Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การวินิจฉัยศัตรูพืช เล่ม 2 (ยางพารา)

การวินิจฉัยศัตรูพืช เล่ม 2 (ยางพารา)

Description: การวินิจฉัยศัตรูพืช เล่ม 2 (ยางพารา).

Search

Read the Text Version

50 ปี กรมส่งเสรมิ การเกษตร (พ.ศ. 2510 - 2560) ความหมายของตราสัญลกั ษณ์ l ตัวเลข 50 พร้อมข้อความ “50 ปี กรมสง่ เสรมิ การเกษตร” และ ตราสัญลกั ษณก์ รมส่งเสรมิ การเกษตร แทนวาระครบรอบ 50 ปี สถาปนากรมสง่ เสรมิ การเกษตร ออกแบบให้ตวั เลข 50 เก่ยี วพันกนั เหมอื นสญั ลักษณ์ infinity ซึ่งหมายถงึ ความไมม่ ที ส่ี ิน้ สดุ l ใบไม้ แสดงถึงสญั ลักษณ์ทางการเกษตร มาจากตราสญั ลักษณป์ ระยกุ ต์ ของกรมสง่ เสริมการเกษตร ความหมายเป็น 50 ปีท่ีมุ่งม่ันปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง ดว้ ยความสามคั คีและเป็นน�้ำหนง่ึ ใจเดยี วกนั เปน็ ผสู้ ง่ เสริมนำ� ความสำ� เร็จ ความกา้ วหนา้ มาสู่กิจการเกษตรกรรมด้านต่างๆ และมีการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรเพ่ือประโยชน์ แก่เกษตรกรตลอดไป



เอกสารคำ� แนะนำ� ท่ี 4/2561 การวินิจฉยั ศตั รูพชื เลม่ ที่ 2 (ยางพารา) พมิ พ์คร้ังท่ี 1 : จ�ำนวน 5,000 เล่ม เมษายน พ.ศ. 2561 จดั พมิ พ ์ : กรมส่งเสรมิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิมพท์ ่ี : บรษิ ทั นวิ ธรรมดาการพิมพ์ (ประเทศไทย) จำ� กัด

คำ�นำ� เอกสารค�ำแนะน�ำ เร่ือง การวินิจฉัยศัตรูพืช เล่มที่ 2 (ยางพารา) ได้รวบรวมความรู้และข้อมูลที่ เกี่ยวกับศัตรูพืชของยางพารา ประกอบด้วยข้อมูลของชื่อโรค และแมลงศัตรูพืชสาเหตุ ลักษณะการเข้าท�ำลาย การแพร่ระบาด และตัวอย่างรูปภาพประกอบ เพ่ือใช้ประกอบเป็นแนวทางการวินิจฉัย ศตั รพู ืชในยางพาราทถ่ี กู ตอ้ งของเกษตรกร เจ้าหนา้ ท่ี หรือบคุ คลท่ีสนใจท่วั ไป ซึ่งจะน�ำไปสู่การหาวิธีการจัดการศัตรูยางพาราท่ีเหมาะสม และลดปัญหา การระบาดของศตั รูพชื ดว้ ยในลำ� ดับถัดไป กรมส่งเสริมการเกษตร 2561

สารบญั 1 11 14 16 สรุปการวินจิ ฉยั 1 ● โรครากน�้ำตาล 12 ศัตรูพชื ยางพาราเบือ้ งตน้ (Brown root disease) ชนิดศตั รูพืชทีพ่ บบนสว่ นตา่ งๆ 7 ● (โCรคoใllบeจtดุoนtrูนic hum leaf spo1t)3 ของต้นยางพาราตามระยะ การเจรญิ เติบโต ● โรคใบจดุ ตานก 14 (Bird’s eye spot) โรค ●ยา ง(โพWรคาhรรiาtาeก ขrาoวo t disease) 98 ● โรคใบจดุ ก้างปลา 15 (Corynespora leaf Disease) ● โรครากแดง 11 ● (โPรคoรwาdแeปr้งy mildew) 16 (Red root disease)

18 21 25 26 ● โรคราสชี มพู 17 ● โรคล�ำต้นเน่า (Twig rot) 22 (Pink disease) แมลงศัตรูยางพารา 23 ● (aโPรnคhdใyบtpoรop่วtงhแrtoลhtะo)ฝraกั เlนe่าa f fall 18 ● หนอนทราย (Root grub 24 of Cockchafer beetle) ● โรคเปลอื กเน่า 19 ● เพลยี้ หอย (Scale insect) 25 (Mouldy rot) ● ปลวก 26 ● โรคเปลือกแหง้ 20 (Rubber tree termite) (Tapping panel dryness) เอกสารอา้ งองิ 27 ● โรคเส้นดำ� (Black stripe) 21

สรปุ การวนิ จิ ฉยั ศัตรพู ชื ยางพาราเบอื้ งต้น สว่ นของพืช ลักษณะการเข้าทำ� ลายหรอื อาการที่พบในแปลง สาเหตุ ฝกั ทถี่ กู ทำ� ลายจะเนา่ ดำ� คา้ งอยบู่ นตน้ ไมแ่ ตกและรว่ งหลน่ ใบรว่ ง/ ตามธรรมชาติ ถา้ ความชนื้ ในอากาศสงู จะพบเชอื้ ราสขี าว เจรญิ ฝักเน่า ฝัก ปกคลมุ ฝกั สว่ นของพืช ลกั ษณะการเขา้ ทำ� ลายหรืออาการที่พบในแปลง สาเหตุ ใบอ่อน ระยะท่ีใบขยายและก�ำลังเปลี่ยนจากสีทองแดง ใบจดุ นูน เป็นเขียวอ่อน เม่ือเช้ือราเข้าท�ำลายอย่างรุนแรง ปลายใบ ใบ จะบิดงอ เหยี่ วเน่าดำ� และหลดุ รว่ ง ใบแก่ พบจดุ แผลสนี ้ำ� ตาล ขอบแผลสีเหลอื ง เนอื้ ตรงกลาง ใบจดุ นูน แผลอาจทะลเุ ปน็ ร ู  ถา้ ระบาดรนุ แรงอาจพบแผลบนกง่ิ ออ่ นหรอื ยอดออ่ น  และทำ� ให้เกิดอาการตายจากยอด แผลกลมขนาดเสน้ ผา่ นศนู ย์กลาง 1-8 มิลลิเมตร หรือแผล ใบจดุ เปน็ รปู รา่ งไมแ่ นน่ อน ขอบแผลสนี ำ�้ ตาลดำ�  กลางแผลสซี ดี หรอื เทา กา้ งปลา ถ้าใบยังอ่อนปลายใบจะไหม้เนื่องจากมีจุดแผลลุกลาม ติดต่อกัน แผลมีเน้ือเย่ือตายแล้วอาการลุกลามออกไปตาม เส้นใบท�ำให้เห็นเส้นใบช้�ำเป็นสีน้�ำตาลหรือด�ำลายชัดเจน เปรียบคล้ายลายก้างปลาบนเน้ือเยื่อใบตายสีเหลืองและ ตอ่ มาเน้อื เย่ือบริเวณแผลนีจ้ ะแหง้ ท�ำใหใ้ บรว่ งในท่ีสดุ ระยะใบเพสลาดแผลจะกลมทึบสีน้�ำตาลหรือด�ำ ขอบแผล ใบจดุ สีเหลืองและขยายลุกลามเข้าไปตามเส้นใบ ท�ำให้แผล ก้างปลา มีลักษณะคล้ายก้างปลา  เน้ือเยื่อบริเวณรอยแผลมีสีเหลืองถึง นำ�้ ตาลและใบร่วงในที่สดุ ใบอ่อนแผลหงิกงอเน่าด�ำและร่วง  เหลือแต่ยอดท่ีบวมโต ใบจดุ ตานก ใบอายุมากจะปรากฏจุดค่อนข้างกลม ขอบแผลสีน้�ำตาล ล้อมรอบซึ่งโปร่งแสง ขนาดแผลไม่แน่นอน  เข้าท�ำลายระยะ ใบแก่จะเป็นรอยจุดสีน้�ำตาลเท่าน้ัน ใบที่เจริญกว่าน้ีหรือ ใบกระดา้ งแล้วรอยแผลอาจเปน็ เพียงรอยสีน�ำ้ ตาลเลก็ ๆ 1 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

สว่ นของพืช ลักษณะการเข้าทำ� ลายหรอื อาการท่ีพบในแปลง สาเหตุ ร่วงทั้งที่มีสีเขียวสดและสีเหลือง บางคร้ังจะเป็นแผลที่มี ใบรว่ ง/ ลักษณะช�้ำฉ�่ำน้�ำ ขนาดของแผลไม่แน่นอน รอยช�้ำสีด�ำอยู่ที่ ฝักเนา่ บรเิ วณกา้ นใบ และทจี่ ดุ กง่ึ กลางของรอยชำ�้ มหี ยดนำ�้ ยางเกาะตดิ ใบ (ตอ่ ) อยู่ด้วย ใบร่วงท่ีเกิดจากเช้ือรานี้เมื่อน�ำขึ้นมาสะบัดไปมาเพียง เบาๆ ใบยอ่ ยจะหลดุ ทนั ที ซงึ่ ตา่ งกบั ใบทร่ี ว่ งหลน่ ตามธรรมชาติ คอื เมอ่ื น�ำใบที่รว่ งตามธรรมชาติมาสะบดั ใบยอ่ ยจะไมห่ ลดุ ออก จากก้านใบแผน่ ใบ ใบอ่อน แผลขนาดไม่แน่นอน ปลายใบบิดงอ เน่า มีสีด�ำ ราแป้ง รว่ งหลน่ จากตน้ ใบเพสลาด เกดิ แผลเปน็ จดุ ทค่ี อ่ นขา้ งใหญ่ และ มีขอบเขตไม่แนน่ อน แผลจะเหน็ ปุยเส้นใยสีขาว เทา ด้านล่าง ของแผ่นใบ ใบแก่แผลจะเป็นรอยสีเหลืองซีด เฉพาะ บริเวณที่เชื้อราเข้าท�ำลายและแผลจะกลายเป็นสีน้�ำตาล ปุยสีขาวมักจะปรากฏบนด้านล่างของแผ่นใบ ใบท่ีถูก เช้ือราเขา้ ทำ� ลายขณะมอี ายุนอ้ ยมากจะหลดุ รว่ งไป ใบแก่ แผลจะเป็นรอยสีเหลืองซีดเฉพาะบริเวณท่ีมีเชื้อรา ราแป้ง ท�ำลายอยู่ หรือเป็นรอยไหม้สีน�้ำตาลรูปร่างไม่แน่นอน ตามขนาดและขอบเขตของบริเวณที่เป็นส่วนท่ีเชื้อราเจริญ อยู่ก่อน บนใบที่เข็งแรงแล้วต่างจากจุดท่ีเกิดจากใบจุดนูน คือ จุดที่เกิดจากโรคใบจุดนูนจะเป็นจุดนูนกลมๆ ส่วนจุด ที่เกิดจากราแป้งจะเป็นรอยแผลท่ีค่อนข้างใหญ่และมีขอบเขต ไมแ่ นน่ อน ใบเปลยี่ นเปน็ สเี หลืองแกมส้ม ใบร่วงหมดต้น ขอบใบมว้ น รากขาว เขา้ ด้านใน ใบยางเปลี่ยนเป็นสีเหลือง  เกิดอาการตายจากยอด ราสชี มพู เมื่อสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เช้ือราจะพักตัว  สีชมพูท่ีเคย ปรากฏจะซีดลงจนเป็นสขี าว ใบอ่อนเริ่มเหี่ยวและแห้งจากปลายก่ิงหรือปลายยอด อาการตาย ลุกลามเข้าหาส่วนโคนทีละน้อย ถ้าอาการเป็นไปอย่างช้าๆ จากยอด ส่วนของกิ่งหรือล�ำต้นท่ียังไม่ตายจะแตกแขนงใหม่  เพ่ือเจริญ เติบโตต่อไป  แต่ถ้าอาการแห้งตายเป็นไปอย่างรวดเร็วจะแห้งตาย ตลอดต้นในระยะเวลาอันส้ัน เปลือกล่อนออกจากเน้ือไม้ มอง เห็นเช้อื ราสีด�ำหรือขาวเกิดขนึ้ บริเวณด้านในของเปลือก 2การวินจิ ฉยั ศัตรูพืช เล่มที่ 2 (ยางพารา)

ส่วนของพืช ลกั ษณะการเขา้ ท�ำลายหรืออาการทพี่ บในแปลง สาเหตุ หลังจากกรีดยางแล้วน�้ำยางแห้งเป็นจุดๆค้างอยู่บน เปลือกเนา่ รอยกรีด เปลือกยางมีสีน�้ำตาลอ่อน ถ้ายังกรีดต่อไปอีกเปลือก ยางจะแหง้ สนทิ ไม่มนี ำ�้ ยางไหล เปลอื กใต้รอยกรดี ขยายบริเวณ ลำ� ต้น มากขึ้นจนถึงพ้ืนดินและหลุดออกเนื่องจากมีเปลือกงอกใหม่ ภายในดันออกมา เปลือกงอกใหม่เหนือรอยกรีด เป็นรอยบุ๋มช�้ำสีหม่น มี เปลือกเนา่ ลกั ษณะฉำ่� นำ้� ซง่ึ เปน็ ลกั ษณะอาการทค่ี ลา้ ยคลงึ กบั อาการระยะ แรกของโรคเสน้ ดำ� ตอ่ มาเปลือกจะเนา่ และปรากฎเส้นใยเช้อื ราสีขาวเทา ตรงบริเวณรอยแผลถ้าอาการของโรครุนแรงและ สภาพอากาศช้ืน เชื้อราจะเจริญลุกลามขึ้นเป็นแทบขนานกับ รอยกรดี อย่างรวดเร็ว ทำ� ใหเ้ ปลอื กเน่าหลดุ เปน็ แอ่ง เมือ่ เฉือน เปลอื กบริเวณขา้ งเคียง จะไม่พบอาการเนา่ ลุกลามออกไป และ ไมพ่ บรอยสีดำ� ทเี่ น้อื ไม้ใตแ้ ผล ซงึ่ แตกตา่ งจากโรคเสน้ ดำ� ต้นยางพาราเปลือกจะแห้ง กรีดแล้วไม่มีน้�ำยางไหล เปลือก เปลือกแหง้ ตามล�ำตน้ จะแตก พุพอง แต่ตน้ ยางพาราไม่ตาย ถ้าปลอ่ ยปละ ไมค่ วบคมุ จะแพร่กระจายลกุ ลาม ทำ� ใหห้ นา้ กรดี ของยางพารา ต้นน้ันเสียหายทั้งหมด อาการเปลือกแห้งจะไม่ลุกลาม จากเปลือกที่ยังไม่ท�ำการกรีดไปยังเปลือกงอกใหม่ และ ไม่ลุกลามจากเปลือกงอกใหม่ด้านหนึง่ ไปยงั อีกด้านหน่ึง นำ�้ ยางบนรอยกรดี จะจบั ตวั กนั เรว็ กวา่ ปกติ นำ้� ยางทก่ี รดี ได้ เปลอื กแห้ง จะมีปรมิ าณมากกวา่ ปกติ การหยดของน้�ำยางนานกว่าปกติ นำ้� ยางใสหรือจางลง และมีปริมาณเน้ือยางแห้งต่�ำ เปลือกเหนือ รอยกรีดจะมีสซี ีดลง 3 กรมส่งเสริมการเกษตร

สว่ นของพชื ลกั ษณะการเข้าท�ำลายหรืออาการทพ่ี บในแปลง สาเหตุ เหนือรอยกรีดมีสีผิดปกติเป็นรอยช้�ำ หากอาการรุนแรง เส้นด�ำ ล�ำต้น (ต่อ) มากข้ึนบริเวณที่เป็นรอยช�้ำนี้จะเปลี่ยนเป็นรอยบุ๋มสีด�ำ และ จะขยายตัวยาวขึ้นไปในแนวด่ิง ระยะน้ีจะสังเกตเห็นอาการ ใบจดุ ของโรคได้ชัดเจน มีเปลือกงอกใหม่หนาเพิ่มมากขึ้น ทิ้งให้ กา้ งปลา ส่วนที่เป็นโรคเป็นรอยบุ๋มลึกชัดเจน เฉือนเปลือกออกดู ใบร่วง/ จะพบรอยบุ๋มสีด�ำน้ันมีลายเส้นสีด�ำ บนเน้ือไม้บริเวณ ฝกั เน่า แผล ซึ่งมักเป็นรอยยาวตามแนวยืนของล�ำต้น อาการขั้น รากแดง รุนแรงจะท�ำให้เปลือกของหน้ายางบริเวณท่ีเป็นโรคปริ มีน�้ำ ราสชี มพู ยางไหลออกมาตลอดเวลา และเปลือกบริเวณท่ีเป็นโรคนี้ จะเน่าหลุดออกทั้งหมดในที่สุด เปลือกงอกใหม่จะเป็นปุ่มปม โรคลำ� ตน้ ท�ำให้กรีดยางต่อไปไมไ่ ด้ เน่า กิ่งแขนงและล�ำต้นที่เป็นสีเขียว จะเป็นแผลสีด�ำมีลักษณะ ยาวรี เนอ้ื เยอื่ ตรงกลางแผลบุ๋มลง ถ้าอากาศเหมาะสมจะขยาย ขนาดและลุกลาม  ทำ� ใหก้ ิ่งหรือยอดทเ่ี ป็นโรคแห้งตาย ตน้ ยางพาราออ่ นถา้ หากถกู เชอื้ เขา้ ทำ� ลาย จะเกดิ อาการยอด เน่าแลว้ ลุกลามไปท�ำลายก้านใบและแผ่นใบ ทำ� ให้ตน้ ยางพารา ตายได้ ซ่ึงโรคน้ีจะระบาดบริเวณพ้ืนท่ีปลูกยางพาราท่ีมีฝนตก ชุก ความชนื้ สงู ตน้ ยางพาราทกี่ รดี แลว้ เปน็ สว่ นใหญต่ น้ ทถ่ี กู เชอื้ เขา้ ทำ� ลาย จะแสดงอาการทที่ รงพ่มุ เชน่ เดยี วกับโรครากขาว บริเวณกิ่งหรือคาคบ อาการข้ันแรกท่ีเช้ือราเข้าท�ำลาย เห็นเป็นรอย น้�ำยางถูกขับไหลออกมาเป็นทางยาวใต้รอยแผล เม่ือน�้ำยางแห้งจะมีราด�ำเข้าจับ เวลาอากาศชุ่มชื้นเช้ือราจะ เจรญิ เตบิ โตเตม็ ทแ่ี ละเปลย่ี นเปน็ สชี มพู มรี อยแตกระแหงเลก็ ๆ กระจายทว่ั ไป สว่ นของตน้ ยางเหนอื สว่ นทเ่ี ปน็ โรคจะแหง้ ตายไป มีก่ิงอ่อนแตกเจริญขึ้นมาใหม่จากส่วนใตร้ อยแผล ตน้ กลา้ กง่ิ แขนงทแ่ี ตกออกจากตาของยางพาราพนั ธด์ุ ี เกดิ ร อ ย แ ผ ล สี น�้ ำ ต า ล เ ข ้ ม ห รื อ ด� ำ ช้� ำ เ ป ็ น รู ป ย า ว รี ไ ป ต า ม ความยาวของ ล�ำต้น และขยายลุกลามไปรอบต้น ท�ำให้ กง่ิ แขนงเหย่ี วแหง้ ตาย 4การวนิ จิ ฉยั ศัตรูพชื เลม่ ท่ี 2 (ยางพารา)

ส่วนของพชื ลกั ษณะการเข้าทำ� ลายหรอื อาการที่พบในแปลง สาเหตุ กิ่งก้านที่ถูกเพลี้ยหอยดูดกินจะเหี่ยวด�ำ และมีซากเพลี้ย เพล้ียหอย ล�ำต้น (ตอ่ ) หอยเกาะก่ิงก้านท่ีมันเกาะ ต่อมากิ่งก้านนั้นจะแห้งตาย  รากน้�ำตาล ถ้ามจี ำ� นวนมากจะลุกลามไปส่วนอื่น เนื้อไม้ที่เป็นโรคในระยะแรกจะเป็นสีน้�ำตาลซีด ต่อมา จะปรากฏเส้นสีน�้ำตาลเป็นเส้นเดี่ยวลายสลับฟันปลา อยู่ในเนื้อไม้ รากท่ีเป็นโรคมานาน เม่ือตัดตามขวางจะ เห็นลายเส้นใยท่ีแทรกในเนื้อไม้มีลักษณะคล้ายรวงผ้ึง เนื้อไม้จะเบาและแห้ง ดอกเห็ดจะเป็นแผ่นหนาและแข็ง ลักษณะครึ่งวงกลม ขนาดค่อนข้างเล็ก ผิวด้านบน เป็น รอยย่นเปน็ วงสีน�้ำตาลเข้ม ผวิ ด้านล่างเป็นสเี ทา ส่วนของพืช ลักษณะการเข้าทำ� ลายหรอื อาการท่ีพบในแปลง สาเหตุ ใบเหลืองเหมือนโรคราก ยืนต้นตายอย่างรวดเร็ว ลุกลาม ปลวก ออกไปยังต้นข้างเคียงค่อนข้างรวดเร็ว ขุดดูที่บริเวณโคนต้น จะพบแมลง (ปลวก) กัดกินส่วนรากของต้นยางพาราที่มี ราก ชีวิตอยู่ โดยเฉพาะบริเวณโคนต้นใต้ผิวดิน และกัดกินต่อไป ภายในล�ำต้นจนเป็นโพรง เห็นต้นยางพาราตายเป็นแถบๆ จะมีอาการใบสีเหลือง หนอนทราย ร่วง เหี่ยวแห้ง และเกิดอาการตายจากยอดอย่างรวดเร็ว ในยางพาราแก่ที่ถูกท�ำลาย ถ้าต้นยางพาราไม่ตาย ผลผลิตจะ ลดลง มีสีแดง และเป็นมันปกคลุมผิวรากของยางพาราท่ีเป็นโรค รากแดง หากเช้ือราในระยะเจริญเส้นใยจะมีสีขาวครีม เมื่อแก่ขึ้นจะกลาย เปน็ สแี ดง รากยางพาราทเ่ี ปน็ โรคนใี้ นระยะแรกจะมสี นี ำ้� ตาลซดี และแข็ง ต่อมาเปล่ียนเป็นสีเน้ืออ่อน เนื้อไม้ท่ีเป็นโรคจะพรุน อาจเปียกหรือแห้งแล้วแต่สภาพของดิน เน้ือเย่ือแต่ละวง จะหลุดลุ่ยแยกออกจากกันได้ง่าย ดอกเห็ดจะเป็นวงแข็ง ผิวด้านบนเป็นรอยย่นสีน�้ำตาลแดงเข้ม ผิวด้านล่างเป็น สขี าวข้ีเถา้ รอบๆ ของดอกเห็ดมีสขี าวครมี 5 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

สว่ นของพชื ลักษณะการเขา้ ทำ� ลายหรอื อาการทพ่ี บในแปลง สาเหตุ เส้นใยของเช้ือราจะเป็นสีขาว แตกกิ่งก้านแผ่ปกคลุมทั่ว รากขาว ผิวราก เส้นใยที่อายุมากจะกลมนูนและกลายเป็นสีเหลืองซีด ราก (ต่อ) หรอื แดงซีด เนอ้ื ไมใ้ นระยะแรกจะแข็งกระดา้ งเปน็ สนี �้ำตาลซดี ในระยะที่เป็นโรคอย่างรุนแรงจะเป็นสีครีม ถ้าอยู่ในที่ช้ืนแฉะ จะเน่า และดอกเห็ดมีลักษณะเป็นแผ่นครึ่งวงกลม แผ่นเดียว หรือซ้อนกันหลายแผ่นเป็นช้ันๆ เกาะติดกับโคนต้นหรือ รากเหมือนห้ิง ผิวด้านบนของดอกเห็ดเป็นสีเหลืองส้ม เป็นวงสลับสีออ่ นแก่ ขอบดอกเปน็ สีขาว ด้านล่างเปน็ สสี ม้ แดง และเปน็ รูเลก็ ๆ ปรากฏเส้นใยสีน้�ำตาลปนเหลืองเป็นขุยเหมือนก�ำมะหย่ี รากนำ้� ตาล ปกคลุมผิวรากและเกาะยึดดินทรายไว้ ท�ำให้รากมีลักษณะ ขรุขระ เสน้ ใยเมอื่ แกจ่ ะเปน็ แผ่นสนี ำ�้ ตาลดำ� 6การวินจิ ฉัยศตั รพู ชื เล่มที่ 2 (ยางพารา)

ชนิดศตั รพู ชื ทพ่ี บบนสว่ นตา่ งๆ ของตน้ ยางพารา ตามระยะการเจรญิ เตบิ โต ระยะการเจรญิ เติบโตของพชื ระยะผลดั ใบ/ ระยะเปดิ กรดี แตกใบอ่อน ใบรว่ งฝักเนา่ ฝกั ใบรว่ งฝักเน่า ปลวก ใบ หนอนทราย ปลวก จดุ ก้างปลา หนอนทราย ใบจดุ ตานก ใบจดุ นูน ใบรว่ งและฝักเน่า จดุ ก้างปลา รากแดง ใบจดุ ตานก รากขาว ราแปง้ อาการจากฟา้ ผ่า รากแดง/รากขาว/ รากน�้ำตาล ใบร่วงและฝกั เน่า อาการจากฟา้ ผ่า ล�ำต้น/ราก ปลวก ปลวก หนอนทราย หนอนทราย เพลย้ี หอย เพล้ยี หอย จดุ กา้ งปลา เปลอื กเนา่ รากแดง/รากขาว/ เปลือกแหง้ รากนำ�้ ตาล เส้นดำ� จดุ ก้างปลา ราสีชมพู รากแดง/รากขาว/ ลำ� ตน้ เนา่ (ช�ำถุง) รากน�ำ้ ตาล อาการตายจากยอด ราสีชมพู อาการจากฟ้าผ่า อาการตายจากยอด โคนต้นไหม้ อาการจากฟ้าผ่า โคนตน้ ไหม้ 7 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

โรคยางพารา 8การวินิจฉยั ศตั รูพืช เลม่ ที่ 2 (ยางพารา)

โรครากขาว (White root disease) สาเหต ุ เกดิ จากเช้อื รา Rigidoporus microporus (Sw.) Overeem โรครากขาว ทรงพมุ่ เปลย่ี นสี ใบเหลอื ง ขอบใบห่อลง เสน้ ใยของเช้อื รา ดอกเหด็ 9 กรมส่งเสริมการเกษตร

ลักษณะอาการ ระบบรากของยางพาราจะถูกท�ำลาย ท�ำให้พุ่มใบแสดงอาการผิดปกติ โดยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในบางกิ่งหรือท้ังทรงพุ่ม ขอบใบจะห่อลงเล็กน้อยและ ค่อนข้างหนาเปน็ คลื่น กงิ่ แขนงบางส่วนแห้ง จนในทส่ี ุดกจ็ ะแสดงอาการยนื ตน้ ตาย ที่โคนต้นมีอาการเปลือกแตก น้�ำยางไหล เกิดแผลสีน้�ำตาลที่โคน เม่ือขุดราก จะพบเห็นเส้นใยสีขาวของเชื้อราเจริญปกคลุมท่ัวผิวราก เส้นใยท่ีอายุมากจะกลม นูนและกลายเป็นสีเหลืองซีดหรือแดงซีด เนื้อไม้ในระยะแรกจะแข็งกระด้างเป็น สนี ำ�้ ตาลซีด ในระยะทเ่ี ปน็ โรคอยา่ งรนุ แรงจะยยุ่ เป็นสคี รีม ถา้ อยใู่ นที่ช้นื แฉะจะเนา่ และดอกเหด็ มลี กั ษณะเปน็ แผน่ ครงึ่ วงกลม แผน่ เดยี วหรอื ซอ้ นกนั หลายแผน่ เปน็ ชน้ั ๆ เกาะติดกับโคนต้นหรือรากท่ีโผล่พ้นดิน ผิวด้านบนของดอกเห็ดเป็นสีเหลืองส้ม เปน็ วงสลับสีอ่อนแก่ ขอบดอกเป็นสีขาว ด้านล่างเปน็ สีส้มแดงหรือสีน้�ำตาล การแพรร่ ะบาด สวนยางพาราท่ีปลูกคร้ังแรก มักพบในต้นยางอายุ 15 ปีข้ึนไป ส่วนใน สวนท่ีปลูกเป็นรอบท่ี 2 และไม่ได้ก�ำจัดตอยางพาราเก่าจะพบเร็วข้ึน คือ เมื่อ ยางพาราอายุ 1 ถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับการสะสมของเชื้อในดินในสวนยางพาราน้ัน การสัมผัสกันของรากท�ำให้เช้ือเจริญลุกลาม และสปอร์ของเชื้อราสามารถปลิว ตามลม ติดไปกับน้�ำและแมลง หรืออยู่กับพืชอาศัยของเชื้อสาเหตุโรคที่ปลูก ในสวนยางพารา 10การวนิ จิ ฉยั ศัตรูพืช เลม่ ท่ี 2 (ยางพารา)

โรครากแดง (Red root disease) สาเหต ุ เกดิ จากเชอื้ รา Ganoderma pseudoferreum (Wakef) Over & Steinm ดอกเหด็ อาการยืนตน้ ตาย ใต้ดอกเห็ด ลกั ษณะอาการ ระบบรากของยางพาราจะถูกท�ำลาย ท�ำให้พุ่มใบแสดงอาการผิดปกติ ในลักษณะเช่นเดียวกันกับโรครากขาว ในระยะแรกเน้ือไม้มีสีน�้ำตาลซีดและแข็ง ต่อมาจะกลายเป็นสีเนื้อและพรุน ต่อมาวงปีของเนื้อไม้จะหลุดจากกันได้ง่าย รากจะปกคลมุ ดว้ ยเสน้ ใยเชอ้ื ราสนี ำ้� ตาลแดง ปลายเสน้ ใยเปน็ สีขาวครีม เมือ่ เสน้ ใย อายุมากข้ึนจะจับกันเป็นแผ่นสีน�้ำตาลแดง มันวาว ดอกเห็ดเป็นแผ่นแข็ง ด้านบน เป็นรอยยน่ สนี ำ้� ตาลแดงเข้ม ด้านล่างสขี าวขี้เถา้ ขอบของดอกเหด็ เป็นสีขาวครมี การแพร่ระบาด ลักษณะเชน่ เดยี วกนั กับโรครากขาว 11 กรมสง่ เสริมการเกษตร

โรครากน�้ำตาล (Brown root disease) สาเหต ุ เกิดจากเช้ือรา Phellinus noxius (Couner) G.H. Cunn ดอกเห็ด ใต้ดอกเหด็ ลักษณะอาการ ระบบรากของยางพาราจะถูกท�ำลาย ท�ำให้พุ่มใบแสดงอาการผิดปกติ ในลักษณะเช่นเดียวกันกับโรครากขาว รากจะถูกปกคลุมด้วยเส้นใยสีน้�ำตาล ปนเหลอื งของเช้ือรา เปน็ ขุยเหมือนก�ำมะหย่ี เม่ืออายุมากขึน้ จะกลายเป็นเส้นกลม นูนสเี หลืองซดี เน้ือไม้ที่เป็นโรคระยะแรกจะเปน็ สนี ้�ำตาลซีด ต่อมาจะเกิดเสน้ เด่ยี ว สีน�้ำตาลลายสลับฟันปลาอยู่ในเนื้อไม้ หากรากเป็นโรคมานานเม่ือตัดตามขวาง จะเห็นลายในเน้ือไม้มีลักษณะคล้ายรวงผ้ึง เน้ือไม้เบาและแห้ง ดอกเห็ดเป็น แผ่นหนาแข็งรูปครึ่งวงกลม ขนาดค่อนข้างเล็ก ผิวด้านบนย่นเป็นวงสีน้�ำตาลเข้ม และผิวดา้ นลา่ งเปน็ สีเทา การแพรร่ ะบาด ลกั ษณะเชน่ เดยี วกนั กับโรครากขาว 12การวนิ จิ ฉยั ศัตรพู ืช เลม่ ที่ 2 (ยางพารา)

โรคใบจดุ นูน (Colletotrichum leaf spot) สาเหต ุ เกดิ จากเช้ือรา Colletotrichum gloeosporiodes (Penz.) Sacc. ที่มา : http://mueang.loei.doae.go.th/site/?p=1613 อาการจุดแผลทะลุบนใบ ลักษณะอาการ ใบอ่อนที่ถูกเช้ือเข้าท�ำลาย ปลายใบจะบิดงอ เห่ียวเน่าด�ำและหลุดร่วง ในระยะใบเพสลาด ใบบางส่วนอาจบิดงอและพบจุดแผลสีน�้ำตาลขอบสีเหลือง ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร เมื่อใบมีอายุมากขึ้น เนื้อตรงกลางแผลอาจทะลุ เป็นรู เมื่ออาการรุนแรงอาจพบแผลบนกิ่งอ่อนหรือยอดอ่อน และท�ำให้เกิดอาการ ตายจากยอดได้ การแพร่ระบาด ระบาดรุนแรงกับยางที่แตกใบอ่อนในช่วงท่ีฝนตกชุก ความช้ืนสูง (เดอื นพฤษภาคมถงึ พฤศจกิ ายน) เชื้อราแพรร่ ะบาดโดยนำ�้ ฝน ลม หรอื แมลง 13 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

โรคใบจุดตานก (Bird's eye spot) สาเหต ุ เกิดจากเช้ือรา Drechslera heveae (Petch) M.B. Ellis จดุ แผลลักษณะคล้ายตานก ลกั ษณะอาการ เชอ้ื เขา้ ทำ� ลายระยะใบออ่ นมาก แผน่ ใบหงกิ งอ เนา่ ดำ� และรว่ งเหลอื แตย่ อด ท่บี วมโต ใบยางเมื่ออายมุ ากขนึ้ จะปรากฏจดุ คอ่ นขา้ งกลม ประมาณ 1-3 มิลลเิ มตร ขอบแผลสีน�้ำตาลล้อมรอบซึ่งโปร่งแสง ลักษณะคล้ายกับตานก ถ้าเชื้อเข้าท�ำลาย ระยะใบแก่จะเป็นรอยจุดสีน�้ำตาลเท่านั้น เช้ือราจะสร้างสปอร์บนแผลด้านใต้ใบ เม่ือใบร่วงจะสง่ ผลให้ตน้ ยางพาราชะงักการเจรญิ เตบิ โต ล�ำต้นแคระแกรน็ การแพร่ระบาด ระบาดท่ัวไปในเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน ระบาดรุนแรงในแปลง กลา้ ยางพาราทปี่ ลกู ในดนิ ทรายหรอื ดนิ ทอี่ ดุ มสมบรู ณต์ ำ�่ เชอ้ื ราแพรร่ ะบาดไปกบั ลม ฝน หรอื แมลง 14การวินิจฉัยศตั รูพชื เล่มที่ 2 (ยางพารา)

โรคใบจดุ กา้ งปลา (Corynespora leaf Disease) สาเหต ุ เกิดจากเชื้อรา Corynespora cassiicola (Burk & Curt) Wei จุดแผลขยายลามไปตามเสน้ ใบ ลกั ษณะอาการ ใบเป็นแผลจดุ กลม ขอบแผลสนี ำ�้ ตาลดำ� กลางแผลสีซีดหรือสีเทา หากเชอ้ื เข้าท�ำลายในระยะที่เป็นใบเพสลาด แผลจะขยายลุกลามเข้าไปตามเส้นใบท�ำให้ เห็นเปน็ รูปกา้ งปลา สซี ีด เนอื้ เย่อื บริเวณรอยแผลจะเป็นสีเหลืองถึงสีน�ำ้ ตาล ตอ่ มา เน้อื เย่อื จะแห้งและทำ� ใหใ้ บหลดุ รว่ ง การแพรร่ ะบาด ระบาดท่ัวไปในช่วงเดือนเมษายนถึงธันวาคม เช้ือราจะแพร่กระจายโดย ลม ฝน หรือแมลง 15 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

โรคราแปง้ (Powdery mildew) สาเหต ุ เกดิ จากเชอ้ื รา Oidium hevea Steinm ใบอ่อนจะรว่ ง เส้นใยเชอ้ื ราสีขาวเทาบนใบ รอยดา่ งบนใบเพสลาด ลักษณะอาการ เชื้อราจะเข้าท�ำลายใบอ่อนท�ำให้ปลายใบบิดงอเน่าเป็นสีด�ำ และร่วงหล่น จากต้น ส่วนมากเป็นใบย่อยเน่ืองจากก้านใบยังติดอยู่ท่ีกิ่งก้านบนต้น ใบระยะ เพสลาดจะเกิดเป็นจุดแผลค่อนข้างใหญ่ และมีขอบเขตไม่แน่นอนอยู่ด้านล่างของ แผ่นใบ บนรอยแผลจะพบเส้นใยเชื้อราสีขาวเทา ส่วนของดอกก็พบเส้นใยเชื้อรา ด�ำและดอกร่วงเชน่ กัน ต้นยางพาราชะงกั การเจริญเตบิ โตและผลผลติ ลดลง การแพร่ระบาด ระบาดทั่วไปในช่วงต้นยางพาราผลิใบใหม่ ขณะกลางคืนหรือเช้ามีฝนตก ปรอยๆ หรอื มหี มอก และช่วงเวลากลางวนั อากาศร้อน มแี สงแดดจดั ระหว่างเดอื น กุมภาพันธ์ถึงเมษายน ดินท่ีขาดธาตุสังกะสีจะท�ำให้เป็นโรคน้ีได้ง่ายข้ึน เช้ือรา แพร่กระจายโดยลม ฝน และแมลงจ�ำพวกไรท่ดี ดู กนิ น้ำ� เล้ียงจากใบออ่ น 16การวินิจฉยั ศตั รูพืช เลม่ ที่ 2 (ยางพารา)

โรคราสีชมพู (Pink disease) สาเหต ุ เกดิ จากเชอ้ื รา Corticium salmonicolour Berk.& Br. ลกั ษณะอาการ เปลอื กบรเิ วณคาคบ กง่ิ กา้ นและลำ� ตน้ เปน็ รอยปรมิ นี ำ�้ ยางไหล เมอื่ อากาศชน้ื จะเห็นเส้นใยสีขาว แผลจะขยายเป็นบริเวณกว้างออกไป เม่ือเชื้อเจริญเต็มท่ี จะมองเห็นเป็นสีชมพู ซึ่งเป็นระยะท่ีเชื้อเจริญเข้าไปในเปลือกและลุกลามไปยัง ล�ำต้น ท�ำให้เปลือกแตก และกะเทาะออก มีน้�ำยางไหลออกมาจับตามก่ิงก้านและ ล�ำต้น เมื่อน้�ำยางแห้งจะมีราด�ำเกิดข้ึนตามรอย ใต้บริเวณแผลจะมีการแตกก่ิงใหม่ ขึ้นมากมาย ใบเปล่ียนเป็นสีเหลือง เกิดอาการตายจากยอด เช้ือราจะพักตัว เมื่อสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เส้นใยสีชมพูจะซีดลงจนเป็นสีขาว เม่ือถึงฤดูฝน ปถี ัดไปจงึ จะเริ่มลุกลามอกี คร้ัง การแพร่ระบาด ระบาดในแปลงยางพาราอ่อน และต้นยางพาราเปิดกรีดแล้วในช่วง เดือนมิถุนายนถึงธันวาคม หรือในสภาพอากาศชุ่มช้ืน มีปริมาณน�้ำฝนสูง เม่ือ อากาศแหง้ เชอ้ื ราจะพกั ตัวและเจริญลกุ ลามตอ่ ในฤดูฝนปีถัดไป เชอื้ ราแพร่กระจาย โดยลมและฝน 17 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

โรคใบร่วงและฝักเน่า (Phytophthora leaf fall and pot rot) สาเหต ุ เกดิ จากเช้อื รา Phytophthora botryosa Chee. หรอื P. palmivora (Butl.) Butl. รอยแผลช�ำ้ ทก่ี า้ นใบ และหยดนำ้� ยาง ทรงพมุ่ ท่ีเกิดอาการใบรว่ ง แผลช้ำ� สีน้ำ� ตาลท่ใี บ ลักษณะอาการ เกิดรอยแผลซ�้ำสีน�้ำตาลเข้มถึงด�ำตามความยาวของก้านใบ มีหยดน�้ำยาง เม่ือน�ำใบเป็นโรคมาสะบัดไปมาเบาๆ ใบย่อยจะหลุดทันที ซึ่งต่างจากใบ ที่ร่วงหล่นตามธรรมชาติ เมื่อน�ำมาสะบัดไปมาใบย่อยจะไม่ร่วง บางครั้งแผ่นใบ อาจเปน็ แผลสนี ำ้� ตาลเขม้ ถงึ ดำ� มลี กั ษณะชำ้� นำ�้ ขนาดของแผลไมแ่ นน่ อน เชอื้ สามารถ เขา้ ทำ� ลายฝกั ยางไดท้ กุ ระยะ ทำ� ใหฝ้ กั เนา่ ถา้ ความชนื้ ในอากาศสงู จะพบเชอ้ื ราสขี าว ฝักเน่าด�ำคา้ งอยบู่ นตน้ ไมแ่ ตกและร่วงหล่นตามธรรมชาติ การแพร่ระบาด ระบาดไดด้ ใี นสภาพอากาศเยน็ ฝนตกชกุ มคี วามชนื้ สงู ตอ่ เนอื่ งกนั อยา่ งนอ้ ย 4 วนั โดยท่ีมีแสงแดดนอ้ ยกว่า 3 ชวั่ โมงต่อวัน เชอื้ ราแพรก่ ระจายโดยลมและฝน 18การวนิ จิ ฉัยศัตรพู ชื เล่มที่ 2 (ยางพารา)

โรคเปลอื กเนา่ (Mouldy rot) สาเหต ุ เกดิ จากเชื้อรา Ceratocystis fimbriata Ellis & Halst โรคเปลือกเน่า ลักษณะอาการ เช้ือราเข้าท�ำลายรอยกรีดท�ำให้หน้ากรีดยางเน่าเสียหาย เปลือกเหนือ รอยกรีดมีลักษณะฉ่�ำน�้ำเป็นรอยช้�ำสีหม่นต่อมาเป็นรอยบุ๋ม และพบเส้นใยของ เชื้อราสีขาวเทา เปลือกหน้ากรีดเน่าเหลือแต่เนื้อไม้สีด�ำ และไม่สามารถกรีดซ้�ำ บนเปลือกงอกใหมไ่ ด้ เมือ่ เฉอื นเปลอื กบริเวณข้างเคียงรอยแผลจะไมพ่ บอาการเน่า ลุกลามไปซึ่งตา่ งจากโรคเส้นดำ� ทม่ี ีลายเส้นสีดำ� ขยาย และลุกลามลงใต้รอยกรีด การแพร่ระบาด ระบาดเฉพาะในพื้นท่ีท่ีมีความช้ืนสูง และฝนตกชุกในช่วงเดือน มิถุนายนถึงธันวาคม เกิดจากอากาศในสวนยางพาราถ่ายเทไม่ดี หรือใน สวนยางพาราที่มีลกั ษณะทบึ ระยะปลูกถ่ี เชอื้ แพร่กระจายโดยลม แมลงพาหะ และ มดี กรดี ยาง 19 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

โรคเปลือกแห้ง (Tapping panel dryness) สาเหต ุ ยังไม่ทราบแน่ชัด อาจเกิดจากความผิดปกติทางสรีระวิทยาของต้นยาง ทถ่ี ูกชกั น�ำโดยหลายปจั จัย เชน่ การกรดี ถเ่ี กินไป การใช้สารเคมเี รง่ น�ำ้ ยาง ความผิดปกติของพันธ์ุ และสภาพแวดลอ้ ม นำ้� ยางแหง้ เป็นจุด เปลือกแห้งสนิท ลกั ษณะอาการ หลังจากกรีดยางแล้วน�้ำยางจะแห้งเป็นจุดๆ ค้างอยู่บนรอยกรีดเปลือก ยางมีสีน้�ำตาลอ่อน ถ้ายังกรีดต่อไปอีกเปลือกจะแห้งสนิทไม่มีน้�ำยางไหล เปลือก ใต้รอยกรีดจะแตกขยายบริเวณมากขึ้นจนถึงพ้ืนดิน และหลุดออกเน่ืองจากเปลือก งอกใหม่ภายในดันออกมา การแพรร่ ะบาด ไม่มีเช้ือสาเหตุโรค แต่มักเกิดกับยางพาราท่ีใช้ระบบกรีดท่ีไม่เหมาะสม กบั พนั ธยุ์ าง และการกรีดหกั โหมตดิ ต่อกันเปน็ ระยะเวลานาน 20การวนิ ิจฉัยศัตรูพชื เลม่ ท่ี 2 (ยางพารา)

โรคเสน้ ดำ� (Black stripe) สาเหต ุ เกิดจากเชอื้ รา Phytophthora botryosa Chee. และ P. palmivora (Butler) Butler. ลายเสน้ สีด�ำบนเนอ้ื ไม้ เปลอื กเนา่ หลดุ ลักษณะอาการ เหนือรอยกรีดเป็นรอยช�้ำ ต่อมาเป็นรอยบุ๋มสีด�ำหรือสีน้�ำตาลด�ำตาม แนวยาวของล�ำต้น เม่ือเฉือนเปลือกบริเวณรอยบุ๋มสีด�ำจะเห็นลายเส้นสีด�ำ บนเนื้อไม้ และอาจลุกลามลงใต้รอยกรีด ถ้าอาการรุนแรงเปลือกบริเวณท่ีเป็นโรค มีน�้ำยางไหล เปลือกเน่าหลุดออกมา หากเช้ือเข้าท�ำลายไม่รุนแรง เปลือกงอกใหม่ จะมลี ักษณะปมุ่ ปม การแพร่ระบาด ระบาดในสวนยางพาราที่เปิดกรีดแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ความชื้นสูงฝน ตกชุก ระบาดในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงธันวาคม เมื่อกรีดยางติดต่อกันโดยไม่มี การปอ้ งกันรกั ษาหน้ากรีด ความชน้ื สมั พทั ธ์สูงกวา่ 90% หรือช่วงทีห่ นา้ กรดี เปียก อยู่ตลอดเวลา แพร่กระจายโดยเชื้อบนฝักและใบท่ีเป็นโรคใบร่วง-ฝักเน่าถูกชะล้าง โดยนำ้� ฝนลงมาท่หี นา้ กรดี 21 กรมส่งเสริมการเกษตร

โรคลำ�ตน้ เนา่ (Twig rot) สาเหต ุ เกดิ จากเช้ือรา Phytophthora nicotianae Van Breda de Haan var. parasitica (Dastur) Waterhouse หรอื P. palmivora (Butler) Butler. ลักษณะอาการ เกดิ รอยแผลสีน้ำ� ตาลเขม้ หรอื ดำ� ชำ�้ เป็นรูปยาวรีไปตามความยาวของล�ำตน้ และก่ิงแขนงท่ีแตกออกจากตาของยางพารา ขยายลุกลามไปรอบต้นท�ำให้กิ่งแขนง เหี่ยวแหง้ ตาย การแพรร่ ะบาด ระบาดรุนแรงในแปลงเพาะช�ำกล้ายางพาราท่ีปลูกในดินทรายหรือดิน ทอ่ี ดุ มสมบูรณต์ ำ�่ แพรก่ ระจายโดยลม ฝน หรอื การสัมผัสต้นท่เี ปน็ โรค 22การวินจิ ฉัยศัตรูพชื เลม่ ที่ 2 (ยางพารา)

แมลงศัตรยู างพารา 23 กรมส่งเสริมการเกษตร

หนอนทราย (Root grub of Cockchafer beetle) ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Psilophlis vestita (Sharp) รูปรา่ งลักษณะ หนอนทรายมีลักษณะและวงชีวิต โดยตัวเมียวางไข่เป็นฟองเดี่ยวหรือ เป็นกลุ่มหลัง 2-3 สัปดาห์จึงฟักเป็นตัวหนอนสีขาว รูปร่างงอเหมือนตัว C ยาว 3-5 เซนติเมตร มีจุดเป็นแถวข้างล�ำตัว สีขาวนวล ส่วนท้องมีขนและหนาม อาศยั อยใู่ นดนิ เมอ่ื เจรญิ เตม็ ทแ่ี ลว้ จงึ สรา้ งผนงั หนาหอ่ หมุ้ ตวั เพอ่ื เขา้ ดกั แด้ ตวั เตม็ วยั เป็นแปลงปีกแข็งขนาดใหญ่ ตัวอ้วนป้อมและส้ัน ล�ำตัวยาว 3-5 เซนติเมตร กลางวันหลบซอ่ นในดินและหากินชว่ งพลบคำ่� ลกั ษณะการทำ� ลาย หนอนกัดกินและทำ� ลายรากต้นยางอายุ 6-12 เดอื น ทำ� ให้ตน้ ยางมีอาการ ใบเหลืองและเหี่ยวแห้งตาย มักพบในสวนยางพาราที่ปลูกทดแทน มักไม่พบความ เสียหายในต้นยางพาราท่ีอายุมาก แต่พบว่าตอยางพาราเก่าเป็นแหล่งอาศัยและ เปน็ แหล่งอาหาร นอกจากนหี้ นอนยงั เขา้ กัดกินรากพชื ปลกู แซมชนดิ อ่ืนๆ ในแปลง ยางพาราดว้ ย การแพรร่ ะบาด ระบาดในช่วงเดือนตลุ าคมถึงธันวาคม มกั พบในพื้นท่ีปลกู ดนิ ร่วนปนทราย 24การวนิ จิ ฉยั ศตั รพู ชื เล่มท่ี 2 (ยางพารา)

เพลี้ยหอย (Scale insect) ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Saissetia nigra Niet เพลยี้ หอย รปู ร่างลกั ษณะ เพล้ียหอยที่พบบนต้นยางมี 2 ชนิด คือ พวกที่ไม่มีเกราะหุ้มตัว และ พวกท่ีมีเกราะหุ้มตัว ลักษณะและวงชีวิต ตัวอ่อนเม่ือเริ่มออกจากไข่จะมีขา สามารถเคลอ่ื นท่ีได้ แต่หลงั จากลอกคราบแลว้ ขาจะหายไป เมือ่ เร่ิมเจาะดูดนำ้� เลย้ี ง จะไม่เคล่ือนที่และสร้างเกราะหุ้มตัวเอง มีขนาด 3-5 มิลลิเมตร สีน้�ำตาลแก่ ตัวผู้ ไม่มีปากดูด ขนาดเล็กกว่าตวั เมีย มีปกี และบินได้ ลกั ษณะการทำ� ลาย เพลยี้ หอยจะดดู กนิ นำ้� เลยี้ งตามลำ� ตน้ และกง่ิ กา้ นจนเกดิ อาการเหย่ี วแหง้ ตาย ท�ำให้ต้นยางชะงักการเจริญเติบโต ของเหลวที่เพลี้ยหอยขับถ่ายออกมาท�ำให้ใบ เกดิ ราด�ำปกคลุมผิวใบ และใบไม่สามารถสังเคราะหแ์ สงได้ การแพร่ระบาด เพล้ียหอยมักพบในเรือนเพาะช�ำหรือบนต้นยางพาราอ่อน สามารถ แพรก่ ระจายไดโ้ ดยมมี ดเป็นพาหะ 25 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

ปลวก (Rubber tree termite) ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Coptotermes curvignathus (Holmgren) ปลวก รปู ร่างลักษณะ ลักษณะและวงชีวิตของปลวก เป็นแมลงสร้างรังอยู่ในดิน อยู่รวมกันเป็น สงั คม รปู รา่ งแตกตา่ งกนั ตามวรรณะ สว่ นใหญจ่ ะกดั กนิ รากพชื ทต่ี ายแลว้ เปน็ อาหาร ซึง่ ให้ประโยชนใ์ นการสร้างอนิ ทรยี ์วัตถุแก่ดิน มเี พียงวรรณะนักรบ เป็นชนิดเดยี วท่ี ทำ� ลายตน้ ยางพาราสด สงั เกตไดจ้ ากกรามทม่ี ขี นาดใหญ่ ปลวกจะฟกั ออกจากไขแ่ ละ เจริญเปน็ ตวั เตม็ วยั โดยการเปล่ียนรปู รา่ งทีละนอ้ ย และไมม่ รี ะยะดักแด้ ลกั ษณะการท�ำลาย ตน้ ยางพาราทถี่ กู ทำ� ลายสว่ นมากจะมอี าการใบเหลอื งเหมอื นโรคราก ปลวก ท�ำลายล�ำต้นยางพาราได้ทุกระยะ โดยการกัดกินรากและโคนต้นจนเป็นโพรงท�ำให้ ยางพารายนื ตน้ ตาย ไมส่ ามารถสงั เกตเหน็ การทำ� ลายจากภายนอกไดเ้ ลย จนกระทง่ั ตน้ ยางโค่นลม้ หรือต้องขุดรากขึ้นมาด ู การแพร่ระบาด ส่วนใหญ่พบในพน้ื ท่ีปลกู สภาพเป็นดนิ ลูกรัง 26การวินจิ ฉัยศัตรูพืช เล่มท่ี 2 (ยางพารา)

เอกสารอ้างองิ ภกั ดี บญุ เจรญิ . 2552. เอกสารทางวชิ าการ เรอ่ื ง การรวบรวมผลงานวจิ ยั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง กับยางพารา ครัง้ ท่ี 6. ส�ำนกั งานกองทุนสงเคราะหก์ ารท�ำสวนยาง สถาบนั วจิ ยั ยาง.2549. โรคและศตั รยู างพาราทส่ี ำ� คญั ในประเทศไทย.กรมวชิ าการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบนั วจิ ยั ยาง. 2555. ค�ำแนะน�ำโรคและอาการผิดปกติของยางพารา ปี 2555. กรงุ เทพมหานคร http://www.p2s.psu.ac.th/ http://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=214&s=tblplant 27 กรมสง่ เสริมการเกษตร

เอกสารคำ�แนะนำ�ที่ 4/2561 การวินจิ ฉัยศตั รูพืช เลม่ ท่ี 2 (ยางพารา) ท่ีปรกึ ษา นายสมชาย ชาญณรงค์กลุ อธิบดกี รมส่งเสริมการเกษตร นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมสง่ เสรมิ การเกษตร นายส�ำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดกี รมส่งเสรมิ การเกษตร ว่าทร่ี ้อยตรี ดร.สมสวย ปญั ญาสทิ ธิ์ รองอธิบดีกรมสง่ เสริมการเกษตร นางดาเรศร์ กติ ตโิ ยภาส รองอธบิ ดกี รมสง่ เสริมการเกษตร นางศุภลักษณ์ กลับนว่ ม ผเู้ ช่ียวชาญด้านการจดั การศัตรูพืช นางอัญชลี สุวจติ ตานนท์ ผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั พฒั นาการถา่ ยทอดเทคโนโลยี นางจิระนชุ ชาญณรงค์กุล ผู้อ�ำนวยการกองสง่ เสรมิ การอารักขาพืช และจัดการดินปยุ๋ เรยี บเรยี ง นายประพฒั น์ คันธไพโรจน ์ ผอู้ �ำนวยการกลมุ่ สง่ เสริมการวนิ จิ ฉยั ศัตรพู ชื นางสาวชิดชนก คงเกตุ นักวชิ าการเกษตรชำ� นาญการ กล่มุ สง่ เสรมิ การวินิจฉัยศัตรูพืช กองสง่ เสรมิ การอารกั ขาพชื และจดั การดนิ ปุ๋ย กรมสง่ เสรมิ การเกษตร ภาพประกอบ กลุ่มส่งเสรมิ การวินิจฉยั ศัตรูพืช กองสง่ เสรมิ การอารักขาพืชและจดั การดินปุย๋ กลมุ่ อารักขาพืช ส�ำนักงานเกษตรจงั หวดั ตรงั พัทลุง และจงั หวดั อืน่ ๆ ในเขตภาคใต้ จัดทำ� นางรุจพิ ร จารุพงศ์ ผูอ้ ำ� นวยการกลุม่ พัฒนาส่ือสง่ เสริมการเกษตร นางสาวอ�ำไพพงษ์ เกาะเทยี น นกั วชิ าการเผยแพร่ชำ� นาญการ กลุม่ พฒั นาสอ่ื สง่ เสริมการเกษตร ส�ำนกั พัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมสง่ เสรมิ การเกษตร www.doae.go.th