ใบงานที่ 4 5 6 7

ใบงานท่ี 4 จิตรกรรมสากล ปี 1 นางสาวจิดาภา เตม็ บางงอน 139 นายเสฏฐวฒุ ิ กสุ ูงเนิน 159 นายทวีศกั ด์ิ จนั ทุรส 117

ใบงานที่ 4 แบบฝึกหดั เร่ืองระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 1.ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์หมายถึง ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์หมายถึงอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ที่เช่ือมต่อถึงกนั ซ่ึงสามารถแลกเปล่ียนขอ้ มูล และแบ่งปันทรัพยากรระหวา่ งกนั ได้ อปุ กรณ์เครือข่ายเหลา่ น้ีใชร้ ะบบกฎที่เรียกวา่ โปรโตคอลการสื่อสาร เพ่อื ส่งขอ้ มูลผา่ นอปุ กรณ์จริงหรือโดยใชเ้ ทคโนโลยไี ร้สาย 2.จงบอกประโยชนข์ องระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 1 สามารถใชท้ รัพยากร (Resource) ที่มีราคาสูงร่วมกนั ได้ 2 สามารถนาระบบเครือข่าย (Network) ไปเชื่อมต่อหรือเป็นประตูทางผา่ น (Gateway)เพอ่ื เขา้ สู่ คอมพวิ เตอร์ระบบอื่นๆ ได้ 3 ประหยดั ค่าใชจ้ ่ายซอฟตแ์ วร์ (Software) เนื่องจากสามารถติดต้งั ซอร์ฟแวร์ เป็นแบบระบบเครือขา่ ย ได้ ท าใหป้ ระหยดั คา่ ใชจ้ ่ายในการติดต้งั รวมท้งั เป็นการง่ายต่อ การบารุงรักษา (Maintenance) 4 ผใู้ ช้ (User) สามารถใชข้ อ้ มูลร่วมกนั ได้ เน่ืองจากขอ้ มลู ของผใู้ ชจ้ ะเกบ็ อยใู่ น ฮาร์ดดิสก์ ตวั เดียวกนั หมด นอกจากน้นั ผใู้ ชง้ านสามารถนงั่ ทางานที่คอมพิวเตอร์เครื่องใด กไ็ ด้ ซ่ึงสามารถที่จะเรียกใชข้ อ้ มูลของ ตนเองไดเ้ สมอ 5 สามารถใชง้ านโปรแกรมประเภทมลั ติยสู เซอร์ (Multi-User) หรือโปรแกรม สาหรับตรวจสอบขอ้ มูล 3.การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลอยา่ งมีประสิทธิภาพสามารถแบ่งออกไดก้ ่ีประเภท แบ่งได4้ ประเภท 1) การใชฮ้ าร์ดแวร์ร่วมกนั 2) การใชซ้ อฟตแ์ วร์ร่วมกนั 3) การเช่ือมตอ่ กบั ระบบอ่ืน 4) การใชร้ ะบบมลั ติยสู เซอร์

4.จงยกตวั อยา่ งการท างานบนระบบเครือข่าย(network)ที่น าฮาร์ดแวร์มาใชร้ ่วมกนั เป็ นฮาร์ดแวร์ประเภท ใดบา้ ง 1 Share Disks Paces เป็นการใชง้ านร่วมกนั ของเน้ือหา ของที่ใชใ้ นการ เกบ็ ขอ้ มูล ซ่ึงรวม Hard Disk และ CD ROMS (Computer-Disk Read-Only Memory) ซ่ึงจะใชฮ้ าร์ดดิสกห์ รือ ซีดีรอมจากเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ (PC) 2 Share Printers เครื่องพิมพเ์ ป็นอุปกรณ์ต่อพว่ ง (Peripherals) ที่ใช้ งานมากที่สุดโดยเฉพาะในปัจจุบนั มีเคร่ืองปริ้นเตอร์ราคาสูงเกิดข้ึนมากมาย 3 Share Communication Devices เป็นอปุ กรณ์สื่อสารของระบบ คอมพิวเตอร์มาใชร้ ่วมกนั เช่น โมเดม็ ซ่ึงใชใ้ นการเปลี่ยนถา่ ยขอ้ มูลระหวา่ งคอมพวิ เตอร์ ดว้ ยกนั โดยอาศยั สายโทรศพั ท์ 5.จงบอกประโยชนก์ ารใชซ้ อฟตแ์ วร์ร่วมกนั ขอ้ มูลจะถูกเกบ็ อยทู่ ี่ File Server ขอ้ มูลจึงถูกตอ้ ง ทนั สมยั และรวดเร็ว 6.การใชร้ ะบบมลั ติยสู เซอร์(multi-users)หมายถึง การใชโ้ ปรแกรมหรือระบบปฏิบตั ิการที่ยอมใหม้ ีผใู้ ชไ้ ดม้ ากกวา่ หน่ึงคน ในเวลาเดียวกนั เช่น การจดั ขอ้ มูลพ้ืนฐานเพอ่ื ใหผ้ ใู้ ชห้ ลายคนสามารถเรียกหาไดพ้ ร้อม ๆ กนั อยา่ งในระบบเครือข่าย (network) เป็นตน้

ใบงานท่ี 5 จิตรกรรมสากล ปี 1 นางสาวจิดาภา เตม็ บางงอน 139 นายเสฏฐวฒุ ิ กสุ ูงเนิน 159 นายทวีศกั ด์ิ จนั ทุรส 117

ใบงานที่ 5 แบบฝึกหดั องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 1.องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีอะไรบา้ ง 1. คอมพวิ เตอร์อยา่ งนอ้ ย 2 เคร่ือง เช่ือมต่อกนั 2. เน็ตเวิร์คการ์ด หรือ NIC (Network Interface Card) 3. สื่อกลางและอปุ กรณ์สาหรับการรับส่งขอ้ มูล เช่น สายสญั ญาณ สายสัญญาณที่นิยมใชใ้ นระบบ เครือข่าย 4 . โปรโตคอล (Protocol) โปรโตคอลเป็นภาษาท่ีคอมพวิ เตอร์ใช้ ส่ือสารกนั ผา่ นเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ 5. ระบบปฏิบตั ิการเครือขา่ ย หรือ NOS (Network Operating System) ระบบปฏิบตั ิการเครือขา่ ยจะเป็น ตวั ท่ีคอยจดั การเกี่ยวกบั การใชง้ านเครือขา่ ย ของผใู้ ชแ้ ต่ละคน หรือเป็นตวั จดั การและควบคุมการใชท้ รัพยากร ต่างๆ ของเครือขา่ ย 2.ลกั ษณะการท างานของคอมพิวเตอร์ที่เช่ือมต่อในการท างานระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์จะแบ่งเคร่ือง คอมพวิ เตอร์เป็น 2 ประเภท คืออะไรบา้ ง 1.ประเภทที่ใชเ้ ป็นเซิร์ฟเวอร์ของเครือขา่ ย (Server Computer) 2.ประเภทที่ใชเ้ ป็นเคร่ืองลูกข่าย(Client) 3.ใหน้ กั ศึกษาอธิบายหนา้ ที่ของอปุ กรณ์เหล่าน้ี 3.1แลนการ์ด ทาหนา้ ที่อะไร แปลงขอ้ มูลเป็นสญั ญาณที่สามารถส่งไปตามสายสญั ญาณหรือสื่อแบบอื่นได้ 3.2ฮบั (Hup) ทาหนา้ ที่อะไร ทาหนา้ ท่ีเป็นศูนยก์ ลางในการกระจายขอ้ มูลไปยงั เครื่องอ่ืนๆ ในระบบเครือข่าย 3.3รีพีตเตอร์(Repeater) ทาหนา้ ท่ีอะไร

เป็นอปุ กรณ์ระบบเครือขา่ ยที่ใชใ้ นการเช่ือมต่อสายเคเบิล 2 เส้น เขา้ ดว้ ยกนั เพือ่ เพม่ิ ระยะ ทางการเช่ือมต่อระบบเครือขา่ ย 3.4 บริดจ(์ Bridge) ทาหนา้ ที่อะไร เป็นอปุ กรณ์เช่ือมโยงเครือข่ายของเครือข่ายท่ีแยกจากกนั 3.5 เราตเ์ ตอร์(Router) ทาหนา้ ท่ีอะไร เป็นอปุ กรณ์ระบบเครือข่ายซ่ึงทาหนา้ ท่ีเสมือนสะพานสาหรับเช่ือมต่อเครือข่ายทอ้ งถ่ิน หรือ ระบบเครือขา่ ยแลน (Local Area Network) เขา้ กบั ระบบเครือขา่ ยแวน (Wide Area Network) ขนาดใหญ่ 3.6 เกตเวย(์ Gateway) ทาหนา้ ที่อะไร อุปกรณ์ชนิดน้ีสามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายที่ใชโ้ ปรโตคอล (Protocal) ในระดบั Data link และ Network Layer ท่ีแตกต่างกนั ไดม้ ากกวา่ 2 ระบบ 4.สายสญั ญาณท่ีใชเ้ ป็นมาตรฐานในระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์มีกี่ประเภท อะไรบา้ ง มี3 ประเภท 1.สายโคแอก็ เชียล (Coaxial Cable) 2.สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pairs) 3.สายใยแกว้ นาแสง (Fiber Optic) 5.โปรโตคอล(Protocol) หมายถึงอะไร ปัจจุบนั โปรโตคอลใดนิยมใชท้ ี่สุด โปรโตคอล (Protocol) เป็นมาตรฐานในการส่ือสารขอ้ มูลของคอมพิวเตอร์ หรือ อาจกล่าวไดว้ า่ โปรโตคอลเป็น ภาษา ท่ีคอมพิวเตอร์ใชส้ ่ือสารกนั ดงั น้นั คอมพวิ เตอร์ท่ี ตอ้ งการสื่อสารกนั จ าเป็นท่ีตอ้ งใช้ ภาษา หรือโปรโตคอลเดียวกนั ปัจจุบนั โปรโตคอลที่นิยมใชม้ ากท่ีสุดคือโปรโตคอล TCP/IP (Transmission Control/ Internet Protocol) ซ่ึงเป็นโปรโตคอลที่ใชใ้ นระบบ อินเทอร์เน็ตซ่ึงเป็นระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ท่ี ใหญท่ ี่สุดในโลก

ใบงานท่ี 6 จิตรกรรมสากล ปี 1 นางสาวจิดาภา เตม็ บางงอน 139 นายเสฏฐวฒุ ิ กสุ ูงเนิน 159 นายทวีศกั ด์ิ จนั ทุรส 117

ใบงานที่6 แบบฝึกหดั เรื่องความารู้พ้นื ฐานเกี่ยวกบั ระบบการสื่อสารขอ้ มูล 1.จงบอกความหมายของระบบสื่อสารขอ้ มูล หมายถึง กระบวนการหรือวธิ ีการถา่ ยทอดขอ้ มูลระหวา่ งผใู้ ชก้ บั คอมพวิ เตอร์ที่มกั จะอยหู่ ่างไกลกนั และจาเป็นตอ้ งอาศยั ระบบการส่ือสารโทรคมนาคม (Telecommunication) เป็นส่ือกลางในการรับส่งขอ้ มูล 2.อธิบายองคป์ ระกอบพ้นื ฐานระบบการสื่อสารขอ้ มูล 1. ผสู้ ่งหรืออุปกรณ์ส่งขอ้ มูล (Sender) เป็นแหล่งตน้ ทางของการส่ือสารโดยมีหนา้ ที่ในการใหก้ าเนิด ขอ้ มูล หรือเตรียมขอ้ มูล 2. ผรู้ ับหรืออุปกรณ์รับขอ้ มูล (Receiver) เป็นแหลง่ ปลายทางของการสื่อสาร หรือเป็นอปุ กรณ์สาหรับ ขอ้ มูลท่ีจะนาขอ้ มูลน้นั ไปใชด้ าเนินการตอ่ ไป 3. ขา่ วสาร (Massage) เป็นตวั เน้ือหาของขอ้ มูล ซ่ึงมีไดห้ ลายรูปแบบ เช่น ขอ้ ความ (Text) เสียง (Voice) รูปภาพ (Image) ฯลฯ 4. ส่ือกลางหรือตวั กลางในการนาส่งขอ้ มูล (Medium) เป็นสื่อหรือช่องทางที่ใชใ้ นการนาขอ้ มูลจากตน้ ทางไปยงั ปลายทาง ซ่ึงอาจเป็นตวั กลางท่ีมีสายสัญญาณ 5. โปรโตคอล (Protocol) เป็นขอ้ กาหนดหรือขอ้ ตกลงถึงกฎระเบียบและวธิ ีการท่ีใชใ้ นการสื่อสาร เพ่ือใหผ้ สู้ ่งและผรู้ ับมีความเขา้ ใจตรงกนั 3.จงบอกการส่งสญั ญาณบนสื่อกลางขอ้ มูลในรูปแบบต่างๆ -การส่งสญั ญาณบนส่ือกลางแบบเบสแบนด์ (Baseband) เป็นการใชช้ ่องทางการสื่อสารเพยี งช่องทาง เดียวสาหรับการส่งสญั ญาณดิจิทลใั นแต่ละคร้ังในช่วงเวลาหน่ึงโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ส่วนใหญม่ กั ใชก้ ารส่ง สญั ญาณชนิดน้ี -การส่งสญั ญาณบนส่ือกลางแบบบรอดแบนด์ (Broadband) เป็นการใช้ ช่องทางการส่ือสารหลายช่องทางเพ่อื ส่งสญั ญาณอนาลอ็ ก (Analog) โดยแต่ละคร้ังขอ้ มูล สามารถจดั ส่งหรือล าเลียงบนช่วงความถี่ท่ีแตกต่างกนั

4.ใหน้ กั ศึกษายกตวั อยา่ งชนิดส่ือกลางส่งขอ้ มูลที่นามาใชง้ านบนเครือขา่ ยน้นั ท้งั แบบสื่อกลางส่งขอ้ มูลแบบใช้ สายและแบบไร้สาย พร้อมท้งั อธิบายการทางาน -ส่ือกลางส่งขอ้ มูลแบบใชส้ าย สายใยแกว้ นาแสง (Fiber Optic) ลกั ษณะของสายใยแกว้ นาแสง ทาจากแกว้ หรือพลาสติกมีลกั ษณะเป็น เส้นบางๆ คลา้ ยเส้นใยแกว้ จะทาตวั เป็นสื่อในการ ส่งแสงเลเซอร์ที่มีความเร็วในการส่งสญั ญาณเท่ากบั ความเร็ว ของแสง สามารถส่งขอ้ มูลที่มี ความถี่สูงได้ สญั ญารบกวนจากภายนอก คือ แสงจากภายนอก ดงั น้นั สายใยแกว้ นาแสงท่ี มีสภาพดีจะมีราคาค่อนขา้ งสูงและดูแลรักษายาก -ส่ือกลางส่งขอ้ มูลแบบไร้สาย สัญญาณวิทยุ (Radio Wave) เป็นการสื่อสารขอ้ มูลแบบไร้สาย ท่ีมี การส่งขอ้ มูลเป็นสญั ญาณคล่ืนวทิ ยุ ไปในอากาศไปยงั ตวั สญั ญาณ จึงท าใหถ้ ูก สภาพแวดลอ้ มรบกวนขอ้ มลู ไดง้ ่าย ในช่วงที่สภาพอากาศไม่ดี การ ส่งสญั ญาณวิธีน้ีจะช่วย ส่งขอ้ มูลระยะทางไกล 5.จงอธิบายหนา้ ที่ของอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการรับส่งขอ้ มูลการส่ือสาร อยา่ งนอ้ ย 3 ชนิด -โมเดม็ (modem) เป็นอปุ กรณ์ท่ีแปลงสญั ญาณดิจิทลั เป็นสญั ญาณแอนะลอ็ ก และแปลงสัญญาณแอ นะลอ็ กเป็นดิจิทลั เพื่อใหข้ อ้ มูลส่งผา่ นทางสายโทรศพั ทไ์ ด้ -การ์ดแลน (LAN card) เป็นอุปกรณ์ท่ีเชื่อมระหวา่ งคอมพวิ เตอร์กบั สายตวั นาสญั ญาณทาให้ คอมพิวเตอร์สามารถรับและส่งขอ้ มูลกบั ระบบเครือข่ายได้ -ฮบั (hub) เป็นฯอุปกรณ์ที่รวมสญั ญาณท่ีมาจากอุปกรณ์รับส่งหรือเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เคร่ืองเขา้ ดว้ ยกนั ขอ้ มูลท่ีรับส่งผา่ นฮบั จากเครื่องหน่ึงจะกระจายไปยงั ทุกสถานีที่ต่ออยบู่ นฮบั น้นั

ใบงานท่ี 7 จิตรกรรมสากล ปี 1 นางสาวจิดาภา เตม็ บางงอน 139 นายเสฏฐวฒุ ิ กสุ ูงเนิน 159 นายทวีศกั ด์ิ จนั ทุรส 117

ใบงานท่ี7 แบบฝึกหดั ประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 1. จงบอกประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ - ใชข้ นาดกายภาพทางภูมิศาสตร์ของเครือข่ายเป็นเกณฑ์ แบ่งออกไดเ้ ป็น 3 ประเภท 1 เครือขา่ ยทอ้ งถ่ิน (LAN: Local Area Network) 2 เครือข่ายในเขตเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) 3 เครือข่ายบริเวณกวา้ ง (WAN: Wide Area Network) -ใชล้ กั ษณะหนา้ ท่ีการทางานของคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายเป็นเกณฑ์ สามารถ แบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภท 1 เครือข่ายแบบเท่าเทียม (Peer-to-Peer Network) 2 เครือขา่ ยแบบผใู้ ชบ้ ริการและผใู้ หบ้ ริการ (Client-Server Network) -ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูลเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งไดด้ งั น้ี คือ 1 เครือข่ายสาธารณะ (Internet) 2 เครือขา่ ยส่วนบุคคล (Intranet) 3 เครือขา่ ยร่วม (Extranet) 2.ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์สามารถจาแนกไดก้ ่ีประเภทอะไรบา้ ง จาแนกประเภทของเครือข่ายได้ 3 ประเภท 1.ประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์แบ่งตามขนาดกายภาพทางภูมิศาสตร์ 2.ประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งตามหนา้ ที่ของคอมพวิ เตอร์ 3.ประเภทของเครือข่าย คอมพวิ เตอร์แบ่งตามระดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูล

3.ประเภทเครือข่ายท่ีใชข้ นาดทางกายภาพของเครือข่ายเป็นเกณฑแ์ บ่งไดก้ ่ีประเภท อะไรบา้ ง แบ่งได3้ ประเภท 1.เครือขา่ ยทอ้ งถิ่น (LAN: Local Area Network) เป็นรากฐาน ของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ทว่ั ไป 2.เครือขา่ ยในเขตเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) คือเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่มาก จะมีขนาดครอบคลุมเมืองหรือบริเวณมหาวทิ ยาลยั โดยปกติแลว้ จะเป็นระบบไร้สายเช่นการใชค้ ล่ืนไมโครเวฟ หรือใชใ้ ยแกว้ นาแสงเป็นตวั เช่ือมต่อระหวา่ งสถานที่ต่างๆเขา้ ดว้ ยกนั 3.เครือข่ายบริเวณกวา้ ง (WAN: Wide Area Network) คือระบบ เครือข่ายที่เช่ือมโยงเครือขา่ ยแบบ ทอ้ งถิ่นต้งั แต่2 เครือขา่ ยข้ึนไปเขา้ ดว้ ยกนผั า่ นระยะทางท่ีไกลมาก โดยการเชื่อมโยงจะผา่ นช่องทางการสื่อสาร ขอ้ มูลสาธารณะของบริษทั โทรศพั ทห์ รือองคก์ ารโทรศพั ทข์ องประเทศต่างๆ 4.ประเภทเครือขา่ ยท่ีใชล้ กั ษณะหนา้ ท่ีการทางานของคอมพวิ เตอร์ในเครือขา่ ยเป็นเกณฑแ์ บ่งไดก้ ี่ประเภท อะไรบา้ ง แบ่งได6้ ประเภท 1.เครือข่ายแบบเพยี ร์ทูเพยี ร์ (Peer to Peer Network) เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพวิ เตอร์เขา้ ดว้ ยกนั โดย เคร่ืองคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะสามารถแบ่งทรัพยากรต่างๆได้ 2.เครือขา่ ยแบบไคลเอนทเ์ ซิร์ฟเวอร์ (Client/Server Network) เป็น ระบบท่ีมีเครื่องคอมพวิ เตอร์ทุก เคร่ืองมีฐานะการทางานที่เหมือนๆ กนั เท่าเทียมกนั ภายในระบบเครือขา่ ย แต่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์เคร่ืองหน่ึง ท่ีท าหนา้ ท่ีเป็นเคร่ืองServer ท่ีทาหนา้ ท่ีใหบ้ ริการทรัพยากรต่างๆ ใหก้ บั เคร่ือง Client หรือเคร่ืองท่ีขอใช้ บริการ 3.ประเภทของเซิร์ฟเวอร์ที่ใหบ้ ริการต่าง ๆ เครื่องศูนยบ์ ริการขอ้ มูลโดยมกั เรียกวา่ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ เป็น คอมพิวเตอร์ที่ทาหนา้ ที่บริการทรัพยากรใหก้ บั เคร่ืองลูกขา่ ยบนเครือขา่ ย 4.File Server ลกษั ณะการท างานแบบน้ีเซิร์ฟเวอร์จะเป็นผจู้ ดั การระบบไฟล์ บนดิสกใ์ นเครื่องของ ตนเอง โดยรับค าสงั่ จากเวริ ์กสเตชน่ั หรือ Client อีกทอดหน่ึง

5. Application Server/ Database Server เป็นการทางานที่ซบั ซอ้ นกวา่ File Server อีกระดบั หน่ึง ตวั อยา่ งท่ีเราพบบ่อยๆ คือ Database Server หรือ SQL Server ซ่ึงจะยา้ ยหนา้ ที่การคน้ หาขอ้ มูลจากฐานขอ้ มูล หรือ Database มาไวท้ ่ี เซิร์ฟเวอร์เอง 6.Print Server เรียกวา่ ระบบ SPOOL (Simultaneous Peripheral Operation On-Line) ซ่ึงจะช่วยใหผ้ ใู้ ช้ สามารถพมิ พง์ านไดพ้ ร้อมกนั หลายคน โดยเครื่อง Client สง่ั พมิ พง์ านจะส่งขอ้ มูลไปใหเ้ คร่ืองท่ีเป็นเซิร์ฟเวอร์ ซ่ึงกจ็ ะรีบเอาขอ้ มูลน้นั เกบ็ ลงฮาร์ดดิสกไ์ วก้ ่อน 5.ประเภทเครือข่ายที่ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูลเป็นเกณฑ์ มีอะไรบา้ ง 1.เครือขา่ ยอินเทอร์เน็ต (Internet) หรือเครือขา่ ยสาธารณะ 2.เครือข่ายอินทราเน็ต (Intranet) หรือเครือขา่ ยส่วนบุคคล 3.เอก็ ส์ทราเน็ต (Extranet) หรือเครือขา่ ยร่วม