หนา้ ที่ ๔๗ ๒. บคุ ลากรและสามเณรนักเรียนได้รบั การปลูกจิตสำนึกใหน้ ักเรียนเกิดความตระหนัก และเข้ามามีส่วนร่วมใน การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสืบสานภูมิปัญญาและคุณค่าความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งที่เป็นชีวิต ค่านิยมที่ดีงาม และความเปน็ ไทย กจิ กรรมการเทศน์แหล่มหาชาติด้วยภาษาอีสาน โดยมกี ารฝึกสามเณรนักเรียนและพระลกู วัด ข้ึนธรรมมาสน์เทศน์เปน็ ประจำทุกปี อุปสรรค/ปัญหาจากกิจกรรม - สามเณรนักเรยี นทส่ี นใจการแหลม่ หาชาตดิ ้วยภาษาอสี าน มีน้อย - สามเณรนักเรียนทเ่ี ข้ามาบวชเรียนมีจำนวนลดน้อยลงทกุ ปี แนวทางการแก้ไข - จัดหาระดมทนุ โดยประชาสัมพันธก์ ารเปิดรับบรจิ าคโดยผ่านช่องทางโซเชียลและช่องทางอื่น ๆ - โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยจัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปี โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี และเพื่อให้สามเณรได้เข้าศึกษาตอ่ ในโรงเรียนพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา ประโยชน์ท่ีเกิดขึ้นจากกจิ กรรม - ก่อให้เกิดความรักสามัคคแี ละเสริมสร้างสนั ตสิ ขุ ให้เกิดขึน้ อย่างยั่งยนื รวมท้งั เกิดความคลอ่ งตวั และมี ประสิทธิภาพในการขบั เคลื่อนการดำเนินงานทางวัฒนธรรมในท้องถน่ิ - ชุมชนไดพ้ ฒั นาแหล่งศิลปวัฒนธรรมเพื่อเพม่ิ ศกั ยภาพในชมุ ชน - เปน็ การเผยแผพ่ ทุ ธศาสนา - เปน็ การสบื สานภมู ิปญั ญาชาวบ้าน - นักเรียนเกดิ การมีส่วนร่วมในการสบื สานศลิ ปวฒั นธรรม - เกดิ ความภาคภูมใิ จในวถิ ีชีวติ และวัฒนธรรมท้องถนิ่
หน้าท่ี ๔๘ ภาพกจิ กรรมการเทศน์แหลม่ หาชาตดิ ้วยภาษาอสี านเป็นประจำทุกปี โดยมกี ารฝึกสามเณรนักเรียนและพระลกู วัด ตารางที่ 20 ความร้แู ละการมีส่วนรว่ มในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน จำนวน กรอบการประเมนิ จำนวน นร. จำนวน นร. นร. นร. ความรู้ ท่ีเข้ารับ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ทเ่ี ขา้ รับ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ทง้ั หมด การ ทงั้ หมด การ 1. เกษตรกรรม (รปู ) (รปู ) 2. อุตสาหกรรมและ ประเมนิ ประเมิน หัตถกรรม 3. แพทยแ์ ผนไทย (รูป) (รปู ) 4. การจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติและ 38 38 31 7 22 22 19 3 สง่ิ แวดลอ้ ม 38 38 28 10 22 22 18 4 5. กองทนุ และธุรกจิ ชมุ ชน 6. ศลิ ปกรรม 38 38 11 27 22 22 10 12 7. ภาษาและวรรณกรรม 38 38 32 6 22 22 19 3 8. ศาสนา ประเพณี 9. โภชนาการ 38 38 30 8 22 22 12 10 38 38 30 8 22 22 11 11 การมีส่วนร่วม 38 38 27 11 22 22 17 5 38 38 31 7 22 22 20 2 1. เกษตรกรรม 38 38 31 7 22 22 20 2 2. อุตสาหกรรมและ หตั ถกรรม 38 38 31 7 22 22 19 3 3. แพทยแ์ ผนไทย 38 38 28 10 22 22 18 4 38 38 11 27 22 22 10 12
หน้าที่ ๔๙ ช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จำนวน จำนวน กรอบการประเมิน จำนวน นร. จำนวน นร. นร. ทีเ่ ข้ารับ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง นร. ทีเ่ ข้ารับ ดี พอใช้ ปรับปรุง ทง้ั หมด การ ท้งั หมด การ (รูป) ประเมิน (รูป) ประเมิน (รปู ) (รปู ) 4. การจดั การ 38 38 33 5 22 22 20 2 ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดล้อม 5. กองทนุ และธรุ กจิ ชมุ ชน 38 38 30 8 22 22 12 10 6. ศิลปกรรม 38 38 31 7 22 22 11 11 7. ภาษาและวรรณกรรม 38 38 27 11 22 22 17 5 8. ศาสนา ประเพณี 38 38 31 7 22 22 20 2 9. โภชนาการ 38 38 31 7 22 22 20 2 จากตารางที่ 20 สามเณรมัธยมศกึ ษาตอนตน้ มีความรู้การอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ มีความรู้ ระดบั ดีข้ึนไป ร้อยละ 73.39 และการมีส่วนรว่ ม 73.98 สามเณรมธั ยมศึกษาตอนปลาย มคี วามรู้การอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาท้องถนิ่ มีความรู้ ระดบั ดีขนึ้ ไป ร้อยละ 73.74 และการมีส่วนร่วม 74.24
หน้าที่ ๕ เปา้ หมายหลกั ที่ ๗ ขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสชู่ ุมชน การนำโครงการ/กิจกรรม ผลผลิตทางการเกษตรในโรงเรียนมาสู่การผลิตอาหารในระดับครัวเรือน เด็กและ เยาวชนตลอดจนถึงสมาชกิ ในครอบครวั มีการปรับเปล่ียนพฤติกรรมสุขภาพและรว่ มกันพัฒนาสภาพแวดล้อมของบ้าน และชุมชนให้ถูกสุขลักษณะ เด็กและเยาวชนสามารถนำความรู้และทักษะในการเรียนรู้วิชาชีพที่จำเป็นสำหรับ การ ดำรงชีวิตมาใชใ้ นครอบครวั ๑. โครงการ/กจิ กรรม/ผลผลิตทางการเกษตรของโรงเรียน - ปลกู ข้าวเพอื่ ใช้เป็นภตั ตาหารเพล วธิ กี ารดำเนนิ กจิ กรรม - ศกึ ษาหาขอ้ มูลเกยี่ วกับการทำนา (ถามจากปราชญ์ชุมชน ศึกษาจากตำราและส่ืออนิ เตอร์เน็ต ศกึ ษาจากรนุ่ พี่และจากการทดลองปลูกขา้ วใน กระถาง) - เตรยี มพ้นื ทเ่ี พาะปลกู (สถานที่ - พ้ืนท่ีทงุ่ นาหลงั โรงเรียน ประมาณ ๑ ไร่ สภาพเป็นดนิ เหนียวปนทราย ใช้น้ำสว่ นหน่ึงจากหนองนำ้ ชมุ ชน) - เลอื กพนั ธุ์ข้าวจ้าว หอมมะลิ ๑๐๕ ซึง่ เหมาะสมกบั สภาพในพ้ืนท่ี - เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ - ใหค้ วามรดู้ า้ นทฤษฎี - สอนสาธิต - ปฏิบตั ิ วิธีการพฒั นาและเผยแพร่ผลผลิตสู่ครัวเรือน วดั และชุมชน - นำผลผลติ ทไี่ ดม้ าใชใ้ นการประกอบภัตตาหารเพล (อาหารกลางวัน) สำหรบั นกั เรยี น และนำฟางข้าว แกลบ เป็นต้น มาผสมทำเป็นปุ๋ยหมัก ประโยชนท์ ่ีเกดิ ข้นึ จากกจิ กรรม - ได้ความรดู้ า้ นอาชีพ สามารถนำไปความรู้ไปต่อยอดเป็นอาชีพ - ได้ความสามัคคีระหวา่ งโรงเรียนกบั ชุมชน 2. โครงการ/กิจกรรม/ผลผลิตทางการเกษตรของโรงเรยี น ๑. มะนาวปลอดสารพิษ วิธีการดำเนินกิจกรรม - ศึกษาหาขอ้ มลู เกยี่ วกบั การปลกู มะนาวปลอดสารพิษ - เตรยี มพืน้ ท่เี พาะปลูก - เลอื กพนั ธมุ์ ะนาวที่เหมาะสมกบั สภาพในพ้ืนที่
หนา้ ท่ี ๕๑ - เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ กระบวนการจัดการเรียนรู้ - ใหค้ วามรู้ดา้ นทฤษฎี - สอนสาธติ - ปฏิบตั ิ วิธกี ารนำผลผลติ สกู่ ารผลิตอาหารในระดบั ครัวเรอื นและชมุ ชน - นำมาเป็นวตั ถดุ บิ ในการประกอบภตั ตาหารเพล(อาหารกลาง)สำหรบั นักเรยี น ผลผลติ ที่เหลอื จากการ ประกอบอาหารกลางวนั นำมาแปรรปู เปน็ นำ้ ยาล้างจา้ นและแจกจ่ายให้คนในชุมชน ประโยชน์ทเี่ กดิ ขึน้ จากกจิ กรรม - ได้ความรู้ด้านอาชพี สามารถนำไปความรู้ไปต่อยอดเปน็ อาชีพ - ได้ความสามัคครี ะหว่างโรงเรียนกบั ชมุ ชน ส่งเสริมการทำเกษตรแบบยงั่ ยืนแก่ชมุ ชน ดำนา โครงการจัดระเบียบที่พักของสามเณร สหกรณโ์ รงเรยี นและการทำบัญชรี ับจา่ ย นักเรยี นให้ถูกสขุ ลักษณะ การอบรมธรรมศึกษาใหน้ กั เรียนใน โรงเรียนประถมศกึ ษา
หนา้ ที่ ๕๒ เป้าหมายหลกั ที่ ๘ พัฒนาสถานศึกษาเป็นศูนยบ์ ริการความรู้ โรงเรียนจัดกิจกรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นนิทรรศการที่มีชีวิตเป็นตัวอย่างให้แก่ประชาชน ครู นักเรียน หรือผู้สนใจมาศึกษาทดลอง ครูและเด็กนักเรียนสามารถถ่ายทอดความรู้โดยการเป็นวิทยากร มีเวที แลกเปล่ยี นประสบการณ์ในการพัฒนาเด็กและเยาวชนอยา่ งกวา้ งขวางท้งั ในระดับภาค ประเทศ และนานาชาติ ศนู ยบ์ รกิ ารความรูข้ องโรงเรยี น - การปลกู ผักไรด้ ิน ปลอดสารพิษในกลอ่ งโฟม ศนู ยแ์ หล่งเรียนรู้ของโรงเรยี น - ศูนยก์ ารเรยี นรู้เศรษฐกิจพอเพียง ผนวก SEEEM ศกึ ษา กจิ กรรมบริการความรู้ - อบรมนักธรรม และธรรมศึกษาก่อนสอบธรรมสนามหลวง - วทิ ยากรอบรมศลี ธรรมในโรงเรียน - วทิ ยากรอบรมโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน กจิ กรรมการถา่ ยทอดความรู้โดยการเปน็ วทิ ยากร - วิทยากร นกั ธรรม ธรรมศกึ ษา - วทิ ยากรอบรมศีลธรรมในโรงเรยี น วิธกี ารนำความรูส้ ชู่ มุ ชน - จัดกจิ กรรมร่วมกบั ชมุ ชน - ประชาสมั พนั ธ์ใหค้ วามรสู้ ู่ชุมชน ผา่ นสอ่ื ต่างๆ ประโยชนท์ ีเ่ กดิ ขนึ้ จากการพัฒนาสถานศกึ ษาเป็นศูนยบ์ รกิ ารความรู้ - สถานศึกษาเปน็ แหลง่ ใหค้ วามรแู้ กช่ ุมชน - นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจในการบริการชมุ ชน - สถานศึกษาและชมุ ชน เกิดความสมั พนั ธท์ ่ีดี มคี วามเข้มแขง็ และร่วมมือร่วมใจในการพัฒนาสถานศึกษา เดก็ และเยาวชนต่อไป ภาพกิจกรรม พฒั นาโรงเรียนให้เหมาะสมเปน็ ศูนยก์ ารเรยี นรู้
Search