]bho ลิ้นจี่ กรมสง เสรมิ การเกษตร เรียบเรียง : วิษณุ อทุ โยภาศ กองสง เสรมิ พชื สวน จดั ทาํ : วเิ ชียร ภิรมยสุภาพ กองเกษตรสมั พนั ธ สารบัญเนื้อหา หนา 2 ! คาํ นาํ 3 ! ลน้ิ จ่ี 3 ! สภาพแวดลอ มทเ่ี หมาะสม 4 ! พนั ธุ 6 ! การขยายพนั ธุ 7 ! การปลูก 8 ! วิธกี ารปลกู 8 ! การปฏบิ ตั ดิ แู ลรกั ษาหลงั ปลกู 9 ! การปลกู ไมบ งั ลม 9 ! การปฏบิ ตั ดิ แู ลรกั ษา 13 ! การบังคับใหล น้ิ จอ่ี อกดอกโดยการควน่ั กง่ิ 14 ! การหอ ผล 15 ! การเกบ็ เกย่ี ว 15 ! การบรรจุหบี หอและภาชนะทีใ่ ชบ รรจุ 16 ! แมลงศตั รขู องลน้ิ จ่ี 18 ! โรคของลน้ิ จ่ี 19 ! ปฏิทินการปฏิบตั ดิ ูแลรักษา
ลิ้นจี่ 2 คาํ นาํ ล้ินจี่เปนไมผลก่ึงเมืองรอนอีกชนิดหน่ึง ท่ีนิยมปลูกเปนเวลาชานานเปนพืชเศรษฐกิจที่สําคญั ของภาคเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบนปจจุบันมีผูนิยมปลูกล้ินจี่กันอยางแพรหลายเนื่องจากผล ผลิตจําหนา ยไดร าคาดี ดแู ลรกั ษางา ย โรคแมลงรบกวนนอ ย เปนที่นิยมของผูบริโภคทั้งชาวไทยและ ตางประเทศ แหลง ผลติ ลน้ิ จท่ี ส่ี ําคญั ไดแกจังหวัดเชียงราย เชียงใหม พะเยา สมทุ รสงคราม เอกสารเผยแพรเ ร่ืองน้ี นอกจากจะรวบรวมรายละเอียดที่จาํ เปน ในการปลกู ลน้ิ จ่ี สภาพแวดลอม ที่เหมาะสม พันธุ การขยายพันธุ วธิ กี ารปลกู การปฏิบัติดูแลรักษา การหอ การเก็บเกี่ยว การบรรจุ หีบหอและภาชนะท่ีใชบรรจุ ฯลฯ ซึ่งเอกสารในเรื่องนี้จะทําใหเกษตรกรและผูอานสามารถนําไปใช เพ่ือเปนแนวทางในการตัดสินใจผลิตพันธุไมผลชนิดน้ีตอไป รวมทั้งใชพัฒนาการปลูกล้ินจ่ีใหไดผล ที่มีปริมาณและคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น กรมสง เสรมิ การเกษตร มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร
ลิ้นจี่ 3 …ลน้ิ จ่ี… ล้ินจี่เปนไมผลกึ่งเมืองรอนอีกชนิดหน่ึง ท่ีนิยมปลูกเปนเวลาชานานเปนพืชเศรษฐกิจที่สําคญั ของภาคเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนือ โดยเฉพาะภาคเหนอื ตอนบนปจ จบุ นั มผี นู ยิ ม ปลูกลิ้นจ่ีกันอยา งแพรห ลายเนอื่ งจากผลผลติ จาํ หนา ยไดร าคาดี ดแู ลรกั ษางา ย โรคแมลงรบกวนนอ ย เปนท่ีนิยมของผูบริโภคทั้งชาวไทยและตางประเทศ แหลงผลิตล้ินจ่ีท่ีสําคัญ ไดแกจังหวัดเชียงราย เชยี งใหม พะเยา สมทุ รสงคราม สภาพแวดลอ มทเ่ี หมาะสม ดนิ ดินที่เหมาะสมแกการเจริญเติบโตและใหผลผลิต ของลน้ิ จค่ี วรเปน ดนิ ทม่ี หี นา ดนิ ลกึ มอี นิ ทรยี วัตถุมาก ไดแก ดนิ รว น ดนิ รว นปนทราย มฤี ทธเ์ิ ปน กรดออ นๆ ถงึ เปน กลาง คอื มคี า ความเปน กรด เปนดาง ระหวาง 5-6 และตองมีการระบายนํ้าดีและควรมีระดับความสูงจากระดับน้ําทะเล มากกวา 400 เมตร โดยเฉพาะพนั ธฮุ งฮวย โอวเฮียะ กิมเจ็ง และ พันธุจักรพรรดิ์ อากาศ อากาศท่ีเหมาะสมตอการเจริญเติบโตและออกดอกติดผลของลิ้นจ่ีควรมีอากาศเย็นในฤดหู นาว และไมมอี ากาศรอ นจดั คอื อณุ หภูมติ า่ํ กวา 40 องศาเซลเซยี ส และในชว งกอ นดอกตอ งการอณุ หภมู ติ า่ํ กวา 15 องศาเซลเซยี ส ไมน อ ยกวา 50 ชั่วโมง หรอื ตา่ํ กวา 10 องศาเซลเซยี ส ไมน อ ยกวา 50 ชั่วโมง เม่ือติดผลแลว อณุ หภมู จิ ะสงู ขน้ึ กไ็ มเ ปน ไร แตถ า สงู เกนิ 40 องศาเซลเซยี ส จะทาํ ใหผลแหงและแตกได ความชน้ื ในอากาศ ความชื้นสัมพันธที่เหมาะสมที่สุดสําหรบั ลน้ิ จ่ี มี 2 ระยะ คอื ความชน้ื ในระยะกอ นออกดอก ควรตํ่ากวา 80 เปอรเ ซน็ ต และความชน้ื ในระยะตดิ ผลจะอยใู นชว ง 80-100 เปอรเ ซน็ ต ความช้นื ในดิน ลิ้นจี่เปนพืชท่ีชอบน้ําแตไมชอบนํ้าขังแฉะ ในเขตอาศัยน้ําฝนปริมาณนํ้าฝนที่เหมาะสม อยูระหวาง 1,000-1,500 มลิ ลเิ มตร ตอ ป
ลิ้นจี่ 4 พันธุ พันธุที่นิยมปลูก สําหรับทางภาคเหนือ ไดแก พนั ธฮุ งฮวย พันธุโอวเฮยี ะ พันธุกิมเจ็ง และพันธุจักรพรรดิ์ สว นทางภาคกลาง ไดแก พนั ธคุ อ ม พันธุฮงฮวย ลักษณะประจําพนั ธุ ตนที่ทรงพุมใหญ ลาํ ตน สนี า้ํ ตาลอมเทา ชว งขอ บนกง่ิ หา ง ใบหนา สีเขียว ขอบใบบดิ เปน คลน่ื ปลายใบไมค อ ยแหลมใบมี 3-4 คู ยอดสเี หลอื งออ นปนเขยี ว ใหผ ลดกตดิ ผลดสี มา่ํ เสมอ ลักษณะผล ทรงยาวรคี ลา ยรปู ไข เปลอื กบาง ผิวสีแดงปนชมพู เนอ้ื สขี าวขนุ รสหวานอมเปรย้ี วเลก็ นอ ยเมลด็ โต เปลอื กบางทาํ ใหชอกชํ้างา ยและ ข้ัวผลมกั หลดุ รว งงา ย พนั ธฮุ งฮวย พันธุฮงฮวยแบงออกไดหลายสายพันธุ เชน ฮงฮวยไหลก วาง ฮงฮวยฝาง ฤดูกาลเก็บเก่ียว เดือนพฤษภาคม – มถิ นุ ายน พันธุโอวเฮียะ พนั ธโุ อวเฮยี ะ ลักษณะประจําพนั ธุ ตนมีทรงพุมเล็ก งา มกง่ิ เปน มมุ แคบ ใบเลก็ ยาวสเี ขยี วเขม ยอดออ นสแี ดง ใบมี 2-3 คู โคนใบและปลายใบเรยี วแหลมเปน พันธุหนักออกดอกติดผลไมคอยสม่ําเสมอชอผลมีขนาดเล็กผลทรง คลายรูปหัวใจปอ มมไี หลส งู ทง้ั สองดา น ผวิ ผลมสี แี ดงเลอื ดนกคอ นขา ง คล้ํา หนามที่ผิวเรียบหาง เปลอื กหนาเนอ้ื หนามสี ขี าวขนุ เนอ้ื นมุ ฉา่ํ น้ํา มีกล่ินหอม เมล็ดเล็กลีบผลแกชากวาพันธุฮ งฮวยประมาณ 2 สัปดาห พันธุนี้ชอบอากาศเย็นกวาพันธุฮงฮวย ฤดูกาลเกบ็ เก่ียว เดือนพฤษภาคม – มถิ นุ ายน พนั ธกุ มิ เจ็ง ลักษณะประจําพนั ธุ ตนที่ทรงพุมเล็ก โตชา ใบเลก็ รปู ไขม ขี นาดสน้ั และแคบใบมี 1-3 คู ยอดแดง ยอดออ นสมี ว ง แดง ผลทรงกลม เปลือกมีหนามใหญห าง ผวิ สแี ดงอมชมพู รอ งหนามมสี อี อ น เนอ้ื หนาสขี าวขนุ รสหวาน
ลิ้นจี่ 5 พันธุนี้แบงไดเปน กิมเจ็งหนามแหลม และกิมเจ็งหนามราบการออกดอกตดิ ผลคอ นขา งยาก และตอ งการอากาศเยน็ จดั ฤดูกาลเก็บเกี่ยว เดือนพฤษภาคม –มถิ นุ ายน พนั ธกุ ิมเจง็ พันธจุ กั รพรรด์ิ พนั ธคุ อ ม พนั ธจุ กั รพรรด์ิ ลักษณะประจําพนั ธุ ตนมีทรงพุมใหญ ใบมขี นาดใหญ โคนใบกวา ง คอยๆ เรยี วไปดา นปลายใบ มสี เี ขยี วเขม เปน มนั ผลทรงหัว ใจกลม ขนาดใหญเ ปลอื กหนามสี แี ดงเขม ผิวหยาบหนาม เรียบ มขี นาดใหญห า ง เนอ้ื หนา มสี ขี าวขนุ ฉ่าํ นา้ํ รสหวาน เมล็ดมขี นาดโต สนี า้ํ ตาลเขม พันธุนี้ตองการอากาศเย็นจัด ฤดูกาลเกบ็ เก่ยี ว เดือนพฤษภาคม – มถิ นุ ายน พนั ธคุ อ ม ลักษณะประจําพนั ธุ ลาํ ตน และกง่ิ เรยี บ ลาํ ตน สนี า้ํ ตาลออ น กง่ิ แขง็ แรง ทรงพมุ คอ นขา งกลมใบแคบเรยี ว กลางใบพอง ปลายใบ เรียวแหลม ใบมี 2-4 คู สใี บดา นบนเขยี วเปน มนั ขอบใบ เปนคล่ืนเลก็ นอ ย ผลมขี นาดใหญก ลมสแี ดงเขม เปลอื ก กรอบบาง หนามหา งสน้ั แหลม เนอ้ื หนา หวาน มกี ลน่ิ พเิ ศษ เนื้อแหง สขี าวขนุ พันธุนี้ออกดอกติดผลงา ย ไมต อ งการอากาศเยน็ จดั ฤดูกาลเก็บเกี่ยว เดอื นเมษายน
ลิ้นจี่ 6 การขยายพนั ธุ การขยายพนั ธลุ น้ิ จ่ี ทําไดหลายวิธี ไดแก การตอน การทาบกิ่ง การเสยี บยอด แตวิธีที่นิยม ขยายพนั ธลุ น้ิ จ่ี คอื การตอน การตอนกง่ิ การตอนกิ่งสวนใหญจะทําใหฤดูฝน เพราะเปนระยะท่ีตนไมกําลังเจริญเติบโต ฝนตกบอย ไมตองเสยี เวลาในการรดนา้ํ ใหก บั กง่ิ ตอน ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1. เลือกกิ่งลิ้นจี่ที่จะขยายพันธุ ควรเปนก่ิงที่ไมแกหรือออนเกินไป กลาวคือใบเปลี่ยน จากใบออนเปน ใบแกแ ลว กง่ิ สนี า้ํ ตาลลอมเขยี วและผวิ เปลอื กเรยี บไมข รขุ ระ 2. ควน่ั กง่ิ ขนาด 1 –1.5 นว้ิ แลว ลอกเปลอื กออก 3. ขุดเย่ือเจริญออก โดยใชสันมีดลากจากบนลงลา ง ระวังอยาใหกระทบกระเทือนรอยแผล ดานบนซง่ึ จะเปน บรเิ วณทร่ี ากจะออก 4. นําตมุ ตอนทไ่ี ดจ ากการนําขยุ มะพรา วทต่ี เี อาเสน ใยออกแลว ไปแชน า้ํ บบี ใหห มาดๆ แลว อดั ลงในถุงพลาสติกขนาดเล็กประมาณ 4X6 น้ิว ผูกปากถุงใหแนน ผา ตมุ ตอนตามยาวแลว หมุ ไปบนรอย แผลมัดดว ยเชอื กทง้ั บนและลา งรอยแผล 5. เม่ือเกดิ รากพอเหมาะ ประมาณ 30-45 วัน จงึ ตดั ออกจากตน และนาํ มาชาํ ในถงุ พลาสตกิ หรือกระถางประมาณ 1 เดอื น จึงนาํ ลงปลกู ในแปลง การตอนกง่ิ
ลิ้นจี่ 7 การปลกู การเตรยี มพน้ื ท่ี พน้ื ทล่ี มุ พื้นที่ซึ่งเปนที่ลุมจาํ เปน ตอ งยกรอ ง ควรยกแปลงใหม คี วามกวา งของแปลงอยา งนอ ย 6 เมตร รอ งลกึ 1 เมตร กวาง 2 เมตร เพอ่ื ระบายนา้ํ ใหฤ ดฝู นและกกั นา้ํ ใหฤ ดูแลง การปลกู ลน้ิ จใ่ี นพน้ื ทด่ี อน พน้ื ทด่ี อน - พื้นที่ดอน ควรจะปรับพื้นที่ใหเรียบเพือ่ สะดวกตอการปฏิบตั งิ าน - ถาพน้ื ทม่ี คี วามลาดชนั มาก ควรจัดทาํ แนวชน้ั บนั ได หรอื ปรบั ระดบั บรเิ วณหลมุ ปลกู ระยะปลกู ลิ้นจี่ใชระยะปลูกระหวาง 8X8 เมตร ถึง 10X10 เมตร ในพน้ื ทย่ี กรอ งขนาดของรอ งจะบงั คบั ระยะไว 8 เมตร สวนในพื้นที่ดอนระยะปลูกข้ึนอยูกับความอุดมสมบูรณของดิน ดินเลวปลูกถ่ี ดินดปี ลกู หา ง วธิ กี ารปลกู การเตรียมหลุมปลูก ในพื้นที่ลุมควรชุดหลุมในแนวตรงบนแปลงขนาด กวาง ยาว ลกึ ประมาณ 50-80 เซนตเิ มตร ผสมดินปลูกดวยปุยอินทรีย อตั รา สวน 3:1 โดยปริมาตร คลกุ ใหเ ขา กนั แลว กลบลงหลมุ โดยใหด นิ บริเวณปากหลุมสูงกวา ดินเดมิ ประมาณ 15 เซนตเิ มตร สว นพน้ื ทด่ี อนขดุ หลมุ ในแนวตรง กวาง ยาว และลึกประมาณ 50-80 เซนตเิ มตร และเตรยี มหลมุ เชน เดยี วกนั กบั การเตรยี มหลมุ ในทล่ี มุ การเตรยี มกง่ิ พนั ธุ ควรจะเตรียมก่ิงตอนไวลวงหนาใหอยูในสภาพที่แข็งแรงตั้งตัวไดแลว โดยเลี้ยงไวในเรือน เพาะชาํ กอ นนําลงปลกู
ลิ้นจี่ 8 การเตรยี มไมห ลกั พยงุ และรม เงา ไมหลักพยุง ใชไ มไ ผร วกหรอื ไมท แ่ี ขง็ แรงขนาดเสน ผา ศนู ยก ลางไมน อ ยกวา 1.5 เซนตเิ มตร และยาวไมนอยกวา 150 เซนตเิ มตร รมเงา ใชเพิงหรือก่ิงไมท่ีใบไมรวง เชน ทางมะพราวบังแดดดานทิศตะวันออกและ ทศิ ตะวนั ตก วิธกี ารปลกู นําก่ิงพนั ธทุ เ่ี ตรยี มไวล งปลกู กลางหลมุ หากภาชนะที่ใชเพาะสลายตัวยาก เชน ถงุ พลาสตกิ หรือกระถาง ตองนําก่ิงพันธุออกจากภาชนะกอนปลูก การปลูกควรใหระดับดินบนภาชนะเพาะชํา อยูเทากับระดับดินในแปลง กลบดินโดยรอบ กดใหแนน หลังจากนั้นใหไ มหลกั ท่ีเตรยี มไวป ก ใกลๆ กับกิ่งพันธแุ ละผูกเชือกพยุงตวั ไวเพอื่ ใหตน ตงั้ ตรงบงั ดวยรม เงา รดน้าํ การปฏิบัติดูแลรักษาหลังปลูก การใหน า้ํ ชวงเวลาหลงั จากปลกู จะตรงกบั ฤดฝู น ถาฝนตกหนักควรทาํ ทางระบายนา้ํ และตรวจดบู รเิ วณ หลุมปลูก ถาดินยุบตัวเปนแองมีนํ้าขงั ตอ งพนู ดนิ เพม่ิ แตถ า หากฝนทง้ิ ชว งควรรดน้ําใหด นิ มคี วามชน้ื อยเู สมอ การปลกู พชื เสรมิ รายได ในระหวา งทล่ี น้ิ จย่ี งั เลก็ ควรปลูกพืชแซมเพื่อเสริมรายได เชน พืชไร พืชผัก ไมด อกไมป ระดบั โดยเลือกปลูกใหเ หมาะสมกบั สภาพพน้ื ทแ่ี ละตรงกบั ความตอ งการของตลาด การปลกู ซอ ม เม่ือตรวจพบวา ตน ลน้ิ จต่ี ายหลงั จากปลกู ใหร บี ปลกู ซอ ม การปอ งกนั กําจดั โรคและแมลง ในชวงทแ่ี ตกใบออ น ควรตรวจสอบ และฉดี สารเคมปี อ งกนั กาํ จัดโรคและแมลงที่ทาํ ลายใบออ น การควบคมุ วชั พชื ควบคุมวัชพืชโดยใชวิธีขุด ถาก ถอน หรือ ตดั พยายามหลกี เลย่ี งการใชส ารเคมกี ําจัดวัชพืช เพราะตนลิ้นจี่ยังเล็กอยู ละอองสารเคมอี าจจะไปทาํ ลายตน ลน้ิ จไ่ี ด นอกจากนนั้ แลวการปลูกพืชแซม ในพ้ืนท่ีวา งในขณะทต่ี น ลน้ิ จย่ี งั เลก็ จะเปนวิธีที่ชวยลดปญหาวัชพืชได
ลิ้นจี่ 9 การตดั แตง กง่ิ ควรเล้ียงใหมลี ําตน กลางเพยี งตน เดยี วและไวก ง่ิ แรกสงู จากพน้ื ดนิ ประมาณ 40-80 เซนตเิ มตร และตัดแตงกิ่งแหง กง่ิ เปน โรค กง่ิ น้าํ คา ง กง่ิ แขนงเลก็ ๆ ดา นในทรงพมุ กง่ิ ไขว ตลอดจนกง่ิ ทท่ี าํ มมุ แคบออกและควรทารอยแผลทต่ี ดั ดวยปนู แดงกนิ กบั หมาก การปลกู ไมบ งั ลม ในแหลงท่ีมลี มแรงควรเตรยี มการปลกู ไมบ งั ลมไวก อ นโดยพจิ ารณาถงึ 1. ทิศทางลม 2. ชนิดไมบังลมท่ีจะปลกู ควรโตเรว็ กง่ิ กา นนอ ย ทรงสงู ทนทานตอ สภาพแวดลอมโดยเฉพาะ ตานทานลมไดด ี เชน ไมไผรวก 3. ปลูกใหหางจากแถวลิ้นจี่ อยา งนอ ย 6 เมตร 4. การปลูกไมบ ังลม ปลกู 2 แถวสลบั ฟน ปลา และควรปลกู ไมบ งั ลมกอ นปลกู ลน้ิ จ่ี 1 ป เปนอยางนอย ไมบังลมจะมีก่ีแนวขึ้นอยูกับระยะความยาวของสวนกับความสูงของไมบังลมกอนล้ินจ่ี 1 ป เปนอยางนอ ย ไมบ งั ลมจะมกี แ่ี นวขน้ึ อยกู บั ระยะความยาวของสวนกบั ความสงู ของไมบ งั ลมโดย อาศัยปลูกทุกแนวที่ 10 เทา ของความสงู ไมบ งั ลมเมอ่ื โตเตม็ ท่ี การปฏบิ ตั ดิ แู ลรกั ษา การใหน า้ํ ! ล้ินจอ่ี ายุ 1-3 ป ในฤดแู ลง ใหน า้ํ สม่าํ เสมออยา งนอ ยเดอื นละ 2 ครง้ั ! ล้ินจ่ีตนท่ีใหผ ลผลติ แลว ในฤดแู ลง ตอ งใหน า้ํ สม่าํ เสมออยา งนอ ยเดอื นละ 2 ครง้ั แตใ นชว ง เดือนพฤศจิกายน กอนออกดอกควรงดการใหน้ํา หากมีฝนตกตองทําทางระบายน้ําออกจากแปลง ทําบริเวณโคนตน ใหโ ปรง เพราะตอ งการความชน้ื นอ ยในระยะกอ นการออกดอก หลงั จากสงั เกตเหน็ เรม่ิ แทงชอดอกประมาณ 50 เปอรเ ซน็ ต ของทรงตน ควรเรม่ิ ใหน า้ํ ปรมิ าณทน่ี อ ยและใหบ รเิ วณรอบนอก ของรงพุม ตอจากนั้นคอยๆ เพม่ิ ปรมิ าณน้าํ และใหน ้าํ ในทรงพมุ มากขน้ึ โดยให 2 ครง้ั ตอ สปั ดาห และ ควรงดใหน า้ํ กอ นการเกบ็ เกย่ี วผลผลติ 7-10 วัน ! ปริมาณนํ้าทใ่ี หแ ตล ะครง้ั ขน้ึ อยกู บั ชนดิ ของเนอ้ื ดนิ ขนาดของทรงพมุ และวธิ กี ารใหน า้ํ วิธกี ารใหน ้ํา วธิ กี ารใหน า้ํ แบงเปน 4 แบบใหญๆ ดงั น้ี 1. การใหน า้ํ ทางใตผ วิ ดนิ เปนการใหน ํ้าโดยยกระดบั น้ําใตด นิ ใหส งู ขน้ึ จนถงึ ระดบั ทร่ี ากสามารถดดู ไปใชไ ด เชน การยก รองปลกู 2. การใหน า้ํ ทางผวิ ดนิ - การปลอยใหนํ้าขังหรือปลอยใหไหลไปตามผิวดิน การใหน้ําแบบนี้จะตองปรับพ้ืนท่ี ใหเรยี บและมคี วามลาดเทเลก็ นอ ย (ประมาณ 2%)
ลิ้นจี่ 10 - การใชสายยาง โดยสูบนาํ้ จากแหลง น้ําและลากสายยางรดตามตน 3. การใหน า้ํ แบบฉดี ฝอย เปนการใหน า้ํ โดยผา นทางทอ ดว ยแรงดนั และใหน า้ํ พน เปนฝอยทางหวั ฉีดบริเวณทรงพุม วธิ ีนจ้ี ะ ประหยัดนาํ้ กวา การใหน ้ําแบบที่ 2 ทําไดร วดเรว็ สมา่ํ เสมอและใชแ รงงานนอ ย แตก ารลงทนุ ครง้ั แรก คอนขา งสงู 4. การใหน า้ํ แบบหยด เปนการใหนํ้าเฉพาะบริเวณรากโดยใหน้ําไหลเปนหยดน้ําสายน้ําหรือเม็ดน้ําเล็กๆ ผานหัว ปลอยนา้ํ โดยใหม คี วามชน้ื ในระดบั ทร่ี ากสามารถดดู ไปใชไ ด การใหน า้ํ วิธีนจี้ ะประหยัดนา้ํ มากเพราะ มีการสูญเสยี น้ํานอ ยมาก สามารถควบคมุ ปรมิ าณนา้ํ ได ใชแ รงงานนอ ยและลดปญ หาเรอ่ื งวชั พชื ดว ย การใหป ยุ 1. การใหป ยุ ลน้ิ จท่ี ย่ี งั ไมใ หผ ลผลติ (อายุ 1-3 ป) - อายุปแรกใหปุยสูตรเสมอ เชน 15-15-15 ตนละประมาณคร่ึงกิโลกรัม/ตน/ป แบงให 2-3 ครง้ั ครง้ั แรกชว งตน ฤดฝู น ครง้ั ท่ี 2 หลงั จากครง้ั แรก 2-3 เดอื น และคร้ังที่ 3 ชว งปลาย ฤดฝู น - ปที่ 2-3 ใสป ยุ อนิ ทรยี ป ล ะ 2 ครง้ั อตั รา 10-20 กิโลกรัม ตอ ตน และปยุ เคมสี ตู ร 15-15-15 ปละ 2 คร้ัง อัตรา 300-400 กรัมตอตนตอคร้งั โดยครง้ั แรกใหใ นชว งตน ฝน และคร้ังที่ 2 หลงั จากใสค รง้ั แรกประมาณ 2-3 เดอื น หรอื เมอ่ื ลน้ิ จแ่ี ตกใบออ นแลว 2. การใหปยุ ลน้ิ จท่ี ใ่ี หผ ลผลติ แลว (อายมุ ากกวา 4 ป) แบงใส 3 ระยะ อตั รา 2-5 กโิ ลกรมั ตอ ครง้ั ขน้ึ อยกู บั สภาพและอายขุ องตน ลน้ิ จ่ี ระยะที่ 1 หลังการเกบ็ เกย่ี วผลแลว ตอ งตดั แตง กง่ิ และใหป ยุ ในเดอื นมถิ นุ ายน เพื่อบาํ รงุ ตน ให เจริญเติบโตสมบูรณ โดยใสปุยอนิ ทรีย อตั รา 10-20 กโิ ลกรมั ตอ ตน และปยุ เคมสี ตู รเสมอเชน 15-15-15 ระยะที่ 2 การใหปุยในระยะนม้ี วี ตั ถปุ ระสงคเ พอ่ื เปน การเตรยี มตน ลน้ิ จใ่ี หพ รอ มทจ่ี ะออกดอก ในฤดูกาล ประมาณเดอื นตลุ าคมควรใหป ยุ สตู ร 8-24-24, 12-24-12 ระยะที่ 3 การใหปุยในระยะติดผล ใหปุยสูตร 13-13-21 อตั รา 1-3 กโิ ลกรมั ตอ ตน เพื่อ ใหผลผลิตมีคณุ ภาพดโี ดยแบงใส 3 ครง้ั คอื - ติดผลโตขนาด 5 มลิ ลเิ มตร - ขนาดผลโตปานกลาง - ขนาดผลโตเตม็ ท่ี 3. วธิ กี ารใสป ยุ เคมี - ควรแบง ปยุ ทจ่ี ะใสต อ ตน เปน 4 สวน ใสบ รเิ วณชายทรงพมุ ประมาณ 3 สวน และที่เหลือ ประมาณ 1 สวน หวา นในบรเิ วณทรงพมุ - หลงั การใสป ยุ ตอ งพรวนดนิ รวบชายทรงพมุ และรดนา้ํ ใหชุม
ลิ้นจี่ 11 4. การใหป ยุ ทางใบ การใหปุยทางใบเปนการเสริมใหตนลิ้นจ่ีไดรับปุยโดยตรงและตนลิ้นจี่สามารถนําไปใชไดทันที ซ่ึงควรใชใ นกรณตี อ ไปน้ี - เมอ่ื ตน ลน้ิ จแ่ี ตกใบออ นชา หรอื ไมส มา่ํ เสมอ ควรใชปุยไทโอยูเรียอัตรา 100-150 กรมั ตอ น้ํา 20 ลติ ร พนใหทั่วทรงพุม 1-2 ครง้ั หางกัน 7-10 วัน จะชว ยใหก ารแตกใบออ นเรว็ ขน้ึ และพรอ ม กัน - ถาใบมคี วามสมบรู ณต า่ํ คอื ใบไมม สี เี ขยี วเขม็ เปน มนั ควรพนปุยทางใบสตู ร 30-20-10 หรอื 20-20-20 อตั รา 20-30 ซีซี ตอ นา้ํ 20 ลติ ร จะชวยเพิ่มความสมบูรณแกใบ ใหม ากขน้ึ - ระยะใบแกก อ นออกดอกเพอ่ื ชว ยใหใ บแกเ รว็ ขน้ึ และชว ยปอ งกนั การแตกใบออ นเมอ่ื มฝี นตก ควรพนปุยทางใบสูตร 0-52-34 อัตรา 100-150 กรัม ตอนํ้า 20 ลิตร 2 ครั้ง หางกัน 7-10 วัน - ชวงลิ้นจี่ใกลออกดอก ควรพนปุยทางใบเพื่อเพิ่มความสมบูรณและกระตุน ตาดอก เชน ปุยสูตร 10-52-17 หรือ 10-45-10 อตั รา 20-30 ซีซี ตอ นา้ํ 20 ลติ ร และหลงั จาก แทงชอ ดอกแลว ควรฉีดพนอกี ครงั้ เพ่อื บาํ รงุ ชอ ดอกและชว ยใหต ดิ ผลดขี น้ึ - ชวงล้ินจี่ติดผลขนาดโตปานกลาง อาจใหปุยทางใบเพ่ือชวยเรงการเจริญ และเพม่ิ คณุ ภาพของผล โดยใชปุยสูตร 10-20-30 อตั รา 20-30 ซีซี ตอ นา้ํ 30 ลติ ร การพรวนดนิ ทําหลังจากใสปุยทุกครั้ง พรวนบรเิ วณรอบทรงพมุ และรดนาํ้ ใหชุม
ลิ้นจี่ 12 การตดั แตง กง่ิ เม่ือตนล้ินจี่อายุ 1-2 ป สรา งทรงตน ใหม ลี ําตน เดยี วและตน มคี วามสงู ประมาณ 1 เมตร ตาขางจะเจริญเปนกิ่งจํานวนมากเลือกกง่ิ ใหเ หลอื กง่ิ ทต่ี อ งการ 3-4 กิ่ง โดยเลอื กกง่ิ ทม่ี มี มุ กวา งสงู จากระดบั ดนิ ประมาณ 50 เซนตเิ มตร ไว ตนลิ้นจี่ที่ใหผลผลิตแลว การตัดแตงกิ่งชวยให ทรงพุมโปรง ดแู ลรกั ษาสะดวก ปอ งกนั การโคน ลม และชวยใหผลดกสมาํ่ เสมอทกุ ป ซง่ึ สามารถแบง ได เปน 2 ประเภท คอื 1. การตดั แตง กง่ิ ประจําปต อ งทาํ ทุกปหลังเก็บ ผลแลวโดยใหตัดก่ิงที่ฉีกหักกอน ถาก่ิงโดคาดวาไม ออกดอกอีกแลวก็ใหตัดชิดโคนก่ิงเลย สวนกิ่งท่ี ตองการใหแตกยอดใหมใ หต ดั เหลอื ไวใ หย าว ตอไปให ตัดกิ่งที่ไมแข็งแรง กง่ิ ทอ่ี ยใู นทรงพมุ ไมเ จรญิ ออกมา นอกทรงพุมกิ่งที่เปนโรค แมลงทาํ ลาย กิ่งแหงและกิ่งกระโดงโดยตัดใหชิดโคนกิ่งกระโดดโดยตัดใหชิด โคนกิ่งแลวทาแผลดวย สนี า้ํ มนั กิ่งแหงและกิ่งกระโดงโดยตัดใหชิดโคนกิ่งแลวทาแผลดวย สนี า้ํ มนั หรือ ปูนขาวหรอื ยากนั เชอ้ื รา 2. การตัดสมบูรณ ใหต ดั ไดเ ตม็ ท่ี แตถ า ตน โทรมากใหต ดั ออกเพยี งเลก็ นอ ย 2.1 ถาตนสมบูรณ ใหต ดั ไดเ ตม็ ท่ี แตถ า ตน โทรมมากใหต ดั ออกเพยี งเลก็ นอ ย 2.2 ตัดแตงดว ยความระมดั ระวงั อยา ใหก ง่ิ ช้ํา หรือกระทบกระเทือน กง่ิ ใหญค วรใชม ดี ตดั กอนแลว ใชเ ลอ่ื ยตามอกี ครง้ั เครื่องมือที่ใชในการตัดแตงกิ่ง 1. กรรไกรขนาดเลก็ และใหญ 2. เล่ือยตัดแตง กง่ิ มลี กั ษณะคลา ยคนั ธนู ใชสาํ หรบั เลอ่ื ย กิง่ ไมสดโดยเฉพาะ 3. สวิ่ ใชทาํ ใหแผลเรียบ การควบคมุ วชั พชื การควบคมุ วัชพชื ทาํ ไดหลายวิธี เชน การพรวนดนิ สาํ หรบั ตน เลก็ ๆ การคลมุ โคนตน การตดั วัชพืชใหส้ันอยเู ปน ประจาํ หรอื การใชส ารเคมคี วบคมุ วชั พชื อยา งไรกต็ าม ถา มกี ารใชว สั ดคุ ลมุ โคนตน อยูตลอดแลวจะลดปริมาณวัชพืชไดมาก สวนบริเวณในแปลงควรใชเครื่องตัดหญาเปนระยะ อยาให วัชพชื ขึ้นมากเกินไป การคลุมโคนตน ดว ยฟางขา ว หญาแหง ใบไมแหง คลมุ ใหห นา ประมาณ 8-10 เซนตเิ มตร จากโคนตนไปยังชายทรงพุม จะชว ยควบคมุ วัชพชื และรักษาความช้ืนในดนิ ไดด ี
ลิ้นจี่ 13 วัชพชื ในสวนลน้ิ จ่ี การบังคับใหลิ้นจี่ออกดอกโดยการควั่นกิ่ง การคว่ันก่ิงมวี ตั ถปุ ระสงคเ พอ่ื ชว ยใหก ง่ิ มกี ารเกบ็ สะสมอาหารมากขน้ึ ระยะท่ีเหมาะสมในการคว่ันกิ่ง คือ ชวงที่ลิ้นจี่แตกใบออน ครง้ั ท่ี 2 (ชว งเดอื นตลุ าคม) กิ่งท่ีคว่ัน ควรเปนกง่ิ ทม่ี สี ว นกลมมากทส่ี ดุ การเลอื กขนาดกง่ิ จะเลอื กตามอายลุ น้ิ จ่ี ดงั น้ี 1. อายุ 4-6 ป เลอื กกง่ิ ทม่ี ขี นาดเสน ผา ศนู ยก ลาง 1 / 2 – 2 นว้ิ 2. อายุ 7-10 ป เลอื กกง่ิ ทม่ี ขี นาดเสน ผา ศนู ยก ลาง 2-3 นว้ิ 4. อายุ 11-15 ป เลอื กกง่ิ ทม่ี ขี นาดเสน ผา ศนู ยก ลาง 3-8 นว้ิ วิธกี ารควน่ั กง่ิ ใชเลื่อยโคงเลก็ ขนาด 1 มลิ ลเิ มตร เลอ่ื ยใหท ะลเุ ปลอื กตดั เยอ่ื เจรญิ โดยรอบ แลวใชลวดทองแดงทม่ี ขี นาดเสน ผา ศนู ยก ลาง 1.5 มลิ ลเิ มตรรดั แลว ใชค มี ดงึ ขันลวดใหแ นน สนทิ กบั รอยเลอ่ื ย หลงั จากนน้ั ประมาณ 30-40 วัน สงั เกตดู จะเห็นสวนบนของรอยควน่ั จะโตกวา สว นลา งเลก็ นอ ยจงึ แกล วดมดั ออก ตําแหนง กง่ิ ทไ่ี มค วรควน่ั - ตาํ แหนงลําตน - ตาํ แหนงกิ่งใหญ ขอเสยี ของการควน่ั กง่ิ ทไ่ี มถ กู วธิ ี 1. ควั่นกิ่งที่โต หรือลําตน ทําใหก ง่ิ หรอื ตน ตายได 2. ควั่นโดยใชเลื่อยโต ผิดขนาดแผลใหญ ทําใหแผลหายไมสนิทหลังติดผลตนจะโทรม 3. ใชล วดโตเกนิ ไป ทาํ ใหเกดิ บาดแผลลกึ ตนจะโทรม 4. ชวงระยะเวลาบงั คบั นานเกนิ ไป ทาํ ใหแผลมีขนาดใหญ 5. ควั่นก่ิงขณะที่แตกใบออน ทําใหใ บไมส มบรู ณเ ปน โรคงา ย
ลิ้นจี่ 14 การหอ ผล เม่ือผลล้ินจ่ีเร่ิมเปล่ียนสีจากเขียวเปนแดงเร่ือๆ หรือเร่ิมจะแกหรือกอนเก็บเกี่ยว 20-25 วัน ควรหอ ผลใชถ งุ กระดาษหรอื ถงุ พลาสตกิ (ตดั ปลายถงุ ) หอทง้ั ชอ ผล ผูกปากถงุ กับโคนกาน ชอใหแ นน ใหผ ลทง้ั ชอ อยใู นถงุ วธิ กี ารสงั เกตผลแก เมื่อผลลิ้นจี่แก คอื หลงั จากดอกบานประมาณ 4 เดอื น หรอื สงั เกตจากขนาดผลโตเตม็ ท่ี สี ของผลจะเปล่ียนจากสีเขียวเปนสีชมพูปนแดง ไหลผลกวางออก ฐานของหนามทเ่ี ปลอื กจะขยายออก ปลายหนามแหลม รอ งหนามถา งออกเหน็ ไดช ดั เน้ือแหง กลน่ิ หอม รสหวาน เมลด็ มสี นี า้ํ ตาลเขม เปน มนั เปลี่ยนสีเตรียมหอผล หอ ผล
ลิ้นจี่ 15 การเกบ็ เกย่ี ว เครื่องมือเก็บเก่ยี ว - กรรไกร - พะองหรอื บนั ได วิธีการเกบ็ เกย่ี ว การเก็บผลผลิต ควรเก็บเกี่ยวในชวงที่แสงแดดไมจัด โดยใชพะองหรือบันไดพาดก่ิงแลวปน ข้ึนไป ใชกรรไกรตัดชอผลล้ินจ่ีพรอมท้ังถุงที่หอไมควรใชมือหัก เพราะจะทําใหเกินแผลช้ําหรือรอย ฉีกขาดในก่ิงมีผลตอการแตกใบออนในปตอไป แลวใสเขงเมื่อเต็มเขงก็จะโรยเชือกลงมาใหคนขางลาง ขนยายไป คัดขนาดและบรรจุหีบหอตอไปการเก็บเกี่ยวควรทะยอยเก็บผลผลิตที่แกพอเหมาะ ประมาณ 2-3 วนั ตอ ครง้ั อยา ใหผ ลแกจ ดั เกนิ ไป จะทาํ ใหคุณภาพตํ่า การปฏิบตั หิ ลงั การเกบ็ เกย่ี ว หลังจากเกบ็ ผลผลติ ลน้ิ จจ่ี ากตน แลว จะขนยา ยมารวมกนั ในทร่ี ม เพอ่ื ทาํ การตดั แตง ชอ ผล ตัดผลเล็ก ผลลีบ ผลแตกและผลทม่ี รี อ งรอยการทําลายของโรคแมลงออก รวมทง้ั กา นทไ่ี มม ผี ลออก ถาบรรจุงอกเปนผลเดี่ยว ๆ ใหใชกรรไกรตัดชิดขั้วผล หามใชมือปลิดเพราะจะทําใหเกิดรอยแผล ซงึ่ จะทาํ ใหเกิดโรคภายหลังได เพ่ือใหผลผลิตมีคุณภาพจึงควรคัดขนาดและคุณภาพของล้ินจ่ีสํ าหรับล้ินจ่ีท่ีสงขาย ตางประเทศไดก าํ หนดมาตราฐานได ดงั น้ี - ผลลน้ิ จข่ี นาดโต สมา่ํ เสมอ - ไมม ดี โรคและแมลง - เมลด็ เลก็ - ควรมกี า นผลไมเ กนิ รอ ยละ 20 โดยนา้ํ หนกั การเกบ็ รกั ษา การเก็บรักษาไวใหไดนาน เม่ือเก็บเก่ียวแลวตองลดอุณหภูมิโดยเร็วโดยนําไปจุมน้ําเย็น ประมาณ 10 นาที เมอ่ื ผลสะเดด็ นา้ํ นาํ ไปเกบ็ ในหอ งเยน็ การบรรจหุ บี หอ และภาชนะทใ่ี ชบ รรจุ การบรรจุล้ินจ่ีควรคดั เลอื กผลทส่ี มบรู ณแ ละมคี ณุ ภาพตามความตอ งการของตลาด บรรจุให เต็มพอดี ไมแ นน ไมห ลวมเกนิ ไป และไมค วรบรรจผุ ลเลยเหนือภาชนะท่ใี ชบ รรจุ เพราะเวลาปดฝาจะทาํ ใหล้ินจ่ีดานบนไดรับความเสียหาย เน่ืองจากแรงกดโดยตรงเม่ือวางภาชนะบรรจุซอนกันและยังกอ ใหเกิดปญหาในการวางภาชนะเรยี งซอ นกนั ทําใหภ าชนะบรรจเุ คลอ่ื นทแ่ี ละสน่ั สะเทอื นตลอดเวลาขณะ ท่ียานพาหนะเคลือ่ นท่กี อ ใหเกิดความเสียหายกบั ลน้ิ จ่ที ี่บรรจขุ างใน
ลิ้นจี่ 16 ภาชนะบรรจุหีบหอ ภาชนะท่ีใชในการบรรจุหีบหอล้ินจี่เพื่อจําหนายมีหลายชนิด คือ เขง ตะกราพลาสติกและกลองกระดาษถาพิจารณาถึงความเหมาะสมความสะดวกตอ การบรรจขุ นยา ย ขนสงดูสวยงามเปน ระเบยี บและเปน ทย่ี อมรบั กนั มาก ควรเลอื กใชก ลอ งกระดาษหรอื ตะกรา พลาสตกิ ภาชนะทีใ่ ชบ รรจหุ บี หอ โดยแบงตามตลาด ดงั น้ี - ลาดภายในประเทศ เน่ืองจากการขนสง ลน้ิ จภ่ี ายในประเทศใชเ วลา 1-2 วัน และเขง เปนภาชนะทม่ี รี าคาถกู จงึ นยิ มใชเ ขง บรรจุ โดยหลังจากเก็บเกี่ยวจะลาํ เลยี งไปคดั ขนาด ผลทเ่ี ลก็ และลีบออก แลวนํามาบรรจเุ ขง ทเ่ี อาปลายชอ ลงและวางซอ มเรยี นงนั ขน้ึ มา เมอ่ื จะเตม็ เขง จงึ ใชใ บลน้ิ จ่ี ปดหนาเอาจะเต็มเขงจึงใชใบลิ้นจี่ปดหนา เอาฝาปดแลวใชไม 2 อันขัดไว เขงท่ีใชมีขนาดกวาง 35 เซนตเิ มตร สงู 50 เซนตเิ มตร บรรจไุ ด 21-22 กโิ ลกรมั แตพ บผลรว งเปน จํานวนมาก ถาหาก เปล่ียนมาใชตะกราพลาสติกหรือกลองกระดาษอาจทําใหการขนสงทําใดสะดวกขึ้นหรือควรใชเขง ท่ีมีขนาดเลก็ บรรจลุ น้ิ จป่ี ระมาณ 10 กิโลกรัม - ตลาดตางประเทศ ภาชนะท่ีใชบรรจุมีหลายขนาดขึ้นอยูกับความตองการของผูนําเขา ตองการภาชนะประเภทไหน การบรรจุในตะกราพลาสติกกําลังเปนที่นิยมของลูกคาชาวตางประเทศ เน่ืองจากสามารถตรวจสอบคุณภาพไดงาย สะดวกตอการซื้อขายและมองดูสวยงามนาซื้อโดยบรรจุ ตะกรา ละ 10 กิโลกรัม สาํ หรับประเทศในแถบยุโรปจะใชบรรจกุ ลอ งกระดาษ เนอ่ื งจากมนี า้ํ หนักเบา ลดคาขนสงทางอากาศ โดยบรรจุกลองละ ประมาณ 15-20 กิโลกรัม โดยภายในกลองใหญ บรรจุแบงเปน กลองเล็กๆ 4 กลอ ง ขนาดของกลอ ง 40X30X10 เซนตเิ มตร นา้ํ หนักบรรจุ 5 กิโลกรัม บรรจุผลลน้ิ จท่ี ต่ี ดั แตง กา นผลออกแลว แมลงศัตรูของลิ้นจี่ ไรลน้ิ จห่ี รอื กาํ มะหย่ี ไรชนิดนี้ตัวมีขนาดเล็กมากไมสามารถมองเห็นดวยตาเปลาตัวมีขาวคลายหนอนมีขา 4 คู ทําลายพืชโดยดูดน้ําเล้ียงจากใบทําใหพืชสรางขนสีน้ําตาลข้ึนที่ผิวดานใตใบ หรือสวนของพืชบริเวณ ที่ถูกดูดกินใบพืชจะหงิกงอโปงพองขึ้นเปนกระเปาะ ผิวใบภายในกะเปาะมีขนสีนํ้าตาลข้ึนปกคลุมเปน แผนหนาคลา ยพรม ตวั ไรกจ็ ะอยบู รเิ วณกะเปาะนน้ั ไรดดู กนิ นา้ํ เลย้ี งมผี ลทําใหต น ลน้ิ จข่ี าดนา้ํ และลดพน้ื ที่ใบในการปรุงอาหารทําใหผ ลผลติ ลดลงได ไรชนดิ นจ้ี ะระบาดมากในฤดแู ลง
ลิ้นจี่ 17 การปอ งกนั กําจดั 1. ตดั ยอดใบ ทม่ี กี ารเขาทําลายของไรทาํ ลายเสยี 2. พนสารไมแทค 20% อตั รา 40 ซีซ/ี น้าํ 20 ลติ ร หรอื เดเดรก 30% ซซี ี/น้าํ 20 ลติ ร หรือ เคเทน อตั รา 30 ซีซี ตอ นา้ํ 20 ลติ ร หนอนเจาะลาํ ตน ตวั หนอนจะเจาะลาํ ตน กิ่ง ทําใหกิ่งผุและตายในที่สุด การปอ งกนั กําจดั ใชส ารเคมกี ําจัด เชน ใชม าลาไธออน ผสมน้ําหยอดรทู ีห่ นอนเจาะ แลวอุดดวยดินเหนียวทับที หนอนเจาะขว้ั ผลลน้ิ จ่ี หนอนชนิดน้ีมีขนาดลาํ ตวั ยาว 1 เซนตเิ มตร ตวั มขี าวนวลในระยะผลออ นหนอนเจาะกนิ ทเ่ี นอ้ื และเมล็ดทาํ ใหผ ลออ นรว ง เมอ่ื ผลลน้ิ จโ่ี ตขน้ึ หนอนจะกดั กนิ ทบ่ี รเิ วณขว้ั ผล ทําใหผ ลรวง การปอ งกนั กําจดั 1. เก็บผลที่รวงทาํ ลายโดยการเผา หรอื ฝง ดนิ 2. เม่ือลน้ิ จเ่ี รม่ิ ตดิ ผล พนดวยเซฟวิน 85 % WP อตั รา 45-60 กรัม/น้าํ 20 ลติ ร และเมื่อพบ มีการระบาดมากพน ดว ยกซู าไธออน 40% EC อตั รา 30 ซีซ/ี น้าํ 20 ลติ ร ผีเสอ้ื มวนหวาน ผีเส้ือชนิดนเ้ี ขา ทําลายผลไมใ นเวลากลางคนื ผีเสื้อจะเขาทาํ ลายเมอ่ื ลน้ิ จใ่ี กลจ ะเกบ็ เกย่ี วไดแ ลว โดยใชง วงปากเจาะผลและดดู นา้ํ หวานในผลลน้ิ จท่ี าํ ใหผ ลเนา และรว งได เมอ่ื ใชม อื บบี ทําผลเบา ๆ จะมี นา้ํ ออกมาจากรทู ถ่ี กู เจาะ การปอ งกนั กําจดั 1. ใชเหยื่อพิษลอ โดยใชผลไมสุก เชน สบั ปะรดจมุ สารเคมอี ตั รา 1 ชอ นชาตอ น้ํา 1 ลติ รแชไ ว นาน 5 นาที แลวนาํ ไปแขวนทต่ี น ลน้ิ จเ่ี มอ่ื ผเี สอ้ื มาดดู น้าํ หวานกจ็ ะตาย 2. จับตายแกใ นชว งเวลาทม่ี ผี เี สอ้ื ออกหากนิ คอื เวลา 20.00-22.00 น. 3. หอผลลน้ิ จใ่ี นระยะผลลน้ิ จเ่ี รม่ิ แก มวนลาํ ไย มวนลําไยหรือแมงแกง นอกจากเปนศัตรูที่สําคัญของลําไยแลวยังเขาทําลายล้ินจ่ีเชนเดยี วกัน ตัวแกของแมลงชนดิ นม้ี สี นี า้ํ ตาลตวั ออ นและตวั เตม็ วยั เขา ดดู นา้ํ เลย้ี งใบออ น ดอกและผล ทําใหด อกใบ แหง และผลรว งได
ลิ้นจี่ 18 การปอ งกนั กําจดั 1. พนสารเคมีเซฟววิ น 85% WP ในอัตรา 45-60 ซีซ/ี น้าํ 20 ลติ ร เพื่อกาํ จดั ตวั ออ นและตวั เต็มวัยในขณะที่เริ่มระบาด คอื ในชว งเดอื นกมุ ภาพนั ธถุ งึ เดอื น เมษายน ซง่ึ สามารถกาํ จดั ไดง า ย 2. จบั ไข ตวั ออ น ตวั เตม็ วยั ทําลายเม่ือพบ 3. ปลอ ยแตนเบยี นไขม วนลาํ ไย หนอนคบื กินใบ หนอนชนิดน้ีพบทําบายล้ินจ่ี ลําไย และเงาะ จะระบาดในชวงที่ลิ้นจี่แตกใบออนโดยหนอน กัดกนิ ใบลน้ิ จ่ี การปอ งกนั กําจดั เม่ือล้ินจแ่ี ตกใบออ น พน สารเคมี เซฟวิน 85% WP อตั รา 45-60 กรัม/น้าํ 20 ลติ ร ถา ระบาด มากพน อะโซดริน 60% WSC การตอนกง่ิ อตั รา 15-20 ซีซ/ี นา้ํ 20 ลติ ร โรคของลิ้นจี่ โรคราดํา เกิดจากพวกเพลี้ยทาํ ลายมากอ นแลว ถา ยมลู ไว ตอ มาทําใหเ กดิ ราดํา การปอ งกนั กําจดั ใชส ารเคมฉี ดี พน กําจดั เพลี้ย โรคกรานแดด (มวนแดด) เกิดจากใบลิ้นจี่ถูกแดดเผาเนื่องจากแดดจัดอากาศแหงในฤดูหนาวทําใหอัตราการสูญเสียน้ํา ไมไดส ดั สว นกบั นา้ํ ทม่ี อี ยใู นใบ การแกไ ขตอ งใหส วนมคี วามชน้ื โดยการใหน ้ําสม่าํ เสมอ โรคราสีชมพู เกิดตามกง่ิ โดยเฉพาะงา มกง่ิ ทาํ ใหส ว นยอดแหง ตาย การปอ งกนั กําจดั ใชยากาํ จดั เชอ้ื ราพวกคารเ บนดาซิม (เบนโนมิล) โรคราสนิม เปน ขุยสนิมเหลก็ ดา นทอ งใบ ใชยาแมนโคแซบ (ไดเทนเอ็ม 45) หรอื ไตรอาไดมฟี อน เชน ไบเลตอน 25% WP
ลิ้นจี่ 19 ปฏิทนิ การปฏบิ ตั ดิ แู ลรกั ษา • มกราคม ระยะดอกบาน - ควรใหน ํ้าอยา งสมา่ํ เสมอ ใชวัสดคุ ลมุ โคนเพือ่ ชวยรักษาความชื้น - ควรมีการพนปุยทางใบเพ่ือบํารุงชอดอก และการติดผลท่ีดี เชน ปุยสูตร 10-45-10 หรือ 10-52-17 อตั รา 20-30 ซีซ.ี ตอ นา้ํ 20 ลติ ร - ควรนําผง้ึ มาเลย้ี งในระยะนเ้ี พอ่ื ชว ยในการผสมเกสร - งดการพนสารเคมีปองกันกําจัดโรคแมลงทุกชนิดในระยะน้ี เพื่อใหแมลงมาชวย ในการผสมเกสรใหมากที่สุด • กมุ ภาพนั ธ ระยะตดิ ผลขนาดเลก็ - ระยะนต้ี อ งใหน า้ํ อยา งสมา่ํ เสมอ ถา ขาดนา้ํ จะทาํ ใหผ ลแคระแกรนและรว งมาก - ระยะติดผลขนาด 5 มิลลิเมตร ควรใสปุยเคมีสูตร 13-13-21 ประมาณ 1กิโลกรมั ตอ ตน เพอ่ื บาํ รงุ ใหผลโตอยา งสม่ําเสมอ - ระยะผลโตปานกลาง ใสป ยุ เคมสี ตู ร 13-13-21 อตั รา ประมาณ 1-3 กิโลกรัม ตอ ตน - ในระยะนอ้ี าจมกี ารระบาดของ หนอนเจาะขว้ั ผลมวนลาํ ไย ไรกาํ มะหยี่ ควรฉีดพน สารเคมอี ยา งตอ เนอ่ื ง เชน โมโนโคร โคฟอส คารบ ารลิ ไดโคฟอล • มีนาคม - เมษายน ระยะผลกาํ ลงั เจรญิ เตบิ โต - ใหน า้ํ อยา งสมา่ํ เสมอ - ใหป ยุ ทางใบเพอ่ื ชว ยใหผ ลมคี วามสมบรู ณม ากขน้ึ เชน ปุยสูตร 10-20-30 อตั รา 20-30 ซีซี ตอ นา้ํ 20 ลติ ร - กอ นเกบ็ เกย่ี วผลผลติ 30 วัน ควรใสป ยุ เคมสี ตู รตัวทา ยสงู เชน 13-13-21 เพ่ือเพม่ิ คณุ ภาพของผลติ ใหด ขี น้ึ - ระยะนผ้ี ลกาํ ลงั เจรญิ เตบิ โตขน้ึ เรอ่ื ย ๆ กง่ิ จะรบั นา้ํ หนกั มากขน้ึ ควรทาํ การคา้ํ กง่ิ ดว ย ไมไผ เพื่อชวยพยุงกิ่งไมใหฉีกหัก - เม่ือผลเรม่ิ เปลย่ี นสี หอ ผลดว ยถงุ กระดาษหรอื ถงุ พลาสตกิ เพอ่ื ปอ งกนั การทาํ ลาย ของศตั รพู ชื - ในสวนบางทองทใ่ี นระยะนอ้ี าจมกี ารรบกวนของคา งคาวควรใชต าขา ยไนลอ นกนั ตามแนวชองระหวางตน เพื่อดักจับไปทาํ ลายนอกจากนย้ี งั มผี เี สอ้ื มวนหวาน แมลงวันทอง ควรรบี ทาํ การปอ งกนั กาํ จัดโดยใชกับดัก เหย่ือพิษและฉีดสารเคมปี องกันกาํ จดั แมลง เชน คารบ ารลิ
ลิ้นจี่ 20 • พฤษภาคม ระยะเกบ็ เกย่ี วผลผลติ - ควรงดการใหน า้ํ กอ นเกบ็ เกย่ี วผลผลติ 7-10 วัน เพื่อใหผลมีคุณภาพดี - กอนข้ึนไปเก็บผลผลิตควรใชบันได หรือพะองพาดกิ่งขึ้นไป ใชกรรไกรตัดชอผล ใหลึกเขา ไปประมาณ 1 ฟุต จากปลายชอ ไมค วรใชม อื หกั ชอ ผลโดยตรง เพราะจะทาํ ใหปลายกิ่งที่เหลือ อยูเปนแผลชํ้า หรือมีรอยฉีกขาดเขาไปในกิ่ง ทําใหการแตกยอดออนใหมรวมทั้งการแทงชอดอก ในปต อ ไปไมด ดี ว ย - ควรทยอยเก็บชอผลที่แกเต็มที่แลวประมาณ 2-3 วัน ตอ ครง้ั จนหมดตนอยาใหผล แกจ ดั ตกคา งอยบู นตน นาน จะทาํ ใหคุณภาพตํ่าลง • กรกฎาคม ระยะแตกใบออน - ถาการแตกใบออ นไมส มา่ํ เสมอ หรือ แตกใบออ นเชา ควรเรง ใหแ ตกใบออ นเรว็ ขน้ึ โดยใชปุยไทโอยูเรยี อตั รา 100 – 150 กรมั ตอ นา้ํ 20 ลติ ร พนทั่วทรงพุมทั่วทรงพุม 1-2 ครง้ั หางกัน 7-10 วัน จะชว ยในการแตกใบออ นพรอ มกนั และเรว็ ขน้ึ ดว ย - ควรฉีดพนสารเคมีปองกันกําจัดโรคแมลงท่ีมีระบาดในระยะน้ี เชน ไรกํามะหยี่ หนอนเจาะกิ่ง หนอนคบื กนิ ใบออ น หนอนมว นใบ โดยใช โมโนโครโตฟอส คารบ ารลิ หรอื เคนเทน - ถา มวี ชั พชื ขน้ึ ในสวนมาก ควรทาํ การกําจัดใหหมด - ใหน ้าํ อยา งสมา่ํ เสมอ • สงิ หาคม – กนั ยายน ระยะใบแก - ถาใบมคี วามสมบรู ณต า่ํ ควรมกี ารพน ปยุ ทางใบสตู ร 30-20-10, 20-20-20 อัตรา 20-30 ซีซ.ี ตอ นา้ํ 20 ลติ ร เพอ่ื เพม่ิ ความสมบรู ณข องใบใหม ากขน้ึ - ใหน ้าํ อยา งสมา่ํ เสมอ • ตุลาคม ระยะใบแก - ควรมีการแตง กง่ิ อกี ครง้ั โดยตดั เฉพาะกง่ิ ทแ่ี ตกออกมาเปน กระจกุ กิ่งที่ไขวกัน กิ่งที่ ถกู โรคแมลงเขา ทาํ ลาย กง่ิ น้าํ คา ง - ในระยะใบแกจ ดั ควรใสป ยุ เคมตี วั กลางและตวั ทา ยสงู เชน สตู ร 9-24-24 ประมาณ 1-2 กิโลกรมั ตอ ตนั เพื่อบาํ รงุ ตน ใหม กี ารสะสมอาหาร และการสรา งตาดอกตอ ไป - หลังจากหมดฝนแลว งดการใหน า้ํ เพอ่ื ใหต น พกั ตวั เรว็ ขน้ึ - ถามีการระบาดของไรกาํ มะหยี่ หนอนเจาะกง่ิ หนอนคืบกินใบ ใชส ารเคมี เชน คารบ ารลิ โมโนโครโตฟอส
ลิ้นจี่ 21 • พฤศจกิ ายน ระยะใบแก - ในระยะนค้ี วรกาํ จัดวัชพืช และทาํ ความสะอาดสวน และใตทรงพุม แหง เร็วขึ้น - ควรพน ปยุ ทางใบสตู ร 0-52-34 อตั รา 100-150 กรัม ตอ นา้ํ 20 ลติ ร จาํ นวน 2 คร้ัง หางกนั 7-10 วัน เพ่อื ชวยใหใ บแกเ ร็วขนึ้ และชวยปอ งกนั การแตกใบออ น หากมฝี นตกในชว งน้ี - ควรพนปุยทางใบเพ่ือบํารุงใหตนมีความสมบูรณ และกระตุนการสรางตาดอก เชน ปุยสูตร 10-52-17 , 10-45-10 อตั รา 20-30 ซีซ.ี ตอ นา้ํ 20 ลติ ร - พนสารเคมปี อ งกนั โรคแมลงทม่ี รี ะบาดในระยะน้ี เชน มวนลาํ ไย หนอนเจาะกง่ิ - งดการใหน ้าํ เพอ่ื ใหต น ลน้ิ จม่ี กี ารสรา งตาดอก - คว่ันก่ิงทม่ี ขี นาดเสน ผา ศนู ยก ลางประมาณ 1.5 – 4 นว้ิ โดยใชเล่ือยขนาด 1 มิลลิเมตร แลวรดั ดว ยลวดทม่ี ขี นาดเสน ผา ศนู ยก ลาง 1.5 มลิ ลเิ มตร เพื่อชวยใหกิ่งมีการเก็บสะสม อาหารมากขน้ึ และแกม ดั ลวดออกหลงั จากนน้ั ประมาณ 30-40 วัน • ธันวาคม ระยะแทงชอดอก - เม่ือเห็นเปน ชอ ดอกแลว ควรมกี ารใหนา้ํ เลก็ นอ ยและเพม่ิ ปรมิ าณขน้ึ เรอ่ื ยๆ - ควรมีการพนปุยทางใบเพ่ือบํารุงชอดอกและการติดผลที่ดี เชน ปุยสูตร 10-45-10 หรือ 10-52-17 อตั รา 20-30 ซีซ.ี ตอ นา้ํ 20 ลติ ร การปอ งกนั กาํ จดั โรคแมลง - ระยะน้ีอาจจะมกี ารระบาดของแมลงศตั รชู อ ดอก เชน หนอนกนิ ดอก หนอนเจาะ กานดอก มวนลาํ ไย ควรทาํ การพน สารเคมเี ปน ระยะ เชน โมโนโครโตฟอส คารบ ารลิ จดั ทําเอกสารอเิ ลก็ ทรอนกิ สโ ดย : สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: