ทำ� ปาลม์ ให้ไดผ้ ลผลติ สงู ดว้ ย NPK การจดั การปยุ๋ ทีถ่ กู ต้องและเหมาะสมเป็นแนวทางในการเพิม่ ผลผลิตเพือ่ นำ� ไปสู่เปา้ หมายของการเกษตรที่ เกดิ ประสทิ ธภิ าพ ดังนัน้ จงึ มแี นวคดิ ผสมปยุ๋ ใชเ้ องเพือ่ ลดต้นทุนการผลติ การปลูกปาล์ม จะต้นใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับการวางแนวปลูกโดยปาล์มน�้ำมันต้องการแสง 7-8 01 ช.ม./วนั การปลกู ตอ้ งปลกู ใหแ้ ถวปาลม์ อยู่ในแนวทศิ เหนอื -ใต้ เพอ่ื ไม่ใหท้ รงพมุ่ ของแตล่ ะตน้ ซอ้ น กนั โดยจะปลกู สลับฟันปลา แบบ 9x9x9 (22 ตนั /ไร่) การเตรยี มพน้ื ท่ี เปน็ สิ่งทจี่ ำ� เปน็ และตอ้ งคำ� นงึ ถงึ เพือ่ สะดวกในการเกบ็ เกีย่ วผลผลติ ปาลม์ นำ้� มนั ปุ๋ยของต้นปาลม์ การใสป่ ุ๋ยปาล์มนำ�้ มนั ในระยะต่างๆ ต้องค�ำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เชน่ ปรมิ าณ 02 ธาตุอาหารท่มี อี ยู่ในดนิ ชนิดของปุ๋ย อัตราการใสป่ ุ๋ย ช่วงเวลาการใส่ปุ๋ย และราคาปุย๋ นอกจากนี้ ยงั ตอ้ งสังเกตวา่ ปาลม์ มีอาการขาดธาตุอาหารหรือไม่ด้วย การผสมปยุ๋ ใชเ้ อง เนอ่ื งจากปยุ๋ สตู รในทอ้ งตลาดมรี าคาแพง จงึ ลดตน้ ทนุ การผลติ โดยใชแ้ มป่ ยุ๋ NPK 03 ผสมตามสดั สว่ นทตี่ ้องการ ส�ำหรบั ปาล์มใหผ้ ลผลติ สูตรปยุ๋ จะมีค่า Ratio เปน็ 2:1:3 สัดส่วนของ K จะมากเนื่องจากในปาลม์ มี K สงู (N : เล้ยี งต้น P: สรา้ งราก K: เล้ียงผล) ช่วงเวลาการใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยช่วงต้นฝน กลางฝนและปลายฝนโดยระหว่างต้นตรงหัวน�้ำเหว่ียง 04 ใสไ่ ด้ 3 ครั้ง ชว่ งแลง้ ใส่ได้ 4 ครัง้ ปาล์มน้ำ� มนั 1 ตันจะไดผ้ ลผลติ ปาล์มประมาณ ปีละ 8 – 9 ทะลายผลผลติ เฉลยี่ 3 ตัน /ไร่ รายไดต้ อ่ เดอื น ประมาณ 200,000 บาท (ปาลม์ 1,760ตน้ ) เทคนิคการ เพม่ิ ผลผลิต อาจจะตอ้ งมีการใช้แคปซลู เพิ่ม เพม่ิ ผลผลติ เทคนิคการใส่ปุย๋ ปาลม์ น้�ำมนั ดูอายขุ องต้น ใสป่ ยุ๋ ตามอัตรา ใส่ตามชว่ งเวลาท่พี ืชตอ้ งการ การผสมปยุ๋ ใชเ้ องเพื่อลดต้นทนุ การผลิต 44
การขาดธาตอุ าหารของปาลม์ นา้� มนั ไนโตรเจน (N) หนา้ ท่ี เพม่ิ พน้ื ท่ีใบ สีใบ อตั ราการเกดิ ใบใหม่และการดูดซมึ ธาตุอาหาร อาการขาด ไนโตรเจนโดยเฉพาะทางใบด้านล่าง (ใบแก่) มกั พบในต้นปาลม์ น้า� มนั ท่ถี ูกน�า้ ทว่ มขังหรอื ปลูกในดินทราย ตน้ื ๆ หรือมหี ญ้าคาข้ึนปกคลุม ฟอสฟอรสั (P) หน้าท่ี ควบคมุ การเจรญิ เตบิ โตการสังเคราะห์แสง การหายใจ การแบ่งเซลล์ การสกุ ของผลและการสรา้ งดอก อาการขาดฟอสฟอรัสปาลม์ น้�ามันจะชะงักการเจริญเตบิ โต ทางใบสนั้ ลงลา� ต้น และทะลายเลก็ ลง โพแทสเซยี ม (K) หนา้ ที่ ชว่ ยในการสงั เคราะหแ์ สงการสร้างโปรตนี การคายน�้าและชว่ ยให้ปาลม์ นา�้ มนั ทนทานต่อความแห้งแลง้ ทา� ให้ทะลายใหญ่และจ�านวนมากขึน้ อาการขาดโพแทสเซียม จะมีใบจุดสสี ้ม พบ ในใบยอ่ ยของทางใบลา่ ง อาการเรมิ่ แรกเปน็ จดุ เหลอื งซดี รปู รา่ งไมแ่ นน่ อน เมอื่ อาการรนุ แรง จดุ เหลอื งจะ เปลยี่ นเป็นสีส้ม และยังพบอาการใบเหลืองกลางทรงพุ่มและอาการแถบใบขาว แมกนีเซยี ม (Mg) หนา้ ทเ่ี กย่ี วข้องกับระบบเอนไซมเ์ ปน็ องค์ประกอบของคลอโรฟิลด์ อาการขาดแมก นิเซยี มพบใบย่อยของทางใบลา่ งมสี ีเขียวซดี ในระยะต่อมาเปลย่ี นเปน็ สเี หลืองส้มและแหง้ ในท่ีสดุ โบรอน (B) หนา้ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ระบบเอนไซม์ การสรา้ งผนงั เซลลแ์ ละโปรตนี และการสรา้ งเมลด็ อาการ ขาดโบรอน ใบมรี ปู รา่ งผดิ ปกติ เชน่ ใบรปู ตะขอ ใบยน่ ใบทยี่ อดสนั้ ปญั หาระหวา่ งการปลกู ปาลม์ การกา� จดั วัชพืช ตดั หญ้าคลุมโคนเพอ่ื รักษาความช้ืนของดนิ ลดการชะล้างของหนา้ ดนิ จากการไหลของนา้� “สวนปาลม์ ” RSPO การเกบ็ เกยี่ วในชว่ งทปี่ าลม์ สดุ เตม็ ทโ่ี ดยรอใหม้ สี สี ม้ สกุ ทงั้ ลกู เพอ่ื ใหม้ าตรฐานนา้� มนั ปาลม์ สงู ถงึ 18 -20 % มีการจัดระบบภายในสวนใหส้ ะอาด ไมร่ ก ไม่เป็นแหล่งท่ีอยูข่ องศัตรพู ชื การปลกู ปาล์มเรยี งเปน็ ระเบียบ จงึ ผา่ นการรบั รองมาตรฐาน RSPO ซง่ึ เปน็ มาตรฐานระดบั โลกเกย่ี วกบั การรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม/การใชแ้ รงงาน ทถ่ี กู ต้อง/การไม่ท�าลายสตั ว์ปา่ /โบราณสถาน เนน้ เชงิ อนรุ ักษ์ธรรมชาติ 45
เอ่ยี มสนู โชติศรลี ือชา ลุงเอย่ี มสนู โชตศิ รลี อื ชา เป็นเกษตรกรต้นแบบ (Smart Farmer) ด้านเศรษฐกิจพอเพียงและการผลิตผักของส�านักงานเกษตรจังหวัด ตราด ลุงเอยี่ มสนู พ้ืนเพเปน็ คนกรุงเทพฯ ที่ยา้ ยมาแสวงโชคในยดุ ทก่ี ารท�า เหมอื งพลอยเฟื่องฟู โดยได้รวบรวมเงนิ มาซ้ือทดี่ ินบริเวณบ้านหนอง มาตร หมู่ที่ 4 ต�าบลช้างทนู อ�าเภอบ่อไร่ จงั หวดั ตราด เรมิ่ แรกปลูก มะนสา� ปะหลงั เป็นหลักแต่ประสบปัญหาทดี่ ินขาดความอดุ มสมบรู ณ์ ท�าให้ขาทุนและเป็นหนี้สิน แต่ด้วยความขยันหมั่นเพียร และการ นอ้ มน�าแนวพระราชดา� ริ “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยหู่ วั มาปฏบิ ตั ิ จงึ ไดเ้ ปลยี่ นไร่มันสา� ปะหลงั เปน็ สวนเกษตร แบบผสมผสาน มกี ารจดั สรรพน้ื ทแี่ หลง่ นา�้ และมกี ารปลกู ผลไมย้ นื ตน้ หลากหลายชนดิ เชน่ ทเุ รียน เงาะ มังคดุ ยางพาราและลองกอง แต่อาชีพท�าสวนผลไม้จะมีรายได้เพียงคร้ังเดียวในหนึ่งปี ลุงเอ่ียม สูนจึงไดป้ ระกอบอาชพี เสรมิ คอื การทา� สวนผัก ซง่ึ ลงุ เอย่ี มสูนเองมี ประสบการณ์ในการในการทา� สวนผกั สมยั ทยี่ งั อยกู่ รงุ เทพฯ จงึ ไดน้ า� ประสบการณ์มาปลูกผักจ�าหน่ายเป็นรายได้อีกทางหน่ึง นอกเหนือ จากการทา� สวน ซง่ึ ทา� ใหล้ งุ เอย่ี มสนู มรี ายไดท้ ง้ั รายวนั จากพชื ผกั ราย ไดร้ ายเดือนจากการท�าสวน ยางพารา และรายไดป้ ีจากสวนผลไม้ 46
เทคนคิ การทำ� สวนผกั ฉบบั ลงุ เอย่ี มสนู ในการผลิตผกั ใหไ้ ดค้ ณุ ภาพและผลผลติ ทดี่ นี ัน้ ลุงเอีย่ มสูนมีเทคนิคดังนี้ การเตรียมดิน 01 การเตรยี มดนิ เปน็ ขนั้ ตอนสำ� คญั ของการปลกู ผกั ซง่ึ ตอ้ งใหค้ วามสำ� คญั เปน็ ลำ� ดบั ตน้ ๆหลกั การเตรยี ม ดนิ คอื การทำ� ใหด้ นิ มชี วี ติ มจี ลุ นิ ทรยี ท์ เ่ี ปน็ ประโยชน์ และมธี าตอุ าหารทเ่ี พยี งพอใหพ้ ชื เจรญิ เตบิ โต นอกจาก น้ัน ต้องฆา่ เช้อื ราในดิน ซงึ่ เปน็ สาเหตุทำ� ให้พชื เสียหายหรือไม่เจรญิ เติบโต โดยมวี ิธีการดังน้ี หลังจากท�ำการผลิกดินและยกแปลงส�ำหรับปลูกผักแล้วให้ท�ำการหว่านปูนขาวและปุ๋ยยูเรียในอัตรา 1: 1 ลงในแปลงท้ิงไวป้ ระมาณ 7 วนั ซงึ่ ส�ำหรับแปลงขนาด 40 ตามรางเมตร (กว้าง 2 เมตร ยาว 20 เมตร) จะใช้ปูนขาวและป๋ยุ ยเู รยี อย่างละ 1 กโิ ลกรัม นอกจากการฆ่าเช้ือในดินแล้ว การเพ่มิ ธาตอุ าหารในดนิ ก็ส�ำคัญ ลุงเอี่ยมสูนเลอื กใช้ปุย๋ คอก เช่น ข้ีไก่ใน การปรับปรงุ ดิน และใช้เศษใบไมภ้ ายในสวนมาหมักเป็นป๋ยุ หมกั เพ่ือเพ่ิมธาตอุ าหารในดินใหแ้ กพ่ ืช โดยปยุ๋ หมกั เศษใบไม้จะรอใหเ้ กดิ การยอ่ ยสลายทีส่ มบูรณก์ องปยุ๋ หมกั เยน็ ก่อนจึงจะนำ� ไปใช้ 02 การปลกู พชื ส�ำหรบั การเลือกชนิดพืชทจ่ี ะปลกู นน้ั ลงุ เอ่ยี มสนู จะเนน้ การวเิ คราะห์ตลาดเปน็ หลัก จะปลกู พชื ท่ีมี ราคาดี และจะหมุนเวียนชนิดพชื ทปี่ ลูก โดยจะไม่ปลกู พชื ชนดิ เดยี วซ�้ำๆ ในแปลงเดยี ว เนอ่ื งจากจะสะสม โรคโดยผักทลี่ งุ เอี่ยมสูนปลูกจดุ มุ่งหมายหลกั ประการแรก คอื การปลูกเพอ่ื บรโิ ภคในครวั เรอื น และการ จ�ำหนา่ ยเป็นประเดน็ รอง แต่พืชผกั กส็ ามารถสร้างรายไดส้ ูงถงึ วนั ละ 300 – 800 บาท วิธกี ารปลูกผกั ของลุงเอี่ยมสูน จะท�ำการหว่านเมล็ดลงในแปลงท่ีได้เตรียมดินไว้ เทคนิคในการหว่านให้ผักกระจายตัว เสมอกนั คอื การนำ� เมลด็ พนั ธ์ุไปผสมทรายกอ่ นหวา่ นชว่ ยใหเ้ มลด็ พนั ธ์ุไมก่ ระจกุ ตวั ละไมเ่ ปลอื งเมลด็ พนั ธ์ุ 03 การใหน้ ำ้� การปลูกผักจึงจ�ำเป็นต้องมีแหล่ง ผักเป็นพืชท่ีต้องการน�้ำในปริมาณท่ีมากพอในการเจริญเติบโต นำ้� ท่เี พยี งพอ ส�ำหรบั เทคนคิ การใหน้ ำ้� ฉบับลงุ เอี่ยมสนู คือ จะเน้นน�้ำในชว่ งเวลาประมาณ 11.00 -12.00 น. ซง่ึ เปน็ ชว่ งท่มี ีอากาศรอ้ น จะชว่ ยใหผ้ กั เจริญเติบโตดี หากอากาศไม่ร้อนจะให้น้�ำประมาณ 3 นาที หาก อากาศรอ้ นมากจะใหน้ �ำ้ ประมาณ 5 นาที โดยจะไม่ให้นำ้� ในตอนเช้าเน่อื งจากเมอื่ อากาศรอ้ น พน้ื ดนิ จะสูญ เสยี ความชน้ื ไปและจะไม่ใหน้ ้ำ� ในชว่ งเยน็ เน่อื งจากความช้ืนสะสมทำ� ให้เกิดเชื้อราไดง้ า่ ย 47
04 การทำ� นำ�้ หมักชีวภาพ ในการปลกู ผกั ฉบบั ลงุ เอยี่ มสนู นอกจากจะเนน้ เตรยี มดนิ โดยใชป้ ยุ๋ คอก และเศษใบไมใ้ นการเพมิ่ ธาตุ อาหารให้แก่ดินแล้ว ยงั มกี ารใชน้ ำ้� หมักชวี ภาพสตู รเฉพาะท่ีไดท้ �ำการปรบั สูตรส�ำหรับฮอร์โมน เพ่อื เร่งการ เจรญิ เตบิ โตของดอก,ผล,ลำ� ตน้ และใบ ซง่ึ นอกจากจะใชก้ บั ผกั ไดด้ แี ลว้ ยงั สามารถใชก้ บั ผลไมท้ วั่ ไปไดอ้ กี ดว้ ย ฮอร์โมนไตรโคซาน ใชก้ ระดองหมึกหรือเปลอื กกงุ้ 1 กโิ ลกรัมผสมกบั นำ้� ตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม และน้ำ� ส้มสายชเู ล็กนอ้ ยห มักท้งิ ไว้ประมาณ 3 เดอื น ก็สามารถน�ำมาใช้ได้ โดยใช้ในอัตรา 1 ลติ ร ตอ่ น�้ำ 200 ลิตร จะชว่ ยใหพ้ ชื สรา้ งเนอื้ ขยายเซลล์ ขวั้ เหน่ยี วและเพิม่ คณุ ภาพของผลผลิต ฮอร์โมนสูตรเรง่ ดอก ไข่ไก่ 1 กโิ ลกรัม พรอ้ มเปลือก นมเปรยี้ ว (ยาคูลย์) 1 ขวด และแปง้ ขา้ วหมาก 1 ลูก น�ำมาป่นั หมักท้งิ ไว้ 7 วัน จึงนำ� มาใชไ้ ด้ โดยใชใ้ นอัตรา 10 ซซี ี ต่อนำ้� 10 ลติ ร จะช่วยเร่งให้เกดิ ตาดอกในไมผ้ ล ฮอรโ์ มนจิบเบอเรลลินหรือน�้ำแม่ นำ้� หมกั หนอ่ กลว้ ยจะใชห้ นอ่ กลว้ ยนำ้� วา้ ทต่ี น้ อวบๆ โดยจะทำ� การตดั กอ่ นพระอาทติ ยข์ น้ึ จำ� นวน 3 กโิ ลกรมั หมกั ดว้ ยนำ้� ตาลทรายแดง 1 กโิ ลกรมั หมกั ไวป้ ระมาณ 7 วนั การใชน้ ำ้� หมกั หนอ่ กลว้ ย 1 ชอ้ นโตะ๊ (ประมาณ 10 CC) ต่อนำ�้ 10 ลิตรฉีดพน่ จะช่วยใหผ้ กั มีการเจรญิ เติบโตท่ีดี ฮอร์โมนน�้ำพอ่ ใช้พชื ผักทมี่ ีสเี หลอื งเช่น มะละกอสกุ กลว้ ยสกุ และฟักทองสกุ 3 กโิ ลกรมั หมักกับน้�ำตาล 1 กิโลกรมั หอ่ ดว้ ยผา้ ขาวหรอื ผา้ มงุ้ หมักไว้ 7 วัน จงึ สามารถนำ� มาใชไ้ ด้ โดยใชใ้ นอตั รา 1 ชอ้ นโตะ๊ (ประมาณ 10 cc) ต่อน�้ำ 10 ลติ ร ฉีดพ่น จะชว่ ยในเรอ่ื งของการเร่งปลกู เรง่ ผลในไมผ้ ล 05 การกำ� จดั ศัตรพู ืช ฉบับลุงเอี่ยมสูนจะเน้นใช้สมุนไพรในการก�ำจัดศัตรูพืชซึ่งศัตรูพืชส่วนใหญ่ของผักที่พบคือด้วงหมัด ผกั และเพลี้ย วธิ กี ารก�ำจัดจะใช้หางไหลหรือ โลด่ ิน้ 1 กโิ ลกรัม ทุบใหย้ างออกผสมนำ�้ 100 ลติ ร ฉีดพน่ หากเป็นพวกหนอนผเี ส้ือ จะใชพ้ ริก ตระไคร้หอม ขา่ มะกรดู และสะเดา นำ� มาตม้ กบั น�ำ้ เปลา่ ในอัตรา 1 : 1 น�ำไปต้มรวมกันจนน้�ำเปล่ยี นสี และรอใหเ้ ยน็ สามารถน�ำไปฉดี พ่นเพ่อื กำ� จดั หนอนไดท้ นั ที สำ� หรบั การกำ� จดั แมลงวนั ทอง จะใชใ้ บกระเพราแดงขยผ้ี สมสารกำ� จดั แมลงจำ� พวกเซฟวนิ คลกุ เคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั และนำ� ไปวางไว้ตามจดุ ต่างๆ เพอ่ื ล่อแมลงวันทอง หากเกษตรกรท่านใด มีปญั หาการผลติ ผัก หรือสนใจแลกเปลี่ยนเรียนรใู้ นเรอ่ื งของการทำ� เกษตรอนิ ทรยี ์ สามารถโทรไปสอบถามลงุ เอย่ี มสนู ไดท้ เี่ บอรโ์ ทร 09 2758 6629 หรอื ไปเยยี่ มชมศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี งของลงุ เอย่ี มสูนไดท้ ีบ่ ้านหนองมาตร หมทู่ ่ี 4 ตำ� บลช้างทนู อ�ำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด 48
องค์ประกอบพืน้ ฐานของการนา� เสนอ บทเรยี น Smart Farmer ตน้ แบบ 1. ชื่อ Smart Farmer ตน้ แบบ นายสวุ ัฒน์ จึงตระกูล อายุ 64 ปี ท่อี ยู่ เลขท่ี 47/2 หมู่ท่ี 7 ตา� บลแสนตุง้ อา� เภอเขาสมงิ จงั หวัดตราด เลขบัตรประจ�าตวั ประชาชน 7 – 2198 – 00051 – 10 – 7 โทรศัพท์มอื ถือ 092 – 8905737 2. Smart Farmer ตน้ แบบ สาขาสกุ ร 3. คา� จ�ากัดความ “เกษตกรตน้ แบบสุกรขนุ แหง่ ต�าบลแสนต้งุ หนมุ่ รับซ้ือยางผ้เู ปล่ยี นอาชีพมาเลย้ี งสกุ ร” 49
4. ประเด็นท่แี สดงถึงความโดดเดน่ และมกี ารปฏิบตั ทิ ด่ี ี 4.1 ความรเู้ ฉพาะสาขา มคี วามเชย่ี วชาญการเลย้ี งสกุ รขนุ ระบบปดิ (Evaporative Cooling System, EVAP) ตง้ั แตป่ ี พ.ศ.2557 มกี ารกา� จดั มลู สกุ รโดยใชบ้ อ่ แกส๊ ชวี ภาพเปน็ การสรา้ งระบบบา� บดั มลู สกุ รในรปู แบบทเ่ี หมาะสม เพอื่ ใหไ้ ดร้ บั ประโยชนจ์ ากระบบไบโอแกส๊ บอ่ หมกั ไบโอแกส๊ ไมเ่ พยี งใหแ้ กส๊ มาเปน็ พลงั งานทดแทน แตย่ งั มกี ากมลู สกุ ร เพื่อใช้ท�าเป็นปุ๋ยปรับปรุงดิน รวมท้ังน้�าท่ีผ่านการบ�าบัดยังสามารถหมุนเวียนมาใช้ในแปลงเกษตรได้ด้วย ในฟาร์มเลีย้ งสุกรขนุ แห่งนี้ แตล่ ะวันจะมมี ลู สุกรเป็นจ�านวนมาก ทา� ให้มีปญั หาเรอ่ื งส่งกลน่ิ เหมน็ และเปน็ แหล่งเพาะพันธ์ุแมลงวัน นอกจากจะสร้างความรา� คาญต่อชมุ ชนแล้วยงั สรา้ งปญั หาใหส้ ง่ิ แวดล้อม โดยใน มูลสุกรนัน้ มีก๊าซมเี ทนและคาร์บอนไดออกไซดผ์ สมอยู่ ซ่ึงก๊าซทัง้ 2 ชนดิ เปน็ อนั ตราย ต่อชนั้ บรรยากาศ แตเ่ มอ่ื มกี ารคดิ คน้ หาวธิ จี ดั การกบั มลู สกุ ร และศกึ ษาการนา� มลู สกุ รมาเปลย่ี นเปน็ พลงั งานทดแทนคอื ไบโอ แกส๊ เพอ่ื ใชผ้ ลติ เปน็ ไฟฟา้ ใชภ้ ายในฟารม์ กช็ ว่ ยลดคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นกระแสไฟฟา้ และลดปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มได้ ดว้ ย ส�าหรับรปู แบบของบ่อหมกั มูลสุกรที่ใช้ผลิตไบโอแกส๊ ที่ฟารม์ แหง่ น้ีเป็นระบบบอ่ หมัก แบบพลาสตกิ คลมุ บ่อ หรือระบบ Cover Lagoon เปน็ บ่อหมกั ปิดสนทิ ไมม่ ปี ญั หากลน่ิ เหมน็ และแมลงวัน ซ่งึ การท�า ลงทุนไมส่ ูง ใช้เวลาสรา้ งไม่นานแค่นา� พลาสติกมาคลมุ บอ่ หมัก โดยบ่อหมกั แบบนี้จะใช้ระยะเวลา ในการ หมักใหเ้ กิดแกส๊ ประมาณ 10-20 วัน จากนั้นแก๊สท่เี กิดขนึ้ มาจะถูกสง่ ผา่ นไปยงั เคร่ืองกา� เนิดไฟฟ้า หรอื Generator เพอ่ื ผลติ เปน็ กระแสไฟฟา้ ไปใชใ้ นฟารม์ ตอ่ ไป และพรอ้ มทจ่ี ะถา่ ยทอดความรใู้ หแ้ กบ่ คุ คลทว่ั ไป 4.2 การจัดการปจั จยั การผลติ 1) มกี ารคดั เลอื กสกุ รพันธ์ุดเี พือ่ น�าเขา้ เล้ยี ง รวมถึงอาหารสุกรจากแหลง่ ผลิตทเ่ี ชื่อถอื ได้ 2) มีการจดั การฟาร์มที่ดีอยา่ งมีระบบ ไดแ้ ก่ 50
มีการทา� วัคซีนป้องกนั โรคสัตวต์ ามโปรแกรม มกี ารสรา้ งระบบควบคมุ ปอ้ งกนั โรคสตั ว์ โดยการสรา้ งโรงสเปรน์ า้� ยาฆา่ เชอ้ื โรค บอ่ นา�้ ยาฆา่ เชอื้ โรค สา� หรบั พาหนะขนสง่ ตา่ งๆ ทงั้ กอ่ นเขา้ ฟารม์ และออกจากฟารม์ ทกุ ครง้ั และมหี อ้ งอาบนา�้ ยาฆา่ เชอ้ื โรค สา� หรบั ผปู้ ระสงคเ์ ข้าออกฟาร์ม ระบบกา� จดั กลน่ิ แบบมา่ นกระจายนา้� ใชล้ ะอองนา้� ทพี่ น่ ออกมาจากหวั สเปรยช์ นดิ ละเอยี ด (หมอก) เป็นตัวดักกล่ินท่ีเป่าออกมาจากพัดลมหลังโรงเรือนปิด โดยระบบก�าจัดกลิ่นแบบม่านกระจายน้�าและแผ่น กรอง มีความสามารถในการก�าจัดกลิน่ ได้ประมาณ 60-80 % 4.3 การผลติ /การเล้ยี ง มีการปรับระบบการเลย้ี งใหเ้ ขา้ สู่ระบบมาตรฐานฟารม์ บนเนือ้ ท่ี 2 ไร่ มโี รงเรอื นสา� หรบั เล้ียงสุกรขนุ จ�านวน 2 โรงเรอื น สามารถเล้ียงสกุ รขนุ ได้โรงเรอื นละ 700 ตัว 51
4.4 การแปรรูป/การเพม่ิ มลู ค่า นา� มลู สุกรมาเปลยี่ นเปน็ พลังงานทดแทนคือไบโอแกส๊ เพอ่ื ใช้ผลิตเป็นไฟฟา้ ใชภ้ ายในฟาร์ม ชว่ ยลดคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นกระแสไฟฟา้ และลดปญั หาสง่ิ แวดลอ้ มไดด้ ว้ ย บอ่ หมกั ไบโอแกส๊ ไมเ่ พยี งใหแ้ กส๊ มาเปน็ พลงั งาน ทดแทน แตย่ งั มกี ากมลู สกุ รเพอื่ ใชท้ า� เปน็ ปยุ๋ ปรบั ปรงุ ดนิ รวมทง้ั นา้� ทผี่ า่ นการบา� บดั ยงั สามารถหมนุ เวยี นมา ใชใ้ นแปลงเกษตรไดด้ ว้ ย กากมลู สกุ รและนา้� ทผ่ี า่ นระบบบา� บดั สว่ นทเ่ี หลอื จากการทา� การเกษตรของฟารม์ ยงั สามารถจา� หน่ายไดอ้ ีกดว้ ย 4.5 การตลาด เปน็ การเลย้ี งสกุ รขนุ แบบประกนั ราคา โดยมบี รษิ ทั เปน็ ผปู้ ระกนั ราคาทา� ใหเ้ กษตรกรมรี ายไดท้ แี่ นน่ อน 4.6 อน่ื ๆ มกี ารพัฒนาระบบฟารม์ ใหไ้ ดม้ าตรฐานและรกั ษามาตรฐานใหย้ ัง่ ยืนตลอดไป และยงั ปรับระบบฟาร์ม ใหเ้ ขา้ ส่ฟู าร์มรักษส์ ง่ิ แวดลอ้ มอกี ดว้ ย 52
5. ขอ้ มูลทั่วไปของ Smart Farmer ต้นแบบ และการตดิ ต่อ ชื่อ Smart Farmer ต้นแบบ นายสุวัฒน์ จงึ ตระกลู อายุ 64 ปี ท่อี ยู่ เลขท่ี 47/2 หมูท่ ี่ 7 ตา� บลแสนต้งุ อา� เภอเขาสมงิ จงั หวดั ตราด เลขบัตรประจา� ตัวประชาชน 3 – 2198 – 00051 – 10 – 7 โทรศพั ทม์ ือถอื 092 – 8905737 6. ข้อมลู ผถู้ อดแบบบทเรยี น 1) นายอวยชัย ผาตินาวนิ ตา� แหน่ง สตั วแพทย์อาวุโส 2) นายมนตรี มงคลสวัสดิ์ ตา� แหน่ง เจ้าพนักงานสตั วบาลชา� นาญงาน 3) นายกศุ ล สไุ ชยชิต ตา� แหนง่ เจ้าพนักงานสตั วบาลชา� นาญงาน 4) นายขวญั ชยั มัณฑนาภรณ์ ต�าแหน่ง เจ้าหนา้ ทีร่ ะบบงานคอมพวิ เตอร์ 5) นายทรงวฒุ ิ ปน้ั สมสกุล ตา� แหน่ง เจา้ พนกั งานสัตวบาล หน่วยงาน ส�านกั งานปศสุ ัตวจ์ ังหวัดตราด โทรศัพท์ 0-3951-941 E-mail : [email protected] 53
โครงการพัฒนา สถานท่จี �ำหน่ายเน้อื สัตว์ผลิตอาหารปลอดภัย เพอ่ื รองรับ AEC หากท่านเคยจับจ่ายซื้อของในตลาดสด หรือร้านคา้ คงเคยเหน็ ข้อความ“เขียง สะอาด” ติดไวท้ ี่แผงจ�ำหนา่ ยเนอื้ สตั ว์ หรอื ร้านจำ� หนา่ ยเนือ้ สัตว์มาบา้ ง และ เม่ือสังเกตให้ดี จะพบว่าเป็นแผงจ�ำหน่ายเนื้อสัตว์ที่มีการรักษาความสะอาด และสุขอนามัยของท้ังสถานท่ีและผู้จ�ำหน่ายเป็นอย่างดี ท�ำให้รู้สึกอยากซ้ือ เนอื้ สตั วจ์ ากแผงหรอื รา้ นนน้ั ๆไปรบั ประทาน…..แผงหรอื รา้ นจำ� หนา่ ยเนอื้ สตั ว์ ทมี่ ปี า้ ยหรอื ใบรบั รอง “เขยี งสะอาด” สามารถมน่ั ใจไดว้ า่ เนอ้ื สตั วส์ ะอาดและ ปลอดภัยอย่างแน่นอน เนื่องจากได้รับการตรวจประเมินด้านความสะอาด ความปลอดปลอดภยั จากกรมปศุสัตว์ 54
โครงการพฒั นาสถานทจ่ี า� หนา่ ยเนอื้ สตั วผ์ ลติ อาหาร ปลอดภัยเพื่อรองรับ AECเป็นโครงการส�านักงานป ศสุ ตั วจ์ งั หวดั ตราดดา� เนินงานมาตง้ั แต่ปี พ.ศ.2553 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาแผงจ�าหน่ายเน้ือสัตว์ ให้ได้มาตรฐานตามท่ีก�าหนด เป็นการรับประกัน ว่าเนื้อสัตว์ที่จ�าหน่ายนั้นผ่านกระบวนการฆ่าที่ได้ มาตรฐาน ผ่านหลักเกณฑ์ด้านสุขอนามัย เพ่ือให้ ได้เนอื้ สัตวท์ ี่สะอาด ปลอดภยั ซึ่งเปน็ การค้มุ ครองผู้ บรโิ ภคใหม้ คี วามปลอดภยั ดา้ นอาหาร (food safety) จากการบรโิ ภคเนื้อสตั ว์ “เขียงสะอาด เนือ้ สะอาด” ได้อย่างไรหากถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเน้ือสัตว์ ท่ีจ�าหน่ายในแผงหรือร้านจ�าหน่ายที่ได้รับใบรับรอง เขียงสะอาดน้ัน สะอาด ปลอดภัยจรงิ หรือไม่ ? ท่าน สามารถมั่นใจว่าเนื้อสัตว์จากเขียงสะอาดน้ันสะอาด และปลอดภยั ด้วยเหตุผลง่ายๆ 4 ขอ้ คอื 01 เนอ้ื สตั วส์ ะอาด มาจากโรงฆา่ ท่ีไดม้ าตรฐานเนอ้ื สตั ว์ท่จี �าหนา่ ยมาจากโรงฆา่ สตั วท์ ี่ไดม้ าตรฐาน ซงึ่ จะปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑต์ า่ งๆ ทก่ี รมปศสุ ตั วก์ า� หนด โดยเฉพาะดา้ นสขุ อนามยั และสง่ิ แวดลอ้ ม เพอื่ ให้ไดเ้ นือ้ สัตวท์ สี่ ะอาดปราศจากการปนเป้ือนของเชือ้ โรคต่างๆ 55
02 แผงจา� หนา่ ยหรอื รา้ นจา� หนา่ ยเนอ้ื สตั วผ์ า่ นการตรวจประเมนิ กวา่ จะไดร้ บั ใบรบั รองเขยี งสะอาดจาก กรมปศุสัตว์นั้น แผงจ�าหน่ายจะต้องมีการปฏิบัติในด้านความสะอาดและสุขอนามัยตามท่ีก�าหนด เช่น ความสะอาดของสถานทวี่ ัสดอุ ปุ กรณ์ การกา� จดั ส่งิ ปฏกิ ลู การควบคุมสัตวพ์ าหะ สุขอนามยั ส่วนบคุ คล ของผจู้ า� หนา่ ยและผา่ นการตรวจประเมนิ จากคณะกรรมการตรวจประเมนิ เขยี งสะอาดของจงั หวดั โดยมผี วู้ า่ ราชการจงั หวดั เปน็ ประธาน ดังนน้ั จึงมนั่ ใจไดว้ า่ เนอื้ สตั วท์ ีจ่ �าหนา่ ยนนั้ สะอาดและปลอดภยั 03 ตรวจติดตามดา้ นความสะอาดสมา�่ เสมอแผงจา� หน่ายเน้อื สตั ว์ “เขียงสะอาด” จะได้รบั การตรวจติด ตามทุกๆ 6 เดอื น เพ่ือก�ากบั ดูแลให้ผปู้ ระกอบการปฏบิ ตั ติ ามหลักเกณฑ์อยา่ งเครง่ ครดั 56
04 ปลอดภัยจากเชื้อก่อโรคเพ่ือเฝ้าระวังการปนเปื้อนของเชื้อก่อโรคซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค เช่น เชื้ออีโคไล เชื้อชัลโมเนลล่า เจ้าหน้าท่ีจากกรมปศุสัตว์จะสุ่มเก็บตัวอย่างเนื้อสัตว์ท่ีจ�าหน่าย ในแผงจ�าหน่ายหรือร้านจ�าหน่ายท่ีได้รับใบรับรองเขียงสะอาด รวมท้ังจากโรงฆ่าสัตว์อย่างสม่�าเสมอ อัน เปน็ การป้องกนั มิใหเ้ กิด การปนเปอ้ื นของเช้อื ก่อโรค ลดการเจบ็ ป่วยจากการบรโิ ภคเนื้อสัตว์ท่ีไม่ปลอดภัย ทม่ี า : สาํ นักงาน ปศสุ ัตวจังหวดั ตราด โทรศพั ท 039-511-941 โทรสาร 039-511-941#17 E-mail : [email protected] 57
การแปรรปู กุ้งแหง้ (กลุม่ ป้าแจว๋ ) ขั้นตอน ขน้ั ตอนที่ 1 แยกสงิ่ แปลกปลอม เชน่ เปลอื กหอย เปลอื กปู เศษใบไม้ ออกจากวตั ถดุ บิ ลา้ งกงุ้ ดว้ ยนำ�้ สะอาด เกบ็ เศษหนิ เศษหญา้ หรอื ดนิ ออกใหห้ มดจนเหลอื แตก่ งุ้ ตวั ใสๆ จากนนั้ นำ� กงุ้ มาใสต่ ะแกรงหรอื ภาชนะทจี่ ดั เตรยี มและพกั เอาไวก้ อ่ น น�ำน้�ำท่เี ตรียมไวม้ าตม้ บนเตาไฟ ใสเ่ กลอื ลงไปในนำ�้ เดอื ด ขน้ั ตอนที่ 2 จากน้ันใสต่ ะกร้ากงุ้ ลงไปในรางต้มกงุ้ ตม้ จนสุกประมาณ 15 นาที 58
ขนั้ ตอนที่ 3 นำ� ไปตากแดดสัก 2 แดดแล้วจงึ นำ� มาพักไว้กอ่ น จากนน้ั เอาเปลอื กและกรีของกงุ้ ท่พี กั ไว้ ออก โดยการนำ� กุ้งเทใสผ่ า้ ขาวแล้วหอ่ กุ้งโดยจบั ชายผ้าไวล้ กั ษณะเหมือนลกู ประคบ แลว้ น�ำไปฟาดเพือ่ กระเทาะเปลอื กและกรีกุง้ ออก นำ� กุ้งที่ฟาดแล้วมาร่อนเอาเปลอื กออกให้หมด ขั้นตอนที่ 4 นำ� กุง้ ท่แี ยกเปลือกออกแล้วมาบรรจุในถงุ พลาสติกทแี่ หง้ และน�ำไปเก็บในที่ไมเ่ ปียกชนื้ โดย ปิดฝาให้มิดชิด 59
กิจกรรม พัฒนาคณุ ภาพสนิ คา้ เกษตร (ทเุ รยี น เงาะ และมงั คดุ ) จงั หวดั ตราดมพี นื้ ทที่ ำ� การเกษตรทง้ั ทเ่ี หมาะสมและไมเ่ หมาะสมในการปลกู พชื ชนดิ ตา่ งๆ ตามประกาศ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณซ์ ง่ึ เปน็ พชื ทท่ี ำ� กนั มาแตด่ งั้ เดมิ โดยไมไ่ ดค้ ำ� นงึ ถงึ เรอื่ งดนิ กบั ชนดิ พชื อาศยั ความสบื ทอดกนั ตอ่ ๆมาจนเปน็ ความเคยชนิ และยากทจ่ี ะเปลยี่ นแปลง ดงั นน้ั จงึ ควรมกี ารพฒั นา สง่ เสรมิ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการผลติ ใหก้ บั เกษตรกรใหม้ ผี ลผลติ ตน้ นำ�้ ทมี่ คี ณุ ภาพ ไดม้ าตรฐาน ตรงตามความตอ้ งการของ ตลาด และพฒั นาใหเ้ กษตรกรไดเ้ รยี นรวู้ ธิ กี ารผลติ การตลาด และการเพมิ่ มลู คา่ ในผลผลติ ของตนเองและ ชุมชนใหส้ ามารถแขง่ ขันกับประเทศเพ่ือนบ้านได้ กลุ่มส่งเสรมิ และพฒั นาการผลติ ส�ำนักงานเกษตรจังหวดั ตราด ขออนมุ ตั ิดำ� เนนิ งานโครงการบรู ณา การการผลติ สินค้าเกษตรปลอดภยั ปี 2558 กิจกรรมที่ 1 เพม่ิ ประสทิ ธิภาพการผลติ สินคา้ จังหวัดตราด กจิ กรรมย่อยที่ 4, 5 และ 6 พฒั นาสินคา้ เกษตร (ทุเรียน เงาะ และมงั คดุ ) ซึ่งเปน็ งบประมาณท่ีไดร้ ับการ สนบั สนนุ จากงบประมาณตามแผนปฏบิ ตั ริ าชการประจำ� ปี 2558 (งบพฒั นาจงั หวดั ตราด) เพอื่ ใชด้ ำ� เนนิ การ ฝึกอบรมถา่ ยทอดเทคโนโลยีการผลิตและศกึ ษาดูงานแปลงตน้ แบบใหแ้ ก่เกษตรกร จำ� นวน 3 กลมุ่ ๆละ 20 ราย รวม 60 ราย (ชนดิ พืชละ 1 กลุม่ ) สนับสนนุ ปจั จัยการผลิตและป้ายแปลงใหแ้ กเ่ กษตรกร วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ 1. เพื่อสง่ เสริมใหเ้ กษตรกรและผปู้ ระกอบการเข้าสู่ระบบมาตรฐานรบั รอง 2. เพ่อื ใหค้ วามรู้แก่เกษตรกรและผูป้ ระกอบการในการเขา้ สปู่ ระชาคมเศรษฐกิจอาเซยี่ น 3. พฒั นาระบบตรวจสอบยอ้ นกลบั 4. พัฒนาผูป้ ระกอบการสินคา้ และสถานท่ีจำ� หน่ายพืชอาหาร 60
ผลลัพธ์ : เกษตรกรมีการนำ� ความรทู้ ่ีได้นำ� ไปปฏบิ ัติในแปลงของตน้ เอง เพอ่ื ให้เกดิ การพัฒนาคณุ ภาพของ ผลผลติ ใหไ้ ด้มาตรฐาน รวมถงึ ได้รับการรับรองมาตรฐานตามระบบการจดั การคณุ ภาพการปฏิบัตทิ างการ เกษตรที่ดสี ำ� หรบั พชื (GAP พชื ) กิจกรรมส่งเสริมการตลาดผลไมป้ ลอดภัยและจุดจำ� หนา่ ยสนิ คา้ ตามฤดกู าล กจิ กรรมการศกึ ษาดงู าน 61
แปรรปู กุ้งแห้ง(กลมุ่ แหลมทองหลาง) ขน้ั ตอนการแปรรปู กุ้งแห้ง(กลุ่มแหลมทองหลาง) ข้ันตอนท่ี 1 แยกส่ิงแปลกปลอม เช่น เปลอื กหอย เปลือกปู เศษใบไม้ ออกจากวัตถดุ บิ ล้างกุ้งด้วย น�้ำสะอาด เกบ็ เศษหนิ เศษหญ้า หรอื ดินออกให้หมดจนเหลือแต่ก้งุ ตวั ใสๆ จากนั้นนำ� กุ้งมาใส่ตะแกรง หรือภาชนะท่ีจัดเตรียมและพกั เอาไว้ก่อน น�ำน�้ำทเี่ ตรยี มไว้มาต้มบนเตาไฟ ใสเ่ กลอื ลงไปในนำ�้ เดือด ข้นั ตอนท่ี 2 จากนน้ั ใส่กุ้งลงไปในหม้อนำ้� เกลือบนเตาไฟ ต้มจนสกุ แล้วยกลง เทก้งุ ท่ตี ม้ น�้ำเกลือแล้ว ลงในตะแกรงใชท้ ัพพเี กลีย่ กุ้งใหท้ วั่ ตะแกรงเพ่ือไม่ใหก้ ้งุ หนาแน่นตรงที่ใดที่หนงึ่ ขน้ั ตอนท่ี 3 นำ� กงุ้ ทแี่ ยกเปลอื กออกแลว้ มาบรรจใุ นถงุ พลาสตกิ ทีแ่ หง้ และนำ� ไปเกบ็ ในที่ไมเ่ ปยี กชน้ื โดยปิดฝาให้มิดชดิ เตรียมจำ� หน่าย 62
ขนั้ ตอนที่ 4 นำ� ไปตากแดดสัก 2 แดดแลว้ จึงนำ� มาพกั ไว้ก่อน จากนนั้ เอาเปลือกและกรขี องกุ้ง ทพ่ี กั ไว้ออก โดยการน�ำกุ้งเทใสเ่ ครอื่ งกะเทาะเปลอื ก เพื่อกระเทาะเปลือกและกรีกุ้งออก จากน้นั น�ำมา รอ่ นเอาเปลือกออกใหห้ มด ข้ันตอนท่ี 5 น�ำกุง้ ที่แยกเปลอื กออกแลว้ มาบรรจุในถงุ พลาสติกทีแ่ ห้ง และนำ� ไปเก็บในท่ีไมเ่ ปียก ชืน้ โดยปิดฝาให้มิดชดิ เตรียมจ�ำหน่าย 63
การจดั ทำ� ตรารบั รองสินคา้ คณุ ภาพสนิ ค้าจังหวดั ตราด ตามที่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกได้อนุมัติให้จังหวัดจันทบุรีด�ำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการ ผลิตสินคา้ เกษตรคณุ ภาพช้ันดีกลมุ่ จงั หวดั ภาคตะวนั ออก ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557 งบประมาณ 13,000,000 บาท ซง่ึ ในส่วนของจงั หวดั ตราดได้รบั อนุมัติงบประมาณให้ด�ำเนนิ โครงการดังกล่าว จ�ำนวน 3,978,675 บาท และจงั หวดั ตราดโดยส�ำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวดั ตราด ได้ด�ำเนนิ กิจกรรมจ้างจัด ท�ำตรารบั รองสินค้าคณุ ภาพสนิ คา้ จังหวดั ตราด ซึ่งไดด้ �ำเนนิ กจิ กรรมดงั กลา่ วเสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ทง้ั น้ี กลมุ่ จงั หวดั มศี กั ยภาพหลายดา้ น ทงั้ ดา้ นการเกษตร การบรกิ าร ดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว การผลติ สนิ คา้ จาก ภูมปิ ัญญา ตลอดจนมพี ื้นฐานทางดา้ นวัฒนธรรมที่หลากหลาย การพฒั นาเพื่อเพ่มิ มลู คา่ สินค้าและบรกิ าร ของจงั หวดั การเพมิ่ ขีดความสามารถในการแข่งขนั การจัดทำ� ตราสญั ลกั ษณ์ผลติ ภณั ฑ์กล่มุ จังหวัดเพอ่ื ใช้ ในการรบั รองสนิ คา้ และบรกิ ารที่ไดม้ าตรฐานจะเปน็ เครอ่ื งมอื หนงึ่ ในการเขา้ ถงึ ตลาด ตลอดจนรองรบั การ แข่งขนั ที่ประเทศไทยจะเข้าสปู่ ระชาคมอาเซยี นได้ การมตี รารบั รองผลติ ภณั ฑก์ ลมุ่ จงั หวดั ทเี่ ปน็ สญั ลกั ษณ์ จะเปน็ เครอ่ื งมอื ในการรบั ประกนั คณุ ภาพของ สนิ ค้าและบรกิ าร เพือ่ สร้างความน่าเชือ่ ถือให้แกส่ นิ ค้าและบริการของกลุ่มจังหวดั อันเป็นกลยทุ ธ์สำ� คัญท่ี จะท�ำให้สินค้าและบริการของจังหวัดเปน็ ที่ร้จู ัก สามารถทำ� การตลาดได้กว้างขวางยิ่งขึน้ ไมว่ ่าจะเป็นสนิ คา้ ข้ึนช่ือของกลุ่มจังหวัด ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์หัตถกรรม รวมท้ังภาคการบริการต่างๆ ได้แก่ ร้านอาหาร โรงแรม การบรกิ ารท่องเที่ยว ฯลฯ เปน็ ส่ิงทสี่ ะท้อนความเปน็ อตั ลักษณข์ องกลุ่มจังหวดั ทัง้ ดา้ นวัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญา ประวตั ิศาสตร์ วิถชี วี ติ ฯลฯ 64
วตั ถุประสงค์ 1. จัดท�ำตราสัญลักษณ์ เพื่อใช้เป็นเคร่ืองหมายรับรองสินค้าและบริการท่ีได้มาตรฐานคุณภาพของกลุ่ม จังหวัด 2. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ตรารับรองสินค้าและบริการของกลุ่มจังหวัด มาใช้เป็นกลยุทธ์ (Brand Marketing) 3. เพ่ือสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการกลุ่มจังหวัดให้เป็นที่รู้จัก โดยใช้ตราสัญลักษณ์ เป็นสื่อ ประชาสมั พนั ธ์เพอ่ื กระตนุ้ /เชิญชวนให้ผปู้ ระกอบการมคี วามมงุ่ มั่นในการผลิต/การบรกิ ารของตน ให้ แขง่ ขนั กับสินค้าและบรกิ ารอ่นื ๆ ทง้ั ภายในประเทศและตา่ งประเทศ 4. เพอ่ื เปน็ การสง่ เสรมิ การตลาดสนิ คา้ /บรกิ ารของกลมุ่ จงั หวดั เพม่ิ มลู คา่ การจำ� หนา่ ย และขยายการตลาด สนิ ค้าและบรกิ ารของกล่มุ จังหวดั 5. เพอื่ สร้างความเชือ่ มน่ั ใหแ้ กผ่ ู้บริโภค 6. เพอ่ื เพ่มิ ศกั ยภาพในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการประกอบการ 7. สง่ เสริมใหม้ กี ารใช้วัตถดุ บิ และผลติ ภณั ฑใ์ นจงั หวดั เพอ่ื สร้างนวตั กรรมเชงิ สร้างสรรค์ กลมุ่ เป้าหมายที่ไดร้ ับประโยชน์ 1. ผูป้ ระกอบการ SMEs / หน่งึ ตำ� บลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) / วิสาหกจิ ชมุ ชน และสมาชิกในกล่มุ จงั หวัด 2. เกษตรกร 3. สถาบันการศึกษา 4. ประชาชนผู้สนใจท่วั ไป 5. หน่วยงานภาครฐั และเอกชน เชน่ สภาอุตสาหกรรม ส่วนราชการทุกสว่ น ชมรมธนาคาร สมาคม มูลนิธิ ในกลุ่มจังหวดั 65
ค�ำอธบิ ายความหมายของสัญลกั ษณ์มาตรฐานสนิ คา้ เกษตรอินทรีย์ คือการท�ำการเกษตรด้วยหลักธรรมชาติ บนพ้ืนท่ีการเกษตรท่ีไม่มีสารพิษตกค้างและ หลีกเล่ียงจากการปนเปื้อนของสารเคมีทางดิน ทางนำ้� และทางอากาศเพ่ือส่งเสริมความอุดสมสมบูรณ์ ของดนิ ความหลากหลายทางชวี ภาพ ในระบบนเิ วศนแ์ ละฟน้ื ฟสู ง่ิ แวดลอ้ มใหก้ ลบั คนื สสู่ มดลุ ธรรมชาตโิ ดย ไม่ใชส้ ารเคมีสังเคราะห์หรือส่ิงท่ีได้มาจากการตัดต่อพันธกุ รรม ใชป้ จั จัยการผลิตท่ีมีแผนการจัดการอย่าง เปน็ ระบบในการผลติ ภายใตม้ าตรฐานการผลติ เกษตรอนิ ทรยี ใ์ หไ้ ดผ้ ผลติ สงู อดุ มดว้ ยคณุ คา่ ทางอาหารและ ปลอดสารพษิ โดยมตี น้ ทนุ การผลติ ตำ�่ เพอื่ คณุ ภาพชวี ติ และเศรษฐกจิ พอเพยี ง แกม่ วลมนษุ ยชาติ และสรรพ ชวี ติ (ท่มี า: www.organic.moc.go.th) GAP เป็นค�ำมาจากภาษาอังกฤษว่า Good Agricultural Practice แปลวา่ การปฏิบตั ิทางการเกษตรที่ดี เปน็ ระบบที่สร้างผลผลติ ตรงตามมาตรฐานคณุ ภาพ หรือได้คณุ ภาพตามท่ตี ลาดต้องการโดยปฏบิ ัติตามคำ� แนะน�ำที่ถกู ต้อง ต้งั แต่การเพาะปลูกจนถึงการเก็บเก่ยี วการจัดการหลังการเก็บเกย่ี ว การบรรจหุ บี หอ่ และ การขนส่งเพ่ือจ�ำหน่าย ซ่ึงจะท�ำให้ไม่มีปัญหาเก่ียวกับการตกค้างของสารป้องกันก�ำจัดศัตรูพืช ตลอดจน เชื้อโรคต่างๆ จึงปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และได้ผลผลิตท่ีปลอดภัยส�ำหรับผู้บริโภค ทั้งสามารถตรวจ สอบทบทวนได้ (ทีม่ า : http://gap.doae.go.th/toon/page1.html) Q Mark มาจากคำ� วา่ Quality หมายถงึ เครอ่ื งหมายรบั รองมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร ที่หนว่ ย งานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้ในการให้การรับรอง ระบบหรือสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อแสดง ถึงความมีคณุ ภาพตามมาตรฐาน และมีความปลอดภัย (ทม่ี า : http://www.fisheries.go.th/quality/ qmark/Qmark.htm) Safety Level คอื เป็นมาตรฐานการเพาะเลย้ี งสตั ว์นำ�้ จืด ท่ีไมผ่ ่านบางเกณฑ์ ถอื เป็นมาตรฐานความ ปลอดภยั ข้นั ตน้ ของสตั วน์ �้ำ มผช. คือ มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ชมุ ชน เป็นข้อกาํ หนดด้านคณุ ภาพทเ่ี หมาะสมกับผลติ ภัณฑช์ ุมชนให้เป็นที่ เช่อื ถือ เป็นทีย่ อมรบั และสร้างความมน่ั ใจใหก้ ับผบู้ ริโภคในการเลอื กซือ้ ผลติ ภัณฑ์ โดยมงุ่ เน้นใหเ้ กิดการ พฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื เพอื่ ยกระดบั คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานทกี่ าํ หนด และสอดคลอ้ ง กับนโยบาย OTOP (ทม่ี า : http://www.dip.go.th/) OTOP ย่อมาจาก One Tambon One Product “หน่งึ ต�ำบลหนงึ่ ผลิตภณั ฑ์” หรือเรียกชอื่ ย่อว่า โอทอป (OTOP) เปน็ อีกหนึง่ โครงการทกี่ อ่ ตง้ั ขึ้นเพ่ือกระตนุ้ ธรุ กจิ ประกอบการที่เกยี่ วขอ้ งในท้องถนิ่ 66
ซึ่งโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายท่ีจะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ท่ีมีลักษณะเฉพาะตัว ผลิตและจ�ำหน่ายในท้องถิ่น ในแต่ละต�ำบล โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงการหนึ่งหมู่บ้านหน่ึงผลิตภัณฑ์ (OVOP) ท่ีประสบ ความส�ำเร็จของประเทศญี่ปุ่น โครงการโอทอป จะเป็นการกระตุ้นให้ชุมชนและหมู่บ้านพัฒนาคุณภาพ ผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถิน่ ประกอบกับการตลาด โดยเลือกผลิตภัณฑ์ทโ่ี ดดเด่นมา 1 ชิ้นจากแต่ละต�ำบลมาประทับ ตราวา่ “ผลิตภณั ฑ์โอทอป” และจัดหาเวทีทง้ั ในประเทศและระหว่างประเทศเพอ่ื ท่จี ะประชาสมั พันธส์ นิ คา้ เหล่านี้ ผลิตภัณฑ์โอทอปได้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง ซึ่งได้รวมไปถึงงานหัตถกรรม ผ้าทอ ผา้ ไหม เครอ่ื งป้นั ดินเผา เครอื่ งประดบั แฟชน่ั ของใช้ในครวั เรอื น อาหาร สมุนไพร และเครื่องดื่ม (ที่มาhttp://www.otoptoday.com) GMP ย่อมาจาก Good Manufacturing Practice คอื การปฏิบัตทิ ่ีดีในการผลิตอาหารเป็นระบบประกนั คุณภาพที่มีการปฏิบัติในการผลิตอาหาร เพ่ือให้เกิดความปลอดภัย และม่ันใจต่อการบริโภค หลักของ GMP จึงครอบคลุม ตั้งแต่สถานทีต่ ้งั ของสถานประกอบการ โครงสรา้ งอาคาร ระบบการผลิตท่ดี ี มคี วาม ปลอดภัย และมีคุณภาพได้มาตรฐานทุกข้ันตอน นับตั้งแต่เร่ิมต้นวางแผนการผลิต ระบบควบคุมตั้งแต่ วตั ถดุ บิ ระหวา่ งการผลติ ผลติ ภณั ฑส์ ำ� เรจ็ รปู การจดั เกบ็ การควบคมุ คณุ ภาพ และการขนสง่ จนถงึ ผบู้ รโิ ภค (ท่มี า : http://www.foodnetworksolution.com) ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ สอบถามขอ้ คดิ เหน็ เกยี่ วกบั ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ในดา้ นตา่ งๆ โดยรวม รวมทงั้ ขอ้ เสนอ แนะต่อการจัดตลาดเกษตรกรในครง้ั ตอ่ ไป 67
โครงการตลาดเกษตรกร เหตผุ ลความจำ� เปน็ เนอื่ งจากเกษตรกรทผี่ ลติ สนิ คา้ สขุ อนามยั มคี ณุ ภาพและไดม้ าตรฐานเพอ่ื ตอบสนองตอ่ ผบู้ รโิ ภค โดยมีกระบวนการผลิตต่างๆ เช่น การผลิตการเกษตรทดี่ ี GAP การแปรรปู ที่ดี GMP สินค้า Q สนิ ค้าที่ ปลอดภยั เกษตรอนิ ทรยี ์ และผลติ ภัณฑ์ชวี ภาพ โดยเฉพาะในชว่ งฤดูกาลผลผลติ ออกสตู่ ลาดเป็นจ�ำนวน มาก เกษตรกรไม่มีแหล่งระบายผลผลิต ไม่มีสถานท่ีพบปะกันโดยตรงระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตกับผู้ซ้ือ สินคา้ ต้องผ่านพ่อคา้ คนกลาง ไม่มอี �ำนาจตอ่ รองในเรือ่ งราคา ทำ� ให้ผลผลติ เสียหาย ซ่ึงเกษตรกรตอ้ งรีบ ระบายผลผลิตภายในระยะเวลาจำ� กัด ส่งผลให้ราคาตกตำ�่ ประสบภาวะขาดทุน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมการผลิตให้แก่เกษตรกร ได้เห็นถึง ความเดือดร้อนของเกษตรกรในช่วงดังกล่าว ดังนั้น การจัดหาสถานที่เพื่อให้มีสถานท่ีในการพบปะกัน ระหวา่ งเกษตรกรผผู้ ลติ กบั ผซู้ อื้ สนิ คา้ จงึ เปน็ สง่ิ สำ� คญั ทจ่ี ะชว่ ยเหลอื เพม่ิ ทางเลอื กในการระบายสนิ คา้ ใหแ้ ก่ เกษตรกร ซึง่ เป็นการเพม่ิ ขึน้ ของรายได้ของเกษตรกรในทอ้ งถน่ิ ลดการสญู เสยี ของผลผลิตได้ โดยเฉพาะ เกษตรกรรายย่อยที่มีผลผลิตต่อรายไม่มากและไม่สามารถเข้าถึงตลาดได้ด้วยตนเอง ซ่ึงต้องขายผลผลิต ผ่านพ่อค้าคนกลางที่มคี วามสัมพนั ธ์ไมแ่ นน่ อนกับเกษตรกรผู้ผลติ ความเสยี่ งก็จะเกดิ ขน้ึ กบั เกษตรกร ดัง นนั้ การมตี ลาดใหก้ บั เกษตรกรรายยอ่ ยกจ็ ะเปน็ การชว่ ยเกษตรกรไม่ใหป้ ระสบกบั ภาวะขาดทนุ ไดท้ างหนงึ่ เปน็ การสรา้ งโอกาสใหเ้ กษตรกรมชี อ่ งทางการตลาดเปน็ ของตนเอง และเปน็ การลดตน้ ทนุ ใหแ้ กเ่ กษตรกร ด้วย ไมต่ อ้ งรวบรวมผลผลติ ซงึ่ มีจำ� นวนนอ้ ยไปหาตลาดท่มี รี ะยะทางไกลจากแหล่งผลติ จนท�ำให้ค่าใช้จ่าย สงู ขึน้ ไมค่ มุ้ กับต้นทุน 68
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีหน่วยงานที่ตั้งในพ้ืนท่ีจังหวัดท้ังส่วนภูมิภาคและส่วนกลางใน ภูมิภาคต้องท�ำหน้าที่ให้เกษตรกรผู้ผลิตได้พบผู้บริโภคโดยต้องท�ำการบูรณาการร่วมกันจัดตลาดจ�ำหน่าย สินค้าเกษตรที่อยู่ในบริเวณเมืองเขตชุมชนที่เหมาะสม เป็นการขายตรงจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภคต่อเนื่อง ตลอดทงั้ ปี โดยในสว่ นภมู ภิ าคสำ� นกั งานเกษตรและสหกรณจ์ งั หวดั สำ� นกั งานเกษตรจงั หวดั และสำ� นกั งาน สหกรณจ์ งั หวดั จะตอ้ งเปน็ หนว่ ยงานหลกั รว่ มกบั หนว่ ยงานในสงั กดั กระทรวงเกษตรและสหกรณแ์ ละหนว่ ย งานอน่ื ทเี่ กย่ี วขอ้ งในการหาสถานทเ่ี พอื่ จดั ตลาดจำ� หนา่ ยสนิ คา้ เกษตรโดยตอ้ งเปน็ ในลกั ษณะดำ� เนนิ การตอ่ เน่อื งในระยะยาวเพื่อให้สามารถด�ำเนนิ การด้วยตนเองได้ต่อไป 69
แนวทางการดำ� เนนิ งานตลาดเกษตรกร เพื่อเป็นการเพิ่มช่องการตลาดส�ำหรับเกษตรกร ท่ีผลิตสินค้าคุณภาพมีแหล่งขายตรง(Direct Sales) และเปน็ แหลง่ ซอ้ื สนิ คา้ คณุ ภาพสำ� หรบั ผบู้ รโิ ภค เกษตรกรคอื บคุ คลเปา้ หมายของโครงการทต่ี อ้ งการ ใหน้ ำ� ผลผลติ ทางดา้ นการเกษตรทมี่ คี ณุ ภาพ ไดม้ าตรฐานในพนื้ ทมี่ าจำ� หนา่ ยแกผ่ บู้ รโิ ภค ดงั นนั้ เพอื่ ใหก้ าร ด�ำเนินงานในระดับจังหวัดเป็นไปในแนวทางเดียวกันจึงก�ำหนดการด�ำเนินงานเป็น 2 ช่วง คือ 1) การ เตรยี มการกอ่ นเปดิ ตลาด และ 2) การดำ� เนินงานจดั ตลาดโดยมแี นวทางการดำ� เนนิ งานดังนี้ การเตรยี มการกอ่ นเปดิ ตลาด การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการโครงการตลาดเกษตรกร ระดบั จงั หวดั ส�ำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดในฐานะเลขานุการ เสนอค�ำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ โครงการตลาดเกษตรกรระดบั จงั หวดั โดยมผี ูว้ ่าราชการจังหวดั หรอื รองผู้วา่ ราชการจังหวัดเป็นประธาน และเกษตรและสหกรณจ์ งั หวดั เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร เพอื่ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ลงนามในคำ� สง่ั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการฯ ระดบั จงั หวดั เพอ่ื กำ� หนดแนวทางการพฒั นาวธิ กี ารดำ� เนนิ งานจดั ตงั้ ตลาด และสนบั สนนุ การด�ำเนนิ งานตามวัตถปุ ระสงคท์ ่ตี งั้ ไว้ การประชมุ คณะกรรมการฯ จัดประชุมคณะกรรมการโครงการตลาดเกษตรกร ระดบั จงั หวดั ซึง่ มผี วู้ า่ ราชการจังหวัด หรือ รองผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เปน็ ประธาน เพอ่ื พจิ ารณา สถานท่ีในการจดั ตลาดเกษตรกร คณุ สมบตั ขิ องสนิ คา้ ที่ นำ� มาจำ� หนา่ ย คณุ สมบตั ขิ องผนู้ ำ� ผลผลติ มาจำ� หนา่ ย ระยะเวลาในการดำ� เนนิ งาน กลไกการบรหิ ารจดั การ การประชาสัมพนั ธ์โครงการ และการเปดิ ตวั โครงการ 70
สถานทใี่ นการจัดตลาดเกษตรกร 1) การเตรียมสถานที่ (โครงสรา้ งพ้นื ฐาน) - สถานที่สามารถจอดรถไดง้ า่ ย - จุดเดน่ ของสถานทต่ี อ้ งเปน็ ทร่ี ้จู ักของบคุ คลทั่วไป - เป็นสถานท่ที ่ีไม่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ (เช่น อุทกภยั ) - เปน็ ทางหลกั หรือทางประจ�ำทีต่ ้องสญั จรผ่าน (ไม่ใชท่ างลัด) - เสน้ ทางการเดินทางจะต้องไมม่ ีการซ่อมแซมหรือบรู ณาการทาง (เช่นท�ำถนน) - ความสามารถในการน�ำผลผลิตมาจ�ำหน่ายของเกษตรกรและการจับจ่ายซ้ือของ ผบู้ รโิ ภค - มกี ารคมนาคม สะดวกในการเดนิ ทางเขา้ ถึง 2) ท�ำเลท่ีตั้ง - เปน็ สถานทชี่ ุมชนอยู่ในเมือง (ข้นึ อยกู่ บั พืน้ ทแี่ ตล่ ะจังหวดั ) - สถานทสี่ ะดดุ ตาในการสญั จรผ่าน - อาจจะเป็นสถานท่ีที่เคยจดั ทำ� ลกั ษณะนี้อย่แู ลว้ 3) การเตรยี มพื้นที่ - จัดเตรียมพ้ืนที่ขายเช่น พ้ืนท่ีอาคารให้เหมาะสมกับจ�ำนวนเกษตรกรท่ีน�ำผลผลิต มาจ�ำหนา่ ย - การจดั โซนพน้ื ทคี่ วรมกี ารแบง่ โซนสนิ คา้ เพอ่ื ความเปน็ ระเบยี บตามบรบิ ทของสนิ คา้ แต่ละพืน้ ทีแ่ ยกตามชัน้ คุณภาพเชน่ (1) สนิ คา้ เกษตรอินทรีย์ (Organic) (2) สินค้าเกษตรในระดับ“GAP”, “Q” หรือ Safety Level (3) สินค้าจากเกษตรกรท่ัวไปที่มีคุณภาพหรือผลิตภัณฑ์การเกษตร ตามตวั อยา่ ง (ภาคผนวก ข.) ทงั้ นี้ควรมีจุดตรวจสอบสารตกคา้ งของ สินคา้ ทตี่ ลาดเกษตรกรทุกครง้ั - เตรียมพ้นื ทจ่ี อดรถ (ถา้ มี) สำ� หรับเกษตรกรที่น�ำผลผลติ มาจำ� หนา่ ยและผบู้ ริโภค 71
4) การจดั เตรียมสถานท่ีและอปุ กรณ์ - ถา้ ไม่ไดอ้ ยู่ในตวั อาคาร ควรเตรยี มสถานทพ่ี รอ้ มหลงั คาปอ้ งกนั เปน็ ทขี่ ายเชน่ เตน็ ท์ หลงั คาในรูปแบบต่างๆ - เตรยี มโตะ๊ ขายหรอื อปุ กรณท์ ว่ี างขายใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนผอู้ อกรา้ นหรอื ผลผลติ ของเกษตรกรทน่ี �ำมาจ�ำหนา่ ย - จดั ทำ� สญั ลกั ษณ์ (Logo) ตดิ ตั้งในบรเิ วณทมี่ องเหน็ ได้ชดั เจนในเส้นทางสัญจร 5) งบประมาณในการจดั สถานที่ - ใช้งบปกตขิ องแต่ละหน่วยงานโดยไม่ควรลงทุนในส่ิงกอ่ สร้างมากนกั คณุ สมบัติของผนู้ ำ� ผลผลิตมาจำ� หน่าย 1) เป็นเกษตรกรทม่ี กี ารขน้ึ ทะเบยี นกบั หน่วยงานภาครัฐ 2) เป็นเกษตรกรที่มีพื้นที่การผลิตสินค้าในจังหวัดที่ตั้งตลาดหรือจังหวัดใกล้เคียงที่มีพ้ืนท่ี ชายแดนจังหวัดตดิ ต่อกัน 3) เป็นสมาชกิ ขององคก์ รเกษตรกร/ วิสาหกิจชมุ ชน สหกรณ์การเกษตรและกลมุ่ เกษตรกร 72
คณุ สมบตั ิของสินค้าทน่ี �ำมาจ�ำหน่าย 1) คุณภาพของสินค้าที่จัดจ�ำหน่าย สินค้าคุณภาพต้องเชื่อถือได้ อย่างน้อยควรเป็นสินค้าใน ระดับ Safety Levelโดยใหจ้ ังหวดั บรู ณการกบั หนว่ ยงานท่เี กย่ี วข้องเช่น สาธารณสุขร่วม จดั กจิ กรรมเพอ่ื ใหบ้ รกิ ารตรวจสอบความปลอดภยั ของสนิ คา้ ทน่ี ำ� มาจำ� หนา่ ยเพอ่ื สรา้ งความ มน่ั ใจแกผ่ ้บู ริโภค 2) เปน็ สนิ ค้าทมี่ าจากเกษตรกรโดยตรงไมผ่ ่านคนกลาง 3) คณุ ภาพสินคา้ ต้องเช่อื ถือได้ มกี ารตรวจสอบความปลอดภัยของสนิ คา้ ในเบีอ้ งตน้ แลว้ 4) สินค้าทีจ่ ัดจำ� หน่ายจะตอ้ งหลากหลายชนิดประเภท 5) เป็นสนิ คา้ ทอ้ งถิ่นของแต่ละจงั หวดั ระยะเวลาในการด�ำเนินการ เนอ่ื งจากเป็นโครงการใหม่ และอยู่ในระยะเร่ิมต้น จึงควรจดั ตลาดอย่างน้อยสปั ดาหล์ ะ 1 วนั ในแต่ละจงั หวัด ทง้ั นีข้ ้ึนอย่กู ับสภาพความเหมาะสมของแตล่ ะพนื้ ที่ 73
กลไกการบรหิ ารจดั การ 1) คณะกรรมการ ระดับจังหวัด พิจารณาคัดเลือกและให้ความเห็นชอบ สถานท่ี ระยะเวลา เกษตรกรฯ 2) แตง่ ตั้งผู้จดั การตลาดเกษตรกร บรหิ ารจดั การ 3) เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ตดิ ตาม และรายงานผลการด�ำเนนิ งาน 4) ผ้ตู รวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำ� กบั ดูแลการดำ� เนนิ งาน 5) ส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ประเมินผลการด�ำเนนิ งาน 2.1.8 การประชาสัมพนั ธ์สำ� หรบั โครงการ เพอ่ื ใหก้ ารสอื่ สารเปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ คือ ต้องการสรา้ งโอกาสใหเ้ กษตรกร และสินคา้ ดมี คี ณุ ภาพ โดยใหเ้ นน้ ช่องทางผ่าน Social Media ให้มากท่สี ุดเช่นจัดท�ำโฆษณาทางเวบ็ ไซต์ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหนว่ ยงานต่างๆในสงั กัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2.2 การด�ำเนินงานจดั ตลาด 2.2.1 วันเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ (D-Day) แบ่งเป็นGrand Opening โดยคัดเลอื กจังหวดั น�ำรอ่ งเพือ่ เปิดโครงการประมาณ 4-10 จังหวัด ภายในเดอื น พฤศจิกายน 2557และทยอยเปดิ ใหค้ รบทกุ จงั หวัดภายในเดอื นธันวาคม 2557 2.2.2 การด�ำเนนิ การจัดจ�ำหน่ายสินคา้ โดยคณะกรรมการฯ ระดับจังหวดั ก�ำหนดปฏิทนิ การจัดตลาด เพอ่ื จำ� หนา่ ยสนิ คา้ เพอื่ เปน็ แผนการปฏบิ ตั งิ านของทกุ หนว่ ยงานท่ีไดร้ ว่ มกนั ใหก้ ารสนบั สนนุ การดำ� เนนิ งาน ท้งั นเ้ี มอ่ื ดำ� เนนิ การจัดตลาดเกษตรกรแล้ว ใหจ้ งั หวดั จัดทำ� ทะเบียนผ้ขู าย เพ่อื เปน็ ฐานข้อมลู ในการบริหาร จัดการตอ่ ไป 74
โครงการตลาดเกษตรกร แนวทางการดำ� เนินงานตลาดเกษตรกร เพ่ือเป็นการเพ่ิมช่องการตลาดส�ำหรับเกษตรกร ที่ผลิตสินค้าคุณภาพมีแหล่งขายตรง(Direct Sales) และเปน็ แหลง่ ซอื้ สนิ คา้ คณุ ภาพสำ� หรบั ผบู้ รโิ ภค เกษตรกรคอื บคุ คลเปา้ หมายของโครงการทตี่ อ้ งการ ใหน้ ำ� ผลผลติ ทางดา้ นการเกษตรทม่ี คี ณุ ภาพ ไดม้ าตรฐานในพน้ื ทมี่ าจำ� หนา่ ยแกผ่ บู้ รโิ ภค ดงั นน้ั เพอ่ื ใหก้ าร ด�ำเนนิ งานในระดบั จังหวัดเป็นไปในแนวทางเดยี วกันจึงกำ� หนดการด�ำเนนิ งานเป็น 2 ชว่ ง คอื 1) การเตรี ยมการกอ่ นเปดิ ตลาด และ 2) การด�ำเนินงานจัดตลาดโดยมแี นวทางการด�ำเนินงานดงั นี้ การเตรยี มการกอ่ นเปดิ ตลาด การแตง่ ต้งั คณะกรรมการโครงการตลาดเกษตรกร ระดบั จงั หวัด สำ� นกั งานเกษตรและสหกรณจ์ งั หวดั ในฐานะเลขานกุ าร เสนอคำ� สงั่ แตง่ ตง้ั คณะกรรมการโครงการตลาด เกษตรกรระดบั จังหวดั โดยมีผู้วา่ ราชการจังหวดั หรือรองผวู้ ่าราชการจังหวัดเปน็ ประธาน และเกษตรและ สหกรณ์จังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามในค�ำส่ังแต่งต้ังคณะกรรม การฯ ระดับจงั หวดั เพือ่ กำ� หนดแนวทางการพัฒนาวิธีการดำ� เนนิ งานจัดตั้งตลาด และสนบั สนนุ การด�ำเนนิ งานตามวัตถุประสงคท์ ่ตี ้งั ไว้ 75
การประชมุ คณะกรรมการฯ จดั ประชมุ คณะกรรมการโครงการตลาดเกษตรกร ระดบั จงั หวดั ซง่ึ มผี วู้ า่ ราชการจงั หวดั หรอื รองผวู้ า่ ราชการจงั หวัด เป็นประธาน เพือ่ พจิ ารณา สถานที่ในการจดั ตลาดเกษตรกร คุณสมบัตขิ องสนิ คา้ ทีน่ ำ� มา จ�ำหน่าย คณุ สมบัติของผูน้ ำ� ผลผลิตมาจำ� หน่าย ระยะเวลาในการด�ำเนนิ งาน กลไกการบริหารจดั การ การ ประชาสัมพันธโ์ ครงการ และการเปดิ ตัวโครงการ 76
สถานทใ่ี นการจัดตลาดเกษตรกร 1) การเตรียมสถานที่ (โครงสรา้ งพื้นฐาน) - สถานทส่ี ามารถจอดรถไดง้ า่ ย - จดุ เด่นของสถานทตี่ ้องเปน็ ที่ร้จู กั ของบุคคลทว่ั ไป - เปน็ สถานทท่ี ี่ไมป่ ระสบปญั หาภัยธรรมชาติ (เชน่ อุทกภยั ) - เป็นทางหลักหรอื ทางประจำ� ทีต่ ้องสัญจรผ่าน (ไม่ใชท่ างลดั ) - เส้นทางการเดนิ ทางจะตอ้ งไม่มีการซ่อมแซมหรอื บูรณาการทาง (เชน่ ทำ� ถนน) - ความสามารถในการน�ำผลผลิตมาจ�ำหน่ายของเกษตรกรและการจับจ่ายซื้อของ ผ้บู รโิ ภค - มกี ารคมนาคม สะดวกในการเดินทางเขา้ ถึง 2) ท�ำเลท่ตี ง้ั - เป็นสถานท่ชี ุมชนอยู่ในเมือง (ขน้ึ อยูก่ ับพน้ื ทแ่ี ตล่ ะจงั หวัด) - สถานท่ีสะดุดตาในการสญั จรผ่าน - อาจจะเป็นสถานท่ที เี่ คยจดั ท�ำลักษณะน้อี ยู่แล้ว 77
3) การเตรยี มพืน้ ที่ - จัดเตรียมพ้ืนที่ขายเช่น พ้ืนที่อาคารให้เหมาะสมกับจ�ำนวนเกษตรกรที่น�ำผลผลิต มาจ�ำหน่าย - การจดั โซนพน้ื ทค่ี วรมกี ารแบง่ โซนสนิ คา้ เพอื่ ความเปน็ ระเบยี บตามบรบิ ทของสนิ คา้ แตล่ ะพื้นทีแ่ ยกตามชนั้ คุณภาพเชน่ (1) สนิ ค้าเกษตรอนิ ทรยี ์ (Organic) (2) สินค้าเกษตรในระดบั “GAP”, “Q” หรือ Safety Level (3) สินค้าจากเกษตรกรทัว่ ไปทีม่ คี ุณภาพหรอื ผลติ ภณั ฑ์การเกษตร ตามตวั อย่าง (ภาคผนวก ข.) ทงั้ น้ีควรมจี ดุ ตรวจสอบสารตกคา้ งของสนิ ค้าท่ีตลาดเกษตรกรทกุ ครั้ง - เตรียมพน้ื ที่จอดรถ (ถา้ ม)ี ส�ำหรับเกษตรกรทนี่ ำ� ผลผลิตมาจ�ำหนา่ ยและผบู้ รโิ ภค 78
4) การจัดเตรียมสถานทแ่ี ละอุปกรณ์ - ถา้ ไม่ไดอ้ ยู่ในตวั อาคาร ควรเตรยี มสถานทพ่ี รอ้ มหลงั คาปอ้ งกนั เปน็ ทข่ี ายเชน่ เตน็ ท์ หลังคาในรปู แบบตา่ งๆ - เตรยี มโตะ๊ ขายหรอื อปุ กรณท์ ว่ี างขายใหเ้ หมาะสมกบั จำ� นวนผอู้ อกรา้ นหรอื ผลผลติ ของเกษตรกรทน่ี �ำมาจ�ำหน่าย - จัดทำ� สญั ลักษณ์ (Logo) ตดิ ตัง้ ในบรเิ วณท่ีมองเหน็ ไดช้ ดั เจนในเสน้ ทางสัญจร 5) งบประมาณในการจดั สถานท่ี - ใช้งบปกติของแต่ละหน่วยงานโดยไม่ควรลงทุนในสง่ิ กอ่ สร้างมากนัก 79
คณุ สมบัติของผนู้ ำ� ผลผลิตมาจำ� หน่าย 1) เปน็ เกษตรกรท่ีมกี ารขึน้ ทะเบียนกับหนว่ ยงานภาครฐั 2) เปน็ เกษตรกรทมี่ พี น้ื ทก่ี ารผลติ สนิ คา้ ในจงั หวดั ทตี่ ง้ั ตลาดหรอื จงั หวดั ใกลเ้ คยี งทมี่ พี น้ื ทช่ี ายแดนจงั หวดั ติดตอ่ กนั 3) เปน็ สมาชิกขององค์กรเกษตรกร/ วิสาหกิจชุมชน สหกรณก์ ารเกษตรและกลุม่ เกษตรกร คุณสมบัติของสินคา้ ที่นำ� มาจำ� หนา่ ย 1) คณุ ภาพของสนิ คา้ ทจี่ ดั จำ� หนา่ ย สนิ คา้ คณุ ภาพตอ้ งเชอื่ ถอื ได้ อยา่ งนอ้ ยควรเปน็ สนิ คา้ ในระดบั Safety Levelโดยใหจ้ ังหวดั บูรณการกบั หนว่ ยงานที่เกีย่ วข้องเช่น สาธารณสขุ รว่ มจดั กิจกรรมเพอ่ื ให้บริการ ตรวจสอบความปลอดภัยของสนิ คา้ ท่นี �ำมาจำ� หน่ายเพอื่ สร้างความมน่ั ใจแกผ่ ูบ้ รโิ ภค 2) เป็นสินค้าท่ีมาจากเกษตรกรโดยตรงไมผ่ ่านคนกลาง 3) คณุ ภาพสนิ คา้ ตอ้ งเช่ือถอื ได้ มีการตรวจสอบความปลอดภัยของสินค้า ในเบีอ้ งต้นแล้ว 4) สนิ ค้าท่ีจัดจ�ำหน่ายจะต้องหลากหลายชนิดประเภท 5) เป็นสินค้าทอ้ งถ่นิ ของแตล่ ะจังหวดั 80
ระยะเวลาในการด�ำเนนิ การ เน่อื งจากเป็นโครงการใหม่ และอยู่ในระยะเร่มิ ต้น จึงควรจัดตลาดอยา่ งน้อยสปั ดาห์ละ 1 วัน ในแตล่ ะจังหวดั ทั้งน้ีข้นึ อยกู่ ับสภาพความเหมาะสมของแตล่ ะพื้นท่ี กลไกการบริหารจดั การ 1) คณะกรรมการ ระดบั จงั หวัด พจิ ารณาคดั เลอื กและให้ความเห็นชอบ สถานที่ ระยะเวลา เกษตรกร ฯ 2) แตง่ ตง้ั ผู้จดั การตลาดเกษตรกร บรหิ ารจดั การ 3) เกษตรและสหกรณจ์ งั หวดั ติดตาม และรายงานผลการดำ� เนินงาน 4) ผตู้ รวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก�ำกบั ดูแลการด�ำเนนิ งาน 5) สำ� นักงานเศรษฐกจิ การเกษตร ประเมินผลการดำ� เนินงาน การประชาสัมพนั ธส์ ำ� หรบั โครงการ เพอื่ ให้การส่ือสารเป็นไปตามวัตถุประสงคข์ องโครงการ คือ ต้องการสรา้ งโอกาสใหเ้ กษตรกร และสินค้าดมี คี ณุ ภาพ โดยให้เน้นช่องทางผา่ น Social Media ให้มากทสี่ ุดเช่นจดั ท�ำโฆษณาทางเวบ็ ไซต์ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานต่างๆในสังกดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การด�ำเนินงานจัดตลาด วันเปิดตวั โครงการอยา่ งเปน็ ทางการ (D-Day) แบ่งเป็นGrand Opening โดยคดั เลือกจังหวัด น�ำร่องเพือ่ เปดิ โครงการประมาณ 4-10 จังหวดั ภายในเดอื น พฤศจิกายน 2557และทยอยเปดิ ใหค้ รบทุก จังหวดั ภายในเดอื นธนั วาคม 2557 การดำ� เนินการจดั จ�ำหน่ายสนิ ค้า โดยคณะกรรมการฯ ระดบั จงั หวดั กำ� หนดปฏิทนิ การจดั ตลาด เพอ่ื จำ� หนา่ ยสนิ คา้ เพอื่ เปน็ แผนการปฏบิ ตั งิ านของทกุ หนว่ ยงานที่ไดร้ ว่ มกนั ใหก้ ารสนบั สนนุ การดำ� เนนิ งาน ทั้งนีเ้ มือ่ ดำ� เนินการจดั ตลาดเกษตรกรแลว้ ให้จงั หวดั จัดทำ� ทะเบียนผูข้ าย เพ่ือเป็นฐานข้อมลู ในการบรหิ าร จัดการต่อไป 81
การตดิ ตโคามรแงกลาะปรตระลเมาดนิ เผกลษกตารรกดรำ� เนนิ งาน แนวทางในการตดิ ตามการดำ� เนนิ งานโครงการตลาดเกษตรกรระดบั วิธกี ารติดตามการด�ำเนนิ งาน ข้ันตอนการตดิ ตามการดำ� เนินงานการจดั งานตลาดเกษตรกร มีวิธีการด�ำเนินงาน ดงั นี้ 1) การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล เจา้ หนา้ ทีจ่ งั หวดั ( เจา้ หน้าทจ่ี ังหวัด หมายถึง กษ.จว. เกษตร.จว. สหกรณ์.จว. สศก.เขต หรือผ้ทู ่ีคณะ กรรมการ จงั หวดั มอบหมาย) เปน็ ผอู้ อกเกบ็ ขอ้ มลู ภาคสนามในวนั ทมี่ กี ารจดั งาน โดยการสงั เกตการณ์ การ สมั ภาษณ์ เกษตรกร/กลมุ่ เกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน ท่ีนำ� สินค้ามาจำ� หนา่ ย และผ้บู รโิ ภคทซี่ อื้ สินคา้ ภายใน งาน โดยก�ำหนดจำ� นวนตวั อย่างท้ังแบบท่ี 1 และ 2 รวม 50 ราย (ภาคผนวก ค) ได้แก่ - แบบท่ี 1 แบบสมั ภาษณ์เกษตรกรผ้ขู าย จ�ำนวน 20 – 30 รายต่อครงั้ ทจ่ี ัดงาน - แบบที่ 2 แบบสัมมนาผบู้ ริโภค (ผูซ้ ้อื ) ท่มี าซือ้ สนิ ค้าภายในงาน จ�ำนวน 20 – 30 รายต่อครัง้ ท่จี ดั งาน (แบบท่ี 1 และแบบท่ี 2 ให้ จังหวัด ส�ำรวจข้อมูลทุกตลาด และทุกเดอื น ทกุ สปั ดาห์ และทุกคร้ังที่ จำ� หนา่ ยสนิ คา้ ) - แบบท่ี 3 แบบส�ำรวจราคาสินคา้ ให้ จงั หวดั สำ� รวจขอ้ มลู ราคาสินค้าแตล่ ะชนิดทข่ี ายภายในงาน เปรียบ เทยี บกับตลาดท่วั ไป 82
2) การรายงานการตดิ ตาม จังหวดั ท�ำการบนั ทึกขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการสมั ภาษณเ์ กษตรกรและผูบ้ ริโภคลงในตาราง Tabulate และจดั ท�ำรายงานการจัดงานตลาดเกษตรกร ตามแบบฟอร์มการรายงานผล ซึ่งประกอบด้วย 3 แบบรายงาน (ภาคผนวก ค) ได้แก่ - แบบท่ี 4 แบบรายงานผลสำ� หรบั เกษตรกรผูข้ าย - แบบท่ี 5 แบบรายงานผลส�ำหรับผู้บรโิ ภค (ผ้ซู ื้อ) ให้ส�ำนกั งาน กษ. จว. สรุปรายงานที่ครอบคลุมผลการจัดงาน ปญั หาอุปสรรคตา่ งๆ ที่ไดพ้ บเห็น พรอ้ มท้ังข้อคดิ เหน็ ต่างๆ สง่ ใหก้ องพัฒนาและส่งเสริมการบริหารราชการสว่ นภูมภิ าค (กบภ.) ส�ำนักงาน ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณท์ ราบทุกส้นิ เดือน โดยใหส้ ่งแบบรายงานภายในวนั ที่ 5 ของเดอื นถดั ไป ค�ำอธบิ ายแบบฟอรม์ การส�ำรวจข้อมลู 1) เกษตรกรผขู้ าย ทำ� การเกบ็ ขอ้ มลู จากเกษตรกรผขู้ ายภายในตลาดเกษตรกรแตล่ ะครงั้ โดยเกบ็ ประเดน็ ในแบบสอบถาม ดงั นี้ 1.1) สมาชิกกลุ่ม สอบถามสถานะของเกษตรกรผขู้ ายในการเป็นสมาชกิ วา่ เปน็ สมาชิกกลุ่มใด 1.2) แหล่งข่าวสารการจัดงาน สอบถามผู้ขายว่าทราบข่าวการจัดงานตลาดเกษตรกรจากใคร หรือจาก แหลง่ ใด 1.3) แหลง่ ทมี่ าของสนิ คา้ ทน่ี ำ� มาจำ� หนา่ ยภายในงาน สอบถามถงึ แหลง่ ทม่ี าของสนิ คา้ ทน่ี ำ� มาจำ� หนา่ ยภายใน งาน ว่าเป็นของตนเอง หรือรวบรวมจากเพอ่ื นบา้ น หรอื ซื้อเพื่อนำ� มาขายต่ออกี ทอดหนึ่ง 1.4) สถานที่จำ� หน่ายสนิ ค้าท่ีมีมาตรฐาน สอบถามเกษตรกรผขู้ ายถึงแหลง่ ทเ่ี คยน�ำสินค้าไปจำ� หนา่ ยใน กรณีที่ไม่มีตลาดเกษตรกร 1.5) ปริมาณสินค้าและราคาที่จ�ำหน่ายในตลาดเกษตรกรเปรียบเทียบกับการขายในแหล่งอื่น สอบถาม เกษตรกรผู้ขาย ถึงปริมาณสินค้า และราคาท่ีน�ำมาจ�ำหน่ายภายในงาน เม่ือเปรียบเทียบกับแหล่งอื่นท่ี เกษตรกรเคยขาย วา่ มปี ริมาณมากขึ้น เท่าเดิม หรือน้อยลง โดยให้ประมาณการเปน็ ค่ารอ้ ยละ (%) ว่ามี ปริมาณเพิม่ ขึ้น หรือนอ้ ยลงเทา่ ไร 1.6) รายได้จากการขายสินค้าในตลาดเกษตรกร เปรียบเทียบกับการขายที่อ่ืน สอบถามถึงรายได้จาก การขายสินคา้ ภายในตลาดเกษตรกร ณ วนั ที่สอบถาม และเมือ่ เปรียบเทยี บกับการขายทีอ่ ่ืนว่ามรี ายได้ มากข้ึนกว่าเดิมหรอื ไม่ 83
1.7) ตลาดเกษตรกรสามารถชว่ ยเพ่ิมช่องทางการจำ� หนา่ ยสินค้าใหก้ บั เกษตรกรได้หรอื ไม่ สอบถามความ คิดเห็นเกี่ยวกับการเพ่ิมช่องทางการตลาดในการจ�ำหน่ายสินค้าของเกษตรกร ตลาดเกษตรกรน้ีสามารถ ช่วยเหลือใหเ้ กษตรกรมีชอ่ งทางการจำ� หนา่ ยสินคา้ ของตนเองได้เพมิ่ ข้ึนหรอื ไม่ 1.8) การเข้ารว่ มจ�ำหนา่ ยสนิ ค้าในตลาดคร้ังต่อไป สอบถามเกี่ยวกบั ความตอ้ งการของเกษตรกรผู้ขายใน การน�ำสินค้ามาเขา้ รว่ มจ�ำหนา่ ยภายในงานตลาดเกษตรกรคร้งั ต่อไป ถา้ ไมม่ าอีกเพราะเหตใุ ด 1.9) ระยะเวลาในการจัดงาน สอบถามความคิดเหน็ ถึงระยะเวลาท่เี หมาะสมในการจดั งาน และจำ� นวนวัน ทีต่ อ้ งการให้จัดงาน 1.10) ความพงึ พอใจโดยรวมของเกษตรกรผขู้ าย สอบถามความคิดเห็นของเกษตรกรถงึ ความพงึ พอใจ ต่อการจัดงานตลาดเกษตรกรโดยรวม โดยแบง่ เป็น 3 ระดบั คือ มาก ปานกลาง และน้อย หากตอบ นอ้ ย ใหร้ ะบุเหตุผลด้วย 1.11) ความพงึ พอใจตอ่ สถานทจี่ ดั ตลาดเกษตรกร สอบถามเกษตรกรผขู้ ายเกยี่ วกบั ความพงึ พอใจตอ่ สถาน ทจี่ ัดตลาดเกษตรกรวา่ มคี วามเหมาะสม สะอาด สะดวกหรือไม่ อยา่ งไร โดยแบ่งเปน็ 3 ระดับ คอื มาก ปานกลาง และน้อย หากตอบน้อย ใหร้ ะบเุ หตุผลดว้ ย 1.12) ประเภทของสนิ ค้าทนี่ �ำมาจำ� หนา่ ยภายในงาน สอบถามถึงประเภทของสินค้าที่น�ำมาจำ� หน่ายภายใน งาน หากในร้านมีสนิ ค้าท่หี ลากหลายประเภท สามารถเลือกตอบได้มากกวา่ 1 ขอ้ 1.13) ชนิดของสินค้า ปริมาณท่ีน�ำมาจ�ำหน่าย และราคาขาย รวมท้ังมาตรฐานสินค้าที่ได้รับ นอกจาก สอบถามถึงประเภทของสินค้าแล้ว ให้สอบถามชนิดของสินค้าที่จ�ำหน่ายภายในร้านโดยระบุสินค้าที่น�ำมา จ�ำหนา่ ยมากสดุ จำ� นวน 3 ชนิด ระบุปริมาณสินคา้ ท่นี ำ� มาจำ� หนา่ ยและราคาทข่ี ายภายในตลาด รวมทัง้ มาตรฐานสนิ คา้ ที่ได้รบั ด้วย เช่น สนิ ค้าท่ี 1 ข้าวกลอ้ งดอย ปรมิ าณ 1 กิโลกรมั ต่อถุง นำ� มาจ�ำหน่าย 30 ถงุ ราคาถงุ ละ 100 บาท ไดร้ ับ มาตรฐานรบั รอง GAP และ OTOP สนิ คา้ ท่ี 2 กล้วยหอมอบเนย ปรมิ าณ 90 กรัมตอ่ ถุง น�ำมาจำ� หน่าย 36 ถงุ ราคาถุงละ 50 บาท ได้รับ มาตรฐานรับรอง มผช. และ OTOP สินคา้ ท่ี 3 ผกั คะน้าปลอดสารพิษ ปริมาณ 20 กิโลกรมั ราคา 40 บาทตอ่ กิโลกรมั ได้รบั มาตรฐาน Q 84
คำ� อธิบายความหมายของสัญลักษณม์ าตรฐานสินค้า มีดงั นี้ เกษตรอนิ ทรยี ์ คอื การทำ� การเกษตรดว้ ยหลกั ธรรมชาติ บนพนื้ ทกี่ ารเกษตรที่ไมม่ สี ารพษิ ตกคา้ ง และหลกี เลย่ี งจากการปนเปอ้ื นของสารเคมที างดนิ ทางนำ้� และทางอากาศเพอ่ื สง่ เสรมิ ความอดุ สมสมบรู ณ์ ของดนิ ความหลากหลายทางชวี ภาพ ในระบบนเิ วศนแ์ ละฟน้ื ฟสู งิ่ แวดลอ้ มใหก้ ลบั คนื สสู่ มดลุ ธรรมชาตโิ ดย ไม่ใช้สารเคมสี ังเคราะห์หรอื ส่งิ ท่ีไดม้ าจากการตัดตอ่ พนั ธุกรรม ใชป้ จั จัยการผลติ ทีม่ ีแผนการจดั การอย่าง เปน็ ระบบในการผลติ ภายใตม้ าตรฐานการผลติ เกษตรอนิ ทรยี ์ใหไ้ ดผ้ ผลติ สงู อดุ มดว้ ยคณุ คา่ ทางอาหารและ ปลอดสารพษิ โดยมตี น้ ทนุ การผลติ ตำ�่ เพอื่ คณุ ภาพชวี ติ และเศรษฐกจิ พอเพยี ง แกม่ วลมนษุ ยชาติ และสรรพ ชวี ติ (ท่ีมา: www.organic.moc.go.th) GAP เป็นคำ� มาจากภาษาอังกฤษวา่ Good Agricultural Practice แปลว่า การปฏิบตั ทิ างการ เกษตรที่ดี เป็นระบบที่สร้างผลผลิตตรงตามมาตรฐานคุณภาพ หรือได้คุณภาพตามท่ีตลาดต้องการโดย ปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำที่ถูกต้อง ตั้งแต่การเพาะปลูกจนถึงการเก็บเก่ียวการจัดการหลังการเก็บเก่ียว การ บรรจุหีบห่อและการขนส่งเพื่อจ�ำหน่าย ซึ่งจะท�ำให้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการตกค้างของสารป้องกันก�ำจัด ศัตรูพืช ตลอดจนเชื้อโรคต่างๆ จึงปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และได้ผลผลิตท่ีปลอดภัยส�ำหรับผู้บริโภค ท้งั สามารถตรวจสอบทบทวนได้ (ทม่ี า : http://gap.doae.go.th/toon/page1.html) Q Mark มาจากคำ� วา่ Quality หมายถงึ เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสนิ ค้าเกษตรและอาหาร ทีห่ น่วย งานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้ในการให้การรับรอง ระบบหรือสินค้าเกษตรและอาหารเพ่ือแสดง ถึงความมคี ณุ ภาพตามมาตรฐาน และมคี วามปลอดภยั (ที่มา : http://www.fisheries.go.th/quality/ qmark/Qmark.htm) Safety Level คือ เป็นมาตรฐานการเพาะเล้ยี งสัตว์น้ำ� จืด ท่ีไม่ผา่ นบางเกณฑ์ ถือเปน็ มาตรฐาน ความปลอดภัยขนั้ ต้นของสัตวน์ ้ำ� มผช. คอื มาตรฐานผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน เปน็ ขอ้ กาํ หนดดา้ นคณุ ภาพทเี่ หมาะสมกบั ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน ให้เป็นทีเ่ ช่อื ถือ เป็นทย่ี อมรับ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บรโิ ภคในการเลือกซอื้ ผลติ ภัณฑ์ โดยมงุ่ เน้นให้ เกดิ การพฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานทกี่ าํ หนด และ สอดคล้องกบั นโยบาย OTOP (ท่มี า : http://www.dip.go.th/) 85
OTOP ยอ่ มาจาก One Tambon One Product “หนงึ่ ตำ� บลหนง่ึ ผลติ ภณั ฑ”์ หรือเรยี กชื่อยอ่ ว่า โอทอป (OTOP) เปน็ อกี หนึง่ โครงการทกี่ ่อตงั้ ข้ึนเพอื่ กระตนุ้ ธุรกจิ ประกอบการที่เก่ยี วข้องในทอ้ งถน่ิ ซึง่ โครงการดงั กลา่ วมเี ป้าหมายท่ีจะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ท่ีมีลักษณะเฉพาะตวั ผลิตและจ�ำหน่าย ในท้องถ่ิน ในแต่ละต�ำบล โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากโครงการหนึ่งหมู่บ้านหน่ึงผลิตภัณฑ์ (OVOP) ที่ประสบความส�ำเร็จของประเทศญี่ปุ่น โครงการโอทอป จะเป็นการกระตุ้นให้ชุมชนและหมู่บ้านพัฒนา คณุ ภาพผลติ ภณั ฑท์ อ้ งถนิ่ ประกอบกบั การตลาด โดยเลอื กผลติ ภณั ฑท์ ่ีโดดเดน่ มา 1 ชน้ิ จากแตล่ ะตำ� บลมา ประทบั ตราวา่ “ผลติ ภณั ฑโ์ อทอป” และจดั หาเวทที งั้ ในประเทศและระหวา่ งประเทศเพอ่ื ทจี่ ะประชาสมั พนั ธ์ สนิ คา้ เหลา่ นี้ ผลติ ภณั ฑโ์ อทอปไดค้ รอบคลมุ ผลติ ภณั ฑท์ อ้ งถนิ่ อยา่ งกวา้ งขวาง ซงึ่ ไดร้ วมไปถงึ งานหตั ถกรรม ผา้ ทอ ผ้าไหม เคร่ืองปั้นดินเผา เครือ่ งประดบั แฟชน่ั ของใช้ในครัวเรือน อาหาร สมุนไพร และเครอ่ื งด่ืม (ท่ีมาhttp://www.otoptoday.com) GMP ย่อมาจาก Good Manufacturing Practice คือ การปฏิบตั ิท่ดี ีในการผลิตอาหาร เป็นระบบประกันคุณภาพที่มีการปฏิบัติในการผลิตอาหาร เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และม่ันใจต่อการ บรโิ ภค หลกั ของ GMP จงึ ครอบคลมุ ตง้ั แตส่ ถานทต่ี งั้ ของสถานประกอบการ โครงสรา้ งอาคาร ระบบการ ผลติ ท่ดี ี มคี วามปลอดภัย และมีคณุ ภาพได้มาตรฐานทกุ ขั้นตอน นับตงั้ แต่เรมิ่ ตน้ วางแผนการผลิต ระบบ ควบคุมตงั้ แตว่ ตั ถุดบิ ระหว่างการผลิต ผลิตภัณฑ์ส�ำเร็จรปู การจดั เก็บ การควบคมุ คณุ ภาพ และการขนสง่ จนถึงผ้บู ริโภค (ท่ีมา : http://www.foodnetworksolution.com) ปัญหาและข้อเสนอแนะ สอบถามขอ้ คดิ เหน็ เกย่ี วกบั ปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ ในดา้ นตา่ งๆ โดยรวม รวมทงั้ ขอ้ เสนอแนะตอ่ การจดั ตลาดเกษตรกรในครง้ั ต่อไป 86
2) ผบู้ ริโภค (ผซู้ อ้ื ) โดยการสอบถามผู้ซอ้ื ท่ีมาซ้อื ของภายในงานตลาดเกษตรกร ในประเดน็ ดงั น้ี 2.1) รายได้ต่อเดือนของผู้ซื้อ 2.2) อาชพี ของผซู้ อ้ื ผซู้ อื้ ประกอบอาชพี อะไร โดยยดึ อาชพี ท่ีไดร้ ายไดม้ ากทสี่ ดุ เลอื กตอบไดเ้ พยี ง 1 คำ� ตอบ 2.3) แหลง่ ขา่ วสารการจดั งาน เพื่อทราบถึงขอ้ มลู วา่ ผู้ซื้อทราบขา่ วสารการจัดงานจากท่ีใดมากท่สี ุด โดย สามารถตอบได้มากกวา่ 1 ขอ้ 2.4) พฤตกิ รรมการบรโิ ภคสนิ คา้ ปลอดภยั สอบถามรายละเอยี ดการซอ้ื สนิ คา้ โดยปกตซิ อื้ สนิ คา้ ประเภทใด หากตอบสนิ คา้ ทวั่ ไป ซึง่ เป็นสนิ ค้าที่ไมม่ ีมาตรฐานรบั รอง หรอื ไม่มตี รารบั รอง ใหข้ า้ มค�ำถามไปถามขอ้ 6 และหากผ้ซู อื้ ตอบสนิ ค้าทม่ี ีมาตรฐานให้ถามขอ้ 5 ต่อไป 2.5) แหลง่ ซอื้ สนิ คา้ ทม่ี มี าตรฐาน หากผซู้ อ้ื ตอบคำ� ถามในขอ้ 4 วา่ ซอ้ื สนิ คา้ ทม่ี มี าตรฐานรองรบั ใหส้ อบถาม ถึงแหล่งซ้ือสินค้าที่มีมาตรฐาน ความถี่ในการซ้ือสินค้าท่ีมีมาตรฐานต่อเดือน และค่าใช้จ่ายต่อเดือนใน การซือ้ สินคา้ ท่มี มี าตรฐาน 2.6) ราคาสนิ คา้ ที่จ�ำหนา่ ยภายในงานเปรียบเทียบกบั แหล่งอน่ื ทเี่ คยซ้ือ สอบถามขอ้ คิดเหน็ เกย่ี วกับราคา สนิ ค้าทจ่ี ำ� หนา่ ยภายในงานเมื่อเปรียบเทยี บกับแหล่งอ่ืนท่ีเคยซอ้ื ว่ามรี าคาสนิ ค้าทถี่ ูกหรอื แพงกว่า โดยให้ ประมาณการค่าเปน็ รอ้ ยละ (%) 2.7) ระยะเวลาในการจัดงาน สอบถามข้อคิดเห็นเกีย่ วกบั ระยะเวลา และความเหมาะสมในการจดั งาน วา่ เหมาะสมหรือไม่ หากไม่เหมาะสมควรเปน็ กี่คร้ังต่อเดอื น 2.8) วันทเ่ี หมาะสมต่อการจัดตลาดเกษตรกร ใหร้ ะบวุ นั ที่เหมาะสมในการจดั งานตลาดเกษตรกร เชน่ วนั จันทร์ หรอื อังคารเป็นตน้ โดยใช้รหัส ดงั นี้ จันทร์ (จ.) = 1 อังคาร (อ.) = 2 พุธ (พ.) = 3 พฤหสั บดี (พฤ.) = 4 ศกุ ร์ (ศ.) = 5 เสาร์ (ส.) = 6 อาทติ ย์ (อา.) = 7 2.9) ความหลากหลายของสินคา้ ทนี่ ำ� มาจำ� หนา่ ย สอบถามถงึ ความหลากหลายของสนิ คา้ ที่นำ� มาจ�ำหนา่ ย ภายในงาน และสนิ คา้ ประเภทใดที่ตอ้ งการให้นำ� มาจำ� หนา่ ยเพม่ิ ข้ึน 2.10) ความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าที่น�ำมาจ�ำหน่าย สอบถามระดับความเช่ือมั่นใน คุณภาพและมาตรฐานของสนิ ค้าท่จี �ำหน่ายภายในงาน 87
2.11) ความต้องการเข้ารว่ มงานตลาดเกษตรกรในคร้ังต่อไป สอบถามถงึ ความต้องการเข้าร่วมงานตลาด เกษตรกรเมอ่ื มกี ารจดั ในครงั้ ตอ่ ไป พรอ้ มทัง้ ระบุเหตผุ ลในการตอบ 2.12) ความพึงพอใจตอ่ การจดั งานโดยรวม สอบถามความพงึ พอใจของผซู้ ื้อตอ่ การจัดงานโดยรวม โดย แบ่งเป็น 3 ระดบั คือ มาก ปานกลาง และน้อย หากตอบนอ้ ย ใหร้ ะบุเหตุผลดว้ ย 2.13) ความพึงพอใจต่อสถานท่ีจัดงาน สอบถามความพึงพอใจของผู้ซ้ือต่อสถานท่ีจัดงาน ว่ามีความ เหมาะสม สะอาด สะดวกหรอื ไม่ อย่างไร โดยแบง่ เปน็ 3 ระดบั คอื มาก ปานกลาง และนอ้ ย หากตอบ นอ้ ย ใหร้ ะบุเหตผุ ลด้วย 2.14) ความพึงพอใจต่อราคาทจ่ี ำ� หน่าย สอบถามความพงึ พอใจของผู้ซอ้ื ตอ่ ราคาทจ่ี �ำหนา่ ย ว่ามีความ เหมาะสมหรอื ไม่ อยา่ งไร โดยแบ่งเปน็ 3 ระดับ คอื มาก ปานกลาง และน้อย หากตอบน้อย ให้ระบุ เหตุผลด้วย 2.15) สอบถามถงึ ปญั หา และข้อเสนอแนะ สอบถามขอ้ คิดเห็นเกีย่ วกบั ปญั หาทเ่ี กดิ ขึ้นในดา้ นตา่ งๆ โดย รวม และขอ้ เสนอแนะต่อการจัดตลาดเกษตรกรในครง้ั ตอ่ ไป 3) ราคาสนิ คา้ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ราคาสนิ คา้ แตล่ ะชนดิ ทขี่ ายในตลาดเกษตรกรทจ่ี ดั ขน้ึ ในแตล่ ะครงั้ เปรยี บ เทยี บกับตลาดทัว่ ไปที่ขายอยภู่ ายในจงั หวัด 3.1.3. การบนั ทกึ ข้อมูล สำ� นกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร โดยศนู ยป์ ระเมนิ ผล ไดจ้ ดั ทำ� ไฟลบ์ นั ทกึ ขอ้ มลู ใน ตาราง Tabulate โดยจดั สง่ เปน็ ไฟลข์ อ้ มลู ใหก้ องพฒั นาและสง่ เสรมิ การบรหิ ารราชการสว่ นภมู ภิ าค สำ� นกั งานปลดั กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ เพ่อื ดำ� เนนิ การต่อไป สำ� หรบั ไฟล์บนั ทึกข้อมลู จะแยกเป็นสองไฟล์ ไดแ้ ก่ ไฟลข์ ้อมูลเกษตรกรผขู้ าย และไฟล์ขอ้ มูลผ้บู รโิ ภค (ผู้ ซือ้ ) ซ่งึ จดั ทำ� ในโปรแกรม Excel โดยในไฟลห์ น่งึ จะมี Sheet สำ� หรบั ลงข้อมูลทง้ั หมด รายละเอียดดังนี้ Sheet 1 – 5 เป็นการลงขอ้ มูลของสปั ดาห์ที่ 1 – สัปดาหท์ ี่ 5 Sheet 6 เปน็ ข้อมลู รวมสัปดาหท์ ่ี 1 – สปั ดาหท์ ่ี 5 Sheet 7 เปน็ ผลการค�ำนวณข้อมูลเพ่อื น�ำไปใชใ้ นการวิเคราะหต์ ่อไป 88
ทงั้ น้ี ศปผ. ไดต้ ง้ั คา่ สตู รการคำ� นวณผลขอ้ มลู ไวเ้ รยี บรอ้ ยแลว้ หา้ มเปลย่ี นแปลงคอลมั น์ใดๆ ทงั้ สนิ้ เนอ่ื งจาก อาจมผี ลกระทบกบั สตู รทีต่ ้ังไว้ เมือ่ มกี ารเก็บข้อมลู ในแต่ละสปั ดาห์ จะลงขอ้ มลู ใน 1 Sheet (1 สัปดาห)์ และใน Sheet สุดทา้ ยเปน็ ขอ้ มลู รวมทง้ั 5 สปั ดาห์ โดยก่อนการบนั ทกึ ข้อมลู ในตารางดงั กล่าว ให้เขียนจ�ำนวนตวั อย่างทีส่ ำ� รวจมาในช่อง จำ� นวนตวั อยา่ งดว้ ยทกุ คร้งั (ภาพที่ 1) ภาพท่ี 1 การบนั ทกึ ข้อมูลจ�ำนวนตัวอยา่ งในไฟล์ตาราง Tabulate 89
1) การบันทกึ ขอ้ มลู เกษตรกรผู้ขาย ในหัวข้อนี้จะอธิบายถึงวิธีการบันทึกข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ขายลงในตาราง Tabulate โดยจะอธบิ ายวิธกี ารบนั ทกึ ข้อมลู จากแบบสอบถามในแตล่ ะข้อดังนี้ (1) ทา่ นเปน็ สมาชิกกลุม่ ใดหรอื ไม่ หากข้อมลู ตอบ “ไมเ่ ปน็ ” ให้ลงเลข 1 ในช่อง “ไมเ่ ป็น” หากตอบ “เปน็ ” ใหล้ งเลข 1 ในช่อง “เปน็ ” และหากตอบเปน็ สมาชกิ กล่มุ ใด ให้ลงเลข 1 ในช่องกลมุ่ สมาชิกนน้ั (ภาพท่ี 2) ภาพที่ 2 การบันทกึ ขอ้ มลู การเป็นสมาชิกของเกษตรกรผ้ขู าย 90
(2) ท่านทราบข่าวการจดั งานตลาดเกษตรกรจากแหล่งใด ในค�ำถามข้อนี้สามารถตอบได้มากกว่า 1 ข้อ ดังนั้นหากเกษตรกรผู้ขายตอบข้อใด ให้ใส่เลข 1 ลงใน คอลมั นน์ ้ัน (ภาพท่ี 3) ภาพที่ 3 การบนั ทกึ ขอ้ มูลแหลง่ ข่าวสารในการจดั งาน 91
(3) แหลง่ ทีม่ าของสนิ ค้าท่นี ำ� มาจำ� หนา่ ย ในค�ำถามข้อนี้สามารถตอบได้มากกว่า 1 ข้อ ดังนั้นหากเกษตรกรผู้ขายตอบข้อใด ให้ใส่เลข 1 ลงใน คอลมั น์นั้น (ภาพท่ี 4) ภาพท่ี 4 การบันทึกขอ้ มลู แหล่งทีม่ าของสินค้าทน่ี ำ� มาจ�ำหนา่ ย 92
(4) โดยปกตจิ �ำหนา่ ยสินคา้ ท่มี ีมาตรฐานท่ีไหน ในค�ำถามข้อน้ีสามารถตอบได้มากกว่า 1 ข้อ ดังน้ันหากเกษตรกรผู้ขายตอบข้อใด ให้ใส่เลข 1 ลงใน คอลัมนน์ ้นั (ภาพท่ี 5) ภาพที่ 5 การบันทกึ ขอ้ มูลการจ�ำหนา่ ยสนิ ค้าที่มมี าตรฐาน 93
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110