ความหมาย ออทสิ ติก ออทสิ ติก (Autistic) หรือท่ีรู้จกั กนั ในชื่อกลมุ่ อาการออทิสติก (Autism Spectrum Disorders: ASD) คือ ภาวะระบบประสาททางานซบั ซอ้ น ผทู้ ี่เป็นออทิสติกจะมี ความสามารถเกี่ยวกบั การปฏิสมั พนั ธ์กบั ผคู้ นในสงั คม พฒั นาการทางภาษา และทกั ษะ การสื่อสารดอ้ ยกวา่ คนปกติ ท้งั น้ี ผปู้ ่ วยออทิสติกมกั มีพฤติกรรมทาอะไรเหมือนเดิมซ้า ๆ เช่น โยนของไปมา สะบดั มือซ้า ๆ หรือชอบพดู เลียนแบบ โดยอาการอาจรุนแรงหรือไม่ รุนแรงก็ได้ เพราะผปู้ ่ วยออทิสติกแต่ละคนมีปัญหาและความรุนแรงที่แตกต่างกนั อาการของออทิสตกิ เดก็ ท่ีป่ วยเป็นออทิสติกจะแสดงทกั ษะการสื่อสารและปฏิสัมพนั ธก์ บั ผอู้ ื่น รวมถึงมี พฤติกรรมทว่ั ไป ดงั น้ี ทกั ษะด้านการเข้าสังคม เดก็ ออทิสติกจะมีปัญหาดา้ นการสร้างปฏิสมั พนั ธก์ บั ผคู้ นรอบขา้ ง คลา้ ยกบั วา่ อยตู่ วั คนเดียวในโลก โดยลกั ษณะการเขา้ สังคมของเดก็ ออทิสติกจะมีลกั ษณะดงั ตอ่ ไปน้ี ▪ ไม่สังสรรคห์ รือแสดงความคิดเห็นใดๆ เพอื่ แลกเปล่ียนพดู คุยกบั ผอู้ ่นื ▪ ไมเ่ ลน่ หรือแบ่งปันของเล่นกบั เด็กอ่ืน รวมท้งั ไม่รู้วิธีเลน่ กบั ผอู้ ื่น ▪ ไม่เขา้ ใจอารมณ์ความรู้สึกของผทู้ ี่คุยดว้ ย ▪ ขาดการสร้างสมั พนั ธภาพกบั ผคู้ นรอบขา้ ง
ทกั ษะด้านการสื่อสาร เดก็ ออทสิ ตกิ จะไม่สามารถส่ือสารผา่ นการพดู อา่ น เขียน หรือเขา้ ใจส่ิงที่ผอู้ ่ืนสื่อสารได้ บางคร้ังเด็กอาจลืมถอ้ ยคาหรือทกั ษะอ่ืน ๆ ซ่ึงเด็กจะแสดงปัญหาดา้ นการส่ือสาร ดงั น้ี ▪ ไม่เขา้ ใจการสื่อสารดว้ ยภาษาทา่ ทาง เช่น ช้ีนิ้ว โบกมือ ▪ ขาดความรู้เร่ืองทิศทาง ▪ ไมส่ ามารถแปลสัญลกั ษณ์และเรียนรู้ภาษาไดช้ า้ ▪ อ่านออกแต่ไม่เขา้ ใจความหมายของคา หรือท่ีเรียกวา่ ความบกพร่องทางการเรียนรู้ดา้ น คาพูด (Hyperlexia) นอกจากน้ี เดก็ อาจพดู เลียนแบบซ้าไปซ้ามาซ่ึงเป็นอาการพดู เลียน (Echolalia) พดู คุย โตต้ อบเป็นเพลง อาละวาดเพอ่ื แสดงความไม่พอใจ และไม่สามารถส่ือสารเพื่อบอกความ ตอ้ งการของตวั เองได้ พฤติกรรมทั่วไป เดก็ ออทิสติกมกั แสดงพฤติกรรมต่อไปน้ี ▪ ไมส่ ามารถทากิจกรรมท่ีมีลาดบั ข้นั ตอนหลายอยา่ ง หรือเปล่ียนไปทากิจกรรมอ่ืนไดย้ าก ▪ โบกมือไปมา ทุบตี หรือกลอกตาไปมา ▪ หวั เสียง่าย ▪ ชอบอาหารเป็นบางอยา่ ง ▪ แสดงความสนใจส่ิงใดส่ิงหน่ึงเพียงอยา่ งเดียว เช่น เลน่ ของเลน่ แค่ส่วนใดส่วนหน่ึงของ ของเลน่ น้นั หรือเอาแตพ่ ูดเฉพาะเรื่องท่ีตวั เองชอบ
สาเหตขุ องออทสิ ติก ปัจจุบนั ยงั ไม่มีการระบสุ าเหตหุ รือปัจจยั ท่ีก่อใหเ้ กิดออทิสติกอยา่ งเป็นทางการ เบ้ืองตน้ สันนิษฐานวา่ โรคน้ีเกี่ยวขอ้ งกบั ความผิดปกติของยนี บางรายอาจเสี่ยงเป็นออทิ สติกไดส้ ูงหากบคุ คลในครอบครัวมีประวตั ิป่ วยเป็นออทิสติก อยา่ งไรก็ตาม ยงั ปรากฏเดก็ ออทิสติกอีกหลายรายที่บคุ คลในครอบครัวไม่ไดม้ ีปัญหาดงั กลา่ ว ท้งั น้ี งานวจิ ยั บางเรื่องไดท้ าการศึกษาและแสดงใหเ้ ห็นวา่ หากพอ่ แม่มีอายมุ ากท้งั คู่หรือมี ช่วงอายหุ ่างจากลกู ตวั เองมาก เด็กท่ีเกิดออกมาก็จะเส่ียงเป็นออทิสตกิ โดยผลการศึกษา ดงั กลา่ วเป็นเพยี งแนวโนม้ ที่จะเกิดข้ึน นอกจากน้ียงั มีความเป็นไปไดอ้ ื่น ๆ ที่อาจทาให้ เด็กเสี่ยงเป็นออทิสติก ไมว่ า่ จะเป็นการใชส้ ารเสพติดขณะต้งั ครรภอ์ ยา่ งการด่ืมเคร่ืองดื่มที่ มีแอลกอฮอล์ ใชย้ าตา้ นอาการชกั หรือป่ วยเป็นโรคเบาหวานและโรคอว้ น ในบางราย การ ติดเช้ือหดั เยอรมนั หรือป่ วยเป็นฟี นิลคีโตนูเรียแลว้ ไม่ไดร้ ับการรักษาน้นั อาจเกี่ยวขอ้ งกบั อาการออทิสติกในเด็ก ที่สาคญั แมจ้ ะมีการกลา่ ววา่ การฉีดวคั ซีนเสริมภูมิตา้ นทานโรคต่าง ๆ จะก่อใหเ้ กิดอาการ ออทิสติกในเดก็ แตก่ ็ยงั ไมม่ ีหลกั ฐานทางการแพทยท์ ี่พิสูจน์ใหเ้ ห็นอยา่ งชดั เจนวา่ วคั ซีน ทาใหเ้ ด็กเป็นออทิสติกได้ การวนิ จิ ฉัยออทสิ ติก อาการป่ วยเป็นออทสิ ติกอาจไมแ่ สดงออกมาอยา่ งชดั เจน สาหรับทารกและเด็กเลก็ แพทยจ์ ะดูอาการเบ้อื งตน้ วา่ มีปัญหาดา้ นพฒั นาการหรือไม่ ซ่ึงอาการของเดก็ ท่ีมี พฒั นาการชา้ จะมีลกั ษณะดงั ตอ่ ไปน้ี ▪ ไมพ่ ูดออ้ แอ้ ช้ีมือ หรือแสดงท่าทางใด ๆ (เมื่อเดก็ อายุ 12 เดือน) ▪ ไม่พูดออกมาแมแ้ ต่คาเดียว (เม่ือเด็กอายุ 16 เดือน)
▪ ไม่พดู คาส้นั ๆ ท่ีติดตอ่ กนั 2 คาออกมา หรือเอาแตพ่ ูดเลียนแบบคาส้นั ๆ ซ้าไปซ้ามา (เมื่อ เด็กอายุ 24 เดือน) ▪ ไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาหรือเขา้ สังคมได้ ▪ ไมส่ บตาเมื่อพูดคุย หรือไมม่ ีการโตต้ อบเก่ียวกบั เรื่องท่ีคุยกนั การทดสอบเพอ่ื วินิจฉยั อาการออทิสติกในเดก็ น้นั ประกอบดว้ ยการประเมินพฤติกรรม และการประเมินทางกายภาพและผลตรวจจากหอ้ งทดลอง ดงั รายละเอียดต่อไปน การประเมินพฤติกรรม การประเมินพฤติกรรมประกอบดว้ ยแนวทางหรือชุดคาถาม ท่ีช่วยใหห้ มอวนิ ิจฉยั ได้ วา่ พฒั นาการของเด็กมคี วามผิดปกติอยา่ งไร โดยแนวทางการประเมนิ ประกอบดว้ ย ▪ ประวตั ทิ างการแพทย์ (Medical History) แพทยจ์ ะสัมภาษณ์คาถามเกี่ยวกบั พฒั นาการ ของเดก็ ไดแ้ ก่ การสื่อสารของเดก็ การใชภ้ าษา การสบตามองหนา้ การเล่นของเลน่ และ พฤติกรรมตา่ ง ๆ เม่อื เลน่ หรืออยกู่ บั ผอู้ ื่น ▪ แนวทางการวนิ จิ ฉัยออทิสตกิ แพทยจ์ ะวนิ ิจฉยั พฤติกรรมของเด็กที่เขา้ ขา่ ยลกั ษณะอาการ ออทิสติกตามการวินิจฉยั ทางการแพทย์ ▪ การสังเกตพฤตกิ รรม แพทยอ์ าจตอ้ งการสังเกตพฤติกรรมของเด็กในสถานการณ์ตา่ ง ๆ เพ่ือดพู ฒั นาการของเดก็ ท้งั น้ี อาจมีการเกบ็ ขอ้ มูลจากพอ่ แม่เพ่อื ประกอบการวินิจฉยั วา่ สิ่ง ท่ีเด็กแสดงออกมาในแตล่ ะเหตุการณ์น้นั ถอื เป็นพฤติกรรมปกติหรือไม่ ▪ แบบทดสอบความฉลาดและพฒั นาการ แบบทดสอบความฉลาดและพฒั นาการมีส่วนใน การพิจารณาวา่ การเติบโตทางพฒั นาการท่ีชา้ กวา่ ปกติน้นั ส่งผลต่อความสามารถในการ คิดและตดั สินใจของเดก็ หรือไม่
การประเมินทางกายภาพและผลตรวจจากห้องปฏิบตั ิการ ผลตรวจทางร่างกายจดั เป็นองคป์ ระกอบหน่ึงในการพจิ ารณาวา่ ปัญหาทางกายภาพน้นั ก่อใหเ้ กิดอาการออทิสติกหรือไม่ ซ่ึงประกอบดว้ ย ▪ การตรวจร่างกาย แพทยจ์ ะพจิ ารณาพฒั นาการทางร่างกายของเดก็ วา่ เติบโตเป็นปกติ หรือไม่ โดยดูจากขนาดศีรษะ น้าหนกั ตวั และส่วนสูง นอกจากน้ี แพทยจ์ ะตรวจร่างกาย เพื่อหาลกั ษณะผิดปกตทิ างโครโมโซมท่ีแสดงออกทางร่างกายร่วมดว้ ย ▪ การทดสอบการได้ยิน ปัญหาการไดย้ นิ อาจทาใหเ้ ด็กมีพฒั นาการชา้ รวมท้งั มีปัญหา เกี่ยวกบั ทกั ษะการเขา้ สงั คมและความสามารถทางภาษา ▪ การทดสอบพษิ จากสารตะกวั่ ( Lead Poisoning) เด็กที่มีพฒั นาการชา้ มกั หยบิ สิ่งของเขา้ ปากท่ีอาจเป็นอนั ตรายต่อร่างกายอยา่ งดินหรือเศษชิ้นส่วนตา่ ง ๆ พฤติกรรมดงั กลา่ วคลา้ ย กบั พฤติกรรมของผทู้ ีช่ อบกินของแปลก (Pica) หากแพทยต์ รวจพบพษิ จากสารตะกว่ั ใน ร่างกาย ก็สามารถวนิ ิจฉยั ไดว้ า่ พฤติกรรมดงั กล่าวเป็นผลจากการที่เดก็ มีพฒั นาการชา้ นอกจากน้ียงั มีการทดสอบอ่ืน ๆ ท่ีแพทยต์ อ้ งทาการทดสอบเพิ่มเติมในกรณีที่เดก็ มี ประวตั ิทางการแพทยอ์ ยา่ งอื่นท่ีจาเพาะเจาะจง ไดแ้ ก่ ▪ การตรวจโครโมโซม (Chromosomal Analysis) หากเด็กหรือบุคคลในครอบครัวมี ประวตั ิทางการแพทยท์ ่ีแสดงใหเ้ ห็นวา่ มีความบกพร่องทางสติปัญญา (Intellectual Disability) เช่น เดก็ หรือบุคคลในครอบครัวป่ วยเป็นภาวะโครโมโซมเอกซ์เปราะ (Fragile X Syndrome) ซ่ึงทาใหเ้ ดก็ มีพฒั นาการดา้ นความฉลาดต่ากวา่ เดก็ ทวั่ ไปและมีพฤติกรรม เขา้ ข่ายอาการออทิสติก แพทยอ์ าจตอ้ งวเิ คราะหโ์ ครโมโซมของเดก็ ประกอบดว้ ย ▪ การตรวจคล่ืนไฟฟ้าสมอง (Electroencephalograph: EEG) หากเดก็ เคยเกิดอาการชกั เช่น เด็กอาจเคยมีประวตั ิเป็นลมชกั ชนิดเหมอ่ (Absence Seizure) ซ่ึงเด็กอาจสติหลดุ หรือไมร่ ู้สึกตวั ไปสกั ประมาณ 15 วินาที และเกิดข้ึนหลายคร้ังในหน่ึงวนั หรือมี
พฒั นาการถดถอย (Developmental Regression) โดยการตรวจคล่ืนไฟฟ้าสมองจะแสดง ลกั ษณะคล่ืนไฟฟ้าภายในสมองของเดก็ ที่ทางานผดิ ปกติ ▪ การตรวจด้วยเอม็ อาร์ไอ (Magnetic Resonance Imaging: MRI) เคร่ืองตรวจเอม็ อาร์ไอ จะช่วยตรวจสอบบริเวณสมองที่มีปัญหา โดยแพทยจ์ ะทาการตรวจน้ีหากสมองของเด็กมี ลกั ษณะท่ีแตกต่างไปจากโครงสร้างสมองปกติ การรักษาออทสิ ตกิ แมอ้ าการออทิสติกจะไมม่ ียาหรือวธิ ีทางการแพทยท์ ่ีรักษาใหห้ ายขาด แตเ่ ดก็ ออทิสติก สามารถไดร้ ับการดูแลอยา่ งถูกวิธีจากพอ่ แมแ่ ละทีมดูแลเด็กออทิสติก อนั ประกอบไปดว้ ย แพทย์ นกั จิตวทิ ยา นกั แกไ้ ขการพดู นกั กิจกรรมบาบดั และคุณครูสอนเด็กพิเศษ ซ่ึงจะ ช่วยใหเ้ ดก็ สามารถพฒั นาทกั ษะการเขา้ สงั คมและการสื่อสารใหด้ ีข้ึนและใชช้ ีวิตปกติได้ พ่อแม่และทีมดูแลเด็กพเิ ศษควรร่วมมือกนั เพอ่ื ช่วยใหเ้ ด็กสามารถเรียนรู้ไดบ้ า้ งใน เบ้ืองตน้ หลงั จากน้นั จึงพฒั นาการเรียนรู้ดา้ นวิชาการต่อไปโดยขอความร่วมมือจากครู การรักษาออทิสติกใหไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและตอ้ งใชร้ ะยะเวลาในการรักษานาน เท่าไหร่ไม่สามารถระบไุ ดอ้ ยา่ งแน่ชดั เพราะการรักษาใหป้ ระสบผลสาเร็จน้นั ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ท่ีแตกตา่ งกนั ไปของผปู้ ่ วย เช่น ความรุนแรงของโรค ความผดิ ปกติซ้าซอ้ นท่ีเกิดกบั เดก็ อาการเจบ็ ป่ วยทางกายของเด็ก อายทุ ่ีเดก็ เร่ิมเขา้ รับการรักษา รูปแบบการเล้ียงดู หรือ ส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั เด็ก เป็นตน้ นอกจากน้ี แพทยต์ อ้ งเฝ้าระวงั อาการของเดก็ ร่วมดว้ ย เน่ืองจากเดก็ อาจมีความผิดปกติดา้ นพฤติกรรมเพ่ิมข้ึนมาระหวา่ งรับการรักษา แพทยจ์ ึง ตอ้ งปรับวธิ ีการรักษาใหเ้ หมาะสมตลอดช่วงอายขุ องเดก็ อยเู่ สมอ การบาบดั อาการออทิสติก ต้งั แต่กระตนุ้ พฒั นาการเด็ก ปรับพฤติกรรม และเสริมสร้าง ดา้ นการเรียนรู้ มีข้นั ตอนดงั น้ี การกระต้นุ พฒั นาการเด็ก การกระตุน้ พฒั นาการของเดก็ น้นั มีหลายข้นั ตอน ประกอบดว้ ย การกระตุน้ ประสาทสมั ผสั ท้งั หา้ การจบั มือเดก็ ใหท้ าสิ่งตา่ ง ๆ ดว้ ยตวั เอง การหนั ตาม
เสียงเรียก และการสอนใหร้ ู้จกั ตวั เองและบคุ คลในครอบครัว โดยการกระตนุ้ พฒั นาการ เดก็ น้นั จะช่วยใหเ้ ดก็ มปี ฏิสัมพนั ธ์กบั บุคคลในครอบครัวเป็นอนั ดบั แรก โดยวธิ ีกระตนุ้ พฒั นาการเด็กต่าง ๆ มรี ายละเอียด ดงั น้ี ▪ การกระตนุ้ ประสาทสมั ผสั ท้งั หา้ พอ่ แมค่ วรเล่นกบั ลูกอยา่ งการอมุ้ เดก็ กอด เล่นปไู ต่ หรือ จกั๊ จ้ีมือ โดยทาเช่นน้ีซ้า ๆ ทกุ วนั เพ่อื ใหเ้ ดก็ ซึมซบั ความอบอ่นุ และคุน้ เคยจากพอ่ แมแ่ ละ สร้างสมั พนั ธภาพท่ีดีกบั คนในครอบครัว จากน้นั จะฝึกใหเ้ ด็กสบตา กระซิบเรียกชื่อเด็ก ขา้ งหูดว้ ยเสียงของคนที่ใกลช้ ิดเด็ก เพอ่ื กระตนุ้ ทกั ษะการเขา้ สงั คมและการสื่อความหมาย และสอนใหเ้ ดก็ เรียนรู้ความแตกตา่ งของกลนิ่ และรสของอาหาร โดยเริ่มจากส่ิงท่ีเด็กชอบ กิน ใหเ้ ดก็ เรียกชื่ออาหารและความรู้สึกหลงั จากไดช้ ิมและดมไปทีละอยา่ ง ▪ การจบั มือเด็กใหท้ าสิ่งตา่ ง ๆ ดว้ ยตวั เอง วิธีน้ีจะเร่ิมจากจบั มือเด็กใหห้ ดั ทากิจกรรมตา่ ง ๆ ที่ตอ้ งการทาดว้ ยตวั เอง โดยจะช่วยใหเ้ ด็กเกิดความมน่ั ใจมากข้ึน เนื่องจากเด็กออทิสติก ช้ีบอกความตอ้ งการของตวั เองไม่ได้ และมกั จบั มือของคนอื่นใหช้ ่วยทาแทน ▪ การหนั ตามเสียงเรียก วธิ ีน้ีจะสอนใหเ้ ดก็ หนั ตามเสียงท่ีเรียกชื่อตวั เอง ช่วยใหเ้ ด็กสื่อ ความหมายไดแ้ ละมีปฏสิ ัมพนั ธ์กบั ผอู้ ื่นมากข้นึ ▪ การสอนใหร้ ู้จกั ตวั เองและบคุ คลในครอบครัว วธิ ีน้ีจะสอนเด็กใหร้ ู้จกั ชื่อตวั เอง และ บคุ คลในครอบครัววา่ เป็นใครบา้ ง เพอื่ ช่วยแยกความแตกตา่ งของแตล่ ะคนที่เด็กอยรู่ ่วม ภายในครอบครัว การฝึ กกจิ วตั รประจาวนั เริ่มตน้ ตอ้ งสอนใหเ้ ด็กรู้จกั ของใชต้ า่ ง ๆ กอ่ น จากน้นั จึงสอนให้ เดก็ ทาความสะอาดร่างกายแต่ละส่วน โดยสอนไปทีละข้นั สาหรับการฝึกขบั ถา่ ยน้นั เริ่ม จากเลิกใชผ้ า้ ออ้ มสาเร็จรูปและเปลี่ยนกางเกงเมื่อขบั ถา่ ยออกมา ท้งั น้ีเพอ่ื ใหเ้ ด็กไดส้ มั ผสั ความสกปรกจากการขบั ถ่ายเลอะเทอะ ผปู้ กครองตอ้ งสงั เกตวา่ เดก็ มกั ขบั ถ่ายตอนไหน แลว้ คอ่ ยฝึกเดก็ ในตอนน้นั โดยใชค้ าง่าย ๆ อยา่ ง “อึ” หรือ “ฉี่” ในการสอน ส่วนการสอน
ใหเ้ ดก็ แต่งตวั ควรใชเ้ ส้ือผา้ ที่ทาจากผา้ ยดื เพราะทาใหเ้ ดก็ สวมใส่ไดง้ า่ ย เป็นการสร้าง แรงจูงใจใหเ้ ด็กอยากแต่งตวั เอง นอกจากน้ีควรสอนใหเ้ ด็กใชช้ อ้ นตกั อาหาร เนื่องจากเดก็ ออทิสติกมกั ใชม้ ือหยบิ อาหารเขา้ ปาก การเล่นและรับรู้อารมณ์ ผสู้ อนควรใหเ้ ดก็ ทพ่ี ดู ไม่ไดส้ ่ือสารดว้ ยท่าทางก่อน และสอนให้ เด็กรู้จกั แยกแยะสีหนา้ อารมณ์ในแบบตา่ ง ๆ เพอื่ ใหเ้ ด็กเขา้ ใจความรู้สึกของผคู้ นมากข้ึน ท่ีสาคญั ควรฝึกใหเ้ ด็กเลน่ ของเลน่ เพราะเมื่อเด็กเล่นของเลน่ เป็น กจ็ ะช่วยใหม้ ี ปฏิสมั พนั ธ์กบั สังคมภายนอกและปรับอารมณ์ใหด้ ีข้ึนดว้ ย อรรถบาบัด (Speech Therapy) ผเู้ ช่ียวชาญดา้ นการแกไ้ ขการพดู จะสอนใหเ้ ด็กเปลง่ เสียง และพดู ออกมา โดยอรรถบาบดั จะช่วยใหเ้ ดก็ เรียนรู็ภาษาและส่ือสารกบั ผอู้ ่ืนได้ พฤติกรรมบาบดั (Behavior Therapy) เดก็ ออทิสติกจะไดร้ ับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ มีปัญหาของตนใหก้ ลบั มาเป็นปกติ สามารถปฏิบตั ิตวั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ซ่ึงจะช่วยใหเ้ ด็ก เขา้ ใจกฎเกณฑแ์ ละอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ ดนตรีบาบดั (Music Therapy) ครูฝึกสอนจะใชด้ นตรีเขา้ มาบาบดั ร่วมดว้ ย ทาใหเ้ ด็กผอ่ น คลาย ไมร่ ู้สึกกลวั หรือกงั วล รวมท้งั กระตุน้ ประสาทสมั ผสั ดา้ นการฟัง จนเปลง่ เสียงและ เคล่ือนไหวร่างกายตามจงั หวะดนตรี โดยดนตรีบาบดั จะช่วยลดพฤตกิ รรมกา้ วร้าวและ เสริมสร้างทกั ษะการส่ือสารและปฏิสมั พนั ธ์กบั ผอู้ ่ืน การควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย เดก็ ออทิสติกจะไดร้ ับการฝึกควบคุมการ เคลื่อนไหวร่างกายของตวั เองไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
การทานวิ โรฟี ดแบค (Neurofeedback) เด็กจะเรียนรู้วิธีฝึกบาบดั ตวั เองดว้ ยเครื่องเฮโม เอน็ เซปฟาโลแกรม (Hemoencephalogram: HEG) ซ่ึงแสดงผลผา่ นจอคอมพวิ เตอร์ใน รูปแบบกระบวนการป้อนกลบั (Feedback) ช่วยใหเ้ ด็กมีสมาธิและต้งั ใจในการบาบดั การเรียนรู้ด้านวชิ าการ เด็กออทิสติกที่มีความฉลาดทางสติปัญญาต่ากวา่ 70 ซ่ึงต่ากวา่ เกณฑเ์ ฉล่ีย ตอ้ งเขา้ รับการศึกษาแบบการศึกษาพิเศษ โดยจดั หลกั สูตรที่เหมาะกบั แตล่ ะ คนโดยเฉพาะ และเนน้ วิชาสายอาชีพเป็นหลกั การบาบัดด้วยยา การใชย้ าบาบดั น้นั จะพจิ ารณาตามอาการของเด็กแตล่ ะคน เพ่ือช่วยลด พฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงคแ์ ละทาใหก้ ารทาพฤติกรรมบาบดั ทาไดง้ า่ ยและมีประสิทธิภาพ มากข้ึน ภาวะแทรกซ้อนของออทิสตกิ เด็กออทิสติกจะเกิดอาการอนั เป็นภาวะแทรกซอ้ นของโรค ดงั น้ี ▪ ปัญหาเกย่ี วกบั ประสาทสัมผัส เด็กออทิสติกจะมีระบบประสาทสมั ผสั ท่ีอ่อนไหวไดง้ ่าย โดยจะมีปฏิกิริยาตอบโตส้ ่ิงเร้ารอบตวั ที่มากกวา่ เดก็ ทวั่ ไป เช่น รู้สึกกลวั หรืออารมณ์ แปรปรวนไดง้ า่ ยเม่ือไดย้ นิ เสียงดงั หรือฟ้าแลบ ในทางตรงขา้ ม เด็กอาจไมต่ อบสนองต่อ ส่ิงเร้าเหลา่ น้นั เลย เช่น ไมแ่ สดงอาการร้อน หนาว หรือเจบ็ ปวด เมอื่ มีส่ิงใดสิ่งหน่ึงมา กระทบหรือทาใหเ้ กิดอาการหรือความรู้สึกน้นั ๆ ▪ อาการชัก เดก็ ออทิสติกมกั เกิดอาการชกั เป็นปกติ โดยอาการน้ีจะเริ่มข้ึนในช่วงวยั เดก็ หรือ ช่วงวยั รุ่น ▪ ปัญหาสุขภาพจิต อาการออทิสติกก่อใหเ้ กิดอาการซึมเศร้า กงั วล พฤตกิ รรมมทุ ะลุ และ อารมณ์แปรปรวน
▪ ความผิดปกตทิ างจิตใจ เดก็ ที่ป่ วยเป็นโครโมโซมเอกซเ์ ปราะ (Fragile X Chromosome) มี แนวโนม้ ท่ีจะพฒั นากลายเป็นอาการออทิสติก โดยภาวะโครโมโซมเอกซ์เปราะเกิดจาก การติดเช้ือท่ีโครโมโซมเอกซ์ ซ่ึงส่งผลตอ่ ความผิดปกติทางจิตใจดว้ ย ▪ เนื้องอก ทเู บอรัส สเคลอโรซิส (Tuberous Sclerosis) โรคที่เกี่ยวขอ้ งกบั ความผิดปกติทาง พนั ธุกรรม ถอื เป็นโรคที่เกิดข้ึนไดน้ อ้ ย โดยทเู บอรัส สเคลอโรซิสทาใหเ้ กิดกอ้ นเน้ือน่ิม ๆ งอกข้ึนมาท่ีอวยั วะและสมองของเด็ก แมจ้ ะไมม่ ีสาเหตแุ น่ชดั วา่ เน้ืองอกเกี่ยวขอ้ งกบั อาการออทิสติกอยา่ งไร แตจ่ ากศนู ยค์ วบคุมและป้องกนั โรค (Centers for Disease Control and Prevention) รายงานวา่ เด็กออทิสติกมีอตั ราการเป็นทเู บอรัส สเคลอโรซิสสูง ▪ ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ นอกจากน้ียงั มีภาวะแทรกซอ้ นอื่น ๆ ที่มากบั กลมุ่ อาการออทิสติก ไมว่ า่ จะเป็นพฤติกรรมกา้ วร้าว การนอนหลบั และรับประทานอาหารที่ผิดปกติ และปัญหา เก่ียวกบั ระบบการยอ่ ยอาหาร การป้องกนั ออทิสตกิ ทางการแพทยย์ งั ไม่มีวธิ ีป้องกนั ออทิสติกหรือกล่มุ อาการออทิสติกไม่ใหเ้ กิดในเดก็ ได้ เพราะแพทยแ์ ละนกั วิจยั ต่างเห็นวา่ ความผิดปกติของยนี ที่เป็นปัจจยั สาคญั ทาใหเ้ กิดออทิ สติกน้นั อยเู่ หนือการควบคุมของพอ่ แม่เด็ก บางรายอาจเกิดการติดเช้ือต้งั แตเ่ ด็กอยใู่ น ครรภห์ ากผเู้ ป็นแม่ไดร้ ับสารเคมีบางอยา่ งเขา้ ไปตอนที่ต้งั ทอ้ ง ซ่ึงแพทยก์ ไ็ ม่สามารถ ตรวจพบไดว้ า่ ทารกในครรภจ์ ะเป็นออทิสติกเมื่อคลอดออกมา อยา่ งไรก็ตาม พ่อแม่ตา่ งมี บทบาทสาคญั ในการช่วยลดปัจจยั เส่ียงที่จะทาใหล้ กู ของตนมีแนวโนม้ เป็นออทิสติกลด ลงได้ โดยปฏิบตั ิดงั น้ี ▪ รักษาสุขภาพ สตรีมีครรภค์ วรฝากครรภแ์ ละรับการตรวจสุขภาพกบั แพทยอ์ ยา่ งสม่าเสมอ ควรรับประทานอาหารใหค้ รบถว้ นตามหลกั โภชนาการและออกกาลงั กาย รวมท้งั รับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมตามคาแนะนาของแพทย์
▪ งดใช้ยาขณะต้งั ครรภ์ ขณะต้งั ครรภไ์ ม่ควรรับประทานยาเอง แต่ควรปรึกษาแพทยก์ ่อนใช้ ยาตา่ ง ๆ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ หากผเู้ ป็นแมต่ อ้ งรับประทานยาตา้ นโรคชกั ▪ เลย่ี งสารเสพติดทกุ ชนดิ งดการดื่มเครื่องด่ืมท่มี ีแอลกอฮอลแ์ ละสูบบหุ รี่ขณะต้งั ครรภ์ ▪ ปรึกษาแพทย์เมื่อป่ วย ในกรณีท่ีคุณแม่บางรายป่ วยหรือไดร้ ับการวินิจฉยั วา่ ป็นโรคแพ้ กลเู ตน (Celiac Disease) หรือโรคฟี นิลคีโตนูเรีย ( Phenylpyruvic Oligophrenia: PKU) ควรปรึกษาแพทยแ์ ละทาตามคาแนะนาในการรักษาอยา่ งเคร่งครัด ปัจจุบนั พบวา่ กลมุ่ เด็กออทิสติกที่ไดร้ ับการตรวจวินิจฉยั อยา่ งรวดเร็วต้งั แตร่ ะยะแรก (Early Detection) และไดร้ ับการรักษากระตนุ้ พฒั นาการอยา่ งทนั ทว่ งทีน้นั มีผลการรักษา ท่ีดีกวา่ มีพฒั นาการท่ีดีข้ึนไดเ้ ร็วกวา่ กล่มุ เด็กออทิสติกที่มารับการรักษาลา่ ชา้ แต่อยา่ งไรก็ ตาม อาจข้ึนกบั ปัจจยั อื่นๆ ร่วมดว้ ย เช่น ระดบั สติปัญญาของเดก็ หรือโรคที่พบร่วมอ่ืนๆ เป็ นตน้ วิธีการสังเกตอาการเบ้ืองตน้ หากลูกๆ หลานๆ มีอาการเหลา่ น้ีเพยี งแค่ “บางขอ้ ” ผปู้ กครองควรรีบพามาประเมินเนื่องจากมีความเส่ียง 1. สญั ญาณเตอื นในเดก็ ทารกและเด็กวยั อนุบาล อายุ 6 เดือน สบตานอ้ ย ไมม่ ีการแสดงออกทางสีหนา้ หรือไมย่ มิ้ ตอบโตผ้ ใู้ หญ่ อายุ 9 เดือน ไมส่ ่งเสียงออ้ แอ้ ไม่ยมิ้ อายุ 12 เดือน ไม่ช้ีนิ้ว เอ้ือมหยบิ ของ โบกมือลา พูดไมเ่ ป็นภาษา ไมห่ นั ตามเสียงเรียก อายุ 16 เดือน ไม่พดู คาที่มีความหมาย เช่น หมา อายุ 24 เดือน ไม่พดู คาที่มีความหมายหรือวลีส้ันๆ เช่น กินขา้ ว ไปเท่ียว จะเอา
อาการออทสิ ติก และวธิ ดี แู ลเดก็ ออทสิ ตกิ ท่คี ุณพ่อคุณแม่ควรรู้ โรคออทิสติก เป็นโรคท่ีอยใู่ นกลุม่ พดี ีดี (Pervasive Developmental Disorders : PDDs) หรือ ความบกพร่องของพฒั นาการแบบรอบดา้ น แสดงอาการอยา่ งชดั เจนในวยั เด็ก มกั พบในช่วง 2 ขวบปี แรก มีผลทาใหพ้ ฒั นาการทางดา้ นสังคมและภาษาบกพร่อง มี สาเหตุมาจากความผดิ ปกติของสมองต้งั แต่กาเนิด โดยจะส่งผลต่อพฒั นาการท้งั 3 ดา้ น ซ่ึงคุณพ่อคุณแมส่ ามารถสงั เกตอาการของเดก็ ออทิสติก ไดด้ งั น้ี พฒั นาการด้านการเข้าสังคม เด็กไม่มองหนา้ ไม่สบตาขณะพูดดว้ ย ไมเ่ ขา้ ใจคาส่ังง่าย ๆ ไมม่ ีความสนใจร่วมกบั คนอ่ืน ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกทางสีหนา้ และไมม่ ีภาษาทา่ ทางเพอ่ื การส่ือสาร ชอบ เล่นคนเดียวอยใู่ นโลกส่วนตวั ปลีกวิเวกอยตู่ ามลาพงั ไม่มีปฏิสมั พนั ธก์ บั ผอู้ ื่น ปรับตวั เขา้ กบั ผอู้ ื่นยาก
พฒั นาการด้านการสื่อสาร เด็กพดู ชา้ กวา่ วยั พดู ซ้า ๆ ทวนคา ทวนประโยคไปมา พูดภาษาแปลก ๆ ไมม่ ี ความหมายท่ีคนทว่ั ไปจะเขา้ ใจได้ ส่งเสียงไมเ่ ป็นภาษา ไมส่ ามารถใชภ้ าษาทา่ ทางส่ือสาร กบั บคุ คลอ่ืนได้ เช่น การพยกั หนา้ ส่ายหนา้ หรือการแสดงสีหนา้ อารมณ์ความรู้สึก พฒั นาการด้านพฤติกรรม ชอบเล่นซ้า ๆ มองซ้า ๆ ทากิจกรรมเดิม ๆ เช่น ดูการ์ตนู เรื่องเดิม ๆ หรือนง่ั จอ้ ง อะไรเป็นเวลานาน ๆ ชอบเลน่ ตามลาพงั แต่เลน่ ของเลน่ ไม่เป็น มกั เอามาเคาะ โยน ถือ ดม เอาเขา้ ปาก หรือเอามาเรียงเป็นแถว ปรับตวั ยากต่อการเปล่ียนแปลง มีการตอบสนอง ตอ่ สิ่งเร้าท่ีมากหรือนอ้ ยเกินไป เช่น ไม่สามารถทนเสียงดงั ได้ หรือชอบทาใหเ้ กิดเสียงดงั ๆ แลว้ หวั เราะชอบใจ บางคร้ังก็มอี าการทาร้ายร่างกายตวั เอง เป็นตน้ หากคุณพ่อคุณแม่สงสยั วา่ ลกู ของตวั เองจะเป็นเดก็ ออทิสติกหรือไมน่ ้นั ใหห้ มนั่ สงั เกตพฤติกรรมและพฒั นาการของลกู อยเู่ สมอต้งั แตแ่ รกคลอดจนถึงช่วงวยั 3 ขวบ และ เม่ือพบวา่ ลกู มีพฒั นาการท่ีผดิ ปกติทางดา้ นสงั คมและภาษา เช่น มีพฒั นาการชา้ กวา่ เดก็ วยั เดียวกนั หรือไมม่ ีปฏิสมั พนั ธ์กบั พอ่ แมห่ รือคนรอบขา้ ง ควรนาเด็กไปพบแพทยท์ นั ทีเพอ่ื ทาการวินิจฉยั และรีบรกั ษาต้งั แตอ่ ายยุ งั นอ้ ย และถึงแมว้ า่ โรคออทิสติกจะยงั ไม่มีวธิ ีการ ดูแลรักษาใหห้ ายขาดได้ แตเ่ ด็กออทิสติกสามารถรักษาไดด้ ว้ ยการส่งเสริมพฒั นาการและ ลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมใหใ้ กลเ้ คียงกบั เด็กปกติ ใหเ้ ขาสามารถพ่ึงพาตวั เองไดอ้ ยา่ ง คนปกติทว่ั ไปมากท่ีสุดคะ่
วธิ ีดแู ลเดก็ ออทิสตกิ การดูแลเดก็ ออทิสติก เป็นวิธีการดูแลและรักษาใหเ้ ขาสามารถช่วยเหลือตวั เองได้ ท้งั ยงั ช่วยใหม้ พี ฒั นาการท่ีดีข้ึนจนสามารถเรียนรู้ ปรับตวั และใชช้ ีวติ อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นใน สงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ซ่ึงการเล้ียงดูเด็กออทิสติกก็มีหลกั การเหมอื นกบั การเล้ียงเด็ก ทวั่ ไป แตจ่ ะเนน้ การกระตนุ้ ในจุดที่เป็นปัญหาพร้อมกบั ส่งเสริมและพฒั นาความสามารถ เฉพาะตวั ที่เด็กมี โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรม และส่งเสริมพฒั นาการในทุก ๆ ดา้ น ซ่ึง ในแต่ละช่วงวยั กม็ ีส่วนสาคญั ท่ีตอ้ งเนน้ แตกตา่ งกนั ไป ดงั น้ี ช่วงวยั เดก็ – 5 ปี แรก เด็กออทิสติกสามารถปรับตวั และถูกเล้ยี งดูใหม้ ีพฒั นาการท่ีดีข้ึนได้ แตก่ ต็ อ้ งไดร้ ับ กาลงั ใจและแรงผลกั ดนั จากคุณพอ่ คุณแม่ และคนในครอบครัวค่อนขา้ งมาก โดยในช่วง วยั เด็ก เป็นช่วงเวลาท่ีเขาสามารถเรียนรู้และปรับพฤติกรรมได้ ถา้ ไดร้ ับการส่งเสริม พฒั นาการในดา้ นต่าง ๆ อยา่ งต่อเนื่อง ไดแ้ ก่
1. พฒั นาทกั ษะด้านภาษา ยง่ิ เด็กออทิสติกไดฝ้ ึกการสื่อสารไดเ้ ร็วเท่าไร จะทาใหเ้ ดก็ เรียนรู้การใชภ้ าษาไดเ้ ร็ว เท่าน้นั ท้งั ยงั ช่วยลดพฤติกรรมกา้ วร้าวที่เกิดจากการไม่สามารถสื่อสารความตอ้ งการได้ โดยฝึกเมื่อเดก็ เริ่มมีความเขา้ ใจ และมีความพร้อมในการสอนพดู อาจใชเ้ ทคนิคเพ่ือช่วย ใหเ้ ดก็ นึกคาตอบและสามารถส่ือสารกบั ผอู้ ื่นไดง้ ่าย เช่น การใหพ้ ดู ตาม การถาม การช้ีให้ ดูแลว้ พดู ซ้า ๆ ชา้ ๆ วา่ ส่ิงน้นั คืออะไร เป็นใคร หรือกาลงั ทาอะไรอยู่ โดยใชค้ าศพั ทท์ ่ีเป็น คานามหรือคากิริยาท่ีมองเห็นจบั ตอ้ งได้ เช่น พอ่ แม่ ตน้ ไม้ นก แมว รถ จาน กินขา้ ว อาบน้า นอน นง่ั ยนื เป็นตน้ 2. พฒั นาทักษะด้านสังคม หากเด็กออทิสติกไมไ่ ดร้ ับการดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร เขาจะเร่ิมอยใู่ นโลกส่วนตวั มากข้ึนเร่ือย ๆ และอาจกลายเป็นปัญหารุนแรงได้ คุณพ่อคุณแมจ่ ึงตอ้ งพยายามกระตนุ้ โดยใหล้ กู อยรู่ ่วมกบั คนอื่น ๆ ในครอบครัว ไมว่ า่ จะเป็นพ่อแม่ หรือป่ ูยา่ ตายาย ใหเ้ ขา้ ไป พดู คุยและเลน่ กบั ลูกใหม้ ากข้ึน ใหเ้ ขารู้จกั สบตากบั คนท่ีพดู ดึงเขาเขา้ มาหา มาหอม มา กอด หรือแสดงความรกั ตา่ ง ๆ จะช่วยสร้างสมั พนั ธอ์ นั ดีในครอบครัว โดยทาซ้าทกุ ๆ วนั พร้อมกบั การปรับพฤตกิ รรม ดว้ ยการฝึกฝนใหเ้ ขา้ ใจคาสง่ั งา่ ย ๆ และทาตามได้ ฝึกฝนให้ มีสมาธิจดจ่ออยกู่ บั กิจกรรมท่ีทาไดน้ าน ๆ ซ่ึงหากเขาทาได้ ตอ้ งมีการชมเชย หรือใหข้ อง ที่เขาชอบ เพอ่ื เป็นแรงเสริมใหเ้ ขาอยากทาสิ่งน้นั อีก แต่หากเขามีอาการด้ือ งอแง กา้ วร้าว ใหเ้ พิกเฉยหรือเบ่ียงเบนไปในเร่ืองอน่ื ที่เขาสนใจ
3. พฒั นาทักษะการดแู ลตวั เอง การสอนใหเ้ ดก็ ออทิสติกรู้จกั ช่วยเหลือตวั เองในชีวิตประจาวนั เป็นส่ิงท่ีสาคญั มาก เพราะจะช่วยพฒั นาใหเ้ ขาสามารถใชช้ ีวิตไดเ้ กือบปกติเทา่ คนทว่ั ไป โดยเริ่มจากเรื่อง พ้นื ฐาน เช่น ทานอาหารเองไดโ้ ดยไมต่ อ้ งมีคนป้อน ฝึกการขบั ถา่ ยใหเ้ ป็นเวลา หรือรู้จกั แสดงความตอ้ งการเม่อื อยากเขา้ หอ้ งน้า ฝึกใหเ้ ขาเกบ็ ของเล่นเขา้ ที่ เมอ่ื เขาทาได้ ให้ ชมเชย ปรบมอื กอด หรือใหร้ างวลั เพ่อื ใหเ้ ขาเกิดความภมู ิใจและอยากทาอีกในคร้ังตอ่ ไป นอกจากน้ีคุณพอ่ คุณแม่ควรจดั สรรตารางเวลาและรูปแบบในการดาเนิน ชีวิตประจาวนั ที่ชดั เจน สม่าเสมอ เช่น เวลาตืน่ นอน เวลาเขา้ นอน เวลาทานขา้ ว เวลาไป โรงเรียน เป็นตน้ เพ่อื ใหล้ กู รู้สึกมน่ั คง ปลอดภยั แต่คุณพอ่ คุณแม่ก็ควรเผ่อื กรณีฉุกเฉินไว้ หากมีเหตกุ ารณ์บางอยา่ งเปล่ียนแปลงค่ะ 4. พฒั นาการด้านการเคลื่อนไหว เดก็ ออทิสติกบางคนอาจมีปัญหาพฒั นาการดา้ นการเคล่ือนไหว เดก็ อาจมีลกั ษณะ เชื่องชา้ ไมก่ ระฉบั กระเฉง หยบิ จบั ส่ิงของไม่ถนดั การเคล่ือนไหวกลา้ มเน้ือมดั เลก็ ยงั ไม่ ค่อยดี โดยใหค้ ุณพอ่ คุณแมเ่ นน้ พฒั นาตามลกั ษณะปัญหาที่เกิดข้ึน เช่น ลูกหยบิ ของหลดุ มือบ่อย ๆ ใหฝ้ ึกการออกแรงของกลา้ มเน้ือนิ้วและมือดว้ ยการ ป้ันดินน้ามนั บีบ ดึง ตดั ยกของตา่ ง ๆ ฝึกร้อยลกู ปัด ฝึกระบายสีใหอ้ ยใู่ นกรอบ รวมไปถึงการหยบิ ชอ้ นส้อมทาน อาหารเอง ซ่ึงหากทาสม่าเสมอทกุ วนั จะช่วยใหเ้ ขามีพฒั นาการท่ดี ีข้ึนไดค้ ่ะ
ช่วงวยั เรียน เมื่อเด็กออทิสติกเริ่มเขา้ สู่วยั เรียน และไดพ้ บปะสงั คม เขากจ็ ะมีพฒั นาการดา้ น ภาษาและสงั คมเพมิ่ ข้ึน สามารถเขา้ กลมุ่ กิจกรรมร่วมกบั เพ่ือนฝงู รู้จกั การรอคอย รู้จกั กฎ กติกาในการเลน่ เกม รู้จกั การแบง่ ปัน ซ่ึงเป็นพ้นื ฐานในการเขา้ ใจกติกาทางสังคมต่อไป ที่สาคญั คุณพอ่ คณุ แม่ควรมีส่วนร่วมในการเรียนของลูกดว้ ย โดยร่วมมือกนั ระหวา่ งคุณครู มีการปรึกษาหารืออยา่ งตอ่ เนื่อง สอบถามวา่ ลูกมพี ฤตกิ รรมหรือมีปัญหา อะไรในการเรียนบา้ ง และอะไรท่ีเป็นตวั กระตนุ้ ปัญหา พร้อมแลกเปล่ียนขอ้ มูลซ่ึงกนั และกนั ระหวา่ งท่ีบา้ นและโรงเรียน เพอื่ ใหเ้ กิดความเขา้ ใจในตวั เด็ก จะไดว้ างแผนฝึกฝน และแกป้ ัญหาไปในทิศทางเดียวกนั และอาจขอคาแนะนาเพมิ่ เติมจากทีมแพทยท์ ่ีดูแลเด็ก ดว้ ย ก็จะช่วยใหท้ ุกอยา่ งเป็นไปอยา่ งราบร่ืนและช่วยใหล้ ูกมพี ฒั นาการที่ดีข้ึนได้ โดยใช้ เทคนิคการปรับพฤติกรรม อยา่ งการใหแ้ รงเสริม ใหค้ าชมเชย ใหร้ างวลั แก่ลูก กจ็ ะเป็น การกระตนุ้ ใหล้ กู อยากทาส่ิงน้นั ต่อไปไดค้ ่ะ
ช่วงวยั รุ่น เดก็ ออทิสติกในช่วงวยั รุ่น จะมีการเปลี่ยนแปลงท้งั ทางร่างกายและอารมณ์อยา่ ง มาก เขาจะเร่ิมรับรู้และเขา้ ใจความแตกตา่ งของตวั เองกบั เพ่อื นฝงู คุณพ่อคุณแม่จึง จาเป็นตอ้ งมีการเตรียมตวั ใหข้ อ้ มูลแก่ลกู และสอนใหเ้ ขาเขา้ ใจถึงการเปล่ียนแปลงทาง ร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงเร่ืองความแตกตา่ งของแต่ละคน ท้งั เร่ืองเพศ สภาพร่างกาย และพฤติกรรมอ่ืน ๆ เพอื่ ใหเ้ ด็กไมร่ ู้สึกตื่นเตน้ ตกใจ ซ่ึงจะช่วยใหเ้ ขาเตรียมพร้อมและ สามารถปรับตวั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั ช่วงวยั ท่ีกาลงั เปล่ียนแปลงนน่ั เองคะ่
การดูแลเด็กออทสิ ติกน้นั ไมใ่ ช่เรื่องง่าย แต่ก็ไมย่ ากเกินไปกวา่ ที่คุณพ่อคุณแม่ทุก คนจะทาได้ ขอแค่มีความอดทนและต้งั ใจ ใชห้ ลายๆ วธิ ี และหลายๆ กิจกรรม ผสมผสาน กนั ไปแบบบูรณาการ ช่วยกนั ดูแลร่วมกบั คนในครอบครัว ดว้ ยวิธีท่ีเหมือนกบั การเล้ียง เดก็ ทว่ั ไป ใหล้ ูกไดร้ ับอาหารท่ีมีประโยชน์ ออกกาลงั กายอยา่ งสม่าเสมอ เมื่อเดก็ เริ่ม เรียนรู้ไดแ้ ลว้ ควรฝึกสอนเพ่ิมเติมเก่ียวกบั พฒั นาการในดา้ นตา่ งๆ ที่เขาบกพร่อง รวมไป ถึงทกั ษะในการดารงชีวติ เพอ่ื ใหเ้ ขาสามารถดูแลตวั เองและใชช้ ีวติ ในอนาคตไดอ้ ยา่ ง ปกติ ที่สาคญั คุณพอ่ คณุ แมต่ อ้ งเขม้ แขง็ อดทน และอยา่ ยอมแพง้ ่ายๆนะครับ การดูแล และฝึกฝนเด็กออทิสติกเป็นเรื่องที่ตอ้ งใชเ้ วลา แตว่ า่ พวกเขาสามารถเติบโต และพฒั นา ความสามารถของตวั เองได้ หากไดร้ ับการสนบั สนุนอยา่ งเหมาะสมที่เตม็ เปี่ ยมดว้ ยความ รัก ความเขา้ ใจ และความหวงั ดีใหแ้ ก่เขา ซ่ึงจะเป็นแรงผลกั ดนั ที่ช่วยใหเ้ ขาสามารถ พฒั นาทกั ษะและศกั ยภาพที่มีอยใู่ นตวั ไดไ้ ม่ยากเลยครับ
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: