การจาแนกประเภทของเครื่องดนตรีสากล (music Instruments) เครื่องดนตรีสากลในปัจจุบนั สามารถจาแนกหรือจดั เป็นประเภทใหญ่ๆ ตามลกั ษณะของเสียงท่ี คลา้ ยคลึงกนั และลกั ษณะของเครื่องดนตรี แบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ ๆ ดงั น้ี เคร่ืองสาย (String Instruments) เครื่องลมไม้ (Woodwind Instruments) เคร่ืองลมทองเหลอื ง (Brass Instruments) เคร่ืองลม่ิ นิ้ว (Keyboard Instruments) เครื่องกระทบ (Percussion Instruments) เครื่องสาย (string instrument) เป็ นการจัดประเภทของเครื่องดนตรีสากล โดยเคร่ืองดนตรี สากลประเภทเคร่ืองสายน้ี หมายถงึ เคร่ืองดนตรีที่ทาให้เกิดเสียงโดยการสั่นสะเทอื นของสายลวด เชือก เอ็น หรือไนลอน และมีตวั กาธรเสียง ทาหนา้ ท่ีขยายเสียงให้ดังมากข้ึน คุณภาพของเสียงข้ึนอยกู่ บั รูปร่าง และ วตั ถุท่ีใชท้ า การสั่นสะเทือนของสายอาจทาไดโ้ ดยการสี หรือดีดโดยอาจกระทาโดยตรง หรือเพิ่มกลไกให้ ยงุ่ ยากข้ึน เคร่ืองสายทพ่ี บเห็นในปัจจุบนั นิยมใชว้ ิธีทาใหเ้ กิดเสียงได้ 2 วธิ ี คอื วิธีสี และวิธีดีด เคร่ืองสายประเภทใช้คันสี เครื่องดนตรีกลมุ่ น้ีไดแ้ ก่ 1.ไวโอลิน (Violin) เครื่องดนตรีทีใ่ ชเ้ ลน่ ท่วงทานอง ประกอบดว้ ยสาย 4 สาย แต่ละสายเทยี บเสียงห่าง กนั คู่ 5 เพอร์เฟค คอื เสียง G-D-A-E
2.วิโอลา (Viola) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินทุกประการ แต่มีขนาดใหญ่กว่าไวโอลิน ต้ังเสียงต่ากว่า ไวโอลนิ ลงไปอีกคู่ 5 เพอร์เฟค คือ C-G-D-A มีเสียงทมุ้ และนุ่มนวลกวา่ ไวโอลิน 3.เชลโล (Cello) มีรูปร่างเหมอื นไวโอลินและวิโอลา แตม่ ขี นาดโตกวา่ มาก ขณะเลน่ ตอ้ งนง่ั เกา้ อ้ี เอา เคร่ืองไวร้ ะหวา่ งขาท้งั สองขา้ ง เสียงต่ากวา่ วิโอลา 1 ช่วงคู่ 8 คอื C-G-D-A 4.ดับเบิลเบส (Double Bass) เป็นเครื่องท่ีมีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลไวโอลิน ผูบ้ รรเลงตอ้ งยืนเล่น เสียงของดบั เบิลเบส ต่าสุดแสดงถึงความมีอานาจ ความกลวั ความลึกลบั สายท้งั ส่ีต้งั เสียงห่างกนั เป็ นคู่ 4 เพอร์เฟค คือ E-A-D-G
เคร่ืองสายประเภทเครื่องดดี (Plucked String) เครื่องดนตรีกลมุ่ น้ี ไดแ้ ก่ 1.ฮาร์พ (Harp) เป็นพิณโบราณขนาดใหญ่ มีประวตั ิเก่าแก่มาก มีสายขึงอยูท่ ้งั หมด 47 สาย ช่วงเสียง กวา้ ง 6 Octaves ใชบ้ รรเลงในวงดนตรีประเภทออร์เคสตรา 2.กีตาร์ (Guitar) กีตาร์ประกอบด้วยสาย 6 สาย โดยต้งั ระดบั เสียงต่าไปหาสูง ในแต่ละสายดังน้ี E,A,D,G,B,E
3.ลูท (Lute) เป็นพณิ ชนิดหน่ึงทเ่ี ป็นตน้ กาเนิดของเคร่ืองสายประเภทดีด มรี ูปทรงเหมอื นผลส้มผ่า ซีก มีสะพานวางนิ้วที่มีช่องปรากฏอยู่ เช่นเดียวกบั กีตาร์ แบนโจ แมนโดลิน ฯลฯ ชาวอาหรับโบราณนิยม กนั มากแต่ปัจจบุ นั น้ีไม่ไดร้ บั ความนิยม 4.แมนโดลิน (Mandolin) เป็นเคร่ืองดนตรีตระกลู ลูท มีสาย 4 คู่ (8สาย) หรือ 6 คู่ (12สาย) ต้งั เสียง เท่ากนั เป็นคู่ มีลูกบิดคลา้ ยกีตาร์ใชใ้ นการต้งั เสียง และมีนม (Feat) รองรับสาย เวลาเล่นจะใช้นิ้วมือซ้ายจบั ตวั แมนโดลนิ และใชม้ ือขวาดีด 5.แบนโจ เป็ นเคร่ืองดนตรีในตระกูลลูท จุดเริ่มตน้ ท่ีมีผูน้ ามาเล่นอยู่ในแถบแอฟริกาตะวนั ตก (Western Africa) เป็ นเคร่ืองดนตรีพ้ืนบา้ นของพวกนิโกร ต่อมาจึงเป็ นท่ีแพร่หลายในหมู่อเมริกนั นิโกร วธิ ีการเลน่ คลา้ ยกบั กีตาร์
เครื่องเป่ าลมไม้ (Woodwind Instruments) เป็นการจดั ประเภทเคร่ืองดนตรีสากล โดยเคร่ือง ดนตรีประเภทเครื่องเป่ าลมไมน้ ้ี แมต้ วั ของเครื่องดนตรี อาจทาจากวสั ดุต่าง ๆ มากมาย แต่ส่วนสาคญั ที่ทา ให้เกิดเสียง คือ ลิ้น (Reed) ซ่ึงทามาจากไม้ จึงไดช้ ่ือว่า เคร่ืองเป่ าลมไมน้ นั่ เอง เครื่องเป่ าลมไมแ้ บง่ ไดอ้ ยา่ ง กวา้ ง ๆ เป็น 2 ประเภทคือ 1. ประเภทเป่ าลมเข้าไปในรูเป่ า (Blowing into a tube) 1.1 ประเภทเป่ าตรงปลาย 1. ขลุ่ยรีคอร์เดอร์ (Recorder) เป็นเคร่ืองเป่ าดนตรีสากลจดั อยใู่ นประเภทเคร่ืองเป่ าลมไมช้ นิด ไมม่ ีลิ้น เป็นเคร่ืองดนตรีที่มขี นาดเล็ก โครงสร้างทไ่ี มซ่ บั ซอ้ น 1.2 ประเภทเป่ าลมเข้าทางด้านข้าง 1. ฟลูต (Flute) เป็ นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ท่ีสุดชนิดหน่ึงท่ีมีพัฒนาการมาจากมนุษย์ก่อน ประวตั ิศาสตร์ที่คิดใชก้ ระดูกสัตวห์ รือเขาของสัตวท์ ี่เป็นท่อกลวงหรือไม่ก็ใชป้ ลอ้ งไมไ้ ผ่มาเจาะรูแลว้ เป่ า ให้เกิดเสียงต่าง ๆ วตั ถุน้นั จึงเป็ นตน้ กาเนิดของเคร่ืองดนตรีประเภทขลุ่ย ฟลูตเป็ นขลุ่ยเป่ าดา้ นขา้ ง มีความ ยาว 26 นิ้วมีช่วงเสียงต้งั แต่ C กลางจนถงึ C สูงข้นึ ไปอกี 3 ออคเทฟ เสียงแจม่ ใสจึงเหมาะสาหรบั เป็นเครื่อง ดนตรีประเภทเลน่ ทานองใชเ้ ลยี นเสียงนกเลก็ ๆ ไดด้ ีและเสียงต่าของฟลตู จะให้เสียงที่ นุ่มนวล
2. ปิ คโคโล (Piccolo) เป็นขลุ่ยขนาดเล็กมีลกั ษณะเช่นเดียวกบั ฟลูตแต่เล็กกว่าทามาจากไม้ หรืออี บอร์ไนท์ แต่ปัจจุบนั ทาดว้ ยโลหะ ยาวประมาณ 12 นิ้ว เสียงเล็กแหลมชัดเจน แมว้ ่าจะเป่ าเพียง เคร่ืองเดียว พิคโคโลเล่นไดด้ ีเป็นพเิ ศษโดยเฉพาะการทาเสียงรัว (Trillo) และการบรรเลงเด่ียว (Solo) 2. ประเภทเป่ าลมให้ผ่านลนิ้ ของเคร่ืองดนตรี (Blowing through a reed) 2.1 ประเภทลนิ้ เด่ียว (Single reed) 1. คลาริเนต เป็นเครื่องดนตรีที่รู้จกั กนั แพร่หลายกว่าเครื่องอื่น ๆ ในบรรดาเครื่องลมไมด้ ว้ ยกัน คลาริเนตเป็นเคร่ืองดนตรีที่ใช้ไดใ้ นวงดนตรีเกือบทุกประเภท และเป็ นเคร่ืองดนตรีที่าสาคญั ในวงออร์เคส ตรา วงโยธวาทติ และวงแจ๊ส
2. แซกโซโฟน เป็ นเคร่ืองดนตรีในตระกูลเครื่องลมไม้ ใช้ลิ้นเด่ียวเหมือนของคลาริเนต แม้ว่า ตัวเครื่องมักจะทาด้วยโลหะแต่สุ้มเสียงก็กระเดียดมาทางเคร่ืองลมไม้ แซกโซโฟนจึงได้รับฉายาว่า “คลาริเนตทองเหลือง” (brass clarinet) ’ 2.2 ประเภทปี่ ลนิ้ คู่ (Double reed) 1. โอโบ ท่ีใช้ในปัจจุบันน้ีมีมาต้ังแต่ศตวรรษที่ 17 ใช้ในการแสดงโอเปร่าฝรั่งเศส เรียกว่า “Hautbois” หรือ “Hoboy” ในศตวรรษที่ 18 โอโบใช้เป็ นเครื่องดนตรีหลักในวงออร์เคสตร้า เป็ นเคร่ือง ดนตรีเสียงสูงในกลุ่มเครื่องลมไม้ ซองในขณะน้ันมีรูปิ ดเปิ ดเพียง 2- 3 รูเท่าน้นั ในศตวรรษท่ี 19 โอโบได้ พฒั นาในเรื่องระบบกลไก คยี ์ กระเด่ือง สาหรับปิ ดเปิ ดรู เพื่อเปล่ียนระดบั เสียงให้เลน่ สะดวกมากข้ึน จนใน ท่สี ุดโอโบ คอื เคร่ืองดนตรีหลกั ทจี่ ะตอ้ งมีใน วงออร์เคสตร้า
2. คอร์ แองเกลส์ (Cor Anglais or English horn) เป็นป่ี ตระกลู เดียวกบั โอโบแตม่ ีขนาดใหญ่กว่า และมีรูปร่างท่ีแตกตา่ งไปจากโอโบ ระดบั เสียงต่ากว่าโอโบและเวลาเล่นจะตอ้ งมีสายติดกบั ลาตวั ป่ี โยงไป คลอ้ งคอผูเ้ ลน่ เพื่อพยงุ น้าหนกั ของป่ี ปี่ ชนิดน้ีมีลาตวั ยาวกวา่ ปี่ โอโบ ดงั น้นั เพ่อื งา่ ยตอ่ การเป่ า ส่วนทตี่ อ่ จาก ท่ีเป่ า(ล้ิน) กบั ลาตัวปี่ จึงตอ้ งงอโคง้ เป็ นมุมและเกิดคาว่า “อองเกล (Angle)” ข้ึน ต่อมาคาน้ีไดเ้ พ้ียนไป กลายเป็นอองแกลส์ (Anglais) ในภาษาฝรั่งเศส ซ่ึงตรงกบั ภาษาองั กฤษว่า English ส่วนคาว่า “คอร์” (Cor) ในภาษาฝรั่งเศส ซ่ึงตรงกบั ภาษาองั กฤษวา่ ฮอร์น (Horn) 3. บาสซูน เป็นปี่ ขนาดใหญ่ใชล้ ิ้นคู่เช่นเดียวกบั โอโบ รูปร่างของบาสซูนค่อนขา้ งจะประหลาด กว่าป่ี ชนิดอื่น ๆ ไดร้ ับฉายาว่าเป็น “ตวั ตลกของวงออร์เคสตรา” (The Clown of the Orchestra) ท้งั น้ีเพราะ เวลาบรรเลงเสียงส้ัน ๆ ห้วน ๆ (Staccato) อย่างเร็ว ๆ จะมีเสียงดงั ปูด…ป๊ ูด… คลา้ ยลกั ษณะท่าทางของตวั ตลกที่มีอากปั กริยากระโดดเตน้ หยอง ๆ ในโรงละครสตั ว์
เคร่ืองลมทองเหลือง (Brass Instruments) เครื่องดนตรีประเภทน้ีมกั ทาด้วยโลหะผสมหรื อโลหะทองเหลือง เสียงของเครื่องดนตรีประเภทน้ีเกิดจากการเป่ าผ่านทอ่ โลหะ ความส้นั ยาวของทอ่ โลหะ ทาใหร้ ะดบั เสียงเปล่ียนไป การเปลย่ี นความส้นั ยาวของท่อโลหะจะใชล้ ูกสูบเป็นตวั บงั คบั เคร่ืองดนตรี บางชนิดจะใช้การชักท่อลมเขา้ ออก เปลี่ยนความส้ันยาวของท่อตามความต้องการ ลกั ษณะเด่นของเครื่องดนตรีประเภทน้ี มีปากลาโพงสาหรับใช้ขยายเสียงให้มีความดงั เจิดจา้ เรามกั เรียก เครื่องดนตรีประเภทน้ีรวมๆ กนั ว่า “แตร” ขนาดของปากลาโพงข้ึนอยู่กบั ขนาดของเครื่องดนตรี ปากเป่ า ของเครื่องดนตรีประเภทน้ีเรียกวา่ “กาพวด” (Mouthpiece) ทาดว้ ยท่อโลหะ ทรงกรวย ดา้ นปากเป่ ามลี กั ษณะ บานออก คลา้ ยรูปกรวย มขี นาดต่าง ๆ กนั ตามขนาดของเครื่องดนตรีน้นั ๆ ปลายทอ่ อีกดา้ นหน่ึงของกาพวด ตอ่ เขา้ กบั ท่อลมของเคร่ืองดนตรี 1. คอร์เนต (Cornet) ลกั ษณะคลา้ ยกบั ทรมั เปตแตล่ าตวั ส้ันกวา่ คุณภาพของเสียงมคี วามนุ่มนวล กลม กล่อม เสียงสดใสนอ้ ยกว่าทรัมเป็ ท คอร์เน็ทนามาใช้ในวงออร์เคสตร้าเป็ นคร้ังแรกเมอ่ื ประมาณ ค.ศ. 1829 ในการแสดงโอเปร่า ของ Rossini เรื่อง William Tell ในปัจจุบนั คอร์เน็ทเป็นเครื่องดนตรีสาคญั สาหรับวง โยธวาทิตและแตรวง 2. ทรัมเป็ ต (trumpet) เป็ นเคร่ืองดนตรีสากลในกลุ่มเครื่องลมทองเหลือง(แตร) ประเภทเสียงสูง (high brass) เช่นเดียวกับเฟรนช์ฮอร์น กาเนิดเสียงโดยอาศัยลมจากการเป่ าของผู้เล่นทาให้เกิดการ สั่นสะเทือนของริมฝีปาก โดยทว่ั ไปมีป่ ุมกด (valve) 3 อนั เรียงอยใู่ นระนาบเดียวกนั มีท้งั ที่เคลือบผิวดว้ ย ทอง, เงนิ , นิกเกิล, และแลกเกอร์
3. เฟรนช์ฮอร์น (French Horn) คือ เครื่องเป่ าทองเหลือง ท่อลมเป็นทรงกรวย ขยายออกไปตลอด ปลายท่อจะบานออกเป็นลาโพงอยา่ งกวา้ ง ท่อลมจะขดเป็นวงกลม เฟรนช์ฮอร์น พฒั นามาจากการเป่ าเขา สตั วเ์ พอื่ ใช้บอกสัญญาณต่างๆ เสียงของเฟรนชฮ์ อร์น จึงเหมือนกบั เสียงที่เกิดจากกการเป่ าเขาสัตว์ คุณภาพ ของเสียงเฟรนช์ฮอร์น โปร่งเบาและมีความนุ่มนวลกงั วาน เฟรนช์ฮอร์น ในยุคแรกไม่มีนิ้วกดเล่นเสียงได้ จากดั ใชส้ าหรับการล่าสัตว์ 4. ทรอมโบน (Trombone) เป็ นเคร่ืองดนตรีสากลประเภทเครื่องเป่ าทองเหลือง มีคนั ชักใช้สาหรับ เปล่ียนระดบั เสียง โดยมากจะใช้ในวงโยธวาทติ วงดนตรีลูกท่งุ รวมท้งั วงซิมโฟนีออร์เคสตรา ในวงดนตรี ทรอมโบนจะทาหนา้ ทป่ี ระสานเสียงในกลุ่มแตรดว้ ยกนั
5. ยูโฟเนียม (euphonium) คือ เคร่ืองดนตรีประเภทเครื่องเป่ าทองเหลอื ง ลกั ษณะเสียงของยูโฟเนียม จะนุ่มนวล ทุม้ ลึก และมีความหนักแน่นมาก สามารถเล่นในระดับเสียงต่าได้ดี บางคร้ังนาไปใช้ในวง ออร์เคสตร้าแทนทูบา คาว่า ”ยูโฟเนียม” มาจากภาษากรีกหมายถึง ”เสียงดี” ลกั ษณะทวั่ ไปของยูโฟเนียม เหมือนกบั เคร่ืองเป่ าทองเหลืองทว่ั ไป จะมีลูกสูบ 3 – 4 ลูกสูบมีกาพวดเป็นรูปถว้ ย ท่อลมกลวงบานปลาย เป็นลาโพงเสียง มีเครื่องดนตรีชนิดหน่ึงชื่อ “บาริโทน” มีเสียงใกลเ้ คียงกบั ยูโฟเนียม แต่ท่อลมมีขนาดเล็ก กว่า เสียงของบาริโทนจะมีความห้าวมากกว่ายูโฟเนียม พบว่าบ่อยคร้ังที่มีการเรียกชื่อสลบั กนั ระหว่างยูโฟ เนียมและบาริโทน 6. ทูบา (tuba) เป็ นเครื่องดนตรีตระกูล แซ็กฮอร์น ทูบามีท่อลมขนาดใหญ่ และมีความยาวต้งั แต่ 9 ,12,14,16 และ 18 ฟุต แล้วแต่ขนาด มีช่วงเสียงกวา้ ง 3 ออคเทฟ เศษ ๆ ท่อลมเป็ นทรงกรวย เช่นเดียวกบั ฮอร์น ส่วนกลางลาตวั ติดลกู สูบบงั คบั เสียง 3 อนั หรือ 4 อนั ส่วนตรงปลายท่อ บานเป็นลาโพง กาพวดเป็น โลหะรูปถว้ ย เสียงของทูบาต่า ลึกนุ่มนวล ไม่แตกพร่า เสียงต่ามากท่ีเรียกว่า “พีเดิล โทน” (pedal tones) น้นั มคี ุณสมบตั เิ ฉพาะตวั ปกตแิ ตรทูบาทาหนา้ ทเี่ ป็นแนวเบส ให้แก่กล่มุ เคร่ืองลมทองเหลอื ง
7. ซูซ่าโฟน (Sousaphone) เป็ นเคร่ืองลมทองเหลืองท่ีใหญ่ที่สุด เป็นเครื่องดนตรีประเภทเดียวกบั ทู บา ลกั ษณะของเสียงจะต่าทุม้ ลึก เหมาะท่ีจะบรรเลงในแนวเสียงเบสมากกว่าแนวอื่น ชื่อซูซ่าโฟน ต้งั ข้ึน เพื่อให้เกียรติกบั จอห์น ฟิ ลิป ซูซ่า (John Philip Sousa) นกั ประพนั ธ์เพลงผูค้ วบคุมวงดนตรีท่ีมชี ื่อเสียงของ อเมริกา เคร่ืองลิ่มนิ้ว (Keyboard Instruments) เครื่องดนตรีสากลในกลุม่ น้ีมกั นิยมเรียกทบั ศพั ท์ ในภาษาองั กฤษว่า“เครื่องดนตรีประเภทคียบ์ อร์ด” ลกั ษณะเด่นของเคร่ืองดนตรีทอ่ี ยใู่ นกลมุ่ น้ีกค็ ือมลี ิ่มนิ้ว สาหรับกดเพ่ือปรับเปล่ียนระดบั เสียงดนตรี ลิ่มนิ้วสาหรับกดเรียกว่า “คีย์ (Key)” เคร่ืองดนตรีแต่ละชนิดมี จานวนคียไ์ ม่เทา่ กนั โดยปกตสิ ีของคยี เ์ ป็นสีขาวกบั ดา คียส์ ีดาโผลส่ ูงข้ึนมามากกว่าคียส์ ีขาว 1. เปี ยโน(piano) เป็นเคร่ืองดนตรีขนาดใหญ่ท่ีสร้างเสียงเมือ่ คยี ถ์ ูกกดและกลไกภายในเครื่องตีสาย คาว่าเปี ยโนเป็นตวั ย่อของคาว่า ปี อาโนฟอเต (pianoforte)-ออกเสียงว่า (ปี -อ๊า-โน่-ฟอ-เต)้ ซ่ึงเป็นคาภาษาอิ ตาเลยี นทแี่ ปลวา่ “เบาดงั ” มาจากความสามารถของเปี ยโนทจ่ี ะปรบั ความดงั เบาตามแรงท่กี ดคยี ์ แกรนดเ์ ปี ยโน
อพั ไลทเ์ ปี ยโน 2. ออร์แกน (organ) เป็นเคร่ืองดนตรีตะวนั ตก ออร์แกนมีประวตั ิในการประดิษฐท์ ีย่ าวนานมาต้งั แต่ สมัยโรมัน และมีความสาคัญควบคู่มากบั ศาสนาคริสต์เลยทีเดียว คาว่า Organ น้ัน ก็มาจากภาษาละติน Organum ซ่ึงเป็นช่ือทใี่ ชเ้ รียกเครื่องดนตรีชนิดหน่ึง ท่มี ชี ื่อวา่ Hydraulis ตน้ กาเนิดเสียงของออร์แกนมาจาก ลม ซ่ึงมีแหล่งกาเนิดหลายวิธีซ่ึงในสมยั โบราณก็ตอ้ งใชแ้ รงคนในการผลิตลม เม่ือลมถูกบงั คบั ให้ไหลผา่ น ท่อท่ีมีขนาดต่าง ๆ กนั ก็จะเกิดเสียงที่มีความถี่แตกต่างกนั ท่อท่ีใชใ้ นการสร้างออร์แกนน้ัน อาจจะเป็ นไม้ หรือโลหะ ก็ได้ ซ่ึงจะส่งผลให้มีเสียงท่ีแตกตา่ งกนั และออร์แกนหน่ึงเครื่อง สามารถทาเสียงตา่ ง ๆ ไดเ้ ทา่ ๆ กบั เครื่องดนตรีหลายชิ้นมารวมกนั ดงั น้ัน ออร์แกนจึงสามารถเล่นไดท้ ้งั แนวทานอง และแนวเดินเบส โดย ไม่ตอ้ งพ่ึงพาเคร่ืองดนตรีอืน่ ใด ดงั น้นั ในสมยั กอ่ นน้นั ออร์แกนจึงถือเป็นเครื่องดนตรีทีม่ ีประสิทธิภาพสูง ทส่ี ุดในบรรดาเครื่องดนตรีท้งั ปวง
3. ฮาร์ปซิคอร์ด(Harpsichord) เป็นเครื่องดนตรีตะวนั ตก ในยคุ บาโรค ประเภทเคร่ืองดีด โดยมกี าร พฒั นามาจากเครื่องดนตรีประเภทพิณ และกีตาร์ กลไกการเกิดเสียงจะใช้การเกี่ยวดึงสายโลหะซ่ึงมีขนาด และความยาวแตกต่างกนั เพื่อให้ไดเ้ สียงความถี่ต่าง ๆ การเล่นเคร่ืองดนตรีน้ีจะใช้ คียบ์ อร์ด (Keyboard) ใน การสร้างกลไกในการดึงสาย โดยผเู้ ล่นสามารถเลือกกดบนแป้นคียบ์ อร์ด ซ่ึงจะคลา้ ยคลงึ กบั การเลน่ เปี ยโน (Piano) แต่จะมีคียบ์ อร์ดสองช้นั เหมือน ออร์แกน (Organ) ผูเ้ ล่นไม่สามารถปรับความดงั ของเสียงไดด้ ว้ ย น้าหนักของการกดคีย์บอร์ด แต่สามารถใช้กลไกอื่นช่วยในการสร้างความแตกต่างของคุณภาพเสียง (Acrustic Quality) 4. คลาวิคอร์ด (clavichord) เป็นเครื่องดนตรีท่ีมีลกั ษณะคลา้ ยเปี ยโน เป็ นเครื่องดนตรีประเภทลิ่ม นิ้ว (Keybroad instruments) ในยคุ แรก ๆ ประเภทเกิดเสียงได้ จากการดีดโดยมีสายเสียงท่ขี ึงไปตามส่วนรูป ของกล่องไมส้ ี่เหล่ียม กวา้ งประมาณ 2 ฟุต ยาวประมาณ 4 ฟุต มีแถวของลิ่มนิ้วประมาณ 3 อ็อกเทฟ ส่วน ปลายสุดของคยี จ์ ะมกี ลไกการงดั หรือแตะของลมิ่ ทองเหลืองเลก็ ๆ เมือ่ ผเู้ ลน่ กดคยี ล์ งไปล่ิมทองเหลอื งน้ีกจ็ ะ ยกข้ึนและตีไปที่สายเสียงเพ่ือทาให้เกิดเสียง แคลฟวิคอร์ดเป็ นเครื่องดนตรีประเภทล่ิมนิ้วประเภทแรกที่ สามารถเล่นไดท้ ้งั เบาและดงั โดยเปลีย่ นแปลงน้าหนกั การกดคยี ์ เสียงที่ไดจ้ ากแคลฟวิคอร์ดมีความไพเราะ และนุ่มนวล
5. แอคคอร์เดยี น (Accordion) เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทลิม่ นิ้วเช่นเดียวกบั เปี ยโนเสียงของ แอคคอร์ เดียนเกิดจากการสั่นสะเทือนของล้ินทองเหลืองเล็ก ๆ ภายในตวั เคร่ืองอนั เนื่องมาจากการเล่น ผ่านเขา้ – ออกของลมซ่ึงตอ้ งใชแ้ รงของผเู้ ลน่ สูบเขา้ – ออก เคร่ืองกระทบ (Percussion Instruments) เคร่ืองดนตรีประเภทเคร่ืองกระทบ ไดแ้ ก่ เครื่อง ดนตรีท่ีเกิดเสียงจากการตี การสั่น การเขย่า การเคาะ หรือการขูด การตีอาจจะใช้ไมต้ ีหรืออาจจะใช้ส่ิงหน่ึง กระทบเขา้ กบั อีกส่ิงหน่ึงเพ่ือทาให้เกิดเสียง เครื่องกระทบประกอบข้ึนดว้ ยวสั ดุท่ีเป็ นของแข็งหลายชนิด เช่น โลหะ ไม้ หรือแผ่นหนงั ขงึ ตึง แบง่ ออกเป็น2ประเภท ไดแ้ ก่ 1. เครื่องดนตรีที่มีระดับเสียงแน่นอน (Definite Pitch Instruments) เคร่ืองดนตรีกลุ่มน้ีมีระดบั เสียงสูงต่าเหมอื นกบั เคร่ืองดนตรีประเภทอ่ืน เกิดเสียงโดยการตีกระทบ ส่วนใหญต่ ีกระทบเป็นทานองเพลง ได้ 1.ไซโลโฟน (Xylophone) เป็ นเคร่ืองดนตรีประเภทเครื่องกระทบ (Percussion Instruments) ชนิดท่ีมีระดบั เสียงแน่นอน (Definite Pitch) เป็นระนาดไมข้ นาดเล็กของดนตรีตะวนั ตก ลกั ษณะทว่ั ไปจะ คลา้ ยกบั มาริมบา หรือไวบราโฟน แต่ไวบราโฟนทาจากโลหะ และมีขนาดใหญ่กว่าไซโลโฟน ลูกระนาด ของไซโลโฟนทาด้วยไม้เน้ือแข็ง เช่น โร้สวูด เป็ นต้น จัดเรียงลาดับเสียงตามบันไดเสียงโครมาติก (Chromatic) เช่นเดียวกบั เปี ยโนหรือออร์แกน ใตล้ ูกระนาดมีท่อโลหะตดิ อยเู่ พื่อเป็นตวั ขยายเสียง คาดว่ามี ตน้ กาเนิดมาจากแอฟริกา และเอเชีย
2. ไวบราโฟน (Vibraphone) เป็นเคร่ืองดนตรีประเภทเคร่ืองตกี ระทบ (Percussion Instruments) ชนิดที่มีระดบั เสียงแน่นอน (Definite Pitch) เป็นระนาดโลหะขนาดใหญ่ ลกั ษณะทวั่ ไปคลา้ ยกบั มาริมบา หรือไซโลโฟน ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะเพ่ือเป็ นตัวขยายเสียง มีแกนใบพดั เล็ก ๆ ประจาอยู่แต่ละท่อ ใช้ ระบบมอร์เตอร์หมนุ ใบพดั ทาให้เกิดคล่นื เสียงส่ันรวั ดงั กอ้ งกงั วาลอยา่ งต่อเน่ือง 3. มาริมบา (Marimba) เป็นเครื่องดนตรีประเภทเคร่ืองตกี ระทบ (Percussion Instruments) ชนิด ที่มรี ะดบั เสียงแน่นอน (Definite Pitch) ลกั ษณะเหมือนกบั ระนาดไมข้ นาดใหญ่ ลกู ระนาดทาดว้ ยไมพ้ ิเศษที่ มีช่ือว่า “rosewood” ใตล้ ูกระนาดจะมีท่อโลหะตดิ อยเู่ พื่อเป็นตวั ขยายเสียง 4. ระฆังราว (Tubular Bells) ทาดว้ ยท่อโลหะแขวนเรียงตามลาดบั เสียงจากสูงไปต่า แขวนกบั โครงโลหะในแนวด่ิง ใชไ้ มต้ ีทป่ี ลายทอ่ ดา้ นหวั จะเกิดเป็นเสียงเหมือนระฆงั
5. กลองทมิ ปานี (Timpani) เป็นกลองทม่ี ีลกั ษณะเหมือนกระทะหรือกาตม้ น้า จึงมชี ื่อเรียกอีกช่ือ หน่ึงว่า Kettle Drum ตัวกลองทาดว้ ยโลหะทองแดง ต้งั อยู่บนขาหยง่ั กลองทิมปานีมีระดับเสียงแน่นอน เทียบเท่ากบั เสียงเบส มีเทา้ เหยียบเพื่อเปลี่ยนระดบั เสียงตามตอ้ งการ ในการบรรเลงตอ้ งใช้อย่างนอ้ ย 2 ใบ เสียงของกลองจะแสดงอานาจ ทาให้ความยงิ่ ใหญ่ ตน่ื เตน้ เร้าใจ 2.เครื่องดนตรีที่มีระดับเสียงไม่แน่นอน (Indefinite Pitch Instruments) เครื่องดนตรีกลุ่มน้ีไม่มี ระดบั เสียงท่ีแน่นอน หนา้ ท่สี าคญั คือ ใชเ้ ป็นเครื่องดนตรีประกอบจงั หวะ เกิดเสียงโดยการตี ส่ัน เขยา่ เคาะ หรือขดู 1. กิง๋ (Triangle) เป็นเครื่องดนตรีจดั อยู่ในประเภทเคร่ืองตกี ระทบ ทาดว้ ยแทง่ โลหะ ดดั ให้เป็น รูปสามเหลีย่ ม แท่งโลหะมีขนาดเส้นผ่าศนู ยก์ ลางประมาณ 1 ซ.ม. เพือ่ ให้เกิดเสียงดงั กงั วาน ตอ้ งแขวนกิ๋งไว้ กบั เชือกแลว้ ตีกระทบดว้ ยแท่งโลหะ กิ๋งมเี สียงแจ่มใส มชี ีวติ ชีวา
2. ฉาบ (Cymbal) คือเคร่ืองดนตรีประเภทตีกระทบ ทาดว้ ยโลหะทองเหลอื ง มหี ลายแบบ ท้งั ฉาบ แบบฝาเดียว และแบบสองฝา แต่ละแบบยงั มหี ลายขนาดอกี ดว้ ย ฉาบแต่ละแบบมีลกั ษณะการตแี ตกต่างกนั ออกไป เสียงของฉาบทาให้เกิดความตื่นเตน้ เร้าใจ ความสนุกสนาน และความอึกทกึ ครึกโครม 3. แทมโบริน (Tambourine) เป็นเคร่ืองตีกระทบจงั หวะ ประกอบข้ึนดว้ ยขอบกลมเหมือนขอบ กลองขนาดเล็กประมาณ 10 นิ้ว ขอบอาจทาด้วยไม้ พลาสติก หรือโลหะ รอบ ๆ ขอบติดดว้ ยแผ่นโลหะ ประกบกนั 2 แผ่น หรือตดิ ดว้ ยลูกกระพรวนเป็นระยะ ใชก้ ารตีกระทบกบั ฝ่ ามอื หรือสั่นเขยา่ ใหเ้ กิดเสียงดัง กรุ๋งกร๋ิง เพ่ือประกอบจงั หวะให้เกิดความสนุกสนาน สดช่ืน แทมโบรินบางชนิดจะขงึ ดว้ ยหนงั เหมือนกลอง 1 ดา้ น ใชฝ้ ่ามือตีทห่ี นงั กไ็ ด้ แทมโบรินมชี ื่อเรียกอีกชื่อหน่ึงวา่ Riqq หรือ Riq
4. มาราคา (Maraca) เป็นเครื่องดนตรีจดั อยใู่ นประเภทเครื่องตีกระทบ เดิมทาดว้ ยผลน้าเตา้ แก่จดั ทาให้แห้ง ภายในบรรจดุ ว้ ยเมลด็ น้าเตา้ เมล็ดถวั่ ตา่ ง ๆ หรือลกู ปัดลูกเล็ก ๆ ต่อดา้ มไวส้ าหรับจบั ถอื เลน่ โดย การเขยา่ ดว้ ยมือท้งั 2 ขา้ งสอดสลบั กนั เพอ่ื ให้เกิดเสียงซ่า ๆ ปัจจบุ นั ทาดว้ ยไมแ้ ละพลาสตกิ 5. กลองชุด (Drum set) คอื กลองทปี่ ระกอบดว้ ยกลองใหญ่ กลองสะแนร์ ฉาบขนาดตา่ ง ๆ กลอง ทอม 2 หรือ 3 ลูกทม่ี ีขนาดแตกตา่ งกนั ไฮแอท (ฉาบ 2 ฝาประกบติดกนั กระทบกนั ดว้ ยขาเหยยี บ) พร้อมท้งั เพิม่ เครื่องกระทบจงั หวะอนื่ ๆ ประกอบเขา้ ดว้ ยกนั เป็นพเิ ศษ อีกดว้ ย เช่น เคาเบลล์ เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: