จังหวัดสงขลา ผ้าเกาะยอเป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของชาวตำบลเกาะยอ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผ้า ที่มีลายต่างๆ สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยผ่านเทคนิคการทอของแต่ละคนจนเกดิ เป็น ลายตา่ งๆ หลักใหญ่ของการทอผา้ เกาะยอกค็ ือการนำเส้นดา้ ยมาขัดกันให้เป็นลายต่างๆ โดยขึงเส้นด้ายกล่มุ หนง่ึ เป็นหลักเรียกว่า “เส้นยืน” แล้วใช้เส้นด้ายอกี เสน้ หนึ่งเรียกว่า “เส้นพุ่ง” สอดตามขวางของเส้นยืน เมอ่ื สอดประสานหรอื ขัดกันกจ็ ะเกิดลายต่างๆ ตามต้องการ ผ้าเกาะยอบางลายผู้ทอจะหาวิธีสอดเส้นด้ายและ สอดสีสลับกนั ไปบางวธิ กี จ็ ะจบั ผกู และมดั เปน็ ชอ่ งๆ หรืออาจจะยกเส้นด้ายที่ทอเป็นระยะๆ ทำให้เกิดลาย ผ้าทส่ี วยงานและแตกตา่ งกันไป ถิ่นกำเนิดของผ้าเกาะยอ เกาะยอเปน็ เกาะเลก็ ๆเกาะหนง่ึ ใน ทะเลสาบสงขลา หา่ งจากตัวเมืองสงขลา ประมาณ ๖ กิโลเมตร เปน็ แหล่งทอผ้า ทม่ี ชี ือ่ เสียงอีกแห่งหนงึ่ ทางภาคใต้ เรียกว่า ผ้าทอเกาะยอ ชาวเกาะยอทอผ้า มาตั้งแต่โบรา ณนับ ร ้ อ ย ป ี ม า แ ล ้ ว การทอผ้าเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมา ตั้งแต่บรรพบุรุษ ส่วนใหญ่ถ่ายทอดกัน ในครัวเรือน จัดว่าเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านอีกอย่างหนึ่ง กล่าวกันว่า ชาวเกาะยออพยพมา จากบ้านท่านางหอม อำเภอหาดใหญ่ และจากตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาชาวเกาะ ทั้งสองกลุ่มนี้น่าจะประกอบอาชีพทำสวน ปั้นหม้อและทอผ้าก่อนที่จะอพยพไปอยู่บนเกาะยอ ทั้งนี้เพราะในบริเวณจังหวัดสงขลาเคยเป็นแหล่งทอผ้ามาแต่โบราณกาล ดังที่ปรากฏว่า เมื่อ ครั้งต้นสมัยกรุงธนบุรีเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชเคยให้กรมการเมืองกวาดต้อนช่างทอผ้าจาก เมืองสงขลาไปไว้ที่เมืองนครศรีธรรมราชแสดงให้เห็นว่า เมืองสงขลาจะต้องเป็นดินแดนที่มี การทอผ้าพื้นเมืองมาแต่โบราณ แต่การทอผ้าพื้นเมืองของสงขลาต้องเลิก ไ ปตามสภาพสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองจนปัจจุบันเหลืออยู่ที่เกาะยอเท่านั้น การทอผ้าเกาะยอในระยะแรกใช้กี่มือ และใช้เครื่องมือที่ชาวใต้เรียกว่า “ตรน” แทนกระสวย ใช้ฝ้ายที่ปลูกเอง ย้อมผ้าเองโดยใช้สีที่ได้จากธรรมชาติแบบพื้นบ้าน ซึ่งส่วนมาก จะได้จากเปลือกไม้ แก่น ราก และผล
ผ้าทอเกาะยอเป็นผ้าฝ้ายทอ เนื้อแน่น ละเอียด ลวดลายสวยงามเป็นระเบียบ มีลายนานาชนิด ประวัติการทอผ้าได้รับคำบอกเล่าจดจำต่อๆมา จากผู้อาวุโสประจำเกาะว่า มีหลักฐานป ร า ก ฏ อยู่ในหอจดหมายเหตุฯ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเ ม ื อ ง ส งขลา และแหลมมาลายู เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๓ โดยเสด็จลงเรือพระที่นั่งกระเชีย ง มีเรือกลไฟ เล ็ ก จูงไป ขึ้นที่ปากน้ำเมืองสงขลาผ่านหน้าเมืองไปถึงเกาะยอแล้วเสดจ็ พระราชดำเนินไปประทับบนพลับพลา ซึ่งพระยาอนันตสมบัติ (เอม ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลาจัดสร้างไว้รับเสด็จ ประทับอยู่ครู่หนึ่งแล้วเสด็จไปทอดพระเนตร สวนผลไม้โรงปั้นหม้อ เสด็จกลับพลับพลา เสวยกลางวันที่นั้น ครั้งนั้นคุณยายกำ่ ภทั รชนม์ ไดน้ ำผ้าทอมือที่สวยที่สุดในสมัยนั้น ขึ้นถวายพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เป็นผ้าที่คุณยายทอเอง จากกม่ี อื (๔ ตะกอ) ทรงพอพระราช หฤทัย จึงพระ ราชทานชื่อให้ใหม่ว่า “ลายราชวัตร” ซึ่งแปลว่า กิจวัตรหรือการกระทำเมื่อ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๔๓ เวลา ๕ โมง เศษ หลังจา ก นั้นพระองค์ก็เสด็จกลับ ผ้าทอเกาะยอ จึงได้เรียกต่อๆ กันมาจนถึงทุกวันนี้ ในนาม ผ้าทอ”ราชวัตร” ศิลปะและภูมิปัญญาผ้าเกาะยอ ในสมัยโบราณชาวเกาะยอทอผ้าโดยไม่มีการตั้งชื่อลายผ้า อาศัยการจดจำทอกันมา ตามอย่างบรรพบุรุษ บางครั้งมีการพลิกแพลง ดัดแปลง ทอเป็นลวดลายที่แปลกออกไปจากเดิม และมีความสวยงาม กลายเป็นที่นิยมเลยทอต่อๆ กันมา ปัจจุบันช่างทอผ้านยิ มทอผา้ ลายพื้นบ้าน ของเกาะยอเอง ส่วนใหญ่เป็นลายดั้งเดิม แต่อาจมีการประยุกต์ตกแต่งรายละเอียดให้แตกต่าง ไปจากเดิมบ้างเล็กน้อย แต่ยังเค้าโครงเดิมไว้ ในบางแห่งช่างทอผ้าได้เลิกอาชีพทอผ้าแล้ว ทำให้ลายผ้าพื้นเมืองสูญหายไปด้วย ที่เหลือก็เป็นลายที่ทอสืบต่อกันมา ในบางครั้งช่างทอผ้า เองอาจจะไม่ทราบชื่อลาย และความหมายของลาย ซึ่งมีผลให้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่สะท้อน ออกมาจากลายผ้าสูญสลายไปด้วย
ความสำคัญทางวัฒนธรรมพื้นถิ่น ในชีวิตประจำวันและในวันสำคัญต่างๆ ชาวบ้านตำบลเกาะยอมักจะแต่งตัวด้วยผ้าทอ เกาะยอที่เขาทอเอง เช่นไปทำบุญวันสงกรานต์ วันเข้าพรรษา งานทอดกฐิน งานยกขึ้นบก เป็นต้น นอกจากชาวบ้านตำบลเกาะยอแล้ว คนในเมืองสงขลา เมืองหาดใหญ่ และในเมืองอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงนิยมแต่งตัวด้วยผ้าทอเกาะยอ ในงานสำคัญๆ เช่นงามมงคลสมรส งานประเพณี ลากพระ งานพิธีทางราชการ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น การสวมใส่เสื้อผ้าโดยเฉพาะผ้าทอเกาะยอ เป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง เพราะผู้ใช้มักจะพิถีพิถันในการเลือกใช้ตามความเหมาะสมและในโอกาสที่สำคัญๆ ที่ตำบล เกาะยอ มีประเพณีห่มผ้าเจดีย์เขากุฏิ ซึ่งเป็น ประเพณีที่สื บ ท อ ด ม า เ ป ็ นเวลาช้านานสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต จิตใจของผู้คนและวัฒนธรรมของชุมชนชาวเกาะยอได้อีกทางหนึ่ง ดังที่ อรชุน ลิ่มเสรีตระกูล และ วิชัย มาระเสนา ได้กล่าวไว้สอด คล้องกันสรุปได้ว่า ก่อนจะถึงวันงานประเพณีห่มผ้าเจดีย์เขากุฏิ ชาวบ้านจะรวมตัวกันแสดงออกถึงพลังความสามัคคีโดยรวมกลุ่ม กันทอผ้าสำหรับห่มเจดีย์เขากุฏิ ซึ่งทำเป็นประจำทุกปีใ นวัน ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ (พฤษภาคม) ในวันงานชาวบ้านตำบลเกาะยอ มักจะสวมใส่เสื้อผ้าที่ผลิตขึ้นเองก็คือผ้าทอเกาะยอซึ่งเป็นประเพณี ที่ชาวบ้านตำบลเกาะยอรอคอยให้ความสำคัญและเห็นคุณค่า โดยใช้ผ้าทอเกาะยอเป็นสื่อ ในการแสดงออก จะเห็นได้ว่าชาวบ้านที่เป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นกรรมวิธีผลิตตลอดจน ลาย ผ้ า ท อ เ ก า ะ ย อ น ั ้ น เ ป ็ น ผ ู ้ ท ี ่ ม ี ค ุ ณ ส ม บ ั ต ิ พ ิ เศษใ น ด้ าน ความร ู ้ ความสามารถเฉพาะตัวซึ่งคุณค่า ทางวัฒนธรรมนี้ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวเกาะยอ ลักษณะการใช้สอยของผ้าเกาะยอ ผ้าทอเกาะยอเป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีค่ า ต ่ อ ชีวิตของชาวบ้านเกาะยอมา เป็นเวลานานหลายร้อยปี จุดประสงค์หลักของการทอขึ้นมาก็เพื่อประโยชน์ในการใช้สอยเป็น หลักสำคัญ และยังเป็นตัวกำหนดในการสร้างรูปทรง โครงสร้าง ลวดลาย และการเลือกใช้เครื่อง มืออุปกรณ์ มีเนื้อผ้าอัดแน่นและมีความหนามากกว่าผ้าอื่น ๆ เวลาสวมใส่กลับรู้สึกเบาสบาย สีไม่ตก ผ้าเกาะยอนอกจากนำไปใช้ประโยชน์ด้านการใช้สอยโดยตดั เยบ็ เปน็ เสอื้ สวมใส่ในโอกาสต่าง ๆ ยังสามารถนำผ้าทอเกาะยอไปแปรรูปเป็นผลติ ภณั ฑ์อื่น ๆ ได้อีกหลายอย่าง เช่น กล่องทิชชู เนคไท ปลอกหมอน หมวก เป็นต้น และผู้ใช้ยังพิถีพิถันในการเลือกใช้ตามความเหมาะสมและในงาน สำคัญ ๆ เช่น ในการอบรมประชุมสัมมนา งานมงคลสมรสงานเฉลิมฉลองและงานรื่นเริงต่าง ๆ ผู้สวมใส่ผ้าทอเกาะยอมีความภาคภูมิใจ
แหลง่ ผลิตผ้าทอเกาะยอ ในสังคมของชาวเกาะยอมกี ารตกลงพดู คยุ กนั และหาขอ้ สรปุ ไดว้ า่ การอนรุ กั ษแ์ ละสบื ทอดผา้ ทอเกาะยอนั้น จะต้องดำเนินการในรูปของกลุ่ม และสร้างผลิตภัณฑ์ผ้าทอเกาะยอให้ได้คุณภาพไปในทศิ ทางเดยี วกัน กล่มุ ผา้ เกาะยอจึงกำเนิดข้นึ มาหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มทอผ้าราชวัตถ์แสงส่องหล้า โดย นายวิชัย มาระเสนา กลุม่ แมบ่ า้ นเกษตรทอผา้ เกาะยอ โดย นางสมหมาย พงศ์พฤกษ์ กลมุ่ ผา้ ทอเกาะยอ (ดอกพกิ ุล) โดยนางเห้ือง ไชยบบุ ผา และกลุม่ ทอผา้ รม่ ไทร เปน็ ต้น พ.ศ.๒๕๔๐ ได้จัดต้งั กลมุ่ ออมทรัพย์ ปจั จุบนั น้มี กี ารรวมตัวกันในนาม สหพนั ธ์กลุ่มอาชีพอำเภอเมอื ง จงั หวดั สงขลา ข้นึ ทะเบยี นกบั กรมการพฒั นาชุมชน มีสมาชกิ ทง้ั หมด ๒๒ กลมุ่ การสบื ทอดภูมิปัญญาผา้ ทอเกาะยอ ทางเมืองสงขลาได้ส่งครูสอนทอผ้าจากเซี่ยงไฮ้ ๒ คน ปรากฏหลักฐานที่บ้าน นายกร้ิม สนิ ธุรตั น์ ซง่ึ มภี าพครูสอนทอผ้า ชอ่ื นายย่ีหลุ่นและนายพดุ ด้นิ มาสอนวธิ กี ารทอผา้ ด้วยกก่ี ระตกุ ใหช้ าวเกาะยอเปน็ ครง้ั แรก โดยใช้สถานที่ของวดั แหลมพอ้ จากนั้นจงึ มีการใช้ กี่กระตุก ในการทอผา้ มาจนถงึ ปจั จบุ นั และไดเ้ ปลี่ยนวิธีการ ยอ้ มผ้าจากสธี รรมชาติ มาเป็นสที ซ่ี อื้ จากตลาดแตเ่ ทคนิคการยอ้ มสยี ังไมด่ พี อทำให้สผี า้ ตก เนอ้ื ผา้ หยาบเนอ่ื งจาก เสน้ ใยท่ใี ชเ้ ป็นฝา้ ยทผี่ ลิตในท้องถน่ิ เป็นเสน้ ใยขนาดใหญแ่ ละแข็งเกินไป ทำใหเ้ นอ้ื ผา้ ยบั ง่าย ประกอบกบั ระยะ หลงั สงครามโลก คร้ังที่ ๒ ผ้าท่สี ง่ เขา้ มาจากตา่ งประเทศได้รบั ความนิยมจากประชาชนมากกวา่ เพราะมรี าคาถกู เนอ้ื นม่ิ ไม่ยบั สไี ม่ตก ทำใหผ้ ้าเกาะยอไมส่ ามารถแขง่ ขนั กบั ผา้ ทท่ี อจากโรงงานได้ ผา้ เกาะยอจึงถกู ลืมไปกว่า ๓๐ ปี ผ้าทอเกาะยอ มีการส่ังสอน สบื ทอดตอ่ กันภายในครวั เรอื นเรอ่ื ยมา เปน็ เวลาหลายรอ้ ยปี จนปรากฏวา่ มี เพลงกล่อมเดก็ เก่าแก่หลายบท ท่ีแสดงให้เห็นถึงค่านยิ มและวัฒนธรรมการทอผ้าของชาวเกาะยอซึ่งผเู้ ฒ่าผู้แก่ บนเกาะเล่าว่า ได้ฟังเพลงกล่อมเด็กเหลา่ นน้ั มาจากยายอีกต่อ นอกจากนนั้ ยงั มีปริศนาคำทายเก่ียวกบั เครอ่ื งมือ ทอผ้าด้วย กลุ่มผ้าทอเกาะยอ มีการเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๙ โดยมีการต ิ ด ต ่ อ ก ั บหน่วยงานราชการ คือ สำนักงานพฒั นาชุมชนอำเภอเมืองสงขลา และได้รบั เงินทนุ จำนวนหนงึ่ มาจัดตงั้ กลมุ่ กลุ่มผ้าทอมีการพฒั นา เรอื่ ยมา จนกระท่ังเมอ่ื ปี ๒๕๔๑ ไดจ้ ัดตงั้ กลมุ่ ในนามว่า “กลุม่ ราชวตั ถ์ พัฒนาผา้ ทอเกาะยอ” มีสมาชกิ เริ่มแรก ๑๔ คน วัตถุประสงค์ของกลุ่ม คือ เพื่อพัฒนาอาชีพของชาวตำบลเกาะยอ คือการทอผ้าเกาะยอ และเพ่ือเปน็ การอนรุ กั ษ์ภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น วัสดุอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการทำผ้าทอเกาะยอ ๑. เส้นด้ายและสียอ้ มเส้นดา้ ย เส้นด้ายเป็นวัสดุที่สำคัญที่สุดในการทอผ้า ในอดีตชาวเกาะยอใช้ เส้นด้ายที่ทำจากเมล็ดฝ้าย ต่อมาภายหลังนิยมใช้เส้นฝ้ายใยสังเคราะห์แทน ส่วนสีที่ใช้ในการย้อมเส้น ด้ายนั้นแต่เดิมชาวบ้านนิยมใช้ส่วนต่างๆ ของพืชที่มีอยู่ในท้องถิ่นย้อมสีเส้นด้าย ปัจจุบันมีการสั่งซื้อ ด้ายสำเร็จรูปจากแหล่งอื่นๆ ซึ่งเป็นด้ายสีต่างๆ มีความคงทนและสวยงามและสามารถเลือกสีได้หลายๆ สีตามความต้องการได้มากขึ้น
๒. อุปกรณ์เตรยี มเสน้ ดา้ ยทอ อปุ กรณ์เตรียมเส้นดา้ ยประกอบดว้ ยอปุ กรณต์ า่ งๆ ทส่ี ำคญั ไดแ้ ก่ ดอกสวิง (ดอกหวิง) ไนกรอเส้นด้าย หลอดค้น (ลูกค้น) รางค้น หลักค้น ตะขอเกี่ยว (เบ็ดเข้าฟืม) ระหัด และไม้ขัดเส้นด้าย (ไม้ค้ำ) ๓. เครื่องทอผา้ (ก)่ี เครอ่ื งทอผา้ เป็นเคร่อื งมือทใ่ี ช้สำหรับทอผา้ ทอเกาะยอ ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ฟืม (ฟันหวี) เขาหูก (ตะกอหรือตระกอ) กระสวย ไม้แกนมว้ น ผา้ คายเหยยี บ (ตีนเหยียบ) สายกระตุก (เชือกดึง) หลอดเส้นด้ายพุ่ง ที่นั่งคายทอ การทอผ้าเกาะยอ การทอผ้าทอเกาะยอเป็นงาน ท ี ่ยากต้องอาศยั เวลา จึงทำให้ผ้าราคาสูงแ ล ะ ม ี ค ว า ม สวยงาม เป็นมันเงางามอยู่ในตวั จนเปน็ เอกลกั ษณข์ องผ้าทอเกาะยอ การทอผ้าเกาะยอ มีลักษณะ คือ การทอสลับสีและการทอยกดอก ๑. การทอสลับสี เปน็ การทอ ผ้าแบบพื้นบ้านคือ การทอผา้ ทใ่ี ชต้ ะกอเพียง ๒ ตะกอ โดย ทำการยกเส้นด้ายยืนเพื่อสอดด้ายพุ่งเข้าไปทำให้เกิดเป็นผืนผ้า ซึ่งเราจะเหน็ ว่าการทอผ้า แบบพ้ืนบ้านนั้นแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ๑.๑ การทอสลับสี เป็นการทอผ้าสลับสีทั้งด้ายยืนและด้ายพุ่งเช่น การทอผ้าขาวม้า ๑.๒ การทอแบบตเี กลยี วสลบั สี ซง่ึ เราจะไดย้ นิ ชอ่ื ผา้ ชนดิ นว้ี า่ ผา้ หางกระรอก ผ้าตาสมุท์ (ตาสมกุ ) หรอื ลายตะเครียะ ๒. การทอยกดอก เป็นการทอผา้ เพอ่ื ใหเ้ กิดเป็นลวดลายตา่ งๆ จะใชต้ ะกอเป็นตัวทำลวดลาย ในการทอผ้าเกาะยอมีตั้งแต่สองตะกอ สี่ตะกอ หกตะกอ แปดตะกอ จนถึงสิบสองตะกอ เช่นผ้าลายต่าง ๆ ซ่ึงคณุ ภาพและความละเอยี ดของลวดลายต่างกข็ ้ึนอย่กู ับจำ น วนของตะกอที่ใช้ ขั้นตอนการทอผ้าในกี่กระตุกมีดังนี้
ขั้นท ี่ ๑ ส ับตะกอให้ด้ายแยกออกจากกัน โดยใชเ้ ท้าเหยียบคานเหยียบที่อยู่ข้างล่างเพื่อ เปิดช่องว่างสำหรับให้ด้ายพุ่งผ่านเข้าไปได้ ขั้นที่ ๒ ใช้มือพุ่งกระสวยด้ายพุ่งให้สอดไปตามหว่างด้ายที่มีช่องสอดกระสวยซ่งึ ทำดว้ ยไม้ ขั้นที่ ๓ ปล่อยเท้าที่เหยียบคานเหยียบออก เพ่ือให้ด้ายพุ่งรวมเป็นหมู่เดียวกันตามเดิม จากนั้นกระทบฟันหวีโดยแรง ฟันหวีจะพาด้ายพุ่งให้เข้ามาประชิดกันเป็นเส้นตรง ขั้นที่ ๔ เหยียบคานเหยียบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับขั้นที่ ๑ กระทบฟันหวีโดยแรง อีกครั้งหนึ่งจากนั้นจึงพุ่งด้ายเส้นที่ ๒ จะทำให้ได้ผ้าเนื้อแน่นขึ้น . โดยช่างทอผ้าจะต้องทำตามขั้นตอนตั้งแต่ ขนั้ ที่ ๑ ถึง ขั้นที่ ๔ สลับกันไปจนกว่าจะ ได้ผืนผ้าตามความต้องการหรือ จนหมดความยาวของด้ายยืน แรงกระแทกของฟืม หรือฟันหวีจะ มีผลต่อความยาวของผ้าที่ทอคือทำให้เนื้อผ้าแน่น หนาหรือบางได้คือ ช่างทอผ้าบางคนที่กระแทก ฟันหวีแรงจะมีอัตราการทอผ้าได้ประมาณ ๔-๕ หลา ต่อวัน และเนื้อผ้าจะหนาแน่นใน ขณะที่ ถ้ากระแทกฟันหวีเบาจะทอได้ถึง ๖-๗ หลาต่อวันและ ได้เนื้อผ้าจะบางเบา ดังนั้น คุณภาพและราคาของผ้าจึงต่างกันเพราะ แรงกระแทกในการทอด้วย
ลกั ษณะโดดเดน่ ของผา้ ทอเกาะยอ ผ้าทอเกาะยอเป็นผ้าทอที่ม ี ล ั ก ษ ณ ะ ทางด้านความงามและพิเศษเฉพาะตัว ดังนี้ ๑. ความสมดลุ ผ้าทอเกาะยอสว่ นใหญจ่ ะมีความสมดุลทั้งสองข้าง เช่น ลายดอกจันทร์ ลายข้าวหลามตัด ลายดอกห้าหนึ่ง ความสมดุลดังกลา่ วมีทั้งสมดุลด้วยสี สมดุลด้วยขนาด สมดุลด ้ ว ย ร ู ป ท ร ง คือด้านซ้ายขวาจะเหมือนกันทุกประการ ในทางศิลปะเรียกว่า สมดุลแบบซ้ายขวาเท่ากัน มกั จะปรากฏในงานออกแบบที่เน้นหนักให้เห็นความมีพลัง ๒. สัดส่วน คณุ ค่าของความงามอกี อย่างหนึ่งทเ่ี กิดจากสดั สว่ นทล่ี งตวั ทำให้เหมาะกบั การนำไปใช้ ประโยชน์ กล่าวคือขนาดของผนื ผา้ ไมก่ วา้ งหรอื แคบจนเกินไป ลายของผา้ มที ้ังสว่ นทเี่ ปน็ ทง้ั รปู และพน้ื ท่ี สอดคล้องประสานกันเปน็ อยา่ งดี รูปหรอื ดอกลายผ้าไม่มากหรืออัดแน่นจนเกินไป จนทำใหเ้ กดิ ความรู้ สกึ อดึ อดั ไม่ผ่อนคลาย แต่ผ้าเกาะยอมีทั้งรูปและพื้นที่ได้สัดส่วน พอเหมาะพอดีไม่มากหรือ น ้ อ ย จ น เ ก ิ น ไ ป ท ั ้ ง ส อ ง ป ระการ เมื่อดูแล้วทำให้เกิดความรู้สึกปลอดโปร่งสบายๆ ๓. ความประสานกลมกลืน มีทงั้ การประสานกลมกลืนกันด้วยสี ขนาดและรูปทรงตา่ งๆ สำหรบั การผสมกลมกลืนของสนี ัน้ ผู้ทอมกั เลือกใช้สวี รรณะเดียวกันในผืนผ้าเดียวกัน เช่น แดง ส้ม ส้มแดง ม่วงแดง ส้มเหลือง เป็นต้น สตี ่างๆ เหลา่ นี้จะประสานกลมกลืนกัน เพราะแต่ละสีให้ ความรสู้ กึ รอ้ นแรง มีพลัง สว่างสดใส ส่วนสีอีกกลุ่มหนึ่งเป็นวรรณะเยน็ ซึง่ ประกอบดว้ ยสีน้ำเงนิ ฟา้ คราม เขยี วแก่ เขียวออ่ น มว่ งนำ้ เงิน เป็นต้น เมื่อช่างนำสีเหล่านี้มาประกอบเปน็ รปู พน้ื กจ็ ะใหค้ วามสดชน่ื สงบเยน็ และเรยี บงา่ ย กลุ่มสีทั้งสองกลุ่มนี้สอดประสานกลืนกับสีที่อยู่ในวรรณะเดียวกันนั่นเอง
ส่วนความกลมกลนื กนั ดว้ ยความเขม้ ของสหี รอื ทางศลิ ปะ เรยี กวา่ “คา่ ของส”ี นน้ั คอื การทำให้ส ี ห น ึ ่ ง ส ี ใดล ด ความเข้มของสีลงมาจากความเข้มมากๆ เจือจางลง จนเกอื บจะเป็นสขี าว เชน่ การทอด้วยสีเขียวเข้มต่อ ด้วยสีเขียว สีเขียวอ่อน และค่อยๆ เจือจางลง ไปเรื่อยๆ หลายๆ เฉดสี จนกระทั่งได้สีเขียวอ่อน ตามต้องการ สีเขียวชุดนี้คือตัวบ่งความเข้มของสี ทีป่ ระสานกลมกลนื กนั วธิ หี นึ่ง ความประสานกลมกลืน ด้วยขนาดและรูปทรงต่างๆ มใี หเ้ หน็ ไดอ้ ย่างชัดเจน จากผ้าทอเกาะยอแทบทุกผืน ความโดดเด่นของลวดลายผ้าทอเกาะยอ ความโดดเด่นของลวดลายผ้าทอเกาะยอ อยู่ที่การใช้สีและการจัดวางลาย โดยเฉพาะลายผ้ามี เอกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั สว่ นจุดเด่นของการใชส้ ขี องผา้ ทอกค็ อื การใชส้ ีขับเน้นลายผา้ ใหโ้ ดดเดด่ เห็นไดช้ ดั ตวั อยา่ งเช่น ถ้าพื้นของผ้าเป็นสอี ่อน รปู หรือลายผา้ จะเปน็ สเี ขม้ ในทางกลบั กนั ถ้าพ้ืนของผ้าเปน็ สเี ข้ม รูปหรอื ลายผ้าจะเป็น สีอ่อนกว่าเสมอ เป็นต้น ส่วนการจัดวางลายเป็นลายที่มีความสมดุลกันคือลายจะเหมือนกันทั้งสอง ด้านซ้ายและขวา ขนาดของลวดลายท่ีมีชว่ งจังหวะประสานต่อเน่อื งกนั เปน็ ระยะท่ีแน่นอน มีขนาดเล็กๆ ทุกคน สามารถสวมใส่ไดต้ ามต้องการ ทำใหผ้ ้าเกาะยอเป็นผ้าทอที่มคี ณุ ค่าทางด้านความงาม
พ้นื ผ้าเป็นสีออ่ นลายจะเปน็ สีเขม้ พน้ื ผา้ เป็นสีออ่ นลายจะเปน็ สเี ข้ม
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: