51 ใบงานท่ี ๗.๑ สขุ ภาพกับการใช้เทคโนโลยใี นชีวิตประจาำ วนั หนาขอท่ีเห็นวาผิด คาำ ชแี้ จง : จงเขียนเคร่ืองหมาย หนาขอท่ีเห็นวาถูก และเขียนเคร่ืองหมาย แลว แกไ ขใหถ กู ตอ ง ขอ้ ความ ขอ้ ความทแ่ี กไ้ ข ๑. เทคโนโลยีคือการประยุกตความรูทาง ................................................................ วทิ ยาศาสตรม าใชใ หเ กดิ ประโยชนส งู สดุ ................................................................ ................................................................ ๒. ปจจุบันมีการนําเทคโนโลยีมาใชเพื่อ ......ป...จ..จ..ุบ...ัน...ม..ีก...า..ร..น...ำา..เ.ท...ค..โ..น...โ.ล..ย...ีม..า..ใ..ช..้.เ.พ..ื่.อ. ประโยชนทางการแพทยเ ทา นนั้ ......ป...ร..ะ..โ.ย..ช...น..ก์...บั ..ม...น..ษุ...ย..์แ..ล...ะ..ส..ัง..ค..ม...ท..กุ...ด..้า..น... ๓. ความเจริญกาวหนาทางเทคโนโลยี ................................................................ เปนผลใหตองยกเลิกเทคโนโลยีแบบ ................................................................ เดิมลง ................................................................ ๔. การใชเ ทคโนโลยที ําใหเ กดิ ทง้ั ประโยชน ................................................................ และโทษ ................................................................ ๕. การนาํ เทคโนโลยมี าใชใ นกระบวนการผลติ ก...า.ร..น...าำ ..เ.ท..ค...โ.น..โ.ล...ย..มี ..า..ใ..ช..ใ้ .น...ก..ร..ะ..บ..ว..น...ก..า..ร..ผ..ล..ติ... ผลิตภัณฑสุขภาพทําใหความสามารถ ผ...ล..ิต...ภ..ัณ....ฑ...์ส..ุข...ภ..า..พ.....ท...ำา..ใ..ห..้ค...ว..า..ม...ส..า..ม...า..ร..ถ... ในการผลิตลดลง ใ..น..ก...า..ร.ผ...ล..ติ...ม..า..ก..ข...น้ึ ..................................... ๖. การใชเทคโนโลยีชีวภาพคือวิธีการ ................................................................ เติมสารอาหารลงในอาหารระหวาง ................................................................ การผลติ ................................................................ ๗. การควบคุมโรคทางหน่ึงคือวิธีการใช ................................................................ พนั ธุวศิ วกรรม ................................................................
52 ขอ้ ความ ขอ้ ความทแ่ี กไ้ ข ๘. ปจจุบันไมมีการปองกันโรคมะเร็ง .......ป...จ..จ..บุ ...ัน..ม...กี ..า..ร..ผ..ล...ติ ..ว..คั...ซ..ีน...ส..าำ..ห..ร..บั........... ปากมดลกู .......ป...อ ..ง..ก..ัน...ม..ะ..เ.ร..ง็..ป...า..ก..ม...ด..ล..กู...................... ๙. แมมโมแกรมคือเคร่ืองตรวจระบบ ......แ..ม...ม..โ..ม..แ...ก..ร..ม..ค...ือ..เ.ค...ร..ื่อ..ง..ต..ร..ว..จ...ม..ะ..เ.ร..็ง....... ภมู คิ มุ กนั ของรา งกาย ......เ.ต...า้ ..น..ม.................................................. ๑๐. เทคโนโลยีท่ีใชในการฟนฟูและชะลอ ................................................................ ความเส่ือมของสุขภาพรางกายคือ ................................................................ การฟนฟูเซลลดวยเซลลตนกําเนิด ................................................................ (Stem cell therapy) ................................................................ ใบงานท่ี ๗.๒ เทคโนโลยีกับสุขภาพ คาำ ชีแ้ จง : ในนักเรียนสํารวจวาในชีวิตประจําวันของนักเรียนมีความเก่ียวของกับเทคโนโลยีใดมากท่ีสุด จากนน้ั ใหน กั เรยี นวเิ คราะหป ระโยชนแ ละโทษของเทคโนโลยที ม่ี ตี อ สขุ ภาพ เทคโนโลยีทฉ่ี นั ใชใ นชวี ิตประจาํ วนั มากที่สดุ คือ ........................โ..ท..ร...ศ...พั ...ท..์ม...อื...ถ...ือ............................ ประโยชน์ โทษ ............๑๒๔ต๓....................ดิ....................ตผใใอ............ชช......าาำ่อ......้เ้......ใมนน......พน............ขวค......ื่อ......กย......า่ ล......เา......วจค......า......รส......รวย......จ......จา......าค......ัดรา......ม......ว......สก......ส......าอ่ื......า......ะม......รส......ด......เ......คาค......ว......ร้......นรก............ีย......คใ............นด......ว............ด้า..................หา้ ............น......า............ขต..................้อ่า............ง......ม............ๆ......ูล.................. ........๑เโ....กท.............ิดร........ถ....ศป........้า....ัพญ....เ........ลท....ห........่น์ม....า........ือทเ........ก....ถา........ม....งือ........สห....น........า....รา....ย....ือ....น....ต....แ....เ....าก....อ....แ....ิน....ป....ล........ไพ....ะป........ป....ล....อ....วิ....เา....ค....ด....จ....ช....กท........ัน....ลำ....า....้า....ใใ........นหม............้ ..เ.น...อ้ื...ม...อื .......................................................... ...................................................................... ..๒.......ไ.ม...ไ่..ด..ท้...าำ..ก..จ.ิ ..ก..ร..ร..ม...ย...า..ม...ว..า่ ..ง..ท..ม่ี...ปี ..ร..ะ..โ..ย..ช...น...์ ...................................................................... ......อผ๓......่นื...ล.......ต...ๆถ......อ่...า้ ......คห.........ยุู......โ......ท.........ร......ศ.........พั .........ท.........ม์ .........อื ......ถ.........อื.........น.........า......น.........เ......ก......นิ.........ไ......ป.........ส.........ง่ ...... ......................................................................
53 ใบงานท่ี ๗.๓ ผลของการใชเ้ ทคโนโลยที ี่มีต่อสุขภาพ คาำ ชแี้ จง : ใหน กั เรยี นเขยี นแผนผังความคดิ (Mind Mapping) อธิบายผลของการใชเทคโนโลยีทมี่ ีตอ สุขภาพ การสรา้ งเสรมิ การสร้างเสรมิ กับความเท่าเทียมในสงั คม การดแู ลรักษา คณุ ภาพชวี ติ และการกระจายโอกาส สง่ิ แวดล้อม ผลของการใชเ้ ทคโนโลยี ทม่ี ตี อ่ สุขภาพ การนำาเทคโนโลยีมาใชใ้ นกระบวนการผลิตผลติ ภณั ฑ์สขุ ภาพ ใบงานท่ี ๗.๔ เทคนิคใหม่แก้หลอดเลอื ดสมองอดุ ตนั คำาชแี้ จง : ใหนกั เรียนอานเรอ่ื งตอ ไปน้แี ลวตอบคําถาม ๑ หลอดเลอื ดสมองอุดตนั กอใหเ กดิ โรคอะไร โรคอมั พฤกษ์และอัมพาต ๒ ปจ จบุ นั มวี ธิ รี กั ษาโรคนอ้ี ยา งไร ใชเ้ ครอ่ื งมอื ทเ่ี รยี กวา่ ระบบการดดู เอาลม่ิ เลอื ดออกตอ่ เนอ่ื ง เพอ่ื ละลายแลว้ จงึ ดดู เอาลม่ิ เลอื ดทท่ี าำ ให้ เกดิ เปน็ อมั พาตออก เพอ่ื เปด หลอดเลอื ดทอ่ี ดุ ตนั ใบงานท่ี ๗.๕ ความรสู้ ึกใหมท่ ี่ไมต่ อ้ งใส่แว่นตา คำาชีแ้ จง : ใหนกั เรยี นอานขอความตอ ไปนี้แลว ตอบคาํ ถาม ๑ เพราะเหตุใดในปจ จุบันผูมปี ญหาสายตาจึงไมตอ งใสแ วนตา เพราะมีการทำาเลสกิ เพ่อื แกไ้ ขปญ หาสายตาส้ัน ยาว และเอียง ๒ นกั เรยี นคดิ วา เทคโนโลยใี นปจ จบุ นั นส้ี ง ผลตอ การรกั ษาโรคไดอ ยา งไร ขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของครู ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เชน่ เทคโนโลยีทำาให้กระบวนการรักษาโรคทำาได้มากย่ิงข้ึน ท้ังอุปกรณ์การรักษาและวิธีการรักษาท่ีใช้ เทคโนโลยเี ขา้ ชว่ ยจะทาำ ใหโ้ รคตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ลดลงได้
54 เฉลยแบบฝกหดั ท้ายหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๘ สมดุลกายจติ ชีวติ มสี ุข ๑ จากประสบการณข องนกั เรยี น นกั เรยี นคดิ วา ความเจบ็ ปว ยสง ผลตอ สขุ ภาพจติ ของตวั เองอยา งไร ตัวอย่างคำาตอบ เช่น จากประสบการณก์ ารเจบ็ ปว ย ไมว่ า่ จะเปน็ อาการปวดทอ้ งโรคกระเพาะ เปน็ ไขห้ วดั เปน็ ไขห้ วดั ใหญ่ ตา่ งกส็ ง่ ผลตอ่ สขุ ภาพจติ ดว้ ยกนั ทง้ั หมด คอื ทาำ ใหจ้ ติ ใจหดหู่ และมอี าการซมึ เศรา้ ๒ นักเรียนคิดวาท่ีผานมาความเครียดและความวิตกกังวลเก่ียวกับการเรียน สงผลตอสุขภาพกายของ นกั เรยี นอยา งไรบา ง ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เช่น จากประสบการณ์ เรอ่ื งความเครยี ดและความวติ กกงั วลทเ่ี กดิ ขน้ึ เนอ่ื งจากการเตรยี มตวั สอบปลายภาค สง่ ผลตอ่ สขุ ภาพกาย คอื เกดิ อาการปวดทอ้ งอยา่ งหนกั ขณะอยรู่ ะหวา่ งการสอบ เนอ่ื งจากความเครยี ดหรอื ท๓เ่ี รยี กนอกั าเรกยี านรคเชดิ น่วานผว้ี ปู า่ ว เยคเปรยีน ดโรลคงเรกอ้ื รระงั เพจาะะประสบปญ หาทางจติ มากกวา ผปู ว ยปกตทิ ว่ั ไปอยา งไร ตวั อยา่ งคำาตอบ เชน่ ผปู้ ว ยเปน็ โรคเรอ้ื รงั นา่ จะประสบปญ หาทางจติ มากกวา่ ผปู้ ว ยทว่ั ๆ ไป เนอ่ื งจากเกดิ การสะสมปญ หา ทางจติ มาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เกดิ ความเครยี ดและสภาวะหดหสู่ ะสม เนอ่ื งจากเปน็ โรคทต่ี อ้ งใชร้ ะยะเวลาการรกั ษา ใหห้ ายขาดอยา่ งยาวนาน บางรายอาจเกดิ ความกงั วลเนอ่ื งจากกลวั การรกั ษาลม้ เหลว ทาำ ใหเ้ กดิ สภาวะเครยี ดได้ ๔ นกั เรยี นคดิ วา ตนเองมสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทส่ี มดลุ หรอื ไม และมวี ธิ ดี แู ลสภาพความสมดลุ ของสขุ ภาพกาย และสขุ ภาพจิตอยา งไร ตัวอย่างคาำ ตอบ เชน่ คดิ วา่ ตนเองมสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทส่ี มดลุ กนั โดยวธิ กี ารดแู ลสขุ ภาพคอื การพกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ การรับประทานอาหารทม่ี ปี ระโยชน์และผ่อนคลายใหเ้ กิดความบนั เทิงทางจติ ใจ หากจิ กรรมยามวา่ งทาำ เช่น อา่ นหนงั สอื ดโู ทรทัศน์ เป็นต้น ๕ นกั เรยี นคดิ วา การมสี มดลุ ของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทด่ี ี สง ผลตอ พฤตกิ รรมและการแสดงออกของบคุ คล อยางไร ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เช่น การมีสมดุลของสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี จะทำาให้บุคคลมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้า กับสภาพแวดลอ้ มได้เป็นอย่างดี จึงสง่ ผลให้มีพฤตกิ รรมและการแสดงออกท่ีดแี ละเหมาะสม ๖ นกั เรียนคิดวาปญ หาความไมส มดุลของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทีเ่ กดิ ข้นึ มีวิธีการแกไ ขทต่ี นเหตอุ ยา งไร ตวั อย่างคาำ ตอบ เชน่ แกป ญ หาทต่ี น้ เหตไุ ดโ้ ดยการหาสาเหตขุ องความไมส่ มดลุ ของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ เกดิ จากเหตใุ ด เชน่ เมอื่ ความไมส่ มดลุ เกดิ เนอ่ื งจากความเครยี ด สง่ ผลใหเ้ กดิ ความเจบ็ ปว ย เมอื่ ทราบสาเหตกุ ห็ าหนทาง แก้ปญหาโดยพยายามหากิจกรรมคลายเครียด ข้ึนกับว่าปญหาความเครียดน้ันเกิดมาจากสาเหตุใด จึงจะเลือกวิธีแก้ไขได้แม่นยาำ มากขึ้น
55 ๗ ถา นกั เรยี นเจบ็ ปว ยทางกาย นกั เรยี นมวี ธิ ไี มใ หส ขุ ภาพจติ ปว ยไปดว ยอยา งไร ตวั อย่างคำาตอบ เช่น พยายามทาำ ตวั ไมเ่ ปน็ คนปว ย ทาำ จติ ใจใหป้ ลอดโปรง่ จติ ใจเบกิ บานและหากจิ กรรมผอ่ นคลายทไ่ี มห่ นกั เชน่ การฟง เพลง การดรู ายการบนั เทงิ ทางโทรทศั น์ เปน็ ตน้ ๘ นกั เรยี นมกี จิ กรรมยามวา งหรอื งานอดเิ รกทช่ี อบปฏบิ ตั ปิ ระจาํ เพอ่ื ชว ยผอ นคลายความเครยี ดหรอื ไม อยา งไร ตัวอย่างคำาตอบ เช่น การออกกาำ ลงั กายเปน็ ประจาำ ชว่ ยใหม้ สี ขุ ภาพจติ ทด่ี ี และยงั ทาำ ใหร้ า่ งกายแขง็ แรงอกี ดว้ ย โดยกฬี าท่ี ชน่ื ชอบไดแ้ ก่ การวา่ ยนา้ำ เปน็ กฬี าทไ่ี ดใ้ ชพ้ ละกาำ ลงั ของทกุ ๆ สว่ นในครง้ั เดยี ว ๙ การรักษาสขุ ภาพกายเปนสิง่ จาํ เปนควบคูกับสขุ ภาพจิต นักเรียนมวี ิธดี แู ลสขุ ภาพกายอยา งไร ตัวอยา่ งคำาตอบ เชน่ ดแู ลสุขภาพอย่างสมาำ่ เสมอ เชน่ การรับประทานอาหารให้ครบ ๕ หมู่ การเลอื กรับประทานอาหาร ทม่ี ีประโยชน์แกร่ ่างกาย การพกั ผ่อนทเ่ี พยี งพอ และการออกกำาลังกายอย่างสม่ำาเสมอ ๑๐ นกั เรยี นไดร บั ประโยชนใ ดบา งจากการศกึ ษาเรอ่ื งความสมดลุ ของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ตัวอย่างคาำ ตอบ เชน่ ทาำ ใหไ้ ดร้ บั ความรเู้ กย่ี วกบั การปฏบิ ตั ติ นทถ่ี กู ตอ้ งเหมาะสมเพอ่ื ใหร้ า่ งกายมสี มดลุ ของสขุ ภาพกายและ สขุ ภาพจติ ทด่ี ี และตระหนกั ถงึ ผลเสยี ทเ่ี กดิ ขน้ึ หากเสยี สมดลุ อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ไปอกี ดว้ ย ๑ ขอ ใดมีผลตอความสมดลุ ของสขุ ภาพกายและสุขภาพจิต จ. ถูกทกุ ข้อ เหตผุ ล เนื่องจากพฤติกรรมการรบั ประทานที่ไมถ่ กู ตอ้ งอาจสง่ ผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย สว่ นเม่ือ มปี ญ หาเกย่ี วกับภาวะจิตใจถา้ บคุ คลท่มี ีทัศนคตทิ างความคิดและความสามารถในการแกป้ ญ หาที่ดี ก็จะ สามารถปรบั เปลย่ี นมมุ มองการคดิ หาทางแกป้ ญ หาเพอ่ื ไมใ่ หจ้ ติ ใจเปน็ ทกุ ข์ สว่ นงานอดเิ รกสามารถชว่ ยลด ความเครยี ดและปญ หาสุขภาพจติ อื่นๆ ได้ ๒ บคุ คลในขอใดอยใู นสมดลุ ของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ง. วัชลาวลีฝกเลน่ โยคะเพ่ือเตรียมรา่ งกายใหพ้ รอ้ มสาำ หรับการมีบุตร เหตผุ ล เนอื่ งจากคาำ ตอบนแ้ี สดงถงึ ความปรารถนาทจ่ี ะมบี ตุ รของวชั ลาวลี โดยเธอเตรยี มความพรอ้ ม เพ่ือให้ร่างกาย แข็งแรงโดยการเล่นโยคะ แสดงว่าเธอคงจะมีจิตใจท่ีเบิกบานด้วยเช่นกัน เน่ืองจากผู้ท่ี ต้องการมีบุตรนั้นต้องมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจท่ีมีความสมดุลกัน ส่วนข้ออ่ืนๆ ได้แก่ ข้อ ก. และ จ. จะเปน็ การสอบและการแขง่ ขันตามลาำ ดบั ซึ่งอาจทาำ ใหเ้ กิดภาวะเครียด ในขอ้ ที่ ค. สิริที่เพ่ิงเสยี พ่อ ไป สภาพจติ ใจอาจจะอย่ใู นชว่ งทีไ่ ม่สูด้ นี ัก สว่ นข้อ ข. แสดงออกถึงความประชดประชันเนื่องจากเปน็ การ ฉลองการหยา่ ร้าง
56 ๓ บุคคลในขอ ใดมีลกั ษณะของสุขภาพจติ ดีทสี่ ดุ ค. อรเปน็ คนทพ่ี อใจในสง่ิ ทต่ี นมี แมใ้ ครจะชอบดถู กู เธอแตเ่ ธอกม็ กั จะมองขา้ มคาำ ดถู กู เหลา่ นน้ั เหตผุ ล อรเปน็ คนทม่ี ที ศั นคตทิ ด่ี ี ดงั นน้ั แมใ้ ครจะพยายามทาำ ใหเ้ ธอรสู้ กึ แย่ เธอกม็ กั จะเลอื กทจ่ี ะไมจ่ าำ เปน็ ตอ้ งสนใจ แคร่ สู้ กึ พอใจในสง่ิ ทต่ี นมกี พ็ อ ดงั นน้ั เธอนา่ จะเปน็ ผทู้ ส่ี ามารถเอาชนะปญ หาเกย่ี วกบั สขุ ภาพจติ ได้ ดที ส่ี ดุ ๔ วลีต้ังใจอานหนังสือเตรียมสอบเขามัธยมศึกษาตอนตนของโรงเรียนรัฐบาลช่ือดังแหงหน่ึง เธอใชเวลากวา ๒ เดอื น กดดนั ตวั เองใหอ า นหนงั สอื อยา งหนกั โดยยกเลกิ กจิ กรรมทไี่ มเ กย่ี วขอ งกบั การสอบออกไปทงั้ หมด เธอใชเ วลาเกอื บทงั้ วนั อยใู นหอ งของเธอ แตแ ลว เหตกุ ารณไ มค าดฝน กเ็ กดิ ขนึ้ ในวนั สอบเขา วลอี าเจยี นออกมา ระหวางการสอบจนเธอนน้ั ไมอ ยใู นสภาพทส่ี ามารถทําขอ สอบตอ ไปได เธอสลบและถูกสงตัวไปโรงพยาบาล และหมดสทิ ธใิ นการสอบ ขอใดเปน สาเหตุการเจ็บปวยกะทันหันของวลี ง. ความเครยี ดสะสม เหตผุ ล เนอ่ื งจากเธอกดดนั ตวั เองในการสอบเพราะหวงั ไวก้ บั การสอบอยา่ งมาก ทาำ ใหเ้ กดิ ความเครยี ด ทส่ี ะสมอยู่แลว้ เปน็ เวลา ๒ เดอื น และความเครียดของเธอยงิ่ เพม่ิ ขึน้ เม่ือถึงวนั สอบจริง เมอ่ื จติ ใจมีปญหา ยอ่ มสง่ ผลต่อสุขภาพทีม่ ปี ญหาตามมา ๕ จากขอ ที่ ๔ ขอใดเปนวิธกี ารแกป ญ หาท่ีตนเหตุ ก. หากิจกรรมผ่อนคลายทำาสลบั กบั การอ่านหนงั สอื เหตุผล เนือ่ งจากความเครียดเกิดจากการกดดนั ตวั เองมากไปและประกอบกับไมห่ าวิธใี นการคลาย เครียดเลยจึงเกดิ เปน็ ความเครียดสะสม ดังนน้ั วิธกี ารแกป้ ญหาทีต่ น้ เหตุคอื การอา่ นหนังสือทถ่ี ูกตอ้ ง คอื ตอ้ งมกี ารผ่อนคลายความเครยี ดสลบั ไปกบั การอา่ นหนงั สือ ๖ เพนนอี อกกาํ ลงั กายทกุ วนั วันละ ๒-๓ ชัว่ โมง และอดอาหารเย็นเพอ่ื ลดน้าํ หนัก ๑๐ กิโลกรมั ภายใน ๑ เดือน เน่ืองจากกลัววา จะแตง ตวั แลวไมสวย ขอ ใดมีความเปน ไปได ก. อาจทาำ ให้เปน็ โรคกระเพาะอาหารและเกิดอาการวิตกกงั วล เหตผุ ล เน่ืองจากเป็นการออกกำาลังกายท่หี ักโหมเกนิ ไป อกี ทง้ั การอดอาหารไม่ใชว่ ิธีที่ถกู ต้อง เธอ อาจจะลม้ ปวยเพราะรา่ งกายทนไม่ไหว หรอื มสี ภาพจติ ใจที่หดหู่เนอ่ื งจากตอ้ งอดอาหารเยน็ ๗ บคุ คลในขอใดอาจมปี ญหาสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตท่ีไมสมดลุ ก. ออยผ่อนคลายความเครยี ดโดยการเล่นเกมโทรศัพทม์ อื ถือทั้งวนั ทงั้ คืน เหตุผล การเล่นทั้งวันทั้งคืน ไม่ใช่การคลายเครียดแต่เป็นการเล่นอย่างจริงจังเกินไปอาจทำาให้เสีย สุขภาพตาและสขุ ภาพจติ ๘ ขอ ใดเปน ผลจากการท่ไี มส ามารถรับมอื กบั ปญ หาดา นสภาพจติ ใจ ก. ทำารา้ ยตวั เองเปน็ การลงโทษ เหตผุ ล การทาำ รา้ ยตวั เองหรอื การฆา่ ตวั ตายเกดิ ขนึ้ เนอ่ื งมาจากการทไี่ มส่ ามารถรบั มอื กบั ปญ หาดา้ น สภาพจิตใจไวไ้ ด้ เน่อื งจากเป็นคนทไี่ มม่ ีภมู ิคุม้ กันและมสี ภาพจิตใจทอี่ อ่ นแอ เมอ่ื หาทางออกไมไ่ ดจ้ งึ เกดิ การคิดส้ัน ซ่ึงเป็นเร่ืองทีเ่ กดิ ขึ้นบอ่ ยในสังคมไทยเรา
57 ๙ ขอใดเปน การสรา งสมดุลของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตทดี่ ี จ. ถูกทุกข้อ เหตผุ ล การสร้างสมดลุ ของสุขภาพกายและสุขภาพจิตทด่ี ี สามารถสร้างได้หลายๆ วธิ มี าประกอบ กัน เพอ่ื ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู ท่สี ดุ ไดแ้ ก่ ต้องมคี วามสามารถทจี่ ะวเิ คราะห์ เอาชนะปญหาได้ ต้องเปน็ คน ทม่ี ที ศั นคตเิ ชงิ บวก นอกจากนต้ี อ้ งหมน่ั ดแู ลสขุ ภาพกายและใจอยา่ งสมา่ำ เสมอ จงึ จะเกดิ สมดลุ ของสขุ ภาพ กายและสขุ ภาพจติ ทีด่ ี ๑๐ การมีสมดลุ ของสุขภาพกายและสุขภาพจิตทีด่ ีมีผลตอการทาํ งานทีด่ ีข้ึนหรอื ไม อยางไร จ. มีผล เพราะส่งเสรมิ ให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพในการทาำ งานมากขนึ้ เหตผุ ล เนื่องจากสมดลุ ของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ท่ีดี จะทาำ ให้คนสามารถแสดงศักยภาพท่มี ีใน ตนได้อยา่ งเต็มท่แี ละมปี ระสิทธภิ าพอีกด้วย ๑. _ง_._ ๖. _ซ_._ ๒._ช_._ ๗._จ_._ ๓._ก__. ๘. _ฉ__. ๔._ค__. ๙. _ญ__. ๕._ข_._ ๑๐._ฌ__. ใบงานท่ี ๘.๑ ความสมั พนั ธ์ของสุขภาพกายและสขุ ภาพจิต หนาขอท่ีเห็นวาผิด คาำ ช้แี จง : จงเขียนเคร่ืองหมาย หนาขอท่ีเห็นวาถูก และเขียนเคร่ืองหมาย แลว แกไ ขใหถ กู ตอ ง ขอ้ ความ ขอ้ ความทแ่ี กไ้ ข ๑. เราควรแปรงฟนอยางนอยวันละ .............................................................. ๑-๒ ครง้ั .............................................................. ๒. การสระผมชว ยปอ งกนั โรคได .............................................................. ๓. การเลอื กรบั ประทานอาหารแตท ป่ี รงุ สกุ .............................................................. จะชว ยปอ งกันโรคได .............................................................. .............................................................. .............................................................. .............................................................. ..............................................................
58 ขอ้ ความ ขอ้ ความทแ่ี กไ้ ข ๔. ผูมีสุขภาพจิตดี คือ ผูท่ีสามารถ .............................................................. ปรบั ปรงุ ตนเองได .............................................................. .............................................................. ๕. การท่ีมีสุขภาพจิตดี บางทีก็ไม สามารถดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั ไดอ ยา งมี .............................................................. ความสขุ เสมอไป .............................................................. .............................................................. ๖. การน่งั สมาธิไมจัดวาเปนพฤติกรรม สขุ ภาพ .ก..า...ร..น...ง่ั ..ส...ม...า..ธ...ิจ..ัด...ว...า่ ..เ.ป...็น...พ...ฤ...ต...ิก...ร..ร...ม.... ส...ุข...ภ...า..พ................................................... ๗. การทาํ งานบา นจนเหนอ่ื ย เหงอ่ื ออก ชมุ ตวั ไมจ ดั วา เปน การออกกาํ ลงั กาย .............................................................. เพราะไมส นกุ สนาน ..กอ......อา....ร..ก....ท..ช....ำาุ่ม....ง..ต..า....นวั......บ..จ....้า..ัด....น..ว....จ่า....น..เ..ป..เ..ห..น็ ....น..ก......่อืา....รย....อ......เอ..ห....ก..ง....่ือ............ ๘. น้ําเสียท่ีปลอยออกจากอาคารบาน .ก...าำ ..ล...ัง..ก...า..ย.............................................. เรอื น คอื นา้ํ โสโครก .............................................................. ๙. เสียงรําคาญ คือ เสียงท่คี นฟงหรือ .............................................................. ไดยินแลวไมชอบถึงแมเสียงน้ันจะ .............................................................. ไมด งั นกั .............................................................. ๑๐. ผทู ม่ี สี ขุ ภาพดี คอื ผทู ม่ี สี ภาวะรา งกาย .............................................................. ทส่ี มบรู ณแ ขง็ แรง .............................................................. .............................................................. .............................................................. ..............................................................
59 ใบงานท่ี ๘.๒ ความสมั พนั ธ์ของสุขภาพกายและสุขภาพจติ คาำ ช้ีแจง : ใหนักเรียนอธิบายความหมายของคําวาสุขภาพกาย สุขภาพจิต และความสัมพันธของภาวะ สมดลุ ของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ สขุ ภาพกาย สขุ ภาพจติ .......ส...ภ..า..ว..ะ..ข...อ..ง..ร..่า..ง..ก...า..ย..ม...ีค..ว..า..ม...ส..ม...บ...ูร..ณ.. ์ ......ค...ว..า..ม..ส...า.ม...า..ร..ถ..ข...อ..ง..บ..ุค...ค..ล...อ..ย..ู่ใ..น..ส...ภ..า..พ.. แ..ข...็ง..แ..ร..ง..ม..ีก...า..ร..เ.จ..ร..ิญ...เ.ต...ิบ...โ.ต..อ...ย..่า..ง..ป...ก..ต..ิ.แ..ล..ะ. ก...า..ร...เ..ป...ล..ี่.ย...น...แ...ป...ล...ง...ต..่.อ...ส..ั.ง..ค...ม.......แ...ล...ะ. ม...พี ..ฒั...น...า..ก..า..ร..ส..ม...ก..บั ..ว..ยั................................ ส..ิ่ง..แ..ว..ด...ล..อ้..ม...ต...า่ .ง..ๆ...ไ..ด..้ด...ี ............................ ความสมั พนั ธข์ องภาวะสมดลุ ของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ .ส..ภ...า..ว..ะ..ข..อ...ง..ร..่า..ง..ก..า..ย...แ..ล...ะ..จ..ิต...ใ.จ..ม...ีค...ว..า..ม...ป..ก...ต..ิใ..น...ด..้า..น...ค...ว..า..ม...ส..ัม...พ..ัน...ธ..์ .ร.ะ..ห...ว..า่ ..ง.ก...นั ...................................................................................... ..................................................................................................... ใบงานที่ ๘.๓ ความสมดุลของสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ คาำ ชแ้ี จง : ใหนักเรียนหาขาวเก่ยี วกับความผิดปกติหรือโรคท่เี กิดจากสุขภาพกายและสุขภาพจิตท่ไี มสมดุลกัน ตดิ ลงในชอ งวา งดา นลา ง และวเิ คราะหต ามหวั ขอ ทก่ี าํ หนดให ขน้ึ อยกู่ บั ขา่ วทนี่ กั เรยี นหามาและการวเิ คราะหค์ าำ ตอบของนกั เรยี นขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของครู
60 ใบงานท่ี ๘.๔ การปฏบิ ตั ติ นเพ่อื สร้างเสริมสขุ ภาพกายและสุขภาพจิต คำาชีแ้ จง : ใหนักเรยี นเสนอแนวการปฏบิ ัติตนเพ่อื การสรา งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต ตวั อย่างคำาตอบ เช่น สขุ ภาพ สขุ ภาพกาย สขุ ภาพจิต .๑.....อ...อ..ก..ก...าำ ..ล..งั ..ก..า..ย..ห...ร.อื...เ.ล..น่...ก..ฬี ...า.เ..พ..อ่ื............ .๑......พ...ย..า..ย...า..ม..ไ..ม..่ค...ิด..เ..ล..็ก...ค..ิด...น..้อ...ย..เ.พ...ื่อ..ไ..ม..่.ใ.ห..้ ......เ.ส..ร..มิ ..ส...ร..า้ .ง..ใ..ห..ร้..า่ ..ง..ก..า..ย..แ..ข..ง็..แ..ร..ง............... .....เ..ก..ดิ ..ค...ว..า..ม..เ.ค...ร..ยี ..ด.................................. ......ส..ม..บ...รู ..ณ...์ ............................................ .๒.....ม...อ..ง..โ.ล..ก...ใ.น...แ..ง..บ่ ..ว..ก............................... .๒......ก..นิ ..อ...า..ห..า..ร..ท..ม่ี..ป.ี ..ร..ะ..โ.ย..ช..น...์ ...................... .๓.....ย...ม้ิ ..ใ..ห..้ต...น..เ..อ..ง..ท..ุก...ว..ัน.............................. .๓......พ..กั..ผ...อ่ ..น..ใ..ห..เ้.พ...ยี ..ง..พ..อ............................... .๔.....น...่ัง..ส..ม...า.ธ...ิเ.ป..็น...ป..ร..ะ..จ..าำ............................. .๕......ห...า..ก...ิ จ...ก...ร..ร...ม...ย...า..ม...ว..่ .า..ง..ผ...่ อ...น...ค...ล...า..ย.. .............................................................. ......ค..ว...า.ม...เ.ค...ร.ยี...ด....................................... .............................................................. .............................................................. ..............................................................
61 ใบงานที่ ๘.๕ พฤตกิ รรมสุขภาพของนักเรียนเป็นอยา่ งไร คาำ ชี้แจง : ใหน กั เรยี นอา นขอ ความทก่ี าํ หนด และเครอ่ื งหมาย ลงใน ทต่ี รงกบั พฤตกิ รรมสขุ ภาพของตนเอง จากนน้ั ตรวจกบั คะแนนตามเกณฑก ารประเมนิ และสรปุ ผลพฤตกิ รรมสขุ ภาพของนกั เรยี น ขึน้ อยกู่ ับสภาพจรงิ ของนกั เรียน อยใู่ นดลุ ยพินิจของครู ตัวอย่างคำาตอบ เช่น พฤตกิ รรมสขุ ภาพของนกั เรยี นเปน็ อยา่ งไร ใช่ ไมใ่ ช่ ๑. อาบนา้ํ วนั ละ ๑ – ๒ ครง้ั ๒. แปรงฟน อยา งนอ ยวนั ละ ๒ ครง้ั ๓. สระผมอยา งนอ ยสปั ดาหล ะ ๒ ครง้ั ๔. ลา งมอื ทกุ ครง้ั กอ นรบั ประทานอาหาร ๕. เลอื กรบั ประทานแตอ าหารทป่ี รงุ สกุ แลว ๖. ไมส บู บหุ ร่ี ๗. ไมด ม่ื สรุ า ๘. ไมเ ลน การพนนั ๙. ไมส าํ สอ นทางเพศ ๑๐. รกั และเอาใจใสค นในครอบครวั ๑๑. ในรอบ ๑ เดอื นทผี่ า นมาไมเคยไดร ับอุบตั เิ หตุ ๑๒. รสู ึกวา จติ ใจสงบดี นานๆ จะมีเรอ่ื งกลมุ ใจสักคร้ัง
62 พฤตกิ รรมสขุ ภาพของนกั เรยี นเปน็ อยา่ งไร ใช่ ไมใ่ ช่ ๑๓. ออกกาํ ลงั กายทกุ สปั ดาห สปั ดาหล ะ ๓ ครง้ั ๑๔. นอนหลบั งา ย ไดน อนวนั ละ ๖ – ๘ ชว่ั โมง ๑๕. ในรอบ ๑ ป ทผ่ี า นมา เคยไปตรวจสขุ ภาพอยา งใดอยา งหนง่ึ เชน วดั ความดนั เลอื ด ตรวจฟน ตรวจเลอื ด ฯลฯ ๑๖. มหี นา ทท่ี าํ งานบา นอยา งใดอยา งหนง่ึ เชน กวาดบา น ลา งจาน ฯลฯ ๑๗. ในบา นมกี ารจดั เกบ็ สง่ิ ของเครอ่ื งใชใ หเ ปน ระเบยี บ ๑๘. มกี ารกาํ จดั ขยะในบา น และทง้ิ ขยะในทร่ี องรบั ๑๙. บรเิ วณบา นมกี ารปลกู ไมป ระดบั หรอื พชื สวนครวั ๒๐. ใหค วามรว มมอื กบั ชมุ ชนในการทาํ กจิ กรรมพฒั นาหมบู า น สรปุ ผลพฤตกิ รรมสขุ ภาพของขา้ พเจา้ ..................................................................................................................................................... .ต...วั ..อ..ย..า่..ง..ค..าำ..ต...อ..บ....เ.ช..น่....ไ.ด...้ .๑...๘...ค...ะ..แ..น..น....แ..ป...ร..ผ..ล..ไ..ด..้ด...ัง.น...ี้ .ม...ีพ..ฤ...ต..ิก..ร..ร..ม...ส..ขุ ..ภ...า.พ...อ..ย...ใู่ .น...ร..ะ.ด...บั ..ด...ีม..า..ก.............. .ค...ว..ร..ป..ฏ..ิบ...ตั ..เิ.ช...่น..น...ี้ต..อ่..ไ..ป....แ..ล..ะ..แ..น...ะ..น..าำ..ใ..ห..ผ้ ..ู้อ...่นื ..ป...ฏ..ิบ...ตั ..ิต..า..ม....................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................
63 ใบงานที่ ๘.๖ สำารวจตนเอง คาำ ชแ้ี จง : ใหน กั เรยี นสาํ รวจตนเองวา ในรอบ ๓ เดอื นทผ่ี า นมานกั เรยี นมปี ญ หาเกย่ี วกบั สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ อะไรบา ง นาํ เสนอในรปู แบบแผนผงั ความคดิ (Mind mapping) แลว เลอื กปญ หาจากทน่ี กั เรยี นสาํ รวจ มาอยา งละ ๑ ตวั อยา งพรอ มตอบคาํ ถามทก่ี าํ หนดให เปน็ หวดั อาหารเปน็ พษิ ปวดทอ้ ง ปญ หาเกย่ี วกบั สขุ ภาพกาย หกลม้ ปวดเมอ่ื ยตามรา่ งกาย ปญ หาทส่ี ง ผลตอ สขุ ภาพนกั เรยี นมากทส่ี ดุ คอื ...เ.ป...น็....ห...ว..ดั......................................................................................................... ปญ หานน้ั สง ผลกระทบตอ สขุ ภาพจติ หรอื ไม อยา งไร ..ส...ง่ ..ผ...ล...ต...อ่ ..ส...ขุ...ภ...า..พ...จ...ติ......เ.พ...ร...า..ะ.....เ.ม...อ่ื...เ.ป...น็...ห....ว..ดั...ท...าำ..ใ..ห...ห้...ย...ดุ...เ.ร...ยี ...น....... .....แ...ล..ว้...เ.ก...ดิ...ค...ว...า..ม...ว..ต.ิ ..ก...ก...งั..ว...ล...ว..า่..จ...ะ..เ.ร...ยี ...น...ท...นั ...เ.พ...อ่ื...น...ห...ร..อื...ไ..ม...่..ก...ล...วั...ไ.ม...เ่..ข...า้ ..ใ..จ..ใ..น...เ..น...อ้ื ..ห...า...ท...เ่ี .ร..ยี...น...ไ..ม...ท่...นั...แ...ล...ว้ ..ท...าำ..ค...ะ...แ..น...น........ . . . . .ส. . .อ. . .บ. . .อ. .อ. . .ก. . .ม. . .า. .ไ. .ม. . .ด่ . . .ี . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . ทะเลาะกบั เพอ่ื น เครยี ดสอบไมผ่ า่ น ปญ หาเกย่ี วกบั สขุ ภาพจติ รสู้ กึ เบอ่ื ๆ ไมอ่ ยากทาำ กจิ กรรมอะไร ไมม่ สี มาธใิ นการเรยี น อยากอยคู่ นเดยี ว ปญ หาทส่ี ง ผลตอ สขุ ภาพนกั เรยี นมากทส่ี ดุ คอื .....เ.ค...ร...ยี ..ด...ส...อ...บ...ไ..ม...ผ่...า่...น.......................................................................................... ปญ หานน้ั สง ผลกระทบตอ สขุ ภาพกายหรอื ไม อยา งไร ส...ง่...ผ...ล...ต...อ่ ...ส...ขุ ..ภ...า...พ...ก...า...ย.....เ..พ...ร..า...ะ..เ..ม...อ่ื ...เ.ค...ร...ยี ..ด....แ..ล...ว้...ท...าำ...ใ.ห....ป้ ...ว..ด....ห...วั ...... .......แ..ล...ะ...ป...ว..ด....ท...อ้ ...ง..ส...ง่ ..ผ...ล...ใ..ห...ร้ ..สู้...กึ ...ไ..ม...ส่ ...บ...า..ย...ต...วั...แ..ล...ะ...ก...ร..ะ..ท....บ...ต...อ่...ก...า..ร...ด...าำ ..เ.น....นิ ...ช..ว.ี ..ติ...ป...ร...ะ..จ...าำ ..ว...นั ...................................................... ....
64 เฉลยแบบฝกหดั ทา้ ยหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๙ จติ ดี ชวี ีเป็นสุข ๑ นกั เรยี นคดิ วา วยั รนุ มปี ญ หาสขุ ภาพจติ มากหรอื นอ ยกวา วยั อน่ื ๆ เพราะเหตใุ ด ตัวอย่างคำาตอบ เช่น วยั รนุ่ นา่ จะเปน็ วยั ทมี่ ปี ญ หาสขุ ภาพจติ มากกวา่ วยั อนื่ ๆ เนอื่ งมาจากตอ้ งประสบกบั การเปลย่ี นแปลง ตา่ งๆ มากมาย เช่น การเปล่ยี นแปลงโครงสรา้ ง สัดสว่ นของร่างกาย การเปล่ียนแปลงทางเพศ และเรม่ิ มี ความคดิ เปน็ ของตวั เองมากขน้ึ นอกจากนย้ี งั ขาดความสามารถในการจดั การปญ หาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ๒ ในชวงเวลาที่ผานมา นักเรียนเคยมีปญหาเรื่องอารมณและเรื่องความเครียดหรือไม อาการใดที่บงบอกวา นักเรยี นมีความเครียด ตัวอย่างคาำ ตอบ เช่น เคยมปี ญ หาความเครยี ดทเ่ี กดิ กอ่ นสอบปลายภาค โดยอาการทบ่ี ง่ บอกคอื มคี วามรสู้ กึ กระวนกระวายใจ แ๓ละเกปิดจอจบุากนั านรกั ปเรวียดนทมอ้ วี งิธกีจดัะทกาันรหคนัวามเครยี ดอยา งไร และคดิ วา วิธีที่ใชอ ยเู ปน วิธีท่ีถูกตอ งหรือไม อยางไร ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เชน่ วธิ ที ใ่ี ชใ้ นการจดั การกบั ความเครยี ดคอื การทาำ สมาธแิ ละฝก คดิ ในเชงิ บวกเพอื่ ลดความเครยี ดสะสม ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปญหาที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพราะความเครียดน้ันเกิดข้ึนจากสภาพจิตใจ ทเ่ี ราสรา้ งขน้ึ ดงั นน้ั ถา้ เราสามารถปรบั เปลยี่ นความคดิ บางจดุ เรมิ่ คดิ ในเชงิ บวก กส็ ามารถชว่ ยกาำ จดั หรอื ลดความเครยี ดได้ ๔ ในอนาคตถาหากนักเรียนเกิดความเครียด นักเรียนจะมีวิธีปฏิบัติตนอยางไรเพ่ือจัดการกับอารมณ และความเครยี ด ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เชน่ ควรสงบสติอารมณ์ ไม่พยายามคิดฟุงซ่านไปก่อน จากนั้นจึงหาสาเหตุที่ทำาให้เกิดความเครียด พยายามแก้ปญ หาอย่างใจเย็น พร้อมๆ กบั ฝก คิดในเชิงบวกไปด้วยเพื่อชว่ ยบรรเทาความเครียดทเ่ี กดิ ข้นึ ๕ นกั เรยี นคิดวา ลักษณะพฤติกรรมใดของตนเส่ียงตอการมปี ญ หาสขุ ภาพจิต ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เช่น การตน่ื เชา้ และนอนดกึ การนอนพกั ผอ่ นทไี่ มเ่ พยี งพอจะทาำ ใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ หงดุ หงดิ และเมอ่ื สะสม ไปเรอ่ื ยๆ อาจทาำ ใหส้ ขุ ภาพจติ เสอ่ื มโทรม เนอ่ื งจากจะทาำ ใหร้ สู้ กึ หงดุ หงดิ และหดหเู่ รอ้ื รงั ๖ ปญหาการเรียนสง ผลตอ สุขภาพจติ ของนักเรยี นหรือไม อยางไร ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เช่น ส่งผลอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องความกังวลในเร่ืองผลการเรียน การกลัวต่อความผิดหวังในผล การเรียน เป็นต้น ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ีจะทำาให้รู้สึกไม่มีความสุขขณะเรียนหนังสือ และพยายามคิดวนไปวนมา เรื่องเดมิ ๆ เกยี่ วกบั เรื่องเรยี น นอกจากนีย้ ังเปน็ การกดดนั ตวั เองเกินไป อาจทาำ ให้เกิดความเครียดได้
65 ๗ ชว งเวลาวยั รนุ เปน ชว งทห่ี ลายๆ คนมกั ประสบปญ หาอารมณแ ละจติ ใจ เชน ควบคมุ อารมณไ ดไ มด นี กั การมี อารมณร นุ แรง เปน ตน นกั เรยี นเคยประสบปญ หาเหลา นน้ั หรอื ไม อยา งไร ตวั อย่างคำาตอบ เช่น เคยประสบปญ หาอารมณ์รนุ แรงและมกั จะมปี ากเสยี งกับผู้ปกครองอยเู่ ป็นประจาำ เนอ่ื งจากเปน็ ชว่ ง ท่ีรู้สึกต่อต้านความคิดของผู้ใหญ่ และคิดว่าตนเองเข้าใจและมีความคิดที่ถูกต้องแล้ว ไม่ยอมรับฟง และจะต่อตา้ นยง่ิ ขนึ้ เมอ่ื ถูกห้ามให้ทาำ สง่ิ ใดส่ิงหนงึ่ ๘ นกั เรยี นคดิ วา บคุ คลใดทส่ี ง ผลตอ การเกดิ ปญ หาสขุ ภาพจติ ในวยั รนุ มากทส่ี ดุ ตวั อย่างคาำ ตอบ เชน่ บคุ คลท่นี ่าจะมีอทิ ธพิ ลต่อการเกิดปญหาสุขภาพจิตในวยั รุน่ มากทส่ี ุด คือตวั ของวัยรุ่นเอง เนอื่ งจาก ชว่ งนวี้ ยั รุน่ จะเริ่มมีความคดิ เป็นตวั ของตัวเอง รกั อสิ ระและมกั คดิ มาก มคี วามเปน็ กังวลในเรอ่ื งต่างๆ สงู ดังนนั้ ถ้าหากตวั ของวยั รุ่นมีภูมคิ มุ้ กันที่ดี เปน็ คนท่ีสามารถปรับเปลีย่ นเขา้ กับสภาวะแวดลอ้ มง่ายกจ็ ะไม่ เกดิ ปญ หาทางสขุ ภาพจิต ๙ ปญหารุนแรงท่ีสุดที่เกิดเนื่องจากความเครียดท่ีนักเรียนเคยประสบหรือเคยไดรับรูมาจากขาวหรือคนรูจัก คอื ปญ หาใด ตวั อย่างคำาตอบ เชน่ ปญ หาทรี่ นุ แรงทส่ี ดุ เกย่ี วกบั ความเครยี ดจากขา่ วโทรทศั น์ คอื ขา่ วการฆา่ ตวั ตายเนอื่ งจากความเครยี ด แ๑ล๐ะไมนส่ักาเรมยี านรไถดหปารทะโายงชแนกอ ป้ ยญา งหไารจไดาก้ การเรียนเนือ้ หาเรอื่ งจิตดี ชีวีเปนสขุ ตัวอย่างคำาตอบ เช่น ไดร้ บั ความรเู้ กย่ี วกบั วธิ ปี ฏบิ ตั ติ นเพอื่ จดั การกบั อารมณแ์ ละความเครยี ด เพอ่ื ลดปญ หาสขุ ภาพจติ ใน วัยรุน่ ซึง่ ความรทู้ ีไ่ ดร้ ับนสี้ ามารถนำามาประยกุ ตใ์ ช้ไดจ้ รงิ ในชวี ติ ประจาำ วัน ๑ บุคคลในขอ ใดมีโอกาสเสยี่ งที่จะมีปญ หาทางสุขภาพจติ มากทสี่ ุด ง. อุรัสยามีปากเสียงกบั พอ่ เรื่องที่เธอสอบตก เหตุผล ความขัดแย้งในครอบครัว หรือความคาดหวังจากผู้ปกครองจะส่งผลต่อสุขภาพจิตของเด็ก อยา่ งมาก ทำาใหเ้ กิดความร้สู ึกกดดัน และเกดิ ความเครยี ดตามมา ๒ ขอใดผิด ก. ขอ้ ๑ เท่านั้น เหตผุ ล เนอ่ื งจากเดก็ ทมี่ เี ชาวนป์ ญ ญาตา่ำ กวา่ ปกตไิ มจ่ าำ เปน็ ตอ้ งมปี ญ หาสขุ ภาพจติ โอกาสเสย่ี งตอ่ การ มีปญหาทางจิต เชน่ คนทค่ี ่อนข้างเกบ็ ตวั คนที่มคี วามคิดเชิงลบ หรอื ผทู้ ่ขี าดศกั ยภาพในการแกไ้ ขปญหา ซง่ึ สง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั วยั รุ่นจะมีผลต่อสภาวะทางสุขภาพจติ โดยตรงของวัยรนุ่ เช่น ครอบครวั สถานทอี่ ยู่ อาศัย ฐานะของครอบครัว เปน็ ต้น
66 ๓ เอมพรเติบโตจากครอบครัวท่รี วยมาก พอแมเล้ยี งดูอยางดี เอมพรจึงถูกคาดหวังอยางสูงจากพอแมในการ มารับชวงธุรกิจตอ จากกรณขี องเอมพร มีโอกาสเสีย่ งตอการมปี ญหาทางสุขภาพจติ หรือไม เพราะอะไร ก. มโี อกาส เพราะเธออาจได้รบั แรงกดดนั จากความคาดหวงั ของพอ่ แมม่ ากเกินไป เหตผุ ล ความคาดหวงั สง่ ผลให้เกิดเปน็ ความกดดนั และก่อให้เกดิ ความเครยี ดในทสี่ ุด ๔ พฤติกรรมของบุคคลในขอ ใดแสดงออกวาเสย่ี งตอ ปญหาทางสุขภาพจติ ง. ปอ แสดงท่าทีวา่ น้อยใจเพอ่ื น แตเ่ มอื่ เพือ่ นซกั ถามเขาก็บอกวา่ ไม่มีอะไร เหตผุ ล ความรสู้ ึกนอ้ ยใจโดยไม่มีเหตุผลหรอื ไม่เปด เผยเหตุผล เสยี่ งตอ่ การเกิดปญ หาทางจติ ๕ หากตองการมสี ุขภาพจิตดแี ละอยูในสงั คมไดอยางมีความสขุ ควรปฏบิ ัตติ ามขอใด ง. หาวธิ ีจดั การอารมณ์และความเครยี ดทเี่ หมาะสม เหตผุ ล ข้ันแรกที่ควรลงมอื ทำาก่อนหากต้องการมีสขุ ภาพจติ ดีและอยูใ่ นสังคมได้อยา่ งมีความสขุ คอื ตอ้ งพยายามหาวธิ จี ดั การอารมณแ์ ละความเครยี ดทเ่ี หมาะสมกบั ส่ิงแวดล้อมรอบตัว ๖ ขอ ใดคือความเครยี ดภายในรา งกาย จ. วารุณวี ิตกกงั วลเก่ียวกบั รปู รา่ งตนเองเม่อื เขา้ ส่วู ยั รุ่น เหตผุ ล เนอื่ งจากคาำ ตอบในขอ้ อ่ืนเปน็ ความเครยี ดจากภายนอก ๗ ขอใดเปน การจัดการอารมณซมึ เศรา ทดี่ ที ส่ี ดุ สําหรบั อนันดาที่เพง่ิ อกหักและอยใู นระยะทําใจจากคนรักเกา ง. หากจิ กรรมหรืองานอดิเรกทาำ เพ่อื ไมใ่ หค้ ดิ ฟุงซา่ น เหตผุ ล หากจิ กรรมหรอื งานอดเิ รกทาำ หรอื ออกกาำ ลงั กาย ชว่ ยใหม้ สี ขุ ภาพจติ ทด่ี ี ชว่ ยไมใ่ หค้ ดิ ฟงุ ซา่ น ๘ ขอ ทสี่ าํ คัญทีส่ ุดสําหรับเทคนิคการจดั การความคดิ และอารมณคอื ขอใด ก. การตระหนกั ถึงอาการทแ่ี สดงวา่ เรมิ่ มีความเครยี ด เหตุผล เนื่องจากหากไม่ตระหนักว่าตนน้ันกำาลังมีความเครียดก็จะไม่สามารถหาสาเหตุและวิธี การจัดการท่ีถูกต้องและเหมาะสมได้ ซึ่งบางกรณีท่ีไม่สามารถตระหนักถึงการเร่ิมมีความเครียด และ ปล่อยปละละเลยอาจกลายเปน็ ปญ หาทีแ่ กไ้ ขได้ยากในภายหลงั ๙ บคุ คลในขอ ใดทีม่ ปี ญ หาสุขภาพจติ ระดบั ท่ีตองไดรบั การแกไ ข ง. บอยเมือ่ ทะเลาะกบั พี่สาวเขามกั จะสง่ เสยี งดงั และปาขา้ วของเครือ่ งใช้ เหตุผล การส่งเสียงดังและปาข้าวของเคร่ืองใช้ เป็นอารมณ์ที่ไม่เหมาะสมกับอายุ เป็นลักษณะ พฤติกรรมของวยั รนุ่ ทคี่ วรได้รับการแกไ้ ข ๑๐ ทักษะใดในวัยรุนทจี่ ําเปนมากทีส่ ดุ ในการใชเ พอื่ แกปญหาสขุ ภาพทางจิต จ. เรียนรทู้ ักษะในการเผชิญกบั ความเครยี ด เหตุผล การท่ีมีทักษะในการเผชิญกับความเครียด จะทำาให้สามารถยอมรับความจริง ตระหนักถึง ความเครยี ดทีเ่ กดิ ขนึ้ จึงทำาให้ง่ายต่อการหาแนวทางในการจัดการกับความเครียด
67 ๑. _จ_._ ๖. _ก_._ ๒._ค__. ๗._ญ__. ๓._ฌ__. ๘. _ซ__. ๔._ฉ__. ๙. _ช_._ ๕._ข_._ ๑๐._ง_._ ใบงานท่ี ๙.๑ สขุ ภาพจิต หนาขอท่ีเห็นวาถูก และเขียนเคร่ืองหมาย หนาขอท่ีเห็นวาผิด คำาชแี้ จง : จงเขียนเคร่ืองหมาย แลว แกไ ขใหถ กู ตอ ง ขอ้ ความ ขอ้ ความทแ่ี กไ้ ข ๑. ผทู มี่ สี ขุ ภาพดจี ะมรี า งกายสมบรู ณแ ขง็ แรง ..ผ..ู้ท...ี่ม..ีส...ุข..ภ...า..พ..ด...ี ..ห..ม...า..ย..ถ...ึง..ผ..ู้ท...่ีม..ีส...ุข..ภ...า..พ....... มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการท่ีสมวัย ..ท..ี่.ส...ม...บ..ู.ร..ณ...์.ท...ั้ ง..ด...้ า...น...ร..่ า...ง..ก...า..ย...จ..ิ.ต...ใ..จ....... เทานน้ั ..ส..ัง..ค..ม....แ..ล...ะ..ส..ต..ปิ...ญ...ญ...า................................ ๒. การมสี ขุ ภาพจติ ที่ดจี ะทาํ ใหมีสุขภาพ ................................................................ กายดตี ามไปดว ย ................................................................ ๓. ผทู ี่มีสุขภาพกายดีสว นใหญแ ลวจะมี . .ผ. .ู้ ท. . .่ี ม. . .ี ส. . .ุ ข. . .ภ. . .า. .พ. . .ก. . .า. .ย. . .ด. . .ี ส. .่.ว. .น. . .ใ. .ห. . .ญ. . .่.จ. .ะ. . .ม. .ี . . . . . บคุ ลิกภาพที่ไมด ี ..บ..คุ...ล..ิก..ภ...า..พ..ท...่ดี ..ี.........................................
68 ขอ้ ความ ขอ้ ความทแ่ี กไ้ ข ๔. ผทู ม่ี สี ขุ ภาพจติ ดจี ะรบั สภาพความเปน จรงิ ................................................................ เกี่ยวกบั ตนเองได ................................................................ ๕. การเกิดความกงั วลและความเครียดเกย่ี ว .ก..า..ร.เ..ก..ดิ ..ค...ว.า..ม...ก..งั ..ว..ล..แ..ล..ะ..ค..ว..า..ม...เ.ค..ร..ยี ..ด..เ..ก..ย่ี ..ว..ก..บั. กั บ รู ป ร า ง ห น า ต า ข อ ง วั ย รุ น เ ป น .ร.ูป...ร..่า..ง..ห...น..้า..ต...า..ข..อ...ง..ว..ัย..ร..ุ่น...เ.ป...็น..ค...ว..า..ม...เ.ค...ร.ี.ย..ด. ความเครียดจากภายนอก .ภ..า..ย..ใ.น...ร.า.่ .ง..ก..า..ย............................................ .ผ..ู้ท...่ีส..า..ม...า.ร..ถ...ป..ร..บั...ต..ัว..เ..ข..า้ ..ก..บั...ส..งั ..ค..ม...แ..ล..ะ.......... ๖. ผูที่สามารถปรับตัวเขากับสังคมและ ..สส....งิขุ่....แภ....ว..า..ด..พ....ลจ....อ้..ติ ..ม..ด....ไ..ี ..ด....้ด......้ว....ย....ด....แี......ส....ด....ง....ว....า่....เ..ป......น็ ......ผ....มู้ ....ี................ ส่ิงแวดลอมไดดวยดี แสดงวาเปน ผูมสี ขุ ภาพกายดี ๗. ควรออกกําลังกายอยางนอยสัปดาหละ ................................................................ ๓ คร้งั ครั้งละอยา งนอ ย ๓๐ นาที ................................................................ ๘. การอาบนํ้าทําความสะอาดรางกาย .ก..า..ร..อ..า..บ..น..า้.ำ .ท..า.ำ .ค...ว..า.ม...ส..ะ..อ..า..ด..ร..า่ ..ง.ก..า..ย............... ควรทาํ วนั ละ ๑ ครงั้ .ค..ว..ร..ท...าำ ..อ..ย..า่..ง..น...้อ..ย..ว...นั ..ล..ะ....๒....ค..ร..ัง้.................. ๙. การไมอิจฉาริษยาเปน การปฏิบัติตน ................................................................ เพ่ือสงเสรมิ สุขภาพจิต ................................................................ ๑๐. การใชช วี ติ โดยยดึ หลกั ความพอเพยี ง ................................................................ เปน การปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื สง เสรมิ สขุ ภาพ ................................................................ ทางปญญา ................................................................
