พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิหมอไทยดีเด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ หมอพ้นื บา้ นตีนเปล่าของมวลชน แห่งบ้านหนองบัว ต�ำบลโคกสี อ�ำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม
หมอไทยดีเดน่ แห่งชาติ พ่อพห.ศม. ๒อ๕๕ส๘อย เพชรฤทธ์ิ หมอพ้ืนบ้านตีนเปลา่ ของมวลชน แห่งบ้านหนองบัว ต�ำบลโคกสี อ�ำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม
มหกรรมสมนุ ไพรแหง่ ชาติ ครง้ั ท่ี ๑๒ ช่ือเรือ่ ง พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ หมอไทยดเี ด่นแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ ผูเ้ ขียน นายแพทย์วชิ ัย โชคววิ ฒั น นายสันตสิ ุข โสภณสิริ กองบรรณาธิการ นางผลดิ า สนธ์ิสวุ รรณ นางเสาวณยี ์ กลุ สมบูรณ์ นางสาวปารณัฐ สขุ สุทธ์ิ ผ้ปู ระสานงาน วา่ ที่เรือตรีชยั วฒั น์ จงรอดนว่ ม นางสาวอรจิรา ทองสุกมาก นางสาวสิรริ ักษ ์ อารทรากร นางสาวภราดร สามสูงเนนิ นายสมคั ร สมแวง นางสาวสภุ าภรณ์ บญุ ปก ดำ� เนนิ การผลิต คณะกรรมการพัฒนาภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่นดา้ นสุขภาพแหง่ ชาติ กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข สนับสนนุ โดย ส�ำนักงานคณะกรรมการสขุ ภาพแห่งชาติ พิมพ์ที่ บรษิ ทั แปลน พรนิ้ ท์ตง้ิ จ�ำกัด ขอบคุณ ส�ำนกั งานสาธารณสขุ จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ สำ� นกั งานสาธารณสุขจังหวดั ร้อยเอด็ สำ� นกั งานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม
สารบัญ ๖ ค�ำประกาศเกยี รตคิ ุณ หมอไทยดีเดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๕๘ ๑๐ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ ประวตั หิ มอไทยดเี ด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ หมอพ้ืนบา้ นตนี เปลา่ ของมวลชน แหง่ บ้านหนองบวั ต�ำบลโคกสี ๒๔ อ�ำเภอวังยาง จงั หวดั นครพนม ประดิษฐกรรมภมู ปิ ัญญา ๓๒ นวตั กรรมภูมปิ ญั ญา ๔๔ แหลละักแเกนณวทฑา์ งการคดั เลือก ๔๖ หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๘ ค�ำสง่ั คณะทำ� งานพจิ ารณาคัดเลอื ก หมอไทยดเี ด่นแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๕๘
ค�ำน�ำ งานประกาศเกยี รตคิ ุณ “หมอไทยดเี ด่นแห่งชาติ” เป็นส่วนหน่งึ ของ การส่งเสรมิ และพัฒนาภมู ปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทย การสง่ เสรมิ และพฒั นาภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทย เปน็ ไปตามหลกั การและแนวคิดขององค์การอนามัยโลก ที่มีข้อสรุปต้ังแต่การผลักดัน “การบรรลุสุขภาพดีถ้วนหน้าเมื่อ ๒๕๔๓” ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ ๒๕๑๐ ว่าการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ จะพ่ึงแต่การแพทย์แผน ปจั จบุ นั เทา่ นน้ั ไมไ่ ด้ จำ� เปน็ ตอ้ งสง่ เสรมิ และพฒั นาการแพทยแ์ ผนดงั้ เดมิ ของแต่ละประเทศ แต่ละชมุ ชน และน�ำมาใชป้ ระโยชนร์ ่วมดว้ ย การคัดเลือกหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ เริ่มครั้งแรกเม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๔ ดำ� เนนิ การโดยคณะกรรมการพฒั นาภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ดา้ นสขุ ภาพแหง่ ชาติ ต้งั แตก่ ารก�ำหนดหลกั เกณฑ์ การประกาศเชิญชวนให้มีผเู้ สนอ และการ ด�ำเนินการคัดเลือกจนเสร็จส้ิน น่ายินดีท่ีปีนี้กรมพัฒนาการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้พัฒนากระบวนการคัดเลือก โดยมี การคัดเลือกหมอไทยดีเด่นระดับจังหวัดและระดับเขตข้ึน ในปีน้ีการ คดั เลอื กหมอไทยดีเด่นระดับชาติ จงึ ตอ่ ยอดจากการด�ำเนนิ การของกรม โดยนำ� รายชอ่ื หมอไทยดเี ดน่ ระดบั เขตมาพจิ ารณา แลว้ ลงพน้ื ทไ่ี ป “ดตู วั ”
และ “ดูผลงาน” จนในท่ีสุด ได้หมอไทยดีเด่นระดับเขต ๒ ท่าน ท่ีมี คะแนนกำ�้ กึ่งกัน คณะกรรมการจงึ ตัดสนิ ใจให้ทั้ง ๒ ทา่ น เป็นหมอไทย ดเี ด่นแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ คู่กนั คอื พ่อใหญ่หมอพรมมา แสงชมภู และ พ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ ขอให้ท้งั สองท่านมีสุขภาพพลานามยั ดี มีอายยุ ืนยาว สามารถเป็นที่ พง่ึ ของประชาชนในชมุ ชน เปน็ แบบอยา่ งอนั ดแี ละเปน็ ศรแี กว่ งการแพทย์ แผนไทย สืบไปนานเทา่ นาน นายแพทยว์ ิชยั โชควิวัฒน ประธานกรรมการพฒั นาภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ ด้านสขุ ภาพแห่งชาติ
ค�ำประกาศเกียรติคุณ หมอไทยดเี ดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธิ์ หมอพ้ืนบา้ นตีนเปลา่ ของมวลชน พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ เกิดเมือ่ วันท่ี ๑๑ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๘๒ ที่ บา้ นสองคอน ต�ำบลพระซอง อ�ำเภอนาแก จังหวดั นครพนม เปน็ บุตร คนท่ี ๒ ในจ�ำนวนพ่ีน้อง ๗ คน ของคุณพ่อค�ำตัน และคุณแม่บุญตา เพชรฤทธิ์ มีโอกาสเรยี นหนังสือแคช่ นั้ ป.๒ เทา่ นั้น โดยท่ีปู่และพ่อนอกจากมีอาชีพท�ำนาเป็นหลัก ยังท�ำหน้าที่เป็น หมอยารักษาเพื่อนบ้านในท้องถ่ิน พ่อหมอสอยจึงมีโอกาสได้เรียนรู้ และสืบทอดภูมิปัญญาหมอพ้ืนบ้านจากปู่และพ่อ มีโอกาสได้เข้าป่า เสาะหา ยาสมนุ ไพร และเรียนรู้วิธกี ารดแู ลรักษาคนไข้จากปู่และพอ่ มา ต้ังแต่ยังเลก็ พอ่ หมอสอยไดบ้ วชเรยี นครงั้ แรก เมอื่ อายุ ๒๒ ปี ไดบ้ วชเตม็ พรรษา กบั พระครนู าน เจ้าคณะอ�ำเภอ นาแก ซ่ึงเปน็ อุปัชฌายาจารย์ให้ ตอ่ มา ยงั บวชครง้ั ที่ ๒ อีก ๒ พรรษา ได้ศึกษาจนสามารถทอ่ งจ�ำและสวดมนต์ สบิ สองตำ� นานไดจ้ นจบ และพบวา่ คาถาอาคมทป่ี สู่ อนนน้ั ลว้ นยน่ ยอ่ มา จากบทสวดตา่ งๆ ในสบิ สองตำ� นาน พธิ กี รรมเพอ่ื ไลภ่ ตู ผิ ตี า่ งๆ กส็ บื ทอด มาจากพิธีกรรมต้ังแต่คร้ังพุทธกาล เช่น บทสวดในพระอาฏานาฏิยะ ปริตรสูตร ที่พระพุทธองค์ทรงสวดในพิธีช่วยให้ผู้คนรอดพ้นจากภัย ของยักษ์ และอมนุษย์ เป็นตน้ แมค้ วามรหู้ นงั สอื เพยี งชนั้ ประถม ๒ จะนอ้ ยและสว่ นใหญก่ ล็ มื เลอื น ไปหมดแลว้ แตพ่ อ่ หมอสอยกใ็ ชค้ วามเพยี รเรยี นรบู้ ทสวดตา่ งๆ ได้ และ
7หมอพนื้ บา้ นตีนเปล่าของมวลชน ข้อส�ำคัญคือ แมส้ ิกขาลาเพศออกไปแล้ว ก็ยงั เปน็ อบุ าสกทีร่ กั ษาศีล ๕ โดยเครง่ ครัดตลอดชวี ติ ด้วยชะตาฟ้าลิขิตที่พ่อหมอสอยไปเกิดท่ี อ�ำเภอนาแก จังหวัด นครพนม ศูนย์กลางความเคลื่อนไหวของพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ประเทศไทย พ่อหมอสอยวยั ๒๖ ปี จงึ ตอ้ งตดั สินใจหนีเขา้ ปา่ เขา้ ร่วม การต่อสู้กับพรรคฯ เพราะ “ถ้าไม่พากันเข้าป่าเทือกเขาน้ันก็คงถูกจับ ถูกฆา่ ตายกนั หมด” พอ่ หมอสอยออกท�ำการในป่าเขาเป็นเวลายาวนานถงึ ๑๙ ปี ได้ ข้ามไปอยู่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ร่วมรบอยู่ ในเวียดนาม และได้ไปศึกษาต่อในสาธารณรัฐประชาชนจีน จนถึงวัน “ฟ้าเปดิ ” เม่ือพลเอก เกรียงศักดิ์ ชนะนนั ท์ นายกรัฐมนตรี เรม่ิ เปล่ียน นโยบายเปน็ “การเมืองน�ำการทหาร” และ พล.อ.เปรม ตณิ สลู านนท์ เริ่มนโยบาย ๖๖/๒๕๒๓ พอ่ หมอสอยรอดทู ่าทีอยู่ระยะหนง่ึ ก็ตัดสนิ ใจ กลับมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และมีโอกาสใช้วิชาความรู้ทางการ แพทย์แผนไทยช่วยเหลือดูแลชาวบ้านที่ต�ำบลโคกลี อ�ำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม มาจวบจนปจั จุบนั แมก้ ารแพทยแ์ ละการสาธารณสขุ ของประเทศไทยจะพฒั นาไปมาก ระบบหลักประกนั สขุ ภาพถว้ นหนา้ มีอานิสงสแ์ ผไ่ ปถึงผู้ยากไร้ในชนบท มากแล้ว แต่เป็นไปดังท่ีองค์การอนามัยโลกได้ค้นพบและประกาศ
8 ประวัติหมอไทยดีเดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ นโยบายไว้ตง้ั แต่ต้นทศวรรษ ๒๕๒๐ วา่ ล�ำพงั การแพทย์แผนปจั จบุ นั ย่อมไม่สามารถน�ำพาให้ประชาชนบรรลุสุขภาพดีถ้วนหน้าได้ จ�ำเป็น ต้องพึ่งการแพทย์ด้ังเดิมของแต่ละประเทศด้วย เพราะการแพทย์ทุก แขนงย่อมมีพรมแดนและข้อจ�ำกัด พ่อหมอสอยจึงยังคงเป็นท่ีพ่ึงของ ประชาชนในท้องทีห่ ่างไกลได้มาก ด้วยความรู้ความสามารถ ด้วยปฏิปทาอันเปี่ยมด้วยคุณธรรมและ จริยธรรมวิชาชีพ บนสองเท้าเปล่า ท่ีคุ้นชินกับการเหยียบย่างไปบน ผืนแผ่นดิน ด้วยการรู้จักสมุนไพรทุกต้นในสวนหลังบ้านและในป่าเขา คุณความดีของพ่อหมอสอยจึงเปล่งประกายหอมทวนลม ลอยทวนน้�ำ จนคณะกรรมการเห็นพ้องกันท่ีจะยกย่องท่านเป็นหน่ึงใน “หมอไทย ดเี ด่นแห่งชาติ ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๕๘”
9หมอพ้ืนบ้านตนี เปล่าของมวลชน
10 ประวตั ิหมอไทยดเี ด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ ประวตั ิ หมอไทยดีเด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘
11หมอพน้ื บา้ นตีนเปลา่ ของมวลชน ประวัตชิ ีวิต พ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ ทายาทหมอพ้นื บา้ นไทลาวนครพนม วนั เดือน ปเี กดิ ๑๑ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๘๒ อายุ ๗๖ ปี ชอื่ -สกุลคสู่ มรส นางบุญเทยี น ไชยต้นเชอื ก อาชพี เกษตรกร การศึกษา จบชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ การอบรมความร ู้ หลกั สตู รสมนุ ไพรและการรกั ษาทมี่ ณฑลยนู นาน ประเทศ สาธารณรฐั ประชาชนจีน ทอ่ี ยปู่ จั จบุ ัน ๑๓ หมู่ ๖ ตำ� บล โคกสี่ อำ� เภอวังยาง จงั หวดั นครพนม การประกอบโรคศลิ ปะ เปน็ ผปู้ ระกอบโรคศลิ ปะสาขาการแพทยแ์ ผนไทย ประเภท เวชกรรมไทย โดยการประเมินความรู้และจรรยาบรรณ จากคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย [ตามมาตรา ๓๓ (๑) (ค) แหง่ พ.ร.บ. การประกอบโรคศลิ ปะ พ.ศ. ๒๕๔๒] เลขท่ีใบอนุญาต พท.ว. ๑๙๐๖๗ วันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ รางวัล/ผลงาน • กรรมการประเมินรับรองหมอพื้นบ้าน ระดับจังหวัด นครพนม พ.ศ. ๒๕๕๘) • วิทยากรโครงการเยาวชนจิตอาสาสืบทอดภูมิปัญญา แพทย์แผนไทย สมนุ ไพร นวดเพ่อื สุขภาพ ระหว่างวันท่ี ๒-๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ - ได้รบั เกียรตบิ ัตรเชดิ ชูเกยี รตหิ มอพนื้ บา้ น ณ วนั ที่ ๒๓ มนี าคม ๒๕๕๕ - ได้รับเกียรติบัตรการอบรมระยะสั้นหลักสูตร ห่างไกล โรคเบาหวานและความดนั โลหติ สงู ดว้ ยวถิ อี งคร์ วม ณ วนั ท่ี ๘ เดอื นกนั ยายน พ.ศ.๒๕๕๕ - ได้รบั มอบเกยี รตบิ ัตรเชดิ ชเู กียรตหิ มอไทยดเี ด่น ระดบั เขตบรกิ ารสขุ ภาพท่ี ๘ เมอื่ วนั ที่ ๒๕ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ดว้ ยเกยี รติประวตั ดิ ังกลา่ วและคณุ ูปการทท่ี ่านมีต่อการแพทยแ์ ผนไทย ทา่ นจงึ ได้รบั การพิจารณาคดั เลอื กให้เป็นหมอไทยดีเดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘
12 ประวตั ิหมอไทยดเี ด่นแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ พอ่ หมอสอยหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๘ เพชรฤทธิ์ หมอพ้ืนบ้านตีนเปล่าของมวลชน แห่งบา้ นหนองบัว ต�ำบลโคกสี อำ� เภอวงั ยาง จังหวัดนครพนม เสน้ ทางชีวิตท่ไี ม่ธรรมดาของนักเดินทางตนี เปล่า มผี ญาภาษติ อสี านบาทหนง่ึ กลา่ ววา่ ”ไผสแิ หนมฮซู้ าตาตง้ั แตเ่ กา่ ไผ สิคุกเข่าเข้าท้องส่องเห็น” ซ่ึงหมายความว่า “ใครเล่าจะสามารถล่วงรู้ ชะตาชวี ิตของตัวเองตัง้ แต่ก�ำเนดิ มา ใครเล่าจะเห็นความเปน็ ไปของชีวิต ตง้ั แต่อยูใ่ นท้องแม่” อนั ที่จริง คำ� ผญานเ้ี ป็นสจั พจนส์ �ำหรับทกุ ชวี ติ โดย เฉพาะชีวิตของพ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ ซ่ึงน่าจะมีชีวิตท�ำไร่ไถนาหาอยู่ หากินตามประสาชาวนาจนท่ัวไปในแดนอีสาน หรือถ้าไม่พอใจในความ เปน็ อยู่อันแรน้ แคน้ ก็อาจจะเดินทางเข้ากรงุ หรือมงุ่ ตะวันออกกลางเพ่ือ ขายแรงงาน แตแ่ ลว้ มใิ ชเ่ พราะพรหมลขิ ติ หากเปน็ เพราะวกิ ฤตบิ า้ นเมอื ง และสถานการณ์โลกท่ีลิขิตชีวิตอันผันผวนของชาวนาจนคนน้ี จากเส่ียว หนุ่มความรู้แคช่ นั้ ป.๒ ไดถ้ าโถมตัวเขา้ รว่ มสงครามประชาชนในสมรภมู ิ อินโดจีนอย่างโชกโชนหลายปี ก่อนท่ีจะกลับมาใช้ชีวิตอุทิศตนเป็นหมอ พืน้ บ้านรบั ใชม้ วลชนในถ่ินกำ� เนิดจนกระทัง่ ทุกวันน้ี
13หมอพ้ืนบ้านตนี เปลา่ ของมวลชน ทายาทหมอพื้นบา้ นไทลาวนครพนม พอ่ หมอสอย เพชรฤทธิ์ เกิดวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๔๘๒ ที่บา้ นสอง คอน ต�ำบลพระซอง อำ� เภอนาแก จงั หวดั นครพนม เป็นบตุ รคนท่ี ๒ใน จ�ำนวนพ่ีน้อง ๗ คนของคณุ พ่อคำ� ตนั กบั คณุ แมบ่ ญุ ตา เพชรฤทธิ์ คณุ พอ่ คำ� ตนั นอกจากทำ� นาเปน็ อาชพี หลกั แลว้ ยงั ทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ หมอยาปวั รกั ษา ไทบ้านในท้องถิ่น ตามความรู้ที่ได้รับมาจากบิดาช่ือพ่อหมอปู่เคนทอง เพชรฤทธ์ิ ซึ่งได้ถ่ายทอดภูมิปัญญาหมอพื้นบ้านของชาติพันธุ์ไทลาวให้ แก่ลกู ชาย แลว้ พลอยตกทอดมาสหู่ ลานชายดว้ ย ตอนเป็นเด็ก พ่อหมอ สอยไมเ่ พยี งไดท้ นั เหน็ พอ่ หมอปเู่ ทา่ นนั้ แตย่ งั ไดม้ โี อกาสไดต้ ดิ ตามเขา้ ปา่ เสาะหายาสมุนไพรกับปู่และบิดา จึงกล่าวได้ว่าต้ังแต่เล็กจนโตเป็นหนุ่ม วัยเบญจเพส ผู้บ่าวสอยได้เป็นหมอพื้นบ้านฝึกหัดอย่างใกล้ชิดกับ บรรพบรุ ษุ ครหู มอผเู้ ชยี่ วชาญถงึ สองทา่ น และเนอื่ งจากการแพทยพ์ น้ื บา้ น เปน็ การแพทยเ์ ชงิ วฒั นธรรม ผบู้ า่ วสอยจงึ ไดร้ บั การถา่ ยทอดกระบวนการ บ�ำบัดรักษาตามองค์ความรู้แพทย์ในสายวัฒนธรรมไทลาวจนมีความ เชี่ยวชาญ การบวชเรียนในวัยหนุ่มเพ่ือศึกษาธรรมะ พอ่ หมอสอยในวยั หนมุ่ กเ็ หมอื นกบั กลุ บตุ รทงั้ หลายทน่ี ยิ มบวชตาม ประเพณใี หพ้ อ่ แม่ ทา่ นบวชครงั้ แรกหนง่ึ พรรษาเตม็ เมอ่ื อายุ ๒๒ ปี ทวี่ ดั บา้ นตน้ แหน อำ� เภอนาแก จงั หวดั นครพนม โดยมยี าคู (พระคร)ู นาน เจา้ คณะอ�ำเภอนาแก เป็นอุปัชฌายาจารย์ ต่อมาไม่นานท่านก็กลับมาบวช อีก ๒ พรรษา เพอื่ ศกึ ษาธรรมะ แม้พระหนุ่มสอยจะอ่านหนังสือไมอ่ อก เลย แตก่ ็สามารถฝกึ หดั เทศน์ทอ่ งจำ� และสวดสบิ สองต�ำนานได้จบ ท่าน พบวา่ คาถาอาคมทใี่ ชใ้ นพธิ กี รรมบำ� บดั ทพี่ อ่ หมอปสู่ อนนน้ั ลว้ นยน่ ยอ่ มา จากบทสวดตา่ งๆในสิบสองต�ำนานทง้ั สิ้น เช่น บทชุมนุมเทวดา ท่ใี ชเ้ ร่มิ
14 ประวัติหมอไทยดีเดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ พธิ ีสตู รขวญั และพธิ ีกรรมสำ� คญั ต่างๆ คาถายงั กิญจิ และ ยานีธะ ภตู านิ ในรัตนสูตรท่ีใช้สวดท�ำน้�ำมนต์ไล่ภูติผีและรักษาผู้ป่วยเหมือนในสมัย พุทธกาล คาถานะโม ๘ จบ (ในนะโมการฏั ฐะกะคาถา) แทนนะโม ๓ จบ เพ่ิมความขลังของพิธี คาถายันทุนนิมิตตัง (ในอะภะยะปะริตตะคาถา) เพ่ือสวดไล่นิมิตส่ิงช่ัวร้ายทั้งหลาย หรือคาถาสักกัตวา ในบทอาฏานาฏิ ยะปะริตตัง (ย่อ) เพื่อให้พระพุทธเจ้ารักษาผู้ป่วยให้ปลอดภัยจากโรค ท้ังปวง เป็นต้น การได้บวชเรียนถึง ๒ ครั้งในวัยหนุ่ม ช่วยบ่มเพาะ พอ่ หมอสอยกลายเปน็ อบุ าสกทเี่ ครง่ ครดั ในศลี ๕ อนั เปน็ คณุ ธรรมสำ� คญั ของผ้เู ป็นหมอยาและหมอธรรม จากบา้ นเกดิ เมอื งนอนจรยทุ ธใ์ นสงครามประชาชน เส้นทางชีวิตของคนหนุ่มที่เคยเดินตามปู่กับพ่อเข้าป่าหาสมุนไพร มาทำ� ยารกั ษาคนไข้ หรอื คนหนมุ่ ทเ่ี คยเขา้ วดั บวชเรยี นถงึ สองครง้ั ในชว่ ง ๕ ปี นา่ จะเปน็ เส้นทางของหมอพ้นื บา้ นตามรอยบรรพบุรุษหรอื มิฉะนั้น กเ็ ปน็ เสน้ ทางของผใู้ ฝค่ วามสงบอยกู่ บั วดั วาอาราม นนั่ นา่ จะเปน็ เสน้ ทาง อนั ราบเรยี บของพอ่ หมอสอยในวยั หนมุ่ หากทา่ นไมไ่ ดไ้ ปเกดิ อยทู่ บี่ า้ นนาบวั จังหวัดนครพนม ศูนย์กลางการเคล่ือนไหวของพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ประเทศไทย พ้ืนที่ชนบทยากจนรอบเทือกภูพานอาจจะห่างไกลจาก ศูนย์กลางความเจริญของกรุงเทพฯ แต่ในทางตรงกันข้ามพื้นที่ดังกล่าว กลบั อยใู่ กลศ้ นู ยก์ ลางความขดั แยง้ อนั ดเุ ดอื ดของสงครามเยน็ ในอนิ โดจนี ระหว่างลัทธิทนุ นิยมกับลทั ธิคอมมิวนสิ ม์ แน่นอนว่าคนหนุ่มสาวท่ีเอาการเอางานในพ้ืนท่ีชนบทยากจนของ อสี านยอ่ มเปน็ เปา้ หมายการจดั ตง้ั ของพรรคคอมมวิ นสิ ตแ์ หง่ ประเทศไทย นบั ตง้ั แตว่ นั กอ่ ตงั้ พรรคในปี ๒๔๘๕ ผบู้ า่ วสอยจงึ เปน็ หนงึ่ ในคนหนมุ่ สาว เหล่านั้น แม้เขาจะรักธรรมะตามวิถีพุทธ แต่ความเหล่ือมล�้ำทางชนชั้น
15หมอพ้ืนบา้ นตนี เปล่าของมวลชน ย่อมผลักดันคนหนุ่มอย่างเขาให้รักความยุติธรรมมากกว่า ผู้บ่าวสอย เพชรฤทธข์ิ ณะอายไุ ด้ ๒๖ ปี พรอ้ มกบั คนหนมุ่ สาวนบั รอ้ ยไดต้ ดั สนิ ใจเขา้ ร่วมอดุ มการณ์กับพรรคคอมมวิ นสิ ตแ์ หง่ ประเทศไทยบนเทือกเขาภพู าน ในวันเสียงปืนนัดแรกของพรรคคอมมิวนิสต์ฯดังขึ้นท่ีบ้านนาบัวในวันที่ ๗ สงิ หาคม ๒๕๐๘ น้นั เอง พอ่ หมอสอยไดเ้ ล่าเหตผุ ลทีต่ ้องหนเี ข้าปา่ ว่า “ถา้ ไม่พากันเขา้ ปา่ เทือนั้นกค็ งถูกจับถกู ฆ่าตายกันหมด” สหายสอยในช่อื จัดตง้ั วา่ “สหายค�ำตัน ศรีบญุ เรอื ง” ได้เคลอื่ นไหว อยูใ่ นเขตภพู านนาน ๓ ปี ก่อนท่ีจะถูกสง่ ตวั ไปฝึกวิชาทหารท่กี รงุ ปักกงิ่ แต่ในระหว่างการเดินเท้าผ่านเวียดนาม ซึ่งสถานการณ์สงครามกับ สหรัฐอเมริการุนแรงมาก เส้นทางไปจีนถูกทิ้งระเบิดตัดขาด สหายสอย ซง่ึ มีชื่อจัดต้งั ใหมใ่ นภาษาเวียดนามวา่ “สหายเหงยี นเปยี ว” จึงตอ้ งชว่ ย แนวรว่ มปลดปลอ่ ยแหง่ ชาตเิ วยี ดนามสรู้ บกบั ทหารอเมรกิ นั เปน็ เวลา ๒ ปี กวา่ จะเดนิ ทางโดยรถยนตเ์ ขา้ กรงุ ปกั กง่ิ ไดส้ ำ� เรจ็ ในสาธารณรฐั ประชาชนจนี สหายสอยได้ช่ือจัดตั้งเป็นภาษาจีนว่า “สหายเจียงหัว” เมื่อเขาส�ำเร็จ การฝึกวิชาทหารจากโรงเรียนการเมืองและการทหารกรุงปักกิ่งภายใน เวลา ๓ ปี แต่ก็ไมส่ ามารถกลบั ประเทศไทยได้ เพราะขณะน้นั กองทพั อเมรกิ าไดท้ งิ้ ระเบดิ เวยี ดนามเหนอื อยา่ งหนกั ทำ� ใหเ้ สน้ ทางทเ่ี ชอื่ มระหวา่ ง จนี -เวียดนาม-ลาว-ไทยถกู ตดั ขาด ระหวา่ งท่ตี ดิ ค้างอย่ใู นจีนน้นั รฐั บาล คอมมวิ นสิ ตจ์ นี จงึ ใหโ้ อกาสสหายจากไทยสามารถศกึ ษาวชิ าใดเพมิ่ เตมิ กไ็ ด้ เนอื่ งจากมใี จรกั ในวชิ าแพทยพ์ นื้ บา้ นและสมนุ ไพรทเี่ คยรำ่� เรยี นมาจากปแู่ ละ พอ่ เปน็ ทนุ เดมิ อยแู่ ลว้ สหายเจยี งหวั จงึ ตดั สนิ ใจเลอื กเรยี นวชิ าแพทยแ์ ผน จีนและแพทย์พื้นบ้านสิบสองปันนาเพ่ิมเติมท่ีสถาบันแพทย์แผนจีนใน คุนหมงิ มณฑลยนู นานเปน็ เวลา ๒ ปเี ต็ม ขณะนน้ั ย่างเข้าสปู่ ี ๒๕๑๘ อนั เปน็ ปที สี่ าธารณรฐั สงั คมนยิ มเวยี ดนามสามารถรวมชาตเิ หนอื -ใตไ้ ดส้ ำ� เรจ็
16 ประวัตหิ มอไทยดีเดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ ในวันท่ี ๓๐ เมษายน และต่อมาในวันท่ี ๒ ธันวาคมปีเดียวกันนั้นเอง กองทพั ประชาชนปฏวิ ตั ลิ าวกส็ ามารถปลดปลอ่ ยประเทศไดส้ ำ� เรจ็ เชน่ กนั ดว้ ยเงอื่ นไขทเ่ี ออื้ อ�ำนวยดงั กลา่ ว ทหารปลดแอกแห่งประเทศไทย จงึ สามารถอาศยั เขตปลดปลอ่ ยของสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นหลังพิงเคลื่อนไหวตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-ลาวได้ คล่องตวั ขึ้น แต่ตอ่ มารัฐบาลไทยในสมัยนายกรฐั มนตรี พล.อ.เกรยี งศักด์ิ ชมะนันท์เริ่มใช้นโยบายการเมืองน�ำการทหารและวิธีทางการทูตเจรจา กับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนและลาวเพื่อให้ยุติการสนับสนุนพรรค คอมมิวนสิ ต์แห่งประเทศไทย ประกอบกบั นโยบาย ๖๖/๒๓ ของรฐั บาล พล.อ.เปรม ตณิ สลู านนท์ ท่ีนิรโทษกรรมให้สหายในป่าออกมาร่วมพัฒนาชาติไทยอย่างสันติ จึง ทำ� ใหก้ องทพั ปลดแอกแหง่ ประเทศไทย (ทปท.) ขาดหลงั พงิ และยอมวาง อาวุธในท่สี ุด คืนสูม่ าตุภมู ิเป็นหมอยาตนี เปลา่ ของมวลชน หลังจากระหกระเหินจากบ้านเกิดไปเป็นเวลานานถึง ๑๙ ปี ในปี ๒๕๒๗ สหายคำ� ตนั ศรบี ญุ เรอื ง (ชอ่ื จดั ตงั้ ของนายสอย เพชรฤทธ)์ิ พรอ้ ม กบั สหายนกั รบ ทปท. ไดถ้ กู รฐั บาล สปป.ลาว กดดนั ใหอ้ อกนอกประเทศ สหายคำ� ตนั จงึ เดนิ ทางออกจากลาวเขา้ เขมรแลว้ ขา้ มสแู่ ดนมาตภุ มู ไิ ทยที่ จังหวัดปราจีนบุรี มุ่งเข้าโคราชก่อนติดต่อเข้ารายงานตัวต่อหน่วยสันติ นิมิตรที่อ�ำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เปล่ียนสภาพจากสหายนักรบ ปลดแอกกลบั มาเปน็ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ หมอยาตนี เปลา่ ของมวลชน สืบทอดภารกจิ หมอพื้นบ้านของบรรพชนตอ่ ไป กอ่ นจะกลบั มาใชช้ ีวติ ตามปกติ บา่ วใหญส่ อยวยั ๔๕ ไดบ้ วชอาศยั ใตร้ ม่ ผา้ กาสาวพสั ตรอ์ กี ถงึ สองคราว ครง้ั ลา่ สดุ ไดอ้ ปุ สมบททวี่ ดั บา้ นพระซอง
17หมอพื้นบา้ นตนี เปลา่ ของมวลชน ต�ำบลพระซอง อ�ำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ท่านกลายเป็นหมอพระ รักษาญาติโยมในถิ่นเกิดจนมีชื่อเสียงขจรขจายโดยเฉพาะด้านการรักษา โรคมะเรง็ จงึ มพี นี่ อ้ งประชาชนทงั้ ในถน่ิ และตา่ งถนิ่ พากนั มารกั ษามากมาย เพราะท่านเป็นหมอพระผู้มีเมตตา เอาใจใส่รักษาญาติโยมด้วยความ เตม็ ใจโดยไม่เห็นแกล่ าภสกั การะใดๆ หลงั จากใชช้ วี ติ เปน็ หมอพระได้ ๖ พรรษาท่านจึงปรารภกับตัวเองว่าการเป็นหมอยาในสมณเพศอาจจะไม่ เหมาะสมเพราะต้องคลุกคลีกับอุบาสกสีกาอยู่ตลอดเวลา ท่านจึงตัดสิน ใจสกึ ออกมาเปน็ หมอรกั ษาคนไขอ้ ยกู่ บั บา้ น แตก่ ไ็ มท่ ง้ิ วดั ทกุ วนั พระทา่ น จะไปวัดท�ำบุญรักษาศีล ๘ ท�ำวัตรสวดมนต์ หากไม่ไปวัดก็จะน่ังสมาธิ ภาวนา ท�ำวัตรสวดมนตท์ ี่บ้าน โดยรักษาศีลอย่างเคร่งครดั ตลอดชวี ติ เม่ือลาเพศภิกษุออกมาแล้ว จารย์สอยได้ร่วมชีวิตฉันท์สามีภรรยา กบั นางบญุ เทยี น ไชยตน้ เชอื ก มบี ตุ รสาวดว้ ยกนั หนง่ึ คน นอกจากภรรยา จะทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ แมศ่ รเี รอื นแลว้ ยงั ทำ� หนา้ ทผี่ ชู้ ว่ ยหมออยา่ งขนั แขง็ อกี ดว้ ย เนอ่ื งจากไดอ้ ทุ ศิ ตนเปน็ แพทยพ์ นื้ บา้ นรกั ษาดแู ลไทบา้ นทเี่ จบ็ ไขไ้ ด้ ปว่ ยเปน็ เวลานานกวา่ ๒๕ ปจี นเปน็ ทย่ี อมรบั นบั ถอื ของประชาชน ทาง กระทรวงสาธารณสุขจึงได้มอบใบประกอบโรคศิลปะสาขาเวชกรรมไทย ประเภท (ค) เลขที่ พท.ว. ๑๙๐๖๗ แก่พ่อหมอสอย เพชรฤทธิ์ เม่อื วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เพ่ือให้ท่านสามารถประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยด้านเวชกรรมไทย บ�ำบัดรักษาผู้ป่วยตามภูมิปัญญาแพทย์พื้น บ้านได้ทวั่ ราชอาณาจกั รสืบไป ปัจจบุ ันนอกจากรับรกั ษาผู้ป่วยทบ่ี า้ นเลขท่ี ๑๓ หมู่ ๖ ต�ำบลโคกสี อ�ำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม ท่านยังประกอบวิชาชีพประจ�ำคลินิก ค�ำแสนภูเวชการ ต้ังอยู่เลขที่ ๒๙ ถนนธ�ำรงประสิทธ์ิ ต�ำบลในเมือง อำ� เภอเมอื ง จังหวัดนครพนม ๔๘๐๐๐
18 ประวตั หิ มอไทยดเี ด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ ภมู ิปญั ญาความชำ� นาญจากบรรพบุรุษ หมออายรุ กรรมพ้ืนบ้าน : เรยี นรู้จกั โรค การวนิ ิจฉยั โรค และการ รักษาโรคชนิดต่างๆ โรคที่หมอพื้นบ้านตระกูลเพชรฤทธ์ิรักษา อาทิเช่น กลุ่มโรคเดก็ ได้แก่ • โรคก�ำเริด หมายถึง อาการไม่สบายท่ีติดตัวเด็กมาตั้งแต่เกิด มี อาการร้องไห้ไม่หยุด โดยไม่ทราบสาเหตุในเด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง อายุ ๒ ขวบ • โรคทำ� มะลา หมายถงึ อาการหายใจไมอ่ อกในเดก็ เทยี บไดก้ บั โรค คอตีบ หรือเรยี กวา่ ทำ� มะลาจบั ล�ำคอ • โรคซางตานขโมย หมายถงึ โรคทเ่ี กดิ แกเ่ ดก็ ทข่ี าดอาหาร (เพราะ พอ่ แมจ่ น) ลำ� แขง้ ลำ� ขาจอ่ ย (เลก็ ) พงุ ใหญ่ เรยี กวา่ ซางขโ้ี ผ้ หรอื บางครง้ั อาจมอี าการขไี้ หล กนิ ขา้ วลงไปกข็ ้ี กนิ นำ�้ ลงไปกข็ อ้ี อกหมด จนไมม่ อี าหาร และน�้ำอยู่ในทอ้ งเลย เรียกวา่ ซางขี้ ซางบางชนิดจะมีอาการไข้แทรกอาจ มลี ำ� ตวั เหลอื งเหมอื นขมน้ิ เรยี กวา่ ซางเหลอื ง หรอื เมอื่ มไี ขข้ นึ้ จะมอี าการ ชกั แอนชักแงน (ชักดิ้นชักงอ) เรยี กว่า ซางแอนซางแงน เปน็ ตน้ กลมุ่ โรคสตรี ได้แก่ • เลือดประจำ� เดอื นมาไมป่ กติ และมดลูกไมป่ กติ • โรคหมาดขาว หมายถึง อาการตกขาว มีนำ้� เมือกขาวข่นุ หรอื อาจ จะมสี ีเหลอื ง หรอื สนี ำ�้ ตาล (กรณมี เี ลือดปน) ไหลออกมาจากช่องคลอด ในกรณที ี่ผิดปกติ จะมีกล่ินเหม็นและคันในช่องคลอดมาก • โรคกะบนู เลอื ด หมายถงึ อาการไขท้ เี่ กดิ จากภาวะหญงิ หลงั คลอด เลือดเสียหรือน้�ำคาวปลาถูกขับออกมาไม่หมด หรือหญิงหลังคลอดแล้ว อยไู่ ฟไมไ่ ด้ เลอื ดเสยี ทตี่ กคา้ งอยภู่ ายใน ถา้ ไมร่ เุ ลอื ดออกมาใหห้ มด เลอื ด
19หมอพน้ื บ้านตนี เปลา่ ของมวลชน จะกลายเป็นพษิ ได้ • โรคแมล่ ูกอ่อนกินผดิ หมายถึง อาการผดิ ปกติในหญงิ หลังคลอด ทก่ี นิ อาหารผดิ สำ� แดงหรอื ของแสลง มอี าการตงั้ แต่ มดื หนา้ วงิ เวยี น ฮาก (อาเจียน) แน่นหน้าอก จนถึงขั้นล้ินกระด้างคางแข็ง พูดไม่ได้ หมดสติ และอาจเสียชวี ิตไดถ้ า้ แกไ้ มท่ ัน อาการต่อเน่อื งของโรคนค้ี ือ แมล่ ูกอ่อน ไมม่ นี �้ำนม เบ่ืออาหาร ผอมโซ กลมุ่ โรคบุรษุ หรอื โรคอุปทม หมายถงึ โรคหนองใน ซฟิ ิลสิ กลมุ่ โรคไขห้ มากไม้ : เชือ่ กนั ว่าเปน็ ไขท้ ่ีมาจากปา่ หรือตน้ ไม้ โดยทัว่ ไป หมายถึง ไข้ป่า ซึ่งก็คือ ไข้จับส่ันหรอื มาลาเรีย นน่ั เอง ถา้ มีอาการไข้ตำ่� เรียกหมากไม้น้อย แต่ถ้ามีไข้สูงมากเรียกว่า หมากไม้ใหญ่ แต่ยังมี ความหมายของไข้หมากไม้ท่ีกว้างกว่าน้ัน คือ อาจหมายถึง ไข้รากสาด ใหญ่ (ไขห้ มากไมก้ ินเลือด) ไขไ้ ทฟอยด์หรือไขร้ ากสาดนอ้ ย (ไขห้ มากไม้ กินลำ� ไส้) หรอื ไขก้ าฬนกนางแอ่น (ไข้หมากไมท้ กทื้น) เป็นตน้ กลมุ่ โรคประดง (หรอื ปานดง) : โดยทว่ั ไปหมายถงึ กลมุ่ อาการมนึ ตงึ แผ่ ขยายไปตามผวิ หนงั (มนึ เซยี ) ปวดเมอ่ื ยไปตามเนอื้ ตวั ปวดขอ้ ปวดหวั มวั ตา และปวดเจบ็ ปวดรอ้ นไปตามลำ� ตวั หรอื อาจมอี าการคนั รว่ มดว้ ย ไดแ้ ก่ • ประดงไฟ หมายถงึ ไขท้ ่มี ีอาการปวดร้อนตามรา่ งกาย • ประดงเยน็ หมายถึง ไขท้ ีม่ อี าการมือเยน็ เทา้ เย็น • ประดงเสน้ ปะดงเอน็ หมายถงึ ไขท้ ม่ี อี าการเจบ็ ปวดวงิ่ ไปตามเสน้ ตามเอน็ ทวั่ รา่ งกาย • ประดงเมอ่ื ย หมายถงึ ไขท้ ม่ี อี าการเมอื่ ยตามเนอื้ ตามตวั ออ่ นเปลย้ี เพลียแรง ถึงขนาดยกแขนยกขาไม่ข้นึ
20 ประวตั ิหมอไทยดเี ดน่ แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ่อหมอสอย เพชรฤทธิ์ • ประดงเขา้ ขอ้ หมายถงึ ไขท้ ่ีมอี าการปวดหวั เข่า นงั่ พบั ขาไม่ได้ • ประดงถอื หัว หมายถึง ไขท้ ีม่ ีอาการปวดหวั มวั ตา หนกั หัวมาก • ประดงคนั หมายถงึ ไขท้ ม่ี อี าการคนั วงิ่ ไปตามเสน้ ตามลำ� ตวั อาจ มตี ่มุ คันหรอื ไม่มีตมุ่ กไ็ ด้ • ประดงชกั แอนชกั แงน หมายถงึ ไขท้ มี่ อี าการชกั ดน้ิ ชกั งอเวลาไขข้ น้ึ และสงบเป็นปกติเม่อื ไขล้ ง • ประดงเลือด หมายถึง ไข้ที่มีอาการเป็นจุดหรือตุ่มเล็กๆ สีแดง ตามแขง้ ขาหตู าจมูก เป็นต้น กลุ่มโรคสะดวง (หรือโรคริดสีดวง) : เป็นโรคกลุ่มหน่ึง ที่เกิดได้กับ อวยั วะตา่ งๆทั้งภายในและภายนอกรา่ งกาย มกั จะมีต่ิงหรือก้อนเนื้อเกดิ ขน้ึ ที่อวัยวะนน้ั ถา้ เกดิ ในชอ่ งตาเรยี ก สะดวงตา ถา้ เกดิ ในโพรงจมูกเรยี ก สะดวงดัง ถ้าเกิดท่ีช่องทวารหนักเรียกว่า สะดวงทวาร ถ้าเกิดในส�ำไส้ เรียกว่า สะดวงล�ำไส้ เป็นต้น โรคกินผิด : หมอพ้ืนบ้านอีสาน ถือว่าการกินของผิดเป็นโรคชนิดหนึ่ง คนทมี่ อี าการจากกนิ ของผดิ มกั จะเปน็ ผปู้ ว่ ยจากโรคอนื่ มากอ่ น ซงึ่ จะตอ้ ง ขะลำ� (เวน้ ) ของกนิ บางอยา่ งหรอื ของทแ่ี สลงตอ่ โรค แตถ่ า้ เผลอกนิ อาหาร ต้องห้ามลงไปก็จะท�ำให้เกิดอาการต่างๆเช่น ลงท้อง ฮาก (อาเจียน) เปน็ ตน้ ซงึ่ ต้องทำ� การรักษา ถา้ ไม่รกั ษาก็ไมห่ าย โรคมะเฮง็ หรอื โรคมะเรง็ : ชอ่ื โรคกลมุ่ หนง่ึ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทอี่ วยั วะภายในและ ภายนอกร่างกาย โรคน้ีเม่ือเกิดข้ึนที่ใดจะท�ำให้เนื้อบริเวณน้ันเน่า และ ลกุ ลามขยายตวั เรยี กวา่ เนอื้ รา้ ย หรอื เกดิ เนอื้ งอกขนึ้ เรยี กวา่ เนอ้ื งอก พอ่ หมอปูเ่ คนทอง เพชรฤทธ์ิ มชี ื่อเสยี งในการรกั ษาโรคมะเฮง็ ชนดิ ต่างๆ ได้
21หมอพืน้ บา้ นตนี เปลา่ ของมวลชน หายขาด โดยเชอ่ื วา่ เกดิ จากฝที อ่ี วยั วะภายในเหลา่ นน้ั เชน่ ฝหี วั ตบั หมาย ถึงมะเร็งตับ ฝีล�ำไส้หมายถึงมะเร็งล�ำไส้ ฝีที่มดลูกหมายถึงมะเร็งมดลูก หรอื ฝปี อดหมายถึงมะเร็งปอดหรอื วณั โรค เปน็ ตน้ พอ่ หมอสอยเองก็ได้ รบั การถา่ ยทอดวชิ ารกั ษามะเรง็ ของสายตระกลู เพชรฤทธม์ิ าจนเชยี่ วชาญ และมีช่อื เสียงทางดา้ นนี้มาจนถึงปจั จุบนั โรคกระดกู เคลอ่ื น กระดกู หกั กระดกู แตก : หมอพนื้ บา้ นตระกลู เพชรฤทธิ์ มชี อื่ เสยี งในดา้ นเปน็ หมอเปา่ กระดกู ประสานกบั การใชน้ ำ�้ มนั งาสมนุ ไพร ทานวดรักษา นอกจากน้ียังมีความเจ็บป่วยทั่วไปอีกหลายโรค ท่ีไทบ้านสามารถ ฝากผีฝากไข้กับหมอยาสมุนไพรตระกูลเพชรฤทธ์ิได้ เช่น เบาหวาน ไข้ เลอื ดออก โรคกระเพาะอาหาร ฝีชนดิ ต่างๆ โรคหมกั หม้นั (ทอ้ งผูก) บดิ ท้องรว่ ง ปวดท้อง ทอ้ งอืด ท้องเฟ้อ โรคลอ่ งแก้ว (โรคงสู วดั ไฟลามทุ่ง) เริม คางทูม ลมพษิ ผ่ืนคนั หรอื ถูกสตั ว์ขบตอด เป็นตน้ การตรวจวนิ ิจฉยั โรคของหมอพื้นบ้านอีสาน คนท่ัวไปมักเข้าใจผิดว่าหมอพ้ืนบ้านอีสานเป็นหมอผีหรือหมอเดา ไม่มีหลักวิชาในการตรวจวินิจฉัยโรค ตรงกันข้าม หมอพื้นบ้านตระกูล เพชรฤทธิ์ กเ็ หมอื นกบั หมอพ้นื บา้ นเชี่ยวชาญทั่วไปทมี่ ขี น้ั ตอนการตรวจ วินิจฉัยจนแน่ใจว่าเป็นโรคอะไรก่อนวางยารักษา แม้จะไม่มีการบันทึก เวชระเบยี นคนไขอ้ ยา่ งเปน็ ระบบก็ตาม การซกั ประวตั ิ เร่ิมต้ังแต่ “การซักประวัติส�ำคัญ” จากผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วย เช่น อาหารการกินอยหู่ ลับนอน อาชีพการงาน เคยเข้าดงมาหรอื เปล่า ปว่ ย
22 ประวัติหมอไทยดีเด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ มากว่ี ันแลว้ เคยป่วยแบบนมี้ าก่อนไหม เปน็ ต้น จากน้นั ก็จะ “ซักอาการส�ำคญั ” ว่าเจ็บคิง (เจ็บปวดร่างกาย) ตรง ไหน ปวดหวั ปวดทอ้ งหรอื เปลา่ รอ้ นหรอื หนาว สะบน้ั (หนาวสนั่ ) ภายใน ร่างกายไหม ขมปากหรือเปล่า กลืนข้าวน้�ำเป็นอย่างไร ขี้หลงข้ีลืมหรือ เปล่า หไู ดย้ ินไหม ข้ี เย่ยี วเป็นปกติดีหรอื เปล่า ถา้ คนไขเ้ ปน็ หญิงสาวให้ ถามว่าประจำ� เดอื นเปน็ ปกติไหม เปน็ ต้น การสงั เกต สังเกต : สีผวิ สีหนา้ ดวงตา รมิ ฝปี าก เลบ็ การเดิน การลุกน่งั อา้ ปากได้ตามปกติไหม หรือให้อ้าปากเพ่ือสังเกตลิ้น โคนล้ิน เหงือกฟัน กระพงุ้ แกม้ สงั เกตผวิ วา่ มเี มด็ ตมุ่ ผนื่ คนั ตรงไหนบา้ ง มเี หงอ่ื ออกมากผดิ ปกตหิ รอื เปล่าเป็นต้น การสัมผสั คล�ำคิง (สัมผัสร่างกาย) : เอาหลังมือแตะหน้าผาก และใต้คาง สมั ผสั ฝา่ มอื ฝา่ เทา้ เพอ่ื ตรวจความรอ้ น จบั ขอ้ มอื ตรวจชพี จร กดทอ้ งนอ้ ย เบา กดชายโครงซ้าย-ขวา บีบแขน บีบขาเบาๆ แลว้ ถามวา่ เจ็บไหม ปวด เมอื่ ยตรงไหนบา้ ง เปน็ ตน้ การตรวจกลิน่ สบื กลนิ่ (พสิ จู นก์ ลนิ่ ) : ขณะนงั่ ใกลค้ นไขไ้ ดก้ ลนิ่ อะไรบา้ ง เชน่ กลน่ิ คาว กลนิ่ เน่าเหม็น หรอื กลนิ่ เหม็นเขียวหรือไม่ การท�ำนายโรค ขั้นตอนท�ำนายโรค (วินิจฉัยโรค) : เป็นข้ันตอนส�ำคัญในการ วิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยจากการซักประวัติ ซักอาการ ตรวจร่างกาย แล้ว
23หมอพ้ืนบ้านตนี เปล่าของมวลชน วินจิ ฉัยใหไ้ ดว้ า่ ผูม้ าหาหมอป่วยเป็นโรคอะไร การรักษา จากนน้ั จึงให้การรกั ษาท่ถี กู กับโรค เช่น คนไขห้ ญิง มาด้วยอาการ ปวดทอ้ งนอ้ ยตรงมดลูก ปวดก้น โดยเฉพาะเวลายกของหนกั ยิง่ ปวดมาก ก็วนิ ิจฉยั ได้วา่ เป็นอาการมดลกู หยอ่ น เปน็ ตน้ คตธิ รรมประจำ� ใจของหมอใจพระ • “ผพู้ ดู บม่ คี วามผดิ ผฟู้ งั พงึ สงั วรณ์ เมอื่ ผดิ แลว้ กแ็ กไ้ ข แตถ่ า้ ไมผ่ ดิ ก็เป็นขอ้ เตอื นใจ” • ปริศนาธรรม “รักษา ๓ ปลาย หาย ๓ โทษ” พ่อหมอสอย เพชรฤทธิว์ สิ ัชนาว่า “รกั ษา ๓ ปลายในทนี่ ค้ี อื สำ� รวมรกั ษา ปลายตนี ปลายลนิ้ และปลาย มอื ไวใ้ หด้ ๆี สำ� หรบั หาย ๓ โทษ หมายถงึ ถา้ รกั ษาตนี ลนิ้ และมอื ไวด้ แี ลว้ ก็จะบเ่ กดิ โทษกับตวั เอง คอื ตีนอยา่ ไปทบี่ ด่ ี ถ้าตนี บ่พาไปก็ไปบ่ได้ ลน้ิ ให้ เว้าแต่คำ� ท่ีดี คำ� บ่ดีอยา่ พูด มือให้เฮ็ดแตส่ ง่ิ ที่ดี สง่ิ ไหนบด่ อี ย่าเฮด็ ”
24 ประวัติหมอไทยดีเด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ ประดิษฐกรรมภมู ปิ ญั ญา
25หมอพ้ืนบ้านตีนเปลา่ ของมวลชน ตำ� รบั ยาสมนุ ไพรรกั ษามะเร็งล�ำไส้ ของหมอยาตระกลู เพชรฤทธ์ิ ตำ� รับยาสมุนไพรรักษามะเร็งล�ำไส้ พ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ จงั หวัดนครพนม ได้รบั การคดั เลอื กเปน็ ที่ ๑ ใน ๔ ต�ำรับยาสมุนไพรรกั ษามะเร็ง ของหมอพ้นื บา้ น เพือ่ นำ� ไปใช้ วเิ คราะหฤ์ ทธทิ์ างเภสัชวิทยา ในระดับห้องปฏิบัติการ ภายใต้โครงการศกึ ษาและพัฒนาการใช้ภมู ปิ ัญญาของหมอพน้ื บ้าน ในการรกั ษาผปู้ ่วยโรคมะเรง็ สำ�นักการแพทย์พื้นบา้ นไทย กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
26 ประวัตหิ มอไทยดเี ด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ
27หมอพนื้ บา้ นตีนเปล่าของมวลชน สมนุ ไพรบำ� บดั : ตำ� รบั ยาสมนุ ไพรรกั ษามะเรง็ ลำ� ไส้ ของหมอยาตระกลู เพชรฤทธ์ิ ต�ำรับยาน้ีมีประสิทธิผลในการรักษา (Efficacy) เป็นที่ประจักษ์ แก่ชุมชน มาตั้งแต่รุ่นปู่ของพ่อหมอสอยแล้ว ต�ำรับยาน้ีประกอบด้วย สมุนไพรแห้ง ๑๐ ชนดิ รวมเป็นยา ๑ หอ่ ไดแ้ ก่ (๑) รากฟักขา้ ว ๒๔ กรมั (๒) รากชงิ ชี่ ๓๑ กรมั (๓) แกน่ มะดูก ๒๙.๕๐ กรมั (๔) หัวข้าวเย็นเหนอื ๔๕.๕๐ กรมั (๕) หนามคอ้ ม (ตะคอง) ใชส้ ่วนเหนอื ดิน ๒๖ กรมั (๖) พญาปลอ้ งทอง (เสลดพังพอนตวั เมยี ,พญายอ) ใชส้ ่วนเหนอื ดิน ๑๒.๕๐ กรัม (๗) ทองพนั ช่งั ใช้สว่ นเหนือดนิ ๔ กรมั (๘) รากสาบเสือ ๔ กรมั (๙) ล�ำอ้อยดำ� ๓ ข้อ (๑๐) ใบเตยหอม ๑๐ กรมั
28 ประวัตหิ มอไทยดเี ด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ
29หมอพน้ื บา้ นตนี เปล่าของมวลชน วิธีต้มยา : อนั เปน็ เอกลกั ษณ์ของหมอยาตระกลู เพชรฤทธ์ิ คอื ยา ๑ ห่อ ใชว้ ธิ ีตม้ ๓ ครงั้ ดังน้ี ตม้ ยาครงั้ ที่ ๑ ใสน่ ำ้� ทว่ มตวั ยาในหมอ้ ตม้ จนเดอื ดแลว้ รนิ นำ�้ ยาเกบ็ ไว้ ตม้ ยาครงั้ ท่ี ๒ ใสน่ ำ�้ ทว่ มตวั ยาในหมอ้ ตม้ จนเดอื ดแลว้ รนิ นำ้� ยาเกบ็ ไว้ ตม้ ยาครง้ั ที่ ๓ ใสน่ ำ้� ทว่ มตวั ยาในหมอ้ ตม้ จนเดอื ดแลว้ รนิ นำ้� ยาเกบ็ ไว้ น�ำน�้ำยาที่ต้มท้ัง ๓ ครั้งมารวมเป็นเน้ือเดียวกัน เพื่อให้น�้ำยาทั้ง สามครั้งมีความเข้มข้นเท่ากัน เมื่อกินหมดแล้วก็ต้มด้วยวิธีเดียวกันอีก ยา ๑ หอ่ ต้มกินได้ ๒ สปั ดาห์ วธิ ีกนิ ยา : กนิ คร้งั ละ ๑ แกว้ ๓ เวลาก่อนหรือหลงั อาหารกไ็ ด้ กิน ยาราว ๒-๓ สัปดาห์ ผูป้ ่วยจะมอี าการดีขนึ้ ตามลำ� ดบั ให้ตม้ ยากินต่อไป จนกระทัง่ หายขาดจากมะเร็ง
30 ประวัตหิ มอไทยดเี ด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ
31หมอพื้นบ้านตีนเปล่าของมวลชน ขะล�ำ : ขอ้ หา้ มระหวา่ งการรกั ษาโรคมะเร็ง เชน่ งดอาหารจ�ำพวก เนอื้ เหล้าหรือสง่ิ เสพติดมนึ เมา ของหมกั ดองทุกชนดิ รวมทั้งปลาร้าดว้ ย รปู แบบยาของหมอยาอสี าน นอกจากยาตม้ แล้ว ยงั มยี ารูปแบบอน่ื อกี หลายอย่าง แตท่ น่ี ยิ มแพร่หลาย ไดแ้ ก่ ยาฝน ท้ังนี้เพราะเตรียมยาได้ สะดวกรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องเสียเวลาก่อไฟต้ม ประหยัดเช้ือเพลิง (ซึ่ง ขาดแคลนในถ่ินกันดาร) เพียงแต่ใช้สมุนไพรแห้งหลายชนิด ส่วนท่ีเป็น รากไม้ หัว แก่น (ซ่ึงเปน็ ส่วนพชื วัตถทุ ีม่ เี ภสัชสารมาก) หรืออาจเปน็ สตั ว์ วัตถจุ �ำพวก เข้ียว เขา กระดกู เปลอื กหอย น�ำมาฝนกับหนิ ลับมีดหยาบ ให้ผงยาลงไปรวมในขันน้�ำสะอาดพรอ้ มด่ืมไดเ้ ลย
นวตั กรรมภมู ปิ ญั ญา
33หมอพนื้ บ้านตนี เปลา่ ของมวลชน ผู้พดู บ่มคี วามผิด ผฟู้ ังพงึ สังวรณ์ เมื่อผิดแลว้ กแ็ กไ้ ข แต่ถา้ ไม่ผดิ ก็เปน็ ข้อเตอื นใจ
34 ประวัตหิ มอไทยดเี ดน่ แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ่อหมอสอย เพชรฤทธ์ิ จติ บำ� บัดพื้นบา้ น
35หมอพน้ื บ้านตนี เปลา่ ของมวลชน หมอธรรมหรือหมอจติ บำ� บดั พ้ืนบา้ น : การใชพ้ ิธกี รรมความเชอื่ ของพุทธกบั ไสยพนื้ บา้ น เพอื่ ให้เกดิ สมาธิ จิต และขวัญก�ำลังใจของทั้งหมอและคนไข้ นับตั้งแต่การท�ำพิธีต้ังคาย ขนั ธ์ ๕ ในวนั องั คารเพอ่ื บชู าครกู อ่ นเรม่ิ รกั ษาโรค คนไขจ้ ะนำ� ดอกไม้ ๕ คู่ เทียน ๕ คู่ ซิน่ ผืนแพรวา เงิน ๑๒ บาท มาไหวค้ รูขอให้ทา่ นช่วยคุม้ ครอง และชว่ ยใหก้ ารรกั ษาโรคประสบผลสำ� เรจ็ เมอื่ หายโรคแลว้ คนไขจ้ ะทำ� พธิ ี ปลงคายเพอ่ื แสดงความสำ� นกึ ในบญุ คณุ ของหมอและครอู าจารยเ์ จา้ ของ วชิ าท่ชี ว่ ยเหลือใหก้ ารรักษาประสบความสำ� เร็จ ตามจรรยาบรรณ หมอ พื้นบ้านจะไม่เรียกค่าตอบแทนจากคนไข้ (เพราะถ้าเรียกค่ารักษาถือว่า “ผิดครู” ท�ำให้วิชาเส่ือม) แล้วแต่คนไข้จะสมนาคุณตามเศรษฐฐานะ ส�ำหรับพ่อหมอสอยนั้น ถ้าคนไข้ไม่มีเงินก็ไม่ต้องให้ มีเพียงดอกไม้และ เงินบชู าครู ๑๒ บาทกพ็ อแล้ว ในกระบวนการรักษาโรคต่างๆ เช่น การรักษาโรคมะเร็ง แม้จะ ใช้สมุนไพรบ�ำบัดเป็นหลัก แต่หมอสายตระกูลเพชรฤทธิ์ก็ยังใช้การ บริกรรมคาถาในข้ันตอนการรักษา เหมือนหมอพ้ืนบ้านอีสานทั่วไปโดย ใช้คาถาเสกขณะต้มยาหรือขณะฝนยา พร้อมกับเป่ามนต์ลงท่ีตัวคนไข้ เปน็ การสรา้ งขวญั กำ� ลงั ใจแกค่ นไขน้ บั เปน็ จติ บำ� บดั อยา่ งหนงึ่ คาถาเสกยา และเปา่ ทพ่ี อ่ หมอสอยไดร้ บั การถา่ ยทอดมา กค็ อื คาถา “ชะยนั โต” อยา่ งยอ่ ดังน้ี “ชะยันโต โต ยัน ชัย ชัย ยัน ติ ติ ยัน ชัย” อันเป็นหัวใจ แห่งชัยชนะในบทสวดมนต์ “พุทธชัยมงคลคาถา” นั่นเอง โดยเชื่อว่า คาถานจ้ี ะชว่ ยลดการอกั เสบ ทำ� ใหเ้ นอื้ รา้ ยยบุ ตวั ลง นอกจากนย้ี งั มคี าถา “ปะติสงั คะโร ปะตถิ าคะยะ” เพอ่ื ก�ำกับมิใหค้ วามร้อนขน้ึ มา ลดพษิ ลด ความรุนแรงของโรค คาถาเสกเป่าของหมอพื้นบา้ นแต่ละครูอาจตา่ งกัน ไป แต่ส�ำหรับสายตระกูลไทลาวของพ่อหมอสอยนั้นล้วนน�ำมาจากบท พุทธมนต์ในสิบสองต�ำนานท้ังส้ิน กล่าวคือมีความเป็นพุทธคุณมากกว่า คณุ ไสย แตท่ สี่ ำ� คญั คอื การบรกิ รรมคาถาชว่ ยใหจ้ ติ ของหมอเปน็ สมาธแิ ละ มคี วามละเอยี ดประณตี ในการเกบ็ ยาและปรงุ ยา อนั เปน็ การชว่ ยเสรมิ ให้ สมุนไพรมีฤทธ์เิ ตม็ ตามสรรพคุณยา
36 ประวตั ิหมอไทยดเี ดน่ แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธิ์ ขอภาพท่เี ก่ียวกับเนอ้ื หา ของหน้านีค้ รับ พธิ กี รรม เปา่ กำ� เริดเดก็
37หมอพนื้ บ้านตีนเปล่าของมวลชน พิธีกรรมเป่ากำ� เรดิ เดก็ : เช่นกันในการรักษาเด็กทารกร้องไห้ไม่หยุด แม้จะมียาสมุนไพร บำ� บดั หลายต�ำรับ แตก่ ต็ อ้ งรกั ษาควบคไู่ ปกบั การทำ� พธิ กี รรมเปา่ กำ� เรดิ ซง่ึ พอ่ หมอสอย ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อหมอปู่ให้รู้จักตั้งเคร่ืองขันธ์ ๕ บูชาครู ตั้ง เครอ่ื งไหวผ้ แี มก่ ำ� เนดิ (แมซ่ อ้ื ) ใหช้ ว่ ยคมุ้ ครองเดก็ หรอื ไมใ่ หห้ ยอกเยา้ เดก็ จนรอ้ งโยเยไมห่ ยดุ พรอ้ มกับบริกรรมคาถาแลว้ อมนำ้� พทุ ธมนต์ทที่ �ำจาก น�้ำส้มป่อยเป่าให้เด็ก นอกจากนี้พ่อหมอปู่เคนทองยังสอนหลานชายให้ รู้จักประกอบพิธีสูตรขวัญเด็กแรกเกิดหรือพิธีกรรมผอกเด็กเพื่อป้องกัน ไม่ให้เด็กเกิดใหม่มีอาการก�ำเริด โดยการวางเด็กลงในกระด้งแล้วท�ำท่า ไกวเหมือนไกวเปล พลางร้องบอกผวี ่า “กูฮ้ ุกกู...กฮู้ ุกกู...ถ้าแม่นเปน็ ลกู สู ให้มาเอาม้ือนี้วันน้ี ถ้ากราย(ล่วงพ้น)มื้อน้ีวันน้ี เป็นลูกกู” กลา่ วกนั วา่ วชิ าคาถาอาคมนนั้ ตอ้ งมกี ารครอบครู ไมใ่ ชว่ า่ ใครกท็ อ่ ง ได้ ท�ำได้ ดังค�ำกล่าวท่ีวา่ “คาถาน้นั ไผก็เว่าได้ แต่เอาไปบ่ได”้ พอ่ หมอสอยไดเ้ รยี นรศู้ าสตรห์ มอยาควบคกู่ บั การเปน็ หมอเปา่ ดว้ ย การพ่นน�้ำมนต์หรือเคี้ยวหมากเสกเป่ารักษาโรคจนช�ำนาญอีกหลายโรค ได้แก่ เป่ารกั ษากระดกู หกั เป่ารกั ษาโรคงูสวัด ไฟลามทงุ่ เป็นต้น กล่าว ได้ว่ากระบวนการรักษาของหมอพื้นบ้านอีสานนั้น ค�ำนึงถึงการดูแลโรค ทางกายควบคไู่ ปกบั โรคทางจติ ตามวถิ ชี วี ติ ทางวฒั นธรรมของชมุ ชนอสี าน
38 ประวัตหิ มอไทยดเี ด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ
39หมอพืน้ บา้ นตีนเปลา่ ของมวลชน หมอตีนเปลา่ และหมอใจพระของชาวบ้าน แมจ้ ะสกึ จากพระแลว้ แตพ่ อ่ หมอสอยกย็ งั มเี มตตาจติ ตอ่ คนไข้ และ คนยากจน เหมอื นเมื่อครั้งยงั เปน็ หมอพระ บ่อยครงั้ ท่านมไิ ด้เรียกรอ้ งให้ คนไข้ต้ังคายไหว้ครูก่อนท�ำการรักษาด้วย เพราะเกรงว่าหากคนไข้ไม่ได้ กลบั มาปลงคายจา่ ยคา่ ครกู จ็ ะเปน็ ผลเสยี แกค่ นไขเ้ อง พอ่ หมอสอยในวนั นี้ ยังคงเปน็ หมอเดินตนี เปลา่ เหมอื นพระเดินตีนเปลา่ บิณฑบาต แต่สง่ิ ท่ี แตกต่างไปจากเมื่อคร้ังยังเป็นหมอพื้นบ้านฝึกหัดอยู่กับปู่และบิดาก็คือ ท่านไม่เพียงเป็นหมอยาที่สามารถรักษาโรคตามแบบแผนของหมอพื้น บ้านอสี านเทา่ นัน้ แต่ทา่ นยงั ผสมผสานศาสตรก์ ารแพทย์แผนจีนและสบิ สองปันนาเข้ากับภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้านอีสานได้อย่างลงตัว นับว่าพ่อ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ ไดส้ รา้ งนวตั กรรมการแพทยแ์ ผนโบราณตะวนั ออก แบบผสมผสาน อันเป็นการชว่ ยเพมิ่ ประสทิ ธิภาพในการรักษาให้ไดผ้ ลดี ยิง่ ขน้ึ ในการวินิจฉัยโรค ท่านได้น�ำวิธีการแมะชีพจรท่ีข้อเท้าและข้อมือ ของจีนมาใช้ในการท�ำนายโรคได้อย่างแม่นย�ำ และในการบ�ำบัดรักษา ท่านได้น�ำเอาศาสตร์การเดินลมปราณผ่านฝ่ามือนวดทุยหน่ามามาผสม ผสานกบั การเปา่ คาถา กนิ ยาตม้ ทานำ้� มนั งาสมนุ ไพร ฝนยาทาเพอ่ื ใชใ้ นการ รักษาโรคกระดูก กระดูกหัก กระดูกแตก ปวดต้นคอจากการตกหมอน ปวดหวั ไหล่ ปวดหลงั ปวดเอว ปวดตน้ ขา ปวดหวั เขา่ ปวดนอ่ ง ปวดกลา้ ม เน้อื และปวดหัว เปน็ ต้น ในปจั จบุ นั นอกจากการรกั ษาโรคเกย่ี วกบั กระดกู และกลา้ มเนอ้ื แลว้ ความรคู้ วามชำ� นาญในการรกั ษาโรค ทพี่ อ่ หมอสอยไดร้ บั การยอมรบั อยา่ ง สงู จากประชาชนในพนื้ ทจี่ งั หวดั นครพนม มหี ลายกลมุ่ โรค ทสี่ รา้ งชอื่ เสยี ง ใหม้ ากท่สี ดุ คอื
กลุ่มโรคมะเร็ง ที่รักษาได้ผลมีประจักษ์หลักฐานยืนยัน คือการ รกั ษามะเรง็ ระยะสดุ ทา้ ย ทโี่ รงพยาบาลไมร่ บั รกั ษาและแนะนำ� ใหก้ ลบั ไป อยบู่ า้ น ไดแ้ ก่ มะเรง็ ลำ� ไส้ มะเรง็ ตบั มะเรง็ มดลกู ขณะนต้ี ำ� รบั ยาสมนุ ไพร รักษามะเรง็ ลำ� ไส้ของพ่อหมอสอย ได้รบั การคัดเลือกเปน็ ๑ ใน ๔ ต�ำรบั ยาสมุนไพรรักษามะเร็งของหมอพ้ืนบ้าน เพ่ือน�ำไปวิเคราะห์ฤทธ์ิทาง เภสชั วทิ ยาในระดบั หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ภายใตโ้ ครงการศกึ ษาและพฒั นาการ ใชภ้ มู ปิ ญั ญาของหมอพนื้ บา้ นในการรกั ษาผปู้ ว่ ยมะเรง็ โดย สำ� นกั การแพทย์ พ้ืนบ้านไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่มุ โรคผิวหนงั จากเชื้อไวรัส ได้แก่ โรคเริม งสู วดั ไฟลามทุง่ เคย มีผู้ปว่ ยโรคงสู วดั เป็นแผลลุกลามทัว่ ตัว มอี าการปวดแสบปวดร้อนตาม แนวปลายประสาท แมร้ ักษากับคลินกิ หมอแผนปจั จุบนั แลว้ ก็ไมด่ ขี น้ึ จงึ มารักษากบั พ่อหมอสอย ใชเ้ วลารกั ษาเพียง ๒ อาทิตย์ โรคกห็ ายขาด โรคดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง แม้กระทั่งผู้ป่วยตับอ่อนอักเสบ ซง่ึ มาหาหมอด้วยอาการปวดท้องรุนแรง ตวั ดำ� ปสั สาวะเหลอื ง ไปรกั ษา ที่โรงพยาบาลอาการก็ไม่ดีข้ึน แต่ไปรักษากับพ่อหมอสอย กินยาต้ม สมุนไพรประมาณ ๑ อาทติ ย์ อาการกด็ ีข้ึนและหายในที่สดุ โรคกระเพาะ ขนาดผปู้ ว่ ยเปน็ แผลในกระเพาะ รกั ษาทโ่ี รงพยาบาล เทา่ ไรกไ็ มห่ าย แตก่ นิ ยาตม้ สมนุ ไพรของหมอสอยราว ๒-๔ อาทติ ย์ อาการ จะดีข้ึนเร่อื ยๆ จนหายขาด โรคลำ� ไสอ้ กั เสบเปน็ แผล เชน่ กนั เมอื่ ไปรกั ษาทโ่ี รงพยาบาลแลว้ ไม่ หาย จึงไปรักษากับพ่อหมอสอย กินยาต้มสมุนไพรและงดอาหารรสจัด เพียง ๒ อาทติ ย์ อาการกท็ ุเลาลงจนหายในทส่ี ดุ โรคน่ิวในกระเพาะปัสสาวะ ผู้ป่วยได้รับค�ำแนะน�ำจากหมอท่ี
41หมอพืน้ บา้ นตนี เปล่าของมวลชน โรงพยาบาลให้ผ่าตัดเอาน่ิวออก แต่เม่ือได้กินยาต้มสมุนไพรขับนิ่วของ พ่อหมอสอย เพียง ๑ อาทิตย์อาการปวดก็เบาลงมาก ปัสสาวะไม่ขัด พอ่ หมอสอยแนะนำ� คนไขใ้ หไ้ ปตรวจซำ้� ทโี่ รงพยาบาล ปรากฏวา่ ไมพ่ บนว่ิ ในกระเพาะปัสสาวะอกี เลย คนไขจ้ ึงรอดพ้นจากการผ่าตดั โดยเสียคา่ ใช้ จา่ ยนอ้ ยมาก โรคประดงเข้าขอ้ ปวดเขา่ จนถึงข้นั น่ังพับเพียบไมไ่ ด้ ผู้ปว่ ยมารบั การรกั ษากบั พอ่ หมอสอยดว้ ยการเปา่ คาถา ทายาฝน ตม้ ยากนิ ประมาณ ๓ อาทติ ยอ์ าการปวดกท็ ุเลาลง โรคปวดศรี ษะขา้ งเดยี ว คนไขป้ ว่ ยดว้ ยโรคนมี้ า ๒ ปี ไปรกั ษาทไี่ หน กไ็ มห่ าย มารกั ษาดว้ ยวธิ เี ปา่ หวั กบั พอ่ หมอสอยเพยี ง ๑ อาทติ ยก์ ห็ ายปวด ห วั แล้ว โรคฝีใตร้ กั แร้ (ฝีห�ำบ่าง) ผู้ป่วยเป็นฝขี นาดใหญ่ หลุมลึก มีหนอง บวมเปง่ ปวดรอ้ นมาก หมอสอยใหก้ นิ ยาตม้ ทายาฝนและเสกเปา่ ถอนพษิ รอ้ น ใชเ้ วลารกั ษาอยู่ ๓ อาทติ ย์ ฝจี ึงแตกและยุบ แหง้ จนแผลปิดสนทิ ประดิษฐ์อุปกรณ์จากกาบทางมะพร้าว เพื่อใช้ผ่อนแรงในการ นวดขาและดดั ดงึ เทา้ เพอ่ื รกั ษาผปู้ ว่ ยขาและเทา้ ออ่ นแรงหรอื เปน็ อมั พฤกษ์ งานวิชาการส�ำคญั ดา้ นพืชสมนุ ไพร ร่วมเป็นก�ำลังส�ำคัญในคณะท�ำงานส�ำรวจพันธุ์พืชสมุนไพรและจัด ทำ� สารานุกรมพชื สมุนไพรในอุทยานแหง่ ชาติภลู งั กา จังหวดนครพนม แม้พ่อหมอสอยจะอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่ก็มีความจ�ำเป็นเลิศ โดยเฉพาะเร่ืองพืชสมุนไพร ท่านเป็นแพทย์พื้นบ้านเพียงคนเดียวที่ได้ รบั คำ� สง่ั แตง่ ตงั้ จากผวู้ า่ ราชการจงั หวดั นครพนมใหเ้ ปน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ น สมนุ ไพรในคณะทำ� งานโครงการอนรุ กั ษพ์ ชื สมนุ ไพรจงั หวดั นครพนม เพอ่ื เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราขสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เนอื่ ง
42 ประวัติหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธิ์ ในวนั พระราชสมภพครบ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ โดยทก่ี ่อนหนา้ น้ี ท่านเป็นหน่ึงในคณะท�ำงานโครงการด�ำเนินงานตามแผนจัดการเพ่ือ คุ้มครองสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัด นครพนม พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ คณุ วาสนา ศรวี ะรมย์ นกั วชิ าการสาธารณสขุ ชำ� นาญการซงึ่ เคยรว่ ม ทีมงานส�ำรวจพันธุ์พืชสมุนไพรกับพ่อหมอสอย ได้กล่าวยกย่องว่า “พ่อ สอยเดินตีนเปล่าพาพวกเราขึ้นภูลังกา ท่านรู้จักช่ือต้นไม้ทุกต้น บอก สรรพคณุ ไดห้ มด แมท้ า่ นไม่รหู้ นงั สือ อ่านไมอ่ อกเขยี นไม่ได้ก็ตาม แตถ่ า้ ไม่ได้ท่านเป็นผู้น�ำส�ำรวจต้นไม้ งานจัดท�ำสารานุกรมพืชสมุนไพรใน อทุ ยานแหง่ ชาติภูลงั กาของจังหวัดนครพนม กค็ งจะไม่สำ� เรจ็ เรยี บร้อย” ในวยั ๗๖ ปี พอ่ หมอสอย ยงั มีสขุ ภาพพลานามัยดี เป็นท่ีพงึ่ ของ ประชาชนในหมบู่ า้ นทงั้ ใกลเ้ คยี งและหา่ งไกล สามารถชว่ ยเหลอื ผทู้ กุ ข์ ยาก รกั ษาความป่วยไข้ได้เห็นผลอยา่ งมากมาย ปกหลัง ปกหนา้
43หมอพนื้ บา้ นตนี เปล่าของมวลชน
หลักเกณฑ์ และแนวทางการคดั เลอื ก หมอไทยดเี ดน่ แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ ความหมาย หมอไทย หมายถึงแพทย์แผนไทยหรอื หมอพน้ื บา้ น ผู้ได้รับ ใบประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย โดยหมายรวมถึง สาขาการแพทยแ์ ผนไทยทงั้ ประเภท ก ประเภท ข ประเภท ค และ สาขาการแพทยแ์ ผนไทยประยุกต์ คณุ สมบตั ิ ๑) เป็นผูม้ ีสญั ชาตไิ ทย ๒) เปน็ ผขู้ น้ึ ทะเบยี น มใี บประกอบโรคศลิ ปะ หรอื ใบประกอบ วิชาชีพการแพทยแ์ ผนไทย ๓) ปฏบิ ตั งิ านดเี ดน่ ทเี่ ปน็ แบบอยา่ งทดี่ ไี ด้ (ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๐ ป)ี ๔) เปน็ คนดี มจี รยิ ธรรม เมตตาธรรม อยใู่ นศลี สมาธิ ปญั ญา อันเห็นชอบ (อรยิ มรรค ๘) ๕) เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการดูแลผู้เจ็บป่วย และ ถ่ายทอดความร้ใู ห้กับศษิ ย์ การใหค้ ะแนน ๒๐ คะแนน (ข้อมลู พ้นื ฐาน) • มคี วามร้คู วามสามารถด้านเวชกรรมไทย • มคี วามรคู้ วามสามารถด้านเภสัชกรรมไทย • มีความรู้ความสามารถดา้ นผดุงครรภไ์ ทย • มคี วามรคู้ วามสามารถด้านการนวดไทย
๒๐ คะแนน (ความสามารถ) • การดูแลรกั ษาผู้ปว่ ย • การถ่ายทอดความรู้ การจัดการเรียนการสอน ด้าน การแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยพ์ ้ืนบ้าน ๓๐ คะแนน (ความสามารถพเิ ศษ) • เขียนตำ� รา • มตี ำ� รบั เฉพาะ • ประดิษฐ์อุปกรณก์ ารแพทย์ • มีเทคนิคการรกั ษาเฉพาะ • มีสว่ นรว่ มในการอนุรักษแ์ ละปลกู ปา่ ชุมชน และ เสริมสร้างสุขภาวะชมุ ชน ๓๐ คะแนน (คณุ ธรรม จรยิ ธรรม) • เปน็ คนดี มจี ริยธรรม เปน็ บุคคลตน้ แบบ วธิ ีการคัดเลอื ก ๑) คัดเลือกจากหมอไทยดีเด่นระดับเขต ๑๒ เขต ประจ�ำ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ กรมพฒั นาการแพทยแ์ ผนไทยและการ แพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ๒) ลงพนื้ ทเี่ พอ่ื คดั เลอื กหมอไทยดเี ดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๓) คณะท�ำงานพิจารณาคัดเลือกหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ จะคัดเลอื กผูท้ ่มี คี ะแนนดีท่สี ุดจากทง้ั ๑๒ เขต เพอ่ื นำ� เสนอใหค้ ณะกรรมการพฒั นาภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ดา้ นสขุ ภาพแหง่ ชาตพิ จิ ารณาตดั สิน รางวลั ๑) โล่เชิดชเู กยี รตแิ ละใบประกาศเกียรติคณุ ๒) เงินรางวลั
ค�ำสั่งคณะกรรมการพฒั นาภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ ด้านสขุ ภาพแห่งชาติ ท่ ี / ๒๕๕๘ เรอ่ื ง แต่งตัง้ คณะทำ� งานพิจารณาคดั เลือกหมอไทยดเี ดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่ คณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพแห่งชาติ ได้พิจารณาคัดเลือก หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและขวัญก�ำลังใจของหมอพื้นบ้าน หมอแผนไทย ท่ีได้ใช้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพในการท�ำประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ โดยมีการมอบรางวัลในการ ประชุมวิชาการประจ�ำปี การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ น้ัน ดังน้ัน เพื่อให้การด�ำเนินการคัดเลือกหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ เหมาะสม และได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน จึงแต่งต้ังคณะท�ำงานพิจารณาคัดเลือก หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมีองค์ประกอบและอ�ำนาจหน้าที่ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบคณะทำ� งาน ประกอบด้วย ๑) นายวิชัย โชควิวัฒน ท่ปี รกึ ษา ประธานคณะกรรมการพฒั นาภมู ิปัญญาท้องถิ่นด้านสขุ ภาพแหง่ ชาติ ๒) นายธวชั ชัย กมลธรรม ทป่ี รกึ ษา อธบิ ดีกรมพฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก ๓) นายเปรม ชินวันทนานนท ์ ประธาน ทป่ี รกึ ษามลู นิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภูเบศร ๔) นายประพจน์ เภตรากาศ รองประธาน ประธานสมาพันธ์แพทยแ์ ผนไทยแห่งประเทศไทย ๕) นายประสาท ตราดธารทพิ ย ์ คณะทำ� งาน รองอธิบดกี รมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก ๖) นายปราโมทย์ เสถยี รรัตน ์ คณะท�ำงาน ผู้อำ� นวยการสถาบนั การแพทย์แผนไทย ๗) นางเสาวณยี ์ กลุ สมบรู ณ์ คณะท�ำงาน ผอู้ �ำนวยการส�ำนักการแพทย์พืน้ บา้ นไทย ๘) นางศุภวรรณ พันธบ์ ูรณะ คณะท�ำงาน ผอู้ �ำนวยการส�ำนกั งานพฒั นากำ� ลงั คน ๙) นายสันตสิ ุข โสภณศิริ คณะทำ� งาน นกั วชิ าการอิสระ ๑๐) นายวรี พงษ์ เกรียงสนิ ยศ คณะท�ำงาน มูลนิธสิ ขุ ภาพไทย ๑๑) นางสาวปารณฐั สขุ สุทธิ ์ คณะทำ� งาน ส�ำนักงานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ๑๒) นางผลิดา สนธ์ิสุวรรณ คณะท�ำงานและเลขานุการ ผู้อ�ำนวยการสำ� นกั วชิ าการและจดั การความรู้ ๑๓) ว่าที่เรือตรชี ยั วฒั น ์ จงรอดนว่ ม ผชู้ ่วยเลขานกุ าร สำ� นักวิชาการและจดั การความรู้ /๒. ใหค้ ณะท�ำงาน...
-๒- ๒. ให้คณะทำ� งานมอี ำ� นาจหน้าที่ ดงั นี้ ๑) จัดทำ� หลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณาคัดเลือกหมอไทยดเี ด่นแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒) ด�ำเนินการพิจารณาคัดเลือก โดยประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร ภาคีเครือข่ายที่ เกย่ี วข้อง ในการพิจารณาบคุ คลผสู้ มควรไดร้ บั การคดั เลอื ก ๓) เสนอช่อื ประวัติ ผลงานของบคุ คลผสู้ มควรได้รบั การพจิ ารณาคัดเลอื กต่อคณะกรรมการพัฒนา ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ดา้ นสุขภาพแห่งชาติ เพ่อื พิจารณาคัดเลือกเป็นหมอไทยดีเดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๔) จดั ทำ� ทะเบยี นประวตั บิ คุ คลผไู้ ดร้ บั การคดั เลอื กเปน็ หมอไทยดเี ดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพอื่ เปน็ ฐานข้อมูลในการเผยแพร่และใช้ประโยชน์ต่อไป ๕) ดำ� เนนิ การประกาศเกยี รตคิ ณุ ผไู้ ดร้ บั การคดั เลอื กเปน็ หมอไทยดเี ดน่ แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ ในการ ประชมุ วิชาการประจ�ำปี การแพทย์แผนไทย การแพทย์พ้นื บ้าน และการแพทย์ทางเลอื ก ครัง้ ที่ ๑๒ ๖) ปฏบิ ตั ิงานอนื่ ๆ ทเี่ กีย่ วข้องตามทไี่ ด้รับมอบหมาย ท้ังนี้ ตง้ั แต่บดั นเ้ี ป็นต้นไป ส่ัง ณ วันท ่ี พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ (นายวชิ ยั โชคววิ ฒั น) ประธานคณะกรรมการพฒั นาภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ดา้ นสขุ ภาพแหง่ ชาติ
48 ประวัตหิ มอไทยดเี ด่นแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๘ พอ่ หมอสอย เพชรฤทธ์ิ
ผูพ้ ูดบ่มคี วามผดิ ผ้ฟู ังพงึ สงั วรณ์ เม่อื ผดิ แลว้ ก็แก้ไข แต่ถ้าไม่ผดิ ก็เป็นขอ้ เตือนใจ มหกรรมสมนุ ไพรแหง่ ชาติ ครง้ั ท่ี ๑๒
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: