Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ข้าวหอมมะลิ

Description: ข้าวหอมมะลิ.

Search

Read the Text Version

ข า ว ห อ ม ม ะ ลิ สุขสนั ต สุทธิผลไพบูลย อดีตผูตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ ปจ จยั ทม่ี าของความหอม ตามทีท่ ราบกันดวี า เกษตรกรทางอําเภอบางคลา กง่ิ อําเภอราชสาสน จังหวัดฉะเชิงเทรา ซ่ึงเปนแหลงเดมิ ทป่ี ลกู ขา วหอมมะลนิ านกวา 50 ป โดยไมเ ปลย่ี นเมลด็ พนั ธเุ ลยยงั มคี วามหอมอยู เมอ่ื ป 2493-94 กรมเกษตร กระทรวงเกษตร ไดใหคุณสุนทร สีหะเนิน รวบรวมขา วพนั ธนุ ้ี จาํ นวน 199 รวง แลวนําไปคดั เลอื กพนั ธบุ รสิ ทุ ธท์ิ ส่ี ถานที ดลองขา วโคกสําโรง จังหวัดลพบุรี ตอมากองบํารงุ พนั ธุ กรมการขา ว ไดเ ปรยี บเทยี บขา วพนั ธนุ ใ้ี นทอ งถน่ิ ทางภาคเหนอื ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณะกรรมการพจิ ารณาพันธุข า วใหใ ชข ยายพันธุ ไดเ มอ่ื วนั ท่ี 25 พฤษภาคม 2502 โดยใชชื่อวา ขาวดอกมะลิ 105 ซ่ึงเปน ขา วเจา ไวตอ แสง ปลกู ได เฉพาะฤดูนาปเทานั้น ลกั ษณะใบสเี ขยี ว ลําตน สเี ขยี วออ น ความสงู ประมาณ 138-150 เซนติเมตร ปลูกไดใ นท่ลี ุมทว่ั ไปทมี่ ีระดับน้ําไมล กึ เกนิ 80 เซนตเิ มตร ทนทานตอ ความ แหงแลง ทนดนิ เปรย้ี วและดนิ เคม็ ไดด พี อสมควร ตานทานโรคใบจดุ สนี ้ําตาลและโรคขอบใบ แหงปานกลาง แตไ มต า นทานโรคใบสสี ม โรคไหมและโรคใบหงิก ไมต า นทานเพลย้ี กระโดดสนี ้ํา ตาล เพลี้ยจักจ่ันสเี ขียวและหนอนกอ ตน ขา วออ นลม งา ยเมอ่ื รว งขา วสกุ แก อายเุ กบ็ เกี่ยวประมาณ วันที่ 20 พฤศจิกายน ผลผลติ ขา วเปลอื กคอ นขา งต่ําเฉลย่ี ประมาณ 363 กโิ ลกรมั ตอ ไร เมลด็ ขาวเปลือกสีฟางยาวเรียวสวยงาม น้าํ หนักเบา ระยะพกั ตวั ของเมลด็ ขา วนป้ี ระมาณ 43 วัน เมล็ดขาวกลอ งยาว 7.5 มลิ ลเิ มตร กวาง 2.1 มลิ ลเิ มตร หนา 1.8 มลิ ลเิ มตร เมลด็ ขา วสาร ใสดี แข็งแกรง ไดม าตรฐาน คณุ ภาพหุงตม มกี ลน่ิ หอมออ นนมุ

จากการสํารวจตรวจดแู หลง เดมิ ปลกู ขา วหอมนท้ี ห่ี นาแนน เปน ผนื ใหญ รวมทง้ั สอบถามขอ มูลตางๆที่เกี่ยวของกับเกษตรกรที่ปลูกขาวดังกลาว และดแู ผนทด่ี นิ ของจงั หวดั ฉะเชงิ เทรา ปรากฏ วา ดินในแหลง นเ้ี ปน ชดุ ดนิ รงั สติ ชดุ ดนิ องครกั ษ ชดุ ดนิ มหาโพธิ์ ซง่ึ จดั อยใู นกลมุ ชดุ ดนิ ของดนิ กรดกํามะถนั ทม่ี ที ง้ั หมด 9 ชดุ ดนิ ดว ยกนั คือ ชุดดินองครักษ ชดุ ดนิ ดอนเมอื ง ชดุ ดนิ รงั สติ ชุดดินเสนา ชดุ ดนิ อยธุ ยา ชดุ ดนิ มหาโพธ์ิ ชดุ ดนิ ธญั บรุ ี ชดุ ดนิ บางน้ําเปรี้ยว ชดุ ดินฉะเชงิ เทรา ชุดดินเหลานบ้ี า งเกดิ จากการตกตะกอนของน้ํากรอ ย บา งเกดิ จากการตกตะกอนของน้ําจืดบน ตะกอนน้ํากรอ ย ซง่ึ มเี กลอื สมทุ รหรอื โซเดยี มคลอไรดร วมอยดู ว ย ผเู ขยี นเคยปลกู ขา วหอมซ้ําที่เดิม ในดินนาธรรมดาทั่วไป 2-3 ป โดยไมเ ปลย่ี นพนั ธขุ า วเลยแลว ไดข า วสารไมม กี ลน่ิ หอมเลย จึงมี ความคิดท่ีจะใชประโยชนด งั กลา ววา ชดุ ดนิ อะไรบา งทเ่ี หมาะสมปลกู ขา วน้ี ในอนั จะเปน แนวทางสง เสริมใหเกษตรกรปลกู ขา วน้ี มคี ณุ ภาพหอมดแี พรห ลายสนองความตอ งการเพม่ิ มากขน้ึ ในการ ตรวจสอบติดตามวิเคราะหดูความหอมของขาวพันธุนี้ดวยทั้งในที่นาของเกษตรกรภาคตะวันออก ภาคตะวนั ตก ภาคกลาง สถานที ดลองขา วราชบรุ แี ละโคกสําโรง ตามลําดบั โดยไมเ ปลย่ี นพนั ธุ ขาวเลยเปน เวลา 19-50 ปพบวา เปน ชดุ ดนิ องครกั ษ ชดุ ดนิ รงั สติ ชุดดินมหาโพธิ์ ชดุ ดนิ ดอน เมือง ชุดดนิ นครปฐม ชดุ ดนิ เดมิ บางชดุ ดนิ โคกสําโรง โดยเฉพาะชดุ ดนิ สดุ ทายนี้มีลักษณะเหมอื น ชุดดินกุลารองไหทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมอ่ื สเี ปน ขา วเมด็ ใสสวยหงุ ตม แลว มกี ลน่ิ หอมมาก โรงสีในจังหวดั ลพบรุ ี สระบรุ แี ยง กนั ซอ้ื ในราคาสงู จากรายงานการสํารวจดนิ จงั หวดั ในภาคตะวนั ออกเฉพาะท่ีชุดดินองครักษ ชดุ ดนิ รงั สติ ชุดดนิ มหาโพธิ์ ชดุ ดนิ ดอนเมอื ง พอประมวลไดด งั น้ี นครนายก 412,793 ไร ปราจนี บรุ ี 389,217 ไร ฉะเชงิ เทรา 283,938 ไร ชลบรุ ี 109,188 ไร ระยอง 23,845 ไร ตราด 3,285 ไร ภาคตะวนั ตกเฉพาะทช่ี ดุ ดนิ นครปฐม ชดุ ดนิ เดมิ บางไดแ ก สพุ รรณบรุ ี 352,624 ไร นครปฐม 78,444 ไร ราชบรุ ี 49,481 ไร เพชรบุรี 25,769 ไร ภาคกลางมลี พบรุ จี งั หวดั เดยี วทม่ี ชี ดุ ดนิ โคกสําโรง 34,400 ไร นอกจาก น้ีในแตละจงั หวดั ของ 3 ภาคนม้ี ชี ดุ ดนิ ทเ่ี หมาะสมของภาคอน่ื ดว ย สําหรบั ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื คณุ เฉลยี ว แจงไพร อดีตผูเชี่ยวชาญพิเศษดานสํารวจ จําแนกและวางแผนการการใชท ด่ี นิ กรมพัฒนาที่ดิน และอดีตผูต รวจราชการกระทรวงเกษตร และสหกรณไดชี้แจงวา จากการสงั เกตและประสบการณป ฏบิ ตั งิ านในภาคนเ้ี วลา 35 ปท ผ่ี า นมามี ดินนา 5 ชุดดว ยกนั ทเ่ี หมาะสมมากกบั ขา วพนั ธนุ ้ี คอื ชดุ ดนิ รอ ยเอด็ ทว่ั ไป ชดุ ดนิ รอ ยเอด็ ดนิ รวน ชุดดนิ กลุ ารอ งไห ชดุ ดนิ ทา ตมู ชุดดนิ นครพนม ซง่ึ ปลกู ซ้ําทเ่ี ดมิ ดว ยการไมเ ปลย่ี นเมลด็ พันธุขาวกี่ปก็ตาม ยงั มคี วามหอมอยคู งกะพนั เสมอ ผเู ขยี นไดต รวจดรู ายงานการสํารวจดนิ 19 จังหวัดในภาคนแ้ี ลว จะเห็นวา มดี นิ นา 5 ชดุ รวมกนั ประมาณ 22.6 ลา นไรห รอื รอ ยละ 66.5 ของพื้นที่นาภาคนี้ 34 ลา นไร จังหวัดที่มีชุดดิน 5 ชดุ น้ี คอื อบุ ลราชธานี ยโสธร อาํ นาจเจรญิ รวม 3,026,556 ไร สรุ นิ ทร 3,000,670 ไร บรุ รี มั ย 2,634,659 ไร ศรสี ะ เกษ 2,472,981 ไร ขอนแกน 1,768,814 ไร นครราชสมี า 1,656,192 ไร มหาสารคาม 1,546,890 ไร รอ ยเอด็ 1,509,907 ไร อดุ รธานี หนองบัวลําภูรวม 1,400,162 ไร กาฬสนิ ธุ 900,690 ไร สกลนคร 781,934 ไร นครพนม มกุ ดาหารรวม 737,421 ไร ชยั ภมู ิ 648,931 ไร หนองคาย 471,762 ไร และเลย 2,244 ไร การทช่ี ดุ ดนิ เหลา น้ี

เหมาะกับขาวพันธุนี้อยางยิ่งเพราะมีเกลือสินเธาวอยูขางใตเนอ่ื งจากสมยั ดกึ ดําบรรพโ ลกลา นปภ าค นี้เคยเปนทะเลมากอน ขา วสารท่ีไดเ มด็ ยาวเรยี ว ใสสวยมากเปน ทต่ี อ งการของตลาดผบู รโิ ภคมาก กวาชุดดินที่ปลูกในภาคอื่น ในการนส้ี นั นษิ ฐานวา ธาตโุ ซเดยี มสว นสําคัญที่ชวยใหขาวพันธุนี้มี ความหอม สวนภาคใตก ม็ ชี ดุ ดนิ รังสิต ชดุ ดนิ มหาโพธิ์ ชดุ ดนิ ดอนเมอื ง เชนเดยี วกบั ทางภาคกลางที่ ปลูกแลว มคี วามหอมดี อยใู นจงั หวดั สรุ าษฎรธ านี 39,722 ไร ปต ตานี 13,526 ไร สงขลา 7,244 ไร ศนู ยว จิ ยั ขา วพทั ลงุ ไดป ลกู ขา วขาวดอกมะลิ 105 เปน พนั ธคุ ดั พนั ธหุ ลกั ในบรเิ วณ ศูนยฯซ่ึงเปน ชดุ ดนิ แกลงตง้ั แตป  2526-33 โดยไมเ ปลย่ี นเมลด็ พนั ธเุ ลย จากการวิเคราะหพบวา ความใสของเมล็ดขา วสารอยใู นขน้ั พอใชไ ด แตค วามขาวและอตั ราสว นการยดื ตวั ของขา วสกุ ต่ํากวา มาตรฐาน กลา วคอื สคี ล้ําไมขาวและไมยาวเทาที่ควร ดงั นน้ั พอจะอนมุ านไดว า ชดุ ดนิ แกลง เหมาะทจ่ี ะปลกู ขา วพนั ธนุ ้ี เพราะปลกู มาแลว 8 ป ยงั มคี ณุ สมบตั ติ า ง ๆ พอใชโดยเฉพาะกลิ่น หอมอยูในขน้ั พอใช จากการตรวจรายงานสํารวจดนิ ใน 14 จังหวัดภาคใต มชี ดุ ดนิ นอ้ี ยใู นเฉพาะ จงั หวดั สงขลา 171,848 ไร พัทลุง 123,253 ไร สตลู 51,381 ไร ปต ตานี 40,537 ไร ชมุ พร 37,980 ไร ตรงั 18,105 ไร สรุ าษฎรธ านี 15,309 ไร กระบี่ 3,672 ไร ถา ปลกู ตามคําแนะนําของ คุณเสถียร พรหมชัยนันท อดตี ผอู ํานวยการสถานที ดลองขา วนครศรธี รรม- ราช โดยเลอ่ื นชว งการปลกู กส็ ามารถปลกู ไดเ ชน กนั เหมอื นภาคอน่ื ในการตรวจดรู ายงานสํารวจดนิ 17 จังหวัดภาคเหนือปรากฏวา มชี ดุ ดนิ นครปฐม ชดุ ดนิ เดิมบางชุดดินรอยเอ็ดทั่วไป ชดุ ดนิ ทา ตมู ชดุ ดนิ นครพนม ในจงั หวดั นครสวรรค 435,894 ไร กาํ แพงเพชร 304,541ไร พิจิตร 251,189 ไร อทุ ัยธานี 245,924 ไร พิษณุโลก 209,767 ไร เพชรบูรณ 204,615 ไร สุโขทัย 184,691 ไร ลําปาง 51,541 ไร อตุ รดติ ถ 37,281 ไร ตาก 17,286 ไร ลําพูน 1,653 ไร แตเ นอ่ื งจากภาคเหนอื ไมม แี หลง เกลืออยูขางลาง เมอ่ื ปลกู ไปจะไดข า วมคี วามหอมนอ ยหรอื ไมม ี ตอ งเปลย่ี นเมลด็ พนั ธทุ กุ 3 ป เนื่องจากขาวขาวดอกมะลิ 105 ไมค อ ยตอบสนองตอ ปยุ ใหผ ลผลติ ขา วเปลอื กเพยี ง ประมาณ 500 กก. ตอ ไร สขู า ว กข ไมไ ดซ ง่ึ ใชป ยุ เคมี 30-50 กก. ใหผ ลผลติ 800- 1,000 กก. ตอ ไร เมอ่ื หกั คา ใชจ า ยแลว มรี ายไดม ากกวา ขา วหอมดงั กลา ว ฉะนน้ั เกษตรกรในเขต ชลประทานจงึ ไมส นใจปลกู ขา วพนั ธนุ ้ี แตเ กษตรกรในเขตนาน้ําฝน โดยเฉพาะทางภาคตะวนั ออก เฉียงเหนอื ยอมรบั นยิ มปลกู นบั ตง้ั แตป  2524 สถาบนั วจิ ยั ขา ว กรมวชิ าการเกษตร ได ประกาศขา ว กข 23 เปน ขา วพนั ธดุ ไี มม กี ลน่ิ หอมแนะนําใหป ลกู ไดท ง้ั นาปแ ละนาปรงั โดยที่ ลักษณะเม็ดขาวสารคณุ ภาพหงุ ตม คลา ยใกลเ คยี งกบั ขา วหอมน้ี พอ คา โรงสจี งึ ใหร าคาสงู กวา ขา ว กข พันธุอ่ืน เพอ่ื เปน แรงจงู ใจตดิ ยดึ ใหป ลกู กนั มากขน้ึ แลว ใชป นกบั ขา วหอมมะลใิ นอตั ราสว น มากนอยตา งกนั ตามแตผ ซู อ้ื จะพอใจ แตข ณะนเ้ี กษตรกรนยิ มปลกู ขา วพนั ธชุ ยั นาท 1 ซง่ึ เปน ขา ว แข็ง เพราะไดน ้ําหนกั เปลอื กมากกวา พนั ธอุ น่ื พอ คา โรงสนี ํามาปนกบั ขา วหอมนค้ี ณุ ภาพหงุ ตม ไม

กลมกลืนกันตางประเทศตองสงกลับคืนทําความเสียหายทางเศรษฐกิจมากและเสียชื่อเสียงขาด ความเชอ่ื ถอื เสยี ลกู คา อนึ่งถาหากจะจัดทําแผนสง เสรมิ ปลกู ขา วหอมนท้ี ถ่ี กู ตอ ง กรมพฒั นาทด่ี นิ ควรไดร บั บท บาทสําคัญในการจัดทําแผนทด่ี นิ ในจงั หวดั อําเภอทต่ี อ งการสง เสรมิ โดยยดึ ถอื ชดุ ดนิ ดงั กลา วขา ง ตนทั้งหมดเปนพื้นที่เปาหมายหลัก เพอ่ื ไดข า วหอมดมี กี ลน่ิ หอมเปน ทพ่ี งึ พอใจของผบู รโิ ภคทง้ั ภาย ในและตางประเทศ พรอมทั้งกําหนดมาตรฐานคณุ ภาพขา วนใ้ี หป ฏบิ ตั ไิ ดใ นทางการคา นอกจากน้ี จะตอ งดําเนินการแพรกระจายพันธุใหมากที่สุด และแนะนําใหเกษตรกรรูจักเก็บเมล็ดพันธุที่ดี บริสุทธ์ิแบบวธิ งี า ย ๆ ไวป ลกู ในปต อ ไป เพอ่ื ลดภาระหนา ทแ่ี ละเงนิ งบประมาณทใ่ี ชใ นการผลติ ขาวพันธุหลักพันธุขยายไดอีกดวย ขาวหอมมะลิในทุงกุลารองไห การท่ีเรียกทุงกลุ ารอ งไหน น้ั มตี ํานานเลา ขานกนั มาวา นบั เปน เวลารอ ย ๆ ปม าแลว ชาว บานเรียกพอคาที่ใชโคเทียม เกวียนและหาบหามสรพสินคา อาทเิ ชน สยี อ มผา เขม็ แพรพรรณ เครื่องถมที่สานดวย จกั ตอกไมไ ผท ารกั ลงสมี ลี วดลายตา ง ๆ ยาสมุนไพร เปน หมู ๆ 20-30 คน เท่ียวเรขายตามหมบู า นวา พวกกลุ าซง่ึ มพี วกหนง่ึ นําสนิ คา เทย่ี วเรข ายมาทางอบุ ลราชธานี ศรสี ะ เกษ สรุ นิ ทร เมอ่ื ขายสนิ คา หมดแลว คดิ กลบั บา น พอมาทองทป่ี จ จบุ นั เปน อําเภอทาตูม จังหวัด สุรินทร ประจวบเปน ชว งฤดแู ลง จงึ ซอ้ื ครง่ั ใสเ ขง มากพอทจ่ี ะหาบไปได เพื่อทาํ สยี อ มผา แลว นํากลบั มาขายอีกคร้ังหนง่ึ พอขา มแมน ้ํามลู มาไดห นอ ยหนง่ึ กถ็ งึ ทงุ อนั กวา งใหญไ พศาล จงึ ไดพ ากนั เดนิ ตดั ทงุ เพอ่ื ไปทางอําเภอพยัคฆภูมิพสิ ยั จงั หวดั มหาสารคาม ขณะเดนิ ขา มทงุ รสู กึ เหนด็ เหนอ่ื ย เม่ือยลามาก น้าํ จะดม่ื กลว้ั คอกไ็ มม ตี น ไมท จ่ี ะพกั อาศยั รม เงาพกั ผอ น ก็หายากเต็มที่ มองไปขา ง หนาเห็นคงๆ หน่ึงกพ็ ากนั หาบครง่ั เดนิ ลดั ไปมองดว ยตาเหน็ วา ใกลแ ตเ ทา เดนิ น้ันสมิ นั ไกลแสนไกล ทั้งแดดก็รอนจดั ตา งหวิ โหยอิดโรยไปตามๆ กันครั่งทีห่ าบมาจะทิ้งก็เสยี ดาย จงึ พากนั โอดครวญ รองหมรองไหแ ละคิดวา จะเอาชีวติ มาตายในทุงนีเ้ ปนแนแ ท อาศยั ความอดทนบกึ บนึ เดนิ ไปถงึ ดง น้ัน คร้ันจะเดนิ ทางตอ ไปกท็ อ ใจเพราะยงั มที งุ เวง้ิ วา งอยขู า งหนา อีก จึงเทครั่งทิ้งเหลือแตเสื้อผา เครื่องนุมหมและอาหารสําหรบั เดนิ ทางเทา นน้ั เพอ่ื จะไดเ บาแรง เมอ่ื เดนิ ทางไปถงึ หมบู า นใดชาว บานที่เคยซื้อสิ่งของจากพวกกุลาที่เคยนํามาขายแตไ มม อี ะไรจะขายใหก ลุ าพวกนน้ั คดิ ถงึ ความหลงั ท่ี ไดรับความลําบากยากแคนขนึ้ มาก็ไดแตเสียใจและรองไห ดว ยเหตผุ ลดงั กลา วขา วนก้ี เ็ ลา ลอื กระจาย ไปทุกแหงทุกหน จงึ ใหชือ่ ทุงนว้ี า ทงุ กลุ ารอ งไห สบื มาจนกระทง่ั ทกุ วนั น้ี ทุงกุลารอ งไหม พี น้ื ทป่ี ระมาณ 2.1 ลา นไร โดยมคี วามยาวสงู สดุ วดั ได 150 กม. และ ความกวา ง 50 กม. พื้นที่สวนใหญเปนที่ราบสภาพภูมิประเทศเปนแองกระทะขนาดใหญ มอี าณา เขตครอบคลมุ พน้ื ท่ี 5 จังหวัด 10 อําเภอ 51 ตําบล 676 หมบู า น ดงั นค้ี อื

1. จงั หวดั รอ ยเอด็ มีพื้นที่ 986,807 ไร หรือ 46.8% อยใู น 4 อําเภอ คอื อําเภอ เกษตรวสิ ยั อําเภอสวุ รรณภมู ิ อําเภอปทมุ รตั ต และอําเภอโพนทราย 2. จงั หวดั ยโสธร มพี นื้ ท่ี 64,000 ไร หรือ 3.1% อยใู นบางสว นของอําเภอมหาชนะชัย และอําเภอคอ วงั 3. จังหวดั ศรสี ะเกษ มพี นื้ ท่ี 287,000 ไรหรือ 13.6% อยใู นอําเภอราษีไศล 4. จงั หวดั สรุ นิ ทร มพี นื้ ท่ี 575,993 ไรหรือ 27.3% อยใู นอําเภอทาตูม และอําเภอ ชมุ พลบรุ ี 5. จังหวดั มหาสารคาม มีพื้นที่193,890 ไร หรือ 9.2%อยใู นบางสว นของอําเภอพยัคฆ- ภูมิพิสัย ท่ีดินในทุง กลุ ารองไห ประกอบดวยที่ดอนใชปลูกพืชไร ไดแก มนั สําปะหลัง ขาวโพด ขาวฟาง ออ ย ถว่ั ตา ง ๆ กับหญาเลี้ยงสัตวหรือจะใชเปนทุงหญาเลี้ยงสัตวก็ได และทล่ี มุ ใชป ลกู ขาว จากการสํารวจดนิ กองสํารวจดนิ ของกองสํารวจและจําแนกดนิ กรมพัฒนาที่ดิน พบวา ทด่ี อน พื้นที่รวม 101,807 ไร มชี ดุ ดนิ 4 ชดุ ดว ยกนั ทม่ี รี ะดบั สงู ลดหลน่ั ลงมาคอื 1. ชุดดินโคราชพื้นที่ 48,511 ไร 3. ชุดดินโพนพิสัยพื้นที่ 564 ไร 2. ชดุ ดนิ น้ําพองพื้นที่ 51,896 ไร 4. ชดุ ดนิ เรณพู น้ื ท่ี 864 ไร สวนที่ลุมพื้นที่รวม 1,689,977 ไร ใชป ลกู ขา วมชี ดุ ดนิ ตา ง ๆ ระดบั ความสงู ลดหลน่ั ลง มา ดงั น้ี 1. ชดุ ดนิ อดุ รพน้ื ท่ี 282 ไร 5. ชดุ ดนิ กลุ ารอ งไหพ น้ื ท่ี 373,422 ไร 2. ชดุ ดนิ อบุ ลพน้ื ท่ี 181,631 ไร 6. ชดุ ดนิ ทา ตมู พน้ื ท่ี 619,361 ไร 3. ชดุ ดนิ อน พน้ื ท่ี 1 ,120 ไร 7. ชดุ ดนิ ราชบรุ พี น้ื ท่ี 3,103 ไร 4. ชดุ ดนิ รอ ยเอด็ พน้ื ท่ี 436,035 ไร 8. ชุดดินพมิ ายพื้นที่ 75,023 ไร จากการสังเกตและประสบการณใ นการปฏบิ ตั งิ านทางภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือเวลา 35 ป คณุ เฉลยี ว แจงไพร อดีตผูเชี่ยวชาญพิเศษดานสํารวจจําแนกและวางแผนการใชท ด่ี นิ กรมพัฒนาท่ี ดิน และอดตี ผูตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ ไดชี้แจงวา มดี นิ นา 5 ชุด คอื ชุด ดินรอยเอ็ด ชดุ ดนิ รอ ยเอด็ ดนิ รว น ชดุ ดนิ กลุ ารอ งไห ชดุ ดนิ ทา ตมู ชุดดนิ นครพนม เหมาะ กับขาวหอมมะลิซึ่งปลกู ซ้ําทเ่ี ดมิ ดว ยพนั ธขุ า วกป่ี ก ต็ าม ยงั มคี วามหอมอยเู สมอไมเ สอ่ื มคลาย จาก ขอมูลชุดดินนาขา งตน 3 ชุด ชดุ ดนิ รอ ยเอด็ ชดุ ดนิ กลุ ารอ งไห ชดุ ดนิ ทา ตมู มีพนื้ ท่รี วมกนั 1,429,818 ไรนับวาเปนแหลงใหญแหลงหนง่ึ เนอ่ื งจากขา วหอมมะลหิ รอื ขา วขาวดอกมะลิ 105 เปนขาวท่ีมีขอดีจุดเดนหลายประการสามารถปรับตัวเขากับสภาพแวดลอมไดดีกวาขาวพันธุอื่น กลาวคือ ทนทานตอ ความแหง แลง เหมาะทจ่ี ะปลกู ในนาเขตน้ําฝน ทนดนิ เปรย้ี วและดนิ เคม็ ไดด ี พอสมควร ดงั นน้ั จงึ ไมต อ งสงสยั เลยวา เมอ่ื นําขา วหอมพนั ธนุ ท้ี ป่ี ลกู ในชดุ ดนิ องครกั ษ ชดุ ดนิ รงั สิต ชุดดินมหาโพธิ์ ชดุ ดนิ ดอนเมอื ง ซง่ึ ดนิ ชน้ั บนอยบู นตะกอนน้ํากรอ ยในดนิ ชน้ั ลา งในอําเภอ บางคลา อําเภอราชสาสนจ งั หวดั ฉะเชงิ เทรา มาปลกู ในชดุ ดนิ รอ ยเอด็ ชดุ ดนิ กลุ ารอ งไห ชดุ ดนิ

ทาตูม ท่ีมีเกลอื สนิ เธาวอ ยขู า งใตแ ลว ไดข า วสารคณุ ภาพเมด็ ยาวเรยี ว แกรง ใสสวย มคี วามหอม มากดกี วา แหลง เดมิ เสยี อกี การปรับปรงุ บํารงุ ดนิ เพอ่ื เพม่ิ ผลผลติ ขา วหอมในทงุ น้ี เจา หนา ทก่ี รมพฒั นาทด่ี นิ ไดแ นะนํา วาถาท่ีนาบางแหง เปน กรดจดั มากควรใชป นู ขาวอตั รา 50-90 กก. ตอ ไร หวานกอ นไถทีเ่ ตรียม ดินเพื่อลดความเปน กรดใหน อ ยลง โดยทําใหไ ดป รมิ าณแรธ าตทุ เ่ี ปน ประโยชนต อ ตน ขา วมากขน้ึ ถาเปน ดนิ เคม็ จดั จากการทดสอบแนะนําใหใ ชแ กลบเปน วสั ดปุ รบั ปรงุ อตั รา 2,000 กก. ตอ ไร หวานหลังเก็บเกี่ยวขาว แลวไถกลบเมื่อฝนตกจะชวยใหดินเหนียว ดนิ เหนยี วปนทรายทแ่ี นน ทบึ เปนดินโปรง รว นซยุ ถา ยเทอากาศและน้ําดขี น้ึ รากขา วชอนไชไดส ะดวก แรธ าตอุ าหารรองทส่ี ําคญั ในแกลบไดแก ซิลิกาซึ่งทําใหต น ขา วแขง็ แรงไมล ม งา ยและตา นทานตอ โรคแมลงอกี ดว ย ปกตขิ า ว หอมมะลิใหผลผลติ คอ นขา งตํ่า 300-320 กก.ตอ ไร แนวทางการเพม่ิ ผลผลติ ไดก วา งขวางเปน รูปธรรมในพน้ื ทม่ี ากๆ ใชป ยุ พชื สดโสนอัฟริกันท่ีสามารถขน้ึ ไดด ใี นดนิ เคม็ และเพิ่มอนิ ทรียว ัตถุ ดวยการหวา นเมลด็ อตั รา 7 กก. ตอ ไร เมอ่ื อายุ 65-70 วันก็ไถกลบแลว ทิง้ ไวอ กี 7 วัน เพื่อให ตนโสนสลายตัวกอ นทจ่ี ะปลูกขาวตาม โดยสามารถตรงึ ไนโตรเจนในอากาศไดป ระมาณ 42-72 กก.ตอไร และประมาณ 2 ใน 3 ของไนโตรเจนทต่ี รงึ ไดจ ะถกู ปลดปลอ ยลงสดู นิ นอกจากโสนน้ี แลวยังมโี สนคางคก โสนจนี แดง โสนอนิ เดยี ถั่วพรา ถั่วพุม ถั่วเขียว การเพม่ิ อนิ ทรยี ว ตั ถใุ นรปู อ่ืนก็คือปยุ คอก ปุยหมัก สว นการเพม่ิ อาหารแรธ าตใุ นดนิ อกี แบบหนง่ึ ไดแ ก ปยุ เคมสี ตู รทแ่ี นะนํา 16-16-8 อตั รา 20-25 กก.ตอ ไร แบง ใส 2 ครง้ั คอื หลงั ปก ดํา 7-10 วันและระยะที่ตน ขาวต้ังทอง ไดผ ลผลติ ขา วเปลอื กเฉลย่ี ประมาณ 679 กก.ตอ ไร กรมสง เสรมิ การเกษตรโดยสํานกั งานเกษตร 5 จังหวดั ท่มี ีพ้นื ทีใ่ นทุงนี้ ไดด ําเนนิ การ โครงการเรงรัดและพฒั นาการผลติ ขา วหอมมะลใิ นเขตทงุ กลุ ารอ งไห ดว ยกจิ กรรมการสง เสรมิ ใช เมล็ดขาวพนั ธดุ กี ารสง เสรมิ บํารงุ ดนิ ดว ยการใชถ ว่ั เขยี วเปน ปยุ พชื สด การรณรงคท ํานาหวานแทน นาดํา การทํานาสาธติ แปลงใหญ 500 ไร การทดสอบเพม่ิ ผลผลติ ขา วหอมมะลแิ ละการใชป ยุ แตงหนา การรณรงคป อ งกนั กําจัดศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน การสง เสรมิ รว มกบั ภาคเอกชน การ ถายทอดเทคโนโลยีและเยี่ยมเกษตรกร คณุ พชร อศิ รเสนา อดตี ปลดั กระทรวงพาณชิ ยข ณะดํารงตําแหนง อธกิ ารบดกี รมการคา ระหวางประเทศ ไดร เิ รม่ิ ใหจ ดั ประกวดขา วหอมมะลจิ ากจงั หวดั อบุ ลราชธานี รอ ยเอด็ ยโสธร ศรี สะเกษ สรุ นิ ทร มหาสารคาม บรุ รี มั ย ครง้ั แรกในปเ พาะปลกู 2523/24 ปรากฏวา รางวลั ท่ี 1-3 และ ชมเชย 7 รางวลั 5 จงั หวดั ของทงุ กลุ ารอ งไหไ ดร บั 9 รางวลั ตอ มาปเ พาะปลกู 2527-28 -2531/32 ไดเ พม่ิ จงั หวดั กาฬสนิ ธุ สกลนคร หลงั จากนน้ั จนถงึ ปจ จบุ นั กระทรวง พาณิชยโดยกรมการคา ภายในประเทศ รว มกบั สมาคมผสู ง ขา งออออกตา งประเทศเปด กวา งให เกษตรกรทุกภาคที่มีศักยภาพปลูกขาวหอมมะลิไดมีโอกาสนําผลิตผลของตนเขารวมประกวดและ เพม่ิ รางวลั ชมเชยเปน 15 รางวลั

อน่ึง จากประสบการณต รวจสอบความหอมของขา วน้ี โดยไมเ ปลย่ี นเมลด็ พนั ธุ 50 ปที่ ปลูกในชดุ ดนิ องครักษ ชดุ ดนิ รงั สติ ชดุ ดนิ มหาโพธิ์ ซง่ึ เกดิ จากการตกตะกอนของน้ํากรอยที่มี เกลือสมุทรรวมอยดู ว ย ยงั มคี วามหอมชดั เจนดแี ละขอ มลู ของคณุ เฉลยี ว แจงไพร ดงั นน้ั กรม พัฒนาที่ดินควรจัดทําแผนที่ดินกําหนดเขตปลกู ขา วหอมมะลใิ นชดุ ดนิ รอ ยเอด็ ชดุ ดนิ กลุ ารอ งไห ชุดดินทาตูม เพ่ือไดข าวหอมคุณภาพดี จําหนา ย สว นชดุ ดนิ อน่ื แนะนําใหเ กษตรกรปลกู ขา ว เหนียวไวบ รโิ ภคภายในครัวเรือน อนึ่งผูเขียนขอขอบคุณผูอํานวยการสถานีพัฒนาที่ดินรอยเอ็ดและเกษตรกรจังหวัดรอยเอ็ด ท่ีไดใหเอกสารขอ มลู ใชป ระกอบการเขยี นบทความขา งตน ไว ณ โอกาสนด้ี ว ย จดั ทาํ เอกสารอิเล็กทรอนิกสโดย : สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook