ผลิตชิ้นส่วนด้วยเครื่องมือกล 1-01

 การกลงึ เรยี วโดยวธิ กี ารเยอื้ งศูนยทา ยแทน 1.ตดิ ต้ังอุปกรณเพ่อื ใชก ลงึ เยอื้ งศนู ย คือ ใชจ านพาจับยึดแทนหัว จบั บนแกนเพลาเครือ่ งกลงึ พรอ มท้ังใสย ันศนู ยท ่แี กนเพลา เครื่องกลึง และใสยันศูนยเปน ทแ่ี กนเพลาศนู ยทาย หมายเหตุ อยา ลมื ทําความสะอาดอุปกรณต างๆ และแกนเพลา ของเคร่อื งกอ นนําอปุ กรณดังกลา วติดตง้ั

2. ตรวจสอบศนู ยห วั และศนู ยท าย ใหอ ยใู นแนวศนู ยเ ดยี วกนั การตรวจสอบศนู ยท ายแทน โดยการเทียบศูนย การตรวจสอบศนู ยท า ยแทน โดยการกลงึ ทดสอบ

การตรวจสอบศูนยทายแทนโดยใชแ ทงทดสอบ (Test Bar) 3. ทาํ การเยื้องศนู ยท า ยแทน ออกเทา กบั ระยะทคี่ าํ นวณได 4. นําชิ้นงานจับยดึ กับหว งพาใหแ นน แลว นํามาจับยดึ บนเครอ่ื งกลึง โดยการ ยันศูนยหัวและศนู ยทาย แลว หมุนแขนหมนุ ทศี่ นู ยท าย ใหแ นน

5. ทําการกลึงเรยี วโดยการปอ นกนิ ลึกครัง้ ละนอยๆ กอ น เน่ืองจากช้ินงานจะกนิ ลกึ ไมเทา กัน เพราะชน้ิ งานเย้ืองศูนย ออกมา 6. เม่อื กลึงไดป ระมาณรอ ยละ 75-80 ของความยาวชนิ้ งาน ให ทําการตรวจสอบเรยี ว เพ่ือปรบั ระยะเยื้องศูนยใหมก รณเี รยี วไม ถูกตอ ง หมายเหตุ ชว งแรกควรปอ นกลึงดวยมอื กอ น แลวคอ ยปอน กลึงอตั โนมตั ิ

7. เมอื่ ตรวจสอบจนไดเรียวทตี่ อ งการแลว ทาํ การกลึงจนได ขนาดทีต่ องการ โดยการกลงึ ละเอยี ดเท่ียวสดุ ทาย เหมอื นการ กลงึ ปอกละเอียดทั่วๆ ไป 8. ปด สวติ ชเคร่อื งกลงึ นาํ ชนิ้ งานออก ถอดเคร่ืองมอื และอุปกรณ เก็บเขา ท่ี ทําความสะอาดเครื่องกลงึ และชโลมนา้ํ มนั

 ขนั้ ตอนการกลงึ เรยี วดว ยอปุ กรณพ ิเศษ (Taper Attachment) 1. คลายเกลียวปลดลอ็ กออกจากการปอ นดวยแทนตัดขวางให เปนอิสระ 2. เอยี งอปุ กรณพิเศษสําหรบั กลงึ เรยี วตามมมุ ทคี่ ํานวณได 3. นําชิ้นงานจบั ยดึ ดว ยหว งพาและนาํ มาจบั ยดึ บนเคร่อื งกลึงทม่ี ีจาน พาจับยดึ แทนหวั จับ โดยการยนั ศูนยหัวและยันศูนยท ายชน้ิ งาน จะตอ งมีการตรวจสอบศนู ยท้ังสองใหไ ดแ นวศนู ยเดยี วกัน โดยการ ใชแทงทดสอบ (Test Bar) หรือโดยการกลงึ ชิ้นงานแลววดั ขนานหัว- ทา ย ของชิน้ งานใหเทา กนั จึงจะไดศ ูนยเ ดียวกัน

4. กลึงเรยี วเหมอื นกลึงปอกธรรมดา แตแทนตดั ขวางจะ เคล่อื นทเ่ี ปนมุมเอียงขนานกบั อปุ กรณพ ิเศษทต่ี ง้ั มุมเอยี งไว ทาํ ใหม ีดกลึงกลงึ ชน้ิ งานออกมาเปน เรยี วที่ตอ งการ สามารถกลงึ อัตโนมตั ิได 5. ทดสอบเรียวกอนทจ่ี ะกลึงไดข นาดจรงิ ที่ตอ งการ เพื่อที่จะ ปรับอปุ กรณพ เิ ศษใหไดม ุมทตี่ อ งการในกรณที ี่ยงั ไดมุมไมถ กู ตอง แลวทําการกลงึ จนไดขนาดทต่ี องการ 6. ปดสวติ ชเ ครอื่ ง นําชิ้นงานออกจากเครือ่ ง ถอดเคร่ืองมือ และอปุ กรณอ อก ทําความสะอาดเครอ่ื งมือและเครือ่ งกลึง แลว นําอปุ กรณเก็บเขาที่ พรอ มทง้ั ปรบั เครอื่ งกลึงใหเ ปน แบบเดมิ

การกลึงเรยี วดวยอปุ กรณพ เิ ศษ

วิธีการตรวจสอบเรียว ในการกลงึ เรยี วไมว่ า่ จะกลงึ ดว้ ยวธิ ใี ด ชน้ิ งานทก่ี ลงึ มาอาจจะไดเ้ รยี วทไ่ี มถ่ กู ตอ้ งตามตอ้ งการ จงึ จาํ เป็น จะตอ้ งมกี ารตรวจสอบเรยี ว เพอ่ื ปรบั การกลงึ ใหไ้ ดเ้ รยี วท่ี ถกู ตอ้ ง โดยทวั่ ๆ ไปมดี งั น้ี 1. การตรวจสอบด้วย Taper Plug Gauge ใชส้ าํ หรบั ตรวจสอบเรยี วใน หรอื รเู รยี ว และ Taper Ring Gage ใช้ สาํ หรบั ตรวจสอบเรยี วนอก ซง่ึ เรยี วจะเป็นเรยี วมาตรฐานเรยี ว มอรส์ เวลาใชจ้ ะตอ้ งเลอื กนมั เบอรข์ องเรยี วใหถ้ กู ตอ้ ง ในการ ตรวจสอบมวี ธิ ดี งั น้ี

วิธีที่ 1 นําชิน้ งานสวมกับเกจทน่ี าํ มาตรวจสอบ แลวลองขยับดู ถามีระยะคลอนแสดงวา เรยี วของชนิ้ งานไมพอดี จะตองปรับ เคร่ืองกลงึ เพือ่ กลงึ ใหม วิธีนี้จะใชค วามรสู ึกและประสบการณใน การวิเคราะห Taper Plug Gauge Taper Ring Gauge เปนเกจใชต รวจสอบรเู รยี ว เปน เกจใชต รวจสอบเรียวนอก

วธิ ที ี่ 2 ใชน ้าํ ยารา งแบบทาทช่ี นิ้ งานตลอดแนวยาวของชิ้นงาน กรณีทดสอบ เรยี วนอก สว นกรณีทดสอบเรียวใน หรอื รเู รียว จะทาน้ํายารางแบบทเ่ี กจ แลว นาํ ชิ้นงานสวมกบั เกจแลวคอ ยๆ หมุน จากนน้ั นาํ ช้นิ งานออกจากเกจ สังเกตดูใน สว นที่ชน้ิ งานสัมผัสกับเกจ จะเหน็ วา สีของน้าํ ยารางแบบจะหลุดออก สว นทไ่ี ม สมั ผสั กนั สขี องนาํ้ ยารา งแบบจะยังคงอยู ใหท ําการปรับคา ของเครอ่ื งกลึงเพอ่ื กลึงใหไดเรยี วทต่ี องการ นนํา้ ย้ําารายงแาบบรา งแบบ

หมายเหตุ การตรวจสอบเรียวผวิ เรียวจะตองเรียบ มิฉะนน้ั เกจอาจจะ เสยี หาย เกิดรอยขดี ขวนได และการทดสอบเรียวจะตองทําการตรวจสอบ กอนไดข นาดทต่ี อ งการ เพ่อื ทีจ่ ะไดมีขนาดไวใ หก ลงึ ปรับขนาดได

2. การตรวจสอบดว ยเวอรเนียรค าลิปเปอร หรือ ไมโครมิเตอร เปน การตรวจสอบขนาดที่ D, d และ l (ความยาวเรยี ว) ในการวดั ขนาดท่เี สนผานศนู ยก ลางดา นเล็ก ปากวัดของเวอรเ นยี รค าลิป เปอร หรอื ปากวัดของไมโครมเิ ตอรจะไมสัมผสั ตาํ แหนง เลก็ สุดของ ชิน้ งาน ตองระมดั ระวังในการวดั

เกลียวมปี ระโยชนม ากในชวี ิตประจําวนั และพบเหน็ อยูทว่ั ๆ ไป ไดแก ใชจ บั ยดึ ชิ้นงาน ใชส งกําลัง เปนตน เกลยี วมหี ลายประเภท ถา แบงตามระบบการวดั มอี ยู 2 ระบบ คือ เกลยี วระบบเมตรกิ ซ่ึง บอกเปนระยะพติ และเกลียวระบบนว้ิ ซ่งึ บอกเปน จํานวนเกลยี ว ตอ นว้ิ ถา แบงตามหนา ตัดของเกลียวจะมหี ลายแบบ ไดแก เกลียว สามเหล่ียม เกลียวสเี่ หลยี่ มคางหมู เกลยี วสีเ่ หล่ียม เกลยี วฟน เลื่อย เกลยี วกลม และเกลยี วทอ เปน ตน

d2d แปน้ เกลยี ว b 30 ◌ํ แป้นเกลยี ว d1 t1P 60 ◌ํ สลักเกลียว DD12D H1Rเกลียวสี่เหลีย่ มคางหมู สลกั เกลยี ว t1 acแป3น้ ◌เ3ํก0Pล◌ยี วํ ac H1เกลยี วสามเหลยี่ ม สลกั เกลียว WP W D เกลยี วฟน เลอื่ ย เกลียวสเ่ี หลีย่ ม

ข้ันตอนการกลงึ เกลียวสามเหลย่ี ม การกลึงเกลียวบนเคร่อื งกลึง เปนกรรมวธิ กี ารทาํ ใหเปน สนั บดิ เลื้อยอยูรอบชิ้นงาน ซึง่ เปนการตดั ดวยมีดกลึง เปน รปู รา ง เกลยี วทตี่ องการ ช้นิ งานจะจบั ยดึ ดว ยหวั จับ หรอื จบั อยูร ะหวาง การยันศนู ยห วั ศูนยท า ย กรณีกลึงดว ยการจบั ยึดดวยหัวจบั ควร กลงึ จนเสรจ็ กอนถอดชิ้นงานออก เพราะการจับใหมอาจไมไ ด ศนู ยเดิม มขี ั้นตอน ดงั นี้ 1. ลับมีดกลงึ เกลยี วสามเหลย่ี มมมี ุมรวม 60 องศา โดยใชเกจวดั มมุ เกลียวสามเหล่ยี ม (Center Gauge)

2. นาํ ชนิ้ งานมาจับยึดบนเคร่อื งกลึง กรณชี ิน้ งานยาวตอ งมีการยันศูนยท า ย 3. กลงึ ปาดหนา และกลงึ ปอกขึน้ รูปชิ้นงานใหไ ดข นาดและรูปรา งตามแบบ งาน พรอมกลึงลบมุมชิน้ งานประมาณ 2 x 45 องศา ลบมมุ 45 องศา 4. ต้งั ระยะพิตซต ามแบบงาน (กรณีกลึงเกลียวนิ้วใหต ั้งจาํ นวนเกลยี วตอนว้ิ ) ต้ังความเร็วรอบประมาณ 1/3 - 1/4 ของความเรว็ รอบกลงึ ปอก

5.ต้งั ความเร็วรอบประมาณ 1/3 – 1/4 ของความเรว็ รอบกลึงปอก 6.นาํ มดี กลงึ เกลยี วมาจับยึดบนปอ มมีด ใหอยใู นแนวศูนยกลาง ช้นิ งาน และใชเกจวัดมุมเกลยี วสามเหลย่ี มในการตง้ั มีด มีดตอ งอยูในแนวศนู ยกลางงาน ตั้งมดี ใหไดศ ูนยโดยเทยี บกบั ศนู ยทา ย ตง้ั กลึงเกลียวดว ยเกจวัดมมุ กลึงเกลยี ว

ถอยมีดออกมาใหพ น จากชิน้ งาน สับแขนโยกเพอื่ กลงึ เกลียว เปดเครือ่ งกลึง ใหม ีดเดนิ หา งจากช้ินงาน เม่อื เดนิ มาตรงชน้ิ งาน แลว หยดุ เครอ่ื ง ปอ นมดี กลึงเกลียวสมั ผสั พอดกี บั ผิวช้นิ งาน ต้งั สเกลแทนตดั ขวางใหอ ยตู าํ แหนงเลขศนู ย ถอยมดี กลงึ เกลยี วออกใหพนจากชนิ้ งาน ทําการเปดเครื่อง ถอยหลังใหม ีดกลึงกลับมาเริม่ ตนกลึงเกลยี ว

ทําการเปดเครอื่ งกลงึ ทําการกลงึ เกลียวใหเ ปน รอยเพยี งเลก็ นอ ย เพอื่ ทําการตรวจสอบความถูกตอ งของเกลยี ว โดยการตรวจสอบ ความถกู ตองของระยะพิตซ หรือ จาํ นวนเกลยี วตอ นิ้วกรณีกลงึ เกลยี ว นิ้ว กลึงเกลียวเปนรอย ตรวจสอบเกลียวดวยหววี ัดเกลยี ว

10. เม่ือตรวจสอบเกลียววา ถูกตอง ก็ทาํ การกลึงเกลยี วไปเรอื่ ยๆ จนไดความลึกท่ีตองการตรงกับความลึกที่คํานวณได 11. ทาํ การตรวจสอบเกลียว วาถูกตอ งใชไ ดห รอื ยงั วิธที ง่ี าย ท่ีสุดโดยใชแ ปนเกลยี วตรวจสอบ เม่ือใชไ ดค วรจะลบมุมอกี คร้งั เพอ่ื ทําใหง านเรียบรอยสวยงาม ตรวจสอบเกลยี วดว ยแปนเกลยี ว ลบมมุ 45 องศา 12.ปดสวติ ซ เคร่ืองกลึง ถอดชิ้นงานออก จัดเก็บเครอื่ งมือ มีดกลงึ และอปุ กรณต า งๆ แลว ทาํ ความสะอาดเครื่องกลงึ

การกลึงเยื้องศูนย เปนการกลึงช้ินงานที่มกี ารกลึงต้ังแตสอง แกนเพลาขึ้นไป มตี าํ แหนงตา งกัน แกนเพลาขนานกนั แตไมไดอ ยูใน แนวศนู ยเ ดียวกัน สามารถนาํ ไปใชเปน กลไกในการจับยึดชน้ิ งาน ใน อปุ กรณจ กิ๊ และฟก เจอร เปน เพลาขอเหวย่ี งของเครอื่ งยนต สามารถ กลงึ ดวยการยันศูนยหวั และยนั ศูนยท าย หรอื กลงึ โดยการเยอ้ื งศูนย ดวยหวั จับสี่จับฟนอสิ ระ

วธิ ีการกลึงเย้อื งศูนยด วยการยนั ศูนยหวั และยนั ศูนยท าย การกลงึ เยือ้ งศูนยประมาณ 10 มม. 1.นําชนิ้ งานจับยึดบนหวั จบั ปาดหนา ใหไดขนาดความยาว ชน้ิ งานที่ตอ งการ(กรณีทีจ่ ะตอ งปาดหนา เอารยู ันศูนยอ อก ควรมี การเผ่อื ขนาดความยาวไวป ระมาณ 20 มม.) 2. ทานํา้ ยารา งแบบท่ปี ลายชนิ้ งานทงั้ สองดาน นาํ ช้นิ งานจับยดึ บนว-ี บลอ็ ก ดว ยแคลมปใ หแนน อยบู นแทนระดบั 3. ตัง้ คาเวอรเนยี รไ ฮเกจ โดยเลอ่ื นปากของเวอรเ นียรไฮเกจ สมั ผสั ดานบนของ ชนิ้ งาน และจดคา ท่ีอา นได หมายเหตุ ควรมกี ารตรวจสอบเวอรเ นยี รไ ฮเกจ วาตงั้ สเกลไวถูกตองหรอื ไม กรณไี มไ ดตาํ แหนงทีถ่ ูกตอ ง จะตอ งทําการปรับใหมใ หไ ดตําแหนงทีถ่ ูกตอ ง

4. นําคา ท่ีอานไดล บดว ยครึ่งหนงึ่ ของขนาดเสนผานศนู ยก ลาง ชิ้นงาน แลว นําคาทอ่ี า นไดมาต้งั คา เวอรเ นยี รไฮเกจ 5. ขีดเสน กึง่ กลางชน้ิ งานทง้ั สองดานดว ยเวอรเ นยี รไฮเกจ 6. คลายแคลมปอ อก หมุนช้ินงานไป 90 องศา (โดยใชฉากชวยใน การตรวจสอบ) แลวจับยดึ ชน้ิ งานใหแ นน ขดี เสนกงึ่ กลางตั้งฉากกบั เสนเดมิ ท้งั สองดา น รา งแบบดว ยเวอรเ นยี รไฮเกจ

7. ปรบั คา เยอื้ งจากเสนเดมิ โดยปรบั สงู ข้ึนหรือต่าํ ลงก็ได 10 มม. และทาํ การขดี เสนทีป่ ลายท้ังสองดาน 8. ตอกนาํ ศนู ยท ่ตี าํ แหนง จุดตดั ของเสนทง้ั สองดานรวม 4 รู อยา ง ระมัดระวงั และนาํ ช้นิ งานไปเจาะรทู ้ังส่ดี วยเครอื่ งเจาะ 9. นาํ ชิ้นงานจับยดึ ดว ยหวงพา และยันศนู ยหวั ยนั ศูนยท ายบน เครอ่ื งกลึง แลวทําการกลึงชิ้นงานในศนู ยก ลางเดียวกับศูนยกลาง ของชน้ิ งานจรงิ กอ นจนเสร็จ กรณตี อ งการกลึง ทงั้ สองดา นก็กลบั ดาน และจบั ยดึ ดว ยหว งพาอีกดา นหน่ึง ทําการยันศนู ย แลว ทํา การกลึงจนเสร็จ 10.ทาํ การขยบั เยอ้ื งศนู ยช นิ้ งานในรูทเ่ี จาะไว และกลึงเยื้องศนู ย ชน้ิ งานจนเสรจ็

การกลงึ เยื้องศูนยท มี่ รี ะยะเย้ืองศนู ยนอย ท้งั สองศูนยมรี ะยะ ใกลเ คยี งกันมาก จนรูยันศูนยเก่ียวกัน มีวิธีการกลงึ คือ 1. ตดั ชน้ิ งานใหไดข นาดยาวกวา ขนาดทต่ี อ งการประมาณ 20 มม. 2. จบั ช้นิ งานดว ยหวั จับ ปาดหนา ช้นิ งานใหเ รยี บท้ังสองดาน พรอม เจาะรยู ันศนู ยทั้งสองดา น ดานละ 1 รู อยูในตาํ แหนง ศูนยก ลาง ช้ินงาน 3. ทําการจับยึดช้นิ งานกบั หวงพา แลวจับยึดบนเครื่องกลึงดวยการ ยนั ศูนยห วั และศูนยทา ย และกลงึ ขนาดชิ้นงานใหไ ดขนาดทตี่ องการ 4. นาํ ช้ินงานมาปาดหนา รเู จาะท่ี 1 ทง้ั สองดา นออก โดยวัดใหไ ด ขนาดทีต่ องการตามแบบงาน เนอื่ งจากมกี ารเผ่อื ขนาดความยาวไว

5.นําช้ินงานมารางแบบระยะเย้อื งศนู ยตามตองการ โดยปฏบิ ัติ ตามขน้ั ตอนวธิ แี รกและตอกรเู จาะนําศูนย แลว นาํ ไปเจาะรดู ว ย เคร่ืองเจาะ 6. นําช้นิ งานจบั ยดึ ดว ยหวงพา แลวนาํ ไปจับยดึ บนเคร่ืองกลึงดว ย การยนั ศนู ยหวั และศูนยทา ย ในตาํ แหนงรูยันศูนยท เี่ จาะใหม แลว ทาํ การกลึงเยือ้ งศูนยใหไ ดข นาดตามแบบทีต่ องการ

การกลึงเยือ้ งศนู ยท ่มี ีระยะเยือ้ งศนู ยม ากๆ 1.ทําการกลึงปาดหนาและเจาะรยู นั ศนู ยชนิ้ งานทั้งสองดาน ใหไ ดข นาดความยาวที่ตอ งการ แลวทาํ การกลึงขนาดที่ ตองการ ทาํ การจับยึดช้นิ งานดว ยหว งพาแลว ยนั ศนู ยห วั และ ศนู ยทาย ในแนวศนู ยก ลางปกติของชิน้ งาน กลึงชิ้นงานใหได ขนาดตามแบบ และตามตําแหนง ตางๆ ทตี่ อ งการ 2. ทําชุดรองรับชิน้ งาน เพอ่ื ใชร องรบั ชิน้ งานใหม ขี นาดและรู ที่เหมาะสมและพอดกี บั ชิน้ งาน ชุดเกลยี วปรบั จะชว ยจบั ยึด ชนิ้ งานใหแนน

ชิ้นงาน เกลยี วปรบั 3.ตาํ แหนง บนชดุ รองรับช้ินงานจะตองไดแ นวศูนยเ ดียวกนั กบั ชิน้ งาน และทําการล็อกชิ้นงานใหไดต าํ แหนง ทถ่ี ูกตอ ง 4. พยายามใชอปุ กรณต างๆ เทาทีจ่ าํ เปน เพื่อปอ งกนั การ สน่ั สะเทอื นในขณะกลงึ 5. กลึงในตาํ แหนงเยื้องศูนยต ามตําแหนง ทต่ี องการ

ในการเจาะรนู ําศูนยจ ะทาํ ใหการเจาะรูไดต รงตําแหนงท่ตี อ งการ โดยทั่วๆ ไปจะเจาะดว ยดอกเจาะนําศูนย ซ่ึงมีขัน้ ตอนดังนี้ 1. จบั ยึดชิ้นงานดว ยหวั จับ 2. ตัง้ ความเร็วรอบของเคร่อื งกลึงใหเ หมาะสมกับวสั ดงุ าน 3. ตรวจสอบศนู ยทา ยใหแ นใจวา ไดศนู ย 4. เจาะนาํ ศนู ยด วยดอกเจาะนําศูนย เจาะรูนําดวยดอกเจาะนําศนู ย

5. จบั ยึดดอกสวา นดวยหัวจบั หรอื จบั ยดึ ดว ยอุปกรณจบั ยดึ แบบ ตา งๆ 6. เรม่ิ เปด เครอื่ งและทาํ การเจาะใหไ ดค วามลึกท่ีตอ งการ ขณะที่ เจาะควรทําการหลอ เยน็ ดว ย 7. วดั ความลึกของรูทเี่ จาะ โดยการดจู ากขดี ของแกนเพลาศูนย ทายหรอื จากการใชบ รรทดั เหลก็ วัด 8. ทําการถอยดอกสวา นบอยๆ เพอ่ื คลายเศษโลหะและทําการวดั ความลึกของรู

การควานรู การควานรเู ปนการขยายขนาดของรูดว ยมีดควานที่มคี มตดั เดียว เพอ่ื ใหไ ดข นาดทต่ี องการ เน่ืองจากท่ีไดจากการเจาะจะไมตรงและไม กลมจรงิ และการเจาะไมไ ดขนาดตามตองการ เชน การรีมเมอรจะตอง ควา นรูใหไดขนาดท่ีตอ งการกอนจะรมี เมอร มขี ั้นตอนดงั นี้ 1. จบั ยดึ ชิ้นงานดว ยหวั จบั ทาํ การกลงึ ปาดหนา เจาะรูนาํ ศนู ยและเจาะ ดว ยดอกสวานใหม ขี นาดเล็กกวาขนาดจรงิ ประมาณ 1.5 มลิ ลิเมตร 2. เลอื กดามมดี ควา นใหม ขี นาดใหญส ดุ เทา ทจ่ี ะใชงานได 3. จบั ยดึ ดามมดี ควา นบนปอมมดี 4. ตั้งมีดควานใหไดศ นู ย

5. ต้งั ความเรว็ เครอ่ื งกลึงและอัตราปอ นใหเ หมาะสมกับวสั ดงุ าน 6. เปด เคร่ืองกลึงและนาํ มีดควานเขา ไปและใหส มั ผัสกบั ดา นในรคู วาน 7. ปอ นมีดควา นใหกินชิ้นงานประมาณ 0.1 มลิ ลเิ มตร และปอ นมีดควาน เคลอื่ นทีใ่ หม คี วามยาวประมาณ 6 มิลลเิ มตร จากปลายช้ินงานดา นขวามอื 8. หยดุ เครอ่ื งกลงึ เพือ่ วดั ขนาดเสน ผา ศูนยกลางรูในของชน้ิ งาน 9. คาํ นวณคาความโตของชนิ้ งานทจี่ ะตอ งควานออก ตัง้ คาความลกึ ท่ีจะควาน 10. เปดเครอื่ งกลงึ แลว ทาํ การปอนควานหยาบ หมายเหตุ ขณะทาํ การควานถาเกิดการสัน่ สะเทือนใหลดความเร็วรอบลง

11.หยุดเครื่องและนํามดี ควา นออกจากรู โดยไมต องหมนุ แขนหมนุ ทแ่ี ทน ตดั ขวาง 12.ต้ังความลกึ เพอ่ื ควา นละเอยี ดเพ่อื ทาํ ใหผิวเรียบในการควา นละเอยี ดจะ ปอ นกินลึกอยูระหวาง 0.25-0.50 มิลลิเมตร ในการควานช้นิ งานมีดควา นจะตอ งจับใหส ั้น และตอ งต้ังมดี ควานใหไ ดศูนยกลางชน้ิ งาน

การรีมเมอรบนเคร่ืองกลงึ สามารถทาํ ไดร วดเรว็ ทาํ ใหไดขนาดรทู ่กี ลม และแนน อนไดผวิ รู ท่ีดี การรีมเมอรจะทําหลังจากมกี ารเจาะรหู รอื ควานมา กอน ถามีการควา นรมู ากอ นจะทําใหรกู ลมและมขี นาดเทยี่ งตรง การรมี เมอร มีขั้นตอน คอื 1.จบั ยึดช้ินงานบนเครื่องกลึงดว ยหวั จับ ปาดหนา ชน้ิ งานเจาะรนู ําศนู ย เจาะ รใู หไ ดข นาดทต่ี อ งการ สาํ หรับรทู ี่มขี นาดตํ่ากวา 13 มลิ ลเิ มตรเจาะรใู หมี ขนาดเล็กกวา ขนาดจริงอยู 0.4 มลิ ลเิ มตร และรทู ม่ี ีขนาดต้งั แต 13 มิลลิเมตร ขึ้นไป เจาะรใู หเลก็ กวาขนาดทตี่ องการ 0.8 มลิ ลเิ มตร และ ตองการรูทกี่ ลมและมขี นาดท่ถี ูกตอ งจรงิ ควรเผอ่ื ขนาดไวค วานรรู ะหวา ง 0.10-0.25 มิลลิเมตร

2.จับยดึ รีมเมอรดวยหัวจบั ดอกสวา นในการรมี เมอรที่มขี นาดต้งั แต 16 มลิ ลิเมตร ข้นึ ไป ควรใชหวงพาจบั ยดึ ท่กี านรมี เมอรและใหหางหว งพาอยบู น ปอมมดี เพือ่ ปองกันการหมุนของรมี เมอร 3. ตั้งความเรว็ รอบเครอ่ื งกลึงประมาณ 1/2 ของความเรว็ รอบเจาะรู 4. นํารีมเมอรใกลร ทู ่ีจะรมี เมอรแ ลวทําการลอ็ กตําแหนง ศูนยท าย 5. เปด เคร่อื งกลึง เปดนํา้ หลอเยน็ และปอ นรมี เมอรเขา หาช้ินงานอยางชา ๆ 6. ทาํ การถอยรมี เมอรออกเพ่อื คายเศษโลหะออกจากรองรมี เมอร

7. เม่อื ทําการรีมเมอรเ รียบรอยแลวหยดุ เครือ่ งและนาํ รีมเมอรอ อก อยาหมุนรมี เมอรก ลับทาง เพราะจะทําใหผิวรไู มเรยี บและรีมเมอร อาจจะเสยี หายได 8. ทําความสะอาดรีมเมอร และเก็บเขา ท่อี ยางระมัดระวัง การรมี เมอรบนเครือ่ ง

การตาปเกลียวเปน วธิ ีทาํ เกลียวอีกวธิ ีหนง่ึ บนเครอ่ื งกลงึ มีขน้ั ตอน คอื 1. จบั ยึดช้นิ งานดวยหัวจับ ทาํ การกลึงปาดหนาช้นิ งานและเจาะนํา ศนู ยดว ยดอกเจาะนาํ ศนู ย 2. เลอื กขนาดดอกสวานท่ีใชส าํ หรับเจาะตาปตามขนาดท่ตี องการ 3. ต้ังความเร็วเครอื่ งกลงึ เพอื่ เจาะรตู าป 4. เจาะชนิ้ งานใหไดความลกึ ทีต่ องการ อาจจะใชน ํ้ายาหลอ เย็นถา จําเปน 5. ทําการลบคมรูทเ่ี จาะเสร็จแลวใหมีขนาดใหญกวารูท่ีเจาะ

6. หยดุ เคร่อื งต้ังคา ความเร็วรอบใหช าท่สี ดุ 7. เลือกใชด ามตาปท่ีมขี นาดเหมาะสมกับขนาดของดอกตาป 8.นาํ ดอกตาปดอกที่ 1 ใสในรตู าปและประคองทา ยดอกตาปดว ย ศูนยตาย หมุนแขนหมุนศนู ยทายเพ่อื ทาํ การตาป 9. ทาํ การหลอเยน็ ขณะตาป 10. ถอยหลังตาปบอ ยๆ เพื่อใหเศษโลหะหัก 11. เปลีย่ นตาปเม่อื ถึงความลึกท่ีตอ งการ เปลี่ยนดอกตาปดอก แรกออกและตาปดว ยดอกตาปดอกที่ 2 และ 3 ตามลาํ ดับจน เสร็จ

เพอ่ื เปนการรกั ษาใหเคร่อื งกลงึ มีอายุการใชงานที่ยาวนาน ควรมกี ารบํารงุ รักษา ซ่ึงการบาํ รงุ รักษาโดยทั่วๆ ไปมดี งั น้ี คือ 1. ตรวจดูความพรอ มของ เครือ่ งกลึงอยตู ลอดเวลา ไมวา จะเปน การตรวจดูระบบไฟฟา ชิน้ สวนตา งๆ ของเคร่ืองกลึง จะตองอยใู นสภาพท่ีใชง านไดด ี และปลอดภยั

2. กอนใชเ ครอื่ งกลงึ ทกุ คร้ัง จะตองทําการหยอดน้ํามนั หลอลืน่ ในสวนที่เคล่อื นทไี่ ดเ ปน การลด การเสยี ดสีในขณะใชงาน 3. ในการเปลี่ยนความเรว็ รอบ โดยเฉพาะเครอื่ งกลงึ ที่มกี าร เปลี่ยนความเรว็ รอบดวยชดุ เฟองทด ควรจะตองหยดุ เครอ่ื งกอ น เปล่ียนความเร็วรอบ และควรโยกคันโยกบงั คับใหต รงตาํ แหนง มฉิ ะน้ันฟนเฟอ งจะขบกนั ไมเตม็ ฟน จะทําใหเ ฟอ งเกิดรอยเยนิ และ สึกหรอเร็ว

4. การเลือกใชค วามเรว็ รอบ อัตราปอ นกลงึ จะตองเลอื กให เหมาะสมกบั ชนิดของงาน ถาใชความเรว็ รอบเรว็ เกนิ ไป หรอื การปอ นกนิ ลึกมากเกนิ ไป หรอื ใชอตั ราปอนกลึงเร็วเกินไป ทํา ใหเ ครือ่ งกลึงรบั ภาระหนักอาจเปน สาเหตทุ ําใหเ ครือ่ งกลงึ ชาํ รุด เสยี หายได

5. จะตองมกี ารเปลี่ยนถายนํา้ มันเครื่องของเครือ่ งกลึงตาม ระยะเวลาท่กี ําหนด และควรเลอื กชนิดของน้าํ มนั เคร่อื งตามที่ คูม อื การใชเครอ่ื งแตล ะเครื่องกาํ หนดไว 6. หลังจากเลิกใชง านทุกคร้ังจะตอ งทาํ ความสะอาดเคร่อื ง และจะตองชะโลมนํา้ มนั

7. ชุดแทน เลือ่ น หลังเลิกใชงานควรจะเล่ือนมาอยูตําแหนงใกล ชุดศนู ยทา ยแทน เพราะตาํ แหนง นี้จะมีสว นท่เี ปนฐานชว ย รองรับน้ําหนกั ปอ งกนั การแอนตัวของแทน เลื่อน 8.การบาํ รุงรักษานอกจากที่กลา วมาจากหัวขอตา งๆ นแ้ี ลว ใน การบํารุงรักษาทดี่ คี วรจะศกึ ษาจากคมู ือของเครอ่ื งจักรกลทมี่ า กับเคร่ืองจักรกลนน้ั