ครูอุดมฤทธ์ิ ถาวร ครคู ศ.1 โรงเรยี นวดั ทพิ พาวาส สานักงานเขตลาดกระบัง กรงุ เทพมหานคร
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เล่ม 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 Slide PowerPoint_ส่อื ประกอบการสอน บรษิ ทั อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกัด : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทร./แฟกซ.์ : 0 2622 2999 (อตั โนมตั ิ 20 คูส่ ำย) [email protected] / www.aksorn.com
1หน่วยการเรียนรทู้ ี่ วิทยาศาสตรน์ ่ารู้
นกั เรียนคดิ วา่ เราสามารถใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ใน ? การคน้ หาคาตอบในส่ิงทสี่ งสยั ไดอ้ ย่างไร
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ จติ วทิ ยาศาสตร์
1. วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เป็นขนั้ ตอนของการทางานอย่างเป็นระบบทีน่ ักวทิ ยาศาสตร์ใชแ้ สวงหาความรู้ ค้นหาข้อเท็จจรงิ ทเ่ี ป็นคาตอบของ ปัญหาหรือสง่ิ ท่สี งสยั ซง่ึ นักเรียนสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรียนวทิ ยาศาสตร์ได้ โดยมอี ยู่ 5 ขนั้ ตอน ดังนี้ 1. ระบุปัญหาหรอื ตัง้ คาถาม 2. ต้ังสมมติฐาน 3. รวบรวมขอ้ มลู 4. วเิ คราะหข์ อ้ มลู 5. สรุปผล
1 ระบุปัญหาหรอื ต้งั คาถาม เปน็ การตงั้ คาถาม ปญั หา หรือขอ้ สงสัยจากการสังเกตสง่ิ ตา่ งๆหรือเหตกุ ารณต์ า่ งๆที่เปลีย่ นแปลงไป ในการสังเกตตอ้ งใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ เขา้ มาชว่ ยและควรสงั เกตสิง่ ตา่ งๆอยา่ งละเอยี ด รอบคอบทุกครง้ั เอะ๊ ! มอี ะไรสีขาวๆอย่บู นขนมปงั นะ ดูเหมอื นเปน็ เสน้ ใยเกาะกันอยู่ด้วย
2 ตง้ั สมมติฐาน เปน็ การคาดคะเนคาตอบของคาถามหรือขอ้ สงสยั ไวล้ ่วงหน้า โดยใชข้ อ้ มูลหรือใชค้ วามรูเ้ ดมิ ท่ีมอี ยู่ และสามารถตรวจสอบได้จากการสังเกต การสารวจหรือการทดลอง หรือส่ิงท่อี ย่บู นขนมปังนา่ จะเปน็ ผงแปง้ ท่ีใชท้ าขนมปงั หรือเปล่า
3 รวบรวมข้อมลู เปน็ การรวบรวมข้อมูลหรอื คน้ หาคาตอบของปัญหาด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ เช่น สงั เกต สารวจ สบื คน้ ขอ้ มลู ทดลอง สร้างแบบจาลอง เพื่อใหไ้ ดข้ ้อมลู ทเี่ ป็นขอ้ เทจ็ จริง แลว้ บันทกึ ผลไว้ ออ๋ รแู้ ลว้ ส่ิงท่มี ีลักษณะ เปน็ เสน้ ใยขาวๆท่อี ยบู่ นขนมปัง คือ รา น่ีเอง
4 วเิ คราะหข์ ้อมลู เป็นการนาข้อมูลท่ีรวบรวมได้จากวิธีต่าง ๆ มาวิเคราะห์ผล แปลความหมายหรืออธิบายความหมายของ ข้อเท็จจรงิ ตา่ งๆเพ่ือนาไปสกู่ ารสรปุ ผล ราเปน็ สงิ่ มีชวี ิตชนิดหนึ่งทม่ี โี ครงสร้าง เปน็ เส้นใย เราจะพบราได้บนอาหาร ตา่ งๆหากพวกเราเผลอรบั ประทานรา เข้าไปมากๆจะทาใหเ้ กดิ อนั ตรายได้
5 สรุปผล เป็นข้ันตอนสุดท้ายของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โดยเป็นการสรุปผลของข้อมูลที่ได้มาจากการวิเคราะห์ผล แล้ว เพ่ือตรวจสอบว่า ตรงกับสมมติฐานที่ต้ังไว้ล่วงหน้าหรือไม่ จากนั้นนาความรู้ท่ีได้ไปประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ขนมปังทม่ี รี าขึ้นแลว้ เราไม่ควร รบั ประทาน เพราะจะเป็นอันตราย ตอ่ สขุ ภาพได้
2. ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ หมายถึง ความชานาญและความสามารถในการคดิ อย่างมีเหตผุ ลตามกระบวนทางวทิ ยาศาสตร์ เพ่ือสบื เสาะ ค้นหาความรู้และแกป้ ญั หาต่างๆได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ซึ่งแบ่งเปน็ 2 ข้นั ดังน้ี 1) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรข์ ้ันพนื้ ฐาน มี 8 ทักษะ การสังเกต การจาแนกประเภท การวดั การหาความสัมพนั ธ์ ของสเปซกับเวลา การจดั กระทาและ การใชจ้ านวน การลงความเหน็ การพยากรณ์ สอื่ ความหมายข้อมลู จากข้อมูล
2) ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรข์ นั้ สูงหรอื ขั้นผสม มี 6 ทักษะ การกาหนดและ การกาหนดนิยาม การตีความหมาย ควบคุมตัวแปร เชงิ ปฏิบัตกิ าร ข้อมลู และลงขอ้ สรุป การทดลอง การตัง้ สมมติฐาน การสร้างแบบจาลอง
ตัวอย่าง ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ทีน่ ักเรยี นต้องเรยี นร้แู ละฝกึ ฝน ใหเ้ กิดความชานาญสาหรับการเรียนวิทยาศาสตร์ ทกั ษะการสงั เกต
ทกั ษะการพยากรณ์หรอื การคาดคะเน อ้าว! นี้คือถ่าน เหรอครับคุณแม่ ลองดมดูแลว้ มีกล่นิ ไหม้ ถา้ เราลองนาไปเผาไฟ มนั อาจจะตดิ ไฟได้นะ
ทักษะการจาแนกประเภท ถ่านทีค่ ุณแมใ่ ช้ เปน็ ถา่ นไมไ้ ม่ใช่ อยากรู้จังว่าถ่านในตู้เย็นเป็นถ่าน ถา่ นอัดแท่งนะครับ ชนิดใด ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตบอกว่า ถ่านทามาจากไมท้ ่ีนาไปเผาใหไ้ หม้ จนเปน็ ก้อนสีดา ถ่านมีหลายชนดิ คอื ถ่านอดั แท่ง ถ่านไม้ ก้องรไู้ ดอ้ ย่างไรคะวา่ คอื ถ่านไม้
ทกั ษะการลงความเหน็ จากขอ้ มลู เพราะถ่านชิ้นน้ีมีลักษณะคล้าย ท่อนไม้ พื้นผิวขรุขระ ไม่เรียบ เหมือนถ่านอัดแทง่ ท่ีมผี ิวเรียบครับ
3. จติ วทิ ยาศาสตร์ หมายถงึ ลกั ษณะนิสยั ของบคุ คลทเ่ี กดิ จากการศกึ ษาหาความรูท้ างวิทยาศาสตร์ โดยใช้กระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ จติ วิทยาศาสตร์ ประกอบดว้ ยลักษณะตา่ ง ๆ เชน่ ชา่ งสงั เกต ชา่ งสงสัย มุ่งม่ันในการทางาน
สนใจใฝ่เรยี นรู้ ซื่อสตั ย์
ตวั อย่าง นกั วิทยาศาสตรท์ ่ีคน้ หาความรทู้ างวิทยาศาสตรจ์ นประสบความสาเรจ็ มารี กรู ี (Marie Curie) ม่งุ มั่นทาการทดลอง โดยใชเ้ วลานาน หลายปีจนสามารถแยกแรใ่ หบ้ รสิ ทุ ธ์ิ และไดธ้ าตุ ชนิดใหม่ คอื ธาตเุ รเดยี ม จากเรอ่ื งราวของมารี กูรี พบวา่ มารี เปน็ ผ้ทู ่มี ีลักษณะนสิ ยั ของนักวทิ ยาศาสตรห์ รอื มี จิตวิทยาศาสตรต์ ่าง ๆ ท่ดี ี เชน่ ความรับผดิ ชอบ ความอดทน
นกั เรียนคิดว่า เราสามารถใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ น ? การคน้ หาคาตอบในส่งิ ทสี่ งสยั ไดอ้ ยา่ งไร โห! เจง๋ จัง งั้นเราใช้ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรห์ า เราเร่ิมจากใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ คาตอบในเร่ืองทส่ี งสัยบ้างแลว้ หละ ร่วมกับทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ได้จ้า หลายทกั ษะ จนทาให้เราคน้ หาคาตอบได้ และ ทาให้เรารูส้ กึ สนใจในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ มากข้ึน
การบ้าน 1. ให้นักเรียนเขยี นสรุปวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ลงในสมุด
การบ้าน 2. ให้นักเรียนเขยี น สรุปทกั ษะ กระบวนการ วทิ ยาศาสตร์ลงในสมุด
การบ้าน 3. ให้นักเรียน เขยี นสรุปจติ วทิ ยาศาสตร์ ลงในสมุด
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: