บทเรียนสำเรจ็ รูป กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ 4 ประวัตศิ าสตร์ วชิ ำ ประวัติศำสตร์ รหัสวิชำ ส 23104 ช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ 3 เร่ือง ประวัตศิ ำสตร์ไทยสมัยกรงุ ธนบรุ ี ตอน กำรพัฒนำปรับปรุงควำมเจรญิ ในด้ำนต่ำงๆ โดย นำงสำวธรรมนญู รตั ติ พศิ ลืม ครชู ำนำญกำรพเิ ศษ โรงเรยี นทงุ่ มนวิทยำคำร ตำบลสมุด อำเภอปรำสำท จงั หวัดสรุ นิ ทร์ สำนกั งำนเขตพน้ื ทก่ี ำรศกึ ษำมัธยมศกึ ษำ เขต 33 บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ิศำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 โรงเรียนทงุ่ มนวิทยำคำร
บทเรยี นสำเร็จรปู เร่ือง ประวัตศิ ำสตร์ไทยสมยั กรุงธนบุรี ตอน กำรพัฒนำปรับปรุงควำมเจริญในด้ำนตำ่ งๆ วชิ ำ ประวัติศำสตร์ รหัสวิชำ ส 23104 ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 3 ------------------------------------------------------------------- แนวคิด 1. ในสมยั กรงุ ธนบุรีเป็นช่วงท่บี ้านเมืองกาลงั อยใู่ นระยะหวั เลย้ี วหังต่อเพราะไทยเพง่ิ กอบกู้ เอกราชคนื มาจากพม่าหลังจากเสยี กรุงศรอี ยธุ ยาครั้งที่ 2 จึงมีความจาเป็นทจ่ี ะต้องร่วม กันพฒั นาประเทศใหม้ ีความเจรญิ กา้ วหนา้ 2. การทีจ่ ะพฒั นาประเทศชาติใหม้ คี วามเจริญรุ่งเรอื งได้นั้นจะต้องพฒั นาพร้อมกันไปทุกๆ ด้านทง้ั ด้านการเมอื งการปกครอง ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านสังคม ดา้ นการศึกษา ด้านศาสนา และด้านศลิ ปวฒั นธรรม จดุ ประสงค์ 1. อธิบายโครงสรา้ งการจดั การปกครองสมัยกรงุ ธนบรุ ีได้ 2. สรุปลักษณะการใช้กฎหมายและระบบการศาลในสมยั กรงุ ธนบรุ ไี ด้ 3. อธิบายลกั ษณะเศรษฐกิจและโครงสร้างของสังคมไทยสมัยกรงุ ธนบุรีได้ 4. อธิบายแนวทางการปรบั ปรงุ ประเทศดา้ นการศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรมได้ คำชแ้ี จง บทเรียนนี้เป็นบทเรียนทีน่ ักเรียนจะเรียนสาเร็จได้ดว้ ยตนเองโดยการอา่ นและปฏบิ ตั ิตามคาส่งั ภายในกรอบ แต่ละกรอบแตล่ ะกรอบอย่างต่อเน่ือง ถ้าหากปฏิบตั ินอกเหนือคาส่ังในแตล่ ะกรอบแลว้ จะไม่ประสบความสาเรจ็ ในการ เรียนเรอ่ื งน้ี ฉะนั้นนักเรียนทุกคนต้องมีความซ่ือสตั ยต์ ่อตนเองเป็นสาคัญ ในการเรียนนั้นให้เร่ิมอา่ นกรอบท่ี 1 เป็น ตอนแรกแลว้ ปฏิบัติตามคาส่ังทา้ ยกรอบอยา่ งเครง่ ครดั โดยไม่ข้ามขั้นตอนแลว้ นักเรียนจะประสบความสาเร็จ การตอบ คาถามในแต่ละกรอบใหน้ ักเรียนเลอื กตัวเลอื กไวใ้ นใจแล้วปฏบิ ตั ิตามคาสัง่ น้นั ๆ ในแต่ละคาสงั่ ดว้ ยความซ่ือสตั ยต์ ่อ ตนเอง บทเรียนสำเร็จรูปวิชำประวตั ิศำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 โรงเรียนทงุ่ มนวิทยำคำร
กรอบท่ี 1 -2- ตลอดระยะเวลาท่ีพระเจา้ กรุงธนบรุ ีไดป้ กครองกรุงธนบรุ อี ยู่ 15 ปพี ระองค์ได้ปฏบิ ัตพิ ระราชกรณยี กจิ มากมายหลายด้าน เชน่ การสถาปนากรุงธนบุรีเปน็ ราชธานี การทาสงครามรวบรวมอาณาเขตเพ่ือรวบรวมคนไทย ทแี่ ตกเป็นกก๊ เปน็ ชมุ นุมตา่ งๆ ในช่วงทก่ี รุงศรีอยธุ ยาเสยี แก่พมา่ คร้ังท่ี 2 ใหเ้ ป็นอันหน่งึ อันเดียวกนั หรือแม้แต่การ ทาสงครามป้องกันประเทศถึง 9 ครงั้ เพ่อื รักษาเอกราชของชาติไว้ ตลอดจนการทาสงครามขยายอาณาเขตไปยัง เขมรและลาวเพือ่ ความเกรยี งไกรของชาติไทยอีกคร้ังหนงึ่ ภายหลงั ท่ีต้องเสยี เอกราชให้กับพมา่ เมื่อ พ.ศ.2310 ซง่ึ เรอ่ื งดงั กล่าวนักเรียนได้ศึกษามาอย่างละเอยี ดแลว้ ในชนั้ ม.2 คงจะสรุปได้ตรงกันว่าพระเจา้ กรงุ ธนบรุ ีของเราชาว ไทยทรงเปน็ นักรบนกั พฒั นาท่ีไม่รู้จกั เหนด็ เหน่ือย ตลอดสมัยของพระองคแ์ ทบจะไม่มีเวลาพกั ผ่อนเลย แตก่ ระนั้น ก็ตามพระองค์ก็มิไดล้ ะทิ้งงานด้านพัฒนาบา้ นเมอื ง พระองคไ์ ด้พฒั นาบ้านเมืองให้มีความเจรญิ รุ่งเรืองขึ้นโดย ลาดับ ก่อนทจ่ี ะศึกษารายละเอียดกนั ต่อไปขอให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ก่อน คำถำม เพราะเหตใุ ดพระเจ้ากรงุ ธนบรุ จี ึงทรงต้องกระทาสงครามอกี หลายคร้ังภายหลงั กอบก้เู อกราชจากพมา่ ได้แลว้ ก. เพราะพระองค์ตอ้ งการให้ท่ัวโลกยอมรับว่าพระองคเ์ ปน็ กษัตรยิ ท์ มี่ ีความสามารถใน การรบ ข. เพราะบา้ นเมืองยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติยังคงต้องสรา้ งความมน่ั คงให้แก่ชาติก่อน ถ้านักเรียนเลือกข้อ ก. พลกิ ไปอ่านกรอบท่ี 8 ถา้ นักเรียนเลอื กข้อ ข พลกิ ไปอ่านกรอบที่ 15 กรอบท่ี 2 นั่นแน่ ! นกั เรียนทาผดิ คาชแี้ จงแล้วใชไ่ หมอยา่ ปฏิเสธนะ กค็ าตอบทีน่ ักเรยี นเลอื กมาเมอ่ื ก้ีน้ไี ม่ได้ให้นกั เรียน มาอ่านกรอบที่ 2 น้เี ลย นักเรียนจาไว้นะว่าการทางานหรือการเรยี นก็แลว้ แต่ถ้าเราไมม่ ีความซอ่ื สตั ยเ์ สียแล้วเราคง จะอยู่ในสังคมลาบากเพราะฉะนัน้ นักเรยี นต้องมีความซ่ือสัตย์ต่อตัวเองและผู้อน่ื ดว้ ย การเรยี นดว้ ยบทเรยี นนีก้ ็ เช่นเดียวกนั ถา้ นักเรยี นไม่ซ่ือสตั ยห์ รอื ไมป่ ฏิบัติตามคาช้ีแจงแล้ว นกั เรยี นจะไมป่ ระสบความสาเร็จเลย ขอให้ นักเรียนพลิกไปดตู วั เลอื กข้อเมื่อกนี้ ้ีใหมซ่ วิ ่าคาส่ังดงั กล่าวใหน้ กั เรียนพลกิ ไปอา่ นกรอบที่เทา่ ไร ขอใหโ้ ชคดนี ะจ๊ะ บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ศิ ำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 โรงเรียนทงุ่ มนวทิ ยำคำร
กรอบท่ี 3 -3- เยย่ี มไปเลย นักเรยี นได้ศึกษารายละเอยี ดของประวตั ิศาสตรไ์ ทยสมัยกรงุ ธนบรุ ี ตอนการพัฒนาปรับปรุงความ เจรญิ ในดา้ นต่างๆ สมยั กรงุ ธนบุรีจบแลว้ ครูหวงั ว่าบทเรยี นน้คี งจะทาใหน้ ักเรียนได้รบั ความร้บู ้างพอสมควร ถ้า นกั เรยี นมีความซ่อื สัตยต์ ่อตวั เองมาโดยตลอด และขอใหน้ ักเรยี นไปอา่ นหนังสือแบบเรยี นหรือหนังสอื อ่านประกอบ อืน่ ๆ ท่ีเก่ยี วข้องเพ่ิมเติม เพื่อความร้แู ละความเขา้ ใจท่ีดี ในโอกาสน้ีกต็ ้องขอกล่าวว่า โชคดี และสวสั ดี เชญิ พบกบั อาจารย์ผสู้ อนต่อไป กรอบท่ี 4 นักเรยี นเขา้ ใจผิดแลว้ ถงึ แม้วา่ วดั จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมติดต่อกันได้สะดวกหรือมีสถานท่ีร่มร่นื ก็ตาม แต่ถ้าวัดนั้นขาดพระที่รู้หนังสือหรอื ไม่มีตารบั ตาราใดๆอยู่เลย วัดนั้นก็ไม่สามารถท่ีจะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา ได้ แต่ในสมัยกรุงธนบรุ ีแลว้ วัดแต่ละวัดจะมีพระผู้รู้หนังสือและมีหนังสืออยู่หลายประเภททงั้ บทสวดมนต์ หนังสือ บาลีหรือแม้แต่ตารับตาราวิชาแขนงอื่น ๆ ก็ยังมีซ่ึงในสมัยน้ันเรายังไม่มีโรงเรียนเหมือนกับปัจจุบัน ยังไม่มีการ บังคับให้เรียนเหมือนกับปัจจุบัน เพราะฉะนั้นวัดจึงเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาของไทยไปโดยปริยาย เข้าใจแลว้ ใชไ่ หม พลกิ ไปอ่านกรอบท่ี 16 ได้แล้ว กรอบท่ี 5 ถูกต้องแล้ว การสักเลกในสมัยกรุงธนบุรีมีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการเกณฑ์ชายไทยเข้าเวรเป็นทหารหรือไพร่ หลวงเพราะบ้านเมืองขณะนั้นอยู่ในภาวะสงครามจึงจาเป็นต้องมีกาลังทหารไว้ และเพ่ือเป็นการป้องกันการ หลบหนีหรอื หลีกเล่ียงการเป็นทหารจึงต้องมีสญั ลกั ษณ์แสดงใหร้ ู้วา่ ใครได้ผา่ นการเกณฑ์ทหารแล้วก็คือการสักเลก ไว้ท่ีข้อมือน่ันเอง ต่อไปน้ีจะศึกษาเรื่องราวทางเศรษฐกิจในสมัยกรุงธนบุรีกันต่อนะ ภาวะเศรษฐกิจของไทยสมัย กรงุ ธนบรุ ีอยู่ในฐานะท่ลี าบากและตกต่ามากอาหารก็มรี าคาแพงแลว้ ก็ยังหายากด้วย เพราะไม่ได้มีการทานากันมา หลายปี เน่ืองจากภาวะสงครามจนพระเจ้ากรุงธนบุรีต้องบริจาคทรัพย์ในท้องพระคลังเพ่ือซื้ออาหารและเสื้อผ้า แจกจ่ายแก่ราษฎร ฐานะการคลังตกต่ามากได้มีการส่งเสริมการค้ากับต่างประเทศ เพื่อแก้ไขความอดอยากโดยส่ง เรือสาเภาไปค้าขายกับประเทศต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับไทย เช่น จีนและอินเดีย และได้มีการฟ้ืนฟูระบบเศรษฐกิจ อีกทางหนึ่งคือการส่งเสริมให้ราษฎรทาการเพาะปลูกเองเพื่อให้พึ่งตนเองได้ซ่ึงก็ทาได้ง่ายเพราะประเทศไทยมี ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรดินและน้าอยู่แล้ว จึงทาให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ศิ ำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 โรงเรียนทงุ่ มนวิทยำคำร
คำถำม พระเจา้ กรงุ ธนบุรีทรงแก้ปญั หาทางเศรษฐกจิ ของประเทศอยา่ งไร ก. สง่ เสรใิ หร้ าษฎรทานา (ถ้านักเรียนเลอื กข้อ ก. พลิกไปอา่ นกรอบที่ 10) ข. ส่งกองทัพไปตีเขมรเพื่อขนเสบยี งอาหารมายังไทย(ถา้ นักเรยี นเลือกข้อ ข.พลิกไปอา่ นกรอบท่ี 14) กรอบท่ี 6 เกง่ มากตอบถูกอีกแล้ว แสดงว่านกั เรยี นตั้งใจอา่ นเร่ืองโครงสร้างการจกั ดารปกครองสว่ นกลางสมัยกรงุ ธนบุรีดว้ ยความตั้งใจ ดีแลว้ การตั้งใจเรียน ความซื่อสัตย์จะนานกั เรียนไปสู่ความสาเรจ็ ในวนั ขา้ งหนา้ ในกรอบที่ แลว้ นักเรยี นได้ศึกษาการจดั การปกครองสว่ นกลางไปแลว้ มากรอบนี้จะศึกษาถงึ การจัดการปกครองในส่วนภูมภิ าค กันบา้ ง การจดั การปกครองสว่ นภูมภิ าคสมัยกรุงธนบรุ แี บง่ ไดเ้ ป็น 3 ระดับคือ 1. การปกครองหวั เมืองช้ันใน หวั เมอื งช้ันในก็คือเมอื งเล็กๆ ทอี่ ยูร่ ายรอบราชธานีมีฐานะเปน็ เมืองชัน้ จตั วา มผี ปู้ กครองเรยี กวา่ ผู้รัง้ มีหน้าทปี่ ฏบิ ตั ติ ามคาส่ังของเสนาบดจี ตุสดมภ์ หัวเมอื งช้ันในสมัยกรุงธนบรุ ีก็เชน่ เมืองสาม โคก เมืองพระประแดง เมืองนนทบุรี เปน็ ต้น 2. การปกครองหวั เมืองชัน้ นอก หวั เมืองชนั้ นอกคอื เมืองท่ีอยู่ไกลจากราชธานอี อกไปบางคร้ังกเ็ รยี กวา่ เมือง พระยามหานคร จะแบง่ ตามขนาดและความสาคัญของแตล่ ะเมือง โดยแบ่งเป็น เมืองชน้ั เอก ชั้นโท ชน้ั ตรแี ละชั้น จตั วา เจา้ เมืองมีอานาจเต็มทใ่ี นการบรหิ ารดูแลเมือง 3. การปกครองหัวเมืองประเทศราช เมอื งประเทศราชเปน็ เมืองตา่ งชาติต่างภาษาผู้ปกครองมีอสิ ระเตม็ ที่ใน การบริหารกิจการภายในประเทศของตน แต่ต้องส่งตน้ ไม้เงินตน้ ไมท้ องและเครื่องบรรณาการมาถวายทุก 3 ปี เชน่ เมืองลาว เขมรและเชียงใหม่ นักเรียนอา่ นมาเมอื่ ยตาปวดสมองหรือยังคงยงั นะเพราะเพ่ิงอ่านมาได้แคน่ ิดเดยี วเอง มาตอบคาถามกันกอ่ น ดกี ว่า คำถำม ทีเ่ รยี กว่าเมืองจตั วาในหวั เมอื งชั้นในนนั้ มีลักษณะอยา่ งไร ก. เป็นเมอื งที่เลก็ ทส่ี ุด ข. เปน็ เมอื งเล็กๆ รายรอบราชธานมี ผี ้รู ้งั ปกครอง ถา้ นักเรยี นเลือกข้อ ก. พลิกไปอ่านกรอบท่ี 13 -4- ถ้านกั เรียนเลือกข้อ ข. พลิกไปอา่ นกรอบที่ 17 บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ศิ ำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 โรงเรียนทงุ่ มนวทิ ยำคำร
-5- กรอบท่ี 7 ยงั ไม่ถกู นะจะ๊ นักเรยี นต้องอา่ นไปคิดไปดว้ ย เพราะคาตอบทถ่ี ูกจะมีอยู่ในเนื้อเร่ืองของกรอบที่ 10 แลว้ ครู จะเสริมใหอ้ ีกนิดหนึ่งนะคือในชว่ งสมัยกรุงธนบรุ นี น้ั เป็นชว่ งที่ไทยเราต้องปรับปรุงและพัฒนาประเทศหลงั กอบกู้ เอกราช และงานหนงึ่ ที่พระเจ้ากรุงธนบรุ ีตอ้ งกระทาคือรวบรวมอาณาเขตใหเ้ ป็นปึกแผ่น เพราะคนไทยเรายงั แตก เปน็ ก๊กเปน็ เหลา่ อยู่ ฉะน้ันจึงมคี วามจาเปน็ ที่ทางการต้องมีกาลังทหารทีเ่ พยี งพอมาชว่ ยรบและอีกทางหน่ึงกต็ ้องให้ ราษฎรช่วยกนั ทามาหากินโดยทาการเพาะปลูกพชื พรรณธัญญาหารดว้ ย ดงั นี้ถ้าใหผ้ ชู้ ายมาเปน็ ทหารตลอดโดย ไมไ่ ดพ้ ักกค็ งจะไม่มีคนช่วยผูห้ ญิงทาการเพาะปลกู ดังนั้นทางการก็ไดผ้ ่อนปรนใหช้ ายมาเปน็ ทหารเดอื นหนึ่ง เม่ือ ครบเดือนแล้วก็ตอ้ งกลับมารับราชการทหารตอ่ อีกสลบั กบั การกลบั ไปชว่ ยเหลือครอบครัวทางานท่ีบ้านจนครบปี ดังน้ันปหี นง่ึ ก็เป็นทหาร 6 เดือนและช่วยเหลือครอบครวั 6 เดอื นสลับกันไป นักเรยี นคงจะเข้าใจแล้วนะถ้ายังไมเ่ ข้าใจก็พลิกไปอ่านกรอบที่ 10 ใหมอ่ ีกคร้งั หนงึ่ ถา้ เข้าใจแลว้ พลกิ ไปอ่าน กรอบที่ 12 ได้แล้ว กรอบที่ 8 ตวั เลือกนเี้ ป็นคาตอบที่ยงั ไมถ่ ูกต้องนะ เพราะวา่ การทพ่ี ระเจา้ กรุงธนบุรตี ้องทาศกึ อกี หลายครั้งหลังก้เู อกราช ไดแ้ ลว้ น้นั เปน็ เพราะบ้านเมืองในชว่ งนั้นเกิดความวุ่นวายบ้านแตกสาแหรกขาดผ้คู นพากันหลบหนีเพอ่ื เอาชวี ติ รอด เกิดข้าวยากหมากแพงผู้คนท่ีรอดพน้ จากการจับกมุ และไม่ถูกกวาดต้อนไปยังพมา่ ไดพ้ ยายามรักษาตวั รอด บา้ งก็ ซ่องสุมกาลังคนตั้งเป็นก๊กเป็นชุมนมุ เกิดชมุ นมุ ต่างๆ ถงึ 5 ชุมนุม คอื ชุมนุมเจ้าพษิ ณโุ ลก ชมุ นุมเจา้ พระฝาง ชุมนมุ เจ้าพิมาย ชมุ นุมเจา้ นครศรีธรรมราช ชุมนมุ เจ้าตาก เพราะพระเจา้ กรงุ ธนบรุ ีจาเป็นตอ้ งทาศึกเพ่ือรวบรวมคนไทย และอาณาเขตของไทยให้เปน็ ปึกแผ่นและมีอาณาเขตท่กี ว้างขวางออกไปเพื่อชวี ิตความเป็นอยขู่ องประชาชนจะได้ดี ขึน้ เอาละนักเรียนคงจะเขา้ ใจแล้วนะวา่ ทาไมตวั เลือกทน่ี ักเรียนเลอื กข้อ ก. มานน้ั ถึงผดิ ไมต่ ้องเสียใจนะตง้ั ใจ อา่ นตอ่ ไป การตอบคาถามก็ต้องมผี ิดบ้างถกู บ้างเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อเรารู้ข้อผดิ ก็ต้องแกไ้ ขกันต่อไป ถ้านักเรยี นคดิ ว่าเขา้ ใจแล้วกพ็ ลิกไปอา่ นกรอบท่ี 15 ได้แล้ว หรือจะกลบั ไปอา่ นกรอบท่ี 1 ใหม่ก็ได้ เชิญเลยจ๊ะ กรอบที่ 9 ถูกต้องแลว้ ข้อนง้ี ่ายมากใชไ่ หมครคู งไมต่ ้องสรปุ นะ มาศกึ ษาเร่อื งศิลปกรรมและวรรณกรรมต่อไปเลยนะ เร่อื งของศิลปกรรมและวรรณกรรมสมยั กรุงธนบุรยี งั คงมีรปู แบบคล้ายกบั สมยั กรุงศรีอยธุ ยาแต่ฝมี อื ทางด้านการ ชา่ งจะดอ้ ยกวา่ อยธุ ยา เพราะช่างฝีมือดีๆ ต้งั แต่สมัยอยุธยาถูกฆ่าตายบ้างถูกพมา่ จับไปเป็นเชลยจานวนมาก ศลิ ปกรรมสมัยกรุงธนบุรแี บ่งตามแขนงต่างๆ ไดด้ งั นี้ บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ิศำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 โรงเรียนทงุ่ มนวทิ ยำคำร
1. ด้านสถาปตั ยกรรม เช่นอาคารบา้ นเรือน โบราณสถานทางศาสนา งานสถาปนิกท่ีสาคญั ในสมยั กรงุ ธนบุรีและยงั คงปรากฎอยูใ่ นปัจจบุ นั เช่น พระราชวงั เดิม ทอ้ งพระโรง กาแพงพระราชวัง พระตาหนักเก๋งคู่ 2. จติ รกรรม งานจติ รกรรมท่ีสาคัญในสมัยนี้ไดแ้ ก่ สมดุ ภาพไตรภมู ิ 3. ประติมากรรม งานประตมิ ากรรมทีย่ งั หลงเหลืออยใู่ นปัจจุบัน เช่น พระแท่นบรรทมของพระเจา้ กรงุ ธนบรุ อี ยู่ที่วดั อนิ ทราราม พระแทน่ ประทับเจริญวปิ สั นากมั มฏั ฐาน ตูล้ ายรดน้า 4. วรรณกรรม พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงสนับสนุนกวเี ป็นอย่างมาก เพราะพระองค์ก็ทรงเปน็ กวดี ว้ ย เชน่ ทรง พระราชนพิ นธบ์ ทละครฉบบั หลวงขึ้นคือกลอนบทละครเรื่องรามเกยี รต์ิ 5. การละคร ไดร้ บั แบบอย่างมาจากสมยั กรงุ ศรีอยุธยา มีละครในกบั ละครนอก และละครท่ีมีชื่อเสียงมาก สมยั กรุงธนบุรีคอื ละครผู้หญิงจากนครศรธี รรมราช สาหรบั กรอบนี้จะไม่ให้นักเรยี นตอบคาถาม แตน่ ักเรียนตอ้ งซ่ือสัตยต์ อ่ ตวั เองนะวา่ ได้อ่านมาด้วยความตั้งใจ จนจบกรอบแลว้ ถ้ายังไม่แน่ใจก็อ่านกรอบนีซ้ ้าอีกเทยี่ วหนึง่ ถ้าแน่ใจแล้วพลิกไปอ่านกรอบที่ 3 ไดแ้ ลว้ กรอบที่ 10 ถูกแลว้ การแกป้ ญั หาทางเศรษฐกจิ ในสมัยนั้นกต็ อ้ งแกท้ ี่ต้นเหตุ ต้นเหตุอยู่ที่การขาดแคลนเสบยี งอาหาร เพราะราษฎรไมส่ ามารถประกอบอาชีพไดอ้ ันเน่ืองมาจากสงคราม เมื่อเราไดเ้ อกราชคืนมาแลว้ กต็ อ้ งบารุงขวญั ประชาชนก่อนแล้วสง่ เสรมิ ให้เขาเหล่านนั้ เรง่ ผลติ อาหารน่ันก็คือต้องทาใหเ้ ขาประกอบอาชพี ดว้ ยความม่นั ใจใน ความปลอดภัยน่นั เอง เรอ่ื งต่อไปเราจะมาพจิ ารณากันถึงโครงสรา้ งด้านสงั คมในสมัยกรงุ ธนบรุ ี โครงสร้างของ สังคมไทยสมัยกรงุ ธนบุรยี ังคงคล้ายสมัยกรงุ ศรีอยุธยากลา่ วคือโครงสร้างของสงั คมประกอบด้วยชนช้นั 4 ชนชนั้ ได้แก่ พระมหากษัตริย์เปน็ ผูท้ ม่ี ีอานาจสูงสดุ พระบรมวงศานุวงศ์ ขนุ นางชัน้ ผูใ้ หญ่ เปน็ พวกท่ีมีสทิ ธติ า่ งๆ เหนอื ไพร่ ไพร่ ไดแ้ ก่คนธรรมดาสามญั ไพร่ยงั แบง่ ไดเ้ ป็น 2 พวกดงั นี้ 3.1 ไพรห่ ลวง หมายถงึ ไพร่ที่พระมหากษัตรยิ ท์ รงพระราชทานแก่กรมกองตา่ งๆ เปน็ ไพร่ของ พระมหากษัตริย์โดยตรง ไพร่หลวงยังแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทคือ ไพรห่ ลวงท่ีต้องมารบั ราชการตามที่ทางการ กาหนดไว้ และไพรห่ ลวงท่ีอยหู่ า่ งไกลออกไปไม่ต้องมารบั ราชการแต่ตอ้ งสง่ สว่ ยมาให้พระคลงั แทน เรยี กไพร่หลวง พวกน้ีว่าไพรห่ ลวงสว่ ย ไพรห่ ลวงที่มารับราชการน้นั ต้องอยู่เวรรบั ราชการปีละ 6 เดอื น โดยเข้าเดือนออกเดือน สลับกนั ไป 3.2 ไพรส่ ม หมายถงึ ไพรท่ ่ีพระมหากษัตริย์พระราชทานให้แก่เจ้านายและขนุ นางเพ่ือเป็นผลประโยชน์ ตอบแทนเน่ืองจากสมยั นั้นไม่มีเงินเดอื นสาหรบั ขา้ ราชการ ทาส หมายถงึ บุคคลท่ีมิได้เป็นไทแกต่ นเอง นักเรยี นอา่ นมาถึงตรงนแี้ ล้วลองมาทบทวนความเข้าใจกนั ก่อนโดยตอบคาถามตอ่ ไปน้ี -6- บทเรียนสำเร็จรูปวิชำประวตั ศิ ำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 โรงเรียนทงุ่ มนวทิ ยำคำร
คำถำม คาว่า “เข้าเดือนออกเดือน” หมายความวา่ อยา่ งไร ก. หมายถงึ การเข้าเวรรับราชการของไพรห่ ลวงโดยทางาน 1 เดือนแลว้ หยุดพัก 1 เดอื นสลับกนั ไป จนครบปี ข. หมายถึงการท่ไี พรห่ ลวงต้องนาส่วยมาส่งใหท้ างการเดือนเวน้ เดือนจนครบปี ถา้ นักเรียนเลือกขอ้ ก. พลกิ ไปอ่านกรอบท่ี 12 ถ้านักเรียนเลือกข้อ ข. พลกิ ไปอา่ นกรอบที่ 7 กรอบท่ี 11 ยังไม่ถกู นะจะ๊ เหตุที่ข้อท่นี ักเรียนเลือกมาน้ไี มถ่ ูกเพราะว่า การสักเลกสมยั กรุงธนบุรนี นั้ มจี ุดมุง่ หมาย เพ่อื ทจี่ ะเกณฑ์ชายไทยเขา้ เป็นทหารหรือที่เรยี กกนั วา่ ไพร่หลวง เพราะในสมัยกรุงธนบรุ นี ้ีบา้ นเมืองอยู่ในภาวะ สงครามต้องทาการสู้รบกันอยู่ตลอดเวลา ทาให้ชายไทยบางคนคดิ ท่ีจะหลกี เลย่ี งไม่ไปเปน็ ทหารอาจเป็นเพราะกลัว จะสูญเสยี ชวี ิตหรอื ไม่กไ็ ม่มีใครรับผิดชอบครอบครัว ฉะนัน้ ทางราชการจึงต้องออกกฎหมายบังคับใหช้ ายไทยต้อง สกั เลกไวท้ ี่ขอ้ มือเพอื่ แสดงว่าไดผ้ ่านการเกณฑท์ หารแลว้ ถา้ ใครไม่มเี ลกสักแสดงว่าหลกี เลีย่ งการเปน็ ทหารจะต้อง ถกู ลงโทษ หรือถา้ จับได้ว่าผ้ใู ดปลอมแปลงการสกั เลกจะต้องถูกลงโทษถึง 7 ชั่วโคตรทีเดยี ว นกั เรียนคงจะเข้าใจแล้วนะวา่ การสักเลกในสมยั กรงุ ธนบุรีเขาสักกนั ไปทาไมและเพอ่ื อะไร พลิกไปอา่ นกรอบ ท่ี 5 ได้แลว้ กรอบที่ 12 ถูกต้องแลว้ แสดงว่านักเรียนเขา้ ใจแลว้ นะเมื่อเขา้ ใจเร่อื งโครงสรา้ งทางสังคมแล้วต่อไปก็ไปดเู ร่อื งของ การศึกษาในสมยั กรงุ ธนบุรีกันตอ่ ไปเลย การศึกษาในสมยั กรุงธนบรุ ยี งั คงมีศูนย์กลางอยู่ทีว่ ดั และวัง สาหรับ ประชาชนโดยทวั่ ไปเมือ่ มลี ูกชายโดพอสมควรก็จะนาไปฝากไวท้ ีว่ ดั เพ่ือหัดเรยี น เขยี น อ่าน และเรียนภาษาบาลี เพือ่ จะได้ศึกษาพระไตรปิฎกต่อไปโดยมีพระที่วัดเป็นครูสอน วดั ในสมยั น้ียงั คงเป็นศูนยร์ วมของทุกส่ิงทุกอย่างท้งั ภาษาหนงั สอื ศาสนาและศลิ ปกรรมทั้งหลาย หนงั สอื แบบเรียนทีใ่ ชเ้ รียนในสมยั นคี้ ือ จินดามณี เมื่ออ่านออกเขียน ไดแ้ ล้วกจ็ ะเรยี นแตง่ ร้อยแกว้ โคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน วิชาเลข มาตราไทย ชงั่ ตวง วัด การคดิ หนา้ ไม้ ฯลฯ เม่อื อายคุ รบบวชพระกจ็ ะบวชเป็นพระต่อไป อาจจะเรียนบาลีเพ่ิมเติมอีก สว่ นในดา้ นวชิ าอาชีพนน้ั จะมีการสอนกนั เอง ในครวั เรอื น กล่าวคือ พ่อแม่ทีม่ คี วามรูว้ ิชาชีพใดกจ็ ะถา่ ยทอดให้บุตรหลานของตนเอง เช่น การแกะสลกั การปั้น การแพทยแ์ ผนโบราณ สว่ นสตรไี ทยนนั้ ไมน่ ยิ มใหเ้ รยี นหนังสอื สว่ นมากจะฝกึ สอนกันในด้านการตดั เย็บปักถักร้อย ทากับข้าว การจดั บา้ นเรอื นและมารยาทของกุลสตรี ส่วนลูกขุนนางมกั จะสง่ ใหเ้ ข้าเรียนวิชาการต่างๆ ในวงั หยดุ ตอบคาถามเพอ่ื เสรมิ สติปัญญากนั ก่อนนะ -7- บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ศิ ำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 โรงเรียนทงุ่ มนวิทยำคำร
คำถำม เพราะเหตุใดศนู ยก์ ลางการศกึ ษาของไทยสมัยกรุงธนบรุ ีจึงอยู่ท่วี ดั ก. เพราะวัดเป็นศูนย์รวมของทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งทั้งภาษา หนงั สือ ศิลปกรรมและผรู้ ้หู นังสอื ข. เพราะวดั เปน็ ศนู ยก์ ลางของการคมนาคมและมสี ถานท่รี ่มร่ืนเหมาะแก่การเรียน ถ้านกั เรียนเลือกข้อ ก. พลกิ ไปอ่านกรอบที่ 16 ถ้านักเรยี นเลือกขอ้ ข. พลิกไปอา่ นกรอบท่ี 4 กรอบท่ี 13 นั่นแน่ นกั เรียนลักไก่แลว้ ใชไ่ หม อา่ นไมค่ รบทุกบรรทัดหรอื ไมก่ ็อา่ นแบบให้ผา่ นๆไป เลยตอบคาถามข้อนี้ไม่ ถูกการอา่ นหนังสือถ้าจะใหเ้ กิดความเข้าใจและรเู้ รื่องโดยตลอดแล้วต้องมคี วามต้งั ใจและใจตอ้ งจดจ่ออยู่กบั การ อา่ น ถ้านักเรยี นไมเ่ ช่อื ก็พลิกกลบั ไปอ่านกรอบที่ 6 ใหม่แล้วกอ็ ่านข้อที่ 1 ท่ีวา่ ดว้ ยการปกครองหัวเมอื งชั้นในให้ ละเอยี ดอกี ครั้งหนงึ่ นักเรยี นจะรู้ว่าถา้ ตง้ั ใจอา่ นตงั้ แต่ต้นกค็ งไม่ต้องเสียเวลามาอ่านซา้ อีก เอาละนกั เรียนพลิกไป อา่ นกรอบที่ 6 ใหม่ไดเ้ ลย แล้วตอ้ งปฏบิ ัตติ ามคาสั่งโดยตอบคาถามใหม่นะ คงจะไม่เลอื กมากรอบท่ี 13 น้ีอีกนะ กรอบที่ 14 คาตอบนยี้ งั ไม่ถูกต้อง อย่าเบ่อื เสียก่อนล่ะอ่านต่อไปเถอะ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสาเร็จยอ่ มอยทู่ ีน่ ่ัน ท่ี ครูบอกวา่ ขอ้ นย้ี ังไม่ถูกก็เพราะวา่ การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจในสมยั กรุงธนบึรนี ัน้ ถ้าแก้โดยสง่ กองทพั ไปรบกับชาติ อนื่ ไปแย่งชิงอาหารเขามากเ็ ท่ากบั ว่ายงิ่ ทาใหเ้ กิดความสูญเสียขึ้นมาอีก คือกาลงั พลตอ้ งเตรยี มตวั จะตอ้ งไปรบอยา่ ง เดียวไม่มีโอกาสทจ่ี ะประกอบอาชีพได้เลยและการรบนั้นทุกครัง้ กต็ ้องมีการสูญเสีย มใิ ช่ทางแกป้ ญั หาทด่ี เี ลย เพราะฉะนั้นทางแก้ปัญหาท่ีดีท่ีสดุ กค็ ือส่งเสริมให้ประชาชนประกอบอาชีพเพ่ือจะได้มอี าหารไว้บรโิ ภค จะได้อยู่ อยา่ งสงบสขุ และเศรษฐกิจของประเทศก็จะเจรญิ ก้าวหนา้ ไปดว้ ย จริงไหม ถ้านกั เรยี นยังไมเ่ ขา้ ใจกพ็ ลิกไปอา่ นกรอบที่ 5 ถา้ เข้าใจแลว้ พลกิ ไปอ่านกรอบท่ี 10 ไดเ้ ลย -8- บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ศิ ำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 โรงเรียนทงุ่ มนวิทยำคำร
กรอบที่ 15 เยย่ี มไปเลยถูกต้องแล้ว การทีพ่ ระเจ้ากรุงธนบุรตี ้องทาศึกอีกหลายคร้ังภายหลงั กอบกูเ้ อกราชแลว้ ก็ เพราะวา่ ไทยเรายงั ไม่เปน็ ปึกแผน่ ยงั ไม่มั่นคงพอ ถึงแมว้ า่ พระเจา้ กรงุ ธนบุรจี ะทรงต้องทาศึกอยู่อีกหลายครง้ั แต่ งานดา้ นการพัฒนาประเทศพระองค์ก็ไมเ่ คยได้ทอดทงิ้ เลย พระองคย์ ังมงุ่ พัฒนาบ้านเมืองในดา้ นต่างๆ ให้ เจรญิ ก้าวหน้าไดต้ ามสมควร เช่นดา้ นการปกครอง ในสว่ นกลางพระองค์ได้ดาเนินการจัดการปกครองให้มีความ เจรญิ ก้าวหน้าโดยมรี ูปแบบการปกครองและโครงสร้างคลา้ ยกบั สมัยกรงุ ศรอี ยุธยาตอนปลาย ซ่งึ มีโครงสรา้ งดังน้ี กษัตรยิ ์ อุปราช อคั รเสนาบดีสมหุ กลาโหม มหี นา้ ทด่ี แู ลควบคุม อคั รเสนาบดสี มหุ นายก หนา้ ท่ี ดแู ลฝ่ายพลเรอื น ฝา่ ยทหาร และหัวเมอื งฝา่ ยเหนอื และหวั เมอื งฝา่ ยใต้ นครบาล (เวยี ง) ธรรมาธิกรณ(์ วงั ) เกษตราธกิ าร(นา) โกษาธบิ ดี(คลงั ) พระยายมราช พระยาธรรมาธิกรณ์ พระยาพลเทพ พระยาพพิ ัฒนโกษา หน้าท่ี หนา้ ที่ หนา้ ท่ี หน้าที่ ปกครองปราบปราม จดั ระเบียบดแู ลราชสานกั ดูแลการทานาทาไร่ หารายได้และรักษา โจรรกั ษาความสงบ และพิพากษาอรรถคดี เรยี บร้อย ทาสวนออกสิทธถิ อื ประโยชนด์ า้ นภาษี ทีน่ าและเก็บคา่ ควบคุมกรมทา่ และ ธรรมเนียม ดแู ลหวั เมอื ง ชายทะเลฝงั่ ตะวันออก และฝา่ ยใต้ กรอบน้ีศึกษาเท่าน้ีก่อนนะ มาตอบคาถามกนั ก่อน ผดิ ถูกไมส่ าคัญขอใหม้ ีความม่ันใจและซื่อสตั ย์ก็แลว้ กนั คำถำม ขอ้ ใดเกย่ี วขอ้ งกบั โครงสรา้ งการจัดการปกครองสว่ นกลางสมัยกรุงธนบุรี ก. สมุหนายกมีอานาจหนา้ ทีบ่ งั คบั บัญชาหวั เมืองฝา่ ยใต้ผา่ นโกษาธิบดี ข. กระทรวงยตุ ธิ รรมโดยศาลมีหน้าท่ีตัดสินคดีความตา่ งๆ ถา้ นกั เรยี นเลอื กข้อ ก. พลิกไปอา่ นกรอบที่ 6 ถ้านักเรยี นเลือกข้อ ข. พลิกไปอา่ นกรอบท่ี 19 -9- บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ิศำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 โรงเรียนทงุ่ มนวิทยำคำร
กรอบท่ี 16 เกง่ มาก แสดงว่านักเรียนเขา้ ใจระบบการศึกษาของไทยในสมยั กรงุ ธนบุรแี ล้ว เพื่อมใิ หเ้ สียเวลา มาศึกษา เน้ือหาด้านการพัฒนาทางศาสนาในสมยั กรงุ ธนบรุ กี นั ต่อไป สาหรบั งานด้านศาสนาน้ันพระเจ้ากรงุ ธนบุรที รงฟื้นฟู และปรบั ปรงุ ขนึ้ หลายอย่างท่ีสาคญั เชน่ การชาระและรวบรวมพระไตรปฎิ กจากที่ตา่ งๆ เข้ามาคัดลอกไว้ ณ กรุง ธนบุรเี ปน็ ฉบบั หลวง และทรงสรา้ งวหิ ารบูรณะวัดตา่ งๆ เป็นจานวนมาก เช่นวัดบางยเ่ี รอื เหนอื (วัดราชคฤห)์ วัด บางหว้าใหญ่ (วัดระฆังโฆสิตาราม) วดั แจ้ง (วดั อรุณราชวราราม) และวดั บางยี่เรือใต้ (วัดอนิ ทราราม) เป็นต้น ที่ สาคญั ทส่ี ดุ ทรงได้อัญเชิญพระแกว้ มรกตจากเชียงใหม่มาประดษิ ฐานท่ีวัดอรณุ ราชวราราม (เดมิ พระแก้วมรกต ประดษิ ฐานอยทู่ เี่ วียงจันทรแ์ ล้วสมเดจ็ เจ้าพระยามหากษัตรยิ ์ศกึ ได้อัญเชญิ มาทีเ่ ชียงใหม่คราวทาสงครามกับ เชียงใหม่) การทานุบารุงพระศาสนาและบารุงสังฆมณฑลของพระเจ้ากรุงธนบรุ ตี ้องมาเศร้าหมองในบ้นั ปลายรชั กาล เพราะพระเจ้ากรงุ ธนบุรีทรงมีพระสตวิ ปิ ลาสสาคัญวา่ พระองคไ์ ด้บรรลโุ สดาบัน ทรงบังคับให้พระสงฆ์กราบไหว้ พระองค์เชน่ ฆราวาสท่ัวไป ถ้าพระสงฆร์ ูปใดไม่ไหวก้ ็จะถูกลงโทษ บ้างก็ถกู ปลดสมณศักดิ์จนทาให้เกิดจลาจลในกรงุ ธนบรุ ใี นเวลาตอ่ มา นกั เรียนคงจะทราบแล้วนะวา่ การศาสนาในสมยั กรุงธนบุรีมีการพัฒนาเป็นเชน่ ใด เรามาตอบคาถามเพ่อื ทบทวนความรู้ความเขา้ ใจกนั ก่อนนะ คำถำม พระเจ้ากรุงธนบรุ ไี ดฟ้ ้นื ฟพู ุทธศาสนาตามข้อใด ก. ให้ราษฎรทุกคนถอื ศลี ทุกวนั พระ ข. ให้บูรณะวัดอรณุ ราชวราราม ถา้ นักเรยี นเลือกข้อ ก. พลกิ ไปอา่ นกรอบที่ 18 ถ้านกั เรียนเลือกข้อ ข. พลิกไปอา่ นกรอบท่ี 9 -10- บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ศิ ำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 โรงเรียนทงุ่ มนวทิ ยำคำร
กรอบที่ 17 ใชแ่ ล้ว เมอื งชั้นจตั วาท่ีเรียกกนั สมัยกรงุ ธนบรุ กี ค็ ือเมืองเล็กๆ ท่ีอยู่รายรอบราชธานนี นั่ เอง แสดงวา่ นกั เรยี น พอจะเข้าใจถงึ รูปแบบและลักษณะการปกครองสว่ นภมู ภิ าคในสมยั กรงุ ธนบุรีแล้ว เรอ่ื งต่อไปเราจะศกึ ษากนั ถึง กฎหมายและการศาลท่ีใช้กนั ในสมัยกรงุ ธนบุรี เมื่อพดู ถงึ กฎหมายและวิธพี ิจารณาความในศษลแลว้ อาจกลา่ วได้ ว่าสมัยกรงุ ธนบุรยี ังคงใชต้ ามแบบอย่างสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาเช่นเดยี วกับการปกครอง กล่าวคือกฎหมายไทยในสมัย กรุงธนบรุ ยี ังคงยึดหลักกฎหมายอยู่ 3 ประการ ได้แก่ พระธรรมศาสตร์ เปน็ กฎหมายทเี่ ขยี นเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร จารตี ประเพณี เป็นกฎหมายทม่ี ิไดเ้ ปน็ ลายลักษณอ์ ักษรแต่ถือปฏิบัตกิ นั มานาน ราชศาสตร์ ได้แก่พระราชวินจิ ฉยั และพระราชโองการที่ตรงกับหลกั ธรรมศาสตร์ กฎหมายในสมัยน้ีที่มหี ลักฐานปรากฏหลงเหลอื อย่เู ช่น การสักเลก การสักเลกคือการข้ึนทะเบยี นผ้คู นเพ่ือใช้ ในราชการทเ่ี รียกวา่ ไพรห่ ลวง การสกั เลกในสมัยกรงุ ธนบรุ ีเปน็ เรื่องสาคัญมาก เพราะเป็นระยะของการ เตรยี มพร้อมทจี่ ะปกป้องและสรา้ งความมนั่ คงแก่ประเทศไทย และฝ่ายตรวจสานวนคาร้องและตัดสิน เปน็ หนา้ ที่ ของพราหมณแ์ ละลูกขนุ ศาลหลวง ส่วนสถานท่ีน้ันยังไมม่ ีสถานทท่ี แ่ี นน่ อน มักใชบ้ ้านเจ้าเมือง บ้านตุลาการเป็น สถานที่พิจารณาคดี พกั การอา่ นเน้ือเรือ่ งไว้กอ่ นนะแลว้ มาตอบคาถามต่อไปนี้ คำถำม การสกั เลก ในสมัยกรุงธนบุรหี มายถึงอะไร ก. หมายถึง การบงั คับให้ชายไทยทุกคนต้องสักเลกลงยันตเ์ พ่อื ให้อยยู่ งคงกระพนั ข. หมายถงึ การให้ชาวไทยสกั เลกไวเ้ ปน็ เครื่องหมายทีข่ ้อมือว่าไดเ้ ขา้ คัดเลือกเป็นทหารแล้ว ถา้ นกั เรยี นเลือกขอ้ ก. พลิกไปอ่านกรอบท่ี 11 ถา้ นกั เรียนเลือกขอ้ ข. พลิกไปอา่ นกรอบท่ี 5 -11- บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ิศำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 โรงเรียนทงุ่ มนวทิ ยำคำร
กรอบท่ี 18 นักเรยี นอ่านกรอบท่ี 16 ละเอยี ดหรือเปล่าจะ๊ เพราะคาตอบข้อน้ีชัดเจนเลยในกรอบท่ี 16 ครูจะสรุปให้อกี คร้งั หนึง่ จะได้ไม่ต้องเสยี เวลาไปอ่านกรอบที่ 16 อีก นกั เรียนอา่ นข้อความต่อไปน้ี “ทรงให้สรำ้ งวิหำรและบรู ณะ วดั ต่ำงๆ เปน็ จำนวนมำก เช่น……….วัดแจ้ง(วัดอรุณรำชวรำรำม)…. นกั เรียนคงจะเข้าใจแล้วนะหรอื ถ้ายังไม่ เข้าใจก็พลิกไปอ่านกรอบที่ 16 ใหม่อีกครัง้ หนงึ่ กไ็ ด้ ถ้าเขา้ ใจแลว้ พลกิ ไปอา่ นกรอบที่ 9 ไดเ้ ลย”””” กรอบท่ี 19 เกือบถูกแล้ว แตใ่ นท่ีนย้ี ังไม่ถูกนะ งงไหมถ้างงอา่ นต่อ กระทรวงยตุ ธิ รรมนน้ั จดั ต้ังขน้ึ เป็นคร้ังแรกในสมยั รชั กาล ท่ี 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยกรงุ ธนบุรนี ัน้ ยงั จดั การปกครองเปน็ แบบจตสุ ดมภ์เหมือนสมัยกรุงศรีอยธุ ยาตอน ปลาย ซ่งึ ยังไมม่ ีกระทรวง ทบวง หรือกรมต่างๆ เช่นปัจจุบัน หรอื แมแ้ ต่ศาลกย็ ังไม่มี เพราะฉะน้ันรปู แบบการ ปกครองสมัยกรุงธนบรุ ยี ังคงมีตาแหน่ง สมหุ นายก สมหุ กลาโหมและมีเสนาบดปี ระจาจตุสดมภ์ตา่ งๆ เชน่ เวยี ง วัง คลงั นา การบริหารงานกจ็ ะบรหิ ารหรอื ส่ังการกันตามลาดับชนั้ ตาแหนง่ อัครมหาเสนาบดสี มุหนายก มีหน้าทด่ี ูแล จตสุ ดมภท์ ้ัง 4 และจตุสดมภ์ทัง้ 4 ก็ทาหนา้ ทีต่ ามท่ีได้รบั มอบหมายมา เช่น คลงั มีหนา้ ท่ี ดูแลหัวเมืองชายทะเลฝงั่ ตะวนั ออกและหวั เมอื งฝ่ายใต้ตามโครงสร้างการบรหิ ารงานส่วนกลาง นักเรยี นคงจะเข้าใจแล้วนะวา่ เพราะเหตุใดข้อทีน่ ักเรียนเลอื กมาเมือ่ กน้ี ้จี ึงผดิ เม่ือเข้าใจแล้วพลิกไปอา่ นกรอบ ท่ี 6 ไดแ้ ล้วหรอื ถ้ายังไม่เข้าใจจะพลิกกลบั ไปอ่านกรอบท่ี 15 ใหมก่ ็ได้ เชิญเลยจะ๊ -12- บทเรียนสำเร็จรูปวิชำประวตั ิศำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3 โรงเรียนทงุ่ มนวทิ ยำคำร
บทเรียนสำเร็จรูปวชิ ำประวตั ิศำสตร์ ส23104 ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 โรงเรียนทงุ่ มนวทิ ยำคำร
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: