Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 17-แบบรายงานการผลิตสื่อและการใช้สื่อการสอน

17-แบบรายงานการผลิตสื่อและการใช้สื่อการสอน

Published by t.panida.noisri, 2020-07-27 03:12:51

Description: 17-แบบรายงานการผลิตสื่อและการใช้สื่อการสอน

Search

Read the Text Version

คำนำ ชดุ สือ่ การสอนวงล้อมาตราตัวสะกด กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย เรือ่ ง การสอนอ่านคา และการเขยี นคาที่มตี วั สะกดตรงมาตราและไมต่ รงมาตราระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ จดั ทาข้ึน เพ่ือยกระดบั ผลสมั ฤทธแ์ิ ละคุณภาพการอ่าน เขยี นภาษาไทย เพ่อื ให้นักเรยี นศึกษาเนื้อหา และฝึก ทักษะทางภาษา เรื่องการสอนอ่านคาท่ีมีตัวสะกดตรงมาตราและไมต่ รงมาตราโดยคณะผจู้ ัดทา ร่วมกันเรยี บเรียงเนอ้ื หาและรูปแบบกิจกรรม ผสานความเขา้ ใจลักษณะของภาษาไทย ตระหนกั รับรู้ ในความงามของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา กระบวนการคิดและการบรู ณาการ เพื่อนาไปสูก่ าร เรียนรดู้ ว้ ยตนเองและกระตุ้นความสนใจ สามารถพัฒนาทักษะทางภาษาเหมาะแก่วัย ระดบั ชน้ั อย่างสูงสดุ เตม็ ตามศักยภาพ เป็นพ้นื ฐานการคิดเช่อื มโยงในการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น ปลกู ฝังวฒั นธรรมทางภาษา ความเป็นไทยรวมท้ังการนาความรแู้ ละความคดิ ไปใชเ้ ป็นแนวทางใน การตดิ ตอ่ ส่ือสารในการดาเนนิ ชวี ิตตอ่ ไป ผูจ้ ัดทา นางสาวธัญญรัตน์ เทศยงค์

สำรบัญ เร่ือง หนำ้ คานา ………………………………………………………………………………………………………….......... ก สารบญั ............................................................................................................................... ข รายงานการผลิตสอ่ื และการใช้ส่ือการสอน.......................................................................... 1 หลักการและเหตผุ ล ............................................................................................................ 1 วตั ถุประสงค์ของส่ือการเรยี นการสอนท่ีผลิต …………………………………………………………….. 1 วิธีการสร้าง/ขน้ั ตอนในการผลติ ส่ือ/วัสดุ/อปุ กรณ์การผลิต …………………………………………. 1 ข้นั ตอนในการผลติ ส่ือ …………………………………………………………………………………………….. 2 วธิ กี ารใชส้ ่ือ …………………………………………………………………………………………………………… 2 ผลการนาสอ่ื การเรียนการสอนไปใช้ …………………………………………………………………………. 2 ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับ ……………………………………………………………………………………………………. 2 แนวทางในการผลติ สื่อการสอนของครผู ้สู อน …………………………………………………………….. 2-3 คาชแ้ี จงสาหรับครูและนักเรียน ........................................................................................... 4 แผนการจัดการเรยี นรู้ ......................................................................................................... 5 ใบงาน ................................................................................................................................. 14 แบบบันทึกการเยีย่ มชมสื่อ .................................................................................................. 24 แบบประเมินสื่อ .................................................................................................................... 29

รำยงำนกำรผลิตและกำรใช้ส่ือกำรสอน ประจำปกี ำรศึกษำ ๒๕๖๒ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย ๑. ชื่อ-สกุล นางสาวธญั ญรัตน์ เทศยงค์ ๒. วชิ ำท่ีสอน ภาษาไทย ๓. ชอ่ื สื่อ วงลอ้ มาตราตวั สะกด ๔. ประเภทสือ่ ๔.1.  สื่อเทคโนโลยี (IT) ๔.2.  สื่อสิ่งประดษิ ฐ์ ๔.3.  สอ่ื ส่ิงพิมพ์  หนงั สอื  เอกสาร  แผ่นพบั  โปสเตอร์  อ่นื ๆ ระบ.ุ ..... ๕. ใชป้ ระกอบกำรสอนในแผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี ๑๔ – ๖๑ เรอื่ ง มำตรำตัวสะกด ในระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๒ ๖. หลกั กำรและเหตผุ ล เนอ่ื งจากการเรยี นการสอนวิชาภาษาไทยในปัจจบุ นั ยงั ประสบกับปัญหาไมส่ ามารถ บรรลวุ ัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนโดย เฉพาะวิชาภาษาไทยชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เร่อื ง “มาตราตัวสะกด” ซึง่ นักเรยี นสว่ นใหญ่ยังเรียนไมผ่ า่ น จุดประสงค์การเรยี นรู้ ดังน้นั จึงต้องมี การสอนเสริมทักษะ แตว่ ิธีการสอนเสริมทักษะ โดยครูเป็นผู้บรรยายใหน้ ักเรยี นฟงั ท่ีเป็นอย่ใู น ปจั จุบนั เปน็ วธิ ีการทีท่ าให้ผสู้ อน และผเู้ รียน เกิดความเบ่ือหนา่ ย ครูที่จะสอนเสรมิ ทักษะก็มีไม่ เพยี งพอกับความต้องการของผู้เรยี น จงึ ทาใหก้ ารสอนเสริมทักษะไม่ประสบผลสาเรจ็ ดงั น้ี จึงไดแ้ ก้ปญั หาโดยสรา้ งบทเรยี นสาเร็จรูป เรอ่ื ง มาตราตวั สะกด ข้ึนเพื่อนาไปสอน เสริมทักษะเปน็ การแกป้ ัญหาดังกลา่ ว เพือ่ ส่งผลให้การสอนเสรมิ ทกั ษะมีผลสัมฤทธยิ์ ่ิงขึ้น และ นกั เรียนสามารถนาไปเรียนได้ด้วยตนเอง ตามความเหมาะสมและความต้องการของผเู้ รียนใน โอกาสตอ่ ไป โดยหวงั ว่าชุดการสอนเสริมทกั ษะวิชาภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จะสามารถ ทาหนา้ ที่เสรมิ ความรู้ และเสริมทักษะได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ๗. วตั ถปุ ระสงคข์ องส่ือกำรเรียนกำรสอนท่ีผลิต (โปรดระบเุ ป็นข้อๆ) ๑. นักเรียนสามารถบอกลักษณะเก่ยี วมาตราตวั สะกด ๒. นักเรยี นสามารถรจู้ ักคาและบอกความหมายของคาในมาตราตัวสะกดได้ ๓. นกั เรียนสามารถอา่ นคาและเขียนคาในมาตราตัวสะกดได้ถูกตอ้ ง ๔. นักเรียนสามารถนาคาในมาตราตวั สะกดมาแตง่ ประโยคให้ไดใ้ จความสมบูรณ์ได้ ๘. วิธีกำรสร้ำง/ขัน้ ตอนในกำรผลิตสือ่ /วัสดุ-อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นกำรสรำ้ งสอื่ /งบประมำณ วสั ด/ุ อปุ กรณก์ ำรผลิต

๑. รูปภาพเกย่ี วกับคาในมาตราตัวสะกด ๒. บตั รคามาตราตัวสะกด ๓. ตวั หนีบแบบไม้ ๔. กาวสองหนา้ แบบบาง ๕. กรรไกร ๖. สติ๊กเกอรใ์ ส ๗. ฟวิ เจอรบ์ อร์ด ๙. ขั้นตอนในกำรผลติ สอื่ ๑. ศกึ ษารายละเอยี ดของเนื้อหาจากหนังสอื และอนิ เทอรเ์ น็ต ๒. กาหนดกรอบเนือ้ หาของวงล้อมาตราตวั สะกด ๓. ออกแบบวงลอ้ มาตราตวั สะกดใหเ้ หมาะสมกบั เน้ือหา ๔. จัดทาวงล้อมาตราตัวสะกดจากโปรแกรมคอมพวิ เตอรจ์ ากน้ันปร้นิ มาแลว้ นามาตดั เปน็ รูป วงกลม ๕. นาแผ่นวงล้อมาตราตัวตะสะกดทต่ี ัดเป็นวงกลมมาแปะกบั ฟิวเจอร์บอรด์ แล้วตัดฟิวเจอร์ บอร์ดให้เท่ากบั แผน่ วงลอ้ มาตราตวั สะกดท่ีแปะไว้ ๖. นาแผน่ วงลอ้ มาตราตัวสะกดที่แปะกบั ฟวิ เจอรบ์ อรด์ เสรจ็ เรียบร้อยแลว้ มาเคลอื บดว้ ย สติ๊กเกอรใ์ ส ๗. ปร้ินคาทต่ี รงกบั รปู ภาพในวงล้อมาตราตวั สะกดออกมา แล้วตัดให้เปน็ รูปสี่เหลี่ยมผนื ผ้า จากนัน้ นามาเคลือบดว้ ยสต๊ิกเกอร์ใส ๘. นาคามาตราตวั สะกดที่เคลอื บสติ๊กเกอร์ใสเรียบรอ้ ยแล้วมาตดิ กับตวั หนีบแบบไม้ ๙. นาสอ่ื ไปใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน ๑๐.วิธีกำรใชส้ ื่อ ๑. ให้นักเรยี นแต่ละคนเดนิ มาหยิบตวั หนบี ไมท้ ีม่ ีคามาตราตวั สะกดติดอย่คู นละ 3 อนั ๒. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนอ่านออกเสยี งคาในมาตราตัวสะกดทีต่ นเองไดใ้ หเ้ พ่ือนๆฟงั จนครบทกุ คน ๓. ครใู หน้ ักเรยี นดภู าพในวงลอ้ มาตราตวั สะกดทลี ะภาพ แล้วใหน้ ักเรียนตอบว่าภาพทเี่ ห็นคือ ภาพอะไร จากนั้นให้นกั เรยี นคนทม่ี คี าตรงกับรูปภาพน้นั นาคามาหนีบไวใ้ หต้ รงกบั รูปภาพจน ครบทุกคา ๔. ให้นกั เรยี นฝกึ อ่านออกเสียงคาในวงลอ้ มาตราตวั สะกดใหม่อีกคร้ัง ๑๑.ผลกำรนำสือ่ กำรเรยี นกำรสอนไปใช้ ๑. เดก็ มีความสนใจในสือ่ ที่นาไปสอนแล้วเกิดความเข้าใจในเนื้อหามากยง่ิ ข้ึน ๒. สามารถนาสือ่ กลับมาสอนได้อีกคร้ังเพื่อทบทวนเนอ้ื หา ๓. เด็กมีความต่นื เต้นและสนกุ สนานในเวลาเรยี น ๑๒. ประโยชน์ที่ได้รบั

๑. อา่ นออกเสียงคาจากแผ่นปา้ ย ๒. ทาให้รจู้ ักคาในมาตราตวั สะกด ๓. ใชม้ าตราตวั สะกดได้ถูกต้อง ๑๓.แนวทำงในกำรผลติ สอื่ กำรสอนของครูผ้สู อน ๑๐.๑ ครูทุกคนผลิตส่ือการสอนในสาระการเรียนรทู้ ่ีสอนด้วยตนเอง ๑๐.๒ สื่อที่ผลติ ขนึ้ ประกอบการเรียนการสอนในสาระการเรยี นรใู้ นปกี ารศึกษาปจั จุบนั ๑๐.๓ สอ่ื ต้องผลิตจากวสั ดทุ ี่หาง่าย ประหยัดไมฟ่ ุ่มเฟือย มคี วามคุ้มคา่ ในการผลิตสื่อเพ่ือการ เรยี นการสอน ๑๐.๔ ส่อื ต้องส่งเสริมทกั ษะกระบวนการคดิ และความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ ๑๐.๕ สอ่ื การสอนช่วยสรา้ งรากฐานทีเ่ ป็นรปู ธรรมขนึ้ ในความคิดของผเู้ รียน ชว่ ยเร้าความสนใจ ของผเู้ รยี น เปน็ รากฐานในการพัฒนาการเรยี นรู้และชว่ ยความทรงจาอยา่ งถาวร ชว่ ยให้ ผเู้ รยี นไดม้ พี ฒั นาการทางความคดิ ช่วยเพิ่มทักษะในการอา่ น เสริมสร้างความเขา้ ใจ และเกิดความคดิ รวบยอดตรงตามผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั ๑๐.๖ การใชส้ ื่อต้องเหมาะสมกับเนื้อหา เวลาและวัยของผเู้ รียน ๑๐.๗ จัดเก็บและดแู ลรกั ษางา่ ย คงทนถาวร เคลื่อนย้ายสะดวก ๑๐.๘ ผู้เรยี นมีสว่ นรว่ มในการใช้ส่ือ ๑๐.๙ มีคมู่ ือการใชส้ อื่ อย่างชัดเจน

คำช้ีแจงสำหรับครู ๑. ครูควรศึกษามาตรฐานการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้และจดุ ประสงคก์ าร เรยี นรู้ของ หลกั สตู รสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษา ปีท่ี ๒ ให้ละเอียด ครบถ้วน ๒. ครคู วรชีแ้ จงใหน้ ักเรียนทราบถงึ ขั้นตอนและวธิ กี ารสอนเสรมิ ทักษะ โดยใช้สือ่ การสอนวง ล้อมาตราตวั สะกด และแบบฝึกทกั ษะมาตราตัวสะกดอย่างชดั เจน และประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจาก การสอน โดยใช้สอ่ื การสอนวงล้อมาตราตัวสะกดและแบบฝึกทักษะ เร่ือง มาตราตัวสะกด ๓. ครูต้องชแ้ี จงให้นักเรียนมคี วามซื่อสัตย์โดยไม่คัดลอกเพื่อน หรือใหเ้ พือ่ นทาให้ หรือแอบ ดคู าตอบก่อนทาแบบฝึกทักษะ หรอื แบบทดสอบกอ่ นเรียน และหลงั เรยี น ๔. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน แล้วศกึ ษาใบความรู้โดยครใู ห้ คาแนะนาเพ่ิมเตมิ และทาแบบทดสอบหลงั เรียน ๕. ในขณะทนี่ ักเรยี นกาลังศกึ ษาเนื้อหาหรือประกอบกิจกรรมครคู วรสังเกตการทางานของ นักเรียนอยางใกลช้ ดิ หากนักเรยี นคนใดมีปญั หาครจู ะต้องช่วยเหลอื ได้ทนั ที ๖. ครูจะต้องเกบ็ ผลงานของนกั เรียนไว้ในแฟ้มประวัตกิ ารเรียนของแต่ละคนเพ่ือดูการ เปลีย่ นแปลงพฤติกรรมและความกาวหน้าของนกั เรยี น ้ คำช้ีแจงสำหรับนกั เรียน ๑. แบบฝึกทักษะการสะกดคาเลม่ นมี้ ใี บความรูแ้ ละกจิ กรรมเปน็ แบบฝึกทักษะให้นักเรยี น ฝึกปฏิบัตทิ ั้งหมด ๑๖ แบบฝึก ๒. กอ่ นทาแบบฝึกทักษะให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน ๓. นักเรียนทาแบบฝึกทักษะเรยี งลาดับต้ังแต่แบบฝกึ ท่ี ๑ ถึงแบบฝึกที่ ๑๖ ๔. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียนหลังจากทาแบบฝึกทกั ษะครบทุกแบบฝึก

แผนการจดั การเรียนรู้

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๓ มำตรำ กง จำนวน ๖ ชวั่ โมง แผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ี่ ๑๒ เรือ่ ง รู้จกั มำตรำ กง เวลำ ๑ ชั่วโมง สปั ดำห์ท.่ี .........................สอนวนั ท่ี ...................... เดือน ......................................... พ.ศ. .......... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ สำระสำคัญ คาทม่ี ี ง เปน็ ตวั สะกด จดั เปน็ คาในมาตรา กง ผลกำรเรียนรู้ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รกั การอา่ น ตวั ชีว้ ดั มฐ. ท ๑.๑ ป.๒/๑ อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ ถูกต้อง จุดประสงค์กำรเรียนรสู้ ูต่ ัวชี้วัด ๑. อธิบายลักษณะของคาที่อยใู่ นมาตรา กง (K) ๒. จาแนกสว่ นประกอบของคาในมาตรา กง (P) ๓. กระตอื รอื รน้ ในการรว่ มกิจกรรม (A) สำระกำรเรียนรู้ ๑. ความรู้ มาตรา กง ๒. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ การจาแนก การปฏบิ ัต/ิ การสาธิต การสรปุ ความรู้ ๓. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ซื่อสัตยส์ จุ ริต มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่ันในการทางาน รักความเปน็ ไทย กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ข้นั ท่ี 1 ขน้ั นำ ๑.ใหน้ ักเรยี นดูภาพและบอกคาท่เี ก่ยี วข้องกับภาพน้ัน ได้แก่ มะมว่ ง หนังสอื กล่อง กลอง เตียง ยางลบ กางเกง รองเท้า ขั้นที่ 2 ข้ันสอน ๒. ครูตดิ บตั รคาให้นักเรยี นสังเกตคาบนกระดาน เชน่ งู งง งวง ๓.ให้นักเรียนอ่านออกเสียงและรว่ มกันอธบิ ายจากการสงั เกตพยญั ชนะ ง ของคาแตล่ ะคา

งู เป็นพยัญชนะต้น งง เปน็ พยัญชนะต้น และ ตัวสะกด งวง เปน็ พยญั ชนะตน้ และ ตัวสะกด ๔.ให้นกั เรยี นยกตวั อยา่ งคาที่มี ง เป็นตัวสะกด และมีความหมายทีละคน โดยครู กาหนดเวลา ใหน้ กั เรียนคดิ คนละไมเ่ กิน ๑๐ วินาที ใครคิดไมท่ นั จะวนกลับมาถามใหม่ ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ สรุป ๕.ให้นักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี ๐ คาที่มี ง เปน็ ตัวสะกด จัดเปน็ คาในมาตรา กง ๖.ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คาถามท้าทาย ดังน้ี ๏ คามาตรา กง มคี วามแตกต่างจากคามาตรา ก กา อยา่ งไร กำรวัดและประเมนิ ผล วิธีกำรวดั ผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์กำรระเมินผล สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ ม ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน เขา้ รว่ มกิจกรรม กจิ กรรม ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น ตรวจผลงานนักเรียน แบบฝึกหัด ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ สอ่ื กำรเรียนรู้ ๑. หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ป.2 ๒. วงล้อมาตราตัวสะกด ๓. บตั รคา

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี ๒ หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี ๔ มำตรำ กม จำนวน ๖ ชว่ั โมง แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๖ เร่ือง รู้จักมำตรำ กม เวลำ ๑ ชั่วโมง สปั ดำห์ที่..........................สอนวันท่ี ...................... เดือน ......................................... พ.ศ. .......... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ สำระสำคัญ คาที่มี ม เป็นตัวสะกดจดั เป็นคาในมาตรา กม ผลกำรเรียนรู้ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ตัวช้วี ดั มฐ.ท ๑.๑ ป. ๒/๑ อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ได้ ถูกต้อง จดุ ประสงค์กำรเรยี นรสู้ ู่ตัวชี้วดั ๑. อธิบายลักษณะของคาท่อี ยู่ในมาตรา กม (K) ๒. จาแนกสว่ นประกอบของคาทอ่ี ยใู่ นมาตรา กม (P) ๓. ยกตัวอย่างคาในมาตรา กม (P) ๔. กระตอื รือรน้ ในการร่วมกิจกรรม (A) สำระกำรเรียนรู้ ๑. ความรู้ มาตรา กม ๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ การจาแนก การใหเ้ หตุผล การสรุปความรู้ ๓. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ซอื่ สัตยส์ จุ รติ มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ ม่ันในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1 ขน้ั นำ ๑. นกั เรียนสังเกตและอ่านคาจากวงล้อมาตราตัวสะกด ๒.ให้นกั เรยี นบอกความเหมือนกนั ของชอื่ ผลไม้ ทงั้ ๔ คา บนกระดาน ขัน้ ที่ 2 ขน้ั สอน ๓. นักเรียนชว่ ยกนั แยกสว่ นประกอบของคาบนกระดาน ดังนี้

ส + โ-ะ + ม + -้ = ส้ม ม + -ะ = มะ , ข + -า + ม = ขาม (มะขาม) ค + โ- + ม = โคม , ฟ + ไ- = ไฟ (โคมไฟ) พ + -ะ + ด = พัด , ล + โ-ะ + ม = ลม (พัดลม) ส + -อ + ม + -้ = สอ้ ม ๔.ใหน้ ักเรียนสังเกต และทาความเขา้ ใจคาทม่ี ีตวั สะกดใน มาตรา กม จากการแยก ส่วนประกอบของคาบนกระดาน ๕.ให้นกั เรียนดภู าพ และบอกคาท่ีเกยี่ วข้องกับรปู ภาพนนั้ ตวั อย่างภาพ ภาพนม ภาพงู เหลือม ภาพส้อม ภาพผ้านวม ภาพสม้ ภาพมะขามป้อม ๖.ใหน้ กั เรยี นคิดคาทม่ี ี ม เปน็ ตวั สะกดและมคี วามหมายทลี ะคน ฝกึ ทักษะการคดิ คล่องโดย ครูกาหนดเวลาให้นกั เรียนคดิ คนละไมเ่ กนิ ๑๐ วนิ าที ใครคิดไม่ทนั เวลาท่ีกาหนดจะวนกลบั มาถาม ใหม่ ขน้ั ที่ 3 ข้นั สรุป ๗.ให้นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้ คาทีม่ ี ม เปน็ ตัวสะกดจัดเปน็ คาในมาตรา กม ๘.ให้นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ช้คาถามทา้ ทาย ดงั นี้ ๏ คาว่า นา้ จัดเป็นคาในมาตรา กม หรอื ไม่ เพราะอะไร กำรวัดและประเมนิ ผล วธิ กี ำรวดั ผล เคร่อื งมอื วดั ผล เกณฑก์ ำรระเมินผล สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการ เข้ารว่ มกิจกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วม ผา่ นตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผา่ น ตรวจผลงานนักเรยี น กจิ กรรม ผา่ น ๑ รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน แบบฝึกหัด ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ สอื่ การเรยี นรู้ ๑. หนงั สือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ป.2 ๒. รปู ภาพ ๓. วงลอ้ มาตราตวั สะกด

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปีที่ ๒ หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี ๕ มำตรำ เกย จำนวน ๖ ชว่ั โมง แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ่ี ๒๑ เร่ือง อำ่ นสะกดคำ มำตรำ เกย เวลำ ๑ ชว่ั โมง สปั ดำหท์ .ี่ .........................สอนวันท่ี ...................... เดือน ......................................... พ.ศ. .......... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ สำระสำคญั การอ่านสะกดคาทาใหเ้ ข้าใจส่วนประกอบของคา ผลกำรเรียนรู้ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพือ่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และมีนิสัยรกั การอา่ น ตวั ชีว้ ดั มฐ.ท ๑.๑ ป. ๒/๑ อ่านออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง ข้อความ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ได้ ถกู ต้อง จดุ ประสงค์กำรเรยี นรสู้ ตู่ วั ชี้วดั ๑. เขา้ ใจลักษณะของคาทอี่ ยู่ในมาตรา เกย (K) ๒. อา่ นสะกดคามาตรา เกย ได้ (P) ๓. กระตือรือรน้ ในการร่วมกิจกรรม (A) สำระกำรเรียนรู้ ๑. ควำมรู้ การอ่านสะกดคามาตรา เกย ๒. ทกั ษะ/กระบวนกำร/กระบวนกำรคิด การจาแนก การปฏิบตั ิ / การสาธติ การสรุปความรู้ ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซ่ือสัตยส์ จุ ริต ใฝเ่ รียนรู้ มีจติ สาธารณะ กำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 ข้ันนำ ๑. ใหน้ ักเรียนช่วยกันบอกคาจากรูปภาพในวงล้อมาตราตัวสะกด ขั้นท่ี 2 ข้นั สอน ๒. ใหน้ กั เรียนฝึกอา่ นสะกดคาจากวงล้อมาตราตวั สะกดพร้อมกนั ไฟฉาย ทางม้าลาย กลว้ ย ถว้ ย อ้อย สรอ้ ย ผู้ชาย ปา้ ยจราจร ๓. ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันคดิ คาที่มี ย เปน็ ตัวสะกด และฝึกอ่านสะกดคาตามแถบประโยค

๔. ให้นักเรยี นจบั คู่เลือกสอบอา่ นชุดคาในชวี ิตประจาวนั ๑๐ คา ฝึกให้นักเรยี นรู้จักช่วยเหลือ เพ่อื นท่ีอา่ นหนงั สือไมค่ ล่อง ฝึกอ่านออกเสียงทลี ะคาก่อนสอบ ข้นั ที่ 3 ขนั้ สรุป ๕. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี การอา่ นสะกดคาทาใหเ้ ข้าใจสว่ นประกอบของคา กำรวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ำรวัดผล เคร่อื งมอื วัดผล เกณฑ์กำรระเมินผล สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ ม ผา่ นตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่าน เข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรม ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ ่าน ตรวจแบบทดสอบอา่ นคา แบบทดสอบอา่ นคา ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ส่ือกำรเรียนรู้ ๑. หนงั สือเรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย ป.2 ๒. แถบประโยค ๓. วงลอ้ มาตราตัวสะกด

ใบงาน













แบบบนั ทกึ การเยย่ี มชมสอ่ื









แบบประเมินส่ือ

แบบประเมินควำมพงึ พอใจกำรใชส้ ื่อนวตั กรรม ส่ือ วงล้อมำตรำตวั สะกด คาชีแ้ จง แบบสอบถามชุดน้ีจัดทาขึ้นเพ่อื ประเมนิ ความพงึ พอใจการใช้สอื่ นวตั กรรม สอื่ วงล้อ มาตรา ตัวสะกด ซึ่งข้อมูลที่ไดจ้ ะเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งย่ิงตอ่ การพัฒนาและปรบั ปรุงการใหบ้ รกิ าร ให้มีความ เหมาะสมตอ่ ไป กรุณำทำเคร่ืองหมำย  ในชอ่ งท่ีท่ำนเลอื ก ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถำม 1. เพศ  ชาย  หญิง 2. ประเภทผู้ใช้บริการ  นกั เรยี น  ครู  อน่ื .......................... ตอนท่ี 2 ระดบั ควำมพึงพอใจต่อกำรใหบ้ ริกำร โดยมีเกณฑ์วดั ระดบั ดงั นี้ 5 = มากทส่ี ุด 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1 = นอ้ ยท่ีสุด 0 = ไม่ พึงพอใจ ประเด็นวัดควำมพงึ พอใจ ระดับควำมพึงพอใจ 54321 1. ดำ้ นขอ้ มลู /เนื้อหำ 1.1 มเี นอื้ หาสอดคลอ้ งกับผลการเรียนรู้ 1.2 มคี วามครบถว้ นของเน้ือหา 1.3 ความเหมาะสมในการเข้าสบู่ ทเรยี น 1.4 เนอื้ หามคี วามชัดเจนและครอบคลุม เข้าใจงา่ ย 2. ด้ำนรปู แบบ 2.1 สีและขนาดตัวอักษรตวั อักษร อา่ นง่าย ชัดเจน เหมาะสม และถูกตอ้ ง 2.2 ภาพ สี และการออกแบบมีความเหมาะสม 2.3 มคี วามนา่ สนใจ เหมาะสม กลมกลนื ดึงดดู ใจ 2.4 การออกแบบส่ือมีรปู แบบเหมาะสมและมีความสวยงาม 2.5 ความสวยงามของรปู ภาพทีใ่ ช้ 2.6 รูปภาพท่ีใชเ้ หมาะสมกับเน้อื หาและสื่อการเรียนรู้ไดด้ ี 3 ดา้ นการใช้งาน 3.1 การใชง้ านง่ายและสะดวกในการค้นหาข้อมูล

ประเดน็ วัดควำมพึงพอใจ ระดับควำมพึงพอใจ 54321 3.2 ความคงทน แขง็ แรง 4. ดา้ นการนาไปใช้ประโยชน์ 4.1 เนือ้ หาและขอ้ มูลสามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ตอนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook