44 เล่มท่ี 2 เรอ่ื ง ผลไม้พนื้ บา้ น มะเฟื อง ชื่อทวั่ ไป : มะเฟือง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Averrhoa carambolaLinn. ชื่อวงศ์ : OXALIDACEAE ลกั ษณะ : ไม้ยืนต้นขนาดกลางสงู 8-12 เมตร แตกกงิ่ กา้ นสาขามากลาต้นสนั้ เรอื นยอดแน่นทบึ ลาตน้ สนี ้าตาลอมแดง ผวิ ขรขุ ระใบประกอบแบบขนนก ออกเรยี งสลบั แต่ละใบมใี บยอ่ ย 3-11 ใบ ใบยอ่ ยออกตรงขา้ มกนั หรอื เรยี งสลบั กนั ใบยอ่ ยรปู ขอบขนาน แถบใบหอก กวา้ ง 2-3.5 ซม. ยาว 3-9 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรยี บ ผวิ ใบมนั ใบอ่อนสเี ขยี วอมแดง ใบย่อยตรงปลาย ใบมขี นาดใหญ่ ดอกชอ่ ขนาดเลก็ โคนเช่อื มตดิ กนั ปลายแยก 5 กลบี กลบี ดอกสชี มพู ถงึ ม่วง แดง แต่ตอนโคนกลบี สซี ดี จางเกอื บขาว ปลายกลบี โคง้ งอน ออกตามซอกใบทม่ี ใี บตดิ อยู่ หรอื ใบ ร่วงหลุดไปแลว้ กลบี เลย้ี งสมี ่วงมี 5 กลบี ปลายแหลม กา้ นชชู อ่ ดอกมสี มี ว่ ง ผลสด รปู กลมรี อวบ น้า มสี นั เดน่ ชดั ลกั ษณะเป็นกลบี ขน้ึ เป็นเฟือง 5 เฟือง มองเหน็ เป็นสนั โดยรอบผล 5 สนั เมอ่ื ผ่า ตามขวางจะเป็นรปู ดาว 5 แฉก ดบิ สเี ขยี ว ผลสกุ สเี หลอื งอ่อนอมสม้ เน้อื ผลชมุ่ น้า รสหวานอม เปรย้ี ว เมลด็ แบนสดี า ยาวเรยี ว มหี ลายเมลด็ ส่วนที่นามาบริโภค : ผลดบิ และสกุ รบั ประทานได้ ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู วาน
ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 45 ตาล ชื่อทวั่ ไป : Asian Palmyra palm,Palmyra palm, ตาลโตนด ตาลใหญ่ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Borassus flabelliferL. ชื่อวงศ์ : PALMACEAE ลกั ษณะ : ไมย้ นื ต้น ประเภทปาลม์ แยกเพศกนั อยคู่ นละตน้ สงู 25-40 เมตร ลาต้นเป็นเสย้ี นสี ดาและแขง็ มาก โคนตน้ จะมรี ากเป็นกลุ่มใหญ่ ใบเดย่ี ว เรยี งสลบั กนั ลกั ษณะกลมคลา้ ยพดั แผ่น ใบหนามสี เี ขยี ว ปลายใบเป็นจกั ลกึ ถงึ ครง่ึ แผ่นใบ ขอบของทางกา้ นทงั้ สองขา้ งมหี นามแขง็ คลา้ ย ฟนั เล่อื ยแขง็ ๆ สดี าและคมมากอยตู่ ามขอบกา้ นใบ ดอกสขี าวอมเหลอื ง ออกดอกช่อแบบชอ่ แยก แขนงระหว่างกาบใบ ดอกเป็นแบบแยกเพศอยตู่ ่างตน้ กนั มี ชอ่ ดอกเพศผใู้ หญ่รวมกนั เป็นกลุ่มๆ คลา้ ยน้วิ มอื หรอื เรยี กวา่ “น้วิ ตาล” ช่อดอกเพศเมยี คลา้ ยกบั เพศผู้ แต่เป็นปุม่ ปม ในดอกหน่ึงๆ มี กาบแขง็ ๆ หมุ้ อย่ใู นแต่ละดอก ซง่ึ จะเจรญิ เตบิ โตไปเป็นหวั จกุ ลกู ตาล ผลสดแบบมเี น้อื เมลด็ เดยี ว ผลตดิ กนั เป็นกลุม่ แน่น ทรงกลม ผลเป็นเสน้ ใยแขง็ เป็นมนั มสี นี ้าตาล ปลายผลสเี หลอื ง เน้อื เย่อื สี เหลอื ง ผวิ ผลเป็นมนั ในผลหน่งึ ๆ จะมเี มลด็ ใหญ่และแขง็ อยปู่ ระมาณ 1-3 เมลด็ (จาวตาล) ซง่ึ จะ ถูกหมุ้ ดว้ ยใยและเน้อื ผลสเี หลอื งสด ส่วนที่นามาบริโภค : จาวตาลรบั ประทานไดร้ สหวาน ผลตาลคนั้ น้าเพอ่ื ผสมแป้งทาขนมตาล ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว
46 เลม่ ที่ 2 เรอ่ื ง ผลไม้พนื้ บา้ น หมากห่มห่อ ชื่อทิ้งถิ่น : passionflower, Stinking Passion Flower, Fetid passionflower, Scarletfruit, กระทกรกปา่ รุง้ นก ตาลงึ ทอง ผกั ขร้ี ว้ิ หอ่ ทอง รกชา้ ง ช่ือวิทยาศาสตร์ : Passiflora foetida L. ชื่อวงศ์ : PASSIFLORACEAE ลกั ษณะ : ไมเ้ ถาเลอ้ื ย มอี ายปุ ระมาณ 2-5 ปี มมี อื ใชย้ ดึ เกาะ มขี นขน้ึ ปกคลมุ อย่ทู ุกสว่ นของลา ตน้ และใบ ทข่ี นมนี ้ายางเหนยี ว ใบเดย่ี ว ออกเรยี งสลบั รปู หวั ใจ ปลายใบแหลม โคนใบเวา้ ขอบ ใบเวา้ เป็น 3 แฉก ดอกเป็นดอกเดย่ี ว ออกตามซอกใบ กลบี ดอกมี 10 กลบี กลบี กดา้ นนอกสเี ขยี ว อ่อน ดา้ นในสขี าว มกี ระบงั รอบเป็นเสน้ ฝอยสขี าวโคนม่วง ผลรปู ทรงกลม ผลอ่อนสเี ขยี ว เม่อื สกุ สี เหลอื งอมสสี ม้ มใี บประดบั เสน้ ฝอยคลมุ อยู่ ภายในผลมเี น้อื หุม้ เมลด็ ใสและฉ่าน้า (คลา้ ยกบั เมลด็ แมงลกั แช่น้า) มรี สหวานแบบปะแลม่ ๆ ออกดอกออกผลในช่วงเดอื นสงิ หาคม-กนั ยายน ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ รสหวานอมเปรยี ว ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี พบมาในฤดฝู น
ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 47 หมากเลบ็ แมว ชื่อทิ้งถ่ิน : หมากหนาม หนามเลบ็ เหยย่ี ว มะตนั ขอ ยบั ยว้ิ พุทราขอ เลด็ เหยย่ี ว เลบ็ เหยย่ี ว แสง คา สงั่ คนั ตาฉู่แม โลชมู ี เลบ็ แมว ยบั เยย่ี ว ช่ือวิทยาศาสตร์ : Ziziphus oenoplia (L.) Mill. var oenoplia ชื่อวงศ์ : RHAMNACEAE ลกั ษณะ : ไม้พ่มุ รอเลอื้ ย เน้อื แขง็ ยาว 3-10 เมตร เถาและกง่ิ มหี นามสนั้ แหลมโคง้ ตามลาตน้ และกงิ่ กา้ น เปลอื กเถาเรยี บหรอื ขรุขระเลก็ น้อย สดี าเทา กง่ิ อ่อนมขี นสนี ้าตาล เปลอื กในสแี ดง ใบ เป็นใบเดย่ี ว ออกเรยี งสลบั รปู ไขแ่ กมรปู ใบรี กวา้ ง 1-3 ซม. ยาว 2-6 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบ เบย้ี วเลก็ น้อย ขอบใบเรยี บ แผน่ ใบอ่อน ผวิ ใบดา้ นบนเรยี บ หรอื มขี นเลก็ น้อย ผวิ ใบดา้ นลา่ งมขี น นุ่มจานวนมาก เสน้ ใบ 3 เสน้ ออกจากฐานใบไปปลายใบ ดอกออกเป็นชอ่ ทซ่ี อกใบเป็นชอ่ กระจุก ขนาดเลก็ ดอกย่อยจานวนมาก มขี นเลก็ น้อย ใบประดบั ช่อดอก 1 อนั มขี นกระจายทวั่ ไป ดอก จานวน 5-11 ดอก มขี นเลก็ น้อย กลบี ดอกมี 5 กลบี รปู ชอ้ น ปลายกลม สเี ขยี ว หรอื สเี ขยี วอม เหลอื ง ออกสลบั กบั กลบี เลย้ี ง เกสรเพศผู้ มี 5 อนั สเี ขยี วอมเหลอื ง กา้ นชเู กสรแบน ตดิ ทฐ่ี านของ กลบี ดอก อบั เรณูรปู สามเหลย่ี ม สนี ้าตาล เกสรเพศเมยี มรี งั ไขเ่ หนือวงกลบี รงั ไขเ่ กดิ จาก 2 คาร์ เพล แต่ละคารเ์ พลมี 1 ช่อง และ 1 ออวลุ กา้ นและยอดเกสรเพศเมยี คลา้ ยรปู ขวด เกลย้ี ง สเี ขยี ว อมเหลอื ง จานฐานดอกผวิ ขรุขระ สเี หลอื ง กลบี เลย้ี งมี 5 กลบี ผลสดรปู ทรงกลมหรอื รปู ไข่ ขนาด ผลออ่ นสเี ขยี วพอสกุ เปลย่ี นเป็นสมี ว่ งดา มขี นกระจายทวั่ ไป เมลด็ แขง็ มี 1 เมลด็ รปู รา่ งคอ่ นขา้ ง กลม ปลายกลม พบตามปา่ เตง็ รงั ปา่ เบญจพรรณ และปา่ คนื สภาพ ออกดอกราวเดอื นมนี าคม- พฤษภาคม ตดิ ผลเดอื นมถิ ุนายน-สงิ หาคม ผลแก่มรี สเปรย้ี ว รบั ประทานได้ ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ มรี สหวานจนถงึ ออกเปรยี วหวานในบางตน้ ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว
48 เลม่ ท่ี 2 เรื่อง ผลไม้พนื้ บา้ น หมากทนั ชื่อทิ้งถ่ิน : พุทราปา่ มะตนั นางตม้ ตน้ มะตนั หลวงมะทอ้ งมะตองมะตนั ตน้ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Ziziphus mauritiana Linn. ช่ือวงศ์ : RHAMNACEAE ลกั ษณะ : ไมย้ นื ต้นขนาดกลางถงึ ขนาดใหญ่มหี นามตามลาตน้ กงิ่ หอ้ ยยอ้ ยลงมาใบเดย่ี วเรยี งกนั แบบสลบั ในแนวระนาบเดยี วกนั ตวั ใบกลมหรอื รุปไข่ โคนใบไมเ่ ท่ากนั ปลายใบมนหรอื มหี ยกั ตน้ื ๆ เน้อื ใบค่อนขา้ งหนา ดา้ นบนสเี ขยี วเขม้ เป็นเงามนั ผวิ เกลย้ี ง ดา้ นล่างมขี นสนี ้าตาล หรอื สี ขาว ใบกลมโตขนาด 1 น้วิ ฟุต ดอกออกดอกเป็นดอกชอ่ ขนาดเลก็ ออก ตามตน้ และกง่ิ กา้ นทม่ี ี หนามดอกเป็นช่อสเี หลอื งเลก็ ๆ มกี ลนิ่ หอม ผลกลมหรอื กลมรี หอ้ ยลง ผลดบิ สเี ขยี ว สกุ สเี หลอื ง พบตามทร่ี กรา้ ง และปา่ โปร่ง ส่วนที่นามาบริโภค : ผลแกแ่ ละสกุ รบั ประทานได้ รสหวานออกเปรยี วอมฝาด ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว-ตน้ ฤดรู อ้ น
ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 49 เง่ียงปลาดกุ ชื่อทิ้งถิ่น : เงย่ี งดกุ เลก็ หนามเงย่ี งดุก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Canthium berberidifolium Geddes ช่ือวงศ์ : RUBIACEA ลกั ษณะ : ไม้พมุ่ สงู 1-2 เมตรเปลือกสนี ้าตาล ตามกง่ิ และลาตน้ มหี นามแหลม กง่ิ กา้ นมกั โน้มลง ใบเดย่ี ว เรยี งตรงขา้ ม รปู ใบหอกกลบั ถงึ รปู ไข่ กวา้ ง 1-1.5 เซนตเิ มตร ยาว 1.5-2 เซนตเิ มตร หลงั ใบสเี ขยี วสด เขม้ เป็นมนั มขี นประปราย ปลายใบมน ฐานใบสอบ ขอบใบเรยี บดอกเดย่ี ว ออก ทซ่ี อกใบ ขนาดเลก็ สเี หลอื งออ่ น กลบี ดอกมี 5 กลบี กลบี เลย้ี ง 5 กลบี ผลสด รปู ทรงกลม เรม่ิ แรก สเี ขยี วแลว้ เปลย่ี นเป็นสเี หลอื ง สสี ม้ และสแี ดงสดตามลาดบั เมลด็ แขง็ ผลแกส่ สี ม้ ออกดอกชว่ ง เดอื นเมษายนถงึ กรกฎาคม ผลสดมรี สเปรย้ี วอมหวานรบั ประทานได้ ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสดมรี สเปรย้ี วอมหวานรบั ประทานได้ ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : พฤษภา-กนั ยายน
50 เลม่ ท่ี 2 เร่อื ง ผลไมพ้ นื้ บา้ น เขม็ ป่ า ช่ือทิ้งถิ่น : เขม็ ตาไก่ เขม็ ดอยเขม็ โคก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ixora Cibdela Craib ช่ือวงศ์ : RUBIACEA ลกั ษณะ : ไม้พมุ่ ขนาดกลาง ลาตน้ แตกกงิ่ กา้ นต่า มลี กั ษณะเป็นทรงพุ่ม ลาตน้ มขี นาดใหญ่ ประมาณเท่าขอ้ มอื เปลอื กตน้ เป็นสเี ทาปนสนี ้าตาล มคี วามสงู ของตน้ ประมาณ 3-4 เมตร ใบเป็น รปู ไขย่ าว ปลายใบเรยี วแหลม สว่ นขอบใบเรยี บ ใบมขี นาดกวา้ งประมาณ 2.5 เซนตเิ มตร และยาว ประมาณ 6-18 เซนตเิ มตร ใบเป็นสเี ขยี วสด ดอกมขี นาดเลก็ ๆ ออกดอกเป็นพวงเหมอื นดอกเขม็ ธรรมดา แต่จะมดี อกเป็นสขี าว สามารถออกดอกไดต้ ลอดทงั้ ปี ผลมลี กั ษณะเป็นทรงกลมและมี เป็นสเี ขยี ว ผลเมอ่ื สกุ แลว้ จะเปลย่ี นเป็นสดี าคลา้ มเี น้อื หุม้ เมลด็ ใชร้ บั ประทานได้ มรี สหวาน ปะแล่ม มกั ขน้ึ ตามธรรมชาตใิ นปา่ ทวั่ ไปในประเทศไทย ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ มรี สหวานปะแล่ม ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี
ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 51 หมากหมอ้ ชื่อทวั่ ไป : หมากหมอ้ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rothmannia wittii (Craib.) Bremek. ชื่อวงศ์ : RUBIACEA ลกั ษณะ : ไม้ยืนต้นขนาดเลก็ สงู 6-8 เมตรเปลือกสนี ้าตาลอมดา กงิ่ อ่อนมขี นอ่อนสนี ้าตาลแดง ปกคลุมหนาแน่น แตกกง่ิ เป็นชนั้ คลา้ ยกบั ฉตั ร มที รงพุ่มกลม โปร่ง ใบเดย่ี ว เรยี งตรงขา้ ม เป็นคู่ ใบรปู ขอบขนาน หรอื รปู วงรแี กมขอบขนาน กวา้ ง 3-6 ซม. ยาว 12-16 ซม. ใบอ่อนมขี นปกคลุม ทงั้ สองดา้ น ใบคอ่ นขา้ งนิม่ มขี นาดใหญ่ และเหน็ เสน้ แขนงใบชดั เจน หใู บอย่รู ะหว่างกา้ นใบ ปลาย ใบ และโคนใบแหลม ดอกช่อ ออกเป็นกระจกุ ทซ่ี อกใบใกลป้ ลายยอด สขี าวนวล กลบี ดอกเชอ่ื ม ตดิ กนั เป็นรปู ระฆงั มดี อกย่อย 5-12 ดอก ดอกย่อยรปู ระฆงั ปลายแยกเป็น 5 กลบี และบานโคง้ งอกลบั โคนกลบี ดา้ นในมแี ตม้ สเี ขยี วและแถบประสมี ่วงเขม้ ดอกบานคว่าลง เม่อื บานมี เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางของดอก 3-5 เซนตเิ มตรมกี ลนิ่ หอมออ่ นๆ ออกดอกชว่ งเดอื นธนั วาคม- กุมภาพนั ธผ์ ลสด รปู ทรงกลม เปลอื กผลเรยี บ แขง็ มรี อยตะเขบ็ สนี ้าตาลเป็นสนั เลก็ น้อย แบ่งครง่ึ ลกู เน้อื ผลมรี สหวานเลก็ น้อย มสี เี ขยี วเขม้ เม่อื แก่สดี า มเี มลด็ จานวนมาก ขยายพนั ธุด์ ว้ ยเมลด็ พบขน้ึ ตามปา่ เตง็ รงั ปา่ เบญจพรรณ ปา่ ดบิ แลง้ ปา่ โปรง่ และปา่ ละเมาะ ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ รสหวานหอม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว
52 เล่มที่ 2 เรอ่ื ง ผลไม้พนื้ บา้ น มะตมู ช่ือทวั่ ไป : มะปิน กะทนั ตาเถร ตมู ตุ่มตงั บวั ตูม หมากตมู ช่ือวิทยาศาสตร์ : Aegle marmelos (L.) Correa ex Roxb. ช่ือวงศ์ : RUTACEAE ลกั ษณะ : ไมย้ นื ตน้ ขนาดกลาง ผลดั ใบ สงู 10-15 ใบประกอบแบบมใี บย่อย 3 ใบ ออกเรยี งสลบั ใบรปู ไข่ สองใบลา่ งมขี นาดเลก็ และตดิ ตรงขา้ มกนั ปลายใบสอบ โคนใบแหลม ขอบใบเรยี บหรอื มี หยกั มนๆ แผ่นใบเรยี บเกลย้ี งเป็นมนั ใบอ่อนสเี ขยี วอ่อนหรอื สชี มพู มขี นละเอยี ด ใบแกส่ เี ขยี วเขม้ เรยี บเกลย้ี ง ดอกชอ่ ออกตามซอกใบและปลายกงิ่ ออกรวมกนั เป็นช่อสนั้ ๆ สขี าวอมเขยี วหรอื สี เหลอื งออ่ น ดอกมกั ออกพรอ้ มกบั ใบออ่ น มกี ลนิ่ หอม ผลรปู รกี ลมหรอื รยี าว ผวิ เรยี บเกลย้ี ง เปลอื ก หนา แขง็ มาก ไมแ่ ตก ผลออ่ นมสี เี ขยี วพอสกุ มสี เี หลอื ง เน้อื ผลมสี เี หลอื ง น่ิม มกี ลนิ่ หอม และมี เน้อื เย่อื สสี ม้ ทม่ี ยี างเหนียวๆ ภายในมี 8-15 ช่อง เมลด็ สนี ้าตาลอ่อน จานวนมาก ออกดอกเดอื น มนี าคม-พฤษภาคม และตดิ ผลเดอื นธนั วาคม-กมุ ภาพนั ธ์ ส่วนท่ีนามาบริโภค : เน้อื ในผลสกุ ทาขนม หรอื ทาน้ามะตูม ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : เดอื นมนี าคม-พฤษภาคม
ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 53 หมากหวดข่า ชื่อทวั่ ไป : สหี วดกาซา กะซ่า มะหวด มะหวดปา่ หวดคา สฮี อกน้อย หวดลาว หวดฆา่ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lepisanthes rubiginosa (Roxb.) Leenh. ช่ือวงศ์ : SAPINDACEAE ลกั ษณะ : ไมพ้ มุ่ ผลดั ใบ หรอื ไมย้ นื ต้น ขนาดเลก็ สงู 5-15 เมตร เปลอื กตน้ สนี ้าตาล แตกเป็น ร่องตามยาว กง่ิ กา้ นมขี นละเอยี ด เม่อื ยงั ออ่ นอย่มู ขี นสนั้ ๆ กง่ิ แขนงรปู ทรงกระบอกเป็นรอ่ ง ทรง พ่มุ กลมหรอื รปู ไขใ่ บเป็นใบประกอบแบบนนกปลายคู่ เรยี งเวยี นสลบั รปู ไขถ่ งึ รปู ไขก่ ลบั ปลายใบ แหลม โคนใบสอบ ผวิ ใบมขี นนุ่มปกคลุมทงั้ สองดา้ น แผน่ ใบบางแต่ค่อนขา้ งเหนียว และยน่ เป็น ลอน สเี ขยี วเขม้ ผวิ ใบดา้ นล่างสอี อ่ นกว่า ใบอ่อนสนี ้าตาลอมเขยี ว ดอกสขี าวถงึ สเี หลอื งอ่อนๆ ออกเป็นช่อแบบชอ่ แยกแขนงตงั้ จากปลายยอดหรอื ซอกใบใกลป้ ลายยอด ดอกย่อยขนาดเลก็ สี ขาว มกี ลน่ิ หอมออ่ นๆ แยกเพศ กลบี ดอกสขี าว มี 4-5 กลบี มขี นนุ่ม โคนกลบี แคบ มเี กลด็ เลก็ ๆ 1 เกลด็ เกสรเพศผู้ 8 อนั กา้ นเกสรมขี นสนี ้าตาลออ่ น กา้ นเกสรตวั เมยี ยาว ไม่มขี น กลบี เลย้ี ง 5 กลบี รปู ครง่ึ วงกลม ผลสดแบบมเี น้อื รปู รเี วา้ เป็นพู ผวิ เกลย้ี ง ผลอ่อนสเี ขยี ว แลว้ เปลย่ี นเป็นสี เหลอื งแดงจนแก่จดั สมี ่วงดา มี 2 พู ผวิ เกลย้ี ง เปลอื กและเน้อื บาง เมลด็ สนี ้าตาลดา 1 เมลด็ รปู ทรงรแี กมขอบขนาน พบตามปา่ เตง็ รงั และปา่ ดบิ แลง้ ทค่ี วามสงู ตงั้ แต่ระดบั ทะเลปานกลางถงึ 300-1,200 เมตร ออกดอกเดอื นกมุ ภาพนั ธ-์ มนี าคม ตดิ ผลเดอื นเมษายน-พฤษภาคม ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ รสหวาน ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : เดอื นเมษายน-พฤษภาคม
54 เลม่ ที่ 2 เรือ่ ง ผลไมพ้ นื้ บา้ น หมากแงว ชื่อทวั่ ไป : หมากแงว คอ้ แลน ลน้ิ จป่ี า่ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Nephelium hypoleucum Kurz ชื่อวงศ์ : SAPINDACEAE ลกั ษณะ : ไมต้ ้นขนาดกลาง ไมผ่ ลดั ใบ สงู 10-20 เมตร ลาตน้ เปลา โคนตน้ อาจมพี พู อนบา้ ง เปลอื กสนี ้าตาลคล้า เรยี บ เรอื นยอดเป็นพมุ่ คอ่ นขา้ งทบึ ใบ เป็นช่อ ตดิ เรยี งสลบั ยาว 20-30 ซม. ใบย่อยรปู ขอบขนาน แกมรปู ไขก่ ลบั ตดิ ตรงขา้ ม 1-3 คู่ กวา้ ง 3-8 ซม. ยาว 10-20 ซม. โคนใบมน และเบย้ี ว เน้อื ใบหนา หลงั ใบเกลย้ี งเป็นมนั ทอ้ งใบสจี าง ขอบใบเรยี บ ดอก ขนาดเลก็ สขี าวอม เขยี ว ออกรวมกนั เป็นช่อโตๆ ตามปลายกง่ิ ทุกสว่ นของชอ่ มขี นสเี ทา โคนกลบี รองดอกตดิ กนั เป็น รปู ถว้ ยปากกวา้ งปลายแยกเป็น 5 แฉก มขี นนุ่มทงั้ สองดา้ น กลบี ดอกไม่มี เกสรผมู้ ี 5 อนั รงั ไข่ กลม มขี นปกคลมุ ผล รปู รหี รอื คอ่ นขา้ งกลม โต ผวิ ขรุขระเป็นปมเลก็ ๆ กระจายทวั่ ไป ผลอ่อนสี เขยี ว พอแกจ่ ดั ออกสแี ดงเขม้ แต่ละผลมเี มลด็ เดยี ว มเี น้ือเย่อื ใสๆ และน้าหุม้ เมลด็ เป็นพรรณไมป้ า่ ดงดบิ และพบขน้ึ ตามปา่ เบญจพรรณชน้ื บา้ ง ตามทใ่ี กลแ้ หลง่ น้าทร่ี ะดบั ความสงู จากระดบั น้าทะเล 100-800 เมตร ในภาคต่างๆ ทวั่ ประเทศ ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว
ความหลากหลายของพืชอาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 55 หมากคอ้ ชื่อทวั่ ไป : Ceylon oak กาซอ้ ง คอสม้ ตะครอ้ หมากคอ้ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Schleichera oleosa (Lour.) Oken ชื่อวงศ์ : SAPINDACEAE ลกั ษณะ : ไมย้ ืนต้นขนาดใหญ่ สงู 15-25 เมตร แตกกง่ิ กา้ นต่า เรอื นยอดเป็นทรงพุ่มแผ่กวา้ ง กง่ิ กา้ นมกั คดงอ ลาตน้ เป็นปุม่ ปมและพพู อนเปลอื กลาตน้ เป็นสนี ้าตาลแดงหรอื เป็นสนี ้าตาลเทา แตกเป็นสะเกด็ หนาใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ปลายใบออกเป็นค่อู อกเรยี งเวยี นสลบั เป็นกลุม่ ตามปลายกงิ่ ค่ปู ลายสดุ มขี นาดใหญ่และยาวทส่ี ดุ รปู รี หรอื รปู รขี อบขนาน ปลายใบมนหรอื หยกั มี หางสนั้ ๆ โคนใบมนหรอื สอบมกั เบย้ี ว ขอบใบเรยี บเป็นคลน่ื แผน่ ใบหนาเรยี บเป็นคลน่ื เลก็ น้อย ใบ ออ่ นมขี นเลก็ น้อยตามเสน้ ใบ ดอกเป็นช่อ ออกปลายยอดหรอื ตามวอกใบ เป็นพวงแบบหาง กระรอกหอ้ ยลง ขนาดเลก็ สขี าวหรอื สเี หลอื งออ่ นๆ กลบี เลย้ี งมขี นาดเลก็ มาก มแี ฉกแหลม 5 แฉก ดอกไม่มกี ลบี ดอก รงั ไขม่ รี ปู ทรงกลม ออกดอกเดอื นมนี าคม-เมษายน ผลเป็นรปู ทรงกลม ปลาย ผลมจี ะงอยแหลมแขง็ เปลอื กหนา ผวิ ผลเกลย้ี งสเี ขยี วอมน้าตาล ภายในมเี มลด็ 1-2 เมลด็ มเี น้อื หมุ้ เมลด็ ใสสเี หลอื ง ฉ่าน้า มรี สเปรย้ี ว ออกผลเดอื นมนี าคม-เดอื นกรกฎาคม พบทางภาคเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ภาคตะวนั ตกเฉยี งใต้ ภาคกลาง และทางภาคตะวนั ออกเฉยี งใตข้ อง ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานกบั น้าพรกิ รสเปรยี วจดี ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดรู อ้ น
56 เลม่ ที่ 2 เร่ือง ผลไมพ้ นื้ บา้ น หมากท้อบา้ น ชื่อทวั่ ไป : Canistel, Eggfruit-tree, Tiesa, Yellow sapote, Canistelsapote, ลกู ทอ้ พน้ื บา้ น ทอ้ เขมรทสิ ซา หมากทอ้ บา้ น มอนไข่ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Pouteria campechiana (Kunth) Baehni ช่ือวงศ์ : SAPOTACEAE ลกั ษณะ :ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สงู 8-10ลาตน้ มยี างสขี าวๆ ทก่ี งิ่ อ่อนเป็นสนี ้าตาล ใบเป็นรปู ใบ หอก ปลายใบเรยี วแหลม กวา้ ง4-7.5 ซม.ยาว11.25-28 ซม. ใบเป็นมนั และบาง ดอกมสี คี รมี และมี กลนิ่ หอม ผลมลี กั ษณะเป็นกลมรปู รี ปลายผลมหี ลายแหลมหรอื จะงอย ผลเม่อื สกุ จะเป็นสเี หลอื ง ออ่ น เปลอื กผลบาง เน้อื ในผลเป็นสเี หลอื งสดน่ารบั ประทาน เน้อื มลี กั ษณะเหนยี วคลา้ ยกบั แป้งทา ขนม เน้อื นม่ิ คลา้ ยกบั ไขแ่ ดง ภายในผลมเี มลด็ ขนาดใหญ่ และมลี กั ษณะเป็นรปู รสี ดี า ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ เน้อื ในผลสกุ นิยมนามาทาขนม ฤดกู าลที่สามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 57 ตะขบ ช่ือทิ้งถ่ิน : Calabura, Jam tree, Jamaican cherry, Malayan Cherry, West Indian Cherryครบ ฝรงั่ หม่ากตะโก่เสะ ตากบ เพย่ี นหมา่ ย ตะขบฝรงั่ ตะขบ ช่ือวิทยาศาสตร์ :Muntingia calabura L. ชื่อวงศ์ :TILIACEAE ลกั ษณะ :ไมพ้ ่มุ หรอื ไมย้ นื ต้นขนาดเลก็ สงู 5-7 เมตร แตกกงิ่ กา้ นแผข่ นานกบั พน้ื ดนิ เปลอื กลา ตน้ เรยี บเป็นสเี ทา ตามกง่ิ อ่อนมขี นนุ่มขน้ึ ปกคลมุ ใบเป็นใบเดย่ี ว ออกเรยี งสลบั แบบทแยงกนั รปู ไขแ่ กมขอบขนาน ปลายใบเรยี วแหลม โคนใบมนขอบใบจกั เป็นซฟ่ี นั เลก็ ๆ กวา้ ง 1.5-3.5 ซม. ยาว 4.5-9 ซม. หลงั ใบดา้ นบนเป็นสเี ขยี ว ทอ้ งใบดา้ นลา่ งสนี วล ใบมขี นนุ่มจบั ดจู ะรสู้ กึ เหนียวมอื เลก็ น้อย เสน้ แขนงใบมี 3-5 เสน้ โคนกา้ นเป็นปมๆดอกเป็นเดย่ี วหรเื ป็นคู่ ออกบรเิ วณเหนือซอก ใบ สขี าว กลบี ดอกยน่ สขี าวมี 5 กลบี รปู ไขก่ ลบั ป้อมๆ ปลายกลบี มน กลบี เลย้ี งมี 5 กลบี ไม่ ตดิ กนั สเี ขยี ว รปู หอก ปลายกลบี แหลมเป็นหางยาว โคนกลบี ตดั ดอกมเี กสรเพศผจู้ านวนมาก กา้ นเกสรเพศเมยี สนั้ ภายในมี 5-6 ชอ่ ง แต่ละช่องมไี ขอ่ ่อนจานวนมาก มขี นผลเป็นผลสด รปู ทรง กลม เปลอื กผลบาง ผลอ่อนสเี ขยี ว เมอ่ื สกุ สแี ดง ผลมรี สหวาน ภายในมี เมลด็ แบนขนาดเลก็ จานวนมากออกดอกและตดิ ผลไดต้ ลอดทงั้ ปี ส่วนท่ีนามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานได้ รสหวานหอม ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ทงั้ ปี
58 เล่มที่ 2 เร่อื ง ผลไม้พนื้ บา้ น ผกั ส้มก้งุ ชื่อทิ้งถ่ิน : กยุ่ เครอื อโี กย อโี กย่ เถาเปรย้ี ว เถาวลั ยข์ น สม้ กยุ่ สม้ ออบสม้ กุง้ องนุ่ ปา่ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Ampelocissus martinii Planch. ชื่อวงศ์ : VITACEAE ลกั ษณะ : ไม้เถาเลอื้ ยมกั เกาะพนั ตน้ ไมอ้ ่นื ไม่ผลดั ใบ มมี อื เกาะออกตามขอ้ มกั ออกตรงขา้ มกบั ใบ เถาเป็นปลอ้ ง กงิ่ อ่อนยอดอ่อนมขี นสนี ้าตาลอ่อนปกคลุม เถาแก่สนี ้าตาลแดง ใบเดย่ี วเรยี ง สลบั รปู หวั ใจ หยกั เวา้ 3-5 แฉก กวา้ งประมาณ 10-13.5 ซม. ยาว12 ซม. โคนใบเวา้ รปู หวั ใจ ปลายใบแหลมหรอื มน ขอบใบหยกั ซฟ่ี นั แหลม ขอบใบเวา้ เป็น 3-5แฉก ผวิ ใบดา้ นบนเกลย้ี ง ผวิ ดา้ นลา่ งมขี นสนั้ หนานุ่มสแี ดงปกคลมุ กา้ นใบมขี น เสน้ ใบหลกั ออกมาจากจดุ เดยี วกนั ทฐ่ี านใบ ดอกชอ่ แบบช่อแยกแขนงขนาดใหญ่ ออกตรงขา้ มกบั ใบและโคนเถา เถาทอ่ี อกดอกและตดิ ผล ใบ จะรว่ งหมด ดอกย่อยจานวนมาก ขนาดเลก็ กลบี รวมสชี มพู กลางดอกสแี ดงเขม้ เกสรเพศผมู้ ี 5 อนั เกสรเพศเมยี อยเู่ หนือวงกลบี ผลสด รปู ทรงกลม เป็นพวงแน่นคลา้ ยพวงองนุ่ ผลอ่อนสเี ขยี ว เม่อื สกุ สแี ดงคลา้ เมลด็ มี 1-2 เมลด็ มเี ปลอื กหมุ้ แขง็ พบตามปา่ เตง็ รงั ปา่ เบญจพรรณ ปา่ ผลดั ใบ ออกดอกราวเดอื นเมษายนถงึ พฤษภาคม ตดิ ผลราวเดอื นกรกฎาคมถงึ สงิ หาคม ยอดออ่ นและผล อ่อนรบั ประทานเป็นผกั ส่วนที่นามาบริโภค : ผลสกุ รบั ประทานเป็นผกั รสหวานอมเปรยี ว ฤดกู าลท่ีสามารถใช้ประโยชน์ : ฤดหู นาว
ความหลากหลายของพชื อาหารป่ าและการใช้ประโยชน์จากชมุ ชน 59 บรรณานุกรม กอ่ งกานดา ชยามฤต. 2545. ค่มู อื จาแนกพรรณไม.้ กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั ประชาชน จากดั . คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี.ฐานข้อมลู สมนุ ไพร คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี. [Online] ; www.phargarden.com. ; [15 ธนั วาคม 2558]. โครงการอนุรกั ษ์พนั ธกุ รรมพชื อนั เน่อื งมาจากพระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยาม บรมราชกุมารี สวนจติ รลดา. 2558. ขอ้ มลู พรรณไม.้ [Online] ; http://www.rspg.or.th/plants_data/index.htm ; [15 ธนั วาคม 2558]. เตม็ สมติ านนท.์ ช่ือพรรณไมแ้ ห่งประเทศไทย. กรงุ เทพฯ: หอพรรณไมก้ รมปา่ ไมบ้ างเขน.2544 มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. 2558. กรีนไฮเปอรม์ ารท์ : สารานุกรมผลิตผลและผลิตภณั ฑจ์ ากพืช ใน ซุปเปอรม์ ารเ์ กต็ ใน “ดชั นีพืช”. [Online] ; http://www.sc.mahidol.ac.th/wiki/doku.php?id=ดชั นีพชื ; [15 ธนั วาคม 2558]. สถาบนั วจิ ยั และพฒั นาทส่ี งู (องคก์ รมหาชน).โครงการเผยแพรข่ อ้ มลู ทรพั ยากรชวี ภาพและภูมิ ปญั ญาทอ้ งถน่ิ บนพน้ื ทส่ี งู . [Online] ; eherb.hrdi.or.th. ; [15 ธนั วาคม 2558]. สานกั งานพฒั นาเศรษฐกจิ จากฐานชวี ภาพ (องคก์ ารมหาชน). 2558. My Biodiversity. [Online] ; http://www.biogang.net/biodiversity_view.php? ; [15 ธนั วาคม 2558]. องคก์ ารสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม. ฐานขอ้ มูลพรรณไม้ องคก์ ารสวนพฤกษศาสตร.์ . [Online] ; http://www.qsbg.org/ ; [15 ธนั วาคม 2558].
Search