๘หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี การช่วยฟ้นื คืนชีพ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ • แสดงวิธีการชว่ ยฟ้ืนคืนชพี อยา่ งถูกวธิ ไี ด้
ความหมายของการชว่ ยฟ้ืนคนื ชีพ • การชว่ ยฟ้นื คืนชีพหรือการปฏิบัติการชว่ ยชวี ติ หมายถงึ วิธกี ารช่วยเหลอื ผู้ป่วยทก่ี าลงั จะเสียชวี ิตใหส้ ามารถฟื้นคืนชพี ขึน้ มาได้ หรือเรียกชอ่ื ยอ่ ว่า ซพี ีอาร์ (CPR = Cardiopulmonary Resuscitation) • มกี ารศึกษาวิจัยทไ่ี ด้ผลแนน่ อนแล้ววา่ การปฏิบัติการชว่ ยชวี ิตโดยเร็วทส่ี ุด จะทาใหผ้ ้ปู ่วยทเี่ สยี ชวี ติ ฟนื้ คืนชพี ได้ โดยเฉพาะการ เสียชีวิตท่ีเกิดจากการที่หวั ใจหยดุ บบี ตัวและหยดุ หายใจกะทนั หนั
ข้นั ตอนปฏบิ ตั ใิ นการชว่ ยฟ้นื คนื ชพี • สงั เกตการตอบสนองของผูป้ ว่ ย โดยตรวจดูว่าผปู้ ่วยยงั ร้สู ึกตวั หรอื ไม่ อาจจะดว้ ยการเขยา่ ตวั เบาๆ หรือถามเสยี ง ดังๆ ว่า “คณุ เป็นอะไรหรอื เปลา่ ” หากผ้ปู ว่ ยไมม่ ีการตอบสนองแสดงวา่ ไมร่ ู้สึกตวั • เรยี กคนทอ่ี ยู่ใกล้เคียงชว่ ยเหลือ ถา้ ไม่มคี วรทจ่ี ะทาการชว่ ยเหลอื ด้วยตนเอง โดยจัดท่าของผู้ป่วยให้อยู่ในลกั ษณะ ทา่ นอนหงายบนพ้นื เรยี บที่แขง็ พอสมควร จดั ให้ศีรษะของผูป้ ่วยอยตู่ ่ากว่าระดับหวั ใจ • ผชู้ ว่ ยเหลือนง่ั คุกเขา่ ใกลก้ ับบริเวณไหลข่ องผปู้ ว่ ย ใช้มือขา้ งหน่ึง กดหนา้ ผากของผปู้ ่วยเอาไว้ มอื อกี ขา้ งดันคางให้หน้าแหงนขน้ึ จนกระท่ังฟันบนและลา่ งเกอื บจะชดิ กนั แต่อยา่ ใหป้ ดิ สนทิ เพ่ือ เป็นการเปิดทางเดินหายใจใหเ้ พียงพอจากนนั้ เอาแกม้ แนบใกล้ กบั ปากของผปู้ ่วยเพ่อื สมั ผัสลมหายใจ
• ถ้าไมส่ ามารถฟงั หรือสมั ผัสลมหายใจได้ แตท่ รวงอกมีการเคล่ือนไหวอยู่ แสดงวา่ อาจมีสิ่งแปลกปลอมเขา้ ไปอุด ตนั บรเิ วณทางเดนิ หายใจผชู้ ว่ ยเหลอื จะต้องจบั ศรี ษะของผปู้ ว่ ยให้เอียงด้านข้าง และใช้น้ิวมอื ๒ นิ้ว ลว้ งเขา้ ไปใน ปากเพ่อื เอาสิง่ แปลกปลอมที่อาจอยู่ภายในปากออก ซ่ึงเปน็ สงิ่ กีดขวางทางเดนิ หายใจ • ถ้าผปู้ ่วยไมห่ ายใจจะต้องช่วยเหลอื ใหเ้ กิดการหายใจขน้ึ โดยวธิ เี ปา่ ปาก (Mouth to Mouth) ใหผ้ ชู้ ว่ ยเหลือใช้ น้วิ ชแ้ี ละนิ้วหวั แมม่ อื บบี จมกู ของผปู้ ว่ ยให้แนน่ ฝ่ามือกดหน้าผากใหห้ นา้ แหงนข้นึ เหมอื นเดมิ จากนั้นสดู ลมหายใจ เข้าใหเ้ ตม็ ทแ่ี ลว้ อา้ ปากให้กว้าง และประกบปากแนบกับปากของผู้ปว่ ยใหส้ นทิ พรอ้ มกบั เป่าลมเข้าปากของ ผ้ปู ่วยชา้ ๆ เพ่อื ให้ปอดของผู้ปว่ ยขยายเตม็ ที่ แลว้ เป่าปากคร้งั ทสี่ องเมอ่ื ผปู้ ่วยหายใจออกก่อน (การใช้วธิ ีเป่าปาก ควรมสี ่งิ ที่กัน้ ระหว่างผชู้ ่วยเหลอื กบั ผู้ปว่ ย) นอกจากนีค้ วรระมดั ระวังการชว่ ยเหลือผู้ท่ตี ิดเชือ้ เอดส์ (HIV) โดยการ ตรวจดูวา่ ผูป้ ว่ ยมีแผลในปากหรอื บริเวณหนงั รอบปากหรอื ไมก่ อ่ นการช่วยเหลือ
• ภายหลงั จากการเป่าปาก ๒ ครง้ั ไปแลว้ ใหต้ รวจดูชีพจรแตถ่ า้ คลาชพี จรไมพ่ บให้ทาการนวดหวั ใจทนั ทโี ดยใหผ้ ู้ช่วยเหลือนงั่ คุกเขา่ ลงขา้ ง ลาตวั ผู้ป่วยบรเิ วณหนา้ อก และใช้น้ิวมอื สมั ผัสท่กี ระดูกชายโครง แลว้ เลื่อนนิว้ มากดตรงกลางจนกระทั่งนิว้ นางสัมผสั กบั ปลายกระดูก หน้าอก โดยให้ปลายนิว้ ชแี้ ละนิว้ กลางวางบนกระดกู หน้าอกตอ่ จาก น้ิวนางแล้วใชส้ นั มืออีกข้างหนง่ึ วางตรงก่งึ กลางกระดกู หนา้ อกตาแหนง่ ท่ีอย่ถู ัดจากนิว้ ชข้ี ้ึนไปข้างบน จากนัน้ วางมืออีกขา้ งหนึ่งทบั ลงบนมือท่ี อยู่ชดิ กระดกู หน้าอก โดยให้น้วิ มอื บนสอดประสานในงา่ มนิ้วมอื ล่าง พอดี • คุกเข่าและโนม้ ตัวไปขา้ งหน้า โดยให้แขนตงั้ ฉากกบั หน้าอกของผู้ปว่ ย แขนเหยยี ดตรง จากนนั้ กดลงด้วยนา้ หนกั ที่ ทาใหก้ ระดูกหนา้ อกน้นั ยุบตัวลงประมาณ ๓-๕ เซนตเิ มตร ดว้ ยอตั ราอยทู่ ี่ประมาณ๑๐๐ ครัง้ ตอ่ นาที • ให้นบั จานวนครงั้ ทีก่ ดเป็นจงั หวะ ๑ - ๓๐ ไปจนครบ ๓๐ คร้งั โดยออกเสยี งเป็นสองพยางคต์ ัง้ แต่ ๒๑ ว่า ยีบเอด็ แล้วจึงสลบั กับการเปา่ ปาก ๒ ครงั้ ซ่งึ ถอื เปน็ ๑ รอบ ภายหลังท่ีปฏบิ ตั คิ รบ ๔ รอบ ให้ตรวจชีพจรและการหายใจ อีกครั้ง แต่ถา้ คลาชพี จรไมพ่ บให้กดหนา้ อกต่อไป หรอื คลาชพี จรไดแ้ ต่ไมห่ ายใจใหเ้ ปา่ ปากต่อไป
หลกั ปฏบิ ตั ิโดยทวั่ ไปในการชว่ ยฟืน้ คืนชีพ • ไมว่ ่าจะเหตุผลใดๆ หรือมเี หตกุ ารณ์อย่างอ่ืนเกดิ ขึ้น อยา่ หยุดการปฏิบตั กิ ารชว่ ยชวี ติ นานกว่า ๕ วนิ าที ยกเว้น กรณี ต้องปฏบิ ัติการคนเดียว และจาเป็นต้องโทรศพั ทเ์ รยี กรถพยาบาลให้มาชว่ ย • ระหว่างทอี่ ยู่ในรถพยาบาลไปจนถึงห้องฉุกเฉินท่โี รงพยาบาล อยา่ หยดุ การปฏิบัติการช่วยชีวติ เปน็ อนั ขาด และจะต้อง ทาติดต่อเรอ่ื ยไปถึงแมผ้ ู้วา่ ป่วยจะอยูบ่ นเปลหามที่กาลังจะยกเข้าไปในสถานพยาบาลก็ตาม • ถา้ หากตอ้ งหามลงหรอื ข้นึ บนั ได ควรปฏิบตั ิการชว่ ยชวี ิตกอ่ นขึน้ หรือลงบันได โดยใหผ้ หู้ ามเปลลงหรือขน้ึ บันไดให้เรว็ ทส่ี ดุ เมอื่ เปลถึงพ้นื ราบ ใหร้ ีบทาการชว่ ยชีวิตตอ่ ทนั ทีอย่างช้าท่สี ดุ ตอ้ งหยดุ ไมเ่ กิน ๓๐ วนิ าที การโทรศัพท์แจ้งศนู ยบ์ ริการช่วยชีวิตผูป้ ว่ ยฉุกเฉนิ ควรใหข้ อ้ มูลดังนี้ • สถานทเ่ี กดิ เหตุ • หมายเลขโทรศัพท์ • เหตุการณท์ ่เี กิดข้นึ เช่น อุบัตเิ หตรุ ถชน ผปู้ ่วยหวั ใจวาย เปน็ ต้น • จานวนผู้ป่วยท่ีต้องการความชว่ ยเหลอื • สภาพผ้ปู ว่ ยในขณะนนั้ • การปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยชีวิตที่ไดก้ ระทาไปแลว้
• ถา้ การเป่าลมเข้าปากของผปู้ ว่ ยท่ีมีภาวะทางเดินหายใจอดุ ตนั ไมไ่ ด้ผล กไ็ ม่มีประโยชน์ทจ่ี ะไปกดหน้าทอ้ งหรอื กด หน้าอก ใหเ้ ลอื ดเข้าหรือออกจากหัวใจ เพราะไม่มีออกซเิ จนเข้าปอด แต่ควรแกไ้ ขการอุดตนั ทางเดนิ ลมหายใจ ของผปู้ ่วยเสยี ก่อน • ความเรว็ ในการปฏบิ ัตมิ คี วามสาคัญมากท่สี ดุ ซึ่งควรได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี • ในการกดหน้าอกควรวางมือใหถ้ ูกต้อง ถา้ หากวางมือไมถ่ กู ต้อง อาจไปกดกระดูกซโี่ ครงจนหกั หรือปลายกระดูก หน้าอกหกั ซึ่งปลายหกั ที่แหลมอาจไปทมิ่ ตบั ปอดและมา้ มได้ ซ่งึ ทาให้เกดิ อนั ตรายถึงชีวติ • ควรปลอ่ ยมือหลังจากกดกระดกู หนา้ อก เพ่อื ใหห้ วั ใจขยายตัวและเลือดจะได้เขา้ สู่หวั ใจได้มากและทาใหก้ ารกด หน้าอกคร้ังต่อไปมีเลือดจานวนมากออกจากหัวใจ • ไมก่ ดหน้าอกเรว็ และแรงเกนิ ไปเพราะอาจทาให้หวั ใจชา้ หรอื กระดูกหักได้
• ขณะปฏบิ ัตกิ ารกดหน้าอก ถ้าได้ยนิ เสียงเหมือนกระดกู แตกหรอื หักตอ้ งหยดุ ทนั ที และตรวจดูตาแหนง่ ทีว่ างมือ ใหถ้ ูกตอ้ ง • ขณะปฏิบัติการหากผปู้ ่วยอาเจียนซง่ึ อาจเกิดจากมีลมในกระเพาะอาหารมาก ใหต้ ะแคง ศรี ษะผู้ป่วยไปทางด้านขา้ ง และพยายามใช้นิ้วมือลว้ งเศษอาหารออกจากปากให้มาก ทส่ี ุดเทา่ ที่จะทาได้ เพื่อป้องกันไม่ใหเ้ ศษอาหารตกลงไปในหลอดลมและเมอ่ื ลว้ งเศษ อาหารออกไปหมดแล้วจับผู้ป่วยแหงนคอในท่านอนหงาย เพ่อื ทาการปฏิบัตกิ ารช่วยชีวติ ต่อไป
การหา้ มเลือด • โดยปกตเิ มือ่ คนเรามีบาดแผล หากบาดแผลไมใ่ หญ่เกินไป เลอื ดมักจะหยุดได้เองภายในเวลาอันรวดเรว็ จากการทา หน้าทอ่ี ย่างมปี ระสิทธภิ าพของกลไกการห้ามเลอื ดของร่างกาย คือ การหา้ มเลือดของร่างกายโดยอาศยั หลอดเลือด และสว่ นประกอบของเลือดคือ เกล็ดเลอื ด (platelet) และโปรตนี ต่างๆ รวมกันเป็นผลทาใหเ้ กดิ ลิ่มเลือดขึ้น • เม่ือร่างกายมกี ารตกเลอื ดภายนอกหมายถึงการท่หี ลอดเลือดถูกทาลายและมีเลือดออกมาให้เห็น ถา้ เปน็ การตกเลือด ทอ่ี อกมาจากหลอดเลอื ดแดง จะมสี แี ดงจดั โดยพงุ่ ออกมาตามจงั หวะการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะเป็นอันตรายถ้าเลอื ดไม่ หยดุ และไม่ไดห้ ้ามเลอื ด ผูป้ ว่ ยจะเสียชีวิตภายใน ๓-๕ นาทหี ากเลือดออกจากหลอดเลือดดาจะมีสีค่อนข้างคล้า ถา้ เปน็ หลอดเลอื ดใหญก่ อ็ าจจะพงุ่ ได้ และถา้ เลือดออกแบบซึมๆ แสดงว่าเป็นเลือดที่เกิดจากหลอดเลือดฝอย ซึง่ จะ สามารถหยุดไดเ้ อง
วธิ กี ารห้ามเลอื ด ใช้นวิ้ กดลงบนบาดแผลตรงทม่ี ีเลอื ดออก มือทใี่ ชก้ ดต้องล้างและฟอกสบใู่ ห้ ๑ สะอาดหรอื อาจทาโดยใช้ผ้าสะอาดวางระหวา่ งมอื และบาดแผลก่อน แล้ว ใชน้ ้วิ กดวา่ เลือดซึมอยู่ท่ผี า้ หรอื ไม่ถ้าเลอื ดไม่หยุดหรือซมึ มากที่ผา้ อย่าเอา ผา้ ออก แตใ่ ห้ใช้ผ้าผนื ใหม่ปิดและกดทบั ลงไปท่เี ดิม ๒ ยกสว่ นท่มี ีเลือดออกให้สูงขึน้ กวา่ ระดบั หัวใจ เชน่ ยกแขน หรือถ้า เลอื ดออกท่ขี ากใ็ ห้นอนยกขาสงู ขึ้น ยกเวน้ ในกรณที ี่มีกระดูกหกั ร่วมด้วย ต้องพยายามใหอ้ วัยวะสว่ นนั้นอยนู่ ่ิงมากทีส่ ดุ ถา้ บริเวณที่ตกเลอื ดอยู่ต่ากว่าขอ้ พับของขอ้ ศอก หรอื ข้อเขา่ ใหใ้ ชผ้ ้าหรอื ๓ สาลมี ว้ นวางทีข่ ้อพบั และพบั ขอ้ ศอกหรือขอ้ เขา่ นน้ั ไว้ แลว้ ใช้ผ้าสะอาดพัน รอบๆ ข้อพับไว้ใหแ้ นน่ วธิ ีน้เี รยี กว่า วิธใี ช้ “แพด แอนด์ แบนด์เดจ” (Pad and Bandage) ที่ข้อพบั
วธิ กี ารห้ามเลอื ด (ตอ่ ) ๔ การใช้น้าแขง็ ประคบท่ีบรเิ วณแผล ซ่งึ ความเย็นจะทาใหห้ ลอดเลอื ดตีบ และเลือดทอี่ อกมาจะแขง็ ตัวได้ การใช้สายรดั หรือทูนิเก้ (Tourniquet) รดั เหนือแผล เป็นการหา้ มเลือด บริเวณแขนหรอื ขา เพอ่ื ห้ามเลือดไม่ใหไ้ ปสบู่ ริเวณแผลน้ัน ซ่ึงการใช้วิธีน้ี ๕ ตอ้ งทาด้วยความระมดั ระวงั อย่างมาก โดยให้คลายสายรดั ออกเป็นระยะๆ เนอ่ื งจากการใช้สายรัดอาจทาใหเ้ กดิ อันตรายหรอื การบาดเจ็บเพิ่มขึ้นได้ เพราะตอ้ งรดั เนื้อเยอ่ื ซง่ึ อาจนาไปสกู่ ารทาลายอย่างถาวรของเส้นประสาท หรือเส้นเลือด นอกจากน้ียังเป็นการตัดการไหลเวียนของเลือดทั้งหมดที่จะ ไปเลี้ยงอวัยวะสว่ นปลายนัน้ ๆ ซึ่งไม่แนะนาให้ใช้วิธีนี้ถา้ ไมจ่ าเปน็
การหา้ มเลอื ดตามตาแหน่งต่างๆ ของร่างกาย ๑ ศรี ษะ ใชผ้ ้าสะอาดทบั กนั หนาๆ แทนผ้าพันแผลหรอื ผา้ ก๊อซ หรือใช้สาลหี นาๆวางบนตาแหน่งท่ีเลอื ดออก แลว้ ใช้ผา้ พันแผลพนั ให้แน่น ๒ ลนิ้ หรอื ริมฝีปาก ใชน้ ิ้วหวั แมม่ อื หรือนิ้วชี้บบี ท่ีสองข้างของแผล ๓ บริเวณคอ ใชน้ ว้ิ มือกดบนหลอดโลหิตหรอื ใช้ผา้ หนาๆ สาลหี นาๆ วางซอ้ นกันแล้วกดดว้ ยนิ้วมอื หรอื อาจ ใชผ้ ้าพันแผลพนั ด้วยก็ได้ ๔ บรเิ วณตน้ แขนหรือปลายแขน ยกแขนให้สูงขึ้นแล้วอาจใช้สายยางรดั ดว้ ย ๕ ขอ้ มือ ใช้นิ้วกดหรือใช้ผ้าหนาๆ กดรวมกบั สายยางรดั
การหา้ มเลอื ดตามตาแหน่งต่างๆ ของรา่ งกาย (ตอ่ ) ๖ ฝ่ามือ ให้ผ้ปู ว่ ยกาผ้าหรือสาลีท่ีสะอาดใหแ้ นน่ แลว้ ใช้ผา้ พันรอบมอื ไว้ เมอ่ื หา้ มเลอื ดแล้วควรใชผ้ ้าคลอ้ งคอ หอ้ ยแขนไวด้ ้วย ๗ ต้นขาและขา ใช้นิ้วกดหรือสายยางรัดเหนอื แผลแล้วยกขาใหส้ ูง ๘ เทา้ ใช้วธิ แี พด แอนด์ แบนด์เดจ โดยยกเท้าใหส้ งู • ในการหา้ มเลือดแต่ละตาแหน่งของบาดแผลจะใช้วธิ ีการหา้ มเลือดวิธใี ดกต็ ามผปู้ ฐมพยาบาล ควรพจิ ารณา ลักษณะของเลอื ดท่อี อกและปริมาณเลือดทอี่ อกและพยายามหาวธิ ีสง่ ผู้ปว่ ยไปยงั สถานพยาบาลใหเ้ ร็วที่สุด
การช่วยฟืน้ คืนชพี ในสถานการณ์ต่างๆ อบุ ัติเหตจุ ากการจราจรทางบก อุบัตเิ หตุทเ่ี กดิ จากการจราจรทางบก เช่น รถชน รถพลิกคว่า เป็นตน้ เมอ่ื พบเหน็ เหตกุ ารณ์ ควรปฏบิ ตั เิ พื่อให้การชว่ ยฟ้นื คืนชพี ดังน้ี • ควบคุมสติ ระงบั ความตื่นเต้น ตกใจ • ปดิ สวิตซร์ ถทเ่ี กดิ อุบตั เิ หตุ สารวจอาการของผูบ้ าดเจบ็ อย่าเคล่ือนยา้ ยผ้บู าดเจ็บ ยกเว้นรถที่อาจเกดิ ไฟลกุ ไหม้ • แจ้งตารวจ โทรศพั ท์ ๑๙๑ หรือหนว่ ยแพทย์ฉกุ เฉิน โทรศัพท์ ๑๖๖๙ • นากิ่งไมม้ าขวาง เพอ่ื ทาสัญญาณเตอื นภัยอุบตั เิ หตุ • ชว่ ยผปู้ ว่ ยตามลาดบั ก่อน-หลงั ดังนี้ ๑.คนทห่ี มดสติ และไม่หายใจ ให้ชว่ ยหายใจดว้ ยวิธีเป่าปาก หรือถา้ หวั ใจหยดุ เตน้ ให้ปฏิบตั ิการนวดหวั ใจตามท่ีไดก้ ลา่ ว มาแล้วในขนั้ ตอนปฏบิ ัตใิ นการชว่ ยฟน้ื คนื ชีพ ๒.คนทีเ่ ลือดออกมาก ใหต้ รวจสอบดูวา่ เลือดออกบริเวณใด แล้วปฏิบัตกิ ารหา้ มเลอื ดตามวิธีทไ่ี ดก้ ล่าวมาแลว้ ในข้างต้น ๓.คนท่หี มดสตแิ ต่ยังหายใจได้เอง จัดทา่ ให้ผ้ปู ่วยนอนราบ จากนัน้ คลายหรอื ถอดเสอื้ ผ้าของผู้ปว่ ยออกเท่าทจี่ าเป็น คอยสงั เกตอาการ • รบี นาผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลโดยเร็วท่สี ุด • จดจา บนั ทกึ เหตุการณ์ และวธิ กี ารชว่ ยฟื้นคนื ชพี ทไ่ี ด้ปฏิบัติไปแลว้
อบุ ัติเหตุจากการจมนา้ การจมนา้ (Drowning) โดยท่วั ไป เกดิ จากการหายใจไม่ออกหรอื หายใจไมเ่ ข้า เพราะหายใจเอาน้าเข้าไปแทนท่ี ซง่ึ เปน็ ภาวะที่เสีย่ งตอ่ การเสยี ชีวติ หากไมไ่ ดร้ ับการชว่ ยเหลืออย่างทันท่วงที ซึ่งหากพบเห็นเหตุการณ์ควรให้ความชว่ ยเหลอื โดย การปฏบิ ตั ิ ดังน้ี • ตรวจสอบการหายใจและคลาชพี จร ถ้าไมห่ ายใจใหช้ ว่ ยหายใจดว้ ยวิธีปากตอ่ ปาก หรอื ถา้ หวั ใจหยุดเต้น ให้ปฏบิ ัตกิ าร นวดหัวใจ • ถา้ ต้องการเอาน้าออกจากกระเพาะอาหารและปอด ใหป้ ฏิบัติโดย • ใชน้ วิ้ มือล้วงคอใหอ้ าเจียน แลว้ จบั แบกพาดบ่า ใหบ้ ริเวณท้องอยบู่ นบา่ ศรีษะหอ้ ยลงไปด้านหลงั แล้วพาว่งิ ซงึ่ จะชว่ ย เขยา่ ใหน้ า้ ออก • ใหผ้ ูป้ ว่ ยนอนคว่า ผชู้ ่วยเหลือยืนคร่อมผปู้ ่วยตรงระดบั สะโพก โดยหนั หน้าไปทางศีรษะของผปู้ ่วย หลังจากน้ันให้ใช้ มอื ทง้ั สองจับบริเวณใตช้ ายโครงของผปู้ ่วยแลว้ ยกขน้ึ และวางลงสลบั กนั ซง่ึ จะทาใหน้ ้าออกทางปากและจมกู โดยจะ ชว่ ยให้ผปู้ ว่ ยเรม่ิ หายใจได้บ้าง
• ลงมือทาการผายปอด เม่ือผ้ปู ว่ ยเริ่มหายใจ • ใหค้ วามอบอ่นุ แก่ร่างกาย โดยการใชผ้ า้ หรือเสอื้ หนาๆ คลุมรา่ งกายของผู้ป่วยไว้ และคอยหมน่ั เช็ดตัวผู้ปว่ ยให้แห้ง แลว้ รบี นาสง่ สถานพยาบาลโดยเร็ว ข้อควรระวัง ภายหลงั ทป่ี ระเมินการหายใจแลว้ พบว่า เมื่อทาการเปดิ ทางเดนิ หายใจแล้วผปู้ ่วยยงั คงไม่หายใจ และถ้าไม่สามารถชว่ ยชีวิตด้วยวธิ ีปาก ตอ่ ปากได้ ให้เริ่มปฏบิ ตั กิ าร ดังนี้ ๑. จัดท่าศีรษะใหมใ่ หถ้ กู ต้อง พยายามช่วยหายใจดว้ ยวธิ ปี ากตอ่ ปากอีกครงั้ ๒. ถา้ ชว่ ยหายใจแล้วยังเป่าลมไม่เขา้ จบั ผปู้ ว่ ยนอนตะแคงตบบริเวณหลงั ๔ คร้ัง ติดตอ่ กัน ๓. กดบรเิ วณหนา้ ทอ้ งหรอื หนา้ อก ๔ ครัง้ ตดิ ต่อกัน ๔. ยกคางขนึ้ ใชน้ ิว้ มอื ลว้ งเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากปาก ๕. เรม่ิ ชว่ ยหายใจดว้ ยวิธีปากตอ่ ปากใหมอ่ กี คร้ัง
อบุ ัติเหตุจากการถกู ไฟไหม้ กรณที ีเ่ กดิ เพลิงไหม้ นอกจากผปู้ ว่ ยจะหายใจสูดเอาควนั เขา้ ไปแลว้ บางรายอาจมีอาการช็อก หรอื บางรายอาจถกู ไฟลวก หรือถูกความรอ้ นทีท่ าใหพ้ พุ อง ซงึ่ ผู้ใดทีพ่ บเห็นเหตุการณ์ควรใหค้ วามช่วยเหลือ ดว้ ยการปฏิบัติ ดังนี้ • ย้ายผู้ป่วยออกจากสถานท่ีเกดิ เหตุโดยเรว็ โดยยา้ ยผู้ปว่ ยไปอยใู่ นทที่ ่ีมีอากาศบริสุทธ์แิ ละถ่ายเทไดส้ ะดวก • คลายเส้ือผา้ ของผู้ปว่ ยให้หลวม เพ่ือให้ผปู้ ว่ ยหายใจไดส้ ะดวก • ตรวจดูบาดแผลทอี่ าจถูกไฟลวกหรือถกู ความร้อนทีท่ าให้พพุ อง ซ่งึ ถา้ มีให้รีบปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ ทนั ที • ผ้ปู ่วยท่ีมอี าการชอ็ ก ให้จดั ท่าโดยจัดใหน้ อนราบ ศีรษะตา่ เพ่อื ให้เลือดไหลสสู่ มองมากข้นึ • ถ้าผูป้ ว่ ยหายใจไมส่ ะดวกให้ช่วยฟ้ืนคนื ชพี ด้วยการเปา่ ปาก • ใหค้ วามอบอุ่นแก่รา่ งกายของผปู้ ่วยอยา่ งเพยี งพอ • คอยสงั เกตและระวงั อาการเปลีย่ นแปลงทางด้านการหายใจ และชพี จร • รบี นาผปู้ ว่ ยสง่ สถานพยาบาล โดยเรว็ ที่สุด
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: