กรุงรัตนโกสินทร์

• พระบาทสมเดจ็ พระปร.เมนทรมหาวชิราวธุ ฯ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อย่หู วั หรอื พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรสี นิ ทรมหาวชิราวธุ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั (1 มกราคม พ.ศ. 2424 – 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468) เป็นพระมหากษัตรยิ ไ์ ทยรชั กาลท่ี 6 แหง่ ราชวงศจ์ กั รี เสด็จพระราช สมภพเม่ือวนั เสาร์ เดือนย่ี ขนึ้ 2 ค่า ปีมะโรง ตรงกบั วนั ท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2424 เป็นพระราชโอรสพระองคท์ ่ี 32 ในพระบาทสมเดจ็ พระ จลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เสวยราชสมบตั ิเม่ือวนั อาทติ ยท์ ่ี 23 ตลุ าคม ปีจอ พทุ ธศกั ราช 2453 และเสดจ็ สวรรคตเม่ือวนั พฤหสั บดีท่ี 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 ปีฉลู รวมพระชนมพรรษา 44 พรรษา เสดจ็ ดารงราชสมบตั ิ รวม 15 ปี



ดา้ นศลิ ปะวฒั นธรรม • พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงสนบั สนนุ ศิลปะการแสดงโขนดว้ ยการพระราชนิพนธบ์ ท ทรง ควบคมุ การจดั แสดงและฝึกซอ้ มดว้ ยพระองคเ์ อง และทรงโปรดใหค้ รูโขนละครจากคณะของเจา้ พระยา เทเวศรว์ งศว์ ิวฒั น์ (หมอ่ มราชวงศห์ ลาน กญุ ชร) เป็นผฝู้ ึกหดั คณะโขของพระองค์ ดา้ นการละครทรงนา แบบอยา่ งมาเผยแพร่ ทงั้ บทละครวิธีแสดง การวางตวั ละครบนเวที การเปลง่ เสยี งพดู พระองคท์ รงมีบทบาท ทงั้ การพระราชนิพนธบ์ ทละคร ทรงควบคมุ การแสดงและทรงแสดงรว่ ม พระองคท์ รงพระราชนิพนธบ์ ทรอ้ ง ประกอบเนือ้ เรอ่ื ง ทงั้ ทานองเพลงไทยและเพลงสากล นอกจากนีย้ งั ทรงโปรดฯใหม้ ีการสอนและฝึกซอ้ ม ดนตรไี ทยควบคไู่ ปกบั การเรยี นการสอนวิชาสามญั

ดา้ นการเศรษฐกจิ • ไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิคลงั ออมสิน พ.ศ. 2456 ขนึ้ เพ่ือใหป้ ระชาชนรูจ้ กั ออม ทรพั ยแ์ ละเพ่ือความม่นั คงในดา้ นเศรษฐกิจของประเทศ อีกทงั้ ยงั ทรงรเิ รม่ิ ก่อตงั้ บรษิ ัทปนู ซมิ นตไ์ ทยขนึ้ ทรง จดั ตงั้ สภาเผยแผพ่ าณิชย์ ซง่ึ เป็นหนว่ ยงานคลา้ ยกบั สภาพฒั นาการเศรษฐกิจในปัจจบุ นั และใชพ้ ระราช ทรพั ยส์ ว่ นพระองคซ์ ือ้ หนุ้ เพ่มิ ทนุ ของ ธนาคารสยามกรรมมาจล ทนุ จากดั (ปัจจบุ นั คือ ธนาคารไทย พาณิชย)์ ซง่ึ มีปัญหาการเงิน ทาใหธ้ นาคารของคนไทยแหง่ นีด้ ารงอยมู่ าได้

ดา้ นการศึกษา • เม่ือครงั้ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ยงั ดารงพระอสิ รยิ ยศสยามมกฎุ ราชกมุ ารไดเ้ สดจ็ พระราชทานนาม โรงเรยี นยพุ ราชวิทยาลยั เม่ือวนั ท่ี 24 ธนั วาคม พ.ศ. 2448ซง่ึ เป็นโรงเรยี นรฐั บาลแหง่ แรก ของเชียงใหม่ และพระราชทานนาม โรงเรยี นปรนิ ส์ รอยแยลส์ วิทยาลยั เม่ือวนั ท่ี 2 มกราคม พ.ศ. 2449 ซง่ึ กอ่ ตงั้ โดยคณะมิชชนั นารอี เมรกิ า ซง่ึ ไมเ่ ป็นเพียงแตก่ ารนารูปแบบการศกึ ษาตะวนั ตกมายงั หวั เมืองเหนือ เทา่ นนั้ แตย่ งั แฝงนยั การเมืองระหวา่ งประเทศเอาไวด้ ว้ ยเหน็ ไดจ้ ากการเสดจ็ ประพาสมณฑลพายพั ทงั้ สอง ครงั้ ระหวา่ ง พ.ศ. 2448-2450 พระองคไ์ ดท้ รงสนพระทยั ในกิจการโรงเรยี นท่ีจดั ตงั้ ขนึ้ มาใหม่ทงั้ สนิ้ โดย พระองคท์ รงบนั ทกึ ไวใ้ นพระราชนิพนธ์ \"เท่ียวเมืองพระรว่ ง\" และ \"ลลิ ติ พายพั ทงั้ นี้ เปา้ หมายของการจดั การศกึ ษายงั แฝงประโยชนท์ างการเมืองท่ีจะใหช้ าวทอ้ งถ่ินกลมเกลียวกบั ไทยอีกดว้ ย

ความเป็นมาลูกเสอื ไทย • พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั เม่อื พระชนมายไุ ด้ 13 พรรษา ไดเ้ สดจ็ ไปทรงศกึ ษา ณ ประเทศองั กฤษ ทวีปยโุ รป ระหวา่ งท่ที รงศกึ ษาอย่นู นั้ ไดท้ รงทราบเรอ่ื งการสรู้ บเพ่อื รกั ษาเมืองมาฟิคงิ ของลอรด์ เบเดนโพเอลลซ์ ง่ึ ได้ ตงั้ กองทหารเดก็ เป็นหนว่ ยสอดแนมชว่ ยรบในการรบกบั พวกบวั ร์ จนประสบผลสาเรจ็ และไดต้ งั้ กองลกู เสือขนึ้ เป็น ครงั้ แรกของโลก ท่ปี ระเทศองั กฤษ เม่อื พ.ศ. 2450 เม่อื พระองคเ์ สดจ็ นิวตั สิ ปู่ ระเทศไทย ก็ไดท้ รงจดั ตงั้ กองเสอื ป่ าขนึ้ เม่อื วนั ท่ี 6 พฤษภาคม 2454 มจี ดุ มงุ่ หมายเพ่อื ฝึกหดั ใหข้ า้ ราชการและพลเรอื นไดเ้ รยี นรูว้ ิชาทหาร เพ่อื เป็น คณุ ประโยชนต์ อ่ บา้ นเมอื ง รูจ้ กั ระเบยี บวนิ ยั มคี วามจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบนั ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ ต่อจากนนั้ อีก 2 เดอื น ก็ไดพ้ ระราชทานกาเนิดลกู เสอื ไทยขนึ้ เม่อื วนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2454 ดว้ ยทรงมีพระราชปรารภ วา่ เม่ือฝึกผใู้ หญ่เป็นเสือป่า เพ่อื เตรยี มพรอ้ มในการช่วยเหลอื ชาตบิ า้ นเมอื งแลว้ เหน็ ควรท่ีจะมกี ารฝึกเดก็ ชาย ปฐมวยั ใหม้ ีความรูท้ างเสอื ป่าดว้ ย เม่อื เตบิ โตขนึ้ จะไดร้ ูจ้ กั หนา้ ท่แี ละประพฤติตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อชาติบา้ นเมือง จากนนั้ ทรงตงั้ กองลกู เสอื กองแรกขนึ้ ท่โี รงเรยี นมหาดเลก็ หลวง (โรงเรยี นวชิราวธุ ในปัจจบุ นั ) และจดั ตงั้ กองลกู เสอื ตามโรงเรยี น ตา่ ง ๆ ใหก้ าหนดขอ้ บงั คบั ลกั ษณะปกครองลกู เสอื ขนึ้ รวมทงั้ พระราชทาน คาขวญั ใหล้ ูกเสือวา่ “เสยี ชีพ อย่าเสียสตั ย์ ” ผทู้ ่ไี ดร้ บั ยกย่องวา่ เป็นลกู เสือไทยคนแรก คอื นาย บนุ นาค ซง่ึ ตอ่ มา ไดร้ บั พระราชทาน บรรดาศกั ดิเ์ ป็น “นายลขิ ิตสารสนอง”



ความรู้ พระองคโ์ ปรดเกลา้ ก่อตงั้ โรงเรยี นตา่ งและพระองคย์ งั สน พระทยั ในเรอ่ื งการเรยี นรูใ้ นเร่อื งตา่ ง ๆทงั้ ภาษาและวิชาการตา่ ง ๆ และทรงสง่ เสรมี ดา้ นความรูก้ ารศกึ ษา และสรา้ งสรรคว์ รรณกรรม นาฏศลิ ละปรบั ปรุงวฒั นธรรม การนาไปปรับใช้ 1. มงุ่ ม่นั ตงั้ ใจเรยี น 2. พฒั นาศกั ยภาพของของตนเอง 3. หาความรูใ้ หมอ่ ยเู่ รอ่ื ย ๆ

การออม พระองคไ์ ดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั คิ ลงั ออมสนิ พ.ศ. 2456 ขนึ้ เพ่ือใหป้ ระชาชนรูจ้ กั ออมทรพั ยแ์ ละเพ่ือความม่นั คง ในดา้ นเศรษฐกิจของประเทศ ทรงจดั ตงั้ สภาเผยแผพ่ าณิชย์ ซง่ึ เป็นหน่วยงาน คลา้ ยกบั สภาพฒั นาการเศรษฐกิจในปัจจบุ นั และใชพ้ ระราชทรพั ยส์ ่วน พระองคซ์ ือ้ หนุ้ เพ่มิ ทนุ ของ ธนาคารสยามกรรมมาจล ทนุ จากดั (ปัจจบุ นั คือ ธนาคารไทยพาณิชย)์ ซง่ึ มีปัญหาการเงิน ทาใหธ้ นาคารของคนไทยแห่งนี้ ดารงอยมู่ าได้ การนาไปปรบั ใช้ 1. รูจ้ กั อดออมใชเ่ งินไมเ่ กินตวั 2. เหน็ คณุ คา่ ของเงิน

สมาชิกกลุ่ม • นาย ธณพัฒน์ พนั ธเ์ พช็ ร เลขท1ี่ • นาย จริ พฒั น์ อาจอาคคม เลขท3่ี • ชัน้ มัธยมศกึ ษาปี ท5่ี /2