พระราชกรณยี กิจ ด้านความมั่นคงของประเทศ ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์คุกคามความสงบของประชาชนและความมั่นคงของประเทศไทย พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงด�ำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการทหาร โดยทรงเข้าร่วมปฏิบัติการรบในการต่อต้านการก่อการร้าย ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย รวมทั้งทรงเข้าร่วมในการคุ้มกันพ้ืนที่บริเวณรอบค่าย ผู้อพยพชาวกัมพูชาที่เขาล้าน จังหวัดตราด แม้เป็นพระราชภารกิจท่ีต้องทรงเสี่ยงภยันตราย แต่ด้วยความ ท่ีทรงเป็นชายชาติทหาร และเพ่ือความผาสุกของพสกนิกรและเพ่ือมนุษยธรรมต่อผู้ประสบความทุกข์ยาก จึงทรงปฏบิ ตั ิพระราชภารกิจดังกลา่ วโดยเตม็ พระก�ำลัง วนั ท่ี ๑๗ สิงหาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๖ ทรงเย่ียมหน่วยทหารในเขตกองทพั ภาคท่ี ๒ ณ ฐานปฏบิ ัตกิ ารบา้ นนาคู จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ และภพู านนอ้ ย จงั หวัดนครพนม 50 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
วนั ท่ี ๑๒ กุมภาพนั ธ์ พทุ ธศักราช ๒๕๒๐ ทรงเยีย่ มกองทพั ภาคที่ ๓ สว่ นหน้า จังหวดั พษิ ณุโลก วนั ท่ี ๑๓ สิงหาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๒ ทรงปฏบิ ัติพระราชกรณียกจิ ราชการสนามชายแดน จงั หวัดตราด วนั ที่ ๒๑ - ๒๒ สงิ หาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๒ ทรงปฏิบัติพระราชกรณยี กจิ ในการถวายความปลอดภยั ในโอกาสทส่ี มเด็จพระบรมราชชนนพี นั ปีหลวง เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ ไปทรงเยีย่ มศนู ย์อพยพผู้ลภี้ ยั เขาลา้ น จงั หวดั ตราด นอกจากนี้ ยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจถวายความปลอดภัยแด่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในคราวท่ีเสด็จพระราชด�ำเนิน ไปทรงเยยี่ มพสกนกิ รในพื้นที่ต่าง ๆ ท่วั ประเทศ ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย 51
ทรงตรวจพลสวนสนาม ณ จตั รุ ัสดา้ นนอกประตูทศิ ตะวันออกของมหาศาลาประชาคม กรงุ ปักก่ิง ในพธิ ีรับเสด็จระหว่างการเสด็จพระราชด�ำเนินแทนพระองค์ พระบาทสมเดจ็ พระมหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เยอื นสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๓ กมุ ภาพันธ์ - ๘ มีนาคม พทุ ธศักราช ๒๕๓๐ ดา้ นการต่างประเทศ ทรงพระวริ ยิ อตุ สาหะประกอบพระราชกรณียกิจส�ำคญั ในการเสด็จพระราชด�ำเนนิ ไปเยือนตา่ งประเทศ ในทั่วทุกทวีปเสมอมา ด้วยทรงตระหนักว่าสัมพันธภาพอันดีกับมิตรประเทศเป็นรากฐานส�ำคัญของความ สงบสุขและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว จึงได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเจริญ สมั พนั ธไมตรีทงั้ ในฐานะผแู้ ทนพระองคแ์ ละการเสดจ็ พระราชด�ำเนินสว่ นพระองค์ โดยจะทรงเตรยี มพระองค์ ด้วยการศึกษาหาความรู้เก่ียวกับประเทศที่จะไปทรงเยือน และระหว่างประทับในประเทศนั้น ๆ นอกจาก ทรงมุ่งม่ันที่จะเจริญสัมพันธไมตรีแล้ว ยังสนพระราชหฤทัยในการทอดพระเนตรและศึกษากิจกรรมต่าง ๆ ทจี่ ะทรงน�ำมาเป็นประโยชน์ในการพัฒนาบ้านเมอื งดว้ ย 52 ประทปี ทองส่องทางพลังงานไทย
ทอดพระเนตรพระมหาธาตุเจดยี ์ชเวดากอง ในคราวเสดจ็ พระราชด�ำเนนิ ไปทรงเยอื น สาธารณรฐั แห่งสหภาพเมยี นมา ระหวา่ งวนั ที่ ๒๙ กมุ ภาพันธ์ - ๒ มีนาคม พุทธศกั ราช ๒๕๓๑ มพี ระราชปฏิสนั ถารกบั นายเจียง เจ๋อหมนิ ประธานาธิบดแี ห่งสาธารณรัฐประชาชนจนี ณ ท�ำเนียบประธานาธิบดจี งหนานไห่ ระหว่างการเสดจ็ พระราชด�ำเนินไปทรงเยอื น สาธารณรัฐประชาชนจนี อยา่ งเป็นทางการ พรอ้ มด้วยสมเด็จพระเจา้ ลูกเธอ เจา้ ฟ้าพชั รกติ ิยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสารณิ สี ริ ิพัชร มหาวัชรราชธดิ า และสมเด็จพระเจ้าลกู เธอ เจา้ ฟา้ สริ วิ ณั ณวรี นารีรัตนราชกญั ญา ระหวา่ งวนั ที่ ๒๒ - ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๑ เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงรว่ มในงานพระราชทาน เล้ียงพระกระยาหาร เนอ่ื งในพระราชพิธีพัชราภเิ ษก ณ กรงุ ลอนดอน สหราชอาณาจักร ในโอกาสที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลซิ าเบทท่ี ๒ ทรงครองสริ ริ าชสมบตั ิครบ ๖๐ ปี ระหวา่ งวนั ท่ี ๒ - ๕ มถิ นุ ายน พุทธศกั ราช ๒๕๕๕ ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 53
วันท่ี ๒๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๒ เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงประกอบพธิ ีวางศลิ าฤกษ์อาคารเรียน โรงเรียนมธั ยมพชั รกิติยาภา ๑ ต�ำบลหนองฮี อ�ำเภอปลาปาก จังหวดั นครพนม ด้านการศกึ ษา ทรงตระหนักว่า การศึกษาของเด็กและเยาวชนเป็นรากฐานและเป็นก�ำลังส�ำคัญในการช่วยพัฒนา ประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองอย่างมีคุณภาพ พระองค์สนพระราชหฤทัยในการจัดการศึกษาให้แก่เยาวชน ในท้องถ่ินทุรกันดารห่างไกลความเจริญ เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสรับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียม และมีพระราชด�ำริส่งเสรมิ สนับสนุนสถานศกึ ษาทกุ ระดบั นอกจากน้ี ยงั ไดเ้ สดจ็ พระราชด�ำเนนิ ไปในการพระราชทานปรญิ ญาบตั รวฒุ บิ ตั ร ประกาศนยี บตั ร แกผ่ ทู้ ่ี ส�ำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เป็นประจ�ำทุกปี ด้วยทรงเห็นความส�ำคัญของการศึกษาและ มีพระเมตตาต่อบัณฑิตผู้ส�ำเร็จการศึกษา รวมทั้งเสด็จพระราชด�ำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตร วุฒิบัตร ประกาศนียบัตร และเข็มวทิ ยฐานะ แกผ่ ทู้ รงคุณวฒุ แิ ละผสู้ �ำเร็จการศึกษาจากวิทยาลยั ป้องกันราชอาณาจักร วทิ ยาลยั เสนาธกิ ารทหาร วทิ ยาลยั การทพั บก วทิ ยาลยั การทพั เรอื วทิ ยาลยั การทพั อากาศ โรงเรยี นเสนาธกิ าร ทหารบก โรงเรียนเสนาธกิ ารทหารเรอื โรงเรยี นเสนาธกิ ารทหารอากาศ 54 ประทีปทองส่องทางพลังงานไทย
วนั ที่ ๓ สิงหาคม พุทธศกั ราช ๒๕๓๓ เสดจ็ พระราชด�ำเนินไปทรงตรวจเยีย่ ม โรงเรยี นมธั ยมสริ วิ ัณวรี ๑ ต�ำบลเชยี งพิณ อ�ำเภอเมืองอุดรธานี จงั หวัดอดุ รธานี ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 55
วันท่ี ๒๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๔ เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงตรวจเย่ยี มโรงเรียนมธั ยมสริ ิวณั วรี ๑ ต�ำบลเชียงพิณ อ�ำเภอเมืองอุดรธานี จังหวดั อดุ รธานี 56 ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
วันที่ ๒๒ - ๒๔ มกราคม พทุ ธศักราช ๒๕๔๖ เสดจ็ พระราชด�ำเนินแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ไปพระราชทานปรญิ ญาบัตรแก่ ผู้ส�ำเรจ็ การศึกษาจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประจ�ำปกี ารศึกษา ๒๕๔๔ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วนั ท่ี ๑๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ เสด็จพระราชด�ำเนนิ แทนพระองค์ พระบาทสมเดจ็ พระมหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ ผสู้ �ำเร็จการศึกษาจากมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนดสุ ติ ประจ�ำปกี ารศึกษา ๒๕๕๔ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 57
วนั ท่ี ๓๐ สงิ หาคม พทุ ธศักราช ๒๕๕๕ เสดจ็ พระราชด�ำเนินแทนพระองค์ พระบาทสมเดจ็ พระมหาภมู ิพล อดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ไปพระราชทานปริญญาบัตร แกผ่ ู้ส�ำเรจ็ การศกึ ษา จากมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ประจ�ำปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๔ ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ทา่ พระจันทร์ วันท่ี ๓๑ กรกฎาคม พทุ ธศักราช ๒๕๕๕ เสดจ็ พระราชด�ำเนินแทนพระองคพ์ ระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ไปพระราชทานปรญิ ญาบัตร วุฒบิ ัตร ประกาศนียบตั ร และเขม็ วทิ ยฐานะ แกผ่ ู้ทรงคุณวุฒิและผู้ส�ำเรจ็ การศกึ ษาจากวทิ ยาลัยปอ้ งกันราชอาณาจกั ร วิทยาลยั เสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพบก วิทยาลัยการทัพเรอื วิทยาลัยการทพั อากาศ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ประจ�ำปีการศกึ ษา ๒๕๕๒ - ๒๕๕๔ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร 58 ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
ดา้ นการเกษตรและสง่ิ แวดล้อม ด้วยความสนพระราชหฤทัยงานด้านการเกษตรและ การพฒั นามาตง้ั แตย่ งั ทรงพระเยาว์ จงึ ไดต้ ามเสดจ็ พระบาทสมเดจ็ พระมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ไปทอดพระเนตร การท�ำนา พร้อมกับทรงขับรถไถนาและทรงหว่านเมล็ดข้าว ณ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ครั้นเมื่อทรงเจริญ พระชนมพรรษาแล้ว พระองค์ใสพ่ ระราชหฤทัยและให้ความส�ำคัญ กบั งานพฒั นา โดยเฉพาะในเรอ่ื งการเกษตรทไ่ี มท่ �ำลายสง่ิ แวดลอ้ ม การพัฒนาประสิทธิภาพ และเพ่ิมผลผลิตการเกษตร รวมท้ัง กจิ กรรมด้านการเกษตรครบวงจร ทรงทุ่มเทพระสติปัญญาอย่างเต็มที่และพระวรกายอย่าง เตม็ พระก�ำลงั ในการเสดจ็ พระราชด�ำเนนิ ไปยงั พนื้ ทก่ี ารเกษตรตา่ ง ๆ เพ่ือทอดพระเนตรและติดตามความคืบหน้าในการด�ำเนินงาน พระราชทานพระราชวินิจฉยั เพอื่ พระราชทานความช่วยเหลือ และ พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้นและ ย่งั ยืนสบื ไป นอกจากนี้ ยังได้ทรงบ�ำเพ็ญพระราชกรณียกิจส�ำคัญ อีกประการหน่ึงซึ่งสะท้อนให้เห็นความใส่พระราชหฤทัยต่องาน ด้านการเกษตร โดยเฉพาะข้าว นั่นคือ การเสด็จพระราชด�ำเนิน แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการพระราชพิธีพืชมงคล ณ วัดพระศรีรัตน- ศาสดาราม และพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ มณฑลพธิ ที อ้ งสนามหลวง ซง่ึ เปน็ พระราชพธิ ที ศี่ กั ดส์ิ ทิ ธยิ์ ง่ิ ใหญ่ เพ่ือสร้างขวญั ก�ำลงั ใจและเสยี่ งทายความอดุ มสมบรู ณข์ องพชื พนั ธ์ุ ธญั ญาหารเป็นประจ�ำทุกปี ทรงสนพระราชหฤทยั งานดา้ นการเกษตรและการพฒั นาตง้ั แตย่ งั ทรงพระเยาว์ ประทีปทองส่องทางพลงั งานไทย 59
วนั ท่ี ๒๘ มนี าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๙ ทรงเก่ียวขา้ วแปลงนาสาธติ ณ บงึ ไผแ่ ขก ต�ำบลดอนโพธท์ิ อง อ�ำเภอเมอื งสพุ รรณบุรี จังหวดั สุพรรณบรุ ี วัันที่� ๒ กุุมภาพันั ธ์์ พุุทธศัักราช ๒๕๓๖ เสด็็จพระราชดำำ�เนินิ แทนพระองค์์ พระบาทสมเด็จ็ พระมหาภูมู ิิพลอดุลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิติ ร ไปทรงเปิิดงานวัันเกษตรแห่ง่ ชาติิ ณ อาคารจักั รพันั ธ์์เพ็ญ็ ศิิริิ มหาวิิทยาลัยั เกษตรศาสตร์์ 60 ประทีปทองส่องทางพลงั งานไทย
วนั ท่ี ๒๘ กนั ยายน พทุ ธศักราช ๒๕๔๔ เสดจ็ พระราชด�ำเนินไปทรงเย่ียมราษฎร ทอดพระเนตรท่นี าและพื้นท่นี ้�ำทว่ ม ณ บา้ นกแู บซรี า อ�ำเภอยะรงั จังหวดั ปตั ตานี วนั ที่ ๗ กันยายน พุทธศกั ราช ๒๕๔๕ เสด็จพระราชด�ำเนินไปทอดพระเนตรคลองระบายน�้ำชะอวด-แพรกเมอื ง 61 โครงการพัฒนาพน้ื ท่ลี ่มุ น�ำ้ ปากพนัง อนั เนื่องมาจากพระราชด�ำริ ต�ำบลการะเกด อ�ำเภอเชยี รใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย
วันท่ี ๒๑ กรกฎาคม พุทธศกั ราช ๒๕๒๐ เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษโ์ รงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราช อ�ำเภอจอมบึง จงั หวดั ราชบุรี ด้านการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ทรงค�ำนงึ ถงึ สขุ ภาพและชวี ติ ความเปน็ อยขู่ องพสกนกิ ร ดว้ ยทรงตระหนกั วา่ สขุ ภาพพลานามยั ทด่ี ขี อง ประชาชนเป็นปัจจัยส�ำคัญของการมีชีวิตอย่างมีความสุข จึงได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์ และสาธารณสขุ ตา่ ง ๆ ในอนั ทจี่ ะสรา้ งเสรมิ ดแู ลรกั ษาสขุ ภาพของพสกนกิ รใหด้ ขี น้ึ โดยทรงรบั เปน็ องคอ์ ปุ ถมั ภ์ งานการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ อยา่ งตอ่ เนื่อง โปรดเกลา้ ฯ ให้จดั ตง้ั โรงพยาบาลสมเดจ็ พระยุพราชทวั่ ประเทศ เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในท้องถ่ินทุรกันดารทุกหนแห่งได้รับความเอาใจใส่รักษาพยาบาลเป็นอย่างดี ปลอดภัยจาก ความเจบ็ ไข้โดยท่วั ถงึ เสมอหนา้ กัน ทรงรับโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือท่ีจังหวัดอุบลราชธานี เป็น โครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ ๕๐ พรรษา พุทธศักราช ๒๕๔๕ พระราชทานช่อื ว่า โรงพยาบาล ๕๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ ซ่งึ ใหบ้ ริการตรวจสุขภาพพระภิกษสุ ามเณร กว่าสามแสนรูปทั่วประเทศ รวมทั้งเสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเย่ียมผู้ป่วยและพระราชทานเคร่ืองมือแพทย์ อปุ กรณท์ างการแพทย์ให้แกโ่ รงพยาบาลตา่ งๆ ท่วั ประเทศอย่างต่อเนอื่ ง 62 ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย
วนั ที่ ๘ สิงหาคม พทุ ธศักราช ๒๕๓๐ พระราชทานถงุ พระราชทานแก่ผปู้ ว่ ย ในโอกาสเสดจ็ พระราชด�ำเนนิ ไปทรงตรวจเยี่ยม การปฏบิ ัตงิ านของโรงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราชหล่มเก่า และทรงเย่ียมราษฎรในหมบู่ ้านหนิ กลิง้ และหมูบ่ า้ นวดั ท่งุ ธงไชย อ�ำเภอหลม่ เกา่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 63
วันท่ี ๒๓ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๕ เสด็จพระราชด�ำเนนิ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟ้าพชั รกิตยิ าภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิรพิ ชั ร มหาวัชรราชธิดา ไปทรงวางศิลาฤกษโ์ รงพยาบาล ๕๐ พรรษา มหาวชริ าลงกรณ ณ บา้ นปลาดกุ ต�ำบลไรน่ ้อย อ�ำเภอเมอื งอุบลราชธานี จงั หวัดอบุ ลราชธานี 64 ประทีปทองส่องทางพลงั งานไทย
ด้วยทรงห่วงใยและทรงค�ำนึงถึงการดูแลรักษาพยาบาล สุขภาพร่างกายของประชาชน ตลอดจนประสิทธิภาพด้านการ ให้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาลต่าง ๆ ท่ัวประเทศ ในวันท่ี ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้อ�ำนวยการ โรงพยาบาล ผู้อ�ำนวยการวิทยาลัยแพทย์ ผู้อ�ำนวยการวิทยาลัย พยาบาล และผอู้ �ำนวยการสถานพยาบาลจากทวั่ ทกุ ภมู ภิ าค จ�ำนวน ๒๗ แห่ง เฝ้าทลู ละอองธุลพี ระบาทรับพระราชทานเงนิ ส�ำหรบั การ จดั ซอ้ื เครอ่ื งมอื ครภุ ณั ฑ์ และอปุ กรณท์ างการแพทย์ เนอ่ื งในโอกาส พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ โดยรายช่ือโรงพยาบาลทั้ง ๒๗ แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาล ศิริราช โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลวชิระ โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า วิทยาลัย แพทยศาสตรพ์ ระมงกฎุ เกลา้ โรงพยาบาลทหารผา่ นศกึ โรงพยาบาล ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลสงฆ์ โรงพยาบาลต�ำรวจ วทิ ยาลัยพยาบาลกองทพั บก โรงพยาบาลรามาธบิ ดี โรงพยาบาลสตั ว์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ บางเขน สถาบนั สขุ ภาพเดก็ แหง่ ชาตมิ หาราชนิ ี โรงพยาบาลสมเดจ็ พระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ โรงพยาบาลสมเดจ็ พระนางเจ้า สิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ โรงพยาบาลหัวหิน โรงพยาบาล มหาราชนครเชยี งใหม่ โรงพยาบาลนา่ น โรงพยาบาลศนู ยส์ กลนคร โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โรงพยาบาลยะลา โรงพยาบาล ปัตตานี โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และโรงพยาบาลท่าวงั ผา จงั หวัดนา่ น ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเงินที่ประชาชนได้ รว่ มกนั ทลู เกลา้ ทูลกระหม่อมถวายในการร่วมบ�ำเพญ็ พระราชกศุ ล เน่ืองในงานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทั้งหมด และเงินส่วนหน่ึง จากผู้มีจิตศรัทธาร่วมโดยเสด็จพระราชกุศล รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒,๔๐๗,๑๔๔,๔๘๗.๕๙ บาท เพอ่ื เพม่ิ ศกั ยภาพในการใหก้ ารรกั ษา ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาล วิทยาลัยแพทย์และพยาบาล และ สถานพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการให้บริการทาง การแพทยแ์ กผ่ ปู้ ว่ ย การรกั ษาพยาบาลทดี่ มี คี ณุ ภาพ เพอื่ ใหผ้ ู้ไดร้ บั การรักษามคี ุณภาพชีวติ และความเป็นอยทู่ ่ดี ีข้นึ วนั ที่ ๗ พฤษภาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสใหผ้ ้อู �ำนวยการโรงพยาบาล ผ้อู �ำนวยการวิทยาลยั แพทย์ ผู้อ�ำนวยการวทิ ยาลยั พยาบาล และผู้อ�ำนวยการสถานพยาบาล จ�ำนวน ๒๗ แหง่ เฝา้ ทูลละอองธลุ พี ระบาทรบั พระราชทานเงนิ ส�ำหรบั จดั ซอ้ื เคร่ืองมือและอปุ กรณท์ างการแพทย์ ณ พระทน่ี ัง่ อัมพรสถาน พระราชวงั ดุสติ ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 65
โครงการจิตอาสาพระราชทาน พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั ทรงทมุ่ เทพระวรกาย ปฏิบตั พิ ระราชกรณยี กจิ นานัปการ โดยค�ำนงึ ถึง ความอยู่ดีมสี ุขของราษฎรเป็นส�ำคัญ และมพี ระราชปณิธานทจ่ี ะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอนั เนอ่ื ง มาจากพระราชด�ำรใิ นพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทีไ่ ด้พระราชทานไว้ เป็นแนวทางส�ำหรบั การพัฒนาประเทศเพ่อื ความอย่ดู ีมสี ุขของพสกนกิ รทั้งมวล จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหด้ �ำเนนิ โครงการจติ อาสาพระราชทาน เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหพ้ สกนกิ รชาวไทยทกุ คน มคี วามเสยี สละ และความสมคั รสมานสามคั คี ในการสรา้ งสรรคค์ วามดี เพอื่ ประโยชนแ์ กป่ ระเทศชาติ ซงึ่ ลกั ษณะงานจติ อาสา แบง่ ออกเปน็ ๓ ประเภท คือ ประเภททห่ี นง่ึ จติ อาสาพฒั นา ไดแ้ ก่ กจิ กรรมจติ อาสาทที่ �ำเพอ่ื พฒั นาพนื้ ทขี่ องแตล่ ะชมุ ชนใหม้ คี ณุ ภาพ ชวี ติ และความเปน็ อยทู่ ด่ี ขี นึ้ ไมว่ า่ จะเปน็ กจิ กรรมบ�ำเพญ็ สาธารณประโยชน์ การอ�ำนวยความสะดวก สรา้ งความ ปลอดภยั ในการด�ำรงชวี ติ ประจ�ำวนั หรอื การอนรุ กั ษธ์ รรมชาติ ซง่ึ เปน็ กจิ กรรมทส่ี ามารถกระท�ำไดต้ ลอดเวลา ประเภททสี่ อง จติ อาสาเฉพาะกจิ ไดแ้ ก่ กจิ กรรมจติ อาสาทถี่ กู ก�ำหนดขน้ึ เพอื่ ปฏบิ ตั ใิ นงานพระราชพธิ ี หรอื การรับเสดจ็ ในโอกาสต่าง ๆ เช่น จิตอาสาในงานพระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก ฯลฯ ประเภททสี่ าม จติ อาสาภยั พบิ ัติ ได้แก่ กจิ กรรมจิตอาสาทที่ �ำเพ่ือเฝ้าระวัง เตรียมการรองรบั ภัยพิบัติ และแจ้งเตือนภัยให้แก่ประชาชน ท้ังภัยท่ีเกิดข้ึนจากธรรมชาติ หรือภัยจากสาเหตุอ่ืนๆ ที่ส่งผลกระทบต่อ ประชาชนในพ้ืนท่ี โดยการเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ เช่น จติ อาสาชว่ ยผู้ประสบภยั น้ำ� ทว่ มในพื้นทภ่ี าคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ฯลฯ 66 ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย
กจิ กรรมจติ อาสาในงานต่างๆ ของการไฟฟา้ ฝ่ายผลิตแหง่ ประเทศไทย ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย 67
๒
เฉลิมฉตั รกษตั รา ทศมราชาภิเษกดเิ รกสมยั
ประทับใตพ้ ระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พรอ้ มเคร่ืองราชกกธุ ภณั ฑ์ส�ำคัญหมาย พระปฐมบรมราชโองการพระราชทานไว้ แกช่ าวไทยใต้รม่ พระบารมี ตามโบราณราชประเพณีของไทย การเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ จะต้องประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อนั เปน็ พระราชพธิ สี ำ� คญั ยงิ่ ทสี่ ะทอ้ นถงึ การสบื สานมรดกทางวฒั นธรรมประจำ� ชาติ และยังแสดงออกถึงการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นท่ีเคารพรักยิ่ง ของปวงชนชาวไทยตลอดมา พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ ๔ - ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่ง ราชอาณาจกั รไทย พรอ้ มทง้ั มกี ารเฉลมิ พระปรมาภไิ ธยพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณ อดลุ ยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกลา้ เจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์รัชกาลท่ี ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรีโดยสมบูรณ์ตามโบราณ ราชประเพณี ซ่ึงได้สร้างความปีติยินดีแก่พสกนิกรท้ังมวลที่ได้มีส่วนร่วม ในเหตุการณ์ส�ำคัญอันเป็นสวัสดิมงคลแก่บ้านเมือง ที่จะต้องจดจารจารึกไว้ ในประวัติศาสตรข์ องชาติสืบไป
การพระราชพธิ ี บรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกของพระมหากษตั รยิ ์ ราชวงศ์จักรีทุกพระองค์มีล�ำดับและพระราชพิธี ที่คล้ายคลึงกัน เนื่องจากอิงตาม “ต�ำราราชาภิเษก ครั้งกรุงศรีอยุธยาส�ำหรับหอหลวง” ซ่ึงแต่งข้ึน เม่ือพุทธศักราช ๒๓๒๖ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซ่ึงมีบานแพนก ระบุว่า “วันพฤหสั บดี ขน้ึ ๑๐ ค่ำ� เดือน ๒ จลุ ศกั ราช ๑๑๔๕ ปีเถาะ เบญจศก (พุทธศักราช ๒๓๒๖) เจ้าพระยาเพ็ชรพิไชย เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี พระยาราชสงคราม พระยาอุทัยมนตรี น่ังพร้อมกัน แต่งกฎหมายซึ่งท�ำการพระราชพิธีราชาภิเษก คร้ังในหลวงวัดประดู่ไว้ส�ำหรับหอหลวงฉะบับ ๑” แต่รายละเอียดปลีกย่อยของพระราชพิธีในแต่ละ รชั กาลอาจมคี วามแตกตา่ งกนั ไปบ้าง ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 73
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว มีข้ันตอนและรายละเอียดคล้ายคลึงกับพระราชพิธีบรม ราชาภิเษกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยแบ่งเป็น ๓ ช่วงคือ พระราชพิธีเบื้องต้น พระราชพธิ เี บอ้ื งกลาง และพระราชพิธีเบ้ืองปลาย ซึง่ มีรายละเอยี ด ดงั นี้ พระราชพธิ เี บ้ืองตน้ การเตรยี มน้�ำอภเิ ษกและนำ้� สรงพระมรุ ธาภเิ ษก พธิ จี ารกึ พระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกรประจ�ำรัชกาล 74 ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย
พระราชพธิ ีเบือ้ งกลาง เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงถวายราชสกั การะ พระบรมราชานสุ รณ์ รชั กาลที่ ๕ ณ พระลาน พระราชวงั ดสุ ติ และปฐมบรมราชานสุ รณ์ ณ สะพานพระพุทธยอดฟ้า และเสด็จ พระราชด�ำเนินบวงสรวงส่ิงศักดิ์สิทธ์ิ ณ พระบรมมหาราชวงั พิธีอัญเชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรม ราชสมภพ และพระราชลัญจกรประจ�ำ รัชกาล จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปยงั พระที่นง่ั ไพศาลทักษณิ เพอื่ ทูลเกลา้ ทูลกระหม่อมถวายในการพระราชพิธี บรมราชาภิเษก นมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ พระอุโบสถวดั พระศรีรตั นศาสดาราม นมัสการพระรัตนตรัย ณ พระท่ีน่ัง อมรนิ ทรวินิจฉยั มไหสูรยพิมาน ถ ว า ย บั ง ค ม พ ร ะ บ ร ม อั ฐิ แ ล ะ พ ร ะ อั ฐิ ณ หอพระธาตมุ ณเฑียร เมอื่ ไดเ้ วลามหามงคลฤกษ์ ทรงจดุ เทยี นชยั พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ประกาศการ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ พระที่นั่ง ไพศาลทกั ษณิ พระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต์ พิธสี รงพระมรุ ธาภิเษก ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 75
พธิ ถี วายน้ำ� อภเิ ษกจากผ้แู ทนทิศทงั้ ๘ ทศิ ณ พระทีน่ ั่ง อัฐทศิ อุทมุ พรราชอาสน์ พธิ ีถวายเครื่องเบญจราชกกธุ ภัณฑ์ ณ พระทน่ี ่ังภัทรบฐิ ภายในพระทีน่ ง่ั ไพศาลทกั ษิณ เสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล จากพระบรมวงศานวุ งศ์ คณะองคมนตรี คณะรฐั มนตรี และข้าราชการช้ันผู้ใหญ่ เสด็จพระราชด�ำเนินโดยขบวนราบใหญ่ไปยังวัด พระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อทรงประกาศพระองค์เป็น พทุ ธศาสนปู ถมั ภกในพระบวรพุทธศาสนา เสด็จพระราชด�ำเนินไปถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จ พระบูรพมหากษัตริยาธิราช ณ ปราสาทพระเทพบิดร เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปถวายบงั คมพระบรมอฐั แิ ละพระอฐั ิ สมเดจ็ พระบรมราชบพุ การี ณ พระทน่ี ง่ั ดสุ ติ มหาปราสาท เสดจ็ เถลงิ พระแทน่ ราชบรรจถรณ์ ณ พระทน่ี ง่ั จกั รพรรดิ พมิ าน ในพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑยี ร พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย สถาปนาพระฐานนั ดรศักด์พิ ระบรมวงศ์ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ เลยี บพระนครโดยขบวนพยหุ ยาตรา ทางสถลมารค เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระทน่ี ัง่ สทุ ไธสวรรยป์ ราสาท และพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เพื่อทรงรับการถวาย พระพรชยั มงคล พระราชพธิ เี บื้องปลาย เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ เลยี บพระนครโดยขบวนพยหุ ยาตรา ทางชลมารค โดยประทับเรอื พระท่นี ่ังสุพรรณหงส์ จาก ทา่ วาสกุ รถี งึ ทา่ ราชวรดฐิ จากนนั้ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไป ประทบั พระราชยานพดุ ตานทอง ยาตราโดยรวิ้ ขบวนราบ ไปยงั พระบรมมหาราชวงั เปน็ อนั เสรจ็ สนิ้ การพระราชพธิ ี บรมราชาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ 76 ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
เตรียมน้�ำอภเิ ษกและน้�ำสรงพระมุรธาภเิ ษก น้�ำสรงพระมุรธาภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นน้�ำศักดิ์สิทธิ์ ทไี่ ดจ้ ากแหลง่ นำ�้ สำ� คญั โดยในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาใชน้ ำ�้ สรงจากสระสำ� คญั ๔ สระ ในแขวงเมืองสุพรรณบุรี ล่วงถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ - ๔ เพ่ิมน้�ำสรงจากแม่น�้ำส�ำคัญของประเทศอีก ๕ สาย เรียกว่า “เบญจสุทธคงคา” คร้ันถึงรัชกาลที่ ๕ ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ ๒ เพิ่มน้�ำสรงจาก แม่น�้ำ ๕ สายในประเทศอินเดีย ซ่ึงเรียกว่า “ปัญจมหานที” ต่อมาในรัชกาลท่ี ๖ เม่ือมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช พุทธศักราช ๒๔๕๔ เพิ่มน�้ำสรงท่ีตัก จากแม่น้�ำและแหล่งน้�ำอ่ืนๆ ตามมณฑลต่างๆ ซ่ึงถือว่าเป็นแหล่งส�ำคัญและ เป็นสิริมงคล ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 77
พิธีเสกน�้ำพระพุทธมนต์ท�ำข้ึน ณ พระมหา เจดียสถานส�ำคัญ ๗ แห่ง และวัดส�ำคัญในมณฑล ตา่ งๆ ๑๐ มณฑล ในรชั กาลที่ ๗ ท�ำพิธีเสกนำ�้ เพ่ิม จากที่ท�ำในรัชกาลท่ี ๖ อีกหน่ึงแห่งคือที่พระธาตุ ชอ่ แฮ จงั หวดั แพร่ ลว่ งมาถงึ รชั กาลท่ี ๙ ทำ� พธิ เี สกนำ�้ ๑๘ แห่งเท่าสมัยรัชกาลที่ ๗ แต่เปล่ียนสถานที่ จากเดมิ ๒ แหง่ คอื จากวดั มหาธาตุ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ และพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ เป็นบึงพลาญชัย จังหวัดรอ้ ยเอด็ และพระธาตุแชแ่ หง้ จังหวดั นา่ น ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งน้ีจะมี การจดั เตรยี มทำ� นำ�้ อภเิ ษกโดยพธิ พี ลกี รรมตกั นำ�้ จาก แหล่งน�้ำศักด์ิสิทธ์ิตามโบราณราชประเพณี เพ่ือใช้ เปน็ นำ�้ สรงพระมรุ ธาภเิ ษกและนำ้� อภเิ ษก ซง่ึ ใชน้ ำ�้ จาก แหลง่ นำ�้ ศกั ดส์ิ ทิ ธจิ์ าก ๗๖ จงั หวดั จำ� นวน ๑๐๗ แหง่ และอกี หนงึ่ แหง่ จากกรงุ เทพมหานคร ณ หอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวงั รวมเปน็ ๑๐๘ แหง่ พธิ พี ลกี รรมตกั นำ�้ ทงั้ ๗๖ จงั หวดั ไดท้ ำ� พรอ้ มกนั ในวันท่ี ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ จากนนั้ จึง ท�ำพธิ ีเสกน�ำ้ อภิเษก ณ พระอารามสำ� คัญของแต่ละ จงั หวดั และทำ� พธิ เี วยี นเทยี นสมโภช โดยประกอบพธิ ี เชญิ คนโทนำ้� อภเิ ษกของแตล่ ะจงั หวดั มาเกบ็ รกั ษาไว้ ที่หอ้ งดอกแกว้ กระทรวงมหาดไทย วันท่ี ๑๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ มีขบวนเชิญคนโทน้�ำศักด์ิสิทธ์ิทั้งหมดไปยังวัด สุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เพื่อท�ำพิธีเสก น้�ำอภิเษกรวม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก ทรงเปน็ ประธานฝ่ายสงฆ์ และนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ฝ่ายฆราวาส จากนนั้ วนั ท่ี ๑๙ เมษายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ ป ร ะ ก อ บ พิ ธี แ ห ่ เ ชิ ญ ค น โ ท น้� ำ อ ภิ เ ษ ก จ า ก วั ด สุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ไปเก็บรักษาไว้ ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพ่ือ ประกอบพธิ เี จรญิ พระพทุ ธมนต์ในวนั ที่ ๒๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ 78 ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
ส�ำหรับนำ�้ สรงพระมุรธาภิเษก ใช้น้�ำจาก ๙ แหล่งน�้ำ ได้แก่ น�้ำจาก ๔ สระศักด์ิสิทธ์ิของจังหวัดสุพรรณบุรี คือ สระแก้ว สระเกษ สระคา และสระยมนา รวมทง้ั น้�ำเบญจสุทธคงคา ไดแ้ ก่ แม่น�้ำราชบรุ ี แม่น้�ำเพชรบุรี แมน่ ำ้� บางปะกง แมน่ ้�ำเจ้าพระยา และแม่น�้ำปา่ สกั ประทปี ทองส่องทางพลังงานไทย 79
80 ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย
เนื่องจากคำ� ว่า “อภเิ ษก” คือ แต่งต้ังโดยการ ทำ� พธิ รี ดนำ�้ เชน่ พธิ ขี นึ้ เสวยราชยข์ องพระมหากษตั รยิ ์ ดงั นนั้ พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกจงึ หมายถงึ พระราชพธิ ี ในการสถาปนาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ โดยมีความ สำ� คญั อยทู่ ก่ี ารทรงรบั นำ้� อภเิ ษก ซง่ึ เปน็ นำ้� ทไ่ี ดจ้ ากพธิ ี พลกี รรมตกั นำ�้ จากสถานทศ่ี กั ดส์ิ ทิ ธใ์ิ นราชอาณาจกั ร ทั้ง ๘ ทิศ อันมีความหมายว่า เพื่ออัญเชิญให้ พระมหากษัตริย์ทรงแผ่พระราชอ�ำนาจปกครอง ประชาชนท่ัวทงั้ ๘ ทศิ นนั่ เอง ประทีปทองส่องทางพลงั งานไทย 81
พระราชพิธจี ารกึ พระสพุ รรณบฏั ดวงพระบรมราชสมภพ และ แกะพระราชลัญจกรประจ�ำรชั กาล เม่ือวนั ท่ี ๒๓ เมษายน พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลเรือเอก หม่อมเจ้าปุสาณ สวัสดิวัตน์ เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีจารึก พระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกร ประจ�ำรัชกาล ตามเวลาฤกษ์ ๐๘.๑๙ - ๑๑.๓๕ นาฬิกา ณ พระอโุ บสถวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวงั โดยมี นายฉัตรชัย ปนิ่ เงนิ โหรหลวง เป็นผจู้ ารึกดวงพระบรมราชสมภพ นายสนุ ทร วไิ ล ชา่ งศิลปป์ ระจ�ำพระองค์ เปน็ ผู้แกะพระราชลญั จกร ประจำ� รัชกาล และนายภมู นิ ทร ปล่งั สมบตั ิ เจา้ พนกั งานอาลักษณ์ จารึกพระสพุ รรณบัฏ 82 ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย
เมื่อจารึกดวงพระบรมราชสมภพ แกะ พระราชลญั จกรประจำ� รชั กาล และจารกึ พระสพุ รรณบฏั เสร็จเรียบร้อยแล้ว พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครพู ราหมณ์ ถวายนำ�้ เทพมนตร์ เจมิ ดวง พระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกรประจ�ำรัชกาล และพระสพุ รรณบฏั ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 83
84 ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย
จากนน้ั โหรหลวงพบั แผน่ ดวงพระบรมราชสมภพ พนั ดว้ ยไหมเบญจพรรณ และเจา้ พนกั งาน อาลักษณ์เชิญพระสุพรรณบัฏห่อผ้าแพรแดง ช่างศิลป์ประจ�ำพระองค์ ผู้แกะพระราชลัญจกร ประจ�ำรัชกาลบรรจุพระราชลัญจกรลงในถุงแพรแดง แล้วเชิญดวงพระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกรประจ�ำรัชกาล และพานพระสุพรรณบัฏไปวางไว้ท่ีธรรมาสน์ศิลา เจ้าพนักงาน จดั การตง้ั บายศรแี กว้ ทอง เงนิ พราหมณเ์ บกิ แวน่ เวยี นเทยี นสมโภช ขา้ ราชการรบั แวน่ เวยี นเทยี น สมโภชดวงพระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกรประจ�ำรัชกาล และพระสุพรรณบัฏ ๓ รอบ แล้วพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เจิมดวงพระบรมราชสมภพ พระราชลัญจกรประจำ� รัชกาล และพระสพุ รรณบฏั ท่ปี ระดษิ ฐานบนธรรมาสน์ศลิ า ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 85
ถวายราชสกั การะพระบรมราชานสุ รณ์ วนั ที่ ๒ พฤษภาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ เวลา ๑๖.๒๙ นาฬกิ า เสด็จพระราชดำ� เนนิ ไปทรงวางพานพมุ่ ดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ณ พระลานพระราชวงั ดสุ ติ แลว้ ประทบั รถยนตพ์ ระทนี่ ง่ั เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปยงั ปฐมบรมราชานสุ รณ์ สะพานพระพทุ ธยอดฟา้ เวลา ๑๖.๓๘ นาฬิกา รถยนต์พระท่ีน่งั ถงึ ยังปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟา้ ทรงวางพานพมุ่ ดอกไม้ ทรงจดุ ธปู เทยี นเครอ่ื งทองนอ้ ยถวายราชสกั การะพระบรมรปู พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช จากนนั้ ประทบั รถยนต์พระที่นัง่ เสด็จพระราชด�ำเนนิ ไปยงั ศาลหลกั เมือง เวลา ๑๖.๔๘ นาฬกิ า เสด็จพระราชดำ� เนนิ โดยรถยนตพ์ ระท่นี ่งั ถึงศาลหลักเมือง ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียน บูชาพระรตั นตรยั ณ หอพระพทุ ธรูป จากน้ันทรงวางพวงมาลยั ทรงจุดธูปเทยี นเคร่ืองทองน้อยสกั การะศาลหลักเมอื ง แลว้ ทรงพระดำ� เนินไปยงั ศาลเทพารักษ์ ทรงวางพวงมาลัยและจุดธปู เทยี นเคร่ืองทองนอ้ ยสกั การะพระเสือ้ เมอื ง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี เจา้ หอกลอง เจ้าเจตคปุ ต์ ตอ่ จากนนั้ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงบวงสรวงสงิ่ ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ ณ พระทน่ี ง่ั ไพศาลทกั ษณิ และพระทน่ี งั่ จกั รพรรดพิ มิ าน ก่อนเริม่ ต้นการพระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ 86 ประทีปทองส่องทางพลังงานไทย
ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 87
88 ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย
ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 89
90 ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย
พธิ อี ัญเชิญพระสพุ รรณบฏั วนั ท่ี ๓ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๕๕ นาฬกิ า ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ให้พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้อัญเชิญพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรม ราชสมภพ และพระราชลัญจกรประจ�ำรัชกาล จากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามข้ึนพระราชยานกง ซ่ึงเป็นพระราชยานส�ำหรับประทับห้อยพระบาทเพื่อเสด็จพระราชด�ำเนินโดยกระบวนราบในเวลาปกติ ท�ำด้วยไมส้ ลักลายปิดทอง ฐานประดับด้วยครฑุ แบก มีกงส�ำหรับวางแขน มีพนกั พิง และมคี านหาม ๒ คาน เพื่อไปประดษิ ฐาน ณ พระแท่นมณฑล ในพระทนี่ ่ังไพศาลทักษิณ ประทีปทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 91
92 ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย
ประทปี ทองสอ่ งทางพลงั งานไทย 93
จุดเทียนชยั เริม่ พระราชพิธบี รมราชาภิเษก วนั ท่ี ๓ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ เวลา ๑๖.๑๒ น. เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ ไปทรงนมสั การพระพทุ ธมหามณรี ตั นปฏมิ ากร ณวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม จากนน้ั เสดจ็ พระราชดำ� เนินไปทรงบชู าพระพุทธรปู ประจ�ำพระชนมวาร รัชกาลที่ ๑ ถงึ รชั กาลที่ ๙ ณ พระท่นี ่ังอมรินทรวนิ จิ ฉยั และกราบถวายบงั คมพระบรมอฐั ิและ พระอฐั สิ มเด็จพระบรมราชบุพการี ณ หอพระธาตุมณเฑยี ร พระบรมมหาราชวงั 94 ประทปี ทองส่องทางพลังงานไทย
ต่อจากน้ัน เสด็จเข้าพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดเทียน พระมหามงคล ขา้ งพระแทน่ มณฑล ทรงจดุ ธปู เทยี นเครอ่ื งนมสั การ บูชาพระรัตนตรัย แล้วเสด็จลงจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณ พร้อมด้วยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรณิ ายก ไปทตี่ เู้ ทยี นชยั ในพระทนี่ งั่ อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั ทรงเจมิ เทยี นชยั ทรงจดุ ไฟจากโคมไฟฟา้ ทรงตง้ั พระราชสตั ยาธษิ ฐาน แล้วถวายเทียนชนวนแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก แลว้ ทรงจดุ เทยี นชยั ในตเู้ ทยี นชยั ในการน้ี ทรงจุดเทยี นชนวนพระราชทาน เจา้ พนักงานเชิญ ไปจดุ บูชาพระมหาเศวตฉัตร ๑๐ แห่ง ณ พระทนี่ งั่ ไพศาลทกั ษณิ พระทนี่ งั่ อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั มไหสรู ยพมิ าน พระทน่ี ่ังจักรมี หาปราสาท พระทน่ี ง่ั อนนั ตสมาคม พระทนี่ งั่ ดสุ ติ มหาปราสาท พระทน่ี งั่ วโรภาษ พิมาน พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระที่น่ัง จกั รพรรดพิ มิ าน ๒ องค์ ปราสาทพระเทพบดิ ร หอ้ งว.ป.ร. พระทนี่ ง่ั อมั พรสถาน และพพิ ธิ ภณั ฑว์ ดั พระศรรี ตั นศาสดาราม รวมถงึ เชญิ ไป จุดบูชาที่ปชู นียสถานส�ำคญั อกี ๙ แหง่ ประทปี ทองส่องทางพลงั งานไทย 95
96 ประทีปทองสอ่ งทางพลังงานไทย
จากน้ัน พระพรหมมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร อ่านประกาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เม่ือถึง บทสวดพระพทุ ธมนต์ ทรงจดุ เทยี นทฝ่ี าครอบพระกรงิ่ เรยี กอกี อยา่ ง หนง่ึ วา่ ครอบนำ้� มนต์พระกร่งิ ใช้สำ� หรับสมเด็จพระสงั ฆราชถวาย นำ้� พระพทุ ธมนตท์ พ่ี ระปฤษฎางค์ในการสรงพระมรุ ธาภเิ ษก จากนน้ั เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงประเคนครอบพระกร่ิงแด่สมเด็จ พระอรยิ วงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก ตอ่ จากน้ัน พระมหาราชครูพธิ ีศรวี ิสทุ ธคิ ุณ ประธานพระครู พราหมณ์ เฝา้ ทลู ละอองธลุ ีพระบาททลู เกล้าทูลกระหม่อมถวายนำ้� พระมหาสงั ข์ ใบมะตมู ทรงทดั และใบสมติ ใบไมม้ งคล ประกอบดว้ ย ใบไม้ ๓ ชนดิ คือ ใบมะมว่ ง ๒๕ ใบ จำ� นวน ๑ ชอ่ เปน็ ใบไม้ ปอ้ งกันภยันตราย ใบทอง ๓๒ ใบ จำ� นวน ๑ ชอ่ เปน็ ใบไม้ปอ้ งกัน อุปทั วันตราย และใบตะขบ ๙๖ ใบ จ�ำนวน ๑ ช่อ เป็นใบไม้ปอ้ งกัน โรคนั ตราย ทรงรบั แลว้ ทรงปดั พระองคท์ ลี ะชอ่ แลว้ พระราชทานคนื พระมหาราชครูพิธีศรวี สิ ทุ ธคิ ุณ ประธานพระครูพราหมณ์ รบั ไปท�ำ พธิ ีโหมกูณฑ์ คือพิธบี ชู าไฟ ณ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ต่อไป เม่ือเสร็จส้ินท้ังพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์แล้ว จึงมีพิธีบูชา เทวดานพเคราะห์รอบพระท่ีน่ังอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ก่อนเร่ิม พระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามพระฤกษ์ในวันท่ี ๔ พฤษภาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ เมอ่ื แสงเทยี นชยั แหง่ การพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสวา่ งไสว ขึ้นที่หมู่มหาปราสาทราชมณเฑียรในพระบรมมหาราชวัง จึงเป็น ด่ังสัญลักษณ์ฤกษ์ยามสวัสดิมงคลในการเร่ิมต้นพระราชพิธี บรมราชาภเิ ษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ ทา่ มกลางความปีติยินดีของ พสกนกิ รทวั่ ประเทศ ประทีปทองส่องทางพลังงานไทย 97
พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก พธิ ีสรงน�้ำพระมุรธาภเิ ษก วนั ท่ี ๔ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๕๙ นาฬิกา เสด็จ พระราชด�ำเนินไปในการพระราชพิธี บรมราชาภิเษกพุทธศักราช ๒๕๖๒ ณ พระที่น่ังอมรินทรวินิจฉัย พระท่ีน่ัง ไพศาลทักษิณ ชาลาพระทีน่ ่ังจักรพรรดิ พมิ าน ในพระบรมมหาราชวัง คร้ันเสด็จเข้าพระที่น่ังอมรินทร วนิ จิ ฉยั ไปยงั พระทน่ี งั่ บษุ บกมาลา ทรงจดุ ธปู เทยี นเครอื่ งนมสั การบชู าพระพทุ ธรปู ประจ�ำพระชนมวาร รัชกาลท่ี ๑ - ๙ จากน้ันเสด็จขึ้นพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา พระรัตนตรัยหน้าพระแท่นมณฑล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานสงฆ์ ถวายศลี ขณะนน้ั โหรหลวง บูชาฤกษ์ที่ศาลจตุโลกบาลทั้ง ๔ และ ศาลพระอนิ ทรท์ มี่ ณฑปพระกระยาสนาน ณ ชาลาพระทนี่ ั่งจกั รพรรดิพมิ าน 98 ประทปี ทองสอ่ งทางพลังงานไทย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224