แผนการสอน หัวข้อเรื่อง การประเมินสุขภาพสตรีตั้งครรภ์ แผนการสอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา การพยาบาลมารดาและทารกและการผดุงครรภ์ 1 นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 ห้อง A คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
หน้าที่ 1 บทนำ การดูแลสตรีในระยะตั้งครรภ์เป็นกิจกรรมการดูแลให้สตรีตั้งครรภ์มีสุขภาพดี ตลอดระยะการตั้งครรภ์เพื่อลดอัตราตายของมารดาและอัตราเด็กเกิดไร้ชีพและการ คลอดทารกแม้ว่าการตั้งครรภ์เป็นภาวะปกติของสตรีที่กำลังจะมีบุตรแต่ต้องดูแล สุขภาพสตรีในระยะตั้งครรภ์เป็นพิเศษ เนื่องจากการตั้งครรภ์มีผลทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย มีการเปลี่ยนแปลงมีผลต่อคุณภาพชีวิตของสตรีตั้งครรภ์ ซึ่งสตรีตั้งครรภ์มีการปรับ ตัวเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายขณะตั้งครรภ์บางรายที่ไม่สามารถ ปรับตัวได้ อาจทําให้เกิดปัญหาสุขภาพทางด้านร่างกายและจิตสังคมได้
หน้าที่ 2 ประวัติส่วนตัว อายุ หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี มีการเจริญเติบโตของร่างกายไม่เต็มที่ อาจมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ง่ายยกตัวอย่างเช่นการคลอดลูกก่อนกำหนดเชิงกราน ของแม่เล็กเกินไป หญิงตั้งครรภ์ที่มีที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงที่บุตรมีความผิดปกติของ โครโมโซมมากขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น ภาวะดาวน์ซินโดรมทารกจะเกิดความบกพร่อง ทางสติปัญญา รูปร่างหน้าตาผิดปกติและมีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆได้ ยกตัวอย่างเช่น ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดและภาวะ เด็กในครรภ์เสี่ยงต่อการเจริญเติบโตช้า
หน้าที่ 3 ประวัติส่วนตัว ศาสนา ทําให้ทราบถึงความเชื่อต่างๆเพราะหลักศาสนามีผลต่อการปฏิบัติตนใน ชีวิตประจําวันของสตรีตั้งครรภ์ ระดับการศึกษา เพื่อให้พยาบาลสามารถวางแผนในการให้คําแนะนําการใช้ภาษา ภาษาสื่อสารอย่างเหมาะสม สถานภาพสมรส สตรีตั้งครรภ์ที่มีสถานภาพสมรสจะได้รับแรงสนับสนุนทาง สังคมจากสามีซึ่งจะช่วยให้สตรีตั้งครรภ์ปรับบทบาทการเป็นมารดาดีกว่า สตรีที่มีสถานภาพหย่าหรือแยกกันอยู่กับสามี ประวัติการใช้ยาและแพ้ยา ยาบางชนิดอาจจะมีผลทําให้เกิดความผิดปกติต่อ ทารกในครรภ์ประวัติการแพ้ยาช่วยในการวางแผนการรักษาเพื่อ หลีกเลี่ยงการใช้ยาชนิดนั้นๆ ประวัติการคุมกําเนิด โดยเฉพาะเลยการคุมกําเนิดก่อนการตั้งครรภ์ปัจจุบัน การหยุดกินยาหรือฉีดยาคุมกําเนิดก่อนการตั้งครรภ์ไม่นานนักอาจ มีผลต่อการกําหนดประจําเดือนครั้งสุดท้ายซึ่งจะทําให้การคาดคะเน อายุครรภ์จากประจําเดือนครั้งสุดท้ายคลาดเคลื่อนไปได้ อาชีพ การทำงานที่ต้องยืนเป็นเวลานานๆ การทำงานที่ต่อเนื่อง เป็นเวลานานหรือ งานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมี สารพิษเพราะลักษณะงานเหล่านี้ ส่งผลทำให้ สตรีตั้งครรภ์มีความเสี่ยงต่ออันตรายได้
หน้าที่ 4 ประวัติส่วนตัว ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงหรือเคยได้รับการผ่าตัดโรคหรือ ภาวะต่างๆ เหล่านี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์และ การคลอดได้ ประวัติสามี อายุ อาชีพ ซึ่งจะทําให้ทราบถึงสภาพทางเศรษฐกิจและอาจ จะทราบถึงสถานภาพสมรสของสตรีตั้งครรภ์ ซึ่งอาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ได้ โรคทางพันธุกรรมและโรคติดต่อ โรคเลือด โรคโลหิตจาง โรคหัวใจ โรคไวรัสตับอักเสบ จะปรากฏอาการให้ เห็นได้ระหว่างการตั้งครรภ์และโรคบางโรคอาจจะถ่ายทอดไปยังทารกได้ เช่น โรคธาลัสซีเมีย เป็นต้น
หน้าที่ 5 ประวัติส่วนตัว ประวัติการตั้งครรภ์และการคลอดในอดีต ประกอบด้วย จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์ การแท้งและการคลอดบุตรเช่นสตรีตั้งครรภ์ที่เคยคลอดบุตรมากกว่า 4 คน ขึ้นไปมีโอกาสเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอดสูง รวมถึงประวัติความผิดปกติใน ครรภ์ก่อนๆ ได้แก่ การผ่าตัดคลอดหรือผ่าตัดมดลูก เป็นต้น อาการผิดปกติ ที่พบระหว่างการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง เช่น การมีเลือดออกระหว่างการ ตั้งครรภ์ การเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด หรือโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดขณะ ตั้งครรภ์ ข้อมูลทารกที่คลอด เช่น เพศ น้ำหนักแรกคลอดและภาวะสุขภาพของเด็กในปัจจุบัน ประวัติการตั้งครรภ์ในปัจจุบัน ประกอบด้วย อาการระหว่างตั้งครรภ์ เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ตกขาว ท้องผูก ซึ่งเป็นอาการปกติ ที่สามารถพบได้ในระยะตั้งครรภ์ อาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว บวม ถ้าพบเป็น สัญญาณของการเกิดพิษแห่งครรภ์หรือการมีเลือดออกทางช่องคลอด (ถ้าพบเมื่อ อายุครรภ์น้อยกว่า 28 สัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณของการเกิดการแท้งได้)
หน้าที่ 6 ประวัติส่วนตัว การคาดคะเนอายุครรภ์และการดิ้นของทารก ประวัติการดิ้นของทารกในครรภ์ สตรีตั้งครรภ์ครั้งแรก จะรู้สึกทารกดิ้นครั้งแรกเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 18-20 สัปดาห์ การคาดคะเนกําหนดวันคลอดและการประเมินอายุครรภ์ วิธีการกําหนดคลอดจากวันแรกของประจําเดือนครั้งวันที่คาดคะเนวันคลอด สูตร (EDC/EDD) = (LMP(ครั้งสุดท้ายของการเป็นประจําเดือน)+9เดือน)+7วัน) อายุครรภ์ถือเป็นเรื่องสําคัญที่มารดาต้องใส่ใจ เพราะการทราบอายุครรภ์ สามารถบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของเด็กทารกในครรภ์และแจ้งกําหนดวันคลอด คร่าวๆได้
หน้าที่ 7 การประเมินสภาวะจิตสังคม การดูแลภาวะซึมเศร้าและภาวะเครียดของสตรีตั้งครรภ์และสามี ภาวะนี้ อาจเกิดจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความวิตกกังวลต่างๆ ซึ่งภาวะซึมเศร้าในสตรีตั้งครรภ์ไม่มีผลโดยตรงต่อลูกในครรภ์แต่ภาวะเครียด และภาวะซึมเศร้าอาจทำให้สตรีตั้งครรภ์รู้สึกเบื่ออาหาร พักผ่อนน้อย ทารกในครรภ์จะได้รับผลกระทบได้การดูแลเบื้องต้น ครอบครัวควรมีการพูด คุยให้กำลังใจ เปลี่ยนบรรยากาศให้สตรีตั้งครรภ์รู้สึกผ่อนคลาย การออกกำลังกายจะเป็นการกระตุ้นให้สตรีตั้งครรภ์มีความสุขมากขึ้น หากิจกรรมทำร่วมกันในครอบครัว โดยการประเมินภาวะเครียด และภาวะซึมเศร้าสามารถประเมินได้จากสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก
หน้าที่ 8 การตรวจร่างกาย การตรวจร่างกายทั่วไป ประกอบด้วย ท่าเดิน (Gait) ท่าเดินของสตรีตั้งครรภ์ที่ผิดปกติอาจมีความผิดปกติของกระดูกเชิงกราน ซึ่งทำให้เกิดการคลอดยาก หรือการคลอดติดขัดได้ ความสูง สตรีตั้งครรภ์ที่มีความสูงน้อยกว่า 145 เซนติเมตร มักจะมีกระดูกเชิงกรานเล็ก กว่าปกติ ทำให้เกิดภาวะคลอดยากจากการที่ศีรษะเด็กไม่สัมพันธ์กับช่องเชิงกราน น้ำหนักเพิ่มขึ้น ระหว่างตั้งครรภ์เป็นการประเมินถึงการเจริญเติบโตทารกในครรภ์ ถ้าสตรีตั้งครรภ์มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 7 กิโลกรัม แสดงว่าทารกในครรภ์อาจ มีน้ำหนักทารกแรกเกิดน้อยหรือภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์และถ้ามีน้ำหนัก เพิ่มขึ้นมากกว่า 13 กิโลกรัม อาจมีความสัมพันธ์ที่ทำให้ทารกมีน้ำหนักมากกว่าปกติได้ การกำหนดการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักสตรีตั้งครรภ์คำนวณจากค่าดัชนีมวลกาย สัญญาณชีพ ความดันโลหิตปกติไม่ควรเกิน 140/90 มิลลิเมตร หากเพิ่มขึ้นเกินเกณฑ์นี้ อาจมีภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์ การตรวจร่างกายตามระบบ เป็นการค้นหาความผิดปกติที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพและ ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ การตรวจร่างกายตามระบบจะเริ่มประเมินจาก ส่วนศีรษะลงปลายเท้า
หน้าที่ 9 การตรวจร่างกาย การตรวจเต้านมและหัวนม ประกอบด้วย การตรวจหัวนมด้วยวิธีวอลเลอร์ (Waller's test) เป็นการทดสอบเพื่อดูว่าทารกจะดูดนมมารดาได้หรือไม่ วิธีการตรวจ 1. ให้วางมือบนเต้านม นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้วางราบไปกับผิวหนัง และชิดหัวนมตรงรอยต่อระหว่างหัวนมและลานนม 2. กดนิ้วทั้งสองกดลงไปตรงๆ เล็กน้อยแล้วจึงบีบนิ้วมือทั้งสองเข้าหากัน * หากจับหัวนมติด แสดงว่า หัวนมยื่นออกมาในแบบที่ทารกสามารถดูดได้ * หากจับหัวนมไม่ติด แสดงว่า หัวนมอาจจะสั้นหรือบุ๋มจนไม่สามารถดูดได้
หน้าที่ 10 การตรวจร่างกาย การตรวจเต้านมและหัวนม ประกอบด้วย วิธีแก้ไขหัวนมโดยใช้วิธีฮอฟแมน (Hoffman's Maneuver) ในกรณีที่หัวนมสั้น บุ๋ม สามารถแก้ไขได้โดยขั้นตอน ดังนี้ 1. ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างแตะที่รอยต่อระหว่างหัวนมและลานนมใน ด้านตรงข้ามกัน 2. กดนิ้วทั้งสองและรูดออกจากกันตรงไปทางด้านข้างทำซ้ำๆ เช่นนี้ใน ทิศทางต่างกันโดยรอบ 2-3 ครั้ง หัวนมจะตั้งขึ้นมา 3. จากนั้นใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับหัวนมที่ยื่นออกมาดึงขึ้นเบาๆ ประมาณ 2-3 ครั้ง วิธีนี้ต้องใช้เวลานาน สตรีตั้งครรภ์จึงควรตรวจเต้านมและหัวนมตั้งแต่ ครั้งแรกที่มาฝากครรภ์และปฏิบัติทุกครั้งหลังอาบน้ำจนกว่าจะคลอด
หน้าที่ 11 การตรวจครรภ์ โดยการดู คลำ และฟัง การดู 1. ดูขนาดของมดลูก เมื่อพยาบาลคำนวนอายุครรภ์แล้วต้องสังเกตดูขนาด ของมดลูกโตสัมพันธ์กับอายุครรภ์หรือไม่ ถ้าไม่สัมพันธ์กันพยาบาลจะต้อง ซักประวัติการขาดประจำเดือนครั้งสุดท้ายอีกครั้งและคำนวณหาอายุครรภ์ 2. ดูรูปร่างของมดลูก สังเกตรูปร่างของท้องว่ามีรูปร่างอย่างไร ในไตรมาสแรก ท้องจะมีรูปร่างกลม เรียก globular shape 3. ดูการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ การมองเห็นการเคลื่อนไหวของ ทารกทางหน้าท้อง เป็นการประเมินว่าทารกในครรภ์อยู่ในภาวะปกติ
หน้าที่ 12 การตรวจครรภ์ โดยการดู คลำ และฟัง การคลำ ผู้ตรวจสามารถคลำท่าทารกในครรภ์ได้ชัดเจนเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 24 สัปดาห์ขึ้นไป คลำโดยใช้ Leopold maneuver มีขั้นตอนการคลำ 4 ท่า (การยืน ให้ยืนเข้าหาด้านขวาสตรีตั้งครรภ์เสมอ) ท่าที่ 1 Fundal grip คลำหาระดับความสูงและส่วนของทารกที่ยอดมดลูก ท่าที่ 2 Umbilical grip คลำหาส่วนหลังของทารกในครรภ์ ว่าอยู่ด้านใดของมารดา ท่าที่ 3 Pawlik's grip คลำหาส่วนนำของทารกในครรภ์ ท่าที่ 4 Bilateral inguinal grip คลำหาทรงของทารกในครรภ์
หน้าที่ 13 การตรวจครรภ์ โดยการดู คลำ และฟัง การฟัง 1.การฟังเสียงหัวใจทารกด้วยStethoscopeเสียงหัวใจทารกจะฟังได้ยินด้วย Stethoscope เมื่ออายุครรภ์ได้ประมาณ 18 สัปดาห์ เสียงหัวใจทารกที่ได้ยิน จะเป็นเสียงคู่ ดัง ตุบ ตุบ แต่ละคู่ที่ฟังได้ คือ การเต้นของหัวใจหนึ่งครั้ง โดยปกติอัตราการเต้นของหัวใจทารกจะอยู่ในระหว่าง 120 ถึง 160 ครั้งต่อนาที จะได้ยินชัดเจนเมื่อมดลูกคลายตัว การฟัง เสียงหัวใจทารกในครรภ์เพื่อบอกว่า เด็กยังมีชีวิตอยู่และบอกการเปลี่ยนแปลงของอัตราความเร็วของหัวใจเมื่อทารก ขาดออกซิเจน 2.ตำแหน่งเสียงหัวใจทารก จะฟังได้ชัดเจนที่บริเวณสะบักข้างซ้าย 3.การแยกเสียงอื่นๆ การฟังเสียงหัวใจทารกอาจจะผิดพลาดได้ดังนั้น 3.1 ซูเฟล่สายสะดือ 30 ฟูนิกซูเฟล่ 3.2 เสียงบ่นของมดลูก 3.3 เสียงที่น่าตกใจของทารกในครรภ์
หน้าที่ 14 การตรวจครรภ์ โดยการดู คลำ และฟัง การฟัง 4. การตรวจครรภ์ในกรณีที่ทารกเป็นครรภ์แฝดจะตรวจพบดังนี้ 4.1 จากการดูจะพบว่าขนาดท้องใหญ่กว่าอายุครรภ์มาก รูปร่างท้องจะมองไม่เป็นรูปไข่ ที่ยอดมดลูกจะกว้างกว่าบริเวณหัวหน่าว 4.2 จากการคลำ จะพบ Small part หลายแห่ง 4.3 จากการฟัง F.H.S. จะฟังเสียงหัวใจทารกได้มากกว่า 1แห่งและมีอัตราการเต้น ของหัวใจไม่เท่ากัน(ต่างกันประมาณ 10 ครั้งต่อนาที) 4.4 จากการตรวจร่างกายจะพบน้ำหนักแต่ละอาทิตย์เพิ่มมากกว่าครรภ์ปกติและ มีโรคแทรกซ้อนเกี่ยวกับอาการบวม ความดันโลหิต และครรภ์แฝดได้มากกว่ารายปกติ
หน้าที่ 15 ตรวจทางห้องปฏิบัติการ มีการตรวจ 2 ครั้ง 1. ตรวจครั้งแรกเมื่อการฝากครรภ์ครั้งแรก ได้แก่ - CBC (Complete blood count) เป็นการตรวจปริมาณและลักษณะ ของเม็ดเลือดทั้งสามชนิดได้แก่ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือดและการตรวจหมู่เลือด - ตรวจหาไวรัสตับอักเสบบี (HBsAG) - ตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวี (Anti-HIV) - ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส (VDRL) - ตรวจปัสสาวะเพื่อหาน้ำตาลและไข่ขาวในปัสสาวะ (UA) 2. ตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกครั้งในอายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์ - ความเข้มข้นของเลือด (Hct) - ตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวี (Anti-HIV) - ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส (VDRL)
คำถามท้ายกิจกรรม ลิงค์ตอบคำถามท้ายกิจกรรม https://quizizz.com/join/quiz/6434b7ff6c29fd001d67f6ef/start? studentShare=true คิวอาร์โค้ดตอบคำถามท้ายกิจกรรม
บรรณานุกรม ปิยธิดา ศรีพงษ์สุทธิ์. (2565). การประเมินภาวะสุขภาพมารดาและทารกและการคัดกรองสตรีตั้งครรภ์ [เอกสารไม่ได้ตีพิมพ์]. คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช. พระจันทร์สีส้ม. (2562). แม่ตั้งครรภ์ท้องกลม ท้องแหลม บอกเพศลูกได้จริงมั้ย [online].สืบค้นวันที่ 17 มีนาคม 2566. จากเว็บไซต์https://www.trueplookpanya.com/dhamma/content/77542 โรงพยาบาลนครธน. (2564). ฝากครรภ์ครั้งแรกต้องทำอย่างไร ตอบข้อสงสัยคุณแม่มือใหม่ [online]. สืบค้นวันที่ 17 มีนาคม 2566. จากเว็บไซต์ https://www.nakornthon.com/article/detail/ตอบ ทุกข้อสงสัยว่าที่คุณแม่มือใหม่ฝากครรภ์ครั้งแรกต้องทำอย่างไร โรงพยาบาลเปาโล. (2563). นับอายุครรภ์อย่างไรให้แม่น! [online]. สืบค้นวันที่ 17 มีนาคม 2566. จากเว็บไซต์ https://www.paolohospital.com/th-th/center/Article/Details/Article/นับอายุ ครรภ์อย่างไรให้แม่น- โรงพยาบาลเปาโล. (2564). ภาวะซึมเศร้าในคนท้อง [online]. สืบค้นวันที่ 17 มีนาคม 2566. จากเว็บไซต์ https://www.paolohospital.com/th-TH/center/Article/Details/บทความ-สุขภาพ จิต/ภาวะซึมเศร้าในคนท้อง ไลฟ์สไตล์ความสุขของแม่. (2561). ท้องตอนอายุน้อยอันตรายมั้ย? วิธีรับมือให้ทารกปลอดภัยต้องทำ อย่างไรบ้าง [online]. สืบค้นวันที่ 17 มีนาคม 2566. จากเว็บไซต์ https://happymom.in.th /th/tips/maternity-general/ท้อง-อายุน้อย/247 สุพร แก้วศิริพรรณ. (2556). การพยาบาลในระยะตั้งครรภ์ (พิมพ์ครั้งที่1). กรุงเทพมหานครฯ บริษัท วี พริ้นท์ (1991) จำกัด.
คณะผู้จัดทำ 6402101008 กัญญาณัฐ ร่วมรักษ์ เลขที่ 8 6402101009 กัญญาภัก แก่นสาร เลขที่ 9 6402101010 กัญฐิฌา ชาวสวน เลขที่ 10 6402101011 กัญติชา วนวิชาเยนทร์ เลขที่ 11 นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 ห้อง A คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: