การเลย้ี งไกพื้นเมืองลกู ผสม โฉม บญุ จนั ทร2 ขอ มลู การเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม…. ✎ พันธไุ กท เ่ี ลย้ี งโดยทว่ั ไป ✎ ขอดขี องการเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ✎ ขอจํากดั ของการเลย้ี ง ✎ การเรม่ิ ตน การเลย้ี ง ✎ โรงเรอื นและขนาดพน้ื ท่ี ✎ ขนาดพน้ื ทใ่ี นการเลย้ี ง ✎ วัสดแุ ละอปุ กรณใ นการเลย้ี ง ✎ อาหารไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ✎ การผสมและการเลอื กใช ✎ วธิ เี ลย้ี งไกล กู ผสม ✎ การเลย้ี งพอ พนั ธแุ มพ นั ธุ ✎ การเลย้ี งไกร นุ ✎ การสขุ าภบิ าลและการปอ งกนั โรค ✎ การจําหนา ยไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม การเลย้ี งสตั วป ก ในชนบทนิยมเลี้ยงกันโดยทั่วไป จาํ นวนทเ่ี ลย้ี งกแ็ ตกตา งกนั ไป เชน เลย้ี งไกพ น้ื เมอื งจาํ นวน 2-3 ตวั เปด ไข 5-10 ตวั หรือ อาจมเี ปด เทศ จํานวน 2-3 ตวั เปน ตน ซง่ึ การเลย้ี งสตั วป ก ดงั กลา ว นอกจากเลย้ี งไวบ รโิ ภคเนอ้ื และ ไขแลวประโยชนจ ากมลู ยงั ใชใ นการปรบั ปรงุ ดนิ ใหด ขี น้ึ ในการเลย้ี งไกพ น้ื เมอื ง มี อุปสรรคปญ หาในการหาลกู ไกข นาดเดยี วกนั จํานวนมากๆ ไมไ ด ดงั นน้ั จึงมีหนวย งานของรัฐและเอกชนไดผลิตไกพ้ืนเมืองลูกผสมใหแกเกษตรกรหรือเสนอแนะให เกษตรกรสามารถผลติ ไกไ ดเ อง เพอ่ื นํามาใชเ ลย้ี งเปน จาํ นวนมาก พันธุไกที่เลี้ยงโดยทั่วไป 1. ไกสายพันธุการคา เชน ไกกระทง ไกไ ขล กู ผสมสายพนั ธกุ ารคา ตา งๆ 2. ไกพ น้ื เมอื งของไทย 3. ไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม 1. โครงการผลติ เอกสารวิชาการเกษตรเพื่อบริการชุมชน กองวทิ ยาลยั เกษตรกรรม กรมอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 2 อาจารยป ระจาํ แผนกวิชาสัตวปก คณะสตั วศาสตร วิทยาลัยเกษตรกรรมยโสธร
การเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ☛ 2 ขอ ดขี องการเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม 1. ตลาดมีความตอ งการมาก โดยสามารถจาํ หนา ยไดใ นราคาทด่ี ใี กลเ คยี งกบั ไกพ น้ื เมอื ง 2. สามารถเลย้ี งเปน อาชพี เสรมิ ไดด ี 3. ทุนคาอาหารไมมากเทากับไกสายพันธุการคา 4. เน้ือไกพ้ืนเมืองลกู ผสมมลี กั ษณะคลา ยไกพ น้ื เมอื ง มไี ขมนั ใตผ วิ หนงั นอ ย กวาไกกระทง ขอจํากดั ของการเลย้ี ง ไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม 1. การหาลูกไกพ น้ื เมอื งลกู ผสมจาํ นวนมากๆ ในครง้ั เดยี วกนั ในบางพน้ื ทห่ี า ไดค อ นขา งยาก 2. ถาเกษตรกรผเู ลย้ี งตอ งการไกเ ปน จาํ นวนมากในแตล ะรนุ ตอ งผลติ ลกู ไกเ อง หรือสถานทเ่ี ลย้ี งตอ งอยใู กลแ หลง ผลติ ไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม 3. ไกพื้นเมืองลูกผสมที่เกิดจากพอไกพันธุอื่น ผสมกบั แมไ กพ น้ื เมอื งไดล กู ไม มากเทาที่ควร คอื ไดล กู ไกเ ทา กบั ไกพ น้ื เมอื งเทา นน้ั พนั ธไุ กพ น้ื เมอื งลกู ผสม ในการเล้ียงไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ลกู ทไ่ี ดม านน้ั จะมเี ลอื ดไกพ น้ื เมอื ง 50 เปอรเซ็นตและเลอื ดไกพ นั ธอุ ่ืนๆ อกี 50 เปอรเ ซน็ ต ดงั นน้ั ผเู ลย้ี งจงึ ตอ งพจิ ารณาถงึ พอ และแมพันธุที่ใช ซึ่งอาจจะเปน ดงั น้ี 1. พอไกโรดไฮแลนดเ รด ผสมกบั แมไกพ ื้นเมอื ง ลกู ทไ่ี ดเ ปน ลกู ครง่ึ ไดล กู นอย เทา กบั ไกพน้ื เมอื งโดยท่ีแมไกพ ื้นเมอื งฟก ไขไดเอง 2. พอ ไกพ น้ื เมอื ง ผสมกับ แมไ กโ รดไอแลนดเรด หรอื แมไ กบ ารพ ลมี ทั รอคได ไกลูกคร่ึงสามารถผลติ ลกู ไกไ ดม าก แตลกู ไกท ี่ผลิตไดต องใชตูฟก ไข เนอ่ื งจากแมไ กโ รด ไอแลนดเ รด และแมไ กบ ารพ ลมี ัทรอคใหไ ขด ก การเรม่ิ ตน การเลย้ี ง ไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม การเรม่ิ ตน เลย้ี งอาจทาํ ไดโ ดย 1. เล้ียงพอ พนั ธุ แมพันธุ โดยเรม่ิ จากการซอ้ื ลกู ไกข นาดเลก็ หรอื ซ้ือไกรนุ หรือไกใหญม าเลย้ี งเปน พอ -แมพันธุ 2. โดยการซ้ือลกู ไกพ น้ื เมอื งลกู ผสมจากผผู ลติ ลกู ไกข าย วธิ นี ส้ี ะดวกในการดู แลและจดั การไดล กู ไกค รง้ั ละจาํ นวนมาก และมขี นาดใกลเ คยี งกนั
การเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ☛ 3 โรงเรือนและขนาดพื้นที่ โรงเรือนไกพ ้นื เมอื งลูกผสม สรา งไดห ลายแบบโดยอาจสรา งถาวร หลงั คามงุ กระเบ้ือง หรอื สงั กะสี พน้ื เทคอนกรตี ผนงั บดุ ว ยลวดตาขา ยซง่ึ เหมาะสมสําหรับผูที่ ตองการเลย้ี งเปน อาชพี โดยเลย้ี งเปน จาํ นวนมาก หรือ อาจใชว สั ดทุ ห่ี างา ยในทอ งถน่ิ เชน มุงดวยหลงั คาจากหรือแฝก ผนงั ใชไ มไ ผซ ห่ี รอื ลาํ ปอ พน้ื ดนิ หรอื คอนกรตี กไ็ ด ถา มุงหลังคาดวยวัสดุที่ไมมีความคงทน เชน จากหรือแฝก ตอ งมคี วามลาดเอยี งมากเพอ่ื ปองกันไมใหฝนรั่ว โดยสรปุ แลว โรงเรอื นทส่ี รา งน้ี ตอ งกนั แสงแดด ฝน ปอ งกนั ลมโกรก และศตั รขู องไกไ ด ขนาดพน้ื ทใ่ี นการเลย้ี ง ไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ไกอายุ 2 เดอื นขน้ึ ไปใชพ น้ื ทป่ี ระมาณ 5 ตวั ตอ 1 ตารางเมตร ในการสรา ง คอกใหมีขนาดใหญเ ทา ใดนน้ั พจิ ารณาจากพน้ื ทต่ี อ ตวั เมอ่ื ไกม ขี นาดใหญเ ปน เกณฑ เพราะไกขนาดเลก็ สามารถเลย้ี งในคอกใหญไ ด โดยแบง กน้ั คอกเปน คอกยอ ย แตถา เล้ียงไกใ นคอกทแ่ี ออดั ไกจะมีปญหาจิกตีกันมากและโตชา การเตรยี มโรงเรอื น กอนที่จะนาํ ไกเ ขา มาเลย้ี ง ตองทาํ ความสะอาดโรงเรอื น และบริเวณรอบๆ โรง เรือนใหสะอาด ฉดี ยาฆาเช้ือโรคแลว โรยปูนขาวใหท่ัว เลอื กปฏบิ ตั ติ ามทเ่ี หน็ วา สะดวก ถาคอกมีเหา และไรรบกวน ตอ งฉดี พน ยาฆา แมลง โดยการฉดี พน และทง้ิ คอกไวน าน 7-10 วัน เอาพวกแกลบหรอื ขเ้ี ลอ่ื ยใสร องพน้ื เพอ่ื ดดู ความชน้ื จากมลู ไก วสั ดแุ ละอปุ กรณใ นการเลย้ี ง 1. ภาชนะใสน า้ํ เพอ่ื สะดวกในการใหน า้ํ และการดแู ลความสะอาด ใชขวดให น้ําชนิดแขวน เลอื กขนาดใหเ หมาะสมกบั อายหุ รอื ใชว สั ดอุ น่ื กไ็ ด แตต อ งสามารถดแู ล เร่ืองความสะอาดไดด พี อสมควร และใหมจี าํ นวนเพยี งพอ 2. ภาชนะใสอาหาร ใชภ าชนะใสอ าหารใหเ หมาะสมกบั ขนาดของไก เมอ่ื เวลา ใหอาหาร ไกท กุ ตวั สามารถกนิ อาหารไดพ รอ มกนั ไกข นาดเลก็ ใชร างอาหารสาํ หรบั ลกู ไก ไกใหญใ ชถังอาหารชนิดแขวน ซง่ึ สะดวกในการใหอ าหารมาก และอาหารไมต กหลน พ้ืนที่ของรางอาหาร พจิ ารณาดงั น้ี ไกเ ลก็ 10 ตวั ใชร างยาว 20 เซนตเิ มตร ไกรุน 10 ตวั ใชร างยาว 40 เซนตเิ มตร ไกใหญ 10 ตวั ใชร างยาว 1 เมตร 3. ภาชนะใสกรวด และเปลือกหอยปน ในกรณที ม่ี กี ารเลย้ี งแบบขงั คอกตลอด เวลา
การเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ☛ 4 อาหารไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม อาหารเปนปจจัยสาํ คัญในการเลี้ยงไกที่จะพาผูเลี้ยงใหประสบผลสาํ เรจ็ มีกาํ ไร งดงามหรือขาดทุน เพราะวา ทนุ ในการเลย้ี งไกพ น้ื เมอื ง ประมาณรอ ยละ 70 เปน คา อาหาร อาหารทไ่ี กก นิ เขา ไปจะถกู เปลย่ี นเปน เนอ้ื การเปลย่ี นแปลงดงั กลา วจะไดผ ลดี เพยี งใดขน้ึ อยกู บั - พนั ธุไกที่นาํ มาเลย้ี ง - สขุ ภาพของไก - สวนผสมวตั ถดุ บิ ทน่ี าํ มาเปน อาหารสตั ว - การจดั การเลย้ี งดู การผสมและการเลอื กใช วตั ถดุ บิ ผสมอาหารไก ผูเล้ียงสามารถผสมอาหารเลี้ยงไกเองหรือใชอาหารสําเร็จรูปเลี้ยงก็ไดตาม ความสะดวกในการผสมอาหารนน้ั ควรเลอื กวตั ถดุ บิ ทม่ี อี ยใู นทอ งถน่ิ สวนผสมของวตั ถดุ บิ ทน่ี าํ มาประกอบอาหารไก (กโิ ลกรมั ) ตามชว งอายุ วตั ถดุ บิ (กโิ ลกรมั ) ชว งอายุ (สัปดาห) 0-4 5-8 9-22 ไกพันธุ ขา วโพดหรือปลายขาว 46 48 44 40 ราํ ละเอยี ด 15 20 30 25 กากถว่ั เหลือง 22 18 13 12 ใบกระถนิ ปน 3 3 4.5 3.5 ปลาปน 12 9 5 10 กระดูกปน 1.1 1.1 1.5 3.5 เปลอื กหอยปน - - 1.0 5.0 เกลอื .4 .4 .5 .5 ไวตามนิ / แรธาตุ .5 .5 .5 .5
การเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ☛ 5 สวนผสมของวตั ถดุ บิ อาหารไก (กโิ ลกรมั ) ตามชว งอายุ วตั ถดุ บิ (กโิ ลกรมั ) อายุ (สัปดาห) 0-8 9-22 ขา วโพด 58.4 49.6 ราํ ละเอียด 10 30 กากถว่ั เหลือง 23 10 ปลาปน 64 ใบกระถนิ ปน -4 ไดแคลเซยี มฟอสเฟต 0.7 0.5 เปลอื กหอม 1.1 1.25 เกลือ 0.3 0.4 ไวตามนิ / แรธาตุ 0.5 0.25 ในกรณีท่ีผูเลย้ี งไมส ามารถเลอื กซอ้ื วตั ถดุ บิ ตา งๆ มาผสมอาหารได ใหเ ลอื กใช อาหารสาํ เรจ็ รปู หรอื หวั อาหารมาผสมกบั วตั ถดุ บิ อน่ื ๆ โดยใชต ามคําแนะนําที่ใหไว การใชอาหารสําเรจ็ และหวั อาหารในการเลย้ี งไก อายุ (สัปดาห) 0-6 7-22 ไกพันธุ อาหารไกไขเล็ก หวั อาหารไกไข 30 กก. หวั อาหารไกพันธุ 30 กก. หรอื อาหารไกก ระทง ราํ ละเอียด 30 กก. ราํ ละเอยี ด 30 กก. ขาวโพดหรือปลายขาว60 ขา วโพดหรือปลายขาว 50 กก. กก. หมายเหตุ สวนผสมของหวั อาหารกบั วตั ถอุ น่ื ๆ แตกตา งกนั ไปตามทก่ี าํ หนดไว ขางถงุ อาหาร วธิ กี ารเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม เกษตรกรรายยอ ย สามารถเลอื กวธิ กี ารเลย้ี งไดต ามทนุ ของตนเองทม่ี อี ยเู ปน หลัก ซง่ึ วธิ กี ารเลย้ี งแตล ะวธิ ใี หผ ลไมเ หมอื นกนั วิธีการเลี้ยงอาจทาํ ไดหลายวิธี เชน 1. เล้ียงโดยวธิ ปี ลอ ยลาน โดยการปลอ ยใหไ กอ อกหาอาหารกนิ ทม่ี อี ยตู าม ธรรมชาตเิ ปน หลกั และมกี ารเสรมิ อาหารใหไ กก นิ บา งเลก็ นอ ย เปนวิธีกระทาํ กนั โดย ทั่วไปในชนบท ทีม่ ีพืน้ ทก่ี วางขวางแตม คี อกหรือทีส่ าํ หรับหลบฝน หลบแดดใหไก วิธี การน้ี ไกเจริญเติบโตชา แตล งทนุ นอ ย เลี้ยงไกไดจาํ นวนไมม ากนกั
การเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ☛ 6 2. เลย้ี งโดยครง่ึ ปลอ ยลาน และครง่ึ ขงั คอก วธิ นี ต้ี อ งสรา งโรงเรอื นใหไ ก ไดอาศัยโดยผูเลี้ยงใหอาหารมีจาํ นวนมากพอ โดยสังเกตการกินอาหารวาไกกนิ จนหยุด หรือหยุดคุยเขี่ยอาหาร โดยปลอ ยออกหากนิ ในตอนเชา และตอนเยน็ ใหอ าหารกนิ อยางเต็มที่ วธิ กี ารนล้ี งทนุ คา อาหารเพม่ิ ขน้ึ เลี้ยงไกไดจาํ นวนมากขน้ึ 3. เลย้ี งในคอกตลอดเวลา ในการเลย้ี งวธิ นี ้ี ไมใหไกมีโอกาสไปหากิน อาหารเองไดต ามธรรมชาติ อาหารจงึ ควรมโี ภชนะตา งๆ สมบรู ณ และมนี า้ํ สะอาดให กินตลอดเวลา วธิ กี ารนเ้ี ลย้ี งไกไ ดไ มจ าํ กัดจาํ นวนเทา ทพ่ี น้ื ทโ่ี รงเรอื นเออ้ื อํานวย ลงทุน คาอาหารมาก แตส ะดวกในการจดั การ การเล้ยี งพอพันธแุ มพนั ธุ ฝงู พอพันธุแมพันธุสาํ หรบั เลย้ี งเพอ่ื นําไกไปฟก หรือใหแมไกฟกไขเอง ใชตัวผู 1 ตวั ตอ ตวั เมยี 8 ตวั การเลย้ี งฝงู ไกพ นั ธทุ ใ่ี ชพ อ พนั ธโุ รดไอแลนดเรด หรอื พนั ธบุ าร พลมี ัทรอค ผสมกบั ไกพ น้ื เมอื งเพศเมยี ตองทาํ รังใหแมไกทุกตัว โดยเลอื กใชว สั ดตุ า ง เชน ลังกระดาษ ลงั ไม ตะกรา กระบุง เพื่อใชเ ปนทีว่ างไขและฟก ในกรณีที่ใชพอไกพื้น เมืองผสมกับไกพันธุโรดไอแลนดเรดหรือพันธุบารพลีมัทรอคเพศเมียซ่ึงแมไกไมฟกไข ตอ งหารังใหแมไกจาํ นวน 4 ตวั ตอ 1 รงั โดยรงั มขี นาดกวา ง 30 ยาว 30 และสูง 40 เซนติเมตร มนี า้ํ และอาหารใหก นิ ตลอดเวลา แตร ะวงั อยาใหไ กอ วน การเลย้ี งดลู กู ไก เม่ือลูกไกอ อกมาแลว หรอื ซอ้ื ลกู ไกม าเลย้ี งระยะ 0-2 สัปดาห ตอ งใหค วามอบ อุนแกล กู ไกในพื้นทีไ่ มมีไฟฟา นาํ กลอ งกระดาษเจอะรดู า นขา งเพอ่ื ระบายอากาศ นาํ แกลบ หญา แหง ใสร องพน้ื หรือนํามาขงั สมุ แลว เอากระสอบคลมุ เอาหญาหรือฟางแหง รองพื้น นาํ ลกู ไกใ สไ วใ นตอนกลางคนื อาจใชต ะเกยี งนา้ํ มนั กา ดเปน แหลง ใหค วามอบ อนุ ในบริเวณที่มีไฟฟา กกลูกไกโดยใชหลอดไฟฟากลมชนิดมีไสแ ขวนไวเหนือ ศรี ษะไก หลอดไฟฟาขนาด 60 แรงเทียน กกได 100 ตวั ตองทาํ แผงกั้นลูกไกใหอยูใน บริเวณที่กาํ หนด ถา ลกู ไกห นาวจะสมุ กนั ใตห ลอดไฟใหเ พม่ิ หลอดไฟอกี หรอื ใชเ ครอ่ื ง กกแบบฝาชี วางถาดอาหารและถงั นา้ํ ใหก นิ ตลอดเวลา การเลย้ี งไกร นุ ชวงอายุ 3-6 สัปดาห ไมจาํ เปน ตอ งกก เพยี งแตด แู ลไมใ หฝ นสาดหรอื ลมโกรก ใหอาหารโดยใชถ งั แขวนเสมอไหล เพ่อื ปองกันไมใ หไ กคยุ เขยี่ อาหาร และอาหารตก หลน ถงั นา้ํ แขวนระดบั ไหล เพื่อไมใหสกปรกงาย และตอ งทาํ ความสะอาดทกุ วนั ในกรณีท่ีเล้ียงแบบครง่ึ ปลอ ยลานครง่ึ ขงั คอก ใหอ าหารตามปกติ แตปลอยให ไกออกไปหากนิ อาหารธรรมชาตใิ นบรเิ วณทก่ี ําหนด อาหารสวนใหญก็ไดรับจากผูเลี้ยง
การเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ☛ 7 ผลการเล้ียง นํา้ หนกั ไกค ละเพศ (กรมั ) ทเ่ี ลย้ี งแบบขงั คอก และเลย้ี งแบบครง่ึ ขงั ครง่ึ ปลอ ยลาน วธิ เี ลย้ี ง อายุ (สัปดาห) 4 8 12 16 เลย้ี งขงั คอก ไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม 230 548 1089 1614 ไกพ น้ื เมอื ง 194 577 1022 1464 เล้ียงคร่ึงปลอยลาน ไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม - 548 1026 1614 ครง่ึ ขงั คอก ไกพ น้ื เมอื ง - 488 891 1446 หมายเหตุ ชว งอายุ 0-4 สัปดาห เลย้ี งดว ยอาหารผสมมโี ปรตนี 18% ชว งอายุ 5-12 สัปดาห เลย้ี งดว ยอาหารผสมมโี ปรตนี 15% ชว งอายุ 13-16 สัปดาห เลย้ี งดว ยอาหารผสมมโี ปรตนี 12% การสขุ าภบิ าลและการปอ งกนั โรค การเลย้ี งไกน น้ั การจดั การใหไ กม สี ขุ ภาพดอี ยเู สมอนน้ั เปน สง่ิ จาํ เปนเพราะทาํ ใหลดการเส่ียงตอ การขาดทนุ การดแู ลรกั ษาความสะอาดบรเิ วณโรงเรอื น อปุ กรณก าร เลี้ยงสัตว ทาํ ใหก ารจดั การเลย้ี งดเู ปน ไปดว ยความสะดวก นอกจากนต้ี อ งใหว คั ซนี ปอ ง กันโรคไกที่สําคัญตามกําหนดเวลาอยางเครงครัดดีกวาปลอยใหไกปวยแลวรักษา เพราะนอกจากยงุ ยากแลว ยงั เปน การเพม่ิ ทนุ อกี ดว ย โรคไกท่ีสําคัญและเปนสาเหตุท่ีทําใหสัตวปกตายเปนจํานวนมากน้ันมีไมมาก นกั แตโรคที่ทาํ ใหไ กม สี ขุ ภาพไมแ ขง็ แรงสมบรู ณน น้ั มมี าก โรคที่ทาํ ใหไกตายเปน จาํ นวนมากและสมควรทต่ี อ งทาํ วัคซีน ไดแก 1. โรคนิวคาสเซลิ 2. โรคหลอดลมอกั เสบตดิ ตอ 3. โรคอหวิ าตเปด-ไก 4. โรคฝด าษ โรคไกท ี่สาํ คญั และกาํ หนดการใหว คั ซนี ปอ งกนั โรค ชนดิ ของวคั ซนี อายุ วธิ ใี ห ระยะภมู คิ มุ กนั วคั ซนี นวิ คาสเซลิ 1-3 วนั หยอดตาหรือจมูก 3 เดอื น ตวั ละ 1-2 หยด วคั ซีนหลอลม 7 วนั หยอดตาหรือจมูก อักเสบติดตอ ตวั ละ 1-2 หยด 3 เดอื น วัคซีนอหิวาตไก 1 เดอื น ฉดี เขา กลามเนื้อตัวละ 1 ซีซี 3 เดอื น วัคซีนฝดาษ 15 วนั ใชเ ขม็ คจู มุ ยาแทงผนงั ปก 1 ป
การเลย้ี งไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ☛ 8 หมายเหตุ วัคซนี ทใี่ ชผลติ โดยกรมปศสุ ตั ว หาซื้อไดจากสํานกั งานปศสุ ตั ว จงั หวัด หรอื สํานกั งานปศสุ ตั วอ ําเภอหรอื รา นจาํ หนายเวชภัณฑทางการเกษตร เม่ือเล้ียงไกค รบรนุ หรือจาํ หนา ยไกอ อกหมดคอกแลว ตอ งนําวสั ดรุ องพน้ื ออก ทําความสะอาด และเปลย่ี นวสั ดรุ องพน้ื ใหม นอกจากโรคดังกลาวแลว ผเู ลย้ี งอาจพบโรคอน่ื ๆ อีกเชน โรคบดิ เกิดจากพื้นคอกชื้นแฉะ ไกอ ยอู ยา งหนาแนน การระบายอากาศไมด ี อาการ สังเกตเห็นชัด ลกู ไกซ มึ ไมก นิ อาหาร ขนยงุ อจุ จาระเหลวมสี นี า้ํ ตาล และมักมมี กู เลอื ดปนออกมาดว ย การรักษา ใชยาซัลฟาควีนอกชาลีนละลายนาํ้ ใหกิน หรอื ยาซลั ฟาอน่ื ๆ ขนาด ใชต ามเอกสารกํากับยา พยาธภิ ายใน เกิดจากไกกินไขพยาธิเขาไป มักประสบกบั ผูเลีย้ งไกแ บบปลอ ย บริเวณหรือครง่ึ ปลอ ยลาย ครง่ึ ขงั คอกโดยไกกนิ ไขพ ยาธเิ ขา ไป ไกซูบผอม ควรถา ย พยาธิใหไกกอน 1 เดอื น แลวนาํ ไกเ ขา ขนุ ในคอกใหอ ว นกอ นจําหนา ย การจําหนา ยไกพ น้ื เมอื งลกู ผสม ไกพ้ืนเมืองลูกผสม เลย้ี งเพอ่ื เอาเนอ้ื เปน อาหาร เนอ่ื งจากสามารถผลติ ลกู ไกไ ด มากกวาไกพ น้ื เมอื ง และรสชาดของเนอื้ ดีกวาไกก ระทงโดยทัว่ ไป และรสชาดของเนอ้ื ดี กวาไกกระทงโดยทั่วไป เมอ่ื เลย้ี งไดน ้าํ หนกั ประมาณ 1 กโิ ลกรมั กจ็ บั ขาย โดยใชเ วลา เลย้ี งประมาณ 12 สัปดาห การจําหนา ยสามารถทําไดหลายวิธี เชน - ขายเปน ไกม ชี วี ติ ชง่ั น้าํ หนกั ขายเปน ตวั - จาํ หนา ยเปนไกแปรรปู ไกยาง ไกอบฟาง ไกอ บ เปน ตน ✎ ที่มา : เกษตรกาวหนา ปท ่ี 1 มกราคม-กมุ ภาพนั ธ 2535
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: