แมลงคมุ ครองของประเทศไทย ท่ปี รกึ ษา นายณรงค์ มหรรณพ ผู้อา� นวยการสา� นกั วจิ ัยการอนุรกั ษ์ปา่ ไมแ้ ละพนั ธ์ุพชื นางสริ ริ ตั น ์ จันทร์มหเสถยี ร ผอู้ �านวยการส่วนวจิ ัยการอนุรกั ษ์ปา่ ไม้ เรียบเรยี ง นายวฒั นา ศกั ดิช์ ูวงษ์ นางสาวนงพงา ปาเฉย นางนันทยิ า รตั นจนั ทร์ นายมรุต เครอื หงษ์ นางสาววลีพรรณ พิมพภ์ ักด์ิ นางสาวกาญจนา ลงั กาวงค์ ออกแบบ นายปรัชญา อารยี ์ จดั พิมพ์ สา� นักวิจยั การอนุรกั ษป์ ่าไมแ้ ละพันธพุ์ ชื กรมอุทยานแหง่ ชาต ิ สัตว์ปา่ และพันธุพ์ ชื เลขท ่ี 61 ถ.พหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรงุ เทพฯ 10900 ISBN กนั ยายน 2557 พิมพ์คร้งั ท่ ี 1 2,000 เลม่ จ�านวน
ค�านา� หนังสือแมลงคุ้มครองของไทยเล่มน้ีจัดท�าข้ึนเพื่อเผยแพร่ ลกั ษณะทางอนกุ รมวธิ านของแมลงคมุ้ ครองทพี่ บในประเทศไทย จา� นวน 20 ชนิด ซ่ึงท้ังหมดเป็นแมลงที่ประกาศให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และที่ปรับปรุง ตามกฎกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม พ.ศ. 2546 และ ในจ�านวน 20 ชนิดดังกล่าว มี 4 ชนิด ได้แก่ ผีเส้ือภูฐาน ผีเส้ือไกเซอร์ อมิ พเี รยี ล ผเี สอ้ื ถงุ ทองปา่ สงู และผเี สอื้ ถงุ ทองปกั ษใ์ ต ้ เปน็ แมลงคมุ้ ครอง ในบัญชีที่ 2 แห่งอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซ่ึงชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES Appendix II) โดยแมลงคุ้มครองเหล่า นี้เป็นแมลงที่มีค่า หายาก มีถ่ินอาศัยและพืชอาหารท่ีเฉพาะเจาะจงพบ ได้ไม่บ่อยครั้ง บางชนิดไม่พบมาเป็นระยะเวลานาน และบางชนิดสูญ พันธุ์ไปจากประเทศไทยแล้ว ส�านักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช หวังเป็นอย่างย่ิงว่า หนังสือแมลงคุ้มครองของไทยเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจ นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป รวมถึงเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่ง ชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ท่ีปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายใน การควบคุมแมลงท่ีมีกฎหมายคุ้มครองโดยเฉพาะ ซ่ึงต้องมีการตรวจ วิเคราะห์ตัวอย่างแมลงเป็นประจ�า เพื่อช่วยในการตรวจสอบชนิดพันธุ์ แมลงท่ีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และเพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์ รวมถึง เ ป ็ น ก า ร ส ร ้ า ง จิ ต ส� า นึ ก ใ น ก า ร ห ว ง แ ห น แ ล ะ ช ่ ว ย กั น อ นุ รั ก ษ ์ ทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าเหล่าน้ี ให้ยั่งยืนสืบไป (นายณรงค ์ มหรรณพ) ผู้อ�านวยการสา� นกั วจิ ยั การอนุรักษป์ า่ ไมแ้ ละพันธุ์พืช กันยายน 2557
สารบญั หนา้ 1 เรอื่ ง 2 4 บทน�ำ 6 ลกั ษณะส่วนตา่ ง ๆ ของแมลง 8 ผีเสื้อภฐู าน 10 ผีเสือ้ หางดาบปีกโคง้ 12 ผเี สอ้ื หางดาบตาลไหม้ 14 ผีเสื้อหางต่ิงสะพายเขียว 16 ผีเสื้อรักแรข้ าว 18 ผีเสอ้ื นางพญาเมืองเหนือ 20 ผเี สอ้ื นางพญาเขมร 22 ผเี สื้อนางพญากอดเฟรย์ 24 ผเี สือ้ นางพญาพม่า 26 ผเี สอ้ื ไกเซอรอ์ มิ พีเรยี ล 28 ผีเส้อื ถงุ ทองปกั ษใ์ ต้ 30 ผเี สือ้ ถุงทองปา่ สงู 32 ผีเสอื้ หางยาวตาเคยี วปีกลายหยกั 34 ผเี สื้อหางยาวตาเคยี วปกี ลายตรง 36 ผีเสื้อหางยาวสต่ี าปกี ลายตรง 38 ผีเสื้อหางยาวสี่ตาปีกลายหยัก 40 ด้วงกวา่ งดาว 42 ดว้ งดินปีกแผ่น 44 ด้วงดินขอบทองแดง ดว้ งคีมยีราฟ บรรณานกุ รม
1 บทน�ำ พระราชบญั ญตั สิ งวนและคมุ้ ครองสตั วป์ า่ พ.ศ. 2535 เปน็ พระราชบญั ญตั ทิ ี่ ไดต้ ราขน้ึ โดยมจี ดุ มงุ่ หมายควบคมุ มใิ หม้ กี ารลา่ การครอบครอง และการคา้ ซงึ่ สตั วป์ า่ หายากตามบญั ชที า้ ยพระราชบญั ญตั นิ ี้ และสตั วป์ า่ ตามทก่ี ฎกระทรวงประกาศใหเ้ ปน็ สตั วป์ า่ คมุ้ ครอง โดยเนอื้ หาในหนงั สอื เลม่ นจี้ ะใหข้ อ้ มลู ลกั ษณะทางอนกุ รมวธิ านและ เกรด็ ความรทู้ นี่ า่ สนใจของแมลงทเ่ี ปน็ สตั วป์ า่ คมุ้ ครองจำ� นวน 20 ชนดิ คอื ผเี สอ้ื ภฐู าน ผเี สอ้ื หางดาบปกี โคง้ ผเี สอ้ื หางดาบตาลไหม้ ผเี สอื้ ถงุ ทองปา่ สงู ผเี สอ้ื ถงุ ทองปกั ษใ์ ต้ ผเี สอื้ ไกเซอรอ์ มิ พเี รยี ล ผเี สอ้ื หางตงิ่ สะพายเขยี ว ผเี สอื้ รกั แรข้ าว ผเี สอ้ื นางพญาเมอื ง เหนอื ผเี สอ้ื นางพญาเขมร ผเี สอื้ นางพญากอดเฟรย์ ผเี สอ้ื นางพญาพมา่ ผเี สอ้ื หางยาว ตาเคยี วปกี ลายหยกั ผเี สอ้ื หางยาวตาเคยี วปกี ลายตรง ผเี สอื้ หางยาวสตี่ าปกี ลายหยกั ผเี สอื้ หางยาวสตี่ าปกี ลายตรง ดว้ งดนิ ขอบทองแดง ดว้ งดนิ ปกี แผน่ ดว้ งกวา่ งดาว และ ดว้ งคมี ยรี าฟ เนื่องจากแมลงเหล่านี้เป็นแมลงที่มีขนาดใหญ่และสีสันสวยงามจึงเป็นที่ ตอ้ งการของนกั สะสม ทำ� ใหม้ กี ารลกั ลอบจบั จากธรรมชาตเิ พอ่ื การคา้ เปน็ จำ� นวนมาก ประกอบกบั แหลง่ อาศยั ของแมลงเหลา่ นคี้ อื ปา่ สมบรู ณถ์ กู ทำ� ลายหรอื ถกู เปลย่ี นแปลง สภาพไปเปน็ พน้ื ทใ่ี ชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งอนื่ เชน่ การทำ� เกษตรกรรม และการสรา้ งทอี่ ยู่ อาศยั หรอื สถานทตี่ ากอากาศ เปน็ ตน้ การทพี่ นื้ ปา่ ธรรมชาตลิ ดลงอยา่ งตอ่ เนอ่ื งทำ� ให้ พชื และสตั วป์ า่ หลายชนดิ สญู พนั ธไ์ุ ป ตวั อยา่ งเชน่ ผเี สอ้ื ภฐู านหรอื ผเี สอื้ สมงิ เชยี งดาว (Bhutanitis lidderdalii) ซงึ่ เปน็ ผเี สอ้ื เฉพาะถนิ่ และมถี น่ิ อาศยั จำ� กดั เฉพาะทยี่ อดดอย เชยี งดาว ในปจั จบุ นั ไดส้ ญู พนั ธไ์ุ ปแลว้ จากประเทศไทยเมอื่ ประมาณปี พ.ศ. 2527 เพราะ การลกั ลอบจบั จากธรรมชาติ และการเปลยี่ นแปลงสภาพปา่ ดอยเชยี งดาวอนั เปน็ การ ทำ� ลายถน่ิ อาศยั ตามธรรมชาติ ขอ้ มลู รายละเอยี ดลกั ษณะของแมลงคมุ้ ครองทง้ั 20 ชนดิ น้ี จะชว่ ยใหส้ ามารถ ตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างแมลงได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น รวมทั้งข้อมูลรายละเอียดอื่นที่ เกย่ี วขอ้ ง เชน่ เขตการแพรก่ ระจาย และพชื อาหาร จะทำ� ใหผ้ อู้ า่ นมคี วามรเู้ กย่ี วกบั แมลงชนดิ นน้ั เพม่ิ ขน้ึ ดว้ ย
2 ลักษณะสว นตา งๆ ของแมลง แมลงเปน็ สตั วท์ มี่ ลี า� ตวั แบง่ ออกเปน็ 3 สว่ น คอื หวั อก และทอ้ ง ตวั เตม็ วยั มขี า 3 ค ู่ หนวด 1 ค ู่ และอาจมปี กี 2 ค ู่ หรอื 1 ค ู่ หรอื ไมม่ เี ลย ขนึ้ อยกู่ บั ชนดิ ของแมลง รปู รา่ งของแมลงมลี กั ษณะสมมาตร (Symmetry) คอื ดา้ นซา้ ยจะมขี นาดและลกั ษณะ เหมอื นดา้ นขวาทกุ ประการ เกอื บทงั้ หมดของคมู่ อื นเี้ ปน็ การแสดงการจา� แนกผเี สอ้ื ภาพขา้ งบนนจี้ งึ ได้ แสดงสว่ นตา่ ง ๆ ของผเี สอ้ื ทใี่ ชป้ ระกอบในการบรรยายลกั ษณะของผเี สอ้ื แตล่ ะชนดิ และภาพวาดลายเสน้ นวี้ าดจากภาพถา่ ยของผเี สอ้ื จรงิ ชนดิ Teinopalpus imperialis เพศผ ู้ ทป่ี รากฏในคมู่ อื นซี้ ง่ึ ผอู้ า่ นจะสามารถเปรยี บเทยี บกนั ได้ ลกั ษณะอน่ื ทอี่ าจมกี ารบรรยายถงึ ในคมู่ อื แตไ่ มแ่ สดงในภาพตวั อยา่ ง คอื ดา้ นหลงั หมายถงึ ดา้ นทมี่ องเหน็ เมอื่ แมลงอยใู่ นลกั ษณะควา�่ มองไมเ่ หน็ ขา ดา้ นทอ้ ง หมายถงึ ดา้ นทม่ี องเหน็ เมอ่ื แมลงอยใู่ นลกั ษณะหงาย มองเหน็ ขา สว่ นหนา้ (Anterior) คอื ดา้ นหนา้ หรอื ดา้ นบน เชน่ หวั ขอบปกี หนา้ ขอบบนของปกี หลงั เปน็ ตน้ สว่ นหลงั (Posterior) คอื สว่ นทา้ ย เชน่ ปลายทอ้ ง ขอบลา่ งของปกี หนา้ ขอบลา่ งของปกี หลงั เปน็ ตน้ ขนาดของผเี สอ้ื วดั สว่ นทกี่ วา้ งทสี่ ดุ ของปกี หนา้ โดยวดั จากขอบปกี ซา้ ยไป จรดขอบปกี ขวา และปกี ทงั้ สองคตู่ อ้ งกางในลกั ษณะเหมอื นในภาพตวั อยา่ งเทา่ นนั้ คอื ขอบสว่ นหลงั ของปกี หนา้ ตอ้ งตงั้ ฉากกบั ลา� ตวั
3 ลา� ตวั ของผเี สอ้ื ประกอบดว้ ยสว่ นตา่ ง ๆ ดงั นค้ี อื หวั คอื ทตี่ ง้ั ของหนวด ตา และปาก อก คอื ทตี่ ง้ั ของขา 3 ค ู่ และปกี 2 คู่ ทอ้ ง มลี กั ษณะเปน็ ปลอ้ ง และไมม่ รี ะยางคใ์ ด ๆ ทเ่ี หน็ ไดช้ ดั เจน ปกี ของผเี สอื้ ผเี สอ้ื มปี กี 2 ค ู่ ทเี่ หน็ ชดั เจน ลวดลายทเี่ กดิ บนแผน่ ปกี ผเี สอ้ื เกดิ ขนึ้ จากเกลด็ สที เ่ี รยี งซอ้ นกนั บนแผน่ ปกี จนเกดิ เปน็ ลวดลายตา่ ง ๆ ซงึ่ สามารถใชใ้ น การจา� แนกได ้ ปกี คบู่ นหรอื ปกี ทอ่ี ยใู่ กลส้ ว่ นหวั เรยี ก ปกี หนา้ และปกี ทอ่ี ยใู่ กลส้ ว่ นทอ้ ง เรยี กปกี หลงั บนปกี ทง้ั สองมเี สน้ ปกี มากมายทน่ี กั กฏี วทิ ยาใชเ้ ปน็ สว่ นหนงึ่ ในการจา� แนก ชนดิ ของผเี สอื้ ปกี ผเี สอื้ ดา้ นขวาในภาพถกู ลบเสน้ ปกี ออกเพอื่ ใหส้ ะดวกในการใสค่ า� บรรยายโดยไมใ่ หค้ า� บรรยายปะปนกบั เสน้ ปกี ความยาวของปกี หนา้ วดั เพยี งปกี เดยี ว โดยวดั จากโคนปกี ทต่ี ดิ ลา� ตวั จนถงึ ปลายปกี ความยาวของปกี หลงั วดั จากโคนปกี ทตี่ ดิ ลา� ตวั ถงึ ขอบปกี สว่ นทยี่ าวทส่ี ดุ หรอื ถงึ ตง่ิ หาง (ถา้ ม)ี ทยี่ าวทสี่ ดุ บางคนอาจวดั ถงึ ตงิ่ หางทสี่ น้ั ทสี่ ดุ ดงั นน้ั ตวั ทไ่ี มร่ ะบวุ า่ วดั ถงึ ตง่ิ หางใดใหห้ มายถงึ วดั ถงึ ตง่ิ หางทย่ี าวทสี่ ดุ ตวั ทมี่ กี ารวดั แตกตา่ งไปจากนจี้ ะระบุ ไวโ้ ดยเฉพาะเซลล ์ (Cell) ชอ่ งวา่ งเปน็ รปู วงรที โ่ี คนปกี ไมม่ เี สน้ ปกี อยขู่ า้ งใน อาจพบทงั้ ปกี คหู่ นา้ และปกี คหู่ ลงั ตง่ิ หางคอื สว่ นทย่ี น่ื ออกมาของปกี หลงั บางชนดิ อาจมตี งิ่ หาง หลายอนั สน้ั บา้ งยาวบา้ ง สญั ลกั ษณแ์ สดงสถานภาพการคมุ้ ครอง แมลงคมุ้ ครองตามพระราชบญั ญัตสิ งวนและคุ้มครองสัตวป์ า่ พ.ศ. 2535 แมลงค้มุ ครองในบัญชีที ่ 1 (CITES Appendix I) แห่งอนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการคา้ ระหว่างประเทศซ่ึงชนิดสัตวป์ า่ และพชื ป่าท่ใี กล้สญู พันธุ์ แมลงคุ้มครองในบัญชที ี่ 2 (CITES Appendix II) แห่งอนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการคา้ ระหวา่ งประเทศซง่ึ ชนิดสตั ว์ปา่ และพชื ปา่ ท่ใี กล้สญู พันธ์ุ แมลงคมุ้ ครองทีม่ ีถิ่นกา� เนิดในประเทศไทย หมายเหต:ุ กรณที ี่แมลงคมุ้ ครองท้งั สองเพศมลี ักษณะต่างกนั จะแสดงทัง้ เพศผ้ ู ( ) และเพศเมยี ( ) แตข่ นาดของภาพไมไ่ ด้เป็นไปตามสดั สว่ นทแ่ี ท้จริง
4 ผีเสื้อภูฐาน Bhutanitis lidderdalii กรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ า่ และพันธพ์ุ ชื ส�านักวจิ ัยการอนรุ กั ษ์ป่าไม้และพันธพ์ุ ชื ส่วนวิจยั การอนุรักษป์ า่ ไม้
5 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Bhutanitis lidderdalii ชอ่ื สามญั Bhutan Glory ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ ผเี สอ้ื ภฐู าน ผเี สอื้ สมงิ เชยี งดาว ขนาด 9.5-10 ซม. ปกี หนา้ ยาว 5.2-5.8 ซม. ปกี หลงั ยาว 5.5-6.5 ซม. ตง่ิ ปกี ทยี่ าวทส่ี ดุ 1.5 ซม. ลำ� ตวั สดี ำ� มแี ถบเหลอื งคาดระหวา่ งปลอ้ งทอ้ ง ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ สนี ำ้� ตาล-ดำ� มเี สน้ สขี าวครมี พาดขวางอยู่ เพศเมยี เสน้ สขี าวครมี จะกวา้ งกวา่ และมสี เี หลอื ง ทเ่ี สน้ นอกสดุ ตดิ ขอบปกี ซง่ึ หยกั เปน็ คลน่ื ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ มเี สน้ สขี าวครมี พาดขวางปกี ทปี่ ลายปกี มี 3 ตง่ิ สนั้ และ 1 ตง่ิ ยาว มแี ถบสแี ดงบรเิ วณกลางปกี ถดั มา เปน็ แถบสดี ำ� ซง่ึ ขอบนอกสดุ ของปกี สว่ นลา่ งมแี ตม้ สเี หลอื งสม้ 3 จดุ ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ สเี ทาจาง มเี สน้ สขี าวเลก็ คาดขวางปกี ปกี คหู่ ลงั พน้ื สเี ทามจี ดุ วงกลมสชี มพ-ู แดง และมจี ดุ รปู ตา 3 จดุ แตม้ อยู่ ขอบปกี ดำ� ชนดิ ทใี่ กลเ้ คยี ง B. ludlowi ตา่ งกนั ทป่ี กี คหู่ นา้ B. lidderdalii จะแคบกวา่ ความหลากหลาย บางตวั อาจมคี วามแตกตา่ งกนั ทข่ี นาดหรอื สสี นั ทางดา้ นทอ้ ง ของปกี หลงั เขตแพรก่ ระจาย ภฏู าน สขิ มิ ภาคเหนอื ของอนิ เดยี (Assam, Nagaland, Manipur) ภาคเหนอื ของพมา่ (Kachin) จนี (Szechwan, Yunnan) และไทย (เชยี งใหม)่ ความสำ� คญั เปน็ สตั วป์ า่ คมุ้ ครองในบญั ชที ี่ 2 แหง่ อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการคา้ ระหวา่ งประเทศซงึ่ ชนดิ สตั วป์ า่ และพชื ปา่ ทใ่ี กลส้ ญู พนั ธ์ุ พชื อาหาร มณฑาปา่ (Manglieltia garretti) เร่อื งน่ารู้ ผีเสื้อภูฐานเป็นผีเสื้อท่ีมีความสวยงามเคยพบการปรากฏอย่างชุกชุมเฉพาะถ่ิน ีผเ ้สือ ูภฐาน บรเิ วณยอดดอยเชยี งดาว จ.เชยี งใหม่ แตป่ ญั หาการคกุ คามจากมนษุ ยโ์ ดยการจบั เพอื่ การคา้ รวมทงั้ การทำ� ลายแหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศยั และพชื อาหารของตวั หนอนทำ� ใหผ้ เี สอื้ ภฐู านสญู พนั ธไ์ุ ปจากประเทศไทยตง้ั แตป่ ระมาณปี พ.ศ. 2527
6 ผีเสือ้ หางดาบปกโคง Meandrusa payeni Meandrusa payeni กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตว์ปา่ และพนั ธพ์ุ ชื ส�านกั วิจยั การอนรุ กั ษป์ า่ ไม้และพนั ธ์พุ ชื สว่ นวจิ ยั การอนรุ ักษป์ ่าไม้
7 ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Meandrusa payeni ชอ่ื สามญั Yellow Gorgon, Outlet Sword, Sickle ชอื่ ทอ้ งถนิ่ ผเี สอื้ หางดาบปกี โคง้ ขนาด 11.0 ซม. ลำ� ตวั สเี หลอื ง มขี นปกคลมุ ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ สเี หลอื งสม้ ลวดลายสนี ำ้� ตาลเขม้ -ดำ� ปลายปกี เรยี วโคง้ เขา้ คลา้ ยรปู เคยี ว เพศเมยี ลวดลายสจี างและกวา้ งกวา่ เพศผู้ ปลายปกี เขม้ เปน็ รปู เคยี วแตไ่ มเ่ รยี วเทา่ เพศผู้ ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ ขอบปกี สนี ำ้� ตาลเขม้ -ดำ� ปลายปกี มตี ง่ิ รปู ดาบ สนี ำ�้ ตาลแดง เพศเมยี ลวดลายสนี ำ้� ตาลดำ� จาง ๆ ปลายปกี มตี งิ่ รปู ดาบ สนี ำ้� ตาลออ่ น ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ ลวดลายสนี ำ�้ ตาลเขม้ ขอบปกี ดา้ นทเ่ี วา้ มเี สน้ สนี ำ้� ตาลเขม้ พาดผา่ น เพศเมยี เชน่ เดยี วกบั เพศผแู้ ตส่ จี างกวา่ ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง แต่ M. lachinus ตา่ งกนั ทปี่ ลายปกี ไมโ่ คง้ แหลมเปน็ รปู เคยี ว ความหลากหลาย บางตวั อาจมคี วามแตกตา่ งกนั ทขี่ นาด สสี นั ทางดา้ นทอ้ ง ของปกี หลงั เขตแพรก่ ระจาย ชนดิ ยอ่ ย คอื M. p. langsonensis มเี ขตแพรก่ ระจาย ในประเทศไทยและเวยี ดนาม สว่ น M. p. ciminius มเี ขตแพรก่ ระจายทางคาบสมทุ ร ภาคใตข้ องไทย คาบสมทุ รมาเลเซยี และเกาะสมุ าตรา อนิ โดนเี ซยี พชื อาหาร ตะไครต้ น้ (Litsea cubeba) ีผเสื้อหางดาบ ีปกโ ้คง เร่อื งนา่ รู้ ผเี สอ้ื หางดาบปกี โคง้ ในประเทศไทยพบไดน้ อ้ ย ในสภาพธรรมชาติ มี 2 ชนดิ ยอ่ ย จงึ จัดเป็นผีเส้ือที่หายากชนิดหนึ่งซ่ึงได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและ คมุ้ ครองสตั วป์ า่ พ.ศ. 2535
8 ผเี สื้อหางดาบตาลไหม Meandrusa sciron Meandrusa sciron กรมอทุ ยานแหง่ ชาต ิ สตั วป์ า่ และพนั ธุ์พชื ส�านกั วิจยั การอนุรักษป์ ่าไมแ้ ละพนั ธุ์พืช สว่ นวจิ ยั การอนุรักษ์ปา่ ไม้
9 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Meandrusa sciron ชอ่ื สามญั Brown Gorgon ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ ผเี สอ้ื หางดาบตาลไหม้ ขนาด 10.5-11.5 ซม. ลำ� ตวั สนี ำ้� ตาล ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ มลี วดลายสนี ำ้� ตาลเขม้ ทข่ี อบปกี ดา้ นบน เพศเมยี มแี ถบสขี าวครมี พาดจากตรงกลางปกี คหู่ นา้ ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ มตี งิ่ หางรปู รองเทา้ สนี ำ้� ตาล เพศเมยี ขอบปกี หยกั ตงิ่ หางรปู รองเทา้ มเี สน้ สดี ำ� พาดกลาง ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ ลวดลายชดั เจนกวา่ ดา้ นหลงั โคนปกี สนี ำ้� ตาลเขม้ กลางปกี ดา้ นหนา้ มแี ถบสนี ำ�้ ตาล รปู สามเหลย่ี ม ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ โคนปกี สนี ำ้� ตาลเขม้ สว่ นหลงั ของปกี มแี ถบสนี ำ�้ ตาลขอบขาว ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง M. payeni แตกตา่ งกนั ทปี่ กี คหู่ นา้ จะแหลมโคง้ คลา้ ยรปู เคยี ว ความหลากหลาย ประเทศไทยมี 3 ชนดิ ยอ่ ย คอื M. s. aribbas จากจงั หวดั เชยี งใหม่ ตาก และชยั ภมู ิ M. s. sukkiti จากจงั หวดั นา่ น และ M. s. nagamasai จาก จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี เขตแพรก่ ระจาย ภาคเหนอื ของพมา่ ไทย เวยี ดนาม และลาว พชื อาหาร ตะไครต้ น้ (Litsea cubeba) เปน็ ผเี สอื้ ขนาดใหญบ่ นิ เรว็ พบในปา่ ทส่ี มบรู ณม์ คี วามชนื้ สงู จงึ มกั พบผเี สอ้ื ลงตอม ีผเสื้อหางดาบตาลไห ้ม เรือ่ งนา่ รู้ ดดู นำ�้ เกลอื แรต่ ามโปง่ และรมิ ลำ� ธาร
10 ผีเสือ้ หางติง่ สะพายเขยี ว Papilio palinurus กรมอุทยานแหง่ ชาต ิ สตั ว์ป่า และพันธ์พุ ืช ส�านกั วิจัยการอนรุ ักษ์ป่าไม้และพนั ธ์พุ ชื ส่วนวจิ ัยการอนุรกั ษป์ า่ ไม้
11 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Papilio palinurus ชอ่ื สามญั Banded Peacock ชอื่ ทอ้ งถน่ิ ผเี สอ้ื หางตงิ่ สะพายเขยี ว ขนาด 9.0-10.0 ซม. ลำ� ตวั สีด�ำและมเี กล็ดสีเขียวปกคลมุ ท่ัวตัว ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ พ้นื ปีกสดี �ำฉาบดว้ ยฝุน่ สเี ขยี ว มีแถบสเี ขยี วสะทอ้ นแสง จากกึง่ กลางของขอบปกี ส่วนหนา้ ถงึ ขอบปีกสว่ นหลงั ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ พน้ื ปกี สดี �ำ มแี ถบสเี ขียวสะท้อนแสงตอ่ จากปกี หน้า ตง่ิ หางเป็น รูปใบพาย ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ สีนำ้� ตาล มแี ถบสขี าวจาง ๆ พาดขวางปีก ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ มีจุดสีแดงรปู พระจันทร์เสี้ยว ขอบปีกหยกั เป็นคล่ืน มีต่งิ หางเปน็ รูปใบพาย ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง - ความหลากหลาย มี 6 ชนิดย่อย คอื P. p. palinurus, P. p. auffenbergi, P. p. nymphodorus, P. p. adventus, P. p. daedalus, P. p. angustatus เขตแพรก่ ระจาย คาบสมุทรทางใต้ของไทย ภาคใตข้ องพม่า คาบสมทุ รมาเลเซยี ีผเสื้อหางติ่งสะพายเ ีขยว บอรเ์ นียว และฟลิ ิปปินส์ พชื อาหาร หัสคณุ (Micromelum minutum) เรอ่ื งน่ารู้ เปน็ ผเี สอ้ื ทมี่ สี สี นั สวยงามและหายากชนดิ หนงึ่ พบในปา่ ทส่ี มบรู ณ์ เปน็ ผเี สอื้ ชนดิ เดน่ ทพ่ี บไดบ้ รเิ วณลำ� ธารหนว่ ยพทิ กั ษอ์ ทุ ยานแหง่ ชาติ ที่ กจ.4 (บา้ นกรา่ ง) อทุ ยานแหง่ ชาตแิ กง่ กระจาน
12 ผีเสื้อรักแรขาว Papilio protenor กรมอทุ ยานแห่งชาต ิ สตั ว์ปา่ และพันธพุ์ ชื สา� นกั วิจยั การอนรุ กั ษ์ปา่ ไม้และพันธพ์ุ ืช ส่วนวิจยั การอนุรักษ์ปา่ ไม้
13 ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Papilio protenor ชอื่ สามญั Spangle ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ ผเี สอ้ื รกั แรข้ าว ขนาด 11.0-14.0 ซม. ลำ� ตวั สนี ำ�้ ตาลดำ� ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ พน้ื สดี ำ� มแี ถบสขี าวขนาบเสน้ ปกี ปกี คหู่ ลงั รปู รา่ งเรยี วยาว สดี ำ� มแี ถบสขี าวทถ่ี ดั จากขอบปกี ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ สดี ำ� เสน้ สขี าวจาง ๆ ขนาบเสน้ ปกี ปกี คหู่ ลงั สดี ำ� มรี ปู พระจนั ทรเ์ สยี้ วทข่ี อบปกี ยกเวน้ ทชี่ อ่ งวา่ ง ท่ี 3 และ 4 ชนดิ ทใี่ กลเ้ คยี ง - ความหลากหลาย มี 2 ชนดิ ยอ่ ยคอื P. p. protenor และ P. p. euprotenor เขตแพรก่ ระจาย ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของอนิ เดยี ปากสี ถาน พมา่ ไทย ภาคใตข้ องจนี ลาว ไตห้ วนั เกาหลเี หนอื เกาหลใี ต้ และญปี่ นุ่ พชื อาหาร มะนาว (Citrus aurantifolia) ผเี สอ้ื ชนดิ นเ้ี ปน็ ผเี สอ้ื ทห่ี ายากเนอื่ งจากมเี ขตแพรก่ ระจายไมก่ วา้ งขวางนกั ตวั ผชู้ อบ ีผเ ้สือ ัรกแ ้รขาว เรือ่ งนา่ รู้ หากนิ ตามพน้ื ทช่ี นื้ แฉะและตามทางเดนิ ในปา่ ทม่ี แี สงแดดสอ่ งถงึ
14 ผีเส้ือนางพญาเมอื งเหนอื Stichophthalma camadeva กรมอุทยานแหง่ ชาต ิ สตั วป์ า่ และพนั ธ์พุ ืช สา� นักวิจยั การอนรุ กั ษ์ปา่ ไม้และพันธพ์ุ ชื ส่วนวิจยั การอนรุ ักษ์ป่าไม้
15 ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Stichophthalma camadeva ชอื่ สามญั Northern Junglequeen ชอื่ ทอ้ งถนิ่ ผเี สอ้ื นางพญาเมอื งเหนอื ขนาด 12.5-15.0 ซม. ลำ� ตวั สนี ำ�้ ตาล ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ พนื้ ปกี สนี ำ�้ ตาลจาง ๆ สลบั สขี าวทกี่ ลางปกี และมจี ดุ สนี ำ�้ ตาล รปู เหลย่ี มเชอื่ มตอ่ กบั แถบทข่ี อบปกี เปน็ รปู คลนื่ สนี ำ้� ตาล ปกี คหู่ ลงั ทโี่ คนปกี สนี ำ้� ตาลเขม้ มจี ดุ สมี ว่ งขาวเปน็ ครู่ ปู รา่ งเหมอื นฟนั เรยี งเปน็ เสน้ โคง้ มแี ถบสนี ำ�้ ตาลทำ� มมุ กลบั ตงั้ บนขอบสมี ว่ งขาว ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ ครงึ่ หนง่ึ เปน็ สนี ำ้� ตาลสม้ และอกี ครงึ่ หนงึ่ เปน็ สเี หลอื งสม้ มจี ดุ ตา 5 จดุ ปกี คหู่ ลงั จดุ ตาสนี ำ�้ ตาล มจี ดุ สขี าวภายใน 5 จดุ และแถบสขี าว จากขอบปกี ถงึ มมุ ปกี ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง - ความหลากหลาย มี 3 ชนดิ ยอ่ ย คอื S. c. amyclas , S. c. camadeva และ S. c. camadevoides ซงึ่ มเี ขตการแพรก่ ระจายตา่ งกนั เขตแพรก่ ระจาย สกิ ขมิ อสั สมั ภาคเหนอื ของพมา่ และไทย พชื อาหาร วงศป์ าลม์ (Arecacae) และวงศห์ ญา้ ไผ่ (Poaceae) เป็นผีเสื้อท่ีมีขนาดใหญ่มีสีสันสวยงามเป็นท่ีต้องการของตลาดนักค้าแมลง ไม่มี ีผเสื้อนางพญาเ ืมองเห ืนอ เร่อื งนา่ รู้ รายงานการพบเหน็ มาตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2535
16 ผีเสือ้ นางพญาเขมร Stichophthalma cambodia กรมอทุ ยานแหง่ ชาต ิ สตั วป์ า่ และพันธพุ์ ชื ส�านกั วิจัยการอนรุ ักษ์ป่าไมแ้ ละพนั ธ์ุพืช สว่ นวิจยั การอนุรักษ์ปา่ ไม้
17 ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Stichophthalma cambodia ชอ่ื สามญั Cambodian Junglequeen ชอื่ ทอ้ งถน่ิ ผเี สอ้ื นางพญาเขมร ขนาด เพศผ ู้ 8.8 ซม. ปกี หนา้ ยาว 5.1 ซม. เพศเมยี 11.9 ซม. ปกี หนา้ ยาว 7.0 ซม. ลำ� ตวั สนี ำ้� ตาล ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ โคนปกี และปลายปกี มสี นี ำ้� ตาลเทา มแี ถบสขี าว กลางปกี ลวดลายรปู สเี่ หลย่ี ม มขี นาดเลก็ เรยี วไปสขู่ อบปกี ปกี คหู่ ลงั โคนปกี สนี ำ้� เงนิ เทา ลวดลายรปู เหลย่ี ม มขี นาดเลก็ เรยี ว ไปสขู่ อบปกี ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ จดุ ตา สนี ำ้� ตาล 2 จดุ หา่ งกนั ปกี คหู่ ลงั จดุ ตา สนี ำ�้ ตาล 3 จดุ หา่ งกนั ชนดิ ทใี่ กลเ้ คยี ง - ความหลากหลาย มี 2 ชนดิ ยอ่ ย S. c. cambodia S. c. aditha เขตแพรก่ ระจาย ภาคตะวนั ออกของไทย กมั พชู า และคาบสมทุ รอนิ โดจนี พชื อาหาร วงศป์ าลม์ (Arecacae) และวงศห์ ญา้ ไผ่ (Poaceae) เปน็ ผเี สอ้ื กลางวนั ทม่ี ขี นาดใหญอ่ าศยั อยใู่ นปา่ ดบิ บนิ ระดบั ตำ�่ ๆ และมกั เกาะพราง ีผเ ้สือนางพญาเขมร เร่ืองน่ารู้ ตวั อยกู่ บั ลำ� ตน้ ของตน้ ไม้ ชอบดดู กนิ เกลอื แรจ่ ากมลู สตั วแ์ ละผลไมเ้ นา่
18 ผเี สอื้ นางพญากอดเฟรย Stichophthalma godfreyi กรมอุทยานแหง่ ชาต ิ สตั ว์ป่า และพนั ธุพ์ ชื สา� นกั วจิ ัยการอนุรกั ษป์ ่าไม้และพันธุ์พืช ส่วนวจิ ยั การอนุรักษ์ป่าไม้
19 ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Stichophthalma godfreyi ชอื่ สามญั Godfrey’s Junglequeen ชอื่ ทอ้ งถนิ่ ผเี สอ้ื นางพญากอดเฟรย์ ขนาด 15.0-18.0 ซม. ลำ� ตวั สนี ำ้� ตาล ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ โคนปกี สดี ำ� นำ้� เงนิ ถดั มาเปน็ สนี ำ้� เงนิ เขยี ว มจี ดุ ครมี ขนาดใหญ่ 3 จดุ เรยี งตอ่ กบั ลวดลายรปู สเ่ี หลยี่ มขนาดใหญ่ ทใ่ี กลข้ อบปกี ปกี คหู่ ลงั มจี ดุ สขี าว 5 จดุ เรยี งตอ่ กนั ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ ลวดลายสขี าวรปู สามเหลย่ี มตดิ เสน้ ขอบปกี มจี ดุ ตา สนี ำ้� ตาล 5 จดุ จดุ แรกจางมาก ปกี คหู่ ลงั มจี ดุ ตาสนี ำ�้ ตาลขนาดใหญ่ 3 จดุ ชนดิ ทใี่ กลเ้ คยี ง - ความหลากหลาย - เขตแพรก่ ระจาย พมา่ และคาบสมทุ รภาคใตข้ องไทย พชื อาหาร วงศป์ าลม์ (Arecacae) และวงศห์ ญา้ ไผ่ (Poaceae) เปน็ ผเี สอ้ื หายากในสกลุ ผเี สอื้ นางพญา มขี นาดใหญท่ สี่ ดุ พบเฉพาะในปา่ ดบิ ชนื้ ทม่ี คี วาม ีผเสื้อนางพญากอดเฟร ์ย เรื่องน่ารู้ อดุ มสมบรู ณ์
20 ผเี สื้อนางพญาพมา Stichophthalma louisa กรมอทุ ยานแห่งชาต ิ สตั วป์ า่ และพนั ธ์พุ ชื ส�านกั วิจัยการอนุรกั ษป์ า่ ไมแ้ ละพนั ธุ์พืช สว่ นวิจยั การอนุรกั ษป์ ่าไม้
21 ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Stichophthalma louisa ชอื่ สามญั Burmese Junglequeen ชอื่ ทอ้ งถนิ่ ผเี สอ้ื นางพญาพมา่ ขนาด 12.5-15.0 ซม. ลำ� ตวั สนี ำ้� ตาล ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ โคนปกี สเี หลอื งสม้ สว่ นกลางปกี สขี าว ทข่ี อบปกี มเี สน้ หยกั สดี ำ� ปกี คหู่ ลงั เกอื บทง้ั ปกี เปน็ สเี หลอื งสม้ มจี ดุ สดี ำ� รปู เหลยี่ ม 6 จดุ ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ โคนปกี สนี ำ้� ตาลสม้ จดุ ตาสนี ำ�้ ตาล ขอบสดี ำ� สว่ นตรงกลาง มจี ดุ ขาว 5-6 จดุ ปกี คหู่ ลงั จดุ ตาสนี ำ้� ตาลขอบดำ� 5 จดุ ชนดิ ทใี่ กลเ้ คยี ง - ความหลากหลาย มี 3 ชนดิ ยอ่ ย คอื S. l. louisa, S. l. siamensis และ S. l. mathilda เขตแพรก่ ระจาย อนิ เดยี พมา่ ทางเหนอื ของเวยี ดนาม และไทย พชื อาหาร วงศป์ าลม์ (Arecacae) และวงศห์ ญา้ ไผ่ (Poaceae) เร่ืองน่ารู้ ผีเส้ือนางพญาพม่าเป็นผีเส้ือที่มีหลายชนิดย่อยมากกว่าผีเส้ือนางพญาชนิดอื่น ีผเ ้สือนางพญาพ ่มา มลี กั ษณะ สสี นั ทแ่ี ตกตา่ งกนั ไป เปน็ ผเี สอื้ ทบี่ นิ ในระดบั เรยี บพน้ื ชอบตอมผลไมเ้ นา่ และมลู สตั ว ์
22 ผีเส้ือไกเซอรอ ิมพเี รียล Teinopalpus imperialis Teinopalpus imperialis กรมอุทยานแหง่ ชาต ิ สตั ว์ปา่ และพนั ธุ์พืช สา� นักวิจัยการอนรุ ักษ์ปา่ ไม้และพันธ์พุ ืช ส่วนวิจัยการอนรุ ักษป์ า่ ไม้
23 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Teinopalpus imperialis ชอ่ื สามญั Kaiser, Kaiser-I-Hind, Kaiserihind ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ ผเี สอ้ื ไกเซอรอ์ มิ พเี รยี ล ขนาด ปกี หนา้ ยาว 5.2-6.2 ซม. ปกี หลงั ยาว 5.2-6.2 ซม. ตงิ่ ปกี ทย่ี าวทสี่ ดุ ยาว 1.5-1.8 ซม. ลำ� ตวั เพศผ ู้ อกและทอ้ งดำ� มเี กลด็ สเี ขยี วอยดู่ า้ นหลงั เพศเมยี มเี กลด็ สเี ขยี วปกคลมุ ทว่ั ตวั ชดั เจน ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ โคนปกี สเี ขยี วเขม้ มแี ถบเหลอื งเรยี วยาวคาดขวาง เพศเมยี โคนปกี สเี ขยี วเขม้ มแี ถบสเี ทาจางและเขม้ คาดสลบั ขาว ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ มแี ถบสเี หลอื งสดทบ่ี รเิ วณกลางปกี ถดั มามแี ถบสมี ว่ งเขม้ และจดุ สเี หลอื ง-เขยี วทป่ี ลายปกี สว่ นปลายตงิ่ สเี หลอื ง เพศเมยี กลางปกี สเี ทา-เขยี ว มแี ถบสเี หลอื งอยทู่ มี่ มุ ปกี ดา้ นลา่ ง ขอบปกี มจี ดุ สมี ว่ ง ตงิ่ ปกี 5 ตง่ิ ปลายตงิ่ ปกี มสี เี หลอื ง-ทอง ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ มแี ถบสเี ทาเขม้ คาดขวาง 2 แถบ ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ โคนปกี สเี ขยี ว มแี ถบสเี หลอื งทกี่ ลางปกี ปลายแถบมจี ดุ สมี ว่ งเลก็ ๆ และจดุ สเี ขยี ว-เหลอื งทข่ี อบปกี ชนดิ ทใี่ กลเ้ คยี ง T. aureus แตต่ วั เลก็ กวา่ และมแี ถบสเี ทาทป่ี กี หนา้ และแถบสเี หลอื ง ทปี่ กี หลงั ยาวกวา่ ความหลากหลาย T. i. Imperatrix, T. i. bhumipoli, T. i. gillesi, T. i. gerritesi เขตแพรก่ ระจาย เนปาล อนิ เดยี ภฏู าน ภาคเหนอื ของพมา่ ไทย และจนี ความสำ� คญั เปน็ สตั วป์ า่ คมุ้ ครองในบญั ชที ่ี 2 แหง่ อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการคา้ ระหวา่ งประเทศซงึ่ ชนดิ สตั วป์ า่ และพชื ปา่ ทใี่ กลส้ ญู พนั ธ์ุ พชื อาหาร พชื วงศจ์ ำ� ปา (Magnoliaceae) ีผเสื้อไกเซอร์ ิอมพีเ ีรยล เร่ืองน่ารู้ ผเี สอ้ื ไกเซอรอ์ มิ พเี รยี ลมถี น่ิ อาศยั บนยอดเขาทมี่ คี วามสงู จากระดบั นำ้� ทะเลปานกลาง ไมต่ ำ่� กวา่ 1,800 เมตร ในประเทศไทยสามารถพบไดท้ อ่ี ทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยผา้ หม่ ปก อทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยอนิ ทนนท์ และอทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยภคู า
24 ผีเส้ือถงุ ทองปก ษใ ต Troides amphrysus Troides amphrysus กรมอทุ ยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพนั ธุพ์ ืช สา� นักวจิ ยั การอนุรกั ษ์ปา่ ไมแ้ ละพนั ธุพ์ ืช ส่วนวจิ ยั การอนุรักษ์ปา่ ไม้
25 ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Troides amphrysus ชอ่ื สามญั Malay Birdwing, Golden Birdwing ชอื่ ทอ้ งถนิ่ ผเี สอื้ ถงุ ทองปกั ษใ์ ต้ ขนาด เพศผ ู้ 12.5-14.5 ซม. ปกี หนา้ ยาว 7.0-8.3 ซม. เพศเมยี 14.5-17.0 ซม. ปกี หนา้ ยาว 8.5-9.5 ซม. ลำ� ตวั เพศผ ู้ หวั สดี ำ� มแี ถบสแี ดงหรอื สเี หลอื งคาดอยดู่ า้ นหลงั อกสดี ำ� ทอ้ งดา้ นหลงั สเี หลอื ง-ครมี บางครงั้ มเี สน้ สดี ำ� คาดลำ� ตวั เปน็ ปลอ้ ง ๆ เพศเมยี หวั สดี ำ� มแี ถบสแี ดงคาดดา้ นบน อกสนี ำ้� ตาลดำ� ทอ้ งสนี ำ�้ ตาลเขม้ ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ พน้ื ปกี สดี ำ� มเี กลด็ สเี หลอื งกระจายจากปลายเซลล์ ถงึ ปลายปกี เพศเมยี พน้ื สนี ำ�้ ตาล มเี กลด็ สขี าว-เทา อมเหลอื ง กระจายจาก ปลายเซลลแ์ ละตามเสน้ ปกี ถงึ สว่ นปลายปกี อยา่ งชดั เจน ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ พนื้ สเี หลอื งทอง ขอบปกี มรี ปู ลม่ิ สดี ำ� ปลายปกี ลา่ งสดุ มลี กั ษณะเหมอื นจดุ 2 จดุ เชอื่ มกนั เปน็ จดุ เดยี ว เพศเมยี ขอบปกี สดี ำ� และมแี ถบสดี ำ� บนพนื้ สเี หลอื ง เหน็ เสน้ ปกี สนี ำ้� ตาลชดั เจน ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ สเี หลอื งจางกวา่ ดา้ นหลงั ปกี คหู่ ลงั เชน่ เดยี วกบั ดา้ นหลงั ชนดิ ทใี่ กลเ้ คยี ง ทงั้ 2 เพศ คลา้ ย T. cuneifera ความหลากหลาย มี 5 ชนดิ ยอ่ ย T. a. amphrysus, T. a. flavicollis, T. a. niasicus, T. a. vistara และ T. a. ruficollis เขตแพรก่ ระจาย บรไู น อนิ โดนเี ซยี มาเลเซยี และภาคใตข้ องไทย ความสำ� คญั เปน็ แมลงคมุ้ ครองในบญั ชที ่ี 2 แหง่ อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการคา้ ระหวา่ งประเทศซง่ึ ชนดิ สตั วป์ า่ และพชื ปา่ ทใ่ี กลส้ ญู พนั ธ์ุ พชื อาหาร กระเชา้ ถงุ ทอง (Aristolochia pothieri) ีผเสื้อ ุถงทอง ัปกษ์ใ ้ต ผเี สอ้ื ถงุ ทองปกั ษใ์ ตเ้ ปน็ ผเี สอื้ ทม่ี เี ขตการแพรก่ ระจายจำ� กดั เฉพาะบรเิ วณคาบสมทุ ร เร่อื งนา่ รู้ มลายู ทางภาคใตข้ องไทย
26 ผีเส้อื ถงุ ทองปา สงู Troides helena Troides helena กรมอุทยานแหง่ ชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พุ ชื ส�านกั วิจยั การอนุรกั ษป์ ่าไม้และพันธ์พุ ืช สว่ นวจิ ยั การอนรุ กั ษ์ป่าไม้
27 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Troides helena ชอ่ื สามญั Common Birdwing, Black and Gold Birdwing ชอื่ ทอ้ งถนิ่ ผเี สอ้ื ถงุ ทองปา่ สงู ขนาด เพศผ ู้ 11.2-12.5 ซม. ปกี หนา้ ยาว 6.6-7.6 ซม. เพศเมยี 12.3-15.0 ซม. ปกี หนา้ ยาว 7.5-8.6 ซม. ลำ� ตวั เพศผ ู้ ทอ้ งดา้ นหลงั สเี หลอื งปนดำ� มแี ถบสเี หลอื งเลก็ ๆ คาดเปน็ ปลอ้ ง ๆ ดา้ นทอ้ งสเี หลอื ง บางครง้ั มเี กลด็ สดี ำ� กระจายอยดู่ ว้ ย เพศเมยี ทอ้ งสเี ทาดำ� หรอื สนี ำ�้ ตาล มแี ถบสเี หลอื งคาดอยรู่ ะหวา่ ง ปลอ้ งเลก็ นอ้ ย ดา้ นทอ้ งสเี หลอื ง มจี ดุ สดี ำ� แตม้ อยู่ ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ พน้ื สดี ำ� เพศเมยี สจี างกวา่ และมแี ถบสเี ทาจาง ๆ ขนาบเสน้ ปกี ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ พนื้ สเี หลอื งทอง ขอบปกี ดา้ นนอกสดี ำ� หยกั เหมอื นพระจนั ทรเ์ สยี้ ว เพศเมยี มจี ดุ สดี ำ� รปู สามเหลยี่ มเรยี งอยู่ 1 แถว (เพศผู้ ถา้ มจี ะเลก็ กวา่ มาก) ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ เหมอื นดา้ นหลงั ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ เหมอื นดา้ นหลงั ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง T. darsius, T. plato, T. oblongomaculatus, T. vandepolli ความหลากหลาย มี 17 ชนดิ ยอ่ ย คอื T. h. helena, T. h. heliconoides, T. h. ferrari, T. h. propinquus, T. h. sagittatus, T. h. cerberus, T. h. hephaestus, T. h. spilotia, T. h. maurus, T. h. antileuca, T. h. typhaon, T. h. nereis, T. h. nereides, T. h. mopa, T. h. neoris, T. h. isara, T. h. moschylus เขตแพรก่ ระจาย บงั คลาเทศ ภฏู าน บรไู น พมา่ จนี อนิ เดยี อนิ โดนเี ซยี กมั พชู า ลาว มาเลเซยี เนปาล เวยี ดนาม และไทย ความสำ� คญั เปน็ แมลงคมุ้ ครองในบญั ชที ี่ 2 แหง่ อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยการคา้ ระหวา่ ง ประเทศซงึ่ ชนดิ สตั วป์ า่ และพชื ปา่ ทใ่ี กลส้ ญู พนั ธ์ุ ีผเสื้อ ุถงทองป่า ูสง พชื อาหาร กระเชา้ ถงุ ทอง (Aristolochia pothieri) เรอ่ื งนา่ รู้ เปน็ ผเี สอ้ื ขนาดใหญแ่ ละบนิ ในระดบั ยอดไมส้ งู ๆ เพศผแู้ ละเพศเมยี มลี กั ษณะคลา้ ยกนั คอื ปกี คหู่ นา้ สดี ำ� และปกี คหู่ ลงั สเี หลอื ง แตเ่ พศเมยี กลางปกี คหู่ ลงั จะมจี ดุ สดี ำ� ขนาด ใหญเ่ รยี งกนั
28 ผเี สือ้ หางยาวตาเคียวปกลายหยกั Actias maenas Actias maenas กรมอทุ ยานแห่งชาติ สตั ว์ปา่ และพันธพุ์ ชื สา� นกั วจิ ัยการอนุรักษป์ ่าไม้และพนั ธุพ์ ชื ส่วนวิจยั การอนรุ กั ษ์ป่าไม้
29 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Actias maenas ชอ่ื สามญั Moon Moth, Maenas Silkmoth ชอื่ ทอ้ งถนิ่ ผเี สอ้ื หางยาวตาเคยี วปกี ลายหยกั ขนาด เพศผ ู้ 12.0-13.0 ซม. เพศเมยี 15.0 ซม. ลำ� ตวั ลำ� ตวั มขี นหนา ปลายหนวดแตกเปน็ ขนนก ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ สเี หลอื งมะนาว กลางปกี มแี ถบสนี ำ�้ ตาลอมชมพู และมสี นี ำ้� ตาลออ่ นถงึ นำ้� ตาลแดง จดุ ตารปู เคยี ว สที องแดงทก่ี ลางปกี ตดิ กบั ขอบปกี เพศเมยี สจี างกวา่ เปน็ สเี หลอื งออ่ น จดุ ตารปู เคยี วสที อง ขนาดใหญ่ ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ สเี หมอื นปกี หนา้ แตม่ หี างยาวปลายหางรปู ธง มขี นหนาทข่ี อบปกี ตดิ กบั ทอ้ ง จดุ ตารปู ไขห่ รอื กลม เพศเมยี จดุ ตาเปน็ รปู ไต สสี ม้ เหลอื งถงึ เหลอื งจาง หางยาว ปลายหางเปน็ รปู ธง ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ สจี างกวา่ ดา้ นหลงั จดุ และเสน้ สนี ำ้� ตาลเทา จดุ ตาสนี ำ�้ ตาล ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ มเี สน้ ขวาง 2 เสน้ เพศเมยี มเี สน้ ขวาง 1 เสน้ จดุ ตาสชี มพู รปู ไข่ มองเหน็ เสน้ ปกี ชดั ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง - ความหลากหลาย - ีผเส้ือหางยาวตาเคียว ีปกลายหยัก เขตแพรก่ ระจาย อนิ เดยี จนี พมา่ ไทย ตะวนั ตกของมาเลเซยี หมเู่ กาะซนุ ดา และอนิ โดนเี ซยี ผเี สอ้ื ชนดิ นม้ี เี ขตการแพรก่ ระจายตง้ั แตบ่ รเิ วณภาคใตถ้ งึ ภาคเหนอื ของไทย ปจั จบุ นั เร่ืองน่ารู้ ไมม่ รี ายงานการปรากฏมาเปน็ เวลานานแลว้
30 ผเี สอ้ื หางยาวตาเคยี วปก ลายตรง Actias rhodopneuma Actias rhodopneuma กรมอทุ ยานแห่งชาต ิ สัตวป์ ่า และพันธ์ุพชื ส�านักวิจยั การอนุรักษ์ปา่ ไมแ้ ละพันธ์พุ ชื ส่วนวิจยั การอนรุ กั ษ์ป่าไม้
31 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Actias rhodopneuma ชอ่ื สามญั Lunar Moth ชอื่ ทอ้ งถน่ิ ผเี สอ้ื หางยาวตาเคยี วปกี ลายตรง ขนาด เพศผ ู้ 11.0 ซม. เพศเมยี 11.4 ซม. ลำ� ตวั สเี หลอื งมขี นหนาปกคลมุ ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ สเี หลอื งมะนาว โคนปกี และขอบปกี ระบายดว้ ย สชี มพบู าง ๆ เปน็ เสน้ ตรง มจี ดุ ตารปู คลา้ ยเคยี ว เพศเมยี สเี ขยี วออ่ น มเี สน้ ตรงสนี ำ�้ ตาลพาดขวางปกี ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ มหี างยาวแบน จดุ ตาสชี มพจู าง ๆ เพศเมยี จดุ ตาทขี่ อบดา้ นหนง่ึ ระบายดว้ ยสดี ำ� ทก่ี ลางหางขอบนอกมสี ชี มพู ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ เพศผู้ สเี หมอื นปกี ดา้ นหลงั แตจ่ างกวา่ จดุ ตารปู ไขไ่ มช่ ดั เจน ปกี คหู่ ลงั เพศผู้ เหมอื นปกี ดา้ นหลงั แตจ่ างกวา่ ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง - ความหลากหลาย - เขตแพรก่ ระจาย อนิ เดยี จนี พมา่ และไทย เรือ่ งน่ารู้ จากการสำ� รวจในโครงการศกึ ษาสถานภาพและเขตการแพรก่ ระจายของผเี สอื้ หางยาว ีผเส้ือหางยาวตาเคียว ีปกลายตรง ในประเทศไทยของกรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สตั วป์ า่ และพนั ธพ์ุ ชื ระหวา่ งปี พ.ศ. 2547- 2549 พบผเี สอ้ื ชนดิ นเ้ี พยี ง 1 ตวั ทอี่ ทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยภคู า จงั หวดั นา่ น ทร่ี ะดบั ความสงู จากนำ้� ทะเลปานกลาง 1,303 เมตร
32 ผีเส้ือหางยาวสีต่ าปกลายตรง Actias selene กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตวป์ า่ และพนั ธพุ์ ชื ส�านักวจิ ยั การอนรุ ักษป์ า่ ไม้และพันธพุ์ ชื สว่ นวจิ ยั การอนรุ ักษป์ า่ ไม้
33 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Actias selene ชอ่ื สามญั Luna Moth, Indian Moon Moth, Indian Luna Moth ชอื่ ทอ้ งถนิ่ ผเี สอื้ หางยาวสตี่ าปกี ลายตรง ขนาด เพศผ ู้ 12.2-13.5 ซม. เพศเมยี 14.5-15.0 ซม. ลำ� ตวั สเี หลอื งมขี นหนาปกคลมุ ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ สเี หลอื งสม้ ออ่ น มจี ดุ ตารปู ไข่ ภายในมจี ดุ โปรง่ แสง เลก็ ๆ ตดิ กบั รปู พระจนั ทรเ์ สย้ี ว เสน้ ตรงสนี ำ�้ ตาลเทา ขวางเสน้ ปกี มสี เี หลอื งสม้ ชดั เจน เพศเมยี สเี หลอื งออ่ น จดุ ตารปู ไขเ่ หน็ ชดั มเี สน้ ตรงสนี ำ�้ ตาล พาดขวางปกี เสน้ ปกี เปน็ สเี หลอื งสม้ ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ มรี ปู พระจนั ทรเ์ สยี้ วขนาดเลก็ สเี ดยี วกบั ปกี หนา้ สว่ นของหางมสี ชี มพอู อ่ น รปู ดาบ เพศเมยี สพี น้ื เชน่ เดยี วกบั ปกี หนา้ มจี ดุ รปู ไข่ สว่ นหางแผแ่ บน ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ สขี าวกวา่ ดา้ นหลงั สว่ นปลายหางของตวั ผสู้ เี หลอื ง จดุ ตาสจี างเลอะเลอื น ปกี คหู่ ลงั เหมอื นดา้ นหลงั แตจ่ างกวา่ ขนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง มชี นดิ ยอ่ ย 3 ชนดิ คอื A. s. seitzi, A. s. miae, A. s. vandenberghi เขตแพรก่ ระจาย รสั เซยี อฟั กานสิ ถาน อนิ เดยี ปากสี ถาน เนปาล ศรลี งั กา ญปี่ นุ่ อนิ โดนเี ซยี ไทย มาเลเซยี และฟลิ ปิ ปนิ ส์ ีผเส้ือหางยาวส่ีตา ีปกลายตรง พชื อาหาร การบรู (Cinnamomum camphora) มเี ขตการแพรก่ ระจายตงั้ แตจ่ งั หวดั เชยี งใหมไ่ ปจนถงึ จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ ปจั จบุ นั เรอื่ งนา่ รู้ พบไดน้ อ้ ย
34 ผีเสอื้ หางยาวส่ตี าปกลายหยกั Actias sinensis กรมอุทยานแหง่ ชาติ สัตวป์ ่า และพนั ธพุ์ ชื สา� นักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไมแ้ ละพันธ์พุ ืช สว่ นวจิ ยั การอนรุ กั ษป์ ่าไม้
35 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Actias sinensis ชอื่ สามญั Luna Moth ชอื่ ทอ้ งถน่ิ ผเี สอื้ หางยาวสตี่ าปกี ลายหยกั ขนาด เพศผ ู้ 9.0-10.0 ซม. เพศเมยี 10.4-11.7 ซม. ลำ� ตวั สเี หลอื งมขี นหนาปกคลมุ ดา้ นหลงั ปกี คหู่ นา้ เพศผ ู้ เสน้ ลวดลายทเ่ี ปน็ เสน้ สนี ำ�้ ตาลจาง โดยเฉพาะเสน้ พาดขวางปกี เปน็ รอยหยกั มจี ดุ ตารปู ไข่ ทมี่ สี ชี มพหู รอื สมี ว่ งแดงขา้ งใน เพศเมยี ปรากฏเฉพาะเสน้ ขอบใกลข้ อบปกี เทา่ นน้ั จดุ ตาเชน่ เดยี วกบั เพศผู้ ปกี คหู่ ลงั เพศผ ู้ มสี สี นั ลวดลายเชน่ เดยี วกบั ดา้ นหลงั แตส่ ว่ นของ เสน้ ลวดลายทตี่ ดั ขอบปกี และปลายหางสที องแดง เพศเมยี ปลายหางกวา้ งคลา้ ยธง ดา้ นทอ้ ง ปกี คหู่ นา้ สเี หมอื นดา้ นหลงั แตต่ วั เมยี มฝี นุ่ สดี ำ� จดุ ตามขี นาดเลก็ แตไ่ มห่ ายไป ปกี คหู่ ลงั สเี หมอื นดา้ นหลงั แตจ่ างกวา่ ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง - ความหลากหลาย - เขตแพรก่ ระจาย ภาคใตข้ องจนี ไทย ลาว และเวยี ดนาม ีผเส้ือหางยาวสี่ตา ีปกลายหยัก ไมม่ รี ายงานการปรากฎผเี สอื้ ชนดิ นเ้ี ปน็ เวลานานมากแลว้ เรอ่ื งน่ารู้
36 ดวงกวา งดาว Cheirotonus parryi กรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั วป์ ่า และพันธพุ์ ชื สา� นักวจิ ยั การอนรุ กั ษ์ปา่ ไมแ้ ละพนั ธพ์ุ ืช สว่ นวิจัยการอนรุ ักษ์ปา่ ไม้
37 ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Cheirotonus parryi ชอ่ื สามญั Long-Armed Beetle ชอ่ื ทอ้ งถนิ่ ดว้ งกวา่ งดาวหนามขาตรง ขนาด เพศผ ู้ 4.8-7.1 ซม. (วดั จากปลายหวั ถงึ ปลายทอ้ ง) เพศเมยี 4.8-5.5 ซม. ลกั ษณะ เพศผ ู้ หวั และอกสเี ขยี ววาว ผวิ ขรขุ ระ กลางอกบมุ ขอบมขี นสนี า�้ ตาลยาวชดั เจน ขาทกุ คมู่ หี นามและขนสี นา�้ ตาลสน้ั ๆ แตข่ าคหู่ นา้ ยาวลกั ษณะคลา้ ยเขากวางและไมม่ ี ขน พนื้ ปกี สนี า้� ตาลดา� มจี ดุ สนี า้� ตาลกระจายทวั่ ตวั เพศเมยี หวั และอกสเี ขยี ววาว ผวิ ขรขุ ระ กลางอกบมุ ขาคหู่ นา้ ไมย่ าว เหมอื นตวั ผแู้ ตม่ หี นามสน้ั ๆ เหมอื นขาคอู่ น่ื และมขี น สนี า้� ตาลสนั้ พน้ื ปกี สนี า้� ตาลดา� มจี ดุ สนี า้� ตาลกระจายหนาแนน่ กวา่ ตวั ผ้ ู ชนดิ ทใี่ กลเ้ คยี ง C. gastroi (ดว้ งกวา่ งดาวหนามขาเฉยี ง) เขตแพรก่ ระขาย ภาคตะวนั ออกของอนิ เดยี บงั คลาเทศ พมา่ ไทย ลาว เร่ืองน่ารู้ เป็นด้วงขนาดใหญ่ เพศผู้มีขาคู่หน้ายาวและแตกออกเป็นกิ่งแหลมคล้ายเขากวาง ด้วงก ‹วางดาวหนามขาตรง ท่ีสวยงามใช้ในการเกาะต้นไม้และใช้เป็นอวัยวะในการยึดเพศเมียขณะผสมพันธุ์ ดว้ งกวา่ งดาวสว่ นใหญม่ พี ฤตกิ รรมชอบบนิ เขา้ หาแสงไฟ ดว้ ยลกั ษณะทส่ี วยงามและ มสี สี นั แปลกตา จงึ ทา� ใหด้ ว้ งกวา่ งดาวถกู ลกั ลอบจบั เพอื่ การคา้ จนจา� นวนประชากร ลดลงเปน็ จา� นวนมาก
38 ดว งดินปก แผน Mormolyce phyllodes กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตว์ปา่ และพันธพ์ุ ชื ส�านักวจิ ัยการอนรุ กั ษป์ ่าไม้และพนั ธพุ์ ืช สว่ นวิจยั การอนรุ กั ษ์ป่าไม้
39 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Mormolyce phyllodes ชอื่ สามญั Violin Beetle, Malayan Leaf Beetle, Fiddle Beetle ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ ดว้ งดนิ ปกี แผน่ ขนาด 8.0-9.0 ซม. ลกั ษณะ หวั ยาว 1.5-1.8 ซม. สนี า้� ตาลเขม้ -ดา� หนวดยาว ประมาณ 7.0 ซม. สดี า� ตาโปนสนี า้� ตาล อกยาว 1.5-1.7 ซม. สนี า้� ตาลเขม้ ดา� เปน็ รปู สามเหลยี่ มขอบหยกั ขายาวสดี า� ขา้ งลา� ตวั มแี ผน่ ปกี แบนกวา้ งออก 2 ขา้ งรปู รา่ ง คลา้ ยไตขรขุ ระ ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง M. castelnaudi (ดว้ งดนิ ปกี แผน่ อกหนาม) มขี นาดเลก็ กวา่ ดว้ งดนิ ปกี แผน่ ดา้ นขา้ งของสนั หลงั อก มหี นามโดยเฉพาะทสี่ ว่ นหนา้ หนามทอ่ี ยถู่ ดั จากสว่ นกลาง ลงมาไมช่ ไี้ ปทางดา้ นหลงั เหมอื นทพ่ี บในดว้ งดนิ ปกี แผน่ เขตแพรก่ ระจาย คาบสมทุ รภาคใตข้ องไทย มาเลเซยี และอนิ โดนเี ซยี แหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั พบอาศยั อยตู่ ามเชอ้ื ราแผน่ สเี ทาทขี่ น้ึ อยตู่ ามขอนไม้ อาหาร กนิ แมลงขนาดเลก็ เปน็ อาหาร ดว้ งดนิ ปกี แผน่ สามารถฉดี พน่ นา�้ พษิ เพอื่ ทา� ใหเ้ หยอ่ื สลบได้ หากฉดี เขา้ ตาอาจทา� ให้ ด้วง ิดนปีกแ ‹ผน เร่ืองน่ารู้ ตาบอดได้
40 ดว งดนิ ขอบทองแดง Mouhotia batesi กรมอทุ ยานแห่งชาต ิ สตั ว์ปา่ และพนั ธพุ์ ืช สา� นกั วิจยั การอนรุ กั ษ์ปา่ ไม้และพันธุพ์ ืช ส่วนวิจยั การอนุรักษ์ปา่ ไม้
41 ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Mouhotia batesi ชอ่ื สามญั Red-Borred Ground Beetle, Large Ground Beetle ชอ่ื ทอ้ งถนิ่ ดว้ งดนิ ขอบทองแดง ขนาด 3.8-4.9 ซม. (ไมร่ วมเขยี้ ว) ลกั ษณะ หวั แบนรปู สเ่ี หลยี่ มผนื ผา้ ใตเ้ ขย้ี วมขี นสนี า้� ตาลหรอื สดี า� ขอบดา้ นขา้ งของหลงั อกสที องแดงหรอื สที องแดงอมเขยี ว ปกี สดี า� และมรี อ่ งเลก็ ๆ ตามแนวยาว ปกี ทงั้ สองเชอื่ มตดิ กนั บนิ ไมไ่ ด ้ ขอบปกี ดา้ นขา้ ง มสี เี ชน่ เดยี วกบั สว่ นอก ชนดิ ทใ่ี กลเ้ คยี ง M. convexa และ M. gloriosa เขตแพรก่ ระจาย ตอนใตข้ องจนี พมา่ ลาว และไทย (พบทว่ั ทกุ ภาคยกเวน้ ภาคใต)้ พชื อาหาร กนิ สตั วไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลงั ขนาดเลก็ ทอ่ี าศยั อยบู่ นผวิ ดนิ เชน่ แมลงขนาดเลก็ กง้ิ กอื และไสเ้ ดอื น เรือ่ งนา่ รู้ จากลกั ษณะทางนเิ วศวทิ ยาพบวา่ มกั ชอบอาศยั อยบู่ รเิ วณพน้ื ดนิ ทมี่ เี ศษซากพชื ทบั ถม ด้วง ิดนขอบทองแดง และมคี วามชน้ื คอ่ นขา้ งมาก เมอ่ื พบศตั รจู ะปลอ่ ยสารพษิ ทม่ี กี ลนิ่ ฉนุ ออกมาเพอื่ ปอ งกนั ตวั ลกั ษณะทโ่ี ดดเดน่ และสสี นั ทส่ี วยงามของดว้ งชนดิ นที้ า� ใหเ้ ปน็ ทน่ี ยิ มของนกั สะสม และนกั คา้ แมลง จงึ มกี ารลกั ลอบจบั จากธรรมชาติ ซง่ึ ปจั จบุ นั สง่ ผลใหแ้ มลงชนดิ นมี้ ี ปรมิ าณลดลง
42 ดวงคมี ยรี าฟ Prosopocoilus (Cladognathus) giraffa กรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั วป์ ่า และพนั ธ์พุ ืช ส�านักวิจยั การอนรุ ักษ์ป่าไม้และพนั ธพุ์ ชื สว่ นวิจัยการอนุรักษป์ ่าไม้
43 ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Prosopocoilus (Cladognathus) giraffa ชอ่ื สามญั Giraffe Stag Beetle ชอ่ื ทอ้ งถน่ิ ดว้ งคมี ยรี าฟ ขนาด เพศผ ู้ 10.0 ซม. เขย้ี วยาว 4.0 ซม. เพศเมยี 3.1-4.8 ซม. ลกั ษณะ เพศผ ู้ ขนาดใหญ ่ มเี ขย้ี วยาว ดา้ นในมฟี นั ซใ่ี หญอ่ ยทู่ โ่ี คน เขย้ี วและมฟี นั ซเ่ี ลก็ ๆ เรยี งไปจนถงึ เกอื บสว่ นปลาย และมฟี นั ซใี่ หญค่ น่ั กอ่ นถงึ สว่ นปลาย เพศเมยี สว่ นหวั บรเิ วณขอบตรงกลาง ดา้ นบนจะมปี มุ่ ยนื่ ตรงไปดา้ นหนา้ 1 ค ู่ แตจ่ ะมขี นาดเลก็ กวา่ ตวั ผปู้ กี เรยี บมนั ไมม่ รี อ่ ง ชนดิ ใกลเ้ คยี ง ม ี 8 ชนดิ ยอ่ ย คอื P. g. borobudur, P. g. daisukei, P. g. keisukei, P. g. makatai, P. g. nilgiriensis, P. g. nishikawai, P. g. nishiyamai, P. g. timorensis เขตแพรก่ ระจาย เนปาล ภฏู าน ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของอนิ เดยี พมา่ ไทย ลาว และคาบสมทุ รมลายู เรือ่ งนา่ รู้ ดว้ งคมี ยรี าฟเปน็ ดว้ งคมี ทมี่ ขี นาดยาวทส่ี ดุ ในประเทศไทย (10.8 ซม.) ดว้ งคมี ยรี าฟ ด้วง ีคม ียราฟ ชนดิ ยอ่ ยทพ่ี บจากหมเู่ กาะในเอเชยี แปซฟิ ก มขี นาดยาวทสี่ ดุ ในโลก โดยยาวกวา่ ชนดิ ยอ่ ยทพี่ บในประเทศไทยเพยี งเลก็ นอ้ ย เขย้ี วขนาดใหญข่ องดว้ งคมี ยรี าฟใชใ้ นการตอ่ สู้ กบั เพศผตู้ วั อน่ื เพอื่ ชงิ สทิ ธใิ์ นการผสมพนั ธก์ุ บั เพศเมยี
44 บรรณานกุ รม ฉววี รรณ หตุ ะเจรญิ , โรเบริ ต์ คนั นงิ่ แฮม, สรุ ชยั ชลดา� รงคก์ ลุ , ภทั พมิ ล ไสว และสภุ โชต ิ องึ๊ วจิ ารณป์ ญั ญา. 2544. คมู่ อื ตรวจวเิ คราะหแ์ มลง คมุ้ ครอง. อนิ ทเิ กรเตด็ โปรดกั ชนั เทคโนโลย ี จา� กดั , กรงุ เทพฯ. พสิ ทุ ธ ิ์ เอกอา� นวย. 2555. ผเี สอื้ ในประเทศไทย. (พมิ พค์ รง้ั ท ่ี 2). อมรนิ ทร์ พรนิ้ ตง้ิ แอนด ์ พบั ลชิ ชง่ิ , กรงุ เทพฯ. สรุ ชยั ชลดา� รงคก์ ลุ , และชลธร ชา� นาญคดิ . 2556. บนั ทกึ ผเี สอ้ื . (พมิ พค์ รง้ั ท ี่ 2). สา� นกั วจิ ยั การอนรุ กั ษป์ า่ ไมแ้ ละพนั ธพ์ุ ชื , กรมอทุ ยานแหง่ ชาต ิ สตั วป์ า่ และพนั ธพ์ุ ชื , กรงุ เทพฯ. สว่ นพฤกษศาสตรป์ า่ ไม.้ 2554. ชอื่ พรรณไมแ้ หง่ ประเทศไทย เตม็ สมติ นิ นั ทน์ (ฉบบั แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ) พ.ศ. 2544. บรษิ ทั ประชาชนจา� กดั ,กรงุ เทพฯ. Pinratana. 1983. Butterflies in Thailand, Vol 2. The Viratham Press, Bangkok. Pinratana, A and J. N. Eliot. 1992. Butterflies in Thailand, Vol 1. Bosco Offset, Bangkok Pinratana, A. and Lampe, R. E. J. 1990. Moths of Thailand, Vol. 1, Saturniidae. Bosco Offset, Bangkok. The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora. 2013. http://www.cites.org/eng/ app/appendices.php. Appendices. Accessed on July 21, 2014. Wikipedia. 2014. Bhutanitis lidderdalii. http: //en.wikipedia.org/wiki/ Bhutanitis_lidderdalii. Accessed on July 20, 2014. กรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั ว์ปา่ และพนั ธพุ์ ืช สา� นักวิจยั การอนุรกั ษ์ปา่ ไม้และพันธพ์ุ ชื สว่ นวจิ ยั การอนรุ ักษ์ปา่ ไม้
Search