ใบความรูก้ ฬี าเทเบิลเทนนสิ 1 ประวตั คิ วามเป็นมา กฬี าเทเบลิ เทนนสิ ไดเ้ รมิ่ ขนึ้ ในประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1890 ในครัง้ นั้นอุปกรณ์ที่ใชเ้ ลน่ ประกอบดว้ ย ไม้หนังสัตวล์ กั ษณะคล้ายกบั ไม้เทนนิส แทนท่ีจะขงึ ดว้ ยเสน้ เอน็ กใ็ ชแ้ ผน่ หนัง สัตวห์ ุ้มแทน สมัยกอ่ นใช้ ในการ * ตอ่ มา ค.ศ. 1900 หรือ พ.ศ. 2443 ไดค้ ดิ คน้ ประดิษฐล์ กู ท่ีใช้ตี เรยี กวา่ “ลูกเซลลลู อยด์” เวลาตีกระทบถูกพ้นื โต๊ะและไม้กจ็ ะเกิดเสยี ง “ปิก – ป๊อก” ดงั น้นั กฬี านี้จงึ ถูกเรยี กตามเสียงทไ่ี ด้ยนิ วา่ “ปงิ ปอง” (pingpong) ตอ่ มาไดม้ ีววิ ฒั นาการข้นึ โดย ไมห้ นังสัตว์ไดถ้ กู เปลีย่ นเปน็ แผน่ ไม้ โตะ๊ เทเบิลเทนนิส (THE TABLE) พ้ืนหน้าด้านบนของโตะ๊ เรยี กว่า “พน้ื ผิวโตะ๊ ” (PLAYING SURFACE) จะเปน็ รปู สเ่ี หลีย่ มผนื ผา้ มีความ เรยี กวา่ “เส้นข้าง” (SIDE LINE) ท้งั สองดา้ นเรียกวา่ “เส้นสกดั ” (END LINE) และจะต้องสงู ได้ระดับโดยวดั จากพื้นท่ี ตั้งขน้ึ มาถึงพนื้ ทีผ่ ิว ตาข่ายสูง 15.25 ซม. หรอื 6 น้ิว ขอบดา้ นบนของพ้ืนผวิ โตะ๊ ท้งั 4 ด้าน จะทาดว้ ยสขี าว มีขนาด ยาว 183 ซม. หรือ 6 ฟตุ กวา้ ง 2 เซนติเมตร เสน้ ของพืน้ ผวิ ลกู เทเบิลเทนนิส (THE BALL) มีน้ำหนัก เส้นผ่ำศนู ยก์ ลำง จะต้องกลม และมีเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 2.7 กรมั 40 มิลลิเมตร 40 มลิ ลเิ มตร มนี า้ หนัก 2.7 กรมั ทาด้วยเซลลลู อยด์ หรอื วัสดพุ ลาสติกอื่นใดทค่ี ลา้ ยคลึงกันมีสขี าว หรอื และเป็นสดี า้ น ไม้เทเบลิ เทนนิส (THE RACKET) * ภำยในหน้ำไม้ควำมหนำ ทงั้ หมดของไม้ หรือไมเ่ กิน ไมเ้ ทเบลิ เทนนสิ หนา้ ไมจ้ ะต้องแบนเรยี บ และแข็ง อยา่ งนอ้ ย 0.35 มิลลิเมตร ทส่ี ดุ 85 % ของความหนาของไม้จะต้องทาดว้ ยไม้ธรรมชาติ ภายในหนา้ ไม้ ผคู้ ิดค้นไม้ติดยำง ซง่ึ ทาด้วยวสั ดอุ ื่นใด ต้องมีความหนาไมเ่ กนิ 7.5% (Mr. E.C. Good) 85 % ต้องทำด้วย ไมธ้ รรมชำติ
ใบความรกู้ ฬี าเทเบิลเทนนิส 2 วิธีจบั ไมป้ งิ ปอง แบบสากล (Shake Hand) 1.1 ใชม้ อื ขา้ งทีถ่ นดั จบั ไม้เหมอื นกับวา่ กาลงั จะจบั มอื คนอีก จบั ไมแ้ บบสำกล คนหน่ึงโดยจับดา้ มไม้ให้อยใู่ นระหวา่ งหวั แม่มือกับนว้ิ ชี้ 1.2 วางน้วิ หัวแม่มอื บนหนา้ ไมด้ ้านหนึ่งของบรเิ วณ สว่ นโคนไม้ บนหน้าไม้อีกดา้ นหนงึ่ วางน้ิวชนี้ จี้ ะเปน็ ดา้ น สาหรบั การตีลูกหลังมอื และงอน้ิวท่ีเหลอื อีก 3 น้ิว คือ น้วิ กลาง น้วิ นาง และนว้ิ ก้อยการอบด้ามไม้ แบบปากกา Pen-Holder หรอื แบบจนี (Chinese style) 2.1 จบั ไม้คล้ายวา่ กาลังจบั ปากกา จบั ไมแ้ บบปำกกำหรอื แบบจีน 2.2 วางนว้ิ หัวแมม่ อื และนิ้วชปี้ ระกบกนั จบั ดา้ มไม้ไว้ ด้านหนง่ึ งอนว้ิ อกี 3 น้วิ ที่เหลือ คือน้ิวกลาง นว้ิ นาง การสง่ ลูก และนิ้วกอ้ ย บนหนา้ ไมอ้ ีกด้านหนึง่ (THE SERVICE) * เมอ่ื เรมิ่ สง่ ลกู เทเบลิ เทนนิสตอ้ งวางเป็นอิสระ อยู่บนฝา่ มืออิสระ โดยแบฝา่ มอื ออกและลกู จะต้องหยดุ นง่ิ * ลูกเทเบิลเทนนสิ จะตอ้ งอยเู่ หนือระดับพื้นผวิ โตะ๊ และอยหู่ ลังเส้นสกัด และจะต้องไม่มีส่วนใดส่วนหน่งึ ของรา่ งกายหรือเส้ือผา้ ของผู้ส่งหรือคเู่ ลน่ ในประเภทคู่ บังการมองเห็นของผู้รบั การรบั ลูก (THE RETURN) * เมอื่ ลูกเทเบลิ เทนนสิ ได้ถกู ส่งหรือตีโตไ้ ปตกลงใน แดนฝา่ ยตรงขา้ มอยา่ งถกู ต้องแลว้ ฝ่ายรบั ตลี ูกข้ามหรืออ้อมตาขา่ ยกลับไปเพือ่ ให้ ลกู กระทบแดนของอีกฝ่ายหนงึ่ โดยตรง หรือสมั ผัสส่วนใด ส่วนหน่งึ ของตา ข่ายแลว้ ตกลงในแดนฝ่ายตรงขา้ ม ลาดับการเลน่ (THE ORDER OF PLAY) * ประเภทเดี่ยว สามารถเสริ ์ฟไปยังฝา่ ยตรงขา้ มไดท้ ั่วโตะ๊ ทางไหนกไ็ ด้ * ประเภทคู่ จะตอ้ งส่งในมุมทแยงจากคอดรด์ ขวาไปซ้าย แต่เมอ่ื เสิร์ฟแล้วสามารถตีลูกไปทศิ ทางใด กไ็ ดท้ ัว่ โตะ๊
ใบความรกู้ ฬี าเทเบลิ เทนนิส 3 ลกู ทส่ี ง่ ใหใ้ หม่ (A LET) 1. ถา้ ลกู ท่ีฝ่ายสง่ ได้สง่ ไปกระทบสว่ นตา่ งๆ ของตาข่าย (พลิกเนต็ ) ของฝา่ ยรบั โดยถกู ต้อง 2. ถ้าลูกทสี่ ง่ ออกไปแลว้ ฝา่ ยรบั หรือคู่ของฝา่ ยรบั ยังไม่พร้อมที่จะรับโดยมขี อ้ แมว้ า่ ฝ่ายรบั หรอื คู่ของฝ่ายรับ ไม่พยายามจะตีลกู เกมการแข่งขัน (A GAME) * ผูเ้ ล่นหรอื คูเ่ ล่นท่ีทาคะแนนได้ 11 คะแนนก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ ยกเว้น ถ้าผู้ เล่น ท้งั สองฝา่ ยทาคะแนนได้ 10 คะแนนเทา่ กัน จะต้องแขง่ ขนั ตอ่ ไป โดย ฝา่ ยใดตอ้ งทาคะแนนได้มากกว่า อกี ฝา่ ยหนึ่ง 2 คะแนน จะเปน็ ฝ่ายชนะ * ขอเวลำนอกได้ 1 ครงั้ ๆ ละ 1 นำที แมทชก์ ารแขง่ ขัน (A MATCH) * ในหนึ่งแมทช์ ประกอบด้วยเกมการแข่งขนั ทเ่ี ปน็ จานวนเลขคี่ เช่น 2 ใน 3 เกมส์ 3 ใน 5 เกมส์ 4 ใน 7 เกมส์ เป็นตน้ * ปจั จุบันแขง่ ขันกนั ในระบบ 3 ใน 5 เชต แข่งขนั เชตละ 11 คะแนน เปล่ียนเสิร์ฟฝา่ ยละ 2 ลกู กรณีดิวสเ์ ปล่ยี นเสิรฟ์ ฝ่ายละ 1 ลกู สหพันธ์/สมาคมเทเบลิ เทนนิส * สหพันธ์เทเบลิ เทนนสิ นานาชาติ (I.T.T.F.) คอื องคก์ รปกครอง สาหรบั ทุกชาติมีหน้าที่รบั ผดิ ชอบในการ จัดการแข่งขนั ระดบั นานาชาตจิ านวนมากรวมถงึ เทเบิลเทนนสิ ชงิ แชมปโ์ ลก ท่ดี าเนนิ ตอ่ มาต้ังแตป่ ี พ.ศ. 2469 (1926) โดยสานกั งานอยทู่ ีก่ รุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนั * สมาคมเทเบลิ เทนนสิ แห่งประเทศไทย (T.T.A.T.) (ส.ท.ท.ท.) ได้กอ่ ต้งั ขน้ึ เมอ่ื พ.ศ. 2500 มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ส่งเสริมและพัฒนากฬี า เทเบิลเทนนสิ ของประเทศไทย
ใบความรกู้ ฬี าเทเบลิ เทนนสิ 4 สญั ญาณมือของกรรมการผู้ตดั สิน Let * ซึ่งจะขานโดยกรรมการผตู้ ัดสนิ และไม่มผี ลการได้หรอื เสียคะแนน โดยจะใหผ้ ทู้ ี่สง่ ก่อนหน้านี้เปน็ ฝา่ ยสง่ ใหม่ Point * การได้คะแนน Next server
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: