นทานชาตก 294.31883 พิมพเน็นธรรมบรรณาการ พ334นค ในงานพระราชทานเพลิงศพ ต.2 พ่นเอก พระยาสรวิสาราาจา ณ เม™นำทฒทถาชิ?(สรยาภรณ์ วด์เทพศิรินทรา1วาส ๘ มึถุนายน เอ๔๑©
111111111นเก พิมพเบ็นธรรมบรรณาการ ในงานพระราชทานเพลิงศพ พนเอก พระยาศรีวิสารวาจา ณ ฌ]หน็าทฒฑถาธิด้สริยากรณ ว'ดเทพศรินทราวาส ๘ มนุนายน ๒๕๑ด
เธพมู่ 2จึ^, ^ พ 33^ V(/, โค1ต’เะเ{เยโ/ 01 {V'เสฺ^ 6เ*1 า
กณธกท!ะยาศฑสารวา!'า ป.า., ม.ป.ช:, ม.า.ม. ปาต 0/ ๒ แ, ๒ (เ ๓ ฮส์ฌสราแ ๒๓ แใเาส!] ๒&๑๑
ก๐าน0า เรื่องชาดกสน ๆ จากอรรถกถาชาดก ได‘แปลเรียงไว้ก่อนบ้าง แปลเรียงใหม่บ้าง เพี่อให้บ้นพิมพ์ เนื่องในงานพระราชทาน ท่านพนเอก พระยาศรีวิสารวาจา ซึ่งเข็นผ้ใหความอุปถมภ อุปการะ แก่อาฅมภาพและพระกรูวุฒิสารสิริคุณมาก หวิงว่าหน'งสือนื่ คงจะ ประโยชนไเก่ผู้ได้อ่านบ้างฅามควร เพราะเบี่นเรื่องที่มีมาในคไภ พระพุทธศาสนา บ้าอ่านควยความพินิจก็จะได,คฅิในทางธรรมปฏิบํฅ ขออำนาจบุญกุศลทื่อาฅมภาพไค้บำเพ็ญมา และที่เกิดจากพิ ทน'งสือนื่ ขอให้บ้นดาลให้ท่านพนเอก พระยาศรีวิสารวาจา ไดทรา และอนุโมทนา สำเร็จเบนอิฎฐวิบูลมนญสมบํฅแก่ท่านในสไปรายภพ ฅามควรแก่คฅิวิส'ย. ^V^VI วิด]'โง!ไรีสีรีหา?' (0๗ พถ]*กาคม เปี& (ภ
เรือ'งตต คำว่าทูต ฅามปทานุกรมแปลว่า ผู้นำช่อความไปแจ'งท1งสองผ่าย, ผู้รบ1ช้ไปเจรจาแทน, ผู้สื่อสาร, ผ้ที่ไค้รํบมอบหมายให’เบนผู้แทนทาง ราชการแผ่นดิน, ก็คำว่าทูฅนํ้น มีที่'ไช*!กามปรากฎ เช่นราชทูฅ, เทวทูต, ยมทูต, เบ็่นตน. ราชทฅ ไติแก่ผู้เบน'ทูตของพระราชา เทวทูฅ ไต’แก่ทูตของเทวดาหรือทฅอ้นประเสทุ๊เ เมื่อใครไค'พบเห็น แล่ว คิกไค้ก็จะมีประโยชนมาก ซึ่งปรากฏอยู่ทํวไป คือ คนเจ็บ คน แก่ และคนตาย เบนทูตของเทวดาปรากฎใหกนเห็นอยู่เบี่นประจำ ล่าคิดไค้ก็จะได'ละความมํวเมาประมาท คิดนํอ์มเช่ามาในตนว่า ตนก็ จะต'องแก่ ต'องเจ็บ และต’องตาย เช่นนน คือ เหมือนก่บทูต,ที่เห็นน1น เทวทูฅอีกประเภทหนึ่ง คือสมณะผู้แสวงหาคุณพิเศษ นึ่ก็เบ็นทูต อินประเสริ^ เพราะเมื่อเห็นแล่ว ล่าคิด'ว่าเพศสมณะนึ่ เบึนเพศที่ ไม่มีสี่งกังวลห่วง'ไย สามารถที่จะทำจํฅใ'จให่สงบ แสวงหาส*นฅิส สะดวก ก็จะนอมไปในทางนน จึงได้ชื่อว่า ■เทวทูฅ คือทูตอินประเสริฐ ส่วนยมทูตนน ไดแก่ทูตของพระยายม ที่จะทำชีวิตสตว์ใหขาดลง ก็จะแสดงล่ว่ยอาการอย่าง'1ตอย่างหนึ่ง ให่เบนปรากฏการณ์ว่า ฝัน ฝันจะตองตาย น่าจะ’ใด,แก่เสนาของพระยามจจุ-ราช'นั๋นเอง และคำว่า ทูตนึ่1ไค้นำมา,ใช้,ในกิจการที่บุกกลน1น'รบใช้ไป,ทำ เช่นกิจการทางพระ- ศาสนาเรียกว่า สมณทูฅบ้าง ผู้เที่ยวแสดงธรรมล่งสอนประชาชนเรียกว่
1ช ธรรมทูตบาง แฅกาวาทูต ในเรืองนิทานชาดกนิ เบ็1นทฅของผ้ม อานาจยง!,หญ ซงเมอใครยอมตนเบนทูตแลๅ กจุะยอมทำทุกสี่งทุกอก่ๅง ตามบญชาของผูยงใหญนน แม้ชวิตกสามารถเสยสละไต้!,พีอก้บินิ]ชๅนน, ผู้บญชานนกือใคร จะไต่ทราบต่อไป เมอพระผูมพระภาคเจาประทบอยูในพระเชตวินิวิทเๅร ใกสํพระ- นครสาว'ฅถี ทรงปรารภภิกษุผู้ประพฤติโลเลเห็นแก่ปๅกแก่ท้0ง ทออที การศึกษาปฏิบติรูปหนึ่ง เมื่อพระองค์รบสงให้ภิกษุนนเขำเ ทรงฅกเคอนสงสอนควยอุบายตาง อุ วา ผูที,ไคมาบวชในพระธรรม วิน่ย ที่เบี่นนิยยานิกะ นำสตว์ให้พ้นไปจากทุกข คือในพระศา ของตถาคต ซึงเบ็นผู้มีความเพียร ไม่ควรจะเกียจครำนและเห็นแก่ปาก แก่ทอง ควรรีบเร่งบำเพ็ญสมณธรรมจึงจะควร การที่เธอไม่มี เพียร เห็นแก่ปากแก่ทองน ไม่สมควรเลย เพราะแม้ในชาติก่อนนาน มาแลว เธอก่เคยปลอย เหกวามอยากกรอบงำ จนแทบจะถกติดศีรษะ มาแล้ว เมื่อพระองค์ตรสเพียงเท่าน ก็ทรงดุษณีภาพนิงอยู ผโลเลนน ใครจะรูเรองราวของตนในอดต จงกราบทลใหพระองค ทรงแสคงให้พีง พระองค์จึงฅล้สเล่าว่า ในอดีตกาลนานมาแล้ว เมื่อพระเล้าพรหมท'ค ไต่ครองราช- ล มบํฅในเมืองพาราณสี พระโพธิล้ฅว่ไดอุบัติเบนพระราชโอ พระราชา เมื่อทรงเจริญล้ยแล้ว ไค้ไปทรงศึกหาคลปะท1งํ้ปวงในเมือง ตกกสิลา เมื่อสำเร็จแล้วเสค็จมาย,งพระนคร ภายหล้งพระราชบิดาไต
00 สวรรคฅแลวก็ไคเสวยราชสมบฅ และทรงชอบพระกระยาหารที่บริสุทธิ้ เท่าน์น ฉะน1น จึงไค้มีพระนามว่า โภชนสุทธิกราชา หรือพระเจาโภชน- สุทธิกะ ไค้ยินว่าพระราชานึ่น่ทรงคงอยู่ในวิธีการเสวยพระกระยาหาร ที่บริสุทธื้และที่คีเลิศเท่านน คราวใคที่ไค้ทรงให้จคแจงพระกระยาหาร ถาคหนึ่งมีค่า-ร่วมแสน คราวนไเจะไม่เสวยในพระราชค้ง จะรบสงให้ สรางรฅนมณฑป (พลบพลาชืวคราว) ขน ที่ใกค้ประคูพระราชวิง ให่คกแค่งรํฅนมณฑปนนให์สวยงาม ในเวลาเสวยประท่บบนพระราซ- บลค้งกทอง ภายใค้เศวฅฉํฅรที่ยกขนแต้ว แวคค้อมไปควยข็ฅฅิยค้ และขาราชบริพาร เสวยโภชนะค้นมีรสเลิศ มีค่าคงแสน ที่เขาจคไว้ ในถาคทองมีค่าถึงแสนเช่นค้น ทงนึ่ เพราะพระองกทรงใคร่ที่ มหาชนไค2ชมการเสวยพระกระยาหารของพระองค์ แต้วจะไค้ยินคีใน การบำเพ็ญบุญกุศล เพราะเห็นผลประค้กษ์ว่า ผู้มีบุญเท่านน จึงจะทำ ต่อมาเมื่อเวลาเช่นนน่มาถึงเค้า มีบุรุษกนหนึ่ง เมื่อไค้เผาช การเสวยพระกระยาหารแห่งพระราชา™ ก็มีกวามอยากจะบริโภค อาหารนน เกิคขนกรอบงำจิคใจอย่างเค็มที่ ไม่สามารถจะทนต่อความ อยากนนไค้ พอคิคไค้อุบายอย่างหนึ่ง แน่ใจว่าคงใช้ไคแน่แลว จึงน น่งค้า ให้มนแค้ว ยกมือพร2อมกํบร่องคะ'โกน1ขนค้วยเสียงค์แค้ง'ว่า ท่า ผ้เจริฌทงหลาย ค้าพเจำนึ่เบนทูค พรอมกบเคินไปบอกกล่าวไปว่า ค้พเจาเบนทค เพอเขาเผาพระราชา สมยนนในชนบทนน เมอใคร
๔ กล 1 ภา ขาพเจาเบนทูฅ ก็จุะไม่มีใครหทํมและกคกVIพึ ฉะนน มหาชน^จงแยกทาง,ให!อกาสแ5ๆ,เขา เมอไค้โอกาสเช่นนน เขพึงเช่าไ!] ^คยเรว ไ1{เกงทประ-ทบแลว รบถอเอาพระกว!ยาหารในถาคของพวะ ราชากำห,นึง แลวกลืนกิน, เจาหนำที่ผู้-รกษาพระองก จุงเงอคาบจุะ ฅคศรษะเขา แฅพระราชาทรงหามไว แลวมพระราชคำรสพรอมก'!) ทรงส่งพระกระยาหารให้ว่า เจกิอย่ากลว จุงบกิโภคให้ฐมเถึก องค์เองทรงลางพระหคถ์ แลวประทบรออยู่ เมื่อบุรุษนนบริโ หนาแลว จงพระราชทานนำคมและ!จุมากพลแกเขๅ แลืวรบส5งกามว่า บุรุษผู้เจริญ เร่ากล่าว'ว่า เร่'ๅเบน'ทูตน'น เร่'าเบนทูตของ], เขามาถงทน บุรุษนน จงกราบทูลวา ขาแคมหาราช ขาพระพทธเจุๅ เบนทฅของฅณหไ คอกวามอยาก ฅณหาไค้ทำช่ๅพระพทธเจุๅโห์ ทูฅ บงกบใหมา พระเจาขา คงนแขว จึงกราบทลเบนคาถาร่า คนทงหลายย่อมมาจากที่ไกล มาขอก8ผู้'ที่ใม่ใช่มิตร ประโยชน'แก่ผู้ใด ขำมระองคก็เบนทูตตกอยู่ในฐํๅ14ๅ1)ของต้'ณห เพอประโยชนของผู้นั้น คอทอง มระ:!จาข่า ขอมระองค’อย่าใ กร้วเลย มระเจาข่า ชนททาลายตกอยู่ในอำนาจของผู้ใดทะากล และกลางคน ข่ามระพุทธเข่า ก็เบนทูตตกอย่ในอํๅนา1)ของผู้น คอทอง ขอหระองคผู้ทรงหระคุณอันประเสริฐ อย่าใดทรงกร') ข่าหระพุทธเจาเลย หระเข่าข่า เมื่อพระราชาไคทรงสคบกำของเขาแก่ๅ จึงทรงคำริร่า
๕ ของเขา เพราะว่าส*ฅว่ท1งหลายเข็นทูตของท่อง ย่อมประพฤติเบน'ใป คิวยอำนาจต้ณหาความอยาก ก็ฅ'ณหาย่อมย่งสํฅว์ท่งหลายเหล่านน ให ประพฤติเข็นไป บุรุษนืกล่าวถอยกำเข็นที่ชอบใจชองเรามาก เมื่อทรง ยินดีต่อบุรุษนน จึงคำร*สเข็นพระคาถาว่า เราจะให้แม่โคแก่ท่านหนงพน พร็ฒดำยโคผู้ เพรา!:ว่าเ ก็เข็นทูต จะไม่ใท่,แก่ทูตอย่างไรได แม่!ทและท่านท่งสองก็ ทูต1ของต'ณหา หรือเข็นทูตแห่งท่อาดำยก*น ดํงืน เมื่อกำรํสต้งนั้แลำจึงทรงโสมน\"สคำร*สต่อไปว่า เหฅุการณ์ที่เรา ไม่เคยไค้ยินมาก่อน อ*นบุรุษอย่างท่านนึ ไคกล่าวใหใราพงแลำ คิงนื พระองค์จึงทรงพระราชทานยศอ'นใหญ่ใหไ๓เขาแลำ พระศาสดา ครนทรงนำนิทาน'ชาดกนั้มาแสดงแล่ว จึงทรง ประกาศอริยส*พท1ง ๔ แลวประชุมชาดกว่า บุรุษผู้โลเลในกาลนน ไค้มาเข็นภิกษุผู้โลเลเห็นแก่ปากแก่ทองในกาลนั้ โภชนสุทธิกราชาก็คือ ตถาคตอรหนตสมมาสมพุทธ ะ ผลของการพงชาคก ภิกษุนนไค้สำเร็จอนาคามิผล ชนอื่น ๆ เข็นอ*นมากไดบรรลุมรรคผล มีพระโสดาบฅฅิผลเข็นต้นแล. ๒
เรือ'ง'งอนไถ ในสมโ]พุทธกาล พระสงฆ์สาวกของพระสไ]มาส้มพุทธเจา ท ไค้สำเร็จมรรคผล ทรงจำพระธรรมพระวินโ]กำสอนของพระ องค์ไค้ เบนอย่างดี ก็มือยู่เบนอนมาก เช่นพระอานนท์ไค้รไ]ยกย่องว่าเบน ขนคลงแห่งพระธรรม พระสารีบุฅร กึมืบญญาสามารถแสคงธรรม ไคไกือบเสมอเหมือนกํบพระองค์ พระ!]บาลี ก็ไค้รบยกย่องว่าเลิศใน ทางทรงจำพระวินโ] ส่วนท่านที่เบนแค่เพียงรู้แลวปฏิบ้คฅนขอ ให่ถึงมรรคผล ก็มือยู่มากเช่นก็น ท่านที่เบนปุถุชนยงไม่ไค้สำเร็จ มรรคผล แค่ทรงจำพระธรรมวินโ]ไค้ก็มี ท่านที่ทรงจำอะไรไม่ค่อยไค้ และปฏิบฅฅนยง,ไม่สำเร็จ ทะงยํงท่าคนใหใบนที่บ่นว่าของภิกษุอื่น อยู่ ในบรรคาท่านเหล่าน มือยู่รูปหนึ่ง คือ พระอุทายี ท่านก่อเรื่อ ก่อราวเกรียวกราวขนในหมู่สงฆ์หลายครงหลายหน บางเรื่องเบนเหฅ ใหพระองค์ทรงบ่ญญฅสิกขาบทเบนพระวินโ]บ่ญญคแก่พระสงฆ์ ก็ อย่หลายเรื่องหลายสิกขาบท บางเรื่องบางครงเบนเหฅุให่ทรงนำ1ชาคก ทรงช่กอดีฅนิทานในกาลหลงมาเล่าใหพระภิกษุสงฆ์พง ก็มีอยู่'หลาย เรื่องหลายชาคก ที่เกี่ยวแก่พระอุทายี ผู้จำอะไรไม่ค่อยไค์ และม อวคฅํวถือค่วแข่งดี กลากล่าวยกคนเบนคู่แข่งกไพระอกรสาวกทง ๒ คือพระสาร็บุฅร กไพระโมกกลลานะ ก็มืในบางกรีง เวลาคนเองท่า
๓} เข่าจริง ๆ ก็ผิด ๆ พลาด ๆ จนชาวบ้านเขารำคาญ เพราะท่านจะ สวดจะเทศน์ก็ไม่ถุกกาละเทคะ เช่นสวดไนกาลมงคล แด่ท่านนำเรื่อง ที่ไม่ใช่มงคลมาสาด และก็จบตนชนปลายไม่ถูก ทำให้ภิกษุ ทำหลายกล่าวติเตียนบ่นว่าบ้น จนเรียกชื่อว่า พระโลลุทายี แปลว่า “ พระอุทายีผ้โลเล ” วันหนึ่ง เมื่อภิกษุกำล่งสนทนาบ้นในโรงธรรมสภา กล่าวถึง เรื่องพระโลลุทายี จำอะไรไม่ไคํอยู่ พระผู้มืพระภาคเจาเสด็จมาพ ท่าใหการสนทนาบ้างอยู่ เมื่อพระองดีไดีประบ้บเหนือพุทธอาสน์แล ฅร้สิถามภิกษุเหล่านน,ว่า กำล'งสนทนาบ้นอยู่บ้วยเรื่องราวอะไร เมื่อ ภิกษุเหล่าน8น กราบทูลว่า ไบ้สนทนาบ้นถึงเรื่องพระโลลุทายี กาละเทศะ จะสวดจะเทศน์ก็ไม่ถูกบ้อง ดามเวลาและเหตุการณ์ในที นน ๆ พระองคฅรสว่า โลลุทายี เบ็๋นกนโง่ เพียงแด่'ชาตินึ่เ,ท่านน ก็หาไม่ เธอเคยเบนกนโง่มาแบ้วแด่ชาติก่อนเหมือนกน แบ้วทรง เล่าว่า ในอดีตกาลนานมาแบ้ว พระโพธิบ้ตวั เกิดในสกุลพราหมณ์ มหาศ’ล เมื่อเจริญวัยได้ไปศึกษาวิชาในเมืองตักสิลา จนสำเร็จแบ กลบมาตงโรงเรียนสอนวิชาด่าง ๆ ที่ไค้สำเร็จมา จนมืเด็กหนุ่มม ศึกษาเล่าเรียนจำนวนมากขนโดยลำคบ ทำนักเรียนไปกบ้บและนกเรียน อยู่ในภายในกอยรบใชอาจารย์แทนค่าเล่าเรียน ในบรรดานักเรียน ภายในทำหมด มือยู่คนหนึ่งที่เรียนอะไรจำอะไรไม่ไบ้
๘ ไคหนาลืมหล'ง แม่’แค่เรื่องเล็ก ๆ นอย ๆ ก็ไม่เข2าใจและจำไม่ไค้ แค่รบใชอาจารย์คีไม่เกียจกราน อยู่มาวนหนึ่ง เมื่ออาจารย์ก อยู่บนเคียง ศิษย์นนก็นวคอาจารย์ค2วยความเอาใจใส่จงรกีท้ก กลวเหน็คเหนื่อย ส่วนเคียงของอาจารย์คาไปหน่อย อาจารย์จึ เจาจงหาอะไรมาหนุนเท้าเคียงขนหน่อย เขาไค้ไมมาหนุนเท้าเคียงข็าง หนึง ส่วนอีกขางหนึ่ง หาอะไรหนุนไม่ไท้ จึงสอคขาของคนหนุนไว้ และนงอยู่ ผายอาจารย์ก็หลบไปอย่างสบาย พอจวนสว่างตื่นขน ศิษยคนนน ท้งท้งอยู่ จึงถามว่า เท้าน่ง้อยู่'ทำไม เขาจึงกล่ อะไรมาหนุนเท้าเคียงอีกท้างหนึ่งไม่ไท้ จึงไค้ใชขาหนุนไท้ ฉ ไค้น4งอยู่อย่างนึ่ อาจารย์จึงเกิดสิงเวชและสงสารมาก และนึกว่า เด็ คนนืโง่ไม่สามารถจะเรียนวิชาอื่น ๆ แด่มีอุปการะรีบใช้เราดีเหลือเ ควรที่เราจะหาวิธีทำใช้เขาฉลาดให้ไคิ' เมื่อนึกอุบายว่าเราจะ สอนเขาใหฉลาคขิน คิว่ยค1งช้อถามให้ร้ช้กเปรียบเทียบของด่ คิวยของที่คลายคสิงกิน, เมื่อเช้าใจเปรียบของอย่างนึกิบอย่างนน เหมือนกนฅช้ายกน ได้ทีแลว จึงจะสอนวิชาที่เบนอาชีพแก่เขาท ในภายหสิง่ แด่,ในฌั้องคินต่องผึกให์ฉลาดเสียก่อน แลวเราค ฅงบญหาถาม ในเมื่อเขาไปหาไมหาผกกลบมา ว่าเช้าทำอะไร เช้าไคโห็นอะไรมาช้าง ช้าเขาตอบว่าได้ทำอย่างนน ไคเห็นสิงน แลวจะถามเขาใช้เปรียบเทียบว่า สิงที่ไช้เห็นนั้นเหม ช้าเขาคอบเปรียบไช้ บอกเหฅุที่ทำไช้ เขาก็ค่อย ๆ ฉลาดขั้น
๔ เมื่ออาจารย์ข่งใจไวอย่างนื แลวได้สงว่า ถ'าเจ่าเช้ไปบาไข่เห็น ไค้ทำได้ดื่มไค้กินอะไร เวลากลบมาให้จำมาบอกอาจารย์ทุกครีง์ พอ อยู่มาวันหนึ่ง ศิษย์โง่คนนVไข่เช้าบ่!าหาไมหาลักกบบรรดาศิษย์อ พอกลับมาเขาก็ไคบอกอาจารย์ว่า วันนึ่ไข่เห็นงูข่วหนึ่ง อาจารย์ ถามว่า งู มีรปร่างเบนอย่างไร ศิษย์ ฅอบว่า งูนน ก็เหมือน ๆ ก'บงอนไถ อาจารย์นึกว่าเขาเข่าใจเปรียบเทียบดี เพราะงู เมื่อมน'ชุคอขน ก็คลัายงอนไถ เด็กคน'แกงจะฉลาดขั้นแน่ จึงชมเชยว่า เจานึ่เข่ เปรียบเทียบ เข่าพูดถูก เปรียบถูก เพราะงูเหมือนลับงอนไถไข กร1นฅ่อมาอีก เมื่อกลบจากบา ศิษย์กนนน จึงบอกอาจารย์ว่า วันนึ่ ผมไข่เห็นข่าง อาจารย์ถามว่า ช้างเหมือนลับอะไร ศิษย์โง่จึงฅอบ โคยไม่ข่องกิค เพราะวันก่อนเคยเปรียบงูเหมือนงอนไถ ไค้รีบชมจาก อาจารย์ จึงคอบอาจารย์ว่า ข่างลันก็เหมือนงอนไถ อาจารย์นึกว่า บางทีเขาเห็นไม่ถน่คเห็นเพียงแค่งาหรืองวงก็อาจเบ็'นไค จึงไข่เปรียบ เทียบอย่างนน จึงนึ่งเสีย ทีงใม่ข่านและไม่ชมอย่างวันก่อน ศิษย์กนนน ไข่เข่าไปในบืา แลวมาบอกอาจารย์ว่า พวกผมกินอ้อย กน อาจารย์จึงถามว่า ออยเหมือนกบอะไร ศิษย์นนฅอบโดยไม่ ฅ่องคิดว่า เหมือนงอนไถ อาจารย์นึกใหกวามเบนธรรมว่า อ้อย ลำคดก็อาจดกข่ายลับงอนไถไข่ จึงนึ่งไม่ว่ากระไรอีก ต่อมาวั มีการเลยงลัน'ในระหว่างศิษย์ข่ายลัน โดยไข่เลั้ยงนมส้มบ้าง
๑0 บาง เมอเลยงกนเรียบริอยแลว อาจารย์จึงเรียกศิษยกนนนเขามา ถามว่า วนนเลยงอะไรกน เจาริบทานอะไร ศิษย์นนจึงฅอบว่า ผ คมนมสคครบ อาจารย์ถามว่า นมสคนนเบนเช่นไร ศิษย์นนจึงศิค อย่างกระหยี่มยมย่องแลำฅอบว่า นมสก เหมือนกบงอนไถ ผาย อาจารยเมอไก่พงเช่นนน กถอนใจแล2วกกว่า เปรียบเทียบของอื่น ๆ กบงอนไถนน พอจะมืทางเบนไปไค้บาง ในบางอย่างบางส่วน แก่ นมสคน ว่าคำยฒขาว ว่าคำยกวามเบนวฅถุก็เบนของเหลว หรือจะ ว่าถึงภาชนะที่บรรจก็เปรียบฒังอนไถไม่ไค' จึงหมกหวงในการที่จะ ผีกศิษย์กนน ใหํฉลาค'ไค้' ศิษย์'ใน'ชาฅิโนน มาเกิคเบนพระโลลุทายี กนเราทีฉลาคไค ก็ก่องอาศย การพง การกิค การอบรม ที่ถูกก่อง และเพราะบุญกุศลที่ฅนเคยอบรมส่งสมไว\" คำยการใหทาน รกษาศีล และเจริญภาวนา ก็แลการใหทาน เช่นการสรางโรงเรียน ธรรม สฑ้งหรือปฏิสังขรณ์โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ หรือบำร ผูศกษาเลาเรยนธรรม กเบมเหกุเบนบจจยใหไครบผลกอกวาม เบนผูฉลาค ในชาคภพทเกคนน กุ การรกษาศลเพยงขอเวนจๅฦฤๅร ดื่มนาเมา ก็ใหผลเบนกนมืสฅบญญา การเจริญภาวนาอบรมวิฅใจุ ใหผองใสควยคุณธรรม กเบนเหกุนามาซงกวามเม)‘แค้ฉลากโม่โร่ เขลาแล.
6 เรอ'3เลือกใคร ในที่,ชายบืา ไม่ไกลจากคำเมืองสาร่ต่ถี ซึ่งเบึนนครหลวงของ แควนโกศลเท่าไรนก มีบ่านอยู่บ่านหนึ่ง เบนบ่านชาวนา คนใน ครวนนํ้มือยู่ ๔ คนควยกน คือหญิงหนึ่งชายสาม มีความสมพน๓ ในกรอบกร'ว่บ่งนึ่ คือ หญิง เบ็1นนองของชายคนที่ ๑ เบ็่นภ ของชายคนที่ ๒ ฌ็นมารดาของชายหนุ่มคนที่ ๓ ชายคนที่ พี่ชายของนาง ชายกนที่ ๒ เบ็1นสามีของนาง ส่วนอีกคนที่เบ่นเด็ก หนุ่มเบ่นบุตรของนาง เมื่อก่อนครอบกรำนึ่ ก็มีมารดาบิคาของนาง ร่วมอยู่ควย แค่ต่อมา ท*งมารคาบิคา ก็ไค้ถึงแก่กรรมล่วงลบไป คง เหลือแต่นางบ่บพี่ชาย เมื่อนางไดแต่งงานมีสามีและบฅรแลำ ส่วน พี่ชายก็อยู่เบี่นโสดตลอดมา และไม่เกยไดไเยกกรอบครำไปอยู่ที่ อาศโเอยู่บ่บนองและหลาน ช่วยบ่นทำนาพอไคโลั้ยงกนอยู่อย่างผ ตลอดมา พวกโจรซึ่งอาศโ)อยู่ในบืา ไดยกพวกไปปล ค่อมาวนหนึ่ง บ่านชาวบ่านแถวชานเมืองส'เร่ค่ถึ แลำถณ'จ่าหนำที่และ'ชาวบ่า'นฅิค ตามมาทางบ่านของคนท1ง ๔ นน เมื่อเร่าหน้าที่และผู้ติดฅามโจร ผู้ร้ายมานน ไม่พบผู้ร้าย ก็พากนเขาใจว่า ชายท1ง ๓ ซึ่งอาศโ)อยู่ ในบ่านนึ่น์เบ็่นผู้ร้าย จึงช่วยบ่นจบกุมฅวชายทง ๓ คนนน คือพี่ช
6) เ55 สามและบุฅรของนางไปถวายพ7ะเ.จิ''ๅบั๋สเสนทิโกศล ใหลงโทษจำขํ ผายนางกมกวามเบนห่วงผูทีเบนทีรคบพู ๓ คนเบ็1นอย่างย็่ง นาง จงเดฅดฅามไป เดนรองตะโกนม้วยเสียง0''นผิ'ง ข,'ๅง 6-เ พร;;รๅซวงว่า ขอผาห่มให้ฉน ๆ ’ แม้ใครจะถามอย่างไร นางก็ไม่พูดจุๅม้ คงรองขอผาห่มอยู่อย่างนน จนความทราบถึงพระเม้าผิสแ,นที!ก พระองกรงรบส่ง'ใหเ'จาหนาทีห่าผิๅห่มไปพระราชทานแก็นาง แค่นาง หายอมรบไม่ เมื่อเจ,'าหนาที่ถามว่า ก็เธอรองขอม้าเห่ม เมื่อให้ผ แลวทำไมจึงไม่ยอมรบเล่า ? นางจึงตอบว่า ไม่ใช่ผิ'าห ใหทรงทราบว่ เจาหนาที'จงเขา'ไปกราบทูลพระเจ่าบสเสนที!กศล นางไม่ยอมรบผิ'าอย่างน็ พระราชารึงทรงใช้ให้ไปห่าตวหญ เขพาเผา เพือพระองก'จะไม้ทรงซผิถามม้วยพระ0งผิ,อง เมื่0นางถุ นาฅวเขามาเผาแลว พระเจากรุงสาวตสี จึงดำรสถามว่า เจ,'ๅจุะตอง การอะไร จึงเที่ยวส่งเสียงรองขอผิ'1ห่ม แต่พอเขาให้ม้าห่มแล ยอมรบ กลบกล่าวว่าไม่ใช่ม้าห่มอย่างห่ เจ่าจะตองการผ ขนาดไหน นางจึงกราบทูลว่า แม่น8ใ-มอไม่มน'าก็เบี่นแม่1!1ว่างม้ฎ ถา’ไม่มพระร!ชาก็ชอว่ารฐ้ว่า4 หญิม้นํ้คขม่ลๅม่ ม้ากลVIม่ม่ลๅ ก็ชอว่าหญิ]เปล่า หรอหญิงม่าย เพราะขาดส์งที่เคยให่'ค ถึงแม้จะมีพชายถึง ๑0 กน มีม้าห่มดีอย่างไรก็ไม่อบล่นเลย เพร’ๅะ ฉะนน หม่อมฉนตองการม้าห่มที่ใหความอบล่น 1ม้งกราบทูลม เพราะราชบุรุษได้จบสามี บุตร และพี่ชาย ของหม่อมนันมา รา
ชิ๓ ทรงดำริว่า หญิงคนนื พูดจาเข*าทีคี จึงรบสั่งว่า เจ*าพูดถูก เราเห ควย เพราะเจ่า,พูคดีเช่นน เราจะให’เจ*าเลือกเอากนหนึ่ง ในระหว่าง ลูก ผ่ว และพี่ชาย ใน ๓ กน'นน เจ*าจงเลือกไดคนหนึ่ง เราจะปล่อย ให่เบนอิสระไป เจ*พงบอกมาเถิดว่า เจ้าเลือกคนไหน ? นางสงเกฅ เห็นพระราชาทรงมีพระมหากรุณาเช่นนน จึงกราบทลฅ่อไปค*วย ความฉลาด ท*งํ้ ๆ ที่นํ้าใจของนางรกลูกและรกผำเบนอย่าง!!งอยู่ ก็ฅาม นางจึงกราบทลว่า ขอพระองก ได้โปรดพระราชทานพี่ชายให หม่อมฉินเถิด พระราชาจึงริบสั่งว่า เจ้านี่ช่างมารยา คำสั่นของเจ้า กล่าวว่า ผู้หญิงถ’าขาคสามีแล*ว เหมือนกบขาดผ่าห่ม จึงได’มาขอ ผ่าห่ม ซึ่งหมายถึงสามี แด่พอใหใลือก เจ้าเบนแม่ ควรจะเลือกลูก เพราะเลือดในอกของฅน หรือควรจะเลือกสามีซึ่งเบื่นผ่าห่มที่ใหกวาม อบอุ่น ทำไมเจ้ากลบใจไปขอพี่ชายเล่า นางกราบทูล'ว่า ธรรมคา ผู้หญิง เมื่อสั่งไม่แก่ เมื่อเบนม่าย ก็สามารถที่จะหาสามีใหม เมื่อมีสามีแล*ว์ การมีบฅรก็จะมีอีกไสั่ แต่สี่งที่จะหาไม่ไค้อีกในโลกนี ก็คือพี่ชาย เพราะมารดาบิดาของหม่อมฉินไค้ถึงแก่กรรมไปหมดแล*ว จึงจะหาพี่ชายไดแด่ที่!หน หม่อมฉัน กดสินใจเลือกผู้ที่หาไม่ได้อีกแลว คือพี่ชาย พระราชา จึงทรงโสมฉัส ในวาทะชองนางเบนอย่างยี่ง จึงรบ สงว่า เจ*าพูคถูกจริง ๆ เพราะเจ้าพูดถูกอย่างนี่ เราจะ'ใหกนท*ง ๓ แก่เจ้า จึงรบสั่งให้นำคนท1ง ณ นนมา แลวพระราชทานอภโ] ให์เบ ๓
๑๔ อสระไปทง ๓ กน กนทิง ๔ กไคทราบซงในพระมหากรุณๅถิกุณ ร!องพระร เชาเบนอนมาก แลวกราบทลลากลบไปสม)ๅน อยกนมา โคยผาสุกฅ่อไป เรองนเบนกคิอย่างไรบาง ผู้อ่านใกร่กรวญคเถิก.
เรือ'ง นายรินทะ คามณื ในอดีตกาล เมื่อพระเจ่าพาราณสี ทรงพระนามว่า ชนสนธะ คร8ง์นนพระโพธิค้ฅว์ไค้เบนพระราชโอรส ซึ่งประสูติจากพระอกรมเห พระพกฅรของพระราชโอรสนน บริสุทธ สวยงามยง เหมือนอย่างกระจก ทองที่ข์ดดีแค้ว จึงไค้รีบการขนานพระนามว่า “อาทาสมุขกุมาร” พระราชบิดาไค้ทรงผึกสอนพระราชกุมารนน ในเมื่อพระชนม์ย’งไม่ทิน ถึง ๗ ขวบ ทำใหพระราชกุมารทรงฉลาดในไฅรเพท และราชภาระ ที่ควรทำต่าง ๆ ในโลกใดเบนอย่างดีแล่ว ต่อมาพระราชบิคาก็สวรรคฅ พวกอมาฅยท8งหลายไค้จดการถวายพระเพลิงพระศพของพระราชา ด้วย เกียรติยศอนยึงใหญ่ และบำเพ็ญบุญถวายพระราชกุศลเสร็จแค้ว มาไดี' ๗ วน จึงไค้ประชุมปรึกษาหารือก่นว่า พระราชกุมาร ย้งทรง พระเยาว์นก ยํงไม่สามารถจะอภิเษกถวายราชสมบิตให้ได้ ควรร ไว้ก่อน จำจะตองทดลองคูพระปรีชาเสียก่อน แล่ว้จึงทำการราชาภิเษก ต่อไป ต่อมาวนหนึ่ง บรรดาอมาฅย์ทํ้งํ้หลายเหล่านึ่นจึงไ พระนคร และตกแต่งโรงวินิจฉย และพระราชบลลํ'งกไวแล่,3 จึง ไปทูลเชิญพระราชกุมารใหโสค็จมา เมื่อพระราชกุมารเสด็จมาพรอมด้วย บริวารหม่ใหญ่ แล่ว่เสด็จขนประทบบนราชบิลล่ง์กีนึ่นึ่ เมื่อพร ก มารประทบบนราชบลค้ง์ก์แรียบรอยแล่'ว พวกอมาตย์เหล่านน จึงให้
๑’๖ ลิงใหญ่ฅวหนงทเคิน ๒ เทาไค้,ซึ่งให2ฅกแค่งค้วยเครื่องยศของโหรหล แลวกราบทูลวา บุรุษผู้นเบนโหรหลวง มีความรู้วิชาการ ไค้เบน ราชครูของพระชนกของพระองค้ บุรุษผู้นี่มีความรูถงโทษถึงกณของ รฅนะ ๗ ประการ แม้1ในภาย,ในพนที่ค้วย'วิชาอน'ชำนาญ ที่คงพระ- ราชวงน บุรุษผู้นก็ไค้เบนผู้แนะนำให์เหมือนกน ขอใหพระองคทรง ฅงผู้นไว้ในตำแหน่งเคิมค้วย พระราชกุมารไค้ทอคพระเนฅรคูแค้ว กทรงทราบว่า นีไม่ใช่คนแค่เบนลิง ธรรมคาลิงรู้แค่ทำลายสงที่ สรางไวแลวเท่านน แค่ไม่รู้ในการสรางสรรค้เลย จึงมีคำร็เส'ว่า เค้านี่ ไม่ฉลาคในการสค้างบานสค้างเรือน มีแค่โลเล เหลาะแหละ มีหค้า ย่น ๆ เหมือนเถาวลล ชอบแค่ทำลายของที่เขาสค้างไค้แค้ว สก ของเค้านี่มือย่างนี่ พวกอมาฅย์ทะงหลายทูลรบว่า เบนอย่างนนจุวิงแค้ว ค่อมๅอีก ๒-๓ วน ก็ไคทคลองอก แค่ไม่สามารถจะลวงพระราชกมารไค้ จุ,3 ไค้ทำการราชาภิเษกถวายราชสมบฅ แก่พระราชกุมารสืบสันฅฅิวงศ์ ค่อไป พระราชกุมาร เมื่อไค้เสวยราชย์ เบนพระราชาแลๅ ก็ไค้ทรง ปกครองราชอาณพกรโดยธรรม ทรงทำนบำรุงปานเมือง ไห่'ประชาชน อยู่เย็นเบนสุข ด้วยพระปรีชาสามารถเบี่นอย่างดีดลอดม-1 จุนพระ เกียรติยศลือชาไปทํวชม พูวีป ในกรงนน ด้งมีข่าราชบริพาร ของพระราชบิดาคนหนึ่ง ชื่อ จนทะ คามณี ไค้รบราชการใกล้ชิดพระราชา และไค้เบนพระพี่เ,ลั
๑0ใ) ของพระราชาองค์ใหม่น็ คงแก่ทรงพระเยาวมาค่วย เขาคิคว่า กา รบราชการในพระราชาที่ย์งทรงพระเยาว์น็ ไม่สมควร เพราะคนเบ กนอายุมากแลว ควรลาออกไปประกอบอาชีพส่วนฅว่คามชนบทคีกว่า การรบราชการอาจมีการผิคพลาคไค'เมื่อคิคแลวไคกราบทูลลาออก จากราชการ เมื่อไค้รบพระราชานุญาฅแส่ว จึงไปสรางที่พำนกอาศย ในหมู่บานแห่งหนึ่ง ห่างจากควเมืองประมาณ ๓ โยชน์ เบนที่ทำม หากินคามกำส่งของคน ในอาชีพอย่างชาวนา แค่เบนชาวนาแม้โคสก ค(วหนึ่งก็ไม่มี ฅองยืมฅองเช่าของผู้อื่นเขาไปไถนา และไดไลยงฅน คํวยอาชีพทำนองนึ่มาอย่างผาสุก ฅามประสากนส\"นโคษ ครนกาลต่อมาวนหนึ่ง เขาไค้ยืมโคคู่หนึ่ง ของเพื่อนบานคนหนึ ไปไถนา แล้วไค้ให้กินหเช้ากินนํ้าแลิว ฅอนเย็นไค้นำโกที่งั้คู่ ผ่1ายเจำของโคกำลิงบริโภคอาหารอยู่ฒัภรรยา โคก็เขากอกไ ความเคยชิน ชายเจ้าของก็เห็นอยู่ และยกถาคอาหารชูขนแล้ว ภรรย เลิาของโคก็นำถาดอาหารออกมา นายจนทะ เห็นเช่นนน นึกว่า เขาจะชวนตนให้กินข่าว รู้สึกเกรงใจ จึงรีบกลิบเสีย ไม่ท'นใดบอกเรื่อ ส่งโคคืนใช้ ในคืนวนนนเอง โจรกึไค้ลิกโคท8งคู่นนไป ต่นเช้าเจ้าขอ ไปที่กอก เมื่อไม่เห็นโค แช้จะรู้อยู่ว่าถูกโจรลิกไปเสียแลว ก็ค เราจะเอาค่าโคจากนายจนทะ คามณี จึงไปหาเขาแลิวบอกว่า โคที่ท่า ยืมไปเมื่อวานนึ่ขอให้ส่งคืนเถิด เขาจึงว่า ก็ฉนได้ส่งคืนแล้ เช้าของโคจึงว่า ก็ท่านไดบอกมอบคืนหรือลิง นายจนทะ กล่า
6)^1 เปล1 ฉนสงโกแล่ว แก่เมอท่านกบภรรยาเห็นอย่ ก็เลยไม่ไล่บอ มอบกน เจาของโคจึงว่า ถากระนน กวามผิคในเรื่องน็ ก็ล่องกกอย่ กบทาน นเบนราชทูก ท่านจงไปกนเถิก เพอเผ้ากราบทลพระราชา ใหทรงวินิจฉย 1นสมยนน ในชนบทเหล่านน ถือกนว่า เมื่อใกรยก สงใคสงหนง เชนกอนกรวก หรอท่อนกระเบองเบนล่นขนแล่ว กล่าวว่า นเบนราชทูก ท่านจงไปเถิก ถาใครไม่ไปย่อมมีความผิคเท่ากบข็ก คาสงเจาพนกงาน เจาทุกขสามารถที'จะเชิญหรือคุมผ้ก5องบาไปเผ้ พระราชาเก เพราะฉะนน นายจนทะ กามณ พอไล่ยินคำว่าราชทก เทานน กฅกเบนผูกองหา จงออกเกนกามเจุๅของโกไป นิเบนขอหา กระทงที่ ๑ 1 เมอกาลงเกน [ปกบเจาของโกนน ไล่ผ่านบานเพื่อนสนิทกนแห่ง หนง เขาจงขออนญๅฅก่อเจุๅของโกนนว่ๅ จะขอแวะที่บานนิขออาหาร เชาบริโภคเสยก่อน ล่งแก่เชามายิงไม่ไกบริโภคอาหารเกย เจาของ โกกอนุญากใหแวะไก กนเองรออยู่หนห้ประกูนำน นายจุนทะ ไล่เข ไปในบานเพอนใมพบเพอนกนนน เพราะเขา เมอย ไกพบแก่ภรรยา ของเขา นางแสคงคารวะล่อนรบเบนอนกี และถามว่า ท่านไปไหนมา จงไดผ เนมาทางน นายจนทะ จงกลาววา เพราะมเรองมกกเลกนํอย จงถูกคุมฅวผานมา กงแกเชายง[มไกบร [กกอาหารเลย ห็วเก็มทีแล่ว จึงไล่แวะเข์ามาเยี่ยมสหายของเรา เพื่อจะไคขออาหารสฦมื่อ1ถิก เมื่อ นางไล่พงเช่นนน จึงกล่าวว่า อาหารที่สุกแล่ว่ไม่มีเลย ขอให้ท่ๅ
6)6\" รอด้กกรู่เถิด ดิฉันจะหุงให้ใหม่เดี๋ยวนื นางจึงรีบพัแจงเพื แฅ่ขำวสารได้เก็บไวบนที่สูง จึงเอาท้นไดพาดแล*วรีบขั้นไปหยิบข้วส แด่นางกำด้งมีครรภ์ได้ ๗ เดือนแล*ว ด้วยอาการที่รีบรีอ์น บนไดก พลาดลง นางได้ดกลงมา อาการเจ็บท*องก็เกิดขั้น กรรภของนาง ก็แท้3 พอดีชายผู้เบ็่นสามีมาท้น เห็นภรรยาของคนกำด้งเจ็บปวด และร้ว่าลูกในท้องไดแท้งเสียแลวเช่นนน ก็มีความโกรธเคือง ไม่ทน ได้ถามถึงสาเหฅ ก็กล่าวว่า ด้นทะ คามณี ได'ทุบดีภรรยาของฅน แลวกล่าวพร'อมฉับยกด้ฅถุสีงหนึ่งขั้นว่า นึ่ราชทูฅ แด้วนำนา คามณี ออกไปพบด้บเด้าของโค ช่วยท้นขนาบขำงใท้นายด้นทะเ กลาง เพื่อไปเผาพระราชา ด้นนึ่เบื่นขํอหากระทงที่ ๒ ครนเดินต่อมา ผ่านหน้าท้านแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มกนหน ไล่ด้บมาที่วิ'งเฅลิดไม่ยอมให้จบ และท้นนไค้วิงไปทางที่คนทีง มา เด้าของท้าพอเห็นก็จำนายด้นทะได้ ก็ร’องตะโกนไปว่า ลุงด้น ช่วยเอาอะไรปาท้าให้ท้นมาทางนั้ด้วย นายด้นทะจึงได้หยิบท้ ขด้งไปท้นที ท้อนหินไปถูกขาท้าท้ก เหมือนท้บปาก็งด้นละหุ ฉะนน เด้าของท้าเห็นก็ฅกใจ และพูดว่า ท่านไค'ปาท้าของฉันขา นึ่เบี่นราชทูฅ แลวเขำเดินดามหด้งไป เบี่นด้นว่านายด้นทะถูกขนาบข้าง ทีง์ ๒ และขำงหลงด้วย เพื่อไปเผาพระราชาใหทรงวินิจฉัย เรื เบึนขํอหากระทงที่ ๓ เมื่อคนทีง ๔ กำด้งเดินไปนึ่นึ่ นายด้นทะ มีความกด้วต่อพระ-
เ23 0 ราชอาญาเบนอย่างยง จึงคิดว่า เรานึ่ช่างเคราะห์ร่ายจริง เพียงเว ใกล ๆ กน ก็ถูกขอหาถึง ๓ เรื่องแลว ค่างว่าเราถูกจำขำก็เบนเวลานาน แก่ดายในกุกแน่ ถ้,!ถูกปร็บก็ไม1มีก่าปรบจะใช่เขา เราจะอย่ไปทำไม ทายเสียคีกว่า เมื่อเดินม่านหนำเขาลูกหนึ่ง ซึ่งมีด้านหนำ ขนไป แค่คานหลงมีชะโงกผาชนและสูง นายจนทะ คิดอุบายไค้ จึงบอกกบกนที่กุมมาทง ๓ นน'ว่า ปวดทองจริง ขอได้โปรดให์แวะ เขาไปทำธุระในที่นึ่สกหน่อยเถิด คนที่ง ๓ ก็อนุญาฅให้ไป เห็น'ว่าด้านหลงเขานํน่ช่น่ คงจะหลบหนีไปทางไหนไม่ได' เมื่ จนทะ ได้รบอนุญาฅจากกนท1ง ๓ แลว ก็ออกเดินไปอย่างรีบเร่ง พอขึ่นบนภูเขาก็วิงอย่างเร็วจนไปถึงหน':ผาชน่ แลวกระโจนลงไ ในทีนนช่างจ5กสาน ๒ คนพ่อลูก ไดมาอาศย่ร่มเงาชะโงกผานนสานเสื่อ ลำแพนอยู่ อย่างไม่ได้นึกผนว่าอน่ฅรายจะบำเกิดขน ทน'ใดนนเอ ร่างของนายจนทะ ที่กระโจนลงมา พอดีกบ'ช่างสานผู้เบนพ่อกำลำ กมหนำสานเสื่อลำแพนอยู่ ก็ถูกร่างของนายจนทะ ทบลงพอดี ชาย เคราะห์รายนน หนำกระแทกกบพีนอย่างแรงก็ขาดใจฅายทนที ส่วน ลูกชายเห็นเช่นนน ก็รองขนว่า ด้ายโจรฆ่าพ่อฉํน่ นึ่รๅชทูด แล กุมด้วนายจไเทะออกไปยำทางใหญ่พบณังคนทง ๓ ที่ลำลำรออย่ เล่ ความให้พีงว่า นึ่โจรฆ่าพ่อฉน เรื่องนึ่เบนช่อหากระทงที่ เมื่อคนท1ง ๔ ซึ่งเบนเจึาทุกข์ดำยกไเกุมนายจนทะไป ด้วยความ ระมดระวง กอขนาบทำ ๒ ขาง และกุมหนากุมหลงให้น่ายด้นทะ
I© ชิ เดินท่ามกลาง ไม่ใหหลบหนีได้ต่อไป เมื่อเดินผ่านหมู่บานแห่งหนึ่งไป ผู้ใหญ่บ้านกนหนึ่ง เห็นแล่วจึงถามว่า ลุงจนทะ จะไปไหน เมื่ เขาตอบว่าจะไปเผ่าพระราชา จึงถามต่อไปว่า เมื่อไปเผ่าพระราชา จริง ๆ แบ้ว ฉั’นํขอฝากข่าวสาส์นไปถวายพระราชาบ้วย ขอให้ช่วย นำไปทูลถามบ้ายเถิค เมื่อนายจ*นทะรบว่าไบ้แลว ผู้ใหญ่บ้านนน จึงกล่าวว่า เรา'ไบ้ทราบ'ว่าพระราชาองค์'แอย ทรงมีพระปรีชาฉลากม ท่านช่วยกราบทูลถามควยว่า ฉไเนึ่แฅ่ก่อน เบี่นผู้ใหญ่บ้าน ตามปกฅ มีรูปสวย และมีทร่พย์ มียศ ไม่มีโรค แต่เดี๋ยวนั้ฅรงกนํบ้าม เบี่นคนยากจน และมีโรคผอมเหลือง เบนเพราะเหตุอะไร ขอได้ช่วย ทูลถามให้บ้าย และ'จำพระราชดำร*สตอบมาบอกฉํนบ้าย นึ่แหละเบ็่น ข่าวสาล่นของฉ่น อ’นนึ่เบื่นบ้ญหาบ้อที่ ต เมื่อชาย ๕ คนเดินต่อไป นายจ'นทะก็ได้ร*บฝากบั๋ญหาไปอีก ช่อห'นึ่ง ซึ่งหญิงคณิกาหำทบ้าโสเภณี ส'ง้ใบ้กราบทูลถามพระราชา ก่อนแท่น,พวกฅนมีอาชีพดี ม'งบ้ง มีคนมาไม่'โบ้ขาด นำลาภมาให้ แต่เดี๋ยวนึ่ ยากจน กนก็ไม่มา แบ้แต่บ้าวสารจะหุงกินก็หายา เรื่องนึ่เบ็นเพราะเหตุไร ขอได้ช่วยทูลถาม แบ้วนำความมาบอกบ้วย นึ่เบืนบ้ญหาขอที่ ๒ เดินต่อไป ก็พบหญิงสาวคนหนึ่งขอใบ้ทูลถามพระราชาว นางเองนน อยู่บ้านสามีก็ไม่สามารถจะอยู่ไบ้ จะอยู่บ้านเดิมของสกุลบ ก็อยู่ไม่ไบ้ เบนเพราะเหตุไร นึ่เบี่นบึ๋ญหาบ้อที่ ๓ ๔
เ23ใ© เหินห่อไป พบบญหาเข่าว่า มีจอมปลวกอยู่แห่งหนึ่งมีง อยู่ในจอมปลวกน1น เวลาจะออกไปหากินที่ง ๆ ที่หิวและผอม ก็เลอย ออกไปจากช่องเล็ก ๆ ที่จอมปลวกนนได้ยากมาก แห่พอหากินจนอื่ม ลำตวใหญ่ เวลากลบมาจะเข่าในจอมปลวก ทง ๆ ที่ช่องทางเข่าไปเล็ก แห่เข่าไปไห่อย่างรวกเร็ว ด้งนั้ เบนบญหาที่มีผู้ฝากให่นายจนทะ ทลถามพระราชา เบนบญหาข่อที่ ๔ เหินห่อไปอีก ก็มีผู้ฝากบญหาไปทูลถามพระราชาอีกว่า เนึ่อ ด้วหนึ่ง ไม่ยอมไปหากินหญ้าในที่อื่น คงหากินหญ ด้นเคียวเท่านน ๓นเพราะเหตุไร นึ่เบี่นบญหาข่อที่ ๕ เหินห่อไปอีก ก็พบผู้ฝากบญหาอีกขอหนึ่งว่า นกกะทาฅำหนึ่ง จ*บอย่และข’นอยู่แห่ที่จอมปลวกแห่งเคียวเท่านน. ไม่สามารถไ และข*นที่อื่นเลย เรื่องนึ่เบึนเพราะเหตุไร นั้เบนบญหาข่อที่ ๖ เหินห่อไปอีก ก็ได้ร*บบั่ญหาจากรุกขเทวดา ซึ่งปรากฎแห่เสียงว่า นายจ*นทะ ท่านไปเผ้าพระราชาผู้บัณฑิฅทรงพระปรีชาเฉียบแหลม อย่างยง พระองค์น้อยนนแนัว ท่านช่วยทูลถามและกลบมาบอกเราด้วยว แห่ก่อนนึ่ พวกมนุษย์ได้นำลักการะมากระทำพลีกรรมบวงสรวง เรา ไค้ร’บเครื่องพลีกรรมจากมนุษย์เหล่านน จึงอย่อย่างผาสุกลำราญ แห่ เดี๋ยวนึ่ พวกมนุษย์หาได้ทำเช่นนนไม่ กลับไม่นับอีอเรา เราจึง เครื่องสกการะ บวงสรวง ข่อนึ่เบี่นเพราะเหตุไร ท่านทูลถามไดกวาม แลว ใหกลบมาบอกด้วย นึ่เบนบญหาขอที่ ๗
120๓ เดินฅ่อไป พบสระแห่งหนึ่งมีพระยานาคอยู่ประจำในสร นายร่น'ทะ ได้ร*บบ้ญหาอีกว่า แค่ก่อนนาในสระนึ่ใสสะอาก ประอุจแกว แค่บัคนึ่ นึ่าในสระนึ่ชุ่น และถูกปกคลุมไปควยผ*,กหญ้าค่าง ๆ ขอน เบนเพราะเหอุไร นึ่เบี่นบญหาขอ,ที่ ๘ เดินค่อไปถึงสวนใกลพระนคร ในสวนนนมีพวกพระฤษีคาบส อาศโ)อยู่ พระฤษีเหล่านน จึงตํง๎บ้ญหาฝากไปว่า แค่ก่อนมา ผ น้อยใหญ่'ในสวนนึ่ มีรสดิ หวาน และมีรสดีฅามธรรมชาดิของไม้ แค่บ้คนึ่ผลไม่ทุกอย่างเปลี่ยนรสไปหมด มีรสฝาดบ้าง เปร ไม่ดีเหมอนอย่างแค่ก่อน เบี่นเพราะเหอุไร ขอท่านไคชวยกราบทูลถาม แบ้ว่นำมาบอก,พวกเราค*,วย นึ่เบ้นบ้ญหาขอที่ ๙ กรนที่ง๎ ๕ กนเดินมาถึงศาลาหน้าประฅพระนคร มีพวกพราหมณ หนุ่ม ๆ ทราบว่าพวกนายข้นทะ จะเข่าไปเผ้าพระราชา จึงฝากถาม บ้ญหาว่า แค่ก่อนพวกเราท่องมนฅไก,แม่นยำชำนาญดี ไค*แล*,วไม่ลืม ไม่เลือน มาบ้ค์นึ่ พวกเราจะท่องจะเรียนลึงใคก็มีคมนอนธการไม แจ*ง่ ไค,หน้าลืมหล*ง ข่อนึ่เบนเพราะเหอุอะไร ขอท่านไค*,ทูลถาม พระราชาแบ้,วกลบมาบอกแก่พวกเราด*’วย นึ่เบื่นบ้ญหาข่อ์ที่ @๐ นายจนทะ จำบ้ญหาท1ง์ @0 ขอนนไคเบนอย่างดี แลวเดินเข้าสู่ พระนคร ไปยำท*องพระโรงวินิจฉโ) เมื่อพระราชาเสค็จออกมาแบ้,ว เข้าของโก ซึ่งเบี่นเข้าทุกขคนที่ ๑ ก็นำนายจนทะเข้าเผ้าทนที ราชาทอดพระเนตรเห็นนายจนทะ ทรงจำไควา นายจนทะนึ่ เกยเบ็๋น
123๔ มหาคเล็กรบใช้พระราช{เคาของเรา และเคยอ้มและเลยงเรามา บ*คน ไปอยู่เสียที่ไหนจึงไม่ไค’เห็นหน่าเสียนาน จึงมีพระราชคำร ช้นทะว่า ท่านไปอยู่เสียที่ไหน เราไม่ไคพบท่านมานานแล้ ท่านมาที่นี่ค่วยกิจธุระสีงใคเล่า จงบอกเรามาเถิก นายช้นทะจึงกราบทูลว่า ฒั้แค่ช้าพระเช้าได’-กราบทูลลาออกจาก ราชการแล้-ว ไค้ไปทำมาหาเลยงชีพเบี่นชาวนา อยู่ห่างจากพระน ไปประมาณ ๓ โยชน์ พระเช้าช้า แค่ที่มาในช้นนั้ เพราะไค’-ถูกคุมคัว มาเพื่อไหทรงวินิจฉํย ในขอหา ๔ ช่อ พระเช้าช้า พระราชาจึงร ถามว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหานน มีอะไรบ’-าง กรนแลว เช้าของโก ก็ไคกราบทูลบรรยายข’อกวามของคนให่-ทรงทราบว่า นายจนทะ ไค้ยืมโค ของคนไป ๒ คัว ใช้ไถนาแลว ไม่ส่งคืน พระเช้าช้า ขอ'ไค’-ทรงพระ- กรุณาโปรคให’-นายช้นทะส่งโคนนกืนให’- หรือให้ใชกาโคนนแทนก็ได้ พระเช้าช้า พระราชาจึงร'-บสงถามนายจ'-นทะว่า เบื่นจริงคังโจท เขาพ้องช้องหรืออย่างไร ขอใหบอกรบมาคามกวามเบื่นจริงเถิค นาย ช้นทะจึงกราบทูลว่า การยืมโคเขาไปไถนาก่หนึ่งนน เบ็!นความจริง แค่กำพ้องที่ว่าไม่ได-ส่งคืนนน ไม่เบี่นความจริง พระเช้าช้า ช้าพระเช้าไคสงคืนแล้-ว ที่งโคก็เช้าไปในกอกแล้-ว เช้าของโกและ ภรรยาก็เห็นอยู่ พระเช้าช้า พระราชาจึงคำร'-สถามเช้ของโคต่อ คามที่จำเลยเขาบอกว่าส่งโกแล้-วนน จริงหรือไม่จริง เช้าของโก กราบทูลว่า ไม่จริง พระเช้าช้า พระราชาจึงรบส่งว่า ท่านอย
หลอกลวงในกำไม่จริงกบพระราชาเช่นเราเลย ใหพูคกวามจริงเถิด เขาจึงกราบทูลรบว่า นายจนทะ นำโคไปเขากอกจริง แค่ไม่ไคบอก ส่งกืนพระเจำขำ พระราชาจึงทรงวินิจฉัยว่า เมื่อเข'ส่งคืนท่านเห ความผิดตกอยู่กบนายจนทะ เพราะไม่บอกส่งคืน ใหนายช้นทะใช้ค่าโ ๒ ตำ ๒๔ กหาปณะ แค่กำที่โจทกพูดเท็จแก่เรา ในคำล้นว่าไม่ และไม่ไล้เห็นนนเบึนการพ้องเท็จ ปงอาจมาพ้องเท็จว่า ไม่เห็ ให์ก์วกลูกตาทง์ของท่านและของภรรยาท่านเลียทํ้ง ๒ ตา ที่งั้ ๒ คน เม ทรงวินิจฉัยขั้ขาคอย่างนึ่แล้ว ราชบุรุษคุมตำเช้าชองโคออกไปภายน เช้าของโคนนตกใจกลำ จึงหมอบกราบล้อนวอนต่อนายจนทะ ให็ช่วย ขอพระราชทานอล้ยโทษแก่ตน ล้วยรำพึงว่า เมื่อคนเราตาบอดหมด เสียแลํว่ กหาปณะจะมีประโยชน์อะไร นายช้นทะกรบ ขอไล้บึนที่พึ่ง ควยเถิค ค่าโก ๒๔ กหาปณะ ฉันไม่ขอรบเลย และจะใช้ใหทานอีก เท่าค่นิดวย เมื่อนายช้นทะยินยอมและขอพระราชทานอฉัยโทษใหโเลว เช้าของโคก็ใชกหาปณะใหใเก่นายช้นทะแล้ว ก็รีบกล้บบาน เสร็จค สำนวนหนึ่ง ส่วนสำนวนที่ ๒ นน เมื่อพระราชารบส่งให้โจทก์เ หนำพระราชปลล้งก์แล้ว เขาไล้กราบทูลบรรยายพ้องว่า นาย ไคิทุบตีภรรยาของเขาจนครรภ์ตกเด็กตาย พระเช้าช้า พระราชา จึงรบส่งถามนายช้นทะว่า เบื่นกวามจริงดงนนหรือหาไม่ นายช้นท จึงกราบทูลเล่าเรื่องราวของตนจนถึงแวะเขาไปขออาหาร นางผู้ภรรยา
เ5วไว โจทก์ไคบนบไเไคขนไปหยิบข2าวสารซึ่งอยู่ในที่สูงแล็วบนไคพลาค น พลคฅกลงมาเอง และลูกในที่องแท้ง ขาพระเจ าไม่'ไท่ทาร้ายทุบดี ประการใดเลย เบ็!นกวามจริง พระเจ่าขำ พระราชาจึงถามโจทกว่า โจทก์ก็'ไห่เห็นเองหรือมีผู้,อื่นเห็นเหตุการณ์'ว่า นายจนทะ ไบ้ทุบดีภรรยา ของท่าน โจทกกราบทูลว่า ไม่ไ1ก็เห็นเอง ท่งไม่มีพยานอื่นรู พระเจ่าขำ ลำกระนน เมื่อลูกในครรภ์แบ้งเสียแบ้ว ท่านอาจจะให้ จำเลยทำครรภ์ที่ฅกแบ้วนน ใหกบ้บภาวะเบนขนในสภาพเดิมไดหรือ ? โจทก์กราบทูลว่าไม่ได, พระเจ่าขำ พระราชาจึงรบสงถามต่อไป บ้ากระน*นโจทก์จะบ้องการอะไร เมื่อโจทก์กราบทูลว่า ท่องการบุ พระราชาจึงทรงวินิจฉย่ว่า ใบ้นายช้นทะนำภรรยาของโจทก์ไปไว้ที่ ของฅน จนนางมีบุกรแลํวเมื่อใด จึงส่งคืนเมื่อนน พอไดว้าราบพระ- ราชวินิจฉ่ยเช่นนน ชายนนก็เบน'ทุกข์ ขอโทษต่อนาย'จ่นทะ'ว่า อย่าได้ ทำลายความสไ)พ้นธในเรือนของกนเลย และได้ใช้ค่าเสียหายใบ้แก่ นายจไเทะแบ้ว รืบกบ้บบ้านเพราะเบนห่วงภรรยา เสร็จคดีสำนวนที่ สำนวนที่ ๓ เมื่อได้รบภ์งใหชายหนุ่มเช้าของบ้าเช้ามาเผ้า ชายเช้าของบ้าจึงกราบทูลว่า นายช้นทะ ไค้ใช้หินขช้างขาบ้ หก พระราชาจึงรบส\"งถามนายช้นทะว่า เบนความจริงอย่างโจทก์พ้ หรือ นายช้นทะจึงกราบทูลว่า ไบ้ขช้างจริงพระเช้าช้า แท่ที่ไ ก็เพราะเช้าหนุ่มเช้าของบ้าไคว้าะโกนขอช้องใบ้ช่วยขช้าง พร พระราชาจึงทรงบ้นมารบส่งถามเจาของมาว่า ท่านใช้เขาใบ้ขช้
เ250^ หรือไม่ เจ่าของน้ากราบทูลว่า ไม่จริงพระเจ่าข่า เมื่อพระ จึงรบว่าไค้ใช้จริง จึงทรงวินิจฉโ]ว่า นายรันทะท่านจงห้ ทู้พูด'ไม่-จริงนเถิด บ่งอาจกราบบ*งกมทูลเท็จฅ่อฺพระราชาเช่นเรา และ ท่านก็จงใช้ค่าน้าให้เขา เพราะขจ่างโดยไม่เจฅนา แต่ว่าเกินกว จงใช้ค่าน้าแก่เขาหนึ่งพนกหาปณะ และให้เบิกจากเจ่าหน้าที่กลงของ แห้วใช้เขาเถิด ชายเจ่าของน้าไค้พ้งห้งนนก็ตกใจกห้วพระราช เบ็่นกำห้ง จึงใช้ทรัพย์ค่าเสียหายแก่นายจนทะ และให้น ทูลขอพระราชทานอภโ]โทษให้แห้ว ก็หลีกไป เสร็จคดีสำนวนที' ๓ สำนวนที่ ๔ เมื่อไค้รับส่งใหนาโจทก์เช้าเผ้าแห้ว เสื่อลำแพน ก็กราบทูลพ้องว่า นายรันทะนึ่ เบ็่นโจรฆ่าพ่ โดยเจตนา ห้วยอาการที่กระโดดลงมาจากผาช้น กระทืบพ่อของเขาถึ แก'ความตายท*นที ยงไม่ทน'ไค้ส่งเสียอะไรเลย เพราะศีรษะกระแทก ก*บพ้นหินพระเจ่าข่า พระราชาจึงรับส่งถามนายรันทะว่า เบน'จริงห พ้องของโจทก์หรือ นายรันทะ จึงกราบทูลเรื่องที่ฅนคิดจะฆ่าห้ว และไค้ว่งมากระโจนลงจากผาชน แต่บ*งเอิญลงไปห้บชายช่างรักสาน ตาย อไแบนเหตุสุควิห้าที่บ่ง์เกิดขนพระเจ่าช้า แห้วพระราชาพระอ น้อย จึงไค้รับส่งถามลูกชายทู้ตายว่า นายรันทะเขาว่าอย่างนึ่ ว่าอย่างไรต่อไป เขาจึงกราบทูลว่า ห้องการไค้บิดาคืนมาพระเจ่าช พระราชาจึงรับส่งแก่นายรันทะว่า ไค้ยินว่าลูกชายของทู้ฅายห้องกา อย่างเดียว ในคำขอนน แต่บิดาของเขาตายเสียแห้ว ใครไม่สามารถ
จะทำให่เบนขนมาอีกได้- อย่ากระนนเลย เพื่อให้เบนไปฅามที่ ขอ ก็ใหนายอ้นทะไปนำมารดาของหนุ่มผู้'แมาเบนภรรยา แล พรอมกนนน ก็ให้เบนบิดาของโจทก์'ด้วย ชายหนุ่มผู้เบ็นโจทก์ เมื่ ไค้พงพระกระแสรบล่งของพระราชาเช่นนนก็ฅกใจ จึงกล่าวอ้อนวอน ว่า อย่าให้ทางห้นเรือนชองอ้าพเอ้]ไอ้เบนไปอย่างนเลย จึงใชกา เสียหายแก่นายอ้นทะ แห้วรีบกลบไปจดการเรื่องศพของบิดาของฅน ต่อไป เสร็จคดีสำนวนที่ ๔ เมื่ออ้อหาที่ง ๔ สำนวนท1ง ๔ กระทง นายจนทะ คามณี เบน ผ็ายชนะเช่นนน และไอ้หลุดพนจากอ้อหาแห้ว ก็มีความยินดีเบนอย่าง ยื่ง จึงกราบทูลพระราชาว่า ในเวลาที่ฅนไอ้ถูกกุมอ้วมาในระห ทางนน ไค้มีผู้ขอรองให้นำบญหามากราบทูลถาม เพื่อทรงพระ วินิจฉโ)และมีพระราชดำรสฅอบ คนจะไค้จำไปบอกแก่เอ้าของบญหา เหล่านนต่อไป พระราชาพระองค์ห้อยไคทอดพระเนฅรดูหน้านายอ้นทะ อ้วย พระมหากรุณาอย่างยี่ง จึงรบล่งว่า เออ บึ้ญหาน8นว่าอย่างไร ขอ ถามมาเบนขอ ๆ ไปเถิด เราจะแก้ให้ ส. บญหาช็อ ส๐ นายจนทะ คามณี จึงไอ้กราบทูลถามสำอ้บบญหาเสียใหม่ ปฏิโลมคอยอนคงแคขอ ®0 ลงไป คาม เส้นทางที่ฅนอ้องเดินกลับไป
จะไคบอกกล่าวแก่ผู้ถามนน ตามระยะหนทางที่ฅนจะกลบผ่านไป ลำคบ จึงกราบทลถามบญหาข้อ์ ®0 ของพวกพราหมณ์หนุ่ม ๆ ท ว่าแต่ก่อนเคยท่องมนต์จำไดใพ่นยำชำนาญกล่องแคล่ว และต่อมาการ เรียนการท่องไม่ค่อยไค- จำไคใเลวลืม มีกวามมืคมว่ไม่แจ่ม,ใสเบึน เพราะเหฅุอ'นใด พระราชาพระองค์นอย ทรงพิจารณาขอบญหานืดว์ยพระปรีชา- ญาณของพระองค์แลว ริบลํ่ง์แ■ก็วา ในสำนกศึกษาของพราหม หนุ่ม ๆ น8น แต่ก่อนนื ไก่ที่ข้นบอกเวลาจวนใกล้รุ่งอย่างแน่นอนมีอย่ พวกพราหมณ์หนุ่ม ๆ ก็ลุกขั้นท่องมนค์จนสว่างแลิวไม่นอนอีก ใดที่ท่องไวไเลิว่ก็จำได้’ แต่ภายหล่ง'ไก่เช่นน1นไม่มี กล*บมีไก่ที่ข้นไ เบนเวลา เช่นข้นในเวลาด้งดึกอยู่บาง และเลยเที่ยงคืนไปบ็าง พวก พราหมณ์ไค้ยินเสียงไก่ขนก็ดื่นขั้นท่องมนต์ควยความง่วง และก็หล ต่อไปอีกจนสว่าง มนต์ที่ท่องแลํว่จึงจำไม่ไค์ เพราะพวกพราหมณ์ เหล่านนนอนไม่เบ็นเวลา และ ลุกขั้นไม่เบนเวลา ท่องกำลิงง่วงจึงไม จำ เรื่องนั้ ใหทานไปถามดูว่าเบนจริงหรือไม่แลิวจะรู้เอง ๒. บญหาฃอ ส' ในบญหาข่อ ๙ น็ ที่ว่าในสวนที่พระฤษีดาบสพักอาค์ยิอย่น แต่กาลก่อนมาผลไม่ต่าง ๆ มีรสตี หวานมนตามธรรมชาติ แต่ภาย หล'งกลิบมีรสฝาก และเปรยวเบนตนนน ทรงแก,ว่า เบนเพราะฤษี ๕
๓0 เหล่านนเกียจกร็านทง์ในการบำเพ็ญสมณธรรมท8งในด่านกิจวฅร แ ปล่อยให่มนุษย์ด่ง์หลายมาเมียดเมียดฅนไม่, เมื่อด่น่ไม้มีผลไม่ท*น่สุก และไม่ไค้ร*ปการบำรุงรสชาติจึงเปลี่ยนไป ต่อไปขอให่บอกดาบสเหล่า นนให้ฅงใจบำเพ็ญสมณธรรมและทำกิจว'ฅรให้ดี แล่วผลไม่จะกลบ รสดีขนเอง ๓. บญทาข๎อ ๙ ในช่อ์นึ่มีคำถามว่า นาในสระแห่งหนึ่งมีนาคอาศ*ยอย่นน ก่อน■นาใสสะอาดน่าดื่ม น่าอาบ แต่มาภายหล่ง น่าในสระกลบขุ่น และรกไปด*วยฒัหญ้าที่ไม่มีประโยชน์ (เช่นทักฅบชวาเบน,อัน) เพราะเหตุอะไร ทรงแด่วา แต่ก่อนมานากท'งํ๋หลายสาม'กกีภันช่วยอัน บำรุงร*,กษาสระน่านน น่าจึงใสสะอาด แต่เดี๋ยวนึ่นากทงหลายทะเลา วิวาทอันไม่รกษาสระ น่าจึงขุ่น (ช่อนั้น่าจะไดโเก่มนุษย์เผ่านากานนเ เมื่อทะเลาะอันไม่สามคกีกัน ต่างก็ไม่ช่วยกนร*กษาสระน่า น่าจึ ต่อไปให่น่ากที่ง์หลายสาม'คดีอัน แล่วน่าก็'จะกล*บใสสะอาดฅามเด ๕. บญหาข้อ ๓! มีบญหาว่า รกขเทวดาผู้อยู่ในคงนน แต่ก่อนไค้ร*ปเครื่องพลี- กรรมบวงสรวงมาก บ*ดนึ่ไม่มีมนุษย์มาทำพลีกรรมบวงสรวง เบี่น เพราะเหตุไร ทรงแด่ว! แต่ก่อนนนเทวคานนช่วยพิทักษ์รกษ มนุษย์ผู้เดินทางให่ป่ลอดภัยจากอันตรายต่าง ๆ มนุษย์ เขา
๓ 5) ทำพลีกรรมบวงสรวง แค่ต่อมาเทวคานนไม่เอาใจใส่พิทกษร'กษา มนุษย์ผ้เดีนทางผ่านไปในที่นน เมื่อพวกเขาไม่ไดความคุ้มกรองจาก เทวคา พวกเขาจึงไม่ทำพลีกรรมบวงสรวง เทวดาจึงขาคลาภต้กกา■ระ ส่อไปให้บอกเทวดาว่า ช่วยพิคักษ์ร*กษามนุษย์ผู้เดินทางให้ ค่าง ๆ เถิด พวกเขาจะทำพลีกรรมบวงสรวงคัวยกวามนํบถือเอง ๕:. บญหา'ย์ยิ ๖ บญหามีว่า นกกะทาคัวหนึ่งชอบจ'บและข*นคัวยเสียงคันไพ อยู่บนจอมปลวกแห่งหนึ่ง ไม่ยอมไปในทื่อื่น เรื่องนึ่เบนเพร อะไร ทรงแกว่า ที่ภายใฅ้จอมปลวกนน มีหม่อทริพย์อยู่หม่อ ท่านจงไปขุดแต้วถือเอาเบึนของคนเถิด ๖. บญหานั้อ ๕: บญหามี'ว่า เนึ่อคัวหนึ่งไม่ยอมไปหากินในที่อื่น โกนคันไม้คันเดียวเท่านน ช่อนึ่ฌี่นเพราะเหตุ'ไร ทรงแกว่ นั้นมีรวงผงและนาผั้งหยดลงมาถูกใบหญ้า ทำให้หญ้าในภายใต้ ไม้นนมีรสหวาน เนึ่อคัวนนฅิดในรสจึงไม่ยอมไปในที่อื่น ให้นาย จนทะไปนำห้วนาผงที่รวงผืงนั้นส่งมาให้เราแต้ว และที ไปบริโภคเสียเองเถิด ๗. บฌหาข1อ ๕ บญหามีว่า งูคัวหนึ่งอาศัยอยู่ในจอมปลวก เวลาหิวม
๓!2ว ซูบผอม ก็ออกจากช่องแห่งจอมปลวกยากแสนยาก แต่พอกินอาหาร อมฅำน้วนท่องกางแลวกลบมารีบเข่าไปในจอมปลวกนน ท1ง ๆ ที่ช่อง เล็กก็เข่าไปไต่อย่างรวดเร็ว ข่อนืเบนเพราะอะไร ทรงแกวา ใฅ้ จอมปลวกนนมีขุมทร*พย์อยู่ งูน*น'ชาติก่อนเคยผงทรพย์ไว่และเบน ห่วงทรพอ แมไวลาจะออกไปหาอาหารกินก็เบนห่วงทร*พย์อยู่ จึงออก ไปไค้โดยยาก แต่พอกินอึมต่วใหญ่ท่องใหญ่ ทางเข่าไปใน้จอมปล แคบ ก็เข่าไปไค้โดยเร็ว เพราะห่วงขุมทรพย์นน ท่านจงไปทำลาย จอมปลวกนน แล่ว่นำทรพย์ไปเบ็1นของตนเสียเถิด งูนนก็จะได้ไป ตามยถากรรมต่อไป เพราะสนห่วงสนก'งวลในขุมทรพย์นน ๙. บญหาข๎อ ๓ บญหามีว่า หญิงสาวซึ่งมีสามีแลว แต่ไม่สามารถจะอยู่ที่ท่ สามีไค\" ' ทงไม่อาจอยู่บ้านพ่อแม่ชองตนไค้ เบนเพราะเหตุไร ทรง แก,ว่า หญิงคนนนมีชายชู้ ในท่านแห่งหนึ่งระหว่างท่านขอ ท่านพ่อแม่ของฅน เมื่ออยู่ท่านสามีสกเล็กน้อยแล่วบอกว่าจะ ท่านพ่อแม่ พอสามีอนุญาตแลว ก็ไปน้างอภิรมอย่น้านชาย หลาย ๆ วน แค้วไปน้างบ้านพ่อแม่เล็กน้อย แน้วก็ลากล'บบอ มาบ้านสามี แลวก็พกค้างอยู่กบชายชู้เสียอีกหลาย ๆ ว*น จึงไปบ สามีเพียงชวว่นเล็กน้อย แค้วก็บอกกบสามีว่าคิดถึงพ่อแม่โคย นึ่เสมอ ขอใบ้นายจ*นทะ ไปบอกก”บหญิงนนใบ้เลิกประพฤติอย่างน8น,
๓ จา เสีย และใหบอกว่า พระราชารู้การกระทำทุกอย่างของนางแลว ย'งขืนประพฤติอย่างนํ้น จะไค้รบโทษอย่างหนก ๙. บื่ญหาข็อ ๒ บื่ญหามีว่า หญิงหวหน้าโสเภณีนน แค่ก่อนมีรายไค้ดี ลาภมาก มีคนมามาก แค่เดี๋ยวน็ ขาคลาภขาครายได แมแฅ่ขาวสาร จะหุงก็ไม่ค่อยมี เบื่นเพราะเหตุ'ไร ทรงแน้ว่า แค่ก่อนนน,นางน้วหน โสเภณีนน ค่อนรบบุกคลผู้มาโคยเรียบร่อย พยายามร์ดแจงใหบุรุษผู มานน ๆ ไม่พบปะ ทะเลาะกน แค่ภายหลงกลบมีโลภเจฅนาค่อนร่บ แขกซา ๆ น้น โคยไม่ได้จดแจงให้ผู้ทื่มาก่อนกลบเสียก่อน จึง ค่อนรบคนอื่น ๆ ต่อไป เมื่อเบนเช่นนั้คนเหล่านนมาและไค้ให้เง ทองแล่ว แค่ไม่มีโอกาสสำหร่บฅนก็เบื่อหน่าย บางรายถึงกบทะเลาะ วิวาทกน เขาเหล่านนจึงไม่มาส่สำน้กของนางน8น นางจึงยากจนขาค รายไน้ เบื่นเพราะเหตุอย่างนํ้แล ส๐. บญหาข1อ ส บญหามีว่า ผู้ใหญ่น้านแห่งหนึ่ง แค่ก่อนมาเบี่นคนรูปสวยร ทรพย์ มียศ ไม่มีโรค มีคนนบถือบุชาเชื่อพ้ง แค่บคนืกลบทรุคโท ยากจน มีโรคผอมเหลือง ขาคคนนบถือ เบ็1นเพราะเหตุอะไร ทรง แกท ผู้ใหญ่น้านคนนน เมื่อก่อน ๆ มาเคยฅงอยู่ในธรรม มีความ ยุติธรรมในการปกครองหมู่น้าน จะวินิจฉัยเรื่องราวชองชาวน้
๓๔ เกิคขนก็เบนยุฅิธรรม คนจึงนับถือ เลื่อมใส นำลาภมาในั จึฅใจ จึงสบาย เมื่อจึฅใจสบายเบนสุข กายก็เบนสุข ค่อมานัคนื เขาไม่คง อยู่ในธรรม เปียคเบียน'ชาวบาน ว่ากล่าวอรรถคดีก็ไม่ยุคิธรรม กน ท^หลายก็ชิงชงโกรธเกลืยค ไม่นบถือ ไม่นำลาภผลมาในั เขาจึงจน การงานเกิคขนก็ไม่มีใครช่วยเหลือ เขาจึงไม่สบายใจ เมื่อใจไม่ สบายแลว กายของเขาจึงซูบซีคและผอมเหลือง ขาคบริวารยศ เกียรดียศ ชื่อเลียง ค่อไปใหนายจนทะ นำความไปบอกให้เขาคง อยู่ในธรรมอย่างเดิมแลว ลาภ ยศ ชื่อเสียง ก็จะมีมาเอง เมื่อมี ลาภ ยศ ชื่อนัยง จิฅใจก็จะสบาย และให์บอกควยว่า เราผู้เบน พระราชาของเขาทราบความเบนไปของเขาแล่วค้วย เมื่อ,ทรงแก้บญหากรบทง ๑๐ ขอแล่ว นายจนทะ คามณี ก็จำ พระราชคำริสนน ๆ ไว้ไคใบนอย่างดี พระราชาก็ไคพระราชทาน ทรพย์ใหแก่นายจนทะเบนอไเมาก และไคํพระราชทานนัานที่อยู่ให้ แก่เขาควย อนเบนส่วนที่พระราชทานเบนพิเศษ นายจนทะ คามณี ไคกราบทูลลา และจำขอแก้บญหาไปบอก แก่ผู้ถามมาโคยลำคบ คงแค่พวกพราหมณ์หนุ่มผู้เบนนักศึกษามนฅ และคาบส นากราช รุกขเทวคา แล่วขคขุมทรพย์ที่จอมปลวกที่นก กะทาจบและขนอยู่ ถือเอานาผงจากค้นไม้ที่เนํ้อชอบกินหญ้าอย่ภาย ส่งนาผงไปถวายพระราชา ไปสู่'จอมปลวกทีงูอยู่ภาย1ใน ขุคจอมป ถือเอาขุมท.ร.พํยึเแล่ว่ไปบอกคำแก้บญหา คามที่พระราชาทรณค้มา
๓(เ& นนแก่หญิงสาว หญิงหำ,/.น้าโสเภณีและผู้ใหญ่บ9าน บอกให เหล่านนน้งอยู่ในธรรมและขนบธรรมเนียมของคน ๆ อย่าให้ผิค อย่าง ที่เบนอย่คามพระราชประสงค์ แน้วไปน้านของคนควยเกียรคิยศ และไค้ทำแค่สงที่เบนบุญ มีทานเบนคน จนสนอายุ แมพระราชา ก็ทรงคงอยู่ในธรรม ทรงบำเพ็ญแค่พระราชกุศลมีทานเบนคน จน คราบเท่าสนพระชนม์ไปเช่นกัน นายจนทะ คามณี กลบชาติมาเบนพระอานนท์ พระราชาองก น้อยพระนามว่า อาทาสมุขราชานน ก็คือพระสไ]มาสไ!พุทธเจา ผู้ไค้ ครสรู้ชอบกัวยพระองค์เอง เพราะไค2ทรงบำเพ็ญพระบญญาบารมีมา ในพระชาติก่อน ๆ เบนกันมาก แม้ในพระชาติที่เบน อาทาสมุขราชา หรืออาทาสมุขกุมารก็ไค้มีพระบญญา ปรีชาญาณ เบนอย่างยี่งแล. -0———I \" แ■—* -XII—^จ***^——388—เ——0—0—— ร. ห. มหามกุฎราชวทยาถ่ย หน้าวัดบวรน้เวศวหาร หระนคร นาขหน้จ อู่สำราญ ผูหบพ์โฆษณา ฐ,/ ๖/๒๕5,๑
3!^ฆ่โ& ซ?##7*7^ฎร'ๆชึวพ*ภ®V 3ถน!47X17:^1111 #24776711?รืโ*โว ?#71 *ไฮ11. 8 ไ 7 7 9 0 7 1; 1ถจึปีปีนข จ่^าทโปี (ปีปีปี&ปีป็ไV&โปีถ ปีปี. & ^(เ^X*
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: