Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การควบคุมวัชพืชในนาข้าวโดยวิธีผสมผสาน

การควบคุมวัชพืชในนาข้าวโดยวิธีผสมผสาน

Description: การควบคุมวัชพืชในนาข้าวโดยวิธีผสมผสาน.

Search

Read the Text Version

การควบคุมวัชพืชในนาขาว โดยวิธีผสมผสาน สารบญั แผน พบั เผยแพรท ่ี 207 ❍ วธิ กี ารควบคุมวัชพืชในนาขาว เรยี บเรยี งโดย หลกั ชยั มนี ะกนษิ ฐ อภชิ ิต ตานะเศรษฐ เบญจรตั น ปน หยา สมคิด นุชแปน พิมพเ ผยแพรโ ดย กองเกษตรสมั พนั ธ กรมสง เสรมิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ วัชพืชถือไดวาเปนอุปสรรคสําคัญในการพัฒนาการปลูกขาว ไมวาจะเปนการปลูกขาวโดยวิธีใด ทั้งนี้ เน่ืองจากความชน้ื ในดนิ ทาํ ใหเ กดิ มวี ชั พชื ขน้ึ มากชนดิ กวา การปลกู พชื ชนดิ อน่ื ๆ ซึ่งวัชพืชใบแคบ สกลุ หญา ตา ง ๆ จะสรางปญหาใหมากที่สุด สวนวัชพืชใบกวางและวัชพืชนาํ้ นั้นจะทาํ ความเสียหายให นอยกวา การควบคุมวัชพืชควรจะเร่ิมตั้งแตการปลูกจนกระท่ังเก็บเก่ียว สวนวิธีการควบคุมนั้นก็ สามารถทําไดหลายวิธี ขึ้นอยูกับประสิทธิภาพของวิธีการเหลานั้นและความพรอมของเกษตรกรเอง ดังน้ัน ในการจะเลอื กใชว ธิ ใี ด เกษตรกรควรตองพิจารณาถงึ ปจ จยั หลาย ๆ ดา น เชน สภาพพื้นที่ที่ปลูก ขาง ชนิดของวัชพืช ผลดี-ผลเสยี ของแตล ะวธิ ี วัสดุอุปกรณที่ใช ระยะเวลาที่ใช รวมทง้ั ความคมุ คา ตอ การลงทนุ ดว ย

วิธีการควบคุมวัชพืชในนาขาว 1. การคัดเลอื กเมลด็ พนั ธุ และใชเ มลด็ พนั ธทุ ป่ี ราศจากการเจอื ปนของเมลด็ วชั พชื ซึ่งเกษตรกร สามารถทาํ ไดหลายวิธี เชน 1.1 การฝดหรือโบก เพอ่ื ใหส ง่ิ เจอื ปนทเ่ี บากวา เมลด็ ขา วแยกตวั ออก 1.2 การคดั แยกสง่ิ เจอื ปนดว ยมอื 1.3 การทดสอบความงอกของเมลด็ พนั ธกุ อ นนําไปปลกู 1.4การแยกเมล็ดโดยการลอยตัวโดยการนําเมล็ดพันธุ ขาวมาแชน า้ํ คนใหทั่วแลวทิ้งไวสักพัก เมลด็ ทเ่ี สยี จะลอยอยขู า ง บนใหตักออกแลวนําเมล็ดที่จมนํ้ามาตากใหแหงกอนนําไปปลูก หรือเก็บเมล็ดไวทาํ พนั ธตุ อ ไป หนากอนนี้ หนาถัดไป สารบัญ

2. การเตรยี มดนิ 2.1 การไถ เปน การพลกิ หนา ดนิ สว นลา งขน้ึ มาอยขู า งบน การไถครงั้ แรกจึงเปน การกลบทาํ ลายวัชพืช ที่อยูดานบน สวนวัชพืชที่อยูดานลางก็จะถูกพลิกขึ้นมา ขางบน ดงั นน้ั จงึ ควรไถประมาณ 2-3 ครง้ั โดยทิ้งชวง การไถแตล ะครง้ั ประมาณ 7-10 วัน เพื่อจะไดทําลาย วัชพืชท้งั ทอ่ี ยบู นดินและเหงาทีอ่ ยใู ตดิน 2.2 การคราด เปน วธิ กี ารกาํ จัดวัชพืชที่ใชลําตน หรอื เหงา ในการขยายพนั ธุ และยงั สามารถ กําจัดตน ออ นของวชั พชื หลงั จากการไถไดอ กี ดว ย นอกจากนี้ยังจะทาํ ใหดนิ รว นซยุ เหมาะแกก ารชอนไช ของรากขา วนาหวา น ทําใหตน ขา วงอกงามแขง็ แรง 2.3 การทําเทอื ก เปนวธิ ีการทาํ ใหด ินท่ผี านการไถดะหรือไถพรวนแลว ใหอยูในสภาพท่เี ละ งา ยตอ การปก ดํา หรือการทาํ นาหวา นนา้ํ ตม ทาํ ใหต น ขา วเจรญิ เตบิ โตไดร วดเรว็ ขน้ึ 3. เลอื กวธิ ีการปลูกและอัตราการปลูก 3.1 วธิ กี ารปลกู การปลกู ขา วแบบนาดาํ จะชวยลด ปริมาณวัชพืชไดมากกวาวิธีอื่น เพราะในการปก ดําขา วจะ ใชกลาตนขาวที่มีการเจริญเติบโตแลว ในขณะที่วัชพืช กําลังจะเริ่มเจริญเติบโต ดังน้ันจึงเปน การลดการระบาด ของวชั พชื ลงได 3.2 อตั ราการปลกู ความหนาแนน ของตน ขา ว ก็มี สวนชว ยในการควบคมุ วชั พชื ไดเ หมอื นกนั ถา ตน ขา ว มีความหนาแนนนอย ชองวางระหวางตนขาวก็จะมีมาก ทําใหเกิดวัชพืชไดมาก ในทางตรงกนั ขา ม ถา ความหนา แนนของตนขาวมาก ชอ งวา งระหวา งตน มนี อ ย วัชพืชก็ เกิดขน้ึ ไดน อ ย 4. การควบคุมโดยใชระดับนาํ้ ในการทาํ นาดาํ หรอื นาหวา นนา้ํ ตม นา้ํ จะเปนปจจัยสาํ คญั ในการเพิ่มผลผลิตขาวใหสูง ดงั นน้ั การทเ่ี กษตรกรปลอ ยน้ําใหข งั อยใู นแปลงนากจ็ ะเปน การชว ย ลดปญหาวัชพืช โดยเฉพาะวัชพืชใบแคบสกุลหญาจะมีความออนแอตอสภาพนํา้ ขงั หนากอนนี้ หนาถัดไป สารบัญ

การควบคุมวัชพืชในนาขาวโดยวิธีผสมผสาน 4 5. การใชแ รงงานในการกําจดั วชั พชื โดยการใชม ดี จอบ เสียม หรอื เครอ่ื งมอื อน่ื ๆ ทต่ี อ งใชแ รงงาน คน แตเน่ืองจากปจ จบุ นั นแ้ี รงงานหายากและมรี าคาแพง อกี ทง้ั ตอ งใชเ วลามาก จงึ ไมน ยิ มปฏบิ ตั กิ นั 6. การใสปุย ควรทําการกําจัดวัชพืชกอนการใสปุย การใสปุยคร้ังแรกจะใสขณะเตรียมดิน และจะใสอีกครั้ง หลังจากนํานํ้าเขาแปลง เพอื่ ใหน า้ํ ยับยั้งการเจริญเติบโต ของวัชพืชเปนการปองกันไมใหวัชพืชมาแยงธาตุอาหาร ของตน ขา ว 7. การปลกู พชื หมนุ เวยี น การปลูกพืชอื่น เชน ขาวโพด ถั่วเขียว ถว่ั เหลอื ง ฯลฯ สลบั กบั การปลกู ขาว จะทาํ ใหเ กดิ การเปลย่ี นสภาพของดนิ และระบบนเิ วศวทิ ยาของพชื และวชั พชื ซง่ึ มคี วามตอ งการ สภาพของดนิ แตกตา งกนั จึงมผี ลทาํ ใหว ชั พชื ลดลงได 8. การใชส ารเคมใี นการกําจดั วชั พชื ซ่ึงปจ จบุ นั มแี นวโนม จะใชก นั เพม่ิ มากขน้ึ เรอ่ื ย ๆ ทดแทนการ ใชแรงงานคนที่หายากและมีราคาแพง แตเน่ืองจากสารเคมีกําจัดวัชพืชจัดไดวาเปนสารพิษ ดังน้ัน เกษตรกรจึงควรมคี วามรอบคอบในการใช เลือกใชสารเคมใี หเ หมาะสมกับวัชพืช ใชต ามอตั ราและเวลา ที่กําหนด อีกทั้งตองพิจารณาราคาของสารเคมีที่จะใชดวยวาจะคุมคาตอการลงทุน นอกจากนย้ี งั ควร คํานึงถึงพิษตกคางที่อาจจะสะสมในพืชหรือในดิน ซง่ึ จะกอ ใหเ กดิ อนั ตรายตอ ตวั เกษตรกร ผูบริโภค และสิ่งแวดลอม หากเปนไปไดควร หลกี เลย่ี งหรอื ใชใ นปรมิ าณทน่ี อ ยทส่ี ดุ กจ็ ะเปน การดอี ยา งยง่ิ 9. การควบคมุ โดยชวี วธิ ี เชน การเลย้ี งปลา เลย้ี งเปด และปลกู แหนแดง จะมสี ว นชว ยปอ งกนั และ กําจัดวชั พชื ไดเ ปน อยา งดี และเปน การเพม่ิ ธาตอุ าหารในดนิ อกี ดว ย หนากอนนี้ หนาถัดไป สารบัญ