ตอนที่ 8 ตลาดผกั ลอยนา้ ทะเลสาบดาล ตอนเช้าตรู่เรามีแผนจะไปเที่ยวชมตลาดซอื ้ ขายแลกเปลี่ยนผกั ของชาวเมือง ศรีนาการ์ สมาชกิ ยงั เป็ นกลมุ่ เดมิ เหมือนเมื่อวาน เพม่ิ สาวเอม๋ าอีกคนสว่ นคนอื่นเขาไมไ่ ปกนั ระหวา่ งทางที่อย่บู นเรือได้ยนิ เสียงคนไทย คยุ กนั เป็นระยะ แตล่ ะลาคงมีจดุ ม่งุ หมายเดียวกนั แม้แต่บ้านเรือท่ีเราลอ่ งเรือผา่ นก็เจอคนไทย สง่ เสียงทกั ทายกนั พอเป็นพธิ ี เมืองศรีนาการ์ตกเป็น เมืองขนึ ้ ของไทยต่อจากองั กฤษแล้วเหรอน่ี เรือพายขนผกั ของพอ่ ค้าที่ใสช่ ดุ เฟรัน (Pheran ) ชดุ พนื ้ เมืองท่ีผ้ชู ายแคส เมียร์เขาใส่กนั ตา่ งก็บรรทกุ ผกั เต็มลาม่งุ หน้าส่ตู ลาดผกั ตลาดผกั เช้ามีผกั หลายชนดิ บางอยา่ งก็ ไมค่ ้นุ ตาเอาเสียเลยนอกจาก หวั ไชเท้า บีทรู๊ดสีแดงสด แครอทสีส้มสด ที่บรรทกุ เตม็ ลาเรือเคียงคู่ กบั ผกั สีเขียวสด ซงึ่ คงจะเป็นผกั เมืองหนาว
ตลาดแหง่ นีไ้ ม่ขายเพียงแคผ่ กั เท่านนั้ แต่ยงั มีดอกไม้หลากสีสนั ขนมาเตม็ ลาเรือ ช่างเป็นเรือที่น่ามองอะไรอย่างนี ้ ดอกไม้แต่ละชนิดล้วนแต่ไมค่ ้นุ ตาทงั้ นนั้ คงจะเป็นดอกไม้เมือง หนาวเช่นกนั พอ่ ค้าพายเรือแวะมาทกั ทายพวกเรา และสง่ ดอกไม้ให้สาวเอ๋หนง่ึ ชอ่ พร้อมกบั เสนอขายเมลด็ ดอกไม้ด้วย เขาเปิดอลั บมั้ รูปให้ดปู ระกอบการขาย ถ้าซอื ้ ถงุ นี ้จะได้รูปดอกไม้ตาม ภาพ ผมก็ไม่แนใ่ จหรอกว่ามนั จะเพาะขนึ ้ หรือเปลา่ เลยลองเส่ียงซอื ้ มาดู 4อยา่ ง แบง่ ให้เจ๊ียบกบั น้องต้นลองเอาไปปลกู ด้วย พอกลบั เมืองไทยลองเพาะดู ถงึ รู้ว่ามนั ไมข่ นึ ้ สงสยั คง เหมาะกบั เมืองหนาว จงั หวดั ท่ีอากาศหนาวเยน็ อยา่ งเชียงใหม่ มนั อาจจะขึน้ ก็ได้ ผมก็ไมแ่ น่ใจ เหมือนกนั
ตลาดขายผกั กลางนา้ แหง่ นี ้เป็นตลาดค้าสง่ ผกั ที่นี่จงึ มีราคาถกู กวา่ บนฝั่งมาก ผกั ท่ีนามาขายก็เป็ นผกั ท่ีปลกู รอบเกาะในทะเลสาบดาลนน่ั เอง ตดั มาขายกนั มาสดๆ เรือขายผกั ของพอ่ ค้าดแู น่นแออดั ยดั เยียด หวั เรือเกยกนั ไปมา แต่ก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าออกทีละลาอย่างช้าๆ ถ้อยทีถ้อยอาศยั กนั บางลาขายสินค้าหมดแล้วก็นง่ั คยุ กนั ถามสารทกุ ข์สกุ ดิบกนั ดแู ล้วก็เพลินดี เหมือนกนั เพราะมนั คือวิถีชีวิตของพอ่ ค้าชาวมสุ ลมิ จริงๆ มเิ สียแรงท่ีอตุ สา่ ห์ต่ืนแต่เช้ามาดู ตลาดนา้ ที่มีสีสนั แหง่ นี ้ แม้วา่ ผกั สดจะน่าซอื ้ หาไปปรุงเป็นอาหาร แตเ่ ราคงอดุ หนนุ ไมไ่ ด้ เพราะคงไมม่ ี เวลามานง่ั ทาอาหาร ได้เพยี งแค่อดุ หนนุ เมลด็ ดอกไม้ และโยเกิร์ต รสธรรมชาติที่ขายเป็นถ้วยท่ี วางขายหน้าบ้านเรือตอนที่พวกเราลอ่ งเรือผ่าน พวกเราช่วยอดุ หนนุ กนั คนละกลอ่ งสองกล่อง แต่ พอชิมแล้วรสชาตเิ ปรีย้ วและจืดชืดมากเพราะเป็นโยเกิตแท้ไม่มีส่วนผสมของนา้ ตาล คงเป็นเพราะ พวกเราค้นุ ชินกบั โยเกิร์ตรสหวานผสมผลไม้หลากชนดิ ขนาดว่าผมชอบกินโยเกิร์ตอยแู่ ล้ว ยงั ขอ ยอมแพ้ ก่อนถงึ บ้านเรือท่ีพวกเราพกั คนพายเรือพาเราแวะขนึ ้ ไปดแู ปลงผกั ท่ีปลกู บน ฝั่งทะเลสาบดาล เป็นแปลงผกั ปลกู อยขู่ ้างๆบ้านขนาดหลายไร่ กาลงั เจริญงอกงาม รอวนั เก็บ ผลผลติ ชา่ งเป็นทาเลท่ีสวยงามและเป็นผืนดินท่ีอดุ มสมบรู ณ์ซะเหลือเกิน จงึ ไมน่ ่าแปลกท่ีผกั ที่นี่ จะเจริญงอกงามไปด้วย
พวกเราแวะไปทกั ทายเจ้าของแปลงผกั พวกเธอต้อนรับพวกเราด้วยรอยยมิ ้ อย่าง เป็นมิตร แม้ว่าจะรู้สกึ อายและประหม่าตามประสาผ้หู ญิงมสุ ลิม ซงึ่ อาจไม่ค้นุ เคยกบั ผ้ชู ายแปลก หน้าแถมยงั เป็ นคนที่พดู กนั คนละภาษาอีก แตก่ ็มีผ้หู ญิงมสุ ลิมคนหนง่ึ ยนิ ดีท่ีจะถ่ายรูปกับพวกเรา ด้วย ไมอ่ ยากจะเช่ือเลยวา่ เราจะได้ถ่ายรูปกบั ผ้หู ญิงมสุ ลิม ซง่ึ เป็นคนเดียวที่ยอมให้ ถ่ายรูปของเธอด้วยความเต็มใจแบบเป็นกนั เองมากๆ สว่ นผ้หู ญิงคนอื่นก็รีบเลี่ยงๆให้พ้นรัศมีกล้อง แล้วอมยมิ ้ ยืนดหู ่างๆ พวกเราจงึ รีบจองคิวกนั ถ่ายรูปกับเธอยงั กบั เธอเป็นซปุ เปอร์สตาร์ ช้าเด๋ียว เธอเปล่ียนใจเพราะมนั ไม่ใชเ่ ร่ืองง่ายที่จะได้ถ่ายรูปกบั ผ้หู ญิงมสุ ลิม การได้นง่ั เรือในทะเลสาบดาลถือเป้ นความสนุ ทรีย์อยา่ งหนง่ึ ของการมาเท่ียวเมือง ศรีนาการ์เลยทีเดียว แม้แตไ่ ม้พายก็ทาให้พวกเรารู้สึกประทบั ใจสะดดุ กบั ความน่ารักของใบพายรูป หวั ใจสีเหลืองสดใส โดยเฉพาะไม้พายของเรือที่พวกเรานง่ั เขียนข้อความว่า “ Your satisfaction is my happiness ” (ความพอใจของคณุ คือความสขุ ของผม) วนั นีค้ นพายเรือตอนทางานคนเดียวดจู ะน่ารักเหมือนกบั ข้อความท่ีเขาเขียนไว้ บนไม้พาย ซง่ึ แตกต่างกบั เม่ือวานตอนท่ีรวมกลมุ่ กบั คนพายเรือเจ้าเลห์อย่างกบั คนละคน พวก เราเลยชกั ภาพกบั ไม้พายกนั คนละรูปสองรูป การนงั่ เรือชิคารา สงิ่ หนงึ่ ที่ทาให้ผมเพลดิ เพลนิ ก็คือ การ ได้ชมไม้พายรูปหวั ใจของเรือน่ีแหล่ะ เพราะแต่ละลาสีสนั ลวดลายจะออกแบบ แตกตา่ งกนั ไป ตามแตค่ วามชอบของแต่ละคน บางลาไม้พายก็เป็นสีไม้ธรรมชาติ บางลาก็สีสนั สดใสจี๊ดจ๊าด ถ้า จะบอกว่า ไม้พายคือหวั ใจของเรือชคิ าราก็คงไม่ผิดนกั
ตอนที่ 9 ชมทุ่งดอกมสั ตาร์ดพาฮาลแกม การจราจรของเมืองศรีนาการ์แหง่ นี ้วินยั การขบั รถไม่ได้ตา่ งเมืองอื่นของ อินเดียแต่อย่างใด ปาดหน้าปาดหลงั เพราะเป็ นเมืองใหญ่ประชากรและรถราก็เยอะตามไปด้วย นกึ จะแซงก็แซงขอให้มีแค่ชอ่ งพอจะเบียดไปได้ คากล่าวที่วา่ การขบั รถที่อินเดียนนั้ ถ้าไมม่ ีแอร์ก็ ไมเ่ ป็นไร แต่ถ้าไม่มีแตรแล้วละ่ ก็ จะขบั รถในประเทศอินเดียไม่ได้เลย ก็คงจะจริงอยา่ งที่เขาว่าไว้ จงึ ไมแ่ ปลกที่จะได้ยนิ เสียงแตรบีบกนั สนน่ั หวน่ั ไหวตลอด นี่เป็นครัง้ ที่สองของการมาเยือนอนิ เดียเลยพอจะชินอย่บู ้าง แต่จะว่าไป แล้ว ก็ยงั ไมเ่ ห็นอบุ ตั เิ หตเุ กิดขนึ ้ สกั ครัง้ คงเป็นสไตล์ของใครของมนั คนเมืองนีเ้ขาก็คงชินในแบบ ของเขา เพียงแตเ่ ราคนตา่ งเมืองอาจจะไมค่ ้นุ แคน่ นั้ เอง ผมนงั่ ข้างหน้ากบั พนี่ นท์ใกล้ๆกบั โชเฟอร์ พอผมเห็นอะไรที่สนใจผมจะรีบ ถามคนขบั ทนั ที แกก็ตอบอะไรไมไ่ ด้สกั อยา่ ง เพราะแกพดู ภาษาองั กฤษได้บ้างบางคาเทา่ นนั้ ไม่ สามารถอธิบายเป็นเรื่องราวได้ซง่ึ ถือว่าเป็นเร่ืองแปลกสาหรับคนอนิ เดีย แต่แกก็ยงั อตุ สา่ ห์โทร กลบั ไปถามเอเจนซใ่ี ห้ จนสาวเอเ๋ ธออดขาไมไ่ ด้ “ ไปค้นกเู กิล้ นา่ จะงา่ ยกวา่ นะพ่ี ” ออกจากเมืองมาได้ไม่นานเห็นท่งุ ดอกไม้กว้างใหญ่สดุ ลกุ หลู กู ตา ซง่ึ น่าจะ เป็นดอกไม้ท่ีขนึ ้ เองตามธรรมชาติ จงึ มีรถของนกั ท่องเที่ยวและคนท่ีผา่ นไปมาจอดเรียงรายสองข้าง ทางเป็นแนวยาว เพ่ือลงไปถ่ายรูป ดอกไม้ สีขาว สีชมพู สีแดง สีเหลือง ทงั้ ดอกเล็กดอกใหญ่ สลบั กนั ละลานตาไปหมด ลกั ษณะดอกคล้ายกบั ดอกบวั และดอกทิวลปิ ตา่ งคนท่ีตา่ งจบั จอง
พนื ้ ที่ส่วนตวั ในการถ่ายรูป แตก่ ็ยงั มวิ ายมีชาวพืน้ เมืองมาขอถ่ายรูปด้วย เลยจดั ให้ไปคนละรูปสอง รูป เสียดายท่ีบริเวณแห่งนีเ้ต็มไปด้วย เสาไฟฟ้ าขนาดใหญ่ ถ่ายรูปออกมาจงึ ได้ของแถมที่รกหรู ก ตามาด้วย ไมใ่ ช่ผมคนเดียวที่คดิ แบบนี ้ ขนาดพ่ีอ้อยหวั หน้าทีม แกยงั บ่นออกมาซะเสียงดงั ถนนท่ีม่งุ หน้าไปพาฮาลแกมสวยงามมากสองข้างทางเต็มไปด้วยท่งุ ดอก มสั ตาร์ดสีเหลืองอร่ามตลอดเส้นทาง จะเรียกวา่ ถนนสายนีป้ ไู ว้ด้วยทงุ่ ดอกมสั ตาร์ดก็คงไมผ่ ดิ นกั พวกเราตดั สนิ ใจไมถ่ กู ว่าจะจอดถ่ายรูปตรงไหนดี ผ่านไปตรงไหนก็สวยไปหมด จนในท่ีสดุ มาถึง โค้งที่ทกุ คนพอเห็นแล้วต่างตะลงึ ในความงาม ชนิดที่ไม่ต้องลงมติเป็นเอกฉนั ท์ เพราะฉากหลงั ของท่งุ มสั ตาร์ดแหง่ นีม้ ีภเู ขาท่ีปกคลมุ ไปด้วยหมิ ะอยเู่ บือ้ งหลงั ซง่ึ ต่างจากท่งุ มสั ตาร์ดที่อ่ืน ท่งุ
มสั ตาร์ดสีเหลืองอร่ามตดั กบั ภเู ขาหิมะสีขาว สวยจนไมร่ ู้จะบรรยายยงั ไง พอลงจากรถได้เทา่ นนั้ แห ละ่ ต่างว่ิงกนั หามมุ สวยคนแต่ละคน ผมเพลินกบั การถ่ายรูปที่น่ีมากจนกางเกงยีนส์เลอะไปด้วยละอองเกษรสีเหลือง ของดอกมสั ตาร์ดเต็มไปหมด นอกจากท่งุ มสั ตาร์ดแล้วข้างทางยงั มีลาธารสวยงามที่ให้บริการ ล่องแก่งด้วยแตอ่ ากาศหนาวเยน็ ชว่ งนีค้ งไม่เหมาะกบั การล่องแก่งนกั นอกจากนนั้ สองข้างทางยงั มีสวนแอ๊ปเปิล้ ตามรายทางให้ชมด้วย เสียดายท่ีมาไมต่ รงกบั ฤดทู ่ีลกู แอ๊ปเปิล้ ออกลกู ถ้าได้ไปชม สวนแอ๊ปเปิล้ ก็คงจะเป็นความรู้สกึ ท่ีพเิ ศษมากๆสาหรับคนไทย เพราะช่วงหน้าแอ๊ปเปิล้ ออกลกู ชาวสวนจะเปิ ดให้ เข้ าไปชมสวนด้ วย พอมาถงึ พาฮาลแกมรถต้ขู องพวกเรา ยงั ไม่จอดเลยก็มีคนวง่ิ กรูกนั เข้ามาท่ีรถ ของพวกเรา วิง่ ตามรถฝ่ นุ ตรลบอบอวน แทบจะเหยียบกนั ตาย ยงั กบั เหน็ ขมุ ทรัพย์ก้อนใหญ่อยู่ ตรงหน้า เพ่ือนาเสนอบริการของพวกขา เห็นแล้วได้แตถ่ อนหายใจ คนที่นี่ต้องปากกดั ตีนถีบแย่ง กนั ทามาหากินขนาดนีเ้ลยเหรอ คนอื่นอาจจะพอเข้าใจ แต่สาหรับหนมุ่ น้อยวยั 16 ท่ีเพง่ิ ออกมา เผชญิ โลก ถงึ กบั เอ่ยปากถามคณุ แมอ่ ้อย ด้วยความสงสยั “ เขาวิ่งตามรถทาไมเหรอแม่ ต้องตือ้ ขนาดนี ้เลยเหรอ ” จานวนคนให้เชา่ ม้าทาไมมนั เยอะกวา่ นกั ทอ่ งเที่ยวอีก จงึ ไม่นา่ แปลกท่ีจะ แยง่ ลกู ค้ากนั ขนาดนี ้ พอลงจากรถเท่านนั้ แหละ่ ก็โดนล้อมหน้าล้อมหลงั เสนอให้ใช้บริการข่ีม้าชม วิวรอบๆเมืองพาฮาลแกม ให้วนุ่ วายไปหมด เจอแบบนีค้ งไม่มีใครอยากจะเป็นซปุ เปอร์สตาร์ดาว ดงั จากเมืองไทยกนั หรอก ต้องรอให้เจ้าของม้าสลายตวั ก่อน คอ่ ยเจรจาตอ่ รองกนั อีกที ถงึ แม้วา่ ต่างคนตา่ งแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกนั หาลกู ค้า แต่ก็ไม่เหน็ พวกเขาทะเลาะกนั เลย เป็นเรื่องท่ีน่าทงึ่ มาก
บรรยายภาพ – ลมโชยบาร์เบอร์ บริการตัดผมข้างทาง ภมู ิทศั น์ของเมืองห้อมล้อมไปด้วยภเู ขาป่ าสน บนยอดเขาสงู ๆจะปกคลมุ ไป ด้วยหมิ ะ มีแม่นา้ Liddar ไหลผา่ นกลางหบุ เขาข้างตวั เมือง กล่นิ ขีม้ ้าก็เหม็นตรลบอบอวนไปทวั่ เพราะคอกม้าก็อย่บู ริเวณใกล้ๆกบั ลานจอดรถเลย สภาพเจ้าของม้าก็ดสู กปรกมอมแมม แววตา เต็มไปด้วยความหวิ กระหาย วิงวอน แตก่ ็เตม็ ไปด้วยความหวงั อยลู่ กึ ๆ ให้ตายเหอะ ผมไม่เคยเหน็ แววตาแบบนีท้ ่ไี หนมาก่อนเลย พวกสาวๆทงั้ 6 คนตกลงวา่ จะขี่ม้าชมเมืองพาฮาลแกม สว่ นผมพี่นนท์พีอ่ ้อย และน้องต้นขอเดนิ เล่นในตวั เมือง หาซือ้ ของที่ระลึกฝากคนที่เมืองไทยแทนก็แล้วกนั ความตงั้ ใจ
แรกว่าจะมาข่ีม้าเมื่อมาถึงพาฮาลแกม พอมาถงึ จริงๆกลบั หมดอารมณ์ท่ีอยากจะข่ีม้าขนึ ้ มาทนั ที ตงั้ แตไ่ ด้เห็นภาพเหลา่ บรรดาเจ้าของม้าวิ่งตามรถแล้ว ณ. วนิ าทีนนั้ ผมไม่มีความรู้สกึ ว่าไม่ อยากจะใช้บริการข่ีม้าเลย แตก่ ลบั รู้สกึ หดห่มู ากกวา่ เก็บแรงไว้ไปขี่ม้าท่ีโซนนามาร์กดีกวา่ เพราะ ไหนๆก็ตงั้ ใจจะไปท่ีนนั่ อย่แู ล้ว นา่ เสียดายท่ีววิ ทวิ ทศั น์ท่ีอย่รู ายรอบพาฮาลแกมดสู วยมาก แต่ตวั เมืองกลบั สกปรก ทรุดโทรม พลอยทาให้บรรยากาศท่ีสวยงาม ต่าต้อยด้อยคา่ ลงไปอยา่ งมาก ถ้าดินแดนแห่ง นีอ้ ย่ใู นประเทศท่ีเจริญแล้วนกั การเมืองท้องถ่ินใสใ่ จกบั การพฒั นาผงั เมืองและความสะอาด ดินแดนแห่งนีค้ งจะเรียกว่า สวรรค์ ได้อย่างเต็มปากเตม็ คา จะดโู หดร้ายเกินไปไหมถ้าผมจะพดู วา่ “ พาฮาลแกมดีทกุ อย่าง แต่ไม่ดีอย่างเดียว ท่มี ีคนอินเดียอยู่ ”
ตอนที่ 10 ตะลุยกลุ มาร์ก สวติ เซอร์แลนด์แดนภาระตะ
ตื่นแต่เช้ามาสง่ั ลาบรรยากาศรอบๆทะเลสาบดาล ตอนแรกผมตงั้ ใจไว้ว่า อยากจะลงวา่ ยนา้ เลน่ ที่ทะเลสาบดาล เพราะนา้ ใสมากมองเหน็ สาหร่ายใต้นา้ ชดั แจว๋ แอบเกร่ินไว้ กบั น้องต้นวา่ จะลงวา่ ยนา้ ด้วยกนั เพราะอยากจะเก็บความประทบั ใจไว้ท่ีทะเลสาบดาลให้แปลก กว่าใคร จะมีนกั ทอ่ งเที่ยวสกั กี่คนที่มาพกั ที่นี่แล้วได้ว่ายนา้ เล่นที่ทะเลสาบแสนสวยเหมือนผม แต่ เนื่องจากกลบั ค่าทกุ วนั ประกอบกบั อากาศที่หนาวเยน็ จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้วา่ ยนา้ กนั เลย มองไปเห็นเรือแจวลาเลก็ จอดอยใู่ ต้ท้องบ้านเรือ ก็เลยนกึ สนกุ รู้สกึ คนั ไม้ คนั มือ อยากพายเรือเลน่ ตามประสาคนท่ีโตมากบั สายนา้ ที่พายเรือมาตงั้ แต่เดก็ ไปบอกคนเฝ้ า บ้านเรือวา่ ขอพายเรือเล่นได้ไหม ตอนแรกเขาลงั เลเลก็ น้อย เขาก็บอกวา่ ได้แตต่ ้องลองพายเรือให้ ดกู ่อน เขาคงห่วงความปลอดภยั วา่ จะบงั คบั ทิศทางของเรือได้หรือเปล่า เกิดอบุ ตั ิเหตขุ นึ ้ มามนั จะเป็นเรื่องใหญ่ แหม งา่ ยยิ่งกวา่ ปลอกกล้วยเข้าปาก พอเขาเห็นลีลาการพายเรือผมแล้ว เขาให้ เอาเรือไปพายเลน่ แตโ่ ดยดี เข้าทางผมล่ะสิ
บรรยายภาพ – ชาวแคชเมียร์กาลังเกบ็ สาหร่ายใต้นา้ ท่ที ะเลสาบดาล เหมือนเดก็ ได้ของเลน่ ชิน้ ใหม่ท่ีถกู ใจ ไม้พายรูปหวั ใจสีไม้ธรรมชาตจิ งึ ถกู จ้วง ลงนา้ อยา่ งรวดเร็ว เหมือนนกท่ีตดิ ปี กบนิ ออกจากรัง เพราะมนั ช่างอิสรเสรี พอดีมองไปเหน็ สาว เจ๊ียบกาลงั นงั่ เลน่ อยคู่ นเดียวท่ีหน้าระเบียงบ้านเรือ เลยชวนมาพายเรือเล่นด้วยกนั ซะเลย พาย เรือออกไปดบู ้านเรือหลงั อื่นท่ีอย่รู ายล้อมรอบทะเลสาบ มนั ช่างเป็นความรู้สกึ ที่วเิ ศษจริงๆ เป็น โอกาสท่ีหาไมไ่ ด้ง่ายๆ มนั เป็นคนละความรู้สกึ ท่ีเรานงั่ เรือชิคาราบนเบาะน่มุ ๆที่มีคนพายเรือให้ น้องต้นเห็นผมกบั เจ๊ียบพายเรือเล่นกลางทะเลสาบ โบกมือเรียกให้ไปรับอยาก หดั พายเรือมง่ั ผมบอกวิธีวา่ ถ้าต้องการให้เรือไปทางซ้ายทางขวาจะจ้วงทางไหน ถอยหลงั ทาไง
คงจะถกู ใจน้องต้นมาก แม้วา่ จะยงั เงอะๆงะๆ เหมือนพายเรือวนอย่ใู นอา่ ง การพายเรือก็ เหมือนกบั การขบั รถนนั่ แหล่ะ ก็ต้องฝึกหดั ต้องใช้ความชานาญเหมือนกนั เคยดหู นงั ละคร ฉากท่ี พระเอกพายเรือ ดปู ั๊บจะรู้ทนั ทีว่า พายเรือไม่เป็น คงจะฝึกก่อนเข้าฉากไม่กี่ชวั่ โมง เช่นเดียวกบั น้อง ต้นท่ีจบั ไม้พายครัง้ แรกในชีวติ โดยมีคณุ แมอ่ ้อย ส่งเสียงเชียร์ลกู ชายเจือ้ ยแจ้ว อยบู่ นบ้านเรือ “ เอาไปโม้ได้เลยลกู ว่าพายเรือเป็ นก็เพราะหดั พายเรือท่ีทะเลสาบดาล น่ีแหละ่ ” บรรยายภาพ – ห้องน่ังเล่นภายใน Houseboast
ถนนที่มงุ่ ส่กู ลุ มาร์ก (Gul Marg ) สายนีแ้ ย่กว่าเมื่อวานมาก ถนนเป็ นหลมุ เป็นบ่อ เศษขยะเกล่ือนถนน ไมต่ ่างจากเมืองอื่นๆของอินเดียสกั เท่าไหร่ รถราวง่ิ กนั ควกั ไขว่ ผงั เมืองก็ไร้ซง่ึ ความเป็นระเบียบ บ้านเรือนสองข้างทางก็เก่าทรุดโทรมมาก ความสกปรกกบั อินเดียน่ีเป็นของคู่ กนั อย่แู ล้ว การมาเยือนอินเดียครัง้ แรกผมรู้สกึ ตกใจกบั ขยะกองโตที่ทชั มาฮาล ริมฝั่งแม่นา้ ยมนุ า ขนาดสถานที่ทอ่ งเท่ียวช่ือดงั ระดบั โลกยงั ไม่รอด นบั ประสาอะไรกบั ชานเมืองศรีนาการ์ พอ ออกมานอกเมืองก็เป็นท่งุ นาเปลา่ ๆที่มีนา้ ขงั ท่งุ นาบางท่ีก็มีดอกมสั ตาร์ดบ้างหร็อมแหร็มเป็น กระจกุ ๆ ไม่เยอะและสวยเหมือนเส้นทางไปพาฮาลแกมเมื่อวานนี ้ ช่วงใกล้ถึงกลุ มาร์กเร่ิมมองเห็นเทือกขาสวยงามปกคลมุ ไปด้วยหมิ ะววิ ทิวทศั น์เร่ิม สวยขนึ ้ เรื่อยๆ พวกเราจอดรถกินข้าวที่เชิงเขาเมือง Tang marg ซงึ่ เป็นหม่บู ้านเล็กๆและมีสถานีรถ ประจาทางต่อเข้าเมืองศรีนาการ์ ขณะที่กินข้าวมีขอทานผ้หู ญิงอ้มุ ท้องโตใกล้คลอดแตง่ ตวั มอมแมมมาขอเศษเงิน พวกเราเลยเรี่ยไรให้คนละเล็กคนละน้อย ขอทานคือสญั ลกั ษณ์อยา่ งหนงึ่ ของ อนิ เดียก็วา่ ได้ แต่ที่น่ียงั ถือว่าน้อยกว่าเมืองอื่นของอินเดีย ตอนท่ีรถจอดเติมนา้ มนั ก็มีเด็ก 4 คน มาเกาะกระจกรถขอเงนิ ด้วย พวกเราให้ขนมกบั ลกู อม แตเ่ ดก็ ก็ยงั ไมย่ อมไป คงอยากจะได้เงนิ มากกว่า จนลงุ คนขบั รถต้องตวาดเสียงดงั เด็กถึงได้สลายตวั ลานหิมะกว้างไกลสดุ สายตา ทาเอาพวกเราตื่นเต้นกนั ใหญ่ตามประสาคนเมืองร้อน หน้าร้อนลานหมิ ะตรงนี ้มนั จะกลายเป็นสนามกอล์ฟเขียวขจีซงึ่ ได้ช่ือว่าเป็นสนามกอล์ฟที่สงู ที่สดุ ในโลก โรงแรมท่ีเราพกั ปกคลมุ ไปด้วยหมิ ะสงู ทว่ มหวั เว้นไว้เฉพาะทางเดนิ เข้าโรงแรมเทา่ นนั้ วนั นีอ้ ากาศไมแ่ จ่มใสเลยขมกุ ขมวั ไปด้วยเมฆดา ทาท่าเหมือนฝนกาลงั จะตงั้ เค้า ลางร้ายกาลงั จะ เคลือบคลานเข้ามาแล้ว พวกเรานง่ั รถลากเลื่อนท่ีลานหิมะกว้างโดยใช้แรงงานคนลาก เพ่อื จะไปยงั กระเช้า ลอยฟ้ า หลงั จากที่เสียเวลาเจรจาตกลงราคาเง่ือนไขกนั นานมาก ซงึ่ เป็นเร่ืองปกติอย่แู ล้วสาหรับ
การติดต่อกบั คนอินเดีย เพราะก็ไม่รู้ว่าจะหลงกลแขกเม่ือไหร่ อย่าได้เผลอเชียว ไม่อยา่ งนนั้ มีหวงั โดนแขกฟันหวั แบะ หมิ ะด่านลา่ งนี ้ค่อนข้างสกปรก เพราะโดนรอยเท้าย่าซา้ แล้วซา้ เลา่ ถึงกระนนั้ พวก เราก็สนกุ สนาน เพราะเป็ นเรื่องแปลกใหม่ไกลตวั ไปได้แคค่ ร่ึงทาง ฝนนรกก็เทมาอย่างไม่ลืมหลู ืม ตา แต่ละคนวงิ่ ไปหลบฝนกนั จ้าละหวนั่ ตอนเช้าเสียเวลากบั เอเจนซี่ นานพอสมควร เพราะหาคนขบั รถไม่ได้ มาถึงกลุ มาร์กกว่าจะตกลงเงื่อนไขกบั คนลากกระดานเล่ือนกนั ได้ แถมยงั ต้องมาเสียเวลากบั ฝนฟ้ า กวา่ ฝนจะหยดุ ก็กินเวลาเป็นชว่ั โมง พวกเราจงึ ต้องผดิ หวงั กบั การนง่ั กระเช้าลอยฟ้ าขนึ ้ ไปชมภเู ขาหิมะ ด้านบน กระเช้าปิดให้บริการแล้ว ผมรู้สกึ สงสารเพ่ือนร่วมทางมาก คงพลาดโอกาสอนั ดีเสียแล้ว อตุ สา่ ห์ดนั้ ด้นมาถึงที่ การได้สมั ผสั หมิ ะ มนั ง่ายนกั เหรอสาหรับคนเมืองร้อน ภเู ขาหิมะขาวโพลนสวยเหมือนแดนสวรรค์ เหมือนคนยกเอาภเู ขาหมิ ะแสนสวยมา ประเคนไว้ให้อย่ตู รงหน้า แต่ไม่อาจเอือ้ มถึง ผม พ่ีนนท์ น้องเจี๊ยบ น้องต้น จึงพากนั ไปเดินเลน่ แก้ เซง็ รอบชมุ ชนหม่บู ้านกลุ มาร์ก เพราะคงไมม่ ีอะไรดีไปกวา่ นีแ้ ล้ว ผมยงั มีโอกาสแก้ตวั ในวนั พรุ่งนี ้ แต่พวกเขาคงหมดสทิ ธ์ิแล้ว เพราะฝนเจ้ากรรมแท้ๆท่ีทาให้พวกเราพลาดการไปขนึ ้ กระเช้า ได้แต่ มองไปบนยอดเขาหมิ ะแสนสวยตาละห้อย ด้วยความเสียดาย
บรรยายภาพ – ลานสนามหญ้าท่ปี กคลุมไปด้วยหมิ ะหนาเตอะ ซ่งึ หน้าร้อนจะเป็ นสนาม กอล์ฟท่สี ูงท่สี ุดในโลก
ตอนที่ 11 ขนึ้ กระเช้าลอยฟ้ าชมยอดเขากลุ มาร์ก พ่ีอ้อย พี่นนท์และน้องเจี๊ยบพวกเราแลกอีเมล์ เผ่ือมีโอกาสได้เดินทางร่วมกนั อีก โล่งอกไปทีแสดงวา่ ผมได้รับการยอมรับกลายๆ ในการเป็นสมาชิกของกลมุ่ วนั นีก้ ลมุ่ ของพ่อี ้อย ต้องเดินทางกลบั แล้ว รู้สกึ พวกเขาจะมีปัญหากบั เอเจนซ่ีรถเชา่ เห็นโทรศพั ท์เคลียร์กนั ไม่ลงตวั สกั ที สงสยั ทางโน้นคงจะตกุ ตกิ อะไรสกั อย่าง ผมก็หวงั วา่ รถคงจะไปสง่ พวกเขาที่สนามบินได้ ทนั เวลา ใครท่ีมาเท่ียวอินเดียแล้วไม่โดนคนอนิ เดีย หลอกแสดงวา่ มาไมถ่ งึ อนิ เดีย แล้วแต่วา่ ใคร จะโดนน้อยโดนมาก เช่นเดียวกบั ผมขนาดว่าทาการบ้านมาดีแล้ว ยงั เสียเหล่ียมคนอินเดียจนได้ ตอนท่ีผมไปเที่ยวราชาสถานคราวท่ีแล้ว แต่ครัง้ นนั้ มนั เป็นเพราะความผดิ พลาด ของผมเอง ที่ตื่นไมท่ นั รถไฟ เลยทาให้คนอินเดียฟันหวั แบะ จ่ายคา่ รถโดยสารที่แพงกวา่ คน ท้องถิ่นมาก เพราะกลวั ว่าจะไปไมท่ นั เวลาตามแผนท่ีวางไว้ เลยยอมจองตวั๋ รถด่วนพเิ ศษ พอขึน้ รถไปสอบถามคนท้องถิ่นถึงได้รู้ราคาที่แท้จริงว่าตา่ งกนั เกือบสองเท่า คาพดู ปากตอ่ ปากที่ถ่ายทอดมากนั มาถึงกลโกง เทคนิคตา่ งๆของพวกท่ีหากินกบั นกั ท่องเท่ียว ผมเจอมาหมดแล้ว มนั ไม่ใช่คาพดู ที่เกินจริงเลยสกั นดิ ใครท่ีเป็ นนกั ทอ่ งเที่ยวมือใหม่ ไมค่ วรมาเท่ียวอินเดีย ตามลาพงั ควรฝึกวิทยายทุ ธ์ไปเท่ียวประเทศอื่นมาก่อน ใครท่ีไม่เคยโดน เลห่ ์เหลี่ยมของคนอินเดียเลยแสดงวา่ เขาคงทาบญุ มาเยอะมากๆ เคยมีคนพดู วา่ การที่คนอนิ เดีย ต้องโกงนกั ท่องเท่ียวก็เพราะความยากจน เขาไม่ คดิ ถงึ เร่ืองความถกู ต้องเรื่องคณุ ธรรมหรอก ขอให้ได้เงินมาเลีย้ งปากเลีย้ งท้องเป็นพอ ผมก็พอจะ เข้าใจและเห็นด้วย คนเราสามารถทาได้ทกุ อยา่ งเพื่อให้ตวั เองอย่รู อด แตเ่ มื่อเริ่มเดินทางมากขนึ ้
จงึ ได้คิดวา่ มนั ไมน่ ่าจะใช่ซะทีเดียว เพราะผมเคยไปเท่ียว ประเทศท่ียากจนเหมือนกนั ทาไมไม่ ต้องส้รู บตบมือ ขบั เคี่ยวกนั ขนาดนี ้ ไม่เห็นจ้องแตจ่ ะหลอกนกั ท่องเท่ียวแบบอินเดียเลย ผมจาได้ตอนเหมารถม้าไปเที่ยวทะเลเจดีย์ท่ีพกุ าม ผมกบั เพ่อื นร่วมทางชาวไทยท่ี เจอกนั ระหว่างทางเหมือนกบั ทริปนี ้ เราสองคนให้ทิปเจ้าของรถม้า ผมเห็นสีหน้าแววตาอาการ การดีใจของเขาแล้ว กลบั มีความรู้สกึ ผดิ มาก เมื่อเทียบกบั การบริการของเขา ทาไมผมไม่มีเงนิ เยอะกวา่ นีน้ ะ จะได้ให้ทิปเขาไปมากๆเอาไปเลีย้ งจนุ เจือครอบครัวของเขาตอ่ ไป
บรรยายภาพ – ภาพท่งี ดงามท่ถี กู บดบังด้วยอากาศครึม้ ฟ้ าครึม้ ฝน ล่าลากล่มุ ของพอ่ี ้อยหน้าโรงแรม รู้สกึ ขอบคณุ พวกเขาที่ให้ผมร่วมทางมาด้วย วนั นีต้ ้องจากกนั แล้ว รู้สกึ ใจหายเหมือนกนั เข้าไปเก็บกระเป๋ าเตรียมย้ายโรงแรม เพราะราคาท่ีนี่ มนั แพงเกินไปสาหรับผม ราคา 2,500 รูปี ย้ายไปโรงแรมใกล้ๆกนั ท่ีผมแอบไปสารวจมาเมื่อวานนี ้ ในราคาห้องละ 700 รูปี ราคานีค้ งจะถกู ท่ีสดุ แล้ว แต่ถ้าเทียบกบั เมืองอื่นของอินเดียแล้ว สภาพ ห้องคงประมาณ 200 รูปี เท่านนั้ แตส่ าหรับผมแล้วผ้ยู ดึ concept “ นอนหลบั ฝันดีผีไม่หลอก ” จงึ ไมน่ ่าจะมีปัญหา อะไร ต่อแตน่ ีไ้ ปผมไมม่ ีเพื่อนเดนิ ทางแล้ว ต้องไปไหนคนเดียวอีกครัง้ พอแยกตวั ออกมาคนเดียว แล้วรู้สกึ ดีเหมือนกนั ดมู ีอิสระ นกึ อยากจะทาอะไรยงั ไงก็ได้ ไม่ต้องรอมติเอกฉนั ท์ ได้ตดั สนิ ใจเอง ไม่ต้องรอใคร ที่พลาดโอกาสก่อนหน้านนั้ ก็มวั แตร่ อเสียงส่วนใหญ่นี่แหละ่ ความคล่องตวั เลยมี น้อย มารู้อีกทีก็หมดเวลาไมต่ ้องทาอะไรกนั แล้ว วนั นีผ้ มตงั้ ใจวา่ จะเรียนเลน่ สกี และขนึ ้ กระเช้าลอยฟ้ า ไปข้างบนยอดเขา สาหรับ การเลน่ สกีมนั เป็นความใฝ่ ฝันของผมมานานแล้ว หลงั จากท่ีค้นข้อมลู มาวา่ ท่ีกลุ มาร์กคือที่เรียน สกีที่ถกู ท่ีสดุ ในโลก ผมเคยอ่านรีวิวในอนิ เตอร์เน็ตของนกั ทอ่ งเท่ียวชาวไทยวา่ เขาเรียนสกีชวั่ โมงละ 200 รูปี ผมมีราคาอยใู่ นใจแล้ว เด๋ียวได้รู้กนั ระหว่างท่ีเดนิ ไปสถานีกระเช้า Gondola มีคนลากรถเล่ือนมาห้อมล้อมหน้าหลงั เตม็ ไปหมด บอกปัดแทบไม่ทนั นอกจากนนั้ ยงั มีครูสอนสกีมาเสนอคอร์สสาหรับมือใหมต่ ลอดทาง ไม่ตา่ งกบั เม่ือวานนี ้บางคนเสนอราคาพร้อมอปุ กรณ์คนสอน ราคา 800 รูปี บางคน 1,000 รูปี และ 1,500 รูปี ดเู หมือนวา่ ราคาคา่ สอนแต่ละคนไม่เท่ากนั สกั เจ้า ไมร่ ู้ว่ามาตรฐานมนั อยตู่ รงไหน แล้วมีเงื่อนไขอะไรบ้าง บอกตามตรงว่าผมไม่ไว้ใจ ครูสอนสกีพวกนีเ้ลย
เจอนกั ทอ่ งเที่ยวอนิ เดียกล่มุ ใหญ่กาลงั ออกนั หน้าประตซู อื ้ บตั รอยู่ ประมาณ 50 คน แตพ่ แ่ี ขกแกใช้เวลานานเหลือเกินในการขายตว๋ั กวา่ จะถึงควิ ผมยืนรอจนขาแข็ง นกั ทอ่ งเที่ยว วนั นีส้ ่วนใหญ่จะเป็นชาวอนิ เดียท่ีมากนั เป็ นครอบครัว เด็กๆสนกุ กบั การปัน้ หมิ ะเป็นก้อนกลมๆ แล้วปาใสก่ นั เป็นที่สนกุ สนาน ดแู ล้วพอจะรู้ว่ามาจากภมู ภิ าคเขตร้อนของอินเดียท่ีไมม่ ีหิมะ ไมอ่ ยา่ งนนั้ คงไมต่ ่ืนเต้นกนั ขนาดนี ้ ผมพอจะเข้าใจความรู้สกึ ของพวกเขา ถ้าเป็นผมก็คงจะทา แบบนนั้ เหมือนกนั เพียงแตว่ ่า ผมไม่รู้จะปาใสใ่ คร หน่มุ อินเดียชาวซกิ ข์มาขอถ่ายรูปกบั ผม ดทู ่าทางเขาจะชอบหมวกไหมพรมสีเหลือง สดรูปหน้ากวางท่ีผมสวมอยู่ ระหว่างทางท่ีผมเดินมา เหน็ ชาวอนิ เดียฮือฮากนั ใหญ่ สงสยั เป็น แฟชนั่ แปลกใหมส่ าหรับคนที่น่ี แม้กระทงั่ เด็กผ้ชู ายอนิ เดียก็ดจู ะชอบใจไมน่ ้อย ผมเลยถือโอกาส ถ่ายรูปกบั น้องเขาซะเลย รวมทงั้ พ่สี าวหน้าคมของเขาด้วย ชาวอินเดียกล่มุ นีเ้ป็นชาวฮนิ ดทู ี่มา จากเมืองอ่ืน เร่ืองการถ่ายรูปกบั พวกเธอเลยไมม่ ีปัญหาอะไร ราคาขนึ ้ กระเช้า phase 1 ราคา 300 รูปี ขนึ ้ ไปกบั ครอบครัวชาวอินเดีย อากาศ วนั นีด้ อู มึ ครึมครึม้ ฟ้ าครึม้ ฝนไมต่ ่างจากเม่ือวาน มองขนึ ้ ไปบนยอดเขาท่ีปกคลมุ ไปด้วยหิมะ อากาศสลวั มวั หมองมองไม่ค่อยเหน็ เท่าไหร่ ความสวยก็ลดลงไปตามระดบั ขอภาวนาอย่าให้ฝน ตกเลย เมื่อวานก็บอบชา้ พอแล้ว ไตค่ วามสงู มาสกั พกั มองลงไปข้างล่างเหน็ กระท่อมบนเขาประมาณ 10 กว่าหลงั ท่ีปกคลมุ ด้วยหิมะจนทว่ มหลงั คา เห็นรอยเท้าเดินเข้าออกกระทอ่ มด้วย แสดงว่ายงั มีคนอาศยั อยู่ ในกระท่อมบ้าง อดสงสยั ไม่ได้หิมะหนาขนาดนนั้ จะกินอยกู่ นั ยงั ไง เคยได้ยนิ ว่าชาวบ้านแถวนี ้ หน้าหนาวจะอพยพไปอย่ทู ่ีอ่ืน เวลาหมิ ะละลายถึงจะกลบั มาใหม่ ววิ จากกระเช้า มองลงไปข้างลา่ งสวยมากหมิ ะขาวโพลนสลบั กบั สีเขียวของต้น สน น่ีถ้าแดดออกคงจะสวยกวา่ นีม้ าก ภาพท่ีเห็นท่ีสนามบิน ที่โฆษณาเปรียบเทียบกลุ มาร์กกบั ทิวทศั น์ท่ีสวิตเซอร์แลนด์ แทบแยกไมอ่ อกเลยระหว่างสถานท่ีทงั้ สองแหง่ แต่กลุ มาร์กได้เปรียบใน
เรื่องของคา่ ใช้จ่าย ไมต่ ้องเดินทางไปถึงยโุ รปก็สมั ผสั บรรยากาศแบบนนั้ ได้ ตอนนี ้เริ่มเชื่อแล้ววา่ ของเขาดีจริงๆ
ตอนท่ี 12 เมนูนา้ แขง็ ใสสไตล์คนเมืองร้อน กระเช้า Gondola นาผมมาถึง Phase 1 ผมถึงกบั ตะลงึ ไม่นกึ วา่ ภเู ขาหิมะ ด้านบนมนั จะสวยขนาดนี ้ คนละโลกกบั ข้างล่างเลย หมิ ะด้านบนขาวสะอาดตา พอมาถึงท่ีนี่ผม ถึงรู้ว่าข้างบนมีครูสอนสกีด้วย เยอะแยะเต็มไปหมด จนไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนกบั ใคร โชคดีเหลือเกิน ที่ผมไมด่ ่วนตดั สนิ ใจเรียนสกีข้างล่างก่อน ผมรู้สกึ ตื่นเต้นเป็นอยา่ งมากที่ได้เห็นบรรยากาศการเลน่ สกีแบบอินเดีย้ อินเดีย โดยเฉพาะเด็กตวั เลก็ ๆดจู ะสนกุ สนานเป็นพิเศษ ถึงจะเลน่ สกียงั ไม่ได้แต่ก็มี รถจกั รยานสกีท่ีล้อ ไมใ่ ช่วงกลม แตเ่ ป็นแผน่ กระดานสกีแล้วมีคนลาก สว่ นเด็กโตก็เรียนสกีเต็มรูปแบบ พร้อมกบั พอ่ แม่ ผ้ใู หญ่บางคนกวา่ จะทรงตวั ได้ ล้มแล้วล้มอีก ต้องคอยให้ครูสอนคอยพยงุ ผมเห็นแล้วอดใจ ไม่ไหว ผมรอคอยโอกาสนีม้ านานแล้ว ลองไปสอบถามดู เลยโดนครูสอนสกีรุมตามระเบียบ ตา่ งแยง่ กนั เสนอตวั ไม่รู้ ใครเป็นใคร ส่วนใหญ่จะยดั เยียด ให้ผมเรียนเตม็ วนั ในราคา 1,000 รูปี ผมว่ามนั เป็นการผกู มดั เกินไป ผมก็ไมร่ ู้วา่ มนั จะเลน่ ยาก จะสนกุ แค่ไหน จะเบ่ือกลางคนั หรือเปล่า และที่สาคญั ท่ีสดุ ผม ไม่มีเวลามากขนาดนนั้ เพราะผมต้องเจียดเวลาขนึ ้ กระเช้าไปเที่ยวข้างบน phase 2 ด้วย
คยุ กบั คนอินเดียนี่ปวดหวั มากๆผมชกั ราคาญแล้ว จากประสบการณ์ครัง้ ก่อน ผมรู้ วา่ อยา่ ไปตอ่ ความยาวสาวความยืดกบั คนอนิ เดีย เพราะยงั ไงไมม่ ีทางท่ีจะเอาชนะความอดึ ของคน อินเดียได้ ผมก็เลยย่ืนข้อเสนอไปว่าผมจะเรียนในราคาชว่ั โมงละ 200 รูปี เรียนกี่ชว่ั โมงก็คิด ตามนนั้ ใครรับข้อเสนอนีไ้ ด้ผมก็จะเรียนด้วย แต่ถ้าไมไ่ ด้ราคานี ้ผมก็ไมเ่ รียน แล้วก็เดนิ หนีทนั ที “OK OK ” สดุ ยอด มนั ได้ผลมีครูคนหนงึ่ ตะโกนไลห่ ลงั แล้ววิ่งตามผมมา เขารับข้อเสนอของ ผม ผมรู้ว่ามนั จะต้องได้ผลจงึ ใช้วิธีนี ้ ผมก็ล้วงไปเอาสมดุ บนั ทกึ ออกมาจากเป้ บอกวา่ เราต้องเซน็ สญั ญากนั ก่อน ครูสอนสกีเขางงเลก็ น้อยยมิ ้ เจื่อนๆ ผมเขียนเวลาเร่ิมต้นเรียน วนั ที่เรียน คา่ เรียน ชวั่ โมงละ 200 รูปี พร้อมกบั ใส่สกุ ลเงนิ ด้วย จะเรียนก่ีชว่ั โมงก็คิดตามนนั้ ผมย่ืนสมดุ ให้เขาเซน็ ช่ือ กากบั พร้อมกบั ยกกล้องขนึ ้ บนั ทกึ ภาพไว้เป็นหลกั ฐาน ป้ องกนั ไว้เด๋ียวจะโมเมวา่ ไม่ใช่ลายเซ็น ของเขา ดเู หมือนจะเค่ียวเหลือเกิน แตบ่ างครัง้ คนเราก็ต้องจาเป็นต้องร้ายกาจซะบ้างเพื่อปกป้ อง ตวั เอง ผมยงั จาความร้ายกาจของคนอินเดียคราวท่ีแล้วได้ดี ไมม่ ีหลกั ฐานเถียงให้ตาย ยงั ไงก็ไม่มีทางที่จะชนะ ตอนที่เขาอยากได้เงนิ จากเราให้ทาอะไรเขาก็ยอมทกุ อย่างอยแู่ ล้ว ดู เหมือนว่าจะโหดร้าย แตส่ าหรับคนอินเดียแล้ว ไม่มีอะไรที่โหดสาหรับมนษุ ย์สายพนั ธ์ชุ าวอินเดีย เขาบริการดีถกู ใจเรา เราก็ให้ทปิ เขาก็ได้ จะได้ช่ืนมื่นทงั้ สองฝ่ าย แตใ่ ห้ตายเหอะ ส่วนใหญ่จะจาก กนั ด้วยรอยแค้นซะมากกวา่
บรรยายภาพ – บรรยากาศการเรียนสกใี นแบบชาวอินเดียในวันท่ฟี ้ าฝนไม่เป็ นใจ ครูสอนสกีบอกวิธีสอนใส่รองเท้าให้ผม สอนการทรงตวั และสอนวิธีการหยดุ สกี แล้วก็ให้สกีไปข้างหน้า ตอนแรกสกีได้นิดเดียวก็ล้มแล้ว สกั พกั เริ่มสกีได้ไกลขนึ ้ และเร่ิมพฒั นา ความลาดชนั มากย่ิงขนึ ้ ดีที่ตอนล้มมนั ไมเ่ จ็บเพราะมีหมิ ะน่มุ รองรับ แตก่ ็ทาให้เปี ยกแฉะ เหมือนกนั ครู บอกวา่ ตอนเดนิ ย้อนขึน้ มาบนเนนิ ให้เอากระดานสกีพดั บนไหล่ มือหนง่ึ ก็ให้ถือไม้ สกีไว้พยงุ ตวั ผมไมไ่ ด้เน้นการเรียนแบบจริงจงั แค่เรียนเอามนั อยากสมั ผสั การเลน่ สกีสกั ครัง้ หนง่ึ ในชีวติ แค่นนั้ เอง
ตอนที่ผมสกีลงที่ลาดชนั แล้วต้องเดินขนึ ้ มาบนเนนิ เหนื่อยมากๆ เพราะต้องย่าบน หิมะท่วมเข่า กว่าจะขึน้ มาได้เลน่ เอาเหน่ือยหอบ ขณะท่ีเดินย่าหมิ ะก็พยายามสอดส่ายสายตา หา จดุ ท่ีหิมะสะอาด ห่างไกลผ้คู น เพอ่ื ทาตามความฝันที่ตงั้ ใจเอาไว้ เพราะชกั หวนั่ ๆกบั การได้เห็น หน่มุ อนิ เดียยืนฉ่ีใสห่ มิ ะ ตาหน้าตาตาขนาดนนั้ บรรยายภาพ – ลลี าการเล่นสกีของหนุ่มซกิ ข์ ตอนพกั เหน่ือยครูสอนให้ผมทาเก้าอีห้ มิ ะ โดยใช้ไม้สกีด้านท้ายปักลงหมิ ะเป็น ค่ขู นาน แล้วเอาไม้คา้ การทรงตวั พาดไปท่ีลอ็ กเท้า ผมลองทาดมู นั นง่ั ได้จริงๆเลยนงั่ พกั เหน่ือยและ
คยุ กบั เขาเร่ืองตา่ งๆ เสร็จจากสอนแล้วเขาต้องนง่ั รถลงไปท่ีเมืองTangmarg ข้างล่างเชงิ เขา ตอน เช้าก็ขนึ ้ เขามาทางาน เป็ นอยา่ งนีท้ กุ วนั ตอนแรกผมนกึ ว่าเขาพกั อย่บู นนีซ้ ะอีก ผมรู้สกึ ประทบั ใจครูสอนสกีคนนีพ้ อสมควร ดเู ขาเอาใจใสแ่ ละแนะนาอย่างดี โดยเฉพาะตอนถ่ายรูป ไมว่ า่ ผมทาอะไรก็มีครูคอยถ่ายรูปให้ตลอด ทงั้ กาลงั สกี ตอนล้มนอนแผ่ สองสลงึ หวั เราะท้องแขง็ ตอนนงั่ พกั เหนื่อย เรียกว่าไม่พลาดสกั ช้อต แถมยงั ถ่ายวิดีโอให้อีกถกู ใจ ผมท่ีสดุ แล้วก็ถึงตอนท่ีผมรอคอยมานานผมสกีมายงั จดุ ท่ีไมม่ ีค่อยมีใครสกีหรือย่าเท้า มาถงึ กวกั มือเรียกให้ครูเดนิ มาหาเพราะเป้ ผมฝากไว้กบั ครู หยิบขวดซอสพริกท่ีบรรจนุ า้ หวาน เฮลบลู บอยสีเขียวออกมา ราดลงบนหมิ ะเขียนเป็นช่ือของผมเอง เสียดายท่ีนา้ แดงมนั แตกเลอะ ใสก่ ระเป๋ าเสือ้ ผ้าไม่เหลือสกั หยด ยงั ดีท่ีเหลือนา้ เขียวอย่คู รึ่งขวด ผมบรรจงบีบขวดนา้ หวานจารึกช่ือของผมลงบนหิมะท่ีสะอาดอ่อนน่มุ พร้อมกบั รูป หวั ใจด้านล่างเสียดายท่ีไม่มีนมข้นอย่ดู ้านบน ราดนา้ เขียวเสร็จผมลองชิมดอู ร่อยดีเหมือนกนั ไม่ ต่างจากนา้ แขง็ ใสราดนา้ หวานเลย เพียงแตไ่ มม่ ีนมข้นราดบนนา้ แข็งใสเหมือนท่ีเคยกิน ในที่สดุ ความตงั้ ใจของผมก็สาเร็จเสร็จสนิ ้ ลงแล้ว แม้ว่าจะไม่สมบรู ณ์แบบเท่าไหร่นกั
ตอนที่ 13 เรียนสกี ถูกทสี่ ุดในโลก ตอนแรกผมนกึ วา่ การเล่นสกีมนั จะยากกว่านี ้มนั สนกุ กว่าที่คดิ ไว้ซะอีก ได้แค่นี ้ ผมก็พอใจแล้ว เวลา 3 ชวั่ โมงไมน่ ้อยไมม่ ากเกินไป ผมตงั้ ใจว่าจะจา่ ยทิปครูสอนสกีให้เพมิ่ อีก 2 ชว่ั โมง เพราะประทบั ใจท่ีเขาถ่ายรูปถ่ายวีดิโอให้ผมเป็นอย่างดี ตงั้ แตห่ ดั ตงั้ ไข่ล้มลกุ คลกุ คลาน จนพอท่ีจะสกีได้ ขณะกาลงั นง่ั พกั เหนื่อย หลงั จากท่ีเลน่ สกีจนพอใจแล้ว เตรียมเงนิ จะจ่ายครูสอน สกี ก็ได้ยนิ เสียงคยุ กนั เป็นภาษาไทย คนอื่นเม่ือเห็นคนไทยด้วยกนั ตา่ งแดน อาจจะไมอ่ ยาก สนทนาปราศรัยด้วยด้วยเหตผุ ลสว่ นตวั สารพดั ล้านแปด แตส่ าหรับผมมนั ไม่ใช่ ก็เลยเข้าไป ทกั ทายตามประสาคนชอบพดู คยุ พ่ีผ้หู ญิงคนหนง่ึ ถามผมวา่ “ น้องทาไมถึงกล้ามาเท่ียวอินเดีย คนเดียวคะ ’’ “ ผมเคยมาเท่ียวอินเดียแล้วครับ ถ้าเตรียมข้อมลู มาดีก็ไม่นา่ กลวั อะไร ” “ เป็นพี่นะไม่เอาด้วยหรอก พ่ีกลวั พ่ีถงึ มากบั ทวั ร์ไง ” ผมได้แตอ่ มยิม้ ผมบอกว่าผมเพง่ิ เลน่ สกีมา ราคาชว่ั โมง 200 รูปี ผมเรียน 3 ชวั่ โมง จะให้ทปิ เขา 2 ชวั่ โมงเป็น 400 รูปี คณุ ป้ าคนหนงึ่ รีบพดู ขนึ ้ วา่ “ อย่าไปให้นะ มนั จะเสียราคา เดี๋ยวคนไทยมาจะไม่ได้ราคานีอ้ ีก ” ขณะที่คยุ กนั อยู่ นนั้ ครูสอนสกีก็เดนิ มาพอดี บอกผมว่า
“ คา่ เรียนชว่ั โมง 200 US Dollar ทงั้ หมด 3 ชวั่ โมงเป็ น 600 US Dollar ” เขาพดู หน้าตาเฉย “ 200 รูปี ไม่ใช่ 200 US Dollar ” ผมแย้งกลบั เขายงั ทาเป็นหทู วนลม ไม่ยินดียิน ร้าย ผมชกั จะโมโห เลยล้วงเอาสมดุ ออกมาให้เขาดู ดีที่ผมใส่สกลุ เงินต่อท้ายด้วย เขาก็ยมิ ้ เจื่อนๆ แบบขาๆ ทีเลน่ ทีจริง คนอินเดียนี่มนั เผลอไมไ่ ด้จริงๆหรือน่ี ก็เลยจา่ ยเขาไป 600 รูปี จากตอนแรก วา่ จะให้ทิปแล้วเชียว ดนั มายว่ั โมโหซะก่อน “ นี่แหล่ะคนอนิ เดีย เราต้องทนั เขาไมอ่ ย่างนนั้ มีหวงั โดนเขาโกงตายเลยพี่ ” ผมหนั ไปพดู กบั พี่ผ้หู ญิงคนไทย “ น่ีไงพถี่ งึ ไม่กล้ามาเท่ียวอนิ เดียเอง แล้วน้องจะไปไหนตอ่ คะ ” “ ผมจะขนึ ้ กระเช้าชนั้ บนสดุ แล้วพวกพี่ไปมายงั ครับ ” “ ยงั เลย เขาพามาแค่ชนั้ เดียว เด๋ียวพวกพี่ก็ลงกนั แล้ว ” น่ีแหล่ะหนาการมาเที่ยวกบั ทวั ร์ อยากจะทาอะไรตามใจก็ไม่ได้ เขาจะจดั ให้ยงั ไงก็ต้องอย่างนนั้ โชคดีเหลือเกินท่ีผมหลดุ วงโคจร นนั้ มาแล้ว ที่เขาบอกว่ากลุ มาร์กคือท่ีเรียนสกีท่ีถกู ท่ีสดุ ในโลก คงจะจริงอยา่ งไมต่ ้องสงสยั เพราะท่ียโุ รปเพื่อนผมบอกวา่ ชว่ั โมงละ 40 ยโู รทีเดียว ขอบคณุ การตดั สินใจของตวั เองมากๆที่ ขนึ ้ มา Phase 2 กบั ราคาคา่ ตวั๋ 500 รูปี ตอนแรกลงั เลเพราะดแู ล้วอากาศไมเ่ ป็นใจเทา่ ไหร่ แตพ่ อ ขนึ ้ มาแล้ว มนั สวยเหลือเกิน ภเู ขาหมิ ะขาวสะอาดกว้างไกลสดุ ลกู หลู กุ ตา เสียดายที่วนั นีม้ องไม่ เหน็ ยอดเขา k2 ของประเทศปากีสถานซงึ่ เป็นยอดเขาท่ีสงู อนั ดบั 2 ของโลกรองจากยอดเขา Everest ประเทศเนปาล ขนาดวนั นีอ้ ากาศไม่เปิดมนั ยงั สวยขนาดนี ้ถ้าอากาศดีท้องฟ้ าเปิด มนั จะ สวยขนาดไหน ชนั้ บนสดุ คนน้อยมาก สงู ขนาดนีย้ งั มีครูสอนสกีอีก แต่ดเู หมือนว่าจะไม่มีใคร สนใจ ถ้าไมอ่ ยากเล่นหรือเลน่ ไม่เป็น เขาก็ให้สกีไปกบั เขาด้วย โดยให้เกาะเอวเขาไว้ด้านหลงั แล้ว
เหยียบพนื ้ ไม้เดียวกนั เขาเสนอราคาที่ชวั่ โมงละ 700 รูปี พอไมม่ ีใครสนใจ ก็ลดเหลือ 500 จนใน ที่สดุ เหลือ 200 รูปี ถึงได้ลกู ค้าหนมุ่ น้อยท่ีมาจากมมุ ไบ “ ท่ีมมุ ไบ มีหมิ ะไหมน้อง ” ผมถามหน่มุ น้อยชาวมมุ ไบ ที่ออกอาการลงิ โลด เหลือเกินท่ีได้เหน็ หมิ ะ “ ไม่มีครับ มมุ ไบร้อนมากกกก ” ขณะท่ีช่ืนชมความงามภเู ขาหิมะอยนู่ นั้ หมิ ะก็ตกลงมาแบบไมค่ าดคดิ มาก่อน เสียดายที่มนั เป็นหิมะท่ีมาพร้อมกบั สายฝน แทนท่ีพวกเราจะวิง่ เข้าไปหลบหมิ ะในอาคารเหมือน คนอื่น กลบั พากนั ยืนตากหิมะเฉยเลย ผมพอจะเข้าใจคนท่ีมาจากเมืองร้อนเหมือนกนั วา่ ทาไม พวกเราถงึ ยินดีท่ีจะยืนให้หิมะตกใส่ ผลดั กนั ถ่ายรูปให้กนั และกนั เป็นที่สนกุ สนาน หวั เราะชอบใจ กนั ใหญ่ แล้วจ่ๆู หนมุ่ น้อย 2 คนพ่นี ้อง เกิดนกึ สนกุ ขนึ ้ มา ถอดเสือ้ กนั หนาวออก ยืนจงั ก้าเบ่ง กล้าม ท้าความหนาววา่ ใครจะอดึ กวา่ กนั อนั นีผ้ มขอยอมแพ้แล้วกนั ขากลบั ผมไม่ยอมนงั่ กระเช้าคนเดียวเหมือนตอนขาขนึ ้ เพราะกระเช้าอย่ดู ีๆก็ติดขดั ไม่เคล่ือนที่ ค้างเต่ิงอยอู่ ยา่ งนนั้ นานถึง 2 นาที แต่ขาลงคราวนีก้ ลบั ราบร่ืนเหลือเกิน มองลานสกี ที่ phase 1 จากกระเช้าเหน็ คนกาลงั เลน่ สกีเตม็ ไปหมด ผมยงั อยากที่จะใช้เวลาอยเู่ ก็บความทรง จาแสนสวยไว้นานๆ แตพ่ อมองขนึ ้ ไปบนท้องฟ้ า ดเู หมือนวา่ เมฆกาลงั ตงั้ เค้า อีกไม่นานฝนก็คงจะ เทกระหน่าลงมา เลยยอมตดั ใจรีบลงดีกวา่ ข้างลา่ งที่ลานหิมะกว้างก็ยงั มีคนเรียนสกีเยอะเหมือนกนั แต่ถ้าเทียบบรรยากาศ ความสะอาดสวยงามกบั ข้างบนแล้ว มนั ชา่ งแตกต่างกนั เหลือเกิน ราคาค่าเรียนสกีก็ไมไ่ ด้ต่างกนั เลย ขณะท่ีเดินกลบั ที่พกั ก็มีคนลากกระดานเลื่อน ให้ใช้บริการของเขา ในราคา 100 รูปี ผมบอก วา่ เคยนงั่ เม่ือวานแล้ว และมนั ก็ใกล้ถึงที่พกั ผม เดินไม่กี่ก้าวก็จะถึงโรงแรมที่ผมพกั แล้ว อยา่ ว่า แต่ 100 รูปี เลยให้นงั่ ฟรีผมก็ไม่เอา เขาก็ยงั เดนิ ตามผมเร่ือยๆอยา่ งไม่ยอ่ ท้อ เห็นว่ายงั ไงผมก็ไม่ นงั่ แนแ่ ล้ว
“ ผมไม่มีพ่อแม่ มีน้องสาวน้องชายหลายคนท่ตี ้องเลีย้ งดู ช่วยเหน็ ใจผม หน่อยเถอะครับ ” เจอไม้นีเ้ข้าไปผมก็พดู ไม่ออก ขามนั เยน็ ยะเยือกพอกบั หมิ ะ ก้าวเท้าแทบไม่ออกเหมือนกนั ฝนเทกระหน่ามาตงั้ แต่หวั ค่าไม่มีทีทา่ วา่ จะหยดุ เลย ได้แตน่ ง่ั ทอดสายตา มอง ยอดเขาหมิ ะทา่ มกลางสายฝนโปรยปรายทางหน้าตา่ งตาละห้อย อยากจะออกไปเดินย่าหิมะเล่น อยากออกไปดชู ีวิตผ้คู น ยงั มีอะไรอีกมากมายท่ีนา่ สนใจสาหรับชมุ ชนบนเขากลุ มาร์กแห่งนี ้ ผมก็ คงทาไม่ได้เสียแล้ว บรรยากาศมนั ไม่เป็นใจเอาเสียเลย ทกุ อย่างมนั หยดุ ชะงกั พงั ทลายหายสิน้ ไป พร้อมกบั สายฝน ต้องทนอดุ อ้อู ยใู่ นห้องคนเดียว ทาให้จิตใจของผมมนั หอ่ เห่ียวไปด้วย นี่คือ เหตผุ ลว่า ทาไมผมถงึ ได้เกลียดกลวั ฝนนกั ตอนท่ีออกเดินทางท่องเที่ยว ผมจาไมไ่ ด้หรอกว่า ตลอดชีวิตนี ้ฝนได้ทาลายโอกาสดีๆ ของชีวิตไมร่ ู้กี่ร้อยก่ีพนั ครัง้ แล้ว
บรรยายภาพ – บรรยากาศชัน้ บนสุดของเทอื กเขากลุ มาร์ก
ตอนที่ 14 ชมทงุ่ ดอกทิวลิป ในวนั ฝนพรำ หวิ ้ กระเป๋ ามารอที่ห้องอาหาร เจอผ้จู ดั การซงึ่ เป็นลกู ชายเจ้าของโรงแรมพอดี ผม สง่ั จยั ชาใส่นมแบบอินเดีย มากินรองท้อง พร้อมกบั นง่ั คยุ กบั ผ้จู ดั การ ผมเล่าให้แกฟังว่าเมื่อวาน ไปเล่นสกีมา แกบอกว่าเพื่อนแกเป็นคนจดั ทริปเล่นสกี ในหน้าหนาว ชว่ งเดือนธนั วาคม มกราคม จะมีนกั สกีจากทว่ั โลกเดนิ ทางมาที่นี่ ใครจะไปเล่นสกีบนยอดเขาต้องนง่ั เฮลปิ คอปเตอร์ขนึ ้ ไป เขากางแผนท่ีให้ผมดู มี หลายจดุ ท่ีเลน่ สกีได้เรียงรายกนั ไปตามยอดเขาหิมะ เขาบอกว่าถ้าอยากเล่นเป็นแบบมืออาชีพ ต้องเรียน 10 วนั ขนึ ้ ไปแล้วจะมีครูพานงั่ กระเช้าขนึ ้ ไป แล้วสกีลงมาข้างลา่ ง คงเห็นวา่ ผมสนใจก็ เลยพาไปดหู ้องเก็บอปุ กรณ์เลน่ สกี ทงั้ ห้องเต็มไปด้วยอปุ กรณ์เลน่ สกีเตม็ ไปหมด กองพะเนินเทิน ทกึ เป็นภเู ขาเลากา รถโดยสาร ลงจากเขาราคา 20รูปี โดยมีผมคนเดียวที่เป็นผ้โู ดยสาร โดยมีลงุ แก่ๆ เป็นคนขบั นงั่ คยุ กบั ลงุ มาตลอดทาง ทา่ มกลางฝนตกที่เทกระหน่ามาตงั้ แตเ่ มื่อคืน รู้สกึ ช่ืนชมคน อินเดียมาก สว่ นใหญ่จะพดู ภาษาองั กฤษขนั้ พนื ้ ฐานกนั ได้แทบทกุ คน รถมาสง่ ผมท่ีสถานีเชงิ เขา เมือง Tangmarg ลงุ เก็บค่าโดยสารผม 30 รูปี ซงึ่ ผมรู้ราคาจริงอย่แู ล้วเพราะสอบถามราคาจาก ผ้จู ดั การโรงแรมและเดก็ ยกกระเป๋ ามาแล้ว แตผ่ มก็เต็มใจให้ลงุ มนั จะค้มุ ค่านา้ มนั หรือเปล่ายงั ไมร่ ู้ เลย มาตงั้ หลกั ที่เมืองศรีนาการ์ ครัง้ นีค้ งไม่มีปัญญานอนบ้านเรือเหมือนคราวก่อน แล้ว แต่ผมได้จองโรงแรมไว้แล้ว ซงึ่ อย่ใู กล้กบั เอเจนซีเ่ จ้าปัญหารถเหมานน่ั เอง ผมแอบไป
สารวจมาเหน็ ราคา 300 รูปี ซง่ึ คงจะถกู ที่สดุ ในถนน บเู ลอวาร์ด ( boulevard street ) ใกล้ ทะเลสาบดาล ถ้าทาเลแถวนีจ้ ะราคา 1,500 รูปี ขนึ ้ ทงั้ นนั้ ตงั้ ใจว่าจะไปชมสวนดอกไม้ ไปขอข้อมลู ผ้จู ดั การโรงแรม ชื่อ Saleem แกก็จดช่ือ สวนดอกไม้ใส่กระดาษมาให้ พร้อมทงั้ อาสาจะไปเรียกรถต๊กุ ต๊กุ ตอ่ รองราคาให้เสร็จสรรพ ตกลง กบั คนขบั รถเสร็จ แกก็เดินมาบอกผมว่า ไปชมสวนดอกไม้ 3 แห่ง ราคา 300 รูปี กลบั 6 โมงเย็น
สวนแรกต้องเจอด่านทหารถือปื นจงั ก้า ซง่ึ เป็นเร่ืองปกตขิ องแคชเมียร์อยแู่ ล้ว ไม่ วา่ ท่ีไหนก็มีทหารถือปื นทกุ จดุ คยุ กบั คนขบั นดิ หน่อยก็ให้ผ่าน สวนนีช้ ื่อ mughal garden cheshma shahi ค่าเข้า 10 รูปี เด็กอายตุ ่ากว่า 12 ปี ราคา 5 รูปี คนต่างชาตหิ รือคนอนิ เดียจ่าย ในราคาเดียวกนั ดอกไม้ท่ีน่ีส่วนใหญ่มีแตต่ ้นยงั ไม่ออกดอกเลย การจดั สวนก็ธรรมดามาก ตงั้ อยู่ เชงิ เขา มองเห็นทะเลสาบดาลสดุ ลกู หลู กู ตา เดนิ ดปู ระมาณ 10 นาทีก็กลบั เพราะไม่เหน็ มีอะไร น่าสนใจสกั เท่าไหร่ สวนดอกทวิ ลิป Tulip garden ซงึ่ อย่ไู ม่ไกลกนั นกั คา่ เข้า 50 รูปี พอก้าวพ้นประตู ทางเข้า มองไปที่สวนเห็นดอกทิวลปิ สีสนั สดใสเต็มทงุ่ สารพดั สีปลกู สลบั กนั ไป นี่คือครัง้ แรกจริงๆท่ี เหน็ ดอกทิวลปิ เยอะขนาดนี ้ อดท่ีจะตื่นเต้นไมไ่ ด้ ปลกู เป็นแปลงแยกสีแยกพนั ธ์ุ นกึ ไมถ่ ึงว่า ทิว ลิปจะมีหลายสีหลากพนั ธ์ขนาดนี ้ นกึ เสียดายแทนกล่มุ พ่ีอ้อย ท่ีพลาดโอกาสได้ชมสวนดอกไม้ แสนสวยแบบนี ้ ดอกไม้ละลานตาขนาดนี ้ ถ่ายรูปมมุ ไหนก็สวยไปหมด แม้ว่าต้องวิ่งหลบฝนเป็น ระยะ ผมก็ไมถ่ อย มีความรู้สกึ วา่ ตวั เองเป็นผีเสือ้ ท่ามกลางท่งุ ดอกไม้ บินไปดมดอกนีบ้ นิ ไปหอม ดอกนนั้ เพลิดเพลินจาเริญใจ เพง่ิ รู้ว่าดอกทิวลิปแต่ละสีแต่ละพนั ธ์กุ ล่ินจะไมเ่ หมือนกนั กลิ่นจะ หอมออ่ นๆเหมือนดอกบวั เดินชมดอกทิวลปิ ไปก็ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่เป่ านกหวีด ปร๊ีด ๆตลอดเวลา เพราะ ย่าเท้าเข้าไปในแปลงดอกทวิ ลปิ ลกึ ไปหน่อย เพือ่ อยากจะได้ภาพมมุ ที่สวยที่สดุ หนงึ่ ในเสียง นกหวีดนนั้ ก็มีผมรวมอย่ดู ้วย เพราะความสวยของดอกไม้ทาให้ลืมตวั ใครเดด็ ดอกไม้ก็จะโดน ปรับ 500 รูปี มีป้ ายเตือนไว้อย่างชดั เจน ไมอ่ ยา่ งนนั้ คงไม่เหลือดอกทวิ ลิปไว้ให้คนมาทีหลงั ชื่นชม แน่ๆ เพราะเห็นตวั อยา่ งมาแล้ว ตอนไปพาฮาลแกม เห็นดอกไม้ทงิ ้ เกลื่อนถนน หลงั จากที่ชื่นชม มนั เบื่อแล้ว
นกั ทอ่ งเท่ียวสว่ นมากมาจากตา่ งเมือง คนหนง่ึ มาจากแคว้น อสั สมั ตอนแรกเขา ก็นกึ วา่ ผมเป็นคนอนิ เดียที่มาจากบ้านเดียวกบั เขา ผมก็ลืมไปวา่ ประเทศอินเดียกว้างใหญ่มาก มี หลายเชือ้ ชาติเผา่ พนั ธ์รุ วมกนั จะแปลกอะไรล่ะ ถ้าเขาจะนกึ วา่ ผมมาจากอสั สมั แคว้นที่อย่ใู กล้ ประเทศพม่า ซงึ่ รัฐนีก้ ็มีคนไทยเชือ้ สายอาหม อาศยั อยู่ เขาอาจจะคิดวา่ ผมเป็นลกู หลาน ชาวไทย อาหมก็ได้
คนขบั มารอที่หน้าประตทู างเข้าพอดี พอเห็นผมเท่านนั้ แหละ่ แกโวยวายใหญ่ เลย หาวา่ ทาไมผมไปนานจงั ให้เวลาชมสวนดอกไม้ทงั้ สามท่ี 50 นาทีเทา่ นนั้ เขาบอกจะกลบั ไป ส่งผมที่โรงแรมเพราะหมดเวลาแล้ว ผมไม่สนใจจะอยนู่ านเท่าไรก็ได้ เพราะหมดเวลา ตอน 6 โมง เย็น ตอนนีก้ ็เหลือเวลาอีกตงั้ นาน ที่ผมไมเ่ ซ็นสญั ญาก่อนก็เพราะว่า เจ้าถ่ินเป็นคนตดิ ตอ่ ให้ คง ไมม่ ีอะไรตกุ ติก ยงั ไงสองคนนีก้ ็นา่ จะรู้จกั กนั มาบ้าง จะวา่ ผมฟัง Saleem ไมร่ ู้เร่ืองเป็นไปไมไ่ ด้ แน่นอน เพราะเขาเขียนเวลาและจานวนเงินใส่กระดาษให้ผมดดู ้วยพร้อมทงั้ ช่ือสวนดอกไม้ทงั้ 3 แหง่ ผมก็ไมก่ ลบั แน่นอน ยงั ไงคนที่ถือเงินย่อมเหนือกวา่ วนั ยงั ค่า “ ข้าไม่ใช่หมูสยามให้แกเชือดง่ายๆนะเว้ย ” เขาเหน็ ผมเอาจริง ด้วยการชีห้ น้าให้สงบปากสงบคา ก็เลยไปส่งผมแบบเสีย ไม่ได้ กาลงั ช่ืนมื่นเพลดิ เพลินกบั การชมสวยดอกไม้อยดู่ ีๆไม่นา่ มาทาให้โมโหเลย ผมก็นกึ ไม่ออก เหมือนกนั ถ้าผมเป็นหญิงไทยตวั เล็กๆเดินทางมาคนเดียวเจอคนขบั อินเดียแบบนี ้จะมีกาลงั ตอ่ กร กบั เขายงั ไง สวนท่ี 3 Mughal Garden Nishat แห่งนีอ้ ยตู่ ิดทะเลสาบดาลเลย มีนา้ พใุ น ทะเลสาบดาลด้วย ค่าเข้า 10 รูปี สวนแห่งนีไ้ มเ่ น้นดอกไม้ แต่จะเน้นการตกแต่งสวนด้วยต้นไม้ แทน รมรื่นไปด้วยไม้ต้นใหญ่ และมีนา้ พปุ ระดบั เป็นทางยาว ข้างหลงั ติดภเู ขา ด้านหน้าตดิ ทะเลสาบดาล เจอคนไทยอีกแล้ว ช่วงนีไ้ ปไหนก็เจอแตค่ นไทย สวนทิวลปิ ท่ีผ่านมาเมื่อกีก้ ็ เช่นกนั เลยทกั ทายพอหอมปากหอมคอ กล่มุ นีม้ ากนั เป็นครอบครัวและมากบั ทวั ร์ เท่านนั้ ยงั ไม่ พอเจอสาวไทย 3 คน พวกเธอบอกว่าเห็นผมตงั้ แตเ่ ม่ือวานท่ีกลุ มาร์กแล้ว พรุ่งนีอ้ าจจะไปโซนา มาร์กโดยจะเหมารถไปกนั เอง ผมบอกว่าจะไปเหมือนกนั เลยขอติดรถไปด้วยได้ไหม เธอบอกวา่
ยงั ไมไ่ ด้ตดั สินใจวา่ จะไปหรือเปล่า เพราะรอดฝู นก่อน ถ้าเกิดไม่ไปจะทาให้ผมรอเก้อเปล่าๆ ฟังดู เข้าทา่ เพราะขนาดผมเองยงั ไม่มน่ั ใจเลยวา่ พรุ่งนีจ้ ะไปดีไหม
บรรยายภาพ – ทหารขวัญใจชาวอินเดยี พบเจอได้อย่ทู ่วั ไปทกุ มุมของแคชเมียร์ เน่ืองจากเป็ นพนื้ ท่อี ่อนไหว สไตล์ลสิ และตากล้องในร่างเดียวกนั จดั ทา่ ให้เสร็จสรรพ ทงั้ ท่ากอดอก เท้า สะเอว ยกมือขนึ ้ สองข้างแล้วชีข้ นึ ้ บนฟ้ า แล้วก็ท่าเท้าสะเอวอีกมือข้างหนงึ่ ชีน้ วิ ้ ขนึ ้ บนฟ้ า เหมือนเดิม ผมเลยจดั ไปตามใบสงั่ โดยถ่ายด้วยกล้องผมเอง พอกดดรู ูปตวั เอง ไหงกลายเป็น คนรับใช้เจ้าชายสลุ ตา่ นมาเลเซียซะงนั้ โถ โถ โถ ก็ตวั ดาเป็นเหน่ียงซะขนาดนนั้ จะเป็นเจ้าชาย เปอร์เซียแขกขาวไปได้ยงั ไงเล่า เดนิ ผ่านซ้มุ บริการถ่ายรูป มีชดุ ให้เช่าถ่ายรูปด้วย เมียงๆมองๆสกั พกั น่าสนกุ ดี เลยให้เขาจบั แต่งตวั ให้ อยากจะเป็นเจ้าชายแขกเปอร์เซยี ดบู ้าง เป็ นเสือ้ แขนยาวบางๆสีฟ้ าทมึ ๆ คลมุ หวั เขา่ ปักลายดอกไม้สีทอง คาดหวั ด้วยผ้าสีชมพพู นั รอบๆหมวกสีทอง เจอการแตง่ ตวั สไตล์ นี ้ก็นกึ ไม่ออกเหมือนกนั จะโพสต์ท่ายงั ไง กลบั มาถงึ โรงแรมคนขบั ขอเงินเพมิ่ ผมไมย่ อมจ่าย และจะจ่าย 300 รูปี เทา่ กบั ท่ี Saleem แจ้งผมไว้เท่านนั้ ผมยื่นเงนิ ให้ เขาคว้าไปแบบไม่เต็มใจ ผมบอกให้ไปคยุ กบั Saleem แล้วกนั ว่าตกลงกนั ไว้ยงั ไง พอคนขบั รถเจอหน้า Saleem เท่านนั้ แหล่ะสงครามโลกครัง้ ท่ี 3 ก็เกิดขนึ ้ ทนั ที สองหนมุ่ ทะเลาะกนั ลนั่ โรงแรม ชนดิ ท่ีไม่มีใครยอมใคร เห็นแขกสองคนทะเลาะกนั แบบเอาเป็น เอาตายแล้วขนหวั ลกุ จริงๆ ขนาดคนทีพดู ภาษาเดียวกนั ยงั ไว้ใจกนั ไมไ่ ด้ นบั ประสาอะไรกบั นกั ทอ่ งเท่ียวตา่ งถิ่น คนอินเดียน่ีมนั ไว้ใจไมไ่ ด้เลยเหรอ
หลงั จากสงครามโลกจบลง ผมเดนิ ออกมาดเู หตกุ ารณ์วา่ เป็นอยา่ งไร ตกลง เร่ืองมนั เป็ นอย่างไรกนั แน่ ซาลีมคงไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด “ ช่างมนั เถอะ มนั จบแล้ว อย่าไปใส่ใจกบั คนง่ีเงา่ พนั ธ์นุ นั้ เลย ”
ตอนท่ี 15 พระยาน้อยชมตลาด รอรถโดยสารท่ี Dal gate จากการสอบถามเส้นทางไปโซนนามาร์กของ Saleem ผ้จู ดั การโรงแรมท่ีผมพกั คนั ไหนมาผมถามหมด แตก่ ็ยงั ไมใ่ ชส่ กั คนั ก็เลยถามคนแถวนนั้ ว่าจะไป โซนามาร์กต้องไปรอรถตรงไหน เขาก็บอกทางให้ ว่าสถานีไปโซนามาร์กเดินไปอีกสถานีไม่ใชร่ อท่ี หน้าทะเลสาบดาลตรงนี ้ มิน่าละ่ ทาไมถึงไม่เจอรถจดุ หมายปลายทางของผมสกั ที ข้อมลู ท่ีเขา บอกมา มนั ไมใ่ ช่ซะแล้ว ดนิ ถามคนไปเรื่อยๆแล้วก็เจอสถานีรถบสั เลก็ ๆมีนกั ท่องเที่ยวฝร่ังกลมุ่ หนงึ่ รอรถอยู่ แสดงวา่ มาถกู ที่แล้ว เข้าไปจองตว๋ั บอกว่าจะไปโซนามาร์ก คนขายตว๋ั ก็ยกมือบอกให้รอก่อน แล้วก็ หนั ไปถามผ้โู ดยสารคนอ่ืนแล้วก็ก้มหน้าก้มตาออกตวั๋ ตอ่ ไป แอบมองชาเลืองดู เห็น แกออกตว๋ั แล้วอยากจะบ้าตาย ที่นี่ไม่มีการใช้คอมพวิ เตอร์อะไรทงั้ นนั้ แม้แต่เลขท่ีตวั๋ ก็ใช้มือเขียนเอา ตวั๋ ใบ หนง่ึ จงึ ใช้เวลานานมาก ทงั้ ที่มีผ้โู ดยสารแค่ 3 คนเทา่ นนั้ ผมรอประมาณ 15 นาที แกส่งตว๋ั ให้ผ้โู ดยสารเสร็จ ก็เงยหน้ามาบอกผมวา่ วนั นี ้ ไมม่ ีรถไปโซนามาร์ก ต้องรอวนั พรุ่งนี ้ เพราะช่วงนีไ้ ม่มีผ้โู ดยสารรถจะออกวนั เว้นวนั ได้ยนิ คาตอบ แล้วองึ ้ กิมกี่ปนกบั ผิดหวงั เลก็ น้อย น่ีคือข้อเสียของการมาเที่ยวนอกฤดทู อ่ งเที่ยว การเดนิ ทางโดยขนส่งสาธารณะไม่ สะดวกสบายเอาเสียเลย แล้วทาไมไมบ่ อกผมตงั้ แต่แรก ให้ผมยืนรอทาไมตงั้ นาน พรุ่งนีผ้ มต้อง บินกลบั นวิ เดลีตอนบ่าย 2 โมง ยงั ไงก็กลบั มาไม่ทนั แน่
เดนิ ออกมาหน้าสถานีเจอรถต้มู าดกั รอนกั ทอ่ งเท่ียว ผมบอกวา่ จะไปโซนามาร์ก เขา คิดราคา 2,000รูปี ผมก็เลยบอกวา่ ไปคนเดียวและก็ไมม่ น่ั ใจวา่ ฝนจะตกหรือเปลา่ เขาก็บอกฝนไม่ ตกหรอก ถ้าไปจริงๆเขาจะลดให้ 1,700รูปี ราคานีผ้ มจา่ ยได้ เพราะ ใกล้จะจบทริปแล้ว งบประมาณยงั เหลือ ปัญหามนั อย่ทู ี่ฝนมากกวา่ อตุ สา่ ห์จ่ายตงั้ แพงแต่ต้องไปเจอฝนเลน่ งาน มนั คงไมค่ ้มุ แนๆ่ ถ้าเป็นรถโดยสารถงึ ไปเจอฝน ก็ยงั ไมน่ ่าเสียดาย เพราะว่าจา่ ยแค่ไม่กี่ร้อย บรรยายภาพ – เรือขายของพบได้ท่วั ไปท่ที ะเลสาบดาลบริการถงึ บ้านเรือท่พี ักกันเลย
มองขนึ ้ ไปท้องฟ้ าเห็นฝนตงั้ เค้าทาท่าจะตกแล้ว นกึ ขนึ ้ ได้วา่ ยงั มีสถานีรถประจา ทางอีกท่ีหนงึ่ ท่ีผมขอข้อมลู มาจากโรงแรมที่ผมพกั ในกลุ มาร์ก หยิบกระดาษแผ่นนนั้ ออกมาดูช่ือ สถานี Batmaloo Bus station เขาบอกวา่ ใช้เวลาเดินทาง 4 ชวั่ โมง พร้อมบอกชื่อโรงแรมและ ราคามาพร้ อมสรรพหากต้ องการจะค้ างคืน ความหวงั ยงั ไมส่ นิ ้ คดิ อยนู่ าน บวก ลบคณู หาร วกไปเวียนมาหลายรอบจะไป หรือไมไ่ ปดี ในท่ีสดุ ผมก็ตดั สนิ ใจไม่ไปดีกวา่ (หลงั จากกลบั เมืองไทยแล้วผมได้ข้อมลู จากคนไทย ที่ไปโซนามาร์กในวนั นนั้ ว่า ฝนตกหนกั มากว่ิงหลบฝนตลอดไมไ่ ด้เท่ียวเลย แสดงวา่ การตดั สนิ ใจ ของผมวนั นนั้ ถกู ต้องแล้ว ) เดนิ กลบั มาตงั้ หลกั ที่ dal gate เดินสารวจดโู รงแรมท่ีอย่รู ายล้อม dal gateเล่นๆ ราคาสงู พอๆกบั boulevard street แถวที่ผมพกั เลย แตท่ าเลความสวยงาม ส้แู ถวที่ผมพกั ไมไ่ ด้ เลย เดินตามถนนไปเรื่อยๆดวู ถิ ีชีวติ ของชาวเมืองศรีนาการ์ ผา่ นชมุ สายรถเมล์เห็นกระเป๋ า ตะโกนบอกจดุ หมายปลายทางเรียกผ้โู ดยสารกนั ทกุ คนั ไม่ต่างจากประเทศอ่ืน ผมยงั นกึ ถงึ ตอนที่ไปเที่ยวราชาสถานคราวที่แล้ว เหน็ วธิ ีการเรียกผ้โู ดยสารของคน อินเดียแล้วอดขาไมไ่ ด้ ที่สถานีรถประจาทางเมือง Ajmer อีตาลงุ กระเป๋ ารถ 2 คนโก่งคอร้องเรียก ผ้โู ดยสารเมือง Jodhpur กบั เมือง Jaiper อีตาลงุ ที่หน้าตาเหมือนนกหวั ขวานร้องเรียกผ้โู ดยสาร “ โจ๊ด ป๊ ดู ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ” คาลงท้ายช่ือเมืองน่ีโหยหวนมาก สนิ ้ เสียงเมืองแรก ตามด้วยอีตาลงุ อินทรีย์คิว้ ขาวอีกเมือง “ .จยั ป๊ ดู ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ” สลบั กนั อย่อู ย่างนนั้ นานมากไมร่ ู้จกั เหน็ดเหนื่อย สงสยั แกกลวั คนฟังจะเบื่ออีตาลงุ นกหวั ขวาน แกก็เลยเปลี่ยนสาเนียงเป็น “ โจ๊ด โจ๊ด โจ๊ด โจ๊ด โจ๊ด ป๊ ดู ดดดดดดดดดดดดดด .” คาสดุ ท้ายน่ีโหยหวนอีกตาม เคย อีตาลงุ อินทรีย์คิว้ ขาวอีกเมืองก็ไม่ยอมน้อยหน้า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128