Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 61-11-26-30--นำเสนอหน้าเสาธง-พฤศจิกายน

61-11-26-30--นำเสนอหน้าเสาธง-พฤศจิกายน

Published by t.panida.noisri, 2020-04-28 23:18:32

Description: 61-11-26-30--นำเสนอหน้าเสาธง-พฤศจิกายน

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ ข้อความ ส่วนราชการ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จงั หวดั ลพบรุ ี ท่ี /2561 วนั ที่ 30 พฤศจกิ ายน 2561 เรอ่ื ง รายงานกิจกรรมนาเสนอความรหู้ นา้ เสาธง เรยี น ผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๓ จงั หวัดลพบุรี ตามท่ีโรงเรียนได้มอบหมายให้แต่ละระดับชั้นจัดกิจกรรมนาเสนอความรู้หน้าเสาธง ในช่วงเวลา 8.00- 8.30 น. ทางระดับช้ัน ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ได้รับมอบหมายให้ดาเนินกิจกรรมในจันทร์ท่ี 26 ถึงวันศุกร์ท่ี 30 พฤศจิกายน 2561 เปน็ ทเ่ี รียบร้อยแล้ว จึงขอรายงานผลการดาเนนิ กจิ กรรมดงั น้ี วนั ท่ี เร่ือง นกั เรียน ครูผูร้ ับผดิ ชอบ จ. 26 พ.ย. 61 คนตรง นางสาวพันธว์ ิรา แสนสวสั ดิ์ ครูพนดิ า นอ้ ยศรี ปวช.3 อ. 27 พ.ย. 61 วันดนิ โลก นายธนณัฐฎ์ อนุภาพ ครูวลิ ยั พร ชินเกตุ ปวช.2 ครูนารี เชื้อแก้ว พ. 28 พ.ย. 61 โครงการในพระราชดาริ นายวรี ภทั ร รววิ งศ์ ครูกัญญาณฐั บวั โต เก่ียวกับดิน ของในหลวง ปวช. 2 ครูปยิ ะมาศ ทองกระจา่ ง รชั กาลที่ 9 พฤ. 29 พ.ย. 61 การบรจิ าคโลหติ ดอี ย่างไร นายพงษ์ธวชั จนั ทะบุดดา ครูศโิ รรัตน์ คานวณชยั ปวช. 2 ครอู ิศรานวุ ฒั น์ เฉยเฉลยี ง ศ. 30 พ.ย. 61 องคมนตรี นางสาวพรนชั ชา ศักดเิ์ จริญ ครปู รยิ านุช กลีบเอม ชยั กลุ ปวช. 1 ครูสมหวัง กับบุญ ผลที่เกิดกับตวั นักเรยี น นักเรยี นทน่ี าเสนอ 1. ทาใหก้ ล้าแสดงออก กลา้ พูดในที่สาธารณะ 2. รจู้ กั การค้นหาเน้ือหาให้เหมาะกับเวลาและผู้ฟัง นกั เรยี นผู้รบั ฟงั 1. ได้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองในการพูด ได้ความรู้เกี่ยวกับวันดินโลก โครงการใน พระราชดาริเก่ียวกับดินของในหลวงรัชกาลที่ 9, การเตรียมตัวในการบริจาคโลหิต ข้อดีของ การบรจิ าคโลหติ ความรู้เกี่ยวกับอคงมนตรี 2. ไดค้ วามรูใ้ หม่ๆ นอกจากในหอ้ งเรยี น D:\\62-10-Backup-Panida\\สรุปงาน\\สรุปงาน-2561\\61-11-26-30-นาเสนอหน้าเสาธง-5\\2-61-11-30-สรุปการพดู หน้าเสาธง5.docx

จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ ลงชื่อ หัวหน้าระดับ ปวช. (นางสาวพนดิ า น้อยศรี) ครู คศ.2 ความเหน็ รองผู้อานวยการฝ่ายอานวยการ ความเหน็ รองผูอ้ านวยการฝ่ายวิชาการ --------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------- (นายปองชัย ปานศริ ิ) (นายชนาธิป กาละพนั ธ)์ รองผูอ้ านวยการโรงเรยี น รองผู้อานวยการโรงเรยี น ความเหน็ ผอู้ านวยการ --------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------- (นายดารงสิทธ์ิ เบา้ ศลิ ป)์ ผอู้ านวยการโรงเรยี น D:\\62-10-Backup-Panida\\สรุปงาน\\สรุปงาน-2561\\61-11-26-30-นาเสนอหน้าเสาธง-5\\2-61-11-30-สรุปการพดู หน้าเสาธง5.docx

วันท่ี วันจนั ทร์ที่ 26-ศกุ ร์ท่ี 30 พฤศจกิ ายน เลขทีเ่ อกสาร-611130 2561 เวลา 8.10-8.15 น. นกั เรยี นเล่าเรอื่ งเพ่อื ฝึก รวมเวลา 25 นาที ความกลา้ และความเช่อื มั่นในตนเอง ภารกจิ 1. ใหน้ ักเรยี นหาเร่ืองเล่า 1 วัน 1 คน 1 เรอื่ ง ประจาสปั ดาหต์ ามทไี่ ด้รบั มอบหมาย ผลการปฏบิ ตั งิ าน 1. นกั เรยี นมีทักษะในการเลา่ เรื่อง 2. นักเรียนหาเรือ่ งทีม่ คี วามรหู้ ลากหลายใน การนาเสนอในแตล่ ะวนั ได้ สง่ิ ทจ่ี ะดาเนนิ การตอ่ 1. ให้นักเรยี นทุกคนได้มีโอกาสออกมาเล่า เรือ่ ง โดยไมใ่ ช่การอา่ น ปญั หา-อปุ สรรค 1. นกั เรียนบางคนไม่ต้ังใจฟัง ความร้บู าง เรื่องเหมาะสมกบั นกั เรียนวยั ทไ่ี ม่ เหมือนกนั ขอ้ เสนอแนะ 1. ถาม ตอบ เพื่อชงิ รางวลั 2. หาเรื่องเลา่ ทห่ี ลากหลายใหเ้ หมาะกับวยั ของผู้ฟังสลับกนั ไปในแตล่ ะครง้ั ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย เอกสารอา้ งองิ 1. ภาพกจิ กรรม 2. บนั ทึกรายการการดาเนนิ กจิ กรรม

ผนู้ ำเสนอ นำงสำวพนั ธว์ ิรำ แสนสวสั ด์ิ ปวช.3 รุ่น 12 วนั ทนี่ ำเสนอ วนั จันทร์ ที่ 26 พฤศจิกำยน 2561 ครผู รู้ บั ผดิ ชอบ ครพู นิดำ นอ้ ยศรี เนอ้ื หำทน่ี ำเสนอเกย่ี วกบั เรอื่ ง ทักษะกำรใชช้ ีวิต หลำยคนแยกไมค่ ่อยออกระหว่ำง -คนตรง กบั คนหยำบ -คนตรง กบั คนไมม่ กี ำลเทศะ -คนตรง กบั คนไมม่ มี ำรยำท หลำยคร้ังมำกทเี่ จอคนประเภทแย่ๆ แลว้ บอกวำ่ ทำไมอะ่ กเ็ ปน็ คนตรงๆ แบบนแ้ี หละ คอื มันไม่ใช่ป่ะ.. ? คนตรง คอื คนทพี่ ดู ในสง่ิ ทคี่ ดิ กจ็ รงิ แตไ่ มห่ ยำบ ถกู กำลเทศะ แสดงควำมคดิ เหน็ อยำ่ งตรงไปตรงมำ คนตรงๆ กับคนไม่มีมำรยำทต่ำงกนั อยำ่ เขำ้ ใจผดิ มนั มีควำมต่ำงกนั อยำ่ อำ้ งว่ำทพี่ ูดอย่ำงใจคิดเพรำะเป็นคนตรง!

คนตรงๆ คอื คนพดู จำตรงไปตรงมำ ไมอ่ อ้ มคอ้ ม วกวน ตรงประเดน็ แสดงควำมคดิ เหน็ อยำ่ งใจคดิ โดยไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งพดู จำรนุ แรง หยำบคำย หรอื หกั หนำ้ หกั นำ้ ใจผอู้ น่ื คนไม่มีมำรยำท จะพดู อย่ำงใจคิด โดยไมไ่ ตร่ตรองว่ำจะหกั หนำ้ หักน้ำใจใครหรอื ไม่ จะคดิ จะทำโดยเอำตวั เองเป็นท่ตี ั้ง ไม่รจู้ กั คำวำ่ ให้เกียรตติ วั เองและผ้อู ื่น เชน่ ปำ้ ติ๋มทรำบคณุ ว่ำหวิ ขำ้ วรึยังคะ? คนตรงๆแม้จะเกรงใจ แตด่ ้วยควำมทห่ี ิวมำก กต็ อบอย่ำงใจคิดว่ำหิวคะ่ /ครบั อยำกทำน ขำ้ วแลว้ ค่ะ/ครับ คนเสียมำรยำทจะตอบวำ่ อยำกแดกนำนแลว้ หิวชบิ หำย หรอื ไม่อยำกกนิ ปำ้ ต๋ิม ทำกบั ขำ้ วไมอ่ รอ่ ย เป็นตน้

ผนู้ ำเสนอ นำยธนณัฐฎ์ อนภุ ำพ ปวช.2 รุ่น 13 วนั ทนี่ ำเสนอ วันองั คำรที่ 27 พฤศจิกำยน 2561 ครผู รู้ บั ผดิ ชอบ ครวู ลิ ยั พร ชินเกต,ุ ครนู ำรี เชอ้ื แกว้ เนอ้ื หำทนี่ ำเสนอเกยี่ วกบั เรอื่ ง เรอื่ งของในหลวงรัชกำลที่ 9 วนั ท่ี 5 ธันวำคม ของทกุ ปี เป็นวันดินโลก ที่องคก์ ำรสหประชำชำตมิ ีมตยิ อมรบั ให้วันนี้ เปน็ วันสำคญั สำกล ซงึ่ เรำชำวไทยทกุ คนกค็ วรไดร้ ถู้ งึ ประวตั ิวนั ดินโลกไวเ้ ป็นควำมประทบั ใจท่ี ชวี ิตนี้ไดเ้ กิดในรัชกำลที่ 9 นอกจำกวนั ท่ี 5 ธนั วำคม ของทุกปี จะเป็นวนั พอ่ แห่งชำติมำตลอดในรัชกำลที่ 9 แลว้ ทั่วโลกยงั ใหค้ วำมสำคัญตอ่ วนั น้ีในฐำนะวนั ดินโลก ตำมมติของ UN อกี ด้วย ซึง่ วันนีจ้ ะพำทกุ คน มำทรำบถงึ ประวตั ิวนั ดินโลก และควำมสำคัญของวนั ดนิ โลก พรอ้ มด้วยโครงกำรพระรำชดำริ เก่ยี วกบั ดนิ อันเปน็ เหตุผลสำคัญยิง่ ทีท่ ำใหม้ วี นั ดินโลก ประวตั วิ นั ดนิ โลก วันดินโลก (World Soil Day) ถูกกำหนดข้นึ ตำมมติขององคก์ ำรสหประชำชำติ ในระหว่ำง กำรประชุมคณะกรรมกำรด้ำนเศรษฐกิจและกำรเงินของที่ประชุมสมัชชำสหประชำชำติ สมัย สำมัญท่ี 68 ณ สำนักงำนใหญ่สหประชำชำติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกำ เม่ือปี พ.ศ. 2556 ให้วันที่ 5 ธันวำคม ของทุกปี เป็นวันดินโลก (World Soil Day) และกำหนดให้ปี พ.ศ. 2558 เปน็ ปดี ินสำกล (International Year of Soils) โดยมจี ุดประสงคเ์ พอ่ื เปน็ กำรสง่ เสรมิ และสร้ำงควำม ตระหนักรู้เกีย่ วกับควำมสำคัญของทรัพยำกรดิน ต่อกำรพัฒนำด้ำนกำรเกษตร โภชนำกำร และ ควำมมน่ั คงทำงอำหำร ทงั้ ในระดบั ประเทศและระหว่ำงประเทศ ท้ังน้ีสำเหตุที่กำหนดให้วันดินโลก ตรงกับวันท่ี 5 ธันวำคมนั้น สืบเน่ืองจำกกำรประชุม สภำโลกแห่งปฐพีวิทยำ (World Congress of Soil Science) คร้ังท่ี 17 เม่ือปี พ.ศ. 2545 ทำง สหภำพวิทยำศำสตรท์ ำงดินนำนำชำติ (International Union of Soil Sciences) ได้ตระหนักถึงพระ

รำชกรณียกิจของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช ในกำรพัฒนำทรัพยำกรดิน โดยเฉพำะกำรพัฒนำดำ้ นกำรเกษตร จงึ ไดเ้ ลอื กวันที่ 5 ธนั วำคม ของทุกปี ซ่งึ ตรงกับวันคลำ้ ยวนั พระบรมรำชสมภพ เป็นวันดินโลก เพื่อเทิดพระเกียรติพระวิริยอุตสำหะของพระบำทสมเด็จพระ ปรมินทรมหำภมู ิพลอดุลยเดช ในด้ำนกำรปกป้องและพัฒนำทรัพยำกรดิน ซึ่งถ้ำให้กลำ่ วถงึ พระ รำชกรณยี กิจของพระบำทสมเดจ็ พระปรมินทรมหำภมู ิพลอดลุ ยเดช ด้ำนกำรพฒั นำทรัพยำกรดนิ เรำก็ขออนุญำตพำคนไทยทุกคนมำทบทวนโครงกำรในพระรำชดำริเก่ียวกับดินของในหลวง รัชกำลท่ี 9 ดังนี้ 1. โครงกำรศกึ ษำฟน้ื ฟทู ด่ี นิ เสอื่ มโทรมเขำชะงมุ้ (อนั เนอื่ งมำจำกพระรำชดำร)ิ ต้ังอยู่ท่ีบ้ำนเขำชะงุ้ม หมู่ที่ 2 ตำบลเขำชะงุ้ม อำเภอโพธำรำม จังหวัดรำชบุรี เป็นศูนย์ ศึกษำวิจัยและสำธิตวิธีกำรฟ้ืนฟูปรับปรุงดินเสื่อมโทรมให้สำมำรถใช้ประโยชน์ได้อย่ำงมี ประสิทธิภำพ เพ่ือเป็นรูปแบบและส่งเสริมอำชีพเกษตรกรที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นท่ี โครงกำร ได้เรียนรู้วิธีกำรจัดกำรดิน น้ำ และพืชอย่ำงถูกต้อง มีควำมยั่งยืนไม่กระทบต่อ สง่ิ แวดล้อม ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีชีวติ ควำมเปน็ อย่ทู ี่ดีขึน้ 2. โครงกำรทดลองแก้ปัญหำดนิ เปร้ียว ด้วยพระปรีชำสำมำรถของในหลวง รัชกำลที่ 9 ท่ีมีพระรำชดำริแก้ปัญหำดินเปร้ียวใน จังหวัดนครนำยก ด้วยกำรใช้วิธีธรรมชำติอย่ำงกำรเปล่ียนถ่ำยดินจำกแปลงหนึ่งสู่แปลงหน่ึง เพื่อลดควำมเปรี้ยวของดิน อีกท้ังพระองค์ยังได้พระรำชทำนพระรำชดำริให้ใช้ปูนมำร์ล และ สำหร่ำยในกำรปรับสภำพน้ำให้ดีขึ้น และต่อมำก็ได้พระรำชทำนพระรำชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนำ ดำเนินกำรศึกษำผลกระทบ ของกำรใช้เถ้ำลอยลิกไนท์ เพื่อแก้ไขปัญหำดินเปรี้ยวเพิ่มเติมอีก ดว้ ย 3. โครงกำรหญำ้ แฝก พระบำทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหำภมู ิพลอดุลยเดช ได้ทรงศึกษำเรือ่ งกำรใช้หญ้ำแฝกใน กำรอนุรกั ษ์ดนิ และน้ำจำกเอกสำรของธนำคำรโลก ท่นี ำย Richard Grimshaw ได้ทูลเกลำ้ ฯ ถวำย และพระองคไ์ ด้พระรำชทำนพระรำชดำริเก่ียวกับหญำ้ แฝก โดยให้ทรงทดลองปลูกหญำ้ แฝกเพ่ือ ป้องกันกำรพังทลำยของดิน จนปัจจุบันมีหน่วยงำนกว่ำ 50 หน่วยงำน ดำเนินงำนสนอง พระรำชดำริกำรพัฒนำและรณรงค์กำรใช้หญ้ำแฝก ส่งผลให้กำรดำเนินงำนก้ำวหน้ำมำกข้ึน ตำมลำดับ

ผนู้ ำเสนอ นำยวรี ภทั ร รววิ งศ์ ปวช.2 ร่นุ 13 วนั ทน่ี ำเสนอ วนั พธุ ท่ี 28 พฤศจิกำยน 2561 ครผู รู้ บั ผดิ ชอบ ครกู ญั ญำณัฐ บวั โต, ครูปยิ ะมำศ ทองกระจำ่ ง เนอ้ื หำทนี่ ำเสนอเกยี่ วกบั เรอื่ ง เรอื่ งของในหลวงรัชกำลท่ี 9 เพื่อเทิดพระเกียรติพระวิริยอุตสำหะของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลย เดช ในด้ำนกำรปกป้องและพัฒนำทรัพยำกรดิน ซ่ึงถ้ำให้กล่ำวถึงพระรำชกรณียกิจของ พระบำทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหำภูมพิ ลอดุลยเดช ดำ้ นกำรพฒั นำทรพั ยำกรดิน เรำกข็ ออนญุ ำต พำคนไทยทกุ คนมำทบทวนโครงกำรในพระรำชดำริเกีย่ วกับดนิ ของในหลวง รชั กำลท่ี 9 ดังนี้ 4. โครงกำรแกลง้ ดนิ พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกำลท่ี 9 ทรงรับทรำบควำมเดือดรอ้ น ของพสกนิกรในภำคใต้ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งเกษตรกรในจังหวัดนรำธิวำส ท่ีประสบปัญหำดิน เปรี้ยวทำให้เพำะปลูกไม่ได้ผล พระองค์จึงมีพระรำชดำริให้ทำกำรศึกษำวิจัยและพัฒนำดินพรุ เพอ่ื แก้ไขปัญหำดนิ เปรยี้ ว ณ ศนู ยศ์ กึ ษำกำรพัฒนำพกิ ุลทอง จงั หวดั นรำธวิ ำส โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ หลักในกำรศึกษำและพัฒนำพ้ืนที่พรุ ซึ่งเป็นดินเปรี้ยวให้เป็นดินที่มีคุณภำพ สำมำรถทำกำร เพำะปลูกได้ ซึง่ พระองค์ทรงแนะนำใหใ้ ช้วิธี \"กำรแกล้งดนิ \" คอื เรมิ่ จำกกำรแกลง้ ดินให้เปรยี้ วสดุ ขีด ด้วยกำรทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันเพื่อเร่งปฏิกิริยำทำงเคมีของดินพรุท่ีมีสำรประกอบ ของกำมะถันท่ีจะทำให้ดนิ มีสภำพเป็นกรดจัดเมอ่ื ดินแห้ง จำกนั้นจึงทำกำรปรบั ปรุงดินที่เปน็ กรด จัดนั้นด้วยวิธีกำรตำ่ ง ๆ ทจี่ ะลดควำมเปน็ กรดลงมำให้อยูใ่ นระดบั ทจ่ี ะปลกู พชื เศรษฐกจิ เชน่ ขำ้ ว ได้ 5. โครงกำรศนู ยศ์ กึ ษำกำรพฒั นำเขำหนิ ซอ้ น ตั้งอยู่ที่อำเภอพนมสำรคำม จังหวัดฉะเชิงเทรำ เป็นพ้ืนท่ีที่รำษฎรน้อมเกล้ำฯ ถวำย ที่ดิน จำนวน 216 ไร่ และคร้ันพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกำลที่ 9

ทอดพระเนตรเห็นสภำพควำมทุรกันดำรของผืนดิน จึงมีพระรำชดำริให้หน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้อง ดำเนินกำรฟื้นฟูทรัพยำกรธรรมชำติ ทั้งดิน น้ำ ป่ำไม้ ณ พื้นท่ีดังกล่ำว รวมทั้งหมู่บ้ำนรอบ ๆ ศูนย์ โดยกำรวำงแผนปลูกพชื และเล้ียงสตั ว์ ท้ังยังใหศ้ ูนย์ศกึ ษำกำรพัฒนำเขำหนิ ซ้อน เป็นแหล่ง ศึกษำ ค้นคว้ำ และสนำมทดลองทำงด้ำนกำรเกษตร เพ่ือให้เกษตรกรและผู้ท่ีสนใจเข้ำมำดูงำน และนำแนวพระรำชดำริไปปฏบิ ตั ิตำม และพัฒนำอำชีพและพนื้ ที่ของตนเพือ่ เพิ่มผลผลติ เพื่อให้ ประชำชนมีฐำนะควำมเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งพระองค์ยังมีพระรำชดำริให้ส่งเสริมศิลปำชีพและ หัตถกรรมพ้ืนบ้ำน เปน็ อำชีพเสริมเพิ่มรำยไดจ้ ำกอำชพี หลกั อีกทำงหน่ึงดว้ ย 6. โครงกำรศนู ย์ศึกษำกำรพัฒนำหว้ ยทรำย หนึ่งในโครงกำรพระรำชดำริที่ต้ังอยู่ ณ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซ่ึงพื้นที่แห่งน้ีเคย อุดมสมบูรณ์ แต่ได้ถูกรำษฎรเข้ำบุกรกุ ทำลำยป่ำเพ่ือประกอบอำชีพเกษตรกรรม จนไม่เหลือปำ่ ไม้และสัตว์ป่ำ ทำให้พ้ืนท่ีแหง้ แล้ง ฝนไม่ตกตำมฤดูกำล และสภำพพื้นดินเส่ือมโทรมอย่ำงหนกั ทำกำรเกษตรกรรมไม่ได้ผล พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกำลที่ 9 จึงได้ พระรำชทำนพระรำชดำริให้พัฒนำพื้นท่ีบริเวณห้วยทรำย เป็นศูนย์ศึกษำกำรพัฒนำด้ำนป่ำไม้ อเนกประสงค์ โดยยึดแนวพระรำชดำริของพระบำทสมเดจ็ พระปรมินทรมหำภมู ิพลอดลุ ยเดช ให้ ใช้ประโยชน์จำกพื้นที่ให้สมดุลกับทรัพยำกรธรรมชำติที่มีอยู่ และสำมำรถฟ้ืนฟูให้มีศักยภำพใน กำรทำเกษตรกรรมและควำมเป็นอย่ขู องประชำกรไดอ้ ย่ำงต่อเนื่อง 7. โครงกำรศนู ยศ์ ึกษำกำรพัฒนำห้วยฮอ่ งไคร้ ศูนย์ศึกษำกำรพัฒนำห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมำจำกพระรำชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ แห่งนี้ พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกำลที่ 9 ได้ พระรำชทำนพระรำชดำรใิ ห้พฒั นำทรพั ยำกรธรรมชำติทั้งด้ำนทรัพยำกรต้นน้ำ ด้ำนเกษตรกรรม ด้ำนปศสุ ัตว์และโคนม รวมทั้งดำ้ นอตุ สำหกรรม เน่อื งมำจำกมีพระรำชประสงคท์ ี่จะให้ศูนย์ศกึ ษำ กำรพัฒนำห้วยฮ่องไคร้ ทำหน้ำท่ีเสมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชำติท่ีมีชีวิต ที่ประชำชนจะเข้ำไปเรียนรู้ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้ โดยในด้ำนดินและเกษตรกรรมมีพระรำชดำริให้ศึกษำพัฒนำสภำพดินในพื้นท่ีท่ีมีควำม ลำดชัน ซ่ึงนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ให้เกิดประโยชน์ต่อประชำชนอย่ำงสูงสุด โดยได้ทำกำร ทดลองปลูกพืชที่เหมำะสม ทดสอบประโยชน์ของดินชนิดนี้ในรูปแบบอ่ืนๆ รวมท้ังศึกษำควำม ยำกง่ำยในกำรชะล้ำงพังทลำยของดินดังกล่ำวไว้เพ่ือหำวิธีป้องกัน และเพ่ือลดผลกระทบต่อ ส่ิงแวดล้อมในระยะยำว ส่งผลให้ประชำกรได้มีพ้ืนที่ทำกินและอยู่อำศัยได้อย่ำงไม่ลำบำกมำก นัก

หวนนึกไปถึงพระรำชกรณียกิจของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช เมื่อใด เมื่อน้ันก็รู้สึกว่ำเรำช่ำงโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมำเป็นประชำชนของพระองค์ท่ำน ซ่ึง นอกจำกวนั ดินโลกจะเกดิ ข้ึนเพอ่ื เป็นกำรเทิดพระเกียรตพิ ระวริ ิยอตุ สำหะ ของพอ่ หลวง ร.9 แล้ว เรำก็เชื่อว่ำชำวไทยทุกคนคงทรำบกันดีถึงควำมหมำยของพระนำมพระองค์ท่ำน อันหมำยถึง กำลังของแผน่ ดิน... \"อันท่จี รงิ เรำชอ่ื \"ภูมิพล\" ที่แปลว่ำ \"กำลงั ของแผน่ ดิน\" แมก่ อ็ ยำกให้เธออยกู่ บั ดนิ เมอ่ื ฟงั คำพูดแลว้ กลบั มำคดิ ซ่ึงแม่คงจะสอนเรำและมีจดุ มุ่งหมำยวำ่ อยำกให้ตดิ ดนิ และอยำกใหท้ ำงำน ให้แก่ประชำชน\"...พระรำชดำรัสของพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช ขอขอบคณุ ข้อมูลจำก ศนู ยศ์ กึ ษำกำรพัฒนำเขำหนิ ซอ้ นอันเนื่องมำจำกพระรำชดำริ สำนกั งำนคณะกรรมกำรพเิ ศษเพอ่ื ประสำนงำนโครงกำรอันเนอ่ื งมำจำกพระรำชดำริ (สำนักงำน กปร.) มลู นธิ ชิ ัยพัฒนำ เรำรกั พระเจำ้ อยู่หวั un.org

ผนู้ ำเสนอ นำยพงษธวัช จนั ทะบดุ ดำ ปวช.2 ร่นุ 13 วนั ทนี่ ำเสนอ วันพฤหสั บดที ี่ 29 พฤศจิกำยน 2561 ครผู รู้ บั ผดิ ชอบ ครศู โิ รรตั น์ คำนวณชัย, ครอู ิศรำนุวฒั น์ เฉยเฉลียง เนอ้ื หำทน่ี ำเสนอเกย่ี วกบั เรอ่ื ง ควำมรู้รอบตัว โลหติ เป็นของเหลวสีแดงท่ีไหลเวียนอยู่ภำยในหลอดโลหิตในร่ำงกำย โดยกำลังสูบฉีด ของหัวใจ อวัยวะสำคัญท่ีทำหน้ำท่ีสร้ำงเม็ดโลหิต คือ ไขกระดูก โลหิตแบง่ ได้ 2 ส่วน คือ เม็ด โลหิต ซ่ึงมี 3 ชนิด คือ เม็ดโลหิตแดง เม็ดโลหิตขำว เกล็ดโลหิต ส่วนที่ 2 คือ พลำสมำ (Plasma) คือส่วนที่เป็นของเหลวของโลหิตท่ีทำให้เม็ดโลหิตท้ังหลำยลอยตัว มีลักษณะเป็นน้ำสีเหลือง ปัจจุบันยังไม่สำมำรถหำสำรประกอบใดที่มำใช้ทดแทนโลหิตได้ดี ฉะน้ันเมื่อยำมท่ีร่ำงกำยเสีย โลหิตจำกอุบัติเหตุ ผ่ำตัด หรือโรคที่จำเป็นต้องรักษำด้วยโลหิต จึงจำเป็นต้องรับบริจำคโลหิต จำกบุคคลหนงึ่ เพอ่ื นำไปให้อีกบคุ คลหน่งึ เพอื่ ชว่ ยเหลอื ชีวิตใหท้ ันท่วงที ควำมจำเป็นต้องใช้โลหิต โลหิต 77% ที่ได้รับบริจำคถูกนำไปใช้เพ่ือทดแทนโลหิตท่ี สูญเสียไปในภำวะต่ำงๆ อำทิ อุบัติเหตุ กำรผ่ำตดั โรคกระเพำะอำหำร กำรคลอดบตุ ร ฯลฯ อกี 23 % เปน็ กำรนำโลหติ ไปใชเ้ ฉพำะโรคเลอื ด อำทิ โรคโลหติ จำงธำลสั ซีเมยี เกล็ดโลหิตต่ำ ฮีโมฟี เลีย เป็นต้น ควำมตอ้ งกำรโลหติ ปัจจุบันศูนย์บริกำรโลหติ แห่งชำติ สภำกำชำดไทย ต้องจัดหำโลหติ ใหไ้ ด้วนั ละ 1,800-2,000 ยนู ติ เดอื นหนึง่ ไม่ต่ำกว่ำ 58,000 ยูนิต จงึ จะเพียงพอจำ่ ยใหก้ ับผูป้ ว่ ย ตำมโรงพยำบำลตำ่ งๆ ทว่ั ประเทศ กำรบรจิ ำคโลหติ คือกำรสละโลหติ ส่วนเกนิ ทีร่ ำ่ งกำยยงั ไม่จำเป็นตอ้ งใช้ เพ่อื ใหก้ ับผู้ป่วย ซึง่ ไม่เป็นอันตรำยต่อผู้บริจำค เพรำะร่ำงกำยแต่ละคนจะมีปริมำณโลหติ ประมำณ 17-18 แกว้ นำ้ ร่ำงกำยใช้เพียง 15-16 แก้วเท่ำน้ัน ส่วนท่ีเหลือน้ันสำมำรถบริจำคให้ผู้อ่ืนได้ โลหิตสำมำรถ บริจำคได้ทกุ 3 เดอื น เพรำะเม่อื บริจำคโลหิตออกไปไขกระดกู จะเปน็ สว่ นสำคัญในกำรสร้ำงเม็ด

โลหิตขึ้นมำทดแทนให้มปี ริมำณโลหติ ในร่ำงกำยเท่ำเดิม ถ้ำไม่ไดบ้ รจิ ำค ร่ำงกำยจะขบั เมด็ โลหติ ท่ีสลำยตัว เพรำะหมดอำยอุ อกมำทำงปสั สำวะ อจุ จำระ คณุ สมบตั ผิ ูบ้ ริจำคโลหติ พอสรุปได้ 1. อำยรุ ะหว่ำง 17 ปี ถงึ 70 ปีบรบิ ูรณ์ ผูท้ ่มี อี ำยุ 17 ปี ไมถ่ ึง 18 ปี ต้องมีหนังสือยินยอม จำกผู้ปกครอง 2. นำ้ หนกั ตงั้ แต่ 45 กโิ ลกรัม ขน้ึ ไป 3. สขุ ภำพสมบูรณ์แข็งแรงพร้อมท่ีจะบริจำคโลหิต 4. นอนหลับพกั ผอ่ นเพียงพอในเวลำปกตขิ องตนเอง ในคืนก่อนวนั ทมี่ ำบรจิ ำคโลหิต ขอ้ ดี! กำรบรจิ ำคเลอื ด หลำยคนไม่รู้เร่ืองน้ี ข้อมูลทำงสภำกำชำดระบุเอำไว้น่ำสนใจถึงข้อดีใจกำรบริจำคเลือด ว่ำ 1. ร่ำงกำยแข็งแรง หลำยคนอำจจะไม่รู้ว่ำสุขภำพโดยรวมของผู้บริจำคเลือดดีกว่ำคนท่ี ไม่เคยบริจำคเลือด เลือดท่ีเสียไปจะไม่เป็นผลเสียต่อร่ำงกำยของเรำเลย ซ้ำยังทำให้ระบบ ไหลเวยี นของเลือดดีข้นึ ทำใหร้ ำ่ งกำยแข็งแรงตำมมำอีกด้วย 2. ผิวดี หน้ำใส ออร่ำเปล่งประกำย ว้ิงๆ สำวๆ หลำยคนมีควำมเช่ือกันแบบผิดๆ ว่ำ ถ้ำ เรำไปบริจำคเลือด ต้องอ้วนขึ้นแน่ๆ เลย ตัดควำมเชื่อแบบผิดๆ นี้ออกไปจำกสมองเรำได้เลย จริงๆ แลว้ กำรบริจำคเลอื ดไมไ่ ดท้ ำใหอ้ ว้ น แตก่ ลับทำให้ผ้บู ริจำคมรี ูปรำ่ งท่ดี ีขึน้ หนุ่ เพรียวย่งิ ขึ้น นอกจำกน้ียังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปล่ัง มีน้ำมีนวล และยังช่วยให้หน้ำใส เปล่งประกำย ว้ิงๆ แบบไม่ตอ้ งพ่ึงกำรฉีด หรือกำรกนิ วิตำมนิ คอลลำเจนต่ำงๆ กนั เลย งำ่ ยๆ แค่บริจำคเลอื ดก็ทำให้ มผี ิวพรรณสดใสไดเ้ หมือนกัน 3. ห่ำงไกลมะเร็ง ผลกำรศึกษำพบว่ำ ผู้บริจำคเลอื ดมีแนวโน้มจะมอี ำยุยืน หรือมีโอกำส ตำยจำกโรคต่ำงๆ น้อยกว่ำผู้ท่ีไม่บริจำคเลือด นอกจำกนี้กำรบริจำคเลือดมีส่วนลดควำมเสี่ยง จำกมะเรง็ หลำยชนดิ ไดแ้ ก่ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเรง็ กระเพำะอำหำร มะเรง็ คอหอย ในผูบ้ รจิ ำคเลอื ด บรจิ ำคเลอื ดกัน 4. จิตใจดี รู้สึกดี กำรบริจำคเลอื ด จะให้ควำมรสู้ ึกดี ควำมรู้สึกว่ำเป็นผูใ้ ห้ ได้ทำทำน ได้ ช่วยชีวิตคน ทำให้เรำรสู้ กึ สุขใจเพรำะได้ช่วยชวี ติ ผู้อนื่ ด้วย เรยี กไดว้ ำ่ เปน็ กำรทำบญุ อกี อยำ่ งหนงึ่ เป็นกำรตอ่ ชวี ติ ทสี่ ่งผลใหใ้ ครหลำยๆ คน มีชีวติ รอดปลอดภัย

กำรใชส้ ิทธริ ักษำพยำบำลของผบู้ ริจำคโลหติ เปน็ ไปตำมระเบยี บกระทรวงสำธำรณสขุ วำ่ ดว้ ยกำรช่วยเหลือในกำรรักษำพยำบำล (ฉบบั ที่ 6) พ.ศ. 2558แบง่ ออกเป็น 1. ผู้บริจำคโลหิต ตั้งแต่ 7 คร้ังขึ้นไป สำมำรถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่ำห้องพิเศษและ ค่ำอำหำรพเิ ศษได้ ไมเ่ กินร้อยละ 50 2. ผู้บริจำคโลหิต ตั้งแต่ 16 คร้ังข้ึนไป สำมำรถขอใช้สิทธ์ิช่วยเหลือค่ำรักษำพยำบำล + คำ่ หอ้ งพเิ ศษและคำ่ อำหำร ไดร้ ้อยละ 50 3. ผู้บริจำคโลหิต ตั้งแต่ 24 คร้ังขึ้นไป สำมำรถขอใช้สิทธิ์ช่วยเหลือค่ำรักษำพยำบำล 100% + คำ่ หอ้ งพเิ ศษและคำ่ อำหำร ไดร้ อ้ ยละ 50 4. ผบู้ ริจำคโลหิต ต้งั แต่ 100 ครั้งขึ้นไป สำมำรถขอใชส้ ิทธิ์ \"ขอพระรำชทำนเพลงิ ศพ\" ได้ เปน็ กรณพี เิ ศษ **เฉพำะผู้บรจิ ำคโลหิตเท่ำนั้น ไม่สำมำรถโอนสทิ ธใ์ิ ห้ผู้อ่ืนได้ 5. ผู้บริจำคโลหิต ตั้งแต่ 9 ครั้งข้ึนไป สำมำรถขอใช้สิทธ์ิ ตรวจวิเครำะห์สำรเคมีในโลหิต ได้ เช่น ตรวตจหำนำ้ ตำล, ไขมัน, กำรทำงำนของตบั , กำรทำงำนของไต ฯลฯ โดยผู้บรจิ ำคโลหติ สำมำรถใช้สิทธไ์ิ ด้ ปีละ 1 ครัง้

ผนู้ ำเสนอ นำงสำวพรนชั ชำ ศกั ดิ์เจริญชยั กุล ปวช.1 รนุ่ 14 วนั ทน่ี ำเสนอ วนั ศกุ ร์ที่ 30 พฤศจกิ ำยน 2561 ครผู รู้ บั ผดิ ชอบ ครปู ริยำนชุ กลีบเอม, ครูสมหวงั กับบุญ เนอ้ื หำทน่ี ำเสนอเกยี่ วกบั เรอ่ื ง องคมนตรี คณะองคมนตรปี จั จบุ นั คณะองคมนตรี ตำมรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช 2560 ระบุว่ำเป็น คณะบุคคลท่ีพระมหำกษัตริย์ทรงเลือกและทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธำนองคมนตรีคน หน่งึ และองคมนตรีอ่นื อีกไม่เกิน 18 คนมี หนำ้ ที่องคมนตรี ถวำยควำมเห็นต่อพระมหำกษัตริย์ในพระรำชกรณียกิจท้ังปวงที่พระมหำกษัตริย์ทรง ปรกึ ษำ รวมทัง้ ปฏิบัติภำรกิจตำมทพ่ี ระมหำกษตั รยิ ท์ รงกำหนดหรอื ทรงมอบหมำย กำรเลือกและแตง่ ตั้งองคมนตรหี รือกำรให้องคมนตรพี น้ จำกตำแหน่ง ให้เป็นไปตำมพระรำชอัธยำศัย โดยประธำนรัฐสภำเป็นผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร แต่งตงั้ ประธำนองคมนตรี หรอื ให้ประธำนองคมนตรพี น้ จำกตำแหน่ง และประธำนองคมนตรเี ปน็ ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำรแตง่ ต้งั องคมนตรี หรอื ให้องคมนตรพี น้ จำกตำแหนง่ คณุ ลกั ษณะองคมนตรี องคมนตรีเป็นข้ำรำชกำรในพระองค์ ตำมพระรำชกฤษฎีกำจัดระเบียบรำชกำรและกำร บริหำรงำนบุคคลของรำชกำรในพระองค์ พ.ศ. 2560[1] และตอ้ งไมเ่ ป็นสมำชิกสภำผูแ้ ทนรำษฎร สมำชิกวุฒิสภำ หรือดำรงตำแหน่งทำงกำรเมืองอ่ืน ตุลำกำรศำลรฐั ธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งใน องค์กรอิสระ ข้ำรำชกำรซ่ึงมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ ข้ำรำชกำรในพระองค์ตำแหน่งอ่ืน นอกจำกองคมนตรี พนักงำนรัฐวสิ ำหกจิ เจ้ำหนำ้ ท่อี นื่ ของรัฐ หรือสมำชกิ หรอื เจำ้ หนำ้ ทข่ี องพรรค

กำรเมือง และต้องไม่แสดงกำรฝักใฝ่ในพรรคกำรเมืองใดๆ ก่อนเข้ำรับหน้ำที่ องคมนตรีต้อง ถวำยสัตย์ปฏิญำณต่อพระมหำกษตั ริย์ กำรพน้ จำกตำแหนง่ ขององคมนตรี กำรพน้ จำกตำแหนง่ เมอื่ ตำย ลำออก หรือมพี ระบรมรำชโองกำรใหพ้ ้นจำกตำแหน่ง คณะองคมนตรี จะทำกำรประชุมทกุ สปั ดำห์ ณ ทำเนยี บองคมนตรี บรเิ วณพระรำชอทุ ยำนสรำญ รมย์ ใกล้พระบรมมหำรำชวงั ด้ำนถนนสนำมไชย โดยมีสำนกั งำนองคมนตรี ซึ่งเปน็ สว่ นรำชกำร ในพระองค์ คอยสนบั สนนุ ภำรกจิ ขององคมนตรใี นกำรปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ถี วำยพระมหำกษัตริย์ และ กำรอืน่ ตำมพระรำชอัธยำศยั คณะองคมนตรี ชดุ ปจั จบุ นั (ณ วนั ท่ี 23 ธนั วำคม 2559) ขณะน้มี ี 16 ทำ่ น ดงั นี้.. 1. พลเอกเปรม ติณสลู ำนนท์ 2 ธันวำคม พ.ศ. 2559[9]-ปจั จบุ นั 2. พลเอกสรุ ยุทธ์ จลุ ำนนท์ 6 ธนั วำคม พ.ศ. 2559-ปจั จุบนั มำตรวจเย่ยี มโรงเรียนวนั ที่ 6-7 ธันวำคม 2561 3. ศำสตรำจำรย์เกยี รตคิ ณุ นำยแพทย์ เกษม วฒั นชัย 6 ธนั วำคม พ.ศ. 2559-ปจั จบุ ัน ศำสตรำจำรย์เกียรติคุณ นำยแพทย์ เกษม วัฒนชัย องคมนตรี, ประธำนคณะกรรมกำร มูลนิธิโรงพยำบำลสมเด็จพระพยุพรำช, นำยกสภำมหำวิทยำลัยมหิดล นำยกสภำ มหำวิทยำลัยเชียงใหม่ และดำรงตำแหน่งนำยกสภำมหำวิทยำลัยศิลปำกร ในอดีตได้รับ ตำแหนง่ รัฐมนตรวี ำ่ กำรกระทรวงศกึ ษำธิกำร ในรฐั บำลพันตำรวจโททักษณิ ชินวตั ร 4. นำยพลำกร สวุ รรณรฐั 6 ธันวำคม พ.ศ. 2559-ปจั จบุ นั 5. อรรถนติ ิ ดษิ ฐอำนำจ 6 ธันวำคม พ.ศ. 2559-ปจั จุบัน 6. นำยศุภชัย ภงู่ ำม 6 ธันวำคม พ.ศ. 2559-ปัจจบุ ัน 7. พลอำกำศเอกชลิต พุกผำสุข 6 ธันวำคม พ.ศ. 2559-ปัจจบุ ัน 8. พลเอกไพบลู ย์ คมุ้ ฉำยำ 6 ธนั วำคม พ.ศ. 2559-ปัจจุบนั 9. พลเอกดำว์พงษ์ รัตนสวุ รรณ 6 ธนั วำคม พ.ศ. 2559-ปจั จุบัน 10. นำยจรัลธำดำ กรรณสูต 12 ธันวำคม พ.ศ. 2559-ปจั จุบัน 11. พลเอกกมั ปนำท รุดดษิ ฐ์ 23 ธันวำคม พ.ศ. 2559-ปจั จบุ ัน 12. พลเรอื เอกพงษเ์ ทพ หนเู ทพ 8 มถิ นุ ำยน พ.ศ. 2560-ปจั จบุ ัน

13. รองศำสตรำจำรย์จิรำยุ อศิ รำงกรู ณ อยธุ ยำ 12 มนี ำคม พ.ศ. 2561-ปัจจุบนั 14. นำยกติ ติ อำพน 2 ตลุ ำคม พ.ศ. 2561-ปัจจบุ นั 15. พลเอกเฉลิมชัย สิทธสิ ำท 2 ตุลำคม พ.ศ. 2561-ปจั จบุ ัน 16. พลอำกำศเอกจอม รงุ่ สวำ่ ง 2 ตลุ ำคม พ.ศ. 2561-ปจั จุบัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook