Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 1 - 3 Networking.pdf

บทที่ 1 - 3 Networking.pdf

Published by 0054 Nawaphon Khongsutjarit, 2022-08-15 07:12:10

Description: บทที่ 1 - 3 Networking.pdf

Search

Read the Text Version

หนา ท่ี่50 สังเกตวาสูตรของ VLSM นี้จะมีีลักษณะคลายกัับสูตรของ FLSM สิ่งท่ี่ตางกัันคืือ VLSM ใชจํานวน IP Address Host ท่ี่ตองการในการคํํานวณ ในขณะท่ี่ FLSM ใชจํานวน Subnet ท่ี่ตองการในการคํํานวณ นอกจากนี้แลว การเริ่มนับ Bit borrow จะตางกัันดวยคืือ VLSM จะเริ่มนับจากทางขวาของ Octet สุดทาย ในขณะท่ี่ FLSM จะนับท่ี่Octet ท่ี่เปน Host bit รายละเอีียด สังเกตจากตัวอยางขางลาง VLSM of IP 172.16.0.0/20:   2 Subnets for 500 Hosts   3 Subnets for 200   Hosts 2 Subnets for 100   Hosts 4 Subnets for 50   Hosts 4 Subnets for 2 Hosts Solution พิิจารณา 172.16.0.0/20 จะพบวา IP Addressนี้ไดผานการทํํา Subnetting มาครั้งหนึ่ง เนื่องจากคา Prefix ของ 172.16.0.0 ปกติเปน /16 แตจากโจทยเปน /20 นั่นคืือ มีีการทํํา Subnetting มาแลว   172.16.0000 |0000.00000000 การทํํา VLSM จะตองเริ่มแบง Subnetting ท่ี่ Network วงท่ี่ตองการ Host มากท่ี่สุด หมายความวาตองแบง จากวงท่ี่มีี 500 Hosts ไลลงมาเปน 200, 100, 50 และ 2 Hosts ตามลําดับ Host จํานวน 500 Hosts นั้นสามารถคํํานวณหาจํานวนบิตท่ี่เพ่ื่อนํามาใชไ ดจ าก 2n -2 = 500   n=9   ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนาท่ี ่51 หลังจากนั้นนําคา n มานับจํานวน Host Bit โดยเริ่มจากบิตขวามืือสุดใน Octet สุดทายจะไดผลลัพธดังแสดง ขางลาง 172.16.0000 |XXX|0.00000000     ตําแหนง xxx คืือ Binary ท่ี่สามารถทํํา Subnet ไดดังนี้ #1 172.16.0000|000|0.00000000 - 172.16.0000|000|1.11111111 = 172.16.0.0- 172.16.1.255 #2 172.16.0000| 001| 0.00000000 - 172.16.0000|001|1.11111111 = 172.16.2.0-172.16.3.255 #3 172.16.0000|010|0.00000000 - 172.16.0000|010|1.11111111 = 172.16.4.0-172.16.5.255 #4 172.16.0000|011|0.00000000 - 172.16.0000|011|1.11111111 = 172.16.6.0-172.16.7.255 #5 172.16.0000|100|0.00000000 - 172.16.0000|100|1.11111111 = 172.16.8.0-172.16.9.255 #6 172.16.0000|101|0.00000000 -172.16.0000|101|1.11111111 = 172.16.10.0-172.16.11.255 #7 172.16.0000|110|0.00000000 -172.16.0000|110|1.11111111 = 172.16.12.0-172.16.13.255 #8 172.16.0000|111|0.00000000 -172.16.0000|111|1.11111111 = 172.16.14.0-172.16.15.255 จากการแบงขางตนสามารถแบง Subnet ได 8 Subnet และ Subnet ท่ี่นํามาใชสําหรับ 500 Hosts คืือ #1 172.16.0.0 – 172.16.1.255 และ #2 172.16.2.0 – 172.16.3.255 นอกจากนี้ Subnet Mask ของ #1 และ #2 สามารถหาไดจากการนําคาบิตท่ี่คิิดเปน Subnet มาบวกเพ่ิ่มจากบิตของ Subnet เดิม 20 + 3 คืือ /23 หรือ 255.255.254.0 เพราะฉะนั้นเครือขายสําหรับ 500 Hosts ไดแก 172.16.0.0/23 และ 172.16.2.0/23 คําตอบท่ี่ 1 Host จํานวน 200 Hosts นั้นสามารถคํํานวณไดจ าก IP Address #3 (172.16.4.0) โดยหาจํา นวนบิตท่ี่เพ่ื่อ นํามาใชไ ดจาก   2n -2 = 200 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนา ท่ี่52  n=8 หลังจากนั้นนําคา n มานับจํานวน Host Bit โดยเริ่มจากบิตขวามืือสุดใน Octet สุดทายจะไดผลลัพธดังแสดง ขางลาง   172.16.4.0 แปลงเปน Binary เฉพาะ Octet ท่ี่ใชในการคํํานวณจะได |  #1 172 . 16 . 0000010 0 . |00000000 |  #2 172 . 16 . 0000010 1 . |00000000 Subnet ท่ี่นํามาใชกัับเครือขายท่ี่ตองการ 200 Hosts คืือ 172.16.4.0 ซ่ึ่งมีี172.16.4.0 – 172.16.4.255 และ 172.16.5.0 ซ่ึ่งมีี172.16.5.0 – 172.16.5.255 จะพบวาเครือขายท่ี่ตองการ 200 Hosts นั้นคํํานวณได แลว 2 เครือขาย แตวาความตองการใชมีี3 เครือขาย เพราะฉะนั้นนํา 172.16.6.0 (#4 จากการคํํานวณ 500 Hosts) มาคํํานวณตอจะได |  #1 172 . 16 . 0000011 0 . | 00000000 |  #2 172 . 16 . 0000011 1 . | 00000000 Subnet ท่ี่นํามาใชกัับเครือขายท่ี่ตองการ 200 Hosts คืือ 172.16.6.0 ซ่ึ่งมีี 172.16.6.0 – 172.16.6.255 และ 172.16.7.0 ซ่ึ่งมีี 172.16.7.0 – 172.16.7.255 เพราะฉะนั้นเครือขายสําหรับ 200 Hosts ไดแก 172.16.4.0/24, 172.16.5.0/24 และ 172.16.6.0/24 คําตอบท่ี่ 2 Host จํานวน 100 Hosts นั้นสามา รถคํํานวณไดจาก IP Address ท่ี่นํามานั้น คืือ IP address ท่ี่เหลือจาก คํําตอบท่ี่2 #2 (172.16.7.0) โดย หาจํานวนบิตท่ี ่เพ่ื ่อนํามาใชไดจาก ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนา ท่ี่53 2n -2 = 100   n=7   หลังจากนั้นนําคา n มานับจํานวน Host Bit โดยเริ่มจากบิตขวามืือสุดใน Octet สุดทายจะไดผลลัพธดังแสดง ขางลา ง   172.16.7.0 แปลงเปน Binary เฉพาะ Octet ท่ี่ใชใ นการคํํานวณจะได |  #1 172 . 16 . 0000011 1 . 00000000 |  #2 172 . 16 . 0000011 1 . 10000000 |Subnet ท่ี่นํามาใชกัับเครือขายท่ี่ตองการ 100 Hosts คืือ 172.16.7.0 ซ่ึ่งมีี 172.16.7.0 – 172.16.7. 127 และ 172.16.7.128 ซ่ึ่งมีี 172.16.7.128 – 172.16.7.255 เพราะฉะนั้นเครือขายสําหรับ 100 Hosts ไดแก 172.16.7.0/25 และ 172.16.7.128/25 คําตอบท่ี่ 3 Host จํานวน 50 Hosts นั้นสามารถคํํานวณไดจาก |IP Address 172.16.8.0 (#5 จากการคํํานวณ 500 Hosts) โดยหาจํานวนบิตท่ี่เพ่ื่อนํามาใชไดจาก   2n -2 = 50  n=6 หลังจากนั้นนําคา n มานับจํานวน Host Bit โดยเริ่มจากบิตขวามืือสุดใน Octet สุดทายจะไดผลลัพธดังแสดง ขางลาง   172.16.8.0 แปลงเปน Binary เฉพาะ Octet ท่ี่ใชใ นการคํํานวณจะได 172 . 16 . 0000100 |0 . 00|000000 = 172.16.8.0 -172.16.8.63   #1 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนาท่ี ่54 | |  #2 172 . 16 . 0000100 0 .01 000000 = 172.16.8.64 -172.16.8.127 | |  #3 172 . 16 . 0000100 0 .10 000000 = 172.16.8.128 -172.16.8.191 | |  #4 172 . 16 . 0000100 0 .11 000000 = 172.16.8.192 -172.16.8.255 | |  #5 172 . 16 . 0000100 1 .00 000000 = 172.16.9.0 -172.16.8.63 | |  #6 172 . 16 . 0000100 1 .01 000000 = 172.16.9.64 -172.16.9.127 | |  #7 172 . 16 . 0000100 1 .10000000 = 172.16.9.128 -172.16.9.191 | |  #8 172 . 16 . 0000100 1 .11000000 = 172.16.9.192 -172.16.9.255 จากการแบงขางตนสามารถแบง Subnet ได 8 Subnet และ Subnet ท่ี่นํามาใชสําหรับ 50 Hosts คืือ #1 172.16.8.0 – 172.16.8.63, #2 172.16.8.64 – 172.16.8.127, #3 172.16.8.128 – 172.16.8. 191 และ ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนาท่ี ่55 #4 172.16.8.192 – 172.16.8.255 เพราะฉะนั้นเครือขายสําหรับ 50 Hosts ไดแก 172.16.8.0/26, 172.16.8.64/26, 172.16.8.128/26 และ 172.16.8.192/26 คําตอบท่ี่ 4 Host จํานวน 2 Hosts นั้นสามารถคํํานวณไดจาก IP Address 172.16.9.0 (#5 จากการคํํานวณ 50 Hosts) โดยหาจํานวนบิตท่ี่เพ่ื่อนํามาใชไดจาก   2n -2 = 2  n=2 หลังจากนั้นนําคา n มานับจํานวน Host Bit โดยเริ่มจากบิตขวามืือสุดใน Octet สุดทายจะไดผลลัพธดัง แสดงขา งลาง   172.16.9.0 แปลงเปน Binary เฉพาะ Octet ท่ี่ใชใ นการคํํานวณจะได | |  #1 172 . 16 . 00001001 . 00000000 = 172.16.9.0 -172.16.9.3 | |  #2 172 . 16 . 00001001 . 00000100 = 172.16.9.4 -172.16.9.7 | |  #3 172 . 16 . 00001001 . 00001000 = 172.16.9.8 -172.16.9.11 | |  #4 172 . 16 . 00001001 . 00001100 = 172.16.9.12 -172.16.9.15 | |  #5 172 . 16 . 00001001 . 00010000 = 172.16.9.16 -172.16.9.19 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนาท่ี ่56 | |  #6 172 . 16 . 00001001 . 00010100 = 172.16.9.20 -172.16.9.23 | |  #7 172 . 16 . 00001001 . 00011000 = 172.16.9.24 -172.16.9.27   ::  : : : : |1111|00 = 172.16.9.60 -172.16.9.63 172 . 16 . 00001001 . 00   #16 จากการแบงขางตนสามารถแบง Subnet ได 16 Subnet และ Subnet ท่ี่นํามาใชสําหรับ 2 Hosts คืือ #1172.16.9.0 -172.16.9.3, #2 172.16.9.4 -172.16.9.7, #3 172.16.9.8 -172.16.9.11และ #4 172.16.9.12 -172.16.9.15 เพราะฉะนั้นเครือขายสําหรับ 2 Hosts ไดแก 172.16.9.0/30, 172.16.9.4/30, 172.16.9.8/30 และ 172.16.9.12/30 คําตอบท่ี่ 5 3.4 Reserved Address บางกลุมของ IPv4 ถููก Reserved ไว สําหรับการใชงานภายใน LAN และไมสามารถใชสําหรับเชื่อมตอ Internet ไดI P เหลา นี้ไดแก 4.1.1 Private IP Address - กลุมของ IP Address ท่ี่ใชภายใน ไมสามารถเชื่อมต อิินเตอรเน็ตได Packet ท่ี่มีีIP เหลานี้จะถููก Drop ท่ี่Router ตารางขางลา งแสดง IP Address ดังกลาว ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนา ท่ี่57 ตารางท่ี่3.2 Private IP Address Subnet Mask IP Range 255.0.0.0 10.0.0.0 - 10.255.255.255 255.240.0.0 255.255.0.0 172.16.0.0 – 172.31.255.255 192.168.0.0 – 192.168.255.255 อยา งไรก็็ตาม ถาตอ งการใหH ost ท่ี่มีีPrivate IP Address นั้นสามารถเชื่อมตอ Internet ไดจ ะตอ งมีีการทํํา Network Address Translation (NAT) 4.1.2 Loopback IP Address – ใชใ นกรณีีท่ี่กระบวนการทํํางานของ Server และ Client อยูบน ระบบเดี่ยว (Single System) กััน และตอ งการติดตอกัันเองโดยสามารถใชIP Address ท่ี่อยูใ นชว ง 127.0.0.0 – 127.255.255.255 4.1.3 Link Local Address - ในกรณีีท่ี่ Host นั้นไมสามารถรองขอ IP Address ไดจาก DHCP server และไมไดถููกกํําหนด IP Address Host ดังกลาวสามารถกํําหนด IP Address ใหตัวเองไดจาก IP Address ท่ี่อยูในชวง 169.254.0.0 – 169.254.255.255 3.5 Internet Protocol Version 6 (IPv6) เนื่องจากการใชงาน IP Address นั้นเพ่ิ่มข้ึ้นเรื่อยๆ และจํานวน IP Address ท่ี่เกิิดจาก IPv4 นั้นไม เพีียง พอตอการใชงาน ดังนั้น IPv6 ถููกพััฒนาข้ึ้นเพ่ื่อแทนท่ี่IPv4 โดยท่ี่IPv6 จะสามารถมีีจํานวน IP Address ไดถึึง 2128 IP หรือเทากัับ 340,282,366,920,938,463,374,607,432,768,211,456 IP ซ่ึ่งถาประชากร ท่ั่วโลก มีี6500 ลานคน แตละคนสามารถมีีจํานวน IP เฉลี่ยคนละ 5X1028 Header ของ IPv6 แสดงดัง ภาพขางลาง ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนาท่ี ่58 ภาพท่ี่3.5 ภาพแสดง Header ของ IPv6 • Version 4 bits – บอกเวอรชั่นของ IP Address ในท่ี่นี้คืือ IPv6 • Traffic Class 8 bits –ประเภทของ service (6 bits)+ECN (2 bits) • Flow Label 20 bits – แสดงหมายเลขของ Flow information • Total Length – ความยาวของ IP packet • Payload Length 16 bits – ขนาดของ Packet • Next Header 8 bits – แสดงประเภทของ Extension header ถาไมมีี Extension header จะ แสดงวา การทํํางานตอ ไปคืือเลเยอรท่ี่4 • Hop Limit 8 bits – จํานวน Hop • Source Address 128 bits – IP address ของผูสง • Destination Address 128 bits - IP address ของผูรับ Extension Headers TCP Header DATA IPv6 Header Next Header = TCP ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนา ท่ี่59 I Routing Header Next TCP Header DATA Pv6 Header Header = TCP Next Header = Routing ภาพท่ี่3.5 ภาพแสดง Next Header ตารางท่ี่3.3 Extension Headers Extension Header Next Header Value Description Hop-by-hob Options header 0 อุุปกรณท ุุกตัวสามารถอาน Packet นี้ได Routing header 43 พิิจารณาขอกํําหนดนี้สําหรับการทํํา Routing Fragment header 44 Packet นี้มีีการ Fragmentation Destination Options header 60 Packet สามารถอานไดท่ี่อุุปกรณืื ปลายทางเทา นั้น Authentication header 51 Packet ตองการ Authentication Encapsulating Security 50 Packet มีีการเขารหัส Payload header ลําดับการทํํางานของ Extension Header มีีดังนี้ IPv6 header -> Hop-by-hob Options header -> Destination Options header1 -> Routing header -> Fragment header -> Authentication header -> Encapsulating Security Payload header -> Destination Options header2 -> Upper-layer header IPv6 Address ประกอบดวย 128 บิต โดยแบงเปน 8 กลุมยอย ในแตละกลุมยอยเชื่อมตอกัันดวยโคลอน ( : ) และประกอบดวย 16 บิต ซ่ึ่ง 16 บิตนี้จะถููกแทนดวยตัวเลขฐาน 16 จํานวน 4 ตัว รูปแบบของการเขีียน IPv6 แสดงดังนี้ XXXX : XXXX : XXXX : XXXX : XXXX : XXXX : XXXX : XXXX X คืือ เลขฐานสิบหก และในสว น A-F สามารถเขีียนเปน ไดท้ั้งตัวพิิมพเล็กหรือตัวพิิมพใหญก ็็ได(Case insensitive) ตัวอยางเชน 2022:0000:130F:0000:0000:09C1:886B:130A เปน ตน การเขีียน IPv6 นั้น สามารถเขีียนลดรูป (Shorthand notation) ไดโดยมีีวิธีการดังนี้ ้ ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนา ท่ี่60 1. ในแตละชวงท่ี่มีีบิตศููนยนั้น ถาอยูขางหนาสามารถตัดท้ิ้งได แตถาอยูตรงกลางและอยูขางหลังตอง คงไวเ ชน IPv6 Address 3ffe : 0404 : 0001 : 1000 : 0000 : 0000 : 0ef0 : bc00 สามารถลดรูปไดเ ปน 3ffe : 404 : 1 : 1000 : 0 : 0 : ef0 : bc00 IPv6 Address 3ffe : 0000 : 010d : 000a : 00dd : c000 : e000 : 0001 สามารถลดรูปไดเ ปน 3ffe : 0 : 10d : a : dd : c000 : e000 : 1 2. บิตศููนยในชวงท่ี่อยูติดกัันนั้นสามารถเขีียนแทนดวยดับเบิลโคลอน (::) ไดแตสามารถเขีียนแทนไดแค ชวงท่ี่ติดกัันชวงเดียว เชน IPv6 Address ff02 : 0000 : 0000 : 0000 : 0000 : 0000 : 0000 : 0500 สามารถลดรูปไดเปน ff02 : : 500 ตัวอยา งเพ่ิ่มเติมเชน IPv6 Address 2100:00AB:0000:2A3B:01BB:00FF:FE10:8B3C สามารถลดรูปไดเ ปน 2100:AB:0:2A3B:1BB:FF:FE10:8B3C IPv6 Address FE80:0000:0000:0000:01BB:00FF:FE10:8B3C สามารถลดรูปไดเปน FE80::1BB:FF:FE10:8B3C IPv6 Address 2100:0000:0000:2A3B:01BB:0000:0000:003C สามารถลดรูปไดเ ปน 2100:0:0:2A3B:1BB::3C หรือ 2100::2A3B:01BB:0:0:3C IPv6 Address FF02:0:0:0:0:0:0:1 สามารถลดรูปไดเ ปน FF02::1 IPv6 Address 3FFE:0501:0008:0000:0260:97FF:FE40:EFAB สามารถลดรูปไดเปน 3FFE:501:8::260:97FF:FE40:EFAB IPv6 Address 0:0:0:0:0:0:0:1 สามารถลดรูปไดเปน ::1 IPv6 Address 0:0:0:0:0:0:0:0 สามารถลดรูปไดเ ปน :: แตในกรณีีท่ี่มีีจํานวนศููนยต ิดกัันมากกวา 1 ชว งไมสามารถเขีียนลดรูปตามวิธีการขอท่ี่2 ไดเ ชน 2001:d02::14::95 เปน การเขีียน IPv6 Address ท่ี่ไมถููกตอ ง เพราะจะเกิิดการสับสนวา IPv6 Address ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนา ท่ี่61 ดังกลา วเปน IP ตัวไหน ซ่ึ่งอาจจะเปน 2001:0d02:0000:0000:0014:0000:0000:0095 หรือ 2001:0d02:0000:0000:0000:0014:0000:0095 หรือ 2001:0d02:0000:0014:0000:0000:0000:0095 ก็็ เปนไปได IP Address ของ IPv6 ถููกแบงเปน 2 สวน (ภาพท่ี่3.6) ภาพท่ี่3.6 ภาพแสดงการแบงสว นของ IPv6 Network ID หรือ Prefix นั้นเปน 64 บิตแรกซ่ึ่งประกอบดว ย Network Address และ Subnet Address การ กํําหนด IPv6 Address นั้นเปนการกํําหนดตามลักษณะของท่ี่อยูของผูจดทะเบียน เพราะฉะนั้น 64 บิตแรกนี้ จะมีีสวนประกอบของ Global Routing Information ทํําใหสามารถลดเวลาในการ Routing packet ในสวน ของ Interface Address นั้นจะเปน Unique Address จํานวน 64 บิตหลังของ IPv6 การเขีียนเพ่ื่อบงบอก Network ID สามารถเขีียนคลายกัับ IPv4 คืือ IP Address/ Prefix เชน 2001:C:7:ABCD::1/64 The Internet Corporation for Assigned Names and Numbers (ICANN) มีีหนาท่ี่รับผิดชอบเก่ี่ยวกัับการ กํําหนด IP Address โดย ICANN จะมอบ IP Address จํานวนหนึ่งแกหนวยงานท่ี่ทํําหนาท่ี่เปน Regional Internet Registry (RIR) จํานวน IP Address ท่ี่RIR ไดรับนั้นจะมีีPrefix ขนาด /12 หลังจากนั้นถา IP Address ในสวนของ Internet Service Provider (ISP) นั้นจะไดรับการกํําหนดจาก RIR และมีีPrefix ขนาด /32 Prefix ขนาด /48 สําหรับ Site Prefix และ /64 สําหรับ LAN Prefix ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนาท่ี ่62 ภาพท่ี่3.7 ภาพแสดงการแบง Prefix ในการกํําหนด IPv6 ตัวอยางเชน 2001:0A3C:5437:ABCD::/64 ภาพท่ี่3.8 ภาพแสดงตัวอยา ง IPv6 และ Prefix RIR ถููกกํําหนด Prefix คืือ 12 ISP ถููกกํําหนด Prefix คืือ 32 Site ถููกกํําหนด Prefix คืือ 48 และSubnet ถููก ทก่ํีํ่าหนด Prefix คืือ 64 ดังนั้น จาก IP นี้สามารถแบงไดเปน 216 Subnet หรือ 65536 Subnet สวน 64 บิต เหลือนั้นเปน Interface ID ซ่ึ่งแตละ Subnet สามารถมีีInterface ID ไดจํานวนมากถึึง 264 Extended Unique Identifier (EUI-64) Network ID 64 bits Interface ID 64 bits 24-MAC FFEE 24-MAC ภาพท่ี่3.9 EUI-64 Interface ID จํานวน 64 บิตของ IPv6 นั้นมีีลักษณะเปน unique เนื่องจาก 48 บิตมาจากหมายเลข MAC address ของ NIC และมีีการเพ่ิ่ม FFEE ตรงตําแหนงกลาง นอกจากจํานวน IP ของ IPv6 ท่ี่มีีเพ่ิ่มมากข้ึ้นแลว นั้น IPv6 ยังมีีขอ ดีอีีกคืือ ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนาท่ี ่63 • ในการ Configure อุุปกรณเครือขายนั้นสามารถพิิมพ Prefix ไดเลยโดยไมตองใชSubnet mask เหมืือน IPv4 ซ่ึ่ง Prefix นั้นจะชวยลดการคํํานวณผิดพลาดของ Subnet mask • ใน IPv4 นั้นการ Checksum จะทํําใน Network layer และTransport layer แตใน IPv6 นั้น จะทํําใน Transport layer เทานั้น ขอดีนี้ชว ยลดคา Overhead ในเครือขา ย และลดกระบวนการ ทํํางานดว ย สงผลใหPacket ถููกสงเร็วข้ึ้น • การ Assign IPv4 นั้นมีีการ Assign ใหโดยไมคํํานึงถึึง Location ดังนั้นการ Routing table จึงมีี ขนาดใหญซ่ึ่ง IPv6 ไดแ กไขขอดอยนี้โดยมีีการแบง IP ตาม Location ในสว นของ Network ID • IPv6 สามารถทํํา VPN ไดในอุุปกรณเครือขายขนาดเล็ก (Home router) ซ่ึ่งถา เปน IPv4 คุุณสมบัติดังกลาวตองมีีการใชใ นอุุปกรณเ ครือขา ยท่ี่มีีFeature นี้โดยเฉพาะ • IPv6 มีีคุุณสมบัติAnycast ทํําใหเ ครือขา ยสามารถตั้ง IP Address ซํ้ํ้ากัันไดและเพราะ Anycast นี้เองทํําใหเกิิด Load Balancing แบบอััตโนมััติ ซ่ึ่งถาเปน IPv4 คุุณสมบัติดัังกลาวตองมีีการใช ในอุุปกรณเครือขายท่ี่มีีFeature นี้โดยเฉพาะ • IPv6 มีีคุุณสมบัติิ Multicast ทํําใหการสงขอมููลในเครือขา ยเร็วข้ึ้น โดย มีี IP เฉพาะสําหรับการ ทํํา Multicast แตละประเภท • Unicast – 128 บิตของ IPv6 นั้นประกอบดวย 64 บิตของ Network ID และ 64 บิต ของ Interface ID โดยหมายเลข Network ID นั้นไดมาจากการจดทะเบียน แตหมายเลข Interface ID นั้น ไดมาจากหมายเลข MAC Address บน NIC แบบฝกหััด 1. ถา IP Address ของคอมพิิวเตอรเครื่องหนึ่งคืือ 168.120.9.230 และ Subnet mask ของ IP Address นี้ คืือ 255.255.255.240 จงหาหมายเลข IP Network Address และหมายเลข IP Subnet Address ของ เครื่องคอมพิิวเตอรด ังกลา ว 2. IP Address 181.100.0.0 สามารถแบงไดก่ี่ Subnet ถาตองการใหแ ตละ Subnet มีีจํานวน IP Address เทากัับ 330 IP Address จงแสดงการคํํานวณ อยางละเอีียด 3. จงเขีียน Shorthand notation ของ IP Address ตอไปนี้ 3.6 0000:0000.FFFF:0000:0000:0000:0000:0000 3.7 2345:0123:0000:0000:0000:1111:0000:0000 3.8 0000:0000:0000:0000:0000:FFFF:1234:4321 4. จงแสดงรูปเต็ม IPv6 Address ของ IP Address ตอไปนี้ 4.1 2222::3333 ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

หนา ท่ี่64 4.2:: 4.30:2:: 4.4BBBB:B:BB::2345 เอกสารอางอิิง สัลยุทธสวางวรรณ (2547), “CCNA 1 – Cisco Network Academy Program”, Pearson Education Indochina LTD. สัลยุทธสวางวรรณ (2547), “CCNA 2 – Cisco Network Academy Program”, Pearson Education Indochina LTD. Tanenbaurn, Andrew S. (2003), “Computer Network” Pearson Education, Inc William, S. (2004), “Computer Networking with Internet Protocol and Technology”, Pearson Prentice Hall. www.cisco.com ผู้ ช่ ว ย ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . จั น ท ร์ จิ ร า พ ยั ค ฆ์ เ พ ศ

TYHAONUK


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook