Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยชีวภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชในเขตภาคกลางและภาคตะวันตก

เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยชีวภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชในเขตภาคกลางและภาคตะวันตก

Description: เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยชีวภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชในเขตภาคกลางและภาคตะวันตก

Search

Read the Text Version

48 ภาพท่ี 5.7 วธิ กี ารใส่ปุย๋ ชีวภาพละลายฟอสเฟตกบั ไม้ผล 2. พชื ไร่ เช่น ข้าวโพด มันสาปะลงั ออ้ ย ถัว่ เหลือง ถัว่ ลสิ ง งา การคลุกเมล็ด นาเมล็ดพืชท่ีต้องการปลูก 5 กิโลกรัม ใส่ในภาชนะ พรมด้วยน้าสะอาดให้ท่ัว แล้วจึงโรยปุ๋ย ชีวภาพละลายฟอสเฟต 1 ถงุ คลุกเมลด็ ใหท้ ั่วกอ่ นนาไปปลูก การรองก้นหลมุ เช่น มันสาปะหลัง อ้อย ใช้ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต 5 กิโลกรัมต่อไร่ คลุกกับปุ๋ยอินทรีย์ 100 กโิ ลกรัม ใหเ้ ข้ากนั แล้วใช้รองกน้ หลมุ พรอ้ มปลูก ภาพท่ี 5.8 วธิ กี ารใช้ปยุ๋ ชีวภาพละลายฟอสเฟตคลกุ เมล็ดพันธุพ์ ืชไรก่ อ่ นปลกู 3. พืชผกั เช่น พริก มะเขอื มะเขอื เทศ กระเจย๊ี บเขยี ว การเพาะกล้าในกระบะเพาะชา ใช้ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต 1 ถุง คลุกกับวัสดุเพาะ 50 กิโลกรัม ผสมกับปุ๋ย อนิ ทรยี ์ 100 กิโลกรมั ใหเ้ ขา้ กนั แลว้ ใชร้ องก้นหลุมพรอ้ มปลูก การจดั การความรู้ เทคโนโลยกี ารใช้ปยุ๋ ชวี ภาพเพือ่ เพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลติ พืชในเขตภาคกลางและภาคตะวนั ตก

49 ภาพท่ี 5.9 วธิ กี ารใช้ป๋ยุ ชวี ภาพละลายฟอสเฟตรองกน้ หลุมก่อนปลกู พืช ข้อควรระวังในการใชป้ ยุ๋ ชวี ภาพละลายฟอสเฟต 1. เลอื กใชป้ ุย๋ ชีวภาพละลายฟอสเฟตท่ียังไม่หมดอายุ 2. ไมใ่ ชป้ ยุ๋ ชวี ภาพละลายฟอสเฟตรว่ มกบั สารปอ้ งกนั กาจัดเช้ือราสาเหตุโรคพืช เช่น ฟอสอีทิล (fosetyl) เมทาแลกซิล (metalaxyl) แมนโคเซบ (mancozeb) เปน็ ตน้ เน่ืองจากเป็นสารเคมีกาจัดเช้อื รา 3. ไมค่ วรผสมปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟตกับปยุ๋ เคมีโดยตรง การทดลองใชป้ ๋ยุ ชวี ภาพละลายฟอสเฟตในการผลติ พืชในเขตพ้นื ที่ภาคกลางและภาคตะวนั ตก ละเอียด และคณะ (2557) รายงานวา่ การใช้ปยุ๋ ชวี ภาพไมคอรไ์ รซา่ และปยุ๋ ชวี ภาพละลายฟอสเฟตช่วยฟ้ืนฟูส้มโอขาว แตงกวาจังหวัดชยั นาท หลังประสบปญั หาอทุ กภยั อย่างหนักในปี 2553 ได้รวดเรว็ กว่าวธิ ีเกษตรกร โดยสม้ โอมีความสมบูรณ์ของ ใบมากกว่าและให้ผลผลิตเฉลี่ย 3 ปี สูงกว่าวิธีเกษตรกรท่ีไม่ได้ใช้ปุ๋ยชีวภาพดังกล่าว 8.7 เปอร์เซ็นต์ วัชรา และคณะ (2563) พบว่าในส้มโอขาวแตงกวาของจังหวัดชัยนาท อายุประมาณ 5-7 ปี ท่ีประสบปัญหาผลร่วงก่อนอายุการเก็บเก่ียว การใช้ปุ๋ย อินทรีย์ร่วมกับการใช้ปุ๋ยชีวภาพไมคอร์ไรซ่าและปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต ร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมีตามลักษณะเน้ือดิน ป้องกัน กาจัดศตั รพู ืช การตัดแต่งกง่ิ ส้มโอหลงั การเกบ็ เกี่ยว และการตัดแตง่ ผลตามคาแนะนาของกรมวิชาการเกษตร ช่วยลดปัญหาการ ร่วงของผลสม้ โอได้ โดยให้จานวนผลเฉลี่ยต่อตน้ 22 ผล (977 ผลต่อไร)่ และพบผลร่วงเฉลี่ย 43 เปอร์เซ็นต์ (420 ผลต่อไร่) ส่วนกรรมวิธีเกษตรกรมีจานวนผลเฉล่ียต่อต้น 19 ผล (850 ผลต่อไร่) พบผลร่วงเฉลี่ย 66 เปอร์เซ็นต์ โดยคุณภาพของ ส้มโอไม่แตกต่างกัน คือมีค่าเฉลี่ยน้าหนักผล 1,254 กรัม น้าหนักเน้ือ 633 กรัม ความหนาเปลือก 24.50 มิลลิเมตร ค่าความหวาน 9.80 บริกซ์ (Brix) และกรดซิติก (TA) 0.66 เปอร์เซน็ ต์ ดังน้ันแนวทางการจัดการธาตุอาหารสาหรับธาตุฟอสฟอรัส นอกจากจะมีการใส่ปุ๋ยละลายฟอสเฟตแล้ว เกษตรกรควรมีการจัดการดินด้วยวิธีการแบบผสมผสานอย่างถูกต้อง เช่น เลือกพืชปลูกให้เหมาะสมกับคุณลักษณะของ ดินท่ีเกษตรกรมีอยู่ หรือปรับปรุงความเป็นกรดด่างของดินให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นพิษต่อต้นพืช โดยพืชส่วนใหญ่ต้องการ ดินทีม่ คี วามเปน็ กรดออ่ นจนถึงกลาง (พีเอช 5.5–7.0) หากพ้ืนท่ีของเกษตรกรมีความเป็นกรดสูง (พีเอชต่ากว่า 5.0) ควร ปรับปรุงคุณสมบัติของดินโดยการใส่ปูนทางการเกษตร เช่น ปูนมาร์ล หรือหินปูนบด นอกจากนี้การเพ่ิมปริมาณ อินทรียวัตถุในดิน โดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด ยังสามารถลดความรุนแรงของ ความเป็นกรดดา่ งของดนิ ได้ อกี ทั้งยังสง่ ผลให้โครงสร้างดินมีความร่วนซุยเหมาะสมกับการปลูกพืชอีกด้วย และเพ่ือความ แม่นยาในการจัดการธาตุอาหาร เกษตรกรควรนาตวั อยา่ งดินส่งตรวจวิเคราะหป์ ริมาณธาตุอาหาร โดยหากพบว่าดินมีธาตุ อาหารธาตใุ ดต่าก็ควรเตมิ ธาตอุ าหารนั้นดว้ ยการใส่ปุ๋ยเคมีและ/หรือปุ๋ยอินทรีย์ ในปริมาณที่แต่ละพืชต้องการ รวมถึงการ ใช้ปุ๋ยชีวภาพไมคอร์ไรซาร่วมกับปุ๋ยละลายฟอสเฟต เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ยก็จะเป็นการจัดการดินให้เหมาะสมต่อ การผลติ พชื ได้อยา่ งย่ังยืนต่อไป การจัดการความรู้ เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยชีวภาพเพื่อเพม่ิ ประสิทธภิ าพการผลติ พืชในเขตภาคกลางและภาคตะวนั ตก

50 แนวทางการใช้ปยุ๋ ชวี ภาพละลายฟอสเฟตเพื่อพัฒนาการผลติ พืชในเขตพนื้ ที่ภาคกลางและภาคตะวันตก ในพืน้ ท่ภี าคกลางและภาคตะวนั ตกของไทยเป็นพนื้ ที่ศกั ยภาพในการผลิตพืชสูงทั้งพืชไร่ ไม้ผล พืชผักต่าง ๆ โดย ลกั ษณะของดินกม็ ีความหลากหลาย ตั้งแต่ที่ดินที่เป็นพื้นท่ีราบลุ่มของฝั่งของแม่น้าเจ้าพระยาจะมีลักษณะเป็นดินเหนียว ค่อนข้างมาก พ้ืนท่ีลักษณะนี้พบดินท่ีเป็นดินเปร้ียวจัดได้ โดย สถิระ (2558) รายงานว่าเฉพาะพื้นท่ีเขตภาคกลางมีดินท่ี เป็นดนิ เปรย้ี วจัดมีพื้นท่ีประมาณ 3.1 ล้านไร่ เกษตรกรท่ีทาการเกษตรในพ้ืนที่นี้ก็มีการใส่ปุ๋ยฟอสเฟตอย่างต่อเนื่อง จึงมี การตรึงธาตุฟอสเฟตส่งผลให้มีการสะสมของธาตุอาหารฟอสเฟตในดินอยู่บ้าง การใช้ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต เป็นอีก ทางเลือกหนึ่งในการลดต้นทุนการผลิต เน่ืองจากลดการใส่ปุ๋ยฟอสเฟตลงได้ โดยเฉพาะธาตุอาหารฟอสเฟตเป็นธาตุ อาหารในปยุ๋ เคมที มี่ ีราคาตอ่ กิโลกรมั สงู ทสี่ ุดเมือ่ เปรียบเทยี บกบั ธาตไุ นโตรเจนและธาตุโพแทสเซียม นอกจากพ้ืนที่ราบลุ่ม แม่น้าเจ้าพระยาแล้วในพื้นที่ดอน เช่น นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ท่ีมีดินเป็นลักษณะด่าง เน้ือดินมี หินปูนปะปนอยู่ จึงเป็นพื้นที่ท่ีควรส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยชีวภาพละลายฟอสเฟต เพื่อละลายธาตุฟอสเฟตที่สะสมอยู่ ในดินมาใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยควรใช้ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพไมคอร์ไรซา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดใช้ฟอสฟอรัส ของพืช รวมถึงการใส่ปุ๋ยเคมีและ/หรือปุ๋ยอินทรีย์ให้ถูกต้องท้ังปริมาณ เช่น ใส่ตามค่าวิเคราะห์ดิน และช่วงเวลาที่พืช ตอ้ งการ เพ่ือเพม่ิ ประสิทธภิ าพการผลิตพชื อย่างยั่งยนื ต่อไป เอกสารประกอบการเรียบเรียง กฤตย์ สมสาร์. 2549. ฟอสฟอรสั ในดนิ . กรมวิทยาศาสตร์บริการ. ระบบออนไลน์.แหล่งขอ้ มูล : http://www.dss.go.th/images/st-article/cp_9_2549_Phosphorus.pdf. (11 มิถุนายน 2563). กลุ่มงานวจิ ยั จลุ นิ ทรยี ด์ ิน. 2559. คู่มอื ปุ๋ยชวี ภาพ. กองวจิ ัยพัฒนาปจั จัยการผลติ ทางการเกษตร กรมวชิ าการเกษตร. ภาวนา ลิกขนานนท์. 2545. เอกสารวชิ าการปุ๋ยชีวภาพ. กองปฐพวี ิทยา กรมวชิ าการเกษตร. หน้า 371-377. ยงยุทธ โอสถสภา. 2552. ธาตุอาหารพชื . พิมพ์ครั้งท่ี 3. สานักพิมพม์ หาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร,์ กรงุ เทพฯ. ยงยุทธ โอสถสภา อรรถศิษฐ์ วงมณีโรจน์ และเชาวลิต ฮงประยรู . 2556. ปุ๋ยเพื่อการพัฒนาการเกษตรย่งั ยืน. พิมพ์ครั้งที่ 3. สานกั พิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ. 519 หน้า. ละเอียด ปนั้ สขุ จนั ทนา ใจจติ ร อรัญญา ภูว่ ิไล เครือวัลย์ บญุ เงนิ และวันชยั ถนอมทรัพย์. 2557.ทดสอบเทคโนโลยกี าร ฟื้นฟตู ้นสม้ โอพันธุ์ท้องถนิ่ จ.ชยั นาท. รายงานผลการดาเนนิ งาน ประจาปีงบประมาณ 2557 กลุม่ วชิ าการ สานักวจิ ัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 ชัยนาท. หนา้ 68-77. วชั รา สุวรรณอาสน์. 2563. เอกสารรายงานความก้าวหนา้ งานวิจัย ปี 2562. สานักวจิ ยั และพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 ชัยนาท. กรมวชิ าการเกษตร สถริ ะ อดุ มศร.ี 2558. สถานการณท์ รัพยากรดนิ ของประเทศไทย ปี 2557. เอกสารประกอบการบรรยายวิชาปฐพวี ิทยา สิง่ แวดล้อม สาขาวชิ าทรัพยากรธรรมชาและส่ิงแวดลอ้ ม มหาวทิ ยาลัยนเรศวร. การจดั การความรู้ เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยชีวภาพเพอ่ื เพ่มิ ประสทิ ธิภาพการผลิตพืชในเขตภาคกลางและภาคตะวันตก

51 บทท่ี 6 ป๋ยุ ชวี ภาพไรโซเบียม วรากรณ์ เรือนแก๎ว1/ และนิลุบล ทวกี ลุ 2/ ป๋ยุ ชีวภาพไรโซเบียม เป็นป๋ยุ ชวี ภาพที่ประกอบด๎วยแบคทีเรียในวงศ์ (Family) ไรโซเบียซีอี (Rhizobiaceae) มี ความสามารถพิเศษในการเข๎าไปสร๎างปมที่รากพืชตระกูลถ่ัวได๎ และเจริญอยูํภายในปมรากพืชแบบพึ่งพาอาศัยกัน (symbiosis) สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศมาเป็นปุ๋ยให๎แกํพืชโดยอาศัยเอนไซม์ไนโตรจีเนส (nitrogenase) การตรึง ไนโตรเจนของไรโซเบียมจะมีความเฉพาะเจาะจง โดยท่ีไรโซเบียมแตํละชนิดมีความเหมาะสมกับพืชตระกูลถั่วแตํละสาย พันธ์ุแตกตํางกันไป การเลือกใช๎ไรโซเบียมอยํางถูกวิธีสามารถลดการใช๎ปุ๋ยเคมีไนโตรเจนลงได๎ กรมวิชาการเกษตรได๎ แนะนาใหเ๎ กษตรกรใชป๎ ุย๋ ชวี ภาพไรโซเบียมคลุกเมลด็ ถวั่ กอํ นปลูก ซ่ึงชวํ ยลดการใช๎ปุ๋ยเคมีไนโตรเจน ทาให๎ผลผลิตของพืช ตระกลู ถวั่ เพ่มิ มากข้ึน และยังสามารถเพ่ิมความอดุ มสมบูรณ์ของดินดว๎ ย (จริ ะศกั ด,ิ์ 2542) ภาพที่ 6.1 ปมที่รากของพชื ตระกลู ถ่ัวท่ีใชป๎ ยุ๋ ชวี ภาพไรโซเบียมและภาพผลิตภัณฑป์ ุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมของ กรมวชิ าการเกษตร ทีม่ า : กรมวชิ าการเกษตร (2535) วธิ กี ารตรงึ ไนโตรเจน ไรโซเบียมสามารถเข๎าสร๎างปมรากกับพืชตระกูลถ่ัวได๎ และเจริญอยูํภายในปมรากแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน (symbiosis) ควบคุมปฏิกิริยาการเปล่ียนก๏าซไนโตรเจนท่ีมีอยํูในบรรยากาศถึง 78 เปอร์เซ็นต์ โดยน้าหนักให๎เป็น สารประกอบไนโตรเจน เพ่ือให๎พืชใช๎ในการเจริญเติบโตได๎ โดยจะสังเกตเห็นปมถ่ัวได๎เมื่อต๎นถ่ัวอายุประมาณ 15-25 วัน ขึ้นอยํูกับความอุดมสมบูรณ์ของดินและถั่วที่ปลูก ถ๎าดินมีไนโตรเจนสูง การเกิดปมจะช๎าและปริมาณปมจะลดลง ดังน้นั ย่งิ มปี มท่ีรากถั่วมากก็จะมีไรโซเบียมชํวยตรึงไนโตรเจนให๎แกํต๎นถั่วได๎มากข้ึน อยํางไรก็ตามการตรึงไนโตรเจนของ ไรโซเบยี มยงั ขึน้ อยกูํ บั ปจั จยั ท่สี าคัญคอื ระดบั ธาตอุ าหารไนโตรเจนในดิน ถ๎าดินขาดไนโตรเจนมาก การตรึงไนโตรเจนจะ มมี ากทส่ี ดุ ถ๎าดนิ มไี นโตรเจนเพียงพอกับความต๎องการของพืช การตรึงไนโตรเจนจะน๎อยหรือไมํมีเลย และถ๎ามีการใสํปุ๋ย ไนโตรเจนลงไปในปริมาณมาก ไรโซเบียมในรากถั่วจะไมํตรึงไนโตรเจน จากกิจกรรมดังกลําวของไรโซเบียม จะเห็นได๎วํา เราไมํจาเป็นต๎องใช๎ปุ๋ยเคมีไนโตรเจนในการปลูกพืชตระกูลถ่ัว เพราะธาตุอาหารไนโตรเจนท่ีไรโซเบียมสร๎างได๎ มีปริมาณ มากกวําความต๎องการของต๎นถั่ว (บุปผา, มปป.) 1/ นักวชิ าการเกษตรปฏิบตั กิ าร สานักวจิ ยั และพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 2/ ผ๎ูเชย่ี วชาญด๎านการจัดการผลติ พืชท่ีเหมาะสมกับสภาพพืน้ ท่ี (ภาคกลาง) สานักวจิ ยั และพัฒนาการเกษตรเขตท่ี 5 การจดั การความรู้ เทคโนโลยีการใช้ปยุ๋ ชีวภาพเพอ่ื เพิ่มประสิทธภิ าพการผลติ พชื ในเขตภาคกลางและภาคตะวนั ตก

52 รูปแบบผลิตภัณฑ์ปยุ๋ ชวี ภาพไรโซเบยี ม ปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมอาจอยูํในรูปของแบคทีเรียท่ีผสมกับวัสดุพาของแข็ง (solid-based inoculant) เชํน ดิน ดินเหนียว ถําน ถํานหิน เพอร์ไลท์ หินฟอสเฟต หรือพีทมอส เป็นต๎น ข๎อดีคือทาให๎ปุ๋ยชีวภาพมีอายุการเก็บรักษาได๎นาน เป็นปีโดยไมํต๎องแชํต๎ูเย็น ปัจจุบันได๎มีการผลิตปุ๋ยชีวภาพในรูปแบบของเหลว (liquid inoculant) ซึ่งเชื้อแบคทีเรียที่ ต๎องการจะอยํูในรปู ของเหลว โดยสามารถนาเชอ้ื แบคทีเรยี ในรูปของเหลวไปคลุกกับเมล็ดได๎โดยตรง โดยไมํจาเป็นต๎องใช๎ สารชํวยติดเมล็ด หรือสารเหนียว (adhesive) เช้ือแบคทีเรียจะสามารถยึดเกาะกับผิวเมล็ดได๎เป็นอยํางดี ท้ังน้ีพบวําสาร หลายชนิดสามารถนามาประกอบเป็นสูตรอาหารสาหรับเก็บรักษาเชื้อแบคทีเรียในรูปของเหลวได๎ โดยสารเหลํานี้จะต๎อง สามารถสํงเสริมการเจรญิ และการดารงชีวิตของเชื้อ รวมท้ังปกป้องเซลล์จากสภาวะแวดล๎อมท่ีไมํเหมาะสมตําง ๆ ในดิน แตํอยาํ งไรก็ดีพบวําอายกุ ารเก็บรักษาของปุ๋ยชีวภาพในรูปของเหลวนี้จะส้ันกวําในรูปหัวเชื้อที่เป็นของแข็ง โดยมีอายุการ เก็บรกั ษาเพยี ง 6 เดอื น หากไมไํ ด๎แชตํ เ๎ู ยน็ ภาพที่ 6.2 แสดงวิธีการตรงึ ไนโตรเจนของไรโซเบียมและอธิบายปมรากทม่ี ีประสิทธภิ าพสงู ในการตรงึ ไนโตรเจน คอื ปมขนาดใหญํ ตดิ อยูํกับรากแกว๎ และภายในปมจะมสี ชี มพูหรือสีแดงเข๎ม ท่ีมา : บปุ ผา (มปป.) ประโยชน์ของปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมในพชื ตระกูลถั่ว การใชป๎ ุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมในพชื ตระกลู ถ่ัว สามารถสงํ เสริมการเจรญิ เตบิ โตและทาใหป๎ ริมาณไนโตรเจนในลาต๎น ถ่ัวเพ่ิมขึ้น และชํวยเพ่ิมผลผลิต นอกจากน้ันยังชํวยปรับปรุงคุณภาพของเมล็ดถั่วได๎ โดยทาให๎มีปริมาณโปรตีนในเมล็ด เพ่มิ ข้นึ นอกจากน้ไี รโซเบยี มยงั มีบทบาทสาคัญในระบบเกษตรย่ังยืน เนื่องจากสารประกอบไนโตรเจนท่ีไรโซเบียมตรึงได๎ จะถูกสะสมในต๎นถั่ว และเมื่อไถกลบก็จะถูกยํอยสลายและปลดปลํอยธาตุไนโตรเจนลงสูํดิน ทาให๎ดินคงความอุดม สมบูรณ์อยไํู ด๎นาน เหมาะแกกํ ารเพาะปลกู พชื อ่นื ตอํ ไป การจดั การความรู้ เทคโนโลยกี ารใช้ปยุ๋ ชวี ภาพเพื่อเพิม่ ประสทิ ธิภาพการผลติ พชื ในเขตภาคกลางและภาคตะวันตก

53 ภาพที่ 5.3 การเจริญเตบิ โตของตน๎ ถั่วเหลอื งท่ีใช๎และไมใํ ชป๎ ุย๋ ชวี ภาพไรโซเบยี ม ท่มี า : จิตรา (2559) วธิ ีการใชผ้ ลิตภณั ฑ์ปุ๋ยชวี ภาพไรโซเบยี ม การเลือกซื้อปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมให๎ตรงกับชนิดของถั่วที่จะผลิต เพราะไรโซเบียมแตํละชนิดเหมาะสมกับถ่ัว เฉพาะท่ีระบุไว๎บนถุงของผลิตภัณฑ์เทําน้ัน และต๎องยังไมํหมดอายุ โดยดูวันหมดอายุบนถุง ถ๎าไมํมีระบุหรือไมํชัดเจนไมํ ควรใช๎ เนือ่ งจากเช้ือไรโซเบียมชอบอากาศเยน็ จึงควรเก็บไว๎ในที่เย็น เชํน เก็บไว๎ในที่รํมหรือใต๎ถุนบ๎าน ท่ีอุณหภูมิระหวําง 20-30 องศาเซลเซียส ซึ่งจะสามารถเก็บไว๎ได๎ประมาณ 6 เดือน ถ๎าเก็บไว๎ในต๎ูเย็น (อุณหภูมิประมาณ 4 องศาเซลเซียส) จะอยูํไดน๎ านถึง 1 ปี สิง่ ทตี่ ๎องระวงั คอื ห๎ามวางถงุ ปยุ๋ ชีวภาพไรโซเบยี มตากแดด เพราะเชื้อจะถูกทาลายโดยความร๎อน เมื่อ เปิดถุงแลว๎ ควรใชเ๎ ชอ้ื ให๎หมด แตํถ๎าใช๎ไมํหมดตอ๎ งใช๎ยางรดั ถงุ ใหแ๎ นํนและเกบ็ ไว๎ในทเี่ ย็น เพราะเชอื้ จะแห๎งตายได๎งําย การใช๎ปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมให๎ได๎ประโยชน์สูงสุดนั้น จะต๎องทาให๎เช้ือไรโซเบียมเข๎าสํูรากเพื่อสร๎างปมให๎ได๎มาก ทสี่ ุด ซง่ึ ขึน้ อยกูํ บั วิธกี ารใช๎เชือ้ โดยจะต๎องทาให๎เช้ืออยูํใกล๎เมล็ดมากท่ีสุด เมื่อรากถ่ัวเร่ิมงอกไรโซเบียมที่อยูํกับเมล็ดก็จะ สามารถเข๎าสูํรากไดท๎ นั ที วธิ ีการใช๎โดยท่ัวไปมี 2 วิธี คือ 1. การคลุกเมล็ด วิธีการท่ีจะทาให๎เชื้อไรโซเบียมติดเมล็ดได๎ดี จะต๎องใช๎สารชํวยเกาะยึดในการคลุกเมล็ดด๎วย และสารที่ใช๎จะต๎องไมํเป็นพิษตํอไรโซเบียม สารท่ีหาได๎งํายและนิยมใช๎กันท่ัวไปคือ น้ามันพืช หรือน้าเช่ือมจาง ๆ โดยมี ข้ันตอนการคลุกเมลด็ งําย ๆ ดงั น้ี 1.1 เตรียมสารชํวยยดึ เกาะเมล็ด เชํน น้า น้ามันพืช หรือน้าเช่ือมเจือจางโดยใช๎น้าตาลทราย ประมาณ 3-5 ช๎อนแกง ผสมน้าให๎ได๎น้าเชื่อมประมาณ 300 มิลลิลิตร สาหรับเมล็ดพันธ์ุถ่ัวเหลือง 15 กิโลกรัม หรือเมล็ดพันธุ์ถั่วอื่น ๆ ใน อัตราสาหรบั ปลกู หนง่ึ ไรํ 1.2 เทน้ามนั พืช หรือน้าเชื่อม ลงคลุกเมลด็ พันธ์ุถ่ัวที่เตรยี มไว๎คลกุ เคลา๎ เบา ๆ ให๎เคลอื บผิวเมลด็ พันธุ์ 1.3 โรยเช้ือไรโซเบียมลงบนเมล็ดพันธ์ุถั่วในอัตรา เช้ือไรโซเบียม 1 ถุงตํอเมล็ดพันธ์ุสาหรับปลูก 1 ไรํ (ตารางที่ 6.1) 1.4 คลกุ เคลา๎ เบา ๆ ให๎เชือ้ ไรโซเบยี มติดเมล็ดพันธุ์อยํางท่ัวถึง อยําคลุกรุนแรงเพราะจะทาให๎เมล็ดแตก หรือสูญเสียความงอกและความแขง็ แรง 1.5 เมล็ดพนั ธ์ุท่ีคลุกเชื้อแล๎วควรนาไปปลูกทันทีหรือภายในวันน้ัน ระหวํางรอการปลูกควรเก็บเมล็ดพันธุ์ไว๎ ในที่รมํ และปลกู ในขณะท่ดี นิ ยงั มีความชน้ื 2. การใสํลงไปในดิน เป็นวิธีการใสํปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมลงสูํดินโดยตรง แตํก็ยึดถือหลักการเดียวกันท่ีวําต๎องให๎ ไรโซเบียมอยํูใกล๎เมล็ดท่สี ดุ โดยใสํปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมลงไปในหลุมปลูก กํอนหรือหลังการหยอดเมล็ดก็ได๎ ข๎อจากัดของ การใสํเชื้อลงสํูดินคือ มีการใช๎แรงงานเพิ่มมากข้ึน แตํถ๎าเกษตรกรสามารถทาได๎จะดีมาก เพราะปกติขณะทาการปลูกพืช อณุ หภมู ิดนิ มกั จะสงู บางครั้งดนิ แห๎ง และการคลกุ เช้ือบางครั้งอาจทาให๎เมล็ดเสียหายได๎ ดังนั้นการใสํเชื้อลงสํูดินโดยตรง จะโดยการผสมกับน้าหรอื วัสดุอนื่ ๆ กต็ ามเปน็ วิธกี ารทด่ี ีและชวํ ยแก๎ปัญหาดงั กลาํ วได๎ ก) ข) ค) ง) ภาพที่ 6.4 วธิ ีการคลุกปยุ๋ ชีวภาพไรโซเบียมกบั เมล็ดถ่วั เหลือง ดงั นี้ ก) พรมนา้ ให๎ท่ัว ข) ใสํปยุ๋ ชีวภาพไรโซเบียม ค) คลุกให๎ติดเมลด็ และ ง) นาไปปลกู ให๎หมดทันที ที่มา : บปุ ผา, (มปป.) การจัดการความรู้ เทคโนโลยีการใช้ปยุ๋ ชีวภาพเพ่ือเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการผลติ พืชในเขตภาคกลางและภาคตะวันตก

54 ตารางท่ี 6.1 อัตราการใชเ๎ มล็ดพนั ธ์ุถวั่ แตลํ ะชนิดตํอปยุ๋ ชวี ภาพไรโซเบียม ชนดิ ถัว่ ปริมาณการใชป้ ยุ๋ ชีวภาพไรโซเบียม ถวั่ เหลือง คลุกเมลด็ 10-12 กิโลกรัม ดว๎ ยปยุ๋ ชวี ภาพไรโซเบียมสาหรับถ่ัวเหลอื ง 1 ถุง ถ่ัวเขียว คลกุ เมล็ด 3-5 กิโลกรัม ดว๎ ยปยุ๋ ชีวภาพไรโซเบียมสาหรบั ถว่ั เขยี ว 1 ถุง ถ่ัวลิสง คลกุ เมลด็ 10-15 กิโลกรมั ด๎วยปยุ๋ ชีวภาพไรโซเบยี มสาหรับถวั่ ลิสง 1 ถุง ปอเทือง คลกุ เมล็ด 2 กโิ ลกรัม ดว๎ ยปุ๋ยชวี ภาพไรโซเบยี มสาหรบั ปอเทอื ง 1 ถุง ถั่วเหลืองฝกั สด คลุกเมลด็ 10-12 กิโลกรมั ด๎วยปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมสาหรับถ่ัวเหลอื งฝักสด 1 ถุง ถั่วพรา๎ คลกุ เมลด็ 10 กโิ ลกรมั ด๎วยปุ๋ยชวี ภาพไรโซเบยี มสาหรับถ่ัวพรา๎ 1 ถงุ ภาพที่ 6.5 ผลติ ภณั ฑแ์ ละข๎อบํงชี้ทต่ี ๎องสงั เกตบนถงุ ผลิตภัณฑป์ ยุ๋ ชวี ภาพไรโซเบียม ท่ีมา : กรมวิชาการเกษตร (2548) การใชป้ ยุ๋ ชีวภาพไรโซเบยี มในการผลิตพืชตระกูลถ่ัวในเขตพน้ื ที่ภาคกลาง การใช๎ปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะชํวยลดต๎นทุนการผลิตพืชจากการใช๎ปุ๋ยเคมีได๎ เพราะปัจจุบัน ปุย๋ เคมีมรี าคาแพง สํงผลให๎เกษตรกรมีการใช๎ปุ๋ยเคมีในปริมาณคํอนข๎างจากัด และในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจเชํนน้ี การลดต๎นทุน การผลิตท่ีจะลดการใช๎ปุ๋ยเคมีโดยที่ไมํกระทบตํอปริมาณผลผลิตท่ีจะได๎รับจึงเป็นส่ิงท่ีนําสนใจ นอกจากนั้นยังชํวยในการฟ้ืนฟู ปรบั ปรงุ บารุงสภาพดินและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินได๎อยํางย่ังยืนตํอไป เน่ืองจากพ้ืนท่ีภาคกลางในหลายพ้ืนที่มีลักษณะ เป็นดินเหนียวหรือรํวนเหนียว เนื้อดินแนํนจึงทาให๎การระบายน้าไมํดี หรือมีปริมาณไนโตรเจนสูง ดังน้ันผลของการใช๎ปุ๋ย ชีวภาพไรโซเบียมตํอการเจริญเติบและผลผลิตของถ่ัวอาจไมํปรากฏเดํนชัด ซ่ึงจากการวิเคราะห์ผลการศึกษาของ ศริษา และ คณะ (2556) ในถ่ัวเขียวท่ีปลูกในจังหวัดชัยนาทและอุทัยธานีพบวําการให๎ปุ๋ยตามคําวิเคราะห์ดินหรือการใสํปุ๋ยชีวภาพ ไรโซเบียมทดแทนปุย๋ ไนโตรเจนแตยํ ังคงใสํปุย๋ ฟอสฟอรสั และโปแตสเซียมตามคําวิเคราะห์ดิน ทาให๎การเจริญเติบโตและผลผลิต ไมํแตกตาํ งกัน แตํมแี นวโนม๎ สงู กวาํ การไมํใสปํ ๋ยุ เคมีและปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียม ฉัตรชีวิน และคณะ (2562) ทาการทดสอบถั่วลิสง ในแปลงเกษตรกร 10 ราย ในจังหวัดชัยนาท พบวําการใสํปุ๋ยโดยวิธีของกรมวิชาการเกษตรท่ีคลุกเมล็ดพันธ์ุด๎วยปุ๋ยชีวภาพ ไรโซเบียมและใสํปุ๋ยเคมีตามคําวิเคราะห์ดินที่ลดปริมาณปุ๋ยลงตามคาแนะนามีแนวโน๎มให๎ผลผลิตฝักสดเฉลี่ย ผลผลิตฝักแห๎ง เฉลี่ย จานวนฝักเฉล่ีย เปอร์เซ็นต์กะเทาะเฉล่ีย และน้าหนัก 100 เมล็ดเฉล่ียสูงกวําวิธีของเกษตรกรที่ใช๎วิธีฉีดพํนปุ๋ยทางใบ สูตร 25-5-5 หรือ สูตร 15-30-15 โดยแบํงพํน 4-6 ครั้ง (ตารางท่ี 6.2) และมีผลตํอข๎อมูลในด๎านเศรษฐศาสตร์ในทานอง การจดั การความรู้ เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยชวี ภาพเพ่ือเพ่ิมประสทิ ธิภาพการผลิตพชื ในเขตภาคกลางและภาคตะวนั ตก

55 เดียวกัน (ตารางท่ี 6.3) แตํการใช๎ปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมมีข๎อได๎เปรียบคือชํวยฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพดิน รวมถึงชํวยเพ่ิมความ อุดมสมบรู ณ์ของดินได๎อยาํ งย่ังยนื ตารางที่ 6.2 องคป์ ระกอบผลผลติ การทดสอบการใช๎ป๋ยุ ท่เี หมาะสมกบั การผลติ ถ่วั ลิสงจงั หวัดชยั นาท ปี 2562 เกษตรกร จานวนหลมุ /ไร่ จานวนฝกั /หลมุ ผลผลิตฝกั สด ผลผลิตฝกั แห้ง % กะเทาะ น้าหนัก 100 (กก./ไร่) (กก./ไร่) เมลด็ (กรมั ) 1.นายสมศกั ด์ิ เกษตรกร ทดสอบ เกษตรกร ทดสอบ 2.นายสังเวยี น เกษตรกร ทดสอบ 6.00 7.50 เกษตรกร ทดสอบ เกษตรกร ทดสอบ 66.27 60.00 เกษตรกร ทดสอบ 3.นายกฤษฎา 61,600 55,600 7.80 8.00 1,106 944 459 472 38.57 70.00 44.80 44.19 4.นายสมศรี 6.10 7.00 55.68 68.57 14,000 40,000 6.70 4.00 160 504 70 252 58.16 55.00 40.20 50.10 5.นายกิตติ 36,400 38,400 440 400 176 140 29.18 39.07 6.นายบญุ ชอบ 31,000 24,000 9.10 8.80 580 384 196 160 70.00 72.50 43.98 35.44 7.นางอาพนั ธ์ 12.90 19.15 75.00 58.00 8.นางประยงค์ 60,600 65,200 9.40 8.00 780 900 351 360 55.00 55.56 34.15 34.84 9.นายทวชิ 1,090 929 556 460 40.12 30.72 10.นายไพโรจน์ 52,200 47,800 12.40 11.65 940 1,052 470 473.4 62.75 72.73 35.61 40.12 50,200 60,800 6.60 9.70 43.94 27.69 เฉลยี่ 8.10 7.40 940 1,110 399.6 428.4 52.14 51.25 29.65 33.23 t-test 60,600 63,800 640 416 211.2 130 27.98 26.24 57,400 47,000 8.51 9.12 400 516 140 206.4 57.75 59.13 27.50 25.48 40,600 43,200 ns ns 46,460 48,580 707.60 715.50 302.9 308.2 35.32 35.94 ns ns ns ns ตารางที่ 6.3 ขอ๎ มูลทางเศรษฐศาสตร์ การทดสอบการใช๎ปยุ๋ ท่ีเหมาะสมกับการผลติ ถั่วลิสงจังหวัดชยั นาท ปี 2562 เกษตรกร ผลผลิตฝกั สด รายได้ ต้นทุน ผลตอบแทน BCR (กก./ไร่) ( บาท/ไร่) (บาท/ไร่) (บาท/ไร่) 1.นายสมศกั ด์ิ เกษตรกร ทดสอบ เกษตรกร ทดสอบ เกษตรกร ทดสอบ เกษตรกร ทดสอบ เกษตรกร ทดสอบ 2.นายสังเวียน 1,106 944 24,194 20,650 9,198 8,773 14,996 11,877 2.63 2.35 3.นายกฤษฎา 160 504 3,500 11,025 6,025 7,179 (2,525) 3,846 0.58 1.54 4.นายสมศรี 440 400 9,625 8,750 7,025 6,843 2,600 1,907 1.37 1.28 5.นายกิตติ 580 384 12,688 8,400 6,695 5,913 5,993 2,487 1.90 1.42 6.นายบญุ ชอบ 780 900 17,063 19,688 10,505 11,239 6,558 8,449 1.62 1.75 7.นางอาพนั ธ์ 1,090 929 23,844 20,322 10,188 9,748 13,656 10,574 2.34 2.08 8.นางประยงค์ 940 1,052 20,563 23,013 7,855 8,458 12,708 14,555 2.62 2.72 9.นายทวชิ 940 1,110 20,563 24,281 8,655 9,557 11,908 14,725 2.38 2.54 10.นายไพโรจน์ 640 416 14,000 9,100 6,730 6,154 7,270 2,946 2.08 1.48 400 516 8,750 11,288 6,480 7,098 2,270 4,190 1.35 1.59 เฉลีย่ 707.6 715.5 15,479 15,652 7,936 8,096 7,543 7,555 1.95 1.93 ขอ้ ควรระวังในการเลือกซื้อและเกบ็ รักษาปุ๋ยชีวภาพไรโซเบยี ม 1. ควรเลือกใช๎ปยุ๋ ชีวภาพไรโซเบียมใหต๎ รงกบั ชนิดของถัว่ ท่ีระบุไวบ๎ นถุงผลติ ภัณฑ์เทํานน้ั 2. เลอื กใชผ๎ ลิตภณั ฑป์ ุ๋ยชวี ภาพไรโซเบยี มทีย่ งั ไมหํ มดอายุ ซ่ึงระบบุ นถุงผลิตภัณฑ์ 3. เกบ็ ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชวี ภาพไรโซเบียมไวใ๎ นท่ีรํมและมีอณุ หภูมิเย็น สามารถเก็บในต๎เู ยน็ ได๎ ไมํควรวางถงุ ผลติ ภัณฑต์ ากแดด 4. ถงุ ผลิตภัณฑท์ ่ีเปดิ ใชแ๎ ลว๎ ควรใช๎ใหห๎ มด หากใชไ๎ มํหมด ควรปิดปากถุงให๎สนทิ และเก็บไว๎ในทเี่ ย็น เนือ่ งจากเช้ือ ไรโซเบียมจะแหง๎ และตายได๎งํายเมือ่ เปดิ ปากถุงท้งิ ไว๎ การจดั การความรู้ เทคโนโลยกี ารใช้ปยุ๋ ชวี ภาพเพอื่ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการผลติ พชื ในเขตภาคกลางและภาคตะวนั ตก

56 เอกสารประกอบการเรียบเรียง กรมวชิ าการเกษตร. 2553. คาแนะนาการใชป๎ ๋ยุ กบั พืชเศรษฐกิจ. เอกสารวิชาการลาดับที่ 001/2553 กระทรวงเกษตร และสหกรณ.์ 122 หน๎า. กรมวชิ าการเกษตร. 2535. การใช๎เชื้อไรโซเบียมเพื่อเพมิ่ ผลผลิตให๎แกํพชื ตระกูลถ่วั . กองปฐพวี ิทยา กรมวิชาการเกษตร. กรมวิชาการเกษตร. 2548. ปุย๋ ชีวภาพไรโซเบยี มและผลิตภัณฑป์ ยุ๋ ชีวภาพ. กรมวชิ าการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ จติ รา เกาะแกว๎ มนต์ชัย มนัสสิลา อมรรตั น์ ใจยะเสน ธนวฒั น์ เสนเผือก และภัสชญภณ หมน่ื แจง๎ . 2559. การคดั เลือก สายพันธุ์ไรโซเบยี มและผลการใช๎ไรโซเบยี มรวํ มกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ตํอการเกดิ ปมและประสทิ ธิภาพการตรึง ไนโตรเจนของถวั่ เหลอื งฝกั สดพันธเุ์ ชียงใหมํ 84-2. เอกสารการประชมุ ทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คร้ังที่ 54.หนา๎ 350-357. จริ ะศักดิ์ อรุณศร.ี 2542. ชวี วิทยาและการใช๎ประโยชน์ของเชื้อไรโซเบยี ม: เอกสารวชิ าการปยุ๋ ชีวภาพ กลมุํ งานวิจยั จุลินทรยี ด์ นิ กองปฐพีวิทยา กรมวชิ าการเกษตร. 24-62. ฉัตรชวี นิ ดาวใหญํ วัชรา สวุ รรณอ์ าศน์ และอุกกฤษ ดวงแก๎ว. 2562. รายงานผลการทดสอบการใช๎ปยุ๋ ท่เี หมาะสมกับการ ผลติ ถัว่ ลิสงจงั หวัดชัยนาท รอบ 12 เดอื น. สานกั วจิ ยั และพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 กรมวิชาการเกษตร. บุปผา มงคลศลิ ป์. มปป. ปยุ๋ ชวี ภาพไรโซเบยี มกับพืชตระกลู ถวั่ . กลุํมสํงเสรมิ การผลิตพืชน้ามนั และพืชตระกลู ถั่ว สานักสงํ เสรมิ และจัดการสนิ ค๎าเกษตร. ศรษิ า สงั ข์วเิ ศษ ศิริลักษณ์ จิตรอักษร และวลิ ัยรตั น์ แป้นแกว๎ . 2556. การใช๎ป๋ยุ ชีวภาพไรโซเบยี มรํวมกับการจัดการดินใน การเพิ่มผลผลติ ถ่ัวเขยี วผิวมนั ในพ้ืนทเ่ี ขตชลประทานและเขตนา้ ฝน. เอกสารรายงานผลงานเรอ่ื งเต็มการทดลองท่ี สน้ิ สดุ ปี 2565 กรมวิชาการเกษตร. 14 หน๎า. สมปอง หม่ืนแจ๎ง. 2552. เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสตู รเทคโนโลยีการใช๎ป๋ยุ ชวี ภาพในการผลิตพืช 2552. กลมํุ วจิ ยั ปฐพวี ทิ ยา สานกั วจิ ัยพฒั นาปจั จยั การผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร. การจดั การความรู้ เทคโนโลยีการใช้ปยุ๋ ชีวภาพเพื่อเพิ่มประสิทธภิ าพการผลิตพืชในเขตภาคกลางและภาคตะวันตก

/ I ___~T0 WflC1V5l..:e:;i.lQ~.~I ~~rl.~.kQl.'I .10J.,_bJl~l'J.1~~-~l_Yl_<~C-li -~'.1~[01_r;J_~_,_,rl1l_'l __ 5Q).I~lV!Q1.~I ~fCJV'.l.IJJl .. ID~IDc!9.................·. fl11J':i1'tln1':i fax •. o.cn>.-:.<t.o.c!o.~ID~ ..h1J, __Q~::~ostol>\".l!o,_~ostol>\".l!\\!:>::-.ltYl .. .Em.aJ.l.:._o_a..r::[email protected],th............................• ~-JJ-~.o.~lu®/ ______ @__~~-------------------------------------1'1..1~-----~---;Jf)j'.lfl;J___\\!:>sf:'.bm ______________________________________ , ' '4 I0 0 Cl.I b':iv.iJ___-v_u'1~~-'.J1'W'.1fl'.1~~--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------' II I IL/ 6'1TVL<t 6ile:J6'f.:i'11b'U11il1~.:i 6'1TV'L<t Vi <9l~<tbbn '11. \\!) l-1.l\"l. l!l<tbbn b~e:J.:i bb~.:i~.:i1\"1ru:::v11.:iTt.1 ~~m1m1l-l1' b~e:i.:i ri111ill f.l:a1.fl1Yo11'Wm1 b~mh:::~Vl5.fl1Yo1m1~~1'lYl\"l11m6ill'l.fl11\"1rii;i1.:i bb'1:::.fl11\"1l'l:::i''Wl'lfl ''U ,•, .::iii i i .:::ii 0 ml.lbe:Jfl6'111Vlbb'U'U111V'l1e:Jl.l'W :U1'W'l'W @) \"1•1~

.. 0 Q,I 0 Q,I ~QI' Q,I Cill fl1a.:ia1'L!nT\\labb~::-ww.i'L11nTnm~t(Jl'H\"lJ(Jl'VI ct: d _, /m<t'bm 'VI b~v.:i bb~-:1~-:iriru~vi1-:11'U~~ m1ri11l.l-rb\"~ei-:1 m it itJ' ~~1.f11V'4t 'U m1b~l.l'IJ1~~'V16.f11V'4 m1t.i~l'ly;611 . ~1~1'UtJ-:iu'IJwl.l1ru l!>ctb'11 ml.l16111m1bm~l'l1l~n1V1'U~~1:ff1~ (u-:ifi'u) ~el ~1:B'1m~~u fl11lJ~1b~~\"1Jel-:lfl11~~fl11fl11lJ-r lfa~1i!'U \" b~el1~m1~1 b-U'U fl111'11l.l bbt.J'W mi~~ m1m 1l.l-r\"1lel-:J~1tl'fl1~~ bb'1~~WJ 'W1mi bfl~m b\"lll'l~ ct wt.J\"'b~~'1Wb~~'V~1(5J1I311l1.?l1lb'tl111\"V1l1ell.-l:!16~'11b'bW'11~1?61111l.mJi111~'e1l'f1h1-1:iie1l-'1:iJf'i1r~i~1'1Vl1.6.Jf-\"lr1~Vn'4\"1Vl'1l'1W-:i~l'l11'll..Jlt1i''lI'lJ'11'\\.J~1f~o?16-:1if1'til\"tll'Welfl-:1J1f'l\\1.J1~;~;~um~11m1611l1.ml-1r u 11r;:i' m11itJ~~1.f11V'4\" l'l 1l.l'IJ ~1tl'fl1~mb'1~'~WJ'W1fl11bfl~mb\"1ll'l~ ' ct ~-:Jbb~-:i~-:iriru~vi1-:11'U~~fl11ri11l.l-r Team) b~el-:i ' t 'Ufl11 b~l.J'IJ1~~'V]5.f11V'4fl11t.J~(Jlyj611t 'Ub\"1J(Jl.f11flfl'11-:J bb'1~.f11fl(Jl~f'W(JI fl ~-:id \" (KM i.IO O QJ..::.,QJ QJ q ~'IJ~fl~1riru~vi1-:11'U @. t.Jm'W1~m1?11'Wm~mb'1~V'4WJ'W1fl11bfl~l'l1b\"1ll'l'Vl ct \" I I IV I 'IJ1~u1'Uriru~vi1-:i1u h b~I.I 64::1111 1~16111t1JI~.I1'U fl11~QJ~ fl11 .::ii. .::!ii ..::ii bVll.11 ~?ll.J CV G'l.fl ..:!ii .c::iil t.J\"' (Jlf'4611'Vl fltJ 1V'4V'4'U'Vl (.f11flfl\"'1-:J) '11. ereJ'1'U1~fl11131'Wtl1~mb'1~~WJ'U1fl11bfl~(Jl1'\\.J'VllJ51-0 riru~vi1-:i1u te\"\"Ir.I eJoJm''1W'1U~1m~1fll31111'\"\"3U1~'1W'~Ctimi.lbG1.'J~1m~bV''1~4~WWJQ.JI''WU11ffll1111bbffll~~(lJ'll11''UUfrli1'1'?11J~1l1J1ri' riru~vi1-:i1u ...Ci'.. riru~vi1-:i1u riru~vi1-:i1u ct. \"II 0 \" I ..:::.. b. ~el1'U1~fl11fl~l.J16111fl11 ~- ereJ'1'U1~m1fl~lJ'IJ1~?11'Ubb'1~tJ~V111'U1~u1~ riru~vi1-:i1u \"' uflQ.I q ..::::.. 0 0 fl!J1'V1~16111'W1t!Jfl11 riru~'V!1-:11u 131utl1~~ bb'1~~WJ'W1 mi bfl~l'l1'1J'Vll.l5TW \"' 0 CVQQJ QJ .c::il ?11um~mb'1~V'4WJ'W1fl11bfl~l'l1b\"1ll'l'Vl ct @o. 'W1mV'4'V11~ um6111m1bfl~l'l1-li'1'W1...rum1 riru~vi1-:i1u 1\"31'Wtl1~~ bb'1~~W.l'U1 fl11 bfl~(Jl1'Ufl1'1J.~..l.J (9)'11. u1-:i1611m ...

-~- C9>bf!. 'U1'l1°1H:J1 1~rn1~riru~'Vi'1'l1'U., ihllu1~~'ld (9). \"5'~vl1bbt.:,.J'Ufl11\"5'~m1m1d.J'~II (KM Action Plan) \\911d.Jfl'lrlfl11d.J~~1~b~e.Hl 1~c.iij11c.ii;i~bBCJ~ 'II c:i. Q.J ii' CV n~n11&.Jn11~~n11ri11&.J1~n~'U\\91fl'U 'II • ~. 'IJ 1~?11'U'l1'U tl'U ~~ b~ CJ'doUfl'l1'U n11~1 bij'U ih n11d.J \\911d.J bbt:.J'U nT~-.5'~ n11fl11d.J-rl~~1b~~ 'II 'II ri1'U~1'U~nfi~m1&.J bb(;l~f11fl'l.Jfl{;ld.J~nni;l&.JbD1Vld.J1CJ\\911d.Jbbt:.J'Ufl11\"5'~m1m1&.J~• •• • \\I bf!. ~~m&.Jm1&.Jn11vii.J1a~1'l~ab~eN 1~c.i11'U11&.Jvi~mi1'Um1~1bij'Ufi~m1&.J1'Ubb~i;i~~'U\\91fl'U \"' J}.. ...i~ ~n~'U)('U1c.itlqiqi1

a1I '1J'~1'!fn1'a___?l0 '1UQf.I11Q31Q..EI J~~i;i~~Q-J~-'W::u:n_~_b_n11Y.J1~~-~-cY:il'l_!t __ :a0J~f.l1l_~-~-i\"~eJ-'1 __3Q1.J~V11Q~.I~f.ClJ.I 1JJ'.l1 __ ®.~m.<to.. _______________._ .fQx,_o_<tb_-:oc.o.<t.o.~m.~..hn_.__Q~:-a'.Q!tQ!IJ!Q,_a'.o.ct:oIDll!:>:-J<n__ _Em_ail_:[email protected]____________________________, vi;.D.i:f_.o.~~®/______@__~_~_ci___________________________________1'1.1vi...~\\?___q~D.'1~'.!Jfi___\\!:>~~---------····---------··············' b4'atl.:l___'V_U?JI~?l0'1~'41ft10?!.Q;.IJ__________________________________________________________________________________________________________________________ , ?11'VL<t'. I ?ITl'Lct'. I @@/®ct'.bm '11. ®b f1.YI. ®ct'.bm b~eI J.:J bb~-:J~-S:I J 6?JeJ?f.:J'11b'U1rJ161.:J Vi flUJ~vl1-:J1'U~~ f11)fl11lJ~ b~eJ.:J f11)1-b'tJEJ:S1i11YIL'Uf11) b~lJ'th~~'Vl5.f11YI f11)e.J~l'lyj\"ll1'Ub6?Jl'li11flf1'11.:J bb'1~.f11fl 'IJ • l'l~l'Ul'lf1 (b~lJb&llJ) 1'11lJbeJf1?111vibb'UlJlJ1Yl~eJlJ-d' lil1'U1'U @) \"ll~ •

f0l1au~a10'UnQ1,I ~QmtQa,:I :cw~'UQ1,InT'.iLn'tffl'n'll'1'V.cI:ii ct: .vj !)!) lll:ict:bm L~ei~ LL~-:i~-:iflru~v11-:11tJ:il~nT'.ifl111lfL~el-:i fl1\".i1-tl~fl\"51.fl1~L'Ufl1\".iL~1Jtl\".i~i1'V!6.fl1~fl1\".i~~i;i.r;611 L'UL\"lJ(;l.fl1flfl'11-:JLL'1~.fl1fl(;l~1''U(;lfl (L~1JL~1J) ------------------------------------------ (;111J~1i-:i~1i.Tfl1:ilmL'1~~W.J'U1fl1\".iLfl~(;l\",iL\"lJ\\;l~ ci'. ~ (9)/1.!lci'.bGn '1-:!1''U~ l!J 1Jfl\".i1fl1J l!.>ci'.bQl L~el-:i LL~-:i ~-:ifl ru~v11-:11tJ:il~ ~el-:ifl1\".ifl111l1'U'L 1~L'U L~1Jtl \".i~i1'V15.fl 1~ fl1\".i~ ~ fl1\".i1i l l fl\"51.fl fl1\".i • i;iyj611L'UL\"lJ(;l.fl1fl fl!;'l 1-:J • L.vJel1~fl1\".itl5-U~-:!1'U ~ ~ (;l 11J~ '1 fl1\".i~1 LU'U-:11'U LL'1~fl1\".iL-tl~ fl\"51.fl 1~L'Ufl1\".i L~1Jtl\".i~i1'V15.fl 1'W fl1\".i~~ i;iyj6111m\"lJ{;l.fl1flfl'11-:J LL'1~.fl1fl i;i~1''Ui;i fl LlJ'U1tl~1 flf1111J L~fltJ1'el fl tJ\".i\".i'1•LU1'V!1J1fl~ ~-:iH ~1tJfl1:5'EJLL'1~ 1~flL~flru~v11-:11tJ\"1 iiV1i!1~~-:id @). :il'~vl1LL~'.U,fl1\".i:il~fl1\".if1111l1'U' (KM Action Plan) m1Jel-:JfDlf1111l1'~1~L~elfl L~flii\".i1fl'1~L~fl~ 'U .f.::::l:.. ~fl\".i\".i1Jfl1\".iQ~.I~fl1\".ifl111J\".i'IVI lfl\"lQJ.'I U(;lel'U 'U. l!J. tJ \".i~6'f 1'U-:11'U tltJ ~~ L~ fl'liel-:JL'U fl 1\".i~1 LU'U f1~fl\".i\".il.J(;l11J LL~'U fl1\".i:il~ fl1\".ifl111Jrl~~1L~~ 'U 'U mifl \".itJ ~'l'U'V1•fl f1~fl \".i\".il.J~ •1JLt11V1mfl i;i11JLL~'Ufl 1\".i:il'~fl1\".i fl'l11!1cu' LL'1 fl\".ieltJ fl'11• J'V•l fl GT'!. ~~ i;i11J m11Jn11V1i!1el ~1-:i~el L~ el-:i 1~ fl \".i1u \".i11J'V!~fl~1'U fl1\".i~1 Lu'Un~ m\".il.J1'ULL~'1~.ff'U\\;lel'U \"\"

ผู้ใหข้ อ้ มูล/แหลง่ ข้อมูล นางนลิ บุ ล ทวีกลุ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการผลิตพืชที่เหมาะสมกับสภาพพ้ืนท่ี (ภาคกลาง) นางปญั จพร เลิศรัตน์ สานกั วิจัยและพฒั นาการเกษตรเขตที่ 5 นางสาวศุภกาญจน์ ลว้ นมณี ผ้เู ช่ยี วชาญดา้ นดนิ และป๋ยุ นางเพ็ญลักษณ์ ชูดี กองวจิ ัยพฒั นาปจั จยั การผลิตทางการเกษตร นางสปุ ราณี มัน่ หมาย ผอู้ านวยการกลุ่มวจิ ยั ปฐพวี ทิ ยา นางสาวศิรลิ กั ษณ์ แกว้ สรุ ลิขติ กองวิจัยพฒั นาปัจจยั การผลิตทางการเกษตร นางสาวกัลยกร โปร่งจันทึก ผู้อานวยการกลมุ่ วชิ าการ นายเพทาย กาญจนเกษร ศนู ย์วจิ ยั และพฒั นาการเกษตรกาญจนบุรี นายนพพร ศิรพิ านิช นกั วิชาการเกษตรชานาญการพิเศษ นางสาววารีรตั น์ สมประทมุ กองวิจยั พัฒนาปัจจัยการผลติ ทางการเกษตร นายวรี ะพงษ์ เยน็ อ่วม นักวิชาการเกษตรชานาญการพิเศษ นายณพงษ์ วสยางกรู กองวจิ ยั พัฒนาปัจจยั การผลิตทางการเกษตร นายไชยา บุญเลิศ นกั วิชาการเกษตรชานาญการ นายวรากรณ์ เรอื นแก้ว กองวิจัยพฒั นาปัจจยั การผลติ ทางการเกษตร นกั วชิ าการเกษตรชานาญการ ศนู ยว์ จิ ัยและพฒั นาการเกษตรนครปฐม นกั กฏี วิทยาชานาญการ ศูนยว์ จิ ัยและพัฒนาการเกษตรปทุมธานี นักวชิ าการเกษตรชานาญการ สานกั วจิ ยั และพฒั นาการเกษตรเขตที่ 5 นกั วชิ าการเกษตรปฏิบตั กิ าร สานักวิจยั และพัฒนาการเกษตรเขตท่ี 5 นักวิชาการเกษตรปฏิบัตกิ าร ศูนยว์ จิ ยั และพัฒนาการเกษตรนครสวรรค์ นกั วิชาการเกษตรปฏบิ ัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครสวรรค์ นกั วิชาการเกษตรปฏิบตั กิ าร สานักวจิ ัยและพฒั นาการเกษตรเขตที่ 5 นางนลิ ุบล ทวีกลุ ผตู้ รวจสอบขอ้ มูล นางสาววารรี ัตน์ สมประทมุ ผู้เชีย่ วชาญดา้ นการจดั การผลิตพืชที่เหมาะสมกบั สภาพพื้นท่ี (ภาคกลาง) นกั วชิ าการเกษตรชานาญการ สานกั วจิ ยั และพฒั นาการเกษตรเขตท่ี 5 จดั ทำรปู เลม่ /ออกแบบปกหน้ำ/หลงั นางวชิ ยา เรอื งกติ ติบรบิ ูร นกั วชิ าการเกษตร สานกั วจิ ยั และพฒั นาการเกษตรเขตท่ี 5