เอกสารเผยแพร อนั ดบั ท่ี 45 โดย ผศ.กระจา ง วสิ ทุ ธารมณ ภาควชิ าสตั วบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร พิมพเ ผยแพรโ ดย ศูนยสง เสรมิ และฝก อบรมการเกษตรแหง ชาติ สํานกั สง เสรมิ และฝก อบรม มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร จัดทําโอมเพจโดย : สํานกั บรกิ ารคอมพวิ เตอร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร จดั ทําเอกสารเผยแพรโดย : สาํ นกั สงเสรมิ และฝก อบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร สารบัญเนื้อหา ประโยชนข องการเลย้ี งเปด ……………………………. 1 พนั ธเุ ปด ……………………………. 1 โรงเรือนเปด ……………………………. 5 อุปกรณใ นการเลย้ี งเปด ……………………………. 6 การเตรยี มตวั ……………………………. 10 การเลย้ี งดเู ปด ……………………………. 11 สตู รอาหารเปด ……………………………. 12 โรคเปด ……………………………. 14
เพื่อใหไข เนอ้ื เปน อาหาร ชวยเพิ่มรายได ประหยัดทุน สามารถใชท ด่ี นิ และแหลง น้ําใหเปน ประโยชนมากข้ึน ใชเศษผัก เศษอาหารและปลาเปด ใหเ ปน ประโยชนไ ด ไดม ลู เปด เปน ปยุ เปด ทเ่ี ลย้ี งกนั อยทู ว่ั ไปมี 2 ประเภท คอื เปด พนั ธไุ ข เปด พนั ธเุ นอ้ื 1. เปด พนั ธไุ ข 1.1 พันธุกากีแคมเบลล พฒั นาพนั ธใุ นประเทศองั กฤษ จนไดเ ปน เปด พนั ธทุ ใ่ี หไ ขด ก ที่สุดในโลกพนั ธหุ นงึ่ โดยใหไขปละมากกวา 300 ฟอง เปด กากมี ขี นสนี ้ําตาล แตข นทห่ี ลงั และปก มสี สี ลบั ออ นกวา ปากดําคอ นขา งไปทางเขยี ว จงอยปากต่ํา ตาสนี ้ําตาลเขม คอสว นบนสนี ้ําตาล แตส ว นลา งเปน สกี ากี ขาและเทา สเี ดยี วกนั กบั ขน แตเขมกวา เลก็ นอ ย ตวั เมยี เมอ่ื โตเตม็ ทห่ี นกั ประมาณ 2.0-2.5 กก. เรม่ิ ไขเ มอ่ื อายปุ ระมาณ 4 1/2 เดอื น สว นตวั ผจู ะมขี นสีเขียวทีห่ ัว คอ ไหล และปลายปก ขนตวั สกี ากแี ละน้ําตาลขาและ เทาสกี ากเี ขม โตเตม็ ทห่ี นกั ประมาณ 2.5-2.7 กก. 1.2 พนั ธอุ นิ เดยี นรันเนอร เปน เปด ขนาดเลก็ ตวั ผโู ตเตม็ ทม่ี นี ้ําหนกั ประมาณ 1.7- 2.5 กก. ตวั เมยี มนี ้ําหนกั 1.5-2.0 กก. เปด พนั ธนุ ม้ี อี ยู 3 ชนิด คอื สขี าว สีเทา และสลี าย ลกั ษณะเดน ประจําพนั ธทุ แ่ี ปลกกวา เปด พนั ธอุ น่ื ๆ คอื การยนื คอตรงลําตวั เกอื บตง้ั ฉากกบั พน้ื ปากสีเหลือง แขง และเทาสีสม ตวั เมยี เรม่ิ ใหไ ขเ มอ่ื อายปุ ระมาณ 4 1/2 เดอื น ใหไขฟองโตและไขทน 1.3 พนั ธพุ น้ื เมอื ง ทีน่ ยิ มเลย้ี ง มี 2 พันธุ คอื เปด นครปฐม เลย้ี งกนั มากในเขตจงั หวดั นครปฐม เพชรบุรี สพุ รรณบรุ ี และในพน้ื ทล่ี มุ ซ่ึงเปนเขตน้ําจืด ตวั เมยี มขี นสลี ายกาบออ ย ปากสีเทา เทาสีสม ตัวผูม สี ีเขียวแกตัง้ แตคอไปถงึ หวั คอ ควน่ั ขาว อกสแี ดง ลําตัวสีเทา ปากสีเทา และเทาสีสม ตวั ผโู ตเตม็ ทห่ี นกั ประมาณ 3.0-3.5 กก. ตัวเมยี หนกั 2.5-3.0 กก. เรม่ิ ใหไ ขเ มอ่ื อายปุ ระมาณ 6 เดอื น
เปด ปากน้ํา เลย้ี งกนั มากในเขตจงั หวดั สมทุ รปราการ (ปากน้ํา) สมทุ รสาคร ฉะเชงิ เทรา และชลบรุ ี ตลอดจนจงั หวดั ทอ่ี ยชู ายฝง ทะเลอน่ื ๆ เปน เปด พนั ธเุ ลก็ ตวั เมยี มปี าก เทา และลําตวั สดี ํา อกสีขาว เฉพาะตวั ผูจะมขี นสีเขยี วบรอนซที่หวั ขนาดเลก็ กวา เปด นครปฐม ขนาดไขก เ็ ลก็ กวา เรม่ิ ใหไ ข เม่ืออายุ 5-6 เดอื น ตวั ผขู องเปด พนั ธพุ น้ื เมอื งนยิ มนําไปเลย้ี งเปน เปด เนอ้ื ในปจจุบัน เปด ไขพ นั ธพุ ้ืนเมืองแทแ ทบจะหมดไปจากวงการเล้ียงเปด ไขแ ลว เนอ่ื งจากมกี ารผสม พันธุกันระหวางพนั ธกุ ากแี คมเบลลก บั พนั ธพุ น้ื เมอื งมาเปน ระยะเวลายาวนาน จนกลายเปน เปด พนั ธุ ผสมแทบทั้งหมด พนั ธแุ ทส ว นใหญเ หลอื อยตู ามสถานที ดลองของกรมปศสุ ตั วเ ทา นน้ั 1.4 พันธุลูกผสมกากีแคมเบลลกับพื้นเมือง นิยมเล้ยี งกนั มากกวา พนั ธุแท เพราะเลี้ยง งายทนทาน ใหเ นอ้ื ดี และใหไขดก ประมาณ260 ฟองตอป อายทุ เ่ี รม่ิ ไขป ระมาณ 5 1/2-6 เดอื น 1.5 พันธุลูกผสม ไฮ-บริด พัฒนาพันธุโดยบริษัทเอกชนในตางประเทศเปนสวนใหญ แลวนําเขามาเลีย้ งใน เมืองไทย เรม่ิ เขา มามบี ทบาทในวงการเลย้ี งเปด มากขน้ึ พนั ธทุ น่ี ิยมเลย้ี ง เชน ซปุ เปอรด ค๊ั ลักษณะทว่ั ไปของเปด ทใ่ี หไ ขด ก - เปด มลี ําตวั ลกึ และกวา ง - ขนกรา นไมส วยงาม ไมพองฟู - นยั นต านนู เดน เปน ประกายสดใส - ชว งคอลกึ และแขง็ แรง - กน ยอ ยหอ ยเกอื บตดิ ดนิ - จบั ดหู นา ทอ งจะบางและนมุ - กระดกู เชงิ กรานกวา ง ทวารกวางและชื้น 2. เปด พนั ธเุ นอ้ื 2.1 พันธุปกกิ่ง มตี น กําเนิดจากประเทศจีน รปู รา งใหญโต ลําตวั กวา งลกึ และหนา ขนสขี าวลว น ปากสีเหลอื ง-สม แขงและเทาสีหมากสุก ผิวหนาสเี หลือง เลย้ี งงา ย ไมฟกไข ใหไ ขด พี อใชป ระมาณ 160 ฟองตอป เปลอื กไขส ขี าว เมอ่ื โตเตม็ ทต่ี วั ผหู นกั ประมาณ 4 กก. ตวั เมยี หนกั 3.5 กก. เปด ปก กง่ิ มี นิสัยคอนขางตน่ื ตกใจงา ย ผเู ลย้ี งควรระวงั เพราะอาจกระทบกับการเจริญเติบโตได ใชเ ลย้ี งไลท งุ ไมค อ ย ไดผล ควรเลย้ี งในเลา ทอ่ี ากาศถา ยเทไดส ะดวก จงึ จะเตบิ โตดี นอกจากใหเ นอ้ื แลว ขนเปด ปก กง่ิ ยงั เปน ท่ี ตองการของอตุ สาหกรรมผลติ ลกู ขนไก และใชทําฟกู ทน่ี อนไดด ว ย
2.2 เปดเทศ (Muscovy) มตี น กําเนดิ มาจากทวปี อเมรกิ าใต เปน เปด อกี พนั ธหุ นง่ึ ตา งหาก เมอ่ื ทําการผสม พนั ธกุ บั เปด พนั ธอุ น่ื จะใหลูกเปนหมัน เชน เปน พนั ธปุ ว ฉา ย เปด เทศใชอ าหารพวกพชื สดไดด คี ลา ย ๆ กับหาน เปน เปด ทใ่ี หเ นอ้ื ดแี ตใ หไ ขน อ ย และโตคอ นขา ง ชา จึงไมคอยมีผูนิยมเลี้ยงเปนการคา เปดเทศชอบฟกไขและเลี้ยงลูกไก มนี สิ ยั ชอบบนิ เมอ่ื โตเตม็ ทต่ี วั ผู จะมนี ้ําหนกั ประมาณ 4-4.5 กก. ตวั เมยี มนี ้ําหนกั 3.0-3.5 กก. เปด เทศมี 2 ชนิด คอื ชนดิ มสี ขี าว และชนดิ สดี ํา ทั้ง 2 ชนิด ทีบ่ รเิ วณหนา และเหนือจมกู มหี นงั ยนสีแดง เปด เทศชนดิ ทม่ี สี ขี าวจะมขี นสขี าว ผวิ หนงั สขี าว แขง สเี หลอื ง-สม ออ น ปากมสี เี นอ้ื ชนดิ สดี ํามี ขนที่หนาอก ลําตแั ละหลงั สดี ําประขาวปากสชี มพู แขง สเี หลอื งหรอื ตะกว่ั เขม 2.3 พันธุปวฉาย เปน เปด พนั ธผุ สมระหวา งเปด เทศกบั เปด ธรรมดา พนั ธพุ น้ื เมอื งของไทย ลกู เปดที่ไดจะเปนหมันทั้งเพศผูและเพศเมีย ลกั ษณะเปด พนั ธุนี้ท่สี ําคญั คอื โครงรา งใหญ เลบ็ แหลมดํา และวองไว กระโดดเกง กวา ลกู เปด ธรรมดา เลย้ี งงา ย โตเรว็ ไมเที่ยวหากินไกล ไมร อ งเสยี งดงั รสชาติ ของเนื้อดีกวาเปดธรรมดา เนอ้ื แนน มไี ขมนั ต่ํา ชาวจีน นยิ มบรโิ ภคมานานนบั รอ ยปแ ลว ในชว งตรษุ และสารทจนี ราคาดกี วา เปด ธรรมดามาก การเลย้ี งใชเ วลาประมาณ 3.5-4 เดอื น เปด ตวั ผจู ะมนี ้ําหนกั 3-3.5 กก. สว นตวั เมยี จะหนกั 2.5-3 กก. 2.4 พันธุลูกผสม ไฮ-บริด นํามาเผยแพรโดยบริษัทเอกชน มเี ลย้ี งกนั อยหู ลายพนั ธใุ นขณะน้ี เชน พันธุ เชอรว่ี อลเลย พันธุทีเกล พนั ธฮุ กั การด พันธุเลคการด เปน ตน ซง่ึ สว นใหญม กี ารพฒั นาพนั ธโุ ดยมี พันธุปกกิ่งผสมอยูดวย 2.5 พนั ธพุ น้ื เมอื ง มอี ยู 2 พันธุดวยกัน คอื พนั ธนุ ครปฐม เปน เปด ตวั ผทู ค่ี ดั ออกจากเปด พนั ธไุ ข และนํามาเลย้ี งเปน เปด เนอ้ื ไดร บั ความนิยมจากผเู ลย้ี งมากทส่ี ดุ เพราะลกู เปด ราคาถกู เลย้ี งงา ย และไดน้ําหนกั ดกี วา เปด พน้ื เมอื งพนั ธุ อ่ืน ๆ ใชเ วลาเลย้ี ง 3-4 เดอื น ได น้าํ หนกั เฉลย่ี 1.6-2.0 กก. ตวั ผจู ะมหี วั สเี ขยี วคอควน่ั ขาว อกสแี ดง ลาํ ตัวสีเทา และเทาสีสม พันธุกากีผสม เปน เปด ตวั ผทู ค่ี ดั ออกจากเปด ไขพ นั ธกุ ากผี สมและนํามาเลย้ี งเปน เปด พันธุเนื้อ เปน เปด พนั ธุ เลก็ น้าํ หนกั ไมค อ ยดี จงึ ไมน ยิ มเลย้ี งกนั มากนกั ใชเ วลาเลย้ี ง 4 เดอื น ได นา้ํ หนกั 1.3-1.6 กก.
การเลย้ี งเปด ตวั ผเู ปน เปด พนั ธเุ นอ้ื เดมิ ทเี ดยี ว ไมไ ดน ยิ มกนั มากนกั จนกระทั่งเกษตรกรแถบ นครปฐม สพุ รรณบรุ ี ฉะเชิงเทรา อยุธยา อา งทอง หลังจากทํานาแลว กล็ องซอ้ื ลกู เปด ตวั ผมู าเลย้ี ง จน กลายเปนความนิยมท่วั ไป โดยสว นมากนยิ มเลย้ี งเปด พน้ื เมอื ง การเลย้ี งกโ็ ดยอาศยั ใหเปดหากินเก็บ ขาวตกและลูกกุง ลกู ปลาตามหนอง คลอง บึง ตา งๆ ลักษณะทว่ั ไปของโรงเรอื นเปด ทด่ี ี ควรมีคณุ สมบตั ดิ งั ตอ ไปน้ี - กนั ลม แดด ฝน ได - อากาศภายในโรงเรอื นสามารถระบายถา ยเทอากาศไดด ี - สามารถรกั ษาความสะอาดไดง า ยไมเ ปน ทข่ี งั น้ํา - พื้นควรเปนพ้ืนทราย หรอื พน้ื ซเี มนต จะทําใหทาํ ความสะอาดไดง า ยและควรปแู กลบเปน วัสดรุ องพน้ื - ในบริเวณที่วางภาชนะใหน้ําควรมที ร่ี ะบายน้ํา พน้ื คอกตรงบรเิ วณทใ่ี หน ้ําควรใชพ น้ื ไม ระแนงหรือใชแผนซีเมนตแบบเดียวกับที่ปูคอกหมู ซง่ึ เปน ชอ งจะสามารถระบายน้ําไดด ี หรอื ทําเปน ตะแกรงลวดเพอ่ื วางทใ่ี หน ้ํา - สรางงาย ราคาถกู และใชว สั ดกุ อ สรา งทม่ี ใี นทอ งถน่ิ - หลังคาควรเปน หลงั คาจว่ั 2 ชั้น เพราะจะชวยใหระบายอากาศไดดี - ไมค วรเลย้ี งแนน จนเกนิ ไป อัตราสว นในการเลย้ี งตอ พน้ื ทค่ี อื เปด เลก็ 6-8 ตวั ตอ 1 ตารางเมตร เปด รนุ 5-6 ตวั ตอ 1 ตารางเมตร เปด ไข 4-5 ตวั ตอ 1 ตารางเมตร เปด เนอ้ื 7 ตวั ตอ 1 ตารางเมตร ทุกขนาด
1. เครอ่ื งกกลกู เปด ลูกเปดเมอ่ื ยงั เลก็ ๆ ยงั ไมม คี วามอบอนุ หรอื เครอ่ื งกน้ั ความหนาวเพยี งพอ เมอ่ื ถกู อากาศเยน็ ใน เวลากลางคืนหรอื ตอนเชา ๆ ก็จะหนาวสั่น ถา ปลอ ยไวเ ชน นน้ี านๆ ลูกเปดจะตายหรือแคระแกรนได จึง ตองมีเครื่องกกใหลูกเปด การกกลูกเปด สามารถทาํ ได 3 ลกั ษณะคอื ใชแมเ ปดกก ใชเครื่องกกที่ใชไฟฟา และใช เครื่องกกที่ไมใชไฟฟา 1.1 การกกดวยแมเปด เปน วธิ แี บบธรรมชาตใิ ชไ ดส ําหรับกรณีที่เลี้ยงเปดจํานวนไมม าก หรือใน การเลย้ี ง แบบหลังบาน มลี กู เปด ไมก ต่ี วั วิธีการกกที่นอกเหนือจากการใชวิธีธรรมชาติ เปน การกกทต่ี อ งใชเ ครอ่ื งมอื เขา ชว ย ซง่ึ มหี ลายวธิ ี ดงั น้ี 1.2 วิธีกกลูกเปนแบบงายๆ เปน การกกทน่ี ยิ มใชใ นชนบท กกโดยไมใ ชค วามรอ นชว ย โดยแบง ลูกเปดออกเปนฝงู ๆ ละ 100 ตวั สําหรบั ใสค อกนอนในเวลากลางคนื คอกนอนตอ งปด มดิ ชดิ พอควร เพื่อกันลมโกรก ภายในคอกแบง ออกเปน ชอ ง ๆ ขนาดกวา ง 1 เมตร ยาว 2 เมตร สาํ หรับเปด 100 ตวั ใชไมกระดานหรอื ไมไ ผก น้ั สงู จากพน้ื คอกประมาณ 25-30 เซนตเิ มตร ดา นบนทน่ี อนปด ดว ยกระสอบ ปาน เพอ่ื เกบ็ ความรอ นจากตวั ลกู เปด 1.3 วิธีกกดวยถานไฟหรือตะเกียงรั้ว โดยใชเ ตาอง้ั โลใ สถ า นไฟเปน แหลง ใหค วามรอ นทําใหภาย ในคอกอบอุน และตอ งมที ก่ี น้ั รอบๆ เตาเพอ่ื กนั ไมใ หล กู เปด พลดั เขา ไปถกู เตาอง้ั โล อาจใชถ งั น้ํามนั ขนาด 200 ลติ ร ตดั ใหส งู 20 เซนตเิ มตร หรอื จะใชล วดตาขา ยหรอื ไมไ ผส านกน้ั โดยรอบกไ็ ด การใชต ะเกยี งรว้ั น้ํามนั กา ดเปน แหลง ใหค วามรอ นในการกกลกู เปด กไ็ ดผ ลดี เพื่อใหเก็บและแผ กระจาย ความรอ น ไดด ขี น้ึ ควรมฝี าชสี งั กะสหี รอื อลมู เิ นยี มครอบ หยอ นใหข อบฝาชสี งู จากพน้ื ประมาณ 20 เซนติเมตร รอบนอกควรมแี ผงลอ มกกอกี ชน้ั หนง่ึ หากปูพื้นคอกดวยแกลบ ควรมแี ผน โลหะรองใต เตาเพอ่ื ปอ งกันไมใหเ กดิ ไฟไหม
1.4 วิธีกกดวยแกส เครื่องกกดวยการใชแกส ประกอบดว ยเตา ฝาชีหรือตัวกกและถังแกส พรอมดวยอปุ กรณส ําหรบั ควบคมุ ความรอ นในระดบั ทต่ี อ งการตามอายลุ กู เปด 1.5 การกกดวยไฟฟา นับวาเปนวิธีที่สะดวกที่สุด ซง่ึ อาจจะเปน เครอ่ื งกกแบบฝาชี ใชห ลอดไฟ ธรรมดาเปนแหลงใหค วามรอ น หรอื ใชล วดรอ นเปน แหลง ใหค วามรอ น หรอื จะใชห ลอดไฟอนิ ฟราเรด 2-3 หลอด แขวนใหส งู จากพน้ื คอกประมาณ 18-20 เซนตเิ มตร จะเพียงพอสําหรับการกกลูกเปด ประมาณ 100 ตวั 1.6 การกกลกู เปด แบบกรง การเลย้ี งลกู เปด สามารถทําอยา งงา ย ๆ โดยใชไ มไผห รอื ลวดตาถี่ปู พื้น ถาใชไ มไ ผป พู น้ื ควรใชล วดขนาด 1/2 นว้ิ ปูทับอีกชั้นหนึ่ง ลวดทใ่ี ชค วรเปน ลวดตาสเ่ี หลย่ี มเพราะ ไมคม ซึ่งอาจตําเทา ลกู เปด ได ถา หากไมไ ดต อ งใชล วดตาหกเหลย่ี ม ควรเปน ลวดขนาดใหญ ถา มกี รง เล้ียงลูกไกอ ยแู ลว กใ็ ชเ ลย้ี งลกู เปด ได กรงขนาด 1 x 2 เมตร เลย้ี งลกู เปด ได 50 ตวั จนถงึ อายไุ มเ กนิ 1 เดือน หรอื จนโตพอทจ่ี ะเอาลงเลย้ี งปลอ ยฝงู ได กรงกกควรกั้นทึบ 3 ดา น ประมาณ 1 ใน 3 ของกรงดา นใดดา นหนง่ึ ดา นทก่ี น้ั ทบึ ควรเปด สว น บนติดกับขอบกรงลงมาประมาณ 10 เซนตเิ มตร เปน ชอ งระบายอากาศ โดยเฉพาะถาใชตะเกียงรั้วกก ชองน้ีจะเปน ชอ งระบายแกส หรอื ควนั เสยี ออกดว ย สว นอกี 2 ใน 3 ของกรงดา นบนควรเปด หรอื ปด ดว ยลวดตาขา ย เพอ่ื ใหโ ปรง ดา นขา งจะปด ทบึ หรือจะใชลวดตาขา ยก็ได ดา นหนา ของสว นทใ่ี ชก กควรใชผ า หรอื กระสอบปา นตดั เปน รว้ิ ทาํ เปน มา นกน้ั ใหขอบสูงจากพื้นกรงประมาณ 5 เซนตเิ มตร เพอ่ื เกบ็ ความอบอนุ ภายในกก ถา อากาศหนาวจดั อาจตอ ง ใชผาหรอื กระสอบปา นปด ขา งกรงโดยรอบกไ็ ด อณุ หภมู ทิ เ่ี หมาะสมในการกกลกู เปด นน้ั ควรจะสงั เกตจากปฏกิ ริ ยิ าของลกู เปด เพราะลูกเปดจะ บอกไดดีกวาวาไดร บั ความอบอนุ ทพ่ี อดหี รอื ไม ถา ลกู เปด สมุ กนั เปน กลมุ และมเี สยี งรอ ง แสดงวา อนุ ไม
พอตองเพิ่มความรอ น ถา ลกู เปด กระจายอยนู อกกกยนื อา ปากหอบและกางปก แสดงวา รอ นเกนิ ไป ตอ ง ลดความรอนลง ถา อณุ หภมู กิ ําลงั พอดลี กู เปด จะนอนราบกบั พน้ื กระจายอยทู ว่ั ไปในกกและรมิ กก ขอควรพจิ ารณาในการกกลกู เปด 1. จํานวนลกู เปด ทก่ี กตอ ครง้ั หากกกลูกเปดจํานวนไมม าก อาจใชล งั ไมด ดั แปลงเปน กรงกกกไ็ ด โดยสุมฟางไวร อบๆ ลงั ไม เพอ่ื ใหล กู เปด อบอนุ ไมจําเปน ตอ งสรา งกรงกกอยา งมาตรฐาน 2. ความสะดวกในการใชไ ฟฟา หากบริเวณที่เลี้ยงเปดมีไฟฟาถึงอาจใชหลอดไฟฟาเปนแหลง ความรอนในการกกลกู เปด ไดห ลอดไฟฟา 60 แรงเทียน 2 หลอด สามารถกกลกู เปด ได 120-150 ตวั ถาไมมีไฟฟาก็อาจใชตะเกียงรั้วแทนหลอดไฟก็ได นอกจากนแ้ี ลว เตาถา นอง้ั โลห รอื ตมุ เกา ๆทใ่ี สถ า นไม ไวขางในกอ็ าจใชเ ปน แหลง ใหค วามอบอนุ แกล กู เปด ไดด เี ชน กนั 3. ฤดูท่ีเขา ลกู เปด หากเขา ลกู เปด ในฤดรู อ นกอ็ าจไมจ ําเปน ตอ งสรา งกรงกกดนี กั แตถ า เขา ลูกเปดในฤดูหนาว กรงกกลกู เปด ควรสรา งใหไ ดม าตรฐาน เพอ่ื ใหก รงกกนน้ั เกบ็ ความรอ นไดอ ยา งมี ประสิทธิภาพ ซึ่งจะขวย ประหยดั คา ไฟฟา าหรอื คา น้ํามนั เปน อนั มาก 4. ภยั อนั ตรายจากสตั วอ น่ื หากบรเิ วณทเ่ี ลย้ี งเปด มสี นุ ขั นกฮกู หนู แมว และงูมาก ควรลอ ม กรงกกดว ย ตาขา ยลวด
5. เนอ้ื ทก่ี รงกก ไมวาจะเลือกใชกรงแบบไหน ควรสรา งกรงกกใหม เี นอ้ื ทพ่ี อเหมาะกบั จํานวนลกู เปดท่ีตอ งการจะกก ในเนอ้ื ท่ี 1 ตารางฟตุ ไมค วรกกลกู เปด เกนิ 7 ตวั หรือ 1 ศอกสเ่ี หลย่ี มตอ ลกู เปด 10 ตวั อตั ราสว นนใ้ี ชส ําหรับกกลูกเปดจํานวนเกนิ 100 ตวั ตอ ครง้ั ถากกเปดจํานวนนอ ย เนอ้ื ทต่ี อ ง เพ่ิมมากข้ึน หากเนื้อที่กกแคบไป ลกู เปด จะไมส ามารถหนคี วามรอ นได แตถา เน้ือทก่ี กกวา งไป ลกู เปด บางตัวอาจหนาวตายเพราะอยูไกลจากบริเวณ ทค่ี วามรอ นไปถงึ 2. รางอาหาร ควรทํา 3 ขนาด คอื ขนาดเลก็ สําหรบั ลกู เปด ขนาดกลางสําหรบั เปด รนุ และขนาดใหญ สําหรับ เปดไข ภายในรางอาหารควรยารอยตอ กนั รว่ั เพราะเรานยิ มเลย้ี งเปด ดว ยอาหารเปย ก 3. รางนํ้า
สาํ หรับลกู เปด ควรใชแ บบกระติกน้ํา ซง่ึ หาซอ้ื ไดใ นทอ งตลาด หากหาซ้อื ลําบากก็อาจทําราง อาหารขนาดเล็กที่ยารอยรั่วอยางดีใชแทนก็ได ขอ สําคัญคือ ตอ งมรี างไมก นั ไมใ หล กู เปด ลงเลน น้ําได เพราะจะทําใหล กู เปด หนาวตาย ถา บรเิ วณทเ่ี ลย้ี งเปด มตี น ไผม าก อาจจะใชต น ไผล ําโตๆ ผา เปน รอ งแลว ฝงดนิ ใชเ ปน รางน้ําสําหรบั ลกู เปด กไ็ ดผ ลดี และเปนการประหยัดดวย คอยเตมิ น้ําสะอาดอยเู สมอและทํา ความสะอาดกระถางน้ําวนั ละครง้ั สว นรางน้ําสําหรบั เปด ใหญน น้ั อาจใชอ า งดนิ เผาหรอื กะบะไมท ย่ี ารรู ว่ั ไวเรียบรอย ควรมไี มก นั ไมใ หเ ปด ลงไปเลน น้ําได ถา เลย้ี งเปด เปน จํานวนมากอาจสรา งรางน้ําขนาดใหญ ดวยซีเมนต แลว ปลอ ยใหน ้ําไหลผาน น้าํ จะสะอาดอยตู ลอดเวลา ถงึ แมเ ปด จะลงไปเลน น้ํากต็ าม รางน้ําควรวางใหห า งจากรางอาหารพอควร เพอ่ื บงั คบั ใหล กู เปด ไดเ ดนิ ไปกนิ น้ําและอาหาร เปน การออกกําลงั กาย กอนลูกเปด มาถงึ ควรเตรยี มตวั ในเรอ่ื งตา งๆ ที่จําเปน ไวใ หพ รอ ม ดงั น้ี 1. ทําความสะอาดโรงเรอื นและอปุ กรณก ารเลย้ี ง พรอ มทง้ั ฆา เชอ้ื โรคทง้ิ ไวไ มน อ ยกวา 7 วัน 2. ใสแ กลบหรอื สง่ิ รองพน้ื อน่ื ๆ ที่ใหมและสะอาด รองพน้ื คอกใหห นาประมาณ 4 นว้ิ 3. จดั วางเครอ่ื งกกพรอ มเครอ่ื งใหค วามอบอนุ เชน ตะเกยี งรว้ั หรือหลอดไฟ และใหเ ครอ่ื งกกอบ อุนเพยี งพอเมอ่ื ลกู เปด มาถงึ 4. มแี ผงลอ มเครอ่ื งกก กนั ไมใ หล กู เปด ออกหา งจากเครอ่ื งกกมากเกนิ ไป แผงลอ มเครอ่ื งกกอาจ ใชลวดตาขายไมก ระดานหรอื สงั กะสแี ผนเรียบ สงู ประมาณ 50 เซนตเิ มตร วางหา งจากเครอ่ื งกก ประมาณ 2 ฟุต ในระยะการกก 2-3 วนั แรก 5. เตรียมทีใ่ หน้ําและอาหารไวใ หพรอ ม และมีปริมาณเพียงพอ มนี ้าํ สะอาดไวใ หกนิ วางทใ่ี หน ้ํา และอาหารใหทั่วถึง 6. เพอ่ื ใหล กู เปด กนิ อาหารเปน เรว็ ขน้ึ ควรปพู น้ื บรเิ วณเครอ่ื งกกดว ยกระสอบปา นเกา ๆ ที่สะอาด แลวโรยอาหารใหกินอยาใชกระดาษปูเพราะกระดาษจะลื่นทําใหล กู เปด ขาเสยี ได
การเลย้ี งดเู ปด 1. ลกู เปด อายุ 1 วนั ถงึ 3 สัปดาห ควรใหค วามอบอนุ อาจใชห ลอดไฟฟากก หรือกกดวยตะเกียง นา้ํ มนั กา ด 2. อยา ใหล กู เปด เลก็ ลงเลน น้ํา หรอื ภาชนะใสน ้ําควรมที ก่ี น้ั ไมใ หเ ปด ลงไปเลน เพราะลกู เปด เลก็ ขนเปย กงา ยเพราะยงั ไมม ตี อ มน้ํามนั ทช่ี ว ยใหข นเปด เปน มนั จงึ เปย กน้ําไดง า ย จะทําใหเปดหนาวและ เปดปอดบวมไดง า ย หรอื ตายได 3. ลกู เปด อายุ 1 วัน อาหารทใ่ี หค วรเปน น้ําและกรวดหรือทรายหยาบ และใหกินพวกปลายขาว ละเอียดหรือขาวโพดปนบาง 4. เมอ่ื ลกู เปด อายุ 2-6 วัน ใหอ าหารออ นทย่ี อ ยงา ย ใชข า วสกุ 2 สว นผสม อาหารลกู ไก 1 สวน คลุกน้ําพอหมาดโปรยใสถาดใหกิน หรือจะใหอาหารผสมสําหรบั ลกู เปด กนิ เลยกไ็ ด 5. เมอ่ื ลกู เปด มอี ายุ 1-4 สัปดาห จะเตบิ โตแขง็ แรงควรหน่ั ผกั สดหรอื หญา ขนหน่ั ฝอยปนดว ย คอยลดจํานวนขา วสกุ ลง ใหอ าหารผสมมากขน้ึ หรือจะใชรําละเอยี ดตม กบั ปลาเปด หรอื ถว่ั เขยี วตม หน่ั ผักผสมคลุกใหกิน การใหอ าหารลกู เปด ควรใหก นิ คราวละนอ ยๆ ในตอนแรก เมอ่ื ลกู เปด กนิ อาหารเกง แลว ใหอ าหาร ทุก 2-3 ชั่วโมง และตอ ไปลดลงใหว นั ละ 3 ครง้ั ใหม ากพอทล่ี กู เปด จะกนิ ไดเ กอื บตลอดเวลาเมอ่ื อายไุ ด 1 อาทิตย แตอยาใหจนเหลือ และตอ งคอยดคู วามสะอาดอยา ใหเ ศษดนิ และสง่ิ สกปรกลงไปในอาหาร หรอื มดขน้ึ 6. อาหารเปด ระหวา งอายุ 1-4 เดอื น ระยะนเ้ี ปน ระยะของการเจรญิ เตบิ โตเรว็ อาหารที่ใหจะ เปนอาหาร ผสมทข่ี ายตามรา นขายอาหารสตั วก ไ็ ด หรอื จะใชป ลายขา วรําหยาบ รําละเอยี ด ผัก เศษ ปลาตม หรือปลาปน ผสมลงไปกบั ใบกระถนิ ปน เลก็ นอ ย คลกุ ใหเ ขา กนั 7. เมอ่ื เปด อายุ 4 เดอื นขน้ึ ไป จะสาวเตม็ ทแ่ี ละรอการไข อายรุ าว 4 1/2-5 เดอื น ควรใหอาหาร พวกปลาเปด หอยเลก็ ๆ รําหยาบ รําละเอยี ด ปลายขา ว หรอื ถา ไมม ปี ลาเปด กใ็ ชป ลาปน ผสมลงไป กับใบกระถนิ ปน เลก็ นอ ย การเลย้ี งดเู ปด ไข 1. การยา ยเปด สาวทจ่ี ะเขา เลย้ี งในคอกเปด ไข ควรยา ยกอ นทเ่ี ปด จะเรม่ิ ไขป ระมาณ 2-3 อาทติ ย เพอ่ื ใหเ ปด เคยชนิ กบั คอกใหม 2. การใหน ้ําเปด ไขค วรมนี ้ําสะอาดใหก นิ ตลอดเวลาทใ่ี หน ้ําควรทําเปน ลานคอนกรตี ปอ งกนั พน้ื คอกชน้ื แฉะเพราะเปด เวลากนิ น้ําชอบใชทําใหพื้นคอกเปยกที่ใหนํ้าควรมที ร่ี องพน้ื และมที ร่ี ะบายน้ําไดด ี 3. การใหอาหาร ถา เลย้ี งแบบในน้ําหรอื ลําคลองเปด สามารถหาลกู กงุ ลกู ปลาและหอยเลก็ ๆ กนิ ได ใหอาหารพวก รําหยาบ รําละเอยี ด ปลายขา ว หรอื ขา วเปลอื กผสมใหก นิ หรอื ถา อยใู นแหลง ทม่ี ปี ลาเปด ใชป ลาเปด ตม หรอื สบั หรอื บดผสมกบั รําหยาบ รําละเอยี ด ปลายขาวหรือ ขา วโพดใหกนิ หรอื อาจจะใหอ าหารผสมตามสตู รทใ่ี หม ากไ็ ด หรอื ซอ้ื หวั อาหารเปด มา ผสมกับพวกรํา ปลายขา ว ขาวโพด ใหเ ปด ไขก นิ กไ็ ดเ ชน กนั แลวแตผูที่จะเลี้ยง
4. การใหแสงสวา ง ในระยะเปด ไข ควรใหแ สงสวา งวนั ละ 16-18 ชั่วโมง เพื่อชวยในการทําให เปดไขดีข้ึนโดยใชแ สงไฟนอี อนหรอื หลอดไฟธรรมดา หรอื ใชแ สงสวา งตามธรรมชาตปิ ระมาณ 12 ชั่วโมง แลว ตอนหวั ค่ําเปด แสงไฟนอี อนประมาณ 2 ชั่วโมง และเชา มดื เปด อกี 2-3 ชั่วโมง หลอดไฟแสง สวางควรตดิ สงู จากพน้ื ดนิ ประมาณ 2.4 เมตร หรือ 8 ฟุต ควรแขวนหลอดไฟใหกระจายทั่วคอก 5. ควรมรี งั ไข ขนาดกวา ง 12 x 14 นว้ิ สูง 12 นว้ิ ดา นบนและดา นหนา เปด ใชฟ างหรอื แกลบ รองพื้น รงั ไข ใชอ ตั รา 1 รงั ตอ เปด 3-5 ตวั การเลย้ี งดเู ปดเน้อื การเลี้ยงเปดเนือ้ เปน การคา เพง่ิ เรม่ิ ตน ในประเทศไทยไมน านมานเ้ี อง เดมิ นน้ั ใชเ ลย้ี งเปด พน้ื เมืองหรือลูกผสม โดยคดั เอาตวั ผเู ปน เปด เนอ้ื สง ตลาด ปจ จบุ นั เนอ่ื งจากมพี นั ธไุ ฮบรดิ เขามามาก ซง่ึ เปน พันธุที่เลี้ยงงายโดยเร็ว จงึ นยิ มเลย้ี งกนั มากและการซอ้ื ขายปจ จบุ นั เปลย่ี นแปลงมาจากการขายเหมาตัว แบบสมยั กอ น มาชง่ั ขายตามน้ําหนักทําใหผ เู ลย้ี งไมข าดทนุ 1. การเลย้ี งดเู ปด เนอ้ื การเลย้ี งดเู ปด เลก็ ๆ ในชว งอายุ 1-4 อาทติ ยก เ็ ลย้ี งเชน เดยี วกบั เปด ไข มี การกก ใหอ าหารผสมสําหรับลูกเปด(โปรตนี 20-22 เปอรเ ซน็ ต) 2. เมอ่ื เปด เนอ้ื มอี ายไุ ด 4 อาทติ ย จงึ เรม่ิ ใหอ าหารระยะขนุ ซง่ึ มโี ปรตนี 16-18 เปอรเ ซน็ ต อาหารพวกพืชผักสดคงใหกินตามเดิม อาจจะใหอ าหารผสมทข่ี ายตามทอ งตลาด หรอื อาหารอดั เมด็ ให เปดเนอ้ื กนิ กไ็ ด เมอ่ื เปด อายุ 6-7 อาทติ ย จงึ จบั สง ตลาดได 3. ขอ ควรระวงั สําหรบั การเลย้ี งเปด เนอ้ื พวกลกู ผสมไฮบริด เนอ่ื งจากเปด พวกนโ้ี ตเรว็ ควรจะให แรธาตุพวกแคลเซี่ยม ฟอสฟอรสั ผสมในอาหารพรอ มทง้ั ไวตามนิ ดใี หเ พยี งพอ หรอื อาจจะเพม่ิ เปลอื ก หอยใสรางแยกใหก นิ ตา งหาก ในระยะขนุ เพอ่ื ชว ยไมใ หเ ปด ขาออ นหรอื ขารบั น้ําหนักตัวไมไหว 4. การเลย้ี งเปด เนอ้ื ควรเลอื กพนั ธเุ ปด ทม่ี ขี นสขี าวเพราะสะดวกในการถอนขนและขายงา ย แต พันธุเปดเน้ือปจ จบุ นั นข้ี นมกั จะสขี าวตามความนยิ มของตลาดอยแู ลว วัสดุที่ใช (กก.) เปด เลก็ เปด รนุ เปดไข-พนั ธุ (0-8 สปั ดาห) (0-2.0 สปั ดาห) ปลายขา ว 23.0 ราํ ละเอยี ด 26.0 15.0 20.0 ราํ หยาบ 20.0 20.0 20.0 กากถว่ั เหลอื ง 20.0 40.0 8.0 ใบกระถนิ ปน 10.0 8.0 6.0 ปลาปน 3.0 3.0 10.0 กระดูกปน 16.0 10.0 3.5 1.5 2.5
เปด เลก็ เปด รนุ วัสดุที่ใช (กก.) เปดไข-พนั ธุ (0-8 สปั ดาห) (0-2.0 สปั ดาห) 1.0 7.0 ไดแคลเซย่ี มฟอสเฟต - - 0.5 1.0 เปลอื กหอยปน 2.0 - 100.0 เกลอื ปน 0.5 0.5 ไวตามนิ -แรธ าตุ 1.0 1.0 รวม 100.0 100.0 หมายเหตุ เปนสตู รอาหารเปด ของภาควชิ าสตั วบาล สูตรอาหารเปด ไข แบบใชห วั อาหาร เปด สาว เปด ไข (กอ นไข) วัสดุที่ใช (กก.) สูตรที่ 1 สูตรที่ 2 สตู รท่ี 3 สูตรที่ 4 20.0 30.0 30.0 30.0 30.0 - หัวอาหารเปดไข 30.0 15.0 - ขาวโพดหรอื ปลายขา ว - - 40.0 ขาวเปลือก - 90.0 - - 25.0 มนั เสน - 15.0 30.0 10.0 ราํ ละเอยี ด 45.0 - 40.0 35.0 5.0 ราํ หยาบ 45.0 - 40.0 - 100.0 ใบกระถนิ ปน - - 5.0 150.0 - - 100.0 รวม 120.0 140.0 สูตรอาหารเปด ไขแ ละเปด ผสมพนั ธุ วัสดุที่ใช เปดไข (กก.) เปดผสมพันธุ (กก.) มนั แหง ราํ ละเอยี ด 30* (มนั เสน ) 15** (มนั เสน บด) ใบกระถนิ แหงปน ปลายขา ว 40 35 หัวอาหารเปดไข หัวอาหารเปดพันธุ 15 5 รวม - 20 15 - - 25 100 100 * อาจใชม นั หมกั 90 กก. หรือ มนั ตม 90 กก. ** อาจใชม นั หมกั 45 กก. หรือ มนั ตม 45 กก.
โรค คือ อาการที่ทําใหร างกายของสตั วผดิ ไปจากสภาพปกติ รา งกายไมส ามารถปฏบิ ตั งิ านใน ทางสรีรวทิ ยาได เชน ไมก นิ อาหาร หงอยซึม รา งกายซบู ผอม ทําใหเ ปด ถงึ แกค วามตายได จํานวนเปด ปวยในฝูงยิ่งมากขึ้น เทา ใดยอ มหมายถงึ การสญู เสยี มากขน้ึ เทา นน้ั โรคระบาดรายแรง อาจทําใหการ เล้ียงเปด ตอ งเลกิ ลม ได สาเหตขุ องโรคเปด แบง ไดเ ปน 1. โรคตดิ ตอ เปน โรคทเ่ี ปน แลว จะตดิ ตอ กนั และระบาดถงึ กนั ไดอ ยา งรวดเรว็ สว นมากจะเปนโรคท่ตี ิดจากเชือ้ ไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว เชอ้ื ราและพยาธติ า งๆ 2. โรคทไ่ี มต ดิ ตอ ไดแกโรคที่เปนเฉพาะตัว เชน โรคขาดธาตอุ าหาร และไวตามนิ เกลอื แรต า งๆ โรคที่เกิดจากการ บาดเจบ็ โรคที่เกิดจากสิ่งที่เปนพิษ โรคเปดที่สําคัญคือ 1. โรคตบั อกั เสบตดิ ตอ ของลกู เปด (Duck virus hepatitis) 1.1 สาเหตุ เกิดจากเชื้อไวรัส มอี ตั ราการตายสงู มกั เกดิ กบั ลกู เปด อายุ 1 วนั จนถงึ 4 อาทิตย สวนลูกเปด อายุ 1 เดอื นมกั ไมเ ปน โรคเพราะมคี วามตา นทาน 1.2 อาการ ลกู เปด แสดงอาการโรคนช้ี นดิ เฉยี บพลนั คอื ไมเ คลอ่ื นไหวชว่ั ขณะแลว จะลม ลงนอน ตะแคง ชักอกแอน คอหงาย เทาทั้งสองแสดงทาพุยนํ้าไปขา งหลงั และตายภายใน 30 นาที ลกู เปด อายุ 1 วันหากไดร บั เชอ้ื จะแสดงอาการของโรครวดเรว็ มากภายใน 26 ชว่ั โมงหลงั รบั เชอ้ื 1.3 การปอ งกนั โรค ใหทําวัคซีนโดยใชแทงที่พังผืดเทาเปดจะไดคุมโรคไดภายใน 2 วัน หรอื อาจ ใชซ รี ัมฉีดปอ งกนั โรคระบาด โดยเก็บโลหิตจากเปดที่เคยปวยและหายจากโรคนี้แลวนํามาแยกเอาซรี มั ใชสําหรบั ฉดี ปอ งกนั และรกั ษาโรคนไ้ี ด หรือใชพ ันธุที่ตานทานโรค 2. โรคเพล็ก (Duck plague) เกดิ ขน้ึ ครง้ั แรกในประเทศไทยป 2519 โรคนร้ี ะบาดรวดเรว็ มากและมอี ตั ราการตายสงู 2.1 สาเหตุ เกิดจากเชื้อไวรัส 2.2 อาการ เปด จะแสดงอาการขาออ น นอนหมอบ ตวั สน่ั ตอ มาไมช า จะเกดิ อาการอมั พาต เปด กระหายน้ําจัด บางทมี นี ้ําลาย (dischrge)เหนียวๆ ไหลออกจากปาก ตาแฉะ จมูกสกปรก หายใจมีเสียง ครืดคราด ทองเดิน อจุ จาระสขี าว และจะตายภายใน 24 ชั่วโมง ระยะฟก ตวั ของโรคตง้ั แตต น จนแสดง อาการเหลา นป้ี ระมาณ 1 สัปดาห 2.3 การปอ งกนั - ทําวคั ซนี ปอ งกนั โรคเพลก็ - ปอ งกนั พาหะนําเชื้อ - มกี ารจดั การสขุ าภบิ าลในฟารม ทด่ี ี - ใหอาหารคุณภาพดี เพอื่ ใหเ ปดแข็งแรง
2.4 การทําวัคซีน ครง้ั แรกเมอ่ื เปด อายุ 1 เดอื น-ครง้ั ท่ี 2 อายุ 3 เดอื น ครง้ั ท่ี 3 อายุ 6 เดอื น และทําซํ้าทุกๆ 6 เดอื น โดยฉดี เขา กลา มเนอ้ื หนา อกหรอื ขา ตวั ละ 1 ซีซี. 3. โรคอหวิ าตเ ปด (Duck cholera) เปน โรคระบาดทส่ี ําคญั โรคหนง่ึ ของเปด 3.1 สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย 3.2 อาการ เบอ่ื อาหาร กระหายนํ้าจัด มไี ขส งู อจุ จาระมลี กั ษณะเปน มกู ขาวตอ มามสี เี ขยี วออ น ปน อัตราการตายสงู ถงึ 50 เปอรเ ซน็ ต เปดอาจตายโดยกระทันหัน มผี วิ หนา คล้ํา มกั พบขอ หัวเขา และ ขอเทาบวมในเปด บางตวั โรคนพ้ี บมากในเปด ทม่ี อี ายตุ ง้ั แต 4 สปั ดาหข น้ึ ไป 3.3 ปอ งกนั - ทําวคั ซนี ปอ งกนั อหวิ าต ฉดี ตวั ละ 1-2 ซี.ซี. ตามขนาดของเปด - การสขุ าภบิ าลในฟารม ทด่ี เี ปน สง่ิ ทจ่ี ําเปน - ปอ งกนั พาหะนําเชอ้ื โรค - ใหอ าหารอยา งสม่ําเสมอ เพียงพอ และมคี ณุ ภาพดเี พอ่ื ใหเ ปด แขง็ แรงสามารถตา นทาน โรคได - ใชยาพวกซัลฟา ละลายน้ําใหก นิ หรอื ผสมในอาหาร 3.4 การทําวคั ซนี อหวิ าต ทาํ เมอ่ื เปน อายไุ ด 1 เดอื น และฉีดซ้ําทุกๆ 3 เดอื น โดยฉดี เขา กลา ม ตวั ละ 2 ซี.ซี. 4. โรคบิด (Coccidiosis) โรคนเ้ี ปน อนั ตรายมากกบั ลกู เปด ถา พน้ื โรงเรอื นชน้ื แฉะมโี อกาสเปน โรคไดง า ยเพราะเปด ชอบน้ํา 4.1 สาเหตุ เกิดจากเชื้อโปรโตซัว 4.2 อาการ ทอ งรว งและอาจมโี ลหติ ปนมากบั อจุ จาระ เนอ่ื งจากลําไสอ กั เสบอยา งแรง 4.3 การปอ งกนั รกั ษา - การจดั การสขุ าภบิ าลในฟารม ใหด เี ปน วธิ ที ด่ี ที ส่ี ดุ และหมั่นดูแลรักษาพื้นคอกใหแหง อยูเสมอ ที่ใหนํ้าควรมตี ะแกรงรอง และมชี อ งระบายน้ําออก - อยา เลย้ี งเปด ตา งอายปุ นกนั - ใหอาหารกนิ ใหเตม็ ท่ี - ใชยาพวกซัลฟาผสมนํ้าหรอื อาหาร เชน ซลั ฟานอ กซาลีน, ซัลฟาเมทาซีน หรือ ไนโตรฟวราโซน
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: