Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การทำนาบัว

Description: การทำนาบัว.

Search

Read the Text Version

การทาํ นาบวั • ชนดิ ของบวั • การปลกู บวั เพอ่ื ตดั ดอก - การเตรยี มดนิ - การปลูก - การดแู ลรกั ษา - การเก็บดอก - การตลาด • การปลกู บวั เพอ่ื เกบ็ เมลด็ - - การเกบ็ เกย่ี วฝก แก - - การดแู ลรักษาหลงั จากเก็บฝก - - การตลาด เรยี บเรียง : ทวพี งศ สุวรรณโร กองสงเสริมพืชสวน จดั ทาํ : พฒั นา นรมาศ กองเกษตรสัมพนั ธ จดั ทาํ เอกสารอิเล็กทรอนิกส : สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร

การทาํ นาบัว 2 คาํ นาํ บวั เปนดอกไมที่เกี่ยวของกับพุทธศาสนา ตั้งแตสมัยพุทธกาล ชาวพุทธนิยมใชดอกบัวในพิธี กรรมทางศาสนา สําหรับประเทศไทยดอกบัวเปนดอกไมท่ีตลาดมีความตองการสม่ําเสมอ และใน ปรมิ าณทม่ี าก โดยเฉพาะในวนั พระหรอื วนั สาํ คญั ทางศาสนา ถน่ิ กาํ เนดิ ของบวั สว นใหญอ ยใู นเขตรอ น ดังน้ันจึงสามารถเจรญิ เตบิ โตไดด ใี นทกุ พน้ื ทข่ี องประเทศไทย เกษตรกรจํานวนมากในหลายจงั หวดั ยึดการปลูกบัวเปนอาชีพหลัก และเนอ่ื งจากบวั เปน ไมน ้าํ ลักษณะของแปลงปลูกจึงตองมีการขังน้ําเหมือนทํานาขาว อาจเรียกการปลูกบัวเปนการคาในพ้ืนท่ี มากๆ อีกอยางหนง่ึ วา การทํานาบวั นาบวั สามารถดแู ลรกั ษางา ยกวา นาขา ว มโี รคและแมลงรบกวน นอย ใชนํ้านอ ยกวา สามารถเกบ็ เกย่ี วผลผลติ ทง้ั ในรปู ดอกตมู และเกบ็ เมลด็ ซง่ึ ผลผลติ ทง้ั สองรปู แบบน้ี ยังเปนที่ตองการของทั้งในประเทศและตางประเทศ ดังนั้นจากสภาพปจจุบันที่เกษตรกรผูทํานาประสบ ปญหาท้ังในเรอ่ื งการขาดนา้ํ และราคาขา วไมแ นน อนนาบวั จึงเปนทางเลือกใหมทางหนึ่งที่มีความ เหมาะสมกบั พน้ื ทน่ี าขา ว ชนดิ ของบวั นกั พฤกษศาสตร แบง บวั ออกเปน 3 สกุลใหญ คอื สกลุ เนลมุ โบ ( Nelumbo ) หรือ ปทมุ ชาติ สกลุ นิมเฟย ร ( Nymphaea ) หรอื อบุ ลชาติ สกลุ วกิ ตอเรยี ( Victoria ) หรอื บวั วิกตอเรยี ในแตละสกลุ สามารถจาํ แนกไดห ลายชนดิ สําหรบั ในประเทศไทยชนดิ ของบวั ทป่ี ลกู เปน การคา มี 6 ชนิด 1. บวั หลวง อยูในสกลุ ปทุมชาติ ลกั ษณะใบชเู หนอื นา้ํ เจริญเติบโตโดยมีไหล ชอนไชไปใตพื้น ดินพันธุของบัวหลวงทีน่ ยิ มปลกู ในปจ จุบัน ไดแก พนั ธฉุ ตั รขาว ฉัตรแกว และฉัตรแดง 2. บวั ฝรง่ั อยูในสกลุ ปทมุ ชาติ ลักษณะคลายบัวหลวง ตน ออ น เจรญิ เตบิ โตโดยสรา งลําตน หรอื เหงาเจริญตามแนวนอนใตผ ิวดนิ ลกั ษณะใบมที ง้ั ขอบเรยี บและขอบใบจกั 3. บวั ผนั บวั เผอ่ื น อยูในสกุลอุบลชาติ ตน ทง่ี อกจากเมลด็ จะเจรญิ ตามแนวดง่ิ ขน้ึ สผู วิ ดนิ แลว แตกกานใบบนผวิ ดนิ ดอกชพู น น้ํา บานในเวลาเชา หรอื กลางวนั และหบุ ตอนเยน็ เปน บวั ชนดิ ทข่ี ยายพนั ธุ ไดชา

การทาํ นาบัว 3 4. บวั สาย อยูในสกุลอุบลชาติ มหี วั กลมๆ สายขนาดปลายนว้ิ กอ ย มขี นเลก็ นอ ย ใบมน ขอบใบ จัก ดอกบานกลางคนื และหุบเวลาเชา 5. จงกลนี อยูในสกุลอุบลชาติ มเี หงา เจรญิ เตบิ โตในแนวดง่ิ เม่ือเหงา แกเตม็ ท่จี ะสรางหัวเลก็ ๆ รอบเหงา เมอ่ื หวั แกจ ะเจรญิ เปน ตน ใหมข น้ึ มาขา งๆตน แม 6. บวั กระดง หรอื บวั วิกตอเรยี ใบมขี นาดใหญ กลมคลา ยกระดง ในจาํ นวนบวั ทง้ั 6 ชนดิ น้ี บัวหลวง นับเปน บวั ทม่ี คี วามสําคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุด และ เกษตรกรปลกู มากทส่ี ดุ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคข องการปลกู ทส่ี าํ คญั 2 ประการ คอื ปลกู เพอ่ื ตดั ดอกตมู ซึ่ง นําไปใชบ ูชาพระ และปลกู เพอ่ื เกบ็ เมลด็ ซง่ึ สามารถใชป ระกอบอาหารทง้ั อาหารคาวและอาหารหวาน นอกจากนส้ี ว นอน่ื ๆของบวั หลวง ก็ยังสามารถจาํ หนา ยและใชป ระโยชนอ น่ื ๆได เชน ใบแหง ใชทาํ ยา กันยุง มวนบหุ ร่ี ตมเปนยาไทยบาํ รงุ หวั ใจ แกไข และรักษาโรคตับ ใบสด ใชหออาหาร และไหลหรือราก สามารถนํามาเชอ่ื มเปน อาหารหวาน มสี รรพคณุ แกร อ นใน และระงบั อาการทอ งรว ง การปลกู บวั เพอ่ื ตดั ดอก การเตรยี มดนิ พื้นที่ที่เหมาะสมควรเปน ทรี่ าบสมาํ่ เสมอ อยใู กลแ หลง นา้ํ ดนิ เปน ดนิ เหนยี ว การเตรียมพื้นท่ี สาํ หรบั ทาํ นาบวั กค็ ลา ยๆกบั การทํานาดาํ โดยเรม่ิ จากการเอานํ้าออกใหแ หง ยกคันดินโดยรอบพื้นที่ให สงู ประมาณ 1.5 เมตร พน้ื ทค่ี วรมขี นาด 5 - 50 ไร หรือทาํ เปน แปลงใหญๆ ขนาด 50 - 100 ไรก็

การทาํ นาบัว 4 ได เก็บเศษวัสดุและกาํ จัดวัชพืชออกใหหมด ปรับพื้นที่ใหเรียบ ไถดะ โรยปนู ขาวตากแดดทง้ิ ไว 7 - 15 วัน แลวไถแปรอกี ครง้ั หนง่ึ พรอ มกบั เตมิ ปยุ คอกเกา ๆ เชน มลู ไก มลู โค ประมาณไรล ะ 200 กิโลกรัม จากน้ันระบายนา้ํ เขา ใหส งู จากพน้ื ประมาณ 15 เซนตเิ มตร ทิ้งไว 3 - 5 วัน ใหด นิ ออ นตวั แลวจึงปก ดาํ ระยะปลูกที่เหมาะสมคือ 2 X 2 เมตรในพน้ื ท่ี 1 ไร จะใชไหลบัวประมาณ 400 ไหล การปลูก วิธกี ารปลกู มี 2 วิธี คอื 1. การปลกู โดยใชไ มค บี เหลาไมไผใหม คี วามหนากวา ตอกเลก็ นอ ยยาวประมาณ 1 ฟตุ โคง งอตรงกลาง คบี ไหลบวั ตรง สวนของขอแลวปกลงใหไหลบัวติดอยูกับผิวดิน ซง่ึ การปลกู โดยวธิ นี จ้ี ะชว ยปอ งกนั ไมใ หไ หลบวั หลดุ ลอย สูผ วิ นา้ํ ชาวบา นนยิ มเรยี กไมค บี นว้ี า \"ตะเกียบ\" 2. การปลกู โดยวธิ ใี ชด นิ หมก วิธีน้ีใชกับนาบัวที่สามารถบังคับระดับน้ําได โดยปลอยนํ้าใหงวด ขุดดินเปนรองลึก ประมาณคร่ึงฝา มอื วางไหลบวั ลงไปใชด นิ กลบไหลบวั โดยเวน เตาเอาไว แลว จงึ เรม่ิ เปด นา้ํ เขา

การทาํ นาบัว 5 การดแู ลรกั ษา 1. การใหน า้ํ หลังจากปลกู บวั แลว ในเดอื นแรก ควรรกั ษาระดบั นา้ํ ใหข งั อยใู นแปลงลกึ ประมาณ 30 เซนติเมตร เพอ่ื ปอ งกนั มใิ หห ญา ขน้ึ ในแปลง และบวั สามารถเจรญิ ขน้ึ มาพน น้าํ เพ่ือรบั แสงสวา งได เรว็ หลังจากน้ันปลอ ยนา้ํ เขา แปลงอกี ใหล กึ ประมาณ 50 เซนตเิ มตร และลกึ ไมเ กนิ 100 เซนตเิ มตร เพราะความลึกระดบั นี้ บัวจะไดรับอุณหภูมิพอเหมาะ ทําใหบ วั สามารถออกดอกไดม าก ถา ระดบั นา้ํ สงู กวา น้ี บวั ทง่ี อกใหมอ าจตายได ถา งอกพน ผวิ น้าํ ไมทัน 2. การใสป ยุ เม่ือบัวเรม่ิ ตง้ั ตวั ไดแ ละแตกใบใหมก จ็ ะเรม่ิ ใหป ยุ สตู ร 16-20-0 หรือ 15- 15-15 ในอตั ราไรล ะ 50 กิโลกรัม โดยหวานลงไปใหทั่วแปลง แตถ า ปลกู อยใู นคหู รอื ลําคลองทม่ี นี า้ํ ถายเทตลอดเวลา หรอื บอ ทค่ี วบคมุ ระดบั ไมไ ด ควรใสป ยุ ลกู กลอนโดยการนาํ ปยุ เคมสี ตู ร 16-20-0 ประมาณ 1 ชอนชา บรรจลุ งดนิ เหนยี วปน ดนิ เหนยี วหมุ ใหเ ปน กอ นแลว ผง่ึ ลมใหแ หง เมอ่ื ตอ งการจะใส ปุยบัวกฝ็ ง ลกู กลอนไวท โ่ี คนตน ๆละ 2 ลกู การเกบ็ ดอก บัวจะเร่ิมใหผ ลผลติ ดอกตมู หลงั จากปลกู 3 เดอื น โดยทั่วไปเกษตรกรเก็บดอกวันเวนวัน ยกเวน ในฤดหู นาว เกบ็ วนั เวน 2 วัน การเกบ็ ดอกจะเก็บในระยะที่ดอกยังตมู โดยตดั ใหม กี า นดอกยาว 40-50 เซนตเิ มตร คดั ขนาดแลว นาํ มาจดั เปน กาํ กําละ 10 ดอก การจดั ตอ งจดั เรยี งใหเ หน็ ดอกทง้ั

การทาํ นาบัว 6 10 ดอก หลงั จากนน้ั จงึ หอ ดว ยใบบวั หลงั จากเกบ็ เกย่ี วดอกเปน เวลา 3-4 เดอื น ตน บวั จะเรม่ิ โทรม ผลผลิตลดลง เกษตรกรมวี ธิ ีบังคับใหไหลแตกตน ใหม โดยระบายนาํ้ ออกจากนาใหแหง แลวใชรถ แทรกเตอรลงไปไถดะเพอ่ื ลดความหนาแนน ของตน บวั หรอื อาจใชล กู ขลกุ ทบุ แลว ปลอ ยนา้ํ เขา ในแปลง อีกคร้ัง บัวจะเร่ิมแตกยอดใหม และสามารถ เรม่ิ เกบ็ ดอกไดใ นเวลา 2-3 เดอื น การตลาด ตลาดดอกบัวที่สําคญั คอื ปากคลองตลาด และตลาดจาํ หนา ยดอกไมในทุกจังหวดั โดยมรี าคา แตล ะชว งของปไ มเ ทา กนั ดอกบัวมีราคาดใี นชว งเดอื นธนั วาคม - กุมภาพันธ และราคาตา่ํ ในชว ง เมษายน-ตลุ าคม แตร าคาเฉลย่ี ประมาณดอกละ 1 บาท นอกจากนป้ี ระเทศไทยยงั มกี ารสง ดอกบวั ไปจําหนายในตางประเทศประเทศผูรบั ซือ้ ทส่ี าํ คญั คอื ออสเตรีย เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และญี่ปุน ซึ่ง ในป 2534 มมี ลู คา การสง ออก 36,933 บาท (เฉพาะทผ่ี า นการออกใบรบั รองปลอดศตั รพู ชื ) การปลกู บวั เพอ่ื เกบ็ เมลด็ แหลงปลกู บวั เพือ่ เก็บเมล็ดทสี่ าํ คญั คอื จังหวดั นครสวรรค จังหวัดพิจิตร และจังหวัด พิษณุโลก พันธุบัวที่นิยมปลูกเพื่อเก็บเมล็ด คอื บัวหลวงพันธุปทุม ซง่ึ มขี นาดฝก ใหญ และมเี มลด็ มาก เกษตรกรผูปลกู บวั เพอ่ื เกบ็ เมลด็ จะเรม่ิ ปลกู ในเดอื นพฤศจกิ ายน และสามารถเกบ็ เกยี่ วภายหลงั ปลูก 3-4 เดอื น โดยมวี ธิ กี ารปลกู และดแู ลรกั ษาเชน เดยี วกบั บวั ตดั ดอก

การทาํ นาบัว 7 การเกบ็ เกย่ี วฝก แก เม่ือปลูกบัวไดป ระมาณ 3-4 เดอื น ก็จะเริ่มเก็บฝกได ฝกแกจ ะสังเกตไดจากฝก ปลายเมล็ดเร่มิ แหงเปนสีเทา หรอื สดี าํ หากปลอยใหแ หง ท้ังฝกเมล็ดจะหลุดจากขัว้ รว งงา ย ระยะเวลาตง้ั แตด อกตมู ถึงเก็บฝกไดประมาณ 40-50 วัน บวั จะใหผ ลผลติ นานราวๆ 3-4 เดอื น จากนน้ั จะเรม่ิ โทรม ในการ เก็บฝกบัวน้นั จะใชเ รอื ถอ เขา ไปแปลงบวั แลว ใชไ มส อยฝกบวั ใสเ รือ ไมที่ใชสอยนี้ชาวบา นเรยี กวา \"ซาว\" ซง่ึ ยาวประมาณ 3 วา เมอ่ื เกบ็ ฝก ไดเ ตม็ ลําเรอื แลว กข็ นขน้ึ มาเกบ็ รวมกนั ในลานดนิ แลว ใชไ ม ทุบใหฝกฉีกเมลด็ แกจะรวงหลุดออกจากฝก ถา ยงั มเี มลด็ บวั ตดิ คา งในฝก อกี กจ็ ะใชค นแกะออกมาเมลด็ ที่ไดจะนําไปตากแดดใหแ หง ประมาณ 2-3 แดด จากนน้ั เอาตะแกรงรอ นเอาเมลด็ ลบี ๆ หรือ เมลด็ เสยี ออก แลวบรรจเุ มลด็ บวั ทด่ี ลี งกระสอบเตรยี มสง ขายตอ ไป ผลผลิตเมลด็ บวั แหง จะไดไ รล ะประมาณ 12-15 ถัง หรอื ประมาณ 144-180 กิโลกรัม ราคาท่ี เกษตรกรขายไดถ งั ละ 120-400 บาท การดแู ลรกั ษาหลงั จากเกบ็ ฝก หลังจากเก็บฝกบัวแลวประมาณ 3 เดอื น ตน กจ็ ะเรม่ิ โทรม ใหระบายนา้ํ ออกจากแปลงบวั ให แหง เมอ่ื ดนิ แหง พอทจ่ี ะใชร ถไถลงไถได ใหไ ถดะพลกิ หนา ดนิ ใหล กึ เพื่อที่จะทาํ ใหด นิ โปรง ขน้ึ รากบัวชั้น บนๆ ซ่ึงเปน รากขนาดเลก็ ลดจาํ นวนลง ถา หากไมม กี ารไถในปต อ มา บวั จะขน้ึ แนน มากทาํ ใหฝ ก บวั มี ขนาดเล็กมาก เมอ่ื ไถแลว ปลอ ยนา้ํ เขา ทนั ทเี พอ่ื ปอ งกนั ไมใ หห ญา ขน้ึ ตน บวั ใหมจ ะงอกขน้ึ มาพน นา้ํ ใน เวลาประมาณ 3-7 วัน ถาจะทาํ การขุดไหลเพื่อจาํ หนา ย เมอ่ื บวั เรม่ิ โทรมใชป ยุ เคมบี าํ รงุ ใหบ วั แตกใบใหม และมีไหล ขนาดใหญและแขง็ แรงเมอ่ื บวั งามดแี ลว จงึ ระบายนา้ํ ออกใหแหงจนดินแตกระแหง ใชเ สยี มงัดตามระแหง ที่ดินแตกออกเปนกอนๆ เมอ่ื พบไหลกข็ ดุ มาจาํ หนายได ซง่ึ จะตรงกบั ระยะประมาณเดอื น มกราคม- กุมภาพันธ ไหลที่ขุดได ถา จะเกบ็ รกั ษาไวเ พอ่ื รอการปลกู หลงั จากเกบ็ ขน้ึ มาแลว ใหน ํามากองไวแ ลว รด น้ําใหโชก แลว ใชใ บตองปด ไวแ ละพยายามรดนา้ํ บอยๆ อยาใหไหลแหงจะสามารถเก็บไหลไวไดประมาณ 1 เดอื น

การทาํ นาบัว 8 การตลาด ในประเทศไทยนิยมซอื้ ขายเมล็ดบัวแหง ที่ยังไมไดก ระเทาะเปลอื ก เพราะสามารถเกบ็ ไวไ ดน าน เม่ือถึงชว งทต่ี ลาดตอ งการจงึ กระเทาะออกมาจาํ หนา ย สาํ หรบั ตลาดรบั ซอ้ื เมลด็ บวั ภายในประเทศท่ี สําคัญ คือ ตลาดทรงวาด และตลาดคลองเตย นอกจากนย้ี งั สามารถสง ออกไปจาํ หนา ยตา งประเทศใน ป 2534 มลู คา ประมาณ 1 ลา นบาท โดยประเทศที่รับซื้อที่สําคัญคือ เกาหลใี ต สหรัฐอเมริกา และ สงิ คโปร เอกสารอา งองิ 1. กรมสง เสรมิ การเกษตร, 2527. การทํานาบวั . เอกสารแนะนําที่ 100. โรงพิมพ สาํ นกั ขา ว พาณชิ ย, กรุงเทพฯ. 12 หนา 2. กรมสง เสรมิ การเกษตร. 2537. คมู อื การผลติ ไมต ดั ดอก. กรุงเทพฯ. 126 หนา 3. ธนาคารกสิกรไทย. 2535. การเกษตรและอุตสาหกรรม. ใน สรปุ ขา วธรุ กจิ . กรุงเทพฯ. หนา 3-6. 4. วิธิต สวุ รรณปรชี า. 2531. การปลกู ไมต ดั ดอก. หจก.อักษรบัณฑิต, กรุงเทพฯ. 79 หนา จดั ทําเอกสารอเิ ลก็ ทรอนกิ สโ ดย : สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook