Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1

หน่วยที่ 1

Published by ronnarit buachon, 2021-02-09 06:05:33

Description: ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

บทท่ี 1 ความร้พู ืน้ ฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

2 บทท่ี 1 ความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ 1.1 คอมพิวเตอร์ หมายถงึ คอมพิวเตอร์ คอื อปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ สท์ ที่ างานตามชุดคาส่งั อยา่ งอตั โนมัติ โดยจะทาการคานวณ เปรยี บเทยี บ ทางตรรกกับข้อมลู และให้ผลลัพธอ์ อกมาตามต้องการ โดยมนษุ ย์ไมต่ อ้ งเขา้ ไป เกีย่ วข้องในการประมวลผล 1.2 คุณสมบตั ิของคอมพิวเตอร์ ปจั จุบนั นค้ี นส่วนใหญ่นิยมนาคอมพวิ เตอร์มาใช้งานตา่ ง ๆ มากมาย ซ่ึงผใู้ ชส้ ว่ นใหญม่ กั จะคิด วา่ คอมพิวเตอรเ์ ป็นเครอ่ื งมอื ที่สามารถทางานไดส้ ารพัด แต่ผทู้ ี่มคี วามรูท้ างคอมพิวเตอรจ์ ะทราบ ว่า งานทเี่ หมาะกบั การนาคอมพวิ เตอรม์ าใชอ้ ยา่ งย่ิงคอื การสร้าง สารสนเทศ ซึ่งสารสนเทศ เหลา่ นัน้ สามารถนามาพิมพอ์ อกทางเครื่องพมิ พ์ สง่ ผา่ นเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ หรอื จดั เก็บไว้ใชใ้ น อนาคตก็ได้ เนอื่ งจากคอมพวิ เตอร์จะมีคณุ สมบัติตา่ ง ๆ คือ 1.2.1 ความเป็นอตั โนมัติ (Self Acting) การทางานของคอมพิวเตอรจ์ ะทางานแบบ อัตโนมตั ภิ ายใต้คาสง่ั ท่ีไดถ้ ูกกาหนดไว้ ทางานดังกลา่ วจะเรม่ิ ต้งั แตก่ ารนาข้อมลู เข้าส่รู ะบบ การ ประมวลผลและแปลงผลลพั ธ์ออกมาให้อยใู่ นรปู แบบทีม่ นษุ ยเ์ ขา้ ใจได้ 1.2.2 ความเรว็ (Speed) คอมพวิ เตอรใ์ นปจั จบุ นั น้ีสามารถทางานได้ถึงรอ้ ยล้านคาสง่ั ใน หนงึ่ วินาที 1.2.3 ความเชอื่ ถอื (Reliable) คอมพิวเตอรท์ ุกวนั นจี้ ะทางานไดท้ ้ังกลางวันและกลางคืน อยา่ งไมม่ ีขอ้ ผิดพลาด และไมร่ จู้ ักเหน็ดเหนอ่ื ย 1.2.4 ความถูกต้องแมน่ ยา (Accurate) วงจรคอมพิวเตอร์น้นั จะใหผ้ ลของการคานวณท่ี ถกู ต้องเสมอหากผลของการคานวณผิดจากทคี่ วรจะเป็น มกั เกิดจากความผดิ พลาดของโปรแกรม หรอื ข้อมลู ทเี่ ขา้ สโู่ ปรแกรม 1.2.5 เกบ็ ข้อมูลจานวนมาก ๆ ได้ (Store massive amounts of information) ไมโครคอมพวิ เตอร์ในปัจจบุ ัน จะมที ีเ่ ก็บข้อมลู สารองท่ีมคี วามสงู มากกวา่ หนึง่ พันลา้ นตัวอักษร และสาหรับระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่จะสามารถเก็บข้อมลู ไดม้ ากกวา่ หนงึ่ ล้าน ๆ ตวั อักษร

3 1.2.6 ย้ายข้อมูลจากทหี่ น่ึงไปยังอีกทีหนง่ึ ไดอ้ ย่างรวดเรว็ (Move information) โดยใช้ การตดิ ต่อสือ่ สารผ่านระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ซงึ่ สามารถส่งพจนานกุ รมหนง่ึ เล่มในรปู ของ ขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ ไปยงั เครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ อี่ ยไู่ กลคนซีกโลกได้ในเวลาเพยี งไมถ่ งึ หนงึ่ วนิ าที ทาใหม้ ีการเรยี กเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ่ีเช่ือมกนั ทัว่ โลกในปจั จบุ ันวา่ ทางด่วนสารสนเทศ (Information Superhighway) 1.2.7 ทางานซา้ ๆได้ (Repeatability) ช่วยลดปัญหาเรอ่ื งความออ่ นลา้ จากการทางานของ แรงงานคน นอกจากนีย้ งั ลดความผิดพลาดตา่ งๆได้ดีกวา่ ดว้ ย ขอ้ มลู ทป่ี ระมวลผลแมจ้ ะยงุ่ ยากหรือ ซบั ซ้อนเพยี งใดกต็ าม จะสามารถคานวณและหาผลลพั ธไ์ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ 1.3 ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ จาแนกหนา้ ท่ขี องฮาร์ดแวร์ต่างๆ สามารถแบง่ เป็นสว่ นสาคญั 4 ประเภท คอื อุปกรณน์ า ข้อมลู เขา้ (Input Device) อปุ กรณป์ ระมวลผล (Processing Device) หนว่ ยเกบ็ ขอ้ มลู สารอง (Secondary Storage Device) อุปกรณแ์ สดงผล (Output Device) รูปที่ 1 แสดงวงจรการทางานของคอมพิวเตอร์ 1.3.1 อปุ กรณน์ าข้อมูลเขา้ (Input Device)

4 รปู ท่ี 2 อปุ กรณ์นาเขา้ แบบต่างๆ ทพี่ บเห็นในปัจจบุ ัน เปน็ อปุ กรณท์ ่ีเก่ียวข้องกับการนาเข้าขอ้ มลู หรอื ชุดคาสง่ั เข้ามายังระบบเพ่ือให้คอมพิวเตอรป์ ระมวลผลตอ่ ไป ได้ ซ่ึงอาจจะเปน็ ตัวเลข ตัวอกั ษร ภาพนง่ิ ภาพเคลื่อนไหว เสียง เปน็ ตน้ 1.3.2 อปุ กรณ์ประมวลผล (Processing Device) อุปกรณป์ ระมวลผลหลักๆ มีดงั นี้ 1.3.2.1 ซีพียู (CPU-Central Processing Unit) หนว่ ยประมวลผลกลางหรือซีพียู เรยี กอีก ชอื่ หนึง่ วา่ โปรเซสเซอร์ (Processor) หรอื ชปิ (Chip) นับเป็นอุปกรณท์ ม่ี ีความสาคัญมากที่สดุ ของฮารด์ แวร์ เพราะมี หนา้ ท่ีในการประมวลผลขอ้ มลู ทีผ่ ูใ้ ชป้ ้อนเขา้ มาทางอุปกรณน์ าเขา้ ข้อมลู ตามชุดคาสงั่ หรอื โปรแกรมทผี่ ใู้ ช้ ตอ้ งการใชง้ าน หน่วยประมวลผลกลาง 1.3.2.2 หนว่ ยความจาหลกั (Main Memory) หรอื เรียกว่า หน่วยความจาภายใน (Internal Memory) สามารถแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ - รอม (Read Only Memory - ROM) เป็นหนว่ ยความจาที่มีโปรแกรมหรือข้อมูลอยู่แล้ว สามารถ เรยี กออกมาใช้งานได้แต่จะไมส่ ามารถเขยี นเพม่ิ เติมได้ และแมว้ ่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าไปเล้ียงให้แกร่ ะบบข้อมลู กไ็ มส่ ูญหายไป - แรม (Random Access Memory) เปน็ หนว่ ยความจาทส่ี ามารถเกบ็ ข้อมูลไดเ้ ม่ือมกี ระแสไฟฟ้า หล่อเล้ยี งเท่านน้ั เมื่อใดไม่มีกระแสไฟฟา้ มาเลี้ยงขอ้ มูลทอ่ี ยู่ในหน่วยความจาชนิดนจี้ ะหายไปทันที 1.3.2.3 เมนบอร์ด (Main board) เป็นแผงวงจรต่อเชอื่ มอปุ กรณ์ที่เกย่ี วข้องกบั การทางานของคอมพิวเตอร์ ท้ังหมด ถือไดว้ ่าเป็นหัวใจหลกั ของ พีซีทกุ เครอื่ ง เพราะจะบอกความสามารถของเครื่องว่าจะใชซ้ ีพยี อู ะไรได้ บา้ ง มีประสทิ ธิภาพเพียงใด สามารถรองรับกับอุปกรณ์ใหมไ่ ด้หรอื ไม่

5 รูปท่ี 3 เมนบอรด์ หรือแผงวงจรหลัก 1.3.2.4 ซปิ เซ็ต (Chip Set) ซิปเซ็ตเป็นชปิ จานวนหนึ่งหรือหลายตัวทบี่ รรจุวงจรสาคญั ๆ ที่ ชว่ ยการทางานของซีพียู และตดิ ตงั้ ตายตัวบนเมนบอรด์ ถอดเปลย่ี นไมไ่ ด้ ทาหน้าท่เี ปน็ ตัวกลางประสานงาน และควบคมุ การทางานของหนว่ ยความจารวมถึงอุปกรณ์ตอ่ พว่ งตา่ งทั้งแบบภายในหรือภายนอกทกุ ชนิดตาม คาสง่ั ของซีพยี ู เช่น SiS, Intel, VIA, AMD เป็นต้น 1.3.3 หน่วยเก็บขอ้ มลู สารอง (Secondary Storage Device) เนอื่ งจากหนว่ ยความจาหลักมพี น้ื ท่ีไมเ่ พยี งพอในการเก็บขอ้ มลู จานวนมากๆ อีกทงั้ ข้อมูลจะหายไปเมือ่ ปิด เครอื่ ง ดังนัน้ จาเป็นต้องหาอปุ กรณ์เก็บขอ้ มลู ทมี่ ขี นาดใหญ่ข้นึ เช่น 1.3.3.1 ฮาร์ดดสิ ก์ (Hard Disk) เปน็ ฮาร์ดแวร์ท่ีทาหน้าที่เก็บข้อมูลในเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ทั้งโปรแกรมใช้งานตา่ งๆ ไฟลเ์ อกสาร รวมท้ังเปน็ ท่ีเกบ็ ระบบปฏิบัตกิ ารที่เปน็ โปรแกรมควบคุมการทางานของ เครื่องคอมพวิ เตอร์ด้วย 1.3.3.2 ฟลอ็ บปี้ดิสก์ (Floppy Disk) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมลู ทม่ี ีขนาด 3.5 นว้ิ มีลักษณะ เป็นแผ่นกลมบางทาจากไมลาร์ (Mylar) สามารถบรรจขุ ้อมูลไดเ้ พยี ง 1.44 เมกะไบต์ เทา่ นั้น ี 1.3.3.3 ซดี ี (Compact Disk - CD) เปน็ อปุ กรณ์บนั ทึกข้อมลู แบบดจิ ทิ ลั เป็นสื่อที่มขี นาด ความจุสงู เหมาะสาหรบั บันทกึ ข้อมูลแบบมลั ตมิ ีเดีย ซีดีรอมทามาจากแผน่ พลาสติกกลมบางที่เคลือบด้วยสาร โพลคี ารบ์ อเนต (Poly Carbonate) ทาให้ผวิ หนา้ เป็นมนั สะท้อนแสง โดยมกี ารบันทึกข้อมลู เปน็ สายเดียว (Single Track) มีขนาดเส้นผ่าศนู ยก์ ลางประมาณ 120 มิลลิเมตร ปจั จุบนั มซี ดี อี ยูห่ ลายประเภท ได้แก่ ซดี ี เพลง (Audio CD) วีซดี ี (Video CD - VCD) ซีด-ี อาร์ (CD Recordable - CD-R) ซีด-ี อารด์ บั บลิว (CD- Rewritable - CD-RW) และ ดีวีดี (Digital Video Disk - DVD) สอ่ื เก็บขอ้ มูลอน่ื ๆ 1) รมี ูฟเอเบลิ ไดร์ฟ (Removable Drive) เป็นอุปกรณเ์ ก็บข้อมลู ที่ไมต่ ้องมีตัวขับเคลือ่ น (Drive) สามารถพกพาไปไหนได้โดยตอ่ เขา้ กบั เคร่ืองคอมพิวเตอรด์ ว้ ย Port USB ปัจจุบนั ความจุของรีมฟู เอเบลิ ไดรฟ์ มีตง้ั แต่ 8 , 16 , 32 , 64 , 128 จนถึง 1024 เมกะไบต์ ท้ังนยี้ งั มไี ดรฟ์ ลกั ษณะเดียวกัน เรียกในชอื่ อนื่ ๆ ไดแ้ ก่ Pen Drive , Thump Drive , Flash Drive 2) ซิบไดร์ฟ (Zip Drive) เปน็ สือ่ บันทกึ ขอ้ มูลที่จะมาแทนแผน่ ฟล็อปป้ีดิสก์ มขี นาดความจุ 100 เม กะไบต์ ซึ่งการใช้งานซปิ ไดรฟ์ จะต้องใช้งานกับซปิ ดสิ ก์ (Zip Disk) ความสามารถในการเกบ็ ข้อมูลของซปิ ดิสกจ์ ะเก็บ ขอ้ มลู ได้มากกว่าฟล็อปป้ดี ิสก์ 3) Magnetic optical Disk Drive เป็นสื่อเกบ็ ขอ้ มูลขนาด 3.5 นวิ้ ซ่งึ มีขนาดพอๆ กบั ฟล็อบป้ีดสิ ก์ แต่ขนาดความจมุ ากกวา่ เพราะวา่ MO Disk drive 1 แผน่ สามารถบนั ทึกข้อมูลได้ต้งั แต่ 128 เมกะไบต์ จนถึงระดับ 5.2 กกิ ะไบต์

6 4) เทปแบ็คอพั (Tape Backup) เปน็ อุปกรณส์ าหรบั การสารองข้อมลู ซึง่ เหมาะกบั การสารอง ข้อมูลขนาดใหญ่มากๆ ขนาดระดับ 10-100 กิกะไบต์ 5) การ์ดเมมโมรี (Memory Card) เปน็ อุปกรณ์บันทกึ ข้อมลู ที่มขี นาดเล็ก พัฒนาขน้ึ เพอ่ื นาไปใช้ กับอุปกรณ์เทคโนโลยีแบบต่างๆ เช่น กลอ้ งดจิ ิทัล คอมพวิ เตอรม์ ือถือ (Personal Data Assistant - PDA) โทรศัพท์มือถือ 1.3.4 อปุ กรณ์แสดงผล (Output Device) คืออปุ กรณ์สาหรับแสดงผลลัพธท์ ่ีไดจ้ ากการประมวลผลของคอมพวิ เตอร์ และเป็นอปุ กรณ์สง่ ออก (Output device) ทาหน้าทแี่ สดงผลลัพธเ์ มื่อซีพียูทาการประมวลผล รปู ที่ 4 แสดงอุปกรณแ์ สดงผลข้อมลู แบบต่างๆ 1.3.4.1 จอภาพ (Monitor) เป็นอปุ กรณแ์ สดงผลลัพธ์ทีเ่ ปน็ ภาพ ปัจจุบันแบ่งออกเปน็ 2 ชนิด คอื จอภาพแบบ CRT (Cathode Ray Tube) และ จอภาพแบบ LCD (Liquid Crystal Display) 1.3.4.2 เครื่องพมิ พ์ (Printer) เป็นอปุ กรณ์ทท่ี าหนา้ ทแี่ สดงผลลัพธ์ในรูปของอักขระหรือรูปภาพ ทจี่ ะไปปรากฏอยบู่ นกระดาษ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ไดแ้ ก่ เคร่ืองพิมพ์ดอตเมตริกซ์ (Dot Matrix Printer) เคร่อื งพิมพ์แบบพน่ หมกึ (Ink-Jet Printer) เครอ่ื งพิมพแ์ บบเลเซอร์ (Laser Printer) และพลอ็ ตสเตอร์ (Plotter) 1.3.4.3 ลาโพง (Speaker) เปน็ อปุ กรณแ์ สดงผลลัพธท์ ีอ่ ยู่ในรูปของเสียง สามารถเชื่อมตอ่ กบั คอมพิวเตอร์ผ่านแผงวงจรเกี่ยวกับเสยี ง (Sound card) ซ่งึ มหี น้าทีแ่ ปลงข้อมูลดิจติ อลไปเป็นเสียง 1.4 ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ จากการท่คี อมพวิ เตอรม์ ีลักษณะเดน่ หลายประการ ทาให้ถูกนามาใชป้ ระโยชนต์ ่อการดาเนินชีวิตประจาวันใน สงั คมเป็นอย่างมาก ท่ีพบเห็นไดบ้ ่อยท่สี ุดกค็ อื การใชใ้ นการพิมพ์เอกสารต่างๆ เช่น พิมพ์จดหมาย รายงาน เอกสารต่างๆ ซ่ึงเรยี กวา่ งานประมวลผล (Word processing) นอกจากนย้ี งั มีการประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอร์ใน ด้านตา่ งๆ อกี หลายด้าน ดงั ต่อไปนี้

7 1.4.1 งานธุรกิจ เช่น บริษัท ร้านค้า ห้างสรรพสนิ ค้า ตลอดจนโรงงานตา่ งๆ ใชค้ อมพิวเตอร์ในการทา บัญชี งานประมวลคา และติดต่อกับหน่วยงานภายนอกผ่านระบบโทรคมนาคม นอกจากนี้งานอุตสาหกรรม สว่ นใหญ่ก็ใช้คอมพวิ เตอร์มาช่วยในการควบคุมการผลิต และการประกอบช้ินส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ ซึ่งทาใหก้ ารผลติ มคี ุณภาพดีข้ึนบริษทั ยงั สามารถรบั หรอื งานธนาคาร ท่ีให้บริการ ถอนเงินผ่านตฝู้ ากถอนเงินอตั โนมตั ิ (ATM) และใช้คอมพิวเตอรค์ ิดดอกเบี้ยให้กบั ผฝู้ ากเงิน และการโอนเงินระหวา่ งบญั ชี เช่ือมโยงกันเป็นระบบ เครือขา่ ย 1.4.2 งานวทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสุข สามารถนาคอมพิวเตอร์มาใช้ในนามาใช้ใน ส่วนของการคานวณทคี่ อ่ นขา้ งซบั ซ้อน เชน่ งานศกึ ษาโมเลกุลสารเคมี วิถกี ารโคจรของการสง่ จรวดไปสู่ อวกาศ หรืองานทะเบียน การเงนิ สถติ ิ และเปน็ อปุ กรณ์สาหรับการตรวจรักษาโรคได้ ซ่งึ จะใหผ้ ลทแ่ี ม่นยา กวา่ การตรวจด้วยวธิ ีเคมีแบบเดมิ และใหก้ ารรักษาได้รวดเรว็ ขึน้ 1.4.3 งานคมนาคมและส่อื สาร ในส่วนท่ีเกยี่ วกบั การเดนิ ทาง จะใชค้ อมพวิ เตอร์ในการจองวันเวลา ที่นงั่ ซึ่งมกี ารเช่อื มโยงไปยังทุกสถานีหรอื ทกุ สายการบนิ ได้ ทาให้สะดวกตอ่ ผเู้ ดินทางท่ไี มต่ ้องเสียเวลารอ อีก ท้ังยงั ใช้ในการควบคุมระบบการจราจร เช่น ไฟสญั ญาณจราจร และ การจราจรทางอากาศ หรือในการสื่อสาร ก็ใชค้ วบคมุ วงโคจรของดาวเทยี มเพอ่ื ให้อยู่ในวงโคจร ซ่ึงจะชว่ ยสง่ ผลตอ่ การสง่ สญั ญาณให้ระบบการสอื่ สารมี ความชดั เจน 1.4.4 งานวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม สถาปนกิ และวศิ วกรสามารถใชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการออกแบบ หรือ จาลองสภาวการณ์ ต่างๆ เชน่ การรับแรงสนั่ สะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผน่ ดนิ ไหว โดยคอมพิวเตอร์จะ คานวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกลเ้ คียงความจริง รวมท้งั การใช้ควบคมุ และตดิ ตามความก้าวหนา้ ของ โครงการตา่ งๆ เช่น คนงาน เครอ่ื งมอื ผลการทางาน 1.4.5 งานราชการ เป็นหนว่ ยงานที่มกี ารใช้คอมพิวเตอร์มากทสี่ ดุ โดยมีการใช้หลายรปู แบบ ทั้งนี้ ขน้ึ อยูก่ บั บทบาทและหนา้ ทีข่ องหนว่ ยงานน้นั ๆ เช่น กระทรวงศึกษาธกิ าร มีการใชร้ ะบบประชมุ ทางไกลผ่าน คอมพวิ เตอร์ , กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไดจ้ ดั ระบบเครอื ข่ายอินเทอรเ์ นต็ เพ่ือเชอื่ มโยงไปยงั สถาบันต่างๆ, กรมสรรพากร ใชจ้ ัดในการจัดเก็บภาษี บนั ทึกการเสียภาษี เปน็ ตน้ 1.4.6 การศกึ ษา ไดแ้ ก่ การใช้คอมพิวเตอรท์ างด้านการเรียนการสอน ซึ่งมีการนาคอมพวิ เตอรม์ าช่วยการ สอนในลกั ษณะบทเรียน CAI หรอื งานด้านทะเบียน ซง่ึ ทาใหส้ ะดวกต่อการค้นหาข้อมูลนักเรียน การเก็บ ขอ้ มลู ยืมและการสง่ คนื หนงั สอื หอ้ งสมดุ 1.5 ประเภทของคอมพวิ เตอร์ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ แบง่ ออกเป็นหลายประเภท ข้ึนอยูก่ บั เกณฑ์ท่ีใชใ้ นการแบ่ง

8 เกณฑ์ท่ใี ชจ้ าแนก ประเภทคอมพิวเตอร์ ตามลกั ษณะการใชง้ าน - แบบใชง้ านท่วั ไป (General purpose ตามขนาดและความสามารถ computer) - แบบใชง้ านเฉพาะ (Special purpose computer) - ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ (Supercomputer) - เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe computer) - มินคิ อมพิวเตอร์ (Minicomputer) - ไมโครคอมพวิ เตอร์ (Microcomputer) - คอมพวิ เตอร์มือถอื (Handheld computer) 1.5.1 ตามลักษณะการใช้งาน 1.5.1.1 แบบใช้งานทว่ั ไป (General Purpose Computer) หมายถึง เครอ่ื งประมวลผลขอ้ มูลท่ีมคี วามยืดหยุ่นในการทางาน (Flexible) โดยไดร้ บั การออกแบบให้ สามารถประยกุ ต์ใช้ในงานประเภทต่างๆ ได้โดยสะดวก โดยระบบจะทางานตามคาส่ังในโปรแกรมท่ีเขยี น ขึน้ มา และเมือ่ ผู้ใช้ตอ้ งการให้เคร่อื งคอมพิวเตอร์ทางานอะไร กเ็ พียงแตอ่ อกคาสั่งเรียกโปรแกรมทเี่ หมาะสม เขา้ มาใชง้ าน โดยเราสามารถเก็บโปรแกรมไว้หลายโปรแกรมในเครอื่ งเดยี วกันได้ เชน่ ในขณะหนึง่ เราอาจใช้ เครื่องน้ีในงานประมวลผลเกี่ยวกบั ระบบบญั ชี และในขณะหน่ึงกส็ ามารถใชใ้ นการออกเชค็ เงนิ เดอื นได้ เป็น ตน้ 1.5.1.2 แบบใช้งานเฉพาะดา้ น (Special Purpose Computer) หมายถึง เคร่อื งประมวลผลขอ้ มูลทถ่ี ูกออกแบบตวั เคร่ืองและโปรแกรมควบคุม ให้ทางานอย่างใด อยา่ งหนึ่งเป็นการเฉพาะ (Inflexible) โดยท่ัวไปมกั ใช้ในงานควบคุม หรืองานอุตสาหกรรมท่ีเน้นการ ประมวลผลแบบรวดเรว็ เช่นเคร่ืองคอมพวิ เตอรค์ วบคมุ สญั ญาณไฟจราจร คอมพวิ เตอรค์ วบคุมลฟิ ต์ หรือ คอมพวิ เตอร์ควบคมุ ระบบอตั โนมัตใิ นรถยนต์ เปน็ ต้น 1.5.2 ตามขนาดและความสามารถ เป็นการจาแนกประเภทของคอมพิวเตอร์ท่ีพบเหน็ ไดม้ ากที่สุดในปัจจุบนั ซง่ึ สามารถแบ่งออกได้ดงั น้ี 1.5.2.1 ซปุ เปอรค์ อมพิวเตอร์ (Super Computer) หมายถึง เครื่องประมวลผลขอ้ มลู ทีม่ คี วามสามารถในการประมวลผลสูงทสี่ ดุ โดยท่ัวไปสร้างข้นึ เปน็ การเฉพาะเพ่อื งานด้านวิทยาศาสตร์ทตี่ ้องการการประมวลผลซบั ซอ้ น และตอ้ งการความเรว็ สูง เชน่ งานวิจัย ขีปนาวธุ งานโครงการอวกาศสหรัฐ (NASA) งานสอ่ื สารดาวเทียม หรอื งานพยากรณ์อากาศ เปน็ ต้น

9 1.5.2.2 เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe computer) เมนเฟรมคอมพิวเตอร์เปน็ เครอ่ื งคอมพิวเตอรข์ นาดใหญ่ ทางานร่วมกบั อุปกรณ์หลายๆ อยา่ งดว้ ย ความเร็วสงู ใช้ในงานธุรกิจขนาดใหญ่ มหาวิทยาลัยธนาคารและโรงพยาบาลเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ สามารถ เกบ็ ขอ้ มูลทม่ี ปี ริมาณมาก ๆ เชน่ ในการสัง่ จองทน่ี งั่ ของสายการบนิ ที่บรษิ ทั ทวั ร์รบั จองในแต่ละวัน นอกจากนี้ ยงั สามารถเชือ่ มโยงใชง้ านกบั เครือ่ งเทอร์มนิ ลั (Terminal) หลาย ๆ เครือ่ ง ในระยะทางไกลกันได้ เช่น ระบบ เอท่เี อม็ (ATM) การประมวลผลข้อมูลของระบบเมนเฟรมนี้มผี ู้ใช้หลาย ๆ คนในเวลาเดียวกัน (Multi-user) สามารถประมวลผลโดยแบ่งเวลาการใชซ้ ีพยี ู (CPU) โดยผา่ นเครอ่ื งเทอร์มนิ ลั การประมวลผลแบบแบง่ เวลานี้ เรียกว่า Time sharing 1.5.2.3 มนิ ิคอมพิวเตอร์ (Mini Computer) ธุรกจิ และหน่วยงานทม่ี ขี นาดเลก็ ไม่จาเปน็ ตอ้ งใช้คอมพิวเตอร์ขนาดเมนเฟรมซึง่ มีราคาแพง ผผู้ ลิตคอมพวิ เตอรจ์ งึ พฒั นาคอมพิวเตอร์ให้มีขนาดเล็กและมีราคาถูกลง เรียกวา่ เครือ่ งมินคิ อมพวิ เตอร์ โดย มีลักษณะพิเศษในการทางานรว่ มกบั อุปกรณ์ประกอบรอบขา้ งท่มี ีความเร็วสูงได้ มีการใชแ้ ผน่ จานแมเ่ หล็ก ความจุสูงชนิดแขง็ (Harddisk) ในการเก็บรกั ษาข้อมูล สามารถอ่านเขียนขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว หนว่ ยงาน และบริษัททใ่ี ช้คอมพิวเตอรข์ นาดน้ี ไดแ้ ก่ กรม กอง มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล และ โรงงานอุตสาหกรรมตา่ งๆ 1.5.2.4 ไมโครคอมพวิ เตอร์ (Microcomputer) เปน็ เครอื่ งคอมพิวเตอร์ทม่ี ีขนาดเล็กที่สดุ ราคาถูกทสี่ ุด ใช้งานง่าย และนิยมมากทส่ี ดุ ราคาของเคร่อื ง ไมโครคอมพวิ เตอรจ์ ะอยู่ในช่วงประมาณหมืน่ กวา่ ถึง แสนกว่าบาท ในวงการธุรกจิ ใชไ้ มโครคอมพวิ เตอร์กบั งานทกุ ๆ อย่าง ไมโครคอมพวิ เตอร์มขี นาดเล็กพอที่จะตั้งบนโตะ๊ (Desktop) หรอื ใสล่ งในกระเป๋าเอกสาร เช่น คอมพิวเตอร์วางบนตกั (Lap top) หรือโน้ตบุก๊ (Note book) ไมโครคอมพิวเตอรส์ ามารถทางานใน ลกั ษณะประมวลผลได้ดว้ ยตนเอง โดยไมต่ ้องเชือ่ มโยงกบั คอมพิวเตอร์เครอื่ งอ่ืนเรยี กว่าระบบแสตนอโลน (Standalone system)มีไว้สาหรบั ใช้งานส่วนตัวจึงเรียกเคร่อื งไมโครคอมพิวเตอร์ได้อกี ช่อื หน่งึ ว่า คอมพิวเตอรส์ ่วนบคุ คลหรือเครื่องพีซี (PC:Personal Computer) และสามารถนาเครอื่ งไมโครคอมพวิ เตอร์ มาเชื่อมตอ่ กับเคร่อื งไมโครคอมพวิ เตอร์เครอ่ื งอื่น ๆ หรือเชอื่ มต่อกบั เคร่ืองเมนเฟรม เพือ่ ขยายประสทิ ธิภาพ เพ่มิ ขนึ้ ทาให้เครอ่ื งไมโครคอมพิวเตอรเ์ ปน็ ทีน่ ิยมใช้กันแพร่หลายอย่างรวดเร็ว 1.5.2.5 คอมพิวเตอร์มือถอื (Handheld Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ท่มี ขี นาดเลก็ ทีส่ ดุ เมอ่ื เทียบกบั คอมพิวเตอรป์ ระเภทอน่ื ๆ อกี ทง้ั สามารถพกพาไปยังที่ ตา่ งๆ ได้งา่ ยกว่า เหมาะกับการจัดการข้อมูลประจาวนั การสรา้ งปฏิทนิ นดั หมาย การดหู นังฟังเพลงรวมถึง การรบั สง่ อีเมล์ บางรุ่นอาจมคี วามสามารถเทยี บเคยี งได้กบั ไมโครคอมพิวเตอร์ เช่น ปาลม์ พอ็ กเก็ตพีซี เป็น ตน้ นอกจากน้ีโทรศัพท์มอื ถือบางรุ่นก็มีความสามารถใกล้เคยี งกับคอมพิวเตอร์มือถอื ในกลุ่มนใ้ี นแงข่ องการรัน โปรแกรมจัดการกับขอ้ มลู ทวั่ ไปโดยใช้ระบบปฏิบตั ิการ Symbian หรือไม่ก็ Linux

10 1.6 องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ เคร่อื งคอมพิวเตอร์ท่ีเราเห็นๆ กันอยู่น้เี ป็นเพยี งองค์ประกอบส่วนหน่ึงของระบบคอมพิวเตอรเ์ ท่านัน้ แต่ถ้าต้องการใหเ้ คร่อื งคอมพิวเตอร์แตล่ ะเครอ่ื งสามารถทางานได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพตามท่ีเราต้องการนัน้ จาเป็นตอ้ งอาศัยองค์ประกอบพื้นฐาน 4 ประการมาทางานรว่ มกัน ซึ่งองคป์ ระกอบพนื้ ฐานของระบบ คอมพิวเตอรป์ ระกอบไปด้วย ฮารด์ แวร์ (Hardware) ซอฟตแ์ วร์ (Software) บุคลากร (People ware) ข้อมูล / สารสนเทศ (Data/Information) 1.6.1 ฮารด์ แวร์ (Hardware) หมายถงึ อปุ กรณ์ตา่ งๆ ท่ีประกอบข้ึนเป็นเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ มลี กั ษณะเป็นโครงรา่ งสามารถมองเหน็ ด้วยตาและสัมผัสได้ (รปู ธรรม) เช่น จอภาพ คยี บ์ อร์ด เครือ่ งพิมพ์ เมาส์ เปน็ ตน้ ซ่ึงสามารถแบ่งออกเปน็ สว่ น ตา่ งๆ ตามลักษณะการทางาน ได้ 4 หน่วย คอื หน่วยรบั ข้อมลู (Input Unit) หนว่ ยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) หนว่ ยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเกบ็ ขอ้ มลู สารอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณแ์ ต่ละหน่วยมหี นา้ ที่การทางานแตกต่างกัน 1.6.2 ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง ส่วนท่มี นุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรอื ชุดคาส่ังท่ถี กู เขยี นขนึ้ เพื่อสัง่ ให้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ทางาน ซอฟตแ์ วร์จึงเป็นเหมือนตวั เชอ่ื มระหว่างผู้ใช้เคร่ืองคอมพวิ เตอร์และเครือ่ ง คอมพิวเตอร์ ถา้ ไม่มีซอฟตแ์ วร์เรากไ็ มส่ ามารถใช้เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ทาอะไรไดเ้ ลย ซอฟตแ์ วรส์ าหรับเคร่ือง คอมพิวเตอร์สามารถแบ่งได้ ดงั น้ี 1.6.2.1 ซอฟต์แวร์สาหรับระบบ (System Software) คอื ชดุ ของคาสัง่ ที่เขยี นไว้เปน็ คาส่งั สาเร็จรปู ซงึ่ จะทางานใกล้ชดิ กบั คอมพิวเตอรม์ ากที่สุด เพือ่ คอยควบคุมการทางานของฮาร์ดแวร์ทกุ อย่าง และอานวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการใช้งาน ซอฟต์แวรห์ รอื โปรแกรมระบบทร่ี ู้จักกันดีกค็ ือ DOS, Windows, UNIX, Linux รวมท้ังโปรแกรมแปลคาสั่งท่เี ขียนในภาษาระดบั สงู เช่น ภาษา Basic, FORTRAN, Pascal, COBOL, C เปน็ ตน้ นอกจากน้ีโปรแกรมท่ใี ชใ้ นการตรวจสอบระบบเช่น Norton’s Utilities ก็ นบั เปน็ โปรแกรมสาหรับระบบดว้ ยเช่นกัน 1.6.2.2 ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ (Application Software) คอื ซอฟต์แวร์หรอื โปรแกรมท่ีสง่ั คอมพิวเตอรท์ างานต่างๆ ตามทีผ่ ใู้ ช้ตอ้ งการ ไม่ว่าจะดา้ นเอกสาร บัญชี การจัดเกบ็ ข้อมลู เป็นต้น ซอฟต์แวร์ ประยกุ ตส์ ามารถจาแนกได้เปน็ 2 ประเภท คอื - ซอฟต์แวร์สาหรบั งานเฉพาะดา้ น คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขน้ึ เพือ่ การทางานเฉพาะอยา่ งท่ีเรา ตอ้ งการ บางที่เรยี กว่า User’s Program เชน่ โปรแกรมการทาบัญชีจา่ ยเงินเดือน โปรแกรมระบบเช่าซื้อ โปรแกรมการทาสินคา้ คงคลัง เป็นตน้ ซึง่ แต่ละโปรแกรมกม็ ักจะมเี ง่อื นไข หรอื แบบฟอรม์ แตกต่างกนั ออกไป ตามความต้องการ หรอื กฎเกณฑ์ของแต่ละหนว่ ยงานท่ใี ช้ ซ่งึ สามารถดดั แปลงแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (Modifications)

11 ในบางส่วนของโปรแกรมได้ เพื่อใหต้ รงกับความต้องการของผู้ใช้ และซอฟต์แวร์ประยุกตท์ ีเ่ ขยี นข้ึนนโ้ี ดยส่วน ใหญ่มกั ใชภ้ าษาระดบั สูงเป็นตวั พัฒนา - ซอฟต์แวรส์ าหรับงานท่ัวไป เป็นโปรแกรมประยกุ ต์ทมี่ ีผู้จดั ทาไว้ เพอ่ื ใช้ในการทางาน ประเภทตา่ งๆ ท่วั ไป โดยผู้ใช้คนอ่นื ๆ สามารถนาโปรแกรมนไี้ ปประยุกต์ใชก้ บั ข้อมูลของตนได้ แตจ่ ะไม่ สามารถทาการดดั แปลง หรอื แกไ้ ขโปรแกรมได้ ผใู้ ชไ้ ม่จาเปน็ ตอ้ งเขยี นโปรแกรมเอง ซ่ึงเปน็ การประหยดั เวลา แรงงาน และคา่ ใช้จา่ ยในการเขยี นโปรแกรม นอกจากน้ี ยังไมต่ อ้ งใชเ้ วลามากในการฝกึ และปฏิบัติ ซ่งึ โปรแกรมสาเรจ็ รูปน้ี มักจะมีการใช้งานในหน่วยงานท่ขี าดบคุ ลากรทมี่ คี วามชานาญเปน็ พเิ ศษในการเขียน โปรแกรม ดงั นัน้ การใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู จงึ เป็นสง่ิ ที่อานวยความสะดวกและเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งยิ่ง ตวั อย่าง โปรแกรมสาเร็จรูปทีน่ ิยมใชไ้ ด้แก่ MS-Office, Lotus, Adobe Photoshop, SPSS, Internet Explorer และ เกมส์ตา่ งๆ เป็นตน้ 1.6.3 บคุ ลากร (People ware) หมายถงึ บุคลากรในงานด้านคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงมีความรเู้ กี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ สามารถใชง้ าน สงั่ งาน เพอ่ื ให้คอมพิวเตอร์ทางานตามที่ตอ้ งการ แบ่งออกได้ 4 ระดบั ดังนี้ 1.6.3.1 ผจู้ ดั การระบบ (System Manager) คอื ผวู้ างนโยบายการใชค้ อมพิวเตอร์ให้ เป็นไปตามเป้าหมายของหนว่ ยงาน 1.6.3.2 นกั วิเคราะหร์ ะบบ (System Analyst) คือ ผทู้ ศี่ กึ ษาระบบงานเดิมหรืองานใหมแ่ ละทาการ วิเคราะหค์ วามเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใชค้ อมพวิ เตอรก์ ับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เปน็ ผู้เขียน โปรแกรมให้กบั ระบบงาน 1.6.3.3 โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือ ผูเ้ ขยี นโปรแกรมส่ังงานเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ เพื่อให้ทางานตามความตอ้ งการของผูใ้ ช้ โดยเขียนตามแผนผังท่นี กั วเิ คราะห์ระบบไดเ้ ขียนไว้ 1.6.3.4 ผูใ้ ช้ (User) คือ ผใู้ ชง้ านคอมพิวเตอร์ท่ัวไป ซงึ่ ตอ้ งเรยี นรูว้ ิธกี ารใชเ้ ครอื่ ง และวิธีการใชง้ าน โปรแกรม เพ่อื ใหโ้ ปรแกรมท่ีมอี ยู่สามารถทางานไดต้ ามทีต่ อ้ งการ เนอื่ งจากเป็นผู้กาหนดโปรแกรมและใช้งานเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ มนุษยจ์ ึงเปน็ ตวั แปรสาคญั ในอันทจ่ี ะทาให้ ผลลัพธม์ คี วามน่าเชื่อถอื เนอ่ื งจากคาสัง่ และขอ้ มูลที่ใช้ในการประมวลผลไดร้ บั จากการกาหนดของมนษุ ย์ (People ware) ทง้ั ส้นิ 1.6.4 ข้อมลู /สารสนเทศ (Data/Information) ขอ้ มูล (Data) เปน็ องคป์ ระกอบท่สี าคัญอย่างหนึ่ง การทางานของคอมพวิ เตอร์จะเกี่ยวขอ้ งกับขอ้ มูล ตัง้ แต่การนาขอ้ มูลเข้าจนกลายเป็นขอ้ มูลท่สี ามารถใช้ประโยชนต์ ่อได้หรอื ทีเ่ รียกวา่ สารสนเทศ (Information) ซึง่ ขอ้ มูลเหลา่ นอ้ี าจจะเปน็ ได้ท้ังตวั เลข ตัวอักษร และข้อมูลในรูปแบบอื่นๆ เช่น ภาพ เสียง เป็นต้น

12 ข้อมลู ทจี่ ะนามาใช้กบั คอมพิวเตอร์ไดน้ ัน้ โดยปกติจะตอ้ งมกี ารแปลงรปู แบบหรือสถานะให้ คอมพวิ เตอร์เข้าใจก่อน จึงจะสามารถเอามาใช้งานในการประมวลผลต่างๆ ไดเ้ ราเรยี กสถานะนี้ว่า สถานะ แบบดิจติ อล ซ่ึงมี 2 สถานะเทา่ น้ัน คอื เปิด(1) และ ปิด(0) ขอ้ สอบ 10 1. ซอฟตแ์ วร์ คือ ก. โปรแกรมชดุ ของคาสง่ั ทค่ี วบคุมการทางานของคอมพวิ เตอร์ ข. อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีระดับสงู ค. โปรแกรมแก้ปญั หาทุกอย่างของมนุษย์ ง. อปุ กรณ์ท่ีทาหน้าเสมอื นสมองกล 2. ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบตั ิการ ก. ระบบปฏบิ ัตกิ ารดอส ข. ระบบปฏบิ ัตกิ ารไมโครซอฟท์เวริ ด์ ค. ระบบปฏบิ ัติการไมโครซอฟตว์ ินโดวส์ ง. ระบบปฏิบตั ิการ แอนดรอยด์ 3. ชนิดของซอฟตแ์ วร์ (software) มที งั้ หมดกีช่ นดิ ก. มี 1 ชนดิ 1.ซอฟต์แวรร์ ะบบ ข. มี 2 ชนิด 1.ซอฟต์แวรร์ ะบบ 2.ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ ค. มี 3 ชนิด 1.ซอฟต์แวรร์ ะบบ 2.ซอฟต์แวร์ ประยุกต์ 3.ซอฟตแ์ วร์บุคคล ง. มี 4 ชนิด 1.ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ 2.ซอฟต์แวรป์ ระยุกต์ 3.ซอฟต์แวรบ์ ุคคล 4. ซอฟตแ์ วร์ บริหาร 4. ซอฟตแ์ วร์ประมวลคา คือข้อใด ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. presentation software 5. ซอฟตแ์ วร์ตารางทางาน ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. presentation software

13 6. ซอฟตแ์ วร์จดั การฐานขอ้ มูล ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. presentation software 7. ซอฟตแ์ วร์นาเสนอ ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. presentation software 8. ซอฟต์แวร์ส่อื สาร ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. communication software 9. ซอฟต์แวรน์ าเสนอ คอื ขอ้ ใด ก. Microsoft Excel ข. Microsoft Access ค. Microsoft Outlook ง. Microsoft PowerPoint 10. โปรแกรมวนิ โดวส์ เป็นซอฟต์แวร์ประเภทใด ก. ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ ข. ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ ค. ซอฟต์แวร์สาเร็จ ง. ซอฟตแ์ วรท์ ่พี ัฒนาขน้ึ ใช้งานเฉพาะ เฉลย

14 1. ซอฟตแ์ วร์ คอื ก. โปรแกรมชดุ ของคาส่ังที่ควบคมุ การทางานของคอมพวิ เตอร์ ข. อุปกรณเ์ ทคโนโลยีระดบั สูง ค. โปรแกรมแก้ปญั หาทุกอย่างของมนุษย์ ง. อปุ กรณท์ ท่ี าหน้าเสมือนสมองกล 2. ขอ้ ใดไมใ่ ชร่ ะบบปฏบิ ตั กิ าร ก. ระบบปฏบิ ตั ิการดอส ข. ระบบปฏบิ ัตกิ ารไมโครซอฟทเ์ วริ ์ด ค. ระบบปฏบิ ัตกิ ารไมโครซอฟตว์ นิ โดวส์ ง. ระบบปฏบิ ตั ิการ แอนดรอยด์ 3. ชนดิ ของซอฟตแ์ วร์ (software) มีทัง้ หมดกช่ี นิด ก. มี 1 ชนิด 1.ซอฟตแ์ วร์ระบบ ข. มี 2 ชนดิ 1.ซอฟต์แวรร์ ะบบ 2.ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ ค. มี 3 ชนิด 1.ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ 2.ซอฟตแ์ วร์ ประยุกต์ 3.ซอฟต์แวรบ์ ุคคล ง. มี 4 ชนิด 1.ซอฟต์แวร์ระบบ 2.ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ 3.ซอฟต์แวร์บคุ คล 4. ซอฟตแ์ วร์ บรหิ าร 4. ซอฟต์แวรป์ ระมวลคา คือข้อใด ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. presentation software 5. ซอฟตแ์ วร์ตารางทางาน ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. presentation software 6. ซอฟตแ์ วรจ์ ัดการฐานข้อมลู ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. presentation software

15 7. ซอฟตแ์ วรน์ าเสนอ ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. presentation software 8. ซอฟต์แวร์ส่ือสาร ก. word processing software ข. spreadsheet software ค. database management software ง. communication software 9. ซอฟตแ์ วร์นาเสนอ คือขอ้ ใด ก. Microsoft Excel ข. Microsoft Access ค. Microsoft Outlook ง. Microsoft PowerPoint 10. โปรแกรมวินโดวส์ เปน็ ซอฟต์แวร์ประเภทใด ก. ซอฟตแ์ วร์ระบบ ข. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ค. ซอฟตแ์ วร์สาเร็จ ง. ซอฟตแ์ วร์ท่พี ฒั นาข้ึนใช้งานเฉพาะ