คาํ แนะนาํ การเลี้ยงหาน . . . ศิรพิ ันธ วุฒานุสร และ ภญิ โญ ธนะสุข ขอ มลู คําแนะนาํ การเลี้ยงหาน ! พนั ธหุ า น ! ประโยชนข องการเลย้ี งหา น ! เรือนโรงสาํ หรบั เลย้ี งหา น ! ความตอ งการพน้ื ทเ่ี ลย้ี งของหา น ! การเลย้ี งหา น ! การฟก ไขห า น ! การดูเพศหา น ! การจดั การเลย้ี งดลู กู หา น ! การจดั การเลย้ี งดหู า นรนุ ! การจดั การเลย้ี งดหู า นเนอ้ื ! คุณคา ทางอาหารของเนอ้ื หา น ! การจดั การเลย้ี งดหู า นพนั ธุ ! การสขุ าภบิ าลและการปอ งกนั โรค ! สตู รอาหารหา น หาน เปนสัตวท เ่ี ลย้ี งงา ยไมค อ ยเปน โรค ทนตอสภาพแหงแลง และไมต อ งการ การดูแลเปน พิเศษแตอยางใด จงึ เหมาะอยา งยง่ิ กบั สภาพโดยทว่ั ไปของประชาชนในตา ง จังหวัดที่จะนํามาเลี้ยงเพื่อใชเปนอาหารประเภทโปรตนี อกี ทง้ั การเลย้ี งดกู ไ็ มม อี ะไรท่ี ยุงยากหรอื ซบั ซอ น และที่สําคัญก็คือ ใชเ งนิ ลงทนุ ตา่ํ มาก วธิ กี ารเลย้ี งอาจจะใชเ ลย้ี งขงั เลา หรือปลอ ยเลย้ี งตามใตถ นุ บา นหรอื ทอ งนา ปลอยใหเล็มหญาหรือวัชพืชอื่นๆ และมี อาหารขน ซง่ึ ประกอบดว ย รํา ปลายขา ว ขา วเปลอื ก เสรมิ ใหก นิ บา งเทา นน้ั กเ็ ปน การ เพียงพอแลว กลาวโดยทั่วไปแลวการเลี้ยงหานยังไมเปนที่แพรหลายนัก ทง้ั น้ี เพราะปญหา เก่ียวกับความเช่ือถือในการบริโภคเนื้อหานวาเปนอาหารแสลง อยา งเชน ผูชายเมื่อ บริโภคเนอ้ื หา นแลว จะเกดิ เปน โรคเรอ้ื น หรือ ผูหญิง หากบริโภคเนื้อหานแลวจะเปน โรคผิดกระบูน หรือพิษแมลูกออน ซง่ึ แทจ รงิ แลว มไิ ดเ ปน เชน นน้ั โรคดังกลาวหากจะ เกิดข้ึนจะตองมตี วั เชอ้ื โรคนน้ั ๆ เปน สาเหตจุ งึ จะเกดิ ขน้ึ หาใชเ ปน เพราะเนอ้ื หา น มบี าง
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 2 รายเม่ือบริโภคเนอ้ื หา นแลว จะมีอาการแพบาง ซง่ึ โอกาสทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กม็ นี อ ยมาก เชน เดียวกับคนบางคนท่ีแพไข เนอ้ื เนอ้ื หมู ไก กุง หรอื เนอ้ื สตั วอ น่ื ๆ นอกจากน้ัน คนบางคนมีความคิดวาเน้ือหานเปนอาหารสําหรับผูมีอันจะกิน เทาน้ัน ดังจะเห็นไดจ ากในสมยั กอ นๆ ตามบา นผมู ฐี านะดจี ะเลย้ี งหา นกนั บา นละ 3-4 ตัว แตแทจรงิ แลว มผี นู ยิ มเลย้ี งไวต ามบา นนน้ั กเ็ ลย้ี งไวเ พอ่ื เฝา บา นกนั ขโมยเทา นน้ั ในปจจุบันปญ หาการขาดแคลนโปรตนี และพลงั งานของประชาชนทว่ั ๆ ไป ซึ่ง จะทําใหรางกายออนแอ มผี ลเสยี อยา งยง่ิ ตอ สมอง อนั จะเปน ผลกระทบกระเทอื นตอ การพัฒนาประเทศ สัตวเลี้ยงที่จะชวยเสริมแหลงโปรตีนราคาถูกใหกับประชาชนโดยทั่ว ไป ไมวาในชนบทหรือในตวั เมือง อกี ชนดิ หนง่ึ นอกเหนอื จากไกพ น้ื เมอื ง ไกงวง เปด เทศก็คือ หาน พันธุหาน พันธุหานที่นิยมเลี้ยงกันมาก ไดแก พันธุจีน (Chiness) ทั้งสีขาวและสีเทา พนั ธเุ อม็ เดน็ (Embden) พันธุโทเลาซ (Toulouse) พนั ธฟุ ล กรมิ (Pilgrim) พันธุอ าฟริ กัน (African) และพันธุอิยิปตเซียน (Egyptian) นอกจากพันธุหานดังกลา วแลว ยงั มกี ารผสมขา มพนั ธเุ พอ่ื ผลติ หา นลกู ผสม สาํ หรับการคาโดยเฉพาะ พนั ธจุ นี มีอยู 2 ชนดิ ทเ่ี ปน ท่ีนิยม คอื พนั ธจุ นี สขี าว และพันธุจีนสีเทา รปู รา ง เล็กกวาพันธุอื่นๆ มีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว เม่ือโตเตม็ ทจ่ี ะมนี า้ํ หนกั ปานกลางซง่ึ เหมาะสําหรบั ขายสง ตลาด นา้ํ หนกั เมอ่ื เปน หนมุ สาว ตัวผูจะหนักประมาณ 4.5 กก. ตัวเมียจะหนักประมาณ 3.6 กก. สว นนา้ํ หนกั เมอ่ื โตเตม็ ท่ี ตวั ผหู นกั ประมาณ 5.5 กก. และตัวเมยี หนกั ประมาณ 4.5 กก. เมอ่ื เทยี บกบั พนั ธอุ น่ื ๆ แลว หา นพนั ธจุ นี ใหไ ขเ มอ่ื อายุนอย และใหไขดี โดยเฉลย่ี ประมาณตวั ละ 30-50 ฟองตอป ซง่ึ เคยมรี ายงานการ ใหไ ขส งู สดุ ถงึ ปล ะ 132 ฟอง และนํา้ หนกั ไขเ ฉลย่ี ฟองละ 150 กรัม พันธุเ อ็มเด็น มีแหลงจากประเทศเยอรมันนี ขนสีขาวบริสุทธ์ิตลอดตัว มี ลักษณะคอนขา งสวยงามแตข นบางเบา จงึ มองเหน็ เหมอื นตง้ั ชต้ี รงขน้ึ ไป มลี กั ษณะลาํ ตัวตรง คอ นขา งใหญ มอี ตั ราการเจรญิ เตบิ โตเรว็ สามารถทาํ นา้ํ หนกั ตวั ไดเ ตม็ ทใ่ี น ระยะเวลาอนั สน้ั เหมาะสําหรับเลี้ยงไวเพื่อจาํ หนา ยเนอ้ื น้าํ หนกั ตวั เมอ่ื เปน หนมุ สาวตวั ผูหนักประมาณ 9.1 กก. ตวั เมยี หนกั ประมาณ 7.3 กก. เมอ่ื โตเตม็ ทต่ี วั ผหู นกั ประมาณ 11.8 กก. และตวั เมยี หนกั ประมาณ 9.1 กก. ใหไ ขไ ดด พี อประมาณตวั ละ 30-40 ตอ ป
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 3 พันธุโทเลาซ มีแหลงกําเนดิ จากประเทศฝรง่ั เศล ทางตอนใตต ามชอ่ื เมอื งโท เลาซ ลักษณะเฉพาะของหา นพนั ธนุ อ้ี ว นล่าํ ลาํ ตวั กวา งมขี นไมห นา ตรงกลางหลงั มขี น สีเทาเขม ซึ่งจะคอยๆ จางลงมาเรอ่ื ยๆ ตรงอกและทองมแี ถบเปน ขอบสขี าว ตาสนี า้ํ ตาล แกหรือน้ําตาลแดง ปากสสี ม ออ นๆ แขง และขอ เทา มสี สี ม ปนแดง สว นขาตอนลา งและ เล็บเทา มสี แี สดเขม นา้ํ หนกั ตวั เมอ่ื เปน หนมุ สาว ตวั ผหู นกั ประมาณ 9.1 กก. ตวั เมยี หนักประมาณ 7.3 กก. สว นนา้ํ หนกั เมอ่ื โตเตม็ ท่ี ตวั ผหู นกั ประมาณ 11.8 กก. ตวั เมยี หนักประมาณ 9.1 กก. ซง่ึ เมอ่ื เทยี บกบั หา นพนั ธเุ อ็มเด็นแลว จะมขี นาดเทา ๆ กนั การ ใหไขเ ฉลย่ี ประมาณตวั ละ 34 ฟองตอ ตวั พนั ธฟุ ล กรมิ หานพันธุนม้ี ขี นสแี ตกตา งกนั ระหวา งตวั ผกู บั ตวั เมยี เมอ่ื อายุ 1 วัน ตัวผูจะมสี คี รามจางๆ ไปทางขวา สวนตัวเมียสีเทา พอโตขน้ึ ตวั ผจู ะมสี ขี าวตลอดรา ง แตตัวเมียมสี เี ทาปนขาว ลกั ษณะรปู รา งอยใู นขนาดกลางๆ นา้ํ หนกั เมอ่ื เปน หนมุ สาวตวั ผูหนักประมาณ 5.5 กก. ตวั เมยี หนกั ประมาณ 4.5 กก. เมอ่ื โตเตม็ ท่ี ตัวผูหนัก ประมาณ 6.4 กก. และตวั เมยี หนกั ประมาณ 5.9 กก. การใหไ ขอ ยใู นเกณฑต ่ํา เฉลย่ี ประมาณตวั ละ 29-39 ฟองตอ ตวั พนั ธอุ าฟรกิ นั เปนหานรปู รา งสวยงาม มกี อ นตมุ ขนาดโตสดี าํ เห็นไดชัดเจน บนหัว ลกั ษณะลําตวั ยาวรี หัวสีนํา้ ตาลออ น จงอยปากเปนสีดาํ ขนบรเิ วณปก และหลงั สี เทาออ นปนนา้ํ ตาล ขนตรงคอ,อกสีเดียวกนั แตอ อ นกวา เลก็ นอ ย ขนใตล าํ ตวั มสี อี อ น กวาขนตรงอกจนเกอื บจะเปน สขี าว แขง และเทา สสี ม เขม นา้ํ หนกั เมอ่ื เปน หนมุ สาว ตัวผู หนัก 7.3 กก. ตวั เมยี 6.4 กก. เมอ่ื โตเตม็ ทต่ี วั ผหู นกั ประมาณ 9.1 กก. ตวั เมยี หนกั 8.2 กก. พันธแุ คนาดา เปนหานปาทม่ี ถี น่ิ ฐานอยทู างอเมรกิ าเหนอื ขนาดคอ นขา งเลก็ ลําตวั คอ นขา งยางหวั มสี ดี าํ มคี าดสเี ทาหรอื ขาว บนหนา ทง้ั สองขา ง คอสดี าํ หลงั สดี ําปน เทา ขนปก มสี ดี ําขลบิ เทาออ น และมีขนาดยาวใหญ เจรญิ เตบิ โตชา และใหไ ขน อ ยมาก เม่ือเปน หนมุ สาว ตัวผูหนัก 4.5 กก. ตวั เมยี 3.6 กก. เมอ่ื โตเตม็ ทต่ี วั ผหู นกั 5.5 กก. ตวั เมยี หนกั 4.5 กก. พนั ธอุ ยี ิปตเ ชย่ี น เปนหา นขนาดเลก็ ลาํ ตวั คอ นขา งยาว เล็กและเรียว จงอย ปากสมี ว งอมแดง หัวสีดาํ ปนเทา มจี ดุ สนี า้ํ ตาลอมแดงรอบๆ ตา ลาํ ตวั สว นบนมสี เี ทา ปนดํา สว นลา งสเี หลอื งเปน ลายๆ สลบั รว้ิ สดี าํ แขง และเทา สเี หลอื งออกแดง
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 4 ประโยชนข องการเลย้ี งหา น 1. เลี้ยงงาย เจรญิ เตบิ โตเรว็ เมอ่ื ลกู หา นมอี ายุ 10 วนั ขน้ึ ไป เปอรเ ซน็ ตก าร เล้ียงรอดประมาณ 80% การตายมกั จะเกดิ ขน้ึ ในชว งสปั ดาหแ รก อาจจะเนอ่ื งมาจาก ออนแอหรือถูกแมทับ ระยะเวลาการเลย้ี งสน้ั เมอ่ื อายปุ ระมาณ 15 สัปดาห ก็ใชฆา บริโภคได 2. การลงทุนตา่ํ เนอ่ื งจากหา นสามารถเจรญิ เตบิ โตไดด ี โดยอาศัยหญาอยาง เดียว ยกเวน ในชว งแรกเกดิ ระยะแรกเทา นน้ั ทต่ี อ งจดั หาอาหารผสมใหล กู หา นกนิ ดว ย 3. เลี้ยงไดในทองที่ทุกแหง ไมว า จะเปน ทด่ี อน ที่ลุม แมแ ตใ นบรเิ วณบา นกใ็ ช เล้ียงหา นได ขอแตใหมที ี่กนั แดดกันฝนกเ็ พียงพอแลว 4. ชวยทาํ ใหพื้นที่สะอาด หา นสามารถกินหญา และวัชพืชตา งๆ ไดเ ปน อยา งดี จงึ ชวยทาํ ใหบ รเิ วณทเ่ี ลย้ี งสะอาด 5. มูลหา นใชเ ปน ปยุ สําหรับใสตนไมและพืชผักได 6. ไมส กปรกและไมม กี ลน่ิ เหมน็ 7. ชวยเฝาบา นและปอ งกนั สตั วร า ยในบรเิ วณบา น เชน แมลงปอง ตะขาบ และ งู เปน ตน เรือนโรงสําหรับเลี้ยงหาน ปกติแลว โรงเรอื นสาํ หรับเลี้ยงหานใหญไมคอยจะจาํ เปน นกั นอกจากลกู หา นใน ระยะแรกเกิด ควรจะมโี รงเรอื นเลย้ี งเปน สดั สว น แตอ ยา งไรกต็ ามอาจจะสรา งเปน โรง เรือนเล็กๆ สําหรับใชเลี้ยงหานโดยทั่วไปก็ไดอยางเชน โรงเรอื น เลย้ี งไกห รอื เปด แต หากจะประหยัด หรอื ลดตน ทนุ การผลติ อาจจะกน้ั บรเิ วณใตถ นุ หรอื บรเิ วณลานบา น ใช สังกะสี หรือลวดตาขา ยสงู 1 เมตร ลอ มกน้ั บรเิ วณกไ็ ด เพอ่ื สะดวกตอ การเคลอ่ื นยา ย หรือเปล่ียนสถานท่ี สิ่งที่สําคัญก็คือ พน้ื เลา ของโรงเรอื นหรอื บรเิ วณทก่ี น้ั เลย้ี งหา นจะ ตองแหง มสี ง่ิ รองพน้ื หนาพอควร ในการเลย้ี งปลอ ยควรมรี ม ตน ไมไ ว สําหรบั หา นได หลบแดดดวย ความตองการพื้นที่เลี้ยงของหานขนาดตางๆ ลูกหา นอายุ 1 สัปดาห ควรจัดใหมีพื้นที่ ½-3/4 ตารางฟตุ /ตวั ลูกหา นอายุ 2 สัปดาห ควรจัดใหมีพื้นที่ 1-1 ½ ตารางฟตุ /ตวั ลูกหานอายุ 2 สปั ดาหข น้ึ ไปอยา งนอ ย 2 ตารางฟตุ ตอ ตวั แตควรปลอ ยอสิ ระ ออกเลย้ี งในทงุ หญา หรอื แปลงหญา
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 5 การเลี้ยงหาน อาจจะแบง ออกไดเ ปน 3 อยา ง คอื 1. การเล้ียงหา นเพือ่ ผลิตไข แตไ มค อ ยเปน ทน่ี ยิ มนกั ทง้ั นเ้ี นอ่ื งจากหา นไขไ ม ดก เพราะใหไ ขป ล ะ 4-5 ครง้ั ๆละ 7-10 ฟองเทา นน้ั 2. การเลย้ี งหานเพ่ือขยายพนั ธุ โดยทั่วไปแลว หานท่ีเลย้ี งเพ่อื การขยายพันธุ จะเปน หา นทม่ี อี ายตุ ง้ั แต 1 ปข น้ึ ไป ซง่ึ ในชว งการใหไ ขป ท ่ี 2 และปที่ 3 หานจะใหไขด ี 3. การเล้ียงหา นเนอ้ื เพื่อขายเปนหานกระทง อายุระหวาง 2-4 เดอื น หานที่ ใชเลี้ยงเปนหานเนื้อ ควรจะมีการเจรญิ เติบโตเรว็ มขี นสขี าวและขนขน้ึ เตม็ มซี ากตก แตงแลว ขนาดปานกลาง วธิ เี รม่ิ ตน เลย้ี งหา น ทาํ ได 2 วิธี คอื 1. ซื้อไขมาฟกเอง ซง่ึ คอ นขา งยงุ ยากเลก็ นอ ยและตอ งรจู กั วธิ กี าร 2. ซ้ือลูกหา นมาเลย้ี ง ซึ่งเปนวิธีที่สะดวกกวา โดยทั่วไปแลว อาจจะกลาวไดวาการเล้ียงหานสวนมากเล้ียงเพอ่ื ขายเปน หา น เน้ือ สวนการท่ีจะเรม่ิ เลย้ี งเมอ่ื ไรนน้ั ขน้ึ อยกู บั ความตอ งการของตลาด อยา งเชน ความ ตองการของตลาด สําหรบั หา นเนอ้ื มมี ากในเทศกาลตรษุ จนี ดงั นน้ั ผเู ลย้ี งจะตอ งเรม่ิ เล้ียงลวงหนา กอนเทศกาลตรษุ จนี ประมาณ 3-4 เดอื น เปน ตน แตม กี ารเลย้ี งหา นกนั ตลอดป การฟก ไขห า น ไขหานท่ีจะนํามาฟก ควรเปนไขหานจากแมหานที่ไดรับการผสมพันธุแลว และมอี ายรุ ะหวา ง 1-3 ป ไขที่จะใชฟกไมควรเก็บไวนานเกิน 7 วัน หากเก็บไวถึง 10 วันมีแนวโนมจะทาํ ใหก ารฟก ออกตา่ํ ลง แตถาจาํ เปน ตอ งเกบ็ ไวน านเกนิ 7 วัน ตอ งเกบ็ ไวในที่ที่มีอุณหภูมิ 50-60°F หรอื ประมาณ 10-15°C และความชื้นสัมพัทธ 75-80 เปอรเซ็นต ควรกลบั ไขอ ยา งนอ ยวนั ละครง้ั เพอ่ื ปอ งกนั มใ่ิ หเ ชอ้ื ตดิ เยอ่ื เปลอื กไข ไขฟกที่ สะอาดจะมีเปอรเซ็นตการฟกออกเปนตัวดีกวาไขท่ีสกปรก หากจําเปนตองใชไขท่ี สกปรกไมม ากนกั ไปฟก ตอ งรบี ทาํ ความสะอาดทนั ทหี ลงั จากเกบ็ โดยใชฝอยโลหะหรือ กระดาษทรายเบอร 0 หรอื เบอร 1 ขดั เบาๆ หรอื ลา งในนา้ํ อนุ ทส่ี ะอาด (อณุ หภมู ิ ประมาณ 46°C) ซึ่งผสมดวยนาํ้ ยาลา งไขเ ปน เวลาประมาณ 3 นาที ควรระมดั ระวงั เสมอวาน้ําท่ีใชลางไขจ ะตอ งอนุ กวา อณุ หภูมขิ องไขเ สมอ ไขฟ ก ท่ีขนาดฟองใหญเ กินไป หรือเล็กเกนิ ไป หรอื มลี ักษณะผิดปกติแตกราว ไมควรใชฟก เพราะโอกาสจะฟกออก เปน ตวั มนี อ ยมาก ระยะเวลาฟกไขหาน 1. หานพันธุทั่วไป 31-31 วัน 2. หา นพนั ธแุ คนาดา และพันธอุ ียิปตเ ซีย่ น 35 วัน
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 6 วิธีการฟกไขหา นมีอยู 3 วิธี คอื 1. ใชแมไกฟก แมไ กต วั หนง่ึ สามารถฟก ไขห า นไดค รง้ั ละ 4-5 ฟอง 2. ใชแมห า นฟก แมห า นตวั หนง่ึ ฟก ไขห า นไดค รง้ั ละ 7-8 ฟอง วิธีฟกไข 2 วธิ ดี งั กลา วขา งบนน้ี จะตองจัดทํารงั ฟก ไขส ําหรับแมไก หรือแม หานกกไขดวย พน้ื รงั ไขค วรรองดว ยหญา แหง หรอื ฟางขา ว กอ นใชแ มไ กห รอื แมห า นฟก ไข ควรจะไดทาํ การกําจัดไร หรอื เหาตามตวั เสยี กอ น รงั ฟก ไขค วรอยใู กลท ี่ใหอาหาร และนํ้าและควรวางบนพน้ื ดนิ เพราะจะเปน การชว ยใหม คี วามชน้ื มากขน้ึ ในที่ที่แมไก หรือแมห า นไมถ กู รบกวนในระหวา งฟก ไข หากจะชวยกลับไขวันละ 3-4 ครง้ั ก็จะเปน ผลดี โดยทําเครื่องหมายตามดานยาวของฟองไขไวเปนการกันสับสน การกลบั ไขใ ห กลบั 180 องศา 3. ใชตูฟกหรือที่เรียกวา การฟกแบบวิทยาศาสตร ไขที่จะนาํ มาฟก หากเก็บไวใ นหอ งเก็บไขท ค่ี วบคุมอุณหภมู ิ เมอ่ื จะนําเขา ตู ฟกจะตองมาวางไวใ นหอ งปกตเิ สยี กอ น เพอ่ื ใหไ ขม อี ณุ หภมู สิ งู ขน้ึ จึงคอยนาํ เขา ตฟู ก มิ ฉะน้ันอุณหภูมิในตฟู ก ไขจ ะลดลงอยา งมาก การวางไขใ นถาดฟก ใหว างไขใ นแนวราบ ตามความยาวของฟองไข และการทาํ เครอ่ื งหมายทฟ่ี องไข เพอ่ื ความสะดวกในการกลบั ไข อุณหภูมิตูฟกไขควรตั้งไวที่ 37.5° เซลเซียส หรือ 99.5-99.7° ฟาเรนไฮท ในชว ง 25-28 วันแรก ความช้ืนสัมพัทธของตูฟกประมาณ 57-60% (ปรอทตมุ เปย ก ประมาณ 30-31°C) และควรจะพรมไขดว ยนาํ้ อนุ สปั ดาหล ะ 2 ครง้ั ไดมีผูแนะนะไววา ในการฟก ไขห า นใหไ ดผ ลดนี น้ั ควรจะเอาไขอ อกมาวาง ขางนอกตฟู ก พรมดว ยน้าํ อนุ เปน ฝอยๆ ตง้ั ทง้ิ ไวส กั 10-15 นาที แลว จงึ นาํ กลบั เขา ตู ฟก ระหวางชว งออก ชว งทล่ี กู จะเกดิ ใหมเ รม่ิ เจาะเปลอื กไข ควรจะเพิ่มความชื้น ใหส งู ขน้ึ ถงึ 73-79 % (ปรอทตมุ เปย กประมาณ 32.7°-33.8° เซลเซียส)ความชน้ื สงู ในชวงน้ี จะชวยทําใหเย่ือหุมเปลือกไขนุม เปน การงา ยสําหรับลูกหานจะไดเจาะโผล ออกมา การสองไขระหวางฟก การสอ งไข คือ การตรวจดวู า ไขฟ องไหนมเี ชอ้ื หรอื ไมม เี ชอ้ื การสอ งไขค วร กระทําในหอ งมดื โดยใชท ส่ี อ งไขส อ งดู หรอื จะจบั ไขม าสอ งกบั แสงสวา งดกู ไ็ ด ควรสอ ง ไขดู 2 ครง้ั ครง้ั แรกเมอ่ื ฟก ไขไ ปไดแ ลว 10 วนั และครง้ั ทส่ี องเมอ่ื ครบ 28 วัน หรือ เหลอื อกี 3 วัน กอ นกาํ หนดออกเปน ตวั
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 7 ไขไมมเี ชอ้ื หรอื ไขเ ชอ้ื ตาย เมอ่ื สอ งไขดคู รง้ั แรก จะตอ งนําออกไปจากตูฟกไขให หมด เพื่อมิใหกระทบกระเทือนตอการฟกออกของไขมีเชื้อ ไขไมมีเช้ือจะมองเห็น เหมือนไขธรรมดา ไขเ ชอ้ื ตายจะปรากฏเปน จดุ ดาํ ตดิ อยกู บั เยอ่ื เปลอื กไข ซง่ึ จะมวี งเลอื ด ปรากฏใหเหน็ สว นไขม เี ชอ้ื และกาํ ลงั เจรญิ เตบิ โตจะเหน็ เปน จดุ ดาํ ทส่ี ว นทา ยของไขใ กล กับชองอากาศ และมเี สน เลอื ดกระจายออกไปรอบๆ จากจุดนี้ ในการสอ งไขค รง้ั ทส่ี อง เมอ่ื ไดท าํ การฟกไปแลว 28 วัน หรอื อกี 3 วัน กอ น กําหนดออกเปน ตวั ไขที่เชื้อยังดีอยูและกาํ ลงั จะออกเปน ตวั จะปรากฏเปน สดี าํ ทึบไป หมด ยกเวน สว นทเ่ี ปน ชอ งอากาศ จะมองเหน็ การเคลอ่ื นไหวของลกู หา นทก่ี าํ ลงั จะออก ดว ย อัตราการฟกออกเปนตัวของไขหานไขท่ีเก็บในระยะแรกขอบงการใหไขจะฟก ออกเปนตัวดที สี่ ดุ แลวคอยๆ ลดลงเรอ่ื ยๆ ตามระยะของการใหไ ข ซง่ึ เฉลย้ี ตลอดฤดู การใหไข ซง่ึ เฉลย่ี ตลอดฤดกู ารใหไ ข อตั ราการฟก ออกมาประมาณ 66% การดเู พศของหา น ในลูกหานจะตรวจดูเพศไดโดย 1. ปล้ินกนดู ซ่ึงเหมอื นกบั วธิ ดี เู พศลกู เปด วธิ นี ส้ี ามารถดเู พศลกู หา นไดเ มอ่ื อายุ 1-2 วัน โดยใชน ว้ิ หวั แมม อื ซา ยกดเหนอื ทวารดา นบน แลว ใชน ว้ิ หวั แมม อื ขวากด ปลิ้นกนดูแลว ไมม เี ดอื ยเลก็ ๆ โผลอ อกมา 2. ดูปก เม่ือลกู หา นอายปุ ระมาณ 3-4 วัน สงั เกตไดด ปู มทข่ี อ ศอกดา นในปก ถาเปนลูกหานตวั ผปู มจะใหญ มสี ดี ํา ลกั ษณะยาวรี ไมม ขี นปกคลมุ มขี นาดเทา ปลาย ดินสอมองเห็นไดชัดเจน แตถ า เปน ลกู หา นตวั เมยี จะไมม ปี มดงั กลา ว หรอื ถา มขี นาดจะ เล็กมากและมขี นปกคลมุ จนมองไมเ ห็น 3. ดูสีขน วธิ ใี ชด ไู ดใ นหา นพนั ธฟุ ล กรมิ และพนั ธเุ อ็มเดน็ เทา นน้ั คอื ลูกหาน พนั ธฟุ ลกริมตัวผจู ะมสี คี รามออ นๆ เกอื บขาว แตลูกหานตัวเมียจะมีสีเทา สว นลกู หา น พันธุเ อ็มเด็น ตัวผูจะมสี ขี าวมากปนกบั สเี ทาออ นเพยี งเลก็ นอ ย สวนตัวเมียจะมีสีเทา มากปนสเี ขยี วเพยี งเลก็ นอ ย เม่ือลูกหานโตแลว จนเปน หา นรนุ ขน้ึ ไป จะสังเกตลักษณะเพศไดโดย 1. วิธีดูอวัยวะเพศ โดยจบั หา นวางบนโตะ หรอื วางบนโคนขาของผจู บั ใหห าง หานชี้ออกไปจากตัวผูจับหาน แลวใชนิ้วชี้ หลงั จากทาวาสลนิ แลวสอดเขา ไปในทวาร ลึกประมาณคร่ึงนว้ิ วนรอบๆ ทวารหลายๆ ครง้ั หลงั จากนน้ั คอ ยๆ กดดา นลา งหรอื ดานขางของทวาร หากเปนตัวผูอวัยวะเพศซึ่งมีลักษณะคลายเกลียวเปดจุกกอกจะโผล ออกมากใหเห็น
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 8 2. วิธีฟงเสียง ในหานท่ีเจริญเตบิ โตเตม็ ทแ่ี ลว หานตัวผูจะมีเสียงแหบตํ่า สวน หานตวั เมยี จะมเี สยี งใสกงั วานชดั เจน 3. วิธีดูลักษณะรปู รา ง ในหา นอายเุ ทา กนั หานตัวผูจะสังเกตไดจากลักษณะ รูปราง ซง่ึ มลี ําตัวยาวกวา คอยาวกวาและหนากวา อกี ทง้ั ขนาดตวั ใหญก วา การจดั และการเลย้ี งดลู กู หา น หากอากาศไมห นาวเยน็ หรอื ระหวา งหนา รอ น การกกลูกหานจะกกเฉพาะใน เวลากลางคนื เทา นน้ั ซึ่งจะกกประมาณ 2-3 สัปดาห หากใชแมไกหรือแมหานกก ซึ่ง เปนการกกแบบธรรมชาติ ก็ไมมีปญหาแตอยางใด แมไกตัวหนึ่งจะกกลูกหานได ประมาณ 4-5 ตวั สว นแมห า นจะกกลกู หา นไดป ระมาณ 7-8 ตวั หากมลี ูกหา นเกดิ ใหมจ ํานวนมาก ก็ควรจะใชวิธีกกแบบวิทยาศาสตร ซึ่งอาจจะใช 1. ตะเกียง การใชตะเกียงกก ตะเกียงหนึ่งดวงจะใชกกลูกหานไดประมาณ 15-35 ตวั ควรใชสังกะสีทาํ เปน วงลอ มกนั มใิ หล กู หา นถกู ตะเกยี ง และมวี งลอ มดา น นอกกั้น มิใหลูกหานออกไปไกลจากตะเกยี ง ซง่ึ เปน แหลง ใหค วามรอ ย 2. เครอ่ื งกก ซึ่งอาจจะใชไฟฟาหรือใชแกสก็ได แตโดยทั่วไปแลวนิยมใชไฟฟา ลักษณะเปน กรงกก หรือเปนลักษณะแบบฝาชีก็ได กรงกกขนาดกวา ง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ใชก กลกู หา นไดป ระมาณ 50-75 ตวั ถา เปน แบบเครอ่ื งกกฝาชี ซึ่งกกลูกไกได 500 ตวั ก็จะใชกกลูกหานได 250 ตวั ในการใชเ ครอ่ื งกกลกู หา น จะตอ งสงั เกตการ แสดงออกของลูกหานเปนคร่ืองชี้ใหทราบวาความรอนท่ีใชกกเหมาะสมพอดีหรือไม เชน ลูกหานเบยี ดกนั อยู สมุ กนั อยแู ละสง เสยี งดงั แสดงความรอ นไมพ อ หรือลกู หานยนื อาปากกางปก ออกแสดงวา ความรอ นมากเกนิ ไป โรงเรือนหรือสถานท่ีท่ีใชกกลูกหานในชว งน้ี พน้ื เลา จะตอ งแหง มแี สงสวา งพอ ควร ไมม หี ยกั ไยห รอื ฝนุ ละอองสกปรก อากาศถา ยเทไดด ี และปอ งกนั มใิ ห สนุ ขั แมว หรือ หนู เขา ไปรบกวนทาํ อนั ตราย ลกู หา นได จากชว งแรกเกิดถึงอายุ 3 สัปดาห จะใชอาหารลูกไกสาํ เรจ็ รปู ชนดิ อดั เมด็ มาใช เล้ียงลูกหานกไ็ ด หรือหากผสมอาหารเอง เมอ่ื ผสมแลว จะตอ งมจี าํ นวนโปรตนี ประมาณ 20-25% จะใชผสมนาํ้ พอหมาดๆ ใหกินก็ได หากจะใชร างนา้ํ หรอื รางอาหารทใ่ี ชเ ลย้ี งลกู ไกม าใชเ ลย้ี งลกู หา นกไ็ ด แตควร จัดใหม พี น้ื ทข่ี อบรางนา้ํ สําหรบั ลกู หา นหนง่ึ ตวั อยา งนอ ย 3-4 ตวั และขอบรางอาหาร ½ นว้ิ
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 9 ต้ังแตแรกเกดิ จนถงึ 24-48 ชั่วโมง ไมต อ งใหอ าหารลกู หา น หลงั จากนน้ั จง้ึ เร่ิมใหอาหาร ควรใหล กู หา นกนิ อาหารบอ ยๆ วนั ละประมาณ 3-5 ครง้ั ปรมิ าณอาหาร ที่ใหกิน ประมาณวา ใหแ ตล ะครง้ั ลกู หา นกนิ หมดพอดี หรือหากเหลือก็นอยที่สุด โดย เฉล่ียลูกหา นจะกนิ อาหารวนั ละประมาณ 10% ของนา้ํ หนกั ตวั มนี า้ํ สะอาดใหก นิ ตลอด เวลา การจดั การและเลย้ี งดหู า นรนุ หลังจากท่ีลูกหานมีอายุ 3 สัปดาหแลวอาหารท่ีใชเลี้ยงควรจะเปล่ียนเปน อาหารทม่ี โี ปรตนี ประมาณ 17-18 เปอรเ ซน็ ต หรือจะใชอาหารสาํ เรจ็ รปู สาํ หรับไกรุน ก็ได และควรจะใหหานไดกินหญาสด โดยเร็วเทาที่จะเปนได โดยคอยๆ ปลอยใหหาน หัดหาหญากินเองแลวจัดหาอาหารผสมเสริมไวใหกินตอนเย็นวันละประมาณ 100- 150 กรัมตอ ตัว จรงิ อยทู ว่ี า หา นสามารถเตบิ โตไดด ี ถึงแมจะเลี้ยงดวยหญาสดเพียง อยางเดยี ว แตก ารใหอาหารผสมเสริมใหห านกนิ จะทาํ ใหม กี ารเจรญิ เตบิ โตดแี ละเรว็ กวา ในที่ที่ปลอยใหหานไปหาหญากิน ควรมีรมตนไมหรือทํารมไวใหในระหวางท่ี อากาศรอน หากสามารถจัดทําแปลงหญา สําหรับหา นไดโ ดยเฉพาะเปน การดอี ยางยิ่ง อีกท้ังประหยัดตน ทนุ การผลติ ดว ยหา นชอบกนิ หญา ทต่ี น ออ นยงั สน้ั และนมุ แปลงหญา ที่ปลอยใหหานเขาไปกินแลว จะตอ งตบแตง เปน การทาํ ใหหญาที่เหลือคางอยูไมแก การ ตัดในชว งหา งสมา่ํ เสมอกนั จะทาํ ใหหญาไมยาว และมีเยอ่ื ใยมากเกินไปแปลงหญา ทไี่ ด รับการบํารงุ อยา งดี เนอ้ื ท่ี 1 ไร จะเลย้ี งหา นไดป ระมาณ 30-50 ตวั การจัดการและเลี้ยงดูหานเนื้อ ปกติแลวในบา นเราจะเลย้ี งหา นจนมอี ายปุ ระมาณ 4-5 เดอื น ก็จับขายเมื่อ ประมาณวา จะจบั ขายเมอ่ื ใด กอ นหนา นน้ั สกั 4 สัปดาห อาหารผสมที่ใชเลี้ยง ควรจะ ลดจํานวนโปรตนี ลงเหลอื ประมาณ 14 เปอรเ ซน็ ต หรอื ใชอ าหารไกเ นือ้ ชว งสุดทายกไ็ ด หานรนุ ทง้ั ตวั ผู และตวั เมยี ทไ่ี ดค ดั เลอื กไวส ําหรับทาํ พนั ธุ ควรจะนาํ มาเลย้ี งขนุ เพอ่ื ขาย เปนหานเน้อื ในชว ง 4 สปั ดาหน ค้ี วรจะจบั หา นขงั ไวใ นคอกเลก็ ๆ ไมต อ งปลอ ยไปหา หญากิน แตควรตัดหญานํามาใหกินในคอกเพื่อหานจะไดมีนํ้าหนักตัวเพม่ิ เรว็ ขน้ึ และ เนื้อมีคุณภาพดี วธิ ขี นุ อาจจะแบง ขนุ เปน 1. ขุนขังคอกเลก็ จบั หา นขงั คอกประมาณ 20-25 ตวั ตอ คอก มพี น้ื ทข่ี นาด ใหพออยูสบายๆ ไมต อ งมลี านวง่ิ พน้ื คอกมวี สั ดรุ องพน้ื จะจัดกั้นลานเล็กๆ ใหอยูก็ได ใหอาหารกนิ วนั ละ 3 เวลา มนี า้ํ ใหก นิ ตลอดเวลา และมขี า วเปลอื กหรอื ขา วโพด หญา สดหรือเศษผักที่ไมมีสารพิษตกคางใหกินดวย
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 10 2. ขุนเปนฝูงใหญ ฝงู ละเปน 100 ตวั ขน้ึ ไป ซง่ึ อาจใชว ธิ เี ดยี วกนั กบั การเลย้ี ง ไกกระทงก็ได โดยใชโ รงเรอื นแบบเดยี วกนั พน้ื คอกตอ งมวี สั ดปุ รู องพน้ื หรือจะใชเปน พื้นลวดตาขายก็ได อาหารที่ใชขุนจะใชอาหารไกกระทงชวงสุดทาย หรอื ผสมใชเ องกไ็ ด พรอมทง้ั มภี าชนะใสน า้ํ ไวใ หกินดวย หรืออาจจะใชวธิ ีขุนในแปลงหญา โดยเฉพาะ และมี อาหารผสมเสรมิ ใหก ิน ซง่ึ จะเปน การชว ยใหร ะยะการขนุ สน้ั เขา คุณคาทางอาหารของเนื้อหาน เน้ือหานกเ็ หมอื นกบั เนอ้ื ของสตั วเ ลย้ี งลกู ดว ยนม ประกอบดว ย นา้ํ โปรตนี ไขมัน แรธ าตุ ไวตามนิ และคารโบไฮเดรท อกี เลก็ นอ ย สว นประกอบเหลา นจ้ี ะมาก หรือนอยก็ขึ้นอยูกับพันธุ อายุ และสภาพการเลี้ยงดู เนอ้ื ของหา นเมอ่ื ยงั เลก็ จะมนี า้ํ มาก และมีไขมันต่ํา แตก ย็ งั มไี ขมนั มากกวา เนอ้ื ของไก คณุ สมบตั ทิ ด่ี เี ดน ของเนอ้ื สตั วป ก อยทู ่ี คุณคาอาหาร และรา งกายของมนษุ ยส ามารถทจ่ี ะยอ ยและดดู ซมึ เขา สรู า งกายได เนอ้ื หานมีโปรตีนพอๆ กบั เนอ้ื ไก โดยเฉพาะเนอ้ื หา นทไ่ี มไ ดข นุ จะมโี ปรตนี มากกวา เนอ้ื ไก และเน้ือหานออน เนอ้ื หา นขนุ จะมไี ขมนั มากกวา เนอ้ื ไก และใหป รมิ าณพลงั งานทม่ี าก กวา เนอ้ื ไก สวนประกอบทางเคมขี องเนอ้ื สตั วป ก บางชนดิ ชนดิ ปรมิ าณเปน เปอรเ ซน็ ต พลังงานกิโลแคลอรี่ ความชน้ื โปรตนี ไขมนั เกลอื แร ตอ 100 กรมั เนอ้ื ไกอ อ น เนอ้ื ไกแ ก 74.8 16.5 5.5 3.2 118.8 เนอ้ื หา นออ น 63.7 19.3 16.0 1.0 227.9 เนอ้ื หา นขนุ 46.7 16.3 36.2 0.8 403.5 เนื้อหานไมไดขุน 38.0 15.9 45.6 0.5 448.3 70.82 22.6 5.4 1.09 142.9 การจัดการและการเลี้ยงดูหานพันธุและหานกําลังไข ในบานเราจากการศึกษาพบวาหานจะเริ่มใหไข เมอ่ื อายปุ ระมาณ 165 วัน หรือประมาณ 5 เดอื นครง่ึ ขน้ึ ไป ซง่ึ ตามธรรมชาตแิ ลว เมอ่ื ทา นจะเรม่ิ ใหไ ข แมหานจะ หารงั ไขเ อง ฉะนน้ั จึงจาํ เปน ตอ งจดั ทาํ รงั ไขใ ห ซึ่งอาจทาํ ไดหลายลักษณะ เชน ทาํ เปน ชองๆ เหมอื นรงั ไขส าํ หรับเปดหรือไก ชอ งละ 1 ตวั ควรมขี นาดอยา งนอ ยกวา ง 18 นว้ิ ลึก 20 นว้ิ สูง 40 นว้ิ หรืออาจจะทาํ เปน รงั ไขต ามยาวโดยไมต อ งกน้ั แบง ชอ งกไ็ ด พรอมท้ังมีวัสดรุ องพน้ื ทส่ี ะอาดรองไวใ หห นาพอสมควร เพอ่ื ไขจ ะไดสะอาด อยา งนอ ย จะตอ งมรี งั ไข 1 รงั สาํ หรับหาน 5-6 ตวั หานจะใหไ ขเ ปน ชดุ ๆ ในปห นง่ึ โดยเฉลย่ี ประมาณ 3-4 ชุด แตอาจใหไขต งั้ แต 1-7 ชุด ชดุ หนง่ึ จะไดไ ขป ระมาณ 7-10 ฟอง แตบ างครง้ั อาจจะไดค รง้ั ละ 9-12 ฟอง
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 11 ซึ่งการใหไขในชุดที่ 2 จะใหไ ขม ากกวา ชดุ อน่ื ๆ และแตล ะชดุ จะใชเ วลาประมาณ 10- 15 วัน โดยมีชวงหานระหวางชุดแรกับชุดที่สอง ตง้ั แต 26-71 วัน โดยชวงหางระหวาง ชุดแรกจะหางมาก และชดุ ตอ ๆ ไป จะสน้ั ลงเรอ่ื ยๆ ระยะแรกๆไขห า นจะมขี นาดเลก็ เทา กับไขเปด ตอ ไปจะมขี นาดใหญข น้ึ เมอ่ื อายกุ ารใหไ ขค รบป ไขห า นจะมขี นาดสองเทา ของไขเปด ไขห า นโดยเฉลย่ี จะมีนาํ้ หนกั ประมาณฟองละ 155.6 กรัม ปกติแลวหานจะใหไขวันเวนวัน หรือ สามวนั ตดิ ตอ กนั แลว จงึ หยดุ ไขว นั หนง่ึ หรือหลายวัน และหา นจะใหไ ขตอนสายๆ การเก็บไขวนั ละหลายๆ คร้งั จะชว ยมิใหแมหา นนง่ั กกไขแ ละหยดุ ไขเร็วเกนิ ไป การใหไขข องหา นในปท ส่ี อง จะใหไขจาํ นวนมากกวา ในปแ รก และฟองใหญกวา ดวย ถึงแมวาเปอรเซ็นตของไขมีเช้ือจะลดลงเมอ่ื หา นมอี ายมุ ากขน้ึ กต็ าม แตการฟก ออกของไขหา นทม่ี เี ชอ้ื จะมเี ปอรเ ซน็ ตเ พม่ิ ขน้ึ ในปท ส่ี อง หลงั จาก 2-3 ป ไปแลวการให ไขจะลดลงเรอ่ื ยๆ ในปต อ ๆ ไป แตก ม็ แี มห า นบางตวั สามารถใหไ ขไ ดด ี ถึงแมวาอายุจะ ครบ 10 ป แลว กต็ าม และบางครง้ั ถงึ แมว า จะมอี ายมุ ากกวา นน้ั กย็ งั สามารถใหไ ขไ ด ในชวงที่หานกําลงั ใหไ ข ใชอ าหารไกไขห รอื อาหารผสมเองทม่ี โี ปรตนี ประมาณ 15-17% ใหก นิ วนั ละ 2 เวลา วนั ละประมาณ 250-300 กรมั ตอ ตวั สวนหานท่ีเล้ียงไวทําพันธุ หลังจากชวงพนชวงเปนหานรุนแลวก็พิจารณาคดั เลือกหา นทม่ี ลี กั ษณะดนี ํามาใชเ ลย้ี ง เพื่อขยายพันธุตอไป หลักใหญๆ ทใ่ี ชพ จิ ารณาในการคดั เลอื กหา นสําหรับผสมพันธุ คอื 1. นา้ํ หนกั ตวั 2. ความกวา งของหนา อก 3. ความยาวและขนาดลาํ คอของหาน ถา คอยาวพอดี เรียวเล็กไมห นาเทอะทะ สว นใหญจ ะเปน หา นไขด ก 4. อัตราการเจรญิ เตบิ โต 5. สีของขน 6. ความมอี ายยุ นื ยาว 7. การใหไข 8. ความยาวของกระดกู สนั หลงั 9. ความอุดมสมบรู ณใ นการสบื พนั ธุ 10.การฟก ออกเปน ตวั นอกจากนั้นลักษณะที่สาํ คญั ของหา นพอ พนั ธทุ จ่ี ะตอ งพจิ ารณากค็ อื มลี กั ษณะ แข็งแรง ขอ ขาแขง็ คมุ ฝงู เกง และมคี วามกระตอื รอื รน ในการผสมพนั ธุ
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 12 อัตราสว นของตวั ผแู ละตวั เมยี ในการผสมพนั ธุ สําหรับหานพันธุหนัก ตวั ผูตัว หนึ่งใชคุมฝูงผสมพันธุตัวเมีย 2-3 ตวั สว นหา นพนั ธเุ บา ตวั ผตู วั หนง่ึ ใชค มุ ฝงู ตวั เมยี 4-5 ตวั หานที่ใชเลี้ยงทําพนั ธุ ไมต อ งเรง ใหเ จรญิ เตบิ โต เพียงแตปลอยใหหากินตาม ลานหญาอยา งเตม็ ท่ี ใหกินหญาสด พืชตระกูลถั่ว หรอื ผกั สดอน่ื ๆ อยางเพียงพอ และ ตองมีน้ําสะอาดใหก นิ ตลอดเวลา หากจะปลอ ยเลี้ยงไวในแปลงหญา ตง้ั หบี หรอื รงั ไวใ น แปลงหญา ใชฟางขาวหรือหญาปูรองพ้ืนรังฟุตตอตัว เพ่ือหานจะไดเดินเลนรอบๆ บริเวณได ควรมอี าหารผสมเสรมิ ใหก นิ วนั ละนดิ หนอ ยกเ็ พยี งพอแลว การผสมพันธุของหาน ควรปลอ ยใหผ สมพนั ธเุ องตามธรรมชาติ ถาหา นไดผสม กันในนํ้า จะชว งใหเ ปอรเ ซน็ ตไ ขม เี ชอ้ื ดขี น้ึ การผสมแบบฝูงใหญป ระมาณ 25-50 ตวั ไมนาจะกระทํา เพราะนอกจากหานพอพนั ธุจะจิกตีกันเองแลว ยังจะทาํ ใหก ารไขข อง หานแมพ นั ธลุ ดนอ ยลงดว ย ในระยะแรกจะพบวาการผสมพันธุของหานนั้นเปนไปอยางชา และลาํ บากจน กวาหา นตวั ผแู ละตวั เมยี จะคนุ เคยกนั และหากมีความจาํ เปน ตอ งเปลย่ี นพอ พนั ธุ หรือ แมพันธุ ควรแยกหานตัวเกาออกไปใหไกล เพราะจะทาํ ใหหานตวั เกาและตวั ใหมร งั แก กัน จิกตีกันหรอื สง เสยี งรอ ง เปน เหตใุ หห า นตวั ใหมท เ่ี ปลย่ี นเขา ไปเกดิ ความกลวั ดงั นน้ั หากไมมคี วามจาํ เปน ไมค วรเปลย่ี นพอ พนั ธุ นอกจากหา นนน้ั มอี ายแุ กเ กนิ ไป หานพอ พันธุตามปกติแลวยังสามารถใชผสมพันธุถึงอายุจะเกิน 5 ป ไปแลวก็ตาม การสขุ าภบิ าลและการปอ งกนั โรค 1. รักษาความสะอาดของบรเิ วณทเ่ี ลย้ี งหา นอยเู สมอ อยา ปลอยใหบริเวณที่ เลี้ยงเปยกแฉะ ภาชนะที่ใสอ าหารและนา้ํ ตอ งทาํ ความสะอาดอยเู ปน ประจาํ 2. อาหารที่ใชเลี้ยงหาน ตอ งเปน อาหารใหมแ ละคณุ ภาพดี นา้ํ ทใ่ี หก นิ ตอ งเปน นา้ํ สะอาด 3. ควรจดั ใหม ภี าชนะใสน า้ํ ยาฆา เชอ้ื โรคตง้ั ไว เพื่อใหบุคคลภายนอกจุมเทา กอนจะเขา บรเิ วณเลย้ี งหา น 4. ไมนําหา นจากทอ่ี น่ื มาเลย้ี งรวมกบั หา นทเ่ี ลย้ี งไวเ ดมิ จนกวาจะกักดอู าการ กอ นประมาณ 15 วัน 5. หากมหี า นปว ยออ นแอ ใหรีบแยกเลี้ยงไวตางหาก ปรึกษาสัตวแพทยเกี่ยว กับการรักษา ถา มหี า นตายตอ งจดั การฝง อยา งมดิ ชดิ หรอื ฝง เสยี อยา ไดน ําไปโยนทิ้ง หรอื ใหส ตั วอ น่ื กนิ 6. ปรึกษาสัตวแพทยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนปองกันโรค และการถายพยาธิ สํานกั ปศสุ ตั วอ ําเภอ หรอื สาํ นกั งานปศสุ ตั วจ งั หวดั ในทอ งทต่ี า งๆ ทั้งประเทศ
คาํ แนะนําการเลี้ยงหาน ✏ 13 สูตรอาหารหา น ราํ ละเอยี ด ลูกหาน หานรุน หา นกําลังไขหรือ หา นเนอ้ื ราํ หยาบ หานผสมพันธุ ปลายขา ว 48 50 32 ขา วโพด - - 52 30 ปลาปนจืด 10 20 - 20 กากถว่ั ลิสง 10 10 14 - เปลอื กหอยปน 15 8 10 8 กระดูกปน 15 10 8 8 เกลอื ปน 1 0.5 8 0.5 แรธาตุวิตามิน 0.5 1.0 5 1.0 0.5 0.5 2 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 ! ทม่ี า : เกษตรกาวหนา ปท่ี 7 ฉบับที่ 2 มีนาคม-เมษายน 2535
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: