การแพทกยอแ์งคผมุ้นคไทรองและส
ทยและแสพง่ ทเสยรพ์ มิ นื้ภบมู า้ปิ นัญไทญยา
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาชดุ ต�ำ ราภูมิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบับอนรุ ักษ)์ ตำ�ราธาตุวนิ ิจฉยั กองคมุ้ ครองและสง่ เสรมิ ภมู ิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทย์พื้นบา้ นไทย กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ ISBN : 978-616-11-4053-3
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาชุดตำ�ราภมู ิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบับอนรุ กั ษ)์ ตำ�ราธาตวุ นิ จิ ฉัย ISBN : 978-616-11-4053-3 ท่ปี รกึ ษา : นายแพทย์มรุต จริ เศรษฐสริ ิ อธบิ ดกี รมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก นายแพทยป์ ราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก นายแพทยส์ รรพงศ์ ฤทธริ ักษา รองอธบิ ดกี รมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คณะอนกุ รรมการคุ้มครองต�ำ รบั ยาและตำ�ราการแพทย์แผนไทย ผถู้ า่ ยถอด : นายกัมพล มะลาพมิ พ์ ผู้รวบรวมและเรียบเรียง: ดร.นันทศกั ดิ์ โชตชิ นะเดชาวงศ์ และคณะฯ กองค้มุ ครองและส่งเสรมิ ภมู ปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทย์พน้ื บา้ นไทย พิมพค์ รงั้ ท่ี ๑ กนั ยายน ๒๕๖๒ จ�ำ นวน ๑,๐๐๐ เล่ม จดั พิมพ์โดย : กองคุม้ ครองและสง่ เสรมิ ภูมปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ น้ื บ้านไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก สนบั สนนุ การพมิ พ์โดย : กองทุนภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย พิมพท์ ่ี บรษิ ัท สามเจริญพาณิชย์ (กรุงเทพ) จ�ำ กดั หา้ มจ�ำ หนา่ ย (2) ชดุ ตำ�ราภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบบั อนรุ กั ษ)์ ตำ�ราธาตวุ นิ ิจฉัย
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาคำ�นำ� พ ระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๕ กำ�หนดให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมีหน้าท่ี รวบรวมข้อมูลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเก่ียวกับตำ�รับยาแผนไทยและตำ�ราการแพทย์แผนไทย ท่ัวราชอาณาจักร เพ่ือจัดทำ�ทะเบียนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเกี่ยวกับตำ�รับยาแผนไทยและ ตำ�ราการแพทยแ์ ผนไทยใช้ประโยชน์ในการอ้างองิ ทางวชิ าการ ศกึ ษา วิจยั พัฒนา และมาตรา ๑๗ ก�ำ หนดใหร้ ฐั มนตรมี อี �ำ นาจประกาศก�ำ หนดต�ำ รบั ยาแผนไทยหรอื ต�ำ ราการแพทยแ์ ผนไทยทม่ี ปี ระโยชน์ หรือมีคุณค่าในทางการแพทย์หรือการสาธารณสุขเป็นพิเศษ ให้เป็นตำ�รับยาแผนไทยของชาติหรือ ตำ�ราการแพทย์แผนไทยของชาติแล้วแต่กรณี ตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ประกาศกำ�หนดตำ�รับยาแผนไทยของชาติ และต�ำ รายาแผนไทยของชาติ ๒๓ ฉบบั ต�ำ ราการแพทย์แผนไทย ๔๑๒ รายการ แผ่นศลิ า ๔๖๓ แผน่ ตำ�รับยาแผนไทย ๓๒,๗๕๘ ต�ำ รับ คัมภีร์ธาตุวินิจฉัย ประกาศกําหนดให้เป็นตำ�รับยาแผนไทยของชาติหรือตำ�ราการแพทย์ แผนไทยของชาติ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การประกาศกำ�หนดตํารับยาแผนไทย ของชาติและตําราการแพทย์ของชาติ (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๐ ง วันท่ี ๒๒ มกราคม ๒๕๖๒ ปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของ สำ�นักหอสมุดแห่งชาติท่ีเป็นแหล่งกลางในการเก็บรวบรวมเอกสารชั้นต้น ซึ่งบันทึกเป็นรูปแบบ ไฟล์ดิจิทัลอยู่ในหมวดเวชศาสตร์ มี ๓ เรื่อง ได้แก่ คัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑ เลขท่ี ๑๑๓ ว่าด้วย ธาตุวินิจฉัย คัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๒ เลขที่ ๙๕ มีตำ�รับยา ๗๙ ตำ�รับ กล่าวถึงลักษณะกองโรค และคมั ภีรธ์ าตุวนิ ิจฉัย เลม่ ๓ เลขที่ ๙๙ กรมหมนื่ ไชยนาทรฯ ประทานเมือ่ วนั ท่ี ๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๔๕๗ กลา่ วถงึ ลกั ษณะกองโรควา่ ดว้ ยธาตทุ งั้ ๔ มตี �ำ รบั ยา ๑๐๓ ต�ำ รบั การจดั พมิ พค์ รง้ั นี้ เพอื่ เปน็ การอนรุ กั ษ์ ต้นฉบับอีกทางหน่ึง รวมท้ังมีการจัดระบบใหม่ให้อ่านเข้าใจง่าย สามารถนำ�มาเป็นตำ�รับยาสำ�หรับ ศกึ ษาคน้ ควา้ อกี ทง้ั เปน็ ฐานขอ้ มลู อา้ งองิ ในการคมุ้ ครองต�ำ รบั ยาแผนไทยและต�ำ ราการแพทยแ์ ผนไทย โดยประกาศกำ�หนดใหเ้ ปน็ ต�ำ รับยาแผนไทยของชาติหรือตำ�ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาติ กองคมุ้ ครองและส่งเสรมิ ภมู ิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทยพ์ นื้ บา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (3) กระทรวงสาธารณสขุ
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงได้จัดพิมพ์เป็นภูมิปัญญาการแพทย์ แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ นำ�ไปสู่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และวิชาการ คัมภีร์ธาตุวินิจฉัยนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ คุ้มครองและสืบทอดมรดกภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทย ใหค้ งอย่คู ู่ประเทศชาติ ตราบนานเทา่ นาน (นายแพทย์มรตุ จริ เศรษฐสริ ิ) อธบิ ดกี รมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข (4) ชุดตำ�ราภูมปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบบั อนรุ กั ษ)์ ต�ำ ราธาตุวนิ จิ ฉยั
สารบาญ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาค�ำ นำ� (๓) สารบาญ (5) บทน�ำ (7) คมั ภีรธ์ าตุวนิ ิจฉยั เล่ม ๑ เลขที่ ๑๑๓ ๑ คมั ภีร์ธาตุวนิ จิ ฉัย เล่ม ๒ เลขท่ี ๙๕ ๑๐๑ ๒๑๓ คัมภีรธ์ าตวุ ินจิ ฉยั เล่ม ๓ เลขที่ ๙๙ ๓๒๒ อภิธานศัพท์ ๓๓๔ บรรณานกุ รม กองคุม้ ครองและส่งเสริมภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พ้ืนบา้ นไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก (5) กระทรวงสาธารณสขุ
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา (๖) ชุดต�ำ ราภมู ปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบบั อนรุ กั ษ)์ ต�ำ ราธาตุวนิ ิจฉยั
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาบทน�ำ คั มภีร์ธาตุวินิจฉัย เป็นตำ�ราการแพทย์แผนไทยท่ีอยู่ในความครอบครองของ สำ�นักหอสมุดแห่งชาติ ที่เป็นแหล่งกลางในการเก็บรวบรวมเอกสารช้ันต้น ท่ีเป็นตำ�รายาต่าง ๆ ซึ่งบันทึกเป็นไมโครฟิล์มอยู่ในหมวดเวชศาสตร์ ปัจจุบันบันทึกเป็นรูปแบบ ไฟลด์ ิจทิ ลั อย่ใู นหมวดเวชศาสตร์ มี 3 เร่ือง ได้แก่ คมั ภรี ์ธาตุวินิจฉัย เล่ม ๑ เลขท่ี 113 วา่ ด้วย ธาตุวินิจฉยั คมั ภีร์ธาตวุ นิ ิจฉยั เลม่ 2 เลขที่ 95 มตี ำ�รบั ยา 79 ต�ำ รับ กลา่ วถงึ ลักษณะกองโรค และคัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เล่ม 3 เลขที่ 99 กรมหมื่นไชยนาทรฯ ประทานเม่ือวันท่ี 6 กุมภาพันธ์ 2458กล่าวถึงลักษณะกองโรคว่าด้วยธาตุทั้ง 4 มีตำ�รับยา 103 ตำ�รับ โดยมี นักศึกษาปริญญาโท นายกัมพล มะลาพิมพ์ ทำ�การถ่ายถอดปริวรรต เป็นวิทยานิพนธ์หลักสูตร ปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปกร ตำ�ราดังกล่าวประกาศกำ�หนดให้เป็น ตำ�รับยาแผนไทยของชาติหรือตำ�ราการแพทย์แผนไทยของชาติ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรอื่ ง การประกาศกาํ หนดตาํ ราการแพทยแ์ ผนไทยของชาตแิ ละตาํ รบั ยาแผนไทยของชาต ิ (ฉบบั ท่ี ๒๐) พ.ศ. ๒๕61 ลงประกาศราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๑๓6 ตอนพิเศษ 20 ง วนั ท่ี 2๒ มกราคม ๒๕62 ด้วยเหตผุ ลดังกล่าว กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก จึงไดจ้ ดั พิมพช์ ุดต�ำ รา ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ฉบับอนุรักษ์ คัมภีร์ธาตุวินิจฉัย เนื่องจากเป็นตำ�ราแพทย์แผนไทย ท่ีมีความสำ�คัญอย่างยิ่ง ด้วยพิจารณาเห็นว่าตำ�รายาของไทยที่ได้รวบรวมไว้ต้ังแต่สมัยโบราณ จนมาถึงปัจจุบัน แต่ยังไม่มีการเผยแพร่เท่าท่ีควรท้ังที่ภูมิปัญญาไทยด้านการแพทย์แผนไทยได้อยู่ คกู่ ันกบั คนไทยตลอดมา คัมภีร์ธาตุวินิจฉัยเป็นตำ�ราที่ถอดความจากต้นฉบับหนังสือสมุดไทยดำ� คัดและเขียน ด้วยลายมือ สมัยเก่า เนื้อหาในเล่มมีอายุ ๑๐๐ ปีขึ้นไป อักขรวิธี ภาษาท่ีใช้ สัญลักษณ์ที่ปรากฏ แตกตา่ งจากปจั จบุ ันพอสมควร ดงั นน้ั เพอ่ื เปน็ ความรพู้ ้นื ฐานด้านภาษาและอักษรศาสตร์ในตำ�รายา จงึ ขอกลา่ วถงึ สง่ิ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การถอดความต�ำ รายานี้ คอื ลกั ษณะสมดุ ไทย เอกสารใบลาน การบนั ทกึ ภาษาและอักขรวิธที ใ่ี ช้ ซึ่งรายละเอยี ดมดี งั นี้ กองคุ้มครองและส่งเสรมิ ภมู ิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ ้นื บา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก (7) กระทรวงสาธารณสขุ
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาลักษณะสมุดไทย การบนั ทกึ ภาษา และอักขรวธิ ีทีใ่ ช้ เน่ืองจากการเขียนหนังสือของคนไทยสมัยก่อนที่มิได้รับราชการในกรมอาลักษณ์ มักมี ลักษณะเฉพาะเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล และเป็นยุคสมัยท่ีคนไทยยังไม่มีการประกาศใช้ พจนานุกรมเพื่อกำ�หนดหลักเกณฑ์เป็นมาตรฐานให้สะกดคำ�ท่ีมีความหมายเดียวกันเหมือนกัน ท่ัวประเทศ ดังนั้นการผสมคำ�เพื่อการอ่านจึงเป็นไปอย่างอิสระ มีรูปแบบแตกต่างกันตามแต่สำ�นัก ท่ีเรียนแต่ละแห่งนิยม หากสำ�นักเรียนน้ัน อยู่ใกล้ความเจริญ เช่น พระราชวัง หรือวัดในกรุง การเขียนหนังสือก็จะมีแบบแผนที่ชัดเจนและถูกต้อง มากกว่า๑ ด้วยเหตุดังกล่าว การใช้รูปอักษร เขียนคำ� เพ่ือส่ือความหมายให้อ่านออกเสียงได้เข้าใจตามภาษาพูดที่ใช้กันในท้องถ่ินจึงมี ความสำ�คัญมาก ทำ�ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้รูปพยัญชนะ รูปสระสำ�หรับสะกดคำ�ได้หลากหลาย รูปแบบ แม้จะมีความหมายเช่นเดียวกันก็ตาม เช่น คำ�ว่า บรเพช บอรเพช บระเพช เป็นต้น เหน็ ไดช้ ดั เจนวา่ การเขยี นหนงั สอื ของคนไทยสมยั กอ่ นเขยี นตามเสยี งพดู เพอ่ื ใหส้ ามารถอา่ นออกเสยี ง และเขา้ ใจความหมายได้โดยไมใ่ หค้ วามส�ำ คัญกับวิธกี ารเขียน นอกจากนน้ั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาด�ำ รงราชานภุ าพ ยงั ไดอ้ ธบิ ายถงึ ลกั ษณะ การเขยี นข้อความลงในหนังสอื สมุดไทยว่ามี ๓ ลักษณะ๒ คือ ๑. ลักษณะการเขียนหนังสืออย่างอาลักษณ์ ได้แก่ หนังสือที่ผู้เขียนเป็นผู้มีความรู้ ฝึกหัด งานเขียนจากข้าราชการในกรมอาลักษณ์หรือจากผู้รู้หลัก ผู้รู้เหล่าน้ีจะมีความรู้ความสามารถ ในทางอกั ษรศาสตร์ จึงเขียนหนงั สอื ไดถ้ ูกต้อง สวยงาม เป็นระเบียบตามแบบฉบบั ๒. ลักษณะการเขียนอย่างหนังสือเสมียน ได้แก่ หนังสือที่ผู้เขียนหัดเขียนแต่หนังสือหวัด เพื่อการเขียนให้เร็วและข้อความไม่ตกหล่นเป็นหลัก ส่วนอักขรวิธีนั้นไม่ถือเป็นเร่ืองสำ�คัญ เน้นเฉพาะเพื่อการอา่ นเขา้ ใจในความหมายของขอ้ ความทต่ี อ้ งการสื่อสารเทา่ นนั้ ๓. ลักษณะการเขียนอย่างหนังสือหวัด ได้แก่ หนังสือท่ีเขียนให้มีลักษณะคล้าย ตัวบรรจง แต่ไม่กวดขันในทางอักษรศาสตร์ ไม่มีรูปแบบแห่งการเขียนอันเป็นแบบฉบับที่แน่นอน มีความประสงค์เพียงเพื่อให้สามารถอ่านได้รู้เรื่องเท่านั้น การเขียนเช่นนี้ จึงมีท้ังการเขียนตกหล่น และเพมิ่ เตมิ ข้อความตามความประสงคข์ องผู้เขียนเป็นสำ�คัญ ๑ กอ่ งแกว้ วรี ะประจกั ษ,์ “ลกั ษณะอกั ขรวธิ ตี น้ ฉบบั หนงั สอื กฎหมายตราสามดวง” , กฎหมายตราสามดวงฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน, กรงุ เทพ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2550, หน้า 27. ๒ “สาสน์ สมเด็จเลม่ 26”, กรุงเทพ : ครุ ุสภา, 2525, หนา้ 158 - 162 (8) ชดุ ตำ�ราภมู ปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบบั อนุรักษ์) ต�ำ ราธาตวุ ินิจฉยั
ตวั อย่างลายมอื เขยี นแบบอาลักษณ์ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา อกั ขรวิธที ปี่ รากฏในต�ำ รายา มบี างส่วนท่ีแปลกไปจากอกั ขรวธิ ปี จั จบุ นั บางส่วนเปน็ อักขรวิธี แบบโบราณค่อนข้างมาก บางสว่ นเป็นอกั ขรวธิ ีทพ่ี ัฒนามาตามยคุ สมยั ซึ่งสงั เกตไดด้ ังน้ี ๑. การสะกดค�ำ มลี ักษณะดังนี้ ๑.๑ ในต�ำ รายาแต่ละฉบับ การเขียนสะกดคำ�จะแตกต่างกนั บา้ งคอื ค�ำ ๆ เดยี วกนั ใน ฉบบั เดียวกันเขียนต่างกันหลายแบบ และแต่ละฉบบั เขียนไม่เหมอื นกัน พยัญชนะตน้ ไม่เหมอื นกนั เชน่ ขืน เขยี นเป็น ฃืน แข้ง เขียนเป็น แฃ้ง ธาต ุ เขยี นเป็น ทาตุ ข้าวสาร เขียนเป็น เฃ้าสาร หญา้ เขียนเปน็ ญา่ ใหญ ่ เขยี นเป็น ไญ่ สารภ ี เขียนเป็น ษารภี ฯลฯ กองคุ้มครองและส่งเสริมภมู ิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทย์พน้ื บา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก (9) กระทรวงสาธารณสุข
ค�ำ เดยี วกนั เขียนไมเ่ หมือนกนั เชน่ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา บคุ คล เขียนเป็น บทุ คล บคุ ล รดิ สีดวง เขยี นเปน็ ฤศดวง ศีรษะ เขียนเป็น ศศี ะ สะอึก เขยี นเป็น สอกึ ราศร ี เขียนเปน็ ราษีร พิษ เขียนเปน็ พิศม สรรพยา เขียนเป็น สัพยา จำ�เพาะ เขียนเป็น จำ�เภาะ พยาธ ิ เขยี นเป็น พยาทิ อายุ เขยี นเป็น อายศุ ม ยาดำ� เขยี นเปน็ อยาด�ำ ขัณฑศกร เขียนเปน็ ขนั ทษกอร มะขามป้อม เขยี นเปน็ มฃามปอม สมุฏฐาน ขยี นเป็น สมุถาน กระดกู เขียนเปน็ กดูก พษิ นาศน์ เขียนเป็น เพชนาด พิมเสน เขยี นเปน็ ภิมเสน ข้เี หล็ก เขียนเป็น ขีเ้ หลก ข้เี ลก บด เขียนเปน็ บท แข็ง เขียนเปน็ แขง ยา เขยี นเป็น อยา คลัง่ เขียนเป็น คล้ัง เนา่ เขยี นเป็น เน้า ชะโลม เขียนเปน็ โฉลม เลบ็ เขยี นเปน็ เลบ เทศ เขียนเป็น เทษ กนั เขียนเปน็ กรร หนา้ ผาก เขียนเปน็ นา่ ผาก (10) ชุดตำ�ราภมู ปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย (ฉบบั อนุรกั ษ์) ตำ�ราธาตุวินจิ ฉยั
ปวด เขยี นเป็น ปวต ใบ เขียนเป็น ไบ ปัสสาวะ เขยี นเปน็ ปสาวะ ท่าน เขียนเป็น ท่าร สนุ ัข เขียนเปน็ สุนกั ข์ สมอ เขยี นเปน็ ษหมอ สะค้าน เขยี นเปน็ สฆ้าน ฯลฯ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา ใชต้ วั สะกดไมต่ รงตามรปู ปจั จบุ นั เช่น โทษ เขยี นเปน็ โทศ โกรธ เขียนเปน็ โกรฏ พิษ เขยี นเป็น พศิ ม์ วันพฤหสั บดี เขียนเป็น วันพระหศั เมด็ เขียนเป็น เมต ก�ำ หนด เขียนเปน็ ก�ำ นฏ ประเภท เขยี นเปน็ ประเพท สรรพคุณ เขียนเปน็ สรัพคนุ พจิ ารณา เขยี นเป็น พิจรนา พจิ รรนา ใบหนาด เขยี นเปน็ ไบนาศ ฯลฯ กองค้มุ ครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทยพ์ ้ืนบา้ นไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก (11) กระทรวงสาธารณสุข
นิยมเขยี นตามเสียงพดู และสะกดตามแนวนยิ มในสมัยนน้ั เชน่ อายุ เขียนเปน็ อายศุ ม์ ขา้ วสาร เขียนเปน็ เข้าสาน ม ิ เขียนเปน็ หมิ ขดั มอน เขยี นเป็น คัดมอ้ น หยอด เขยี นเปน็ ยอด อญั ชนั เขียนเปน็ องั ชนั ตานหม่อน เขยี นเปน็ ตานมอน ห่งิ หอ้ ย เขยี นเปน็ หิงหอย ฯลฯ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา ๑.๒ รูปวรรณยุกต์ในตำ�รายา มีท้ังการใช้รูปวรรณยุกต์และไม่ใช้ รูปวรรณยุกต์ ผู้อ่าน ตอ้ งเติมเอาเองเวลาอ่านเปน็ ขนบการเขียนแบบโบราณ เช่น ไส้ เขียนเป็น ไสย เนา่ เขียนเป็น เหนา้ เหม็น เขียนเปน็ เหมน เกล็ด เขียนเป็น เกลด กระดอง เขยี นเปน็ กดอง ก้าง เขยี นเปน็ กาง ฯลฯ ๒. การใช้คำ�ในตำ�รายา จะนำ�คำ�ท่ีเป็นภาษาพูดในท้องถ่ินด้านคำ�และการออกเสียงคำ�มา เป็นภาษาเขียนในตำ�รายา เช่น ฝักเข้า เขยี นเป็น ฟกั ขา้ ว คัดเค้า เขียนเป็น ขดั ค้าว บดละลาย เขยี นเป็น บดลาย คลุ ีการ เขียนเปน็ คลู กี าน ฯลฯ (12) ชดุ ต�ำ ราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบบั อนุรกั ษ)์ ตำ�ราธาตวุ ินจิ ฉยั
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา ๓. การใช้เครื่องหมายและสัญลักษณ์ต่างๆ มีการใช้สัญลักษณ์ประกอบการเขียน อยู่หลายประเภทดงั นี้ ๓.๑ เครื่องหมายเริ่มต้นข้อความระหว่างข้อความและเคร่ืองหมายจบ ข้อความ เคร่ืองหมายเหล่านี้ ถือว่าเป็นเครื่องหมายท่ีพบอย่างสม่�ำเสมอในการเขียนในต�ำรายา และเอกสารโบราณ ไดแ้ ก่ ๏ เคร่ืองหมายฟองมัน หรือตาไก่ หรือก้นหอย เพราะบางคนเขียนเหมือนก้นหอย เป็นเครือ่ งหมายทใี่ ช้ในการเริ่มตน้ หรือเร่ิมต�ำรับยา จะเขยี นไวข้ ้างหนา้ เชน่ ๏ อาจารเิ ยน ฯ ๏ จกล่าวคุณแหง่ มะขามปอ้ มน้นั … ฯ, ๚, ๚ะ เคร่ืองหมายเปยยาล เป็นเคร่ืองหมายที่มักพบต่อจากเคร่ืองหมายฟองมัน นน่ั คือ เมอื่ เรม่ิ เนือ้ ความ เช่น บอกชื่อโรค ชือ่ ยา ต�ำรับยาจบแลว้ จะใช้เครอื่ งหมาย ฯ ในกรณีทีย่ งั มียา อกี ขนานหนงึ่ ทใ่ี ชร้ กั ษาโรคนน้ั ได ้ จะมขี อ้ ความตอ่ อกี และจบดว้ ยเครอ่ื งหมาย ๚ เครอื่ งหมายเปยยาล จึงเป็นเครอ่ื งหมายทีเ่ ร่ิมขอ้ ความ และจบขอ้ ความ ดงั ตัวอยา่ ง กองคมุ้ ครองและสง่ เสริมภมู ิปญั ญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พนื้ บา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก (13) กระทรวงสาธารณสุข
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา ๛ เคร่อื งหมายโคมูตร เปน็ เครื่องหมายท่ใี ช้ตอนจบขอ้ ความหรอื เรอื่ งใหญๆ่ ทเี่ นื้อความ ตอ่ จากน้นั เป็นเรื่องใหม่ เคร่ืองหมายโคมูตรมีหลายลกั ษณะคือ ๛ ๚๛ ๚ ะ๛ ๛ ใช้เขียนเด่ียวๆ หรือเขียนร่วมกับเครื่องหมายเปยยาล ดังตัวอย่าง (14) ชดุ ตำ�ราภมู ปิ ัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบบั อนรุ กั ษ์) ตำ�ราธาตวุ นิ จิ ฉัย
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา เคร่ืองหมายปีกกาหรือเคร่ืองหมายควง เป็นเครื่องหมายที่พบค่อนข้างมาก อกี เครื่องหมายหนง่ึ ในต�ำรายา ใชว้ างหลังขอ้ ความหรือค�ำ ซงึ่ เขียนไว้หลายบรรทัด เพ่ือใหอ้ ่านข้อความนัน้ ตอ่ เน่ืองกัน ดงั ตวั อย่าง กองคุ้มครองและสง่ เสรมิ ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พืน้ บา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (15) กระทรวงสาธารณสขุ
พระคัมภีรธ์ าตวุ นิ จิ ฉัยการแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา เลม่ ๑ ชดุ ตำ�ราภมู ปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย (ฉบบั อนรุ กั ษ์) ต�ำ ราธาตุวนิ จิ ฉัย
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาช่ือ พระคมั ภรี ธ์ าตุวินจิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวัติ สมบตั ิเดิมของหอสมดุ แห่งชาติ กองคุ้มครองและส่งเสรมิ ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พน้ื บ้านไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก 1 กระทรวงสาธารณสุข
ชอ่ื พระคมั ภีรธ์ าตวุ นิ จิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวตั ิ สมบัตเิ ดิมของหอสมดุ แหง่ ชาติ เอกสารตน้ ฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 1-2 2 ชุดต�ำ ราภมู ิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบบั อนรุ ักษ์) ต�ำ ราธาตุวนิ จิ ฉัย
ชื่อ พระคัมภีร์ธาตวุ ินิจฉยั เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบัติเดมิ ของหอสมุดแหง่ ชาติ ค�ำ ถ่ายถอด หน้าที่ 1-2 ๏ พรคมั ภีร์ธาตวุ นิ ิ+จไฉยผกู 1 กลา่ วมาในลกั ษณกองโรคยวา่ ดว้ ย การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา(ขันธบญั จกทั้ง 5 แลอายตณะ 6) (คตดิ �ำ เนินแหง่ พระจันทร) พระ (อาทิ) ตย (ธาตุอภิญญาณ) จ(ตุรธาตุสมา)สรรพ ธ(าตแุ ตก) ให้โทศ (ธาตุก�ำ เริบให้โทศ) (ธาตลุ ดถอย) (ธาตวุ )ิ นจิ ฉฺ (ย) สตถฺ ํ (โจ) ราเณหบิ (ก) …………….... (ก)ฺ ขามสิ ขุ ปิ ลุ ลฺ ํ วนทฺ ติ วฺ า รตตนตตฺ (ย)ํ ๚ อหํ ๚ อันวา่ ข้า วนฺทิตวฺ า ไหว้ (กราบ รตนตตฺ ) ยํ ซง่ึ พรรตั ณไตรย ปวกขฺ ามิ จักกล่าวบัดนี้ สตฺถํ ซึ่งพรคัมภีร์ (ธาตวุ นิ ิจฺฉัย) น้ัน ชื่อวา่ ธาตุวนิ จิ ไฉย สวุ ิปลลฺ ํ อันไพร+ย+บรู (ย์) เปนอนั ……………..แพทยทังหลาย คำ�อา่ น หนา้ ท่ี 1-2 ขันธ์บญั จกทั้ง 5 แลอายตน 6 ๏ พระค�ำ ภรี ธ์ าตวุ ินิจฉยั ผูก 1 คตดิ �ำ เนนิ แห่งพระจันทรพ์ ระอาทิตย์ กล่าวมาในลกั ษณะกองโรคดว้ ย ธาตอุ ภิญญาณ จตุธาตสุ มาสรรพ ธาตุแตกให้โทษ ธาตกุ ำ�เริบให้โทษ ธาตลุ ดถอย ธาตุวินจิ ฉฺ ย......สตถฺ ํ โจราเณหบิ ก..........กฺขามิสุขปิ ลุ ฺลํ วนทฺ ิตฺวา รตตนตฺตยํ ๚ อหํ ๚ อันว่าข้า วนทฺ ิตวฺ า ไหว้กราบ รตั นตตยัง ซงึ่ พระรตั นตรัย ปวกฺขามิ จกั กลา่ วบัดนี้ สตถฺ ํ ซง่ึ พระคมั ภีร์ ธาตวุ นิ จิ ฉัยนนั้ ชือ่ วา่ ธาตวุ นิ ิจฉัย สุวปิ ลลํ อนั ไพบูลย์ เปน็ อนั ............. แพทยท์ ง้ั หลาย กองคุ้มครองและสง่ เสริมภมู ิปญั ญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ ืน้ บา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 3 กระทรวงสาธารณสขุ
ชอ่ื พระคัมภรี ธ์ าตวุ นิ จิ ฉัย เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบัติเดิมของหอสมดุ แห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 3-4 4 ชุดต�ำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบบั อนุรักษ)์ ตำ�ราธาตุวินิจฉยั
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาชอื่ พระคัมภีร์ธาตวุ นิ จิ ฉัย เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวัติ สมบตั ิเดิมของหอสมุดแห่งชาติ ค�ำ ถา่ ยถอด หน้าที่ 3-4 ผเู้ ปนอาจาริยในก่อน (ตตฺ )………………………อายตนํ อตุ ุ วถิ สึ ุริยสสฺ เวลโํ รคนกา...............วชฺชกมมฺ ิกา วชฺชกมมฺ ิกา อนนว่าบคุ ลท้งงหลายอนนปราถ.......ม สิกเฺ บยยฺ ํ พึงสึกษาให้ รจู้ กั ขนฺธธาตุอายตนํ ซงึ่ ขันธ์ (บัญจก) แลธาตุทง้ ง 4 แลอาตณะ 6 กด็ ี อุตํ ซงึ่ ระดู กด็ ี วิถึ ซึ่ง วถิ ี ก็ดี สุริ (ยํ) ของพรอาทิตย (ก็ด)ี เวลํ ซ่งึ เวลา กด็ +ี กปุ ฺปติ อนน เปนเพลากำ�เริบ โร(คาน)ิ (ซ่งึ โร) คยท้งงหลาย ๚ อธิบายวา่ ถา้ บุกคลผู้ใดจะเรยีนเปนแพทย (พงึ สกึ ษา) ใหร้ ้จู กั ในลักษณเบญ+จ+ขนนธ์ (แลเบญจขันธ์) ทงั้ 5 น้ัน คอื รูป + กขนนธ์ 1 คือ (เวทนาขันธ์ 1) คือสยา+กขนนธ์ 1 ค�ำ อ่าน หนา้ ท่ี 3-4 ผเู้ ป็นอาจารย์ในกอ่ นตตฺ ……................อายตนํ อุตํ วิถสึ รุ ิยสสฺ เวลํโรคนกา...............วชชฺ กมฺมิกา วชชฺ กมฺมิกา อันว่าบุคคลทงั้ หลายอันปรารถนา............ม สิกเฺ บยยฺ ํ พึงศึกษาให้ รู้จกั ขนธฺ ธาตอุ ายตนํ ซง่ึ ขนั ธบ์ ญั จกแลธาตุทั้ง 4 แลอาตนะ 6 กด็ ี อุตํ ซง่ึ ฤดูก็ดี ซงึ่ วิถีกด็ ี สรุ ยิ ํ ของพระอาทิตย์ ก็ดี เวลํซ่ึง เวลา กด็ ี กปุ ปฺ ติ อนั เป็นเพลาก�ำ เริบ โรคย ซึง่ โรคทัง้ หลาย ๚ อธิบายวา่ ถ้าบุคคลผใู้ ดจะเรียนเป็นแพทย์พึงศกึ ษาใหร้ จู้ กั ในลักษณะเบญจขนั ธ์ แลเบญจขนั ธท์ ้ัง 5 น้ัน รปู กขันธ์ 1 คอื เวทนาขนั ธ์ 1 คือสัญญากขนั ธ์ 1 กองคุ้มครองและสง่ เสรมิ ภมู ิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ ้ืนบา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก 5 กระทรวงสาธารณสขุ
ชอ่ื พระคัมภรี ธ์ าตวุ นิ จิ ฉัย เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบัติเดิมของหอสมดุ แห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 5-6 6 ชุดต�ำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบบั อนุรักษ)์ ตำ�ราธาตุวินิจฉยั
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาช่อื พระคัมภรี ธ์ าตวุ ินิจฉัย เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวัติ สมบตั ิเดมิ ของหอสมดุ แห่งชาติ ค�ำ ถ่ายถอด หน้าที่ 5-6 คอื สงงขารกั ขนนธ์ 1 คือวญิ (ญาณขนั ธ์ 1) รูปขนนธน์ ัน้ ได้แก่ นิบผนั นะรปู 18 ประการ คอื มหาภู (รปู 4) ปสาทรูป 5 วใิ สยรปู 4 ภาวะรูป 2 หทัยรปู 1 ชวี ติ รปู 1 (อาหาร) รปู 1 เปนรูป 18 ประการ ดว้ นกนั ดงงน้ี จะแจกออกให้เขา้ (ใจพอ) สังเขปก็ครนั จะว่าให้วถิ าร กจ็ นเนนิ่ ความในพรค�ำ ภรี แ์ พทยา (นส้ี ่วนหน่ึง) อยู่ในพรคัมภีร์ปรมัตถ์ ปัถวี โนนแลว้ อนนว่ามหาภตู รูป 4 (นั้นได)้ แก่ธาตทุ งง 4 คอื เอต า โโช ป ธาตุนี ้ ได้ชอื่ วา่ มหาภูตรปู เพราะเหตวุ า่ (เปน) ใหญ่แลเปนทอี่ าไส+ยแห่ง รูปทงงปวง มีอุปมาดงั ถ�ำ้ อนั (มีอยูใ่ นภเู ขาเป็นท่ี) (อาใสย) แห่งสัตวท้งงปวง ๚ ค�ำ อ่าน หนา้ ท่ี 5-6 คอื สังขารกั ขนั ธ์ 1 คอื วิญญาณขันธ์ 1 รปู ขนั ธ์นน้ั ได้แก่ นิปผันนะรปู 18 ประการ คือมหาภตู รปู 4 ประสาทรูป 5 วสิ ัยรปู 4 ภาวรปู 2 หทัยรปู 1 ชีวติ รปู 1 อาหารรปู 1 เปน็ รปู 18 ประการ ด้วนกนั ดงั นี้ จะแจกออกให้เขา้ ใจพอสังเขปกค็ รนั จะว่าใหว้ ติ ถาร ก็จนเน่ินความ ในพระคมั ภรี แ์ พทยาน้ี สว่ นหนึง่ อย่ใู นพระคมั ภีร์ปรมตั ถ์ โนน้ แลว้ อันวา่ มหาภูตรปู 4 นัน้ ได้ แก่ธาตุท้ัง 4 ปถวธี าตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตนุ ้ี ไดช้ อ่ื วา่ มหาภูตรปู เพราะเหตวุ ่าเป็นใหญ่แลเปน็ ทอี่ าศัยแหง่ รปู ท้งั ปวง มีอปุ มาดงั ถ้ำ� อันมอี ยู่ในภเู ขาเปน็ ทอ่ี าศยั แหง่ สัตวท์ ั้งปวง ๚ กองค้มุ ครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทยพ์ ื้นบ้านไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก 7 กระทรวงสาธารณสุข
ชอ่ื พระคัมภรี ธ์ าตวุ นิ จิ ฉัย เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบัติเดิมของหอสมดุ แห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 7-8 8 ชุดต�ำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบบั อนุรักษ)์ ตำ�ราธาตุวินิจฉยั
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาชอ่ื พระคมั ภีร์ธาตวุ ินิจฉยั เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดมิ ของหอสมดุ แห่งชาติ ค�ำ ถ่ายถอด หนา้ ท่ี 7-8 ๚ อนนวา่ ประสาทรูป 5 นน้ั คือ (จกั ษปุ ระสาท 1) คอื โสตประสาท 1 คอื ฆานประสาท 1 คือชวิ หาประ (สาท 1 คือกาย) ประสาท 1 จกั ษปุ ระสาท นนน มสี ณั ฐานอนนน้อยเทา่ ศีศะเหา (ต้ังอยู่) ในถ้ำ� กลางแหง่ วงตาด�ำ เปนใหญ่ในท่ีจะให้เหนรูปสรรพส่ิง (ทงง) ปวง ถา้ แลจกั ษุประสาท (ฃาด) สูญกม็ ิ+เหน็ สิ่งใดเลย ๚ แลโสตประสาทนั้นมสี นั ฐานนอ้ ยเท่าขน ทรายจามจรุ ีเป็นวงกลมดจุ วง (แว่นต้ัง) อยู่ในชอ่ งหูทงั 2 เปน ใ+หญ่ทจ่ี ะใหไ้ ดย้ ิน ซ่ึงสรรส�ำ (เนยี งท้งั ) ปวง ถา้ แลโสตประสาท ฃาดสูญกม็ ิไดย้ นิ ซงึ่ (สิง่ ใดเลย) แลฆานประสาท ค�ำอ่าน หน้าที่ 7-8 ๚ อันว่าประสาทรูป 5 นนั้ คอื จักษุประสาท 1 คือโสตประสาท 1 คอื ฆานประสาท 1 คอื ชวิ หาประสาท 1 คือกายประสาท 1 จกั ษปุ ระสาท นัน้ มสี ณั ฐานอนั น้อยเทา่ ศีรษะเหาต้ังอยูใ่ นท่ามกลางแห่งวงตาด�ำ เปน็ ใหญ่ในท่จี ะให้เหน็ รูปสรรพสิ่งทงั้ ปวง ถ้าแลจักษุประสาทขาด สูญก็มเิ ห็นสง่ิ ใดเลย ๚ แลโสตประสาทน้ันมสี ัณฐานน้อยเท่าขน ทรายจามจรุ ีเป็นวงกลมดจุ แวน่ ต้งั อยใู่ นช่องหูทง้ั 2 เปน็ ใหญ่ท่ีจะใหไ้ ดย้ ินซ่ึงสรรพส�ำเนียงทง้ั ปวง ถา้ แลโสตประสาท ขาดสูญก็มิไดย้ ินซึง่ ส่งิ ใดเลยแลฆานประสาท กองคมุ้ ครองและส่งเสริมภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ ้ืนบ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 9 กระทรวงสาธารณสุข
ชอื่ พระคมั ภรี ์ธาตุวนิ ิจฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบัตเิ ดมิ ของหอสมุดแห่งชาติ เอกสารต้นฉบบั การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หน้าที่ 9-10 10 ชดุ ตำ�ราภูมปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบบั อนุรักษ)์ ตำ�ราธาตวุ ินิจฉยั
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาชื่อ พระคัมภีร์ธาตุวนิ จิ ฉัย เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวัติ สมบตั เิ ดมิ ของหอสมดุ แห่งชาติ ค�ำถ่ายถอด หนา้ ที่ 9-10 นนั้ มสี นั ฐานดงงเขาแพะ ตงั ง (อยถู่ ำ้� กลางจมกู ) เปนให+ญ่อยใู่ นท่ีจะให้ร้จู ักกลิน่ ทงงปวง ถ้าแลฆาณะประสาทฃาดสูญ (แลว้ กม็ ิได้รู)้ จักกกลิน่ หอมแลเหมนท้ง ปวง ๚ แลชิวหาประสาทน้นน (มีสัณฐาน) (ดังง) กลบี อบุ ล ต้งั อยใู่ นถำ้� กลาง ลิน้ เปนให+ญใ่ นท่จี ะให้รูจ้ กั รษทงงปวง (ถา้ แล) ชิวหาประสาทฃาดสญู แลว้ ก็+มไิ ดร้ ู้จักรศอาหารทงั งหลาย ๚ (แลกายประสาท) นัน้ ซมึ ทราบอยู่ทัวกรชกาย เปนไ+หญ่ในที+จะใหร้ ้จู ัก+ส่งิ อันเปนทเี นือ้ อ่อนแลกระดูก (อนั หยาบอัน) ละเอยดี นน้ น ก็อาใส+ยแก่กายประสาทนน้ น ถา้ แลกายประสาท (พริ ธุ ฃาดสูญไป) ใหก้ ายเปนเหนบ ชาไปยมไิ ด้รซู้ ง่ึ ส่งิ ทงงปวง อนนเปน...................นัน้ เฃา้ กรรจึ่งเปน ค�ำอ่าน หนา้ ท่ี 9-10 น้นั มีสญั ฐานดงั เขาแพะ ต้งั อย่ทู ่ามกลางจมูกเป็นใหญอ่ ยู่ในทีจ่ ะใหร้ จู้ ักกล่นิ ท้งั ปวง ถา้ แลฆานประสาทขาดสญู แล้วกม็ ิไดร้ จู้ ักกลิน่ หอมแลเหม็นท้ัง ปวง ๚ แลชิวหาประสาทนัน้ มสี ัญฐานดังกลบี อุบลตัง้ อยู่ในท่ามกลาง ลิน้ เปน็ ใหญใ่ นที่จะให้รจู้ ักรสทั้งปวง ถ้าแลชิวหาประสาทขาดสูญแล้ว กม็ ไิ ด้รู้จกั รสอาหารท้งั หลาย ๚ แลกายประสาทนั้นซึมซาบท่ัวสรรพกาย เปน็ ใหญใ่ นท่จี ะให้ร้จู กั สง่ิ จบั เปน็ ท่เี น้อื อ่อนแลกระดูกอันหยาบอันละเอยี ดนั้น กอ็ าศยั แก่ กาย-ประสาทน้ัน ถา้ แลกายประสาทพริ ุธขาดสญู ไปใหก้ ายเปน็ เหนบ็ ชาไป มไิ ด้รู้ซึง่ ส่งิ ทง้ั ปวง อนั เปน็ .................น้นั เขา้ กันจงึ เป็น กองค้มุ ครองและส่งเสริมภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทย์พืน้ บา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก 11 กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคมั ภรี ธ์ าตุวนิ จิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดมิ ของหอสมุดแห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 11-12 12 ชดุ ต�ำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวนิ ิจฉยั
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาชอ่ื พระคัมภีรธ์ าตุวนิ ิจฉัย เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมดุ แห่งชาติ ค�ำถา่ ยถอด หน้าท่ี 11-12 ประสาทรูป 5 ดจุ กลา่ วมาดงงนแ้ี ล (วสิ ัยรปู 4) ไดแ้ ก่อารมณ์ทงั 4 คอื รูปารมณ์ คอื สทั ทารมณ์ 1 คือ (คนั ธารมธ์ 1) คอื ระสารมณ์ 1 แลภาวรูป 2 นน้ น คอื อติ ถภี าวรปู (1 คือปุรสิ ) ภาวรปู 1 แลว้ หทยรปู 1 นน้ น ไดแ้ ก่ดวงกมลหฤไท+ยแลชีวติ (รปู 1) น้นน ไดแ้ กช่ ีวติ รอันกระท�ำ ให้รปู ทง้ งปวงสดชน่ื ผอิ ปุ ะมาดจุ (น�้ำเลย้ี ง) ซง่ึ ชาติอบุ ล แลอาหาร รูป 1 นน้ น ได้แก่ฃองบริโภค (เปนตน้ ว่า) เฃา้ แลน�ำ้ ของบรโิ ภคน้ี ยอ่ มบ�ำรงุ ไว้ซึ่งก�ำลงั แลฉววี รรณ (เนอื้ หนังมงั ษ) แลโลหติ ในรูป กายในปจบุ ันน้ัน เหตฉุ น้ี (รปู กายทั้งหลายทีพ่ รรณนา) เฃา้ กรรซ่ึง ค�ำอา่ น หน้าที่ 11-12 ประสาทรูป 5 ดุจกลา่ วมาดังนีแ้ ลวสิ ัยรูป 4 ได้แกอ่ ารมณท์ งั้ 4 คอื รูปารมณ์ คือสัททารมณ์ 1 คือคันธารมณ์ 1 คือรสารมณ์ 1 แลภาวรูป 2 นน้ั คอื อติ ถภี าวรปู 1 คือปุริสภาวรปู 1 แล้วหทยั รปู 1 น้ัน ไดแ้ ก่ดวงกมลหฤทยั แลชวี ติ รูป 1 นัน้ ได้แกช่ วี ติ อันกระท�ำ ให้รปู ทัง้ ปวงสดช่ืน ผอิ ปุ มาดจุ น้�ำเล้ยี งซ่งึ ชาตอิ บุ ล แลอาหาร รูป 1 น้ัน ได้แกข่ องบริโภคเปน็ ตน้ ว่าข้าวแลน้�ำ ของบริโภคนี้ ย่อมบ�ำรุงไว้ซง่ึ ก�ำลงั แลฉวีวรรณ เน้อื หนังมงั สะ แลโลหติ ในรปู กายในปัจจุบันนั้น เหตฉุ ะนี้รปู กายทงั้ หลายที่พรรณนาเขา้ กันซึง่ กองคมุ้ ครองและสง่ เสรมิ ภมู ิปญั ญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ นื้ บา้ นไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 13 กระทรวงสาธารณสขุ
ชื่อ พระคมั ภรี ธ์ าตุวนิ จิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดมิ ของหอสมุดแห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 13-14 14 ชดุ ต�ำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวนิ ิจฉยั
ชอ่ื พระคัมภรี ธ์ าตวุ ินจิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวัติ สมบตั เิ ดิมของหอสมุดแหง่ ชาติ ค�ำถ่ายถอด การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หน้าที่ 13-14 เปนน+ิ บผันรปู 18 จัตเปน (รปู ธรรม) ๚ อนนว่าเวทนา + กขนั ธ์นัน้ ได้แกเ่ วทนาเจตสิก เวทนา (เจตสกิ เปน) ใหญใ่ นที่ให้เสวยอารมณ์ อนนสุกขแลทุกขแลอุเบกขา (เวทนาอนนบงั ) เกดิ ทว่ั ไปในจิตทังปวง เหตดุ ังนัน้ จึงจัดเปนเวทนาขันธ์ (อนน) ว่าสัญญา+กขนนธ์นน้ น ฃาว ไแดต้แเ่ อกก่สเัญทญศดาเงั จนต้ี สสกิญๆญนานี้ม้เีีลกักิดษ(ณทะง่ั ทเปงนง)ตจ้นิตวทา่ สงงง่ิ ปนว้ี ง เดแ หดำ�เ ลงห อื งต ุด ัง ให้รเู้ ปน นน้ นจึงจตั ได้ชอ่ื วา่ สญญา+กขนนธ์ อนนวา่ สังขารรกั ขนนธ์น้นั ได้แก่ เจตสิกทรร 50 ดวงอนน (เศษจากสญั ญาเวทนา) เดมิ ทนี นั้ จตั เปน ค�ำอ่าน หน้าท่ี 13-14 เปน็ นิปผันรูป 18 จัดเปน็ รปู ธรรม ๚ อันวา่ เวทนากขนั ธน์ ั้น ได้แก่เวทนาเจตสิก เวทนาเจตสกิ เปน็ ใหญใ่ นทใี่ ห้เสวยอารมณ์ อนั สขุ แลทุกข์แลอุเบกขา เวทนาอนั บังเกดิ ทวั่ ไปในจิตท้งั ปวง เหตุดงั นน้ั จึงจัดเปน็ เวทนาขันธอ์ ันว่าสัญญากขันธน์ ้ัน ไดแ้ กส่ ัญญาเจตสิก สัญญาเจตสิกนมี้ ลี กั ษณะเป็นต้นว่าสิง่ น้ีขาว เหลือง แดง ด�ำใหร้ เู้ ปน็ แตเ่ อกเทศดังนี้ สัญญานี้เกิดท่วั ท้ังจติ ทง้ั ปวง เหตุดงั น้นั จงึ จัดได้ชอ่ื ว่าสญั ญากขันธ์ อนั ว่าสังขารักขนั ธ์นน้ั ไดแ้ ก่ เจตสกิ ทงั้ 50 ดวงอันเศษจากสัญญาเวทนาเดมิ ทีนั้นจัดเป็น กองคมุ้ ครองและสง่ เสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ ื้นบ้านไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก 15 กระทรวงสาธารณสขุ
ชื่อ พระคมั ภีรธ์ าตวุ ินจิ ฉัย เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวัติ สมบัตเิ ดิมของหอสมดุ แห่งชาติ เอกสารต้นฉบบั การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ที่ 15-16 16 ชุดตำ�ราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวินิจฉัย
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาชอ่ื พระคมั ภีร์ธาตวุ ินิจฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดมิ ของหอสมดุ แห่งชาติ ค�ำถ่ายถอด หนา้ ท่ี 15-16 เจตสกิ 25 ยกเวทนาเจตสกิ (ไปเปนเวทนา) (ขนนธ์) ยกเจตสิกไปย เปนสญั ญากขนนธ์แลว้ ยงั 50 ดงงน้นั จัตเปนขนนธอ์ นั นห+นงึ่ ชื่อว่า เวทนา สงงขารกั ขนนธ์ แลขนนธท์ งง 3 น้นั คือ สส ญังงญข าา ร ัก ขนนธ์น้ี จตั เฃา้ กนั เปนนามธรรม ๚ อนนว่าเวทนากขนนธ์ ได้แกว่ ชิ ากจิต นัน้ เปนเจา้ พนักงานลงสปู่ ิตสิ นธิ (แล) วิชากจิตอนนเปนเจ้า พนกั งาน ให้ผลในปจบุ ันนี้แลได้ (ช่ือ) วา่ วญิ ญาณ วญิ ญา+ณน้แี ปลวา่ รู้ แต่บนั ดาจิตรทงงปวงนน้ น ยอ่ ม (มีลักษณะ) รู้ซง่ึ อารมณ์เหมอื นกนั ส้นิ เหตุดงงนีจ้ งึ จตั (ออกเปน)……………..เฃา้ กรรเปนเบญจ ค�ำอ่าน หนา้ ท่ี 15-16 เจตสิก 25 ยกเวทนาเจตสิกไปเปน็ เวทนาขนั ธ์ เสียยกสญั ญาเจตสิกไป เป็นสญั ญากขันธ์แลว้ ยัง 50 ดังน้ันจัดเปน็ ขนั ธอ์ นั หนงึ่ ชอื่ วา่ สงั ขารักขันธ์ แลขันธท์ ้ัง 3 นัน้ คอื เวทนาขันธ์ สัญญาขนั ธ์ สงั ขารกั ขนั ธ์ นี้ จดั เขา้ กันเป็นนามธรรม ๚ อันวา่ เวทนากขันธ์ ไดแ้ กว่ ิชากจิต นั้นเปน็ เจ้าพนกั งานลงสปู่ ฏิสนธิ แลวิชากจติ อันเปน็ เจ้า พนักงาน ให้ผลในปจั จุบันนีแ้ ลได้ช่ือวา่ วญิ ญาณ วญิ ญาณนแี้ ปลวา่ รู้ แต่บรรดาจิตท้ังปวงน้นั ยอ่ มมลี ักษณะรซู้ ่ึงอารมณเ์ หมอื นกัน ส้ินเหตุดังน้ีจึงจดั ออกเปน็ ...............เข้ากนั เปน็ เบญจ- กองคมุ้ ครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทยพ์ ้นื บา้ นไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 17 กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคมั ภรี ธ์ าตุวนิ จิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดมิ ของหอสมุดแห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 17-18 18 ชดุ ต�ำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวนิ ิจฉยั
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาชอ่ื พระคัมภรี ์ธาตุวินิจฉยั เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมดุ แห่งชาติ ค�ำถ่ายถอด หน้าที่ 17-18 ขนนธท์ ้งง 5 ดจุ กล่าวมานี้ ๚ (ล�ำดบั ตอ่ ไปว่าด้วย) อายตณะ 6 นน้ น คอื จักขวุ ายตณะ 1 โสตายตณะ 1 (ฆานายตณะ 1) ชวิ หาอายตณะ 1 กา+ยายตณะ 1 + มะนายตณะ 1 อนนวา่ จกั ขุวายตณะ ได้แก่จกั ษุทงง 2 ซา้ ย ขวา อนั ท่ปี รากฎแห่งรูปารมณ์ รูป(สร+รพสง่ิ ) ท้งั ปวงนนั้ ไห+ญแ่ ลนอ้ ยยาบและ (ละเอียด) ปรากฏน้นน กย็ ่อมปรากฏวา่ จักษุ จักษุน้ีมอี ุปมาดจุ เปนบ่อแห่งรูป เหตุดังนีจ้ ึ่งให้ ช่ือว่าจกั ขุวายตณะ ๚ อนนว่าโสดายตณะ น้นน ไดแ้ กก่ รร+ณทงงสองอนั เปนที่ (ปรากฏแห่ง) เสยี ง ฆานายตณะ ไดแ้ ก่ นาสกิ ชิวหาตณะ ไดแ้ ก่ลิน้ (กายายตณะ) ไดแ้ ก่กาย ฆนายตณะ ค�ำอ่าน หนา้ ท่ี 17-18 ขนั ธ์ทง้ั 5 ดจุ กลา่ วมานี้ ๚ ล�ำดบั ต่อไปวา่ ด้วยอายตนะ 6 นน้ั คอื จักขวุ ายตนะ 1 โสตายตนะ 1 ฆานายตนะ 1 ชวิ หาอายตนะ 1 กายายตนะ 1 มนายตนะ 1 อนั วา่ จักขุวายตนะ ได้แก่จกั ษทุ ั้ง 2 ซา้ ย ขวา อนั ท่ปี รากฏแหง่ รปู ารมณ์ รปู สรรพสง่ิ ทัง้ ปวงน้นั ใหญแ่ ลน้อยหยาบและ ละเอยี ดปรากฎนั้น กย็ ่อมปรากฏวา่ จักษุ จกั ษนุ มี้ ีอปุ มาดุจ เปน็ บ่อแหง่ รูป เหตุดังน้จี งึ ใหช้ อื่ วา่ จักขุวายตนะ ๚ อนั ว่าโสดายตนะ นั้น ได้แกก่ รรณทัง้ สองอนั เปน็ ทีป่ รากฎแหง่ เสยี ง ฆานายตนะ ไดแ้ ก่ นาสิก ชิวหายตนะได้แก่ ลิน้ กายายตนะไดแ้ กก่ าย ฆนายตนะ กองคมุ้ ครองและส่งเสรมิ ภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทย์พนื้ บ้านไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก 19 กระทรวงสาธารณสขุ
ชื่อ พระคมั ภีรธ์ าตวุ ินจิ ฉัย เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวัติ สมบัตเิ ดิมของหอสมดุ แห่งชาติ เอกสารต้นฉบบั การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ที่ 19-20 20 ชุดตำ�ราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวินิจฉัย
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาช่อื พระคมั ภรี ์ธาตวุ นิ จิ ฉัย เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบัติเดมิ ของหอสมุดแหง่ ชาติ ค�ำถ่ายถอด หน้าท่ี 19-20 ได้แก่ ดวงกมลหฤไทย ๚ อนนวา่ (หฤไทยนี)้ (เปรยี บหมือนบอ่ อนั เปนทีเ่ กิดแห่งธรรม) ทงั ปวงดวงกมลหฤไท+ยน้ี เปนที่ปรากฎแหง่ กลนิ่ แลรศแลวัตถอุ นั สมั ผศั แลเหตุผล นนั จพงึ่ รู้ดว้ ยจติ รเหตดุ งั นี้จงึ ได้ชอ่ื วา่ +อายตณ 6 ดจุ ดังกล่าว มานี้ ๚ ๏ กล่าวมาในเบญจั+กขขนนธ์ 5 แลอายตณะ 6 ก็ส้ินความแตเ่ พียง นี้ไดส้ ังเขป ๚ ๏ ในยหนึ่งพงึ ให้สอบไล่เรียงให้ร้จู ักลักษณะก�ำเนิด แหง่ หมโู รค+ยทงงหลาย มีตานทรางจอรเปนตน้ ต้ังแต่ปติสนธใิ นครร+พแห่ง 1 ม ารดาในวนน 32 วนนกด็ ี แลไดเ้ ดือน 1 เดือนขนึ้ ไปจน 10 เดือนก็ดี กพ็ งึ ใหแ้ พทยอภบิ าลรกั ษาตามไข้ (อนนเกดิ ตามโรค) (ในพรค�ำภีรพ์ ร+หมปุโรหิต) ค�ำอ่าน หนา้ ท่ี 19-20 ไดแ้ ก่ดวงกมลหฤทยั ๚ อนั ว่าดวงหฤทยั น้เี ปรยี บเหมอื นบอ่ อนั เปน็ ทีเ่ กดิ แห่งธรรมทั้ง ปวง ดวงกมลหฤทัยน้ี เปน็ ทป่ี รากฏแหง่ กลน่ิ แลรสแลวัตถอุ ันสัมผสั แลเหตุผล นัน้ จะพึง่ รูด้ ว้ ยจิตเหตุดงั นีจ้ งึ ได้ชอ่ื วา่ อายตนะ 6 ดุจดังกล่าว มานี้ ๚ ๏ กลา่ วมาในเบญจขันธ์ 5 แล อายตนะ 6 กส็ ้ินความแต่เพียง นไี้ ด้สงั เขป ๚ ๏ นยั หนึ่งพงึ ใหส้ อบไลเ่ รยี งใหร้ ู้จกั ลักษณะก�ำเนิด แห่งหมู่โรคท้งั หลาย มตี านซางจรเป็นตน้ ต้งั แต่ปฏิสนธิในครรภแ์ ห่ง มารดาในวัน 1 วัน ในวัน 2 วัน ในวัน 3 วนั กด็ ี แลไดเ้ ดือน 1 เดือนขนึ้ ไปจน 10 เดือนกด็ พี งึ ใหแ้ พทย์อภิบาลรกั ษาตามไข้อันเกดิ ตามโรคในพระคัมภีร์พรหมปุโรหติ กองคมุ้ ครองและสง่ เสรมิ ภูมปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและแพทย์พน้ื บา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก 21 กระทรวงสาธารณสขุ
ชื่อ พระคมั ภีรธ์ าตวุ ินจิ ฉัย เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวัติ สมบัตเิ ดิมของหอสมดุ แห่งชาติ เอกสารต้นฉบบั การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ที่ 21-22 22 ชุดตำ�ราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวินิจฉัย
ชอื่ พระคมั ภีร์ธาตวุ ินจิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั เิ ดิมของหอสมุดแหง่ ชาติ ค�ำถ่ายถอด การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หน้าท่ี 21-22 วนั แลค�ำภรี ์ศิทิสาร แลพรค�ำภรี .์ .............พรค�ำภีรน์ ีต้ าม คย านื ม ปี ใแนล ต ปเาด ีม อ นืป เี ด ใอื ดนแกล� ำเ น ปเ ดิดี อ แืน ห ่งเมพาลราดอาน(นซตง่ึ อกย(ู่)ฟใานกค)รนร้นพนแล๚ อ น ง่ึ พ วเรด นอ อน ืนา จ า อรนิเจน้าจจอแรจ ง วนน วนน ออกบอกกองธาตุทงั้ 4 ใหร้ จู้ กั ว่า (ตานทรางมีชือนน้ น) แลไข้อันน้นั ชือ่ นี้ บางคน เป ด ี อ ืน ยามปถวีธาตุบางคน ปเ ด ี อ ืน เปนอาโปธาตบุ างคน ปี เดอืน เปนเตโชธาตบุ วานงนคน เวปย ดนาี อมน ืน เปนวาโยธาตอุ ยวนนามนน วา่ ปยเว ดนา ี อม นนื เปน เอวปต าาถ โโโชว ยปี กม็ ลีวยนากั มนษณะ ต่างๆ กรรดังนี้ เหตุดงงนน้ นมหาภูตรปู จึงเปนกระทไู้ ข้มี ตานทรางเปนต้นในเมอื กุม (มารน)ี้ (เมือ่ เจรญิ ) ขน้ึ ไปทรางก�ำเนิดซง่ึ เกิด ค�ำอ่าน หนา้ ท่ี 21-22 แลคัมภรี ศ์ ทิ สิ ารแลพระคมั ภรี ์..............พระคัมภรี น์ ตี้ ามวนั ตามคืน ตามยาม แลตามปเี ดอื นก�ำเนินแหง่ มารดา ซ่ึงอยใู่ นครรภ์แลปี แลเดือน แลวนั อันจร ในปีใด ในเดอื นใด ในวนั ใด แลปี แลเดอื น แลวัน เพลาอันตกฟากน้ัน ๚ อน่ึงพระ- อาจารยเ์ จา้ จะแจงออกบอกกองธาตทุ ัง้ 4 ใหร้ วู้ า่ ตานซางมชี ่ือนน้ั แลไขน้ ั้น ช่ือน้ี บางคนปี บางคนเดือน บางคนวนั บางคนยาม เปน็ ปถวถี าตุ บางคนปี บางคนเดือนบางคนวนั บางคนยาม เป็นอาโปธาตุ บางคนปี บางคนเดือน บางคนวัน บางคนยามเปน็ เตโชธาตุ บางคนปี บางคนเดอื น บางคนวนั บางคนยาม เป็นวาโยธาตุ อันว่าปี อันว่าเดือน อันว่าวนั อันว่ายาม เปน็ ปถวี เป็นอาโป เปน็ เตโช เป็นวาโย กม็ ี ลักษณะต่างๆ กนั ดังน้ี เหตดุ ังน้ันมหาภตู รูป จงึ เป็นกระทไู้ ข้มี ตานซางเป็นตน้ ในเม่อื กมุ ารนเี้ มื่อเจรญิ ขนึ้ ไปซางก�ำเนินซ่ึงเกิด กองคุม้ ครองและส่งเสริมภูมปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ น้ื บา้ นไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก 23 กระทรวงสาธารณสุข
ชื่อ พระคมั ภีรธ์ าตวุ ินจิ ฉัย เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวัติ สมบัตเิ ดิมของหอสมดุ แห่งชาติ เอกสารต้นฉบบั การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ที่ 23-24 24 ชุดตำ�ราภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวินิจฉัย
ช่อื พระคมั ภีร์ธาตวุ นิ ิจฉัย เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดมิ ของหอสมดุ แห่งชาติ ค�ำถา่ ยถอด หน้าที่ 23-24 อยู่แต่ ใน น อย ก ครรพน้นน อนน (วา่ ถา้ ไมห่ าย) กจ็ กลายเปนโรค ฤศดวงเปนอาธิ อนงึ่ ออก ดแ ดำ� ง แลตาน(ทราง) ลากสาตสรรนิบาต แลหตั หติ เหือดฝมี เรงคชราช เรื้อนกลากเกล้ือนพยาทธิในทะวะตงึ ษาการ และ ฉนนนวฒุ โิ รค+ย 96 กลอ่ น 5 ประเมหะ 32 ก็ดี เกดิ แต่กองธาตุ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา บัญจกแลโรค+ยอนนเกิดเน่ืองมาแต่ บิดามารดานน้ น ๚ อนึ่งอนนว่า ลักษณะพร เคราะหเ์ ทวะดาท้ัง 8 พรองคก์ จ็ จอรประจ�ำ 12 ราษีน้นน กเ็ ปนที่สงงเกดแห่งธาตุทงง 4 2เป(นพร(ตอน้งค)์นคี้)อื เพปรน ป อเสถ าา ทวร ิต ีธ า ทตงุ คงอื 2พร(พรสพกุ)ุทรธอะ งคน์ ้ ี เปนเตโชธาตุ คอื พร หจ ันัศ ท ทง้ั ค�ำอ่าน หนา้ ท่ี 23-24 อยแู่ ตใ่ นครรภน์ ั้นอยูแ่ ต่นอกครรภน์ น้ั อันวา่ ไมห่ ายก็กลายเป็นโรค รดิ สดี วงเปน็ อาทิ อนึ่งออกด�ำ ออกแดง แลตานซาง รากสาด สนั นบิ าต แลหดั หดิ เหือด ฝีมะเร็งคชราช เร้ือน กลากเกลือ้ น พยาธใิ นทวตงิ สาการ และ ฉะนนั้ วฒุ ิโรค 96 กล่อน 5 ประเมหะ 32 กด็ ี เกิดแตก่ องธาตุ บัญจกแลโรคอนั เกิดเนื่องมาแต่บดิ ามารดานั้น ๚ อน่ึงอันว่า ลักษณะพระเคราะห์เทวดาทงั้ 8 พระองค์กจ็ ะจรประจ�ำ 12 ราศนี นั้ กเ็ ปน็ ทีส่ ังเกตแห่งธาตทุ ัง้ 4 เปน็ ต้น คอื พระอาทิตย์ พระเสาร์ ท้ัง 2 พระองคน์ ้เี ปน็ เตโชธาตุ คือพระจนั ทร์ พระพฤหัส ทั้ง 2 พระองคน์ เ้ี ปน็ ปถวธี าตุ คอื พระพุธ พระศกุ ร์ กองค้มุ ครองและสง่ เสริมภมู ิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พ้นื บ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก 25 กระทรวงสาธารณสขุ
ชื่อ พระคมั ภรี ธ์ าตุวนิ จิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดมิ ของหอสมุดแห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 25-26 26 ชดุ ต�ำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวนิ ิจฉยั
ชือ่ พระคัมภีร์ธาตวุ ินิจฉยั เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวัติ สมบัติเดิมของหอสมุดแห่งชาติ ค�ำถ่ายถอด การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ที่ 25-26 ทงง 2 พรองคน์ เี้ ปนอาโปธาตุ คือ (พร) รอ างั หค ูา ร ทงง 2 พรองค์นี้เปน วาโยธาตุ เหตุบาฬมี ใี นสมทุ ยจินทามังน้ี ๚ รวิโสรพิ ลํ เตโช จนฺทครุ ุ+พลํ ปถวี สกุ ฺพุทธฺ พลํ อาโป ภ.ู .......พลํ วาโย ๚ อนนน้ีบอก ธาตุพรเคราะห์ 8 พรองค์เปนทีจ่ ะไดส้ งั เกตแหง่ กองโรคยมที รางก�ำเนดิ (ทเกังงิดส)อแงกอ่ทงนาร้ีจกรออนยอูณยะู่ ร นใ นาอ ยศก ี เทสคม ิงนษ รู ร พรเาปษนีทตงั น้งด3งงนนช้ี ้ี ๚ือ่ วาอโนยง่ึ ธถา้าตพุ ถรา โเอรสาาคทริตไดบังเกดิ อนนวา่ ลกษณะโรคคยนน้ น เกดี แตก่ องลํมกลา้ นักมสี มูถานมารุตก�ำเรบิ ข้นึ เปนกองกอ่ นดงงน้ี อนนว่าธาตกุ �ำ (เนดิ ) (ท่ีกล่าว) วา่ มาดงงนี้ กอ็ าใสแห่ง ค�ำอ่าน หนา้ ที่ 25-26 ทั้ง 2 พระองคน์ ้ีเป็นอาโปธาตุ คือพระองั คารพระราหู ทงั้ 2 พระองคน์ ้เี ป็น วาโยธาตุ เหตุบาลมี ใี นสมทุ ยจินทามีดังน้ี ๚ รวโิ สริพลํ เตโช จนฺทครุ ุ+พลํ ปถวี สุกุพุทธพลํ อาโป ภู........พลํ วาโย ๚ อนั นบี้ อก ธาตพุ ระเคราะห์ 8 พระองคเ์ ปน็ ท่จี ะได้สงั เกตแห่งกองโรคมีซางก�ำเนดิ เกดิ แกท่ ารกอนั อยูใ่ นครรภ์อยูภ่ ายนอกครรภ์เปน็ ตน้ ดงั น้ี ๚ อนึ่งถ้าพระอาทิตย์ พระเสาร์ ทงั้ สององค์นจี้ ร อยู่ ณ ราศีเมษ ราศสี งิ ห์ ราศธี นู ราศีทัง้ 3 น้ีช่อื วาโยธาตุ ถา้ โรคใดบงั เกิดอันว่าลักษณะโรคนั้น เกดิ แต่กองลมกลา้ นักมีสมฏุ ฐานมารตุ ก�ำเริบ ข้ึนเปน็ กอ่ นดังนี้ อันว่าธาตุก�ำเนนิ ทีก่ ล่าวว่ามาดงั นกี้ อ็ าศยั แหง่ กองคมุ้ ครองและสง่ เสรมิ ภูมปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทยและแพทย์พ้นื บ้านไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก 27 กระทรวงสาธารณสขุ
ชื่อ พระคัมภรี ์ธาตุวนิ ิจฉัย เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวัติ สมบตั เิ ดิมของหอสมดุ แห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หน้าท่ี 27-28 28 ชุดตำ�ราภูมิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทย (ฉบับอนรุ ักษ)์ ตำ�ราธาตวุ นิ ิจฉัย
ชอ่ื พระคัมภรี ์ธาตวุ นิ จิ ฉัย เล่ม ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวัติ สมบตั เิ ดมิ ของหอสมดุ แห่งชาติ ค�ำถา่ ยถอด หน้าที่ 27-28 สมุถาณเปนทต่ี งง ๚ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา ๏ อน่ึงพึงให้แพทยร์ ูโ้ รคยตรองในกองธาตุทงั ง 4 แลพรสุริยเทวบตุ +รจร ตามจัก+รราษีทงั ง 12 ราษรี โดยนพภาไลยประเทศมรรคาทังง 3 ดุจดงง พรบาฬีอนนมใี นพรค�ำภรี ์จนนทสรุ ยิ คตทิ ปี นีว่าดงงน้ี ๚ ตสิ โฺ ส วถิ โี ย ๚ อนนวา่ วิถที างทดี่ �ำเนิน (แหง่ พรจันนทรแลพรสรุ ยิ ) นน้ นมี 3 วิถคี อื อัชวิถี 1 ค�ำอ่าน หนา้ ท่ี 27-28 สมุฏฐานเป็นทีต่ ั้ง ๚ ๏ อนึ่งพงึ ใหแ้ พทยร์ โู้ รคตรองในกองธาตุทั้ง 4 แลพระสรุ ยิ เทวบุตรจร จามจักราศที ้งั 12 ราศี โดยนพภาลัยประเทศมรรคาท้งั 3 ดุจดัง พระบาลอี นั มใี นพระคมั ภรี จ์ ันทรสุรยิ คติทปี นีวา่ ดังนี้ ๚ ติสฺโส วถิ ีโย ๚ อันวา่ วิถีทางทดี่ �ำเนนิ แห่งพระจนั ทรแ์ ลพระสุริยะนนั้ มี 3 วิถี คือ อัชวิถี 1 กองคมุ้ ครองและส่งเสริมภูมปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ ืน้ บา้ นไทย • กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก 29 กระทรวงสาธารณสขุ
ชื่อ พระคมั ภรี ธ์ าตุวนิ จิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดมิ ของหอสมุดแห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 29-30 30 ชดุ ต�ำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวนิ ิจฉยั
การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยาช่ือ พระคัมภีร์ธาตวุ นิ ิจฉัย เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขท่ี ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดิมของหอสมุดแหง่ ชาติ ค�ำถา่ ยถอด หนา้ ท่ี 29-30 คอื นาควถิ ี 1 คือโครวิถี 1 ตาม (พรค�ำภีร์ท้งั ) หลายต่างๆ มี พรค�ำภรี ส์ าระสงงคะหะเปนต้น จึงมกี ารเปรียบความวา่ ธรรมดา แพะมสี รรดานพานจเกลยี ดนำ้� ฝายก็มสี รรดานภานจภอใจเลน่ น้ำ� เยนกบั รอ้ นเปนทภ่ี อสรรดารปานกลาง เปนทส่ี บายแห่งโค เม่ือพร อาทิตยเสดจโ์ ดยวถิ อี นนใดอัศวลาหกเทวบุต+รทงงหลายกลัวเดช พรอาทติ ย บมอิ าจทจ่ี ออกจากทิพยพิมานแห่งตน มิได้ขวนขวายทจ่ี ะเทยีว เลน่ ในอากาษ ใหฝ้ นตกตามอ�ำเภอใจ (กาล) ใดกาลน้นนพรอาทิตย จรจาก+ที่ปรกติแล+้ วก็ไป ฝายพรจนนทร (กล็ ดลงไปตามกรร) เหตุพรจันทร ค�ำอา่ น หนา้ ที่ 29-30 คือนาควถิ ี 1 คือโควถิ ี 1 ตามพระคัมภรี ท์ ง้ั หลายต่าง ๆ มี พระคัมภรี ์สาระสังคหะเปน็ ตน้ จงึ มกี ารเปรียบความวา่ ธรรมดา แพะมสี รรดานพาลจะเกลียดนำ้� ฝ่ายก็มสี นั ดานพาลจะพอใจเล่นน�้ำ เย็นกบั ร้อนเป็นทพี่ อสนั ดานปานกลาง เป็นท่ีสบายแห่งโค เมอ่ื พระ- อาทติ ยเ์ สดจ็ โดยวถิ ีอันใดอัศวลาหกเทวบตุ รทง้ั หลายกลัวเดช พระอาทติ ย์ บม่ ิอาจทจ่ี ะออกจากทิพย์พิมานแหง่ ตน มไิ ดข้ วนขวายที่จะเทยี่ ว เล่นในอากาศ ใหฝ้ นตกตามอ�ำเภอใจกาลใด กาลนน้ั พระอาทติ ย์ จรจากที่ปกตแิ ลว้ กไ็ ป ฝ่ายพระจันทร์ก็ลดลงไปตามกัน เหตพุ ระจนั ทร์ กองคมุ้ ครองและส่งเสรมิ ภมู ิปัญญาการแพทย์แผนไทยและแพทยพ์ ้ืนบา้ นไทย • กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 31 กระทรวงสาธารณสขุ
ชื่อ พระคมั ภรี ธ์ าตุวนิ จิ ฉยั เลม่ ๑ หมวด เวชศาสตร์ เลขที่ ๑๑๓ ประวตั ิ สมบตั ิเดมิ ของหอสมุดแห่งชาติ เอกสารต้นฉบับ การแพทกย์องแคุ้ผมนไครทอยงแแลละะแส่พงเทสย์ริพื้มนูภ ้บมิาปันไญทญยา หนา้ ท่ี 31-32 32 ชดุ ต�ำ ราภมู ปิ ญั ญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับอนุรักษ)์ ต�ำ ราธาตุวนิ ิจฉยั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354