Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ั่ถั่วอาหารสัตว์และการผลิตเมล็ดพันธุ์

ั่ถั่วอาหารสัตว์และการผลิตเมล็ดพันธุ์

Description: ั่ถั่วอาหารสัตว์และการผลิตเมล็ดพันธุ์.

Search

Read the Text Version

สารบัญ !! ความสาํ คัญของถั่วอาหารสัตว !! ทาํ ไมตองปลูกถั่วอาหารสัตว !! ลกั ษณะของถั่วอาหารสัตว !! การใชป ระโยชนถั่วอาหารสัตว !! การปลูกและผลิตเมล็ดพันธุเวอราโนสไตโล !! การปลูกถวั่ เวอราโนสไตโลเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ !! การเตรยี มดนิ !! การเตรยี มเมลด็ พนั ธุ !! การจดั การแปลงผลติ เมลด็ พนั ธุ !! การปรบั ปรุงสภาพเมล็ดพันธุและการเก็บรักษา !! ตนทนุ และผลตอบแทนของการผลติ เมลด็ พนั ธุ !! การปลูกและผลิตเมล็ดพันธุ ถวั่ เวอราโนสไตโล ถว่ั แกรมสไตโล !! การปลกู ถว่ั แกรมสไตโลเพอ่ื ผลติ เมลด็ พนั ธุ !! การเกบ็ เกย่ี วและผลผลติ !! ขอ สรุปและขอเสนอแนะ !! เอกสารประกอบ

ถวั่ อาหารสัตวและการผลิตเมล็ดพันธุ 2 ความสําคัญของถั่วอาหารสัตว พืชอาหารสตั ว เปน อาหารหลกั ทสี่ ําคัญสาํ หรับ สัตวเ คย้ี วเออ้ื ง ไดแก โคเนอ้ื โคนม กระบือ แพะ แกะ เปนตน ปจ จบุ นั นเ้ี กษตรกรสนใจเลย้ี งสตั วม ากขน้ึ จาํ นวน โคเน้ือและโคนมเพ่ิมขน้ึ ทกุ ปข นาดของโคเนอ้ื และโคนมกโ็ ต ข้ึนเน่ืองจากการปรบั ปรงุ พนั ธตุ ามหลกั วชิ าการ ในขณะท่ี พื้นที่สาธารณะสาํ หรับเล้ยี งโค กระบือ ลดลง ในบางป บาง รูปที่ 1 แปลงถวั่ เวอราโนสไตโล ฤดู พืชอาหารสตั วท ม่ี ตี ามธรรมชาติ ตามหวั ไรป ลายนาจงึ ไมเ พียงพอสําหรับโค กระบือ ทําใหโคกระบือ ผอม เจริญเติบโตชา ไมใ หล กู ทําใหผูเลี้ยงไดผลตอบแทน จากสตั วต า่ํ ดังน้ัน ในการเล้ียงโคเนื้อ โคนม กระบือ หรอื สตั วเ คย้ี วเออ้ื งชนดิ อน่ื ๆ ใหมีการเจริญเติบโตและ มีผลผลิต เปน ปกตนิ น้ั เกษตรกรจาํ เปน จะตอ งปลกู พชื อาหารสตั วใ นทส่ี ว นตวั โดยเลอื กปลกู พชื อาหาร สัตวท่ีเหมาะกบั สภาพพื้นที่ มกี ารเจรญิ เตบิ โตดี มผี ลผลติ ตอ ไรส งู ในพน้ื ทเ่ี ทา ๆ กัน ถาปลูกพืชอาหาร สัตวพันธุดี มกี ารจดั การดแู ลอยา งถกู ตอ งสามารถเลย้ี งโค กระบือ หรือ สตั วเ คย้ี วเออ้ื งอน่ื ๆ ไดจาํ นวน มากกวาสัตวเจริญเติบโต ใหผลผลิตและสุขภาพดีกวา พืชอาหารสัตวที่สาํ คญั มี 2 ชนิด คอื หญา อาหารสตั วและถว่ั อาหารสตั ว ปจจุบันเกษตรกรไดรับ การสงเสริมใหปลูกท้ังหญาอาหารสัตวและถั่วอาหารสัตวรวมกันเรียกวาแปลงหญาผสมถ่ัว เนื่องจาก หญาโดยทั่วไปใหผลผลติ สงู เปน แหลง พลงั งานและสตั วช อบกนิ สว นถว่ั อาหารสตั วน น้ั มโี ปรตนี สงู การ ปลูกหญาผสมถ่ัว โดยเลือกพันธุหญาทส่ี ามารถเจรญิ เตบิ โตรว มกนั ไดด ี จึงทาํ ใหเปนแหลงพืชอาหาร สัตวท่ีมีความสมดุลยต อบสนองความตอ งการของสตั วเ ลย้ี งไดเ ปน อยา งดี ในสภาพดนิ ทม่ี คี วามอดุ มสมบรู ณไ มม ากนกั เมื่อทาํ การปลูกหญาผสมถั่ว เนื้อที่เพียง 2-3 ไร ก็เพียงพอสาํ หรบั เลย้ี งโคนม โคเนอ้ื หรอื กระบอื ขนาดโตเตม็ ท่ี 1 ตวั เกษตรกรที่เลีย้ งโคนม จาํ นวน 5 ตัว จาํ เปน จะตอ งปลกู สรา งแปลงพชื อาหารสตั วจ าํ นวน 10 ไร ซง่ึ แปลงพชื อาหารสตั วท ต่ี ง้ั ตวั ดแี ลว สามารถปลอ ยโค กระบือเขาแทะเล็มและตัดเกี่ยวพืชอาหารสัตวที่เหลือทาํ หญาแหง หรือหญาหมัก เก็บ รักษาไวเล้ียงสัตวใ นฤดแู ลง ระบบการสรา งแปลงพชื อาหารสตั วอ ยา งถาวรน้ี จงึ เปน เครอ่ื งรบั ประกนั วา สัตวเล้ียงของเกษตรกรจะมอี าหารกนิ ตลอดป ไมม ชี ว งขาดแคลนอาหาร ทาํ ใหวงจรการเจริญเติบโตและ การใหผลผลติ ของโค กระบือ มคี วามตอ เนอ่ื งไมม กี ารหยดุ ชะงกั โดยสรุปแลว ผลดีที่เกษตรกรจะไดรับ การปลูกสรา งแปลงพชื อาหารสตั วอ าจกลา วได ดงั น้ี 1. แกป ญ หาขาดแคลนพชื อาหารสตั วใ นฤดแู ลง 2. ใชเวลา และแรงงานในการเลย้ี งโค กระบอื นอ ยลง เนอ่ื งจากสามารถปลอ ยสตั วแ ทะเลม็ ใน แปลงหญาได 3. ผลิตพืชอาหารสัตวคุณภาพดี สตั วไ ดร บั สารอาหารตา งๆ อยางเพียงพอ ทําใหม ผี ลผลติ สงู กวาสัตวท ป่ี ลอ ยแทะเลม็ หาอาหารกนิ ตามธรรมชาติ 4. สามารถจดั การ ควบคมุ ดแู ลสตั วไ ดอ ยา งใกลช ดิ

ถวั่ อาหารสัตวและการผลิตเมล็ดพันธุ 3 5. ลดการเสย่ี งตอ โรคตดิ ตอ ตา ง ๆ ซง่ึ อาจจะเกดิ จากการตอ นสตั วเ ลย้ี งในทําเลสาธารณะปะปน กับสัตวเ ลย้ี งของเกษตรกรรายอน่ื ๆ 6. สามารถสาํ รองเสบยี งสตั ว โดยตัดเกี่ยวพืชอาหารสัตวชวงที่มีการเจริญเติบโตดี เก็บรักษาไว ในรูปของหญาแหงหรือหญาหมักสําหรบั ใชเ ลย้ี งสตั วใ นฤดขู าดแคลน นอกจากการปลูกพืชอาหารสัตวสาํ หรบั เลย้ี งสตั วข องตนเองแลว ปจจุบันมีเกษตรกรจาํ นวนหนง่ึ ทําการปลูกพืชอาหารสัตวตัดเกี่ยวจาํ หนา ยแกผ เู ลย้ี งสตั วใ นรปู ของหญา สด หญาแหง หรือหญาหมัก และปลูกพืชตระกูลหญาตระกูลถั่ว ผลติ เมลด็ พนั ธจุ าํ หนา ย มแี นวโนม ทําใหเ กษตรกรมีรายไดสงู จึงเปน อาชพี ใหม ทเ่ี ปน ทางเลอื กสําหรับเกษตรกรทางหนึ่ง ทําไมตองปลกู ถว่ั อาหารสัตว พืชตระกูลถั่ว เปนอาหารหยาบหลักที่สําคัญเทา ๆ กับหญาอาหารสัตว เกษตรกรควรจะปลูกถั่ว ผสมหญา เพื่อทาํ ใหแ ปลงหญา เลย้ี งสตั วม คี ณุ คา ทางอาหารสงู เนอ่ื งจากถว่ั มสี ารโปรตนี สงู กวา หญา นอกจากนั้น รากของพชื ตระกลู ถว่ั สามารถสะสมธาตไุ นโตรเจนจากอากาศ หญาที่ปลูกผสมกับถั่ว สามารถใชธ าตไุ นโตรเจนจากถว่ั ได จะทาํ ใหผ ลผลติ ของหญา สงู ขน้ึ ลักษณะของถ่วั อาหารสัตว ถ่ัวอาหารสตั วท ไ่ี ดม กี ารทดลองปลกู ขยายพันธุ และกระจายพนั ธุใ หเกษตรกรปลกู ไดผลดมี ี หลายชนิดแตล ะชนดิ มขี อ ดขี อ เสยี และเหมาะกบั สภาพดนิ ฟา อากาศ และการนาํ ไปใชประโยชนแตก ตางกัน เราสามารถแบง ถว่ั อาหารสตั วเ ปน 3 กลมุ ตามลกั ษณะทรงตน และการเจรญิ เตบิ โต คอื ก) ถ่ัวลําตน เปน เถาเลอ้ื ย พนั ธทุ น่ี ยิ มปลกู ไดแก ถว่ั เซนโตร ถ่ัวเซอราโตร ซง่ึ จะมเี ถาเลอ้ื ยพนั เมื่อปลูกรวมกับหญา จะเลื้อยพันตนหญาทาํ ใหโค กระบือ กินหญาและถั่วไปพรอม ๆ กัน ข) ถว่ั ลําตน เปน ทรงพมุ พนั ธทุ น่ี ยิ มปลกู ไดแก เวอราโนสไตโลหรอื ถว่ั ฮามาตา และถั่ว แกรมสไตโล ซง่ึ มที รงพมุ เตย้ี ๆ ตน โตเตม็ ทส่ี งู เพยี ง 50-60 เซนตเิ มตร แตกกง่ิ กา นและมใี บขนาดเลก็ ๆ จํานวนมาก เจรญิ เตบิ โตไดใ นดนิ หลายชนดิ และมักจะทนความแหงแลงหรือทนการเหยียบยาํ่ ไดด ี ค) ไมยืนตน พืชตระกลู ถว่ั บางชนดิ เปน ไมย นื ตน เชน กระถิน แคบาน แคฝรั่ง ไมยราบ มะ แฮะ มักจะมีใบเขยี วตลอดป สามารถใชเ ลย้ี งสตั วไ ดป จ จบุ นั เกษตรกรสนใจปลกู มากขน้ึ เนอ่ื งจากทน ความแหง แลง และใชเ ลย้ี งสตั วใ นฤดขู าดแคลน รูปที่ 2 ถว่ั เวอราโนสไตโล รูปที่ 3 ถว่ั แกรมสไตโล

ถวั่ อาหารสัตวและการผลิตเมล็ดพันธุ 4 การใชป ระโยชนถ ว่ั อาหารสตั ว การปลูกและใชเ ปน ประโยชนถ ว่ั อาหารสตั ว เกษตรกรอาจจะปลูกรวมกับหญาโดยเลือกพันธุถั่ว เวอราโนสไตโลหรือถ่วั แกรมสไตโลรวมกับหญารซู ี่ โดยหวา นเมลด็ หญา และถว่ั พรอ มๆ กัน หรอื ปลกู สลับกันเปนแถวใชอัตราเมล็ดพนั ธหุ ญาและถ่วั อยา งละ 2 กโิ ลกรมั ตอ ไร พันธุถั่วอาหารสัตวที่ลาํ ตน เปน เถาเลอ้ื ย เชน ถว่ั เซนโตร ควรปลกู รว มกบั หญา ทเ่ี ปน กอคอ นขา ง สูง เชน หญา กนิ นี หญา กนิ นีสีมวงโดยหยอดเมลด็ พนั ธถุ ว่ั เปน หลมุ เมอ่ื ตน ถว่ั เจรญิ เตบิ โตจะเลอ้ื ยพนั ตนและใบหญาสามารถตัดเก่ยี วเลยี้ งสัตวไดด ี ถ่ัวอาหารสตั วท เ่ี ปน ไมย นื ตน เชน กระถิน แคบาน แคฝรั่ง มะแฮะ อาจจะปลกู เปนแถว เปน แนวรั้ว แนวคนั ดนิ เมอ่ื ตน โตใชท ง้ั เปน รม เงา เปน แนวรว้ั หรอื แนวคนั ดนิ ถ่ัวอาหารสตั วห ลายชนดิ ใชป รบั ปรงุ คณุ ภาพของหญา ธรรมชาติ เชน การหวา นถว่ั เวอราโนสไต โล ในอัตราเมล็ด 0.5 กโิ ลกรมั ตอ ไร ในทาํ เลเลย้ี งสตั วส าธารณะโดยไมต อ งมกี ารเตรยี มดนิ เมอ่ื มฝี นตก เพียงพอเมล็ดพันธุ ก็จะทยอยงอก และเจรญิ เตบิ โตอยใู นธรรมชาติ ถ่ัวอาหารสตั วส ามารถใชเ ลย้ี งสตั วไ ดด เี กอื บทกุ ชนดิ เชน โคนม โคเนอ้ื กระบือ แกะ กระตา ย และไก เปน ตน ในโคพน้ื เมอื งทก่ี นิ ฟางขา วเสรมิ ดว ยถว่ั เวอราโนสไตโล แหง ปรมิ าณเลก็ นอ ยวนั ละ ประมาณ 1 กิโลกรัม สภาพรางกายโคยังดีในชว งแลง เมื่อเปรียบเทียบกับโคที่ไมเสริมถั่ว จะมีนาํ้ หนกั ตัวลดลงมาก สาํ หรบั โคนม การใชถ ว่ั อาหารสตั วเ ลย้ี งโครดี นมสามารถลดปรมิ าณการใชอ าหารขน ทาํ ใหลดตน ทนุ การผลติ นา้ํ นมลงไดม าก การผลิตเมล็ดพันธุถ่ัวอาหารสัตวเปนอาชีพใหมอีกอาชีพหนึ่งสําหรับเกษตรกรเนื่องจากขณะนี้ เกษตรกรผเู ลย้ี งสตั วน ยิ มปลกู ถว่ั สาํ หรับทาํ ทงุ หญาเลยี้ งสตั ว ในพน้ื ท่ี 1 ไร ตอ งใชเ มลด็ พนั ธถุ ว่ั อาหาร สัตวประมาณ 1-2 กิโลกรัม ในแตล ะปจ งึ ตอ งมกี ารใชเ มลด็ พนั ธถุ ว่ั อาหารสตั วเ ปน จาํ นวนมาก การ ผลิตเมลด็ พนั ธถุ ว่ั อาหารสตั วจ าํ หนา ย จงึ เปน ลทู างประกอบอาชพี อกี ทางหนง่ึ ในเอกสารน้ี จะใหร ายละเอยี ดการผลติ เมลด็ พนั ธถุ ว่ั อาหารสตั ว 2 ชนิด คอื ถั่วเวอราโนสไตโล หรอื ถว่ั ฮามาตา และถั่วแกรมสไตโล เน่ืองจากเปน พนั ธทุ ส่ี ง เสรมิ และมเี ทคนคิ วธิ กี ารผลติ เมลด็ พนั ธซุ ง่ึ เกษตรกรสามารถทาํ ได ไมย งุ ยากนกั การปลูกและผลิตเมล็ดพันธุเวอราโนสไตโล ถั่วเวอราโนสไตโล หรือที่เรียกกันทั่วไปในประเทศไทยวา ถว่ั ฮามาตา เปน ถว่ั อายุ 2-3 ป ลักษณะเปนพมุ เตย้ี ตง้ั ตรง เมอ่ื ปลกู ในดนิ ทอ่ี ดุ มสมบรู ณ ตน โตเตม็ ทจ่ี ะสงู 50-60 เซนตเิ มตร แตกกิ่ง กานแผคลมุ พน้ื ทก่ี วา ง ใบเปน ใบรวมประกอบดว ย 3 ใบยอ ย รปู รา งลกั ษณะคลา ยหอก คอ นขา งยาวแต แคบ ปลายใบเรยี วแหลมไมม ี ขนปกคลมุ ดอกมสี เี หลอื ง ชอ ดอกประกอบดว ย ดอก 3-4 ดอก อยูรวมที่ ปลายกิ่ง ออกดอกไดท ง้ั ป แตชวงที่ ออกดอกมากทส่ี ดุ อยใู นเดอื นกนั ยายน ถ่ัวเวอราโนสไตโลตดิ เมลด็ ไดดี เมลด็ จะอยใู นฝก ฝก ละ 1 เมลด็ โดย เมลด็ มี 2 ลกั ษณะ คอื เมลด็ ฝก บนจะมเี ปลอื กหมุ เมลด็ สนี า้ํ ตาลเขม ตรงปลายเปน ขอโคง งอ สว นเมลด็ ฝก ลา งมเี ปลอื กหมุ เมลด็ สขี าว ไมม ขี อ (ภาพที่ 5.2)

ถวั่ อาหารสัตวและการผลิตเมล็ดพันธุ 5 ถั่วเวอราโนสไตโล เจริญเตบิ โตไดใ นดนิ หลายชนดิ ตง้ั แตด นิ ทราย จนถงึ ดนิ รว นปนดนิ เหนยี ว แตเจริญเตบิ โตไดไ มด ใี นดนิ เหนยี วจดั ไมท นตอ สภาพนา้ํ ทว มขงั มคี วามทนทานตอ สภาพแหง แลง ไดด ี ทนตอการเหยียบยํ่าและมคี ณุ คา ดา นอาหารสตั วอ ยใู นเกณฑด ี การปลูกถั่วเวอราโนสไตโลเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ การปลกู ถ่ัวเวอราโนสไตโลเพอ่ื ผลติ เมลด็ พนั ธุ ควรเลอื กปลกู ในพน้ื ทด่ี อน มกี ารระบายนา้ํ ดี ดินควรเปนดนิ รว นปนทราย ไมแหงแลง หรอื ชน้ื แฉะจนมนี า้ํ ขงั ควรหลีกเลี่ยงปลูกในพื้นที่ที่สภาพดิน ลูกรัง ดินแตกระแหง ดินเหนียวจัด เคม็ จดั หรือ ดนิ ทแ่ี หง เรว็ เกนิ ไปเมอ่ื หมดฤดฝู น เพราะจะได ผลผลิตไมด ี คณุ ภาพเมลด็ ตา่ํ เกบ็ เกีย่ วเมลด็ ยากแลว แตกรณี เกษตรกรควรเรม่ิ ปลกู ถว่ั เวอราโนสไตโล ในเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม โดยใชอิ ตั ราเมลด็ พนั ธุ 2 กิโลกรัม ตอ ไร ถาปลูกลาชาจะทาํ ใหไดผล ผลิตตํ่า เน่ืองจากขาดนา้ํ ในชว งเดอื นตลุ าคม-พฤศจิกายน ซง่ึ เปน ชว งทอ่ี ยู ระหวา งสรา งเมลด็ พนั ธุ การเตรยี มดนิ การเตรยี มดนิ ปลกู ถ่ัวเวอราโนสไตโล ตองทาํ การไถและคราดปรบั หนา ดนิ ใหเ รยี บสม่ําเสมอ กําจัดวัชพืช และรากพืชตาง ๆ ออกใหห มด แลว จงึ หวา นเมลด็ พนั ธุ การเตรยี มเมลด็ พนั ธุ เมล็ดถ่ัวเวอราโนสไตโลมีเปลือกแข็ง ถาปลูกโดยตรงจะงอกชาหรืองอกไมพรอมกัน วิธีการทําใหเ มลด็ งอกเรว็ และสมา่ํ เสมอคอื การ เรงความงอกโดยการแชเ มลด็ ถว่ั เวอราโนสไตโล รูปที่ 4 แปลงผลติ เมลด็ พนั ธถุ ว่ั เวอราโนสไตโลของเกษตร ในนา้ํ รอ นทอ่ี ณุ หภมู ิ 80 องศาเซลเซยี ส เปน เวลานาน 10 นาที ผง่ึ ลมจนเมลด็ ไมเ กาะตดิ กนั แลว จงึ นําเมลด็ ไปหวา นในแปลงทเ่ี ตรยี มไว จะทาํ ให เมล็ดกระจายสมาํ่ เสมอใชอ ตั ราเมลด็ พันธุ 2 กโิ ลกรมั ตอ ไร จะเปน อตั ราทเ่ี หมาะสมทส่ี ดุ การจัดการแปลงผลิตเมล็ดพันธุ ถั่วเวอราโนสไตโล มีขอดคี อื เจรญิ เตบิ โตไดค อ นขา งดใี นดนิ ทม่ี คี วามอดุ มสมบรู ณต า่ํ ทป่ี มราก มจี ลุ นิ ทรีย ท่ีสามารถดึงธาตไุ นโตรเจนจากอากาศมาใชเ ปน อาหารของตน ถว่ั ได อยา งไรกต็ ามถา ใสป ยุ ฟอสฟอรสั อตั รา 10 กิโลกรัม P2 O5 ตอ ไร และยบิ ซม่ั อตั รา 20 กโิ ลกรมั ตอ ไร จะทาํ ใหผ ลผลติ สงู ขน้ึ แปลงผลติ เมลด็ พนั ธถุ ่ัวเวอราโนสไตโล สามารถใชเ ลย้ี งโค กระบอื ไดใ นชว งแรกคอื กอ นถว่ั ออกดอกอาจ จะ ปลอยสัตวแทะเลม็ หรอื ตดั มาใชเ ลย้ี งสตั วจ นถงึ สน้ิ เดอื นสงิ หาคมจงึ งดใช ปลอ ยใหตนถัว่ เจรญิ เตบิ โต เต็มที่ จะไดผ ลผลติ เมลด็ มาก

ถวั่ อาหารสัตวและการผลิตเมล็ดพันธุ 6 การเกบ็ เก่ียวเมลด็ พันธุ ถั่วเวอราโนสไตโล จะเร่ิมออกดอกตง้ั แตเ ดอื นกนั ยายน เมอ่ื เมลด็ พนั ธแุ กจ ดั จะรว งหลน ลงพน้ื ดินระหวาง เดอื นมกราคม-กุมภาพันธ เมลด็ จะรว งเกอื บทง้ั หมด จึงเริ่มทาํ การเกบ็ เมลด็ พนั ธุ วิธีเก็บ เมลด็ พนั ธถุ ่ัวเวอราโนสไตโล มี 2 วิธี คอื ก.) การเกบ็ เมลด็ พนั ธโุ ดยใชแ รงคน เกษตรกรเกบ็ เมลด็ พนั ธโุ ดยตดั ตน ถว่ั ใหช ดิ โคนตน นาํ ตนถั่วไปกองสุมไวในแปลง เคาะเมลด็ พนั ธทุ ย่ี งั เหลอื คา งในตน ใหร ว งลงดนิ จากนน้ั กวาดดนิ ทม่ี เี มลด็ ถว่ั ทั้งหมดรวมกันเปนกองๆ ใชต ะแกรงรอ นดนิ ออกจากเมลด็ ถว่ั ตะแกรงรอ นเมลด็ พนั ธมุ ี 2 ชุด คอื ตะแกรงหยาบขนาดตะแกรง 3 มลิ ลเิ มตรสาํ หรับรอนกากชิ้นใหญ ๆ ออกกอ น แลว รอ นดนิ และหนิ ออก จากเมล็ดโดยใชตะแกรงขนาด 1 มลิ ลเิ มตร ฝดทําความสะอาดเมลด็ พนั ธอุ กี ครง้ั หนง่ึ โดยใชก ระดง หรอื พัดลม วธิ ีนเี้ ปนวธิ ที เี่ กษตรกรนยิ มใชมากทสี่ ุด ข.) การเกบ็ เมลด็ พนั ธโุ ดยใชเ ครอ่ื งจกั รกล ในพื้นที่ขนาดใหญและมีพื้นที่เรียบหลังจากตัด ตนถั่วออกแลว สามารถเกบ็ เมลด็ พนั ธโุ ดยใชเ ครอ่ื งดดู เมลด็ ทร่ี ว งลงในแปลง จะเก็บเกี่ยวไดเร็วไมตอง ใชแรงคน แตจะได เมลด็ พนั ธทุ ม่ี สี ง่ิ เจอื ปนมากเมลด็ มคี วามบรสิ ทุ ธต์ิ า่ํ และผลผลิตที่ไดจะตาํ่ กวา การ เก็บเกี่ยวโดยใชแรงคน การปรบั ปรงุ สภาพเมลด็ พนั ธแุ ละการเกบ็ รกั ษา ในพื้นที่ 1 ไร เกษตรกรจะผลติ เมลด็ พนั ธถุ ่ัวเวอราโนสไตโลไดเ ฉลย่ี 106 กิโลกรัม (จังหวัด ขอนแกน พ.ศ. 2532) เนอ่ื งจากการเกบ็ เมลด็ พนั ธุ จากดนิ จะมกี ารปนเปอ นมาก ควรทาํ ความสะอาด เมล็ดใหมีความบรสิ ทุ ธ์ิ ไมน อ ยกวา 70 เปอรเ ซน็ ต โดยปกตจิ ะมคี วามงอกประมาณ 40 เปอรเ ซน็ ต หลังจากการเรง ความงอกแลว การเก็บรกั ษาเมลด็ พันธุถ่ัวเวอราโนสไตโล สามารถเกบ็ รกั ษาในภาชนะทม่ี ดิ ชดิ เชน กระสอบ ปาน กระสอบปยุ ถงุ ผา ถงุ พลาสตกิ และถงุ กระดาษทอ่ี ณุ หภมู หิ อ งเปน ระยะเวลานานมากกวา 2 ป ทง้ั น้ี เมล็ดพันธจุ ะตอ ง มคี วามชน้ื ไมเ กนิ 10 เปอรเ ซน็ ต ตนทุนและผลตอบแทนของการผลิตเมล็ดพันธุถั่วเวอราโนสไตโล ในจังหวดั ขอนแกน เกษตรกรผลติ เมลด็ พนั ธุ ถ่ัวเวอราโนสไตโลไดเ ฉลย่ี 106 กโิ ลกรมั ตอ ไร ตนทุนการผลติ โดยประมาณ มดี งั น้ี คา เมลด็ พนั ธุ 58.58 บาท คา ปยุ 152.36 บาท คา ไถพรวนดนิ 249.25 บาท คา แรงงานปลกู 44.65 บาท คา แรงงานบาํ รุงรักษา 437.65 บาท

ถวั่ อาหารสัตวและการผลิตเมล็ดพันธุ 7 คา แรงงานเกบ็ เกย่ี ว 1,276.31 บาท คาใชจายอื่น ๆ 343.65 บาท รวมตน ทนุ การผลติ 2,562.45 บาทตอ ไร ผลผลติ เมลด็ พนั ธุ 106.25 บาทตอ ไร รายไดจากการจําหนา ยเมลด็ พนั ธุ 3,187.47 บาทตอ ไร ราคาจาํ หนา ยเมลด็ พนั ธุ 30.00 บาทตอกโิ ลกรัม กําไรจากการผลติ เมลด็ พนั ธุ 625.02 บาทตอ ไร หมายเหตุ คิดราคาเมลด็ พนั ธถุ ่ัวเวอราโนสไตโล กโิ ลกรมั ละ 45 บาท รปู ท่ี 5.2 เมล็ดพันธุถวั่ เวอราโนสไตโล รปู ท่ี 5.1 เมล็ดพันธุถวั่ เวอราโนสไตโล รปู ท่ี 6 การเก็บเมล็ดพันธุเวอราโนสไตโล รูปที่ 7 การทําความสะอาดเมล็ดพันธุอยางงาย การปลกู และผลติ เมล็ดพันธถุ ั่วแกรมสไตโล ถั่วแกรมสไตโล เปน ถว่ั อายหุ ลายป ลกั ษณะการเจรญิ เตบิ โตของลาํ ตน เปน แบบตง้ั ตรง หรือกึ่ง ต้ังตรง มีระบบรากแกว ทแ่ี ขง็ แรงมากการเรยี งตวั ของใบเปน ใบรวมทป่ี ระกอบดว ย 3 ใบยอ ย ลาํ ตน สงู กวา และ ใบกวางกวาถั่วเวอราโนสไตโล ใหผ ลผลติ สงู และออกดอกตดิ เมลด็ กอ นถ่ัวเวอราโนสไตโล เมล็ดมีสีน้ําตาลแกมเหลือง สามารถเจรญิ เตบิ โตไดใ นดนิ เกอื บทกุ ชนดิ รวมทง้ั ดนิ ทม่ี คี วามอดุ มสมบรู ณ ต่ํานอกจากนี้ยังทน ตอ สภาพดนิ ทเ่ี ปน กรด ทนทานตอ สภาพความแหง แลง ไดด ี ทนการแทะเล็ม สามารถปลกู ในทร่ี ม เงาได และ มคี ณุ คา ทางอาหารอยใู นเกณฑด ี

ถวั่ อาหารสัตวและการผลิตเมล็ดพันธุ 8 การปลูกถั่วแกรมสไตโลเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ การปลูกถั่วแกรมสไตโลเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ ควรปลกู ในชว งตน ฤดฝู น ประมาณเดอื นพฤษภาคม ไมเกิน เดือนกรกฎาคม เพอ่ื ใหถ ว่ั มกี ารเจรญิ เตบิ โตของระบบรากและลาํ ตน อยา งเตม็ ทก่ี อ นออกดอก ถาปลกู ชา ไป ถ่วั มชี ว งเจริญเตบิ โตสัน้ จะไดผ ลผลติ ตา่ํ การเตรียมพื้นที่ปลูก ใหไ ถสองครง้ั ถือไถครั้งแรกเพื่อกาํ จัดวัชพืชและไถอีกครั้งเพื่อยอยดินให ละเอียด ถาดนิ ยงั ไมเ รยี บตอ งพรวนหรอื คราดจนหนา ดนิ เรยี บ การเตรยี มเมลด็ พนั ธุ ทําการเรง ความงอกเหมอื นปลกู ถ่ัวเวอราโนสไตโล คอื แชเ มลด็ ในนา้ํ รอ น 80 องศาเซลเซยี ส นาน 5 นาที กรณที ม่ี เี มลด็ พนั ธนุ อ ย อาจใชก ระดาษทรายขดั เมลด็ โดยการเทเมลด็ ลงบนภาชนะ และใชก ระดาษทรายอยา งละเอยี ดขดั จนเปลอื กเมลด็ สดี าํ หลดุ ออก จะชวยใหเมล็ดพันธุ งอกเร็วขึ้น การปลกู ถว่ั แกรมสไตโลเพอ่ื ผลติ เมลด็ พนั ธุ ใชเ มลด็ พนั ธอุ ตั รา 1 กโิ ลกรมั ตอ ไร ทําไดทั้งหวาน และปลูกเปน แถวใหม ีระยะระหวา งแถว 75-100 เซนตเิ มตร หวานใหม ีระยะหา งมากกวา ปลูกเพอ่ื ใช เลย้ี งสตั ว การใสปุย ในแปลงผลติ เมลด็ พนั ธคุ วรใสป ยุ ฟอสฟอรสั อตั รา 10 กิโลกรัม P2 O5 ตอ ไรต อ ป สําหรับดินทม่ี คี วามอดุ มสมบรู ณต า่ํ เชน ดนิ ทรายในเขตภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ควรใสป ยุ โปแตสเซยี ม เพิ่มดวยทําการกําจัดวัชพืชหลังการปลูกถั่วแลว 1 เดอื น หลงั จากนน้ั เมอ่ื สงั เกตวา มวี ชั พชื หนาแนน ให ทาํ การกําจัดซาํ้ อกี การเกบ็ เกย่ี วและผลผลติ ถั่วแกรมสไตโล เร่ิมออกดอกในเดอื นสงิ หาคม เมลด็ จะสกุ แกแ ละรว งลงดนิ เกอื บหมดในเดอื น ธันวาคม ใหเริ่มทาํ การเก็บเกี่ยวโดยวิธีเดียวกันกับการเก็บเกี่ยวถั่วเวอราโนสไตโล จะไดผ ลผลติ เมลด็ พันธุโดยเฉลี่ย 200 กโิ ลกรมั ตอ ไร เมลด็ พนั ธถุ ว่ั แกรมสไตโลจะมคี ณุ ภาพ และมคี วามงอกสงู กวา ถว่ั เวอราโนสไตโล ปกติจะ มคี วามงอกประมาณ 80 เปอรเ ซน็ ต รูปที่ 8 ถว่ั แกรมสไตโล

ถวั่ อาหารสัตวและการผลิตเมล็ดพันธุ 9 ขอ สรปุ และขอ เสนอแนะ ถ่ัวอาหารสตั ว เปนอาหารหยาบหลักที่เปนแหลงโปรตีนสาํ คญั ของสตั วเ คย้ี วเออ้ื ง แบง ตาม ลักษณะ ทรงตน เปน 3 กลมุ คอื ประเภท เถาเลอ้ื ย (ถว่ั เซนโตร ถ่ัวเซอราโตร) ประเภททรงพุม (เวอรา โนสไตโล แกรมสไตโล) และประเภทยืนตน (กระถิน แคบาน แคฝรั่ง ไมยรา มะแฮะ) การปลูกถว่ั อาหารสตั ว อาจจะปลูกเดี่ยว ๆ โดยใชเ มลด็ พนั ธหุ วา น ถว่ั เวอราโนสไตโล และถั่ว แกรมสไตโล ใชเ มลด็ พนั ธุ 1-2กโิ ลกรมั ตอ ไร อกี วธิ หี นง่ึ ทส่ี ง เสรมิ คอื ปลูกผสมกันหญา เพื่อใชเปน แปลงพืชอาหารสัตว ทม่ี ผี ลผลติ และมคี ณุ คา ทางอาหารสงู ปจจุบัน เกษตรกรนยิ มปลกู ถ่ัวเวอราโนสไตโล และถั่วแกรมสไตโล เพอ่ื ผลติ เมลด็ เนอ่ื งจาก ปลูกงาย ติดเมล็ดพนั ธดุ ี เกบ็ เกย่ี วเมลด็ พนั ธงุ า ย เมลด็ พนั ธมุ คี วามงอกสงู สามารถปลกู เพอ่ื เกบ็ เมลด็ ไวใ ชเ องหรอื จาํ หนา ยเมลด็ พนั ธเุ ปน รายไดเ สรมิ สาํ หรบั ครอบครวั ในป พ.ศ. 2540 กองอาหารสตั ว กรมปศสุ ตั ว จะสนบั สนนุ ใหเ กษตรกรปลกู และผลติ เมลด็ พันธุถั่วเวอราโนสไตโล จาํ นวน 59,550 กิโลกรัม และจะรบั ซอ้ื เมลด็ พนั ธจุ ากเกษตรกรกโิ ลกรมั ละ 45 บาท นอกจากน้ันศนู ยว จิ ยั อาหารสตั วแ ละสถานอี าหารสตั วต า ง ๆ จะผลติ เมลด็ พนั ธถุ ว่ั อาหารสตั วช นดิ ตา ง ๆ เพอ่ื สนบั สนนุ เกษตรกร ไดแก ถั่วแกรมสไตโล ถว่ั เซนโตร ถั่วไมยรา โสน ปอเทอื ง กระถิน เปน ตน เอกสารประกอบ กองอาหารสตั ว. 2538. รานงานประจาํ ป 2538. กองอาหารสตั ว กรมปศสุ ตั ว กระทรวง เกษตรและ สหกรณ หนา 41-46. กองปศุสัตวสัมพันธ. ไมร ะบุ พ.ศ. คมู อื ความรเู กย่ี วกบั อาหารสตั วส าํ หรับเกษตรกร. โรงพิมพ ชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทยจาํ กัด กรุงเทพฯ. 79 หนา. กองอาหารสตั ว. 2538. ถั่วแกรมสไตโล. โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย จาํ กดั กรุงเทพฯ. 20 หนา. กองอาหารสตั ว. 2538. ถั่วเวอราโนสไตโล. โรงพิมพชุมนุมสหกรณการเกษตรแหงประเทศไทย จาํ กดั กรุงเทพฯ. 42 หนา. ศูนยว จิ ยั อาหารสตั วข อนแกน . 2535. เอกสารแนะนําสําหรับเกษตรกร การปลูกและการจัด การแปลงหญา เลย้ี งสตั ว ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. หจก.ขอนแกน การพมิ พ ขอนแกน . 30 หนา.