ศูนย์พัมนาเขาหินซ้อน จังหวัด ฉะเชิงเทรา
คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book)เล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา ศาสตร์พระชา เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องของ โครงการพระราชดำริ ศูนย์พัมนาเขาหินซ้อน จังหวัด ฉะเชิงเทรา และได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์กับการเรียน ผู้จัดทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังหา ข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้อแนะนำหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วย ผู้จัดทำ นางสาว พิณรัตน์ แก้วมาก นางสาว สศิตรา เทียนลิ้ม นางสาว เสาวณีย์ ปานคล้าย อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ วิลาวัลลย์ จินะ
สารบัญ เรื่อง หน้า ความเป็นมา 1 พื้ น ที่ ดำ เ นิ น ก า ร 2 ประโยชน์ที่ได้รับ 9
โครงการ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สถานที่ตั้ง อำเภอ พนมสารคาม จังหวัด ฉะเชิงเทรา รายละเอียดโครงการ ถอดบทเรียน ศู น ย์ ศึ ก ษ า ก า ร พั ฒ น า เ ข า หิ น ซ้ อ น อั น เ นื่ อ ง ม า จ า ก พ ร ะ ร า ช ดำ ริ ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา “ ป่าหาย น้ำแห้ง ดินเลว ก็พัฒนาได้” “ ป่าแห้ง น้ำหาย ดินเลว ก็พัฒนาได้”
ความเป็นมา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดำเนินการสนองพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในด้านการพัฒนาสภาพพื้นที่ที่แห้งแล้ง และขาดความอุดมสมบูรณ์ จนไม่สามารถทำการเพาะปลูกพืชได้ จนปัจจุบันสภาพพื้นที่นั้น รวมทั้งป่าไม้ และแหล่งน้ำ กลับมี สภาพอุดมสมบูรณ์สร้างความชุ่มชื้นให้ผืนดิน และสามารถใช้ประโยชน์ในทางการเกษตรได้เป็นอย่าง ดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานแนวทางการดำเนินงานพัฒนาให้แก่ศูนย์ศึกษา การพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สรุปได้ว่า ๑. พัฒนาศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ให้เป็นศูนย์ตัวอย่างรวมการพัฒนาด้าน เกษตรกรรมที่สมบูรณ์ ทั้งการพัฒนาแหล่งน้ำ ฟื้ นฟู สภาพป่า การพัฒนาดิน การวางแผนปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ โดยเกษตรกรและผู้ที่สนใจสามารถเข้าศึกษา ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม และนำไป ปฏิบัติตามเพื่อพัฒนาอาชีพ และพัฒนาพื้นที่ทำกินของตนเอง เพื่อให้มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งให้ส่งเสริมศิลปาชีพ หัตถกรรมพื้นบ้านเป็นอาชีพเสริม เป็นการเพิ่มรายได้นอกเหนือจาก อาชีพหลัก ๒. พัฒนาพื้นที่ราษฎรรอบนอกศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ บริเวณลุ่มน้ำโจนให้มีความ เจริญขึ้น เป็นตัวอย่างแก่การพัฒนาพื้นที่อื่นต่อไป ๓. ให้นำวิธีการที่ผ่านการศึกษา ทดลองจนเกิดผลสำเร็จมาดำเนินการเพื่อให้ประโยชน์สูงสุดมา ดำเนินการ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ เริ่มดำเนินการในระยะเริ่มต้นตั้งแต่ ปี ๒๕๒๒ จนปัจจุบันเป็น ระยะเวลา ๓๓ ปี โดยดำเนินการพัฒนาในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่องในด้านการพัฒนาที่ดิน แหล่งน้ำ และป่าไม้ รวมถึงทำการศึกษาทดลอง วิจัยเพื่อหาแนวทางการพัฒนาที่มีความเหมาะสม สอดคล้อง กับภูมิสังคมในพื้นที่ ทั้งต้องมีความยั่งยืน ถูกต้องตามหลักวิชาการ และใช้เทคโนโลยีที่เรียบง่าย ประหยัด เกษตรกรสามารถนำไปดำเนินการด้วยตนเองได้ 1
พื้นที่ดำเนินการ ศูนย์ศึกษาการพั ฒนาเขาหินซ้อนฯ มีพื้ นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย ๑. พื้นที่ดำเนินกิจกรรมของศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ จำนวน ๑,๒๔๐ ไร่ และพื้นที่ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์เขาหินซ้อน จำนวน ๖๕๕ ไร่ รวมเป็นจำนวน ๑,๘๙๕ ไร่ ๒. พื้นที่หมู่บ้านขยายผลรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ในพื้นที่ตำบลเขาหินซ้อน ตำบลเกาะขนุน และตำบลบ้านซ่อง อำเภอพนามสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวนประมาณ ๑๘๓,๐๐๔ ไร่ ๓. พื้นที่เกษตรทฤษฎีใหม่ ตำบลเสม็ดเหนือ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน ๑๑๔ ไร่ ๔. พื้นที่เกษตรทฤษฎีใหม่บ้านธารพู ด ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัด ฉะเชิงเทรา จำนวน ๓๒ ไร่ ผลการดำเนินการ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ มีรูปแบบการบริหารจัดการในลักษณะบูรณาการร่วมกัน ระหว่างส่วนราชการ โดยมีกรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานหลักในการประสานการดำเนินงาน โดย ทุกหน่วยงานสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดำเนินการศึกษาทดลอง วิจัย โดยนำผลสำเร็จที่ได้ ขยายผลไปสู่เกษตรกร เพื่อการพัฒนาอาชีพของตนเองให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้น ช่วยให้ราษฎรมีฐานะ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชม ศึกษาเรียนรู้ แ ล ะ ฝึ ก อ บ ร ม ใ น ด้ า น ก า ร เ ก ษ ต ร ซึ่ ง ค ว า ม รู้ ที่ ไ ด้ จ า ก ก า ร อ บ ร ม ส า ม า ร ถ นำ ไ ป ป ฏิ บั ติ ไ ด้ จ ริ ง ใ น พื้ น ที่ ข อ ง ตนเอง โดยได้ทำการศึกษาวิจัยทั้งหมดจำนวน ๑๑๒ เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน ๙๘ เรื่อง นำไปขยายผลจำนวน ๖๐ เรื่อง ยังอยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน ๑๔ เรื่อง ในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ ได้ดำเนินกิจกรรมด้านต่าง ๆ ดังนี้ 2
๑. ด้านการศึกษา ทดลอง วิจัย ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ทำการศึกษา วิจัย ทดลองมา แล้วทั้งสิ้นจำนวน ๑๑๔ เรื่อง และสามารถนำไปเผยแพร่ และขยายผลความสำเร็จไปสู่ประชาชนได้ อย่างเป็นรูปธรรม โดยจัดทำเป็นหลักสูตรการฝึกอบรมจำนวน ๑๓ เรื่อง ประกอบด้วย ๑. การปลูกยางพารา ๒. การเพาะเห็ดเศรษฐกิจครบวงจร ๓. การปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในระบบการเกษตรแบบยั่งยืนในสภาพไร่นา ๔. หญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ๕. การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง ๖. การผลิตและการใช้ประโยชน์จากปุ๋ยหมัก ๗. เกษตรทฤษฎีใหม่ ๘. การใช้หมากดิบในการถ่ายพยาธิในไก่พื้นเมือง ๙. การแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพร ๑๐. การเพาะเลี้ยงกบในบ่อซีเมนต์ และกระชัง ๑๑. การจักสานจากเส้นใยพืช ๑๒. การเลี้ยงเป็ดไข่ปากน้ำ ๑๓. การปลูกมะนาวนอกฤดูในบ่อซีเมนต์ 3
๒. งานขยายผล และถ่ายทอดเทคโนโลยี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ได้นำผลสำเร็จจากการศึกษา วิจัย ที่ได้รวบรวมเป็น หลักสูตรฝึกอบรมรวม ๑๓ หลักสูตร มาขยายผลความสำเร็จไปสู่เกษตรกรในพื้นที่หมู่บ้านรอบ ศูนย์ฯ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ อาทิเช่น ด้านการพัฒนาปรับปรุงบำรุงดิน การพัฒนาอาชีพด้าน การเกษตร ด้านพืชไร่-พืชสวน ด้านปศุสัตว์ ด้านการประมง เป็นต้น ๒.๑ งานปรับปรุงบำรุงดิน มุ่งดำเนินการฟื้ นฟู ปรับปรุงบำรุงดินด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ส่ง เสริมและพัฒนาศักยภาพด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืน โดยการฝึกอบรมเกษตรกรให้มีความ รู้เรื่องการพัฒนาที่ดิน ส่งเสริมการปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยพืชสด และส่งเสริมการผลิตปุ๋ยหมัก น้ำหมัก ชีวภาพจากวัสดุเหลือใช้จากไร่นา เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาอาชีพการเกษตร นอกจากนั้นมีการ ส่งเสริมการใช้หญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยผลิตกล้าหญ้าแฝกพันธุ์สุราษฎร์ธานีจำนวน ๑,๐๕๖,๐๐๐ กล้า เพื่อแจกจ่ายเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรได้เรียนรู้การปลูกและขยายพันธุ์หญ้า แฝก ทั้งยังช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของดินบริเวณริมคลอง และลำห้วย ผลิตและเพราะชำกล้าหญ้าแฝกพันธุ์ สาธิตการผลิตและใช้ประโยชน์จากปุ๋ย สุราษฎร์ธานีแจกจ่ายเกษตรกรเพื่อส่งเสริม หมักให้เกษตรกรเพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิต ให้ใช้หญ้าแฝกในการอนุรักษ์ดินและน้ำ 4
๒.๒ งานพั ฒนาอาชีพด้านการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรหมู่บ้านรอบศูนย์และหมู่บ้านขยายผล มี น้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค และเพื่อทำการเกษตรโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง โดยได้ทำการขุดสระ น้ำประจำไร่นาให้เกษตรกรในพื้นที่จำนวน ๒๐ แห่ง ขุดบ่อน้ำตื้นจำนวน ๑๐๐ บ่อให้แก่เกษตรในพื้นที่ ที่ขาดแคลน และซ่อมแซมฝายชะลอน้ำบ้านไร่แผ่นดินทองจำนวน ๔ แห่ง ๒.๓ งานส่งเสริม และเพิ่ มศักยภาพด้านการเกษตรภายใต้แผนพั ฒนาเด็กเล็กและเยาวชนใน ถิ่นทุรกันดาร เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและโรงเรียนในถิ่น ทุรกันดารในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดนครนายก จำนวน ๕ โรง ได้เรียนรู้กิจกรรม การเกษตรเพื่ออาหารกลางวันให้แก่นักเรียนเพื่อให้มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ ได้รับสารอาหาร อย่างเพียงพอ และถูกหลักโภชนาการ นอกจากนั้นยังทำการงานส่งเสริมศิลปาชีพสู่โรงเรียนใน พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน ๔ โรง ประกอบด้วย งานจักสาน การทำไม้กวาด เป็นต้น ๒.๔ งานส่งเสริมและพั ฒนาอาชีพการเกษตร โดยดำเนินการในรูปแบบต่างๆเพื่อส่งเสริมให้ เกษตรกรได้เรียนรู้การทำการเกษตรที่มีความหลากหลาย เป็นการสร้างรายได้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ขึ้น เช่น - ผลิตกล้าสมุนไพร ๓๐ ชนิด จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ กล้า เช่น ไพล เสลดพังพอน ว่านสาวหลง และหญ้าหนวดแมว เป็นต้น ซึ่งการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชสมุนไพร เนื่องจากสามารถนำมา จำหน่ายให้แก่ศูนย์ฯ เพื่อทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่อไปได้ - ผลิตกล้าไม้กินได้จำนวน ๕๐,๐๐๐ กล้า เช่น มะขาม ขี้เหล็กบ้าน มะกอกน้ำเพื่อส่งเสริมให้ เกษตรกรได้มีพืชอาหารไว้บริโภคในครัวเรือนอย่างเพียงพอ และสามารถนำผลผลิตไปจำหน่ายสร้าง รายได้เสริมให้แก่ครอบครัว นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ได้ส่งเสริมอาชีพในด้านอื่นๆอีกเช่น ด้านการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อเก็บไว้รับประทานและสามารถสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว เช่น การทำผลไม้ตากแห้ง แช่ อิ่ม เป็นต้น รวมถึงการพัฒนากลุ่มเพาะเห็ดเศรษฐกิจจำนวน ๒ กลุ่มที่มีความเข้มแข็งให้สามารถ ทำงานได้ครบวงจรมากขึ้นด้วยการสนับสนุนหม้อนึ่งความดันในการทำอาหารเลี้ยงเชื้อเห็ด ทั้งยัง ส่งเสริมอาชีพด้านประมง และปศุสัตว์ให้แก่เกษตรกร เช่น การสาธิตการเลี้ยงนกกระจอกเทศการ เลี้ยงกบนาในบ่อซีเมนต์หรือในกระชัง และการเลี้ยงปลากินพืช เป็นต้น 5
กิจกรรมส่งเสริมอาชีพด้านอื่นๆ เพื่อเป็นอาชีพเสริมให้แก่เกษตรกร เช่น การเพาะเห็ดเศรษฐกิจ การสาธิตการเลี้ยงนกกระจอกเทศ และการเลี้ยงกบนาในบ่อซีเมนต์ เป็นต้น ๓. งานอื่นๆ ๓.๑ ข้าวครบวงจร ศูนย์ฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการผลิตข้าวครบวงจรในหลาย กิจกรรมตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการจำหน่าย เช่น - การพัฒนาเม็ดพันธุ์ข้าว โดยนำข้าวพันธุ์พื้นเมืองเดิมมาพัฒนาให้เป็นข้าวพันธุ์ดีประจำศูนย์ฯ และจัดทำแปลงการเรียนรู้การผลิตข้าวขาวดอกมะลิ ๑๐๕ เพื่อทำพันธุ์คัด และทำพันธุ์หลัก ซึ่ง เป็นการถ่ายทอดความรู้ด้านการผลิตและการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ข้าว ตลอดจนการแปรสภาพข้าว เปลือกเป็นข้าวสารคุณภาพดีเพื่อบรรจุถุงเพื่อจำหน่าย โดยให้เกษตรกรจำนวน ๓๐ ราย เข้ามา เรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริงในทุกขั้นตอน - ส่งเสริมการจัดตั้งโรงสีข้าวชุมชนที่หมู่ ๖ บ้านหนองแสง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายการในการ เดินทางและการแปรรูปข้าวให้แก่สมาชิกกลุ่มข้าว ซึ่งผลผลิตที่ได้จะนำมาบรรจุถุงเพื่อจำหน่ายช่วย เพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิก และเป็นการส่งเสริมการผลิตข้าวแบบครบวงจร - การพัฒนาข้าวพันธุ์ดีประจำศูนย์ฯ โดยรวบรวมพันธุ์ข้าวพื้นเมืองเดิมมาปลูกและประเมิน ลักษณะ เพื่อคัดเลือกเป็นข้าวพันธุ์ดีประจำศูนย์ฯ 6
กิจกรรมข้าวครบวงจร ประกอบด้วย การจัดทำแปลงปลูกข้าว และรวบรวมข้าวพันธุ์ดีประจำศูนย์ฯ โรงสีข้าวเขาหินซ้อนมีขนาดกำลังผลิต ๕๐๐ กิโลกรัมต่อชั่วโมง สามารถผลิตได้ทั้งข้าวกล้อง และข้าวขาว ๓.๒ ปุ๋ยสั่งตัด ศูนย์ฯ ทำการเก็บตัวอย่างดินบริเวณพื้นที่หมู่บ้านรอบศูนย์ฯ และโรงเรียน ตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ขยายผลจำนวน ๑๐ โรงเรียน เพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์ปริมาณธาตุ อาหาร และคำนวณสูตรปุ๋ยที่เหมาะสมตามค่าวิเคราะห์ และจัดทำแผนที่การจัดการดิน และการใช้ปุ๋ย สั่งตัด ๓.๓ พลังงานทดแทน ศูนย์ฯ จัดทำแปลงขยายพันธุ์สบู่ดำเพื่อเก็บข้อมูลผลผลิตว่าในแต่ละสาย พันธุ์ให้ผลผลิตต่อปีเป็นปริมาณเท่าใด แต่เนื่องจากพื้นที่บริเวณศูนย์ฯเขาหินซ้อนใช้เครื่องยนต์สมัย ใหม่ซึ่งไม่สามารถใช้น้ำมันจากสบู่ดำได้ ๓.๔ การประชาสัมพั นธ์ ศูนย์ฯ ได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เช่น บอร์ดนิทรรศการเคลื่อนที่ โปสเตอร์ ป้ายสื่อความหมายตามงานจำนวน ๖๙ ป้าย นอกจากนั้นได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านวิทยุ กระจายเสียง และเว็บไซต์ www.khaohinsorn.com เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆไปสู่บุคคล ทั่วไป ในปี ๒๕๕๔ มีผู้เข้าเยี่ยมชมศูนย์ฯจำนวน ๑๑๐,๘๓๓ ราย 7
๓.๕ โครงการฟื้ นฟู เกษตรกรหลังภาวะอุทกภัยตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพี ยง สำนักงาน กปร. ร่วมกับ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดทำโครงการฟื้ นฟู หลังภาวะอุทกภัยตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชนที่ได้รับผลก ระทบจากปัญหาอุทกภัยในปี ๒๕๕๔ โดยรับผิดชอบในเขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัด ปราจีนบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดนครนายก จังหวัดสระบุรี และจังหวัดลพบุรี ดำเนินการอบรมใน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ๒๕๕๕ จำนวน ๑๐ รุ่น รวมผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น ๑,๐๙๕ คน ประกอบด้วย ๔ หลักสูตร คือ หลักสูตรที่ ๑ ด้านการขยายพันธุ์พืช และการทำน้ำหมักชีวภาพ มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวนทั้งสิ้น ๓๓๖ คน หลักสูตรที่ ๒ ด้านการปลูกเห็ดเศรษฐกิจ มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวนทั้งสิ้น ๒๑๓ คน หลักสูตรที่ ๓ ด้านการประมง มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวนทั้งสิ้น ๑๘๔ คน หลักสูตรที่ ๔ ด้านการเลี้ยงสัตว์ปีก มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวนทั้งสิ้น ๓๖๒ คน การอบรมฟื้ นฟูเกษตรกรหลังภาวะอุทกภัย ประกอบด้วยหลักสูตรด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับจากปัจจัยการผลิตตามหลักสูตรที่เข้ารับการอบรม 8
ประโยชน์ที่ได้รับ การดำเนินงานของศูนย์ฯ ด้านการพัฒนาที่ดิน แหล่งน้ำ และป่าไม้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ พื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓๗.๔ ไม้ผลเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๕ พืชสวนเพิ่มขึ้น ร้อยละ ๕.๑ นาข้าวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๐.๔ แหล่งน้ำเพิ่มขึ้นร้อยละ ๗.๗ ในส่วนกิจกรรมด้านการพัฒนา จ ะ ดำ เ นิ น ก า ร ภ า ย ใ ต้ ก ร อ บ ข อ ง แ ผ น แ ม่ บ ท โ ค ร ง ก า ร ศู น ย์ ศึ ก ษ า ก า ร พั ฒ น า อั น เ นื่ อ ง ม า จ า ก พ ร ะ ร า ช ดำ ริ พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙ ประกอบด้วยยุทธศาสตร์การดำเนินงาน ๓ ยุทธศาสตร์คือ การบริหารจัดการ การศึกษา วิจัย ทดสอบด้านการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ และงานขยายผล โดยมีวัตถุประสงค์ที่ สำคัญคือ ศึกษาหาแนวทางการดำเนินอาชีพที่มีความเหมาะสมกับภูมิสังคม มีความเรียบง่าย เกษตรกรสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และนำไปขยายผลสู่ราษฎรเพื่อพัฒนาการประกอบอาชีพด้าน ต่างๆ เช่น การเกษตร ปศุสัตว์ เป็นต้น ปัจจุบันศูนย์ฯ สามารถขยายผลการดำเนินงานไปสู่เกษตรกรหมู่บ้านรอบศูนย์เต็ม พื้นที่ ๓ ตำบล ได้แก่ ตำบลเขาหินซ้อน ตำบลเกาะขนุน ตำบลบ้านซ่อง อำเภอพนมสารคาม ราษฎร มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีรายได้เฉลี่ยจากเดิม ๔๐,๐๐๐ บาท/คน/ปี เป็น ๖๐,๐๐๐ บาท/คน/ปี สามารถจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริได้ ๔ ศูนย์ จัดตั้งกลุ่มอาชีพได้ ๓๙ กลุ่มอาชีพ และ จัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงได้ ๑๒ ศูนย์ ซึ่งศูนย์เรียนรู้จะเป็นเครือข่ายให้แก่ศูนย์ฯในการ ขยายผล และเป็นตัวอย่างความสำเร็จไปสู่ประชาชนทั่วไปที่สนใจ โดยในปี ๒๕๕๔ มีผู้สนใจเข้าเยี่ยม ชมและศึกษาดูงานภายในศูนย์ฯจำนวน ๑๑๐,๘๓๓ ราย 9
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: