การเล้ียงโคขนุ เปนอาชีพเสริม เอกสารเผยแพร อนั ดบั ท่ี 17 ISBN 974-552-813-7 โดย รศ. ปรารถนา พฤกษะศรี ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร ความหมายและความสาํ คญั การปฏบิ ตั เิ ลย้ี งดโู คขนุ ประเภทของธรุ กจิ โคขนุ การเจรญิ เตบิ โต ลาํ ดบั ขน้ั ตอนในการดาํ เนนิ งาน ลกั ษณะโคทพ่ี รอ มสง ตลาด การจดั เตรยี มคอก ซากและเนอ้ื โคขนุ การจดั เตรยี มแปลงหญา ตลาดโคขนุ การจดั เตรยี มอาหารขน แนวโนม ของตลาดเนอ้ื โคในอนาคต การจดั หาโคมาขนุ สรปุ ขอ เสนอแนะ การจดั การกบั โคเรม่ิ ขนุ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 2 คาํ นํา การเลี้ยงโคขุนเปนอาชพี ท่ีกาํ ลงั เปน ทส่ี นใจของบคุ คลทว่ั ไป เพราะสามารถทาํ กาํ ไรให แกผูเล้ียงมากพอสมควร แตเ นอ่ื งจากโคขนุ เปน เรอ่ื งคอ นขา งใหมส ําหรับผูเลี้ยงและผูบริโภคในประเทศ ไทย ระบบตางๆ ยงั ไมเ ขา รปู เขา รอยดนี กั โดยเฉพาะอยา งยง่ิ การจดั โคเขา ขนุ และการตลาด ผเู ลย้ี งบาง รายท่ีไมไดศึกษาขอ มลู และลทู างใหถ อ งแทจ งึ มโี อกาสจะขาดทนุ ได ผเู ขยี นขอเรยี นวา ไมม จี ดุ ประสงคจ ะ ปลุกระดมหรือเรง เรา ใหท กุ คนหนั มาเลย้ี งโคขนุ เพราะขณะนย้ี งั มปี ญ หาหลายประการดงั กลา วแลว แต สําหรับผูที่คิดวาตนเองมีความพรอมที่จะเลี้ยงโคขุนได คาดวาเอกสารท่ีทานถืออยูนี้คงเปนประโยชน บางตามสมควร อยางไรก็ตาม สําหรับผูที่ยังไมพรอมการศึกษาลูทางไวลวงหนาก็นับวาไมเสียหลาย เพราะคาดวาในอนาคตอันไมไกลนัก ธุรกิจการเล้ียงโคขุนคงสามารถทําไดอยา งกวา งขวางในประเทศ ไทยอยางแนนอน (ปรารถนา พฤกษะศร)ี ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 3 การเลย้ี งโคขนุ เปน อาชพี ปรารถนา พฤกษะศร*ี ิ ความหมายและความสําคญั การเล้ียงโคท่ัวไป ตอนเชาตอนโคใหออกไปกินหญาหรือ ฟางในทุงนาหรือตามขางถนน ตอนเย็นกต็ อ นกลบั คอก เนอ่ื งจากโค ไดรับอาหารไมสมบูรณจึงเติบโตชา สามารถสงโรงฆาสัตวไดเมื่อ อายมุ ากและตอ งออกกาํ ลงั กายมากจงึ ทําใหเ นื้อเหนยี ว การเลย้ี งโคขนุ หมายถงึ การเลย้ี งโคใหเ จรญิ เตบิ โตอยา ง รวดเร็ว โดยไดรับอาหารท่ีคอนขางดีอยางเต็มท่ีในชวงระยะเวลา หนึ่ง (4-12 เดอื น) คอื นอกจากจะใหโคกินอาหารหยาบ (หญา หรือฟาง) แลว ยงั มกี ารใหอ าหารขน (อาหารผสม) เพม่ิ เตมิ อกี ดว ย ทําใหโคเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว โคจะถึงกาํ หนดเขา โรงฆา สตั วใ น ขณะทอ่ี ายยุ งั นอ ย ทําใหไ ดเ นอ้ื ทม่ี คี ณุ ภาพดแี ละขายไดร าคาดกี วา โคที่เลี้ยงโดยใหอาหารหยาบเพียงอยางเดียว หากเกษตรกรเลย้ี งโคดว ยวธิ กี ารนเ้ี พยี งครอบครวั ละ 2-4 ตัว ก็จะเปน รายไดเสรมิ ใหแกครอบครัวอีกทางหนง่ึ การเล้ียงโคขนุ ถอื เปน ธรุ กจิ อยา งหนง่ึ (ถึงแมจะเลี้ยงเพียง 2-3 ตวั ) ทง้ั นเ้ี พราะจะตอ งมกี าร ลงทุนและมีแผนงานท่ีแนนอนเพ่ือใหไดผลตอบแทนจากเงินทุนน้ัน ในระยะเวลาตามแผนท่ีกําหนด สวนการเลี้ยงโคทวั่ ๆ ไป เปรยี บเสมอื นการออมทรพั ย การเตบิ โตของโคและลกู โคทเ่ี กดิ ขน้ึ คอื ดอก เบี้ย เม่ือตองการใชเงินกข็ ายโคบางตัวออกจากฝูง ไมม กี ารวางแผนทแ่ี นน อนวา จะขายโคตวั ไหนเมอ่ื ใด ประโยชนข องการเลย้ี งโคขนุ มอี ยหู ลายประการ คอื 1. ลดการเสยี ดลุ ยก ารคา คือ เน้ือโคขุนทผ่ี ลติ ขน้ึ ในเมอื งไทยและสามารถทดแทนการสง่ั เขา เน้ือโคขุนจากตา งประเทศปล ะหลายลา นบาท 2. แกปญ หาการขาดแคลนเนอ้ื สาํ หรบั บรโิ ภคในประเทศ เพราะการเล้ยี งโคขุนทาํ ใหล ดชวง เวลาในการเลย้ี งดโู คแตล ะตวั ใหส น้ั ลง ทําใหผ ลผลติ เนอ้ื โคตอ ปม มี ากขน้ึ 3. สง เสรมิ อาชพี และเพม่ิ รายไดแ กเ กษตร ทําใหเ กษตรกรมอี าชพี เลย้ี งโคขนุ หรือเกษตรกร มีที่ทําการเพาะปลกู เปน อาชพี หลกั ยงั สามารถเลย้ี งโคขนุ เพอ่ื เสรมิ รายได นอกจากนน้ั ยงั มผี ลตอ เนอ่ื ง ไปถึงเกษตรกรผูปลูกพืชไร เชน ขาวโพด ขา วฟา ง และมนั สาํ ปะหลัง เพราะสง่ิ เหลา นใ้ี ชใ นการประกอบ สูตรอาหารขน ของโคขนุ * รองศาสตราจารย ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 4 4. ทําใหอ าชพี การเลย้ี งโคเนอ้ื เปน ระบบมากขน้ึ ผูเลี้ยงแมโ คเพื่อผลติ ลูกจะสามารถวางแผน ดําเนินงานได เพราะแนใจวาเมื่อผลิตลูกโคขึ้นมาแลวจะมีผูรับซื้อไปขุนในราคาท่ีมีมาตรฐานตามน้ํา หนักและคุณภาพของโค ไมใ ชต รี าคาดว ยสายตาและความพอใจของพอ คา เชน เดมิ ประเภทของธรุ กจิ โคขนุ อาจจะแบง ธรุ กจิ การเลย้ี งโคขนุ ไดเ ปน 3 ประเภท ดงั น้ี 1. อาชพี เสรมิ เล้ียงโคขนุ 2-10 ตวั ใชแ รงงานใน ครอบครัว ใชพื้นที่ที่มีอยูเพียงเล็กนอยเพื่อปลูกหญาแบบสวน ครัว ใชว สั ดอุ าหารสตั วท ผ่ี ลติ เองไดบ างสว น เชน ใบกระถนิ มนั สาํ ปะหลัง เปน ตน 2. อาชพี หลกั ขนาดกลาง เลย้ี งโคขนุ 20-60 ตวั ตองจา งแรงงาน 3. อาชพี หลกั ขนาดใหญ เล้ียงโคขนุ 200-300 ตวั ตอ งใชพ น้ื ทม่ี าก และตอ งใชเ ครอ่ื งทนุ แรง ในคูมือนี้จะกลาวถึงเฉพาะการเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริมเทานั้น อยา งไรกต็ ามขอ มลู บางอยา ง อาจจะดดั แปลงไปใชก บั การเลย้ี งโคขนุ เปน อาชพี หลกั ได ลาํ ดบั ขน้ั ตอนในการดาํ เนินงาน ผูท่ีจะเล้ียงโคขนุ เปน อาชพี เสรมิ ควรจะดาํ เนนิ งานตามขน้ั ตอนตอ ไปน้ี 1. ศึกษาขอมลู ความเปน ไปได กลา วคอื การเลย้ี งโคขนุ จะสาํ เร็จไดตองมีปจจัยหลักๆ ดงั น้ี ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 5 ถาทานขาดขอหนง่ึ ขอ ใดกไ็ มค วรเสย่ี งเลย้ี งโคขนุ ตามสมยั นยิ ม แตท า นควรจะเลี้ยงแมพนั ธุ เพอ่ื ผลติ ลกู โคสําหรับขายใหแกผูเลี้ยงโคขุนดีกวา 2. รวมกลุมผูสนใจ การเล้ียงโคขุนรายยอยจะทําไดดีตอเมื่อมีการรวมเปนกลุมกอน ซึ่งจะทําใหสะดวกและประหยัดในหลายๆ ดา น เชน การจดั ซอ้ื ลกู โคมาขนุ การจดั ซอ้ื อาหารและการ ดําเนนิ การเรอ่ื งตลาด เปน ตน 3. ศึกษาวิธีเลี้ยง โดยการอา นจากเอกสารตา งๆ หรอื เขา รบั การอบรม ซง่ึ หนว ยงาน ราชการตางๆ จดั ขน้ึ และทางทด่ี ีควรจะไปเยีย่ มชมกิจการของเกษตรกรทเี่ ล้ยี งโคขุนอยแู ลว 4. ติดตอตลาด ซึ่งควรจะทาํ ในนามของกลมุ 5. จัดเตรียมเงินทุน เรอ่ื งนเ้ี ปน เรอ่ื งสาํ คญั เพราะการเลย้ี งโคขนุ ตอ งลงทนุ คอ นขา งสงู และหากเงินทนุ ขาดมอื ในชว งกลางของการขนุ โค โคไมม อี าหารกนิ ตามกาํ หนด จะทาํ ใหประสบกับการ ขาดทนุ ได 6. จัดเตรียมแปลหญา ตองลงมือปลูกหญากอนท่ีจะนําโคเขาคอกขุนประมาณ 2 เดือน ในระหวา งนน้ั ควรหาลทู างเกย่ี วกบั เรอ่ื งแหลง ซอ้ื อาหารขน และแหลง ซอ้ื พนั ธโุ คไปดว ย 7. สรางคอก 8. จัดเตรยี มอาหารขน 9. ซ้ือโคเขา คอก 10.ลงมือเลย้ี งโคขุน 11.วางแผนระยะยาว กลาวคือ ใน อนาคตคาดวา มผี เู ลย้ี งโคขนุ กนั มากขน้ึ คงจะหาซื้อลูกโค มาขุนไดยากขึ้น หรือซื้อไดในราคาแพง จึงควรจะวางแผน ระยะยาว โดยหาซ้อื แมโคมาเลี้ยงไวบ า ง ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 6 การจดั เตรยี มคอก 1. คอกควรอยบู นทด่ี อนและระบายนา้ํ ไดด ี 2. พื้นที่คอก ควรมพี น้ื ทใ่ี หพ อเหมาะกบั ขนาดของตวั โค โคเล็ก (100-200 กก.) ควรมพี น้ื ทค่ี อก 6 ตารางเมตร/ตวั โคใหญ (300-400 กก.) ควรมพี น้ื ทค่ี อก 8 ตารางเมตร/ตวั 3. ควรมหี ลงั คาอยา งนอ ย 1 ใน 3 ของพน้ื ทค่ี อก 4. พื้นคอกควรเปนพื้นคอนกรีตผิวหยาบ อาจจะใชเหล็กหรือไมกวาดมือเสือครูด ผิวหนาคอนกรีตใหเปนรอย เพอ่ื ปอ งกนั โคลน่ื ลม อาจจะใชแกลบ ขก้ี บ หรอื ฟางรองพน้ื หนาประมาณ 5 เซนติเมตร กไ็ ดแ ลวแตความเหมาะสม ใชเหล็กหรือไมก วาดมอื เสอื ครดู ผวิ หนา คอนกรตี ใหเ ปน รอยปอ งกนั โคลน่ื ลม 5. กั้นคอกดวยไมไ ผห รือวัสดุอ่นื ๆ ที่มีอยูโดยกั้นเปน 4 แนว ใหแ นวบนสดุ อยเู หนอื จากพน้ื ดนิ ประมาณ 130-150 เซนตเิ มตร 6. หลงั คาทําดวยจากหรือแฝกหรือสังกะสีก็ได 7. ถา มโี คมากกวา 5 ตวั ควรจะทาํ ซองและท่ี หนีบคอ เพอ่ื สะดวกในการปฏบิ ตั งิ านตา งๆ เชน ฉดี วัคซนี ถา ย พยาธิ และฝง ฮอรโ มน เปน ตน กั้นคอกดวยไมไผเปน 4 แนว ซองหนบี คอ ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 7 8. การสรางคอกดงั กลา ว จะสรา งแบบชัว่ คราว (เสาไมไ ผ หลงั คาจาก) หรือแบบถาวร ก็ได (เสาปูน หรอื ไมเ นอ้ื แขง็ หลงั คากระเบอ้ื ง หรอื สงั กะสี) ถา สรา งแบบถาวรควรวางแผนใหส ามารถ ขยายกิจการในอนาคตได หรอื สามารถดดั แปลงใชป ระโยชนอ ยา งอน่ื ไดเ มอ่ื เลกิ เลย้ี งโค คอกโคขนุ แบบถาวร คอกโคขุนแบบชว่ั คราว 9. ถาเลี้ยงโคขุนเพียง 1-4 ตวั อาจจะดดั แปลงสรา งคอกแบบงา ยๆ ใหลงทุนถูกที่สุด เชน ใชใตถ นุ บา นเปน สว นหนง่ึ ของคอกกไ็ ดต ามความเหมาะสม 10.รางอาหารจะใชไ มห รอื อฐิ บลอ กทาํ กไ็ ด ขนาดตามภาพ หนวย : เซนตเิ มตร แบบแปลนรางอาหาร รางอาหารในบรเิ วณคอกโคขนุ ภาพแสดงหนา ตดั รางอาหาร ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 8 11.อางน้ํา จะทําอยางไรก็ไดโดยคํานวณใหพอเพียงสําหรับโคทม่ี อี ยโู ดยยดึ หลกั ดงั น้ี โค 1 ตวั กนิ น้าํ วนั ละ 20-30 ลติ ร โคกนิ หญา ตอ งการนา้ํ ประมาณ 5 เปอรเ ซน็ ตข องนา้ํ หนกั ตวั สว นโค ที่กินฟาง หรอื หญา แหง ตอ งการน้ําประมาณวนั ละ 10 เปอรเ ซน็ ตข องนา้ํ หนกั ตวั ใชร องซเี มนตข นาด เสน ผา ศนู ยก ลาง 80 เซนตเิ มตร สงู 40 เซนตเิ มตร สามารถบรรจนุ า้ํ ได 200 ลติ ร ซึ่งพอเพียงสําหรับ โค 6-8 ตวั (ถา เตมิ น้าํ วนั ละ 1 ครง้ั ) 12.ทองที่ที่มียุงชุมควรทํามงุ ดว ยตาขา ยไนลอ น ควรเลอื กชนดิ หนา กวา ง 2.5 เมตร ทํามุงคอกโคขนุ ดว ยตาขา ยไนลอ นปอ งกนั ยงุ อา งใหน า้ํ สําหรับโคขุน ผังโรงเรอื นคอกโคขนุ (1 หนว ย/โค 6 ตวั ) ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 9 การจดั เตรยี มแปลงหญา หญา ทแ่ี นะนําในกรณเี ลย้ี งโคขนุ เปน อาชพี เสรมิ คอื หญากินนี เพราะเกี่ยวงาย โตเรว็ ผลิตผลตอไรส งู และคณุ คา ทางอาหารสงู แตห ญา ชนดิ นไ้ี มเ หมาะสมสาํ หรบั ปลกู ในทล่ี มุ ซง่ึ มนี า้ํ ขงั ถา น้ําสมบรู ณต ลอดป หญา กนิ นี 1 ไร สามารถเลย้ี งโคขนุ ได 4-5 ตวั หญากินนี สามารถปลกู ดว ยเมลด็ หรือแยกกอปลูกเชนเดยี วกบั ตนตะไครก็ได แตใน กรณีปลกู แปลงเลก็ ๆ แนะนาํ ใหใชวิธีแยกกอเพราะหญาจะขึ้นสมาํ่ เสมอและเปน ระเบยี บ หญา กนิ นีธรรมดา หญากินนียักษ หญา กนิ นีมว ง วิธปี ลกู เตรียมดินเหมอื นปลกู พชื ไรช นดิ อน่ื ๆ คอื ไถ พรวน และตากดนิ ไวร ะยะหนึ่ง ขดุ หญา จากแปลงพันธุ แยกกอ ตดั ยอด และตดั รากออกบา ง ถา ยงั ไมป ลกู ในวนั นน้ั กใ็ หก องไว เอานา้ํ รดใหชุม แลวเอากระสอบคลมุ ไว วิธีปลูกแบบปกดาํ ใหต น เอยี ง 60 องศา ใหแตละหลุมมีหญา 2-3 ตน ระยะ ปลูกระหวา งแถว 75 เซนตเิ มตร ระหวา งตน 50 เซนตเิ มตร ถา ฝนไมต กตอ งรดนา้ํ ในระยะเรม่ิ ปลกู ทกุ วันเปนเวลา 1 สัปดาห รากหญา จะเรม่ิ เดนิ เรม่ิ แทงหนอ และตง้ั ตวั ได หลงั จากนน้ั ถา เปน ฤดฝู นไมจ าํ เปนตองรดน้ํา สว นในฤดแู ลง ตอ งรดน้าํ นานๆ ครง้ั ตามความเหมาะสมแตถ งึ แมจ ะไมร ดนา้ํ เลยตลอดฤดู แลง หญา กไ็ มต าย แตจ ะไมเ จรญิ งอกงาม ประมาณ 2 เดอื น หลงั จากเรม่ิ ปลกู หญาจะสงู ประมาณ 1 เมตร สามารถเกยี่ วมาใหโค กินได หญาจะแตกกอใหญขึ้นเรื่อยๆ และสามารถเกบ็ เกย่ี วไดท กุ เดอื นๆ ละ 1 ครง้ั ถา นา้ํ สมบรู ณ และ มีการบํารงุ รกั ษาดี คอื มกี ารใสป ยุ คอก และพรวนดนิ ปล ะครง้ั หญา จะใหผ ลผลติ สูงอยไู ดนบั สิบปโดยไม ตองปลูกใหม หญาแตละกอที่เกี่ยวไดจะหนักประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม เตรยี มดนิ ปลกู หญา – ไถ - พรวน ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 10 ยกรอ งปลกู กอตน กลา กนิ นีทจ่ี ะใชป ลกู ปลูกแบบปกดาํ ใหต น เอยี ง 60 องศา ปลกู หลมุ ละ 2-3 ตน ระยะปลูก 50 x 75 ซม. แลว ใหน า้ํ แปลงปลกู ใสป ุยบํารงุ การจดั เตรยี มอาหารขน อาหารขน ของโคขนุ มสี ว นประกอบหลกั ๆ คอื 1. อาหารพลงั งาน (แปง) 2. อาหารโปรตนี 3. อ่ืนๆ ไดแก เกลอื แร ไวตามนิ และสารเสรมิ ตา งๆ วัตถุดิบที่ตองใชในปริมาณมากที่สุด คืออาหารพลังงานไดแ ก ขาวโพด ขา วฟา ง ปลายขาว ราํ และมนั สาํ ปะหลัง เปน ตน การทจ่ี ะเลอื กใชช นดิ ใดนน้ั ขน้ึ อยกู บั ราคาในขณะนน้ั และความ สะดวกในการจัดหา หรืออาจจะใชหลายอยางรวมกันก็ได ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 11 อาหารโปรตีนที่นิยมใชในโคขุน คือ ใบกระถิน และยูเรีย (ปุยสูตร 46-0-0) เพราะคดิ เทยี บแลว ราคาถกู กวา ปลาปน และกากถว่ั มากคอื ยูเรีย 1 กิโลกรัมบวกกับขาวโพด 6 กิโลกรัม มีคาเทากับกากถ่ัวเหลือง 7 กิโลกรัม แตการใชยูเรียมีขอจํากัดคือ สามารถใชยูเรียไดไมเกิน 3 เปอรเซ็นตของอาหารขน และตอ งผสมใหเ ขา กนั ดี มฉิ ะนน้ั แลว ถา โคตวั ใดไดร บั ยเู รยี เขา ไปมากเกนิ ไปก็ จะถึงตายได อาหารทีม่ ยี เู รียผสมนีค้ วรใชกับโคท่มี รี ะบบกระเพาะสมบรู ณแ ลว คอื อายุ 7 เดอื นขน้ึ ไป เพราะยูเรยี จะเปน ประโยชนไ ดก ต็ อ เมอ่ื มจี ลุ นิ ทรยี ใ นกระเพาะอยา งเตม็ ทแ่ี ลว เกลือและกระดูกปน จําเปนตองมีอยูในอาหารขนอยางละประมาณ 1-2 เปอรเซ็นต ถา โคขนุ กนิ ฟางเปน อาหารหลกั ควรเพม่ิ เปลอื กหอย หรอื ปนู มารล ( แคลเซี่ยม) อกี 0.5 เปอรเ ซน็ ต ผสมอาหารขน หลายๆ ชนดิ รวมกนั ไวตามินตา งๆ สวนใหญจุลนิ ทรียใ นกระเพาะสามารถสังเคราะหข้ึนมาอยางเพยี งพอ และโคใชเปนประโยชนต อ รา งกายได ยกเวน ไวตามนิ เอ ซง่ึ รา งกายโคตอ งการในปรมิ าณคอ นขา งมาก อาจจําเปนตองเติมลงในอาหารขนบาง แตถาโคไดกินหญาสดหรือในอาหารขนท่ีมีขาวโพดและใบ กระถนิ อยูพ อควรกไ็ มจาํ เปน ตอ งเตมิ สารเสรมิ ไดแก สารเรง การเจรญิ เตบิ โต เชน รเู มนซนิ และยาปฏชิ วี นะบางชนดิ ขณะ น้ีประเทศไทยยังหาซื้อไดยาก แตใ นอนาคตเมอ่ื มกี ารเลย้ี งโคขนุ มากขน้ึ กค็ งจะไมม ปี ญ หาในการหาซอ้ื การเลี้ยงโคขุนรายยอย ควรปลูกกระถินไวต ามรมิ รว้ั เพอ่ื ใชเ ปน อาหารโปรตนี โดยไม ตอ งซอ้ื รําเปน อาหารทด่ี ี แตม ีปญหาเรือ่ งการหนื จงึ ไมค วรใชร ําเกนิ 30 เปอรเ ซน็ ตข องอาหาร ขาวโพดและขาวฟางที่ใชผสมอาหารควรบดเพียงหยาบๆ หรือเพียงบีบใหแบนยิ่งดี กากนาํ้ ตาลใหพ ลงั งานสงู แตไมควรใหเกิน 20 เปอรเ ซน็ ตใ นอาหาร เพราะจะทาํ ให ทองรว งได เนอ่ื งจากมโี ปตสั เซย่ี มอยมู าก มันสาํ ปะหลงั เปน อาหารทโ่ี คชอบกนิ มาก การผสมอาหารขน ควรนาํ เอาวตั ถดุ บิ ทใ่ี ชป รมิ าณนอ ยๆ คอื ยูเรีย เกลอื กระดูกปน ไวตามิน และสารเสรมิ ผสมกบั อาหารพลงั งาน เชน ขา วโพดหรอื ปลายขา ว เพียง 20-30 กก. จนเขา กนั ดีกอน แลว จงึ นาํ สว นผสมนไ้ี ปผสมกบั วตั ถดุ บิ อน่ื ทใ่ี ชป รมิ าณมากๆ ภายหลงั ทั้งนีเ้ พื่อใหว ตั ถุดิบทีใ่ ชใ น ปริมาณนอยๆ เหลา นน้ั ไดก ระจายอยา งทว่ั ถงึ ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 12 ตารางท่ี 1 ตัวอยา งสตู รอาหารสําหรับโคอายุ 7-12 เดอื นหรอื นา้ํ หนกั ไมเ กนิ 200 กิโลกรัม มดี งั น้ี วตั ถดุ บิ สูตรท่ี ขาวโพด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 มนั เสน ปลายขา ว 78.5 75 70 40 40 15 - - - - ราํ ละเอยี ด - - - 30 - 50 65 70 - - กากฝา ยทงั้ เปลอื ก - - - - 40 - - - 70 75 กากถั่วเหลอื ง - - 20 - - 10 - - 10 - ใบกระถินลว น - - - 10 - - 10 5 - - กากมะพราว - - 5 5 5 10 10 15 5 5 ยูเรีย กระดูกปน 16.5 10 - 10 - 10 10 5 10 15 เกลอื ปน - 10 - - 10 - - - - - กาํ มะถนั ผง % โปรตนี 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 % โภชนะยอ ยได 1 1 1 1 1 1 1.5 1.5 1.5 1.5 1 1 1 1 1 11 111 % แคลเซย่ี ม 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 % ฟอสฟอรสั 18.0 17.9 18.2 18.3 17.7 17.6 17.9 17.6 18.3 18.4 74.0 73.4 74.5 74.4 75.7 75 74 75.7 74 74 1.1 1.1 1 0.9 1.1 0.9 0.9 0.8 0.9 1.2 0.5 0.8 0.6 0.4 0.6 0.4 0.4 0.4 0.5 0.4 ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 13 ตารางท่ี 2 ตวั อยา งสตู รอาหารสําหรับโคอายุมากกวา 1 ป ขน้ึ ไป หรอื นา้ํ หนกั ไมต ่าํ กวา 200 กิโลกรัม มีดงั น้ี วตั ถดุ บิ สูตรท่ี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ขา วฟา ง - - 20 - 40 - 73 - 96 - ขา วโพด - - - 25 - 50 - 70 - 95.8 ปลายขา ว - - - - - - ---- มนั เสน 82.5 75.5 60.5 55.5 47.5 37.5 22.5 22.5 - - กากฝา ยกระเทาะเปลอื ก 13 - - - - - - - - - กากฝายท้ังเปลอื ก - 20 - - - - - - - - ใบกระถินลวน - - 15 15 8 8 - 3 - - กระดูกปน 1 1 1 1 1 1 1121 ยูเรีย 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 2.5 1.3 2.2 เกลอื ปน 1 1 1 1 1 1 1 1 0.7 1 กาํ มะถนั ผง 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 % โปรตนี 14.0 14.2 14.0 14.0 14.1 14.0 14.0 14.2 14.2 14.5 % โภชนะยอ ยได 77 73.6 75.5 75.4 75.4 75.5 76.5 76.4 76.7 76.7 .54 .55 .64 .72 .58 .74 .53 .77 1 0.5 % แคลเซย่ี ม .40 .30 .30 .25 .40 .30 .34 .34 0.6 0.4 % ฟอสฟอรสั หมายเหตุ 1. ถาตองการใชอ าหารขน รว มกบั เปลอื กสบั ปะรดควรเตมิ ปนู ขาวลงไปในอาหาร 2.5 กิโลกรัม ทุกๆ 100 กิโลกรัม ของอาหารขน เพอ่ื ลดการเปน กรด 2. “ใบกระถนิ ลว น” หมายถึง ใบแหง ซง่ึ ไดจ ากการเคาะใบออกจากกิง่ หลังจากผึ่งแดด ประมาณ 2 วัน (ไมร วมกง่ิ ) 3. “ยูเรีย” คือปุยสูตร 46-0-0 ชนิดเดียวกับท่ีใชในการปลูกพืช ในอาหาร โคสามารถใชแ ทนปลาปน และกากถว่ั ได 4. ใช “ไดแคลเซียมฟอสเฟต” แทนกระดูกปนก็ได 5. เพ่ือใหการใชป ระโยชนของยูเรยี มปี ระสทิ ธิภาพยิง่ ขึ้น ควรเตมิ กํามะถนั ผงลงในสตู ร อาหารบา งเลก็ นอ ย การจดั หาโคมาขนุ 1. โคขนุ ทดี่ คี วรมีคุณสมบัติดงั นี้ x หาซอ้ื ไดง า ยและราคาถกู ! เล้ียงดงู า ย ทนโรค ทนเห็บ ทนรอน ! เตบิ โตเรว็ ! ประสิทธิภาพการใชอาหารสูง คอื สามารถเปลย่ี นอาหารเปน เนอ้ื ไดด ี ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 14 ! คณุ ภาพซากดี คอื มเี นอ้ื มากโดยเฉพาะอยา งยง่ิ เนอ้ื ทม่ี รี าคาแพง คอื เนอ้ื สนั และเนื้อสะโพก ! เปนท่ีตองการของตลาดและไดร าคาสงู แตในความเปนจริงไมมีโคชนิดใดในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติครบถวนทุกประการ ดง ท่ีกลาวขางตน จงึ ควรพจิ ารณาขอ มลู ทจ่ี ะเสนอตอ ไปวา ควรจะเลอื กเลย้ี งโคพนั ธอุ ะไร อายเุ ทา ใด และมี สภาพเชนไร 2. พนั ธุ ประเทศไทยเปนประเทศรอน โคท่ีอยูในประเทศไทยมานานจนสามารถปรบั ตวั เขา กบั สภาพภูมิอากาศของประเทศไทยไดดีแลว เรียกวา โคพ้ืนเมือง ซ่ึงจัดวาเปนโคที่มีอยูมากท่ีสุดใน ประเทศไทย โคพน้ื เมอื งในแตล ะภาคของประเทศ จะมลี กั ษณะทแ่ี ตกตา งกนั ออกไป แตกลาวโดยสรปุ ได วา โคพน้ื เมอื งเลย้ี งงา ยมขี นาดเล็กและเตบิ โตชา ดงั นน้ั ในป พ.ศ. 2500 กรมปศสุ ตั วจ งึ ไดส ง่ั พอ พนั ธุ โคพนั ธุอ เมรกิ นั บราหม นั เขามาปรับปรุงพนั ธโุ คพน้ื เมอื งใหม ขี นาดใหญข น้ึ โตเรว็ ขน้ึ และสามารถใช งานไดดวย อีกทง้ั โคพนั ธนุ ม้ี ตี น ตระกลู ดง้ั เดมิ อยใู นประเทศอนิ เดยี ซง่ึ เปน ประเทศรอ นเหมือนประเทศ ไทย โคพันธุบราหม นั จงึ สามารถปรบั ตวั เขา กบั ภมู อิ ากาศของประเทศไทยไดอ ยา งสบาย ถงึ แมจ ะมเี ลอื ด พันธุบราหมันอยูสูงหรือแมกระทั่งเปนพันธุแท โคลกู ผสมพน้ื เมอื งบราหม นั จงึ มมี ากเปน อนั ดบั สองรอง จากโคพื้นเมือง โดยเฉพาะอยางยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โคตระกลู เมอื งรอ นพนั ธอุ น่ื กม็ อี ยใู น ประเทศไทยบาง แตไ มม ากนกั คอื พันธเุ รดซนิ ดิ ซ่ึงเปน พนั ธโุ คนม และพนั ธุฮ นิ ดบู ราซลิ ซ่ึงเลย้ี งกนั เพ่ือความสวยงาม สวนโคเน้ือตระกลู เมอื งหนาวนน้ั ไดร บั การสง เสรมิ โดย กองอํานวยการกลางรกั ษา ความปลอดภัยแหงชาติ (กรป.กลาง) ดังที่ทราบกันแลววาโคพันธุแทต ระกลู เมืองหนาวไมส ามารถทน ตอสภาพดินฟาอากาศรอนชน้ื ของประเทศไทยไดด งั นน้ั โคทม่ี สี ายเลอื ดตระกลู เมอื งหนาวทเ่ี ลย้ี งอยใู น ประเทศไทย สวนใหญจึงเปนโคลูกผสมระหวางตระกูลเมืองหนาวกับโคพื้นเมืองหรือกับพันธุบราหมัน โคตระกลู เมอื งหนาวทม่ี มี ากทส่ี ดุ คอื โคลกู ผสม พนั ธชุ ารโ รเลส รองลงมาคือ โคลูกผสม พนั ธลุ มิ ซู นิ ซึ่ง โคลูกผสมทั้ง 2 พนั ธดุ งั กลา วทม่ี เี ลอื ดเมอื งหนาวไมเ กนิ 50 เปอรเ ซน็ ต จะเลย้ี งงา ย สามารถเตบิ โตไดด ี และมีคุณภาพซากดี คอื เนอ้ื มาก และมไี ขมนั แทรกในเนอ้ื เปน ทต่ี อ งการของตลาดช้ันสงู ยง่ิ ถา เปน ลกู ผสมจากพอพันธุแทของ 2 พนั ธนุ ก้ี บั แมท ม่ี เี ลอื ดบราหม นั ดว ยแลว จะเตบิ โตดมี าก ถาจะเปรียบเทียบ ระหวางพันธุชารโรเลส กบั พนั ธลุ มิ ซู นิ พอจะกลาวไดวา พนั ธชุ ารโ รเลสเ ตบิ โตดกี วา และมขี นาดใหญก วา แตพันธลุ มิ ซู นิ มคี ณุ ภาพซากดกี วา ลูกโคนมเพศผซู งึ่ สว นใหญเ ปน พันธโุ ฮลสไตน (ขาว-ดาํ ) กส็ ามารถ นํามาขนุ ไดถ งึ แมจ ะใหค ณุ ภาพซากไมด นี กั (คอื สว นสะโพกเลก็ และพอ คา ตาํ หนวิ า เนอ้ื เหลว) แตก็มี อัตราการเจริญเติบโตไมแพโคเนื้อ อยางไรก็ตามเนื่องจากลูกโคนมสวนใหญมีเลือดของโคเมืองหนาว (โฮลสไตน) อยูสูงมาก จึงทาํ ใหเ ลย้ี งดยู าก ดงั นน้ั ถา จะซอ้ื ลกู โคนมมาเลย้ี งควรจะเลอื กทม่ี เี ลอื ดโคนม ไมสูงนักหรอื ถา ไดล กู ผสมระหวา งพนั ธบุ ราหม นั กบั โคนมกย็ ง่ิ ดี เพ่ือใหเปรียบเทียบคุณสมบัติโคแตละพันธุและระดับสายเลือดไดชัดเจนย่ิงข้ึน จึงได สรุปขอมลู ไวใ นตารางท่ี 3 ขอมูลเหลานไ้ี ดจ ากประสบการณ การสงั เกตและการสอบถามผมู ปี ระสบ การณ มีเพียงสว นนอ ยเทา นน้ั ทไ่ี ดจ ากรายงานผลการวจิ ยั และเปน ขอ มลู ในชว งเวลาป 2529-2530 เทานั้น ดังน้ันขอมูลเหลานี้อาจจะตองเปล่ียนแปลงไปบา งในอนาคต แตถ าจะกลา วโดยสรปุ ในสถาน ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 15 การณข องปจ จบุ ันน้ี โคลูกผสมบราหม นั ถงึ แมจ ะไมใ ชโ คทด่ี ที ส่ี ดุ ในการขนุ แตก น็ ับวา เปน โคที่เหมาะสม ท่ีสุด เพราะหาซอ้ื ไดไ มย ากนกั ราคาไมแ พงนกั โตดพี อสมควร และเลย้ี งดกู ไ็ มย ากนกั ตารางท่ี 3 คุณสมบัตขิ องโคพนั ธตุ า งๆ ในสภาพภูมอิ ากาศประเทศไทย (ป 2529-2530) 100 พ. 50 พ, 50 บ 25 พ, 75 บ 100 บ 50 พ, 50 ช 25 พ, 75 ช 50 พ, 75 ล 25 พ, 75 ล 25 พ, 25 บ, 50 ช 25 พ, 50 บ, 25 ล 25 พ, 50 บ, 25 ช 25 พ, 50 บ, 25 ล 50 พ, 50 ข 25 พ, 75 ข 12.5 พ, 87.5 ข 25 พ, 25 บ, 50 ข 50 บ, 50 ข 50 พ, 50 ฮ 25 พ, 75 ฮ 100 ฮ หาซอ้ื ไดง า ย 10 8 7 3 3 1 2 1 1 1 2 3 3 2 2 1 1 (มจี าํ นวนมาก) ราคาถูก (กอ นขนุ ) 10 8 7 5 6 6 6 6 5 5 10 10 10 8 3 2 1 เลย้ี งดงู า ย 10 10 9 8 9 2 9 4 9 9 9 4 3 9 10 8 7 โตเร็ว 3 6 7 8 7 3 6 6 9 9 6 7 6 7 6 7 8 ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ก า ร 5 6 7 8 7 3 7 7 9 9 6 7 6 7 6 7 8 ใชอาหารสูง คณุ ภาพซากดี 56668899885555666 เปนท่ีตองการของ 1 1 1 1 10 10 10 10 10 8 1 1 1 1 1 1 1 ตลาดชั้นสูง เ ป น ท่ี ต องการของ 3 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 ตลาดชั้นกลาง เปนที่ตองการของ 10 8 8 8 8 8 8 8 8 8 7 7 7 7 8 8 8 ตลาดพ้ืนบาน (วัว มนั ) หมายเหตุ พ. = พน้ื เมอื ง ช = ชารโ รเลส ข = ขาว-ดาํ (โฮลสไตน) บ = บราหม นั ล = ลมิ ซู นิ ฮ = ฮนิ ดบู ราซลิ การใหค ะแนน ดมี าก : 9-10 ดี : 7-8 ปานกลาง : 5-6 พอใช : 3-4 เลว : 1-2 ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 16 เปรยี บเทยี บโคกอนขุนและหลังขุน กอ นขนุ หลังขุน พันธุล ูกผสมพื้นเมือง x บราหม นั เหมาะท่ีสดุ สาํ หรบั ขนุ เพราะเตบิ โตดพี อควร ราคาพอประมาณและหาซอ้ื ไดไ มย าก พันธุพื้นเมือง โคพันธุพื้นเมืองหลังขนุ อว นพอประมาณ พันธุลูกผสมพื้นเมือง x ลมิ ซู นิ โตดพี อประมาณ แตร าคาสงู หาซอ้ื ยาก ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 17 พันธุล ูกผสมพื้นเมือง x ชารโรเลส โตดีพอประมาณ แตร าคาสงู และหาซื้อยาก พันธุลูกผสมพื้นเมือง x บราหมัน x ชารโรเลส โตดีมาก แตราคาแพง และหาซื้อยาก 3. เพศ 3.1 ประเทศไทยมีกฎหมายหามฆาโคเพศเมีย นอกจากจะไดรับคํารับรองจาก สัตวแพทยวาไมสามารถใหลูกได (เปน หมนั ) การขุนโคเพศเมียจึงทําไดยาก 3.2 โครุนเพศผูไมตอนจะมีอัตราการเจริญเติบโตตอวันสูงกวาโครุนเพศผูตอน ประมาณ 5-10 เปอรเ ซน็ ต และมีประสิทธิภาพการใชอ าหารสูงกวา ประมาณ 3-5 เปอรเ ซน็ ต ทง้ั น้ี เพราะฮอรโ มนจากลกู อณั ฑะเปน ตวั เรง การเจรญิ เตบิ โต 3.3 โครุนเพศผูตอนจะมีอัตราการเจริญเติบโตตอวันสูงกวาโครุน เพศเมีย ประมาณ 10-15 เปอรเ ซน็ ต และมีประสิทธิภาพการใชอาหารสูงกวา 5-10 เปอรเ ซน็ ต 3.4 โครุนเพศเมียจะโตเต็มที่ (เรม่ิ สะสมไขมนั ) กอ นโครนุ เพศผปู ระมาณ 30-40 วัน จึงสามารถสง ตลาดไดเรว็ กวา แตอ าจจะไมเ ปน ทต่ี อ งการของตลาด เพราะมขี นาดซากเลก็ 3.5 ราคาโครนุ เพศเมยี ทจ่ี ะซอ้ื มาขนุ (ไมใชโคพันธ)ุ มักจะถูกกวาโครุนเพศผู แต เม่ือขนุ เสรจ็ แลว กม็ กั จะไดร าคาตา่ํ กวา โครนุ เพศผูเชนกนั 3.6 โคเพศเมียมปี ญ หาเรอ่ื งการเปน สดั และการทอ งในขณะขนุ ซง่ึ สามารถแกไ ขได ดวยการตอน แตก ารตอนโคเพศเมยี คอ นขา งจะยงุ ยาก และเปน การเสย่ี งพอสมควร ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 18 3.7 โคเพศเมียมีคุณภาพซากและเปอรเ ซ็นตซ ากต่ํากวา โคเพศผเู ลก็ นอ ย 3.8 ตลาดเนื้อชั้นสูงในกรุงเทพฯ ตอ งการเนอ้ื ทม่ี ไี ขมนั แทรก ดงั นน้ั จงึ ไมส ามารถใชโ ค เพศผทู ไ่ี มต อนได 3.9 ตลาดเน้ือพ้ืนบานทว่ั ไปตอ งการเนอ้ื ทม่ี ไี ขมนั หมุ ซากหนาๆ และไขมนั มสี เี หลอื ง เขม จงึ นยิ มซอ้ื โคเพศผตู อนหรอื โคเพศเมยี ทม่ี อี ายมุ าก (เรียกวา “วัวมัน”) โดยใหราคาสูงกวาโคเพศผู ไมต อน 3.10 ตลาดเนอ้ื ทใ่ี ชเ นอ้ื สาํ หรับทาํ ลกู ชน้ิ ตอ งการเนอ้ื ทไ่ี มม มี นั และสเี ขม จึงนิยมใชโค เพศผไู มต อน 3.11 ตลาดมาเลเซยี ซึ่งพอคาไทยสงโคมีชีวิตผานชายแดนเขาไปจําหนา ย จะมคี วาม ตองการโคเพศผไู มต อน 3.12 การขนุ โคเพศผไู มต อนแบบขงั รวมกัน คอกละหลายตวั จะมปี ญ หาเรอ่ื งการขวดิ กัน 4. อายุ มขี อความคาํ นงึ ดงั น้ี 4.1 ถาลูกโครับอาหารอยางดีเต็มที่มาตั้งแตแรกคลอดอยางตอเน่อื ง อตั ราการ เจริญเติบโตตอวนั จะเพม่ิ ขน้ึ เรอ่ื ยๆ และจะสงู สดุ เมอ่ื อายปุ ระมาณ 1 ป แลวคอยๆ ลดลงเรอ่ื ยๆ จนถงึ อายเุ ตม็ วยั (4-5 ป) อัตราการเจรญิ เตบิ โตจะเปน ลบ หรอื นา้ํ หนกั ตวั จะเรม่ิ ลดลง ดงั นน้ั ถา จะนําโคที่ อว นแลว มาขุนกค็ วรจะเลอื กลกู โคทอ่ี ายไุ มเ กนิ 1 ป แตถาหากวาโคท่จี ะนํามาขนุ นน้ั อยใู นสภาพผอม (แตสุขภาพดีไมแคระแกรน) โคอายุ 2 ป จะมอี ตั ราการเจรญิ เตบิ โตตอ วนั สงู กวา โค 1 ปและโค 1 ป มอี ตั ราการเจรญิ เตบิ โตตอ วนั สงู กวา โคหยา นม อยางไรก็ตาม เมอ่ื คดิ ถงึ คา ทางเศรษฐกจิ แลว มใิ ชว า โค 2 ป ซง่ึ มอี ตั ราการเจรญิ เตบิ โต ตอวันสูงนั้นจะดีกวาโคหยานม เพราะโค 2 ป จะกนิ อาหารมากกวา โคหยา นมในการเปลย่ี นเปน นา้ํ หนกั ตวั 1 กิโลกรัมเทากัน (ประสิทธิภาพการใชอาหารดอ ยกวา โคหยา นม) ดงั นน้ั คา อตั ราการเจรญิ เตบิ โต ตอวันจึงไมไดเปนปจจัยท่ีสําคัญนัก ในแงของกําไรหรือขาดทุนในการเล้ียงโคขุนอาจจะใชไดเพียงเพอื่ ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 19 เปรียบเทียบในระหวางโคที่มีอายุและขนาดเทากันเทาน้ัน สวนประสิทธิภาพการใชอาหารนับวาเปน สาเหตุท่ีสําคญั ยง่ิ ในความสาํ เรจ็ ของกจิ การ และสามารถใชป ระกอบการตดั สนิ ใจวา ควรเลอื กโคประเภท ใดมาขนุ 4.2 ถาความแตกตา งของราคาระหวา งโคกอ นขนุ กบั โคหลงั ขนุ มมี าก ควรจะขุนโค ใหญ แตถา ลกู โคกอ นขนุ มรี าคาสงู ควรจะขนุ ตง้ั แตอ ายยุ งั นอ ย เพื่อประหยัดเงินคาตัวโคแตหวังกาํ ไรจาก การเจริญเติบโต 4.3 ถาอาหารขน มรี าคาถกู ควรขนุ โคตง้ั แตอ ายยุ งั นอ ย แตถ า อาหารขนราคาแพง ควรจะขนุ โคใหญเ พอ่ื ลดระยะเวลาขนุ 4.4 การขุนโคอายนุ อ ยตอ งใชเ วลามากกวา การขนุ โคใหญ โคหยานม ใชเ วลาขนุ ประมาณ 10 เดอื น โค 1 ป ใชเ วลาขนุ ประมาณ 8 เดอื น โค 1 ½ ป ใชเ วลาขนุ ประมาณ 6 เดอื น โค 2 ป ใชเ วลาขนุ ประมาณ 4 เดอื น โคเต็มวัย ใชเ วลาขนุ ประมาณ 3 เดอื น ดงั นั้น ถาตลาดระยะสั้นดี หรือตองการผลตอบแทนเรว็ กค็ วรขนุ โคใหญ แตถา ตลาดระยะยาวดหี รอื ตลาดยงั ไมแ นน อนควรขนุ โคเลก็ เพื่อยืดเวลาและโคจะเจริญเติบโตไปเรื่อยๆ สวน โคใหญจะประวงิ เวลาไมไ ดเ พราะระยะหลงั ๆ ของการขนุ โคใหญจ ะโตชา มาก 4.5 โคเล็กตองการอาหารทม่ี โี ปรตนี สงู และอาหารหยาบคณุ ภาพดี ดงั นน้ั ถา มหี ญา สดคุณภาพสูงกส็ ามารถขนุ โคเลก็ ได แตถา มีฟางเพียงอยางเดยี วกค็ วรขุนโคใหญ 4.6 ถาผูเ ลยี้ งยังมปี ระสบการณน อยกค็ วรจะขุนโคใหญ เพราะโคใหญมีปญหาใน การเลย้ี งดนู อ ยกวา โคเลก็ 4.7 ถาจะผลิตเนอ้ื โคขนุ สง ตลาดชน้ั สงู โคท่ขี นุ เสร็จแลวไมควรจะมอี ายุเกนิ 3 ป 4.8 ถาจะผลิต “ววั มนั ” สง ตลาดธรรมดา ควรจะเลอื กโคเตม็ วยั มาขนุ เพื่อจะไดมี ไขมันมากและสเี หลอื ง 5. สภาพ โคที่จะซื้อมาขุนที่มีสภาพตางๆ กัน เชน อว นสมบรู ณ ผอมแตไ มแ คระแกรน และผอมแคระ แกรน จะไดผลตอบแทนตา งกนั กลา วคอื โคทอ่ี ยใู นลกั ษณะผอมเพราะขาดอาหารมาระยะหนง่ึ แตไ มถ งึ กับแคระแกรนจะมีอัตราการเจริญเติบโตและประสิทธิภาพการใชอาหารดีกวาโคที่เคยไดรับอาหาร สมบูรณมาตลอด เรยี กการเตบิ โตอยา งรวดเรว็ ลกั ษณะนว้ี า “การเติบโตชดเชย” ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 20 โคเล็กกอ นขนุ ตอ งอยใู นสภาพทส่ี มบรู ณ โคใหญก อ นขนุ ไมจาํ เปน ตอ งอว นสมบรู ณ ดงั น้ันการเลือกโคประเภทนม้ี าขนุ ยอ มไดก าํ ไรดี เพราะนอกจากมกี ารเติบโตชดเชยแลว ราคาโค กอนขุนก็ถูกดวย การทโ่ี คไดร บั อาหารนอ ยมาระยะหนง่ึ นน้ั รา งกายจะไมม กี ารสรา งกลา มเนอ้ื เพม่ิ ขน้ั แต โครงรางหรือกระดูกยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมอ่ื ไดร บั อาหารดภี ายหลงั กจ็ ะเพม่ิ นา้ํ หนกั ตวั ไดอ ยา งรวดเรว็ ดงั ท่ีไดกลาวในเรื่องพันธุแลววา โคพ้ืนเมืองมีอัตราการเจรญิ เติบโตตํ่ามากจนไมค มุ คา ตอ การ ลงทุนขุน แตถา หากเปน โคพน้ื เมอื งทม่ี ขี นาดใหญแ ลว แตอ ยใู นสภาพผอม (เชน โคงาน) เมอ่ื นํามาขนุ ก็ สามารถเพ่ิมนา้ํ หนกั ไดอ ยา งรวดเรว็ เชน กนั และเปน ทต่ี อ งการของตลาด “ววั มนั ” 6. การคัดเลือกโคจากลกั ษณะภายนอก เม่ือสามารถตดั สนิ ใจไดแ ลว วา จะเลอื กโคพนั ธุ เพศ วัย และสภาพอยา งไรมาเลย้ี งแลว ถา มี โอกาสคัดเลือกเพียงบางตัวมาจากกลุมโคประเภทเดียวกันมีหลกั ในการพิจารณาจากลักษณะภายนอก ไดด งั น้ี 6.1 เลือกโคที่มีกระดูกใหญ ซึ่งกระดูกที่สังเกตและเปรียบเทียบไดงายที่สุด คอื กระดกู แขง็ อันท่ีจริงกระดกู มรี าคาต่ํากวา เนอ้ื มาก แตจ ากผลงานวจิ ยั ยนื ยนั วาโคทีม่ กี ระดกู ใหญจะมอี ัตราการเจริญ เติบโตและประสิทธิภาพการใชอาหารดกี วาโคที่มีกระดูกใหญจะมีอัตราการเจริญเติบโตและประสิทธิ ภาพการใชอาหารดกี วา โคกระดกู เลก็ เมอ่ื ขนุ จนอว นแลว พบวา ขนาดของกระดกู มคี วามสมั พนั ธท างบวก กับปริมาณเนื้อ คอื โคทม่ี กี ระดกู ใหญจ ะมโี ครงรา งใหญแ ละมเี นอ้ื มากดว ย เพราะกระดูกเปนที่ยืดเกาะ ของกลามเนื้อ การเพม่ิ นา้ํ หนกั ของกระดกู เมอ่ื คดิ เปน เปอรเ ซน็ ตแ ลว จะนอ ยมากเมอ่ื เทยี บกบั การเพม่ิ น้ํา หนักเนอ้ื ของโคทก่ี ระดกู ใหญน น้ั 6.2 ระยะหา งระหวา งกระดกู กน กบ และระยะหา งระหวา งกระดกู เชงิ กรานมาก ซง่ึ แสดงวา โคตัวนีจ้ ะมสี ะโพกหนา 6.3 กระดูกกนกบอยหู า งจากกระดกู เชิงกราน ซง่ึ แสดงวา โคตวั นม้ี ีสวนของสะโพกยาวจาก ขอ 2 และ 3 ทําใหโ คตวั นม้ี เี นอ้ื สว นทา ยมาก (ซึ่งมีราคาแพง) 6.4 สวนของลาํ ตวั ยาว แตไ มต อ งลกึ มากนกั เพราะครง่ึ ลา งของลาํ ตวั โคจะมเี นอ้ื นอ ยและ ราคาตา่ํ ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 21 การจดั การกบั โคเรม่ิ ขนุ เม่ือโคเขา มาอยใู นคอกขนุ ใหมๆ ควรปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1) มนี ้ําสะอาดใหโ คกนิ ตลอดเวลา 2) ใหโคกินอาหารชนดิ เดยี วกบั ทโ่ี คเคยกนิ เปน เวลา 1-2 วัน เชน ถา กอ นซอ้ื โคเคย กินฟาง ก็ควรใหโคกินฟาง หรือหญาแหง ไมควรใหกินหญาสดทันทีทันใด 3) เม่ือโคเร่ิมหายเครยี ดเรม่ิ คนุ เคยกบั คอก คอื ประมาณวนั ที่ 2-3 จงึ เรม่ิ ฝก ใหก นิ อาหารขนโดยใหจาํ นวนนอ ยๆ กอ น หมน่ั สงั เกตวา โคมอี าการผดิ ปกตหิ รอื ไม เชน ทอ งอดื ยืนซึม ไม เค้ียวเอื้อง เปน ตน ถา โคปกตดิ กี เ็ พม่ิ อาหารขน ใหอ กี ในวนั ท่ี 5-6 และเพม่ิ ขน้ึ เรอ่ื ยๆ จนกระทั่งถึง ปริมาณทต่ี อ งการในวนั ท่ี 14-15 (ดตู ารางท่ี 3) 4) ใหยาถายพยาธิตัวกลมและพยาธิใบไม ยาถา ยพยาธมิ ขี ายในทอ งตลาดหลายชนดิ ควรขอคําแนะนําจากปศสุ ตั วอ ําเภอ 5) ฉีดวัคซีนปองกันโรคระบาด ซง่ึ ในแตล ะทอ งทอ่ี าจจะไมเ หมอื นกนั แตโรคที่สําคัญๆ คือโรคปากและเทา เปอย 3 ชนิด กับโรคเฮโมรายิกเซฟติกซีเมีย (โรคคอบวม) รายละเอียดควรปรึกษา ปศสุ ตั วอ าํ เภอ 6) ถา โคมีเห็บมากควรใชย าฆา เหบ็ พน บนตวั โคเพยี งครง้ั เดยี ว เชน อาชุนโทนหรือเซฟ วิน รายละเอยี ดอา นไดจ ากสลากยา 7) ถาจําเปนตองตอนโค (เพราะความตอ งการของตลาด) กค็ วรตอนในระยะเรม่ิ ขนุ น้ี การตอนควรใชคมี ตอน (เบอรด ซี โซ) หรอื เครอ่ื งมอื ตอนโค “กาํแพงแสน ” ไมควรใชวิธีทุบแบบพื้นบาน เพราะจะทําใหโคบอบชํา้ มาก 8) ฝงฮอรโมนเรงการเจริญเติบโตใตใบหู แตจะไมฝงก็ได จากรายงานวิจัยพบวาการฝง ฮอรโมนทําใหอ ตั ราการเจรญิ เตบิ โตของโคเพม่ิ ขน้ึ ประมาณ 12 เปอรเ ซน็ ต ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 22 การตอนโคดว ยเครอ่ื งมอื ตอนโค “กาํแพงแสน ” การตอนโคดว ยคมี ตอนโค “เบอรด ซี โซ” ฝงฮอรโมนใตใบหู อาบน้ําใหโ คในวนั ทอ่ี ากาศรอ นมาก การปฏบิ ตั เิ ลย้ี งดโู คขนุ 1. ใหโ คอยใู นคอกตลอดเวลาหรอื ถา เลย้ี งเพยี ง 2-3 ตวั อาจจะจงู โคมาผกู ลา มใตร ม ไมใ กลๆ คอกบา งกไ็ ด ไมน ยิ มปลอ ยโคลงไปแทะเลม็ หญาในแปลง เพราะทาํ ใหโ คตอ งเสยี พลงั งานมาก และทาํ ให หญาเส่ือมโทรมดว ย อยา งไรกต็ ามถา จะเลย้ี งโคโดยวธิ ปี ลอ ยใหก นิ หญา ในแปลงกไ็ ด แตต อ งพยายามไม ใหโคตอ งเดนิ มากและไมค วรใหแ ทะเลม็ ขณะแดดรอ นจดั 2. ใหโคกินอาหารขน วนั ละ 1 หรือ 2 ครง้ั หรือ 3 ครง้ั ในเวลาใดกไ็ ดแ ตต อ งใหเ หมอื นกนั ทกุ วันอยางสมาํ่ เสมอ ปรมิ าณอาหารตอ ตวั ตอ วนั เปน ดงั น้ี ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 23 ปริมาณอาหารขน (กก.) ทใ่ี หเ มอ่ื เลย้ี งรว มกบั นน.โค (กก.) ฟางหรอื ยอดออ ย หญาสดหรอื ตน ขา วโพดออ น เปลอื กสบั ปะรด 100 2.5 2.0 1.5 150 3.0 2.5 2.0 200 3.5 3.0 2.5 250 4.0 3.5 3.0 300 4.5 4.0 3.5 350 5.5 5.0 4.0 400 6.5 6.0 5.0 450 7.5 7.0 6.0 หมายเหตุ ถา ใหเ ปลอื กสบั ปะรดบวกฟาง ตอ งใหอ าหารขน เทา กบั เมอ่ื ใหห ญา สด 3. ใหโคกินอาหารหยาบ เชนหญา หรอื ฟางหรอื ตน ขา วโพดหรอื ยอดออ ยหรอื เปลอื กสบั ปะรด อยา งเตม็ ท่ี 4. มนี า้ํ สะอาด (น้าํ บอ กใ็ ชไ ด) ใหโ คตลอดเวลา 5. เปล่ียนวสั ดรุ องพน้ื คอกเมอ่ื เหน็ วา ชน้ื แฉะ 6. ถา อากาศรอ นมากควรฉดี นา้ํ หรอื อาบนา้ํ ใหโคบาง 7. หม่ันสังเกตพฤตกิ รรมปกตขิ องโคแตล ะตวั ถาเห็นวาโคตัวใดมีอาการผิดไปจากปกติแสดง วาอาจจะไมคอยสบาย ตองหาสาเหตุและรีบแกไข หรือรีบปรึกษาสัตวแพทย การเจริญเติบโต 1. โคจะเจรญิ เตบิ โตวนั ละ 0.6-1.2 กโิ ลกรมั ตอ วนั ท้งั นี้ขน้ึ อยกู ับปจ จยั หลายอยา ง ไดแก พันธุ เพศ คุณภาพอาหาร และการเอาใจใสเ ลย้ี งดู 2. การเสียดายอาหารขนโดยใหนอยกวาท่ีกําหนดจะทําใหโคเติบโตชาตองใชระยะเวลานาน จงึ จะถึงกาํ หนดสง ตลาด ซึ่งมีผลทาํ ใหขาดทุนหรือกําไรนอ ยลง 3. ระยะแรกของการขนุ โคจะเจริญเติบโตดีกวาระยะปลาย 4. สามารถประมาณการเจริญเติบโตของโคได โดยการวดั รอบอกโคเดอื นละครง้ั โดยใชส ายวดั ตดั เสอ้ื 2 เสน ตอ กัน วัดรอบอกโคบรเิ วณซอกขาหนา ใหสายวัดตึง พอดีจะทาํ ใหข นราบตดิ ผวิ หนงั ในระยะเพง่ิ ขุนใหมๆ (โค ยังผอมอย)ู รอบอกเพม่ิ ขน้ึ 1 เซนตเิ มตรเทา กบั น้าํ หนกั เพิ่มขึ้นประมาณ 5 กก. แตเม่ือโคอวนมากแลว 1 เซนตเิ มตรมคี า เทา กบั ประมาณ 8 กิโลกรัม การวดั รอบอกโคเพอ่ื ประมาณนา้ํ หนกั ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 24 ลกั ษณะโคทพ่ี รอ มสง ตลาด 1. เมื่อกลามเนื้อของโคเจริญเกือบเต็มที่หรือเต็มที่แลว รา งกายโคจะเรม่ิ สะสมไขมนั แทรกอยู ในกลามเน้ือและหมุ อยนู อกกลา มเนอ้ื (ใตผ วิ หนงั ) จุดที่สังเกตไดชัดจากภายนอก คอื บรเิ วณ 2 ขา ง ของโคนหาง ถา ไขมนั ตรงจดุ นน้ั ขน้ึ มาพอสมควรแลว แสดงวา โคถงึ กาํ หนดสงตลาดแลว ถา หากยงั ชะลอ ตอไปกาํ ไรจะคอยๆ ลดลง เพราะระยะนน้ี า้ํ หนกั โคจะเพม่ิ นอ ยมากในขณะทต่ี อ งกนิ อาหารมาก 2. ถา จะสงตลาดที่ไมเขมงวดเรื่องไขมันควรจะรีบสงตลาดตั้งแตโคอวนเต็มท่ีโดยท่ีไขมันยังไม ข้ึนมาใหเห็น โคถึงกําหนดสง ตลาด เมอ่ื สงั เกตเหน็ ไขมนั บรเิ วณ 2 ขา งโคนหาง ซากและเนือ้ โคขุน 1. ควรใหโ คอดอาหาร 20-24 ชว่ั โมงกอ นฆา (กนิ นา้ํ ได) 2. ซากสดหมายถึงส่ิงทไ่ี ดห ลังจากฆาโคแลวตัดเอาหัว หนา แขง็ หนงั และเครอ่ื งในออกไปแลว ในโรงฆาสัตวใหญๆ ทั่วไปจะแบงซากออกเปน 4 ชิ้น โดยผาซีกซาก แลว ตดั ครง่ึ แตละซีกทร่ี ะหวางซ่ี โครงที่ 12 กับ 13 เรียกภาษาชาวบานวา “ผาซีก” 3. โดยปกติโคขนุ จะไดซ ากสดประมาณ 58-61 เปอรเ ซน็ ตข องนา้ํ หนกั มชี วี ติ กอ นฆา ซง่ึ ขน้ึ อยู กับพันธุ ขนาด และความอว นของโค โคทม่ี ขี นาดใหญแ ละอว นจะมเี ปอรเ ซน็ ตซ ากสงู 4. เม่ือเอาซากไปแชใ นหองเยน็ 3 องศาเซลเซยี ส เปน เวลา 48 ชั่วโมง น้าํ หนกั ซากจะลดลง อีกประมาณ 3 เปอรเ ซน็ ต เรียกวา “ซากเยน็ ” ซง่ึ ตลาดชน้ั สงู ซอ้ื ขายกนั ดว ยนา้ํ หนักซากแบบนี้ 5. ซากโคขุนท่ีดีควรมไี ขมนั หุมตัว วดั ทก่ี ลางหลงั ไดห นาประมาณ 1-2 เซนตเิ มตร 6. โคขุนท่ีดีควรมไี ขมนั แทรกอยใู นเนอ้ื เพอ่ื ใหเ นอ้ื มคี วามชมุ ฉ่ํา บรเิ วณทส่ี งั เกตไขมนั แทรกได ชัดคือที่หนาตัดเนื้อสันเมื่อผาสี่ อยางไรก็ตามปจจุบันน้ีตลาดเนื้อในตางประเทศไดลดความสําคัญใน เร่ืองนี้ลงมาก เพราะกลวั เรอ่ื งไขมนั อดุ ตนั เสน เลอื ดผบู รโิ ภค ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 25 เน้ือโคขนุ มไี ขมนั แทรก ตลาดโคขุน 1. ตลาดเนอ้ื คณุ ภาพสงู ตลาดประเภทนม้ี อี ยเู ฉพาะในเมอื งใหญๆ ทม่ี ชี าวตา งประเทศเดนิ ทางมาทอ งเทย่ี ว หรือคน ไทยทมี่ ีรายไดสูง เนอ้ื ประเภทนใ้ี ชป ระกอบอาหารในโรงแรมหรอื ภตั ตาคารใหญๆ และวางขายตามหา ง สรรพสินคาบางแหง เนอ้ื คณุ ภาพสงู นย้ี งั แบง ออกเปน 2 ระดบั ซง่ึ มขี อ มลู ในแตล ะระดบั ดงั น้ี 1.1 ระดับ 1 - เปนโคท่ีมีเลือดโคเนอ้ื ตระกลู เมอื งหนาว เชน ลกู ผสมชารโ รเลส และลกู ผสมลิมซู นิ เปน ตน - เน้ือตองมไี ขมนั แทรกในเนอ้ื ระดบั สงู - อายุโคทเ่ี ขา ฆา อายนุ อ ย (อายไุ มเ กนิ 3 ป) - นา้ํ หนกั ซากโคไมต ่ํากวา 200 กโิ ลกรมั หรอื น้ําหนกั มชี วี ติ ไมต ่าํ กวา 350 กิโลกรัม - ซอ้ื ขายกันดวยน้ําหนักซาก ราคาที่เกษตรกรไดร ับประมาณกโิ ลกรมั ละ 55-60 (นา้ํ หนักซากสดหลังฆา) หรอื ถา เทยี บเปน นา้ํ หนกั มชี วี ติ ประมาณกโิ ลกรมั ละ 30-35 บาท 1.2 ระดับ 2 -เปนโคไมจํากดั พนั ธุ แตสวนใหญใชโคลกู ผสมบราหมันและลูกโคนมเพศผู (โคใน ระดับ 1 จะนาํ มาขายในตลาดระดบั 2 ก็ได) -เน้ือตองมไี ขมนั แทรกในเนอ้ื พอควร -อายโุ คทเ่ี ขา ฆา ไมเ กนิ 3 ป -นา้ํ หนกั ซากเชน เดยี วกบั ระดบั 1 -ซอ้ื ขายกันดวยน้ําหนักซาก ราคาท่ีเกษตรกรไดรบั ประมาณกโิ ลกรัมละ 48-50 บาท (นา้ํ หนกั ซากสดหลงั ฆา ) หรอื ถา เทยี บเปน นา้ํ หนกั มชี วี ติ ประมาณกโิ ลกรมั ละ 28-30 บาท ปจ จุบันน้ีประเทศไทยสง่ั เนอ้ื คณุ ภาพสงู เขา มาจากตา งประเทศปล ะมากกวา 100 ตนั เนอ้ื โคท่ี ผลิตในประเทศไทยยังเขาทดแทนไมไดถึง 50 เปอรเ ซน็ ต แตก บ็ น วา ขนุ แลว ไมร จู ะขายใหใ คร ในขณะท่ี บริษัทซื้อก็บอกวาไมมีโคพอที่จะซื้อ ทง้ั นเ้ี พราะธรุ กจิ โคขนุ ในประเทศไทยเพง่ิ อยใู นจดุ เรม่ิ ตน ระบบการ ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 26 ตลาดยังไมเขาท่ี นาจะมีหนวยงานใดที่รับผิดชอบชวยเปนตัวกลางจัดการในเรื่องนี้ใหผูซื้อและผูขายได พบกันเพื่อใหไดผลประโยชนรวมกัน ชมรมโคเน้ือแหงประเทศไทยพยายามจัดทําหนา ทน่ี แ้ี ตเ นอ่ื งจาก เปนเรอ่ื งใหมจ งึ ยงั ไมป ระสบผลสาํ เร็จเทาที่ควร 2. ตลาดทั่วไป ตลาดประเภทนี้มีอยูทั่วไปซึ่งพอจะแบงยอยออกเปน 2 ระดบั ซง่ึ มขี อ มูลในแตล ะระดบั ดงั น้ี 2.1 ววั มนั - ไมจาํ กัดพันธุและอายุโค สว นใหญใ ชโ คงานอายมุ ากทม่ี าจากพมา นาํ มาขนุ เพยี ง 3-4 เดอื น - ไมสนใจเร่ืองไขมันแทรกแตต อ งการไขมนั หมุ ซากหนาๆ และชอบไขมนั เปน สเี หลอื ง - น้ําหนักซากโคไมตํ่ากวา 170 กิโลกรมั หรอื เทียบนํ้าหนกั มชี วี ติ ประมาณ 300 กิโลกรัม - ซอ้ื ขายกันดวยน้ําหนักซาก ราคาที่เกษตรกรไดรบั ประมาณกิโลกรมั ละ 42-45 บาท (นา้ํ หนกั ซากสดหลงั ฆา ) หรือเทยี บเปน นา้ํ หนกั มชี วี ติ ประมาณกโิ ลกรมั ละ 25-26 บาท แตถา พอคาไปซอ้ื ถงึ หนา คอกโดยการชง่ั นา้ํ หนกั มชี วี ติ จะไดร าคาประมาณกโิ ลกรมั ละ 23-24 บาท - เนอ้ื โคคณุ ภาพสูงสามารถนาํ มาขายในตลาดววั มนั ได 2.2 ตลาดววั ลกู ชน้ิ - เปน โคไมจ ํากดั พนั ธุ และอายุโค ถึงแมจะเปน โคผอมหรอื โคไมข นุ กใ็ ชไ ด - ไมสนใจเรอ่ื งไขมนั แทรกและไขมนั หมุ ซาก - ไมจ าํ กดั นา้ํ หนกั ซาก - ปกติผูเลย้ี งโคขนุ จะไมน าํ โคมาขายใหแ กต ลาดน้ี นอกจากกรณพิเศษ เชน โคขาหัก โคที่ขุนไมขึ้น หรอื โคทีท่ อ งขน้ึ ตายอยางกระทันหัน เปน ตน สรปุ ไดว า ผูเล้ียงโคขุนรายยอ ยควรรวมกลมุ กนั เพอ่ื ตดิ ตอ ตลาดเนอ้ื ในกรงุ เทพฯ หรอื เมอื ง ใหญๆ ซึ่งจะสามารถจาํ หนา ยไดใ นราคาสงู อยางไรก็ตาม ถา สามารถเลย้ี งโคขนุ ใหม อี ตั ราการเจรญิ เตบิ โตไดไ มต า่ํ กวา วนั ละ 1 กิโลกรัม ถึงแมจะจาํ หนา ยในตลาดธรรมดา (ตลาดววั มนั ) ก็ยังมีกําไรพอ สมควร โดยเฉพาะอยา งยง่ิ ถา ขนุ โคเตม็ วยั จะเปน ทต่ี อ งการของตลาดธรรมดามากกวา โคขนุ อายนุ อั ยเสยี อีก เพราะมีไขมนั สเี หลอื ง ขอยา้ํ วาผูที่จะเลี้ยงโคขุนจาํ เปน จะตอ งตดิ ตอ ตลาดใหเ ปน ทเ่ี รยี บรอ ยกอ นลง มือขุน เพราะถาหากถึงกาํ หนดขายแลว แตยังขายไมไดกําไรจะลดลงเรอ่ื ยๆ เนอ่ื งจากระยะหลงั นน้ี า้ํ หนกั โคแทบจะไมเพ่ิมข้ึนเลย แนวโนมของตลาดเนื้อโคในอนาคต ในปจจุบันนี้การตลาดโคขุนยังไมเขารูปเขารอยดีนัก ราคาเนอ้ื โคขนุ คณุ ภาพสงู ยงั มคี วามแตก ตางจากเนอ้ื โคทว่ั ไปมาก แตคาดวาในอนาคตไมไ กลนกั ราคาเนอ้ื คณุ ภาพสงู คงจะขยบั ตา่ํ ลง ในขณะท่ี เนอ้ื ทว่ั ไปขยบั สงู ขน้ึ ท้ังนเ้ี นอ่ื งจาก ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
การเลี้ยงโคขุนเปนอาชีพเสริม 27 1. โคท่ีเล้ียงปลอยโดยไมตอ งลงทุนมากนกั จะลดนอ ยลงเรอ่ื ยๆ เพราะไมม ที ่เี ลีย้ ง ไมเ หมาะ สมกับสภาพสิ่งแวดลอมและสังคมในอนาคต การเลย้ี งโคเนอ้ื จงึ ตอ งหนั มาเลย้ี งในระบบทต่ี อ งการลงทนุ สงู ขน้ึ 2. ผบู ริโภคมีความรเู รอ่ื งการเลอื กซอ้ื เนอ้ื ตามคณุ ภาพมากขน้ึ 3. ตน ทุนการเลี้ยงโคขุนในอนาคตอาจจะต่ําลงเพราะมีการปรับปรุงพันธุโคใหสามารถขุนได เตบิ โตเรว็ ขน้ึ และมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมขึ้นทาํ ใหส ามารถลดตน ทนุ ในการเลย้ี งโคขนุ ได และเมอ่ื นน้ั เนอ้ื ในตลาดท่ัวไปคงจะเปน เนอ้ื โคขนุ เปน สว นใหญเชน เดยี วกบั เนอ้ื สกุ ร ในปจจุบัน แตความเสย่ี งเรอ่ื งราคาขน้ึ ๆ ลงๆ แบบเนอ้ื สกุ รคงเกดิ กบั เน้ือโคไดย ากเพราะโคออกลกู ปล ะตวั สรุปขอเสนอแนะ จากขอมูลท่ีเสนอมาขา งตน พอจะสรปุ ไดว า ธรุ กจิ การเลย้ี งโคขนุ เปน อาชพี เสรมิ สามารถทาํ ราย ไดใหแกเกษตรกรรายยอยไดเปนอยางดี ย่ิงถามีตลาดซึ่งรับซื้อโคขุนระดับกลางเกิดขึ้นดว ยแลวธุรกิจ การเล้ียงโคขุนคงรดุ หนา ไปดว ยดแี ละกวา งขวางขน้ึ แตก ารเลย้ี งโคขนุ รายละนอ ยตวั นจ้ี ะทาํ ใหด ตี อ เมอ่ื มี การรวมเปน กลมุ กอ น ซึ่งจะทาํ ใหสะดวกและประหยัดในหลายๆ ดา น เชน การจดั ซอ้ื ลกู โคขนุ การจัด ซื้ออาหาร และการจดั สง โคหลงั ขนุ ไปยงั ตลาด เปน ตน ขอเนนวา การเลย้ี งโคขนุ จะสําเร็จไดตองประกอบดวยปจจัยหลักๆ ดงั นค้ี อื \" พนั ธดุ ี \" อาหารดี \" เอาใจใสด แู ลดี \" มีตลาดราคายุติธรรมและมั่นคง ถา ทานขาดขอหนึ่งขอใดก็ไมควรเส่ียงเลี้ยงโคขุนตามสมัยนิยม แตทานควรจะเลี้ยง แมพันธุเพอ่ื ผลติ ลกู ขายใหก บั ผเู ลย้ี งโคขนุ จะดกี วา ๐ กลบั ไปหนา กอ นน้ี ๐ หนา ถดั ไป ๐ กลับหนาหลัก/สารบัญ
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: