็ อให้ทา่ นทงั้ หลายมีกำลงั ท้ังกายทง้ั ใจพร้อมมลู แขง็ แรง เพ่ือทจ่ี ะฟันฝ่าอุปสรรคใด ๆ ทีจ่ ะมีข้ึน ในชีวิต ทั้งด้านงานการ ทั้งด้านส่วนตัว ก็ขอให้ท่านท้ังหลายมีกำลังกายกำลังใจเข้มแข็งสมบูรณ์ มีความเจริญ ร่งุ เรอื งและความสำเร็จทกุ ประการ. ๕
พระบรมราโชวาท ในพิธพี ระราชทานกระบีแ่ ละปริญญาบัตรแกว่ ่าท่รี อ้ ยตำรวจตรี ทีส่ ำเร็จการศกึ ษาจากโรงเรยี นนายร้อยตำรวจ ประจำปกี ารศึกษา ๒๕๒๕ และพระราชทานประกาศนยี บตั รกบั เขม็ สนั ติพทิ กั ษ์ แก่ผทู้ ส่ี ำเรจ็ การอบรมหลกั สูตรผูก้ ำกับการ ร่นุ ที่ ๔ และพระราชทานประกาศนยี บัตรกบั เขม็ พิทกั ษาธปิ ัตยแ์ ก่ ผู้ทสี่ ำเรจ็ การอบรมหลกั สูตรฝา่ ยอำนวยการตำรวจ รนุ่ ท่ี ๕ ณ ศาลาดสุ ดิ าลัย สวนจิตรลดา วันพฤหัสบดี ท่ี ๓๑ มนี าคม ๒๕๒๖ ข้าพเจ้ามีความยินดี ท่ีได้มอบกระบี่และปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พร้อมกับมอบประกาศนียบัตรกับเข็มสันติพิทักษ์ แก่ผู้ท่ีสำเร็จการอบรมหลักสูตรผู้กำกับการ รุ่นท่ี ๔ และ มอบประกาศนียบัตรกับเข็มพิทักษาธิปัตย์ แก่ผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตรฝ่ายอำนวยการตำรวจ รุ่นท่ี ๕ ในวาระน.้ี ขอแสดงความช่นื ชมกับทุกคนอย่างมาก ท่ไี ด้รบั เกยี รตแิ ละความสำเร็จ. ผู้ที่เข้ามาเป็นตำรวจย่อมทราบดีกันทุกคนว่า งานในหน้าที่ของตนนั้นเต็มไปด้วยปัญหาสารพัด ท้ังยัง มภี ยั อนั ตรายทจ่ี ะตอ้ งเอาชวี ติ เขา้ เสยี่ งอกี มาก ในการกำราบปราบปรามผทู้ จุ รติ ตำรวจทกุ คนจงึ ตอ้ งตง้ั ตวั ตงั้ ใจ ให้มั่นคงและหนักแน่นเป็นพิเศษต้ังแต่วาระเร่ิมแรกที่จะต้องรักษาความสุจริตและถูกต้องเป็นธรรมไว้เสมอ ทกุ เมอื่ จะต้องรักษาความเพียรพยายาม ความกล้าหาญ อดทน เสยี สละ ไวไ้ มใ่ หเ้ ส่ือมถอย จะต้องควบคมุ สติ ความรู้เท่าทันเหตุการณ์ไว้ตลอดเวลา และจะต้องฝึกฝนความรู้ความคิดวินิจฉัยของตนให้กระจ่างแจ่มชัด พรอ้ มทจ่ี ะนำมาใชไ้ ดท้ กุ ขณะ. ความระมดั ระวงั ตง้ั ใจและเตรยี มตวั พรอ้ มอยเู่ สมอดงั นจ้ี ะชว่ ยประคบั ประคองและ สง่ เสรมิ ให้สามารถปฏิบตั หิ น้าที่ ท่ีว่าเปน็ ภาระยากลำบากนน้ั ไดส้ ำเรจ็ . นอกจากน้ี ใครจ่ ะเตอื นวา่ อปุ สรรคสำคญั ของตำรวจคอื ความทอ้ ถอยและความขลาดหวาดหวนั่ อนั เปน็ เครอื่ งบน่ั ทอนความสามารถและความฉลาดในตนเองอยา่ งรา้ ยกาจ ตำรวจจะยอมแพแ้ กค่ วามยากลำบากหรอื แก่คนทุจริต ไม่ได้เปน็ อันขาด. ตรงข้าม จะตอ้ งมัน่ ใจและระลกึ ไวเ้ สมอว่า ตำรวจเปน็ ฝา่ ยท่เี ปน็ ธรรมและสจุ ริต ยอ่ มอยใู่ นสภาพทเ่ี หนอื กวา่ ผกู้ ระทำผดิ ทกุ ประการจงึ ตอ้ งเอาชนะผกู้ ระทำผดิ ไดเ้ ปน็ แนน่ อน. และเมอื่ แตล่ ะคน ๖
ทำจิตใจให้เชื่อมั่นและหนักแน่นได้ดังนี้ ย่อมจะสามารถปฏิบัติหน้าท่ีให้ลุล่วงได้ด้วยความกล้าหาญ เท่ียงตรง เป็นธรรม และด้วยประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม โดยไม่มีทุจริตชนคนใดจะเอาชนะความดีความสามารถของตน ไดเ้ ลย ด้วยอำนาจแห่งความสุจริตและความตั้งใจจริง ท่ีจะออกไปปฏิบัติหน้าท่ีเพ่ือประโยชน์สุขส่วนรวมของ ประเทศและประชาชน ขอให้ทุกคนมีความปลอดภัยในกาลทุกเม่ือ และให้ประสบความสำเร็จความเจริญ รุ่งเรืองท้ังในชีวิต ท้ังในหน้าท่ีการงาน สามารถท่ีจะสร้างเกียรติยศชื่อเสียงให้แก่ตน แก่สถาบันตำรวจไทย ให้ดำรงม่ันคงสบื ไปตลอดกาลนาน.
พระราชดำรัส(๑) พระราชทานในโอกาสทค่ี ณะผพู้ ิพากษาประจำกระทรวงเฝา้ ฯ ถวายสัตยป์ ฏญิ าณก่อนเขา้ รบั หน้าที่ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันพุธ ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๒๖ ทา่ นทเี่ ปน็ ผพู้ พิ ากษากอ่ นทจี่ ะไดป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทคี่ รง้ั แรก กไ็ ดม้ ากลา่ วคำปฏญิ าณน้ี กม็ คี วามหมายทสี่ ำคญั อยู่อย่างหนึ่ง คือ หน้าที่ของผู้พิพากษานั้นจำเป็นจะต้องมีความยุติธรรม มีความคิดพิจารณาที่รอบคอบ และ รับผิดชอบอย่างมากต่อความยุติธรรมที่จะมีต่อประเทศชาติ ฉะน้ัน ก็เป็นงานที่สำคัญ จึงควรท่ีจะต้ังจิตไว้ให้ ดกี ันทกุ คน เพอื่ ทีจ่ ะใหบ้ รรลผุ ลในงานทจ่ี ะรอต่อไป ความจรงิ แตล่ ะท่านก็ได้รบั ความรูใ้ นด้านหลักวชิ ามาอย่างแนน่ แฟน้ หลายช้ัน ตั้งแต่เรยี นทางกฎหมาย อยา่ งครบถว้ นและตอ่ มากไ็ ดฝ้ กึ ฝนเพม่ิ พนู ความรใู้ นการปฏบิ ตั งิ านของผพู้ พิ ากษา ทงั้ เชอ่ื ไดว้ า่ ผทู้ เ่ี ลอื กอาชพี เปน็ ผู้ที่จะมาสร้างความยุติธรรม ย่อมต้องมีจิตใจท่ีพิเศษอยู่อย่างหนึ่งว่า ตั้งใจที่จะดำรงตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ ประชาชนท่ัวทุกคน ฉะน้ัน การท่ีกล่าวปฏิญาณนี้ก็เท่ากับเป็นการยืนยันปณิธานที่ได้ต้ังไว้ ตั้งแต่กำลังศึกษาอยู่ จนกระทง่ั มาสมคั รเปน็ ผพู้ พิ ากษา คำปฏญิ าณนสี้ ำคญั มาก ทไี่ ดเ้ ปลง่ ถอ้ ยคำทส่ี ำคญั กค็ อื คำวา่ อคติ อคตนิ ที้ กุ คน ก็มีบ้าง เพราะว่าคนเราเวลาเห็นอะไรก็ต้องเห็นในแง่ของตัว แต่ถ้าให้ปราศจากอคติก็หมายถึงว่าพยายามจะดู สถานการณ์ ดงู าน ดหู นา้ ที่ ในแงท่ เ่ี ปน็ กลางแท้ ๆ ทถี่ กู ตอ้ งตามหลกั วชิ า และถกู ตอ้ งตามหลกั ศลี ธรรม จงึ จะทำให้ หน้าท่ีในงานการที่จะมีต่อไปสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เป็นเกียรติ เป็นศรีแก่ตัว และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม อยา่ งแทจ้ รงิ การทจี่ ะใหป้ ราศจากอคตนิ เี้ ปน็ สง่ิ ทยี่ ากเพราะจะตอ้ งบงั คบั จติ ใจของตวั เองอยตู่ ลอดเวลาทงั้ ในขณะที่ ปฏบิ ตั งิ าน ทงั้ นอกเวลาปฏบิ ตั งิ านเพราะวา่ จติ ใจทจี่ ะปราศจากอคตนิ นั้ ตอ้ งฝกึ ฝนและมอี ยตู่ ลอดเวลาเพอื่ ทจ่ี ะให้ ปราศจากอคติก็จะต้องอบรมจิตใจของตัวให้ดี ให้มีความยุติธรรมทุกเมื่อ การอบรมจิตใจของตัวให้มี ความยุติธรรมทุกเม่ือน้ัน จะต้องรักษาสติให้ม่ันต้องมีความรู้ทุกอย่าง ได้ประสบสิ่งใดจะต้องรู้ว่านี่คืออะไร นคี่ อื ส่ิงที่ควร และอาจจะเหน็ ดว้ ยวา่ สิ่งท่ีไม่ควรมีอะไรบ้าง ต้องเลอื กสง่ิ ทคี่ วรและละสง่ิ ทไ่ี มค่ วร ท้งั นี้ก็เปน็ งาน ทสี่ ำคญั ยง่ิ ถา้ หากวา่ ไมส่ ามารถทจี่ ะปฏบิ ตั ติ ามนแี้ ลว้ เขา้ ใจไดว้ า่ งานในหนา้ ทก่ี จ็ ะเสยี หายไปไดม้ ากทสี่ ดุ เพราะวา่ การที่เป็นผู้พิพากษา ก็เท่ากับประชาชนได้ฝากความหวังไว้แก่ตนว่าเป็นผู้ที่มีความยุติธรรมโดยบริสุทธิ์ใจ ฉะน้ัน กอ่ นทีจ่ ะรบั หน้าทีน่ น้ั จะตอ้ งตง้ั ใจ และจะต้องปฏิญาณต่อตวั เองว่าจะทำให้สำเรจ็ ในส่ิงแรกถา้ ทำสำเร็จ ในแง่นอี้ ยา่ งเดียว เร่อื งเดยี ว กเ็ ชอื่ วา่ งานทุกอยา่ งจะสำเรจ็ ลงไดโ้ ดยดี (๑) เรียบเรยี งขน้ึ ตามทไี่ ด้บนั ทกึ พระสุรเสียงไว้ ๙
งานของผพู้ พิ ากษากด็ จู ะเปน็ หนา้ ทท่ี จี่ ะตอ้ งไปพพิ ากษาในโรงศาลอยา่ งเดยี ว บางคนกไ็ ปคดิ วา่ เวลาอยใู่ น โรงศาลเรากเ็ ปน็ ผพู้ พิ ากษาแตเ่ วลานอกโรงศาลแลว้ กไ็ มเ่ ปน็ ไรเราเปน็ เอกชนหรอื นอกเวลาราชการเราเปน็ เอกชน ส่วนรวมธรรมดาท่วั ๆ ไปกท็ ำอะไรตามใจไดแ้ ตน่ น้ั ผดิ การท่ีเปน็ ผู้พพิ ากษานน้ั หากวา่ ไปเป็นผูพ้ พิ ากษาในศาล แห่งหนึ่งแหง่ ใดจะเป็นในกรุงเทพฯ หรือในตา่ งจงั หวัด ทไี่ หนกต็ าม เวลาออกจากโรงศาลแล้ว นอกเวลาราชการ เขาก็ยังเรียกว่าท่านผู้พิพากษา เขาก็นับถือว่าเป็นผู้ที่มีความรู้และมีคุณธรรม ก็เป็นผู้ท่ีจะพ่ึงได้ แม้แต่ดึกด่ืน เวลาท่ไี ม่ได้เปน็ เวลาราชการกจ็ ะประสบเหตุอนั น้ี คอื ประชาชนอาจจะมคี วามเดอื ดร้อนอาจจะไปหาทบ่ี า้ นกไ็ ด้ ขอใหท้ า่ นผพู้ พิ ากษาชว่ ยเหลอื โดยมากทข่ี อใหช้ ว่ ยเหลอื นนั้ กเ็ ปน็ เรอ่ื งของจติ ใจความยตุ ธิ รรม เรากม็ หี นา้ ทคี่ อื ไม่มีนอกราชการ เพราะว่าเมื่อเป็นผู้พิพากษาแล้วก็ติดตัวอยู่ตลอดเวลา คนจะต้องมองดูว่าเป็นผู้ท่ีซ่ือสัตย์ ฉะนั้น การที่ได้ตั้งจิตตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ศึกษา ตั้งแต่มารับราชการ และมาบัดน้ีปฏิญาณตนว่าจะปฏิบัติหน้าที่ ด้วยดี ก็นับว่าจะต้องรับสภาพและจะรักษาสภาพนี้ต่อไป เพ่ือที่จะให้เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ ท่ีจะ รักษาความมั่นคงของประชาชน เปน็ ท่ีพงึ่ ของประชาชน การทีเ่ ปน็ ผู้พิพากษานน้ั กน็ ับวา่ มีเกยี รตสิ งู เพราะวา่ คนเขานบั ถอื เคารพ จะเปน็ ใครกต็ ามแตว่ า่ ผนู้ ัน้ เปน็ ผพู้ ิพากษา เขาก็เคารพนบั ถอื และก็ยกย่อง ฉะนั้นจะตอ้ งตอบแทนความเคารพนับถอื ยกยอ่ งนีใ้ หต้ ลอด การที่ ตอ้ งรกั ษานเ้ี ปน็ งานหนกั เพราะวา่ จะตอ้ งรกั ษาอยตู่ ลอดเวลาตามทไ่ี ดก้ ลา่ วขา้ งตน้ ฉะนน้ั กจ็ ะตอ้ งรกั ษาดว้ ยกำลงั จติ ใจทแี่ ขง็ แกรง่ แลว้ กจ็ ะตอ้ งพยายามรกั ษาจติ ใจใหเ้ ขม้ แขง็ แขง็ แกรง่ ตลอดอายรุ าชการ ฉะนนั้ กข็ อใหท้ กุ ทา่ น ประกอบดว้ ยกำลงั กายดว้ ยทงั้ ใจดว้ ยทงั้ ปญั ญาดว้ ยเพอื่ ทจ่ี ะปฏบิ ตั งิ านทสี่ ำคญั นใ้ี หบ้ รรลผุ ลสำเรจ็ จะเปน็ เกยี รติ เป็นศรีแก่ตัวเอง แก่วงศ์ตระกูล และสำคัญท่ีสุดจะเป็นประโยชน์ต่อความยุติธรรม ความม่ันคง ความสงบสุข ของประเทศชาติ ซึ่งเราก็ได้รักษาไว้มาตลอดได้ช่ือว่าเป็นไทย คนต่างชาติเขาก็มองประเทศไทยว่าเป็นประเทศ ทตี่ งั้ มานานแลว้ มปี ระเพณี มคี วามดี มกี ารปฏบิ ตั งิ านทเ่ี ขม้ แขง็ และเขากน็ บั ถอื กอ่ นนอ้ี าจจะนกึ วา่ ประเทศไทย เปน็ ประเทศทไี่ มเ่ ปน็ ทร่ี จู้ กั ในโลก แตม่ าเดยี๋ วนไ้ี ปฟงั ๆดแู ลว้ มคี นจากทวั่ โลกทกุ ทวปี เขามา เขากม็ าบอกวา่ เดย๋ี วนี้ รู้จักกันมาก และก็นับถือความเป็นคนไทยท่ีรักษาเอกราชอธิปไตยมาด้วยดี ก็เลยตอบกับเขาว่าท่ีเรารักษา เอกราชอธปิ ไตยมาได้ กเ็ พราะวา่ เราพยายามทำงานให้กลมเกลยี วกนั ให้เข้มแข็ง ให้ดี ดว้ ยความเสียสละ และ ดว้ ยความมเี มตตาซงึ่ กนั และกนั รวมทง้ั เมตตาตอ่ ชาวตา่ งประเทศดว้ ยเขาเลยเขา้ ใจ บอกวา่ ประเทศไทยนพ้ี เิ ศษ ดีจริง ๆ ฉะน้ัน ทุกท่านท่ีจะออกไปรับหน้าท่ีงานการสำคัญน้ี ก็เป็นส่วนสำคัญของการบำรุงรักษาประเทศชาติ ให้รุ่งเรอื งและม่นั คง กข็ อใหท้ กุ ทา่ นไดป้ ระสบความเจริญรงุ่ เรือง มโี ชคดี มคี วามสำเรจ็ ทกุ ประการ ทงั้ ในงานการและเรือ่ งส่วนตัว. ๒
พระราชดำรัส(๑) ในโอกาสทีผ่ พู้ พิ ากษาประจำกระทรวง กระทรวงยตุ ธิ รรม เฝา้ ทลู ละอองธุลพี ระบาท เพื่อถวายสตั ยป์ ฏิญาณกอ่ นเขา้ รบั หน้าทคี่ ร้งั แรก ณ พระตำหนกั จิตรลดารโหฐาน วนั พฤหัสบดี ที่ ๘ มนี าคม ๒๕๒๗ การทผ่ี พู้ พิ ากษาไดเ้ ปลง่ คำปฏญิ าณกอ่ นทจ่ี ะเขา้ รบั หนา้ ทก่ี ารงานของตวั กเ็ ปน็ เพราะวา่ การปฏญิ าณนเ้ี ปน็ บทเสรมิ ในสง่ิ ทคี่ วรจะยดึ สำหรบั ทำงานการใหล้ ลุ ว่ งไปดว้ ยดีหมายความวา่ ผทู้ จี่ ะเขา้ รบั ราชการในหนา้ ทผี่ พู้ พิ ากษานี้ กไ็ ดศ้ กึ ษาเลา่ เรยี นมาตงั้ แตต่ น้ จนครบถว้ นสมบรู ณท์ กุ อยา่ งเพอ่ื ทจี่ ะทำหนา้ ทนี่ อ้ี นั จะตอ้ งตงั้ ใจปฏบิ ตั ใิ หเ้ ขม้ แขง็ และด้วยความสามารถเตม็ ท่ี ฉะนั้นการปฏิญาณน้กี เ็ ป็นบทสรุปในงานของตน ประเทศไมว่ า่ ประเทศหนง่ึ ประเทศใดกจ็ ะตอ้ งมคี วามยตุ ธิ รรมอยู่เพอ่ื ทจี่ ะใหป้ ระชากรไดอ้ ยเู่ ยน็ เปน็ สขุ อนั เปน็ เปา้ หมายสำคญั ในการปกครองและในการบรหิ ารประเทศ ความยตุ ธิ รรมนก้ี จ็ ะไดม้ าจากการพจิ ารณาในสง่ิ ท่ี มปี ญั หาเปน็ ปญั หาขนั้ ตา่ งๆทงั้ ในขนั้ ระหวา่ งบคุ คลและในความเปน็ อยขู่ องประชาชน การทจี่ ะใหม้ คี วามยตุ ธิ รรม ก็เป็นส่ิงที่ยากมาก เพราะว่าแต่ละคนย่อมมีผลประโยชน์ และผลประโยชน์นี้แต่ละคนก็จะต้องได้มาเพื่อที่จะ มชิี วี ติ อยู่แตถ่ า้ ผลประโยชนน์ ท้ี ำดว้ ยความเฉลยี วฉลาดแกมโกง กท็ ำใหเ้ กดิ การกระทบกระเทอื นผลประโยชนผ์ อู้ น่ื อนั นก้ี เ็ ปน็ สง่ิ ทส่ี ำคญั วา่ แตล่ ะคนจะตอ้ งแสวงหาผลประโยชนแ์ ตว่ า่ จะตอ้ งไมเ่ บยี ดเบยี นผลประโยชนจ์ ากผอู้ นื่ ดว้ ย ความฉลาด อาจจะพูดในที่น้ีว่าฉลาดแกมโกง ถ้าฉลาดแล้วก็รู้จักนับถือรักษาผลประโยชน์ของผู้อ่ืนด้วย ไม่ให้ เดือดร้อน กเ็ ป็นการฉลาดทฉ่ี ลาดแทด้ ว้ ยปัญญา แต่โดยทีม่ กี ารกระทบกระเทือนและกระทบกระทัง่ กนั ในเรือ่ ง ผลประโยชน์ จงึ ตอ้ งมกี ารจดั ให้สิทธวิ์ ่าผใู้ ดปฏิบตั ิโดยสจุ ริต ผูใ้ ดปฏิบตั โิ ดยทจุ ริต ฉะน้ันกจ็ ะตอ้ งมกี ระบวนการ ยุติธรรม ซ่ึงผู้ที่ปฏิบัติก็มีหลายฝ่าย แต่ฝ่ายที่สำคัญมากที่สุดคือผู้พิพากษา เป็นผู้ที่จะประสาทความยุติธรรม ให้บังเกิดข้ึนในคดีในปัญหาต่าง ๆ ระหว่างบุคคลและบุคคล เพื่อท่ีจะไม่ให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายในสังคม ฉะนั้น ท่านที่เป็นผู้พิพากษาจึงเป็นบุคคลท่ีจะต้องทำงานด้วยความรู้ในวิชา ท้ังในความรู้ในความยุติธรรมท่ีอยู่ (๑) เรียบเรยี งข้นึ ตามทไี่ ดบ้ นั ทกึ พระสรุ เสียงไว้ ๒
ในใจ คือเป็นความยุติธรรมตามธรรมชาติ หมายความว่าผู้ที่เป็นผู้พิพากษาจะต้องใช้หลักวิชาและสามัญสำนึก อย่างมาก ทง้ั หมดนก้ี ็จะต้องประกอบดว้ ยความสจุ ริต คอื สจุ ริตใจ เพราะวา่ บางทมี ีสิ่งท่ีล่อในทางอามสิ หรือใน ทางความคดิ ทไ่ี มต่ รงอนั เรียกวา่ อคติ ทั้งหมดนเ้ี ป็นสิง่ ทีล่ ำบาก แต่ว่าถ้าทำไดต้ ามที่ไดเ้ ปล่งวาจากส็ ามารถทจ่ี ะ ปฏบิ ตั งิ านไดโ้ ดยเตม็ ที่และโดยมปี ระสทิ ธภิ าพเปน็ ผลดแี กก่ ารปกครองในประเทศและในเวลาเดยี วกนั กจ็ ะเปน็ สง่ิ ที่จะสร้างให้คนมีเกียรติและก็มีประสบการณ์ ฉะนั้นการท่ีจะได้รักษาคำปฏิญาณน้ีไว้โดยดีตลอดชีวิตราชการ ก็จะเป็นการสร้างความดีให้ประเทศ และสร้างความดีให้ตนเอง ซ่ึงจะนำไปสู่ความเจริญของประเทศและ ความเจรญิ โดยส่วนตัว ก็ขอให้แต่ละคนมีท้ังกำลังกายและกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้โดยท่ีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นประโยชน์ต่อส่วนตัว เป็นเกียรติในชีวิต เป็นสิ่งที่มุ่งประสงค์ในการท่ีรับงานที่สำคัญ ก็ขอให้ได้รักษา คำปฏิญาณน้ีไว้ด้วยชีวิต และด้วยความฉลาดทั้งในด้านวิชาการ ทั้งในด้านสามัญสำนึก จึงจะทำให้ประสบ ความสำเร็จท่ีทุกคนปรารถนา ก็ขอให้ประสบความเจริญรุ่งเรืองความสำเร็จทุกประการในหน้าที่ราชการ และ มีความสุขความเจรญิ จงท่ัวกัน. ๒๒
พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานกระบ่แี ละปรญิ ญาบัตรแก่ว่าท่รี ้อยตำรวจตรี ท่สี ำเรจ็ การศึกษาชัน้ สงู สดุ จากโรงเรยี นนายร้อยตำรวจ ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๒๖ ฯลฯ ณ อาคารใหม่ สวนอมั พร วันพฤหัสบดี ท่ี ๕ เมษายน ๒๕๒๗ ข้าพเจ้ามีความยินดี ท่ีได้มาทำพิธีมอบกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีผู้สำเร็จการศึกษา จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พร้อมทั้งมอบประกาศนียบัตรกับเข็มสันติพิทักษ์และเข็มพิทักษาธิปัตย์ แก่นายตำรวจผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตรผู้กำกับการและหลักสูตรฝ่ายอำนวยการตำรวจ ณ โอกาสนี้. ขอแสดงความช่ืนชมกับทุกคนอย่างมากท่ไี ดร้ บั เกยี รติและความสำเร็จในการศกึ ษา. ขา้ ราชการตำรวจในปจั จบุ นั นม้ี หี นา้ ทป่ี ฏบิ ตั งิ านหลายอยา่ งตา่ งกนั ในขอบเขตทกี่ วา้ งขวางมากยากจะกลา่ ว ให้ท่ัวถึงได้. หน้าที่สำคัญท่ีสุดประการหน่ึงก็คือการสืบสวนสอบสวนหาความจริงในเร่ืองต่าง ๆ แล้ววินิจฉัย ตัดสินให้ได้โดยถูกต้องเท่ียงตรง เพ่ืออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนท่ัวหน้า และรักษาความสุจริต ความเปน็ ธรรม ความสงบสขุ ในแผน่ ดนิ . ในการนี้ ทา่ นทง้ั หลายมกั จะถกู ปดิ บงั อำพราง หรอื บดิ เบอื นใหเ้ ขา้ ใจผดิ อยตู่ ลอดเวลาดว้ ยคำเทจ็ ดว้ ยการหลกี เลย่ี งแกต้ วั โดยเพทบุ ายตา่ งๆ ของผกู้ ระทำผดิ ซงึ่ ตอ้ งการเอาตวั รอดและ ของผตู้ อ้ งการเบยี ดบงั เอาผลประโยชนน์ านาประการ. จงึ ยอ่ มทำใหแ้ ตล่ ะคนตอ้ งตรากตรำจำเจอยกู่ บั ปญั หาหนกั ใจ หนักสมอง สารพัด และมีความเคร่งเครียดอยู่ตลอดเดือนตลอดปีจนอาจทำให้บางคนมีความคิดอ่านสับสน ระแวงสงสัย โกรธง่าย มองคนไปในแง่ลบ และที่สุดอาจวินิจฉัยกรณีต่าง ๆ ผิดไปอย่างตรงข้ามได้ง่าย ๆ. เพราะฉะนั้น ตำรวจจึงจำเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องมีความหนักแน่นท้ังทางกาย ทางวาจา และสำคัญท่ีสุดคือทาง ความคิดจิตใจ นายตำรวจท้งั หลาย ไม่วา่ จะเป็นผู้บังคับบัญชาช้นั สงู แล้ว หรอื เปน็ นายตำรวจสำเร็จใหม่ จำเปน็ ต้องควบคุมจิตใจให้ม่ันคง โดยพยายามปลูกฝังบำรุงความเข้มแข็งหนักแน่นให้เกิดข้ึนสมบูรณ์ในความคิดอ่าน ตั้งตัวต้ังใจให้เป็นกลาง ไม่หวั่นไหว ไม่สะทกสะเทือนด้วยอคติความลำเอียง ด้วยความโกรธความหลง รวมท้ัง อามสิ เครอื่ งลอ่ ใจทง้ั ปวงอนั เปน็ ตน้ เหตใุ หญท่ ม่ี กั ทำใหบ้ คุ คลเสยี ความเปน็ กลางและเสยี คน ถา้ ควบคมุ รกั ษาใจ ใหห้ นกั แนน่ เปน็ กลางไดส้ ำเรจ็ ความคดิ พจิ ารณากจ็ ะกระจา่ งชดั จะวนิ จิ ฉยั ตดั สนิ กรณตี า่ งๆ กส็ ามารถกระทำได้ ๒๔
ตรงไปตรงมาตามเปน็ จริงอย่างกลา้ หาญ มั่นใจ และภาคภูมิ. ความฝึกใจให้พร้อมดงั นีย้ งั จะเป็นรากฐานรองรบั ประคบั ประคอง พรอ้ มทงั้ สง่ เสรมิ ใหส้ ามารถปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ทกุ ๆอยา่ งไดโ้ ดยราบรน่ื จนบรรลคุ วามสำเรจ็ ความเจรญิ ในราชการในทีส่ ดุ . ด้วยอำนาจแห่งความสุจริตและความตั้งใจจริง ท่ีจะออกไปปฏิบัติหน้าที่เพ่ือประโยชน์สุขส่วนรวมของ ประเทศและประชาชน ขอใหท้ กุ คนมคี วามปลอดภยั ในกาลทกุ เมอ่ื และใหป้ ระสบความสำเรจ็ ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง ทั้งในการครองชีวิต ทั้งในหน้าท่ีการงาน สามารถท่ีจะสร้างเกียรติยศช่ือเสียงให้แก่ตน แก่สถาบันตำรวจไทย ใหด้ ำรงมน่ั คงสืบไปตลอดกาลนาน. ๒๕
พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานกระบแ่ี ละปริญญาบัตรแกน่ กั เรยี นนายรอ้ ยตำรวจ ท่สี ำเรจ็ การศึกษาชั้นสูงสดุ จากโรงเรยี นนายรอ้ ยตำรวจ ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๒๗ พระราชทานประกาศนียบตั รกบั เขม็ พทิ ักษ์ชนาธปิ ัตย์ แก่ผสู้ ำเร็จการศึกษาอบรมหลกั สูตรการบริหารงานตำรวจชนั้ สูง รุน่ ท่ี ๑ พระราชทานประกาศนียบัตรกบั เขม็ สันติพิทกั ษ์ แกผ่ สู้ ำเรจ็ การศึกษาอบรมหลกั สูตรผู้กำกับการ รนุ่ ท่ี ๖ และพระราชทานประกาศนียบัตรกับเขม็ พทิ ักษาธปิ ตั ย์ แก่ผู้สำเรจ็ การศึกษาอบรมหลักสูตรฝา่ ยอำนวยการตำรวจ ชดุ ที่ ๗ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันเสาร์ ที่ ๙ มนี าคม ๒๕๒๘ ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้มาทำพิธีมอบกระบี่และปริญญาบัตรแก่นักเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้สำเร็จ การศึกษาช้ันสูงสุดจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ประจำปีการศึกษา ๒๕๒๗ พร้อมทั้งมอบประกาศนียบัตรกับ เข็มพิทักษ์ชนาธิปัตย์ เข็มสันติพิทักษ์ และเข็มพิทักษาธิปัตย์ แก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตรการบริหาร งานตำรวจช้ันสูง หลักสูตรผู้กำกับการ และหลักสูตรฝ่ายอำนวยการตำรวจ ในโอกาสนี้. ขอแสดงความช่ืนชม กับทกุ คนท่ีไดร้ ับเกยี รตแิ ละความสำเร็จในการศกึ ษา. การรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยของบา้ นเมอื งและประชาชน อนั เปน็ หนา้ ทสี่ ำคญั โดยตรงของตำรวจนน้ั เหน็ กนั อยู่ว่ามีปัญหายุ่งยากมากขึ้นในปัจจุบัน เน่ืองด้วยบ้านเมืองของเราถูกกระทบกระเทือนจากความผันผวนและ เปลีย่ นแปรของสภาวการณห์ ลาย ๆ อย่าง ทง้ั ทางเศรษฐกิจ สังคม การเมอื ง และอืน่ ๆ เปน็ เหตุทำใหค้ นบางคน กลายเปน็ คนทเี่ หน็ แกป่ ระโยชนแ์ ละความพอใจของตน จนไมค่ ำนงึ ถงึ ความถกู ตอ้ งเปน็ ธรรมและประโยชนข์ อง ผอู้ ่นื จงึ พากนั ละเลยจรยิ ธรรมและระเบยี บแบบแผนอนั ดงี ามกอ่ อาชญากรรม ความไมส่ งบ รวมทั้งการละเมดิ และเบยี ดบงั กนั ดว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ. ถงึ อยา่ งไรกต็ ามการระงบั ปราบปรามเรอื่ งเหลา่ น้ี กเ็ ปน็ หนา้ ทโี่ ดยตรงของตำรวจ ไมม่ เี หตหุ รอื ขอ้ อา้ งใดๆทจ่ี ะทำใหห้ ลกี เลยี่ งได้. เพราะฉะนนั้ ตำรวจทกุ คนจงึ จะตอ้ งพยายามกระทำหนา้ ทผี่ พู้ ทิ กั ษ์ ๒๖
สันติราษฎร์ต่อไปให้สมบูรณ์. ในการนี้ ขอให้แต่ละคนต้ังใจนำวิชาความรู้ท่ีมีอยู่พร้อมทั้งความเฉลียวฉลาด รอบคอบ ความกล้าแขง็ อดทน และความสุจรติ เท่ียงตรง เขา้ ระงับเหตุร้ายและคลคี่ ลายบรรเทาปญั หาดงั กล่าว อยา่ งสดุ ความสามารถ พรอ้ มทงั้ ระลกึ ไวเ้ สมอวา่ ความทกุ ขร์ อ้ นของประชาชนคอื ความทกุ ขร์ อ้ นของตนเอง และ การขจัดความเดือดรอ้ นของผอู้ ่ืนนน้ั แท้จริงคอื การขจัดความเดอื ดรอ้ นของตนนนั่ เอง. ขออำนาจแหง่ เจตนาดีทตี่ งั้ ใจจะออกไปปฏบิ ตั หิ นา้ ทเ่ี พอื่ ประโยชนส์ ขุ สว่ นรวมของประเทศและประชาชน จงบันดาลให้ทุกคนประสบความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองท้ังในชีวิตท้ังในหน้าท่ีการงาน ให้มีความสุข ความสวัสดีในท่ีทุกสถาน และมีพลังกาย พลังใจ พลังปัญญาอันเข้มแข็งสมบูรณ์ สามารถสร้างเกียรติยศ ชอ่ื เสยี งแก่ตน แกส่ ถาบนั ตำรวจไทย ให้ย่ังยืนม่นั คงสบื ไป สมตามความมุง่ ประสงคท์ ุกประการ. ๒
พระราชดำรัส(๑) ในโอกาสประธานศาลฎีกา(๒) นำผ้พู พิ ากษาเขา้ เฝา้ ฯ ถวายสตั ยป์ ฏญิ าณก่อนเขา้ รบั หนา้ ท่คี ร้ังแรก ณ พระตำหนกั จิตรลดารโหฐาน วนั พธุ ท่ี ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๒๘ การทผี่ พู้ พิ ากษาทจ่ี ะออกไปปฏบิ ตั งิ านในแงน่ ้ีตอ้ งกลา่ ววาจานกี้ น็ บั วา่ มปี ระโยชนเ์ พราะวา่ ทา่ นทงั้ หลาย ได้รับการศึกษาท้ังได้รับการอบรมมาด้วยดี นับว่ามีความสามารถความรู้ทั้งในด้านวิชาการ ทั้งในด้านปฏิบัติมา พอควรแล้ว กพ็ ร้อมที่จะออกปฏบิ ตั ิงานที่สำคญั ของผู้พพิ ากษา การท่ีมีความรู้ดีมีความชำนาญแล้วพอสมควรก็จะต้องมีการตั้งจิตให้ดี และที่ได้ปฏิญาณตนมีคำสำคัญ ขน้ึ มาในคำปฏญิ าณนีส้ องคร้งั คอื คำวา่ บรสิ ุทธิ์ใจ หมายความวา่ ทำทกุ อย่างเตม็ ความสามารถ โดยที่คำนีอ้ ยูใ่ น คำปฏญิ าณเหมอื นกนั โดยไมม่ อี คติ กห็ มายความวา่ จะตอ้ งทำใหถ้ กู ตรงตามหลกั วชิ าและถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมตาม สงิ่ ทดี่ ที งี่ าม สงิ่ นเ้ี ปน็ สงิ่ ทย่ี ากเพราะวา่ เรยี นรเู้ ทา่ ไหร่ๆถา้ ไมม่ อี ยใู่ นตวั หรอื ไมเ่ พาะอยใู่ นตวั กไ็ มส่ ามารถทจ่ี ะเรยี น ฉะนน้ั การเปลง่ คำปฏญิ าณนเ้ี ปน็ การเตอื นและเปน็ การชว่ ยใหท้ า่ นไดต้ ง้ั สตใิ นความบรสิ ทุ ธแิ์ ละความปราศจากอคติ งานของผู้พิพากษานั้นเป็นงานท่ียากลำบากและซับซ้อน ไม่ได้เป็นงานที่เฉพาะ ต้องรู้จักจิตใจของคนและรู้จัก ชีวิตของคน ซ่ึงถ้ามาพิจารณาดูว่าทำไมต้องมีผู้พิพากษา ทำไมจึงต้องมีกระบวนการยุติธรรม ก็เพราะว่ามี การเบียดเบียนกัน ซงึ่ ไมม่ ีใครชอบเบียดเบยี นกนั แต่ก็อดไมไ่ ดท้ จ่ี ะเบียดเบียนกัน เพราะว่ามีความต้องการที่จะ เอาเปรียบกันบ้าง มีความต้องการที่จะตามใจตนเองบ้าง ซ่ึงเป็นธรรมดาซ่ึงมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง งานของ ผ้พู ิพากษาน้กี ็เป็นการทำหรอื เป็นการบรรเทาความเดอื ดรอ้ นที่มีข้อพพิ าทต่าง ๆ มีเบยี ดเบยี นตา่ ง ๆ ดว้ ยการให้ ปรองดองกันบา้ ง ปรามกันบา้ ง หนา้ ท่ีปราบปรามเป็นหนา้ ที่ของตำรวจ แตห่ น้าทีจ่ ะใหค้ วามยตุ ธิ รรมเป็นหนา้ ที่ ของผู้พิพากษา หน้าที่น้ียากเพราะว่าความเดือดร้อน ความยุ่งยากที่เกิดขึ้นมาก็เกิดมาจากความอคติของผู้อ่ืน นั่นเอง ฉะน้ันที่ผู้พิพากษาจะต้องมีความบริสุทธ์ิใจอย่างแท้จริงและความปราศจากอคติน้ัน ก็เพราะว่าเราจะ ต้องมีหน้าที่ไปดับอคติดับความไม่บริสุทธ์ินั่นเอง ถ้าเราไม่ต้ังอยู่ในความบริสุทธ์ิใจ ไม่ตั้งอยู่ในความปราศจาก อคตินั้นก็จะดับไม่ได้ ไม่มีทาง ที่ใช้คำว่าดับน้ันเพราะว่านึกถึงว่าความวุ่นวายเดือดร้อนต่าง ๆ มันก็เหมือนไฟ กใ็ ช้คำว่าเดือดร้อน ไฟมนั ร้อน เวลารอ้ นรอ้ นรน คำนร้ี สู้ ึกวา่ ไม่ค่อยดี ในที่นถ้ี ้าดบั ไฟมนั ก็ต้องใช้ความเยอื กเย็น แล้วก็ใช้ความนิ่มนวลท่ีจะสามารถบรรเทาลงไป แต่ไฟน้ันมันมีอยู่เสมอ แล้วก็ถ้าหากว่าใส่ไฟหมายความว่า (๑) เรยี บเรยี งข้นึ ตามทีไ่ ด้บันทึกพระสุรเสียงไว้ (๒) นายภญิ โญ ธีรนติ ิ ๒
เติมเชื้อเพลิงไปเร่ือย ๆ ไฟน่ีก็มีต่อไปเรื่อย ๆ ไฟนั้นจะไม่หยุดไม่มีทางหยุด เพราะว่าเชื้อเพลิงมีอยู่ตลอดเวลา เช้ือเพลิงก็อยู่ที่อคติ อย่ทู ค่ี วามไมบ่ รสิ ุทธิ์นัน่ เอง ฉะนั้น ท่ีท่านกล่าวถึงความบริสุทธ์ิใจและความปราศจากอคติน้ี จึงเป็นข้อที่สำคัญมากและเป็นข้อที่ ยากเหน็ ใจทา่ นทงั้ หลายทจี่ ะตอ้ งไปทำหนา้ ทใ่ี นการเปน็ ผพู้ พิ ากษาทเี่ ปน็ งานทห่ี นกั เปน็ งานทเี่ หนอื่ ยและเปน็ งาน ที่จะต้องเสียสละอย่างมาก แต่ถ้าไม่มีความเสียสละไม่มีความเพียรพยายามฟันฝ่าความเหนื่อยน้ัน ก็ป่วยการ ที่จะเป็นผู้พิพากษา จะเป็นผู้ที่สุมไฟเพิ่มเติม ผู้พิพากษานั้นถ้าได้ชื่อว่าเป็นผู้พิพากษาแล้วก็รักษาสัตย์ปฏิญาณ ไว้ก็เป็นส่ิงที่ดีที่สุด เป็นการทำหน้าท่ีโดยตรง ถ้าผิดพลาดไปก็เท่ากับเป็นการใส่เชื้อเพลิงที่รุนแรงมากเหมือน ฉีดน้ำมันเข้าไปในกองไฟ ทำให้ลุกโชนข้ึนไปแล้วก็ดับยาก ฉะน้ันก็ต้องม่ันอยู่ในคำปฏิญาณ การน้ีก็จะต้องใช้ การพิจารณาท่ีรอบคอบ การพิจารณาน้ีก็มีเป็นกฎหมายว่าหลายบท แล้วแต่วิจารณญาณของผู้พิพากษา จะกำหนดโทษหรือพพิ ากษาอยา่ งไร มีขอบเขต ฉะนัน้ กต็ ้องพิจารณาอย่างถ่องแท้ นอกจากนน้ั นอกจากงานของผพู้ พิ ากษากจ็ ะตอ้ งเปน็ ผใู้ หญ่ เปน็ ทอ่ี าศยั เปน็ ทพ่ี ง่ึ ของประชาชนทว่ั ไปดว้ ย เพราะว่าคนที่เกิดทำไม่ดีข้ึนมาก็เพราะว่ามีความเดือดร้อน ความเดือดร้อนนี้เพราะปากไม่ดี เพราะบรรยากาศ เพราะส่ิงที่มีไม่ปรารถนา คนที่หิวโหยย่อมขวนขวายหาทางท่ีจะหาอาหารใส่ท้อง ก็มีบ่อยครั้งท่ีเกิดเร่ืองว่าเกิด อาชญากรรมเพราะวา่ ความจนมมี าก อยา่ งนน้ั กต็ อ้ งเขา้ ใจวา่ เราสามารถทจี่ ะบรรเทาได้ ตอ่ วงการเดยี วกนั แตว่ า่ ถ้าเราบรรเทานอกวงการก็เป็นสิ่งที่ดีท่ีสุด เพราะว่างานของศาลยุติธรรมน้ีมีมากมายเหลือเกินจนกระทั่งล้น ไมส่ ามารถทจ่ี ะปฏบิ ตั ิ ฉะนน้ั ถา้ สามารถทจ่ี ะปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กดิ ขน้ึ กอ่ นกจ็ ะดีสว่ นอาชญากรรมทม่ี าจากความรอ้ น ในใจเป็นประจำ อาชญากรนั้นเราก็บรรเทายาก แต่อาจจะทำได้เหมือนกันโดยท่ีไม่ให้เขาไปทางที่ผิด ฉะนั้น หน้าท่ีของผู้พิพากษาในโรงศาลเวลาข้ึนบัลลังก์ ก็ต้องมีความตรงมีความบริสุทธิ์ใจปราศจากอคติโดยแท้ ใหป้ ฏบิ ตั โิ ดยทอ่ี าศยั ระเบยี บและกฎหมาย แตน่ อกโรงศาลกม็ หี นา้ ทเี่ หมอื นกนั ทจ่ี ะเปน็ ทพ่ี ง่ึ ของประชาชนทวั่ ไป ใหป้ ระชาชนทมี่ คี วามเดอื ดรอ้ นในกายหรอื ใจไดอ้ าศยั ได้ ดงั นที้ า่ นกจ็ ะไดป้ ฏบิ ตั งิ านโดยครบถว้ นสมบรู ณท์ กุ อยา่ ง และขอ้ นก้ี ส็ มกบั ทเี่ ปน็ ผใู้ หญ่ ทง้ั นเ้ี ปน็ ความพอใจสงู สดุ สำหรบั ผทู้ ป่ี ฏบิ ตั งิ าน คอื ไดร้ บั ความนบั ถอื จากประชาชน ทัว่ ไป วา่ เป็นผ้ทู ไ่ี ว้ใจได้ ซ่อื สตั ย์ ท้งั นอกวงการ ท้ังในวงการ ฉะนน้ั ท่านผมู้ หี นา้ ทีส่ ำคัญและมเี กียรติ คนข้างนอก อาจจะไม่คอ่ ยไดเ้ ห็น คือความหมายวา่ ไม่ทราบ แตท่ า่ นทราบเองแลว้ กจ็ ะภูมใิ จได้ ฉะนนั้ กข็ อใหท้ า่ นทงั้ หลายสามารถทจ่ี ะปฏบิ ตั งิ านไดโ้ ดยครบถว้ นสมบรู ณ์และโอกาสนกี้ ข็ อใหม้ กี ำลงั กาย กำลังกายนี่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าถ้าเราไม่แข็งแรงก็จิตใจเปลี่ยนไปด้วย แต่ว่าข้อสำคัญก็ขอให้ท่านมีกำลังใจ เพราะว่ากำลงั ใจนจี้ ะทำใหส้ ามารถปฏบิ ตั งิ านอยา่ งตรงดีทีส่ ุด และทำใหม้ ีความสำเร็จคือความดขี ้นึ จนในทีส่ ดุ กจ็ ะมคี วามสุขความภูมใิ จได้ กข็ อให้มีกำลงั กายกำลงั ใจสมบรู ณ์ทุกคน สามารถปฏิบตั งิ านครบถว้ นดว้ ย. ๒๙
พระราชดำรัส(๑) ในโอกาสทีป่ ระธานศาลฎีกา(๒)พร้อมดว้ ยคณะกรรมการ ขา้ ราชการตุลาการชัน้ ผ้ใู หญ่และภรยิ า เฝา้ ฯ ทูลเกลา้ ฯ ถวายเงินเพือ่ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ณ พระตำหนกั จติ รลดารโหฐาน วันพฤหสั บดี ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๒๙ ขอขอบใจทา่ นทง้ั หลายทไี่ ดน้ ำเงนิ มาเพอื่ เปน็ การชว่ ยเหลอื ประชาชน ซงึ่ เปน็ ทางหนงึ่ ทจ่ี ะทำใหป้ ระชาชน มฐี านะและความเป็นอย่ดู ขี ึ้น แลว้ ก็เชอื่ ว่าในการนกี้ จ็ ะทำใหค้ ดีตา่ ง ๆ ที่เกดิ ขึ้นอาจจะบรรเทาลงไปได้ส่วนหนึง่ เพราะว่าความเดือดร้อนของบุคคลนั้นก็นำมาให้ทำส่ิงที่ผิดกฎหมาย และให้ผู้ท่ีปฏิบัติมิดีมิชอบนั้นเกิด ความเดือดร้อน ทำให้ต้องปราบปรามและต้องจัดการ ซึ่งเป็นงานท่ีสำคัญในประเทศ ท่านท้ังหลายเกี่ยวข้อง กับทางการตุลาการให้ความยุติธรรม ก็คงได้ทราบดีว่าต้นเหตุของคดีต่าง ๆ น้ีมีส่วนมากทีเดียวที่จะพบกับ ความเดอื ดรอ้ นสว่ นตวั ของผู้ท่ีกระทำผิด ฉะนั้น การที่ทา่ นได้ชว่ ยในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ก็เท่ากับบรรเทาในอาชญากรรมท่ีจะเกิดขึ้นได้ ในเวลาเดียวกันท่านทั้งหลายก็ได้ปฏิบัติหน้าท่ีมาด้วย ความเข้มแข็ง ก็เป็นการช่วยประเทศให้มีความผาสุกได้ยิ่งขึ้น ก็ขอขอบใจและชมเชยคณะฝ่ายตุลาการที่ได้ ปฏิบัตงิ านด้วยความตัง้ ใจ ด้วยความเสยี สละ และถูกต้องตามหลกั วชิ ามาตลอด กข็ อฝากขอบใจและชมเชย การท่ีท่านทั้งหลายได้ช่วยพัฒนาประเทศประชาชนก็เช่ือว่าจะมีผลดี แต่ว่าอย่างไรก็ตามในที่ไหนก็ตาม ที่มีคนก็จะต้องมีความขัดแย้งอยู่เสมอ งานของท่านก็คงไม่ลดลงไปเท่าไหร่ ฉะน้ันการท่ีท่านต้ังปณิธานที่จะ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งน้ัน จึงเป็นสิ่งหนึ่งท่ีมีความจำเป็นในประเทศ เพ่ือให้ได้แผ่ความยุติธรรม แก่ประชาชนราษฎร และจะทำให้ประเทศชาติมีความม่ังคงได้ ฉะนั้นในที่สุดก็เป็นอันสรุปได้ว่าท่าน ได้ช่วยความม่ันคงของประเทศชาติ ด้วยการทำงานเข้มแข็งของท่านทั้งในหน้าท่ีทั้งได้ทำสิ่งท่ีเป็นนอกหน้าท่ี แต่ก็เป็นหน้าที่ของพลเมืองดีที่จะให้ความเจริญเกิดขึ้นทุกส่วน ทุกแห่ง ทุกคน ให้แก่ประเทศชาติ และให้ ประเทศชาตมิ คี วามยตุ ิธรรมสถติ อยู่ ทำใหป้ ระเทศมีความม่ันคงได้ ก็ขอฝากขอบใจท่านทั้งหลาย ณ ท่ีน้ีท่ีได้บริจาค และขอขอบใจท่านท้ังหลายท่ีได้ปฏิบัติงานด้วยความ เข้มแข็ง ขอให้ประสบความสำเร็จและความเจริญทุกประการ สิ่งใดท่ีได้ปฏิบัติอยู่ที่ชอบธรรมก็ให้มีผลสำเร็จ เต็มที่ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ และเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละบุคคล ก็ขอให้ประสบ ผลสำเรจ็ ความสุขความเจริญทุกอย่าง พร้อมดว้ ยกำลังกายกำลงั ใจทสี่ มบูรณ์. (๑) เรยี บเรยี งขนึ้ ตามทีไ่ ด้บนั ทกึ พระสุรเสียงไว้ (๒) ฯพณฯ นายภญิ โญ ธรี นติ ิ
พระราชดำรสั (๑) ในโอกาสท่ปี ระธานศาลฎีกา(๒) นำคณะผพู้ ิพากษาประจำกระทรวง เฝา้ ฯ ถวายสัตย์ปฏญิ าณก่อนเข้ารบั หนา้ ที่คร้ังแรก ณ พระตำหนักจติ รลดารโหฐาน วันพุธ ที่ ๑๙ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๒๙ หน้าท่ีผู้พิพากษานั้นเป็นส่ิงสำคัญกว้างขวาง จึงต้องมีการตั้งสติไว้ให้แจ้งให้ดีอย่างท่ีกล่าวคำปฏิญาณน้ี กเ็ พอื่ ทจ่ี ะเตอื นใจวา่ หนา้ ทสี่ ำคญั ยงิ่ สำคญั และเปน็ สองอยา่ งทง่ี า่ ย ๆ คอื ในโรงศาล ในโรงศาลนน้ั ผทู้ ำหนา้ ทข่ี อง ผพู้ พิ ากษากเ็ รยี กวา่ เปน็ ผทู้ ส่ี ำคญั ทส่ี ดุ เพราะวา่ เปน็ ผทู้ จ่ี ะตอ้ งตดั สนิ วา่ ความยตุ ธิ รรมนนั้ ...(๓) และความยตุ ธิ รรม เป็นส่ิงที่กว้างว่ายุติธรรมก็หมายความว่าต้องให้ยุติสักคร้ังในทางธรรมะ หมายความถึงส่ิงที่ตรงสิ่งที่เป็นจริง แต่ว่าหาความจริงนี่ยาก จึงต้องมีการยุติธรรม ถ้าหากว่าไม่ยุติ ความจริงนั้นจะไม่ส้ินสุด แต่ก็จะต้องหาให้ ส้ินสุดสักทีเพ่ือจะทำหน้าที่ให้ลุล่วงไปได้ การหาความจริงนั้นผู้พิพากษาก็จะต้องได้รับข้อมูลต่าง ๆ จากการให้ การเบิกความต่าง ๆ และมาดูเปรียบเทียบกับบทกฎหมาย ว่าส่ิงน้ันถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ถ้าไม่ถูกต้องมี การพพิ ากษาประการใด ก็จะตอ้ งพลกิ กฎหมายท่ีมีไว้ แตโ่ ดยทกี่ ฎหมายท่มี อี ยทู่ กุ คนกท็ ราบวา่ เปน็ สิ่งที่เรยี กวา่ สมมุตขิ ึ้นมาต้งั ขึน้ มา บางทีกไ็ ม่ตรงกบั ประเดน็ ท่ขี องคดี ฉะนน้ั ผพู้ พิ ากษากจ็ ะต้องมดี ุลพนิ ิจ ซึ่งในกฎหมายกม็ ี ดุลพินิจของผู้พิพากษา ดุลพินิจนี่ก็ตามคำก็หมายความว่าให้พิจารณาตามความคิดของตัว และชั่งน้ำหนักดูว่า ทางไหนจะไปทางทิศท่ีถูกที่ต้อง ฉะนั้นหน้าที่นี้สำคัญมาก เพราะว่าต้องอาศัยความรู้กฎหมายแล้วก็ ความรู้ผิดชอบอะไรถูกหรือไม่ถูก อีกอย่างซ่ึงยากมาก และถ้าหากว่าปฏิบัติได้ทั้งทางวิชาการทางกฎหมาย รวมท้ังการมีดุลพินิจที่เหมาะสม คือมีความฉลาดมีความรู้อะไรที่ถูกที่ควร ก็จะได้ตัดสินได้ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ ทั้งเป็นประโยชน์แก่ผู้ท่ีเสียหาย บางคร้ังแม้แต่ผู้ท่ีทำความผิดน้ันก็ได้ประโยชน์ เพราะว่ากฎหมายน้ันก็จะต้องลงโทษหรือปรับ หรือจะอะไรให้เป็นธรรมที่ดีท่ีสุด ถ้าหากว่าทางกฎหมาย ไม่ให้ความเป็นธรรม ท้ังผู้เสียหายทั้งผู้ท่ีเป็นผู้ต้องหาก็เสียหายด้วยกัน ฉะนั้นงานน้ีเป็นสิ่งท่ีสำคัญมาก และถ้าพิพากษาดีก็ทำให้บ้านเมืองมีข่ือมีแปมีความสงบเรียบร้อย และได้ทำหน้าที่ของผู้ที่มีความรู้ ผ้ทู ีเ่ ปน็ ผ้ใู หญ่ไดเ้ ตม็ ท่ี เพ่อื ให้บา้ นเมืองมีความม่ันคง ข้อนกี้ ็เป็นด้านแรกของหนา้ ท่ผี ู้พิพากษา (๑) เรียบเรียงขน้ึ ตามท่ไี ดบ้ ันทกึ พระสรุ เสยี งไว้ (๒) ฯพณฯ นายภญิ โญ ธีรนติ ิ (๓) บนั ทึกพระสุรเสียงไดไ้ ม่ชัดเจน
ดา้ นทสี่ องทมี่ คี วามสำคญั ไมน่ อ้ ยกวา่ ดา้ นทห่ี นงึ่ ซงึ่ เรยี กวา่ ในงานของตนในโรงศาลขอ้ ทส่ี องนอกโรงศาล ท้ังในและนอกโรงศาลก็จะต้องรักษาท่ีจะเรียกภาษาสมัยใหม่ว่าภาพพจน์ของความยุติธรรมของผู้พิพากษา ข้อน้ีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่าถ้าหากว่าภาพพจน์ของผู้พิพากษาของขบวนการยุติธรรมท่ีดี ก็ทำให้ บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยได้ขึ้นมาก และทำให้ผู้ที่เป็นผู้พิพากษามีโอกาสที่จะทำหน้าที่เพ่ือบ้านเมือง เรียกว่าโดยตรง แต่ก็ไม่ใช่มีกฎเกณฑ์ท่ีตายตัว หน้าท่ีหรือด้านที่สองของหน้าท่ีของผู้พิพากษานี้จึงเป็นหน้าท่ี สำคัญ และปฏิบัติต้องระมัดระวัง ต้องไม่มีการเผลอสติเผลอเรอและตามท่ีได้ปฏิญาณตะก้ีว่าจะปราศจาก อคติ ต้องปราศจากอคติตลอด ๒๔ ชั่วโมง ถ้าอยากจะเป็นผู้พิพากษาท่ีดี และถ้าอยากจะทำประโยชน์ต่อ ส่วนรวมเต็มที่ รวมท้ังทำประโยชน์แก่ตัวเอง เพราะว่าจะทำให้ชื่อเสียงเป็นท่ีนิยมและเป็นผู้ท่ีไว้วางใจของ คนทั่วไป ทั้งผู้ใหญ่ท้ังผู้น้อย ท้ังทุก ๆ ฝ่ายทุกคนทั้งไทยทั้งเทศ จะนับถือตัวผู้พิพากษาที่มีความยุติธรรม มีความฉลาดและวางตัวที่ดี ในการวางตัวของผู้พิพากษาเพ่ือภาพพจน์น้ีเป็นส่ิงท่ีทำยาก เพราะว่าจะต้องวาง ตัวให้เป็นผ้ใู หญท่ ่ีแท้ เป็นทีพ่ ่งึ ของผู้อ่ืนได้ทุกเมือ่ และการท่ีจะให้เขานบั ถือนั้นกต็ อ้ งแบง่ เป็นส่วนที่เป็นวชิ าการ คอื คนทมี่ คี วามรดู้ ใี นดา้ นกฎหมาย แตว่ า่ กต็ อ้ งมคี วามรดู้ ใี นดา้ นความรรู้ อบตวั ชว่ ยเหลอื คนอนื่ ไดเ้ ปน็ ทปี่ รกึ ษา ใหญ่ของประชาชนได้ แล้วก็ในด้านอีกอย่างหน่ึงก็คือการประพฤติปฏิบัติตนวางตัวให้ดี ไม่ทำให้เสื่อมเสีย ในการวางตัวในชวี ติ ประจำวนั ฉะนั้น หน้าที่ของผู้พิพากษาท้ังสองด้านจะเป็นส่ิงท่ีหนักเมื่อได้ปฏิบัติ หากเมื่อได้ต้ังใจท่ีจะปฏิบัติแล้ว ก็เช่ือว่าทุกคนจะเป็นประโยชน์มากสำหรับสังคมและสำหรับประเทศชาติ ทำให้มีความสงบเรียบร้อยและ มีชื่อเสียงดี ดังท่ีกล่าวมานี้ก็เพราะว่าเห็นว่าท่านผู้ท่ีวางตัวเป็นกลางตั้งใจที่จะปฏิบัติเป็นผู้พิพากษา ก็เช่ือว่า มีความแน่วแน่เพราะตั้งใจดี ก็ขอย้ำอีกทีว่าสิ่งท่ียากลำบากและน่ายกย่องย่ิง คือได้สนใจท่ีจะปฏิบัติหน้าท่ี ให้ดี ฉะน้ัน กข็ อใหท้ กุ คนสามารถทจี่ ะรักษาความดี และประกอบความดีนำให้ผอู้ น่ื ได้ปฏิบตั ิชอบ เป็นการที่จะ ให้เป็นความพอใจในส่วนตัวและความพอใจในส่วนรวมได้มาก ทำให้ขบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ซ่ึงตั้งมานานแลว้ ยัง่ ยนื ต่อไป รวมท้งั ทำให้ช่ือเสยี งของประเทศไทยนรี้ ่งุ เรืองย่ิง ๆ ข้นึ ไป กข็ อใหใ้ นการประกอบงานการปฏบิ ตั ติ วั ปฏบิ ตั ติ น ใหม้ กี ำลงั กายกำลงั ใจทส่ี มบรู ณ์ เพราะวา่ กำลงั กายนน้ั ตอ้ งแขง็ แรงตอ้ งรกั ษารา่ งกายใหด้ ีเพอื่ ทจ่ี ะใหส้ ามารถทจี่ ะปฏบิ ตั งิ านหนา้ ท่ีและกำลงั ใจนก้ี ร็ วมกำลงั ปญั ญาดว้ ย ก็ต้องพร้อมอยู่เสมอที่จะวางตัวให้ดีดังท่ีปรารถนาไว้ และจะทำให้เกิดผลดี ก็ขอให้มีกำลังกายกำลังใจแข็งแรง ปฏบิ ัตงิ านใด ๆ ท้งั ในหนา้ ที่นอกหนา้ ท่ี ส่วนตัวสว่ นรวม ให้มคี วามสำเร็จ ขอใหม้ ีความเจรญิ รงุ่ เรืองทกุ คน. ๒
พระราชดำรัส(๑) ในโอกาสทปี่ ระธานศาลฎกี า(๒) นำผพู้ ิพากษาเขา้ เฝา้ ฯ ถวายสัตย์ปฏญิ าณก่อนเขา้ รับหนา้ ที่ครั้งแรก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันพฤหัสบดี ท่ี ๔ กนั ยายน ๒๕๒๙ การทผ่ี พู้ พิ ากษาจะตอ้ งมากลา่ วคำปฏญิ าณเปน็ ระเบยี บทไี่ ดต้ ง้ั ไว้แลว้ กเ็ ปน็ ระเบยี บทเี่ หมาะสมเพราะวา่ ผู้พิพากษาน้ันเป็นคนท่ีสำคัญ และจะต้องประกอบด้วยความรู้ความสามารถและความซ่ือสัตย์สุจริตอย่างย่ิง เพื่อท่ีจะไดเ้ ป็นทพ่ี งึ่ ของประชาชนและเป็นหลกั ของประเทศชาติ ตามที่ได้กล่าวแล้วว่าจะปฏิบัติงานด้วยความซ่ือสัตย์สุจริตปราศจากอคติน้ันเป็นหลักสำคัญที่ทุกคน จะตอ้ งทำ โดยเฉพาะผพู้ พิ ากษานน้ั กถ็ อื วา่ เปน็ บคุ คลทเ่ี ปน็ ทพี่ งึ่ ของคนอน่ื ฉะนนั้ จะตอ้ งรกั ษาคำสตั ยป์ ฏญิ าณนี้ ด้วยใจอย่างดีท่ีสุด การกล่าวน้ีก็กล่าวส้ัน ๆ คือว่าเป็นการสรุป แต่ว่ามีความลึกซ้ึงมาก เพราะว่าคนเราเวลา ปฏบิ ตั งิ านใด ๆ ไปประสบเหตกุ ารณอ์ ะไรบางทพี าใหค้ ดิ ในทางทไ่ี มเ่ ปน็ กลาง คอื จติ ใจไมเ่ ปน็ กลาง คำวา่ เปน็ กลางนี้ กเ็ ปน็ คำทไี่ ดอ้ ยคู่ กู่ บั ผพู้ พิ ากษา ความเปน็ กลางนนั้ กอ็ าจจะใชค้ ำวา่ อเุ บกขากไ็ ด้ แตอ่ เุ บกขาโดยมากไปถอื วา่ เปน็ ความนง่ิ เฉยเปน็ ความไมร่ บั รู้หรอื เปน็ ความเรยี กวา่ ความโงด่ ว้ ยซำ้ แตค่ วามจรงิ คำวา่ อเุ บกขาหรอื ความเปน็ กลาง ไม่ได้หมายความว่านิ่งเฉย หรือไม่รับฟังใด ๆ ตรงกันข้ามกับผู้พิพากษาจะต้องรับฟัง แต่วิธีรับฟังน้ันทั้งฟัง ท้ังดู ทั้งรู้สึก อะไรจะต้องรู้ต้องฟังต้องดู แต่ว่าการดูนั้นหรือฟังนั้นเอามาไว้ท่ีใจ ไม่ใช่มาปรุงแต่งให้เข้าข้างในส่ิงท่ี มีอยู่ในใจ จะต้องรับสิ่งท่ีฟังน้ันและมาพิจารณาอย่างรอบคอบอย่างที่เรียกว่าเป็นกลาง คือหมายความว่าเห็น เหตกุ ารณเ์ ปน็ อยา่ งไรกต็ อ้ งดเู หตกุ ารณว์ า่ อยา่ งนนั้ ไมใ่ ชม่ าบดิ เบอื น กต็ อ้ งขอโทษทใ่ี ชค้ ำบดิ เบอื นกบั ผพู้ พิ ากษา เพราะว่าผู้พิพากษานั้นย่อมเป็นคนที่มีความยุติธรรมไม่บิดเบือน แต่ว่าในคนทุกคนมีสิ่งที่สำคัญว่าไม่ เป็นกลาง เพราะว่าโดยมากคนเราก็ต้องเข้าข้างตัวเอง ด้วยความไม่รู้ก็ตาม หรือด้วยความไม่ต้ังใจก็ตาม แตก่ ต็ อ้ งระวงั ขอ้ นท้ี จ่ี ะเขา้ ขา้ งตวั เอง แมแ้ ตค่ วามรขู้ องตวั เชน่ วชิ าความรทู้ มี่ อี ยใู่ นตวั บางทกี ไ็ มถ่ กู กไ็ ด้ เพราะวา่ (๑) เรยี บเรยี งขึ้นตามที่ได้บนั ทึกพระสรุ เสยี งไว้ (๒) นายภิญโญ ธีรนิติ
ไมถ่ กู กบั สถานการณน์ น้ั ๆกไ็ ดจ้ ะตอ้ งทำจติ ใจเปน็ กลางวา่ เหตกุ ารณเ์ กดิ ขนึ้ อยา่ งไรแลว้ กม็ าดตู ามขอ้ เทจ็ จรงิ ซงึ่ ก็ เปน็ หลกั ของผพู้ พิ ากษาทจี่ ะรบั ฟงั เชน่ ในโรงศาล เวลาไปเบกิ ความมา จะเปน็ ฝา่ ยจำเลยหรอื ฝา่ ยโจทก์ บอกอะไร ชื่ออะไร เขาต้องเข้าข้างตัวของเขาเอง ซึ่งเป็นหลักเหมือนกันว่าทนายจำเลยก็จะต้องพยายามท่ีจะให้เห็นว่า จำเลยไม่ผิด เข้าข้างจำเลย ทนายโจทก์ก็จะต้องให้จำเลยนั้นผิด ผู้พิพากษานั้นฟังแล้ว ฟังทนายจำเลยที กพ็ ลาด ไมท่ ำใจเปน็ กลางก็เฮโลไปทางน้นั จิตใจของตวั เฮโลไปทางน้นั ก็เหน็ ว่าจำเลยพูดถกู และไม่มีความผิด คร้ันมาฟังทางโจทก์ หรืออัยการ ก็ฟังแล้ว เอ้อ...... เขาก็ถูก แล้วก็เฮโลไปทางน้ัน ก็ทำให้จำเลยเขามีความผิด ตกลงใจไม่ได้ หรือตัดสินไม่ได้ เพราะว่าแกว่งไปทางอ่ืน แกว่งไปอีกทางหน่ึง วิธีท่ีจะฟังเช่นในโรงศาลน้ี ก็คือ ต้องฟังตามข้อเท็จจริง และก็ฟังทั้งสองข้าง ฟังทุกการเบิกความทุกอย่าง แล้วก็นำมาพิจารณาดูว่าอันไหนน่า จะเป็นจริงอันไหนไม่น่าจะเป็นจริง แล้วก็ตัดสินไปตามที่เป็นกลางนั้น หมายความว่าเป็นกลางน้ีก็จะต้องฟัง จะตอ้ งคดิ และจะตอ้ งปราศจากอคติ ซงึ่ ไดก้ ลา่ วเมอื่ ตะกวี้ า่ อคตนิ ก่ี เ็ ปน็ สงิ่ ทสี่ ำคญั ทท่ี ำใหค้ นเราทำความผดิ หรอื ผิดพลาดได้ง่าย เพราะว่าอคติน้ีเป็นการไปไม่ถูกตามศัพท์ก็เป็นที่ไปท่ีไม่ถูก หมายความว่าเวลาเราเจออะไร ฟังอะไร ไปตามเหตุการณน์ ั้นทนั ทีโดยไม่พจิ ารณา ถา้ หากวา่ พิจารณาแล้วจะเห็นไดว้ ่ามนั เป็นทางทค่ี วรไป หรอื ไม่ควรไป คำว่าไปน้ีไม่ใช่ว่าเดินไป แต่หมายถึงเดินขบวนการความคิดไปในทางที่ไม่ถูก อคตินั้นก็มาจาก หลายอย่าง มาจากกิเลสต่าง ๆ ที่มีคือความโลภ ความโกรธ หรือความไม่รู้ หรือบางทีก็เพราะว่ากลัว บางที ผู้พิพากษาอาจจะเคยได้ยินว่ามีการขู่ผู้พิพากษาบ้างอาจจะตัดสินอย่างนั้น ๆ จะแกล้งแม้แต่ถึงชีวิต มันก็กลุ้ม ก็ต้องตัดสินกันในทางที่เป็นอคติ บางทีก็มีเหมือนกันท่ีมีการติดสินบน ก็ชอบใจ แล้วสินบนน้ัน ก็ทำให้เรารวยก็ได้ หรืออะไรก็ได้ ก็ตัดสินไปโดยอคติ บางทีก็เห็นหน้าคนแล้วก็ไม่ชอบ เขาไม่ชอบเขาเฉย ๆ ไม่ชอบก็เป็นอคติ เหน็ หน้าคนชอบเขา เขาทำอะไรก็ช่างชอบเขา กต็ ดั สนิ ไปโดยอคติ อนั น้ีถึงกล่าวว่าคำปฏิญาณน้ันกินความลกึ ซึ้งมาก แลว้ ก็ถา้ บุคคลต้ังใจทจี่ ะปฏิบัตติ ามคำปฏิญาณอยา่ ง เคร่งครัดและลึกซ้ึง ก็จะเป็นผู้พิพากษาท่ีดี อันนี้ก็ได้กล่าวถึงผู้พิพากษาในโรงศาล แต่นอกโรงศาลก็จะต้อง ปฏิบัติดีเหมือนกัน สมมุติว่าได้ไปเป็นผู้พิพากษาของศาลไหนก็ตาม เวลาท่ีอยู่ในโรงศาลกับเวลาที่อยู่ นอกศาลน้ันมันต่างกัน เวลาอยู่ในโรงศาลก็น้อยกว่าเวลาท่ีอยู่นอกโรงศาล แต่เวลาอยู่นอกโรงศาลนั้นก็ จำเป็นที่จะรักษาความเป็นผู้พิพากษา คือเป็นบุคคลที่น่านับถือที่สุจริตและเป็นที่พ่ึง จะต้องมีความรู้รอบตัว คนเขามาปรึกษาหารืออย่าไปบอกว่าไม่ใช่หน้าท่ีของผู้พิพากษา เป็นหน้าท่ีทั้งน้ัน เพราะว่าผู้พิพากษาก็เป็น คนช้ันนำ เป็นคนท่ีเขานับถือ ถ้ามาถามเรื่องอะไรก็ตาม เราก็สามารถท่ีจะให้คำแนะนำได้ช่วยเหลือได้ ฉะน้ัน ชีวิตของท่านท้ังหลายที่ตัดสินใจเป็นผู้พิพากษา ก็จะต้องทำหน้าท่ีผู้พิพากษาที่ดี ท้ังในโรงศาล ท้ังนอกโรงศาล ๔
ทั้งในหน้าท่ีการงาน ทั้งในชีวิตส่วนตัว ให้เป็นบุคคลที่นับถือท่ีพึ่งได้ ฉะนั้นผู้พิพากษานี้ก็จะเป็นหน้าท่ีที่ไม่ใช่ ง่าย แต่ทำแล้วก็ภูมิใจได้ว่าเป็นผู้ท่ีได้ช่วยเพ่ือนร่วมชาติ หรือจะเรียกได้ว่าเพ่ือนร่วมโลก มีความสบายใจ มีความยุติธรรม และมีความก้าวหน้าม่ันคงได้ เป็นหน้าท่ีท่ีมีเกียรติเป็นหน้าท่ีท่ีมีความสำคัญท่ีสุด และเม่ือ ทำได้แล้วแต่ละคนก็จะสามารถที่จะมีความภูมิใจว่า ทำหน้าท่ีอย่างดีและเป็นคนที่มีเกียรติที่แท้ เป็นคนท่ีเป็น คนชั้นนำ เป็นคนที่เป็นคนดี ภูมิใจได้ เม่ือภูมิใจแล้วทำหน้าท่ีดีแล้ว แต่ละคนก็จะมีความสุขมีความพอใจและ เรียกว่ามีความเจริญ ใช้คำว่าความเจริญได้ คือเป็นบุคคลท่ีน่านับถือ และมีความภาคภูมิใจว่าเป็นบุคคลที่น่า นับถือดว้ ยใจจริง ฉะนั้นก็ขอให้ท่านทั้งหลายทุกคนรักษาคำกล่าวคำปฏิญาณไว้ให้ดี และพยายามทบทวนคิดว่าคำกล่าว ของตนเปน็ อยา่ งไรไมใ่ ชว่ นั นเี้ ปน็ พเิ ศษแตต่ ลอดไปแลว้ กจ็ ะประสบความเจรญิ ประสบความสำเรจ็ ไดท้ กุ ประการ ขอขอบคุณท่านท่ีปฏิบัติงานมาตามหน้าที่ และขอให้ประสบแต่ความสำเร็จความเจริญ มีพลานามัยแข็งแรง จติ ใจเขม้ แขง็ ทกุ ประการ. ๕
พระบรมราโชวาท ในพิธพี ระราชทานกระบี่และปรญิ ญาบตั รแก่วา่ ทร่ี ้อยตำรวจตรี ท่ีสำเรจ็ การศกึ ษาชั้นสูงสุดจากโรงเรยี นนายร้อยตำรวจ ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๒๙ พระราชทานประกาศนยี บัตรกับเขม็ พิทกั ษ์ชนาธิปัตย์ แกผ่ ู้สำเรจ็ การศึกษาอบรมหลักสตู รการบริหารงานตำรวจชัน้ สงู ร่นุ ที่ ๓ พระราชทานประกาศนียบัตรกับเขม็ สันตพิ ทิ กั ษ์ แกผ่ ูส้ ำเร็จการศึกษาอบรมหลักสตู รผกู้ ำกบั การ ร่นุ ๘, ๙ และพระราชทานประกาศนียบตั รกบั เขม็ พิทกั ษาธิปัตยแ์ ก่ ผูส้ ำเรจ็ การศึกษาอบรมหลักสตู รฝ่ายอำนวยการตำรวจ ชุดท่ี ๙ ณ อาคารใหม่ สวนอมั พร วนั อาทติ ย์ ที่ ๑๕ มนี าคม ๒๕๓๐ ข้าพเจ้ามีความยินดี ท่ีได้มาทำพิธีมอบกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีผู้สำเร็จการศึกษา ชน้ั สงู สดุ จากโรงเรยี นนายรอ้ ยตำรวจ พรอ้ มทงั้ มอบประกาศนยี บตั รกบั เขม็ พทิ กั ษช์ นาธปิ ตั ย์เขม็ สนั ตพิ ทิ กั ษ์และ เข็มพิทักษาธิปัตย์ แก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตรการบริหารงานตำรวจช้ันสูง หลักสูตรผู้กำกับการและ หลักสูตรฝา่ ยอำนวยการตำรวจ. ขอแสดงความชืน่ ชมกับทกุ คน ท่ไี ดร้ ับเกียรติและความสำเรจ็ ในครงั้ นี้. ตำรวจนน้ั ตอ้ งถอื วา่ เปน็ ทพ่ี งึ่ สำคญั ของประชาชน ในดา้ นอำนวยความมน่ั คงปลอดภยั และความยตุ ธิ รรม เทย่ี งตรง ดงั นี้ เจา้ หนา้ ทผ่ี พู้ ทิ กั ษส์ นั ตริ าษฎรแ์ ตล่ ะคนจงึ ตอ้ งมคี วามรคู้ วามสามารถสงู ทง้ั ทางวชิ าการปฏบิ ตั กิ าร และการคดิ อา่ นดว้ ยเหตผุ ลทถ่ี กู ตอ้ ง นอกจากดา้ นความรคู้ วามสามารถแลว้ ทางดา้ นจติ ใจและคณุ ธรรม กจ็ ำเปน็ ต้องฝึกฝนอบรมเป็นพิเศษ ให้ม่ันคงและแข็งแกร่งถึงขนาดด้วย เพ่ือจักได้สามารถอดทนต่อความยากลำบาก และอดกลั้นต่ออามิสเคร่ืองล่อใจนานาประการ. มิฉะน้ัน จะไม่อาจรักษาความสุจริตและวินัยอันดีงาม ซึ่งเป็น คุณสมบัติหรือคุณค่าของตำรวจ ให้คงอยู่อย่างเหนียวแน่นตลอดไปได้. ในเรื่องการรักษาคุณงามความดีนั้น ทุกคนจำต้องระลึกไว้เป็นนิตย์ว่า การทำดี ถึงหากจะทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะถ้าไม่ทำ ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่ แล้วจะเพ่ิมพูนข้ึนทำลายความดีท้ังปวงลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทันรู้สึกตัว. ตำรวจจงึ ตอ้ งตง้ั ใจและเพยี รพยายามใหส้ ดุ กำลงั ในการสรา้ งเสรมิ และสงั่ สมความดีทง้ั ตอ้ งหมน่ั สำรวจตรวจสอบ คุณภาพของตนอยู่เสมอ ๆ ว่ายังบริบูรณ์อยู่หรือวิปริตบกพร่องไปประการใด แล้วรีบปฏิบัติแก้ไขให้ทันการณ์. ประการสำคญั การสรา้ งความดนี จ้ี ะตอ้ งทำใหพ้ รอ้ มกนั ทวั่ ทกุ คน จงึ จะเกดิ ผลทที่ รงประสทิ ธภิ าพ ชว่ ยบา้ นเมอื ง และประชาชนให้มีความปรกติร่มเย็นได้. จึงใคร่ขอให้นายตำรวจท้ังหลายคิดพิจารณาให้เห็นชัด เพ่ือสามารถ ประพฤตปิ ฏบิ ัตสิ ่งิ ทเี่ ปน็ คุณเป็นประโยชนแ์ กต่ นแกส่ ่วนรวมดว้ ยดีไดต้ ลอดไป. ขออวยพรใหท้ กุ คนประสบความสขุ และความสำเรจ็ ในชวี ติ ใหม้ คี วามปลอดภยั และความกา้ วหนา้ รงุ่ เรอื งใน หน้าทรี่ าชการ ทง้ั ขอให้ทุก ๆ ทา่ นที่มาประชมุ พร้อมกัน ณ ทนี่ ้ี มีความเจริญสวสั ดีจงท่วั กัน. ๖
พระราชดำรสั (๑) ในโอกาสท่ีรองประธานศาลฎกี า(๒) นำผู้พิพากษาเขา้ เฝา้ ฯ ถวายสตั ย์ปฏญิ าณก่อนเข้ารับหนา้ ทค่ี รงั้ แรก ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันจนั ทร์ ท่ี ๒๐ เมษายน ๒๕๓๐ การที่ผู้พิพากษาต้องกล่าวคำปฏิญาณก่อนที่จะเข้าปฏิบัติงานเป็นคณะผู้พิพากษาก็มีความหมายยิ่ง เพราะว่างานผู้พิพากษาเป็นงานท่ีสำคัญ และเป็นงานที่จะสร้างความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน ยังรวมท้ัง ความมั่นคงของประเทศชาติ ทุกคนก็ได้ศึกษาหาความรู้ครบถ้วนแล้วเพ่ือปฏิบัติหน้าที่นี้ เชื่อว่ามีความสามารถเต็มท่ี การกล่าว คำปฏิญาณนั้นเป็นการยืนยันว่าจะใช้วิชาความรู้ในทางที่ถูกท่ีต้อง อีกอย่างหนึ่งก็เพื่อประสานความยุติธรรม ซึ่งความยุติธรรมนั้นก็เป็นคำที่กว้าง การทำงานก็ต้องพิจารณาถึงคำนี้อย่างลึกซึ้ง คำว่ายุติธรรมน้ัน เป็นคำท่ี แปลว่าการตกลง พิจารณาในทางท่ีถูกต้องตามธรรมะ แล้วธรรมะนี้ก็หมายความว่าส่ิงที่ควรท่ีจะปฏิบัติให้นำ ความเจรญิ แกม่ วลมนษุ ย์ ในการปฏบิ ตั นิ ก้ี จ็ ะตอ้ งมคี วามเทยี่ งตรง และปราศจากอคติซงึ่ พดู กนั มากวา่ ทกุ คนทจี่ ะ ปฏบิ ตั งิ านตอ้ งปราศจากอคติอนั นก้ี ต็ อ้ งเขา้ ใจเหมอื นกนั คำวา่ อคตนิ แี้ ปลวา่ อะไรอคติแปลวา่ เปน็ ทางทไ่ี มค่ วรไป อะ กห็ มายถึงไม่ คติ คโต แปลวา่ ไป เปน็ ทางท่ไี มค่ วรไป ดจู ะเป็นในทางลบมากกวา่ แตว่ ่าก็ต้องลบในสง่ิ ท่ีไมด่ ี และก็ส่งเสริมในส่ิงที่ดี ส่ิงท่ีดีคือความยุติธรรม ส่ิงที่ไม่ดีก็คืออคติ อคตินี้จะต้องทราบว่ามีเหตุท่ีทำให้ไป ในทางที่ไม่ดีหลายอย่าง ถ้าชอบอะไรโดยไม่ได้พิจารณาก็ทำให้เกิดความยุติธรรมไม่ได้ ก็เป็นอคติอย่างหน่ึง ถ้าไม่ชอบอะไรก็เป็นทางที่จะทำให้ความยุติธรรมเสียไป เพราะว่าถ้าเราตัดสินอะไรโดยที่ว่าเพราะว่าเรามี ความชอบ หรือชอบใจ ถูกใจ มันก็ทำให้ความคิดของเราไม่เท่ียงตรง ถ้าเราไม่ชอบอะไรก็ทำให้ไม่เที่ยงตรง เหมือนกัน ไม่ได้ไปตามกระบวนการของยุติธรรม ถ้าเรากลัวอะไร เช่นกลัวอิทธิพล หรือกลัวสิ่งใดก็ตาม ก็เป็น สิ่งท่ีจะทำให้เราไม่มีความยุติธรรมได้ เราจึงต้องกล้าหาญ ต้องไม่มีความกลัวต่อหวาดต่ออะไรเลย จะต้อง สามารถท่ีจะปฏิบัติโดยไม่นึกถึงว่า ถ้าเราพูดอย่างน้ีปฏิบัติอย่างนี้ก็จะเป็นภัย ฉะนั้น ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะให้ (๑) เรียบเรยี งขน้ึ ตามทไี่ ด้บนั ทกึ พระสรุ เสยี งไว้ (๒) นายสมบรู ณ์ บญุ ภนิ นท์
ไมก่ ลวั ภยั นอกจากนนั้ ส่งิ ท่สี ำคญั กจ็ ะตอ้ งไม่ใหค้ วามไมร่ ู้มาครอบงำเรา เราจะตอ้ งค้นควา้ ใหล้ กึ ซง้ึ พิจารณาให้ รอบคอบ ถงึ จะปฏบิ ตั หิ นา้ ทผี่ พู้ พิ ากษาได้ อคติ ๔ อยา่ งนเี้ ปน็ สง่ิ ทส่ี ำคญั เรากเ็ อาไปพจิ ารณาดู เราปราศจากอคติ ท้ัง ๔ น้ี เราจะสามารถท่ีจะปฏิบัติงานโดยเฉพาะอย่างผู้พิพากษาได้อย่างดี ฉะนั้น ก็ต้องทบทวนอยู่เสมอว่า อย่าให้ความชอบใจ ความไม่ชอบใจ ความกลัว หรือความไม่รู้มาครอบงำเรา ถ้าปฏิบัติในการเว้นอคติ ๔ อย่างน้ีก็เป็นทางท่ีจะปฏิบัติหน้าที่ได้ผลดี เป็นเกียรติเป็นศรีแก่ตัวและแก่สถาบันการยุติธรรม จะทำให้ เกดิ ประโยชน์ผลดีตอ่ ประชาชนท่วั ไป ตลอดจนประเทศชาตจิ ะมขี ือ่ มแี ป ฉะน้ัน ก็เพียงพิจารณาอคติที่เป็นทางท่ีไม่ควรไปที่ไม่ควรปฏิบัติเท่านั้นเอง ก็นับว่าท่านก็ได้ทำหน้าท่ี ของผพู้ พิ ากษาไดเ้ ปน็ อยา่ งดีและสามารถทจ่ี ะทำประโยชนอ์ ยา่ งดี เรอื่ งประโยชนข์ องผพู้ พิ ากษานนั้ กม็ มี ากหลาย นอกจากการตัดสินความในโรงศาล กจ็ ะไดเ้ ป็นผู้ใหญ่ในทท่ี จี่ ะไปปฏิบตั ิงาน เปน็ ทพ่ี ึง่ เปน็ ที่นบั ถอื ของประชาชน ท่ัวไป ฉะนั้นท้ังในโรงศาลก็จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามหน้าที่ท่ีมี ทั้งนอกโรงศาลก็จะต้องปฏิบัติตนเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้ที่มีความรู้ เป็นผู้ท่ีน่านับถือ ช่วยให้คำแนะนำแก่ผู้ท่ีอาจจะมาถามข้อความต่าง ๆ ท้ังในทางกฎหมาย ท้ังในความเป็นอยู่ สรุปแล้วผู้พิพากษาน้ีเป็นบุคคลท่ีเป็นปูชนียบุคคล หรือเป็นผู้ท่ีนับถือได้ ต้องรักษาฐานะ ของผู้พพิ ากษาให้ดใี นทุกเมอื่ ตงั้ แต่ตน้ จนกระทัง่ ตอ่ ไปเป็นผใู้ หญ่ หรือเป็นผู้ใหญผ่ ูโ้ ตขึ้นมาก็จะเป็นผูท้ ีเ่ ปน็ หลกั ของประเทศชาติ ฉะนน้ั กข็ อใหท้ า่ นทง้ั หลายไดร้ กั ษาคำปฏญิ าณน้ี ซงึ่ ทจี่ รงิ กต็ ง้ั แลว้ กร็ ดั กมุ มากและกนิ ความลกึ เอาไว้ตลอด ให้พิจารณาว่าจะทำอย่างไรจึงจะรักษาคำม่ันสัญญานี้ไว้ได้ คือความเจริญรุ่งเรืองของตัวเอง และความเจรญิ รุ่งเรืองของประเทศชาติ ก็ขอให้ท่านท้ังหลายมีกำลังร่างกายและสติปัญญา ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาอย่างดี เพื่อประโยชนแ์ ก่ประเทศชาตติ อ่ ไป ขอใหไ้ ด้ประสบผลสำเรจ็ งานการทกุ อย่าง. ๙
ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรสั พระบาทสมเดจ็ พระเจขา้ออง ยหู่ วั มู พิ ลอดลุ ยเดช เกย่ี วกบั กฎหมายและกระบวนการยุตธิ รรม ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕ -๒๕๔
พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานกระบแ่ี ละปรญิ ญาบัตรแกว่ ่าทร่ี ้อยตำรวจตรี ที่สำเรจ็ การศกึ ษาชนั้ สงู สุดจากโรงเรียนนายรอ้ ยตำรวจ ประจำปีการศกึ ษา ๒๕๓๐ พระราชทานประกาศนยี บัตรกับเขม็ พทิ ักษช์ นาธปิ ตั ย์แก่ ผู้สำเรจ็ การศึกษาอบรมหลักสูตรการบริหารงานตำรวจชน้ั สงู ร่นุ ที่ ๔, ๕ พระราชทานประกาศนียบัตรกับเข็มสนั ติพิทักษแ์ ก่ ผู้สำเรจ็ การศกึ ษาอบรมหลักสตู รผู้กำกับการ ร่นุ ๑๐, ๑๑ และพระราชทานประกาศนยี บัตรกบั เข็มพิทักษาธปิ ัตยแ์ ก่ ผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษาอบรมหลักสูตรฝา่ ยอำนวยการตำรวจ ชดุ ที่ ๑๐ ณ อาคารใหม่ สวนอมั พร วนั เสาร์ ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๓๑ ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้มาทำพิธีมอบกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีผู้สำเร็จการศึกษา ชั้นสูงสุดจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พร้อมท้ังมอบประกาศนียบัตรกับเข็มพิทักษ์ชนาธิปัตย์ เข็มสันติพิทักษ์ และเขม็ พทิ กั ษาธปิ ตั ย์แกผ่ สู้ ำเรจ็ การศกึ ษาอบรมหลกั สตู รการบรหิ ารงานตำรวจชนั้ สงู หลกั สตู รผกู้ ำกบั การและ หลกั สูตรฝา่ ยอำนวยการตำรวจ ขอแสดงความช่ืนชมกบั ทุก ๆ คน ทไ่ี ด้รบั เกยี รตแิ ละความสำเร็จในครัง้ น้ี ตำรวจมหี นา้ ท่รี กั ษาความสงบสขุ และความถูกต้องเป็นธรรมในบา้ นเมือง การปฏบิ ัติหน้าทีท่ ้ังน้ี บางทีก็ ต้องใชค้ วามเมตตาอารแี ละเสียสละอยา่ งสงู ในการช่วยเหลอื เก้ือกลู ประชาชนโดยเสมอหนา้ แต่บางทีก็ตอ้ งใช้ ความเขม้ งวดเดด็ ขาดในการควบคมุ บำราบทจุ รติ ชนและการรกั ษาความศกั ดส์ิ ทิ ธขิ์ องกฎหมาย ไมว่ า่ จะทำหนา้ ที่ โดยทางเมตตาเกอื้ กลู หรอื เขม้ งวดกวดขนั กต็ าม ตำรวจจะตอ้ งระมดั ระวงั ตงั้ ใจปฏบิ ตั ใิ หไ้ ดผ้ ลตรงตามเปา้ หมาย คือให้เป็นการรักษาความสงบสุข และเป็นการผดุงความถูกต้องเป็นธรรมอยู่เสมอ อย่าให้ถูกมองว่าเป็นการ ใช้อำนาจหน้าท่ีหาผลประโยชน์ เบียดเบียนประชาชน หรือลบล้างทำลายความเป็นธรรมเสียเองเป็นอันขาด มิฉะน้ันจะไม่สามารถรักษาภาพพจน์ คุณค่า และเกียรติศักด์ิของตำรวจไว้ได้ ผู้ท่ีจะทำหน้าท่ีของตำรวจได้ อย่างสมบูรณ์นั้น เบื้องต้นจะต้องมีใจที่เป็นธรรม คือมีความคิดจิตใจท่ีสุจริต หนักแน่นเท่ียงตรง รู้จักผิดชอบ ถอื ประโยชนส์ ว่ นรวมเปน็ ใหญ่ ประการทส่ี อง ตอ้ งมคี วามตงั้ ใจจรงิ ทจี่ ะทำงานใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ ประการทสี่ าม ๔๒
ตอ้ งมคี วามเพยี รพยายามไมข่ าดสาย ทจี่ ะใชค้ วามรู้ ความสามารถและความฉลาด ใหเ้ ปน็ ประโยชนใ์ นการทำงาน ให้มากที่สุด ประการสำคัญ เม่ือมีอุปสรรคและปัญหาเกิดขึ้นในหน้าที่ จะต้องร่วมกันคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ด้วยหลักวิชาและปัญญาอันรอบคอบสุขุม ให้จนเห็นปัญหาอย่างแจ้งชัดทุกคร้ัง ก็จะสามารถปฏิบัติแก้ไขได้ โดยถูกต้องเหมาะสม ช่วยให้บังเกิดผลดีแก่งาน แก่ส่วนรวมและแก่ตนเองได้ครบถ้วน ความจริงหลักการ ที่กล่าวนี้ เป็นหลักการที่ตำรวจส่วนใหญ่ได้ถือปฏิบัติอยู่เป็นปรกติ และได้รับความสำเร็จอันงดงามมามากแล้ว ขอใหท้ ุกคนถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ไปเพอ่ื ความเจรญิ ม่ันคงของตน ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสุขความสำเร็จในชีวิต ให้มีความปลอดภัยในที่ทุกแห่ง ในกาลทุกเมื่อ และใหม้ ีความก้าวหน้ารุ่งเรืองในราชการยิง่ ๆ ขนึ้ ไป. ๔
พระราชดำรัส(๑) ในโอกาสทป่ี ระธานศาลฎกี า(๒) นำผ้พู พิ ากษาเขา้ เฝา้ ฯ ถวายสตั ยป์ ฏญิ าณกอ่ นเข้ารับหน้าทค่ี ร้ังแรก ณ พระตำหนักจติ รลดารโหฐาน วันองั คาร ท่ี ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๓๑ การทผี่ พู้ พิ ากษาทงั้ หลายทจ่ี ะเขา้ รบั หนา้ ทเี่ ปน็ ครง้ั แรกตอ้ งมากลา่ วคำปฏญิ าณนี้ นบั วา่ มปี ระโยชนแ์ กต่ น อยา่ งมาก เพราะวา่ เปน็ การสรปุ หนา้ ทขี่ องผพู้ พิ ากษาและหนา้ ทข่ี องผทู้ ไ่ี ดศ้ กึ ษามาและปฏบิ ตั มิ าจนไดร้ บั แตง่ ตง้ั ใหเ้ ป็นผูพ้ ิพากษาและก็ตอ้ งออกปฏิบตั งิ าน การปฏิบัติงานของผพู้ พิ ากษาน้นั มีความสำคญั อยา่ งยิ่งและคำปฏิญาณน้นั ก็สรุปหนา้ ทที่ มี่ ีอยู่ ถา้ หากวา่ แต่ละคนเมื่อได้กล่าวแล้ว ออกจากปากด้วยความเข้มแข็ง เสียงท่ีหนักแน่นน้ี ก็ย่อมควรที่จะทบทวนทุกคำ ที่ได้กล่าว เพราะว่าเป็นการสรุปหน้าที่ของผู้พิพากษา ผู้พิพากษานี้จะต้องทำหน้าที่ ถ้าจะแบ่งไปก็มี ๒ อย่าง อย่างหนึ่งเป็นผู้พิพากษา คือตัดสินความในโรงศาลท่ีจะต้องปฏิบัติต่อไป แล้วก็ส่วนในฐานะท่ีเป็นผู้พิพากษา คนอื่นท้ังผู้ท่ีเป็นผู้น้อยทั้งผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ก็จะจ้องดูว่า ท่านเป็นผู้พิพากษาย่อมต้องมีคุณสมบัติและมี ความประพฤติปฏิบัติตนที่ดี ทั้งในโรงศาลทั้งนอกโรงศาลเป็นตัวอย่างของบุคคลในชาติท่ีเรียกว่าเป็นผู้มี ความรับผิดชอบ และเป็นตัวอย่างของผู้ท่ีจะปฏิบัติตนในทางท่ีเหมาะสมแก่ความเป็นผู้มีความรู้ และเป็นผู้ที่มี วัฒนธรรมมคี วามซ่ือสัตยส์ ุจริต ในสมยั ปจั จบุ นั ความคดิ ความอา่ นตา่ ง ๆ กเ็ ปลย่ี นแปลงไปมาก ดงั ทอี่ าจไดเ้ หน็ ในการปฏบิ ตั งิ านในฐานะ ผพู้ พิ ากษา เพราะวา่ การพพิ ากษานนั้ กเ็ กย่ี วขอ้ งกบั โดยมากกเ็ รอ่ื งของการประพฤตขิ องประชาชนทว่ั ไปจะเหน็ วา่ มีความประพฤติดีโดยมากก็ไม่ข้ึนศาล แต่ว่าความประพฤติช่ัวทำผิดกฎหมายก็ขึ้นศาล ความประพฤติชั่วนี้ มีหลายอย่างหลายทาง และมีเหตุผลหลายเหตุผลที่ทำให้ประพฤติชั่ว อันนี้ก็ดูแล้วอาจเป็นสิ่งที่น่าเศร้าสลด จึงเป็นหน้าท่ีท่ียากลำบาก เพราะว่าเจอะเจอแต่กรณีที่น่าเศร้าสลดเป็นส่วนใหญ่ แต่ว่าต้องพิจารณาดูว่าทำไม มีความเศร้าสลดน้ันได้ ทำไมมีการปฏิบัติประพฤติตัวที่ไม่ถูกต้อง จนกระทั่งจะต้องให้มาเข้าตัดสินความอันน้ี ในศาล และท่านทั้งหลายก็ต้องรับผิดชอบในการให้ความยุติธรรม ส่วนใหญ่มาจากสังคมท่ีมีความบีบค้ัน (๑) เรยี บเรียงขึ้นตามที่ไดบ้ ันทกึ พระสรุ เสยี งไว้ ๔๔ (๒) นายจำรัส เขมะจารุ
บีบค้ันในด้านต่าง ๆ อีกอย่างหน่ึงที่สำคัญก็คือเป็นความยากจน แต่ว่านอกจากนั้นบางคนก็ไม่ใช่ยากจน บางคนไม่ยากจนไม่น่าจะเดือดรอ้ น แต่ทำผดิ กฎหมาย มาจากความต้องการ มาจากความครนุ่ คดิ ต่าง ๆ กนั ฉะน้ันที่ท่านได้กล่าวเม่ือตะกี้ว่าโดยปราศจากอคติ การปฏิบัติของท่านจะปราศจากอคติจึงเป็นส่ิงที่ สำคญั มาก เพราะวา่ ผทู้ ท่ี ำผดิ นนั้ กเ็ พราะวา่ มอี คตนิ น่ั เอง อคตนิ นั้ แปลวา่ สง่ิ ทที่ ำไปโดยไมไ่ ดค้ ดิ และนกึ วา่ ถกู แลว้ แล้วไปทำ แต่เป็นทางที่ไปที่ไม่ถูก “อ” แปลว่าไม่ “คติ” ก็มาจากคำว่าไป คือไม่ไป หมายความว่าที่ที่ไม่ควรไป ในทางรา่ งกายทที่ ไี่ มค่ วรไปกม็ ที ท่ี ม่ี อี นั ตรายตา่ งๆกไ็ มค่ วรไปแตถ่ า้ ในทางจติ ใจมเี ยอะแยะทไี่ มค่ วรไปทไี่ มค่ วรทำ แต่อันนี้เป็นสิ่งที่ลำบากในการตัดสินว่าอะไรไม่ควรทำ ท่านทั้งหลายเป็นผู้ท่ีมีความรู้ ได้เรียนรู้มาฝึกฝนมา ผา่ นการฝกึ อบรมมาหลายตอน จงึ มที างทจี่ ะรไู้ ดว้ า่ อคตคิ อื อะไร และเวน้ จากอคตอิ ยา่ งไร ฉะนน้ั ทา่ นกจ็ ะเหน็ วา่ อคตเิ ปน็ อะไร แลว้ กจ็ ะสามารถทจี่ ะดอู คตใิ นคนอน่ื ถา้ ขน้ึ โรงศาลกจ็ ะไดส้ ามารถทจ่ี ะปฏบิ ตั ใิ นการตดั สนิ ความ ใหผ้ ทู้ ปี่ ฏบิ ตั ไิ ปในทางอคตสิ ามารถทจี่ ะปรบั ตวั โดยมากสำหรบั ทางตลุ าการกต็ อ้ งลงโทษหรอื ตกั เตอื น นใ่ี นโรงศาล นอกโรงศาลทา่ นจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ วั เปน็ ตวั อยา่ ง กเ็ ปน็ หนา้ ทเ่ี หมอื นกนั เพราะวา่ ถา้ หากวา่ ผพู้ พิ ากษาจะอยใู่ นทใี่ ด ก็ตาม ทำใหค้ นเขานับถอื ได้ กท็ ำใหเ้ ปน็ เรยี กวา่ เป็นธงชัย เป็นทางหรือเป็นหลักท่จี ะถอื ว่าเป็นตัวอย่างทีด่ ี ฉะนั้น ถา้ ท่านไดป้ ฏิบัติโดยไม่มีอคตกิ จ็ ะสามารถใหค้ นอื่นท่เี หน็ ปราศจากอคตไิ ปดว้ ย ถ้าปราศจากอคติ ผูท้ ีไ่ ดเ้ หน็ น้ัน ก็จะเหน็ วา่ อะไรดีอะไรควร จะไมข่ ึ้นโรงศาลใหท้ ่านตอ้ งตัดสินความ ฉะนั้น งานของท่านก็มี ๒ อย่าง ปฏิบัติตามท่ีจะต้องเป็นผู้พิพากษาในโรงศาลข้อหนึ่ง และทำตัวเป็น ตัวอย่างท่ีดีแก่ประชาชนทั่วไป ทั้งในโรงศาลและนอกโรงศาล ดังน้ันท่านก็จะได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มที่ของผู้ที่ มีศักดิ์ศรีเป็นผู้พิพากษา แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในสังคมในชีวิตของโลก ท่านต้องมั่นคงอยู่ใน ความดีปราศจากอคติ อย่างท่ีท่านได้ปฏิญาณมาเมื่อตะก้ี ฉะนั้นถ้าท่านทบทวนอยู่เสมอว่าได้พูดอะไร ได้ปฏิญาณตนอย่างไร ประกอบด้วยความรู้ท่ีได้ฝึกอบรม ได้เรียนมา และทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อันจะ เป็นวิธีท่ีมีประโยชน์อย่างย่ิงสำหรับส่วนรวมของชาติบ้านเมืองและก็ของโลก คือหมายความว่าถ้าทำตัวอย่าง เปน็ คนดี โลกกส็ ามารถทจ่ี ะดำรงอยู่ได้ ก็ขอให้ท่านทั้งหลายมีกำลังใจกำลังกายที่จะปฏิบัติตามส่วนที่ปฏิบัติน้ี ในงานที่หนักหน่วงจากการเป็น ผพู้ พิ ากษา จะไดค้ วามพอใจหากปฏบิ ตั ดิ แี ละประสบความเจรญิ ทงั้ งานทจี่ ะทำนนั้ จะเบาลง งา่ ยขนึ้ ทกุ วนั มใิ ชว่ า่ จะหนกั อยตู่ ลอดไป ถา้ ทำดแี ลว้ เปน็ ความเคยชนิ ของเรา ทำดกี เ็ ปน็ การสะสมความสามารถ เปน็ การสะสมกำลงั ในที่สุดท่านก็มีกำลังแข็งแกร่งทั้งทางกายและทางใจท่ีจะปฏิบัติ ก็ขอให้ท่านมีความสำเร็จทุกประการ ประสบความเจริญรงุ่ เรอื งในหนา้ ท่งี านการและความผาสุกทกุ ประการในสว่ นตวั . ๔๕
พระราชดำรัส(๑) ในโอกาสที่คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย(๒) นำคณะอาจารยค์ ณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย เฝ้าฯ ทูลเกลา้ ฯ ถวายเงินโดยเสดจ็ พระราชกศุ ลตามพระราชอธั ยาศยั ณ พระตำหนกั จิตรลดารโหฐาน วันองั คาร ที่ ๔ เมษายน ๒๕๓๒ ขอขอบใจคณะนติ ศิ าสตร์ ทไี่ ดจ้ ดั พมิ พห์ นงั สอื และไดน้ ำรายไดม้ าเพอ่ื สมทบในการกศุ ลซง่ึ กไ็ ดเ้ ปน็ จรงิ ๆ มปี ระโยชน์ การท่ยี กย่องว่ามคี วามรคู้ วามสามารถทางกฎหมายน้นั กไ็ ดเ้ รียนมาบา้ ง ได้คดิ เองมาบ้าง แล้วก็ทีไ่ ดพ้ บ กม็ ปี ญั หาอยมู่ ากเหมอื นกนั เกย่ี วกบั การเรยี นการสอนและการปฏบิ ตั ทิ างดา้ นกฎหมายเพราะวา่ สว่ นมากเรยี นกนั หรือสอนกนั เปน็ เรื่องรายละเอยี ดมาก แล้วกใ็ นดา้ นทว่ั ๆ ไปน้นั อาจมีบกพรอ่ งไปบา้ ง ทพี่ ดู ในทต่ี า่ ง ๆ ส่วนมาก ก็ต้องพูดในด้านความรู้ท่ัว ๆ ไปในด้านกฎหมาย ไม่ใช่เป็นในรายละเอียด ถ้าเช่นน้ีก็อาจดูเหมือนว่ามีความรู้ ทางกฎหมายมาก เพราะวา่ พดู ทกุ ครงั้ กค็ ลมุ ๆ ไป แลว้ ในทนี่ ถ้ี า้ พดู ถงึ กฎหมาย ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งกเ็ ปน็ กฎหมาย สงิ่ ที่ มกี ฎมเี กณฑก์ เ็ รยี กวา่ เปน็ กฎหมาย บคุ คลนนั้ กต็ อ้ งอาศยั กฎเกณฑท์ ถี่ กู ตอ้ งถงึ จะมคี วามสขุ ได้ ถา้ ไมม่ กี ฎเกณฑ์ ทถ่ี กู ต้องทำให้อยู่กันไมผ่ าสกุ เพราะว่ามกี ารเบียดเบยี นกันบา้ ง มีการเขา้ ใจผิดกนั บ้าง ฉะนน้ั จึงตอ้ งมีกฎเกณฑ์ และกฎเกณฑ์สำคัญในประเทศหรือในสังคมก็คือกฎหมายที่ตราขึ้นมาเพ่ือเป็นกฎเกณฑ์ ในการพ่ึงกฎหมาย ทส่ี ำคญั ก็คอื ทีเ่ รียกวา่ คนที่มีศลี มีธรรม คอื ว่าความเรยี บร้อยความเปน็ คนดีนน้ั เป็นสงิ่ สำคญั ฉะนั้นกฎหมายนี้ จะตอ้ งไมล่ มื วา่ เปน็ วชิ าของคนดี เปน็ วชิ าทจี่ ะทำใหส้ งั คมเกดิ ความผาสกุ ฉะนนั้ กจ็ ะตอ้ งศกึ ษาโดยถอื หลกั อนั กวา้ ง นี้เป็นที่ตั้ง มิใช่ไปหารายละเอียด รายละเอียดนั้นก็มีความจำเป็นเหมือนกัน แต่ว่าเขาก็พูดถึงว่าหมอความ กร็ สู้ ึกว่าฟงั ดแู ลว้ เป็นคำท่ีไม่คอ่ ยดนี ัก เพราะว่าเขาชอบทจี่ ะหาชอ่ งโหวใ่ นกฎหมายเพอ่ื ที่จะปฏิบตั ิได้ตามความ หรอื วา่ ตามผลประโยชนข์ องตวั กช็ อบทจี่ ะหาชอ่ งโหวเ่ พอ่ื ทจี่ ะเอาประโยชนเ์ อาเปรยี บคนอน่ื มากกวา่ ใคร ฉะนนั้ กฎหมายน้ีก็จะใชห้ ลักกวา้ งท่ีจะดูวา่ คนเราอยดู่ ว้ ยกันจะต้องมกี ฎเกณฑ์ (๑) เรยี บเรียงขึน้ ตามท่ีได้บนั ทกึ พระสุรเสยี งไว้ (๒) นายประสทิ ธิ์ โฆวไิ ลกูล ๔
ฉะนนั้ จะพดู ทไี่ หนกต็ ามกจ็ ะพยายามยกในขอ้ นข้ี นึ้ มาเปน็ หวั ขอ้ สำคญั เพราะวา่ กฎหมายบางทมี ขี น้ึ แลว้ ก็ยังนึกถึงจุดประสงค์ของกฎหมายคือความผาสุก เคยพูดถึงว่าเช่นกฎหมายที่จะไม่ให้คนเข้าไปในป่าสงวน เพื่อต้องรักษาป่าหรืออุทยานก็ต้องรักษาความเป็นท่ีธรรมชาติ เราเข้าไปในป่าแล้วก็หยิบก้อนหินมาก้อนเดียว ก็ถูกจับได้ตามกฎหมาย ต้องคุ้มครองท้ังต้นไม้ทั้งสัตว์ป่าท่ีมีอยู่แล้ว ถึงคราวก็ต้องไปไล่คนท่ีอยู่ในนั้นคือคนที่ ไปอาศยั อยใู่ นปา่ ถา้ ท่านทั้งหลายเปน็ ผ้ทู ีฝ่ ักใฝ่ในกฎหมายจะตอ้ งถาม เคยถามมาแล้วแล้วก็ไมต่ อบ เคยถามวา่ ถ้าหากว่ารัฐบาลหรือทางราชการกำหนดว่าท่ีตรงนี้ ตรงน้ีเป็นป่าสงวน หรือเป็นอุทยานแห่งชาติ หรือเป็นท่ี คุ้มครองสัตว์ป่าในปีหนึ่ง แต่ว่าบุคคลหรือคนที่อยู่ในน้ันอยู่ก่อนใครเป็นผู้ผิด คือผู้ท่ีอยู่ก่อนในน้ันเขามิได้ บุกรุก เขาอยู่แล้ว จะเป็นรัฐบาลบุกรุกสิทธิของเขาหรือเปล่า อันนี้เป็นตัวอย่างที่จะต้องพยายามที่จะไป พจิ ารณาในปญั หาตา่ งๆ ทจี่ ะมขี น้ึ ซง่ึ ความจรงิ ถา้ อยากจะศกึ ษาจรงิ ๆ กเ็ หน็ ไดว้ า่ กฎหมายผดิ ไมใ่ ชผ่ ดิ กฎหมาย แต่กฎหมายผิด ฉะนั้นคือมีเรื่องอ่ืนเยอะแยะก็ไม่อยากท่ียกอะไรมาก ท่ีจริงเด๋ียวน้ีก็คิดไม่ออกว่าจะ ยกตัวอย่างอ่ืนอย่างไร แต่ตัวอย่างกฎหมายอันนี้ กฎหมายป่าสงวนหรืออุทยานไปตั้งกฎหมายทีหลัง เหตุที่ เขาอยู่ในน้ันจะดำเนินคดีเขาได้หรือไม่ คือถูกต้องที่จะไปดำเนินคดีเขาหรือไม่ อันนี้ก็เป็นคำถาม ถ้าเขาเข้าไป ทหี ลงั ทม่ี กี ฎหมายคมุ้ ครองหรอื กฎหมายปา่ สงวน ผทู้ เี่ ขา้ ไปบกุ รกุ นน้ั กผ็ ดิ แมจ้ ะไมร่ กู้ ฎหมายกผ็ ดิ ตามกฎเกณฑ์ ของกฎหมาย แตถ่ า้ เขาอยกู่ อ่ นกเ็ ปน็ ปญั หา อนั นท้ี า่ นทงั้ หลายกค็ งมเี ครอ่ื งหมายคำถามอยใู่ นหวั ของทา่ นทกุ คน วา่ ใครผดิ ใครถกู อนั นี้กม็ ีเร่ืองหลายอยา่ งทจ่ี ะต้องพจิ ารณา ฉะนนั้ ทที่ า่ นทง้ั หลายมาในวนั นกี้ ไ็ ดฟ้ งั ขอ้ คดิ อกี ขอ้ หนงึ่ นอกเหนอื จากทมี่ อี ยใู่ นหนงั สอื ขอขอบใจทกุ คน ที่ได้เอาใจใส่ในด้านกฎหมายทุกด้าน และโดยเฉพาะที่นำเงินมาบริจาคเพ่ือการกุศล ขอให้ทุกคนมีพลานามัย แขง็ แรงและมีจิตใจเข้มแข็งปฏิบตั ิงานใด ๆ กข็ อให้มีความสำเร็จเรียบรอ้ ยความเจรญิ ร่งุ เรืองทกุ ประการ. ๔
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267