การทํ าเชื้อเห็ดฟาง เรยี บเรยี งโดย : อมั พร นนั ทธีโร สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร สารบัญ !!ข้ันตอนการทาํ เชอ้ื เหด็ ฟาง -! ข้ันตอนการเตรยี มเชอ้ื เหด็ ฟางบรสิ ทุ ธ์ิ -! การตรวจสอบลกั ษณะเสน ใยเหด็ ฟางบนอาหารวนุ พดี เี อ. !!ขน้ั ตอนการผลติ เชอ้ื เหด็ ฟาง -! การเตรยี มปยุ หมกั -! การปลูกเชอ้ื เหด็ ฟางลงบนปยุ หมกั !!เชื้อเห็ดฟางท่มี ีลกั ษณะดี !!ปญหาทพี่ บเสมอในการทําเชอ้ื เหด็ ฟาง จดั ทาํ เอกสารอิเล็กทรอนิกสโดย : สาํ นกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 2 คํานาํ เกษตรกรเปนจํานวนมากประสบความสาํ เรจ็ ในการเพาะดอกเหด็ ฟางขาย เนอ่ื งจากมคี วามรแู ละ ประสบการณท ถ่ี กู ตอ งและเหมาะสม แตก็มีเกษตรกรจาํ นวนมากอกี เชน กนั ที่เพาะเห็ดฟางขายและขาดทุน สาเหตุใหญที่ทําใหไมไดกาํ ไรนน้ั มกั เกดิ จากการนําเชื้อเห็ดฟางคชุณภาพไมดีมาเพาะ การซ้ือเชอื้ เห็ดคุณภาพดี ไมม จี ลุ ลนิ ทรียอ่ืนปนเปอ น ใหผ ลผลติ สงู และไดกาํ ไรดนี น้ั จะเปน หนา ทข่ี อง ผูเพาะดอกเหด็ ตอ งจาํ เองวา บริษัทหรือหางรานใดที่ผลิตเห็ดคุณภาพดี ก็จะซื้อเชื้อเห็ดฟางจากที่เมมาเพาะอยู เปนประจาํ แตบ างครง้ั เชอ้ื เหด็ จากรา นเดยี วกนั คณุ ภาพกลบั ไมส ม่ําเสมอกม็ ี ปญหาเชนนี้ทาํ ใหผูเพาะดอกเห็ด ขายหันมาสนใจที่จะผลิตเช้อื เห็ดฟางเอง ถึงแมว าการทําเชอ้ื เหด็ ฟางจะตอ งใชเ งนิ ทนุ สงู ประกอบกบั ตอ งใช ความรู ประสบการณ และความเอาใจใสเ ปน อยา งมาก ถาทาํ ไดส าํ เรจ็ จะใหผ ลตอบแทนสงู กวา การเพาะดอก เหด็ ขาย เน่ืองจากการทําเชอ้ื เหด็ ฟางตอ งใชท นุ สงู ดงั นน้ั กอ นจะตดั สนิ ใจลงทนุ ควรจะไดศึกษาหาความรูจากผู มีประสบการณใหพรอ ม ตลอดจนศกึ ษาเรอ่ื งตลาดและความเปน ไปไดใ นการสง เชอ้ื เหด็ ฟางขายใหผ เู พาะดอก เห็ดในละวแกใกลเ คยี งดว ย เพ่ือเปนการสนบั สนนุ เกษตรกรและผูสนใจในการเพาะเหด็ ฟางจาํ หนา ยหรอื ใชเ องกต็ าม ฝา ยสง เสรมิ และเผยแพรจ งึ ไดม อบใหน างอมั พร นันทธีโร เรียบเรียงเอกสารเผยแพรเร่อื ง การทําเชอ้ื เหด็ ฟางขน้ึ เพอ่ื ให เกษตรกรและผสู นใจใชเ ปน แนวทางปฏบิ ตั ิ อยา งไรกต็ าม ผูที่นําไปใชป ระสบปญหาอยา งใดแลว โปรดจดหมายไปยัง ฝายสงเสรมิ และเผยแพร สํานักงานสง เสรมิ และฝก อบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร บางเขน รหัสไปรษณีย 10903 ฝา ยสง เสรมิ และเผยแพร ยินดีใหคําแนะนําดว ยความเตม็ ใจยง่ิ ทายท่ีสุดน้ี ฝายสงเสริมและเผยแพร ใครข อขอบพระคณุ อาจารยด พี รอ ม ไชยวงศเกียรติ และอาจารย สุเทพ ญาดี ท่ไี ดตรวจแกเอกสารเรอื่ ง \"การทําเชื้อเห็ดฟาง\" เลม น้ี ฝายสง เสรมิ และเผยแพร สํานักสงเสรมิ และฝกอบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร บางเขน กทม. 10903
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 3 การทาํ เชื้อเห็ดฟาง เรียบเรียงโดย… อมั พร นนั ทธโี ร1 ขน้ั ตอนการทําเชื้อเห็ดฟาง การทาํ เชื้อเห็ดฟาง ควรปฏบิ ตั ติ ามขน้ั ตอน ดงั น้ี 1. ข้ันตอนการเตรยี มเชอ้ื เหด็ ฟางบรสิ ทุ ธ์ิ 1.1!เตรยี มอาหารวนุ พีดเี อ. 1.2!ตัดเน้ือเยอ่ื จากดอกเหด็ ลงอาหารวนุ พีดเี อ. 2. ขน้ั ตอนการผลติ เชอ้ื เหด็ ฟาง 2.1 การเตรียมปยุ หมัก (วัสดุหมักสาํ หรับปลูกเชื้อเห็ด) 2.2 การปลกู เชอ้ื เหด็ ฟา งลงบนปยุ หมกั 1. ข้ันตอนการเตรยี มเชอ้ื เหด็ ฟางบรสิ ทุ ธ์ิ 1.1 เตรยี มอาหารวนุ พดี เี อ. สวนผสม มนั ฝรง่ั 200 กรัม นา้ํ ตาลเดก็ ซโ ตส (เชน นา้ํ ตาลเดก็ ซโ ตส, เด็กซโตซาน หรอื กลโู คลนิ 20 กรัม วุนผง 20 กรัม นา้ํ สะอาด 1 ลิตร (1 กิโลกรัม) วธิ ที าํ - ปอกเปลอื กมนั ฝรง่ั ลา งน้าํ แลว หน่ั เปน ชน้ิ สเ่ี หลย่ี มขนาดลกู เตา ชง่ั น้าํ หนกั 200 กรัม - ตวงน้ํา 1 ลติ รใสห มอ ใสม นั ฝรง่ั ตม ลงไป ตม ใหเ ดอื ด เมอ่ื เดอื ดแลว ลดไฟลงอยา ใหเ ดอื ดพลา น ใหจับเวลาตง้ั แตล ดไฟลงนาน 15 นาที แลว กรองเอาแตน า้ํ ตม มนั ฝรง่ั - ละลายวุนผงกับนาํ้ เยน็ เลก็ นอ ย เทใสใ นหมอ นา้ํ ตม มนั ฝรง่ั แลว ยกตง้ั ตง้ั ไฟ คนตลอดเวลานาน 10 นาที (หรอื วนุ ละลายหมด) - ตงน้าํ ตม มนั ฝรง่ั กบั วนุ ใหไ ด 1 ลติ ร ถา ขาดไปใหเ ตมิ น้าํ รอ นจนครบ - ยกขึ้นตั้งไฟออ นๆ เตมิ น้าํ ตาลลงไป คนใหล ะลายแลว ยกลงจากเตา (ไมต อ งรอใหเ ดอื ด) ก็จะให อาหารวุน พีดเี อ. - เอาขวดเหลา แบนทล่ี า งจนสะอาดดแี ละตากแดดใหแ หง ดแี ลว เทอาหารวุนพดี เี อ. ลงไปใหส งู จากกนขวดประมาณ 1 ใน 6 (ระวงั อยา ใหว นุ เลอะปากขวด) - พับสาํ ลอี ดุ ปากขวด (อยาพับสาํ ลหี ลวมหรอื แนน เกนิ ไป) - ตดั กระดาษเปน รปู สเ่ี หลย่ี ม ปดทับสําลอี กี ทางหนง่ึ แลว ใชย างวงรดั ไว - นาํ ไปนง่ึ ฆา เชอ้ื โรคโดยใชห มอ นง่ึ ความดนั
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 4 อาหารวุน พีดีเอ. ทก่ี รอกใสใ นขวดเหลา แบนน้ี จะมเี ชอ้ื จลุ นิ ทรียและสง่ิ มชี วี ติ อน่ื ๆ ปะปนอยมู าก มายหลายชนดิ เชอ้ื จลุ นิ ทรียและส่ิงมีชีวิตเหลา นไ้ี มส ามารถมองเหน็ ดว ยตา ตอ เมอ่ื มนั เจรญิ เตบิ โตแลว จงึ มอง เห็นสิ่งปนเปอนเหลานี้อยูบนอาหารวุนพีดีเอ. ถา ไมฆ า เชอ้ื จลุ นิ ทรยี แ ละสง่ิ มชี วี ติ เหลา นใ้ี หต ายหมดปราศจาก เชื้อใด ๆ ดวยหมอ นง่ึ ความดนั ในภาพนแ้ี ลว การปฏบิ ตั จิ ะลม เหลว เพราะเมอ่ื ถงึ ขน้ั ตอนตดั เนอ้ื เยอ่ื จากดอก เห็ดลงในอาหารวุน พีดีเอ. (ขน้ั ตอนท่ี 1.2) จะมเี ชอ้ื อน่ื ๆ เจรญิ แขง ขนั กบั เสน ใยเหด็ ฟาง จะนาํ เชอ้ื เหด็ ฟางน้ี ไปใชไมได วิธีการใชห มอ นง่ึ ความดนั - ใสนํ้าทห่ี มอ ชน้ั ในใหท ว มตระแกรงลวด ประมาณปรม่ิ หลงั มอื (สงู ประมาณ 1 ซ.ม. จากกน) - เรียงขวดเหลา แบนทม่ี อี าหาร พีดเี อ.บรรจุแลวปดฝา ดลู กู ศรทร่ี มิ ฝาใหต รงกบั รอยขดี ทต่ี วั หมอ หมุน นอตสําหรบั กดฝาใหแ นน ตดิ ตวั หมอ ทล่ี ะคู โดยเลอื กนอตท่ีมีทิศตรงกันขามซ่งึ กนั และกัน หมนุ เกลียวนอ ตปด ดวยแรงเทา ๆ กัน - ยกข้ึนต้ังไฟแรงเตม็ ท่ี พรอ มกบั เปด ลน้ิ ระบายอากาศเพอ่ื ไลอ ากาศภายในหมอ นง่ึ ออก เมอ่ื นา้ํ เรม่ิ เดือด จะเห็นอากาศพงุ ออกมาพรอ มกบั ไอนา้ํ เสยี งดงั ไมส มา่ํ เสมอกนั แสดงวา ไดไ ลอ ากาศภายในหมอ นง่ึ ออก หมดแลว จากนน้ั จงึ ปด ฝาลน้ิ ระบายอากาศ - หลังจากปดฝาลิ้นระบายอากาศแลว จะเหน็ เขม็ วดั ความดนั เรม่ิ เคลอ่ื นใหร อจนเขม็ วดั ความดนั ชไี ป ที่เลข 15 หรือมากกวา เลก็ นอ ย จงึ ลดไฟใหเ ปน ไฟปานกลาง หลงั จากลดไฟลงแลว ถา ยงั ไมป รากฎวา ความดนั ยังเพิ่มขึ้นอยูก็ใหลดไฟลงอีกได โดยใหความดนั คงที่อยทู ี่ 15 หรอื มากกวา เลก็ นอ ย แลว จับเวลา 20 นาที จึง เปดไฟ ความดันภายในจะลดลงเอง จนถงึ เลขศนู ยแ ลว ปด ฝาหมอ นง่ึ เอาขวดอาหาร พีดีเอ. วางเอยี งพิงไม ให ปากขวดสูงจากพื้น 2-3 เซนตเิ มตร รอจนวนุ แขง็ กฎนํามาใชไ ด จากการตรวจสอบพบวา ถา ความดนั ในหมอ นง่ึ วดั ได 15 ปอนดต อ ตารางนว้ิ อณุ หภมู จิ ะรอ นถงึ 121 องศาเซลเซยี ส และถา ใชเ วลานาน 20 นาที จะสามารถฆา เชอ้ื จลุ นิ ทรียและสง่ิ มชี วี ติ ในอาหาร พีดีเอ. ใหต าย หมด ปราศจากเชอ้ื ใด ๆ เหลอื อยู ในระหวา งจบั เวลาอยนู ้ี หากเขม็ วดั ความดนั ตา่ํ ลงกวา เลข 15 ตอ งเรม่ิ ตน ทําขั้นตอนแรกอีก ตอ งคอยดแู ลควบคมุ อยา งใกลช ดิ ตลอดเวลา 1.2 การแยกเนอ้ื เยอ่ื จากดอกเหด็ ลงอาหารวนุ พดี เี อ. เก็บดอกเห็ดฟางทีย่ งั ตมู อยจู ากแปลงเพาะ เลอื กดอกเหด็ ลกั ษณะดขี นาดใหญ นา้ํ หนกั มาก เนอ้ื แนน อยา ใหม รี อยแมลง และโรคเขาทาํ ลาย
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 5 นําอุปกรณที่ใชคือ เขม็ เขย่ี ตะเกยี งแอลกอฮอล แอลกอฮอล 70% สําหรบั เชด็ มอื , มดี , ดอกเหด็ สด, อาหารวนุ พีดเี อ. ในขวดเหลา แบนทฆ่ี า เชอ้ื แลว นําวัสดุและอปุ กรณท กุ อยา งเขา ไปในตเู ขย่ี เชอ้ื ทาํ ความสะอาดภายในตแู ลว จะแดพนดว ยแอลกอฮอล 70% หรอื ใชแ สงอุลตราไวโอเลต (ยูวี) ไวล ว งหนา กอ นใชป ระมาณ 30 นาที วธิ ที าํ - เชด็ มอื ดว ยแอลกอฮล 70% - ก,ข ตดั แตง ดอกเหด็ - ค เอามดี จมุ แอลกอฮอล 70% ลนไฟ พอมดี เยน็ แลว จงึ ผา ดอกเหด็ เลก็ นอ ย - ง,จ ใชม อื แดดอกเหด็ ออกเปน 2 สวน (แบง ตามยาวของดอกเหด็ ) มอื ซา ยถอื ดอกเหด็ - เช็ดมือดวยแอลกอฮอล 70% มอื ซา ยจบั ดอกเหด็ มอื ขวาหยบิ เขม็ เขย่ี มาลนไฟจนสว นทเ่ี ปน เขม็ รอนแดง เลอ่ื นดา นจบั ผา นเปลวไฟจนถงึ มอื แลว ปลอ ยใหเ ขม็ เยน็ (ถอื ไวป ระมาณ 15 นาท)ี แลว ใชเ ขม็ นต้ี ดั
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 6 เนื้อเยื่อเห็ดโดยตัดตามหมายเลขที่ 1,2,3 4 ตามลําดบั ดงั ในภาพ ใชเ ขม็ เขย่ี เกย่ี วชน้ิ เนอ้ื เยอ่ื ขน้ึ มา เปน ขน้ั ท่ี 5 การตดั เนอ้ื เยอ่ื จากดอกเหด็ - วางดอกเห็ดลง แลว หยิบขวดอาหารเลีย้ งเชื้อ พีดเี อ.ขน้ึ มา (ซง่ึ ดงึ ยางวงและแกะกระดาษออกเตรยี ม ไวก อ นแลว ) - ใชน้ิวนางและนว้ิ กอ ย (มอื ทถ่ี อื เขม็ เขย่ี เชอ้ื ยงั ไมม เี นอ้ื เยอ่ื เหด็ ตดิ อย)ู หมนุ ดงึ สําลอี อกจากปากขวด แลวลนปากขวดฆาเชื้อทันที (ระวงั สาํ ลไี หมไ ฟ) คอ ย ๆ สอดเขม็ เขย่ี เชอ้ื ทม่ี เี นอ้ื เยอ่ื เหด็ เขา ในขวดอาหาร พีดีเอ - วางเนื้อเยื่อดอกเห็ดบนอาหารวุน พีดีเอ ตรงกลางแลว ลนปากขวดอกี ครง้ั จึงปดจุกสําลี (ระวงั อยา ใหเนอ้ื เยอ่ื เหด็ ถกู ปากขวด) จุกสําลตี อ งไมส มั ผสั สว นใด ๆ ทั้งสิ้น - ปดกระดาษ และรดั ดว ยยางวง เกบ็ ไวน าน 6-7 วนั จะเหน็ เสน ใยสขี าวเจรญิ เตม็ บนวนุ พีดเี อ วางเนอ้ื เยอ่ื เหด็ ลงบนอาหารวนุ ข้ันตอนการตัดเน้ือเยอ่ื ดอกเหด็ บนอาหารวนุ น้ี จะตองทาํ อยา งระมดั ระวงั และรวดเรว็ ไมเ ชน นน้ั แล วจะมเี ชอ้ื จลุ นิ ทรียอ่ืน ๆ ปนเปอ น เชอ้ื เหด็ ฟางได มวี ธิ กี ารคดั เลอื กเสน ในเหด็ ฟางทบ่ี รสิ ทุ ธค์ิ อื ภายใน 3-4 วันจะเห็นวามีเสนใยเห็ดเริ่มเจริญรอบ ๆ เนอ้ื เยอ่ื เปน สขี าว แตถาพบมีเชื้อราหรือแบคทีเรียซึ่งจะเห็นวามี ลักษณะแปลกออกไป เจรญิ บนผวิ หนา วนุ ดว ย เชอ้ื เหด็ ขวดนน้ั ถอื วา ไมบ รสิ ทุ ธค์ิ อื ไมค วรนําไปใช ในการทาํ ครั้งหนึ่ง ๆ ควรทาํ ไวห ลาย ๆ ขวด เพอื่ โอกาสท่ีจะไดเชื้อบรสิ ุทธมิ์ ีมากขึน้ เพราะขน้ั ตอนนต้ี อ งทําดว ยความระ วัดระวังมาก และมกั จะมเี ชอ้ื ชนดิ อน่ื ขน้ึ ปนเปอ นเสมอ เมอ่ื ไดร บั เชอ้ื บรสิ ทุ ธแ์ิ ลว ควรขยายเชื้อเก็บสาํ รองไว
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 7 เพ่ือใชในโอกาสตอ ไป โดยการตดั วนุ ทม่ี เี สน ใยเหด็ จากขวดนไ้ี ปวางบนอาหารวนุ พีดีเอ ขวดอน่ื แลว เกบ็ ไว 6- 7 วัน เม่ือเหน็ เสน ใยเจรญิ ดแี ลว จงึ เกบ็ ไวใ นตเู ยน็ อณุ หภมู ิ 5 องศาเซลเซยี ส เพอ่ื เกบ็ ไวใ ชไ ดต ลอดไป การตรวจสอบลกั ษณะเสน ใยเหด็ ฟางบนอาหารวนุ พดี เี อ. เม่ือแยกเน้ือเยอ่ื เหด็ ฟางบนอาหารวนุ พดี เี อ. แลว จะเหน็ เสน ใยเหด็ เจรญิ ราบตดิ ไปกบั อาหารวนุ อยา ง รวดเร็ว (ภายใน 3-4 วัน) เสนใยมีลักษณะหยาบๆ เห็นไดชัดเจน แตถ า เหน็ เสน ใยเปน เสน เลก็ ขาว ฟู ไม ควรนาํ มาทําพนั ธุ หลังจากน้ีแลวประมาณ 5-7 วัน (หลงั จากเรม่ิ แยกเนอ้ื เยอ่ื เหด็ ฟางลงบนอาหารวนุ พีดเี อ.) เสนใยจะ เปล่ียนจากสีขาวเปน สนี า้ํ ตาลออ น ๆ แลว รวมตวั กนั เปน จดุ เลก็ ๆ เห็นไดชัด แสดงวา เปน เชอ้ื เหด็ ทแ่ี ขง็ แรง และเกิดดอกอยางแนน นอน แตถ า เสน ใยไมเ ปลย่ี นสี และไมร วมตวั แสดงวา เปน เชอ้ื ออ นแอ เมอ่ื เลอื กไดเ ชอ้ื เห็ดฟางท่ีบริสทุ ธแ์ิ ลว ถอื วา เสรจ็ สน้ิ ขน้ั ตอนการเตรยี มเชอ้ื เหด็ ฟางบรสิ ทุ ธ์ิ (ขน้ั ตอนท่ี 1)
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 8 2. ข้นั ตอนการผลติ เช้อื เห็ดฟาง 2.1 การเตรยี มปยุ หมกั (วัสดุหมักสาํ หรับปลูกเชื้อเห็ด) มี 5 สตู รใหเ ลอื กตามความเหมาะสมในแตล ะทอ งท่ี ดงั น้ี สตู ร 1 มลู มา 1 สวน เปลอื กเมลด็ บวั 1 สวน วธิ กี าร นาํ เปลอื กเมลด็ บวั แชน า้ํ ไว 1 คนื ใหเ ปลอื กบวั ดดู นา้ํ จนอม่ิ ตวั แลวนาํ มาผง่ึ ใหห มาด ๆ นาํ มาผสมกบั มูลมา (บดใหเ ปน ชน้ิ เลก็ ๆ กอ นใช) ผสมกันใหทั่วแลวหมักไวในที่รม ถา มรี มแรงใหค ลมุ กองหมกั ดว ยผา พลาสติก เมอ่ื ครบ 3 วนั กก็ ลบั กองปยุ หมกั แลวกลบั กองปยุ หมกั ทุกวันจนครบ 15 วัน ถาปุยหมักแหงให พรหมนา้ํ เลก็ นอ ยใหพ อดี แลวนาํ ไปใชได สตู ร 2 มลู มา 1 สวน เปลอื กเมลด็ บวั 1 สวน ไสน นุ 2-3 สวน วธิ กี าร หมักมูลมากบั เปลอื กเมลด็ บวั เหมอื นสตู ร 1 กอ นทจ่ี ะครบเวลา 3 วันใหแชไสนุน ในนา้ํ จนอม่ิ ตวั แลว ผสมกนั หมกั ตอ อกี 3 วัน กลับกองปุยหมักทุกวัน จนครบเวลา (15 วัน) กน็ ําใชไ ด สตู ร 3 มลู มา 1 สวน ไสน นุ 7-10 สวน วธิ กี าร แบงไสน นุ ออกเปน 4 สวน ใช 3 สว นแชน ้าํ จนอม่ิ ตวั แลว ผสมกบั มลู มา โดยกลบั กองทกุ วนั หลงั จาก หมักได 3 วัน จนครบ 10 วัน ใหเ ตมิ ใสน นุ สว นทเ่ี หลอื ผสมใหท ว่ั แลว หมกั ตอ อกี 5 วัน ตอ งกลบั กองปยุ หมกั ทกุ วัน แลวนาํ มาใชไ ด
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 9 สตู ร 4 มลู มา 1 สวน เปลอื กเมลด็ ฝา ย 1 สวน ไสน นุ 3-5 สวน วธิ กี าร หมักเชนเดียวกับวิธีที่ 2 แตใ ชเ ปลอื กเมลด็ ฝา ยแทนเปลอื กเมลด็ บวั กรรทมวธิ ีหมักเหมอื นกัน ใชไ ด ผลเหมอื นกนั สตู ร 5 มลู มา 1 สวน เปลอื กถว่ั เขยี ว 2 สวน (หรือเปลอื กถว่ั เหลอื ง) 2 สวน วธิ กี าร แชเปลือกถ่ัว (ใหเ ลอื กเอาอยา งใดอยา งหนง่ึ ) ในนา้ํ จนอม่ิ ตวั ประมาณ 1 คนื แลวนาํ มาผง่ึ ใหห มาด ๆ นํามาผสมกบั มลู มา แลวหมักไว 3 วนั หลงั จากนใ้ี หก ลบั กองปยุ หมกั ทกุ วนั จนครบ 10 วัน นาํ ไสน นุ แชน า้ํ จน อม่ิ ตวั ผสมลงไปอกี 3 สวน ทําการกลับกองปุยหมักทุกวัน จนครบ 5 วัน กน็ ํามาใชไ ด กองปุยหมักทด่ี นี น้ั ไมค วรสงู เกนิ 1 เมตร จะกองเปน รปู แบบใดกไ็ ด ไมค วรกองบางเกนิ ไป หมักได 3 วัน อุณหภมู ใิ นกองหมกั จะสงู ขน้ึ 45-50 องศาเซลเซยี ส ถา อณุ หภมู ไิ มส งู กใ็ ชไ มไ ด ลักษณะของปยุ หมกั ทด่ี ี ควรมลี กั ษณะดงั น้ี 1.! มีสีคลา้ํ รว นซยุ ไมจ บั ตวั กนั เปน กอ นแนน 2.! มีฤทธป์ิ านกลาง (ระดบั พีเอช 7.0) 3.! มักลิ่นหอมคลายเห็ด ไมม กี ลน่ิ เหมน็ แอมโมเนยี 4. มคี วามชน้ื ทเ่ี หมาะสมประมาณ 60-70 เปอรเ ซน็ ต ทดลองบบี ดแู รง ๆ ถา ไมม นี า้ํ ไหลออกมาจาก งามน้ิวมือ แสงวาพอดี ถา แบบมอื ออกมาปยุ หมกั แตกไมเ ปน กอ น แสดงวาแหงเกินไป 5. ไมมีหนอนและแมลง ในปยุ หมกั ซง่ึ เปน สาเหตขุ องการเสยี ของปยุ หมกั 6. เมื่อหมักจนไดที่แลว ไมค วรเกบ็ ไวน าน 1 สัปดาห ดังน้ันการทําปุยหมักใหมีคุณภาพดีนั้นขึ้นอยูกับวัสดุที่ใช ความชน้ื ในกอง อณุ หภมู ิ และการดูแลรักษา กองปุย หมัก มขี อ ทน่ี า สงั เกตดงั น้ี มลู สตั ว มูลสัตวที่นอยมใชแ ละใชไ ดด คี อื มลู มา แตก ม็ มี ลู มา แตก ม็ มี ลู สตั วช นดิ อน่ื ทใ่ี ชแ ทนไดด ี แตไม ดีเทา มลู มา มูลลา มูลลอ มลู ชา ง ไดผ ลดใี กลเ คยี งกบั มลู มา มูลโค มลู กระบอื มลู แพะ ไดผ ลแตไ มด นี กั มูลเปด มลู ไก ไมค วรใช การท่ีใชมูลมา ไดผ ลดกี วา มลู สตั วช นดิ อน่ื เปนเพราะมีจุลินทรียที่จะชวยทาํ ใหเ กดิ การหมกั ซง่ึ มอี ยใู น มูลมานั้น สามารถเจรญิ เตบิ โตในทท่ี ม่ี อี ณุ หภมู สิ งู ไดด ี (ประมาณ 60-70 องศาเซลเซยี ส) ซง่ึ ในการทาํ ปยุ หมักนั้น อณุ หภูมใิ นกองสงู จึงยิ่งทาํ ใหจุลินทรยี ที่ชอบอุณหภมู สิ งู นี้มีจํานวนมากขน้ึ อยา งรวดเรว็ มผี ลทาํ ให
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 10 เกิดขบวนการหมกั รวดเรว็ ขน้ึ และยงั ทาํ ใหจุลนิ ทรียท่ไี มท นรอ นตายไป เพราะจุลินทรียที่ไมทนรอนนี้จะทาํ ให เกิดการเนา เสยี ในปยุ หมกั ได ดงั นน้ั การใชม ลู มา จงึ ไดผ ลดที ส่ี ดุ เปลือกบัวหรอื กากเมลด็ ฝา ย ใชไดผ ลใกลเ คยี งกนั แตก ากเมลด็ ฝา ยหาไดง า ย และราคาถกู เมอ่ื นํา กากเมล็ดฝายมาหมกั กบั มลู มา กใ็ ชเ วลาหมกั เรว็ กวา ดว ย ในปจ จบุ นั นยิ มใชก ากเมลด็ ฝา ยมากทส่ี ดุ ไสนุน ปจจบุ นั มรี าคาถกู หางาย และมีจาํ นวนมาก ทง้ั ในระยะเวลาในการหมกั เรว็ กวา วสั ดอุ น่ื และ ใหปุยหมกั มคี ณุ ภาพดีอีกดวย จงึ มผี นู ยิ มใชป ระกอบกบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั กิ ง็ า ย เพียงแตมาแชนาํ้ ใหอ ม่ิ ตวั 10 สวน ผสมกบั มลู มา 1 สวน หลังจากหมักกองไว 3 วัน แลว จึงกลบั กองทุวนั ประมาณ 10 วัน กน็ ํามาใชไ ด เปลือกถ่ัวเขยี วและเปลอื กถว่ั เหลอื ง ใชไดดีเหมอื นไสน นุ แตใ ชร ะยะเวลาในการหมกั นานกวา วิธี การหมักใชว ธิ ีการเดียวกับการหมักไสน ุน แตใ ชร ะยะเวลานานประมาณ 1 เดอื น จงึ จะสามารถนํามาใชไห และมีขอระวังในการหมักเปลือกถั่วเขียวหรือเปลือกถั่วเหลือง จะตอ งคอยควบคมุ ความชน้ื ใหเ หมาะสมดว ยจงึ จะไดผลดี วสั ดอุ น่ื ๆ ผูผลิตเชื้อเหด็ ฟางบางราย ตอ งการเพม่ิ ผลผลติ ใหม ากขน้ึ โดยใชฟ างหัน่ ละเอยี ดผสมกับ ปุยหมัก ผักตบชวาตากแหง ใบพืชและตนพืชตากแหงเชนตนถั่วถาหากมีการใชมากเกินไปคุณภาพเห็ดจะไมดี เทาที่ควร บางรายใหอ าหารเสรมิ เชน รําขา ว และปยุ เคมี กค็ วรระวงั การสญู เสยี ไดเ หมอื นกนั ไมค วรใชป ยุ หมักทห่ี มกั นานเกนิ ไป เพราะปุยหมักจะแนนและสูญเสียคุณคาทางอาหาร สําหรับเชื้อเห็ด การฆา เชอ้ื ในปยุ หมกั เมื่อหมักปุยหมักไดที่แลว กอ นทจ่ี ะปลกู เชอ้ื เหด็ ฟางลงไปจะตอ งฆา เชอ้ื จลุ นิ ทรยี แ ละสง่ิ มชี วี ติ ทกุ ชนดิ ในปุยหมักใหต ายหมดเสยี กอ นจงึ ปลกู เชอ้ื เหด็ ฟางลงไปได ถา มเิ ชน นน้ั แลว เสนใยเห็ดฟางจะเจริญเติบโตสูเชื้อ ชนิดอน่ื ไมไ ด และทาํ ใหไมไดเชื้อเห็ดฟางบริสุทธิ์ จะทาํ ใหเ กดิ การสญู เสยี ในการเพาะดอกเหด็ อยา งมาก วธิ กี าร - ใสปุยหมกั ลงไปในถงุ พลาสตกิ ทนรอ ยขนาด 8*11 เซนตเิ มตร ถงุ ละ 200กรัม (2 ขดี ) ไมค วรอดั ปุยหมักแนนจนเกินไป แลว พบั ปากถงุ เตรยี มเขา นง่ึ ในหมอ นง่ึ - ถาตอ งการบรรจใุ นกระปอ งนมอลมู เิ น่ียม ซ่ึงปจ จบุ นั หายากแลว ใหบ รรจลุ งในกระปอ งประมาณ 3 ใน 4 ของกระปอ ง ไมใ หแ นน เกนิ ไป เสร็จแลวปดฝากระปองพออยู ไมต อ งสนทิ หรอื แนน มาก - การนึ่งฆาเชื้อ ถา มหี มอ นง่ึ ความดนั จะใชเ วลานอ ย นาํ ภาชนะทต่ี อ งบรรจถุ งุ ปยุ หมกั ใสล งไป แลวทาํ การน่ึงตามวิธีการของการใชห มอ นง่ึ ความดนั ใชเ วลา 20 นาทที ค่ี วามดนั 15 ปอนดต อ ตารางนว้ิ จะได อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซยี ส หมอนึ่งแบบนี้ราคาจะแพง บรรจไุ ดน อ ย แตใ ชเ วลานอ ยกวา การนง่ึ แบบลกู ทงุ - การน่ึงฆา เชอ้ื แบบหมอ นง่ึ ลกู ทงุ ซ่ึงกไ็ ดผลเชน กัน แตใ ชเ วลานานประมาณ 3-4 ชั่วโมง จึงจะใชได (ตองควบคมุ เชอ้ื เพลงิ ใหส ม่าํ เสมอ) หมอ นง่ึ ราคาถกู บรรจุ ไดม าก ถา มรการผลติ มาก ๆ ควรสรา งหมอ นง่ึ ขนาดใหญ เพราะจะไดผ ลผลติ มากขน้ึ ตามตอ แงการ ซึ่ง ปจจุบันมีผูผลิตเชื้อเห็ดฟางจาํ หนา ยเปน อาชพี ไดม กี าร สรางหมอ นง่ึ ฆา เชอ้ื ปยุ หมกั ออมาหลายรปู แบบ และได ผลดี ยังนาํ ไปใชก บั การเพาะเหด็ ในถงุ พลาสตกิ ไดด ว ย หมอนึ่งฆาเชื้อแบบลูกทุง ซ่ึงใชไ ดค มุ คา มาก ถาผูใดสนใจก็หาดูแบบไดตามฟารมเห็ดที่ผลิตเชื้อเห็ดจาํ หนา ย
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 11 1.2!การปลกู เชอ้ื เหด็ ฟางลงบนปยุ หมกั เม่ือนง่ึ ฆา เชอ้ื จลุ นิ ทรียและสง่ิ มชี วี ติ ในปยุ หมกั เยน็ กอ น จึงนาํ มาปลกู เชอ้ื เหด็ ลงไป และบมไว 5-7 วัน กจ็ ะไดหัวเชื้อเห็ดฟางสําหรบั สง ขายหรอื นาํ ไปเพาะดอกเห็ดได วธิ กี าร - นําอุปกรณที่จะใช คอื อาหารวนุ พีดีเอ. ทม่ี เี สน ใยเหด็ เจรญิ อยเู ตม็ ตะเกลยี งแอลกอฮอล เขม็ เชอ้ื แอกอฮอล 70% สําหรบั เชด็ มอื ถงุ มอื หมกั ถงุ ปยุ หมกั นง่ึ ฆา เชอ้ื แลว ในตเู ขย่ี เชอ้ื ซึ่งทาํ ความสะอาดไวแ ลว - สนปลายเขม็ เขย่ี ใหร อ นแดง แลว ผา นดา มมอื ใหถึงมอื จับ ปลอ ยใหเ ยน็ กอ น จงึ ใชน ว้ิ นางกบั นว้ิ กอ ย หมุนดึงสําลอี อก พรอมกับรนไฟที่ปากขวด จงึ ตดั วนุ ทม่ี เี สน ใยเหด็ เจรญิ อยเู ตม็ ตดั ใหไ ดข นาด 1*1 เซน็ ติ เมตร ใชเขม็ เขย่ี เกย่ี วชน้ิ วนุ ออกมา ลนไฟปากขวดอกี ครง้ั แลว จงึ ปด สาํ ลที ป่ี ากขวดอาหารวนุ พรดรเอ. เสยี กอน ตอจากนั้นจึงเปดปากถุงปุยหมัก (มอื ขวายงั คงถอื เขม็ เขย่ี ทม่ี วี นุ เชอ้ื เหด็ อย)ู แลว างชน้ิ สว นวนุ ลงบนปยุ หมัก ปด ปากถงุ ปยุ หมัก (ควรทาํ อยา งรวดเรว็ ) อาหารวนุ 1 ขวด ควรใสป ยุ หมกั ไดป ระมาณ 20-30 ถงุ - บมถุงปุยหมักน้ีไวใ นหองท่ีอากาศถา ยเทได อณุ หภูมิไมส งู อยาใหถูกแสงแดดและอยาใหลมพัดแรง เกินไป ควรระวงั หนู แมลง ซง่ึ จะเปน ศตั รทู พ่ี บไดเ สมอ - หลงั จากนป้ี ระมาณ 5-7 วัน เสนใยเห็ดจะเจริญทั่วถุงปุยหมักก็นําไปขาย หรอื เพาะเปน ดอกเหด็ ได การผลิตเชอ้ื เหด็ ฟางเพอ่ื จําหนายเปนจาํ นวนมากนน้ั นยิ มใชว ธิ ี ตอ เชอ้ื เหด็ คอื หลงั จากเสรจ็ สน้ิ ขน้ั ตอนการปลูกเชอ้ื เหด็ ฟางลงบนปยุ หมกั (ขน้ั ตอนท่ี 2.2 )ไดเสน ใยเห็ดเจรญิ เต็มถุงปุยหมัก ผูผลิตก็จะตอเชื้อ เห็ดโดยเลือกถงุ ทม่ี เี สน ใยลกั ษณะดี ไมม เี ชอ้ื อน่ื ปนเปอ น (ทาํ ในตเู ขย่ี เชอ้ื ) ใชช อ นฆา เชอ้ื กอ น ตักปุยหมักที่มี เสนใยเหด็ ฟางน้ี 1 ชอ น ใสล งในถงุ ปยุ หมกั ใหมท ฆ่ี า เชอ้ื แลว บม ไวป ระมาณ 1 อาทติ ย ก็จะไดเชื้อเห็ดฟาง สาํ หรบั นํามาเพาะดอกเหด็ หรือขายได วิธีการตอ เชอ้ื เหด็ ทาํ โดย - นําอุปกรณที่จะใชคือ ชอ นตกั เชอ้ื ตะเกยี งแอลกอฮอล ถงุ ปยุ หมกั ที่มเี สนใยเหด็ เจริญเตม็ และถุงปยุ หมักท่ีตอ งการตอ เชอ้ื นาํ สง่ิ เหลา นม้ี าเตรยี มพรอ มไวใ นตเู ขย่ี เชอ้ื - นําชอนลนไฟ ปลอ ยใหเ ยน็ แลว ตกั ปยุ หมกั ทม่ี เี สน ใยเจรญิ อยเู ตม็ ถงุ มาใสใ นถงุ ปยุ หมกั เชื้อเห็ด 1 ถุง สามารถตอ เชอ้ื เหด็ ไดป ระมาณ 20-30 ถุง การตชี อ เชอ้ื เหด็ น้ี เปนขั้นตอนลัด เพราะไมต อ งทาํ ขน้ั ตอนเตรยี มอาหารวนุ พดี เี อ (ขน้ั ตอนท่ี 1.1) ข้ันตอนการตัดเนอ้ื เยอ่ื จากดอกเหด็ ลงอาหารวนุ (ขน้ั ตอนท่ี 1.2) ซง่ึ เปน ขน้ั ตอนทท่ี าํ ยากและลงทนุ สงู เพียง แตเตรยี มปุยหมกั และตอ เช้อื เห็ดฟางบนปุยหมกั บมไว 1 อาทิตย ก็ใชประโยชนไดแลว
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 12 วิธีการตอเช้ือเหด็ น้ี ยงั ใชไ ดผ ลดกี บั การขนสง เชอ้ื เหด็ ทเ่ี ดนิ ทางไปไกล ๆ และใชเวลาหลายวนั ซ่ึงเช้ือ เห็ดจะเสียหายได จากการบรรจุแบบแออัด ทาํ ใหอุณหภูมิสูงจะทาํ ใหเ ชือ้ ชะงกั การเจริญหรอื ตายไปเลยกม็ ี ให แยกปุยหมักที่ทําการนง่ึ ฆา เชอ้ื แลว บรรจุอัดแนนไปแลวแยกถุงปุยที่เชื้อเจริญแลวบรรจุแบบโปรงๆ เจาะรู ระบายอากาศใหบาง พอไปถงึ จดุ หมายกต็ อ เชอ้ื เหด็ จากถงุ ใสล งถงุ ปยุ หมกั ตามวธิ กี ารขา งบนแลว บม ไว ประมาณ 5-6 วัน เสน ใยเจรญิ เตม็ ถงุ กน็ ํามาเพาะดอกได( ควรประมาณระยะเวลาการเจรญิ ของถงุ หวั เชอ้ื ให พอดีกับการขนสง) เพราะทุกวันนีก้ ารเพาะดอกเห็ดของผูท ี่อยไู กลจากแหลง ผลติ เชื้อเหด็ ไดผ ลไมดีเทา ท่คี วร อันเนื่องมาจากสาเหตุการขนสงเชื้อเห็ดดวย ควรมาใชว ธิ นี จ้ี ะไดผ ลดตี อ ผเู พาะดอกเหด็ เปน อยา งมาก แตการตอเชื้อเห็ด หลายๆ ครง้ั มขี อ เสยี คอื เสน ใยเหด็ ทไ่ี ดน น้ั จะไมแ ขง็ แรงเมอ่ื นํามาเพาะเปน ดอก เห็ด มักไดผ ลผลติ ต่ํา สว นใหญเ กษตรกรทซ่ี อ้ื เชอ้ื เหด็ ฟางมาลงเพาะดอกเหด็ ขาย มักจะซื้อไดที่มกี ารตอ เช้ือ เห็ดหลายๆ ครง้ั ผผู ลติ เชอ้ื เหด็ ขายควรคาํ นงึ ถงึ ผเู พาะดอกเหด็ ขายไวด ว ย ในเรอ่ื งนเ้ี พอ่ื ผลประโยชนท ง้ั สอง ฝา ย เชื้อเห็ดฟางที่มีลักษณะดี มวี ธิ สี งั เกต คอื 1. เชื้อเห็ดตองไมออน หรอื ไมแ ขง็ จนเกนิ ไป สขี องเสน ใยเหด็ ทด่ี จี ะมสี ขี าวเปน มนั และเจริญแผขยาย คลุมกอนปุยหมักทั้งกอน และไมม กี ารเกดิ ดอกเหด็ ในกอ นปยุ หมกั -มีกลิ่นหอมคลายเห็ด ไมม กี ลน่ิ เหมน็ แอมโมเนยี -ไมมีเชอ้ื ชนดิ อน่ื เจรญิ ปนเปอ น -เม่ือเสนใยเจรญิ เตม็ ถงุ แลว ไมค วรเกบ็ ไวน านเกนิ 10 วัน -มีลักษณะเปน กระจดุ เลก็ ๆ คลา ยเมด็ สาคู แสดงวา เชอ้ื เหด็ ไมเ ปน หมนั -ปุยหมักไมเปยกหรือแหงเกินไป -ถุงบรรจุตองไมมีรอยแตกหรือรูรั่ว ลักษณะของเชอ้ื เหด็ ฟางทไ่ี มค วรนําไปใช ปญ หาทพ่ี บเสมอในการทําเชื้อเห็ดฟาง ถาพบควรแกไข 1. เชอ้ื เหด็ ฟางไมเ ดนิ ก.! อาจเนื่องจากการหมักปุยไมไดที่ มกี ลน่ิ แอมโมเนยี ซง่ึ แอมโมเนยี เปน พษิ ตอ เหด็ ข.! หัวเชอ้ื ไมบริสุทธพิ์ ออาจมเี ชอ้ื จลุ นิ ทรียติดไปดวย ซึ่งจะทาํ ใหเ ชอ้ื เหด็ กอ นทจ่ี ะเดนิ ลางในปยุ ค.! การบรรจุปยุ ลงในภาชนะแนน เกนิ ไป จนอากาศภายในปยุ ไมม ี ง. ความช้ืนสงู เกนิ ไป เสน ใยจะเดนิ ชา หรอื แทบไมเ ดนิ เลย นอกจากนถ้ี า นง่ึ ดว ยหมอ นง่ึ ลกู ทงุ หากปุย มีความช้ืนสูงเกนิ ไป มกั เสยี เนอ่ื งจากเชอ้ื บกั เตรเี นา เหมน็ กน ถงุ ซ.! บม ไวใ นทม่ี อี ณุ หภมู ติ ่ําเกนิ ไป (30-35 C) 2. เชอ้ื เหด็ เสยี เนอ่ื งจากเชอ้ื อน่ื ปน ก. น่ึงไมไดท ี่ โดยเฉพาะนง่ึ ดว ยหมอ นง่ึ ความดนั ตอ งอยใู นสภาพสญู ญากาศจรงิ ๆ และความดนั ตอ ง ไมตํ่ากวา 15 ปอนดต อ ตารางนว้ิ และนานอยา งนอ ย 1-2 ชั่วโมง ข. ถาใชห มอ นง่ึ แบบลกู ทงุ การเจาะรูอาจจะโตเกินไป หรอื ใสเ ชอ้ื เพลงิ ไมส มา่ํ เสมอ ค. การเขี่ยเชื้อเพลงิ ไมด ีพอ หรอื อาจจะเนอ่ื งจากสถานทเ่ี ขย่ี เปน ทห่ี มกั หมมของเชอ้ื จลุ นิ ทรยี ต า ง ๆ มากเกินไป โดยเฉพาะอยา งยง่ิ ถา นง่ึ ดว ยหมอ นง่ึ ความดนั มกั มโี อกาสเสยี มากกวา
การทําเชอ้ื เหด็ ฟาง 13 ง. ภาชนะที่บรรจุรั่วหรือซึม จ. หมักปุยไมไดที่ ทําใหเ ชอ้ื จลุ นิ ทรียบางชนดิ เจรญิ ไดด ี เชน รารอ น แบคทีเรีย ฉ. ปุยหมักละเอียดเกินไปทาํ ใหแนน เวลาบรรจภุ าชนะยากตอ การฆา เชอ้ื ทําใหเ ชอ้ื อน่ื เจรญิ เตบิ โต แทนเชื้อเห็ด ฌ.! หัวเชื้อไมบริสุทธิ์ 3. เสน ใยเดนิ แลว หยดุ เดนิ เพยี งบาง ๆ ก. ปุยหมักๆ ไมไดที่ มกี ลน่ิ แอมโมเนยี หลงเหลอื อยู หรอื มกั เกนิ กําหนดทาํ ใหอ าหารเสอ่ื ม ข. อณุ หภมู ทิ ี่บม เช้อื ต่ํากวา 30 องศาเซลเซยี ส หรือเกิน 40 องศาเซลเซยี ส ค. ปุยหมักบรรจุแนนเกินไป อากาศไมม เี ชอ้ื เหด็ จะไมเ จรญิ ง. ปยุ หมกั มสี ว นผสมของวสั ดุ ทม่ี แี ทนเนนิ สงู เกนิ ไป เชน เปลอื กเมลด็ บวั หรอื ขยุ มะพรา ว 4.! เสนใยเหด็ มจี ดุ ขาว ๆ เนอ่ื งจากไขไ ร แสดงวาการทาํ ตัดตอจากหัวเชื้อที่มาจากปุยหมักเหมือนกัน แตต ดั ตอ มากเกนิ ไปจนกระทง่ั ไรมโี อกาส เล็ดลอดเขาไปได หรอื หองบม เตม็ ไปดว ยไร ควรฉดี ยาสาํ หรบั ฆา ไรรอบหอ งบม เชอ้ื เชน ยาดดี วี พี ี มาลาไธออน เคลเกน เปน ตน 5. เสน ใยฟเู ฉพาะผวิ หนา ปยุ ไมเดินลงไปในปุย ก.! บรรจุปุยแนนเกินไปและทาํ การหมักไมไดที่ ข.! ลักษณะประจาํ พนั ธุ ซง่ึ เปน พนั ธอุ อกดอกจํานวนมาก แตผ ลผลติ ตา่ํ ค.! ปุยหมักเปย กและบมเชื้อไวในทมี่ อี ณุ หภมู สิ ูงเกนิ ไป (ไมค วรเกนิ 38 องศาเซลเซยี ส) 6. มตี วั หนอนอยบู นหลงั จากเขย่ี เชอ้ื มักพบเสมอถา ใชถ งุ ทอ่ี ดุ จกุ สําลี เมอ่ื นง่ึ แลว เปย กหรอื มคี วามชน้ื สงู ดงั นน้ั จงึ ใชส าํ ลที ด่ี ดู ความชน้ื ได เลว หรืออาจใชใยสงั เคราะหก นั ไมใ หแ มลงวนั ขน ไขล งไป เพราะแมลงวนั ชนดิ นเ้ี มอ่ื ไขแ ลว จะเปน ตวั หนอน ชอนไชลงไปในถงุ เลย หากเปน มากควรฉดี ยาฆา แมลงทม่ี ผี ลตกคา งนอ ยบนจกุ สาํ ลี เชน มาลาไธออน เซฟวิน เปน ตน 7. เชอ้ื เหด็ รวมตวั กนั เปน ดอกแกเ รว็ ก. เชื้อเห็ดตัดตอหลายชวงเกินไปทาํ ใหเ ชอ้ื เหด็ ออ น และรวมตวั กนั เปน ดอกเรว็ ขน้ึ ดงั นน้ั หลงั จากเสน ใยเห็นเดนิ เตม็ แลว กค็ วรเกบ็ ไวม นทเ่ี ยน็ ๆ ไมใ หถกู แสงแดดไดยิง่ ดี ข. เปนลกั ษณะประจาํ พนั ธุ กลา วคอื พนั ธทุ ม่ี ปี อกหมุ บา งมกั มสี ขี าว เชอ้ื แกเ รว็ มาก ค. การตดั เนอ้ื เยอ่ื เหด็ อาจตดั มาจากเนอ้ื เยอ่ื เหด็ ทไ่ี มส มบรู ณ
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: