ข. นำ้� ตกชนดิ รางเท โดยทวั่ ไปมกั สรา้ งกบั คลองสง่ นำ้� ทม่ี ขี นาดใหญ่ หรอื คลองสง่ นำ้� ท่ีต้องลดระดับต�่ำลงไปมาก น�้ำตกประเภทนี้มักประกอบด้วยรางน�้ำที่สร้างให้มีความ ลาดเอียง เชื่อมระหว่างคลองส่งน�้ำที่อยู่ในแนวบนกับอ่างรับน�้ำที่อยู่ในแนวล่าง น�้ำในคลองส่งน�้ำจะไหลเข้าสู่รางน้�ำด้วยความเร็วสูง พุ่งลงมายังอ่างรับน�้ำ ก่อนไหล เขา้ คลองสง่ น�ำ้ ตอ่ ไป ค. น้�ำตกชนดิ ท่อ ส่วนมากนิยมสร้างแทนน�้ำตกชนดิ รางเท โดยมที ่อวางใหม้ ีความ ลาดเอียงแทนส่วนท่ีเป็นรางเท ตอนบนของท่อจะเช่ือมต่อกับส่วนหนึ่งของอาคาร เพื่อท่ีจะรับน�้ำเข้าท่อ และท่อตอนล่างจะเชื่อมต่อกับอ่างรับน�้ำและคลองส่งน้�ำ ตามลำ� ดบั ส่วนบรเิ วณหลงั ทอ่ จะถมดว้ ยดินถมบดอดั แน่นเปน็ คนั ดนิ ขวางคลองสง่ น�้ำ ส�ำหรับใชเ้ ปน็ ทางข้ามคลองสง่ น้�ำ อาคารน�้ำตกทุกชนิด ส่วนมากมักสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก และทุกแห่งมักท�ำ หน้าที่เป็นอาคารส�ำหรับทดน�้ำในคลองส่งน้�ำควบคู่กันไป โดยการติดต้ังบานประตู หรือจัดช่องเพ่ือใส่แผ่นไม้ส�ำหรับอัดน้�ำไว้ที่บริเวณช่องน้�ำผ่านหรือที่บริเวณปากทาง เขา้ ทอ่ นน้ั ๒.๕ รางเท เปน็ อาคารสำ� หรบั นำ� นำ�้ จากคลองสง่ นำ้� ท่ีอยู่ในแนวบนให้ลงมายังคลองส่งน้�ำท่ีอยู่ในแนวล่าง เหมือนกับน้�ำตก แต่แตกต่างกันที่รางเทจะมีน้�ำไหล มาตามรางหรือท่อซึ่งวางลาดเอียงไปตามสภาพของ ภูมิประเทศเป็นระยะทางไกลกว่าจะถึงอ่างรับน�้ำและ คลองสง่ นำ้� ท่ีอยแู่ นวลา่ ง รางเทมกั ประกอบดว้ ยสว่ นทเ่ี ปน็ รางนำ้� หรอื ทอ่ นำ� นำ้� ตอนบนของรางเทหรือท่อจะเช่ือมต่อกับส่วนหนึ่งของ อาคารเพอื่ รบั นำ้� เขา้ รางเทหรอื ทอ่ จากปลายคลองสง่ นำ้� ซง่ึ อยใู่ นแนวบนแลว้ เชอื่ มตอ่ กบั อา่ งรบั นำ้� และคลองสง่ นำ้� ที่อยู่ในแนวล่างตามล�ำดับ น้�ำที่ไหลลงมาตามรางเท รูปที่ ๔๙ รางเท หรอื ในทอ่ จะมคี วามเรว็ สงู โดยลกั ษณะการไหลของนำ้� จะเหมอื นกบั นำ�้ ทไี่ หลในสะพานนำ�้ และในคลองสง่ นำ�้ ดงั ทไ่ี ดก้ ลา่ วมาแลว้ อาคารรางเท สว่ นมากมักจะสรา้ งด้วยคอนกรตี เสริมเหล็ก 50 สาระน่ารู้เก่ียวกบั การชลประทาน
๒.๖ อาคารอัดนำ�้ การสง่ น้�ำออกจากคลองสง่ น้ำ� ไปยงั พ้ืนที่เพาะปลกู เปน็ ระยะๆ ตลอดแนวที่คลองส่งน้ำ� ผ่าน จะท�ำใหป้ รมิ าณน�้ำไหลในคลองเหลอื น้อยลง เป็นเหตใุ ห้ ระดับน�้ำในคลองส่งน้�ำต่�ำกว่าระดับท่ีก�ำหนดไว้ ซ่ึงอาจท�ำให้การส่งน�้ำไปยังพื้นท่ี เพาะปลูกไม่ได้ผลดีเท่าท่ีควร จึงจ�ำเป็นต้องมีการควบคุมระดับน�้ำในคลองส่งน้�ำให้สูง อยู่เสมอด้วยอาคารอดั น�้ำ เพ่อื ท�ำหนา้ ที่ทดอัดนำ้� ในคลองใหส้ งู เป็นชว่ งๆ ไป ซึ่งไม่วา่ นำ้� ในคลองจะมปี รมิ าณมากหรอื นอ้ ยยอ่ มตอ้ งถกู ทดอดั ใหม้ รี ะดบั สงู จนสามารถสง่ นำ�้ ได้ ในทุกเวลาที่ตอ้ งการ ดว้ ยเหตนุ ้ี อาคารอดั นำ้� ในคลองสง่ นำ้� จงึ มหี นา้ ทเ่ี หมอื นกบั อาคารทดนำ้� จากแหลง่ นำ้� ที่ตน้ น�ำ้ ของโครงการชลประทาน แตต่ ่างกนั ท่อี าคารอดั นำ�้ ในคลองมักมขี นาดเลก็ กว่า และมกั สร้างใหม้ ขี นาดท่ีสามารถระบายน้�ำปริมาณสูงสดุ ของคลองสง่ น�้ำได้เท่านนั้ อาคารอดั นำ�้ จะมขี นาดเลก็ หรือใหญ่ ขึ้นอยู่กบั ขนาดของคลองส่งน้�ำและปรมิ าณน�ำ้ สูงสดุ ของคลอง ส�ำหรบั คลองส่งน้�ำทีม่ ีขนาดใหญ่ อาจสร้างอาคารอัดน�ำ้ แบบเดียวกนั กับประตูปากคลองส่งน�้ำ โดยมีบานประตูท�ำหน้าที่ควบคุมปริมาณน�้ำให้ไหลผ่านมาก หรอื นอ้ ยได้ สว่ นคลองสง่ นำ�้ ทม่ี ขี นาดเลก็ อาจสรา้ งอาคารอดั นำ�้ เปน็ กำ� แพงตงั้ ตดิ กบั พนื้ วางขวางคลองสง่ นำ้� โดยบรเิ วณกำ� แพงอาจมชี อ่ งเปดิ ชอ่ งเดยี วหรอื หลายชอ่ งกไ็ ด้ แตต่ อ้ ง มีความลึกให้ถึงระดับพื้นด้านล่าง และต้องกว้างมากพอให้สามารถระบายปริมาณน�้ำ สงู สดุ ในคลองสง่ นำ�้ ใหผ้ า่ นไปไดอ้ ยา่ งสะดวก ซง่ึ แตล่ ะชอ่ งอาจทำ� รอ่ งสำ� หรบั วางแผน่ ไม้ เพอื่ กั้นน�ำ้ น�้ำทไ่ี หลมาในคลองจะถกู ทดอัดขึ้นจนสงู แล้วไหลขา้ มแผน่ ไมไ้ ป เหมอื นกับ น้�ำท่ีไหลข้ามสันฝายนน่ั เอง อาคารอดั น้ำ� ส่วนมากมักสร้างด้วยคอนกรตี เสรมิ เหล็ก นอกจากอาคารอัดน�้ำซึ่งสร้างขึ้นเพ่ือ ทำ� หนา้ ทที่ ดอดั นำ�้ โดยตรงแลว้ ยงั มอี าคาร ประเภทอื่นอีก ได้แก่ ท่อเช่ือมสะพาน น�้ำ น�้ำตก และรางเท ฯลฯ ซึ่งสามารถ ดัดแปลงไดโ้ ดยการติดตั้งบานประตู หรือ จดั ชอ่ งสำ� หรบั ใสแ่ ผน่ ไมท้ บ่ี รเิ วณดา้ นหนา้ ของอาคารเหลา่ นนั้ เพอ่ื ทดอดั นำ้� ในคลอง รูปที่ ๕๐ อาคารอดั นำ�้ ใหม้ รี ะดับสูงตามท่ตี ้องการ สาระนา่ รเู้ ก่ยี วกบั การชลประทาน 51
๒.๗ทอ่ ระบายนำ�้ ลอดใตค้ ลองสง่ นำ�้ ในกรณที คี่ ลองสง่ นำ้� ตดั ผา่ นรอ่ งนำ้� ขนาดเลก็ และบริเวณพื้นทีอ่ ืน่ เช่น ทล่ี มุ่ ซ่ึงมนี ้�ำไหลมาตามธรรมชาตินอ้ ย มักนยิ มสรา้ งอาคาร แบบทอ่ เพอื่ ระบายนำ้� ใหล้ อดใตท้ อ้ งคลองสง่ นำ�้ โดยไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งสรา้ งทอ่ เชอื่ มระหวา่ ง คลองส่งน้�ำลอดใต้ร่องน้�ำหรือลุ่มน้�ำ เนื่องจากมีราคาแพงกว่า การสร้างท่อระบายน�้ำ ลอดใตค้ ลองสง่ นำ�้ อาจสรา้ งเปน็ ทอ่ กลมหรอื ทอ่ สเี่ หลยี่ ม ซง่ึ เปน็ ทอ่ คอนกรตี เสรมิ เหลก็ วิธีการสง่ นำ�้ ในโครงการชลประทาน วิธกี ารสง่ นำ้� จากแหล่งน้ำ� ไปยังพนื้ ท่ีเพาะปลกู มี ๓ รูปแบบ ไดแ้ ก่ ๑. แบบตลอดเวลา (Continuous Flow Method) พื้นท่ีเพาะปลูกทุกแปลง จะได้รับน้�ำโดยสม่�ำเสมอตลอด ๒๔ ช่ัวโมงและตลอดฤดูกาลเพาะปลูก วิธีการน้ีจะมี ประสิทธิภาพก็ต่อเม่ือเป็นแปลงเพาะปลูกขนาดใหญ่ มีสระส�ำหรับเก็บน�้ำส�ำรองไว้ ในพน้ื ทีเ่ พาะปลกู นน้ั ๆ ๒. แบบตามความต้องการของผู้ใช้น�้ำ (Demand Method) ส่วนใหญ่ เป็นท่นี ยิ มใช้ในประเทศทร่ี ะบบการเกษตรไดร้ บั การพัฒนาโดยสมบูรณแ์ ลว้ เกษตรกร แต่ละรายมีพ้ืนท่ีเพาะปลูกมากและรู้จักวิธีการใช้น�้ำชลประทานอย่างประหยัด คุ้มค่า ตอ่ การลงทนุ โครงการชลประทานตอ้ งมนี ำ้� สนบั สนนุ ตลอดฤดกู าลเพาะปลกู อยา่ งเพยี งพอ โดยเกษตรกรจะแจ้งความต้องการน�้ำไว้ล่วงหน้า ซึ่งวิธีการน้ีจะมีประสิทธิภาพต่อเมื่อ มกี ารจดั เก็บอัตราคา่ น้�ำและมมี าตรการปอ้ งกันการขโมยน�ำ้ อย่างเป็นระบบ ๓. แบบหมุนเวียน (Rotation Method) เป็นการส่งน้�ำให้แก่พ้ืนที่เพาะปลูก ตามปริมาณและระยะเวลาท่ีก�ำหนดไว้ล่วงหน้า วิธีการนี้จะมีประสิทธิภาพก็ต่อเม่ือ เจา้ หนา้ ทโี่ ครงการและเกษตรกรมกี ารวางแผนการใชน้ ำ้� รว่ มกนั ทส่ี ำ� คญั เกษตรกรตอ้ ง รกั ษากตกิ าในการรบั น้�ำเพอื่ ความยุติธรรมและความทัว่ ถึงในทุกพนื้ ทีเ่ พาะปลูก 52
การระบายนำ้� การระบายนำ้� หมายถึง กิจการทจ่ี ัดท�ำขึน้ เพอื่ ระบายนำ้� ทมี่ ีมากเกนิ ความต้องการ ออกจากพ้ืนที่เพาะปลูกให้เหลือปริมาณท่ีพอเหมาะ เพื่อพืชท่ีเพาะปลูกจะได้เจริญ งอกงามและให้ผลผลติ สูง พน้ื ทใ่ี นภมู ภิ าคทมี่ ฝี นตกชกุ หรอื พนื้ ทใี่ นเขตโครงการชลประทานทไี่ มม่ รี ะบบระบายนำ้� มักประสบปัญหาเก่ียวกับการมีน�้ำมาก แล้วไม่สามารถระบายออกได้ทันตามเวลา ทต่ี อ้ งการ จนเปน็ เหตใุ หน้ ำ้� ฝนหรอื นำ้� ชลประทานซง่ึ ขงั อยบู่ นผวิ ดนิ หรอื ซมึ ลงไปใตด้ นิ เพ่ิมปรมิ าณสูงข้ึนจนท่วมเข้าไปในเขตรากพืชเกดิ ความเสียหาย งานระบายน�้ำมักก่อสร้างขึ้นเพ่ือท�ำหน้าที่ควบคุมน้�ำในบริเวณพ้ืนที่เพาะปลูก ท่ีมีปริมาณน้�ำมากเกินไปให้มีจ�ำนวนที่พอเหมาะกับความต้องการของพืช เช่น พ้ืนที่ เพาะปลกู ในเขตโครงการชลประทานสว่ นใหญม่ กั ตอ้ งการระบบระบายนำ้� ควบคไู่ ปกบั ระบบสง่ นำ�้ เนอื่ งจากพน้ื ทเี่ หลา่ นจี้ ำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บั นำ�้ ชลประทานเพม่ิ เตมิ นอกเหนอื จาก ปริมาณน�้ำฝนตามธรรมชาติ จึงมักมีน�้ำเหลือเกินความต้องการของพืชขังอยู่บนผิวดิน หรือซึมลงไปในดินจนท�ำให้ระดับน้�ำใต้ผิวดินสูงขึ้น หรือในพ้ืนที่บางแห่งซึ่งเป็นที่ลุ่ม ซ่ึงมีน�้ำขังอยู่ตามธรรมชาติตลอดเวลา เมื่อได้รับประโยชน์จากระบบระบายน�้ำแล้ว ส่งผลให้พื้นท่ีบริเวณดังกล่าวไม่มีน�้ำท่วมขัง ทั้งยังช่วยลดระดับน้�ำใต้ผิวดินให้อยู่ใน ระดับตำ�่ จนสามารถใช้พ้นื ท่แี ห่งนนั้ ทำ� การเพาะปลูกพืชตา่ งๆ นอกจากการระบายนำ้� จะยงั ประโยชนต์ อ่ การเพาะปลกู พชื โดยการควบคมุ ปรมิ าณ น้�ำไม่ให้มีมากเกินไปแล้ว ยังช่วยปรับปรุงพื้นท่ีซึ่งมีเกลือสะสมอยู่มากจนไม่สามารถ ปลูกพืชทั่วไปได้ให้มีสภาพดีข้ึน เช่น พ้ืนที่ชายทะเล และพ้ืนที่เพาะปลูกจ�ำนวนมาก ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน่ืองจากน�้ำท่ีระบายออกไปจากพ้ืนที่เพาะปลูกจะน�ำ เกลือท้ังบนผิวดินและในดินออกไปจากพ้ืนท่ีเพาะปลูกโดยอัตโนมัติ และการท่ีระบบ ระบายน้�ำสามารถควบคุมระดับน�้ำใต้ผิวดินให้อยู่ลึกลงไปจากผิวดินได้ตลอดเวลา ยังเป็นการป้องกันเกลือไมใ่ ห้ถกู น้�ำพาข้นึ มาสะสมอยู่ในเขตรากพชื ดว้ ย สาระนา่ รเู้ กีย่ วกบั การชลประทาน 53
54 สาระน่ารเู้ กี่ยวกบั การชลประทาน
ประโยชนข์ องการชลประทาน ในบรรดางานพัฒนาแหล่งน้�ำธรรมชาติเพ่ือน�ำน้�ำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในกิจการ ดา้ นต่างๆ น้ัน “การชลประทาน” นอกจากจะเปน็ งานทีม่ คี วามส�ำคญั และมปี ระโยชน์ ตอ่ การชว่ ยเหลอื เกษตรกรสามารถทำ� การเพาะปลกู ใหไ้ ดผ้ ลผลติ เพม่ิ ขนึ้ แลว้ ยงั ชว่ ยให้ เกษตรกรอันเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศได้มีหลักประกันในเร่ืองน�้ำส�ำหรับ ท�ำการเพาะปลูกอย่างไม่ขาดแคลนอีกด้วย ปัจจุบันมีพื้นท่ีเพาะปลูกจ�ำนวนมากท่ีต้องอาศัยน้�ำฝนและน�้ำจากแม่น�้ำล�ำธาร เพราะยังไม่มีงานด้านชลประทานเข้าไปช่วยเหลือ การเพาะปลูกท่ีอาศัยน้�ำธรรมชาติ แตเ่ พียงอย่างเดยี ว ทำ� ให้พชื ไมอ่ าจได้รับน้�ำอย่างสม่�ำเสมอตามทีต่ อ้ งการ เชน่ ในปใี ด ท่ีมีฝนตกโดยเฉล่ียดีตลอดฤดูกาลเพาะปลูก ปีน้ันอาจได้รับผลิตผลดี แต่หากปีใด ทีฝ่ นไม่ตกตอ้ งตามฤดกู าล ย่อมสง่ ผลกระทบตอ่ ปรมิ าณผลผลติ ท่จี ะได้รับ เปน็ เหตใุ ห้ เกษตรกรจ�ำนวนมากท่ีไม่มีพื้นท่ีเพาะปลูกอยู่ในเขตโครงการชลประทานได้รับความ เดือดร้อนเกอื บทุกปี ดังน้ัน เมื่อกล่าวถึงความส�ำคัญและประโยชน์ของการชลประทานในด้านการ เกษตรกรรม สามารถสรปุ ได้ ดังนี้ ๑. ช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้นพอเหมาะกับการเจริญเติบโตของพืชและต้นไม้ และชว่ ยให้แปลงนาได้รับนำ�้ เพียงพอสำ� หรบั การปลูกขา้ ว ๒. สามารถใหห้ ลกั ประกนั ไดเ้ ปน็ อยา่ งดวี า่ พชื ตา่ งๆ ทป่ี ลกู จะไมข่ าดนำ้� ตลอดฤดกู าล เพาะปลูก ๓. ชว่ ยใหพ้ น้ื ดนิ และบรรยากาศทว่ั บรเิ วณพน้ื ทเ่ี พาะปลกู เยน็ ขนึ้ ในภาวะทอี่ ากาศรอ้ น ๔. ชว่ ยใหด้ นิ มคี วามออ่ นนมุ่ สะดวกตอ่ การเตรยี มดนิ และชว่ ยใหร้ ากสามารถขยายตวั ได้ดีข้ึน ๕. ช่วยเพิ่มนำ้� ให้แก่พน้ื ทเี่ พาะปลูก เพือ่ การชะลา้ งหรือละลายเกลอื ออกไปจากดิน ๖. ช่วยให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชไดห้ ลายคร้ังตอ่ ปี สาระนา่ รเู้ กย่ี วกับการชลประทาน 55
บทที่ ๔ โรงไฟฟา้ พลังน้�ำขนาดเล็ก
การใช้น�ำ้ เพือ่ ผลิตพลงั งานในประเทศไทยไดด้ ำ� เนินการมาอยา่ งช้านาน โดยเฉพาะ อยา่ งยงิ่ โครงการไฟฟา้ พลงั นำ้� ขนาดใหญ่ แมว้ า่ ในปจั จบุ นั โครงการไฟฟา้ พลงั นำ�้ ขนาดใหญ่ ในประเทศไทยยังไม่ปรากฏขึ้น เนื่องจากยังไม่พบภูมิประเทศที่มีศักยภาพเหมาะสม ตอ่ การพฒั นา แตย่ งั มพี น้ื ทบ่ี างแหง่ ทมี่ คี วามเหมาะสมตอ่ การพฒั นาไฟฟา้ พลงั นำ้� อาทิ ไฟฟ้าพลังน�้ำระดับหมบู่ า้ นหรอื ชมุ ชน อา่ งเก็บน้ำ� เพอ่ื ชลประทานของกรมชลประทาน หรอื ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ทม่ี อี ยใู่ นพน้ื ทต่ี า่ งๆ ทว่ั ประเทศ นบั วา่ เปน็ สถานที่ ท่ีสามารถน�ำมาใช้ประโยชน์เพ่ือการผลิตไฟฟ้าได้นอกเหนือจากการใช้ประโยชน์จาก ดา้ นชลประทาน การประมงหรอื การเกษตร ซงึ่ จากการศกึ ษาพนื้ ทที่ มี่ ศี กั ยภาพของไฟฟา้ พลงั นำ�้ ขนาดเลก็ ทวั่ ประเทศพบวา่ มพี นื้ ทท่ี มี่ ศี กั ยภาพสามารถนำ� มาพฒั นาเปน็ โครงการ ไฟฟ้าพลังน้�ำขนาดเล็กได้ถึง ๒๕,๕๐๐ เมกะวัตต์ เป็นไฟฟ้าพลังน�้ำขนาดเล็กมาก หรือไฟฟ้าพลังน้�ำระดับหมู่บ้าน ๑,๐๐๐ เมกะวัตต์ และเป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้�ำ ท้ายอ่างเกบ็ น�ำ้ อกี ประมาณ ๑๑๕ เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานน้�ำขนาดเล็กเป็นการสร้างเข่ือนขนาดเล็กหรือฝายทดน�้ำก้ันล�ำน้�ำ ปิดก้ันแม่น้�ำไว้ เพื่อทดน้�ำให้มีระดับอยู่ในที่สูงจนมีปริมาณน้�ำและแรงดันเพียงพอ ที่จะน�ำมาหมุนเคร่ืองกังหันน�้ำและเคร่ืองก�ำเนิดไฟฟ้าซ่ึงอยู่ในโรงไฟฟ้าท้ายน้�ำที่มี ระดบั ต่�ำกว่า รปู ท่ี ๕๑ องคป์ ระกอบของโครงการไฟฟ้าพลังงานนำ�้ ขนาดเล็ก สาระนา่ รู้เกี่ยวกบั การชลประทาน 57
การผลติ ไฟฟา้ จากพลงั งานนำ�้ เปน็ วธิ กี ารผลติ กระแสไฟฟา้ ทม่ี ตี น้ ทนุ ถกู และสะอาด ซ่ึงขนั้ ตอนของการทำ� งานของโรงไฟฟ้าพลงั น้�ำ มีดังนี้ ๑. เก็บน�้ำไว้ในอ่างน้�ำ โดยการก่อสร้างเขื่อนเพ่ือให้ระดับน้�ำท่ีกักเก็บอยู่สูงกว่า โรงไฟฟ้า ระดบั น�้ำท่แี ตกต่างกันมากจะทำ� ใหน้ ้ำ� ทถ่ี กู ปล่อยลงมามแี รงดนั ที่สงู ๒. ปล่อยน้�ำลงมาตามท่อไปยังอาคารโรงไฟฟ้าท่ีอยู่ต่�ำกว่า โดยควบคุมปริมาณน�้ำ ให้ไดต้ ามตอ้ งการ ๓. นำ้� จะถกู สง่ เข้าเครือ่ งกงั หนั เพ่อื ไปผลกั ดนั ใบพดั ของกังหันน�ำ้ ท�ำใหก้ งั หนั หมนุ ดว้ ยความเรว็ สงู ๔. การหมุนเพลาของเครื่องกังหันท่ีต่อเข้ากับเพลาของเคร่ืองก�ำเนิดไฟฟ้า ท�ำให้ เครอื่ งกำ� เนดิ ไฟฟ้าหมุนตาม เกิดการเหนย่ี วน�ำในเคร่อื งกำ� เนิดไฟฟ้า ได้พลังงานไฟฟ้า ออกมาใช้ ประโยชนข์ องการผลติ ไฟฟ้าพลังน�้ำขนาดเลก็ มดี ังน้ี ๑. ประชาชนในพนื้ ที่หา่ งไกลมีไฟฟา้ ใช้อยา่ งทั่วถึง ๒. แกป้ ญั หาไฟฟา้ ตก ไฟฟา้ ดับในพื้นท่ีปลายสายสง่ ๓. ชว่ ยลดการลงทนุ โครงการก่อสรา้ งโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ๔. ช่วยลดการสูญเสียในระบบส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าคไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ๕. เป็นแหล่งน�้ำหล่อเล้ียงชุมชน ท้ังเพ่ือการอุปโภคบริโภค การเกษตร และ อตุ สาหกรรม ๖. เปน็ แหลง่ ขยายพนั ธแ์ุ ละทอ่ี ยอู่ าศยั ของสตั วแ์ ละพืชนำ�้ ๗. ช่วยป้องกันน้�ำท่วมและลดการ เกิดไฟปา่ ๘. สร้างรายได้จากการจ�ำหน่ายไฟฟ้า ใหแ้ กช่ ุมชน รปู ท่ี ๕๒ หลกั การการผลติ กระแสไฟฟ้าพลังงานนำ้� 58 สาระนา่ ร้เู ก่ยี วกับการชลประทาน
ขอ้ ดแี ละขอ้ จำ� กดั ของการผลติ ไฟฟา้ จากพลงั นำ้� ขอ้ ดี ๑. การใช้น�้ำธรรมชาติเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า ท�ำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ เช้ือเพลงิ ตลอดอายโุ ครงการ นอกจากใช้เงนิ ค่าลงทนุ การกอ่ สรา้ งในคร้ังแรกเท่าน้นั ๒. ชว่ ยลดปรมิ าณกา๊ ชคารบ์ อนไดออกไซดท์ เ่ี กดิ จากการผลติ ไฟฟา้ ดว้ ยพลงั ความรอ้ น ทเี่ กดิ จากเชอ้ื เพลงิ ฟอสซลิ ๓. โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้�ำขนาดใหญ่มีขีดความสามารถสูงในการรักษาความ ม่ันคงให้แก่ระบบไฟฟา้ ของประเทศ เนือ่ งจากโรงไฟฟา้ พลังนำ�้ สามารถเดนิ เครือ่ งและ เร่มิ จ่ายไฟฟา้ ไดภ้ ายในเวลาเพยี ง ๔–๕ นาทเี ทา่ นน้ั ขณะทโ่ี รงไฟฟา้ ทั่วไปต้องใช้เวลา เดนิ เครอ่ื งเพอ่ื เรม่ิ จา่ ยไฟฟา้ นานกวา่ ๒๔ ชวั่ โมง การไฟฟา้ ฝา่ ยผลติ จงึ เดนิ เครอ่ื งโรงไฟฟา้ พลงั นำ�้ สำ� หรบั รองรบั ชว่ งเวลาทม่ี คี วามตอ้ งการใชก้ ระแสไฟฟา้ สงู สดุ (Peak) ในแตล่ ะวนั และใชเ้ ปน็ ก�ำลังผลิตสำ� รองไวร้ องรบั เหตกุ ารณต์ า่ งๆ เชน่ สายไฟฟ้าขาด เป็นตน้ ข้อจำ� กดั ๑. เหตุท่ีการผลิตไฟฟ้าไม่สามารถเดินเคร่ืองได้ตลอดเวลา เน่ืองจากต้องค�ำนึงถึง ปริมาณน้�ำในเข่ือน การผลิตไฟฟ้าพลังน�้ำจึงสามารถด�ำเนินการได้เฉพาะช่วงเวลา ท่มี ีการปลอ่ ยน้ำ� ออกจากเข่ือนเท่านน้ั ๒. เหตุท่กี ารกอ่ สร้างเขื่อนขนาดใหญเ่ พือ่ ผลติ กระแสไฟฟา้ มขี ้อจำ� กัด อนั เนอื่ งจาก ผลกระทบทจี่ ะเกดิ ขน้ึ ไมว่ า่ จะเปน็ ปญั หานำ�้ ทว่ มพน้ื ทเี่ ปน็ บรเิ วณกวา้ ง ซงึ่ สง่ ผลกระทบ ต่อบ้านเรือนของประชาชน พื้นที่เกษตรกรรม โบราณสถาน หรืออาจกระทบต่อ วิถชี ีวิตของสัตว์ปา่ และทรัพยากรป่าไม้ ทำ� ใหย้ ากตอ่ การขยายก�ำลังผลิตกระแสไฟฟา้ จากพลังน�ำ้ สาระนา่ รเู้ กยี่ วกับการชลประทาน 59
บทที่ ๕ นำ้� ด่มื สะอาด 60 สาระน่ารเู้ กย่ี วกับการชลประทาน
น�ำ้ ทเี่ หมาะส�ำหรบั น�ำมาใชด้ ืม่ ซงึ่ สามารถสังเกตไดด้ ว้ ยตาเปลา่ ได้ว่าเป็นนา้ํ สะอาด ที่ไม่มีสี ไม่มีกล่ิน ไม่มีรส ไม่ขุ่น หรืออาจใช้การตรวจวิเคราะห์น�้ำในห้องปฏิบัติการ โดยการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพ ทางเคมี สารพิษ และแบคทีเรีย เพื่อให้เกิด ความมน่ั ใจวา่ เปน็ น�ำ้ ที่มมี าตรฐานเพือ่ การด่มื รูปท่ี ๕๓ การตรวจสอบคณุ ภาพนำ�้ กบราิโรภตครวจสอบคุณภาพน�้ำเพ่ือการ ทางดา้ นกายภาพ ๑. การตรวจสอบคุณภาพน้�ำทางด้าน กายภาพ เชน่ สี ความขุ่น กลิน่ รส โดยการดูด้วยตา ดมกล่ิน ชิมรส ด้วยการสังเกต อันเป็นการรับรู้ได้ด้วย ประสาทสัมผัสของมนุษย์ ซ่ึงพิสูจน์ในเบื้องต้นได้ว่า น้�ำสะอาดต้องใส ไมม่ สี ี ไม่มกี ล่ิน ไมม่ รี สทนี่ า่ รงั เกยี จ ๒. การใช้เคร่ืองมอื วัดคุณภาพ เช่น เคร่อื งมอื วัดความเป็นกรด ด่าง หรือชุดเครื่องมือตรวจสอบ แบคทเี รยี เครอ่ื งมอื ทดสอบความเปน็ สนมิ ของนำ้� เปน็ ตน้ การปรบั ปรงุ คณุ ภาพน�ำ้ เพือ่ ใช้สำ� หรับการบรโิ ภค ในพน้ื ทช่ี นบทหา่ งไกลทไ่ี มม่ นี ำ้� สะอาดหรอื นำ้� ประปาเพอ่ื การบรโิ ภคนน้ั เราสามารถ ปรบั ปรงุ คณุ ภาพนำ้� ใหเ้ ปน็ นำ�้ สะอาดปราศจากเชอ้ื โรคและสงิ่ เจอื ปนตา่ งๆ ไดห้ ลายวธิ ี ดงั นี้ ๑. การต้ม เป็นการผลิตและปรับปรุงคุณภาพน้�ำสะอาดเพ่ือการบริโภคอุปโภค ทงี่ า่ ยทสี่ ดุ และรจู้ กั กนั แพรห่ ลายตงั้ แตค่ รง้ั โบราณ โดยการตม้ นำ�้ ใหเ้ ดอื ดนานประมาณ ๑๕-๓๐ นาที ความร้อนของน้�ำขณะเดือดจะมีอุณหภูมิ ๙๐-๑๐๐ องศาเซลเซียส ซ่ึงมากพอท่ีจะท�ำลายเช้ือจุลินทรีย์ได้ ในขณะที่คุณสมบัติทางฟิสิกส์ เคมี อาจเปลี่ยนแปลงไปเพียงเล็กน้อย เช่น สามารถลดปริมาณของความขุ่น กลิ่น และสามารถลดความกระด้างของน�้ำ ซึ่งวิธีนี้เสียค่าใช้จ่ายน้อย เหมาะสมต่อการใช้ ภายในครวั เรือน สาระน่ารเู้ กี่ยวกบั การชลประทาน 61
เทอรม อมเิ ตอร ๒. การกล่ัน เป็นการผลิตน้�ำสะอาด โดย นำ้ ไหลออก วิธีการปรับปรุงคุณภาพน�้ำให้มีคุณภาพดีที่สุด เพื่อให้ เครอ� งควบแนน� นำ้� ปราศจากคณุ สมบตั ทิ ง้ั ทางเคมี ฟสิ กิ ส์ และจลุ นิ ทรยี ์ แต่เนื่องจากกรรมวิธีในการผลิตมีความซับซ้อนและ น้ำเกลอื น้ำไหลเขา น้ำบรสิ ุทธิ์ คา่ ใชจ้ า่ ยสงู จงึ นยิ มใชใ้ นวงจำ� กดั เชน่ วงการวทิ ยาศาสตร์ ความรอน วงการแพทย์ ซึ่งจ�ำเป็นต้องใช้น้�ำคุณภาพดีที่สุด เช่น การใช้น้�ำกลั่นเป็นส่วนประกอบหลักในการผสมยา รปู ท่ี ๕๔ การกลนั่ รกั ษาโรค เปน็ ตน้ ๓. การกรอง เป็นวิธีการปรับปรุงคุณภาพน้�ำให้สะอาด สามารถลดจ�ำนวน เชื้อโรคลงได้ร้อยละ ๙๕-๙๙ นิยมใช้ในกิจการประปา การกรองสามารถท�ำได้โดย ผ่านเคร่อื งกรอง ๒ แบบ ซ่งึ ผ้ใู ช้สามารถเลอื กใชแ้ บบใดแบบหน่งึ หรอื ทงั้ ๒ แบบก็ได้ ขน้ึ อยูก่ บั ความต้องการและคุณภาพของน�้ำท่นี �ำมากรอง ไดแ้ ก ่ ๓.๑ เคร่ืองกรองช้า เป็นเคร่ืองกรองท่ีสามารถลดปริมาณจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อน มากับน้�ำดิบได้ร้อยละ ๙๘-๙๙ โดยการบรรจุทราย กรวด และหินลงในถังกรอง ตามล�ำดับ ทรายท่ีใช้ต้องเป็นทรายละเอียดท่ีมีความหนาประมาณ ๒-๕ ฟุต เม็ดทรายควรมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๐.๒๕-๐.๓๕ มิลลิเมตร ส่วนชั้นกรวด และช้ันหินควรมีความหนาประมาณ ๑๘ นิ้ว น้�ำที่กรองด้วยกรรมวิธีดังกล่าว จะมีความขุ่นไม่เกิน ๕๐ ส่วนในปริมาณน้�ำ ๑ ล้านส่วน ถ้าความขุ่นเกินกว่าน้ี ควรใชส้ ารเคมบี รรเทาความขนุ่ ใหจ้ างลง เพอ่ื ปอ้ งกนั ปญั หาถงั กรองอดุ ตนั ดว้ ยตะกอน ในกรณีทตี่ ้องการลดกลน่ิ อาจเพม่ิ ชน้ั ถา่ นไม้ ส�ำหรับการท�ำความสะอาดถังกรอง สามารถท�ำได้โดย การตกั เอาทรายทอี่ ยผู่ วิ หนา้ ของถงั กรองออกไปลา้ งเสยี กอ่ น แล้วจึงน�ำกลับมาใส่ที่เดิม หรือใช้การตักเอาทรายบริเวณ ผิวหน้าออกทิ้ง แล้วเติมทรายใหม่ทดแทน การท�ำความ สะอาดถงั กรองควรท�ำประมาณ ๗ วนั ต่อคร้ังหรอื ถก่ี ว่าน้นั ขนึ้ อยู่กับความข่นุ ของนำ�้ ท่ีนำ� มากรอง รปู ท่ี ๕๕ เครือ่ งกรองช้า 62 สาระน่ารเู้ ก่ยี วกับการชลประทาน
๓.๒ เคร่ืองกรองเร็ว สามารถลดปริมาณจุลินทรีย์ท่ีปนเปื้อนมากับน้�ำดิบได้ รอ้ ยละ ๘๐-๙๐ เครอื่ งกรองนำ�้ แบบนม้ี ลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ กบั เครอื่ งกรองชา้ แตม่ อี ตั รา ในการกรองสงู กวา่ สามารถกรองนำ�้ ไดใ้ นอตั รา ๓ แกลลอนตอ่ พน้ื ทผ่ี วิ ทราย ๑ ตารางฟตุ ภายในเวลา ๑ นาที แตม่ วี ธิ ีการท่ยี ุ่งยากกวา่ รปู ที่ ๕๖ เครอ่ื งกรองเร็ว รปู ท่ี ๕๗ น�้ำดา่ งทับทิม ส�ำหรับการทำ� ความสะอาดถงั กรอง สามารถท�ำได้โดยการใชน้ ำ้� สะอาดปล่อยเข้าไป ยงั กน้ ถงั กรอง อาศยั ความดนั อากาศเขา้ ชว่ ยเพอ่ื ขจดั ตะกอนออกใหห้ มด ซง่ึ เปน็ วธิ กี าร ทที่ �ำได้ง่ายและรวดเร็ว ๔. สารเคมี สารเคมีหลายชนิดสามารถท�ำลายเช้ือโรคหรือเช้ือจุลินทรีย์ในน�้ำได้ ได้แก่ ๔.๑ การใช้ด่างทับทิม เม่ือละลายน้�ำจะเป็นสีชมพูหรือชมพูอมม่วง สารเคมี ชนดิ น้ีสามารถทำ� ลายเช้อื โรคได้เพยี งบางชนดิ เท่านนั้ และตอ้ งใช้เวลานาน ๔.๒ การใช้คลอรีน ท่ีนิยมใช้ส�ำหรับฆ่าเช้ือโรคในน้�ำ ซึ่งผลิตและจัดจ�ำหน่าย โดยองค์การเภสัชกรรมมี ๒ ชนิด คือ ชนิดผงและชนิดแก๊ส ซ่ึงกรรมวิธีในการเพิ่ม คณุ ภาพนำ้� สามารถทำ� ไดโ้ ดยการนำ� นำ�้ ทตี่ อ้ งการปรบั ปรงุ คณุ ภาพมาแกวง่ ดว้ ยสารสม้ กระทั่งตะกอนเริ่มจับตัวกันจึงหยุดการแกว่งสารส้ม ทิ้งไว้สักครู่หน่ึงเพื่อให้เกิดการ ตกตะกอน แล้วจึงน�ำน�้ำที่อยู่ชั้นบนมาท�ำการฆ่าเชื้อโรคโดยการผสมผงคลอรีน ในปรมิ าณรอ้ ยละ ๖๐ สาระนา่ ร้เู ก่ียวกับการชลประทาน 63
รปู ท่ี ๕๘ กอ้ นผงคลอรีน การทำ� ใหน้ ำ�้ สะอาดโดยใชค้ ลอรนี เพอ่ื ฆา่ เชอื้ โรค มวี ธิ กี าร ดงั ต่อไปน้ี ๑. กรณีที่ต้องการน้�ำสะอาดส�ำหรับด่ืม ให้ใช้ผงคลอรีน ประมาณ ๐.๕ ช้อนโตะ๊ ผสมกับนำ้� ๑ ปบ๊ี ๒. กรณที ต่ี อ้ งการนำ�้ สำ� หรบั ลา้ งผกั ผลไม้ ใหใ้ ชผ้ งคลอรนี ประมาณ ๐.๕ ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ� ๑ ปี๊บ ๓. กรณีท่ีต้องการน้�ำส�ำหรับล้างภาชนะ ให้ใช้ผงคลอรีน ประมาณ ๑ ชอ้ นโต๊ะ ผสมกับนำ้� ๑ ปี๊บ ๕. การกักเก็บหรือท�ำให้ตกตะกอน เปน็ วธิ ปี รบั ปรงุ คณุ ภาพของนำ้� โดยอาศยั สภาวะ ท่ีสงบน่ิงของน�้ำหรือแหล่งกักเก็บน�้ำ เพ่ือให้ ตะกอนจมลงสพู่ นื้ ทด่ี า้ นลา่ ง ซง่ึ นอกจากจะชว่ ย ใหค้ วามขนุ่ ลดลงแลว้ ยงั ชว่ ยใหจ้ ลุ นิ ทรยี ท์ ม่ี อี ยู่ ในนำ้� คอ่ ยๆ ลดปรมิ าณลงดว้ ย รปู ท่ี ๕๙ การท�ำให้ตกตะกอน ๖. การทำ� ใหต้ ะกอนรวมตวั กนั แลว้ ตกตะกอน เปน็ วธิ กี ารปรบั ปรงุ คณุ ภาพนำ�้ โดยอาศยั เครอ่ื งมอื และสารเคมี เพอ่ื ชว่ ยใหต้ ะกอนของนำ�้ มาจบั ตวั รวมกนั เชน่ การให้ ความร้อนแก่น�้ำ การปรับความเป็นกรดเป็นด่างของน�้ำ โดยการเติมสารเคมี เช่น ปูนขาว หรือสารสม้ แล้วจึงท�ำให้เกดิ การตกตะกอนโดยบังคบั ตะกอนให้จบั ตวั รวมกัน เป็นกลุ่มก้อน ซึ่งวิธีการน้ีนิยมใช้กับกิจการประปาขนาดใหญ่ เพราะมีประสิทธิภาพดี แตม่ ตี ้นทุนด�ำเนินการสงู รปู ที่ ๖๐ การผลติ น�ำ้ ประปา 64 สาระนา่ รู้เก่ยี วกับการชลประทาน
Search