69 ใบงานที่ ๙.๒ ดัชนีช้ีวัดความสุขคนไทยฉบบั สัน้ คาำ ชี้แจง : ใหนักเรียนทําแบบทดสอบดัชนีช้วี ัดความสขุ คนไทยฉบบั สนั้ และแลวสรปุ ผล ตัวอยา่ งคาำ ตอบ เช่น ขอ้ ความ ไมเ่ ลย เลก็ นอ้ ย มาก มากทส่ี ดุ ๑. ทา นรูสกึ พึงพอใจในชวี ติ ๒. ทานรสู ึกสบายใจ ๓. ทา นรสู ึกเบื่อหนายทอแทก บั การดาํ เนินชวี ติ ประจาํ วนั ๔. ทา นรูสกึ ผดิ หวงั ในตวั เอง ๕. ทานรูสึกวา ชวี ติ ของทานมแี ตค วามทกุ ข ๖. ทานสามารถทาํ ใจยอมรับไดส ําหรับปญ หา ทย่ี ากจะแกไข (เมื่อมีปญหา) ๗. ทานมั่นใจวา สามารถควบคุมอารมณไ ด เมอ่ื มเี หตุการณคบั ขันหรอื รา ยแรงเกดิ ขน้ึ ๘. ทานม่นั ใจท่ีจะเผชญิ กับเหตุการณรา ยแรง ทเ่ี กิดข้นึ ในชีวติ ๙. ทา นรูส กึ เห็นใจเมอ่ื ผอู ่ืนมที กุ ข ๑๐. ทานรูสึกเปนสุขในการชว ยเหลอื ผูอ่ืนทมี่ ีปญ หา ๑๑. ทา นใหค วามชวยเหลอื แกผ อู ่นื เมื่อมโี อกาส ๑๒. ทา นรสู กึ ภูมใิ จในตนเอง ๑๓. ทานรสู ึกมน่ั คงปลอดภยั เมอื่ อยูในครอบครัว ๑๔. หากทานปว ยหนัก ทานเช่ือวา ครอบครัว จะดูแลทา นเปนอยางดี ๑๕. สมาชกิ ในครอบครัวมคี วามรักและความผกู พนั สรุปผลภาวะความสุข..................ม..คี...ว..า...ม..ส...ุข..ม...า..ก...ก...ว..า่ ..ค...น...ท..ว่ั...ไ.ป................................................................
70 ใบงานท่ี ๙.๓ ประเมินและวเิ คราะห์ความเครยี ดตนเอง คาำ ชแี้ จง : ใหนักเรียนเขียนเคร่ืองหมาย ลงในชองวางแสดงระดับอาการท่ีเกิดขึ้นกับตัวเองตาม ความเปนจรงิ มากทีส่ ดุ ระดบั พฤตกิ รรม ตัวอยา่ งคำาตอบ เช่น ไมเ่ คย บางครง้ั บอ่ ยๆ ประจาำ รายการการประเมิน (๐ คะแนน) (๑ คะแนน) (๒ คะแนน) (๓ คะแนน) ๑. นอนไมห ลบั เพราะคดิ มาก / กังวลใจ ๒. รูสึกหงดุ หงิด / รําคาญใจ ๓. ทําอะไรไมไดเลยเพราะเครียด ๔. มคี วามวนุ วายในใจ ๕. ไมอ ยากพบปะผูคน ๖. ปวดศีรษะขางเดียว หรอื ขมบั ๒ ขาง ๗. รูสกึ ไมม คี วามสขุ และเศราหมอง ๘. รสู ึกหมดหวงั ในชีวิต ๙. รสู ึกวา ชวี ิตตนเองไมมีคุณคา ๑๐. กระวนกระวายอยตู ลอดเวลา ๑๑. รสู ึกวา ตนเองไมมีสมาธิ
71 รายการการประเมิน ระดบั พฤตกิ รรม ๑๒. รสู ึกเหน่อื ยหนา ยไมอยากทาํ อะไร ไมเ่ คย บางครง้ั บอ่ ยๆ ประจาำ ๑๓. มีอาการหัวใจเตน แรง (๐ คะแนน) (๑ คะแนน) (๒ คะแนน) (๓ คะแนน) ๑๔. เสยี งสั่น ปากส่นั มือสน่ั เวลาไมพอใจ ๑๕. รูส กึ กลวั ผดิ พลาดในการทําสิง่ ตา งๆ ๑๒ ๗ ๐ ๐ ๑๖. ปวด หรือเกรง็ บริเวณกลามเนือ้ ทา ยทอย / ๐๗๐๐ -๗- - หลงั ไหล ๑๗. ตน่ื เตน งายกับเหตกุ ารณท ไี่ มคนุ เคย ๑๘. มึนงงหรือเวยี นศีรษะ ๑๙. ความสขุ ทางเพศลดลง ผลรวมจาำ นวนครั้ง คะแนน ผลรวมคะแนนทง้ั หมด สรุปผลการประเมนิ และวเิ คราะหความเครยี ดตนเอง ....................๗....ค..ะ..แ..น...น....ม..ีค...ว..า.ม...เ.ค..ร..ยี..ด...ร..ะ.ด...ับ..ป...ก..ต..ิ..ส..า..ม..า..ร..ถ..จ..ดั...ก..า..ร..ก..บั ..ค...ว..า.ม...เ.ค..ร..ยี..ด...ท..เี่.ก...ดิ ..ข..น้ึ...ใ.น...ช..วี ..ติ ..ไ..ด..ด้ ..ี .แ..ล...ะ..ป..ร..ับ...ต..วั...ใ.ห...เ้ .ข..า้..ก...ับ..ส...ถ..า..น...ก..า..ร..ณ...์ต...่า..ง..ๆ....ไ..ด..เ้.ห...ม...า..ะ.ส...ม................................................................................ ใบงานที่ ๙.๔ อารมณข์ องฉนั คาำ ช้ีแจง : ใหน กั เรยี นเลอื กสผี มของสภุ าพบรุ ษุ ขา งลา งน้ี โดยการเลอื กระบายสตี ามทก่ี าํ หนดแลว ตอบคาํ ถามตอ ไปน้ี ตัวอยา่ งคำาตอบ เช่น นกั เรยี นจะใชสีใดในการยอ มผมชายหนุมคนนี้ สีแดง และสขี าว สีสม สีฟา สดี าํ
72 นักเรียนประเมนิ ตนเองวามีพฤติกรรมตรงตามสีท่เี ลอื กหรือไม อยา งไร .................................................... .ต..ร..ง..เ.พ...ร.า..ะ.โ..ด..ย..ป..ก..ต..แิ ..ล..ว้ ..จ.ะ..ก..งั ..ว.ล..เ.ก..ยี่..ว..ก..บั..เ.ร..อื่ ..ง.ท...ไ่ี .ม..ส่ ..บ..า..ย..ใ.จ...แ.ต...พ่ ..ย..า.ย..า..ม..ห..า..ก..จิ ..ก..ร.ร..ม..ท..ชี่..ว่..ย..ผ..อ่ ..น..ค..ล..า..ย..ค..ว..า.ม... .เ.ค..ร..ยี..ด..เ.พ..ื่อิ..ร..กั..ษ..า..ส..ภ..า..พ..จ..ติ ..ใ.จ..ใ.ห...้ด..ขี ..น้ึ ...แ..ล..้ว..จ..งึ .ค..อ่..ย..ห..า..ว..ิธ..ใี .น..ก..า..ร..แ..ก..้ไ.ข..ป..ญ...ห..า..ห..ร.ือ..เ.ร..่อื..ง..ไ.ม..ส่..บ..า..ย..ใ.จ..ท..เี่.ก..ดิ..ข..ึน้...... ใบงานที่ ๙.๕ สาเหตทุ ่ีอาจทำาใหเ้ กิดอาการเครียด คำาช้ีแจง : จงตอบคาํ ถามตอ ไปน้ี ตัวอยา่ งคำาตอบ เช่น สาเหตุทที่ าำ ให้เกดิ ความเครียด .. ....๑......ร..ถ...ต...ิด........................................................................................................................................................ ....๒......ส...อ...บ..ไ..ม...่ผ..า่...น.............................................................................................................................................. ....๓......ท...ะ..เ.ล...า..ะ..ก...บั ..เ..พ...อ่ื ..น............................................................................................................................................ วธิ ีจดั การกับความเครยี ด ....๑.......ห...า..ก...จิ ..ก...ร..ร..ม...ผ...อ่ ..น...ค...ล..า..ย...ท...ีส่ ..า..ม...า..ร..ถ...ท...ำา..ไ.ด...ข้...ณ...ะ..ร...ถ..ต...ดิ ....เ.ช...่น....ฟ...ง..เ.พ...ล...ง...เ..ล..่น...เ..ก..ม......................................... ............๓๒....................ใพเ......ชช...อ...น่...เ้ ...หใ......จ...ตต...ใ...ั้งุผ...น...ใ...ล...จส......ใเ...่ิงน...ร...ท...ียก...ี่...ตน...า...น...รห......แม...ม...ก...ีแ...ัน่ ...้ไ...ล...ทข......ะปบ......ว...ญท...ิเ...ค...วห......นร...า...า...คโ......ะด...ว...ห...ยา......์ทกม......ี่...ทาร......ร้อูำา......ค...ใย...ห...่อู่เ......ส้สย......ม...ๆอ......อบ.........พไ......มูด.........่ผก.........่านั ......น...ก......ล......เ...่าพ......ว...ื่อ...ข......ท...อ......ี่จโ......ทะ......ษ...ไ...ม...แ......่ใ...ล...ห...ะ......้เใ...ห...ห......ต...อ้ ......ุกภ.........าัย......ร...ซ...ณ...ง่ึ......ก...์น......ัน...้ัน......แ...เ...กล.........ิะด......ก...ข......นั ้ึน.........อ.........ีก.................. เฉลยแบบฝก หดั ท้ายหน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑๐ อย่าริ อย่างลอง อยา่ เสพ ๑ เมอ่ื นกั เรยี นพบวา เพอ่ื นตดิ สารเสพตดิ นกั เรยี นจะแนะนาํ ใหเ พอ่ื นบาํ บดั อยา งไร และจะแนะนาํ ใหไ ปสถานทใ่ี ด ตัวอยา่ งคำาตอบ เช่น โน้มน้าวเพ่อื น โดยการอธิบายถึงโทษของสารเสพติด และแนะนำาให้เพ่อื นลองโทรไปขอคำาปรึกษา เบอ้ื งตน้ ทางโทรศพั ท์ ไดแ้ ก่ สายดว่ นสารเสพตดิ ๑๑๖๕ สขุ ภาพจติ ๑๓๒๓ หรอื ๑๖๖๗ เนอ่ื งจากเพอ่ื น อาจกงั วลและทาำ ตวั ไมถ่ กู เมอ่ื ตอ้ งไปขอคาำ ปรกึ ษาดว้ ยตนเอง การโทรศพั ทอ์ าจจะไดผ้ ลดกี วา่ ในระยะแรกของ การเรม่ิ การเลกิ สารเสพตดิ
73 ๒ ใหน กั เรยี นเปรยี บเทยี บวธิ กี ารบาํ บดั รกั ษาและฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพตดิ วา มคี วามเหมอื นและแตกตา งกนั อยา งไร ตัวอย่างคำาตอบ เช่น วิธีการบำาบัดรักษา จะเน้นดูแลทางด้านร่างกายของผ้ปู วยเป็นส่วนใหญ่ เช่น จัดให้มีกิจกรรมการ สง่ เสรมิ สขุ ภาพอนามยั กจิ กรรมเพอ่ื ผอ่ นคลาย เปน็ ตน้ สว่ นวธิ กี ารฟน ฟนู น้ั เปน็ ขน้ั ตอนทม่ี งุ่ เนน้ ไปทก่ี ารฝก ให๓ผ้ ตู้ จดิ าสกาขรา เวสหพนตา ดิ หคนดิงั สแอืบพบมิ ใพชเ้ หหลตาผุ ยลครใง้ัหพม้ บปี วญา ผญเู าสรพเู้ สทาา่ รทเสนั พสตง่ิ ดิชมกั กันจาำ ะใไหปก้ เสลพบั ยไปาซเสา้ํ ภพาสยาหรลเสงั กพาตรดิเขา รบั การบาํ บดั รกั ษาและฟน ฟสู มรรถภาพแลว ทเ่ี ปน เชน นเ้ี พราะสาเหตใุ ด ตัวอยา่ งคาำ ตอบ เช่น สภาพแวดลอ้ มของบคุ คล เชน่ ทอ่ี ยอู่ าศยั และบคุ คลรอบขา้ ง เหลา่ นล้ี ว้ นมผี ลตอ่ การตดั สนิ ใจกลับมา เสพสารเสพตดิ ไดอ้ กี ครง้ั เช่น ถา้ อยู่ในสภาวะแวดลอ้ มท่ีมกี ารใช้สารเสพติดหรอื เปน็ แหลง่ ทม่ี กี ารซอ้ื ขาย สารเสพตดิ ไดง้ า่ ยนน้ั กจ็ ะมคี วามเสย่ี งไดส้ งู แมว้ า่ จะมคี วามรเู้ กย่ี วกบั โทษของสารเสพตดิ รถู้ งึ ผลลพั ธท์ ไ่ี มด่ ี แต่เมือ่ อยู่ในสภาพแวดลอ้ มท่เี สยี่ งกอ็ าจจะไมส่ ามารถควบคุมจิตใจหรือความต้องการไดส้ ำาเร็จ ๔ ปจจุบันอัตราการเพ่ิมขึน้ ของจํานวนผเู สพสารเสพตดิ มมี ากข้นึ นักเรยี นคดิ วาเปนเพราะเหตุใด ตัวอยา่ งคาำ ตอบ เชน่ เนือ่ งจากมีผ้จู ำาหนา่ ยท่ไี มเ่ กรงกลวั ต่อกฎหมายมากข้ึน และยงั มีผทู้ รงอิทธิพลทีค่ ้าขายสารเสพตดิ ไดโ้ ดยไมต่ ้องหวัน่ เกรงกฎหมาย ทำาให้การกาำ จัดและควบคุมสารเสพติดน้นั เป็นไปไดย้ าก ๕ นักเรียนคิดวาองคกรใดมีบทบาทสําคัญที่สุดในการเฝาระวังและมีสวนชวยแกปญหาดานสารเสพติด เพราะเหตุใด ตวั อย่างคาำ ตอบ เชน่ องค์กรครอบครวั เป็นองค์กรสำาคัญทจ่ี ะสรา้ งภมู ิคมุ้ กันใหเ้ ดก็ ได้มากทส่ี ุด ให้คาำ แนะนาำ ปรึกษา และ อธิบายให้เดก็ เขา้ ใจเกี่ยวกบั โทษของสารเสพติดได้ ๖ นักเรยี นคิดวา โทษของสารเสพติดทีเ่ ลวรายที่สุดคอื อะไร ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เช่น การไมม่ สี ติ คลมุ้ คลง่ั และทาำ รา้ ยรา่ งกายตนเองหรอื ผอู้ น่ื อนั เปน็ เหตใุ หต้ นเองหรอื ผอู้ น่ื เสยี ชวี ติ นบั วา่ เปน็ อันตรายท่ีร้ายแรงทที่ ำาใหเ้ กดิ ความสญู เสียอยา่ งมากของสารเสพติด ๗ ปญ หาสารเสพตดิ มผี ลกระทบตอ การพฒั นาประเทศชาตอิ ยา งไร ตัวอยา่ งคำาตอบ เชน่ สารเสพติดนำามาซึ่งความสูญเสียต่างๆ มากมาย เช่น สูญเสียทรัพย์ สูญเสียชีวิต สูญเสียสุขภาพ รา่ งกายทดี่ ี จงึ ทาำ ใหบ้ คุ ลากรในประเทศสญู เสยี ศกั ยภาพทดี่ ใี นการทาำ งาน และทาำ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายทาง ทรัพยส์ ินบา้ นเมอื งอกี ดว้ ย เหลา่ นลี้ ว้ นเป็นอปุ สรรคทีก่ อ่ ใหเ้ กดิ ปญหาในการพฒั นาประเทศ ๘ ถานักเรียนสามารถออกนโยบายเกี่ยวกับการปองกันสารเสพติดได ๑ ขอ นโยบายของนักเรียนคืออะไร มขี อ ดอี ยา งไร ตวั อย่างคำาตอบ เชน่ การสร้างศูนย์รับแก้ปญหาสารเสพติดระดับชุมชน เพ่อื สกัดปญหาสารเสพติดจากสังคมเล็กๆ ก่อน โดยสรา้ งกจิ กรรมใหค้ วามรแู้ ละสรา้ งความสมั พนั ธท์ ด่ี ใี หเ้ กดิ ขน้ึ ในแตล่ ะครอบครวั เพอ่ื ใหเ้ ดก็ มภี มู คิ มุ้ กนั เกย่ี ว กบั สารเสพตดิ
74 ๙ นักเรียนคดิ วา สาเหตใุ ดทท่ี ําใหเดก็ วัยรุนนาจะมอี ตั ราการติดสารเสพติดมากกวาวยั อนื่ ตัวอย่างคำาตอบ เชน่ ความอยากรู้ อยากลอง ในสิ่งท่ีตนสงสัยหรือต้องการทำาเลียนแบบเพื่อน ซึ่งเด็กในวัยน้ีจะกล้าคิด ก๑ล๐้าลถอา งนถกั า้เรหยี านกมไบี มท่มบภี ามู ทคิในุม้ กกาันรยทบั ี่ดยีแง้ั ลตว้ อ กต็จา ะนมสโี าอรกเสาพสตเสดิ ่ยี นงกัในเรกยี านรจตะทิดาํ สอายรา เงสไพรเตพดิ อ่ื ไกดาํ จ้สดัูงสารเสพตดิ ใหอ อกไปจาก บา นเมอื งใหไดม ากทส่ี ุด ตวั อยา่ งคำาตอบ เช่น สร้างเจตคติเกี่ยวกับสารเสพติดซึ่งเป็นภัยแก่สังคม ทำาให้ประชาชนตระหนักถึงโทษและเป็นส่ิง ตอ้ งหา้ ม เปน็ การแกป้ ญ หาทต่ี น้ เหตอุ ยา่ งหนง่ึ เมอ่ื ทกุ คนมเี จตคตทิ ด่ี ที ถ่ี กู ตอ้ ง กจ็ ะชว่ ยใหท้ กุ คนมีภูมิคุม้ กนั เกีย่ วกับสารเสพติดทด่ี ี ๑ องคกรหรอื ฝายใดมหี นา ทขี่ จดั หรือลดปญหาสารเสพตดิ จ. ทุกฝาย เหตุผล ปญ หาสารเสพติดเปน็ หนา้ ท่ขี องทุกฝา ยในการเฝาระวัง และขจัดออกไปจากสังคม ๒ ขอใดถูกตอ งเก่ียวกับการบําบดั รกั ษาและฟนฟูผตู ดิ สารเสพตดิ ง. ขอ้ ๑. และ ๒. เหตุผล ผ้ทู ีผ่ า่ นการบำาบัดรักษาและฟนฟูสมรรถภาพอาจจะกลบั มาตดิ สารเสพติดไดอ้ กี ครั้ง ขึ้นอยู่ กบั สภาพแวดลอ้ มท่บี คุ คลอาศยั อยู่ สภาวะทางดา้ นจิตใจ และปญหาชีวติ อ่ืนๆ เปน็ ตน้ ๓ เอกชัยถูกสงตัวไปที่สถานบําบัดไดประมาณ ๒ เดือน อยูในชวงที่มีการใหความรูเร่ืองโทษของสารเสพติด เอกชยั อยูในข้ันตอนใดของการบําบดั รักษาและฟน ฟสู มรรถภาพของผตู ดิ สารเสพติด ง. ข้ันฟนฟูสมรรถภาพ เหตผุ ล ขัน้ ฟน ฟสู มรรถภาพ เปน็ ข้ันที่มุ่งเน้นให้ผูต้ ดิ สารเสพตดิ ฝก การคดิ แบบใช้เหตผุ ล ให้มปี ญ ญา รเู้ ทา่ ทนั สิง่ ทีช่ กั นำาให้กลับไปเสพสารเสพตดิ ๔ บุคคลในขอใดมโี อกาสกลับไปตดิ สารเสพติดมากทสี่ ดุ จ. ธงชยั หายจากอาการติดสารเสพตดิ แต่ยังคงทำางานเปน็ พอ่ ค้าขายสารเสพตดิ อยู่ เหตผุ ล เน่อื งจากธงชยั อย่ใู นสภาพแวดล้อมทีใ่ กลก้ บั สารเสพตดิ มากท่สี ุด จงึ มีโอกาสกลับไปตดิ สาร เสพตดิ ได้มากที่สุด ๕ มนชัยมีโอกาสกลับไปเสพยาอกี ครง้ั หรอื ไม เพราะอะไร ง. มโี อกาส เนอ่ื งจากอาชพี กรรมกรตอ้ งใชแ้ รงมาก อาจหวนกลบั ไปตดิ ยาไดอ้ กี ครง้ั ดว้ ยความเชอ่ื วา่ สารเสพตดิ ช่วยให้หายจากอาการเหนอ่ื ยได้ เหตผุ ล มหี ลายปจ จยั ทส่ี ง่ ผลใหผ้ ทู้ ห่ี ายขาดจากอาการตดิ ยาหวนกลบั ไปตดิ สารเสพตดิ อกี ครง้ั เชน่ อาชพี ท่ีทำา ได้แก่ งานท่ีต้องใช้แรงงาน กรรมกร เกษตรกร นอกจากนี้ส่ิงแวดล้อมชุมชนที่อยู่อาศัย คนใน ครอบครวั ก็มีผลต่อการเสพซา้ำ เปน็ ต้น
75 ๖ บุคคลในขอ ใดมสี วนสําคญั ในการชว ยไมใ หมนชัยกลับไปใชส ารเสพตดิ อีกครัง้ ค. ครอบครัว เหตุผล ความสัมพันธ์ในครอบครัว เช่น ความรัก ความเข้าใจ และความเอาใจใส่ สามารถเป็น ภูมิคุม้ กนั ให้แก่ผูท้ ี่เคยเสพติดยาได้อย่างดี ๗ ส่งิ แวดลอ มในขอ ใดเสย่ี งตอ โอกาสในการใชส ารเสพติดในวยั รนุ สูงท่สี ดุ จ. เพ่อื นชวนให้ลองเสพยา เหตผุ ล การคบเพอ่ื นในวยั รนุ่ เปน็ สง่ิ สาำ คญั เพราะวยั นเ้ี ปน็ วยั ทค่ี กึ คะนอง และใหค้ วามสาำ คญั กบั เพอื่ น ตอ้ งการเป็นทีย่ อมรบั แก่เพ่อื น ดังนน้ั เพ่ือนจึงเปน็ ปจจยั ในการชกั นาำ ใหต้ ิดสารเสพติดได้ ๘ ถา ผูต ดิ สารเสพติดตองการเลกิ ขาดจากการใชสารเสพตดิ ควรปฏบิ ตั ติ ามขอใด ง. ติดต่อหนว่ ยงานท่ีใหค้ าำ ปรกึ ษาและบำาบัดผู้ตดิ สารเสพตดิ เพ่ือขอรบั การรักษาบาำ บดั เหตผุ ล ผทู้ ี่ติดสารเสพติดไมค่ วรรกั ษาอาการตดิ ยาด้วยตนเองเพราะจะทาำ ให้เกดิ อันตรายถึงชีวิตได้ ควรไปขอรับคาำ ปรกึ ษากบั หน่วยงานท่เี ก่ียวข้องจะได้ผลดกี ว่า ๙ ปญหาสารเสพติดสามารถแกทต่ี นเหตไุ ดอ ยา งไร ง. สร้างภมู ิคมุ้ กนั แก่ชุมชน โดยการใหค้ วามรู้เกี่ยวกับโทษของสารเสพติด เหตุผล ถ้าหากคนในชมุ ชนมีความรู้ ตระหนักถงึ โทษของสารเสพตดิ มีภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี ีแล้ว ย่อมทำาให้ ปจ จัยอน่ื ท่ีจะชกั นาำ ไปสวู่ งจรการเสพยานน้ั มผี ลนอ้ ยลง ๑๐ ขอ ใดเปนโทษที่รายแรงท่สี ดุ ของการติดสารเสพติด จ. การทำาร้ายรา่ งกายตนเองหรือผูอ้ น่ื ท่กี ่อให้เกดิ การเสยี ชวี ิต เหตผุ ล ความสญู เสยี ทร่ี า้ ยแรงของผลจากการเสพยา คอื การคลมุ้ คลง่ั จนเปน็ เหตใุ หต้ นเองหรอื ผอู้ น่ื เสียชีวิต การสญู เสยี ชีวิตเปน็ การสูญเสียที่ไมส่ ามารถหาสิง่ ใดมาทดแทนได้ ๑. _จ_._ ๖. _ก_._ ๒._ค__. ๗._ญ__. ๓._ฌ__. ๘. _ซ__. ๔._ฉ__. ๙. _ช_._ ๕._ข_._ ๑๐._ง_._
76 ใบงานที่ ๑๐.๑ ความรู้ความเขา้ ใจสารเสพตดิ คาำ ช้ีแจง : จงเขียนเคร่ืองหมาย หนาขอท่ีเห็นวาถูก และเขียนเคร่ืองหมาย หนาขอท่ีเห็นวาผิด แลว แกไขใหถ กู ตอง ขอ้ ความ ขอ้ ความทแ่ี กไ้ ข ๑. การแพรระบาดของการติดสารเสพติด . . . . . . . .ก. . .า. .ร. .แ. . .พ. . .ร. .่ .ร. .ะ. .บ. . .า. . .ด. . .ข. . .อ. . .ง. .ก. . .า. .ร. . .ต. .ิ .ด. . .ส. .า. . .ร ในประเทศไทยนับวนั จะนอยลง ........เ.ส...พ...ต...ิ ด...ใ..น...ป...ร...ะ..เ..ท...ศ...ไ..ท...ย...น..ั.บ...ว..ั น...จ...ะ ........ม..า..ก..ข...น้ึ ............................................... ๒. วัยรุ่นเป็นวัยที่พบว่ามีการติดสาร เสพตดิ มาก ................................................................ ................................................................ ๓. บุคลิกของผูติดสารเสพติดดูภายนอก จะเห็นไดช ัดเจน ................................................................ ................................................................ ๔. การรักษาผูติดสารเสพติดตองบําบัด ......ร..กั...ษ..า..ผ...ตู้ ..ดิ...ส..า..ร..เ.ส..พ...ต..ดิ...ต..อ้...ง.บ...าำ ..บ..ดั...ร..กั ..ษ...า. รักษาทางดา นรางกายเพยี งอยา งเดยี ว . . . . . .ท. . .า. .ง. .ด. .า้ . .น. . .ร. .่า. ง. .ก. . .า. .ย. .แ. .ล. . ะ. .จ. . .ิต. .ใ. .จ. . . . . . . . . . . . . . . . . . . ๕. การติดสารเสพติดก่อให้เกิดปัญหา ................................................................ อาชญากรรมในสงั คม ................................................................ ๖. ผูติดสารเสพติดคือผูมีประวัติการใช .......ผ..ตู้...ดิ ..ส..า..ร..เ..ส..พ...ต..ดิ...ค..อื ..ผ...้มู ..ปี...ร..ะ..ว..ตั ..ิก...า.ร........ สารเสพติดอยางตอเนื่องตั้งแต ๑ ป ..............๖ใ..ช......้สเ..ด..า..อื..ร....นเ..ส..ข..พ....น้ึ ..ต..ไ....ิดป....อ....ย......่า....ง..ต......่อ....เ..น......่อื ....ง....ต......ั้ง..แ......ต....่............ ข้นึ ไป ๗. ขั้นตอนการฟื้นฟูสมรรถภาพเป็น .......ข..้นั...ต..อ...น..เ.ต...ร..ีย..ม...ใ.จ..ใ..ห..้ม...คี ..ว..า..ม...พ..ร..้อ...ม........ ขั้นตอนแรกในการบําบัดรักษาผูปวย .......แ..ล...ะ..เ.ต...็ม..ใ..จ..ร..ัก...ษ...า..เ.ป...็น...ข..้ัน...ต..อ...น...แ..ร..ก...ใ.น.. ท่ตี ิดสารเสพติด .......ก..า..ร..บ..าำ..บ...ดั ..ร..กั...ษ..า..ผ..ปู้...ว ..ย..ท...ต่ี ..ดิ...ส..า..ร..เ.ส..พ...ต..ดิ..
77 ขอ้ ความ ขอ้ ความทแ่ี กไ้ ข ๘. เปาหมายสูงสุดของกระบวนการบําบัด ................................................................ รักษาผูปวยที่ติดสารเสพติดคือไมให ................................................................ มกี ารกลบั มาเสพติดซํา้ อกี ................................................................ ๙. ครอบครัวเปนปจจัยสําคัญที่ทําใหผูปวย ................................................................ หยุดสารเสพตดิ ได ................................................................ ๑๐. ส่ิงสําคัญท่ีสุดท่ีชวยใหการรักษาผูติด ................................................................ สารเสพตดิ สมั ฤทธผิ ล คอื ผตู ดิ สารเสพตดิ ................................................................ ตองมีความพรอมและเต็มใจเขารับการ ................................................................ รักษา ................................................................ ใบงานที่ ๑๐.๒ อันตรายและผลกระทบของสารเสพตดิ คำาชีแ้ จง : ใหนักเรียนยกตัวอยางสารเสพติด ๑ ชนิด จากนั้นวิเคราะหอันตรายและผลกระทบจากการใช สารเสพตดิ ดงั กลา ว พรอ มทัง้ ใหขอ เสนอแนะในการปอ งกันและแกไขปญ หาจากการใชสารเสพติด ตัวอย่างคาำ ตอบ เช่น ชอื่ สารเสพติด...........ย..า..บ..า้ ......................................................................... ลกั ษณะของผลกระทบ อนั ตรายและผลกระทบจากการใชส้ ารเสพตดิ ตอตนเอง .ส..่ง..ผ..ล...ต..อ่...ร..า่ .ง..ก...า..ย...ต...อ่ ..ร..ะ..บ..บ...ป..ร..ะ..ส...า..ท..แ..ล...ะ..ร.ะ..บ...บ..อ...ว..ยั ..ว..ะ..ต...่า..ง.ๆ........... ตอ ครอบครัว .ข..อ...ง.ร..า่..ง..ก..า..ย...ต..ล..อ...ด..จ..น...จ..ติ...ใ.จ..ข...อ..ง..ผ..ู้ใ..ช..ส้ ..า..ร..เ.ส...พ..ต...ิด..เ..อ..ง...................... ตอ สังคม .ท...ำา..ใ.ห...้เ.ส..ื่อ...ม..เ.ส...ยี ..ช..ื่อ...เ.ส..ยี...ง.ข...อ..ง..ค..ร..อ...บ..ค...ร..วั ......................................... ตอ ประเทศชาติ .................................................................................................. .อ..า..จ..ท...าำ ..ใ.ห...เ้ .ก...ิด..ก..า..ร..ก...่อ..อ..า..ช...ญ...า..ก..ร..ร..ม....ก..า..ร..ล..กั...ท..ร..พั...ย..์ ....................... .................................................................................................. .ส..ง่..ผ..ล...ต..อ่...ก..า..ร..พ..ฒั....น..า..บ...ุค..ล...า.ก...ร...แ..ล...ะ..ก..าำ ..ล..ัง..ค..น...ใ..น..ก...า.ร..ข...ับ..เ.ค...ล..ื่อ...น........ .เ.ศ...ร.ษ...ฐ..ก...ิจ..ข..อ..ง..ไ..ท..ย........................................................................ ขอ เสนอแนะในการปอ งกนั และแกไข .........ไ.ม...่ย..งุ่ .เ.ก..่ยี..ว..ก..ับ..ส..า..ร.เ..ส..พ..ต..ดิ ..ท..ุก..ช..น..ิด....ถ..า้ .พ...บ..ผ..จู้ ..าำ .ห..น...่า.ย..ใ..ห..้แ..จ..ง้ .เ.จ..า้ .ห...น..้า..ท..่ดี ..าำ .เ.น...ิน..ค..ด..ีต..า..ม..ก..ฎ..ห..ม..า..ย............ ..........................................................................................................................................
78 ใบงานที่ ๑๐.๓ ชว่ ยเหลือ ฟน ฟู คนื คนดีสู่สังคม คาำ ชี้แจง : ใหน กั เรยี นแบงกลุม กลุมละ ๖ – ๘ คน ศกึ ษาคน ควา เกย่ี วกับวิธกี ารบําบัดรักษา ปจ จัยชว ยเหลือ และการฟนฟูสมรรถภาพผูติดสารเสพติด จากน้ันชวยกันระดมสมองเก่ียวกับสถานการณ การตดิ สารเสพตดิ พรอ มทง้ั บอกชอ่ื เรอ่ื ง และบอกขน้ั ตอนในการบาํ บดั รกั ษา ชว ยเหลอื และฟน ฟผู ตู ดิ สารเสพติดจากสถานการณท ่ีกาํ หนด ขน้ึ อยกู่ บั สภาพจรงิ ของนักเรียน อยู่ในดุลยพินิจของครู ใบงานท่ี ๑๐.๔ แหล่งใหค้ าำ ปรกึ ษาและฟน ฟผู ตู้ ิดสารเสพตดิ คาำ ชี้แจง : ใหนักเรียนพิจารณาแหลงใหความชวยเหลือและใหคําปรึกษาฟนฟูผูติดสารเสพติดจากหัวขอ ปญหาน้ี และตดั สินใจเลือกทางเลือกท่ดี ที สี่ ดุ ตัวอย่างคาำ ตอบ เช่น ทางเลือกทีเ่ ป็นไปได้ (ระบุช่ือหน่วยงาน) ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั ๑ หนว ยงานทใ่ี หค าํ ปรึกษาดว ยตนเอง ใ..ห..้ค...าำ ..ป..ร..ึก..ษ...า..แ..ล...ะ.บ...าำ ..บ..ดั...ส..า..ร..เ.ส...พ..ต...ิด..ไ..ด..้.............. .......................ศ..นู...ย..ด์...าำ ..ร..ง.ธ...ร..ร.ม........................... ....................................................................... ๒ หนว ยงานทใ่ี หคาํ ปรกึ ษาทางโทรศพั ท ใ..ห..้ค...าำ ..ป..ร..กึ..ษ...า..แ..ล...ะ.บ...ำา..บ..ัด...ส..า..ร..เ.ส..พ...ต...ิด..ไ..ด..้.............. .....ส..า..ย..ด...ว่ ..น..ย...า..เ.ส..พ...ต..ิด....(.ส...ถ..า..บ..ัน...ธ..ัญ...ญ...า..ร..ัก..ษ...์)...... ....................................................................... โทร ๑๑๖๕ .ใ.ห...ค้ ..ำา..ป...ร.กึ...ษ..า..แ...ล..ะ..บ..าำ..บ...ัด..ส..า..ร..เ..ส..พ..ต...ดิ ..ไ..ด..้.............. ๓ หนวยงานของรฐั บาล ....................................................................... .....................ส..ถ...า.บ...ัน...ธ..ัญ...ญ...า..ร..กั ..ษ...์ ..................... ๔ หนว ยงานเอกชน .ใ.ห...ค้ ..ำา..ป..ร..ึก...ษ..า..แ...ล..ะ..บ..ำา..บ...ัด..ส..า..ร..เ..ส..พ..ต...ดิ ..ไ..ด..้.............. ...........................บ...า้ .น...พ...ชิ ..ติ ..ใ..จ............................ .......................................................................
79 ตวั อย่างคำาตอบ เชน่ วรี ะพงศต ัดสนิ ใจเลือกทจ่ี ะปรกึ ษา สถาบันธญั ญารักษ์ เพราะผลทีค่ าดวาจะไดรบั คือ สถาบนั ธัญญารกั ษ์จะใหก้ ารรักษาและบาำ บดั อาการตดิ ยาบ้า ของวรี ะพงศเ์ ปน็ อย่างดี เฉลยคำาถามหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๑ ลดความเส่ยี ง ๑ ตามความเห็นของนักเรียน พฤติกรรมเส่ียงคืออะไร และในชีวิตจริงนักเรียนคิดวามีพฤติกรรมเส่ียง ใดบา งทอ่ี าจเกดิ กบั ตวั เรา และจะสง ผลกระทบตอ ตวั ของนกั เรยี นอยา งไรในอนาคต ตัวอย่างคำาตอบ เชน่ พฤติกรรมเสี่ยง คือ พฤติกรรมท่ีนำามาซ่ึงอันตรายต่อการดำาเนินชีวิต พฤติกรรมเสี่ยงท่ีเกิดขึ้นอยู่ เปน็ ประจาำ ในชวี ติ ประจาำ วัน คอื พฤตกิ รรมเสีย่ งต่อสุขภาพ ได้แก่ การไมไ่ ดอ้ อกกาำ ลังกายอยา่ งสมา่ำ เสมอ การดม่ื นมตา่ำ กวา่ เกณฑ์ และการไดร้ บั สารอาหารในกลมุ่ ผกั ผลไมต้ า่ำ กวา่ เกณฑม์ าตรฐาน พฤตกิ รรมเหลา่ น้ี อาจสง่ ผลตอ่ สขุ ภาพ เมอื่ สะสมพฤตกิ รรมเสยี่ งไปเรอ่ื ยๆ อาจเกดิ ปญ หาโรคอว้ น ปญ หาทอ้ งผกู และหลายๆ โรคตามมา ๒ เม่ือนักเรียนถูกเพ่ือนชักชวนใหไปอยูในสถานท่ีเส่ียง นักเรียนมีวิธีการใดในการหลีกเล่ียงใหรอดพน สถานการณเ สย่ี งนน้ั มาได ตัวอย่างคำาตอบ เช่น เมอ่ื รวู้ า่ สถานการณอ์ าจกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายแกต่ วั เรากค็ วรปฏเิ สธเพอ่ื นโดยการใชท้ กั ษะการปฏเิ สธทเ่ี หมาะสม ๓ นกั เรยี นคดิ วา สง่ิ แวดลอ มรอบตวั นกั เรยี นมสี ถานการณเ สย่ี งทางดา นใดบา ง สถานการณใ ดทค่ี ดิ วา เปน ปญ หา มากทส่ี ดุ และมวี ธิ หี ลกี เลย่ี งอยา งไร ตัวอยา่ งคำาตอบ เชน่ พฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพ พฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ อบุ ตั เิ หตุ พฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ การใชย้ า และพฤตกิ รรม ทน่ี า่ จะเปน็ ปญ หามากทส่ี ดุ คอื พฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพ เนอ่ื งจากเปน็ ปญ หาทป่ี ระสบอยบู่ อ่ ยครง้ั เชน่ การ ไดร้ บั อาหารประเภทผกั ผลไมน้ อ้ ยกวา่ เกณฑ์ การดม่ื นมปรมิ าณทน่ี อ้ ยกวา่ เกณฑ์ เปน็ ตน้ ซง่ึ พฤตกิ รรม เหลา่ นส้ี ามารถสะสมและเกดิ เปน็ ปญ หาสขุ ภาพได้ ๔ นกั เรยี นคดิ วา พฤตกิ รรมการลดนา้ํ หนกั โดยวธิ อี ดอาหาร จดั เปน พฤตกิ รรมเสย่ี งหรอื ไม เพราะเหตใุ ด ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เชน่ จดั เปน็ พฤตกิ รรมเสย่ี ง เนอ่ื งจากการอดอาหารทาำ ใหร้ า่ งกายไดร้ บั สารอาหารไมค่ รบถว้ นกอ่ ใหเ้ กดิ โรค ซึง่ การลดน้ำาหนักโดยการอดอาหารนจี้ ดั เป็นพฤตกิ รรมเสีย่ งต่อสขุ ภาพอย่างย่งิ ๕ นกั เรียนคดิ วาการซ้ืออาหารทจี่ าํ หนายอยบู นทางเทา กอ ใหเ กิดพฤตกิ รรมเส่ียงอยางไรบา ง ตัวอยา่ งคาำ ตอบ เชน่ อาหารท่ีจำาหน่ายอยู่บนทางเท้าอาจมีฝุนหรือควันพิษท่ีมาจากท้องถนนตกลงมาสู่อาหาร ซึ่งถือว่า ไม่ถกู หลกั อนามยั
80 ๖ นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไรเกี่ยวกับขาวที่วา วัยรุนขี่รถจักรยานยนตแขงกันบนถนนในยามคํ่าคืน นักเรียนเห็นดว ยหรือไม เพราะเหตใุ ด ตัวอย่างคำาตอบ เช่น ไมเ่ หน็ ดว้ ย เพราะการขรี่ ถจกั รยานยนตแ์ ขง่ บนถนนถอื เปน็ การกระทาำ ทผ่ี ดิ ตอ่ กฎหมายและยงั กอ่ ให้ เกิดอันตรายตอ่ ตนเองอีกด้วย ๗ ในชวี ติ ประจาํ วนั ของนกั เรยี น สามารถลดพฤตกิ รรมเสย่ี งตอ สขุ ภาพไดอ ยา งไรบา ง ตัวอย่างคาำ ตอบ เชน่ ดม่ื นา้ำ สะอาดอยา่ งนอ้ ยวนั ละ ๘ แกว้ รบั ประทานอาหารใหค้ รบ ๕ หมู่ และหลกี เลย่ี งอาหารหวาน มนั เคม็ ๘ ถา หากนกั เรยี นมคี วามเครยี ด นกั เรยี นจะมวี ธิ แี กป ญ หาอยา งไรไมใ หเ กดิ เปน พฤตกิ รรมเสย่ี ง ตวั อยา่ งคำาตอบ เชน่ พยายามหากิจกรรมคลายเครียดทำา เช่น การออกกำาลังกาย การฟงเพลง หรือการทำาจิตให้สงบ โดยการเข้าวัดฟง ธรรม ๙ นักเรียนมีความคดิ เหน็ อยางไรกับการดาํ เนนิ ชวี ิตโดยมสี ตสิ ัมปชัญญะ ตัวอยา่ งคาำ ตอบ เช่น สติ คอื ความระลกึ ได้ สำานึกอยู่เสมอไม่เผลอตัว สัมปชญั ญะ คือ ความรู้สึก ความตระหนกั รู้ เขา้ ใจ ความเป็นจริง ดังน้ันการดำาเนินชีวิตโดยมีสติสัมปชัญญะ จะทำาให้ดำาเนินชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท ถ๑ือ๐เปน็เพกราาระดเหาำ ตเนใุ ดินนชกั ีวเรติ ียโนดจยงึ ลไดมคพวฤรตดิกม่ื รแรอมลเกสอ่ยี ฮงอทลอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ได้ ตวั อยา่ งคำาตอบ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ทำาให้เมาขาดสติและอาจเกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากน้ียังก่อให้เกิดการเสพติด แอลกอฮอล์ อันเปน็ สาเหตุของโรคอกี หลายชนดิ ตามมา ๑ ขอ ใดจัดเปน ประเภทของพฤติกรรมเส่ียงของพรชัย ก. พฤติกรรมการใชย้ าหรือสารเสพติดและพฤตกิ รรมละเมดิ กฎเกณฑต์ ่างๆ เหตผุ ล พฤติกรรมการใชย้ าหรือสารเสพตดิ ได้แก่ ดมื่ แอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และพฤตกิ รรมละเมดิ กฎเกณฑ์ต่างๆ ได้แก่ ขร่ี ถจกั รยานยนตแ์ ข่งกับเพอ่ื น ๒ พรชยั มีอาจไดรับผลกระทบจากพฤติกรรมเสยี่ งใดบาง จ. ถูกทุกข้อ เหตุผล เน่อื งจากพรชัยมีพฤติกรรมท่ดี ่มื แอลกอฮอล์ สูบบุหร่ี และข่จี ักรยานยนต์แข่งกับเพ่อื น ยอ่ มสง่ ผลกระทบในทกุ ดา้ น ไดแ้ ก่ ปฏกิ ริ ยิ าทางลบจากบคุ คลอน่ื อบุ ตั เิ หตุ การเกดิ โรค การสญู เสยี โอกาสในอนาคต และด้านปญ หาสังคม ๓ ขอ ใดเปนปจจยั สนบั สนุนพฤตกิ รรมเส่ียงของพรชัยมากที่สุด ข. การเลี้ยงดูของพอ่ แมท่ ่ตี ามใจมากเกินไป เหตุผล จากขอ้ ความนี้ พรชยั ถูกเลย้ี งดอู ยา่ งตามใจเกนิ ไป ทำาใหเ้ ขาเลือกที่จะทำาอะไรได้อยา่ งอสิ ระ โดยไมถ่ กู วา่ กลา่ ว ดงั นน้ั การเลย้ี งดจู งึ เปน็ ปจ จยั สนบั สนนุ พฤตกิ รรมเสย่ี งของพรชยั มากทส่ี ดุ
81 ๔ บคุ คลในขอ ใดมพี ฤติกรรมเสี่ยงตอสขุ ภาพมากทีส่ ดุ ง. ชาครติ ปกติจะไมด่ ่ืมแอลกอฮอล์ แต่มดี ่ืมบา้ งนานๆที เหตผุ ล เนอื่ งจากพฤตกิ รรมเสยี่ งของชาครติ คอื ดมื่ เครอื่ งดม่ื แอลกอฮอลถ์ งึ แมจ้ ะไมไ่ ดด้ ม่ื เปน็ ประจาำ แต่ถ้าดื่มแล้วอาจทาำ ใหเ้ กดิ อาการเสพติดและสง่ ผลใหด้ ืม่ มากขน้ึ จนเกิดโรคเร้ือรงั ในอนาคต ๕ ขอใดเปนสาเหตทุ ี่ทําใหเ กิดอบุ ตั เิ หตุมากท่สี ดุ จ. ความประมาท เหตุผล เน่ืองจากการไม่มีความรู้ หรือมีสุขภาพร่างกายที่เสื่อมโทรม รวมทั้งการมีความเห็นแก่ตัว และความเคยชินย่อมเป็นสว่ นหนง่ึ ของความประมาททั้งสนิ้ ๖ บอยติดสุราอยางหนัก แมกระท่ังตอนขับรถยนตก็ยังด่ืม เนื่องจากเขาเชื่อวาการดื่มสุราทําใหเขาหายจาก อาการเหน่ือยลาจากการทํางาน เพราะเม่ือสมัยเขาเปนเด็ก พอของเขาก็เคยกลาวกับเขาเชนน้ีเหมือนกัน ขอ ใดคือผลเสียทีอ่ าจเกดิ จากพฤติกรรมเหลา น้ี ง. ปญหาสขุ ภาพและบาดเจบ็ หรอื เสยี ชวี ิตเนอ่ื งจากอบุ ัติเหตุ เหตุผล การดื่มสรุ าอย่างหนกั ก่อใหเ้ กดิ ปญหาสุขภาพ และการเมาแลว้ ขับเสย่ี งต่อการเกดิ อบุ ัติเหตุ เปน็ เหตุให้อาจไดร้ บั บาดเจ็บหรอื เสียชีวติ ๗ บคุ คลในขอใดมพี ฤติกรรมเส่ียงตอการใชความรุนแรง ค. ปกรณค์ บแตเ่ พือ่ นอันธพาล เหตผุ ล การอยู่ในกลมุ่ เพื่อนทีช่ อบใช้ความรุนแรง ทำาให้ตวั เรามพี ฤตกิ รรมเส่ยี งทีจ่ ะใช้ความรุนแรง ตามเพอ่ื นเพอื่ ให้ในกลุ่มเพอื่ นยอมรับหรือซมึ ซบั พฤตกิ รรมตามเพอ่ื น ๘ ขอใดตอ ไปนจ้ี ดั เปน สถานการณเสย่ี งตอการมเี พศสัมพันธม ากท่ีสุด ง. การดม่ื เครื่องดม่ื มนึ เมาในสถานบนั เทิง เหตุผล การดื่มเครื่องด่ืมมึนเมา ทำาให้ขาดสติหรือหมดสติ ประกอบกับการเท่ียวในสถานบันเทิง ยิ่งอาจเพ่ิมความเสีย่ งทอี่ าจทาำ ให้ถูกลว่ งละเมิดทางเพศได้ ๙ ขอใดเสยี่ งตอ การใชสารเสพติดในวัยรนุ มากท่ีสุด ง. ความคกึ คะนอง อยากรู้ อยากลอง เหตุผล เดก็ วยั รนุ่ เปน็ เดก็ วยั อยากรู้ อยากลอง และมกั ถกู ชกั ชวน หรอื บบี บงั คบั จากเพอ่ื นไดง้ า่ ย ๑๐ บคุ คลในขอใดมีวธิ ีการหลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมเส่ียงไดดีที่สดุ จ. วรรณใช้ชวี ติ ด้วยความไมป่ ระมาท เหตุผล ควรใชช้ วี ิตดว้ ยความไม่ประมาท โดยมีวธิ กี ารหลกี เลี่ยงพฤติกรรมเส่ยี ง ได้แก่ การแสวงหา ความรู้เก่ียวกับพฤติกรรมเส่ียงเพื่อให้เข้าใจและตระหนักถึงผลเสียท่ีตามมา การเลือกคบเพ่ือนท่ีดี หลีกเล่ียงเพื่อนที่มีแนวโน้มชักจูงให้มีพฤติกรรมเสี่ยง การมีสติสัมปชัญญะ และการให้รางวัลตนเอง เม่ือสามารถหลกี เล่ียงพฤติกรรมเสย่ี งได้สาำ เรจ็
82 ๑. _ง_._ ๖. _ก_._ ๒._จ_._ ๗._ญ__. ๓._ฌ__. ๘. _ซ__. ๔._ข__. ๙. _ช_._ ๕._ฉ__. ๑๐._ค__. ใบงานที่ ๑๑.๑ สถานการณ์เสย่ี ง คำาช้แี จง : ใหน กั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคดิ (Mind Mapping) อธบิ ายพฤตกิ รรมเสย่ี งและสถานการณเ สย่ี ง ตัวอย่างคาำ ตอบ เชน่ พฤตกิ รรมละเมิด กฎเกณฑต์ ่างๆ พฤตกิ รรมทไี่ ม่ยง้ั คดิ พฤติกรรมละเมิดสทิ ธผิ ู้อ่นื พฤติกรรมการใชย้ า หรือสารเสพติด พฤติกรรม เส่ยี ง พฤติกรรมทางเพศ
83 สถานการณ์ เสีย่ ง สถานการณเ์ สย่ี งต่อการมีเพศสมั พันธ์ สถานการณ์เส่ียงต่อการเสพสารเสพติด การสัมผสั รา่ งกาย ปญ หาส่วนตวั การอย่ใู นทล่ี บั ตา การใกลช้ ดิ กบั ผตู้ ดิ สารเสพติด การถกู ชกั ชวนใหด้ สู อ่ื ลามก การขาดความรู้ การดม่ื แอลกอฮอล์ ส่ิงแวดลอ้ มทเี่ อ้อื อำานวยต่อการ การเที่ยวกลางคืน ใชส้ ารเสพติด ความจาำ เปน็ ของรา่ งกาย ใบงานท่ี ๑๑.๒ อยู่ที่ไหนก็เสยี่ ง คำาช้ีแจง :ใหนักเรยี นศึกษาขาวแลวตอบคาํ ถามตอ ไปน้ี อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครู ตวั อย่างคาำ ตอบ เชน่ ๑ จากขา วดงั กลา วมปี ระเภทของพฤตกิ รรมเสย่ี งในดา นใด ๑. พฤตกิ รรมทไ่ี มย่ ง้ั คดิ โดยความประมาทและไมป่ อ งกนั อยา่ งถกู วธิ จี นทาำ ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตไุ มค่ าดฝน คือ การถูกสนุ ขั กดั ๒. พฤติกรรมละเมิดสทิ ธผิ อู้ ่ืน คือการเลี้ยงสุนขั มากเกินไปแลว้ ไม่รจู้ กั วิธใี นการควบคมุ จนทำาให้ เดือดรอ้ นผูอ้ ื่น เช่น ส่งเสียงดงั เดอื ดรอ้ นรำาคาญและสง่ กล่นิ เหม็น ๒ นกั เรยี นมวี ธิ แี กไ ขหรอื ปอ งกนั ไมใ หเ กดิ เหตดุ งั กลา วอยา งไร วธิ แี กไ้ ขและปอ งกนั ไมใ่ หเ้ กดิ เหตดุ งั กลา่ ว คอื เลย้ี งสนุ ขั แบบไมก่ กั ขงั หนว่ งเหนย่ี วทาำ ความสะอาดสนุ ขั ทกุ ตวั และบรเิ วณทเ่ี ลย้ี งสนุ ขั เปน็ ประจาำ สมา่ำ เสมออยา่ งถกู สขุ ลกั ษณะ
84 ใบงานท่ี ๑๑.๓ อาชีพทม่ี ีความเส่ียง คาำ ชแ้ี จง : ใหนกั เรยี นยกตัวอยางอาชพี ทีม่ คี วามเสี่ยงตอสุขภาพ และตอบคาํ ถามตอไปนี้ ตัวอย่างคำาตอบ เช่น อาชพี ทเ่ี สย่ี งตอสุขภาพ คอื ทันตแพทย์ ความเสี่ยงของอาชพี นี้ คือ ๑. การสมั ผสั สารปนเปอ นตา่ งๆ ๒. การสมั ผัสเช้อื โรคภายในชอ่ งปากของคนไข้ ๓. ใช้ระยะน่ังในการทำางานตลอดท้งั วัน วธิ กี ารปองกันและแกไ ขความเสีย่ ง คอื ๑. สวมอุปกรณ์ปองกนั เช้อื โรคต่างๆ ๒. เปลย่ี นอริยาบถในการทำางานเป็นระยะ ใบงานท่ี ๑๑.๔ จดุ ออ่ นบนรา่ งกายเพศชาย คาำ ชแ้ี จง : ๑. อานเรอ่ื งการเรยี นรจู ุดออนบนรา งกายเพศชาย ๒. ใหนักเรียนบอกจุดออนบนรางกายเพศชายท่ีเห็นวาจะใชเปนเปาหมายในการปองกันตัวได ในกรณีเกดิ ปญ หาข้นึ พรอมบอกเหตุผล ตัวอยา่ งคาำ ตอบ เช่น ๑. จดุ ออนบนรา งกายเพศชายทีเ่ หน็ วา จะใชเ ปน เปา หมายในการปองกันตวั คอื ลกู อัณฑะ ๒. วธิ กี ารปองกนั ตวั การเตะหรือชกท่ีบริเวณลูกอัณฑะจะทำาใหผ้ ชู้ ายเจบ็ ปวดมากกว่าถึงสามเทา่ ใบงานท่ี ๑๑.๕ ฝก ปฏิบตั ิเทคนิคการปองกนั ตนเอง คำาช้แี จง : ๑. อานเรอ่ื งศิลปะการปองกันตนเองโดยใชอวัยวะเปน อาวธุ จากขอมลู ท่ีกําหนดให ๒. ใหนกั เรียน จับคู จากน้นั ฝกปฏิบตั เิ ทคนคิ การปอ งกันและตอบคําถามตอ ไปนี้ (ใบงานนี้ให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง ศิลปะการปองกันตนเอง โดยการใช้อวัยวะเป็นอาวุธ จากนั้นให้นักเรียนฝกปฏิบัติแล้วตอบคำาถามท่ีกำาหนดให้ ข้ึนอยู่กับสภาพจริงของนักเรียน อยู่ในดลุ ยพินิจของครู) ใบงานท่ี ๑๑.๖ เทคนิคการจดจำาใบหน้าคนร้าย คาำ ชี้แจง : ๑. อา นเร่ืองเทคนิคการจดจาํ ใบหนาคนรา ย ๒. จงวาดใบหนาคนรา ยตามคําทีก่ ําหนดให (ใบงานนี้ให้นักเรียนศึกษาฝกวาดรูปใบหน้าคนร้ายตามลักษณะท่ีกำาหนด ขึ้นอยู่กับทักษะของ นักเรียนแตล่ ะคน อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครู)
85 เฉลยคาำ ถามหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑๒ ทักษะชวี ิต ๑ ในขณะท่ีนักเรียนเดินกลับบาน จูๆ ก็มีผูชายมาจับตัวเพ่ือลวงละเมิดทางเพศ นักเรียนจะมีวิธีปองกัน ตนเองอยา งไร ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เช่น พยายามถอยห่าง เม่ือแน่ใจแล้วว่าอยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัยแล้วจึงร้องตะโกนเสียงดังเพ่ือ ขอความชว่ ยเหลือ ๒ ในขณะที่นักเรียนบังเอิญตองเขาไปอยูในกลุมผูชุมนุม จนเกิดเหตุการณจลาจล และมีความเส่ียงวา จะเกิดเหตรุ นุ แรง นักเรียนจะมวี ิธหี ลกี เลย่ี งสถานการณคับขันที่อาจนาํ ไปสอู นั ตรายไดอยา งไร ตัวอย่างคาำ ตอบ เช่น วิ่งออกจากสถานทช่ี ุมนุมทนั ที ๓ ในขณะท่ีนักเรียนน่ังอยูบนรถแท็กซ่ีกลับบานคนเดียว และสังเกตคนขับรถแท็กซ่ีมองดวยสายตา แปลกๆ นกั เรยี นจะมวี ธิ ปี อ งกนั ตนเองอยา งไร ตัวอยา่ งคำาตอบ เช่น โทรศพั ทบ์ อกผปู้ กครอง โดยพดู เสยี งดงั วา่ กาำ ลงั นง่ั แทก็ ซเ่ี ลขทะเบยี นอะไร และกาำ ลงั มงุ่ หนา้ ไปเสน้ ทาง ไหน ๔ นักเรยี นเคยมปี ระสบการณก ารเขา ไปอยูในสถานการณคบั ขนั บางหรอื ไม นักเรียนมีวธิ ปี อ งกนั และหลกี เลยี่ ง สถานการณด ังกลาวอยา งไร ตัวอย่างคาำ ตอบ เชน่ สถานการณค์ บั ขนั ทเ่ี คยประสบมา คอื การมผี ปู้ ว ยทางจติ เดนิ เขา้ มาพดู ดว้ ย จงึ ทาำ ใหต้ ดั สนิ ใจทำาเป็น เหมือนไมไ่ ดย้ นิ แล้วค่อยๆ เดนิ หนี เม่อื แน่ใจวา่ อยใู่ นระยะที่ผ้ปู ว ยจะไม่พ่งุ เขา้ มาหาเราแล้วจงึ ตะโกนขอ ความชว่ ยเหลือ ๕ นักเรียนคดิ วาการมีทักษะชวี ิตมีความจาํ เปน หรอื ไม เพราะเหตุใด ตวั อยา่ งคำาตอบ เชน่ มคี วามจาำ เปน็ เพราะการมที กั ษะชวี ติ จะทาำ ใหเ้ รารจู้ กั ปรบั ตวั หรอื เลอื กทางเดนิ ชวี ติ ทเ่ี หมาะสม เมือ่ ต้อง เผชญิ กับปญหาท่เี กดิ ข้นึ ก็สามารถแก้ไขไดอ้ ย่างถกู ต้อง ๖ ถาหากนักเรยี นถูกจับเปน ตัวประกัน นกั เรียนจะมวี ธิ กี ารปฏบิ ตั ิตัวอยางไรใหป ลอดภัย ตัวอยา่ งคาำ ตอบ เชน่ ไมข่ ดั ขนื ทาำ ตามคาำ สงั่ ของคนรา้ ย ไมต่ อ่ สู้ ไมโ่ ตเ้ ถยี ง เพราะการตอ่ สหู้ รอื โตเ้ ถยี งจนคนรา้ ยโมโหอาจ ทำาร้ายเราถงึ ตายได้ ๗ นกั เรยี นมวี ธิ กี ารปอ งกนั ตวั อยา งไรไมใ หถ กู ขม ขนื ตวั อย่างคาำ ตอบ เชน่ แตง่ กายรดั กมุ เรยี บรอ้ ย หรอื ไมไ่ ปทเ่ี ปลย่ี วในเวลากลางคนื
86 ๘ ถา หากนกั เรยี นพบผเู คราะหร า ยกาํ ลงั จะถกู ขม ขนื นกั เรยี นมวี ธิ กี ารชว ยเหลอื อยา งไร ตวั อย่างคำาตอบ เชน่ โทรแจง้ เจา้ หนา้ ทต่ี าำ รวจ ๙ นกั เรียนมวี ธิ ีการปองกนั การเกิดเหตุอัคคภี ัยอยางไร ตวั อย่างคาำ ตอบ เชน่ ติดตง้ั เครือ่ งตัดไฟ เมอื่ เกดิ เหตุไฟฟาลดั วงจร และตดิ ตง้ั สัญญาณเตือนภยั ๑๐ นักเรยี นมแี นวทางการปฏบิ ตั ิตนอยา งไรเม่ือเจอกับผปู ว ยทางจติ ตัวอย่างคำาตอบ เช่น ทาำ ตวั ปกติ หรอื พยายามหลีกเลย่ี งการอยมู่ ุมอบั กับผปู้ ว ยทางจิต ๑ บคุ คลในขอใดมที กั ษะชีวติ ท่ดี ี จ. วีระแม้จะมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบเน่ืองจากพ่อและแม่หย่าขาดกันแล้ว แต่เขาก็สามารถ ใช้ชีวิตไดต้ ามปกตแิ ละไม่เคยสร้างปญหาให้ครอบครัวเลย เหตผุ ล ทกั ษะชวี ติ หมายถงึ ความสามารถขน้ั พน้ื ฐานของบคุ คลในการปรบั ตวั และเลอื กทางเดนิ ชวี ติ ทเี่ หมาะสมในการเผชญิ ปญ หาทอ่ี ยรู่ อบตวั เรา ทกั ษะชวี ติ จะตอ้ งประกอบไปดว้ ยความรู้ เจตคติ และทกั ษะ ที่ตอ้ งได้รบั การฝก ฝนหลังการปฏิบัติซ้ำาๆ จนเกิดความเคยชินเปน็ ลักษณะนิสัยของตวั เอง ๒ ทกั ษะชวี ิตชวยแกป ญหาในขอใดไดบา ง จ. ถกู ทกุ ขอ้ เหตุผล ทักษะชีวิตช่วยให้เด็กมีภูมิคุ้มกันที่ดี สามารถเผชิญหน้าและมีความสามารถในการแก้ไข ปญหาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ จงึ ทำาให้สามารถแกไ้ ขไดห้ ลายๆ ปญ หา ๓ ศิวพรเดินทางกลับบานโดยการโดยสารรถแท็กซี่เพียงลําพัง ขอใดคือสิ่งที่ศิวพรควรปฏิบัติเพ่ือ เปน การปองกันตวั เองไมใ หเกดิ สถานการณเสยี่ ง ก. ห้ามเผลอหลับเดด็ ขาด เหตุผล เม่อื โดยสารรถแทก็ ซค่ี นเดียว ตอ้ งมสี ติคอยสงั เกตพฤตกิ รรมคนขบั ว่ามพี ฤตกิ รรมน่าสงสยั หรอื ไม่ ควรน่ังเบาะหลังชิดประตูคนขบั และโทรศัพท์คุยกับเพ่อื นและผปู้ กครองเสยี งดงั ๆ ใหค้ นขบั ได้ยิน ว่ากำาลังมุ่งหน้าไปเสน้ ทางใด ๔ เมอื่ นกั เรียนพบผูปว ยทางจิตเดนิ ตรงมาหา นกั เรียนควรทาํ ตัวเชน ไร ง. ตัง้ สตทิ ำาตวั ปกตแิ ล้วเดนิ ออกมาโดยเร็ว เหตผุ ล ผปู้ ว ยทางจติ มหี ลายประเภท เชน่ ประเภทชอบโชวอ์ วยั วะเพศ ประเภทชอบลวนลาม เปน็ ตน้ ถ้าเกดิ พบผู้ปว ยลกั ษณะน้คี วรตัง้ สติ ทำาทา่ ทางปกติ เฉยชา แลว้ รีบเดินหนีออกมา
87 ๕ บคุ คลในขอใดเมือ่ ตกอยใู นสถานการณถ ูกคนรายบงั คับขมขืน มสี ตแิ ละพยายามหาทางออกไดด ที ่ีสดุ ก. นา้ำ ทพิ ยพ์ ยายามจดจาำ หนา้ ของคนรา้ ยใหไ้ ด้ หาจงั หวะทค่ี นรา้ ยเผลอ ถบี หรอื ใชม้ อื บบี ทอ่ี วยั วะเพศ ของคนร้าย เหตผุ ล ไมค่ วรดน้ิ รนตอ่ สกู้ บั คนรา้ ยเพราะอาจจะถกู ทาำ รา้ ยถงึ ชวี ติ ได้ แตค่ วรหาโอกาสทค่ี นรา้ ยเผลอ ถีบหรือใช้มือบีบท่ีอวัยวะเพศของคนร้าย กรณีถูกข่มขืนควรเข้าแจ้งความมิเช่นนั้นคนร้ายจะได้ใจและ กอ่ คดซี ำ้าอกี ๖ ขอใดคอื ส่ิงที่โรงเรยี นควรจดั การเพื่อลดความสูญเสยี ที่เกิดข้ึนขณะเกดิ ไฟไหม ง. จดั ให้มีการซอ้ มหนีไฟ และสอนเกยี่ วกับวธิ ีการเอาตัวรอดเมือ่ เกิดเหตุเพลงิ ไหม้ เหตผุ ล การซอ้ มหนไี ฟ จะชว่ ยใหเ้ ดก็ รวู้ ธิ กี ารเอาชวี ติ รอดทถ่ี กู ตอ้ งเมอ่ื เกดิ เพลงิ ไหม้ ทาำ ใหล้ ดจาำ นวน คนท่ีอาจเสยี ชวี ติ จากการเกดิ เพลงิ ไหม้ไดม้ ากท่สี ดุ วธิ หี น่ึง ๗ นักเรยี นท่ีเสียชวี ิตเน่ืองมาจากสาเหตุใด จ. เปน็ ไปไดท้ ุกข้อ เหตผุ ล ขณะเกดิ เพลงิ ไหม้ ไมค่ วรใชล้ ฟิ ต์ ควรคลานใหอ้ ย่ใู นระดบั ทตี่ าำ่ กว่าควนั และควรรบี วิ่งออก จากตัวอาคารทันที ๘ ขณะที่วิเชียรกําลังเดินเลนอยูนั้นก็เห็นเหตุการณจลาจลและดวยความอยากรูของเขา เขาจึงวิ่งเขาไป มงุ ดเู หตกุ ารณอ ยางใกลช ดิ วเิ ชยี รปฏบิ ัตถิ กู ตอ งหรอื ไม ก. ไมถ่ กู ตอ้ ง เนือ่ งจากอาจได้รับอนั ตราย เหตุผล ปญ หาการจลาจล เป็นภาวะทยี่ ากตอ่ การควบคมุ เน่อื งจากผ้กู ระทำาเน้นความรนุ แรง ดังน้นั จงึ ไม่ควรเข้าไปมงุ ดเู พราะอาจจะไดร้ บั อันตรายได้ ๙ จากขอ ๘ ขอใดคือสิ่งที่วเิ ชยี รควรทํามากที่สดุ ขณะเกดิ เหตุจลาจล ง. หลกี เลย่ี งและออกจากเหตุจลาจลใหเ้ ร็วทีส่ ดุ เหตุผล ปญหาการจลาจล เปน็ ภาวะที่ยากตอ่ การควบคมุ และค่อนข้างอนั ตราย ควรรบี ออกจากท่ี เกดิ เหตทุ นั ที ๑๐ ผลเสียทร่ี ายแรงท่สี ดุ ทีเ่ กิดเนอื่ งมาจากไมสามารถเอาตัวรอดไดจ ากสถานการณคับขนั คอื ขอ ใด ง. เสยี ชีวิต เหตุผล การเสียชีวิตเป็นผลเสียท่ีร้ายแรงทีส่ ดุ เป็นการสูญเสยี ทไี่ มส่ ามารถหาส่ิงใดมาทดแทนได้ ๑. _ฌ__. ๖. _จ_._ ๒._ก__. ๗._ซ_._ ๓._ง_._ ๘. _ญ__. ๔._ข__. ๙. _ช_._ ๕._ฉ__. ๑๐._ค__.
88 ใบงานที่ ๑๒.๑ ภยั ของผ้หู ญิง คาำ ชแี้ จง : อา นบทความตอไปน้ี แลวตอบคาํ ถาม ๑ ภยั ที่เกดิ นี้มาจากสาเหตุใด ภัยทเี่ กดิ ขึน้ น้มี าจากสาเหตทุ ีน่ กั ศึกษาคนดงั กล่าว เลือกเชา่ ห้องที่ขาดการรักษาความปลอดภัย ๒ นกั เรียนจะแกปญ หาภัยทเ่ี กดิ ข้ึนไดอยางไร ในการแก้ปญหาภัยทเี่ กิดขนึ้ คอื ย้ายไปอยทู่ ีพ่ กั ใหมท่ ม่ี ีการรักษาความปลอดภยั ทดี่ ี มกี ลอ้ งวงจรปด ใบงานที่ ๑๒.๒ การเอาตัวรอดจากสถานการณเ์ สี่ยง คำาชีแ้ จง : จงตอบคาํ ถามตอ ไปน้ี ๑ ถา ตกอยใู นสถานการณเ สย่ี ง ควรปฏบิ ตั อิ ยา งไร ๑. ต้งั สติใหด้ ี สูดหายใจลึกๆ ๒. หากยงั ไม่ถกู จโู่ จมใหห้ าทางหลบหนีใหเ้ ร็วทส่ี ดุ ๓. ถ้าเป็นเวลากลางคนื ใหว้ ่ิงไปทางทมี่ แี สงสว่าง ๔. ถา้ ประเมนิ แล้ววา่ หนไี ม่ทนั แน่ๆ ใหม้ องหาท่หี ลบซอ่ น ๕. ถ้าอย่ใู นทม่ี ีคนสญั จรไปมาให้รอ้ งตะโกนขอความช่วยเหลือใหด้ งั ทส่ี ุด หรือ ตะโกนวา่ “ตำารวจมาๆ” ๒ ถา เหน็ ผทู ต่ี กอยใู นสถานการณเ สย่ี ง ควรปฏบิ ตั อิ ยา งไร ๑. โทรแจง้ ตำารวจให้เรว็ ทสี่ ดุ ๒. เขา้ ไปชว่ ยผทู้ ่ตี กอย่ใู นสถานการณ์เสีย่ งให้เร็วท่ีสุด ใบงานที่ ๑๒.๓ ระวงั ภยั จากรถตโู้ ดยสารอนั ตรายยามคำ่าคนื คำาชแ้ี จง : จงตอบคาํ ถามตอไปนี้ ถาตอ งขึ้นรถตูโดยสาร ส่งิ แรกที่นักเรยี นควรทาํ คอื อะไร ๑. ใชบ้ ริการรถต้ปู ายเหลอื งเท่านน้ั ๒. ไม่ใชบ้ ริการรถตู้โดยสารทบี่ รรทุกเกนิ จาำ นวนทีน่ งั่ ๓. ไม่ใชบ้ ริการรถตโู้ ดยสารดัดแปลง ๔. ไม่ใชบ้ ริการรถตู้โดยสารท่ีไม่ระบเุ ส้นทางขา้ งรถ ๕. คาดเขม็ ขดั นริ ภัยทันทที ี่ขึ้นรถ ๖. จาำ หมายเลขโทรศัพท์ สายด่วนให้ขึน้ ใจ ๑๕๘๔,๑๙๑,๑๑๙๓,๑๖๖๙ ๗. ขณะรถตูโ้ ดยสารเติมเชือ้ เพลงิ ตอ้ งลงจากรถทุกครง้ั ๘. ไม่ทนนง่ั รถตู้โดยสารอนั ตราย เชน่ ขบั ซ่งิ น่าหวาดเสียว ๙. ไม่ขึ้นหรือลงรถตโู้ ดยสารนอกปายและจดุ จอด
89 ใบงานที่ ๑๒.๔ แบบประเมินผลการสรา้ งสมั พนั ธภาพและการสื่อสาร คำาชแี้ จง : (ก) ถาเห็นวาขอความใดเปนการสรางสัมพันธภาพในทางบวก ใหใสเคร่ืองหมาย ถาเห็นวาขอความใดเปนการสรางสัมพันธภาพในทางลบ ใหใสเครื่องหมาย หนาขอ ท่นี ักเรียนพิจารณา .......... ๑. ทาํ ความเคารพดวยการยนื ตรงทกุ ครั้งทพ่ี บครู .......... ๒. ชอบคยุ กบั เพ่ือนสนทิ ดวยเสียงอนั ดังทําใหค นอนื่ ๆ สนใจ .......... ๓. มาโรงเรยี นสายเพราะไมอยากพบฝายปกครองหนาโรงเรียน .......... ๔. ลูกชว ยแมท ํางานบานเพอ่ื แบงเบาภาระของแม .......... ๕. ลกู ตอ งคอยประจบเอาใจแมเพอ่ื ใหแ มส บายใจ .......... ๖. แมต อ งดลุ กู ใหมากๆ เพือ่ ใหล กู เปนคนดีตามคําโบราณ .......... ๗. แมตองเขาใจในความเปล่ียนแปลงทางรางกายและจิตใจของลูกวยั รุน .......... ๘. ครูตองสรา งกฎระเบียบท่เี ขม งวดในการควบคมุ ชนั้ เรียน .......... ๙. ครูคือท่ปี รึกษาเมอื่ มีปญหาควรปรกึ ษาครู .......... ๑๐. เม่ืออยูในสถานการณคบั ขนั ตอ งมสี ติทด่ี ี (ข) ถา เหน็ วา ขอ ความใดเปน การสอ่ื สารอยา งสรา งสรรค ใหใ สเ ครอ่ื งหมาย ถา เหน็ วา ขอ ความใดเปน การสอ่ื สารท่ี ไมสรา งสรรค ใหใสเ คร่ืองหมาย หนาขอ ทน่ี กั เรียนพิจารณา .......... ๑. ดวงดาวเขียนเรียงความเรื่องพระคณุ แมเพือ่ ระลกึ ถงึ พระคณุ แม .......... ๒. ธาราจดั ทาํ ปายโฆษณาติดประกาศเพื่อรบั บรจิ าคสง่ิ ของนําไปใหเด็ก กาํ พรา .......... ๓. สายใจใชวิธกี ารโทรถึงเพือ่ นๆ ทลี ะคนเพือ่ บอกใหร วู า เธอกาํ ลัง จะไปตา งประเทศ .......... ๔. ชดิ ชมตะโกนดวยเสยี งอันดงั เพื่อใหท ุกคนรวู า ตนเองไมพ อใจ
90 .......... ๕. กนั สีเก็บดอกไมสวยๆ ที่เธอปลูกไวม ามอบใหกับเพื่อนใหม .......... ๖. ทัศนยั ใชว ัสดุเหลอื ใชมาทําเปน ส.ค.ส. ใหเพอื่ นวนั ปใ หม .......... ๗. ธัญญาบอกกบั สุภาวา เธอตองการมีเพ่อื นทเ่ี รียนเกงหรือรํ่ารวยเทานน้ั .......... ๘. เราควรหาเพอื่ นจากอินเทอรเ นต็ เพราะทําใหมปี ระสบการณมาก .......... ๙. การเลน เกมกบั เพ่ือนทุกวันทําใหสนิทกบั เพือ่ นมาก .......... ๑๐. การย้มิ คือการใหมิตรภาพที่ไมต องลงทุน ใบงานท่ี ๑๒.๕ ทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ คำาชแี้ จง : ใหนักเรียนยกตัวอยางทักษะสําคัญที่จําเปนในศตวรรษที่ ๒๑ นําเสนอในรูปแบบแผนผังความคิด (Mind Mapping) ตัวอย่างคำาตอบ เช่น ทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ทกั ษะชวี ิตและอาชีพ ทักษะสารสนเทศ ส่อื เทคโนโลยี ทกั ษะการเรยี นรแู้ ละนวตั กรรม หมั่นหาความรู้รอบดา้ น รอบรเู้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ คิดสร้างสรรค์ รูจ้ ักเข้าสังคม รเู้ ทา่ ทันส่ือ ใสใ่ จนวัตกรรม พัฒนาอาชพี ฉลาดสอ่ื สาร มีวจิ ารณญาณ ใบงานท่ี ๑๒.๖ การปอ งกนั ภัยในกรณตี ่างๆ คำาช้แี จง : อานเรื่องการปอ งกนั ภัยในกรณีตางๆ แลว ตอบคําถามท่ีกําหนดให นกั เรยี นมที ักษะในการปอ งกันตนเองอยา่ งไร ในกรณีต่างๆ ข้ึนอยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของครู ตวั อย่างคาำ ตอบ เชน่ ๑ กรณพี บคนแปลกหนา เขา มาตสี นทิ ทกั ทาย ถ้าพบคนแปลกหน้าเข้ามาตีสนิททักทายฉันจะเลี่ยงการสนทนาโดยการเดินออกไปห่างจาก คนนัน้ แลว้ เดินไปในที่มีผคู้ นเยอะๆ และทำาทีทา่ โทรศพั ท์หาใครสักคน ๒ กรณถี กู จช้ี งิ ทรพั ย ในกรณถี กู จีช้ งิ ทรพั ย์ฉนั จะรอ้ งตะโกนขอความชว่ ยเหลอื ใหด้ ังทสี่ ุด
91 เฉลยคาำ ถามหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑๓ แนวทางในการพัฒนาสมรรถภาพ ทางกาย ๑ นักเรียนคิดวามีสมรรถภาพทางกายท่ีดหี รอื ไม เพราะเหตุใดจงึ คดิ เชนนน้ั ตัวอย่างคาำ ตอบ เชน่ เป็นคนที่หมั่นออกกำาลังกายเป็นประจำา ไม่รู้สึกเหนื่อยง่ายเวลาต้องใช้พละกำาลัง เคลื่อนไหวได้ คล่องแคล่วว่องไว และไมค่ อ่ ยมอี าการเจบ็ ไขไ้ ด้ปว ย จึงคดิ ว่าตนมสี มรรถภาพรา่ งกายท่ดี ี ๒ นกั เรยี นคดิ วา องคป ระกอบของสมรรถภาพทางกายสว นใดของนกั เรยี นทต่ี า่ํ กวา มาตรฐานและคดิ วา จะมวี ธิ ปี รบั ปรงุ สมรรถภาพดา นนน้ั อยา งไร ตัวอย่างคาำ ตอบ เชน่ องคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกายสว่ นทค่ี ดิ วา่ ตา่ำ กวา่ มาตรฐาน คอื ความออ่ นตวั โดยวธิ กี ารปรบั ปรงุ แ๓กไ้ ขคในอื ขกณาะรทฝ่ีกนเักหเยรียียดนกเดลินา้ มข้ึเนนบอ้ื ันเอไน็ดขชอ้้ันตอ่๓ เชน่ กลา้ มเนอ้ื หวั ไหล่ ลาำ ตวั ขา นอ่ ง ขอ้ เทา้ และสว่ นอน่ื ๆ มีความรูสึกวาเหน่ือยหอบและน่ังพักนานกวาจะหายเหน่อื ย นกั เรยี นมวี ธิ พี ฒั นาสมรรถภาพดา นนอ้ี ยา งไร ตวั อยา่ งคำาตอบ เช่น จดั ตารางการออกกาำ ลงั กายอยา่ งสมา่ำ เสมอและตอ่ เนอ่ื ง โดยวธิ กี ารออกกาำ ลงั กายทใ่ี ชเ้ ปน็ การออกกาำ ลงั กายเพอ่ื เสรมิ สรา้ งความอดทนของระบบไหลเวยี นเลอื ดและระบบหายใจ เชน่ การเตน้ แอโรบกิ การขจ่ี กั รยาน การวง่ิ เหยาะ เปน็ ตน้ ๔ องคประกอบของรางกายของนักเรียนอยูในระดับใด นักเรียนมีวิธีควบคุมปริมาณไขมันในรางกาย อยา งไรใหม คี วามเหมาะสม ตวั อย่างคำาตอบ เช่น จากการวดั องคป์ ระกอบของรา่ งกายจดั อยใู่ นระดบั ดี โดยวธิ คี วบคมุ ปรมิ าณไขมนั ในรา่ งกายทป่ี ฏบิ ตั ิ เปน็ ประจาำ นน้ั ไดแ้ ก่ การออกกาำ ลงั กายแบบแอโรบกิ ๕ นกั เรยี นคิดวา การทดสอบและประเมนิ สมรรถภาพทางกายเพือ่ สขุ ภาพ สง ผลดีอยา งไร ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เชน่ ทาำ ใหส้ ามารถประเมนิ วา่ สมรรถภาพทางกายของตนจดั อยใู่ นระดบั ใดบา้ ง ถา้ การทดสอบและประเมนิ สมรรถภาพทางรา่ งกายใดตา่ำ กวา่ เกณฑก์ ส็ ามารถนาำ มาวางแผนในการพฒั นาและปรบั ปรงุ ตอ่ ไปได้ ๖ ถา หากนกั เรียนมสี มรรถภาพทางรา งกายทไ่ี มด ี จะสง ผลตอสภาพรางกายของนกั เรียนอยางไร ตัวอย่างคำาตอบ เชน่ ทาำ ให้เกดิ การเจ็บไข้ได้ปว ยไดง้ า่ ย เกดิ อาการเหนื่อยงา่ ย ร่างกายไม่แข็งแรง และอาจสง่ ผลไปยงั สภาพจติ ใจที่ไมแ่ จม่ ใส สดช่นื อกี ด้วย ๗ นกั เรียนมีความคิดเห็นตอ การออกกาํ ลงั กายตามหลัก FITT อยา งไร ตวั อยา่ งคาำ ตอบ เช่น เปน็ หลกั การออกกาำ ลงั กายทเ่ี หมาะสมและสาำ คญั ตอ่ การออกกาำ ลงั กายในทกุ ๆ ชนดิ เนอ่ื งจากสามารถ กาำ หนดรปู แบบการออกกาำ ลงั กาย ระยะเวลา และความหนกั ในการออกกาำ ลงั กาย โดยข้ึนกับประเภทการ ออกกาำ ลังกายที่เราเลอื ก
92 ๘ ถาหากนักเรียนไมอบอุนรางกาย จะสงผลตอรางกายของนักเรียนหลังจากออกกําลังกายหรือไม อยางไร ตัวอย่างคำาตอบ เชน่ หากไมอ่ บอนุ่ รา่ งกาย จะสง่ ผลทาำ ใหไ้ ดร้ บั บาดเจบ็ ได้ เนอ่ื งจากเวลาออกกาำ ลงั กายจรงิ จะตอ้ งอาศยั การ ยืดหรือหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ ดังนั้นถ้าหากไม่อบอุ่นร่างกายก่อน อาจเกิดการฉีกขาดของ กล้ามเนื้อได้ ๙ นกั เรยี นมกี ารสง เสรมิ สมรรถภาพทางกายเพอ่ื สขุ ภาพอยา งไร ตวั อย่างคาำ ตอบ เชน่ การออกกำาลังกายหลากหลายรูปแบบ เพ่ือส่งเสริมสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพในหลายๆ ด้าน เช่น การเต้นแอโรบิก การกระโดดเชือก การวิ่งเหยาะๆ การฝกเหยียดกลา้ มเนอื้ เพอื่ เสริมความออ่ นตวั เป็นตน้ ๑๐ นกั เรยี นมกี ารสง เสรมิ สมรรถภาพทางกายเพอ่ื ทกั ษะไดอ ยา งไรบา ง ตัวอยา่ งคำาตอบ เช่น ในดา้ นของการส่งเสรมิ สมรรถภาพทางกายเพื่อทกั ษะ ไดแ้ ก่ การฝก เล่นโยคะเพื่อเพ่ิมความสามารถ ในด้านการทรงตัว การว่ิงเร็วเพ่อื การเพ่มิ ความสามารถในการเคลือ่ นท่ไี ดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ๑ บุคคลในขอใดมสี มรรถภาพทางกายทดี่ ี ง. เมฆาสามารถยกของทมี่ ีน้าำ หนักโดยไมป่ วดกลา้ มเน้อื เหตุผล สมรรถภาพทางกายท่ดี ชี ว่ ยส่งเสริมใหร้ า่ งกายมคี วามแข็งแรง เพิม่ ความสามารถในการยก ของหนกั ได้หากมกี ารออกกาำ ลังเพื่อเพ่มิ ความแขง็ แรงของกล้ามเนอื้ ๒ มัณฑนามีปญหาในการกมลงเก็บของโดยไมงอเขาหรือแอนลําตัวอยูเปนประจํา มัณฑนาจําเปนตองไดรับ การเสรมิ สรางสมรรถภาพทางกายขอ ใด ข. ความอ่อนตัว เหตุผล เน่ืองจากมัณฑนาน่าจะมีปญหาในการเหยียดตัวของข้อต่อ เน่ืองจากมีปญหาเกี่ยวกับการ แ๓อ่นลจำาาตกัวขอ กา๒รเกหายรอียอดกขกอาํ งลขงั ากาทยำาใใดหเห้เธมอาะนส่ามจทะส่ีมุดีคใวนากมารอป่อรนับตปวั รตุงสา่ำ มกรวรา่ ถเภกณาพฑท างกายของมัณฑนา ง. การเล่นโยคะ เหตุผล เนื่องจากการเล่นโยคะมีหลายท่าที่ต้องใช้ความสามารถในการอ่อนตัว การเหยียดตัวของ ข้อต่อในส่วนต่างๆ ของร่างกาย จึงน่าจะเหมาะสมกับความต้องการพัฒนาปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย ของมณั ฑนาทส่ี ดุ ๔ บคุ คลในขอใดนําผลของการทดสอบสมรรถภาพทางกายมาใชใ หเ กิดประโยชน จ. ทองแท้วางแผนพัฒนาสมรรถภาพทางกายใหเ้ ปน็ ไปอย่างเหมาะสม เหตุผล ประโยชน์ของการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ได้แก่ ช่วยให้สามารถวางแผนพัฒนา สมรรถภาพทางกายได้อย่างเหมาะสม ช่วยปรับปรุงและพัฒนาสมรรถภาพทางกายท่ีตำ่ากว่าเกณฑ์ และ ทำาให้ตระหนกั ถงึ ระดับสมรรถภาพทางกายของตวั เรา
93 ๕ พรกมลมปี ญหาสมรรถภาพทางกายดา นใดบา ง ง. ความอดทนของระบบไหลเวียนเลือด ระบบหายใจและองค์ประกอบของรา่ งกาย เหตุผล อาการเหน่อื ยงา่ ย แสดงถงึ มีปญหาเก่ียวกับความอดทนของระบบไหลเวียนเลือดและระบบ หายใจ สว่ นคา่ ดชั นมี วลกายทตี่ าำ่ กวา่ เกณฑเ์ ปน็ ผลทตี่ อ้ งการนาำ ไปใชเ้ ปน็ ผลขององคป์ ระกอบของรา่ งกาย ๖ ขอใดคือคาดชั นมี วลกายของพรกมล ค. ๒๓.๓ เหตุผล จากข้อความท่ใี หอ้ า่ นระบุว่าพรกมลมดี ชั นมี วลกายอยใู่ นเกณฑน์ าำ้ หนกั เกนิ เพราะฉะนั้นคา่ ดชั นีมวลกายเท่ากับ ๒๓.๓ แปลผลไดว้ า่ อย่ใู นเกณฑ์นา้ำ หนักเกิน ๗ พรกมลควรออกกาํ ลงั กายตามขอ ใดเพอื่ สรา งเสรมิ สมรรถภาพทางกายท่ีตาํ่ กวา เกณฑ จ. เตน้ แอโรบิกและการวิง่ เหยาะๆ เหตุผล เนื่องจากการออกกำาลังกายเพื่อสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายความอดทนของระบบไหล เวียนเลือดและระบบหายใจกบั องค์ประกอบของร่างกาย ได้แก่ เต้นแอโรบิก การปน จักรยาน และการว่งิ เหยาะๆ เป็นตน้ ๘ การยืดเหยียดกลา มเนื้อกอ นออกกําลงั กายจําเปนหรือไม อยางไร ข. จำาเปน็ เพราะถ้าไม่ปฏิบตั ขิ ้ันตอนนอ้ี าจเกดิ การบาดเจ็บได้ เหตผุ ล เปน็ ขน้ั ตอนการอบอนุ่ รา่ งกาย ซง่ึ เปน็ ขน้ั ตอนทส่ี าำ คญั ควรปฏบิ ตั ทิ กุ ครง้ั กอ่ นการออกกาำ ลงั กาย เพอื่ ยดื กลา้ มเนอ้ื ใหม้ ากทส่ี ดุ แตถ่ า้ ไมป่ ฏบิ ตั อิ าจทาำ ใหเ้ กดิ การบาดเจบ็ ไดเ้ พราะเวลาออกกาำ ลงั กายจรงิ ตอ้ ง อาศยั การยืดและหดตัวเต็มทข่ี องกลา้ มเน้ือ ๙ ขอ ใดหมายถงึ F ในหลกั FITT ก. วิรยิ ะออกกาำ ลงั กายสัปดาหล์ ะ ๓ ครงั้ เหตผุ ล F ในหลกั FITT หมายถงึ ความถใี่ นการออกกาำ ลงั กาย นัน้ ก็สอดคลอ้ งกับคำาตอบขอ้ ก. คือ วริ ยิ ะออกกำาลังกายสปั ดาหล์ ะ ๓ คร้ัง ๑๐ ขน้ั ตอนสุดทา ยของการออกกําลงั กายคอื อะไร ปฏิบตั ิเพ่อื อะไร จ. การคลายอนุ่ เพ่อื ปอ งกนั ความเมอ่ื ยล้าและปอ งกนั การเวยี นศรี ษะ เหตุผล การคลายอุ่น เปน็ การเคล่ือนไหวชา้ ๆ ภายหลังจากท่ีไดอ้ อกกาำ ลังกายมา เพอื่ ให้รา่ งกายได้ ทาำ งานตามสภาวะปกติ ปอ งกนั ความเมอ่ื ยลา้ กาำ จดั กรดแลก็ ตกิ ออกจากรา่ งกาย และปอ งกนั อาการเวยี นศรี ษะ ๑. _ง_._ ๖. _ฉ_._ ๒._ก__. ๗._ซ_._ ๓._ฌ__. ๘. _ญ__. ๔._ข__. ๙. _ค_._ ๕._จ_._ ๑๐._ช__.
94 ใบงานที่ ๑๓.๑ ประเภทสมรรถภาพทางกาย คาำ ชี้แจง : ใหน กั เรียนเขียนแผนผงั ความคดิ (Mind Mapping) อธิบายประเภทของสมรรถภาพทางกาย ความแข็งแรงและความอดทน ความออ่ นตัว ของกล้ามเนื้อ องคป์ ระกอบของร่างกาย ความอดทนของระบบไหลเวยี นเลือด และระบบหายใจ สมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ ความเรว็ ประเภทของ พละกำาลงั ของกล้ามเน้ือ สมรรถภาพ ทางกาย สมรรถภาพทางกายเพอ่ื ทักษะ การประสานสัมพนั ธ์ ระยะเวลาของการทรงตวั ความคลอ่ งแคล่ววอ่ งไว การทรงตัว
95 ใบงานที่ ๑๓.๒ ประโยชนส์ มรรถภาพทางกาย คำาชี้แจง : ใหน ักเรียนบอกประโยชนข องสมรรถภาพทางกาย ขน้ึ อยู่กบั ดุลยพินจิ ของครู ตวั อย่างคาำ ตอบ เช่น สมรรถภาพทางกายมคี วามสาำ คญั ตอ่ การดาำ รงชวี ติ ของบคุ คล เพราะเปน็ สว่ นสาำ คญั ทจี่ ะทาำ ใหบ้ คุ คล สามารถปฏบิ ตั งิ านหรอื กจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การมสี มรรถภาพทางกายทดี่ จี ะชว่ ย พัฒนาในด้านสุขภาพของร่างกาย บุคลิกลักษณะและความรู้สึกท่ีดีต่อตนเอง มีประโยชน์ในการเข้าร่วม กจิ กรรมการออกกำาลังกายสมา่ำ เสมอ ใบงานที่ ๑๓.๓ ทดสอบสมรรถภาพทางกาย คาำ ชี้แจง : ใหน กั เรยี นทดสอบสมรรถภาพทางกาย ประเมนิ สมรรถภาพทางกาย บนั ทกึ ขอ มลู ลงในตารางและตอบ คาํ ถามจากขอ ที่กําหนดให ข้นึ อยกู่ ับสภาพจรงิ ของนักเรียน อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครู ตัวอยา่ งคำาตอบ เช่น ท่ี รายการ คา่ ทใ่ี ชว้ ดั ได้ การแปลผล หมายเหต ๑๙.๕๐ ปกติ - ๑. ดัชนมี วลกาย ๗.๐๓ ดมี าก - ๒. การวิง่ ระยะไกล ๓๗ ดี - ๓. การลุกน่งั ๑๑.๘ - ๔. ความออนตัว ปานกลาง ๑ จากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย นกั เรียนพอใจการทดสอบดานใดมากทสี่ ดุ เพราะเหตใุ ด จากการทดสอบสมรรถภาพทางกายฉันพอใจในการว่ิงระยะไกล เพราะ เป็นการออกกำาลังกาย อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เปน็ การพฒั นาระบบไหลเวยี นเลอื ด และระบบหายใจ ๒ จากผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย นักเรียนพอใจผลการทดสอบดานใดนอยท่ีสุดและนักเรียน วางแผนปรบั ปรงุ และพฒั นาสมรรถภาพทางกายอยา งไร จากการทดสอบสมรรถภาพทางกาย พอใจดา้ นความออ่ นตวั นอ้ ยทส่ี ดุ เพราะคดิ วา่ ตนเองควรทาำ ไดด้ ี กวา่ นี้ ในการปรบั ปรงุ และพฒั นาสมรรถภาพด้านนี้คือจะฝกยดื เหยียดกลา้ มเนือ้ เปน็ ประจาำ
96 ใบงานที่ ๑๓.๔ วธิ ีทดสอบสมรรถภาพทางกาย คาำ ชแี้ จง : ใหน กั เรยี นเลอื กวธิ ที ดสอบสมรรถภาพทางกายในแตล ะดา นทเ่ี หมาะสม พรอ มทงั้ อธบิ ายเหตผุ ลประกอบ ๑. การทดสอบความอดทนของระบบไหลเวยี นเลอื ดและระบบหายใจ นกั เรยี นเลอื กทดสอบโดยวธิ ี เดนิ หรอื วง่ิ ๑.๖ กโิ ลเมตร เพราะ เปน็ การออกกาำ ลงั กายเพอ่ื สรา้ งความอดทนของระบบไหลเวยี นเลอื ด ซง่ึ เปน็ การออกกาำ ลงั กายอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ๒. การทดสอบความแขง็ แรงและความอดทนของกลา้ มเนอ้ื นกั เรยี นเลอื กทดสอบโดยวธิ ี ลกุ นง่ั ๖๐ วนิ าที เพราะ เปน็ วธิ กี ารออกกาำ ลงั กายทท่ี าำ ใหก้ ลา้ มเนอ้ื มคี วามแขง็ แรง และมคี วามอดทน ๓. การทดสอบความออ่ นตวั นกั เรยี นเลอื กทดสอบโดยวธิ ี การนง่ั งอตวั ไปขา้ งหนา้ เพราะ เปน็ การเหยยี ดกลา้ มเนอ้ื เอน็ ขอ้ ตอ่ เพอ่ื สรา้ งเสรมิ ความออ่ นตวั ซง่ึ สามรถปฏบิ ตั ไิ ดท้ กุ วนั ในชว่ งของการอบอนุ่ รา่ งกาย ๔. นกั เรยี นมวี ธิ กี ารวางแผนเพอ่ื ปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายของตนเองอยา่ งไร ออกกาำ ลงั กายอยา่ งสมา่ำ เสมอ สปั ดาหล์ ะ ๓ ครง้ั ครง้ั ละ ๓๐ นาที ถงึ ๒ ชว่ั โมง ๕. ประโยชน์ของการมสี มรรถภาพทางกายทด่ี ี ทาำ ใหร้ า่ งกายแขง็ แรงมสี ขุ ภาพทด่ี ไี มเ่ จบ็ ปว ยงา่ ย
Search