1
2 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกความแตกต่างระหวา่ งของแขง็ ที่เป็นรปู ผลึกกับ ของแขง็ อสัณฐานได้ 2. อธิบายการเปล่ยี นสถานะโดยการหลอมเหลวและการระเหดิ ของของแขง็ ได้ 3. จาแนกประเภทของผลกึ ของของแข็ง โดยใช้ชนิดของ พนั ธะหรือแรงยดึ เหน่ยี วระหว่างอนุภาคเป็นเกณฑ์ได้ เพื่อน ๆ พรอ้ มแลว้ ....เรามาเร่มิ ทากจิ กรรม ตามลาดับกนั นะคะ่
3 แบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื ง ชนิดของผลกึ คาชี้แจง ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบท่เี หน็ วา่ ถกู ต้องที่สุดเพียงข้อเดียวกาเครอ่ื งหมาย ลงใน กระดาษคาตอบ 1. ผลกึ ในข้อใดมจี ุดเดอื ดและจดุ หลอมเหลวสูงท่ีสดุ ก.โลหะ ข. โมเลกลุ ค. โควาเลนต์รา่ งตาขา่ ย ง. ไอออนิก 2. ปัจจยั ในขอ้ ใดที่ทาให้เกดิ การระเหิดไดย้ าก ก. ความดนั บรรยากาศสงู ข. ทอ่ี ณุ หภมู สิ ูง ค. มพี ืน้ ท่ผี วิ มาก ง. แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนภุ าคนอ้ ย 3. ของแข็งในข้อใดมรี ูปผลกึ เปน็ ลกั ษณะเฉพาะตวั ก. จกุ ยาง ข. โครเมยี ม ค. บีกเกอร์ ง. กลอ่ งพลาสติก 4. ของแขง็ หลอมเหลวอยา่ งรวดเร็วทอ่ี ุณหภมู ิเหนือ 100 oC ไม่นาไฟฟา้ เมอ่ื หลอมเหลว ละลายไดด้ ี ในตัวทาละลายอนิ ทรยี ์พวกไฮโดรคารบ์ อน โครงสร้างของของแข็งนีค้ วรเปน็ ผลึกชนดิ ใด ก. ผลกึ โมเลกุล ข. ผลกึ โลหะ ค. ผลึกไอออนกิ ง. ผลึกโควาเลนต์ โครงผลกึ ร่างตาข่าย
4 5. สารในขอ้ ใดท่ีเกดิ การระเหิดได้ทุกชนดิ ก. ไอโอดีน พิมเสน เกลอื แกง ข. แนฟทาลีน กามะถนั การบูร ค. การบูร แอมโมเนยี พมิ เสน ง. คารบ์ อนไดออกไซดแ์ ขง็ ไอโอดีน แนฟทาลีน 6. ของแขง็ ในข้อใดท่มี อี นุภาคประกอบด้วยไอออนบวกกับไอออนลบ ก. แมกนีเซียมคลอไรด์ ข. สงั กะสี ค. แกรไฟต์ ค. ไอโอดีน 7. ทุกขอ้ ตอ่ ไปนเี้ ป็นสมบัติของของแข็งอสณั ฐานยกเว้นข้อใด ก. ตัวอย่างของแขง็ อสัณฐาน เช่น แกว้ ข้ีผ้งึ ๆ ข. อนภุ าคภายในของแข็งจดั เรียงตวั ไม่เป็นระเบียบ ค. เมื่อแตกหักได้ชนิ้ ส่วนทไี่ ม่เปน็ รูปทรงเรขาคณิต ง. เมื่อได้รับความรอ้ นมากพอจะแข็งและเปราะแตกออกเป็นช้นิ เลก็ 8. ของแข็งในข้อใดมีรปู ผลกึ ทกุ ชนดิ ก. คาร์บอน ฟอสฟอรสั กามะถนั ข. พลาสติก กามะถนั ฟุลเลอรนี ค. แกว้ กามะถัน ฟอสฟอรัส ค. ขี้ผึ้ง เพชร แกรไฟต์ 9. สารในขอ้ ใดเป็นผลกึ โมเลกุล ก. ซิลเวอรค์ ลอไรด์ ข. แมกนีเซยี ม ค. นา้ แขง็ แห้ง ง. ควอตซ์ 10. นา้ ตาลทราย (ซโู ครส C12H22O11) เป็นผลกึ ของแข็งประเภทใด ก. โลหะ ข. ไอออนิก ค. โมเลกุล ง. ของแข็งอสัณฐาน
5 ใบความรู้ท่ี 2.1 เรอ่ื ง ชนดิ ของผลึก ............................................................................................................................................................. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. จาแนกประเภทของผลึกของของแข็ง โดยใชช้ นิดของพนั ธะหรอื แรงยึดเหนีย่ ว ระหวา่ งอนุภาคเป็นเกณฑ์ได้ 2. บอกความแตกตา่ งระหวา่ งของแข็งทีเ่ ป็นรปู ผลึกกับของแข็งอสัณฐานได้ ............................................................................................................................................................. สาระสาคัญ ของแขง็ มี 2 ประเภท คือ ของแข็งทีม่ ีรปู ผลกึ และไม่มรี ูปผลึก ของแขง็ ท่ีอยู่ในรปู ผลึก จะมีการจดั เรียงอนภุ าคอย่างมีระเบียบมีจดุ หลอมเหลวทช่ี ัดเจนและคงที่ พิจารณาแรงยึดเหน่ยี ว ระหว่างอนุภาคภายในผลกึ ของของแขง็ สามารถแบง่ ของแข็งเปน็ 4 ชนิดคอื ผลึกโมเลกุล ผลกึ ไอออนิก ผลึกโควาเลนต์ร่างตาข่าย และผลึกโลหะ ของแข็งท่ีเปน็ รปู ผลึก ลักษณะผลึกในของแข็ง เกิดจากการจัดเรียงอนุภาคภายในอย่างมีระเบียบเป็น 3 มิติ ของแข็งท่ีเป็นผลึกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ตามชนิดของอนุภาค ซ่ึงอาจเป็นไอออน อะตอมหรือ โมเลกลุ ของของแข็ง ดังน้ี ตารางท่ี 2.1 ชนิดและสมบตั ิบางประการของของแขง็ ที่อยใู่ นรปู ผลึก ลักษณะเฉพาะ ชนดิ ของ ชนิดของพันธะหรอื สมบัติทว่ั ไป ตัวอย่างของ และสมบัติ อนภุ าค แรงยดึ เหน่ียว ของแข็ง ภายในผลึก ระหว่างอนภุ าค ชนดิ ของผลกึ โมเลกุลหรือ โมเลกลุ มีขว้ั - อ่อนหรือ แขง็ โมเลกลุ มขี ั้ว ผลกึ โมเลกลุ อะตอม - แรงดึงดูดระหวา่ ง ปานกลางเปราะ - นา้ แขง็ ขว้ั
6 ลกั ษณะเฉพาะ ชนิดของ ชนดิ ของพนั ธะ สมบตั ิทั่วไป ตัวอย่างของของแขง็ และสมบตั ิ อนุภาค หรอื แรงยดึ ภายในผลกึ เหนยี่ วระหว่าง ไมม่ าก - แอมโมเนยี ชนดิ ของผลกึ อนภุ าค - จุดหลอมเหลว โมเลกลุ ไมม่ ขี ว้ั อะตอม ต่า - น้าแขง็ แห้ง ผลกึ โควาเลนต์ - พนั ธะ - ไมน่ าความ - แนฟทาลนี รา่ งตาข่าย อะตอม ไฮโดรเจน ร้อนและไฟฟ้า - กามะถัน โมเลกลุ ไมม่ ขี ว้ั - ไอโอดีน ผลกึ โลหะ ไอออน หรืออะตอม - แข็ง - เพชร ( C) - แรงลอนดอน - จดุ หลอมเหลว - แกรไฟต์ (C) ผลึกไอออนกิ พันธะโควา สงู - ควอตซ์ (SiO2) เลนต์ - สว่ นใหญไ่ ม่ - ซลิ คิ อนคารไ์ บด์ นาความร้อน (SiC) พนั ธะโลหะ และไฟฟา้ - แขง็ - แมกนเี ซยี ม พันธะไอออนิก - จดุ หลอมเหลว - เหลก็ สูง - ทองแดง - นาความร้อน -โซเดียม และนาไฟฟา้ ได้ - อะลมู เิ นียม ดี - ตะกวั่ - แขง็ เปราะ - โพแทสเซียมไน - จุดหลอมเหลว เตรต สงู - ซิลเวอร์คลอไรด์ - ไมน่ าความ - แมกนีเซียม ร้อนและไฟฟ้า ออกไซด์ - แคลเซียม ฟลูออไรด์
7 ของแข็งทีไ่ มเ่ ป็นรูปผลกึ ของแข็งบางชนิดไม่มีรูปผลึก เช่น ยาง พลาสติก แก้ว ข้ีผึ้ง กามะถันในรูปกามะถันพลาสติก ของแข็ง ประเภทน้ีเรียกว่า ของแข็งอสัณฐาน (Amorphous solid) อนุภาคภายในของแข็งประเภทนี้มีการ จัดเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ เม่ือแตกหักจะได้ช้ินส่วนที่ไม่เป็นรูปทรงเรขาคณิต หรือเมื่อได้รับความ ร้อนปริมาณมากพอจะค่อยๆ อ่อนตัวกลายเป็นของเหลวและไหลได้ ของแข็งประเภทนี้ส่วนใหญ่ ไมส่ ามารถหาจดุ หลอมเหลวท่ีแน่นอนได้ แตม่ บี างชนิด เชน่ แก้ว เมื่อใช้อปุ กรณเ์ ฉพาะจะสามารถ หาจดุ หลอมเหลวที่แน่นอนได้ สาหรับควอตซ์ (SiO2) เป็นของแข็งผลึก แต่เมื่อทาแก้ว แก้วควอตซ์ จะเป็นของแข็งอสัณฐาน ภาพ 2-1 โครงสร้าง 2 มิตขิ องผลึกควอตซ์และแก้วควอตซ์ ข้อควรทราบ อัญรูป คอื รปู ตา่ ง ๆ ของธาตชุ นดิ เดยี วกนั ทีภ่ าวะเดยี วกนั เชน่ ที่อุณหภมู ิห้อง ธาตุออกซิเจนปรากฏเป็น 2 รูป คือ แก๊สออกซิเจน (O2) และแก๊สโอโซน (O3) ส่วนคาว่า รูป มีความหมายกว้างกว่าอัญรูป คือ รูปต่าง ๆ ของธาตุชนิดเดียวกันท่ีปรากฏท่ีภาวะ เดียวกัน หรือภาวะต่างกันก็ได้ เช่น ดีบุกมี 2 รูป คือ ดีบุกขาว จะเสถียรที่อุณหภูมิระหว่าง 13oC - 161oC กับดีบุกเทาจะเสถียรต่ากว่า 13oC รูปของธาตุเกิดได้กับธาตุอโลหะ เช่น ฟอสฟอรสั ขาว ฟอสฟอรัสแดง และฟอสฟอรสั ดา ต่างเป็นธาตุฟอสฟอรัสเหมือนกนั ธาตุ โลหะเช่น ดบี ุกเทา และ ดีบุกขาว ต่างเป็นรปู ของธาตดุ ีบุกเหมือนกัน ธาตุที่เป็นรปู กันจะมี สมบตั ิทางกายภาพต่างกัน และสมบตั ิทางเคมีคล้ายกนั
8 ใบความรู้ท่ี 2.2 เรอื่ ง การเปลย่ี นสถานะของของแข็ง ………………………………………………………………………………………………………. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการเปล่ียนสถานะโดยการหลอมเหลวและการระเหดิ ของของแขง็ ได้ …………………………………………………………………………………………………… สาระสาคญั การเปลี่ยนสถานะของของแข็ง มกี ารหลอมเหลวและการระเหิด การหลอมเหลวเป็นการ เปลีย่ นสถานะจากของแขง็ ไปเปน็ ของเหลว สว่ นการระเหดิ เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งไป เป็นแก๊สโดยไมผ่ า่ นการเป็นของเหลว การเปลยี่ นสถานะของของแข็ง 1. การหลอมเหลว (Melting) เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นของเหลว เม่ือของแข็งได้รับความร้อน ทาให้ อนุภาคภายในของแข็งมีพลังงานจลน์มากข้ึน จึงมีการส่ันสะเทือนมากข้ึนและรุนแรงจนชนะแรง ยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคภายในได้ อนุภาคจึงแยกออกจากกันและเคลื่อนท่ีไปมาได้ กลายเป็น ของเหลว อณุ หภูมใิ นขณะที่ของแขง็ เปลย่ี นสถานะเป็นของเหลว เรยี กวา่ จดุ หลอมเหลว (Melting point) จดุ หลอมเหลวปกติของสารคิดท่คี วามดัน 1 บรรยากาศ หรอื 760 mmHg ปัจจัยทม่ี ีผลต่อจุดหลอมเหลว 1) ความดนั บรรยากาศ - ถา้ ความดันบรรยากาศสงู จุดหลอมเหลวจะสูง - ถ้าความดนั บรรยากาศตา่ จดุ หลอมเหลวจะตา่
9 2) ชนิดของของแขง็ - ของแข็งทม่ี ีแรงยึดเหนีย่ วระหว่างอนภุ าคมาก จะมจี ุดหลอมเหลวสูง - ของแขง็ ทีม่ ีแรงยดึ เหนยี่ วระหวา่ งอนุภาคน้อย จะมจี ุดหลอมเหลวต่า 2. การระเหิด (Sublimation) เปน็ การเปลยี่ นสถานะจากของแขง็ ไปเป็นไอโดยไมม่ กี ารเปลี่ยนเปน็ ของเหลวกอ่ น เม่อื อนุภาคได้รับความรอ้ นจากสงิ่ แวดลอ้ มเพียงเล็กน้อย และมีการสั่นสะเทือนของอนภุ าค อย่ตู ลอดเวลา ทาให้มีการถ่ายเทพลังงาน อนุภาคใดมีพลังงานมากกวา่ แรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งอนภุ าค ภายในกจ็ ะหลดุ ออกไปเป็นไอ ซึง่ จะเกดิ บริเวณผิวหนา้ ของของแขง็ เทา่ นัน้ การระเหิดจะเกิดกับสารทไี่ ม่มีขัว้ หรือมีขัว้ นอ้ ยมาก และมแี รงยึดเหนย่ี วระหวา่ งอนภุ าคเป็น แรงแวนเดอรว์ าลส์อยา่ งออ่ น เชน่ แรงลอนดอน ของแข็งท่ีระเหิดได้ ได้แก่ ไอโอดนี การบรู แนพทาลนี นา้ แขง็ แหง้ พมิ เสน ปัจจยั ทม่ี ผี ลตอ่ การระเหิด 1) อุณหภูมิ - ถา้ อณุ หภมู สิ ูง ของแข็งจะระเหดิ ไดม้ าก - ถา้ อณุ หภูมิต่า ของแขง็ จะระเหิดไดน้ ้อย 2) พื้นทผ่ี วิ ของของแข็ง - ของแข็งท่มี ีพื้นทผ่ี วิ มาก จะระเหดิ ได้มาก - ของแข็งทมี่ พี ้ืนที่ผิวน้อย จะระเหิดไดน้ ้อย 3) ชนดิ ของของแขง็ - ของแขง็ ทมี่ ีแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนุภาคมาก จะระเหดิ ไดย้ าก - ของแข็งทม่ี ีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคน้อย จะระเหดิ ได้ง่าย 4) ความดนั บรรยากาศ - ถ้าความดันบรรยากาศสูง จะระเหิดได้ยาก - ถ้าความดันบรรยากาศตา่ จะระเหิดไดง้ า่ ย 5) อากาศเหนอื ของแข็ง - ถ้ามีการถา่ ยเท (ลมพัด) จะระเหิดได้มาก - ถ้าไม่มกี ารถ่ายเท จะระเหิดได้น้อย เพราะอากาศจะอิ่มตวั ดว้ ยไอของสาร
10 กิจกรรมท่ี 2.1 สารวจและค้นหา กิจกรรมที่ 2.1.1 คาช้ีแจง นกั เรยี นศกึ ษาเนอ้ื หาจากใบความรทู้ ่ี 2.1 เรือ่ ง ชนิดของผลึก แล้ว ตอบคาคามต่อไปนใี้ หส้ มบูรณ์ 1. จงใชข้ อ้ มูลจากตารางท่ี 1 ใบความร้ทู ่ี 2.1 ระบุว่าของแข็งที่กาหนดให้ต่อไปนี้ เป็นผลึก ประเภทใด 1.1 เงิน ตอบ............................................................................................... 1.2 เกลือแกง ตอบ.............................................................................................. 1.3 ลกู เหม็น ตอบ............................................................................................. 2. จงบอกประเภทของผลึก ชนดิ ของอนภุ าคภายในผลึก พนั ธะหรือแรงยดึ เหนีย่ ว สมบัติทว่ั ไป ของของแขง็ โดยเตมิ ข้อมูลลงในตารางตอ่ ไปนี้ ชนิดของพนั ธะ สาร ชนิดของผลกึ ชนดิ ของอนุภาค หรือแรงยดึ สมบัติทว่ั ไป ภายในผลกึ เหนย่ี วระหวา่ ง อนุภาค สังกะสี (Zn) น้าแขง็ แหง้ (CO2) ควอตซ์ (Sio2)
11 กจิ กรรมที่ 2.1.2 คาชีแ้ จง นักเรียนศกึ ษาใบความรทู้ ่ี 2.2 เร่ือง การเปลยี่ นสถานะของของแขง็ แลว้ ตอบคาถามในแต่ละข้อตอ่ ไปน้ีให้สมบูรณ์ 1. การหลอมเหลวเป็นการเปลย่ี นแปลงอยา่ งไร จงอธิบาย ตอบ.......................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... 2. จุดหลอมเหลวพิจารณาได้อย่างไร ตอบ.......................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... 3. ปจั จยั ทมี่ ผี ลต่อการหลอมเหลวไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ตอบ.......................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... 4. กระบวนการระเหิดเกดิ ข้นึ กบั สารประเภทใด จงอธบิ าย ตอบ.......................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 5. จงระบปุ จั จัยท่ผี ลต่อการระเหิดของของแขง็ ตอบ.......................................................................................................................................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................
12 กจิ กรรมท่ี 2.2 เพ่ิมพูนความรู้ คาช้แี จง จากการศกึ ษาใบความรู้ นกั เรยี นสามารถสรุปประเดน็ ตอ่ ไปนไี้ ด้อยา่ งไร 1. ผลกึ ของแข็งแบง่ ตามแรงยึดเหนย่ี วได้ก่ปี ระเภทอะไรบ้าง ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. ของแข็งทมี่ ีรูปผลึกและไมม่ รี ปู ผลึกแตกตา่ งกันอย่างไร ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. การระเหิดเกดิ ข้ึนได้อยา่ งไร ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 4. จงยกตัวอยา่ งของแขง็ ในชีวิตประจาวนั ทเ่ี กดิ การระเหิดได้ ……….......................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ชว่ ยกนั คิดนะค่ะ อย่าลมื วา่ ครปู ระเมินการทางานกลมุ่ ค่ะ
13 กิจกรรมท่ี 2.3 พฒั นาความคิด คาชแี้ จง จากรปู ภาพท่ีกาหนดให้ ให้นกั เรียนตอบคาถามโดยเตมิ ประเภทของของแข็ง “ มีรูปผลกึ ” และ “ ของแขง็ อสัณฐาน ” พรอ้ มท้งั บอกชนดิ ของผลกึ ลงใน กรอบใต้รปู ภาพ เพชร แกว้ น้า น้าแขง็ ........................................... ........................................... ........................................... ............................... ............................... ............................... ... ... ... เก้าอพ้ี ลาสติก เกลือแกง รองเทา้ พลาสติก ........................................... ........................................... ........................................... ............................... ............................... ............................... ... ... ... 2. ถ้าทุบ ทอง กามะถนั และโซเดียมคลอไรด์ ด้วยค้อน ผลที่เกิดขึ้น จะเหมือนหรือต่างกนั อยา่ งไร ตอบ.......................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................
14 แบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง ชนิดของผลกึ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ีเหน็ ว่าถูกต้องท่ีสดุ เพียงขอ้ เดยี วกาเคร่อื งหมาย ลงใน กระดาษคาตอบ 1. สารในข้อใดเป็นผลึกโมเลกลุ ก. ควอตซ์ ข. น้าแขง็ แห้ง ค. แมกนเี ซียม ง. ซลิ เวอรค์ ลอไรด์ 2. ของแขง็ ในข้อใดมรี ูปผลึกทุกชนิด ก. ข้ีผ้ึง เพชร แกรไฟต์ ข. แกว้ กามะถัน ฟอสฟอรสั ค. พลาสตกิ กามะถัน ฟุลเลอรนี ง. คาร์บอน ฟอสฟอรสั กามะถัน 3. ผลกึ ในข้อใดมีจดุ เดือดและจดุ หลอมเหลวสงู ท่ีสุด ก. โควาเลนตร์ า่ งตาข่าย ข. ไอออนกิ ค. โมเลกุล ง. โลหะ 4. ของแข็งในข้อใดมีรปู ผลกึ เป็นลกั ษณะเฉพาะตัว ก. จกุ ยาง ข. บกี เกอร์ ค. โครเมียม ง. กลอ่ งพลาสติก 5. ของแขง็ ในข้อใดท่ีมอี นุภาคประกอบดว้ ยไอออนบวกกับไอออนลบ ก. สังกะสี ข. แกรไฟต์ ค. ไอโอดีน ง. แมกนีเซียมคลอไรด์
15 6. น้าตาลทราย (ซูโครส C12H22O11) เป็นผลึกของแข็งประเภทใด ก. โลหะ ข. โมเลกุล ค. ไอออนิก ง. ของแขง็ อสัณฐาน 7. สารในขอ้ ใดที่เกดิ การระเหิดไดท้ ุกชนดิ ก. คารบ์ อนไดออกไซดแ์ ขง็ ไอโอดนี แนฟทาลีน ข. ไอโอดนี พิมเสน เกลือแกง ค. แนฟทาลีน กามะถนั การบรู ง. การบูร แอมโมเนีย พิมเสน 8. ของแข็งหลอมเหลวอยา่ งรวดเร็วที่อุณหภมู ิเหนือ 100 oC ไมน่ าไฟฟา้ เมอื่ หลอมเหลว ละลายได้ดี ในตวั ทาละลายอนิ ทรยี ์พวกไฮโดรคารบ์ อน โครงสรา้ งของของแขง็ นีค้ วรเปน็ ผลกึ ชนิดใด ก. ผลกึ โควาเลนต์ โครงผลึกรา่ งตาขา่ ย ข. ผลกึ ไอออนิก ค. ผลกึ โมเลกุล ง. ผลกึ โลหะ 9. ทกุ ข้อต่อไปนี้เปน็ สมบตั ิของของแขง็ อสณั ฐานยกเว้นข้อใด ก. ตัวอยา่ งของแข็งอสัณฐาน เช่น แก้ว ขีผ้ ึง้ ข. อนุภาคภายในของแขง็ จดั เรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ค. เม่อื แตกหักได้ชิน้ สว่ นที่ไมเ่ ป็นรปู ทรงเรขาคณิต ง. เมอื่ ได้รบั ความรอ้ นมากพอจะแขง็ และเปราะแตกออกเป็นชิ้นเลก็ 10. ปัจจัยในข้อใดที่ทาให้เกิดการระเหดิ ได้ยาก ก. แรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนุภาคน้อย ข. ความดนั บรรยากาศสงู ค. มพี ้นื ทีผ่ วิ มาก ง. ทีอ่ ุณหภมู สิ งู
16 เฉลยกจิ กรรมท่ี 2.1 สารวจและค้นหา กจิ กรรมท่ี 2.1.1 คาช้แี จง นักเรยี นศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ที่ 2.1 เรอ่ื ง ชนิดของผลึก แลว้ ตอบคาถามต่อไปน้ีใหส้ มบูรณ์ 1. จงใชข้ ้อมลู จากตารางที่ 1 ระบวุ ่าของแข็งท่กี าหนดให้ต่อไปนี้ เป็นผลึกประเภทใด 1.1 เงนิ ตอบ.......................ผลึกโลหะ.................................................... 1.2 เกลอื แกง ตอบ.......................ผลึกไอออนิก............................................... 1.3 ลูกเหมน็ ตอบ.......................ผลกึ โมเลกุล................................................ 2. จงบอกประเภทของผลึก ชนิดของอนภุ าคภายในผลึก พันธะหรอื แรงยึดเหน่ียว สมบตั ิทว่ั ไป ของของแขง็ ต่อไปน้ี โดยเตมิ ข้อมลู ลงในตารางทีก่ าหนดให้ สาร ชนิดของผลกึ ชนิดของ ชนดิ ของ สมบัติท่วั ไป อนุภาค พนั ธะหรือ ภายในผลกึ แรงยดึ เหนี่ยว ระหว่าง อนุภาค ผลกึ โลหะ อะตอม พนั ธะโลหะ - แข็ง - จุดหลอมเหลวสูง - นาความร้อนและนาไฟฟา้ ได้ สังกะสี (Zn) ดี ผลึกโมเลกลุ โมเลกุล โมเลกลุ ไม่มี - อ่อนหรอื แข็งปานกลาง ขัว้ หรือ เปราะไม่มาก อะตอม - จุดหลอมเหลวตา่ - แรง - ไมน่ าความร้อนและไฟฟา้ นา้ แข็งแหง้ ลอนดอน ผลกึ โควา อะตอม พนั ธะโควา - แข็ง เลนตร์ า่ งตา เลนต์ - จดุ หลอมเหลวสงู ข่าย - ส่วนใหญไ่ มน่ าความร้อน ควอตซ์ (SiO2) และไฟฟ้า
17 กิจกรรมที่ 2.1.2 คาชี้แจง นักเรียนศึกษาใบความรทู้ ี่ 2.2 เรื่อง การเปลี่ยนสถานะของของแข็ง แล้วตอบคาถามในแตล่ ะข้อต่อไปนี้ใหส้ มบรู ณ์ 1. การหลอมเหลวเปน็ การเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร จงอธิบาย ตอบ เป็นการเปล่ียนสถานะจากของแข็งเป็นของเหลว เมื่อของแข็งได้รับความร้อน ทา ให้อนุภาคภายในของแข็งมีพลังงานจลน์มากขึ้น จึงมีการส่ันสะเทือนมากข้ึนและรุนแรงจนชนะ แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคภายในได้ อนุภาคจึงแยกออกจากกันและเคลื่อนท่ีไปมาได้ กลายเป็นของเหลว 2. จุดหลอมเหลวพิจารณาได้อยา่ งไร ตอบ อุณหภูมิในขณะที่ของแขง็ เปล่ียนสถานะเปน็ ของเหลว เรยี กว่า จุดหลอมเหลว (Melting point) จุดหลอมเหลวปกติของสารคิดทค่ี วามดัน 1 บรรยากาศ หรือ 760 mm.Hg 3. ปจั จยั ท่มี ผี ลต่อการหลอมเหลวได้แกอ่ ะไรบา้ ง ตอบ1) ความดันบรรยากาศ - ถ้าความดันบรรยากาศสูง จุดหลอมเหลวจะสงู - ถ้าความดันบรรยากาศต่า จุดหลอมเหลวจะตา่ 2) ชนดิ ของของแข็ง - ของแขง็ ที่มีแรงยึดเหนีย่ วระหวา่ งอนภุ าคมาก จะมีจุดหลอมเหลวสงู - ของแข็งทีม่ ีแรงยดึ เหนย่ี วระหวา่ งอนุภาคน้อย จะมจี ุดหลอมเหลวตา่ 4. กระบวนการระเหดิ เกดิ ขึ้นกบั สารประเภทใด จงอธบิ าย ตอบ เกิดกับสารท่ไี มม่ ขี ้ัว หรอื มีข้ัวน้อยมาก และมีแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนุภาคเป็นแรง แวนเดอร์วาลส์อยา่ งออ่ น เชน่ แรงลอนดอน 5. จงระบุปจั จยั ที่มผี ลต่อการระเหดิ ของของแขง็ ตอบ 1. อณุ หภมู ิ ณ อณุ หภมู ิสงู ของแข็งระเหดิ ไดม้ ากกวา่ ท่ีอุณหภมู ิตา่ 2. พื้นทผ่ี วิ ของของแขง็ ของแขง็ ทม่ี ีพ้ืนที่ผิวหน้ามากจะระเหิดไดด้ กี วา่ ของแขง็ ทม่ี ีพน้ื ท่ีผวิ หน้านอ้ ย 3. แรงยึดเหนยี่ วระหว่างอนุภาค ของแข็งใดมแี รงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนุภาคน้อย จะระเหดิ ได้งา่ ย แต่ถ้ามแี รงยึดเหนีย่ วระหวา่ งอนภุ าคมากขึน้ จะระเหิดได้ช้า
18 เฉลยกิจกรรมที่ 2.2 เพม่ิ พูนความรู้ คาช้แี จง จากการศกึ ษาใบความรู้ นักเรยี นสามารถสรุปประเด็นต่อไปนี้ไดอ้ ยา่ งไร 1. ผลกึ ของแข็งแบ่งตามแรงยึดเหน่ยี วไดก้ ่ปี ระเภทอะไรบ้าง ตอบ ผลกึ ของแขง็ แบ่งตามแรงยดึ เหนี่ยวได้ 4 ประเภท 1. ผลกึ โมเลกลุ 2. ผลกึ โควาเลนต์รา่ งตาขา่ ย 3. ผลกึ โลหะ 4. ผลึกไอออนิก 2. ของแข็งที่มีรปู ผลึกและไมม่ ีรูปผลกึ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร ตอบ ของแขง็ ที่มรี ปู ผลกึ และไมม่ รี ปู ผลกึ แตกตา่ งกัน คือ ของแขง็ ที่มีรูปผลกึ มกี ารจัดเรียง อนุภาคภายในอย่างเปน็ ระเบียบ เป็น 3 มิติ ของแขง็ ทีไ่ ม่มีรูปผลกึ การจดั เรียงอนภุ าคภายใน ไม่เปน็ ระเบยี บ เมื่อแตกหกั ชิ้นส่วนไมเ่ ปน็ รปู ทรงเรขาคณติ 3. การระเหิดเกดิ ข้ึนไดอ้ ย่างไร ตอบ การระเหิดเกิดขึ้นกับสารที่มีสถานะของแข็ง โดยเป็นการเปลี่ยนสถานะจากของแข็งไป เป็นไอโดยไม่มีการเปลี่ยนเป็นของเหลวก่อน เม่ืออนุภาคได้รับความร้อนจากสิ่งแวดล้อมเพียง เล็กนอ้ ย และมีการส่นั สะเทือนของอนุภาคอยตู่ ลอดเวลา ทาใหม้ กี ารถ่ายเทพลงั งาน อนภุ าคใด มีพลังงานมากกว่าแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคภายในก็จะหลุดออกไปเป็นไอ ซ่ึงจะเกิดบริเวณ ผวิ หน้าของของแข็งเทา่ นัน้ 4. จงยกตัวอย่างของแขง็ ในชวี ติ ประจาวนั ทเี่ กิดการระเหิดได้ ตอบ สารทส่ี ามารถเกดิ การระเหิดได้ ได้แก่ แนฟทาลนี การบรู ไอโอดนี พิมเสน น้าแขง็ แหง้
19 เฉลยกิจกรรมท่ี 2.3 พฒั นาความคิด คาชแี้ จง จากรูปภาพท่ีกาหนดให้ ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามโดยเติมประเภทของของแข็ง “ มีรปู ผลกึ ” และ “ ของแขง็ อสัณฐาน ” พร้อมทงั้ บอกชนิดของผลกึ ลงใน กรอบใต้รูปภาพ เพชร แกว้ นา้ นา้ แขง็ ....ของแขง็ อสัณฐาน..... ............มีรูปผลึก............. ...........มีรูปผลึก............ ผลึกโควาเลนต์รา่ งตาข่าย .....ผลึกโมเลกุล............ เกา้ อพ้ี ลาสติก เกลือแกง รองเทา้ พลาสติก ......ของแขง็ อสณั ฐาน..... ...ของแขง็ อสัณฐาน..... ............มีรูปผลึก............ .....ผลกึ ไออนิก.............. 3. ถา้ ทบุ ทอง กามะถนั และแมกนเี ซยี มคลอไรด์ ดว้ ยค้อน ผลที่เกิดขึ้น จะเหมือนหรือต่างกนั อย่างไร ตอบ ก. ทอง เปน็ ผลกึ โลหะ มคี วามเหนยี วเม่อื ทุบจะเป็นแผน่ ยดื เปน็ เสน้ ข. กามะถัน เป็นผลกึ โมเลกลุ ระหวา่ งโมเลกลุ ยึดกนั ด้วยแรงลอนดอนอ่อน เมอ่ื ทบุ จะแตกออกเปน็ ก้อนเล็ก ๆ ค. แมกนเี ซียมคลอไรด์ เปน็ ผลกึ ไอออนกิ ยึดเหนย่ี วกันระหว่างไอออน เปน็ พันธะ ไอออนกิ เม่ือถกู ทุบไอออนจะแยกออกจากกนั แข็ง เปราะ
20 บรรณานุกรม กฤษณา ชตุ ิมา. (2549). หลกั เคมที ่วั ไป 1.กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. นพิ นธ์ ตังคณานุรักษแ์ ละเสกสรร ศิริวัฒนวบิ ลู ย์. (2551). ขยนั ก่อนสอบเคมพี ้นื ฐานและเพ่ิมเตมิ ใหม่ ตรงตามหลกั สตู รแกนกลาง พ.ศ.2551 ม.4. กรุงเทพฯ: แม็ค บณั ฑิตแนะแนว. (2548). ตะลยุ โจทยเ์ คมี A-NET. กรุงเทพฯ : หา้ งหนุ้ สว่ นจากดั ร่งุ เรืองสาสน์ การพมิ พ.์ มูลนธิ ิการศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทียม. (2550). คมู่ ือสอนทางไกลผา่ นดาวเทียมสาหรับโรงเรียน ปลายทางภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2550 ช่วงช้ันที่ 4 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 เล่ม 2. กรงุ เทพฯ: อมั รนิ ทร์ปรนิ้ ตงิ้ แอนดพ์ ับลชิ ซิง่ . ศรลี กั ษณ์ ผลวัฒนะและคณะ. (2548). หนังสอื เรียนสาระการเรียนรู้เพิม่ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ของแข็ง ของเหลว แก๊ส ชว่ งช้นั ท่ี 4 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 – 6 ตามหลกั สูตร การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2544 . กรุงเทพฯ : แมค็ . ศรลี กั ษณ์ ผลวฒั นะและประดบั นาคแก้ว. (2553). หนังสือเรยี นรายวิชาเพมิ่ เติมกล่มุ สาระการ เรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เคมี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ตามหลักสตู รการศึกษาขั้น พนื้ ฐานพทุ ธศกั ราช 2551. กรุงเทพฯ : แม็ค. สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี,สถาบัน.กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2548). หนงั สอื เรียน สาระการเรียนรูพ้ น้ื ฐานและเพมิ่ เติม เคมี เลม่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ตามหลักสตู รการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2544. พมิ พค์ รงั้ ที่ 3. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพรา้ ว. ___________. (2554). หนังสอื เรียนรายวชิ าเพม่ิ เติม เคมี เล่ม 2 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ : สกสค. ลาดพรา้ ว. สทุ ัศน์ ไตรสถิตวร. (2547). คูม่ อื เตรียมสอบ เคมี ม. 4 เลม่ 2 ว 031. กรุงเทพฯ : ไฮเอด็ พบั ลิซซิ่ง. สาราญ พฤกษ์สนุ ทร. (2552). เฉลย Entrance 15 พ.ศ. กรุงเทพฯ. : ห้างหุน้ ส่วนจากัดเรอื งแสงการ พมิ พ์
21
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: